00:00:11 → 00:00:14 สวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะกับคุยเรื่องสมองกับ
00:00:14 → 00:00:17 หมอนุ่มนะคะวันนี้มาชวนคุยเรื่องที่คิด
00:00:17 → 00:00:20 ว่าเป็นปัญหาที่สำคัญของทุกคนเลยต้องเคย
00:00:20 → 00:00:23 มีใครมีอาการปวดหัวบ้างแหละนะคะเนอะแต่
00:00:23 → 00:00:26 ว่า topic ที่จะคุยกันวันนี้นะคะก็คือ
00:00:26 → 00:00:29 อยากจะชวนคุยเรื่องปวดหัวเนี่ยทำไมบางคน
00:00:29 → 00:00:32 เนี่ยถึงเป็นแล้วไม่หายปวดไม่หายนะคะ
00:00:32 → 00:00:36 เพราะอะไรหรือบางทีอยากจะปวดแบบมีช่วงที่
00:00:36 → 00:00:38 หายบ้างแต่ๆก็กลับมาเป็นใหม่อีกละนะคะ
00:00:38 → 00:00:41 เนาะสาเหตุมันเกิดจากอะไรได้บ้างแบบไหน
00:00:41 → 00:00:45 ที่ต้องนึกถึงแล้วว่าจะเป็นโรคที่อันตราย
00:00:45 → 00:00:47 เป็นเนื้องอกหรือเปล่าหรือว่าต้องไปหาหมอ
00:00:47 → 00:00:49 แล้วต้องไปสแกนกันหรือเปล่านะคะวันนี้เรา
00:00:49 → 00:00:52 มาฟังเรื่องนี้กันนะคะว่าน่าจะมีประโยชน์
00:00:52 → 00:00:56 กับทุกคนนะคะเนาะเดี๋ยววันนี้ก็จะเน้นคุย
00:00:56 → 00:00:59 สบายๆนะคะถ้าเกิดใครมีคำถามอะไรเนี่ยก็
00:00:59 → 00:01:02 คือสามารถพิมพ์เข้ามาได้เลยนะคะในเรื่อง
00:01:02 → 00:01:05 ของอาการปวดหัวนะคะก็จะคุยไปตอบคำถามไป
00:01:05 → 00:01:08 ด้วยนะคะเพื่อมีคำแนะนำแบบใครอยากได้คำ
00:01:08 → 00:01:10 แนะนำปรึกษาอะไรก็ลองทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้
00:01:10 → 00:01:12 นะคะ
00:01:12 → 00:01:16 มาคุยกันเรื่องปวดหัวนะคะทำไมถึงบางคน
00:01:16 → 00:01:20 เนี่ยปวดไม่หายนะคะอันนี้จริงๆเป็นคำถาม
00:01:20 → 00:01:22 ที่หมอเจอในชีวิตจริงเยอะมากแล้วก็คนไข้
00:01:22 → 00:01:25 เนี่ยก็มาหาด้วยปัญหาเรื่องนี้เยอะมากนะ
00:01:25 → 00:01:27 คะว่าปวดหัวทุกวันเลยค่ะปวดไม่หายเลยค่ะ
00:01:27 → 00:01:30 ซึ่งจริงๆเหมือนแบบพอเราตรวจคนไข้มาเยอะ
00:01:30 → 00:01:34 มากๆเนี่ยบางทีมันเหมือนมองเป็นแบบเจอเจอ
00:01:34 → 00:01:38 เยอะมากจนรู้สึกว่าเฮ้ยมันแบบมันมันแบบ
00:01:38 → 00:01:41 เป็นเรื่องนึงที่เหมือนเป็นแบบสาเหตุที่
00:01:41 → 00:01:42 เจอบ่อยๆไปแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าพอ
00:01:42 → 00:01:45 แบบได้คุยกับหลายๆคนเนี่ยก็เพราะว่าเฮ้ย
00:01:45 → 00:01:47 เขาไม่รู้นะว่าจริงๆแล้วว่าไอ้อาการปวด
00:01:47 → 00:01:50 หัวที่มันเป็นเรื้อรังเป็นไม่หายเนี่ยมัน
00:01:50 → 00:01:53 มีโรคนะแล้วมันก็รักษาได้นะหลายคนแบบจะ
00:01:53 → 00:01:55 สงสัยว่าเฮ้ยคนเราจะปวดหัวได้ทุกวันได้
00:01:55 → 00:01:58 เลยจริงๆหรอเพราะว่าแบบส่วนใหญ่เวลาเรา
00:01:58 → 00:02:00 ปวดหัวเนี่ยมันก็ต้องมักมีเหตุมากระตุ้น
00:02:00 → 00:02:03 เช่นแบบอ่ะวันนี้เครียดวันนี้อดนอนเมื่อ
00:02:03 → 00:02:06 คืนนอนไม่พอหรือช่วงที่ดีไข้ไม่สบายเป็น
00:02:06 → 00:02:09 ไข้หวัดเป็นไข้หวัดใหญ่เป็นโควิดอะไรก็
00:02:09 → 00:02:11 แล้วแต่ถ้าเวลาเรามีไข้สูงหรือว่ามีเหตุ
00:02:11 → 00:02:13 มากระตุ้นเนี่ยมันก็จะทำให้มีอาการปวดหัว
00:02:13 → 00:02:16 ได้แต่ว่าสาเหตุเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็มักจะ
00:02:16 → 00:02:19 เป็นแค่ชั่วคราวแล้วก็หายไปแต่จะมีบางโรค
00:02:19 → 00:02:22 หรือบางสาเหตุบางอย่างเนี่ยที่ทำให้เรา
00:02:22 → 00:02:25 เนี่ยมีอาการปวดหัวเป็นปวดเรื้อรังแล้วก็
00:02:25 → 00:02:26 ปวดไม่หายสักทีหรือว่าปวดแล้วก็กลับมา
00:02:26 → 00:02:29 เป็นใหม่ได้นะคะเนาะซึ่งจากประสบการณ์นะ
00:02:29 → 00:02:32 คะที่หมอรักษาคนไข้มานะคะสาเหตุที่ทำให้
00:02:32 → 00:02:35 เราปวดหัวแล้วไม่หายเนี่ยมันก็มีแบบ
00:02:35 → 00:02:38 สาเหตุหลักๆอยู่ประมาณ 4-5 อย่างนะคะเนาะ
00:02:38 → 00:02:43 อันแรกเลยก็คือ 1 เนี่ยเราเป็นโรคที่เป็น
00:02:43 → 00:02:45 โรคปวดศีรษะนะคะคือโรคปวดศีรษะเนี่ยมันก็
00:02:45 → 00:02:48 จะมีอ่าสาเหตุเยอะแยะมากมายเลยนะคะมันจะ
00:02:48 → 00:02:50 มีโรคกลุ่มกลุ่มนึงเนี่ยที่เราเรียกว่า
00:02:50 → 00:02:53 เป็นโรคปวดศีรษะนะคะซึ่งตัวสแกนสมองเลย
00:02:53 → 00:02:56 อะไรแล้วก็มักจะปกติแต่เป็นโรคปวดศีรษะ
00:02:56 → 00:02:58 ที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เราเป็นอาการ
00:02:58 → 00:03:01 ปวดหัวแบบเรื้อรังได้นะคะที่เจอบ่อยที่
00:03:01 → 00:03:05 สุดเลยก็คือ 1 ไมเกรนนะคะไมเกรนเนี่ยปวด
00:03:05 → 00:03:07 ศีรษะไมเกรนเนี่ยเป็นโรคอาการปวดศีรษะที่
00:03:07 → 00:03:11 ส่วนใหญ่เนี่ยคนที่เป็นระยะแรกๆเนี่ยมัก
00:03:11 → 00:03:13 จะเป็นแค่ชั่วคราวก่อนเนาะคนที่เป็น
00:03:13 → 00:03:16 ไมเกรนมาแบบช่วงไม่กี่แบบปีแรกปี 2 ปีแรก
00:03:16 → 00:03:19 ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ค่อยได้มาหาหมอเพราะ
00:03:19 → 00:03:21 ว่าอาการพวกนี้นะคะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบ
00:03:21 → 00:03:24 เดือนนึงเป็นครั้งนึง 2-3 เดือนเป็นทีมัก
00:03:24 → 00:03:26 จะต้องมีตัวกระตุ้นที่ค่อนข้างชัดเจนก่อน
00:03:26 → 00:03:28 นะคะแต่พอหลังจากนั้นเนี่ยพอเจอตัว
00:03:28 → 00:03:31 กระตุ้นบ่อยๆเข้าปวดบ่อยๆเข้าสมองมัน
00:03:31 → 00:03:33 เหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้เรายิ่งไว
00:03:33 → 00:03:35 กับตัวกระตุ้นแล้วก็สิ่งแวดล้อมจนสุดท้าย
00:03:35 → 00:03:38 คนไข้กลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกปวดไมเกรนแค่
00:03:38 → 00:03:41 ชั่วคราวก็จะกลายเป็นปวดไมเกรนเรื้อรังนะ
00:03:41 → 00:03:43 คะนั่นก็จะเป็นสาเหตุที่เจอได้บ่อยมากๆ
00:03:43 → 00:03:45 เลยนะคะส่วนสาเหตุอื่นๆที่เจอบ่อยไม่แพ้
00:03:45 → 00:03:48 กันเลยก็คือเรื่องของปวดเรื้อรังแบบ
00:03:48 → 00:03:50 tension ท้าย tension ไทยก็คือเป็นอาการ
00:03:50 → 00:03:54 ปวดหัวแบบเหมือนมีกล้ามเนื้อแบบตึงหรือ
00:03:54 → 00:03:56 ว่าเหมือนมีอะไรมาบีบรัดหนังศีรษะเรา
00:03:56 → 00:03:59 เหมือนเราใส่มีเฮดแลนด์หรือมีอะไรมารับ 43
00:03:59 → 00:04:01 ไว้นะคะซึ่งคนไข้กลุ่มเนี้ยก็จะถ้าเกิด
00:04:01 → 00:04:03 เป็นมานานๆก็จะมีความเสี่ยงที่เป็นกลุ่ม
00:04:03 → 00:04:05 ปวดหัวเรื้อรังได้เหมือนกันเป็นทุกวันได้
00:04:05 → 00:04:08 เหมือนกันตื่นมาก็รู้สึกว่าหัวไม่โล่งเลย
00:04:08 → 00:04:11 เหมือนคิดอะไรไม่ออกนะคะหนังตามันหนักๆนะ
00:04:11 → 00:04:13 คะเหมือนมีอะไรมาบีบรักษาศีรษะเราไว้ตลอด
00:04:13 → 00:04:17 เวลานะคะแล้วก็อีกอันนึงเลยที่เจอบ่อยนะ
00:04:17 → 00:04:19 คะก็จะเป็นเรื่องของพวกกล้ามเนื้อนี่แหละ
00:04:19 → 00:04:23 นะคะพวกกล้ามเนื้อความเครียดความตึงอะไร
00:04:23 → 00:04:26 ต่างๆที่พอมันสะสมนานๆเข้าก็มักจะทำให้
00:04:26 → 00:04:29 เราเกิดอาการปวดราวขึ้นมานะคะเป็นอาการ
00:04:29 → 00:04:33 ปวดหัวที่มันไม่หายไปสักทีนะคะและสุดท้าย
00:04:33 → 00:04:35 เลยนะคะที่เจอบ่อยอีกอันนึงเลยก็คือพอคน
00:04:35 → 00:04:38 เราเนี่ยพอเริ่มปวดระยะแรกเราก็จะซื้อยา
00:04:38 → 00:04:42 แก้ปวดมาทานนะคะพอแรกๆกินแก้ปวดก็กินแล้ว
00:04:42 → 00:04:45 ก็หายดีนะคะก็ทำให้เราไม่ได้ใส่ใจว่าเออ
00:04:45 → 00:04:48 มันจะเป็นโรคหรือว่าเป็นความเรื้อรังหรือ
00:04:48 → 00:04:51 อะไรนะคะพอตรวจบ่อยเข้าจากเดิมอาทิตย์นึง
00:04:51 → 00:04:54 ปวดวันนึงเป็นอาทิตย์ละ 2 วัน 3 วันก็ทำ
00:04:54 → 00:04:56 ให้ต้องใช้ยาแก้ปวดเยอะขึ้นเยอะขึ้นเพื่อ
00:04:56 → 00:04:58 ให้ทำงานได้เพื่อให้อาการปวดมันหายไปนะคะ
00:04:58 → 00:05:01 สุดท้ายแล้วก็เลยกลายเป็นปวดหัวเรื้อรัง
00:05:01 → 00:05:04 จากที่ติดยาแก้ปวดหรือว่าใช้ยาแก้ปวดเกิน
00:05:04 → 00:05:07 ขนาดนะคะที่เราเรียกว่า medication Over
00:05:07 → 00:05:09 use hate เองเนี่ยก็คือเป็นสาเหตุที่ทำ
00:05:09 → 00:05:11 ให้ปวดหัวเรื้อรังไม่หายสักทีเนี่ยแหละนะ
00:05:11 → 00:05:15 คะเนาะซึ่งสาเหตุต่างๆเหล่านี้นะคะก็จะ
00:05:15 → 00:05:18 คือด้วยตัวโรคเนี่ยก็จะเป็นส่วนหนึ่งนะคะ
00:05:18 → 00:05:21 แต่ว่าอีกปัจจัยหนึ่งเลยที่มาทำให้คนไข้
00:05:21 → 00:05:23 ส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มนี้ไม่ว่าจะเป็น
00:05:23 → 00:05:25 ไมเกรนปวดเทนชั่นปวดกล้ามเนื้อหรือว่า
00:05:25 → 00:05:28 ความเครียดหรือว่าใช้ยาแก้ปวดเยอะๆที่ไม่
00:05:28 → 00:05:31 หายเลยนะคะสาเหตุส่วนหนึ่งเลยก็เป็นเพราะ
00:05:31 → 00:05:34 ว่าเรื่องของตัวกระตุ้นหรือว่าเรื่องของ
00:05:34 → 00:05:38 การใช้ชีวิตปัจจัยด้านอื่นที่มาทำให้ปวด
00:05:38 → 00:05:40 หัวมันแย่ลงด้วยเนาะอย่างเช่นเรื่องของ
00:05:40 → 00:05:45 การนอนนะคะคนที่อดนอนนอนดึกนอนไม่พอก็มัก
00:05:45 → 00:05:48 จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไปกระตุ้นให้อาการ
00:05:48 → 00:05:50 ไมเกรนอาการ tension หรือว่ากล้ามเนื้อ
00:05:50 → 00:05:52 หรืออะไรต่างๆเนี่ยมันแย่ลงนะคะก็ยิ่งทำ
00:05:52 → 00:05:55 ให้เราไปกินยาแก้ปวดอาจก็สุดท้ายก็ปวดหัว
00:05:55 → 00:05:58 ไม่หายจากติดยาแก้ปวดไปอีกนะคะอันที่ 2
00:05:58 → 00:05:59 ก็คือเรื่องของ
00:05:59 → 00:06:04 ยาแก้ปวดนะคะคือที่เอ่ออันนี้อ่าอันที่ 2
00:06:04 → 00:06:07 นะคะก็คือเรื่องของอ่าเมื่อกี้เรื่องของ
00:06:07 → 00:06:09 การนอนเนาะอันที่ 2 ก็คือเรื่องของอ่าการ
00:06:09 → 00:06:11 ออกกำลังกายนะคะคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลัง
00:06:11 → 00:06:14 กายได้นะคะแบบส่วนใหญ่ก็คือแบบตื่นมาทำ
00:06:14 → 00:06:18 งานเลยนะคะใช้ความคิดทั้งวันแล้วก็พอกลับ
00:06:18 → 00:06:21 ดึกและเกาะนอนไม่ได้ออกกำลังกายกันก็มัก
00:06:21 → 00:06:22 จะทำให้
00:06:22 → 00:06:25 กล้ามเนื้อตึงง่ายนะคะแล้วก็มีความเครียด
00:06:25 → 00:06:28 ได้ค่อนข้างง่ายนะคะเวลานอนก็อาจจะนอน
00:06:28 → 00:06:30 หลับไม่ดีนะคะพวกนี้ก็ยิ่งทำให้เราเหมือน
00:06:30 → 00:06:33 แบบไปส่งเสริมให้อาการปวดหัวเนี่ยมันแย่
00:06:33 → 00:06:36 ลงหรือว่ามันไม่หายสักทีนะคะเรื่องของ
00:06:36 → 00:06:38 stress เรื่องของความเครียดอันนี้ก็เป็น
00:06:38 → 00:06:41 ปัจจัยสำคัญเลยนะคะคือคนเราเนี่ยมักจะมี
00:06:41 → 00:06:45 เอ่อความเครียดในชีวิตอะไรสักอย่างอยู่
00:06:45 → 00:06:47 แล้วนะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน
00:06:47 → 00:06:51 เรื่องของปัจจัยเรื่องอื่นๆเนาะก็พอยิ่ง
00:06:51 → 00:06:53 เครียดเนี่ยก็ยิ่งทำให้
00:06:53 → 00:06:56 กระตุ้นโรคบางโรคอย่างโรคไมเกรนเนี่ยถ้า
00:06:56 → 00:06:58 เครียดมาปุ๊บก็จะยิ่งปวดหัวมากขึ้นนะคะ
00:06:58 → 00:07:01 แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะเพราะงั้นคนที่
00:07:01 → 00:07:03 เป็นไมเกรนก็ไม่ใช่ว่าเกิดจากความเครียด
00:07:03 → 00:07:05 อย่างเดียวแต่ว่าความเครียดก็ไปย้อนไป
00:07:05 → 00:07:06 กระตุ้นไมเกรนได้เป็นสาเหตุหนึ่งใน
00:07:06 → 00:07:09 การ์ตูนไมเกรนนะคะ tension ไทยเองการ
00:07:09 → 00:07:11 อาการปวดแบบ tension หรือว่ากล้ามเนื้อ
00:07:11 → 00:07:13 ตึงเองหรือว่าปวดจากสุดท้ายปวดจากความ
00:07:13 → 00:07:15 เครียดเองเนี่ยก็เป็นศาสตร์ความเครียดก็
00:07:15 → 00:07:17 เป็นสาเหตุหลักโดยตรงเลยที่ทำให้เราเนี่ย
00:07:17 → 00:07:20 เหมือนปวดหัวไม่หายสักทีหลายเคสเลยที่แบบ
00:07:20 → 00:07:23 พอสุดท้ายอ่ะค่ะพอมาคุยกันรักษาการที่แบบ
00:07:23 → 00:07:26 เป็นกลุ่มปวดหัวทุกวันนะคะรักษาให้ยา
00:07:26 → 00:07:29 ไมเกรนแล้วรักษาไมเกรนก็แล้วรักษาภาวะติด
00:07:29 → 00:07:32 ยาแก้ปวดได้ก็แล้วแต่ยังมีอาการปวดหัว
00:07:32 → 00:07:34 บาร์ได้บ้างแต่มันก็จะน้อยลงนะคะส่วน
00:07:34 → 00:07:37 หนึ่งเลยก็คือมีภาวะความเครียดอยู่เนาะมี
00:07:37 → 00:07:40 ภาวะวิตกกังวลหรือว่าบางคนอาจจะเป็นโรค
00:07:40 → 00:07:43 ถึงแบบอ่าความเครียดมากๆจนถึงสะสมกายเป็น
00:07:43 → 00:07:44 เรื่องที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้า
00:07:44 → 00:07:47 อะไรอย่างเงี้ยค่ะกลุ่มนี้ก็มักจะเป็น
00:07:47 → 00:07:49 เหตุที่ทำให้แบบปวดหัวมันไม่หายสักที
00:07:49 → 00:07:51 เพราะฉะนั้นเวลาแบบหมอรักษาคนไข้จริงๆ
00:07:51 → 00:07:54 เนี่ยเพราะว่าคนไข้ไมเกรนกับซึมเศร้าหรือ
00:07:54 → 00:07:56 ว่าไมเกรนกับความเครียดหรือเทนชั่นกับ
00:07:56 → 00:07:58 ความเครียดทุกอย่างก็คือเหมือนแทบจะไป
00:07:58 → 00:08:01 ด้วยกันหมดคนๆเราคนๆนึงเนี่ยที่ที่แบบมี
00:08:01 → 00:08:03 โรคปวดหัวขึ้นมามีอาการปวดหัวทุกวันขึ้น
00:08:03 → 00:08:06 มาค่ะต่อให้ไม่ได้มีความเครียดเรื่องงาน
00:08:06 → 00:08:08 เรื่องเงินเรื่องอื่นเรื่องครอบครัวอะไร
00:08:09 → 00:08:11 อย่างเงี้ยมันก็มีความเสี่ยงที่จะมีความ
00:08:11 → 00:08:13 เครียดได้จากมีอาการปวดหัวที่เราเป็นมา
00:08:13 → 00:08:15 ทุกวันนะคะใครที่ต้องอยู่กับความปวดทุกๆ
00:08:15 → 00:08:19 วันเนี่ยมันมันมีภาวะ stress ในร่างกาย
00:08:19 → 00:08:22 อยู่แล้วนะคะน้องไม่ว่าจะจากทั้งหนึ่งก็
00:08:22 → 00:08:24 คือจากอาการเจ็บปวดเองหรือว่าจากเรื่อง
00:08:24 → 00:08:27 ของเราก็อาจจะแบบกังวลด้วยว่าที่ปวดหัว
00:08:27 → 00:08:29 ไม่หายสักทีเนี่ยมันเป็นเพราะอะไรมันเป็น
00:08:29 → 00:08:32 เนื้องอกหรือเปล่าแบบก็ยิ่งทำให้อาการมัน
00:08:32 → 00:08:35 แย่ลงด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยสาเหตุหลัก
00:08:35 → 00:08:39 ๆเลยที่ทำให้เราปวดหัวไม่หายนะคะ 2 อย่าง
00:08:39 → 00:08:41 เนาะอันแรกก็คือ 1 เนี่ยแหละแล้วเป็น
00:08:41 → 00:08:43 กลุ่มปวดหัวที่มันมีความเสี่ยงที่มันจะ
00:08:43 → 00:08:45 กลายเป็นปวดหัวเรื้อรังได้อยู่แล้วนะคะ
00:08:45 → 00:08:47 เมื่อไหร่ที่หมอจะเรียกว่าเรื้อรังก็คือ
00:08:47 → 00:08:50 ส่วนใหญ่ก็คือต้องปวดเกินแบบประมาณ 3
00:08:50 → 00:08:52 เดือนนะคะแล้วเดือนนึงเนี่ยก็คือปวดเกิน
00:08:52 → 00:08:54 ประมาณ 15 วันก็คือปวดเกินครึ่งเดือนนะคะ
00:08:54 → 00:08:57 ถ้าใครที่อยู่กับความปวดแบบนี้นะปวดเกิน
00:08:57 → 00:09:00 ครึ่งเดือนปวดมาหลายๆเดือนติดๆกันเรามี
00:09:00 → 00:09:01 ความเสี่ยงละที่เราจะเป็นกลุ่มปวดหัว
00:09:01 → 00:09:04 เรื้อรังนะคะก็ต้องมาดูแล้วว่าเราอยู่ใน
00:09:04 → 00:09:06 กลุ่มโรคที่มันเป็นกลุ่มโรคปวดหัว
00:09:06 → 00:09:08 เรื้อรังได้หรือเปล่านะคะเนาะที่ไม่มี
00:09:08 → 00:09:11 บ่อยๆก็จะเป็นพวกไมเกรนเทนชั่นกล้ามเนื้อ
00:09:11 → 00:09:14 ความเครียดนะคะแล้วก็ภาวะติดยาแก้ปวดนะคะ
00:09:14 → 00:09:17 อันที่ 2 ปัจจัยที่จะมากระตุ้นให้ปวดหัว
00:09:17 → 00:09:19 มันไม่หายสักทีที่มันทำให้อาการมัน
00:09:19 → 00:09:22 เรื้อรังมากยิ่งขึ้นก็มาจากเราเองนี่แหละ
00:09:22 → 00:09:25 นะคะทั้งความเครียดจากตัวโรคความเครียด
00:09:25 → 00:09:27 เรื่องอื่นๆการขาดการออกกำลังกายการนอน
00:09:27 → 00:09:30 ดึกอดนอนนอนไม่พอรวมถึงอาหารด้วยนะคะบาง
00:09:30 → 00:09:34 คนที่แบบอาจจะทานอาหารไม่เพียงพอหรือใช้
00:09:34 → 00:09:37 ชีวิตเร่งรีบทานจัง Food บ่อยๆทานอาหารผง
00:09:37 → 00:09:39 ชูรสเยอะๆหรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
00:09:39 → 00:09:42 พวกนี้ก็ล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้กระตุ้น
00:09:42 → 00:09:44 ให้ปวดหัวเราเนี่ยแย่ลงได้นะคะอีกอันนึง
00:09:44 → 00:09:46 ที่เจอบ่อยมากๆเลยก็คือเรื่องของภาวะขาด
00:09:46 → 00:09:49 น้ำยิ่งใครที่แบบใช้ชีวิตแบบเร่งรีบนะคะ
00:09:49 → 00:09:52 ทำงานทั้งวันอย่างเงี้ยบางทีเราไม่สามารถ
00:09:52 → 00:09:54 ดื่มน้ำให้ได้อย่างเพียงพอเมื่อมีภาวะขาด
00:09:54 → 00:09:56 น้ำไอ้ตัวภาวะขาดน้ำเองเนี่ยก็จะยิ่ง
00:09:56 → 00:09:59 กระตุ้นอาการปวดหัวหลายๆอย่างเช่นอากาศ
00:09:59 → 00:10:01 ร้อนแล้วปวดหัวเงี้ยค่ะน้ำก็ยิ่งทำให้
00:10:01 → 00:10:04 อาการปวดหัวแย่ลงนะคะไมเกรนถ้าขาดน้ำก็
00:10:04 → 00:10:06 ยิ่งอาการแย่ลงเหมือนกันนะคะหรือคนไข้
00:10:06 → 00:10:09 ไมเกรนที่ทานอาหารไม่ตรงเวลานะคะแบบทำงาน
00:10:09 → 00:10:12 แล้วเลยมื้ออาหารไปก็จะรู้แล้วว่าจะเกิด
00:10:12 → 00:10:14 เมื่อไหร่ที่ทานไม่ตรงเวลามันก็ยิ่งมา
00:10:14 → 00:10:16 เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ปวดหัวเราแย่ลงได้
00:10:16 → 00:10:18 นะคะเพราะฉะนั้นใครที่มีอาการปวดหัว
00:10:18 → 00:10:21 เรื้อรังอยู่ปวดทุกวันปวดมานานอะไรหลายๆ
00:10:21 → 00:10:24 เดือนแบบนี้นะคะก็ต้องลองสังเกตดูว่าเรา
00:10:24 → 00:10:26 เข้าข่ายกับกลุ่มไหนหรือเปล่าเป็นปัจจัย
00:10:26 → 00:10:28 เป็นที่ตัวโรคปวดหัวของเราเองหรือเป็น
00:10:28 → 00:10:31 ปัจจัยเรื่องของการใช้ชีวิตเรื่องของการ
00:10:31 → 00:10:34 นอนการกินนะคะหรือว่าความเครียดต่างๆก็
00:10:34 → 00:10:37 ต้องพยายามจัดการกับความเครียดหรือว่าจัด
00:10:37 → 00:10:39 การปัจจัยตรงนั้นให้มันดีขึ้นนะคะก็อาจจะ
00:10:39 → 00:10:42 ทำให้อาการปวดหัวเนี่ยเบาลงได้นะคะเนาะ
00:10:42 → 00:10:45 สุดท้ายนะคะก็คือถ้าเกิดแบบกลุ่มที่เป็น
00:10:45 → 00:10:47 ปวดหัวเรื้อรังไม่หายเหล่าเนี้ยมันก็จะมี
00:10:47 → 00:10:50 โรคที่ต้องระวังนะคะก็คือเรื่องของว่าแบบ
00:10:50 → 00:10:52 คนส่วนใหญ่ที่มาหาหมอจริงๆอ่ะเค้าไม่ได้
00:10:52 → 00:10:55 มาด้วยหรอกค่ะว่าเออรู้สึกเครียดจังเลย
00:10:55 → 00:10:59 ค่ะปวดหัวทุกวันเลยแบบอ่าจะแบบเอ่อให้
00:10:59 → 00:11:01 รักษาเรื่องความเครียดยังไงอะไรอย่าง
00:11:01 → 00:11:03 เงี้ยค่ะแต่ส่วนใหญ่ทุกคนเลยที่มาหาก็คือ
00:11:03 → 00:11:06 จะมาด้วยปวดหัวทุกวันค่ะปวดไม่หายเลยทำ
00:11:06 → 00:11:09 ทุกอย่างแล้วกินยาแก้ปวดก็แล้วเริ่มมัน
00:11:09 → 00:11:11 เริ่มใช้ชีวิตไม่ได้แล้วเริ่มกระทบกับการ
00:11:11 → 00:11:13 ทำงานแล้วแล้วสุดท้ายสิ่งที่ทุกคนถามก็
00:11:13 → 00:11:15 คือจะเป็นเนื้องอกสมองไหมนะคะอันนี้ก็คือ
00:11:15 → 00:11:19 เป็นเป็นอาการปวดหัวที่ทุกคนกลัวแล้วก็
00:11:19 → 00:11:22 ไม่ได้อยากเป็นนะคะทีนี้เวลาปวดหัวไม่หาย
00:11:22 → 00:11:24 ปวดหัวเรื้อรังเราก็มีวิธีสังเกตว่าเราจะ
00:11:24 → 00:11:28 เป็นเนื้องอกสมองหรือเปล่านะคะอันก่อน
00:11:28 → 00:11:30 อื่นเลยนะคะอาการเนื้องอกสมองเกิดจากการ
00:11:30 → 00:11:33 ที่มันมีก้อนไปอยู่ในสมองนะคะเพราะฉะนั้น
00:11:33 → 00:11:36 เนี่ยอาการปวดหัวของเนื้องอกสมองมันจะมี
00:11:36 → 00:11:38 ลักษณะค่อนข้างแตกต่างจากปวดหัวจากอย่าง
00:11:38 → 00:11:40 อื่นอยู่บ้างเนาะวันนี้หมอจะไม่ได้ลงราย
00:11:40 → 00:11:42 ละเอียดว่าแบบปวดไมเกร็ดยังไงปวด tension
00:11:42 → 00:11:45 ปวดยังไงนะคะแต่ว่าเราจะมีวิธีสังเกตว่า
00:11:45 → 00:11:49 อาการปวดหัวแบบไหนล่ะที่เรารู้สึกว่าเอ้ย
00:11:49 → 00:11:52 แบบเนี้ยนะมันน่าจะต้องเริ่มเป็นอาการที่
00:11:52 → 00:11:55 อันตรายและเริ่มควรจะไปหาหมอแล้วแล้วดู
00:11:55 → 00:11:57 ว่าแบบอาจจะต้องสแกนสมองหรือเปล่านะคะก็
00:11:57 → 00:12:01 คือ 1 ก็คืออาการปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ย
00:12:01 → 00:12:04 มันจะมีเวลามีก้อนในสมองอ่ะค่ะมันจะเกิด
00:12:04 → 00:12:07 จากการรันแรงดันในสมองที่มันเพิ่มมากขึ้น
00:12:07 → 00:12:08 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:08 → 00:12:11 คนไข้ที่เวลาปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ยก็คือ
00:12:11 → 00:12:15 จะมีอาการเหมือนเวลาเราเหมือนเรามีแรงดัน
00:12:15 → 00:12:17 ในสมองเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆก็มันใหญ่
00:12:17 → 00:12:18 ขึ้นเรื่อยๆถ้าเรายังไม่ได้รักษาก้อนมัน
00:12:18 → 00:12:20 ไม่มีทางเล็กลงอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:12:20 → 00:12:22 เนี่ยเวลาอาการปวดหัวเนี่ยมันก็จะเป็น
00:12:22 → 00:12:26 อาการปวดหัวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนะคะคน
00:12:26 → 00:12:28 ไข้ก่อนหน้านี้ที่เป็นปวดหัวไม่หายทั้ง
00:12:28 → 00:12:30 หมดเนอะไม่ว่าจะเป็นไมเกรนเทนชั่นหรือ
00:12:30 → 00:12:33 ความเครียดอะไรแล้วแต่ค่ะถ้าซักประวัติดี
00:12:33 → 00:12:35 ๆอ่ะมันจะมีวันที่คนไข้หรือมีช่วงที่คน
00:12:36 → 00:12:39 ไข้อาจจะมีอาการหายจากปวดหัวคำว่าปวดหัว
00:12:39 → 00:12:41 เรื้อรังได้บ้างนะคะเวลาหมอถามก็ถามว่า
00:12:41 → 00:12:44 แบบเวลาช่วงที่ไม่ปวดเลยอ่ะมันเคยแบบกลับ
00:12:44 → 00:12:47 ไปใช้ชีวิตปกติได้ไหมเหลือ 0 เลยได้ไหม
00:12:47 → 00:12:50 ไอ้อาการปวดหัวอันนั้นนะคะซึ่งคนไข้ที่
00:12:50 → 00:12:52 เป็นปวดจากสาเหตุอื่นๆที่ไม่ได้รุนแรงมาก
00:12:52 → 00:12:56 นักเนี่ยมักจะต้องมีช่วงที่ลืมอาการปวด
00:12:56 → 00:12:58 หัวไปได้บ้างเนาะอย่างน้อยแบบสมมติว่าปวด
00:12:58 → 00:13:00 30 วันอาจจะมีสักวันสองวันที่เออมันไม่
00:13:00 → 00:13:03 มีปวดหัวค่ะหรือยกเว้นว่ากลุ่มที่มันเป็น
00:13:03 → 00:13:05 มานานมากๆเป็นทุกวันไปแล้วจริงๆอันนั้น
00:13:05 → 00:13:08 เขาก็อาจจะใช้คำว่าแบบปวดทุกวันเลยไม่มี
00:13:08 → 00:13:10 ช่วงที่หายได้แต่ถ้าเกิดแบบซักประวัติดีๆ
00:13:10 → 00:13:13 จริงจริงๆอาจจะยังมีช่วงที่หายปวดหัวได้
00:13:13 → 00:13:15 บ้างเช่นช่วงนี้งานไม่เยอะเลยได้พักผ่อน
00:13:15 → 00:13:17 เต็มที่นอนเต็มที่ไปเที่ยวอะไรอย่างนี้
00:13:17 → 00:13:20 ค่ะอาจจะไม่มีอาการปวดหัวนะคะแต่สำหรับคน
00:13:20 → 00:13:23 ไข้เนื้องอกนะคะหรือคนไข้ที่มีรอยโรคใน
00:13:23 → 00:13:25 สมองเนี่ยอาการเนี่ยมันจะไม่ได้สัมพันธ์
00:13:25 → 00:13:30 กับการที่เราใช้ชีวิตหรือว่าความคิดหรือ
00:13:30 → 00:13:32 งานอะไรด้วยความที่ก็มันมีขนาดใหญ่มาก
00:13:32 → 00:13:34 ขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้นคนไข้ก็จะมีอาการ
00:13:34 → 00:13:36 ปวดค่อนข้างมากขึ้นเรื่อยๆแล้ววันที่ไม่
00:13:36 → 00:13:39 ปวดก็มักจะยังแบบมีอาการปวดเหลืออยู่
00:13:39 → 00:13:42 อย่างเช่นวันที่ปวดมากอาจจะให้คะแนนปวด 10
00:13:42 → 00:13:44 เต็ม 10 เลยแต่วันที่ไม่ปวดก็อาจจะแบบไม่
00:13:44 → 00:13:47 ได้รู้สึกว่ามันเหลือ 0 เลยอาจจะเหลือ
00:13:47 → 00:13:49 ประมาณแบบ 3 4 5 ก็คือยังรู้สึกว่ามี
00:13:49 → 00:13:52 อาการปวดอยู่บ้างแค่มากน้อยต่ำกันนะคะ
00:13:52 → 00:13:56 แล้วก็มักจะมีลักษณะอาการที่บ่งชี้บาง
00:13:56 → 00:13:59 อย่างที่ว่าเวลาหมอซักประวัติไปแล้วเนี่ย
00:13:59 → 00:14:01 หรือว่าหมอคุยกับคนไข้แล้วก็จะรู้สึกว่า
00:14:01 → 00:14:03 เอ้ยแบบเนี้ยซีเรียสแล้วนะคือเรื่องของ
00:14:03 → 00:14:06 อาการอาเจียนนะคะถ้าเป็นปวดหัวจากความ
00:14:06 → 00:14:08 เครียดจากอย่างอื่นเนี่ยส่วนใหญ่อ่ะอย่าง
00:14:08 → 00:14:10 มากคนไข้จะบอกว่าคลื่นไส้แต่ไม่ถึง
00:14:10 → 00:14:14 อาเจียนออกมายกเว้นแค่ไมเกรนที่อาการ
00:14:14 → 00:14:16 คลื่นไส้อาเจียนเป็นหนึ่งในอาการร่วมของ
00:14:16 → 00:14:20 คนไข้ปวดไมเกรนได้นะคะแต่ว่าปวดในไมเกรน
00:14:20 → 00:14:23 คนไข้มักจะเป็นอาเจียนในไมเกรนคนไข้มักจะ
00:14:23 → 00:14:28 เป็นปวดแบบปวดขึ้นมาก่อนแล้วก็รู้สึกพอ
00:14:28 → 00:14:31 ปวดมากๆก็จะรู้สึกว่าคลื่นไส้อาเจียนนะคะ
00:14:31 → 00:14:34 แต่สำหรับคนไข้ที่มีก็หรือว่ามีเนื้องอก
00:14:34 → 00:14:36 ในสมองเนี่ยอันนี้มักจะเป็นอาจารย์อาการ
00:14:36 → 00:14:39 อาเจียนแบบไม่สัมพันธ์กับตอนปวดหัวหรือ
00:14:39 → 00:14:41 ว่าเป็นอาเจียนพุ่งออกมาเลยซึ่งส่วนใหญ่
00:14:41 → 00:14:43 เนี่ยอาการมักจะเกิดช่วงหลังตื่นนอนเลย
00:14:43 → 00:14:46 ยังไม่ทันทานอาหารอะไรเข้าไปเลยก็อาเจียน
00:14:46 → 00:14:48 พวกออกมาแล้วซึ่งเกิดจากการที่แรงดันใน
00:14:48 → 00:14:51 สมองมันเพิ่มมากขึ้นนะคะแล้วก็ลักษณะของ
00:14:51 → 00:14:54 อาการปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ยส่วนใหญ่แล้ว
00:14:54 → 00:14:56 เนี่ยมักจะต้องมีอาการร่วมอื่นๆจากการที่
00:14:56 → 00:14:59 แรงดันในสมองเนี่ยมันเพิ่มขึ้นด้วยเช่น
00:14:59 → 00:15:03 ซักประวัติดีๆจะรู้สึกว่าคนไข้เนี่ยดูช้า
00:15:03 → 00:15:06 ลงดูซึมลงหรือว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
00:15:06 → 00:15:09 นะคะบางคือถ้าถึงขั้นแขนขาอ่อนแรง
00:15:09 → 00:15:11 อันเนี้ยไม่ค่อยมีปัญหาปัญหาเพราะว่ายัง
00:15:11 → 00:15:14 ไงก็ต้องตรวจสแกนสมองอยู่แล้วนะคะโรคปวด
00:15:14 → 00:15:16 หัวอื่นๆที่เป็นโรคปวดหัวเรื้อรังไม่ว่า
00:15:16 → 00:15:18 จะเป็นไมเกรนเทนชั่นกล้ามเนื้อแล้วแต่
00:15:18 → 00:15:21 ส่วนใหญ่ก็คือต้องไม่มีอาการผิดปกติทาง
00:15:21 → 00:15:23 ระบบประสาทอยู่แล้วต้องไม่มีอ่อนแรงไม่มี
00:15:23 → 00:15:27 ชานะคะถ้าชัดๆถึงขั้นมีชามีแขนขาอ่อนแรง
00:15:27 → 00:15:29 ปากเบี้ยวพูดไม่ชัดอันไหนยังไงก็ต้องไป
00:15:29 → 00:15:31 สแกนสมองไปหาสาเหตุอยู่แล้วแต่มันจะมี
00:15:31 → 00:15:35 อาการบางอาการที่ก้ำกึ่งดูไม่ได้ชัดเจน
00:15:35 → 00:15:38 มากแต่ว่าเป็นอาการที่อาจจะทำให้สงสัยว่า
00:15:38 → 00:15:41 มีเรื่องของมีตัวก้อนหรือว่ามีความผิด
00:15:41 → 00:15:43 ปกติในสมองได้ก็คือเรื่องของพฤติกรรมที่
00:15:43 → 00:15:47 อาจจะเปลี่ยนไปค่ะเคยเจอแบบว่าบางทีแบบ
00:15:47 → 00:15:50 อ่ามีคุณยายที่มีก้อนเนื้องอกในสมองเนี่ย
00:15:50 → 00:15:53 มาด้วยแบบเหมือนเอ่อญาติสังเกตแค่ว่าคุณ
00:15:53 → 00:15:56 ยายดูหงุดหงิดขึ้นจากเดิมที่เป็นคนแบบ
00:15:56 → 00:15:58 เป็นคนแบบเงียบๆเรียบร้อยมากแต่ว่า
00:15:58 → 00:16:00 พฤติกรรมดูเปลี่ยนแปลงไปดูฉุนเฉียวดูไม่
00:16:00 → 00:16:03 สมเหตุสมผลนะคะซึ่งสุดท้ายเนี่ยเอ่อจะทำ
00:16:03 → 00:16:05 แล้วก็เจอว่ามันมีตัวก้อนจริงๆนะคะมัน
00:16:05 → 00:16:08 เป็นเกิดจากการที่มันมีแรงดันในสมองเพิ่ม
00:16:08 → 00:17:10 มากขึ้นก็เลยทำให้ส่งผล
00:17:10 → 00:17:12 ถ้าเกิดเป็นเรื่องของเนื้องอกส่วนใหญ่
00:17:12 → 00:17:15 เวลาแดงดันในสมองเพิ่มมากขึ้นเวลาการมอง
00:17:15 → 00:17:17 เห็นที่ผิดปกติจะเป็นเรื่องของแบบมองเห็น
00:17:17 → 00:17:20 ภาพซ้อนไปเลยหรือว่าเห็นภาพแบบผิดปกติไป
00:17:20 → 00:17:23 เลยนะคะอันนี้ก็จะทำให้เราสงสัยมากขึ้นนะ
00:17:23 → 00:17:25 คะงั้นเนี่ยใครถ้าเกิดมีอาการปวดหัว
00:17:25 → 00:17:28 เรื้อรังนะคะปวดไม่หายแล้วมีอาการต่างๆ
00:17:28 → 00:17:32 ที่กล่าวมาอย่างนี้นะคะคืออาเจียนพุ่งปวด
00:17:32 → 00:17:35 มากขึ้นเรื่อยๆทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นกินยา
00:17:35 → 00:17:38 แล้วก็เริ่มไม่ดีขึ้นมีอาการที่สงสัยว่า
00:17:38 → 00:17:42 สมองจะทำงานผิดปกติบางอย่างเช่นความจำแย่
00:17:42 → 00:17:45 ลงพฤติกรรมเปียกนิสัยเปลี่ยนอะไรแบบเนี้ย
00:17:45 → 00:17:49 กลุ่มเนี้ยเป็นกลุ่มที่อาจจะต้องรีบมาหา
00:17:49 → 00:17:52 หมอเพื่อตรวจสแกนคอมพิวเตอร์สมองนะคะด้วย
00:17:52 → 00:17:54 CT หรือ MRI อะไรก็แล้วแต่เพื่อดูว่า
00:17:54 → 00:17:57 สาเหตุของที่เป็นปวดหัวเนี่ยเป็นจากอะไร
00:17:57 → 00:18:00 นะคะส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นเรื่องของพวก
00:18:00 → 00:18:03 ไม่แกล้งปวดความเครียดปวดเห็นท่านปวด
00:18:03 → 00:18:05 กล้ามเนื้อหรือว่าการทานยาแก้ปวดเกินขนาด
00:18:05 → 00:18:08 กลุ่มนั้นเนี่ยมักจะต้องตรวจไม่เจอความ
00:18:08 → 00:18:12 ผิดปกตินะคะของระบบประสาทแต่แล้วก็ MRI
00:18:12 → 00:18:14 ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ถ้าเกิด
00:18:14 → 00:18:17 ประวัติค่อนข้างชัดเจนนะคะแล้วก็ทำต่อให้
00:18:17 → 00:18:21 ทำไปเนี่ยก็มักจะปกตินะคะแต่กลุ่มนี้ก็
00:18:21 → 00:18:23 ต้องมาหาหมอเหมือนกันอาจจะไม่ได้รีบเท่า
00:18:23 → 00:18:26 กับกลุ่มที่สงสัยว่ามีเนื้องอกแต่กลุ่ม
00:18:26 → 00:18:29 นี้นะคะถ้าเกิดไม่รักสานะคะหรือปล่อยทิ้ง
00:18:29 → 00:18:32 ไว้เนี่ยส่วนใหญ่อ่ะ 1 คนไข้ก็มักจะมี
00:18:32 → 00:18:35 อาการแย่ลงเรื่อยๆปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ
00:18:35 → 00:18:37 จากปวดที่ไม่ทุกวันกลายเป็นปวดทุกวันแล้ว
00:18:37 → 00:18:40 ก็มักจะมีความเสี่ยงจากการใช้ยาแก้ปวดนี่
00:18:40 → 00:18:43 แหละค่ะบางคนก็คือกินยาแก้ปวดจนหลับ
00:18:43 → 00:18:45 กระเพาะทะลุไปเลยหรือว่าแบบไปมีปัญหาการ
00:18:45 → 00:18:47 ทำงานของไตแย่ลงอะไรอย่างเงี้ยนะคะเพราะ
00:18:47 → 00:18:49 ฉะนั้นต่อให้เป็นกลุ่มที่มันเป็นโรคปวด
00:18:49 → 00:18:52 ศีรษะที่ปวดไม่หายปวดเรื้อรังที่ไม่ได้
00:18:52 → 00:18:55 รุนแรงก็ควรจะรักษาเหมือนกันนะคะเพราะ
00:18:55 → 00:18:57 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยกลุ่มนี้นะคะถ้าได้
00:18:57 → 00:19:01 รักษาจริงๆนะคะแบบส่วนใหญ่เนี่ยอาการก็ดี
00:19:01 → 00:19:04 ขึ้นนะคะดีขึ้นมากน้อยใช้ระยะเวลาอาจจะ
00:19:04 → 00:19:06 แตกต่างกันไปตามสาเหตุของแต่ละคนแต่ยังไง
00:19:06 → 00:19:08 ก็ดีขึ้นนะคะส่วนใหญ่ที่ไม่ดีขึ้นเนี่ย
00:19:08 → 00:19:11 เพราะว่าเป็นเพราะว่าคนไข้ส่วนใหญ่จะคิด
00:19:11 → 00:19:14 ว่าแบบกลุ่มพวกนี้คือลองมาหมดแล้วเช่นเคย
00:19:14 → 00:19:17 อาจจะเคยไปรักษาแล้วแล้วมันก็ไม่ดีอ่ะลอง
00:19:17 → 00:19:20 ซื้อยากินเองซื้อยากินเองแล้วมันดีงั้นก็
00:19:20 → 00:19:22 ซื้อยากินเองไปก่อนดีกว่าอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:19:22 → 00:19:25 คือทำมาหลายวิธีนะคะแล้วพอมันไม่ดีขึ้น
00:19:25 → 00:19:28 สุดท้ายอ่ะคนไข้เขาก็จะรู้สึกว่างั้นอยู่
00:19:28 → 00:19:31 กับมันก็ได้อยู่กับปวดหัวนี้ก็ได้นะคะ
00:19:31 → 00:19:33 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยไม่อยากให้คิดแบบนั้น
00:19:33 → 00:19:35 นะคะเพราะว่าถ้าเรารักษาอาการปวดหัว
00:19:35 → 00:19:40 เรื้อรังได้ถูกต้องกับโรคจริงๆนะคะมักจะ
00:19:40 → 00:19:43 ดีขึ้นแล้วก็ทำให้หยุดยาแก้ปวดหรือว่าไม่
00:19:43 → 00:19:45 ต้องใช้ยาแก้ปวดเกินความจำเป็นได้นะคะ
00:19:45 → 00:19:47 เนาะ
00:19:47 → 00:19:50 เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีใครมีอาการปวดหัว
00:19:50 → 00:20:53 ยังไงบ้างนะคะ
00:20:53 → 00:20:56 ยิ่งรักษาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะรักษาได้
00:20:56 → 00:20:59 ง่ายกว่านะคะแล้วก็หยุดการป้องกันภาวะการ
00:21:00 → 00:21:02 แบบใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดได้ก็เราจะหยุดการ
00:21:02 → 00:21:05 ใช้ยาแก้ปวดได้เร็วขึ้นนะคะถ้าเป็นไมเกรน
00:21:05 → 00:21:08 เรื้อรังก็แนะนำให้รักษาแล้วนะคะ
00:21:08 → 00:21:12 รบกวนสอบถามคุณหมอหน่อยครับผมมีอาการปวด
00:21:12 → 00:21:15 หัวมึนหัวหลังรับประทานอาหารอิ่มๆเป็นมา 2
00:21:15 → 00:21:18 เดือนแล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไรส่วนใหญ่ถ้า
00:21:18 → 00:21:21 เกิดเป็นอาการมึนหัวนะคะหลังทานอาหารอัน
00:21:21 → 00:21:24 นี้ก็เป็นอาการที่เจอได้นะคะหลายคนก็บอก
00:21:24 → 00:21:27 รู้สึกว่าพอกินอาหารปุ๊บรู้สึกมึนศีรษะ
00:21:27 → 00:21:29 ทันทีเลยนะคะลักษณะการปวดแบบนี้จะเป็น
00:21:29 → 00:21:32 เหมือนมึนๆแถวท้ายทอยมากกว่าซึ่งหลายคน
00:21:32 → 00:21:34 น่ะก็มักจะถามว่าเป็นจากไขมันสูงหรือ
00:21:34 → 00:21:39 เปล่ามีคนไข้เคยแบบเหมือนพอทานๆบุฟเฟ่ต์
00:21:39 → 00:21:41 หรือว่าทานอาหารของมันๆเสร็จปุ๊บแล้วรู้
00:21:41 → 00:21:43 สึกมึนหัวเมืองท้ายทอยก็เลยวันลุกขึ้นเลย
00:21:43 → 00:21:45 รีบไปเจาะดูไขมันก่อนเลยเพราะว่ากลัวว่า
00:21:45 → 00:21:48 ไขมันสูงแล้วไปอุดตันเส้นเลือดนะคะจริงๆ
00:21:48 → 00:21:51 แล้วถามว่าเกี่ยวกันไหมไขมันที่สูงเนี่ย
00:21:51 → 00:21:54 ไม่ได้ทำให้ไข่หรือว่าการเป็นของมันๆ
00:21:54 → 00:21:56 เฉียบพลันเนี่ยไม่ได้ไปทำให้ไขมันอุดตัน
00:21:56 → 00:21:59 เส้นเลือดเฉียบพลันนะคะแต่ว่าการกินของ
00:21:59 → 00:22:02 มันๆทานอาหารแคลอรี่เยอะๆอะไรพวกนี้หรือ
00:22:02 → 00:22:05 ว่าทานอาหารอิ่มเกินไปเนี่ยมันสามารถทำ
00:22:05 → 00:22:07 ให้มีอาการมึนหัวปวดหัวได้จากการที่
00:22:07 → 00:22:10 เหมือนถ้าเป็นคำโบราณเขาก็จะบอกว่าเหมือน
00:22:10 → 00:22:12 หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนก็คือพอเรา
00:22:12 → 00:22:16 ทานอาหารนะคะเลือดมันก็จะพยายามไปเลี้ยง
00:22:16 → 00:22:18 กระเพาะอาหารมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดการ
00:22:18 → 00:22:22 ย่อยอาหารและก็แล้วแต่นะคะบางคนเนี่ย
00:22:22 → 00:22:24 มันก็จะทำให้เหมือนเลือดไปเลี้ยงสมองน้อย
00:22:24 → 00:22:27 ลงซึ่งบางคนเนี่ยบางทีพอวัดความดันน่ะเรา
00:22:27 → 00:22:31 จะเจอเลยว่ามีภาวะความดันต่ำนะคะจากจาก
00:22:31 → 00:22:34 ตอนช่วงหลังทานอาหารนะคะซึ่งอันเนี้ยก็จะ
00:22:34 → 00:22:37 ทำให้มีอาการรู้สึกเป็นมึนหัวปวดหัวหลัง
00:22:37 → 00:22:39 ท้ายทอยหลังทานอาหารได้นะคะก็ต้องลอง
00:22:39 → 00:22:42 สังเกตอาการดูว่าเออถ้าเกิดเป็นจากร้าน
00:22:42 → 00:22:45 อาหารที่เรากินทุกครั้งนะคะ 1 ลองดูซิว่า
00:22:45 → 00:22:47 เรามีภาวะแบบเหมือนเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
00:22:47 → 00:22:50 หรือว่าแบบความดันต่ำหรือเปล่านะคะ 2
00:22:50 → 00:22:52 อาหารสัมพันธ์กับอาหารที่ทานไหมเช่นอาหาร
00:22:52 → 00:22:54 บางอย่างเนี่ยกระเพื่อการได้โดยเฉพาะพวก
00:22:54 → 00:22:58 อาหารผงชูรสก็กระตุ้นไมเกรนได้หรือว่าตัว
00:22:58 → 00:23:01 ผงชูรสเองก็ทำให้มีอาการปวดหัวได้หรือคน
00:23:01 → 00:23:04 ไข้ไมเกรนเองเนี่ยค่ะคือสมมุติว่าแบบมี
00:23:04 → 00:23:06 อาหารบางอย่างที่แบบกินทุกครั้งแล้วปวด
00:23:06 → 00:23:10 หัวทุกครั้งเช่นบางคนบอกว่ากินกาแฟหรือ
00:23:10 → 00:23:13 ว่ากินแอลกอฮอล์แล้วปวดหัวทุกครั้งก็
00:23:13 → 00:23:16 สังเกตว่าเป็นปวดหัวแบบปวดไมเกรนไหมแล้ว
00:23:16 → 00:23:19 สัมพันธ์กับอาหารอันนี้ไหมนะคะเนาะถ้า
00:23:19 → 00:23:21 เป็นหลังจากทานอาหารอิ่มๆแล้วเป็นมา 2
00:23:21 → 00:23:23 เดือนลองดูนะคะบอกว่า 1 ลองดูสัมพันธ์กับ
00:23:23 → 00:23:26 อาหารที่กินไหม 2 ทานเยอะไปหรือเปล่านะคะ
00:23:26 → 00:23:30 คือถ้าเกิดทานอิ่มไปทานแน่นไปนะคะรองลด
00:23:30 → 00:23:34 วิธีการปรับเนื้อหานะคะเป็นแบบทานน้อยๆ
00:23:34 → 00:23:38 แต่บ่อยๆแทนนะคะแล้วก็วิธีป้องกันอีกอัน
00:23:38 → 00:23:41 นึงที่ทำได้ก็คือเราอาจจะดื่มน้ำนะคะให้
00:23:41 → 00:23:44 มากพอเพราะว่าหลายคนที่มีอาการปวดหัวหลัง
00:23:44 → 00:23:45 ทานข้าวเนี่ยบางทีความดันต่ำหรืออะไร
00:23:45 → 00:23:48 เงี้ยค่ะเราก็พยายามดื่มน้ำเข้าไปก่อนนะ
00:23:48 → 00:23:50 คะดื่มให้เพียงพอก่อนก่อนที่จะรับประทาน
00:23:50 → 00:23:52 อาหารแล้วก็หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้น
00:23:52 → 00:23:55 อาการนะคะเพราะว่าอาหารไขมันสูงพวกของทอด
00:23:55 → 00:23:58 ของมันนะคะพวกอาหารแคลอรี่เยอะๆที่ย่อย
00:23:58 → 00:24:01 ยากๆนะคะพวกเนื้อสเต็กต่างๆแล้วก็พวกผงชู
00:24:01 → 00:24:05 รสด้วยก็อาจจะช่วยอาการได้นะคะลองดูนะคะ
00:24:05 → 00:24:09 เวียนหัวเดินเซนะคะอันนี้เป็นอีกเรื่อง
00:24:09 → 00:24:12 นึงเลยนะคะก็คือถ้าเกิดแบบ
00:24:12 → 00:24:15 เป็นเรื่องของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
00:24:15 → 00:24:17 เวียนหัวแต่ว่าก็จะมีเวียนหัวที่สัมพันธ์
00:24:18 → 00:24:19 กับปวดหัวด้วยถ้ามีเวียนหัวแล้วปวดหัว
00:24:19 → 00:24:21 ร่วมด้วยได้ก็ต้องระวังว่าอาจจะเป็นกลุ่ม
00:24:21 → 00:24:25 ไมเกรนที่เป็นเวียนหัวร่วมด้วยได้นะคะแต่
00:24:25 → 00:24:27 ถ้าเกิดไม่มีสัมพันธ์กับอาการปวดหัวเลย
00:24:27 → 00:24:29 เป็นเวียนหัวอย่างเดียวเลยเราก็ไม่รู้สึก
00:24:29 → 00:24:31 ว่ามีเดินเซด้วยอันนี้อาจจะต้องไปตรวจนะ
00:24:31 → 00:24:34 คะเพราะว่าเวียนหัวโดยทั่วๆไปอ่ะที่เป็น
00:24:34 → 00:24:38 จากการแบบพักผ่อนน้อยหรือว่าเป็นจากเอ่อ
00:24:38 → 00:24:41 ปัญหาเรื่องของในหูเช่นน้ำในหูไม่เท่ากัน
00:24:41 → 00:24:43 หินปูนหลุดอะไรอย่างเงี้ยค่ะส่วนใหญ่จะ
00:24:43 → 00:24:46 เป็นเวียนหัวบ้านหมุนนะคะแต่ว่ามักจะไม่
00:24:46 → 00:24:49 ได้มีปัญหาเรื่องของการทรงตัวแบบเดินเซ
00:24:49 → 00:24:52 ที่ผิดปกติร่วมด้วยนะคะคือถ้ามีเนี่ยมัน
00:24:52 → 00:24:54 ก็จะมีแค่ช่วงอาการที่มีเวียนหัวบ้านหมุน
00:24:54 → 00:24:57 ตอนนั้นที่รู้สึกเดินไม่ได้แต่ในช่วงเวลา
00:24:57 → 00:24:59 อื่นๆที่ไม่ได้เวียนหัวการเดินจะต้องปกติ
00:25:00 → 00:25:02 นะคะแต่ถ้าเกิดรู้สึกว่ามีเวียนหัวด้วยมี
00:25:02 → 00:25:05 เดินเซร่วมด้วยนะคะโดยที่แบบอาการเกิด
00:25:05 → 00:25:07 ขึ้นตลอดแล้วไม่หายไปนี้อาจจะต้องไปตรวจ
00:25:07 → 00:25:09 เหมือนกันนะคะ
00:25:09 → 00:25:12 คุณหมอคะถ้าเกิดปวดหัวอยู่แล้วดื่มกาแฟจะ
00:25:12 → 00:25:15 ทำให้แย่ลงหรือเปล่านะคะเรื่องของกาแฟ
00:25:15 → 00:25:19 ส่วนใหญ่แล้วขึ้นกับหลายคนเลยนะคะต้องลอง
00:25:19 → 00:25:23 สังเกตอาการตัวเองดูว่าคือกาแฟเนี่ยก็
00:25:23 → 00:25:26 สามารถกระตุ้นทั้งปวดหัวได้หรือบางคนขาด
00:25:26 → 00:25:28 กาแฟก็ปวดหัวได้นะคะลองสังเกตดูส่วนใหญ่
00:25:28 → 00:25:30 ที่หมอเจอมาก็คือถ้าเกิดคนที่ดื่มกาแฟ
00:25:30 → 00:25:33 เป็นประจำอยู่แล้วนะคะแล้วถ้าไม่ได้ดื่ม
00:25:33 → 00:25:35 กาแฟอันนี้ม๊าจะกระตุ้นให้เกิดปวดหัวแทน
00:25:35 → 00:25:38 นะคะมันเหมือนเป็นภาวะติดคาเฟอีนอย่างนึง
00:25:38 → 00:25:41 นะคะพอไม่ได้ทานคาเฟอีนเข้าไปก็กระตุ้น
00:25:41 → 00:25:44 ให้เกิดอาการปวดหัวได้นะคะแต่ถ้าเกิดแบบ
00:25:44 → 00:25:47 คนที่ไม่เคยทานกาแฟอยู่ก่อนเลยนะคะแบบ
00:25:47 → 00:25:49 แล้วอยู่ดีก็ทานกาแฟเข้าไปเนี่ยอันนี้อาจ
00:25:49 → 00:25:52 จะมีอาการปวดหัวจากที่รู้สึกใจสั่นในกาแฟ
00:25:52 → 00:25:55 ก็จะมีที่ทำให้เรารู้สึกแบบความดันขึ้น
00:25:55 → 00:25:58 ได้มีใจสั่นได้นะคะคนที่ไม่เคยกินกาแฟ
00:25:58 → 00:26:01 หรือกินคาเฟอีนกินโกโก้กินชามาก่อนอยู่ดี
00:26:01 → 00:26:02 ๆไปดื่มเครื่องดื่มพวกนี้ก็รู้สึกว่า
00:26:02 → 00:26:04 กระตุ้นให้อาจเกิดอาการปวดหัวได้เหมือน
00:26:04 → 00:26:07 กันนะคะหรือว่าถ้าเกิดเป็นกลุ่มที่เรา
00:26:07 → 00:26:11 เป็นไมเกรนเองเนี่ยก็จะมีทั้งที่ตัวกาแฟ
00:26:12 → 00:26:14 ก็เป็นตัวหนึ่งในตัวกระตุ้นไมเกรนก็ได้นะ
00:26:14 → 00:26:17 คะหรือคนไข้ไมเกรนบางคนก็จะบอกว่ากินกาแฟ
00:26:17 → 00:26:20 แล้วดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิด
00:26:20 → 00:26:22 สมมุติว่ามีอาการปวดหัวอยู่เนี่ยก็ลอง
00:26:22 → 00:26:24 สังเกตอาการตัวเองดูได้เลยนะคะว่าเราเป็น
00:26:24 → 00:26:28 กลุ่มไหนถ้าโดยทั่วไปค่ะที่หมอเจอมาคือ
00:26:28 → 00:26:29 ถ้าเกิดสมมุติว่าเราดื่มเป็นประจำทุกวัน
00:26:29 → 00:26:32 อยู่แล้วนะคะอันนี้ก็คือดื่มต่อได้ตัว
00:26:32 → 00:26:34 กาแฟไม่ได้มากระตุ้นอาการอะไรให้เราแย่ลง
00:26:34 → 00:26:37 นะคะแต่ถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่ได้ดื่ม
00:26:37 → 00:26:39 เป็นประจำนะคะอันนี้ก็คือควรหลีกเลี่ยง
00:26:39 → 00:26:41 ไม่ควรเอากาแฟมาเป็นแบบหนึ่งในการรักษา
00:26:41 → 00:26:44 อาการปวดหัวอะไรแบบนั้นนะคะเนาะ
00:26:44 → 00:26:47 เวลาปวดหัวจะปวดตรงท้ายทอยใช้ไม้กดแล้ว
00:26:48 → 00:26:51 ปล่อยจะโล่งมากแต่ไม่หายพอสังเกตคือถ้า
00:26:51 → 00:26:53 นอนไม่พอจะเป็นทันทีเลยแต่บางทีก็เป็นจาก
00:26:53 → 00:26:56 ความเครียดคือถ้ากลุ่มนี้นะคะของคุณอรทัย
00:26:56 → 00:27:00 เนาะก็ถ้าเป็นปวดแบบปวดปวดจากท้ายทอยอ่ะ
00:27:00 → 00:27:03 ค่ะแล้วพอกดแล้วพอปล่อยแล้วรู้สึกว่าโล่ง
00:27:03 → 00:27:05 เนี่ยส่วนใหญ่กลุ่มนี้อันนี้อาจจะเป็นจาก
00:27:05 → 00:27:07 กล้ามเนื้อได้นะคะหรือปวดแบบ tension ก็
00:27:07 → 00:27:09 จะปวดตำแหน่งท้ายทอยได้เหมือนกันคือ
00:27:09 → 00:27:12 tension เนี่ยก็เป็นสัมพันธ์กับพวกกล้าม
00:27:12 → 00:27:14 เนื้อตึงหรือว่าสัมพันธ์กับความเครียด
00:27:14 → 00:27:15 ค่อนข้างเยอะนะคะตำแหน่งก็จะปวดแบบเนี้ย
00:27:15 → 00:27:18 ปวดท้ายทอยพอกดไปแล้วก็รู้สึกโล่งขึ้น
00:27:18 → 00:27:20 สบายขึ้นหรือคนที่มีกล้ามเนื้อตึงเป็น
00:27:21 → 00:27:23 ออฟฟิศซินโดรมคอร์บาไหลตึงมากๆอ่ะค่ะกด
00:27:23 → 00:27:25 ตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งท้ายทอยตรงเนี้ยค่ะ
00:27:25 → 00:27:27 ซึ่งเป็นจุดเกาะกล้ามเนื้อที่มักจะเกิด
00:27:27 → 00:27:29 อ่าการเกร็งตัวเนี่ยก็พอกดแล้วก็ทำให้รู้
00:27:29 → 00:27:33 สึกโล่งขึ้นได้เหมือนกันนะคะซึ่งอ่าไม่
00:27:33 → 00:27:34 ว่าจะเป็น tension หรือว่าปวดกล้ามเนื้อ
00:27:34 → 00:27:36 หรือว่าปวดจากความเครียดต่างๆเนี่ยอันนี้
00:27:36 → 00:27:39 ก็จะกระตุ้นจากการที่เรามีอดนอนความคิด
00:27:39 → 00:27:42 คิดใช้ความคิดเยอะๆหรือว่ามีความเครียดนะ
00:27:42 → 00:27:45 คะก็จะทำให้เป็นปวดหัวได้บ่อยแบบนี้อยู่
00:27:45 → 00:27:48 แล้วนะคะก็ต้องพยายามลองดูว่าถ้าเกิด
00:27:48 → 00:27:51 เราทำอะไรแล้วเป็นเนี่ยก็พยายามเลี่ยงตัว
00:27:51 → 00:27:52 กระตุ้นน้อยอย่างถ้ารู้ว่านอนไม่พอแล้วจะ
00:27:52 → 00:27:54 เป็นเลยก็ต้องพยายามแบบเข้านอนให้เป็น
00:27:54 → 00:27:58 เวลาเท่าที่ทำได้นะคะพยายามนอนเป็นเวลา
00:27:58 → 00:28:01 เดิมๆนะคะการนอนเวลาเดิมๆจะทำให้ร่างกาย
00:28:01 → 00:28:03 เหมือนนาฬิกาชีวิตของเราทำงานได้เป็นปกติ
00:28:03 → 00:28:05 มากขึ้นดีกว่าแบบวันนี้เรานอนเร็ววันนี้
00:28:05 → 00:28:07 เรานอนดึกอย่างเงี้ยค่ะนาฬิกาชีวิตจะรวน
00:28:07 → 00:28:09 ก็ทำให้หลับได้ไม่สนิทไม่เต็มที่นะคะก็
00:28:09 → 00:28:14 พยายามเซ็ตเวลาเดินๆให้ให้ร่างกายเราเกิด
00:28:14 → 00:28:18 ความเคยชินนะคะถ้ารู้สึกว่าปวดมากนะคะอัน
00:28:18 → 00:28:21 นี้ลองทำกายภาพลองยืดกล้ามเนื้อหรือว่า
00:28:21 → 00:28:25 คลายกล้ามเนื้อบริเวณแถวท้ายทอยคอบ่าไหล่
00:28:25 → 00:28:28 ก็จะช่วยลดอาการที่ปวดขึ้นไปศีรษะได้นะคะ
00:28:28 → 00:28:30 แล้วก็ต้องดื่มน้ำให้พอด้วยเพราะส่วนใหญ่
00:28:30 → 00:28:33 เนี่ยพอถ้าเกิดเราขาดนานปุ๊บดื่มน้ำไม่พอ
00:28:33 → 00:28:35 เนี่ยก็มักจะกระตุ้นให้เรารู้สึกปวดหัว
00:28:35 → 00:28:39 มากขึ้นมึนหัวมากขึ้นด้วยนะคะ
00:28:39 → 00:28:42 เป็นไมเกรนแบบ cluster ค่ะปวดหัวต่อ
00:28:42 → 00:28:44 เนื่องมาครึ่งเดือน
00:28:44 → 00:28:49 จริงๆไมเกรนกับ cluster เนี่ยแยกกันนะคะ
00:28:49 → 00:28:52 อาจจะมีลักษณะบางอย่างที่มันคล้ายคลึงกัน
00:28:52 → 00:28:56 ได้นะคะแต่ว่าถามว่าจริงๆแล้วมันต้องคน
00:28:56 → 00:28:58 ไข้อาจจะไม่ได้จำเป็นจะต้องแยกจากกันโดย
00:28:58 → 00:29:02 ชัดเจนแต่ว่าให้รู้ว่าไม่อาจจะเป็นไมเกรน
00:29:02 → 00:29:04 หรือ cluster ก็ได้นะคะลองสังเกตอาการตัว
00:29:04 → 00:29:08 เองดูนะคะตัวอาการปวดมันจะคล้ายๆการคือ
00:29:08 → 00:29:11 มันเป็นความปวดจากที่มีการกระตุ้นระบบ
00:29:11 → 00:29:12 ประสาทและหลอดเลือดเพราะฉะนั้นเนี่ยความ
00:29:12 → 00:29:15 ปวดมันจะปวดค่อนข้างรุนแรงทั้งคู่เลยทั้ง
00:29:15 → 00:29:17 ในเกมและ cluster เลยคือปวดแบบตุ๊บๆ
00:29:17 → 00:29:20 เหมือนหลอดเลือดเต้นนะคะอ่าไมเกรนจะมี
00:29:20 → 00:29:24 ลักษณะจำเพาะบางอย่างนะคะเช่นเอ่อมักจะมี
00:29:24 → 00:29:27 ไม่ชอบเสียงดังไม่ชอบแสงจ้านะคะแล้วเรียก
00:29:27 → 00:29:30 กลัวแสงกลัวเสียงมักจะมีคลื่นไส้อาเจียน
00:29:30 → 00:29:32 ร่วมด้วยแล้วก็มักจะมีตัวกระตุ้นที่ค่อน
00:29:32 → 00:29:36 ข้างชัดเจนนะคะแบบประจำเดือนอดนอน
00:29:36 → 00:29:39 แอลกอฮอล์อาหารบางอย่างนะคะตัวกระตุ้นมัน
00:29:39 → 00:29:41 จะค่อนข้างชัดลักษณะมันจะค่อนข้างชัดแล้ว
00:29:41 → 00:29:44 ก็เวลาปวดไมเกรนเนี่ยจะค่อนข้างนานคือ
00:29:44 → 00:29:47 อย่างน้อยเนี่ย 3-4 ชั่วโมงขึ้นไปเลยแล้ว
00:29:47 → 00:29:49 ก็ปวดได้นานถึง 2-3 วันเลยถ้าไม่ได้กินยา
00:29:49 → 00:29:52 อะไรนะคะแต่ cluster เนี่ยลักษณะอาการปวด
00:29:52 → 00:29:54 เขาจะคล้ายๆไมเกรนนั่นแหละแต่ cluster จะ
00:29:54 → 00:29:57 มาเป็นแบบเป็นชุดๆเป็นช่วงๆมากกว่านะคะ
00:29:57 → 00:30:00 คือมันสั้นกว่าแต่มาได้ถี่กว่าเช่นถ้าปวด
00:30:00 → 00:30:02 ไมเกรนนะวันนั้นมาแล้วนะวันนั้นไมเกรน
00:30:02 → 00:30:05 กำเริบก็คือยิงยาวทั้งวันแต่ถ้าเป็น
00:30:05 → 00:30:07 cluster เนี่ยมันอาจจะปวดแบบรุนแรงปวด
00:30:07 → 00:30:10 แบบปุ๊บๆๆๆไม่กี่นาทีแล้วก็ 2-3 ชั่วโมง
00:30:10 → 00:30:13 หายไปอ่ะแต่บ่ายๆอาจจะมาใหม่อีกปุ้บๆๆๆๆ
00:30:13 → 00:30:16 แล้วก็หายไปแล้วก็มาอีกก็คือเป็นแบบเป็น
00:30:16 → 00:30:19 ชุดๆนะคะแล้วก็คัตเตอร์มักจะมีอาการของ
00:30:19 → 00:30:22 พวกระบบประสาทอัตโนมัติที่แบบอาจจะทำให้
00:30:22 → 00:30:24 เราแยกจากไมเกรนได้อย่างเช่นพวกเรื่องของ
00:30:24 → 00:30:29 แบบหนังตาบวมหนังตาตกดูตาแดงหรือมีน้ำตา
00:30:29 → 00:30:31 ไหลจมูกตันอย่างเงี้ยเป็นอาการของระบบ
00:30:31 → 00:30:34 ประสาทอัตโนมัติค่อนข้างเยอะนะคะคัตเตอร์
00:30:34 → 00:30:36 มีกลัวแสงได้เหมือนกันแต่ว่าจะไม่ค่อยมี
00:30:36 → 00:30:39 เรื่องของแบบอ่าเสียงดังอะไรอย่างเงี้ย
00:30:39 → 00:30:41 เหมือนชัดเจนเข้าไมเกรนหรือเรื่องกลิ่น
00:30:41 → 00:30:43 อย่างเงี้ยค่ะเรื่องกลิ่นก็จะแบบค่อนข้าง
00:30:43 → 00:30:46 แบบเป็นเรื่องแบบไมเกรนตัวกระตุ้นไมเกรน
00:30:46 → 00:30:48 ค่อนข้างชัดกว่าแต่ว่าบางทีมันก็ก้ำกึ่ง
00:30:48 → 00:30:53 กลางนะคะเอ่ออาจจะไม่อ่าหน้าที่ของการแยก
00:30:53 → 00:30:56 หรือการแยกโรคเนี่ยอาจจะเป็นลองปรึกษาคุณ
00:30:56 → 00:30:58 หมอดูเนาะว่าของเราน่าจะเข้าข่ายอันไหน
00:30:58 → 00:31:01 มากกว่าจริงๆการรักษาคล้ายๆกันแต่มีราย
00:31:01 → 00:31:03 ละเอียดของการรักษาที่แตกต่างกันบ้างนิด
00:31:03 → 00:31:05 หน่อยนะคะเรื่องของยาหรือเรื่องขนาดยาที่
00:31:05 → 00:31:08 ใช้หรือว่าระยะเวลาที่จะต้องรักษานะคะ
00:31:08 → 00:31:11 เนาะ
00:31:11 → 00:31:18 ก็มีคำถามอีกไหมเดี๋ยวนะคะ
00:31:18 → 00:31:20 ใครมีคำถามก็ถามเข้ามาได้เลยนะคะวันนี้
00:31:20 → 00:31:24 เน้นตอบคำถามเรื่องปวดหัวให้
00:31:24 → 00:31:28 ขานิดนึง
00:31:28 → 00:31:30 โอเค
00:31:30 → 00:31:33 ก็ถ้าไม่มีคำถามนะคะก็เดี๋ยวทิ้งไว้ก็ได้
00:31:33 → 00:31:43 นะคะเดี๋ยวถ้าเกิดมีเดี๋ยวนะคะ
00:31:43 → 00:31:46 อันนี้เป็นคำถาม
00:31:46 → 00:31:50 ปวดมา 8 ปีแล้วปวดหัวช่วงใกล้เป็นประจำ
00:31:50 → 00:31:53 เดือนมีผลจากฮอร์โมนเปลี่ยนไหมคะก็ถ้า
00:31:54 → 00:31:56 เป็นปวดหัวช่วงใกล้เป็นประจำเดือนนะคะเรา
00:31:56 → 00:32:00 ก็จะมีผลจากฮอร์โมนค่ะคือภาวะปวดหัวช่วง
00:32:00 → 00:32:02 มีประจำเดือนเนี่ยเป็นได้ทั้ง 2 อย่างนะ
00:32:02 → 00:32:05 คะอันแรกก็คือเป็นไมเกรนที่เป็นช่วงประจำ
00:32:05 → 00:32:08 เดือนนะคะเราเรียกเลยว่าเป็นเมนส์นะคะ
00:32:08 → 00:32:12 สาเหตุของที่เป็นไมเกรนช่วงเป็นประจำ
00:32:12 → 00:32:14 เดือนส่วนหนึ่งก็คือเกิดจากการฮอร์โมน
00:32:14 → 00:32:15 ช่วงที่ใกล้จะมีรอบเดือนเนี่ยมีการ
00:32:15 → 00:32:18 เปลี่ยนแปลงนะคะฮอร์โมนของผู้หญิงที่เป็น
00:32:18 → 00:32:21 เอสโตรเจนเปอร์เซียก็คือมีการเปลี่ยนแปลง
00:32:21 → 00:32:24 ระดับในช่วงที่จะใกล้ๆมีรอบเดือนนะคะซึ่ง
00:32:24 → 00:32:26 การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตัวนี้เป็นตัว
00:32:26 → 00:32:27 หนึ่งในกระตุ้นไมเกรนเหมือนคนที่เป็น
00:32:27 → 00:32:29 ไมเกรนแล้วไปเจอกลิ่นหรือว่าเป็นไมเกรน
00:32:29 → 00:32:33 แล้วไปเจอแสงนะคะอันนี้ก็จะเป็น 1 ใน
00:32:33 → 00:32:36 อาการที่ทำให้ไมเกรนันกำเริบได้ซึ่ง
00:32:36 → 00:32:38 ลักษณะจำเพาะเลยส่วนใหญ่เนี่ยก็จะปวดก่อน
00:32:38 → 00:32:41 เป็นเมนส์ซัก 2-3 วันนะคะแล้วก็ปวดไปจน
00:32:41 → 00:32:44 ถึงประจำเดือนมาประจำเดือนหมดได้นะคะหรือ
00:32:44 → 00:32:46 บางคนก็อาจจะเป็นปวดตอนเมนส์มาหรือแต่
00:32:46 → 00:32:49 ส่วนใหญ่จะเจอปวดก่อนล่วงหน้าสัก 2-3 วัน
00:32:49 → 00:32:51 นะคะถ้าเป็นกลุ่มที่เป็นไมเกรนที่
00:32:51 → 00:32:53 สัมพันธ์กับรอบเดือนอย่างเดียวเราก็เลือก
00:32:53 → 00:32:55 เลยเป็น men's True เอาไมเกรนนะคะก็คือ
00:32:55 → 00:32:58 เป็นไมเกรนช่วงเมนส์นะคะแต่ถ้าไม่มีตัว
00:32:58 → 00:33:00 กระตุ้นอื่นๆเลยแต่ถ้ามีการ์ตูนกระตุ้น
00:33:00 → 00:33:03 อื่นๆด้วยมีแสงด้วยมีเสียงด้วยมีอะไรด้วย
00:33:03 → 00:33:05 อันนี้ก็คือจะถือว่าประจำเดือนเนี่ยเป็น
00:33:05 → 00:33:07 แค่ 1 ในตัวกระตุ้นนะคะนี้ก็จะมีอีกภาวะ
00:33:07 → 00:33:10 นึงนะคะก็คือเป็นปวดหัวช่วงจะมีประจำ
00:33:10 → 00:33:12 เดือนนั่นแหละอันนั้นเนี่ยก็จะเป็นอาการ
00:33:12 → 00:33:15 นะคะก่อนเราเรียกว่าอาการก่อนมีประจำ
00:33:15 → 00:33:17 เดือนหรือว่าการช่วงมีประจำเดือนนะคะก็
00:33:17 → 00:33:20 คือเป็น polyment อ่า mains toalt
00:33:20 → 00:33:24 Simple นะคะคือ pms เนาะอ่าในใน pms
00:33:24 → 00:33:27 เนี่ยก็คืออาการมีได้หลายอย่างเลยหลายคน
00:33:27 → 00:33:28 ก็จะรู้สึกว่าก่อนจะเป็นประจำเดือนเนี่ย
00:33:28 → 00:33:31 เขามีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทั้งไม่
00:33:31 → 00:33:34 ว่าจะปวดตัวปวดเมื่อยหิวบ่อยกินเยอะคัด
00:33:34 → 00:33:38 ตึงเต้านมอ่ากล้ามเนื้อปวดกล้ามเนื้อปวด
00:33:38 → 00:33:40 หลังอะไรอย่างเงี้ยนะคะซึ่งปวดหัวก็เป็น
00:33:40 → 00:33:43 หนึ่งในอาการนั้นเหมือนกันนะคะซึ่งตรงนี้
00:33:43 → 00:33:46 ก็จะเป็นแบบคนไข้ก็จะเป็นอาการปวดแบบปวด
00:33:46 → 00:33:49 แบบปวดทั่วๆไปปวดมึนๆปวดตึงๆไม่ได้ไม่ได้
00:33:49 → 00:33:52 ปวดชัดเจนถึงขั้นเหมือนปวดไมเกรนมากนะคะ
00:33:52 → 00:33:56 ก็พอประจำเดือนมาหรืออะไรก็หายไปโดยที่
00:33:56 → 00:34:00 ช่วงอื่นที่ไม่มีประจำเดือนก็จะไม่มี
00:34:00 → 00:34:03 อาการปวดหัวเลยนะคะเนาะนี้ถามว่าความ
00:34:03 → 00:34:06 สำคัญของภาวะนี้คืออะไรนะคะถ้าเกิดเป็น
00:34:06 → 00:34:08 ปวดหัวช่วงมีประจำเดือนอย่างเดียวเท่า
00:34:08 → 00:34:11 นั้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยต้องทำอะไรนะคะเอ่อก็
00:34:11 → 00:34:16 จะให้อ่าต้องการโดยการอ่านดื่มน้ำเยอะๆนะ
00:34:16 → 00:34:19 คะก็ช่วยได้นะคะนอนให้พอช่วงก่อนประจำ
00:34:19 → 00:34:23 เดือนมานะคะหรือเอ่อแบบบางคนที่มีอาการ
00:34:23 → 00:34:26 เยอะมากๆเนี่ยค่ะการทานทานยาป้องกันหรือ
00:34:26 → 00:34:29 ว่าทานแบบอ่าตัวแบบอ่าวิตามินบางอย่าง
00:34:29 → 00:34:31 แมกนีเซียมอย่างเงี้ยก็ช่วยลดอาการก่อนมี
00:34:31 → 00:34:34 ประจำเดือนได้นะคะเนาะแต่ถ้าเกิดเป็น
00:34:34 → 00:34:36 กลุ่มที่เป็นในเกรนอย่างเงี้ยค่ะอันนี้
00:34:36 → 00:34:38 ต้องแยกว่าแบบเออเป็นไมเกรนช่วงนี้รอบ
00:34:38 → 00:34:41 เดือนแล้วมีอาการอื่นๆอีกด้วยไหมเพราะถ้า
00:34:41 → 00:34:43 เกิดเป็นไมเกรนกลุ่มที่เป็นแบบเป็นบ่อยนะ
00:34:43 → 00:34:46 คะเป็นเกินแบบ 4-5 ครั้งต่อเดือนละไม่ใช่
00:34:46 → 00:34:48 แค่ช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้นอันนี้ก็
00:34:48 → 00:34:50 อาจจะต้องรักษาไมเกรนเพราะว่าไม่งั้น
00:34:50 → 00:34:53 เนี่ยมันก็จะมีความเสี่ยงที่ทำให้ปวดหัว
00:34:53 → 00:34:55 เป็นบ่อยขึ้นเป็นมากขึ้นนะคะแล้วก็สุด
00:34:55 → 00:34:57 ท้ายจะกลายเป็นปวดหัวเรื้อรังไม่หายนะคะ
00:34:57 → 00:34:59 เนาะ
00:34:59 → 00:35:02 เปิดมา 8 ปีแล้วทำ mi เสมอแล้วก็ปกติครับ
00:35:02 → 00:35:05 ส่วนมากตื่นมาตอนเช้าแล้วปวดเลยต้องกินยา
00:35:05 → 00:35:08 ทุกวันเลยครับอันนี้ค่ะก็คือถ้าเกิดทำ MRI
00:35:08 → 00:35:11 สมองนะคะของคุณบีจะทำ imri สมองแล้วปกติ
00:35:11 → 00:35:14 เนี่ยก็แทบจะตัดสาเหตุปวดหัวเรื้อรังจาก
00:35:14 → 00:35:17 พวกเรื่องอื่นๆในสมองออกไปได้อย่างเช่น
00:35:17 → 00:35:18 เรื่องของเนื้องอกนะคะเรื่องของเส้นเลือด
00:35:18 → 00:35:21 ที่ผิดปกตินะคะที่ถามว่าทำไมเป็น 8 ปี
00:35:21 → 00:35:24 แล้วมันยังไม่หายคีย์เวิร์ดอยู่ที่คำหลัง
00:35:24 → 00:35:26 ที่บอกว่าต้องกินพอปวดขึ้นมาแล้วกินยาทุก
00:35:26 → 00:35:29 วันนะคะการที่เราทานยาแก้ปวดทุกวันนะคะ
00:35:29 → 00:35:32 ตอนนี้ที่กินแบบปวดปุ๊บกินปั๊บมาเรื่อยๆ
00:35:32 → 00:35:35 ทุกวันนะคะมาเกินจริงๆเอาสัก 3 เดือน
00:35:35 → 00:35:38 เนี่ยถ้าเกินเป็นปีๆอันนี้เกินอยู่แล้ว
00:35:38 → 00:35:40 ตอนนี้น่าจะมีภาวะที่เราเรียกว่ามัน
00:35:40 → 00:35:43 เหมือนเป็นปวดหัวจากยาแก้ปวดด้วยนะคะก็
00:35:43 → 00:35:46 คือเป็นเมทิเคชัน Over us8 ละคือเป็นปวด
00:35:46 → 00:35:50 หัวจะการใช้ยาแก้ปวดแบบเอ่อที่มากเกินไป
00:35:50 → 00:35:54 นะคะซึ่งจริงๆแล้วอ่ะค่ะถ้าได้มารักษานะ
00:35:54 → 00:35:56 คะโดยการใช้ยาป้องกันปวดหัวแทนนะคะสุด
00:35:56 → 00:35:59 ท้ายอ่ะจะหยุดยาแก้ปวดได้นะคะอาจจะยังไม่
00:35:59 → 00:36:02 เคยรองรักษาจริงจังดูลองลองรักษาจริงจัง
00:36:02 → 00:36:05 ดูนะคะเพราะว่าไม่งั้นเนี่ยจะกลายเป็นว่า
00:36:05 → 00:36:07 แบบที่หมอเคยเจอมาก็คือแบบอย่างเงี้ยค่ะ
00:36:07 → 00:36:09 คือเขาก็กินยากินพาราเนี่ยแหละพาราธรรมดา
00:36:09 → 00:36:12 ทุกวันเลยกินทุกวันเลยนะคะแต่สุดท้ายวัน
00:36:12 → 00:36:15 นึงอ่ะค่ะ 1 มันจะเม็ดเดียวเอาไม่อยู่ละ
00:36:15 → 00:36:18 อาจจะต้องมีการทานมากกว่า 1 เม็ดในวันใน
00:36:18 → 00:36:21 วันที่ปวดมากนะคะหรือว่า 2 ก็คือเริ่มมี
00:36:21 → 00:36:23 ปัญหาจากยาแก้ปวดแล้วเช่นการทาน
00:36:23 → 00:36:26 พาราเซตามอลมากๆทานทุกวันติดๆกันเนี่ยก็
00:36:26 → 00:36:29 ต้องระวังเรื่องตับนะคะหรือถ้าเป็นยาแก้
00:36:29 → 00:36:32 ปวดกลุ่มอื่นเช่นกลุ่มที่ไม่ใช่เซียนลอย
00:36:32 → 00:36:34 กลุ่ม insert กลุ่มพวกแบบ I blueprofen
00:36:34 → 00:36:36 อะไรพวกเนี้ยอันนี้ก็ต้องระวังเรื่องตาย
00:36:36 → 00:36:40 นะคะเนาะเพราะฉะนั้นการที่ตอนเนี้ยตื่นมา
00:36:40 → 00:36:43 ปวดหัวแล้วทุกวันเลยเนี่ยน่าจะมีภาวะปวด
00:36:43 → 00:36:46 หัวจากยาแก้ปวดที่มากเกินไปนะคะเราลอง
00:36:46 → 00:36:52 รักษาดูนะคะน่าจะทำให้อาการดีขึ้นได้นะคะ
00:36:52 → 00:36:55 ชอบเวียนหัวแล้วก็เดินแล้วก็รู้สึกตัวลอย
00:36:55 → 00:36:58 ๆอันนี้น่าจะเป็นสาเหตุของที่เป็นเวียน
00:36:58 → 00:37:02 หัวเรื้อรังนะคะเดี๋ยวไว้จริงๆเคยเคยไลฟ์
00:37:02 → 00:37:04 เรื่องนี้ไปแล้วรอบนึงนะคะลองลองไปฟังดู
00:37:04 → 00:37:06 นะคะแล้วก็เดี๋ยวถ้ามีโอกาสก็อาจจะมาพูด
00:37:06 → 00:37:09 เรื่องเวียนหัวอีกทีนึงนะคะ
00:37:09 → 00:37:12 มึนหัวจากนั้นในหูไม่เท่ากันทานยาอยู่แต่
00:37:12 → 00:37:17 ก็ยังมึนอยู่ค่ะก็เอ่อส่วนใหญ่แล้วก็ถ้า
00:37:17 → 00:37:20 เป็นอาการมึนหัวจากนั้นในหูไม่เท่ากันนะ
00:37:20 → 00:37:24 คะส่วนใหญ่แล้วก็การรักษาอาจจะต้องนานนิด
00:37:24 → 00:37:27 นึงนะคะปกติพวกนี้เวลาเราทานยารักษา
00:37:27 → 00:37:29 เรื่องการปรับการส่งตัวเนี่ยจะใช้เวลานิด
00:37:29 → 00:37:31 นึงนะคะสิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้นะคะก็คือ
00:37:31 → 00:37:35 เรื่องของอาจจะต้องปรับเรื่องของพฤติกรรม
00:37:35 → 00:37:37 ไปด้วยนะคะอย่างเช่นเรื่องของ 1 เลย
00:37:37 → 00:37:39 เปลี่ยนท่าทางช้าๆนะคะคนที่มีปัญหาเรื่อง
00:37:39 → 00:37:41 ของเวียนหัวทรงตัวไม่อยู่อะไรเงี้ยค่ะถ้า
00:37:41 → 00:37:43 เปลี่ยนท่าทางเร็วๆอ่ะก็จะยิ่งทำให้
00:37:43 → 00:37:45 กระตุ้นอาการได้อยู่นะคะเป็นอาการมึนมาก
00:37:45 → 00:37:49 ขึ้นนะคะ 2 ดื่มน้ำให้พอนะคะวันนึงก็คือ
00:37:49 → 00:37:52 อย่างน้อยประมาณฤทธิ์ครึ่งนะคะเป็นขึ้นไป
00:37:52 → 00:37:54 เพราะว่ายิ่งขัดน้ำมันไหลก็จะยิ่งมึนหัว
00:37:54 → 00:37:58 ได้ง่ายนะคะห้ามกินของเค็มนะคะห้ามกิน
00:37:58 → 00:38:01 อาหารผงชูรสอะไรพวกนี้นะคะแล้วก็อย่านอน
00:38:01 → 00:38:04 ดึกนะคะก็ลองปรับดูก็จะช่วยให้เรื่อง
00:38:04 → 00:38:07 อาการมึนมันเหมือนเป็นการรักษาอีกทางนึง
00:38:07 → 00:38:09 นอกจากการทานยานะคะและที่สำคัญเลยก็คือ
00:38:09 → 00:38:13 เรื่องของการออกกำลังกายก็ช่วยได้นะคะ
00:38:13 → 00:38:16 ความดันสูงไซนัสอักเสบมีผลต่ออาการปวดหัว
00:38:16 → 00:38:20 ไหมคะมีได้ค่ะความดันสูงนะคะก็
00:38:20 → 00:38:22 หลายคนก็ถามบ่อยว่าที่ปวดหัวเนี่ยเป็น
00:38:22 → 00:38:25 เพราะว่าความดันหรือเปล่านะคะจริงๆแล้ว
00:38:25 → 00:38:27 ความดันก็ต้องดูว่าที่ความดันที่ทำให้ปวด
00:38:27 → 00:38:31 หัวได้จะแยกเป็น 2 กรณีนะคะอันแรกเลยนะคะ
00:38:31 → 00:38:35 ก็คือความดันที่มัน shoot เร็วๆมากๆค่ะ
00:38:35 → 00:38:38 อันนี้ทำให้ปวดหัวได้เช่นแบบสมมุติว่าคน
00:38:38 → 00:38:41 ไข้อ่ะความดันเดิมปกติความดันอยู่ 140
00:38:41 → 00:38:45 140 ทุกวันอันที่สูง 140 ทุกวันเนี่ย
00:38:45 → 00:38:48 ส่วนใหญ่ไม่ใช่สาเหตุปวดหัวแต่ถ้าเกิดแบบ
00:38:48 → 00:38:51 ความดัน 140 ความดัน 140 อ่ะค่ะแล้วอยู่
00:38:51 → 00:38:54 ดีๆวันนึงเลยแบบว่าเครียดมากหรือมีอะไรมา
00:38:54 → 00:38:57 กระตุ้นไม่สบายความดันขึ้นไปแล้ว 80 นะคะ
00:38:57 → 00:38:59 อาการเปลี่ยนแปลงความดันเร็วๆวันเนี้ยก็
00:38:59 → 00:39:02 ทำให้มีอาการปวดหัวได้นะคะเนาะแต่ถ้าเกิด
00:39:02 → 00:39:04 เป็นความดันที่แบบเป็นประจำอยู่ทุกวัน
00:39:04 → 00:39:06 อยู่แล้วทานมันทุกวันอยู่แล้วเนี่ยส่วน
00:39:06 → 00:39:08 ใหญ่อันนี้ไม่ค่อยเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวด
00:39:08 → 00:39:11 หัวเท่าไหร่นะคะเนาะหรืออีกอันนึงก็ต้อง
00:39:11 → 00:39:14 ระวังว่าเป็นความดันสูงแล้วไปกระตุ้นโรค
00:39:14 → 00:39:16 ที่เราเป็นโรคปวดหัวอยู่เดิมอยู่แล้วเช่น
00:39:16 → 00:39:19 บางคนมีเส้นเลือดโป่งพองนะคะอาจจะไม่ได้
00:39:19 → 00:39:21 มีอาการปวดหัวอะไรเลยแต่พอวันนึงที่แบบ
00:39:21 → 00:39:25 ความดันสูงขึ้นมานะคะก็ทำให้มีอาการปวด
00:39:25 → 00:39:27 หัวได้เหมือนกันนะคะ
00:39:27 → 00:39:30 หรือไซนัสอักเสบเงี้ยค่ะบริเวณไซนัสก็คือ
00:39:30 → 00:39:33 ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดหัว
00:39:33 → 00:39:36 เรื้อรังที่เจอได้บ่อยเหมือนกันนะคะคือคน
00:39:36 → 00:39:38 ไข้ถ้ามีอาการของไซนัสเริ่มด้วยเช่นมี
00:39:38 → 00:39:43 เสียงเปลี่ยนมีจมูกตันมีเจ็บโพรงไซนัสนะ
00:39:43 → 00:39:46 คะซึ่งโพรงไซนัสมันก็จะอยู่ตรงนี้นะคะตรง
00:39:46 → 00:39:50 นี้นะคะซึ่งตำแหน่งของตรงนี้พอมันมีการ
00:39:50 → 00:39:53 อักเสบนะคะบางทีมันก็จะไปกระตุ้นนะคะพวก
00:39:53 → 00:39:55 ทำให้เกิดแรงดันในโพรงไซนัสที่มากขึ้น
00:39:55 → 00:39:56 หรือว่ากระตุ้นเส้นประสาทแล้วทำไมเรารู้
00:39:56 → 00:39:59 สึกปวดตึงบริเวณศีรษะได้เหมือนกันจะทำให้
00:39:59 → 00:40:01 คนไข้มาด้วยเหมือนปวดหัวได้นะคะเหมือนคน
00:40:01 → 00:40:04 ไข้ปวดฟันปวดกรามอย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็
00:40:04 → 00:40:07 คือสามารถร้าวขึ้นขนาดก็จะทำให้ปวดหัวได้
00:40:07 → 00:40:09 เหมือนกันนะคะ
00:40:09 → 00:40:12 รบกวนสอบถามคุณหมอเรื่องความดันในสมอง
00:40:12 → 00:40:15 เกิดจากอะไรหรอคะแล้วถ้าจะให้ลดต้องทำยัง
00:40:15 → 00:40:18 ไงคือตอนนี้ลูกเป็นค่ะหมอเจาะน้ำไขสัน
00:40:18 → 00:40:21 หลังเพื่อลดเพื่อมีปัญหากับประสาทตาบวม
00:40:21 → 00:40:27 อืมโอเคก็คือสมองของเราอ่ะค่ะมันก็
00:40:27 → 00:40:31 เป็นอวัยวะที่ที่เหมือนอวัยวะอื่นๆนะคะ
00:40:31 → 00:40:33 ที่ก็คือต้องมีเลือดเลือดเลือดเลือดเลือด
00:40:33 → 00:40:36 แดงไปเลี้ยงแล้วก็เลือดดำเพื่อ
00:40:36 → 00:40:40 เรนเลือดกลับหัวใจนะคะเปรียบง่ายๆเนอะ
00:40:40 → 00:40:44 เหมือนเหมือนท่อน้ำอ่ะค่ะก๊อกน้ำน้ำดี
00:40:44 → 00:40:47 เปิดน้ำออกมาเนี่ยคือเพื่อให้เราใช้งานนะ
00:40:47 → 00:40:49 คะท่อพอใช้งานเสร็จเนี่ยท่อมันก็ต้องลง
00:40:49 → 00:40:52 ท่อกลับไปนะคะหลอดเลือดดำเนี่ยก็เหมือน
00:40:52 → 00:40:55 ท่อที่ระบายถ้าเกิดมันอุดตันอะไรอย่าง
00:40:55 → 00:41:00 เงี้ยค่ะก็จะทำให้น้ำล้นน้ำท่วมนะคะนี่
00:41:00 → 00:41:03 ถามว่าแรงดันในสมองเนี่ยเอ่อคือคนในสมอง
00:41:03 → 00:41:07 ของเราเนี่ยมันก็มีการสร้างมีการการเอา
00:41:07 → 00:41:10 เลือดไปเลี้ยงไหลเรียนเลือดกำกับนะคะแล้ว
00:41:10 → 00:41:13 ก็มีการสร้างน้ำใส่ในสมองทุกๆวันอยู่แล้ว
00:41:13 → 00:41:16 นะคะเป็นปกติที่จะต้องเหมือนเอาไปเลี้ยง
00:41:16 → 00:41:19 สมองของเรานะคะน้ำในโพรงสมองเองก็จะต้อง
00:41:19 → 00:41:23 แบบไหลเวียนออกจากตัวโพลงออกมาถ้าอะไรที่
00:41:23 → 00:41:26 มันอุดตันอยู่เนี่ยมันก็จะทำให้แรงดันมัน
00:41:26 → 00:41:29 เยอะเยอะขึ้นหรืออย่างการมีก้อนมีเนื้อ
00:41:29 → 00:41:33 งอกไปโตไปกดก็จะทำให้แรงดันมันเยอะขึ้นนะ
00:41:33 → 00:41:38 คะหรือบางทีมีอะไรไปอุดท่อที่ทำให้ท่อมัน
00:41:38 → 00:41:42 ตามหรือไปกั้นทางเดินแรงดันในสมองก็เยอะ
00:41:42 → 00:41:45 ขึ้นนะคะงั้นสาเหตุเนี่ยมันเจอได้เยอะมาก
00:41:45 → 00:41:48 ๆนะคะว่าเป็นโรคอะไรนะคะเป็นก้อนหรือ
00:41:48 → 00:41:50 เปล่านะคะหรือเป็นการอักเสบเป็นการติด
00:41:50 → 00:41:53 เชื้อส่วนใหญ่ก็จะทำให้ในโพรงสมองในความ
00:41:53 → 00:41:56 ดันในโพรงสมองสูงขึ้นได้หมดเลยนะคะแต่ถ้า
00:41:56 → 00:41:59 เท่าที่เท่าที่เล่าให้ฟังอ่ะค่ะอาจจะเป็น
00:41:59 → 00:42:02 กลุ่มที่เราเรียกว่ากลุ่มไม่ทราบสาเหตุก็
00:42:02 → 00:42:05 คือมีแรงดันในโพรงสมองอ่ะมันเยอะขึ้นเอง
00:42:05 → 00:42:08 จากที่เราตรวจทุกอย่างก็แล้วเจอไม่มีก้อน
00:42:09 → 00:42:12 ติดเชื้อไม่มีนะคะเอ่อหลอดเลือดดำไม่ได้
00:42:12 → 00:42:14 ตันหรืออะไรซึ่งวิธีนี้มันเหมือนอาจจะ
00:42:14 → 00:42:18 เกิดมาจากเอ่ออาจจะเกิดมาเป็นเป็นโรคที่
00:42:18 → 00:42:20 เกิดมาจากตั้งแต่แบบอ่าตอนกำเนิดหรือว่า
00:42:20 → 00:42:23 เป็นโรคพันธุกรรมหรืออะไรบางอย่างที่สุด
00:42:23 → 00:42:26 ท้ายคือพอมันเหมือนแรงดันมันเยอะขึ้นมัน
00:42:26 → 00:42:29 ทำอะไรไม่ไม่ได้ก็ต้องเปิดระบายท่อออกมา
00:42:29 → 00:42:32 เพื่อให้แรงดันมันลดลงนะคะเนาะแต่ว่าหมอ
00:42:32 → 00:42:34 อาจจะไม่ได้ทราบรายละเอียดของเรื่องของ
00:42:34 → 00:42:37 การวินิจฉัยว่าน้องเป็นอะไรนะคะแต่ว่าการ
00:42:37 → 00:42:40 รักษาโดยการที่เจาะเอาน้ำออกมาเนี่ยก็คือ
00:42:40 → 00:42:43 เหมือนที่คุณแม่ทราบก็คือสามารถเพื่อนลด
00:42:43 → 00:42:45 ลดแรงดันในสมองที่มันจะไปกดกับอันอื่นไม่
00:42:45 → 00:42:48 งั้นเนี่ยถ้าแรงดันเยอะมากๆมันก็ไปกดพวก
00:42:48 → 00:42:50 เส้นประสาทนะคะที่สำคัญก็คืออย่างเรื่อง
00:42:50 → 00:42:53 ของเส้นประสาทตาก็ทำให้ตามองไม่เห็นได้นะ
00:42:53 → 00:42:57 คะเนาะก็ตรงนี้ก็อาจจะต้องดูสาเหตุอีกที
00:42:57 → 00:42:59 นึงว่าเป็นสัตว์อะไรแล้วจะต้องแบบรักษา
00:42:59 → 00:43:01 นานแค่ไหนแต่ส่วนใหญ่ก็คือถ้าเกิดเป็น
00:43:01 → 00:43:04 กลุ่มที่แบบเราเจอสาเหตุเช่นเจอก้อนอะไร
00:43:04 → 00:43:06 เงี้ยค่ะเราก็จะไปอ่ารักษาที่ต้นเหตุเช่น
00:43:06 → 00:43:08 ไปเอาก้อนออกอย่างเงี้ยค่ะแต่ถ้าเป็น
00:43:08 → 00:43:11 กลุ่มที่ตรวจอะไรแล้วก็ไม่เจอจริงๆก็อาจ
00:43:11 → 00:43:15 จะต้องใช้การระบายแรงดันออกมานะคะ
00:43:15 → 00:43:18 การใช้ยาฉีดป้องกันไมเกรนควรฉีดกลิ่นเข็ม
00:43:18 → 00:43:21 ค่ะและฉีดมากสุดกี่เข็มคะการใช้ยาฉีดป้อง
00:43:21 → 00:43:24 กันไมเกรนนะคะจริงๆก็คือแนะนำเนี่ยอย่าง
00:43:24 → 00:43:26 น้อยเนี่ยคือที่เขาทำงานวิจัยในคนไข้
00:43:26 → 00:43:30 ไมเกรนที่ต้องใช้ยาฉีดตัวบล็อค cgrp และ
00:43:30 → 00:43:34 นะคะอย่างน้อยก็ต้องใช้ประมาณ 3 เดือนนะ
00:43:34 → 00:43:37 คะเขาถึงจะวัดผลนะคะว่าฉีดไปเดือนที่ 1
00:43:37 → 00:43:39 ฉีดไปเดือนที่ 1 แล้วคนไข้ยังไม่หายปวด
00:43:39 → 00:43:41 ไม่ได้บอกว่าไม่ได้ผลเนาะก็ต้องฉีดไป
00:43:41 → 00:43:43 เดือนที่ 1 เดือนที่ 2 เดือนที่ 3 เดือน
00:43:43 → 00:43:45 ที่ 3 เนี่ยเราก็จะวัดผลกันนะคะว่าคนไข้
00:43:45 → 00:43:47 เนี่ยดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์นะคะซึ่งส่วน
00:43:47 → 00:43:51 ใหญ่ตามประสบการณ์ที่ฉีดมานะคะหรือรักษา
00:43:51 → 00:43:53 คนไข้มาจริงๆอาการไม่ต้องรอถึง 3 เดือน
00:43:53 → 00:43:56 คืออาการน่ะดีขึ้นตั้งแต่เข็มแรกแล้วแหละ
00:43:56 → 00:43:58 นะคะคือแค่ขอให้ได้ยาป้องกันเข้าไปเนี่ย
00:43:58 → 00:44:01 ส่วนใหญ่อาการปวดไมเกรนมักจะดีขึ้นได้นะ
00:44:01 → 00:44:04 คะร่วมกับเราก็ใช้วิธีการรักษาอื่นๆด้วย
00:44:04 → 00:44:07 เนาะเช่นถ้านอนดึกปรับการนอนปรับการใช้
00:44:07 → 00:44:10 ชีวิตอะไรก็ว่ากันไปนะคะทีนี้ถามว่าต้อง
00:44:10 → 00:44:13 ฉีดนานแค่ไหนนะคะจริงๆหลักการการรักษา
00:44:13 → 00:44:16 ไมเกรนนะคะก็คือเราต้องคุมอาการให้ได้
00:44:16 → 00:44:18 อย่างน้อยประมาณ 6 เดือนนะคะหรือว่า 6-12
00:44:18 → 00:44:21 เดือนเพื่อลดความไวของสมองต่อตัวกระตุ้น
00:44:21 → 00:44:24 ของไมเกรนนะคะเพราะฉะนั้นเวลาฉีดนานแค่
00:44:24 → 00:44:27 ไหนนะคะถ้าเลือกโดยการรักษาโดยการใช้ยา
00:44:27 → 00:44:29 ฉีดเพียงอย่างเดียวเนาะก็ต้องคุมอาการให้
00:44:29 → 00:44:32 ได้อย่างน้อยประมาณสัก 6 เดือนนะคะแต่ก็
00:44:32 → 00:44:35 จะมีบางเควสที่เป็นมานานมากๆเหมือนเป็นมา
00:44:35 → 00:44:38 เป็น 10 ปีหรือว่ากินยาแก้ปวดเยอะมากทาน
00:44:38 → 00:44:41 ยาแก้ปวดทุกวันกลุ่มนี้บางทีหกเดือนนะคะ
00:44:41 → 00:44:43 อาจจะยังไม่สามารถคุมอาการคนไข้ได้ก็อาจ
00:44:43 → 00:44:47 จะต้องฉีดต่อไปหรือเลือกใช้วิธีการรักษา
00:44:47 → 00:44:50 ร่วมอื่นๆไปด้วยเช่นบางคนเนี่ยมียากิน
00:44:50 → 00:44:52 อยู่แล้วด้วยนะคะแล้วก็ใช้ยาฉีดเป็นยา
00:44:52 → 00:44:54 เสริมนะคะหรือ
00:44:54 → 00:44:58 ตอนที่คุมอาการเชียร์ฉีดมาและเริ่มดีขึ้น
00:44:58 → 00:45:00 ปรับลดเป็นยากินอะไรอย่างเงี้ยอะไรก็ได้
00:45:00 → 00:45:03 ใช้วิธีไหนก็ได้แต่ต้องคุมอาการไมเกรนให้
00:45:03 → 00:45:06 ได้อย่างน้อยประมาณ 6 เดือนนะคะหรือ 6-12
00:45:06 → 00:45:08 เดือนเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกินของเราจะ
00:45:08 → 00:45:11 ไม่กลับมากำเริบอีกก็ค่อยๆหยุดการรักษา
00:45:11 → 00:45:14 อีกทีนึงนะคะถามว่าฉีดได้มากสุดกี่เข็มนะ
00:45:14 → 00:45:15 คะ
00:45:15 → 00:45:19 เอ่อจริงๆตามที่ตอนนี้นะคะที่มีในงาน
00:45:19 → 00:45:21 วิจัยหรือว่าที่แบบเขาประกาศออกมาเนี่ยก็
00:45:21 → 00:45:24 มีคนที่ฉีดไปได้จนถึงประมาณ 18 เดือนเลย
00:45:24 → 00:45:28 นะคะเนาะก็ยังมีความปลอดภัยนะคะแต่ว่า
00:45:28 → 00:45:30 เท่าที่รักษาคนไข้มาค่ะส่วนใหญ่ก็คือ
00:45:30 → 00:45:33 ประมาณ 1 ปีเนี่ยก็ค่อนข้างคุมอาการกัน
00:45:33 → 00:45:37 ได้เยอะแบบเกือบทั้งหมดแล้วนะคะเนาะ
00:45:37 → 00:45:41 กินยาแก้ปวดไมเกรนแล้วกัดกระเพาะตอนนี้ก็
00:45:41 → 00:45:44 เลยให้เป็นพาราแทนแล้วค่ะก็คือยากลุ่มแก้
00:45:44 → 00:45:46 ปวดนะคะเดี๋ยวลองฟังคลิปยาแก้ปวดอีกทีนึง
00:45:46 → 00:45:50 ก็ได้นะคะคือพอกลุ่มยาแก้ปวดส่วนใหญ่มัน
00:45:50 → 00:45:52 จะไปตกอยู่ในยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
00:45:52 → 00:45:57 นะคะก็คือพวกไอบูโพรเฟนหน้าฟอกเส้น
00:45:57 → 00:46:00 ไดโคลฟีแนคอะไรก็แล้วแต่ที่คือส่วนใหญ่
00:46:00 → 00:46:02 เวลาเราปวดหัวหรือปวดข้อปวดเข่าปวดอะไร
00:46:02 → 00:46:05 เนี่ยได้ยามาเราจะได้ยากลุ่มนี้แทบทั้ง
00:46:05 → 00:46:07 หมดเลยกลุ่มนี้ข้อเสียหลักคือกัดกระเพาะ
00:46:07 → 00:46:10 นะคะกับเรื่องไตนะคะเพราะฉะนั้นพอแบบมี
00:46:10 → 00:46:12 ปัญหาเรื่องก็พอแล้วก็จะแทบใช้ยากลุ่มนี้
00:46:12 → 00:46:15 ไม่ได้เลยเนี่ยคลีนเนี้ยคนไข้ไมเกรนถ้า
00:46:15 → 00:46:18 เป็นไมเกรนจริงๆนะคะพอลดไปเหลือแค่พารา
00:46:18 → 00:46:21 มักจะคุมอาการไม่ค่อยอยู่นะคะเพราะว่า
00:46:21 → 00:46:23 อาการปวดไมเกรนเป็นอาการปวดที่ค่อนข้าง
00:46:23 → 00:46:26 แบบเป็นรุนแรงระดับนึงเลยเพราะฉะนั้นแค่
00:46:26 → 00:46:29 ยาพาราเซตามอลเนี่ยบางทีมันอาจจะคุมอาการ
00:46:29 → 00:46:32 ไม่ได้นะคะหรือต่อให้ได้เนี่ยส่วนใหญ่มัก
00:46:32 → 00:46:35 จะต้องใช้อ่าขนาดค่อนข้างเยอะนะคะหรือทาน
00:46:35 → 00:46:38 ต่อก็จะมีความเสี่ยงของการใช้เวลาเกิน
00:46:38 → 00:46:41 ขนาดอีกงั้นถ้าเกิดมีอาการปวดไมเกรนขึ้น
00:46:41 → 00:46:42 มาจริงๆอาจจะต้องใช้ในกลุ่มที่มันเป็น
00:46:42 → 00:46:45 กลุ่มแก้ปวดไมเกรนที่กัดกระเพาะน้อยลงนะ
00:46:45 → 00:46:49 คะเช่นกลุ่มพวกกลุ่มที่เป็นกลุ่มผดทำให้
00:46:49 → 00:46:52 หลอดเลือดหดตัวนะคะพวกกลุ่มเออกอดกลุ่ม
00:46:52 → 00:46:54 ทริปแทนอะไรต่างๆพวกนี้ก็จะไม่ค่อยกัด
00:46:54 → 00:46:57 กระเพาะมากเท่าไหร่นะคะแต่ว่าก็ลองปรึกษา
00:46:57 → 00:47:00 กับคุณหมอที่รักษาอยู่นะคะว่าถ้าเกิด
00:47:00 → 00:47:02 อาการพาราเซตถ้าพาราเซตามอลมันไม่สามารถ
00:47:02 → 00:47:04 คุมอาการได้ก็อาจจะต้องเลี่ยงไปใช้ตัว
00:47:04 → 00:47:08 อื่นๆหรือเปล่าหรือถ้าเกิดมีปัญหาจากยา
00:47:08 → 00:47:10 แก้ปวดละก็เป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้ที่เราจะ
00:47:10 → 00:47:13 ต้องรักษาไมเกรนด้วยยาป้องกันแทนนะคะ
00:47:13 → 00:47:16 เพื่อทำให้ยังไงก็ได้ให้ไมเกรนกำเริบน้อย
00:47:16 → 00:47:18 ที่สุดเราจะได้ใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุด
00:47:18 → 00:47:22 นะคะ
00:47:22 → 00:47:28 ปวดหัวปลายมือเท้าชาเกิดจากอาการอะไรอัน
00:47:28 → 00:47:31 นี้เอ่ออันนี้อาจจะตอบให้ไม่ได้นะคะเพราะ
00:47:31 → 00:47:33 ว่าแบบเรื่องปวดหัวหรือว่าเรื่องปลายมือ
00:47:33 → 00:47:35 ปลายเท้าชาอันนี้เป็นแบบสาเหตุเยอะมากเลย
00:47:35 → 00:47:38 นะคะอาจจะต้องอาศัยการซักประวัติหรือว่า
00:47:38 → 00:47:42 การตรวจร่างกายอะไรอีกทีนึงนะคะน้องสามี
00:47:42 → 00:47:44 มีอาการปวดหัวไมเกรนเป็นมาเรื่อยๆ 5-6 ปี
00:47:44 → 00:47:47 มีอาการเดือนละครั้งถึง 2 ครั้งทานยา
00:47:47 → 00:47:50 คาเฟอดแล้วหายตลอดเลยอยากถามคุณหมอว่ากิน
00:47:50 → 00:47:52 ยาตัวนี้ไปมานานเป็นอะไรไหมคะหรือว่า
00:47:52 → 00:47:56 เปลี่ยนยาเป็นตัวอื่นที่ดีกว่านี้ไหมคะ
00:47:56 → 00:48:02 ถ้าเป็นตอนนี้เป็นมา 5-6 ปีกินยาเดือนละ
00:48:02 → 00:48:04 ครั้งสองครั้งยังถือว่าเป็นกลุ่มไมเกรน
00:48:04 → 00:48:06 ที่นานๆทีเป็นทียังไม่ได้เป็นไมเกรน
00:48:06 → 00:48:09 เรื้อรังนะคะการรักษาของกลุ่มนี้ก็ยัง
00:48:09 → 00:48:12 สามารถใช้ยาแก้ปวดมาบรรเทาอาการตามอาการ
00:48:12 → 00:48:15 ได้นะคะแล้วก็อาจจะพยายามสังเกตตัว
00:48:15 → 00:48:17 กระตุ้นนะคะว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นแล้วเรา
00:48:18 → 00:48:19 ก็เลื่อนตัวกระตุ้นนั้นๆก็จะได้ไม่ปวดหัว
00:48:19 → 00:48:22 บ่อยจะได้ใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุดนะคะ
00:48:22 → 00:48:25 สำหรับกลุ่มก่อนนะคะก็คืออยู่ในกลุ่มเออ
00:48:25 → 00:48:28 ก่อนนะคะเออกับทะเบียนเนาะกลุ่มนี้นะคะก็
00:48:28 → 00:48:31 เป็นยารักษาไมเกรนได้ที่ค่อนข้างได้ค่อน
00:48:31 → 00:48:33 ข้างดีเลยนะคะลดอาการปวดได้ค่อนข้างเร็ว
00:48:33 → 00:48:36 นะคะข้อเสียหลักๆของกลุ่มนี้เลยก็คือทำ
00:48:36 → 00:48:39 ให้หลอดเลือดเนี่ยหดตัวนะคะเอ่อที่เนี้ย
00:48:39 → 00:48:43 มันเป็นยากลุ่มค่อนข้างที่มันไม่ได้ออก
00:48:43 → 00:48:46 ฤทธิ์จำเพาะกับอาการไมเกรนเท่านั้นก็คือ
00:48:46 → 00:48:48 นอกจากจะแบบไมเกรนหลอดเลือดไมเกรนหดตัว
00:48:48 → 00:48:50 แล้วเนี่ยมันก็ไปออกฤทธิ์หลอดเลือดส่วน
00:48:50 → 00:48:54 อื่นหดตัวด้วยที่แบบถ้าเป็นคนที่ที่เคย
00:48:54 → 00:48:57 เป็นข่าวหรือว่าแบบคนรู้จักหรือว่าบางที
00:48:57 → 00:48:59 บางยี่ห้อก็จะเขียนหน้ากล่องว่าการทานยา
00:48:59 → 00:49:02 นี้นานๆหรือว่าไปทานยาร่วมกับยาอื่นนะคะ
00:49:02 → 00:49:04 เช่นยาต้านไวรัสหรืออะไรอย่างนี้ให้
00:49:04 → 00:49:08 ระหว่างเรื่องเรียกเลือดไม่ไปเลี้ยงมือ
00:49:08 → 00:49:11 ปลายมือปลายเท้าก็คือแบบมีอาการเหมือน
00:49:11 → 00:49:16 นิ้วดำเท้าดำนะคะซึ่งก็บางทีอาจจะต้องแบบ
00:49:16 → 00:49:19 บางคนถ้าเป็นเยอะมากๆเงี้ยค่ะก็จะมีแบบ
00:49:19 → 00:49:21 อาจจะต้องแบบตัดนิ้วหรืออะไรอย่างนี้นะคะ
00:49:21 → 00:49:24 ซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยเอ่อตั้งแต่ที่ตรวจคน
00:49:24 → 00:49:29 ไข้มานะคะคืออ่ามีความเสี่ยงที่จะถึงขั้น
00:49:29 → 00:49:31 หลอดเลือดอุดตันแล้วไปถึงขั้นตัดแนวหน้า
00:49:31 → 00:49:33 ค่อนข้างน้อยคนไข้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการมา
00:49:33 → 00:49:36 ก่อนเช่นแบบกินยาแล้วรู้สึกเริ่มมือชาและ
00:49:36 → 00:49:38 นะคะแบบเหมือนเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายได้
00:49:38 → 00:49:40 ไม่ดีอะไรเงี้ยถ้ามีอาการเตือนเราเนี่ย
00:49:40 → 00:49:42 ค่ะก็อาจจะต้องระวังกับการใช้ยากลุ่มนี้
00:49:42 → 00:49:45 มากขึ้นนะคะแล้วก็อีกเรื่องนึงนะคะก็คือ
00:49:45 → 00:49:47 นอกจากหลอดเลือดปลายมือปลายเท้าก็จะเป็น
00:49:47 → 00:49:50 หลอดเลือดหัวใจนะคะงั้นถ้าเกิดแบบตอนที่
00:49:50 → 00:49:53 เราทานอายุน้อยๆแบบ 30 40 ก็จะยังไม่
00:49:53 → 00:49:56 ค่อยกลัวมากแต่พออายุเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
00:49:56 → 00:49:59 อ่ะค่ะถ้าเกิดทานแล้วมีแน่นหน้าอกนะคะอัน
00:49:59 → 00:50:01 นี้ก็ต้องระวังว่ามันอาจจะทำให้หลอดเลือด
00:50:01 → 00:50:04 หัวใจเหมือนเกิดการหดตัวชั่วคราวด้วยนะคะ
00:50:04 → 00:50:06 อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องของโรคหัวใจเพิ่ม
00:50:06 → 00:50:09 มากขึ้นนะคะแล้วส่วนใหญ่พวกนี้ค่ะก็จะ
00:50:09 → 00:50:12 ต้องแบบทานปริมาณค่อนข้างเยอะถ้ายังทาน
00:50:12 → 00:50:15 แบบนิดๆหน่อยๆเดือนละครั้งสองครั้งแล้ว
00:50:15 → 00:50:17 ไม่มีอาการอย่างที่กล่าวมาไม่มีแน่นหน้า
00:50:17 → 00:50:19 อกไม่มีมือชาก็ยังพอใช้ได้แต่ถ้าเกิด
00:50:19 → 00:50:22 เริ่มปวดบ่อยมากขึ้นนะคะเริ่มใช้เป็น
00:50:22 → 00:50:25 เดือนละ 4 เม็ด 5 เม็ดนะอันนี้อาจจะต้อง
00:50:25 → 00:50:28 ไปรักษาที่ต้องการไมเกรนแทนจะได้ไม่ต้อง
00:50:28 → 00:50:30 มาเสี่ยงกับการใช้ยาแก้ปวดเรื่อยๆนะคะ
00:50:30 → 00:50:33 เนาะหรือถ้าเกิดจะลดความเสี่ยงของเรื่อง
00:50:33 → 00:50:36 หลอดเลือดพวกหลอดเลือดหดตัวให้มันน้อยลง
00:50:36 → 00:50:39 เราอาจจะเลือกไปใช้ยากลุ่มใหม่มากขึ้นนะ
00:50:39 → 00:50:41 คะอย่างกลุ่มเออก่อนเนี่ยเราจะเรียกว่า
00:50:41 → 00:50:43 เป็นกลุ่มเก่านะคะถ้าเลือกไปใช้ยากลุ่ม
00:50:43 → 00:50:45 ใหม่มากขึ้นอย่างเช่นกลุ่มทริปแทนนะคะ
00:50:45 → 00:50:49 เช่น errarum แทนนะคะถามว่ายังมีผลกับ
00:50:49 → 00:50:51 หลอดเลือดไหมก็ยังมีนะคะแต่ว่าอาจจะน้อย
00:50:51 → 00:50:54 กว่าแล้วก็เวลาเราหยุดยาไปแล้วเช่นสมมุติ
00:50:54 → 00:50:56 ว่ามันมีผลกับหลอดเลือดมาจริงๆเกิดอาการ
00:50:56 → 00:50:58 ขึ้นมาแล้วจริงๆอย่างถ้าเออก่อนหยุดเนี่ย
00:50:58 → 00:51:01 บางทีลิสต์มันยังอยู่ยาวนะคะอยู่ไปหลาย
00:51:01 → 00:51:02 วันแต่ว่าถ้าเป็นกลุ่มใหม่เนี่ยหยุดปุ๊บ
00:51:02 → 00:51:04 เนี่ยไม่กี่ชั่วโมงมันก็หมดฤทธิ์อะไร
00:51:04 → 00:51:08 ประมาณนี้นะคะก็ลองดูนะคะ
00:51:08 → 00:51:11 ปวดหัวข้างซ้ายและปวดตึงคอบ่าไหล่นะคะอัน
00:51:12 → 00:51:15 นี้ก็เป็นอาการที่เจอบ่อยมากๆเจอร่วมกัน
00:51:15 → 00:51:17 แล้วก็เป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่ก็ทำให้คนเป็น
00:51:18 → 00:51:21 เรื้อรังนะคะก็คือ 1 ก็คือเป็นปวดตึง
00:51:21 → 00:51:23 กล้ามเนื้อนะคะกล้ามเนื้อตึงมากๆเกิดเป็น
00:51:23 → 00:51:25 ปมกล้ามเนื้อเกิดเป็นพริกก็พอขึ้นมาก็
00:51:25 → 00:51:29 ร้าวขึ้นมาปวดศีรษะได้นะคะหรือปวดศีรษะ
00:51:29 → 00:51:32 เองเช่นเป็นไมเกรนนะคะพอเป็นไมเกรนช่วง
00:51:32 → 00:51:34 ที่ไมเกรนกำเริบนอกจากจะปวดหัวแล้วเนี่ย
00:51:34 → 00:51:38 มันจะยังหลั่งสารความปวดหรือสารบางอย่าง
00:51:38 → 00:51:40 เนี่ยที่ทำให้เรารู้สึกตึงกล้ามเนื้อมาก
00:51:40 → 00:51:43 ขึ้นด้วยนะคะกลุ่มไมเกรนกับกลุ่ม
00:51:43 → 00:51:45 ออฟฟิศซินโดรมก็เลยชอบเจอร่วมกันนะคะ
00:51:45 → 00:51:47 เพราะฉะนั้นคนไข้ที่มีปัญหาทั้งปวดหัวปวด
00:51:47 → 00:51:49 ไหล่ปวดอย่างเงี้ยส่วนใหญ่ก็ต้องรักษา
00:51:49 → 00:51:52 ร่วมกันไปนะคะบางคนเป็นไมเกรนปวดไหล่ด้วย
00:51:52 → 00:51:54 แต่ว่ารักษาแค่เหมือนปวดกล้ามเนื้ออย่าง
00:51:54 → 00:51:57 เดียวในเกณฑ์ไม่หายพอไมเกรนไม่หายเอา
00:51:57 → 00:51:59 ไมเกรนกำเริ่มใหม่ปวดตึงใหม่อีกละนะคะ
00:51:59 → 00:52:02 หรือบางคนเป็นไมเกรนแต่คอตึงมากอ่าหมอให้
00:52:02 → 00:52:04 ยารักษาไมเกรนไปแต่ถ้าเกิดกล้ามเนื้อคอ
00:52:04 → 00:52:06 ตึงมากเนี่ยไอ้ตัวเนี้ยก็ยังมากระตุ้น
00:52:06 → 00:52:08 ไมเกรนได้อยู่เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ก็ต้อง
00:52:08 → 00:52:11 รักษาควบคู่กันไปนะคะถ้าอาการยังเป็นไม่
00:52:11 → 00:52:13 เยอะนะคะลองเริ่มจากง่ายๆก็คือยืดกล้าม
00:52:13 → 00:52:15 เนื้อเนี่ยแหละค่ะถ้าเรารู้สึกว่าคอมัน
00:52:15 → 00:52:18 ตึงมากแล้วเราปวดหัวนะคะก็ลองยืดยืดกล้าม
00:52:18 → 00:52:21 เนื้อนะคะส่วนใหญ่พอเรายืดกล้ามเนื้อออก
00:52:21 → 00:52:24 กำลังกายนะคะนอนไม่พอนะคะพยายามจัดการ
00:52:24 → 00:52:26 ความเครียดไม่ให้มันเยอะเกินไปเนี่ยบางที
00:52:26 → 00:52:28 ก็อาการปวดหัวอาการตื่นกล้ามเนื้อก็ดี
00:52:28 → 00:52:30 ขึ้นได้นะคะ
00:52:30 → 00:52:33 มือชาจะเป็นตอนนอนบ่อยๆค่ะเกี่ยวกับ
00:52:33 → 00:52:36 เรื่องเส้นเลือดในสมองไหมคะส่วนใหญ่ถ้า
00:52:36 → 00:52:39 เป็นอาการชาตอนนอนหรือสัมพันธ์กับท่านนอน
00:52:39 → 00:52:41 นะคะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อ
00:52:41 → 00:52:43 กับเส้นประสาทบ้างกว่านะคะลองสังเกตอาการ
00:52:43 → 00:52:46 ตัวเองดูบางทีถนัดนอนตะแคงหรือว่านอนท่า
00:52:46 → 00:52:48 ใดท่าหนึ่งแล้วเราเหมือนเผลอไปนอนทับเส้น
00:52:48 → 00:52:51 ประสาทก็จะทำให้เหมือนมีอาการมือชาได้นะ
00:52:51 → 00:52:53 คะถ้าเป็นจากในเส้นเลือดสมองเนี่ยส่วน
00:52:53 → 00:52:54 ใหญ่ไม่ได้สัมพันธ์กับการนอนหรือว่าเป็น
00:52:54 → 00:52:57 ท่านอนนะคะแล้วก็อาการเส้นเลือดสมองตีบ
00:52:57 → 00:52:59 เฉียบพลันคำว่าเฉียบพลันก็คือเกิดขึ้นทัน
00:52:59 → 00:53:01 ทีทันใดเพราะฉะนั้นเวลาอาการเกิดขึ้นมา
00:53:01 → 00:53:04 แล้วเนี่ยมันก็จะเกิดอาการชาแบบปุ๊บอยู่
00:53:04 → 00:53:06 ดีๆทำอะไรอยู่แล้วก็แบบชาชาไปเลยชาชา
00:53:06 → 00:53:10 ครึ่งซีกทาหน้าทาแขนชาหน้าชาแขนขาอะไร
00:53:10 → 00:53:12 อย่างนี้ค่ะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบครึ่งซีก
00:53:12 → 00:53:14 ไปเลยนะคะหรืออย่างน้อยก็จะต้องเป็นแบบ
00:53:14 → 00:53:17 บริเวณครึ่งหนึ่งของร่างกายนะคะแล้วก็
00:53:17 → 00:53:20 อาการมันก็จะเป็นแบบเกิดขึ้นมาเฉียบพลัน
00:53:20 → 00:53:24 นะคะถ้าเกิดเลือดไปเลี้ยงสมองทันก็อาจจะ
00:53:24 → 00:53:26 เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วหายไปนะคะแบบแป๊บ
00:53:26 → 00:53:29 เดียวแต่ถ้าเกิดแบบเป็นแล้วมีอาการหลอด
00:53:29 → 00:53:31 เลือดสมองตีบไปเลยอันนั้นคนไข้ก็จะชาแบบ
00:53:31 → 00:53:33 มีถาวรไปเลยเพราะฉะนั้นมันก็จะไม่
00:53:33 → 00:53:35 สัมพันธ์กับการนอนหรือว่าสัมพันธ์กับท่า
00:53:35 → 00:53:38 ทางนะคะถ้าเป็นจากการนอนเป็นท่าทางส่วน
00:53:38 → 00:53:41 ไอ้พวกเนี้ยบางทีเกิดจากบางทีเราไปนอนทับ
00:53:41 → 00:53:45 แขนหรือว่าเอ่อนอนทับท่าใดท่านึงนานเกิน
00:53:45 → 00:53:49 ไปก็ทำให้เกิดอาการชาขึ้นมามากกว่านะคะ
00:53:49 → 00:53:53 ไอระคายคอบ่อยๆมีผลต่อเส้นเลือดในสมองไหม
00:53:53 → 00:53:58 คะจริงๆอาการไอไม่ได้มีผลกับเรื่องเส้น
00:53:58 → 00:54:01 เลือดในสมองอะไรนะคะแต่ว่าคนที่เป็นปวด
00:54:01 → 00:54:04 หัวอยู่แล้วหรือว่าคนที่มีโรคสมองอยู่
00:54:04 → 00:54:08 แล้วเช่นแบบคนที่มีสมมุตินะคะมีก้อนเนื้อ
00:54:08 → 00:54:10 งอกหรือมีเส้นเลือดที่มันผิดปกติเนี่ยการ
00:54:10 → 00:54:13 ไอเนี่ยมันจะไปทำให้แรงดันน่ะมันเยอะขึ้น
00:54:13 → 00:54:16 ก็จะทำให้ปวดหัวมากขึ้นนะคะแต่ถ้าแบบไม่
00:54:16 → 00:54:18 ได้เป็นปวดหัวหรือไม่ได้เป็นโรคอะไรกันไอ
00:54:18 → 00:54:21 ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคสมองอะไรนะคะ
00:54:21 → 00:54:25 คนไข้ไมเกรนเรื้อรังลายนึงเขาบอกว่าปวด
00:54:25 → 00:54:28 แบบแสบๆในหัวค่ะอันนี้อันตรายไหมคะอันนี้
00:54:28 → 00:54:31 อาจจะตอบให้ไม่ได้นะคะเพราะว่าอาจจะต้อง
00:54:31 → 00:54:35 อาศัยประวัติที่คุยเนาะมากขึ้นนะคะแต่ว่า
00:54:35 → 00:54:37 ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นแบบเป็นในเกณฑ์
00:54:37 → 00:54:41 เรื้อรังแบบนานๆระดับนึงอ่ะค่ะแบบคือเวลา
00:54:41 → 00:54:44 คนไข้ถามว่าแบบจะเป็นเนื้องอกไหมคะบางที
00:54:45 → 00:54:47 เราก็ดูที่ระยะเวลานะคะถ้าปวดมา 10 ปี
00:54:47 → 00:54:49 อย่างนี้บางทีก็ไม่น่าใช่ละถ้าอาการปวด
00:54:49 → 00:54:52 เหมือนเดิมนะคะแต่ถ้าเกิดแบบโอเคปวด
00:54:52 → 00:54:54 เรื้อรังแบบปวดมากขึ้นมาในช่วง 3 เดือน
00:54:54 → 00:54:56 นี้แล้วปวดแล้วปวดรุนแรงเลยแอบพวกนี้อาจ
00:54:56 → 00:54:58 จะต้องระวังพวกกลุ่มเนื้องอกไว้ด้วยนะคะ
00:54:58 → 00:55:00 เพราะส่วนใหญ่เนื้องอกในสมองเนี่ยเป็น
00:55:00 → 00:55:04 อวัยวะที่ค่อนข้างแบบเวลาเป็นเนื้องอก
00:55:04 → 00:55:06 แล้วเนี่ยอาการมันจะค่อนข้างเร็วถ้าเรา
00:55:06 → 00:55:09 ยังไม่ได้รักษาอะไร 3 เดือน 6 เดือนอะไร
00:55:09 → 00:55:12 เงี้ยก้อนโตขึ้นมักจะต้องมาปวดหัวรุนแรง
00:55:12 → 00:55:14 มากแล้วหรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นให้
00:55:15 → 00:55:17 เห็นบ้างนะคะปวดถ้าปวดมา 10 ปีลักษณะ
00:55:17 → 00:55:19 อาการปวดเหมือนเดิมเลยปวดไปเป็นหายๆเลย
00:55:19 → 00:55:22 ส่วนใหญ่จะไปอยู่ในกลุ่มที่เป็นกลุ่มปวด
00:55:22 → 00:55:25 หัวไม่หายที่เป็นไมเกรนร่างเป็นปวดจาก
00:55:25 → 00:55:27 ความเครียดเรื้อรังปวดจาก tension ปวด
00:55:27 → 00:55:29 ตะกร้ามเนื้อหรือว่าปวดจากใช้ยาแก้ปวดแบบ
00:55:29 → 00:55:32 นั้นมากกว่านะคะเนาะแต่ว่ายังไงถ้าเกิด
00:55:32 → 00:55:34 แบบเพื่อนเป็นเรื้อรังเราไม่หายสักทีอ่ะ
00:55:34 → 00:55:37 ค่ะก็ลองให้เพื่อนไปรักษาดูนะคะว่าส่วน
00:55:37 → 00:55:39 ใหญ่เนี่ยถ้าเป็นไมเกรนเรื้อรังอ่ะค่า
00:55:39 → 00:55:44 รักษาอาการมันก็ดีขึ้นได้จริงๆนะคะ
00:55:44 → 00:55:47 ปวดหัวไมเกรนมาตั้งแต่ปี 43 ตอนนี้ปกปี 66
00:55:47 → 00:55:51 แล้วค่ะกินยาค่ะก็ถ้าเป็น 20 ปีอย่าง
00:55:51 → 00:55:53 เงี้ยค่ะก็ถือว่าเป็นไมเกรนเรื้อรังอยู่
00:55:53 → 00:55:57 ละนะคะถ้าไม่เคยรองรับสายโดยการอ่ารักษา
00:55:57 → 00:55:59 ด้วยยาป้องกันหรือว่าลองปรึกษาคุณหมอจริง
00:55:59 → 00:56:02 จังนะคะลองรักษาดูนะคะจะได้ไม่ต้องใช้ยา
00:56:02 → 00:56:07 แก้ปวดบ่อยๆนะคะ
00:56:07 → 00:56:11 ปวดไมเกรนแล้วมีเสียงวิ้งๆในหูตื่นมาแล้ว
00:56:11 → 00:56:13 เสียงวิ้งหาย
00:56:13 → 00:56:19 แต่ตอนนี้เสียงวิ้งไม่หายต้องทำยังไงคะ
00:56:19 → 00:56:23 ก็ต้องดูว่าอาการเสียงวิ้งในหูเนี่ยเป็น
00:56:23 → 00:56:24 เป็นสัมพันธ์กับไมเกรนหรือเปล่ามันจะมี
00:56:24 → 00:56:27 กลุ่มไมเกรนที่เราเรียกว่าเป็นไมเกรนแล้ว
00:56:27 → 00:56:29 มีอาการบ้านหมุนหรือว่ามีอาการทางหูร่วม
00:56:29 → 00:56:32 ด้วยได้อย่างเช่นกลุ่มพวกเป็นเป็นไมเกรน
00:56:32 → 00:56:34 ไมเกรนาสวยไทเกอร์อะไรอย่างนี้ค่ะกลุ่ม
00:56:34 → 00:56:36 นี้คนไข้ก็จะมีอาการเวียนหัวมาพร้อมๆกับ
00:56:36 → 00:56:39 ปวดหัวมีรู้สึกเหมือนเป็นอาการน้ำในหูไม่
00:56:39 → 00:56:41 เท่ากันหรืออะไรมาในช่วงปวดหัวได้แต่ถ้า
00:56:41 → 00:56:44 เกิดแบบเป็นไม่ได้สัมพันธ์กับอาการปวดหัว
00:56:44 → 00:56:46 แล้วนะคะก็คือไมเกรนดีขึ้นแล้วหายไปแล้ว
00:56:46 → 00:56:49 แต่ว่าเสี่ยงวิ้งเนี่ยยังอยู่อันนี้อาจจะ
00:56:49 → 00:56:54 เป็นอาการของทางอ่าในหูละนะคะพวกระบบเส้น
00:56:54 → 00:56:56 เส้นประสาทหูเสื่อมหรืออะไรแบบนี้นะคะอาจ
00:56:57 → 00:56:59 จะต้องลองไปตรวจกับคุณหมอหูเขาจะปลูกดูนะ
00:56:59 → 00:57:01 คะ
00:57:01 → 00:57:07 โอเคหมดแล้ว
00:57:07 → 00:57:16 เดี๋ยวขอดูในนี้อีกทีนึงเนาะ
00:57:16 → 00:57:20 โอเคคุยตอบคำถามอาจจะแบบว่า
00:57:20 → 00:57:23 เลยทำให้อาการอะไรนะคะแบบ
00:57:23 → 00:57:26 ตอบหลายเรื่องนะคะคุยนอกเรื่องไปหน่อยนะ
00:57:26 → 00:57:30 คะจริงๆคลิปนี้นะคะก็สรุปให้ฟังนะคะว่า
00:57:30 → 00:57:34 สรุปแล้วคนไข้ที่ปวดหัวไม่หายส่วนใหญ่มัน
00:57:34 → 00:57:38 เป็นเพราะอะไรนะคะก็คือเป็นเพราะว่าโลก
00:57:38 → 00:57:40 ของเราที่เราเป็นปวดหัวไม่หายเนี่ยก็คือ
00:57:40 → 00:57:43 เป็นกลุ่มโรคที่มันจะมีความเสี่ยงที่จะทำ
00:57:43 → 00:57:45 ให้เราปวดหัวเรื้อรังได้อยู่แล้วนะคะ
00:57:45 → 00:57:47 อย่างเช่นกลุ่มไมเกรนเรื้อรังกลุ่มปวด
00:57:47 → 00:57:49 กล้ามเนื้อเรื้อรังกลุ่มปวดจากความเครียด
00:57:49 → 00:57:52 นะคะหรือใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดนะคะส่วนใหญ่
00:57:52 → 00:57:55 ถ้าตกอยู่ 4 กลุ่มนี้จะทำให้คนไข้ปวดหัว
00:57:55 → 00:57:59 แบบปวดมากขึ้นปวดเรื่อยๆปวดไม่หายสักที
00:57:59 → 00:58:01 แล้วก็ต้องใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำนะคะบวก
00:58:01 → 00:58:05 กับการใช้ชีวิตที่หรือมีการมีความปวดมากๆ
00:58:05 → 00:58:08 ปวดมานานๆแล้วก็ใช้ชีวิตที่เคร่งเครียด
00:58:08 → 00:58:11 เช่นมีความเครียดใช้ความคิดเยอะๆอดนอนนอน
00:58:11 → 00:58:14 ไม่พอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกินไม่พอดื่ม
00:58:14 → 00:58:16 น้ำไม่พอก็จะยิ่งทำให้อาการปวดหัวเรา
00:58:16 → 00:58:19 เนี่ยแย่ลงนะคะส่วนใหญ่แล้วนะคะถ้าเกิด
00:58:19 → 00:58:22 แบบลองมาคุยหรือว่าลองมาซักประวัติเรามา
00:58:22 → 00:58:24 รักษากันจริงๆเนี่ยทำควบคู่กันไปทั้ง 2
00:58:24 → 00:58:27 อย่างอ่ะมักจะทำให้อาการปวดหัวที่มันเป็น
00:58:27 → 00:58:30 เรื้อรังมันเป็นไม่หายเนี่ยดีขึ้นได้นะคะ
00:58:30 → 00:58:33 แล้วก็ถึงแม้อาการปวดหัวเรื้อรังเนี่ย
00:58:33 → 00:58:37 สาเหตุแบบเนี่ยคุยมาประมาณเกิน 90% มักจะ
00:58:37 → 00:58:39 เป็นสาเหตุที่ไม่ได้รุนแรงคือเป็นไมเกรน
00:58:39 → 00:58:41 เป็น tension เป็นอะไรอาจจะไม่ได้ทำให้
00:58:41 → 00:58:43 ถึงกับแบบเป็นโรคที่รุนแรงถึงกับเสีย
00:58:43 → 00:58:46 ชีวิตนะคะแต่ว่ากระทบคุณภาพชีวิตแน่นอนนะ
00:58:46 → 00:58:49 คะส่วนใหญ่หมอเจอคนไข้กลุ่มที่เป็นปวดหัว
00:58:49 → 00:59:49 เรื้อรังแบบเนี้ย
00:59:49 → 00:59:52 จะช่วยลดบรรเทาตรงนี้ลงได้นะคะแล้วก็
00:59:52 → 00:59:55 กลุ่มที่เป็นปวดหัวเรื้อรังเนี่ยก็จะมี
00:59:55 → 00:59:58 กลุ่มน้อยๆนะคะที่อาจจะต้องระวังเรื่อง
00:59:58 → 01:00:01 ของตัวโรคที่มันรุนแรงมากขึ้นอย่างเช่น
01:00:01 → 01:00:03 เรื่องของเนื้องอกในสมองนะคะก็ให้สังเกต
01:00:03 → 01:00:06 อาการว่าเราจะเข้าข่ายกลุ่มนั้นหรือเปล่า
01:00:06 → 01:00:09 เพราะว่าอาจจะต้องไปพบคุณหมอหรืออาจจะ
01:00:09 → 01:00:12 ต้องไปสแกนคอมพิวเตอร์สมัครต่อไปนะคะเนาะ
01:00:12 → 01:00:15 ก็หวังว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน
01:00:15 → 01:00:17 ที่มีอาการปวดหัวหรือว่ามีคนใกล้ตัวปวด
01:00:17 → 01:00:20 หัวอยู่นะคะที่แบบรู้สึกว่าแบบเอ้ยปวด
01:00:20 → 01:00:22 เนื้อรังไม่หายไม่รู้จะทำยังไงนะคะสักที
01:00:22 → 01:00:26 ลองมาฟังดูนะคะก็อาจจะเห็นแนวทางมากขึ้น
01:00:26 → 01:00:29 ว่าเออเราน่าจะเป็นอะไรหรือว่าเราจะไป
01:00:29 → 01:00:32 รักษายังไงต่อไปนะคะเนาะก็สำหรับคลิปนี้
01:00:32 → 01:00:36 ก็วันนี้ก็สวัสดีค่ะ
00:00:11 → 00:00:14 สวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะกับคุยเรื่องสมองกับ
00:00:14 → 00:00:17 หมอนุ่มนะคะวันนี้มาชวนคุยเรื่องที่คิด
00:00:17 → 00:00:20 ว่าเป็นปัญหาที่สำคัญของทุกคนเลยต้องเคย
00:00:20 → 00:00:23 มีใครมีอาการปวดหัวบ้างแหละนะคะเนอะแต่
00:00:23 → 00:00:26 ว่า topic ที่จะคุยกันวันนี้นะคะก็คือ
00:00:26 → 00:00:29 อยากจะชวนคุยเรื่องปวดหัวเนี่ยทำไมบางคน
00:00:29 → 00:00:32 เนี่ยถึงเป็นแล้วไม่หายปวดไม่หายนะคะ
00:00:32 → 00:00:36 เพราะอะไรหรือบางทีอยากจะปวดแบบมีช่วงที่
00:00:36 → 00:00:38 หายบ้างแต่ๆก็กลับมาเป็นใหม่อีกละนะคะ
00:00:38 → 00:00:41 เนาะสาเหตุมันเกิดจากอะไรได้บ้างแบบไหน
00:00:41 → 00:00:45 ที่ต้องนึกถึงแล้วว่าจะเป็นโรคที่อันตราย
00:00:45 → 00:00:47 เป็นเนื้องอกหรือเปล่าหรือว่าต้องไปหาหมอ
00:00:47 → 00:00:49 แล้วต้องไปสแกนกันหรือเปล่านะคะวันนี้เรา
00:00:49 → 00:00:52 มาฟังเรื่องนี้กันนะคะว่าน่าจะมีประโยชน์
00:00:52 → 00:00:56 กับทุกคนนะคะเนาะเดี๋ยววันนี้ก็จะเน้นคุย
00:00:56 → 00:00:59 สบายๆนะคะถ้าเกิดใครมีคำถามอะไรเนี่ยก็
00:00:59 → 00:01:02 คือสามารถพิมพ์เข้ามาได้เลยนะคะในเรื่อง
00:01:02 → 00:01:05 ของอาการปวดหัวนะคะก็จะคุยไปตอบคำถามไป
00:01:05 → 00:01:08 ด้วยนะคะเพื่อมีคำแนะนำแบบใครอยากได้คำ
00:01:08 → 00:01:10 แนะนำปรึกษาอะไรก็ลองทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้
00:01:10 → 00:01:12 นะคะ
00:01:12 → 00:01:16 มาคุยกันเรื่องปวดหัวนะคะทำไมถึงบางคน
00:01:16 → 00:01:20 เนี่ยปวดไม่หายนะคะอันนี้จริงๆเป็นคำถาม
00:01:20 → 00:01:22 ที่หมอเจอในชีวิตจริงเยอะมากแล้วก็คนไข้
00:01:22 → 00:01:25 เนี่ยก็มาหาด้วยปัญหาเรื่องนี้เยอะมากนะ
00:01:25 → 00:01:27 คะว่าปวดหัวทุกวันเลยค่ะปวดไม่หายเลยค่ะ
00:01:27 → 00:01:30 ซึ่งจริงๆเหมือนแบบพอเราตรวจคนไข้มาเยอะ
00:01:30 → 00:01:34 มากๆเนี่ยบางทีมันเหมือนมองเป็นแบบเจอเจอ
00:01:34 → 00:01:38 เยอะมากจนรู้สึกว่าเฮ้ยมันแบบมันมันแบบ
00:01:38 → 00:01:41 เป็นเรื่องนึงที่เหมือนเป็นแบบสาเหตุที่
00:01:41 → 00:01:42 เจอบ่อยๆไปแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าพอ
00:01:42 → 00:01:45 แบบได้คุยกับหลายๆคนเนี่ยก็เพราะว่าเฮ้ย
00:01:45 → 00:01:47 เขาไม่รู้นะว่าจริงๆแล้วว่าไอ้อาการปวด
00:01:47 → 00:01:50 หัวที่มันเป็นเรื้อรังเป็นไม่หายเนี่ยมัน
00:01:50 → 00:01:53 มีโรคนะแล้วมันก็รักษาได้นะหลายคนแบบจะ
00:01:53 → 00:01:55 สงสัยว่าเฮ้ยคนเราจะปวดหัวได้ทุกวันได้
00:01:55 → 00:01:58 เลยจริงๆหรอเพราะว่าแบบส่วนใหญ่เวลาเรา
00:01:58 → 00:02:00 ปวดหัวเนี่ยมันก็ต้องมักมีเหตุมากระตุ้น
00:02:00 → 00:02:03 เช่นแบบอ่ะวันนี้เครียดวันนี้อดนอนเมื่อ
00:02:03 → 00:02:06 คืนนอนไม่พอหรือช่วงที่ดีไข้ไม่สบายเป็น
00:02:06 → 00:02:09 ไข้หวัดเป็นไข้หวัดใหญ่เป็นโควิดอะไรก็
00:02:09 → 00:02:11 แล้วแต่ถ้าเวลาเรามีไข้สูงหรือว่ามีเหตุ
00:02:11 → 00:02:13 มากระตุ้นเนี่ยมันก็จะทำให้มีอาการปวดหัว
00:02:13 → 00:02:16 ได้แต่ว่าสาเหตุเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็มักจะ
00:02:16 → 00:02:19 เป็นแค่ชั่วคราวแล้วก็หายไปแต่จะมีบางโรค
00:02:19 → 00:02:22 หรือบางสาเหตุบางอย่างเนี่ยที่ทำให้เรา
00:02:22 → 00:02:25 เนี่ยมีอาการปวดหัวเป็นปวดเรื้อรังแล้วก็
00:02:25 → 00:02:26 ปวดไม่หายสักทีหรือว่าปวดแล้วก็กลับมา
00:02:26 → 00:02:29 เป็นใหม่ได้นะคะเนาะซึ่งจากประสบการณ์นะ
00:02:29 → 00:02:32 คะที่หมอรักษาคนไข้มานะคะสาเหตุที่ทำให้
00:02:32 → 00:02:35 เราปวดหัวแล้วไม่หายเนี่ยมันก็มีแบบ
00:02:35 → 00:02:38 สาเหตุหลักๆอยู่ประมาณ 4-5 อย่างนะคะเนาะ
00:02:38 → 00:02:43 อันแรกเลยก็คือ 1 เนี่ยเราเป็นโรคที่เป็น
00:02:43 → 00:02:45 โรคปวดศีรษะนะคะคือโรคปวดศีรษะเนี่ยมันก็
00:02:45 → 00:02:48 จะมีอ่าสาเหตุเยอะแยะมากมายเลยนะคะมันจะ
00:02:48 → 00:02:50 มีโรคกลุ่มกลุ่มนึงเนี่ยที่เราเรียกว่า
00:02:50 → 00:02:53 เป็นโรคปวดศีรษะนะคะซึ่งตัวสแกนสมองเลย
00:02:53 → 00:02:56 อะไรแล้วก็มักจะปกติแต่เป็นโรคปวดศีรษะ
00:02:56 → 00:02:58 ที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เราเป็นอาการ
00:02:58 → 00:03:01 ปวดหัวแบบเรื้อรังได้นะคะที่เจอบ่อยที่
00:03:01 → 00:03:05 สุดเลยก็คือ 1 ไมเกรนนะคะไมเกรนเนี่ยปวด
00:03:05 → 00:03:07 ศีรษะไมเกรนเนี่ยเป็นโรคอาการปวดศีรษะที่
00:03:07 → 00:03:11 ส่วนใหญ่เนี่ยคนที่เป็นระยะแรกๆเนี่ยมัก
00:03:11 → 00:03:13 จะเป็นแค่ชั่วคราวก่อนเนาะคนที่เป็น
00:03:13 → 00:03:16 ไมเกรนมาแบบช่วงไม่กี่แบบปีแรกปี 2 ปีแรก
00:03:16 → 00:03:19 ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ค่อยได้มาหาหมอเพราะ
00:03:19 → 00:03:21 ว่าอาการพวกนี้นะคะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบ
00:03:21 → 00:03:24 เดือนนึงเป็นครั้งนึง 2-3 เดือนเป็นทีมัก
00:03:24 → 00:03:26 จะต้องมีตัวกระตุ้นที่ค่อนข้างชัดเจนก่อน
00:03:26 → 00:03:28 นะคะแต่พอหลังจากนั้นเนี่ยพอเจอตัว
00:03:28 → 00:03:31 กระตุ้นบ่อยๆเข้าปวดบ่อยๆเข้าสมองมัน
00:03:31 → 00:03:33 เหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้เรายิ่งไว
00:03:33 → 00:03:35 กับตัวกระตุ้นแล้วก็สิ่งแวดล้อมจนสุดท้าย
00:03:35 → 00:03:38 คนไข้กลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกปวดไมเกรนแค่
00:03:38 → 00:03:41 ชั่วคราวก็จะกลายเป็นปวดไมเกรนเรื้อรังนะ
00:03:41 → 00:03:43 คะนั่นก็จะเป็นสาเหตุที่เจอได้บ่อยมากๆ
00:03:43 → 00:03:45 เลยนะคะส่วนสาเหตุอื่นๆที่เจอบ่อยไม่แพ้
00:03:45 → 00:03:48 กันเลยก็คือเรื่องของปวดเรื้อรังแบบ
00:03:48 → 00:03:50 tension ท้าย tension ไทยก็คือเป็นอาการ
00:03:50 → 00:03:54 ปวดหัวแบบเหมือนมีกล้ามเนื้อแบบตึงหรือ
00:03:54 → 00:03:56 ว่าเหมือนมีอะไรมาบีบรัดหนังศีรษะเรา
00:03:56 → 00:03:59 เหมือนเราใส่มีเฮดแลนด์หรือมีอะไรมารับ 43
00:03:59 → 00:04:01 ไว้นะคะซึ่งคนไข้กลุ่มเนี้ยก็จะถ้าเกิด
00:04:01 → 00:04:03 เป็นมานานๆก็จะมีความเสี่ยงที่เป็นกลุ่ม
00:04:03 → 00:04:05 ปวดหัวเรื้อรังได้เหมือนกันเป็นทุกวันได้
00:04:05 → 00:04:08 เหมือนกันตื่นมาก็รู้สึกว่าหัวไม่โล่งเลย
00:04:08 → 00:04:11 เหมือนคิดอะไรไม่ออกนะคะหนังตามันหนักๆนะ
00:04:11 → 00:04:13 คะเหมือนมีอะไรมาบีบรักษาศีรษะเราไว้ตลอด
00:04:13 → 00:04:17 เวลานะคะแล้วก็อีกอันนึงเลยที่เจอบ่อยนะ
00:04:17 → 00:04:19 คะก็จะเป็นเรื่องของพวกกล้ามเนื้อนี่แหละ
00:04:19 → 00:04:23 นะคะพวกกล้ามเนื้อความเครียดความตึงอะไร
00:04:23 → 00:04:26 ต่างๆที่พอมันสะสมนานๆเข้าก็มักจะทำให้
00:04:26 → 00:04:29 เราเกิดอาการปวดราวขึ้นมานะคะเป็นอาการ
00:04:29 → 00:04:33 ปวดหัวที่มันไม่หายไปสักทีนะคะและสุดท้าย
00:04:33 → 00:04:35 เลยนะคะที่เจอบ่อยอีกอันนึงเลยก็คือพอคน
00:04:35 → 00:04:38 เราเนี่ยพอเริ่มปวดระยะแรกเราก็จะซื้อยา
00:04:38 → 00:04:42 แก้ปวดมาทานนะคะพอแรกๆกินแก้ปวดก็กินแล้ว
00:04:42 → 00:04:45 ก็หายดีนะคะก็ทำให้เราไม่ได้ใส่ใจว่าเออ
00:04:45 → 00:04:48 มันจะเป็นโรคหรือว่าเป็นความเรื้อรังหรือ
00:04:48 → 00:04:51 อะไรนะคะพอตรวจบ่อยเข้าจากเดิมอาทิตย์นึง
00:04:51 → 00:04:54 ปวดวันนึงเป็นอาทิตย์ละ 2 วัน 3 วันก็ทำ
00:04:54 → 00:04:56 ให้ต้องใช้ยาแก้ปวดเยอะขึ้นเยอะขึ้นเพื่อ
00:04:56 → 00:04:58 ให้ทำงานได้เพื่อให้อาการปวดมันหายไปนะคะ
00:04:58 → 00:05:01 สุดท้ายแล้วก็เลยกลายเป็นปวดหัวเรื้อรัง
00:05:01 → 00:05:04 จากที่ติดยาแก้ปวดหรือว่าใช้ยาแก้ปวดเกิน
00:05:04 → 00:05:07 ขนาดนะคะที่เราเรียกว่า medication Over
00:05:07 → 00:05:09 use hate เองเนี่ยก็คือเป็นสาเหตุที่ทำ
00:05:09 → 00:05:11 ให้ปวดหัวเรื้อรังไม่หายสักทีเนี่ยแหละนะ
00:05:11 → 00:05:15 คะเนาะซึ่งสาเหตุต่างๆเหล่านี้นะคะก็จะ
00:05:15 → 00:05:18 คือด้วยตัวโรคเนี่ยก็จะเป็นส่วนหนึ่งนะคะ
00:05:18 → 00:05:21 แต่ว่าอีกปัจจัยหนึ่งเลยที่มาทำให้คนไข้
00:05:21 → 00:05:23 ส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มนี้ไม่ว่าจะเป็น
00:05:23 → 00:05:25 ไมเกรนปวดเทนชั่นปวดกล้ามเนื้อหรือว่า
00:05:25 → 00:05:28 ความเครียดหรือว่าใช้ยาแก้ปวดเยอะๆที่ไม่
00:05:28 → 00:05:31 หายเลยนะคะสาเหตุส่วนหนึ่งเลยก็เป็นเพราะ
00:05:31 → 00:05:34 ว่าเรื่องของตัวกระตุ้นหรือว่าเรื่องของ
00:05:34 → 00:05:38 การใช้ชีวิตปัจจัยด้านอื่นที่มาทำให้ปวด
00:05:38 → 00:05:40 หัวมันแย่ลงด้วยเนาะอย่างเช่นเรื่องของ
00:05:40 → 00:05:45 การนอนนะคะคนที่อดนอนนอนดึกนอนไม่พอก็มัก
00:05:45 → 00:05:48 จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไปกระตุ้นให้อาการ
00:05:48 → 00:05:50 ไมเกรนอาการ tension หรือว่ากล้ามเนื้อ
00:05:50 → 00:05:52 หรืออะไรต่างๆเนี่ยมันแย่ลงนะคะก็ยิ่งทำ
00:05:52 → 00:05:55 ให้เราไปกินยาแก้ปวดอาจก็สุดท้ายก็ปวดหัว
00:05:55 → 00:05:58 ไม่หายจากติดยาแก้ปวดไปอีกนะคะอันที่ 2
00:05:58 → 00:05:59 ก็คือเรื่องของ
00:05:59 → 00:06:04 ยาแก้ปวดนะคะคือที่เอ่ออันนี้อ่าอันที่ 2
00:06:04 → 00:06:07 นะคะก็คือเรื่องของอ่าเมื่อกี้เรื่องของ
00:06:07 → 00:06:09 การนอนเนาะอันที่ 2 ก็คือเรื่องของอ่าการ
00:06:09 → 00:06:11 ออกกำลังกายนะคะคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลัง
00:06:11 → 00:06:14 กายได้นะคะแบบส่วนใหญ่ก็คือแบบตื่นมาทำ
00:06:14 → 00:06:18 งานเลยนะคะใช้ความคิดทั้งวันแล้วก็พอกลับ
00:06:18 → 00:06:21 ดึกและเกาะนอนไม่ได้ออกกำลังกายกันก็มัก
00:06:21 → 00:06:22 จะทำให้
00:06:22 → 00:06:25 กล้ามเนื้อตึงง่ายนะคะแล้วก็มีความเครียด
00:06:25 → 00:06:28 ได้ค่อนข้างง่ายนะคะเวลานอนก็อาจจะนอน
00:06:28 → 00:06:30 หลับไม่ดีนะคะพวกนี้ก็ยิ่งทำให้เราเหมือน
00:06:30 → 00:06:33 แบบไปส่งเสริมให้อาการปวดหัวเนี่ยมันแย่
00:06:33 → 00:06:36 ลงหรือว่ามันไม่หายสักทีนะคะเรื่องของ
00:06:36 → 00:06:38 stress เรื่องของความเครียดอันนี้ก็เป็น
00:06:38 → 00:06:41 ปัจจัยสำคัญเลยนะคะคือคนเราเนี่ยมักจะมี
00:06:41 → 00:06:45 เอ่อความเครียดในชีวิตอะไรสักอย่างอยู่
00:06:45 → 00:06:47 แล้วนะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน
00:06:47 → 00:06:51 เรื่องของปัจจัยเรื่องอื่นๆเนาะก็พอยิ่ง
00:06:51 → 00:06:53 เครียดเนี่ยก็ยิ่งทำให้
00:06:53 → 00:06:56 กระตุ้นโรคบางโรคอย่างโรคไมเกรนเนี่ยถ้า
00:06:56 → 00:06:58 เครียดมาปุ๊บก็จะยิ่งปวดหัวมากขึ้นนะคะ
00:06:58 → 00:07:01 แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะเพราะงั้นคนที่
00:07:01 → 00:07:03 เป็นไมเกรนก็ไม่ใช่ว่าเกิดจากความเครียด
00:07:03 → 00:07:05 อย่างเดียวแต่ว่าความเครียดก็ไปย้อนไป
00:07:05 → 00:07:06 กระตุ้นไมเกรนได้เป็นสาเหตุหนึ่งใน
00:07:06 → 00:07:09 การ์ตูนไมเกรนนะคะ tension ไทยเองการ
00:07:09 → 00:07:11 อาการปวดแบบ tension หรือว่ากล้ามเนื้อ
00:07:11 → 00:07:13 ตึงเองหรือว่าปวดจากสุดท้ายปวดจากความ
00:07:13 → 00:07:15 เครียดเองเนี่ยก็เป็นศาสตร์ความเครียดก็
00:07:15 → 00:07:17 เป็นสาเหตุหลักโดยตรงเลยที่ทำให้เราเนี่ย
00:07:17 → 00:07:20 เหมือนปวดหัวไม่หายสักทีหลายเคสเลยที่แบบ
00:07:20 → 00:07:23 พอสุดท้ายอ่ะค่ะพอมาคุยกันรักษาการที่แบบ
00:07:23 → 00:07:26 เป็นกลุ่มปวดหัวทุกวันนะคะรักษาให้ยา
00:07:26 → 00:07:29 ไมเกรนแล้วรักษาไมเกรนก็แล้วรักษาภาวะติด
00:07:29 → 00:07:32 ยาแก้ปวดได้ก็แล้วแต่ยังมีอาการปวดหัว
00:07:32 → 00:07:34 บาร์ได้บ้างแต่มันก็จะน้อยลงนะคะส่วน
00:07:34 → 00:07:37 หนึ่งเลยก็คือมีภาวะความเครียดอยู่เนาะมี
00:07:37 → 00:07:40 ภาวะวิตกกังวลหรือว่าบางคนอาจจะเป็นโรค
00:07:40 → 00:07:43 ถึงแบบอ่าความเครียดมากๆจนถึงสะสมกายเป็น
00:07:43 → 00:07:44 เรื่องที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้า
00:07:44 → 00:07:47 อะไรอย่างเงี้ยค่ะกลุ่มนี้ก็มักจะเป็น
00:07:47 → 00:07:49 เหตุที่ทำให้แบบปวดหัวมันไม่หายสักที
00:07:49 → 00:07:51 เพราะฉะนั้นเวลาแบบหมอรักษาคนไข้จริงๆ
00:07:51 → 00:07:54 เนี่ยเพราะว่าคนไข้ไมเกรนกับซึมเศร้าหรือ
00:07:54 → 00:07:56 ว่าไมเกรนกับความเครียดหรือเทนชั่นกับ
00:07:56 → 00:07:58 ความเครียดทุกอย่างก็คือเหมือนแทบจะไป
00:07:58 → 00:08:01 ด้วยกันหมดคนๆเราคนๆนึงเนี่ยที่ที่แบบมี
00:08:01 → 00:08:03 โรคปวดหัวขึ้นมามีอาการปวดหัวทุกวันขึ้น
00:08:03 → 00:08:06 มาค่ะต่อให้ไม่ได้มีความเครียดเรื่องงาน
00:08:06 → 00:08:08 เรื่องเงินเรื่องอื่นเรื่องครอบครัวอะไร
00:08:09 → 00:08:11 อย่างเงี้ยมันก็มีความเสี่ยงที่จะมีความ
00:08:11 → 00:08:13 เครียดได้จากมีอาการปวดหัวที่เราเป็นมา
00:08:13 → 00:08:15 ทุกวันนะคะใครที่ต้องอยู่กับความปวดทุกๆ
00:08:15 → 00:08:19 วันเนี่ยมันมันมีภาวะ stress ในร่างกาย
00:08:19 → 00:08:22 อยู่แล้วนะคะน้องไม่ว่าจะจากทั้งหนึ่งก็
00:08:22 → 00:08:24 คือจากอาการเจ็บปวดเองหรือว่าจากเรื่อง
00:08:24 → 00:08:27 ของเราก็อาจจะแบบกังวลด้วยว่าที่ปวดหัว
00:08:27 → 00:08:29 ไม่หายสักทีเนี่ยมันเป็นเพราะอะไรมันเป็น
00:08:29 → 00:08:32 เนื้องอกหรือเปล่าแบบก็ยิ่งทำให้อาการมัน
00:08:32 → 00:08:35 แย่ลงด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยสาเหตุหลัก
00:08:35 → 00:08:39 ๆเลยที่ทำให้เราปวดหัวไม่หายนะคะ 2 อย่าง
00:08:39 → 00:08:41 เนาะอันแรกก็คือ 1 เนี่ยแหละแล้วเป็น
00:08:41 → 00:08:43 กลุ่มปวดหัวที่มันมีความเสี่ยงที่มันจะ
00:08:43 → 00:08:45 กลายเป็นปวดหัวเรื้อรังได้อยู่แล้วนะคะ
00:08:45 → 00:08:47 เมื่อไหร่ที่หมอจะเรียกว่าเรื้อรังก็คือ
00:08:47 → 00:08:50 ส่วนใหญ่ก็คือต้องปวดเกินแบบประมาณ 3
00:08:50 → 00:08:52 เดือนนะคะแล้วเดือนนึงเนี่ยก็คือปวดเกิน
00:08:52 → 00:08:54 ประมาณ 15 วันก็คือปวดเกินครึ่งเดือนนะคะ
00:08:54 → 00:08:57 ถ้าใครที่อยู่กับความปวดแบบนี้นะปวดเกิน
00:08:57 → 00:09:00 ครึ่งเดือนปวดมาหลายๆเดือนติดๆกันเรามี
00:09:00 → 00:09:01 ความเสี่ยงละที่เราจะเป็นกลุ่มปวดหัว
00:09:01 → 00:09:04 เรื้อรังนะคะก็ต้องมาดูแล้วว่าเราอยู่ใน
00:09:04 → 00:09:06 กลุ่มโรคที่มันเป็นกลุ่มโรคปวดหัว
00:09:06 → 00:09:08 เรื้อรังได้หรือเปล่านะคะเนาะที่ไม่มี
00:09:08 → 00:09:11 บ่อยๆก็จะเป็นพวกไมเกรนเทนชั่นกล้ามเนื้อ
00:09:11 → 00:09:14 ความเครียดนะคะแล้วก็ภาวะติดยาแก้ปวดนะคะ
00:09:14 → 00:09:17 อันที่ 2 ปัจจัยที่จะมากระตุ้นให้ปวดหัว
00:09:17 → 00:09:19 มันไม่หายสักทีที่มันทำให้อาการมัน
00:09:19 → 00:09:22 เรื้อรังมากยิ่งขึ้นก็มาจากเราเองนี่แหละ
00:09:22 → 00:09:25 นะคะทั้งความเครียดจากตัวโรคความเครียด
00:09:25 → 00:09:27 เรื่องอื่นๆการขาดการออกกำลังกายการนอน
00:09:27 → 00:09:30 ดึกอดนอนนอนไม่พอรวมถึงอาหารด้วยนะคะบาง
00:09:30 → 00:09:34 คนที่แบบอาจจะทานอาหารไม่เพียงพอหรือใช้
00:09:34 → 00:09:37 ชีวิตเร่งรีบทานจัง Food บ่อยๆทานอาหารผง
00:09:37 → 00:09:39 ชูรสเยอะๆหรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
00:09:39 → 00:09:42 พวกนี้ก็ล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้กระตุ้น
00:09:42 → 00:09:44 ให้ปวดหัวเราเนี่ยแย่ลงได้นะคะอีกอันนึง
00:09:44 → 00:09:46 ที่เจอบ่อยมากๆเลยก็คือเรื่องของภาวะขาด
00:09:46 → 00:09:49 น้ำยิ่งใครที่แบบใช้ชีวิตแบบเร่งรีบนะคะ
00:09:49 → 00:09:52 ทำงานทั้งวันอย่างเงี้ยบางทีเราไม่สามารถ
00:09:52 → 00:09:54 ดื่มน้ำให้ได้อย่างเพียงพอเมื่อมีภาวะขาด
00:09:54 → 00:09:56 น้ำไอ้ตัวภาวะขาดน้ำเองเนี่ยก็จะยิ่ง
00:09:56 → 00:09:59 กระตุ้นอาการปวดหัวหลายๆอย่างเช่นอากาศ
00:09:59 → 00:10:01 ร้อนแล้วปวดหัวเงี้ยค่ะน้ำก็ยิ่งทำให้
00:10:01 → 00:10:04 อาการปวดหัวแย่ลงนะคะไมเกรนถ้าขาดน้ำก็
00:10:04 → 00:10:06 ยิ่งอาการแย่ลงเหมือนกันนะคะหรือคนไข้
00:10:06 → 00:10:09 ไมเกรนที่ทานอาหารไม่ตรงเวลานะคะแบบทำงาน
00:10:09 → 00:10:12 แล้วเลยมื้ออาหารไปก็จะรู้แล้วว่าจะเกิด
00:10:12 → 00:10:14 เมื่อไหร่ที่ทานไม่ตรงเวลามันก็ยิ่งมา
00:10:14 → 00:10:16 เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ปวดหัวเราแย่ลงได้
00:10:16 → 00:10:18 นะคะเพราะฉะนั้นใครที่มีอาการปวดหัว
00:10:18 → 00:10:21 เรื้อรังอยู่ปวดทุกวันปวดมานานอะไรหลายๆ
00:10:21 → 00:10:24 เดือนแบบนี้นะคะก็ต้องลองสังเกตดูว่าเรา
00:10:24 → 00:10:26 เข้าข่ายกับกลุ่มไหนหรือเปล่าเป็นปัจจัย
00:10:26 → 00:10:28 เป็นที่ตัวโรคปวดหัวของเราเองหรือเป็น
00:10:28 → 00:10:31 ปัจจัยเรื่องของการใช้ชีวิตเรื่องของการ
00:10:31 → 00:10:34 นอนการกินนะคะหรือว่าความเครียดต่างๆก็
00:10:34 → 00:10:37 ต้องพยายามจัดการกับความเครียดหรือว่าจัด
00:10:37 → 00:10:39 การปัจจัยตรงนั้นให้มันดีขึ้นนะคะก็อาจจะ
00:10:39 → 00:10:42 ทำให้อาการปวดหัวเนี่ยเบาลงได้นะคะเนาะ
00:10:42 → 00:10:45 สุดท้ายนะคะก็คือถ้าเกิดแบบกลุ่มที่เป็น
00:10:45 → 00:10:47 ปวดหัวเรื้อรังไม่หายเหล่าเนี้ยมันก็จะมี
00:10:47 → 00:10:50 โรคที่ต้องระวังนะคะก็คือเรื่องของว่าแบบ
00:10:50 → 00:10:52 คนส่วนใหญ่ที่มาหาหมอจริงๆอ่ะเค้าไม่ได้
00:10:52 → 00:10:55 มาด้วยหรอกค่ะว่าเออรู้สึกเครียดจังเลย
00:10:55 → 00:10:59 ค่ะปวดหัวทุกวันเลยแบบอ่าจะแบบเอ่อให้
00:10:59 → 00:11:01 รักษาเรื่องความเครียดยังไงอะไรอย่าง
00:11:01 → 00:11:03 เงี้ยค่ะแต่ส่วนใหญ่ทุกคนเลยที่มาหาก็คือ
00:11:03 → 00:11:06 จะมาด้วยปวดหัวทุกวันค่ะปวดไม่หายเลยทำ
00:11:06 → 00:11:09 ทุกอย่างแล้วกินยาแก้ปวดก็แล้วเริ่มมัน
00:11:09 → 00:11:11 เริ่มใช้ชีวิตไม่ได้แล้วเริ่มกระทบกับการ
00:11:11 → 00:11:13 ทำงานแล้วแล้วสุดท้ายสิ่งที่ทุกคนถามก็
00:11:13 → 00:11:15 คือจะเป็นเนื้องอกสมองไหมนะคะอันนี้ก็คือ
00:11:15 → 00:11:19 เป็นเป็นอาการปวดหัวที่ทุกคนกลัวแล้วก็
00:11:19 → 00:11:22 ไม่ได้อยากเป็นนะคะทีนี้เวลาปวดหัวไม่หาย
00:11:22 → 00:11:24 ปวดหัวเรื้อรังเราก็มีวิธีสังเกตว่าเราจะ
00:11:24 → 00:11:28 เป็นเนื้องอกสมองหรือเปล่านะคะอันก่อน
00:11:28 → 00:11:30 อื่นเลยนะคะอาการเนื้องอกสมองเกิดจากการ
00:11:30 → 00:11:33 ที่มันมีก้อนไปอยู่ในสมองนะคะเพราะฉะนั้น
00:11:33 → 00:11:36 เนี่ยอาการปวดหัวของเนื้องอกสมองมันจะมี
00:11:36 → 00:11:38 ลักษณะค่อนข้างแตกต่างจากปวดหัวจากอย่าง
00:11:38 → 00:11:40 อื่นอยู่บ้างเนาะวันนี้หมอจะไม่ได้ลงราย
00:11:40 → 00:11:42 ละเอียดว่าแบบปวดไมเกร็ดยังไงปวด tension
00:11:42 → 00:11:45 ปวดยังไงนะคะแต่ว่าเราจะมีวิธีสังเกตว่า
00:11:45 → 00:11:49 อาการปวดหัวแบบไหนล่ะที่เรารู้สึกว่าเอ้ย
00:11:49 → 00:11:52 แบบเนี้ยนะมันน่าจะต้องเริ่มเป็นอาการที่
00:11:52 → 00:11:55 อันตรายและเริ่มควรจะไปหาหมอแล้วแล้วดู
00:11:55 → 00:11:57 ว่าแบบอาจจะต้องสแกนสมองหรือเปล่านะคะก็
00:11:57 → 00:12:01 คือ 1 ก็คืออาการปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ย
00:12:01 → 00:12:04 มันจะมีเวลามีก้อนในสมองอ่ะค่ะมันจะเกิด
00:12:04 → 00:12:07 จากการรันแรงดันในสมองที่มันเพิ่มมากขึ้น
00:12:07 → 00:12:08 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:08 → 00:12:11 คนไข้ที่เวลาปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ยก็คือ
00:12:11 → 00:12:15 จะมีอาการเหมือนเวลาเราเหมือนเรามีแรงดัน
00:12:15 → 00:12:17 ในสมองเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆก็มันใหญ่
00:12:17 → 00:12:18 ขึ้นเรื่อยๆถ้าเรายังไม่ได้รักษาก้อนมัน
00:12:18 → 00:12:20 ไม่มีทางเล็กลงอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:12:20 → 00:12:22 เนี่ยเวลาอาการปวดหัวเนี่ยมันก็จะเป็น
00:12:22 → 00:12:26 อาการปวดหัวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนะคะคน
00:12:26 → 00:12:28 ไข้ก่อนหน้านี้ที่เป็นปวดหัวไม่หายทั้ง
00:12:28 → 00:12:30 หมดเนอะไม่ว่าจะเป็นไมเกรนเทนชั่นหรือ
00:12:30 → 00:12:33 ความเครียดอะไรแล้วแต่ค่ะถ้าซักประวัติดี
00:12:33 → 00:12:35 ๆอ่ะมันจะมีวันที่คนไข้หรือมีช่วงที่คน
00:12:36 → 00:12:39 ไข้อาจจะมีอาการหายจากปวดหัวคำว่าปวดหัว
00:12:39 → 00:12:41 เรื้อรังได้บ้างนะคะเวลาหมอถามก็ถามว่า
00:12:41 → 00:12:44 แบบเวลาช่วงที่ไม่ปวดเลยอ่ะมันเคยแบบกลับ
00:12:44 → 00:12:47 ไปใช้ชีวิตปกติได้ไหมเหลือ 0 เลยได้ไหม
00:12:47 → 00:12:50 ไอ้อาการปวดหัวอันนั้นนะคะซึ่งคนไข้ที่
00:12:50 → 00:12:52 เป็นปวดจากสาเหตุอื่นๆที่ไม่ได้รุนแรงมาก
00:12:52 → 00:12:56 นักเนี่ยมักจะต้องมีช่วงที่ลืมอาการปวด
00:12:56 → 00:12:58 หัวไปได้บ้างเนาะอย่างน้อยแบบสมมติว่าปวด
00:12:58 → 00:13:00 30 วันอาจจะมีสักวันสองวันที่เออมันไม่
00:13:00 → 00:13:03 มีปวดหัวค่ะหรือยกเว้นว่ากลุ่มที่มันเป็น
00:13:03 → 00:13:05 มานานมากๆเป็นทุกวันไปแล้วจริงๆอันนั้น
00:13:05 → 00:13:08 เขาก็อาจจะใช้คำว่าแบบปวดทุกวันเลยไม่มี
00:13:08 → 00:13:10 ช่วงที่หายได้แต่ถ้าเกิดแบบซักประวัติดีๆ
00:13:10 → 00:13:13 จริงจริงๆอาจจะยังมีช่วงที่หายปวดหัวได้
00:13:13 → 00:13:15 บ้างเช่นช่วงนี้งานไม่เยอะเลยได้พักผ่อน
00:13:15 → 00:13:17 เต็มที่นอนเต็มที่ไปเที่ยวอะไรอย่างนี้
00:13:17 → 00:13:20 ค่ะอาจจะไม่มีอาการปวดหัวนะคะแต่สำหรับคน
00:13:20 → 00:13:23 ไข้เนื้องอกนะคะหรือคนไข้ที่มีรอยโรคใน
00:13:23 → 00:13:25 สมองเนี่ยอาการเนี่ยมันจะไม่ได้สัมพันธ์
00:13:25 → 00:13:30 กับการที่เราใช้ชีวิตหรือว่าความคิดหรือ
00:13:30 → 00:13:32 งานอะไรด้วยความที่ก็มันมีขนาดใหญ่มาก
00:13:32 → 00:13:34 ขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้นคนไข้ก็จะมีอาการ
00:13:34 → 00:13:36 ปวดค่อนข้างมากขึ้นเรื่อยๆแล้ววันที่ไม่
00:13:36 → 00:13:39 ปวดก็มักจะยังแบบมีอาการปวดเหลืออยู่
00:13:39 → 00:13:42 อย่างเช่นวันที่ปวดมากอาจจะให้คะแนนปวด 10
00:13:42 → 00:13:44 เต็ม 10 เลยแต่วันที่ไม่ปวดก็อาจจะแบบไม่
00:13:44 → 00:13:47 ได้รู้สึกว่ามันเหลือ 0 เลยอาจจะเหลือ
00:13:47 → 00:13:49 ประมาณแบบ 3 4 5 ก็คือยังรู้สึกว่ามี
00:13:49 → 00:13:52 อาการปวดอยู่บ้างแค่มากน้อยต่ำกันนะคะ
00:13:52 → 00:13:56 แล้วก็มักจะมีลักษณะอาการที่บ่งชี้บาง
00:13:56 → 00:13:59 อย่างที่ว่าเวลาหมอซักประวัติไปแล้วเนี่ย
00:13:59 → 00:14:01 หรือว่าหมอคุยกับคนไข้แล้วก็จะรู้สึกว่า
00:14:01 → 00:14:03 เอ้ยแบบเนี้ยซีเรียสแล้วนะคือเรื่องของ
00:14:03 → 00:14:06 อาการอาเจียนนะคะถ้าเป็นปวดหัวจากความ
00:14:06 → 00:14:08 เครียดจากอย่างอื่นเนี่ยส่วนใหญ่อ่ะอย่าง
00:14:08 → 00:14:10 มากคนไข้จะบอกว่าคลื่นไส้แต่ไม่ถึง
00:14:10 → 00:14:14 อาเจียนออกมายกเว้นแค่ไมเกรนที่อาการ
00:14:14 → 00:14:16 คลื่นไส้อาเจียนเป็นหนึ่งในอาการร่วมของ
00:14:16 → 00:14:20 คนไข้ปวดไมเกรนได้นะคะแต่ว่าปวดในไมเกรน
00:14:20 → 00:14:23 คนไข้มักจะเป็นอาเจียนในไมเกรนคนไข้มักจะ
00:14:23 → 00:14:28 เป็นปวดแบบปวดขึ้นมาก่อนแล้วก็รู้สึกพอ
00:14:28 → 00:14:31 ปวดมากๆก็จะรู้สึกว่าคลื่นไส้อาเจียนนะคะ
00:14:31 → 00:14:34 แต่สำหรับคนไข้ที่มีก็หรือว่ามีเนื้องอก
00:14:34 → 00:14:36 ในสมองเนี่ยอันนี้มักจะเป็นอาจารย์อาการ
00:14:36 → 00:14:39 อาเจียนแบบไม่สัมพันธ์กับตอนปวดหัวหรือ
00:14:39 → 00:14:41 ว่าเป็นอาเจียนพุ่งออกมาเลยซึ่งส่วนใหญ่
00:14:41 → 00:14:43 เนี่ยอาการมักจะเกิดช่วงหลังตื่นนอนเลย
00:14:43 → 00:14:46 ยังไม่ทันทานอาหารอะไรเข้าไปเลยก็อาเจียน
00:14:46 → 00:14:48 พวกออกมาแล้วซึ่งเกิดจากการที่แรงดันใน
00:14:48 → 00:14:51 สมองมันเพิ่มมากขึ้นนะคะแล้วก็ลักษณะของ
00:14:51 → 00:14:54 อาการปวดหัวจากเนื้องอกเนี่ยส่วนใหญ่แล้ว
00:14:54 → 00:14:56 เนี่ยมักจะต้องมีอาการร่วมอื่นๆจากการที่
00:14:56 → 00:14:59 แรงดันในสมองเนี่ยมันเพิ่มขึ้นด้วยเช่น
00:14:59 → 00:15:03 ซักประวัติดีๆจะรู้สึกว่าคนไข้เนี่ยดูช้า
00:15:03 → 00:15:06 ลงดูซึมลงหรือว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
00:15:06 → 00:15:09 นะคะบางคือถ้าถึงขั้นแขนขาอ่อนแรง
00:15:09 → 00:15:11 อันเนี้ยไม่ค่อยมีปัญหาปัญหาเพราะว่ายัง
00:15:11 → 00:15:14 ไงก็ต้องตรวจสแกนสมองอยู่แล้วนะคะโรคปวด
00:15:14 → 00:15:16 หัวอื่นๆที่เป็นโรคปวดหัวเรื้อรังไม่ว่า
00:15:16 → 00:15:18 จะเป็นไมเกรนเทนชั่นกล้ามเนื้อแล้วแต่
00:15:18 → 00:15:21 ส่วนใหญ่ก็คือต้องไม่มีอาการผิดปกติทาง
00:15:21 → 00:15:23 ระบบประสาทอยู่แล้วต้องไม่มีอ่อนแรงไม่มี
00:15:23 → 00:15:27 ชานะคะถ้าชัดๆถึงขั้นมีชามีแขนขาอ่อนแรง
00:15:27 → 00:15:29 ปากเบี้ยวพูดไม่ชัดอันไหนยังไงก็ต้องไป
00:15:29 → 00:15:31 สแกนสมองไปหาสาเหตุอยู่แล้วแต่มันจะมี
00:15:31 → 00:15:35 อาการบางอาการที่ก้ำกึ่งดูไม่ได้ชัดเจน
00:15:35 → 00:15:38 มากแต่ว่าเป็นอาการที่อาจจะทำให้สงสัยว่า
00:15:38 → 00:15:41 มีเรื่องของมีตัวก้อนหรือว่ามีความผิด
00:15:41 → 00:15:43 ปกติในสมองได้ก็คือเรื่องของพฤติกรรมที่
00:15:43 → 00:15:47 อาจจะเปลี่ยนไปค่ะเคยเจอแบบว่าบางทีแบบ
00:15:47 → 00:15:50 อ่ามีคุณยายที่มีก้อนเนื้องอกในสมองเนี่ย
00:15:50 → 00:15:53 มาด้วยแบบเหมือนเอ่อญาติสังเกตแค่ว่าคุณ
00:15:53 → 00:15:56 ยายดูหงุดหงิดขึ้นจากเดิมที่เป็นคนแบบ
00:15:56 → 00:15:58 เป็นคนแบบเงียบๆเรียบร้อยมากแต่ว่า
00:15:58 → 00:16:00 พฤติกรรมดูเปลี่ยนแปลงไปดูฉุนเฉียวดูไม่
00:16:00 → 00:16:03 สมเหตุสมผลนะคะซึ่งสุดท้ายเนี่ยเอ่อจะทำ
00:16:03 → 00:16:05 แล้วก็เจอว่ามันมีตัวก้อนจริงๆนะคะมัน
00:16:05 → 00:16:08 เป็นเกิดจากการที่มันมีแรงดันในสมองเพิ่ม
00:16:08 → 00:17:10 มากขึ้นก็เลยทำให้ส่งผล
00:17:10 → 00:17:12 ถ้าเกิดเป็นเรื่องของเนื้องอกส่วนใหญ่
00:17:12 → 00:17:15 เวลาแดงดันในสมองเพิ่มมากขึ้นเวลาการมอง
00:17:15 → 00:17:17 เห็นที่ผิดปกติจะเป็นเรื่องของแบบมองเห็น
00:17:17 → 00:17:20 ภาพซ้อนไปเลยหรือว่าเห็นภาพแบบผิดปกติไป
00:17:20 → 00:17:23 เลยนะคะอันนี้ก็จะทำให้เราสงสัยมากขึ้นนะ
00:17:23 → 00:17:25 คะงั้นเนี่ยใครถ้าเกิดมีอาการปวดหัว
00:17:25 → 00:17:28 เรื้อรังนะคะปวดไม่หายแล้วมีอาการต่างๆ
00:17:28 → 00:17:32 ที่กล่าวมาอย่างนี้นะคะคืออาเจียนพุ่งปวด
00:17:32 → 00:17:35 มากขึ้นเรื่อยๆทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นกินยา
00:17:35 → 00:17:38 แล้วก็เริ่มไม่ดีขึ้นมีอาการที่สงสัยว่า
00:17:38 → 00:17:42 สมองจะทำงานผิดปกติบางอย่างเช่นความจำแย่
00:17:42 → 00:17:45 ลงพฤติกรรมเปียกนิสัยเปลี่ยนอะไรแบบเนี้ย
00:17:45 → 00:17:49 กลุ่มเนี้ยเป็นกลุ่มที่อาจจะต้องรีบมาหา
00:17:49 → 00:17:52 หมอเพื่อตรวจสแกนคอมพิวเตอร์สมองนะคะด้วย
00:17:52 → 00:17:54 CT หรือ MRI อะไรก็แล้วแต่เพื่อดูว่า
00:17:54 → 00:17:57 สาเหตุของที่เป็นปวดหัวเนี่ยเป็นจากอะไร
00:17:57 → 00:18:00 นะคะส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นเรื่องของพวก
00:18:00 → 00:18:03 ไม่แกล้งปวดความเครียดปวดเห็นท่านปวด
00:18:03 → 00:18:05 กล้ามเนื้อหรือว่าการทานยาแก้ปวดเกินขนาด
00:18:05 → 00:18:08 กลุ่มนั้นเนี่ยมักจะต้องตรวจไม่เจอความ
00:18:08 → 00:18:12 ผิดปกตินะคะของระบบประสาทแต่แล้วก็ MRI
00:18:12 → 00:18:14 ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ถ้าเกิด
00:18:14 → 00:18:17 ประวัติค่อนข้างชัดเจนนะคะแล้วก็ทำต่อให้
00:18:17 → 00:18:21 ทำไปเนี่ยก็มักจะปกตินะคะแต่กลุ่มนี้ก็
00:18:21 → 00:18:23 ต้องมาหาหมอเหมือนกันอาจจะไม่ได้รีบเท่า
00:18:23 → 00:18:26 กับกลุ่มที่สงสัยว่ามีเนื้องอกแต่กลุ่ม
00:18:26 → 00:18:29 นี้นะคะถ้าเกิดไม่รักสานะคะหรือปล่อยทิ้ง
00:18:29 → 00:18:32 ไว้เนี่ยส่วนใหญ่อ่ะ 1 คนไข้ก็มักจะมี
00:18:32 → 00:18:35 อาการแย่ลงเรื่อยๆปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ
00:18:35 → 00:18:37 จากปวดที่ไม่ทุกวันกลายเป็นปวดทุกวันแล้ว
00:18:37 → 00:18:40 ก็มักจะมีความเสี่ยงจากการใช้ยาแก้ปวดนี่
00:18:40 → 00:18:43 แหละค่ะบางคนก็คือกินยาแก้ปวดจนหลับ
00:18:43 → 00:18:45 กระเพาะทะลุไปเลยหรือว่าแบบไปมีปัญหาการ
00:18:45 → 00:18:47 ทำงานของไตแย่ลงอะไรอย่างเงี้ยนะคะเพราะ
00:18:47 → 00:18:49 ฉะนั้นต่อให้เป็นกลุ่มที่มันเป็นโรคปวด
00:18:49 → 00:18:52 ศีรษะที่ปวดไม่หายปวดเรื้อรังที่ไม่ได้
00:18:52 → 00:18:55 รุนแรงก็ควรจะรักษาเหมือนกันนะคะเพราะ
00:18:55 → 00:18:57 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยกลุ่มนี้นะคะถ้าได้
00:18:57 → 00:19:01 รักษาจริงๆนะคะแบบส่วนใหญ่เนี่ยอาการก็ดี
00:19:01 → 00:19:04 ขึ้นนะคะดีขึ้นมากน้อยใช้ระยะเวลาอาจจะ
00:19:04 → 00:19:06 แตกต่างกันไปตามสาเหตุของแต่ละคนแต่ยังไง
00:19:06 → 00:19:08 ก็ดีขึ้นนะคะส่วนใหญ่ที่ไม่ดีขึ้นเนี่ย
00:19:08 → 00:19:11 เพราะว่าเป็นเพราะว่าคนไข้ส่วนใหญ่จะคิด
00:19:11 → 00:19:14 ว่าแบบกลุ่มพวกนี้คือลองมาหมดแล้วเช่นเคย
00:19:14 → 00:19:17 อาจจะเคยไปรักษาแล้วแล้วมันก็ไม่ดีอ่ะลอง
00:19:17 → 00:19:20 ซื้อยากินเองซื้อยากินเองแล้วมันดีงั้นก็
00:19:20 → 00:19:22 ซื้อยากินเองไปก่อนดีกว่าอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:19:22 → 00:19:25 คือทำมาหลายวิธีนะคะแล้วพอมันไม่ดีขึ้น
00:19:25 → 00:19:28 สุดท้ายอ่ะคนไข้เขาก็จะรู้สึกว่างั้นอยู่
00:19:28 → 00:19:31 กับมันก็ได้อยู่กับปวดหัวนี้ก็ได้นะคะ
00:19:31 → 00:19:33 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยไม่อยากให้คิดแบบนั้น
00:19:33 → 00:19:35 นะคะเพราะว่าถ้าเรารักษาอาการปวดหัว
00:19:35 → 00:19:40 เรื้อรังได้ถูกต้องกับโรคจริงๆนะคะมักจะ
00:19:40 → 00:19:43 ดีขึ้นแล้วก็ทำให้หยุดยาแก้ปวดหรือว่าไม่
00:19:43 → 00:19:45 ต้องใช้ยาแก้ปวดเกินความจำเป็นได้นะคะ
00:19:45 → 00:19:47 เนาะ
00:19:47 → 00:19:50 เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีใครมีอาการปวดหัว
00:19:50 → 00:20:53 ยังไงบ้างนะคะ
00:20:53 → 00:20:56 ยิ่งรักษาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะรักษาได้
00:20:56 → 00:20:59 ง่ายกว่านะคะแล้วก็หยุดการป้องกันภาวะการ
00:21:00 → 00:21:02 แบบใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดได้ก็เราจะหยุดการ
00:21:02 → 00:21:05 ใช้ยาแก้ปวดได้เร็วขึ้นนะคะถ้าเป็นไมเกรน
00:21:05 → 00:21:08 เรื้อรังก็แนะนำให้รักษาแล้วนะคะ
00:21:08 → 00:21:12 รบกวนสอบถามคุณหมอหน่อยครับผมมีอาการปวด
00:21:12 → 00:21:15 หัวมึนหัวหลังรับประทานอาหารอิ่มๆเป็นมา 2
00:21:15 → 00:21:18 เดือนแล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไรส่วนใหญ่ถ้า
00:21:18 → 00:21:21 เกิดเป็นอาการมึนหัวนะคะหลังทานอาหารอัน
00:21:21 → 00:21:24 นี้ก็เป็นอาการที่เจอได้นะคะหลายคนก็บอก
00:21:24 → 00:21:27 รู้สึกว่าพอกินอาหารปุ๊บรู้สึกมึนศีรษะ
00:21:27 → 00:21:29 ทันทีเลยนะคะลักษณะการปวดแบบนี้จะเป็น
00:21:29 → 00:21:32 เหมือนมึนๆแถวท้ายทอยมากกว่าซึ่งหลายคน
00:21:32 → 00:21:34 น่ะก็มักจะถามว่าเป็นจากไขมันสูงหรือ
00:21:34 → 00:21:39 เปล่ามีคนไข้เคยแบบเหมือนพอทานๆบุฟเฟ่ต์
00:21:39 → 00:21:41 หรือว่าทานอาหารของมันๆเสร็จปุ๊บแล้วรู้
00:21:41 → 00:21:43 สึกมึนหัวเมืองท้ายทอยก็เลยวันลุกขึ้นเลย
00:21:43 → 00:21:45 รีบไปเจาะดูไขมันก่อนเลยเพราะว่ากลัวว่า
00:21:45 → 00:21:48 ไขมันสูงแล้วไปอุดตันเส้นเลือดนะคะจริงๆ
00:21:48 → 00:21:51 แล้วถามว่าเกี่ยวกันไหมไขมันที่สูงเนี่ย
00:21:51 → 00:21:54 ไม่ได้ทำให้ไข่หรือว่าการเป็นของมันๆ
00:21:54 → 00:21:56 เฉียบพลันเนี่ยไม่ได้ไปทำให้ไขมันอุดตัน
00:21:56 → 00:21:59 เส้นเลือดเฉียบพลันนะคะแต่ว่าการกินของ
00:21:59 → 00:22:02 มันๆทานอาหารแคลอรี่เยอะๆอะไรพวกนี้หรือ
00:22:02 → 00:22:05 ว่าทานอาหารอิ่มเกินไปเนี่ยมันสามารถทำ
00:22:05 → 00:22:07 ให้มีอาการมึนหัวปวดหัวได้จากการที่
00:22:07 → 00:22:10 เหมือนถ้าเป็นคำโบราณเขาก็จะบอกว่าเหมือน
00:22:10 → 00:22:12 หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนก็คือพอเรา
00:22:12 → 00:22:16 ทานอาหารนะคะเลือดมันก็จะพยายามไปเลี้ยง
00:22:16 → 00:22:18 กระเพาะอาหารมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดการ
00:22:18 → 00:22:22 ย่อยอาหารและก็แล้วแต่นะคะบางคนเนี่ย
00:22:22 → 00:22:24 มันก็จะทำให้เหมือนเลือดไปเลี้ยงสมองน้อย
00:22:24 → 00:22:27 ลงซึ่งบางคนเนี่ยบางทีพอวัดความดันน่ะเรา
00:22:27 → 00:22:31 จะเจอเลยว่ามีภาวะความดันต่ำนะคะจากจาก
00:22:31 → 00:22:34 ตอนช่วงหลังทานอาหารนะคะซึ่งอันเนี้ยก็จะ
00:22:34 → 00:22:37 ทำให้มีอาการรู้สึกเป็นมึนหัวปวดหัวหลัง
00:22:37 → 00:22:39 ท้ายทอยหลังทานอาหารได้นะคะก็ต้องลอง
00:22:39 → 00:22:42 สังเกตอาการดูว่าเออถ้าเกิดเป็นจากร้าน
00:22:42 → 00:22:45 อาหารที่เรากินทุกครั้งนะคะ 1 ลองดูซิว่า
00:22:45 → 00:22:47 เรามีภาวะแบบเหมือนเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
00:22:47 → 00:22:50 หรือว่าแบบความดันต่ำหรือเปล่านะคะ 2
00:22:50 → 00:22:52 อาหารสัมพันธ์กับอาหารที่ทานไหมเช่นอาหาร
00:22:52 → 00:22:54 บางอย่างเนี่ยกระเพื่อการได้โดยเฉพาะพวก
00:22:54 → 00:22:58 อาหารผงชูรสก็กระตุ้นไมเกรนได้หรือว่าตัว
00:22:58 → 00:23:01 ผงชูรสเองก็ทำให้มีอาการปวดหัวได้หรือคน
00:23:01 → 00:23:04 ไข้ไมเกรนเองเนี่ยค่ะคือสมมุติว่าแบบมี
00:23:04 → 00:23:06 อาหารบางอย่างที่แบบกินทุกครั้งแล้วปวด
00:23:06 → 00:23:10 หัวทุกครั้งเช่นบางคนบอกว่ากินกาแฟหรือ
00:23:10 → 00:23:13 ว่ากินแอลกอฮอล์แล้วปวดหัวทุกครั้งก็
00:23:13 → 00:23:16 สังเกตว่าเป็นปวดหัวแบบปวดไมเกรนไหมแล้ว
00:23:16 → 00:23:19 สัมพันธ์กับอาหารอันนี้ไหมนะคะเนาะถ้า
00:23:19 → 00:23:21 เป็นหลังจากทานอาหารอิ่มๆแล้วเป็นมา 2
00:23:21 → 00:23:23 เดือนลองดูนะคะบอกว่า 1 ลองดูสัมพันธ์กับ
00:23:23 → 00:23:26 อาหารที่กินไหม 2 ทานเยอะไปหรือเปล่านะคะ
00:23:26 → 00:23:30 คือถ้าเกิดทานอิ่มไปทานแน่นไปนะคะรองลด
00:23:30 → 00:23:34 วิธีการปรับเนื้อหานะคะเป็นแบบทานน้อยๆ
00:23:34 → 00:23:38 แต่บ่อยๆแทนนะคะแล้วก็วิธีป้องกันอีกอัน
00:23:38 → 00:23:41 นึงที่ทำได้ก็คือเราอาจจะดื่มน้ำนะคะให้
00:23:41 → 00:23:44 มากพอเพราะว่าหลายคนที่มีอาการปวดหัวหลัง
00:23:44 → 00:23:45 ทานข้าวเนี่ยบางทีความดันต่ำหรืออะไร
00:23:45 → 00:23:48 เงี้ยค่ะเราก็พยายามดื่มน้ำเข้าไปก่อนนะ
00:23:48 → 00:23:50 คะดื่มให้เพียงพอก่อนก่อนที่จะรับประทาน
00:23:50 → 00:23:52 อาหารแล้วก็หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้น
00:23:52 → 00:23:55 อาการนะคะเพราะว่าอาหารไขมันสูงพวกของทอด
00:23:55 → 00:23:58 ของมันนะคะพวกอาหารแคลอรี่เยอะๆที่ย่อย
00:23:58 → 00:24:01 ยากๆนะคะพวกเนื้อสเต็กต่างๆแล้วก็พวกผงชู
00:24:01 → 00:24:05 รสด้วยก็อาจจะช่วยอาการได้นะคะลองดูนะคะ
00:24:05 → 00:24:09 เวียนหัวเดินเซนะคะอันนี้เป็นอีกเรื่อง
00:24:09 → 00:24:12 นึงเลยนะคะก็คือถ้าเกิดแบบ
00:24:12 → 00:24:15 เป็นเรื่องของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
00:24:15 → 00:24:17 เวียนหัวแต่ว่าก็จะมีเวียนหัวที่สัมพันธ์
00:24:18 → 00:24:19 กับปวดหัวด้วยถ้ามีเวียนหัวแล้วปวดหัว
00:24:19 → 00:24:21 ร่วมด้วยได้ก็ต้องระวังว่าอาจจะเป็นกลุ่ม
00:24:21 → 00:24:25 ไมเกรนที่เป็นเวียนหัวร่วมด้วยได้นะคะแต่
00:24:25 → 00:24:27 ถ้าเกิดไม่มีสัมพันธ์กับอาการปวดหัวเลย
00:24:27 → 00:24:29 เป็นเวียนหัวอย่างเดียวเลยเราก็ไม่รู้สึก
00:24:29 → 00:24:31 ว่ามีเดินเซด้วยอันนี้อาจจะต้องไปตรวจนะ
00:24:31 → 00:24:34 คะเพราะว่าเวียนหัวโดยทั่วๆไปอ่ะที่เป็น
00:24:34 → 00:24:38 จากการแบบพักผ่อนน้อยหรือว่าเป็นจากเอ่อ
00:24:38 → 00:24:41 ปัญหาเรื่องของในหูเช่นน้ำในหูไม่เท่ากัน
00:24:41 → 00:24:43 หินปูนหลุดอะไรอย่างเงี้ยค่ะส่วนใหญ่จะ
00:24:43 → 00:24:46 เป็นเวียนหัวบ้านหมุนนะคะแต่ว่ามักจะไม่
00:24:46 → 00:24:49 ได้มีปัญหาเรื่องของการทรงตัวแบบเดินเซ
00:24:49 → 00:24:52 ที่ผิดปกติร่วมด้วยนะคะคือถ้ามีเนี่ยมัน
00:24:52 → 00:24:54 ก็จะมีแค่ช่วงอาการที่มีเวียนหัวบ้านหมุน
00:24:54 → 00:24:57 ตอนนั้นที่รู้สึกเดินไม่ได้แต่ในช่วงเวลา
00:24:57 → 00:24:59 อื่นๆที่ไม่ได้เวียนหัวการเดินจะต้องปกติ
00:25:00 → 00:25:02 นะคะแต่ถ้าเกิดรู้สึกว่ามีเวียนหัวด้วยมี
00:25:02 → 00:25:05 เดินเซร่วมด้วยนะคะโดยที่แบบอาการเกิด
00:25:05 → 00:25:07 ขึ้นตลอดแล้วไม่หายไปนี้อาจจะต้องไปตรวจ
00:25:07 → 00:25:09 เหมือนกันนะคะ
00:25:09 → 00:25:12 คุณหมอคะถ้าเกิดปวดหัวอยู่แล้วดื่มกาแฟจะ
00:25:12 → 00:25:15 ทำให้แย่ลงหรือเปล่านะคะเรื่องของกาแฟ
00:25:15 → 00:25:19 ส่วนใหญ่แล้วขึ้นกับหลายคนเลยนะคะต้องลอง
00:25:19 → 00:25:23 สังเกตอาการตัวเองดูว่าคือกาแฟเนี่ยก็
00:25:23 → 00:25:26 สามารถกระตุ้นทั้งปวดหัวได้หรือบางคนขาด
00:25:26 → 00:25:28 กาแฟก็ปวดหัวได้นะคะลองสังเกตดูส่วนใหญ่
00:25:28 → 00:25:30 ที่หมอเจอมาก็คือถ้าเกิดคนที่ดื่มกาแฟ
00:25:30 → 00:25:33 เป็นประจำอยู่แล้วนะคะแล้วถ้าไม่ได้ดื่ม
00:25:33 → 00:25:35 กาแฟอันนี้ม๊าจะกระตุ้นให้เกิดปวดหัวแทน
00:25:35 → 00:25:38 นะคะมันเหมือนเป็นภาวะติดคาเฟอีนอย่างนึง
00:25:38 → 00:25:41 นะคะพอไม่ได้ทานคาเฟอีนเข้าไปก็กระตุ้น
00:25:41 → 00:25:44 ให้เกิดอาการปวดหัวได้นะคะแต่ถ้าเกิดแบบ
00:25:44 → 00:25:47 คนที่ไม่เคยทานกาแฟอยู่ก่อนเลยนะคะแบบ
00:25:47 → 00:25:49 แล้วอยู่ดีก็ทานกาแฟเข้าไปเนี่ยอันนี้อาจ
00:25:49 → 00:25:52 จะมีอาการปวดหัวจากที่รู้สึกใจสั่นในกาแฟ
00:25:52 → 00:25:55 ก็จะมีที่ทำให้เรารู้สึกแบบความดันขึ้น
00:25:55 → 00:25:58 ได้มีใจสั่นได้นะคะคนที่ไม่เคยกินกาแฟ
00:25:58 → 00:26:01 หรือกินคาเฟอีนกินโกโก้กินชามาก่อนอยู่ดี
00:26:01 → 00:26:02 ๆไปดื่มเครื่องดื่มพวกนี้ก็รู้สึกว่า
00:26:02 → 00:26:04 กระตุ้นให้อาจเกิดอาการปวดหัวได้เหมือน
00:26:04 → 00:26:07 กันนะคะหรือว่าถ้าเกิดเป็นกลุ่มที่เรา
00:26:07 → 00:26:11 เป็นไมเกรนเองเนี่ยก็จะมีทั้งที่ตัวกาแฟ
00:26:12 → 00:26:14 ก็เป็นตัวหนึ่งในตัวกระตุ้นไมเกรนก็ได้นะ
00:26:14 → 00:26:17 คะหรือคนไข้ไมเกรนบางคนก็จะบอกว่ากินกาแฟ
00:26:17 → 00:26:20 แล้วดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิด
00:26:20 → 00:26:22 สมมุติว่ามีอาการปวดหัวอยู่เนี่ยก็ลอง
00:26:22 → 00:26:24 สังเกตอาการตัวเองดูได้เลยนะคะว่าเราเป็น
00:26:24 → 00:26:28 กลุ่มไหนถ้าโดยทั่วไปค่ะที่หมอเจอมาคือ
00:26:28 → 00:26:29 ถ้าเกิดสมมุติว่าเราดื่มเป็นประจำทุกวัน
00:26:29 → 00:26:32 อยู่แล้วนะคะอันนี้ก็คือดื่มต่อได้ตัว
00:26:32 → 00:26:34 กาแฟไม่ได้มากระตุ้นอาการอะไรให้เราแย่ลง
00:26:34 → 00:26:37 นะคะแต่ถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่ได้ดื่ม
00:26:37 → 00:26:39 เป็นประจำนะคะอันนี้ก็คือควรหลีกเลี่ยง
00:26:39 → 00:26:41 ไม่ควรเอากาแฟมาเป็นแบบหนึ่งในการรักษา
00:26:41 → 00:26:44 อาการปวดหัวอะไรแบบนั้นนะคะเนาะ
00:26:44 → 00:26:47 เวลาปวดหัวจะปวดตรงท้ายทอยใช้ไม้กดแล้ว
00:26:48 → 00:26:51 ปล่อยจะโล่งมากแต่ไม่หายพอสังเกตคือถ้า
00:26:51 → 00:26:53 นอนไม่พอจะเป็นทันทีเลยแต่บางทีก็เป็นจาก
00:26:53 → 00:26:56 ความเครียดคือถ้ากลุ่มนี้นะคะของคุณอรทัย
00:26:56 → 00:27:00 เนาะก็ถ้าเป็นปวดแบบปวดปวดจากท้ายทอยอ่ะ
00:27:00 → 00:27:03 ค่ะแล้วพอกดแล้วพอปล่อยแล้วรู้สึกว่าโล่ง
00:27:03 → 00:27:05 เนี่ยส่วนใหญ่กลุ่มนี้อันนี้อาจจะเป็นจาก
00:27:05 → 00:27:07 กล้ามเนื้อได้นะคะหรือปวดแบบ tension ก็
00:27:07 → 00:27:09 จะปวดตำแหน่งท้ายทอยได้เหมือนกันคือ
00:27:09 → 00:27:12 tension เนี่ยก็เป็นสัมพันธ์กับพวกกล้าม
00:27:12 → 00:27:14 เนื้อตึงหรือว่าสัมพันธ์กับความเครียด
00:27:14 → 00:27:15 ค่อนข้างเยอะนะคะตำแหน่งก็จะปวดแบบเนี้ย
00:27:15 → 00:27:18 ปวดท้ายทอยพอกดไปแล้วก็รู้สึกโล่งขึ้น
00:27:18 → 00:27:20 สบายขึ้นหรือคนที่มีกล้ามเนื้อตึงเป็น
00:27:21 → 00:27:23 ออฟฟิศซินโดรมคอร์บาไหลตึงมากๆอ่ะค่ะกด
00:27:23 → 00:27:25 ตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งท้ายทอยตรงเนี้ยค่ะ
00:27:25 → 00:27:27 ซึ่งเป็นจุดเกาะกล้ามเนื้อที่มักจะเกิด
00:27:27 → 00:27:29 อ่าการเกร็งตัวเนี่ยก็พอกดแล้วก็ทำให้รู้
00:27:29 → 00:27:33 สึกโล่งขึ้นได้เหมือนกันนะคะซึ่งอ่าไม่
00:27:33 → 00:27:34 ว่าจะเป็น tension หรือว่าปวดกล้ามเนื้อ
00:27:34 → 00:27:36 หรือว่าปวดจากความเครียดต่างๆเนี่ยอันนี้
00:27:36 → 00:27:39 ก็จะกระตุ้นจากการที่เรามีอดนอนความคิด
00:27:39 → 00:27:42 คิดใช้ความคิดเยอะๆหรือว่ามีความเครียดนะ
00:27:42 → 00:27:45 คะก็จะทำให้เป็นปวดหัวได้บ่อยแบบนี้อยู่
00:27:45 → 00:27:48 แล้วนะคะก็ต้องพยายามลองดูว่าถ้าเกิด
00:27:48 → 00:27:51 เราทำอะไรแล้วเป็นเนี่ยก็พยายามเลี่ยงตัว
00:27:51 → 00:27:52 กระตุ้นน้อยอย่างถ้ารู้ว่านอนไม่พอแล้วจะ
00:27:52 → 00:27:54 เป็นเลยก็ต้องพยายามแบบเข้านอนให้เป็น
00:27:54 → 00:27:58 เวลาเท่าที่ทำได้นะคะพยายามนอนเป็นเวลา
00:27:58 → 00:28:01 เดิมๆนะคะการนอนเวลาเดิมๆจะทำให้ร่างกาย
00:28:01 → 00:28:03 เหมือนนาฬิกาชีวิตของเราทำงานได้เป็นปกติ
00:28:03 → 00:28:05 มากขึ้นดีกว่าแบบวันนี้เรานอนเร็ววันนี้
00:28:05 → 00:28:07 เรานอนดึกอย่างเงี้ยค่ะนาฬิกาชีวิตจะรวน
00:28:07 → 00:28:09 ก็ทำให้หลับได้ไม่สนิทไม่เต็มที่นะคะก็
00:28:09 → 00:28:14 พยายามเซ็ตเวลาเดินๆให้ให้ร่างกายเราเกิด
00:28:14 → 00:28:18 ความเคยชินนะคะถ้ารู้สึกว่าปวดมากนะคะอัน
00:28:18 → 00:28:21 นี้ลองทำกายภาพลองยืดกล้ามเนื้อหรือว่า
00:28:21 → 00:28:25 คลายกล้ามเนื้อบริเวณแถวท้ายทอยคอบ่าไหล่
00:28:25 → 00:28:28 ก็จะช่วยลดอาการที่ปวดขึ้นไปศีรษะได้นะคะ
00:28:28 → 00:28:30 แล้วก็ต้องดื่มน้ำให้พอด้วยเพราะส่วนใหญ่
00:28:30 → 00:28:33 เนี่ยพอถ้าเกิดเราขาดนานปุ๊บดื่มน้ำไม่พอ
00:28:33 → 00:28:35 เนี่ยก็มักจะกระตุ้นให้เรารู้สึกปวดหัว
00:28:35 → 00:28:39 มากขึ้นมึนหัวมากขึ้นด้วยนะคะ
00:28:39 → 00:28:42 เป็นไมเกรนแบบ cluster ค่ะปวดหัวต่อ
00:28:42 → 00:28:44 เนื่องมาครึ่งเดือน
00:28:44 → 00:28:49 จริงๆไมเกรนกับ cluster เนี่ยแยกกันนะคะ
00:28:49 → 00:28:52 อาจจะมีลักษณะบางอย่างที่มันคล้ายคลึงกัน
00:28:52 → 00:28:56 ได้นะคะแต่ว่าถามว่าจริงๆแล้วมันต้องคน
00:28:56 → 00:28:58 ไข้อาจจะไม่ได้จำเป็นจะต้องแยกจากกันโดย
00:28:58 → 00:29:02 ชัดเจนแต่ว่าให้รู้ว่าไม่อาจจะเป็นไมเกรน
00:29:02 → 00:29:04 หรือ cluster ก็ได้นะคะลองสังเกตอาการตัว
00:29:04 → 00:29:08 เองดูนะคะตัวอาการปวดมันจะคล้ายๆการคือ
00:29:08 → 00:29:11 มันเป็นความปวดจากที่มีการกระตุ้นระบบ
00:29:11 → 00:29:12 ประสาทและหลอดเลือดเพราะฉะนั้นเนี่ยความ
00:29:12 → 00:29:15 ปวดมันจะปวดค่อนข้างรุนแรงทั้งคู่เลยทั้ง
00:29:15 → 00:29:17 ในเกมและ cluster เลยคือปวดแบบตุ๊บๆ
00:29:17 → 00:29:20 เหมือนหลอดเลือดเต้นนะคะอ่าไมเกรนจะมี
00:29:20 → 00:29:24 ลักษณะจำเพาะบางอย่างนะคะเช่นเอ่อมักจะมี
00:29:24 → 00:29:27 ไม่ชอบเสียงดังไม่ชอบแสงจ้านะคะแล้วเรียก
00:29:27 → 00:29:30 กลัวแสงกลัวเสียงมักจะมีคลื่นไส้อาเจียน
00:29:30 → 00:29:32 ร่วมด้วยแล้วก็มักจะมีตัวกระตุ้นที่ค่อน
00:29:32 → 00:29:36 ข้างชัดเจนนะคะแบบประจำเดือนอดนอน
00:29:36 → 00:29:39 แอลกอฮอล์อาหารบางอย่างนะคะตัวกระตุ้นมัน
00:29:39 → 00:29:41 จะค่อนข้างชัดลักษณะมันจะค่อนข้างชัดแล้ว
00:29:41 → 00:29:44 ก็เวลาปวดไมเกรนเนี่ยจะค่อนข้างนานคือ
00:29:44 → 00:29:47 อย่างน้อยเนี่ย 3-4 ชั่วโมงขึ้นไปเลยแล้ว
00:29:47 → 00:29:49 ก็ปวดได้นานถึง 2-3 วันเลยถ้าไม่ได้กินยา
00:29:49 → 00:29:52 อะไรนะคะแต่ cluster เนี่ยลักษณะอาการปวด
00:29:52 → 00:29:54 เขาจะคล้ายๆไมเกรนนั่นแหละแต่ cluster จะ
00:29:54 → 00:29:57 มาเป็นแบบเป็นชุดๆเป็นช่วงๆมากกว่านะคะ
00:29:57 → 00:30:00 คือมันสั้นกว่าแต่มาได้ถี่กว่าเช่นถ้าปวด
00:30:00 → 00:30:02 ไมเกรนนะวันนั้นมาแล้วนะวันนั้นไมเกรน
00:30:02 → 00:30:05 กำเริบก็คือยิงยาวทั้งวันแต่ถ้าเป็น
00:30:05 → 00:30:07 cluster เนี่ยมันอาจจะปวดแบบรุนแรงปวด
00:30:07 → 00:30:10 แบบปุ๊บๆๆๆไม่กี่นาทีแล้วก็ 2-3 ชั่วโมง
00:30:10 → 00:30:13 หายไปอ่ะแต่บ่ายๆอาจจะมาใหม่อีกปุ้บๆๆๆๆ
00:30:13 → 00:30:16 แล้วก็หายไปแล้วก็มาอีกก็คือเป็นแบบเป็น
00:30:16 → 00:30:19 ชุดๆนะคะแล้วก็คัตเตอร์มักจะมีอาการของ
00:30:19 → 00:30:22 พวกระบบประสาทอัตโนมัติที่แบบอาจจะทำให้
00:30:22 → 00:30:24 เราแยกจากไมเกรนได้อย่างเช่นพวกเรื่องของ
00:30:24 → 00:30:29 แบบหนังตาบวมหนังตาตกดูตาแดงหรือมีน้ำตา
00:30:29 → 00:30:31 ไหลจมูกตันอย่างเงี้ยเป็นอาการของระบบ
00:30:31 → 00:30:34 ประสาทอัตโนมัติค่อนข้างเยอะนะคะคัตเตอร์
00:30:34 → 00:30:36 มีกลัวแสงได้เหมือนกันแต่ว่าจะไม่ค่อยมี
00:30:36 → 00:30:39 เรื่องของแบบอ่าเสียงดังอะไรอย่างเงี้ย
00:30:39 → 00:30:41 เหมือนชัดเจนเข้าไมเกรนหรือเรื่องกลิ่น
00:30:41 → 00:30:43 อย่างเงี้ยค่ะเรื่องกลิ่นก็จะแบบค่อนข้าง
00:30:43 → 00:30:46 แบบเป็นเรื่องแบบไมเกรนตัวกระตุ้นไมเกรน
00:30:46 → 00:30:48 ค่อนข้างชัดกว่าแต่ว่าบางทีมันก็ก้ำกึ่ง
00:30:48 → 00:30:53 กลางนะคะเอ่ออาจจะไม่อ่าหน้าที่ของการแยก
00:30:53 → 00:30:56 หรือการแยกโรคเนี่ยอาจจะเป็นลองปรึกษาคุณ
00:30:56 → 00:30:58 หมอดูเนาะว่าของเราน่าจะเข้าข่ายอันไหน
00:30:58 → 00:31:01 มากกว่าจริงๆการรักษาคล้ายๆกันแต่มีราย
00:31:01 → 00:31:03 ละเอียดของการรักษาที่แตกต่างกันบ้างนิด
00:31:03 → 00:31:05 หน่อยนะคะเรื่องของยาหรือเรื่องขนาดยาที่
00:31:05 → 00:31:08 ใช้หรือว่าระยะเวลาที่จะต้องรักษานะคะ
00:31:08 → 00:31:11 เนาะ
00:31:11 → 00:31:18 ก็มีคำถามอีกไหมเดี๋ยวนะคะ
00:31:18 → 00:31:20 ใครมีคำถามก็ถามเข้ามาได้เลยนะคะวันนี้
00:31:20 → 00:31:24 เน้นตอบคำถามเรื่องปวดหัวให้
00:31:24 → 00:31:28 ขานิดนึง
00:31:28 → 00:31:30 โอเค
00:31:30 → 00:31:33 ก็ถ้าไม่มีคำถามนะคะก็เดี๋ยวทิ้งไว้ก็ได้
00:31:33 → 00:31:43 นะคะเดี๋ยวถ้าเกิดมีเดี๋ยวนะคะ
00:31:43 → 00:31:46 อันนี้เป็นคำถาม
00:31:46 → 00:31:50 ปวดมา 8 ปีแล้วปวดหัวช่วงใกล้เป็นประจำ
00:31:50 → 00:31:53 เดือนมีผลจากฮอร์โมนเปลี่ยนไหมคะก็ถ้า
00:31:54 → 00:31:56 เป็นปวดหัวช่วงใกล้เป็นประจำเดือนนะคะเรา
00:31:56 → 00:32:00 ก็จะมีผลจากฮอร์โมนค่ะคือภาวะปวดหัวช่วง
00:32:00 → 00:32:02 มีประจำเดือนเนี่ยเป็นได้ทั้ง 2 อย่างนะ
00:32:02 → 00:32:05 คะอันแรกก็คือเป็นไมเกรนที่เป็นช่วงประจำ
00:32:05 → 00:32:08 เดือนนะคะเราเรียกเลยว่าเป็นเมนส์นะคะ
00:32:08 → 00:32:12 สาเหตุของที่เป็นไมเกรนช่วงเป็นประจำ
00:32:12 → 00:32:14 เดือนส่วนหนึ่งก็คือเกิดจากการฮอร์โมน
00:32:14 → 00:32:15 ช่วงที่ใกล้จะมีรอบเดือนเนี่ยมีการ
00:32:15 → 00:32:18 เปลี่ยนแปลงนะคะฮอร์โมนของผู้หญิงที่เป็น
00:32:18 → 00:32:21 เอสโตรเจนเปอร์เซียก็คือมีการเปลี่ยนแปลง
00:32:21 → 00:32:24 ระดับในช่วงที่จะใกล้ๆมีรอบเดือนนะคะซึ่ง
00:32:24 → 00:32:26 การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตัวนี้เป็นตัว
00:32:26 → 00:32:27 หนึ่งในกระตุ้นไมเกรนเหมือนคนที่เป็น
00:32:27 → 00:32:29 ไมเกรนแล้วไปเจอกลิ่นหรือว่าเป็นไมเกรน
00:32:29 → 00:32:33 แล้วไปเจอแสงนะคะอันนี้ก็จะเป็น 1 ใน
00:32:33 → 00:32:36 อาการที่ทำให้ไมเกรนันกำเริบได้ซึ่ง
00:32:36 → 00:32:38 ลักษณะจำเพาะเลยส่วนใหญ่เนี่ยก็จะปวดก่อน
00:32:38 → 00:32:41 เป็นเมนส์ซัก 2-3 วันนะคะแล้วก็ปวดไปจน
00:32:41 → 00:32:44 ถึงประจำเดือนมาประจำเดือนหมดได้นะคะหรือ
00:32:44 → 00:32:46 บางคนก็อาจจะเป็นปวดตอนเมนส์มาหรือแต่
00:32:46 → 00:32:49 ส่วนใหญ่จะเจอปวดก่อนล่วงหน้าสัก 2-3 วัน
00:32:49 → 00:32:51 นะคะถ้าเป็นกลุ่มที่เป็นไมเกรนที่
00:32:51 → 00:32:53 สัมพันธ์กับรอบเดือนอย่างเดียวเราก็เลือก
00:32:53 → 00:32:55 เลยเป็น men's True เอาไมเกรนนะคะก็คือ
00:32:55 → 00:32:58 เป็นไมเกรนช่วงเมนส์นะคะแต่ถ้าไม่มีตัว
00:32:58 → 00:33:00 กระตุ้นอื่นๆเลยแต่ถ้ามีการ์ตูนกระตุ้น
00:33:00 → 00:33:03 อื่นๆด้วยมีแสงด้วยมีเสียงด้วยมีอะไรด้วย
00:33:03 → 00:33:05 อันนี้ก็คือจะถือว่าประจำเดือนเนี่ยเป็น
00:33:05 → 00:33:07 แค่ 1 ในตัวกระตุ้นนะคะนี้ก็จะมีอีกภาวะ
00:33:07 → 00:33:10 นึงนะคะก็คือเป็นปวดหัวช่วงจะมีประจำ
00:33:10 → 00:33:12 เดือนนั่นแหละอันนั้นเนี่ยก็จะเป็นอาการ
00:33:12 → 00:33:15 นะคะก่อนเราเรียกว่าอาการก่อนมีประจำ
00:33:15 → 00:33:17 เดือนหรือว่าการช่วงมีประจำเดือนนะคะก็
00:33:17 → 00:33:20 คือเป็น polyment อ่า mains toalt
00:33:20 → 00:33:24 Simple นะคะคือ pms เนาะอ่าในใน pms
00:33:24 → 00:33:27 เนี่ยก็คืออาการมีได้หลายอย่างเลยหลายคน
00:33:27 → 00:33:28 ก็จะรู้สึกว่าก่อนจะเป็นประจำเดือนเนี่ย
00:33:28 → 00:33:31 เขามีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทั้งไม่
00:33:31 → 00:33:34 ว่าจะปวดตัวปวดเมื่อยหิวบ่อยกินเยอะคัด
00:33:34 → 00:33:38 ตึงเต้านมอ่ากล้ามเนื้อปวดกล้ามเนื้อปวด
00:33:38 → 00:33:40 หลังอะไรอย่างเงี้ยนะคะซึ่งปวดหัวก็เป็น
00:33:40 → 00:33:43 หนึ่งในอาการนั้นเหมือนกันนะคะซึ่งตรงนี้
00:33:43 → 00:33:46 ก็จะเป็นแบบคนไข้ก็จะเป็นอาการปวดแบบปวด
00:33:46 → 00:33:49 แบบปวดทั่วๆไปปวดมึนๆปวดตึงๆไม่ได้ไม่ได้
00:33:49 → 00:33:52 ปวดชัดเจนถึงขั้นเหมือนปวดไมเกรนมากนะคะ
00:33:52 → 00:33:56 ก็พอประจำเดือนมาหรืออะไรก็หายไปโดยที่
00:33:56 → 00:34:00 ช่วงอื่นที่ไม่มีประจำเดือนก็จะไม่มี
00:34:00 → 00:34:03 อาการปวดหัวเลยนะคะเนาะนี้ถามว่าความ
00:34:03 → 00:34:06 สำคัญของภาวะนี้คืออะไรนะคะถ้าเกิดเป็น
00:34:06 → 00:34:08 ปวดหัวช่วงมีประจำเดือนอย่างเดียวเท่า
00:34:08 → 00:34:11 นั้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยต้องทำอะไรนะคะเอ่อก็
00:34:11 → 00:34:16 จะให้อ่าต้องการโดยการอ่านดื่มน้ำเยอะๆนะ
00:34:16 → 00:34:19 คะก็ช่วยได้นะคะนอนให้พอช่วงก่อนประจำ
00:34:19 → 00:34:23 เดือนมานะคะหรือเอ่อแบบบางคนที่มีอาการ
00:34:23 → 00:34:26 เยอะมากๆเนี่ยค่ะการทานทานยาป้องกันหรือ
00:34:26 → 00:34:29 ว่าทานแบบอ่าตัวแบบอ่าวิตามินบางอย่าง
00:34:29 → 00:34:31 แมกนีเซียมอย่างเงี้ยก็ช่วยลดอาการก่อนมี
00:34:31 → 00:34:34 ประจำเดือนได้นะคะเนาะแต่ถ้าเกิดเป็น
00:34:34 → 00:34:36 กลุ่มที่เป็นในเกรนอย่างเงี้ยค่ะอันนี้
00:34:36 → 00:34:38 ต้องแยกว่าแบบเออเป็นไมเกรนช่วงนี้รอบ
00:34:38 → 00:34:41 เดือนแล้วมีอาการอื่นๆอีกด้วยไหมเพราะถ้า
00:34:41 → 00:34:43 เกิดเป็นไมเกรนกลุ่มที่เป็นแบบเป็นบ่อยนะ
00:34:43 → 00:34:46 คะเป็นเกินแบบ 4-5 ครั้งต่อเดือนละไม่ใช่
00:34:46 → 00:34:48 แค่ช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้นอันนี้ก็
00:34:48 → 00:34:50 อาจจะต้องรักษาไมเกรนเพราะว่าไม่งั้น
00:34:50 → 00:34:53 เนี่ยมันก็จะมีความเสี่ยงที่ทำให้ปวดหัว
00:34:53 → 00:34:55 เป็นบ่อยขึ้นเป็นมากขึ้นนะคะแล้วก็สุด
00:34:55 → 00:34:57 ท้ายจะกลายเป็นปวดหัวเรื้อรังไม่หายนะคะ
00:34:57 → 00:34:59 เนาะ
00:34:59 → 00:35:02 เปิดมา 8 ปีแล้วทำ mi เสมอแล้วก็ปกติครับ
00:35:02 → 00:35:05 ส่วนมากตื่นมาตอนเช้าแล้วปวดเลยต้องกินยา
00:35:05 → 00:35:08 ทุกวันเลยครับอันนี้ค่ะก็คือถ้าเกิดทำ MRI
00:35:08 → 00:35:11 สมองนะคะของคุณบีจะทำ imri สมองแล้วปกติ
00:35:11 → 00:35:14 เนี่ยก็แทบจะตัดสาเหตุปวดหัวเรื้อรังจาก
00:35:14 → 00:35:17 พวกเรื่องอื่นๆในสมองออกไปได้อย่างเช่น
00:35:17 → 00:35:18 เรื่องของเนื้องอกนะคะเรื่องของเส้นเลือด
00:35:18 → 00:35:21 ที่ผิดปกตินะคะที่ถามว่าทำไมเป็น 8 ปี
00:35:21 → 00:35:24 แล้วมันยังไม่หายคีย์เวิร์ดอยู่ที่คำหลัง
00:35:24 → 00:35:26 ที่บอกว่าต้องกินพอปวดขึ้นมาแล้วกินยาทุก
00:35:26 → 00:35:29 วันนะคะการที่เราทานยาแก้ปวดทุกวันนะคะ
00:35:29 → 00:35:32 ตอนนี้ที่กินแบบปวดปุ๊บกินปั๊บมาเรื่อยๆ
00:35:32 → 00:35:35 ทุกวันนะคะมาเกินจริงๆเอาสัก 3 เดือน
00:35:35 → 00:35:38 เนี่ยถ้าเกินเป็นปีๆอันนี้เกินอยู่แล้ว
00:35:38 → 00:35:40 ตอนนี้น่าจะมีภาวะที่เราเรียกว่ามัน
00:35:40 → 00:35:43 เหมือนเป็นปวดหัวจากยาแก้ปวดด้วยนะคะก็
00:35:43 → 00:35:46 คือเป็นเมทิเคชัน Over us8 ละคือเป็นปวด
00:35:46 → 00:35:50 หัวจะการใช้ยาแก้ปวดแบบเอ่อที่มากเกินไป
00:35:50 → 00:35:54 นะคะซึ่งจริงๆแล้วอ่ะค่ะถ้าได้มารักษานะ
00:35:54 → 00:35:56 คะโดยการใช้ยาป้องกันปวดหัวแทนนะคะสุด
00:35:56 → 00:35:59 ท้ายอ่ะจะหยุดยาแก้ปวดได้นะคะอาจจะยังไม่
00:35:59 → 00:36:02 เคยรองรักษาจริงจังดูลองลองรักษาจริงจัง
00:36:02 → 00:36:05 ดูนะคะเพราะว่าไม่งั้นเนี่ยจะกลายเป็นว่า
00:36:05 → 00:36:07 แบบที่หมอเคยเจอมาก็คือแบบอย่างเงี้ยค่ะ
00:36:07 → 00:36:09 คือเขาก็กินยากินพาราเนี่ยแหละพาราธรรมดา
00:36:09 → 00:36:12 ทุกวันเลยกินทุกวันเลยนะคะแต่สุดท้ายวัน
00:36:12 → 00:36:15 นึงอ่ะค่ะ 1 มันจะเม็ดเดียวเอาไม่อยู่ละ
00:36:15 → 00:36:18 อาจจะต้องมีการทานมากกว่า 1 เม็ดในวันใน
00:36:18 → 00:36:21 วันที่ปวดมากนะคะหรือว่า 2 ก็คือเริ่มมี
00:36:21 → 00:36:23 ปัญหาจากยาแก้ปวดแล้วเช่นการทาน
00:36:23 → 00:36:26 พาราเซตามอลมากๆทานทุกวันติดๆกันเนี่ยก็
00:36:26 → 00:36:29 ต้องระวังเรื่องตับนะคะหรือถ้าเป็นยาแก้
00:36:29 → 00:36:32 ปวดกลุ่มอื่นเช่นกลุ่มที่ไม่ใช่เซียนลอย
00:36:32 → 00:36:34 กลุ่ม insert กลุ่มพวกแบบ I blueprofen
00:36:34 → 00:36:36 อะไรพวกเนี้ยอันนี้ก็ต้องระวังเรื่องตาย
00:36:36 → 00:36:40 นะคะเนาะเพราะฉะนั้นการที่ตอนเนี้ยตื่นมา
00:36:40 → 00:36:43 ปวดหัวแล้วทุกวันเลยเนี่ยน่าจะมีภาวะปวด
00:36:43 → 00:36:46 หัวจากยาแก้ปวดที่มากเกินไปนะคะเราลอง
00:36:46 → 00:36:52 รักษาดูนะคะน่าจะทำให้อาการดีขึ้นได้นะคะ
00:36:52 → 00:36:55 ชอบเวียนหัวแล้วก็เดินแล้วก็รู้สึกตัวลอย
00:36:55 → 00:36:58 ๆอันนี้น่าจะเป็นสาเหตุของที่เป็นเวียน
00:36:58 → 00:37:02 หัวเรื้อรังนะคะเดี๋ยวไว้จริงๆเคยเคยไลฟ์
00:37:02 → 00:37:04 เรื่องนี้ไปแล้วรอบนึงนะคะลองลองไปฟังดู
00:37:04 → 00:37:06 นะคะแล้วก็เดี๋ยวถ้ามีโอกาสก็อาจจะมาพูด
00:37:06 → 00:37:09 เรื่องเวียนหัวอีกทีนึงนะคะ
00:37:09 → 00:37:12 มึนหัวจากนั้นในหูไม่เท่ากันทานยาอยู่แต่
00:37:12 → 00:37:17 ก็ยังมึนอยู่ค่ะก็เอ่อส่วนใหญ่แล้วก็ถ้า
00:37:17 → 00:37:20 เป็นอาการมึนหัวจากนั้นในหูไม่เท่ากันนะ
00:37:20 → 00:37:24 คะส่วนใหญ่แล้วก็การรักษาอาจจะต้องนานนิด
00:37:24 → 00:37:27 นึงนะคะปกติพวกนี้เวลาเราทานยารักษา
00:37:27 → 00:37:29 เรื่องการปรับการส่งตัวเนี่ยจะใช้เวลานิด
00:37:29 → 00:37:31 นึงนะคะสิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้นะคะก็คือ
00:37:31 → 00:37:35 เรื่องของอาจจะต้องปรับเรื่องของพฤติกรรม
00:37:35 → 00:37:37 ไปด้วยนะคะอย่างเช่นเรื่องของ 1 เลย
00:37:37 → 00:37:39 เปลี่ยนท่าทางช้าๆนะคะคนที่มีปัญหาเรื่อง
00:37:39 → 00:37:41 ของเวียนหัวทรงตัวไม่อยู่อะไรเงี้ยค่ะถ้า
00:37:41 → 00:37:43 เปลี่ยนท่าทางเร็วๆอ่ะก็จะยิ่งทำให้
00:37:43 → 00:37:45 กระตุ้นอาการได้อยู่นะคะเป็นอาการมึนมาก
00:37:45 → 00:37:49 ขึ้นนะคะ 2 ดื่มน้ำให้พอนะคะวันนึงก็คือ
00:37:49 → 00:37:52 อย่างน้อยประมาณฤทธิ์ครึ่งนะคะเป็นขึ้นไป
00:37:52 → 00:37:54 เพราะว่ายิ่งขัดน้ำมันไหลก็จะยิ่งมึนหัว
00:37:54 → 00:37:58 ได้ง่ายนะคะห้ามกินของเค็มนะคะห้ามกิน
00:37:58 → 00:38:01 อาหารผงชูรสอะไรพวกนี้นะคะแล้วก็อย่านอน
00:38:01 → 00:38:04 ดึกนะคะก็ลองปรับดูก็จะช่วยให้เรื่อง
00:38:04 → 00:38:07 อาการมึนมันเหมือนเป็นการรักษาอีกทางนึง
00:38:07 → 00:38:09 นอกจากการทานยานะคะและที่สำคัญเลยก็คือ
00:38:09 → 00:38:13 เรื่องของการออกกำลังกายก็ช่วยได้นะคะ
00:38:13 → 00:38:16 ความดันสูงไซนัสอักเสบมีผลต่ออาการปวดหัว
00:38:16 → 00:38:20 ไหมคะมีได้ค่ะความดันสูงนะคะก็
00:38:20 → 00:38:22 หลายคนก็ถามบ่อยว่าที่ปวดหัวเนี่ยเป็น
00:38:22 → 00:38:25 เพราะว่าความดันหรือเปล่านะคะจริงๆแล้ว
00:38:25 → 00:38:27 ความดันก็ต้องดูว่าที่ความดันที่ทำให้ปวด
00:38:27 → 00:38:31 หัวได้จะแยกเป็น 2 กรณีนะคะอันแรกเลยนะคะ
00:38:31 → 00:38:35 ก็คือความดันที่มัน shoot เร็วๆมากๆค่ะ
00:38:35 → 00:38:38 อันนี้ทำให้ปวดหัวได้เช่นแบบสมมุติว่าคน
00:38:38 → 00:38:41 ไข้อ่ะความดันเดิมปกติความดันอยู่ 140
00:38:41 → 00:38:45 140 ทุกวันอันที่สูง 140 ทุกวันเนี่ย
00:38:45 → 00:38:48 ส่วนใหญ่ไม่ใช่สาเหตุปวดหัวแต่ถ้าเกิดแบบ
00:38:48 → 00:38:51 ความดัน 140 ความดัน 140 อ่ะค่ะแล้วอยู่
00:38:51 → 00:38:54 ดีๆวันนึงเลยแบบว่าเครียดมากหรือมีอะไรมา
00:38:54 → 00:38:57 กระตุ้นไม่สบายความดันขึ้นไปแล้ว 80 นะคะ
00:38:57 → 00:38:59 อาการเปลี่ยนแปลงความดันเร็วๆวันเนี้ยก็
00:38:59 → 00:39:02 ทำให้มีอาการปวดหัวได้นะคะเนาะแต่ถ้าเกิด
00:39:02 → 00:39:04 เป็นความดันที่แบบเป็นประจำอยู่ทุกวัน
00:39:04 → 00:39:06 อยู่แล้วทานมันทุกวันอยู่แล้วเนี่ยส่วน
00:39:06 → 00:39:08 ใหญ่อันนี้ไม่ค่อยเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวด
00:39:08 → 00:39:11 หัวเท่าไหร่นะคะเนาะหรืออีกอันนึงก็ต้อง
00:39:11 → 00:39:14 ระวังว่าเป็นความดันสูงแล้วไปกระตุ้นโรค
00:39:14 → 00:39:16 ที่เราเป็นโรคปวดหัวอยู่เดิมอยู่แล้วเช่น
00:39:16 → 00:39:19 บางคนมีเส้นเลือดโป่งพองนะคะอาจจะไม่ได้
00:39:19 → 00:39:21 มีอาการปวดหัวอะไรเลยแต่พอวันนึงที่แบบ
00:39:21 → 00:39:25 ความดันสูงขึ้นมานะคะก็ทำให้มีอาการปวด
00:39:25 → 00:39:27 หัวได้เหมือนกันนะคะ
00:39:27 → 00:39:30 หรือไซนัสอักเสบเงี้ยค่ะบริเวณไซนัสก็คือ
00:39:30 → 00:39:33 ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดหัว
00:39:33 → 00:39:36 เรื้อรังที่เจอได้บ่อยเหมือนกันนะคะคือคน
00:39:36 → 00:39:38 ไข้ถ้ามีอาการของไซนัสเริ่มด้วยเช่นมี
00:39:38 → 00:39:43 เสียงเปลี่ยนมีจมูกตันมีเจ็บโพรงไซนัสนะ
00:39:43 → 00:39:46 คะซึ่งโพรงไซนัสมันก็จะอยู่ตรงนี้นะคะตรง
00:39:46 → 00:39:50 นี้นะคะซึ่งตำแหน่งของตรงนี้พอมันมีการ
00:39:50 → 00:39:53 อักเสบนะคะบางทีมันก็จะไปกระตุ้นนะคะพวก
00:39:53 → 00:39:55 ทำให้เกิดแรงดันในโพรงไซนัสที่มากขึ้น
00:39:55 → 00:39:56 หรือว่ากระตุ้นเส้นประสาทแล้วทำไมเรารู้
00:39:56 → 00:39:59 สึกปวดตึงบริเวณศีรษะได้เหมือนกันจะทำให้
00:39:59 → 00:40:01 คนไข้มาด้วยเหมือนปวดหัวได้นะคะเหมือนคน
00:40:01 → 00:40:04 ไข้ปวดฟันปวดกรามอย่างเงี้ยค่ะอันนี้ก็
00:40:04 → 00:40:07 คือสามารถร้าวขึ้นขนาดก็จะทำให้ปวดหัวได้
00:40:07 → 00:40:09 เหมือนกันนะคะ
00:40:09 → 00:40:12 รบกวนสอบถามคุณหมอเรื่องความดันในสมอง
00:40:12 → 00:40:15 เกิดจากอะไรหรอคะแล้วถ้าจะให้ลดต้องทำยัง
00:40:15 → 00:40:18 ไงคือตอนนี้ลูกเป็นค่ะหมอเจาะน้ำไขสัน
00:40:18 → 00:40:21 หลังเพื่อลดเพื่อมีปัญหากับประสาทตาบวม
00:40:21 → 00:40:27 อืมโอเคก็คือสมองของเราอ่ะค่ะมันก็
00:40:27 → 00:40:31 เป็นอวัยวะที่ที่เหมือนอวัยวะอื่นๆนะคะ
00:40:31 → 00:40:33 ที่ก็คือต้องมีเลือดเลือดเลือดเลือดเลือด
00:40:33 → 00:40:36 แดงไปเลี้ยงแล้วก็เลือดดำเพื่อ
00:40:36 → 00:40:40 เรนเลือดกลับหัวใจนะคะเปรียบง่ายๆเนอะ
00:40:40 → 00:40:44 เหมือนเหมือนท่อน้ำอ่ะค่ะก๊อกน้ำน้ำดี
00:40:44 → 00:40:47 เปิดน้ำออกมาเนี่ยคือเพื่อให้เราใช้งานนะ
00:40:47 → 00:40:49 คะท่อพอใช้งานเสร็จเนี่ยท่อมันก็ต้องลง
00:40:49 → 00:40:52 ท่อกลับไปนะคะหลอดเลือดดำเนี่ยก็เหมือน
00:40:52 → 00:40:55 ท่อที่ระบายถ้าเกิดมันอุดตันอะไรอย่าง
00:40:55 → 00:41:00 เงี้ยค่ะก็จะทำให้น้ำล้นน้ำท่วมนะคะนี่
00:41:00 → 00:41:03 ถามว่าแรงดันในสมองเนี่ยเอ่อคือคนในสมอง
00:41:03 → 00:41:07 ของเราเนี่ยมันก็มีการสร้างมีการการเอา
00:41:07 → 00:41:10 เลือดไปเลี้ยงไหลเรียนเลือดกำกับนะคะแล้ว
00:41:10 → 00:41:13 ก็มีการสร้างน้ำใส่ในสมองทุกๆวันอยู่แล้ว
00:41:13 → 00:41:16 นะคะเป็นปกติที่จะต้องเหมือนเอาไปเลี้ยง
00:41:16 → 00:41:19 สมองของเรานะคะน้ำในโพรงสมองเองก็จะต้อง
00:41:19 → 00:41:23 แบบไหลเวียนออกจากตัวโพลงออกมาถ้าอะไรที่
00:41:23 → 00:41:26 มันอุดตันอยู่เนี่ยมันก็จะทำให้แรงดันมัน
00:41:26 → 00:41:29 เยอะเยอะขึ้นหรืออย่างการมีก้อนมีเนื้อ
00:41:29 → 00:41:33 งอกไปโตไปกดก็จะทำให้แรงดันมันเยอะขึ้นนะ
00:41:33 → 00:41:38 คะหรือบางทีมีอะไรไปอุดท่อที่ทำให้ท่อมัน
00:41:38 → 00:41:42 ตามหรือไปกั้นทางเดินแรงดันในสมองก็เยอะ
00:41:42 → 00:41:45 ขึ้นนะคะงั้นสาเหตุเนี่ยมันเจอได้เยอะมาก
00:41:45 → 00:41:48 ๆนะคะว่าเป็นโรคอะไรนะคะเป็นก้อนหรือ
00:41:48 → 00:41:50 เปล่านะคะหรือเป็นการอักเสบเป็นการติด
00:41:50 → 00:41:53 เชื้อส่วนใหญ่ก็จะทำให้ในโพรงสมองในความ
00:41:53 → 00:41:56 ดันในโพรงสมองสูงขึ้นได้หมดเลยนะคะแต่ถ้า
00:41:56 → 00:41:59 เท่าที่เท่าที่เล่าให้ฟังอ่ะค่ะอาจจะเป็น
00:41:59 → 00:42:02 กลุ่มที่เราเรียกว่ากลุ่มไม่ทราบสาเหตุก็
00:42:02 → 00:42:05 คือมีแรงดันในโพรงสมองอ่ะมันเยอะขึ้นเอง
00:42:05 → 00:42:08 จากที่เราตรวจทุกอย่างก็แล้วเจอไม่มีก้อน
00:42:09 → 00:42:12 ติดเชื้อไม่มีนะคะเอ่อหลอดเลือดดำไม่ได้
00:42:12 → 00:42:14 ตันหรืออะไรซึ่งวิธีนี้มันเหมือนอาจจะ
00:42:14 → 00:42:18 เกิดมาจากเอ่ออาจจะเกิดมาเป็นเป็นโรคที่
00:42:18 → 00:42:20 เกิดมาจากตั้งแต่แบบอ่าตอนกำเนิดหรือว่า
00:42:20 → 00:42:23 เป็นโรคพันธุกรรมหรืออะไรบางอย่างที่สุด
00:42:23 → 00:42:26 ท้ายคือพอมันเหมือนแรงดันมันเยอะขึ้นมัน
00:42:26 → 00:42:29 ทำอะไรไม่ไม่ได้ก็ต้องเปิดระบายท่อออกมา
00:42:29 → 00:42:32 เพื่อให้แรงดันมันลดลงนะคะเนาะแต่ว่าหมอ
00:42:32 → 00:42:34 อาจจะไม่ได้ทราบรายละเอียดของเรื่องของ
00:42:34 → 00:42:37 การวินิจฉัยว่าน้องเป็นอะไรนะคะแต่ว่าการ
00:42:37 → 00:42:40 รักษาโดยการที่เจาะเอาน้ำออกมาเนี่ยก็คือ
00:42:40 → 00:42:43 เหมือนที่คุณแม่ทราบก็คือสามารถเพื่อนลด
00:42:43 → 00:42:45 ลดแรงดันในสมองที่มันจะไปกดกับอันอื่นไม่
00:42:45 → 00:42:48 งั้นเนี่ยถ้าแรงดันเยอะมากๆมันก็ไปกดพวก
00:42:48 → 00:42:50 เส้นประสาทนะคะที่สำคัญก็คืออย่างเรื่อง
00:42:50 → 00:42:53 ของเส้นประสาทตาก็ทำให้ตามองไม่เห็นได้นะ
00:42:53 → 00:42:57 คะเนาะก็ตรงนี้ก็อาจจะต้องดูสาเหตุอีกที
00:42:57 → 00:42:59 นึงว่าเป็นสัตว์อะไรแล้วจะต้องแบบรักษา
00:42:59 → 00:43:01 นานแค่ไหนแต่ส่วนใหญ่ก็คือถ้าเกิดเป็น
00:43:01 → 00:43:04 กลุ่มที่แบบเราเจอสาเหตุเช่นเจอก้อนอะไร
00:43:04 → 00:43:06 เงี้ยค่ะเราก็จะไปอ่ารักษาที่ต้นเหตุเช่น
00:43:06 → 00:43:08 ไปเอาก้อนออกอย่างเงี้ยค่ะแต่ถ้าเป็น
00:43:08 → 00:43:11 กลุ่มที่ตรวจอะไรแล้วก็ไม่เจอจริงๆก็อาจ
00:43:11 → 00:43:15 จะต้องใช้การระบายแรงดันออกมานะคะ
00:43:15 → 00:43:18 การใช้ยาฉีดป้องกันไมเกรนควรฉีดกลิ่นเข็ม
00:43:18 → 00:43:21 ค่ะและฉีดมากสุดกี่เข็มคะการใช้ยาฉีดป้อง
00:43:21 → 00:43:24 กันไมเกรนนะคะจริงๆก็คือแนะนำเนี่ยอย่าง
00:43:24 → 00:43:26 น้อยเนี่ยคือที่เขาทำงานวิจัยในคนไข้
00:43:26 → 00:43:30 ไมเกรนที่ต้องใช้ยาฉีดตัวบล็อค cgrp และ
00:43:30 → 00:43:34 นะคะอย่างน้อยก็ต้องใช้ประมาณ 3 เดือนนะ
00:43:34 → 00:43:37 คะเขาถึงจะวัดผลนะคะว่าฉีดไปเดือนที่ 1
00:43:37 → 00:43:39 ฉีดไปเดือนที่ 1 แล้วคนไข้ยังไม่หายปวด
00:43:39 → 00:43:41 ไม่ได้บอกว่าไม่ได้ผลเนาะก็ต้องฉีดไป
00:43:41 → 00:43:43 เดือนที่ 1 เดือนที่ 2 เดือนที่ 3 เดือน
00:43:43 → 00:43:45 ที่ 3 เนี่ยเราก็จะวัดผลกันนะคะว่าคนไข้
00:43:45 → 00:43:47 เนี่ยดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์นะคะซึ่งส่วน
00:43:47 → 00:43:51 ใหญ่ตามประสบการณ์ที่ฉีดมานะคะหรือรักษา
00:43:51 → 00:43:53 คนไข้มาจริงๆอาการไม่ต้องรอถึง 3 เดือน
00:43:53 → 00:43:56 คืออาการน่ะดีขึ้นตั้งแต่เข็มแรกแล้วแหละ
00:43:56 → 00:43:58 นะคะคือแค่ขอให้ได้ยาป้องกันเข้าไปเนี่ย
00:43:58 → 00:44:01 ส่วนใหญ่อาการปวดไมเกรนมักจะดีขึ้นได้นะ
00:44:01 → 00:44:04 คะร่วมกับเราก็ใช้วิธีการรักษาอื่นๆด้วย
00:44:04 → 00:44:07 เนาะเช่นถ้านอนดึกปรับการนอนปรับการใช้
00:44:07 → 00:44:10 ชีวิตอะไรก็ว่ากันไปนะคะทีนี้ถามว่าต้อง
00:44:10 → 00:44:13 ฉีดนานแค่ไหนนะคะจริงๆหลักการการรักษา
00:44:13 → 00:44:16 ไมเกรนนะคะก็คือเราต้องคุมอาการให้ได้
00:44:16 → 00:44:18 อย่างน้อยประมาณ 6 เดือนนะคะหรือว่า 6-12
00:44:18 → 00:44:21 เดือนเพื่อลดความไวของสมองต่อตัวกระตุ้น
00:44:21 → 00:44:24 ของไมเกรนนะคะเพราะฉะนั้นเวลาฉีดนานแค่
00:44:24 → 00:44:27 ไหนนะคะถ้าเลือกโดยการรักษาโดยการใช้ยา
00:44:27 → 00:44:29 ฉีดเพียงอย่างเดียวเนาะก็ต้องคุมอาการให้
00:44:29 → 00:44:32 ได้อย่างน้อยประมาณสัก 6 เดือนนะคะแต่ก็
00:44:32 → 00:44:35 จะมีบางเควสที่เป็นมานานมากๆเหมือนเป็นมา
00:44:35 → 00:44:38 เป็น 10 ปีหรือว่ากินยาแก้ปวดเยอะมากทาน
00:44:38 → 00:44:41 ยาแก้ปวดทุกวันกลุ่มนี้บางทีหกเดือนนะคะ
00:44:41 → 00:44:43 อาจจะยังไม่สามารถคุมอาการคนไข้ได้ก็อาจ
00:44:43 → 00:44:47 จะต้องฉีดต่อไปหรือเลือกใช้วิธีการรักษา
00:44:47 → 00:44:50 ร่วมอื่นๆไปด้วยเช่นบางคนเนี่ยมียากิน
00:44:50 → 00:44:52 อยู่แล้วด้วยนะคะแล้วก็ใช้ยาฉีดเป็นยา
00:44:52 → 00:44:54 เสริมนะคะหรือ
00:44:54 → 00:44:58 ตอนที่คุมอาการเชียร์ฉีดมาและเริ่มดีขึ้น
00:44:58 → 00:45:00 ปรับลดเป็นยากินอะไรอย่างเงี้ยอะไรก็ได้
00:45:00 → 00:45:03 ใช้วิธีไหนก็ได้แต่ต้องคุมอาการไมเกรนให้
00:45:03 → 00:45:06 ได้อย่างน้อยประมาณ 6 เดือนนะคะหรือ 6-12
00:45:06 → 00:45:08 เดือนเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกินของเราจะ
00:45:08 → 00:45:11 ไม่กลับมากำเริบอีกก็ค่อยๆหยุดการรักษา
00:45:11 → 00:45:14 อีกทีนึงนะคะถามว่าฉีดได้มากสุดกี่เข็มนะ
00:45:14 → 00:45:15 คะ
00:45:15 → 00:45:19 เอ่อจริงๆตามที่ตอนนี้นะคะที่มีในงาน
00:45:19 → 00:45:21 วิจัยหรือว่าที่แบบเขาประกาศออกมาเนี่ยก็
00:45:21 → 00:45:24 มีคนที่ฉีดไปได้จนถึงประมาณ 18 เดือนเลย
00:45:24 → 00:45:28 นะคะเนาะก็ยังมีความปลอดภัยนะคะแต่ว่า
00:45:28 → 00:45:30 เท่าที่รักษาคนไข้มาค่ะส่วนใหญ่ก็คือ
00:45:30 → 00:45:33 ประมาณ 1 ปีเนี่ยก็ค่อนข้างคุมอาการกัน
00:45:33 → 00:45:37 ได้เยอะแบบเกือบทั้งหมดแล้วนะคะเนาะ
00:45:37 → 00:45:41 กินยาแก้ปวดไมเกรนแล้วกัดกระเพาะตอนนี้ก็
00:45:41 → 00:45:44 เลยให้เป็นพาราแทนแล้วค่ะก็คือยากลุ่มแก้
00:45:44 → 00:45:46 ปวดนะคะเดี๋ยวลองฟังคลิปยาแก้ปวดอีกทีนึง
00:45:46 → 00:45:50 ก็ได้นะคะคือพอกลุ่มยาแก้ปวดส่วนใหญ่มัน
00:45:50 → 00:45:52 จะไปตกอยู่ในยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
00:45:52 → 00:45:57 นะคะก็คือพวกไอบูโพรเฟนหน้าฟอกเส้น
00:45:57 → 00:46:00 ไดโคลฟีแนคอะไรก็แล้วแต่ที่คือส่วนใหญ่
00:46:00 → 00:46:02 เวลาเราปวดหัวหรือปวดข้อปวดเข่าปวดอะไร
00:46:02 → 00:46:05 เนี่ยได้ยามาเราจะได้ยากลุ่มนี้แทบทั้ง
00:46:05 → 00:46:07 หมดเลยกลุ่มนี้ข้อเสียหลักคือกัดกระเพาะ
00:46:07 → 00:46:10 นะคะกับเรื่องไตนะคะเพราะฉะนั้นพอแบบมี
00:46:10 → 00:46:12 ปัญหาเรื่องก็พอแล้วก็จะแทบใช้ยากลุ่มนี้
00:46:12 → 00:46:15 ไม่ได้เลยเนี่ยคลีนเนี้ยคนไข้ไมเกรนถ้า
00:46:15 → 00:46:18 เป็นไมเกรนจริงๆนะคะพอลดไปเหลือแค่พารา
00:46:18 → 00:46:21 มักจะคุมอาการไม่ค่อยอยู่นะคะเพราะว่า
00:46:21 → 00:46:23 อาการปวดไมเกรนเป็นอาการปวดที่ค่อนข้าง
00:46:23 → 00:46:26 แบบเป็นรุนแรงระดับนึงเลยเพราะฉะนั้นแค่
00:46:26 → 00:46:29 ยาพาราเซตามอลเนี่ยบางทีมันอาจจะคุมอาการ
00:46:29 → 00:46:32 ไม่ได้นะคะหรือต่อให้ได้เนี่ยส่วนใหญ่มัก
00:46:32 → 00:46:35 จะต้องใช้อ่าขนาดค่อนข้างเยอะนะคะหรือทาน
00:46:35 → 00:46:38 ต่อก็จะมีความเสี่ยงของการใช้เวลาเกิน
00:46:38 → 00:46:41 ขนาดอีกงั้นถ้าเกิดมีอาการปวดไมเกรนขึ้น
00:46:41 → 00:46:42 มาจริงๆอาจจะต้องใช้ในกลุ่มที่มันเป็น
00:46:42 → 00:46:45 กลุ่มแก้ปวดไมเกรนที่กัดกระเพาะน้อยลงนะ
00:46:45 → 00:46:49 คะเช่นกลุ่มพวกกลุ่มที่เป็นกลุ่มผดทำให้
00:46:49 → 00:46:52 หลอดเลือดหดตัวนะคะพวกกลุ่มเออกอดกลุ่ม
00:46:52 → 00:46:54 ทริปแทนอะไรต่างๆพวกนี้ก็จะไม่ค่อยกัด
00:46:54 → 00:46:57 กระเพาะมากเท่าไหร่นะคะแต่ว่าก็ลองปรึกษา
00:46:57 → 00:47:00 กับคุณหมอที่รักษาอยู่นะคะว่าถ้าเกิด
00:47:00 → 00:47:02 อาการพาราเซตถ้าพาราเซตามอลมันไม่สามารถ
00:47:02 → 00:47:04 คุมอาการได้ก็อาจจะต้องเลี่ยงไปใช้ตัว
00:47:04 → 00:47:08 อื่นๆหรือเปล่าหรือถ้าเกิดมีปัญหาจากยา
00:47:08 → 00:47:10 แก้ปวดละก็เป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้ที่เราจะ
00:47:10 → 00:47:13 ต้องรักษาไมเกรนด้วยยาป้องกันแทนนะคะ
00:47:13 → 00:47:16 เพื่อทำให้ยังไงก็ได้ให้ไมเกรนกำเริบน้อย
00:47:16 → 00:47:18 ที่สุดเราจะได้ใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุด
00:47:18 → 00:47:22 นะคะ
00:47:22 → 00:47:28 ปวดหัวปลายมือเท้าชาเกิดจากอาการอะไรอัน
00:47:28 → 00:47:31 นี้เอ่ออันนี้อาจจะตอบให้ไม่ได้นะคะเพราะ
00:47:31 → 00:47:33 ว่าแบบเรื่องปวดหัวหรือว่าเรื่องปลายมือ
00:47:33 → 00:47:35 ปลายเท้าชาอันนี้เป็นแบบสาเหตุเยอะมากเลย
00:47:35 → 00:47:38 นะคะอาจจะต้องอาศัยการซักประวัติหรือว่า
00:47:38 → 00:47:42 การตรวจร่างกายอะไรอีกทีนึงนะคะน้องสามี
00:47:42 → 00:47:44 มีอาการปวดหัวไมเกรนเป็นมาเรื่อยๆ 5-6 ปี
00:47:44 → 00:47:47 มีอาการเดือนละครั้งถึง 2 ครั้งทานยา
00:47:47 → 00:47:50 คาเฟอดแล้วหายตลอดเลยอยากถามคุณหมอว่ากิน
00:47:50 → 00:47:52 ยาตัวนี้ไปมานานเป็นอะไรไหมคะหรือว่า
00:47:52 → 00:47:56 เปลี่ยนยาเป็นตัวอื่นที่ดีกว่านี้ไหมคะ
00:47:56 → 00:48:02 ถ้าเป็นตอนนี้เป็นมา 5-6 ปีกินยาเดือนละ
00:48:02 → 00:48:04 ครั้งสองครั้งยังถือว่าเป็นกลุ่มไมเกรน
00:48:04 → 00:48:06 ที่นานๆทีเป็นทียังไม่ได้เป็นไมเกรน
00:48:06 → 00:48:09 เรื้อรังนะคะการรักษาของกลุ่มนี้ก็ยัง
00:48:09 → 00:48:12 สามารถใช้ยาแก้ปวดมาบรรเทาอาการตามอาการ
00:48:12 → 00:48:15 ได้นะคะแล้วก็อาจจะพยายามสังเกตตัว
00:48:15 → 00:48:17 กระตุ้นนะคะว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นแล้วเรา
00:48:18 → 00:48:19 ก็เลื่อนตัวกระตุ้นนั้นๆก็จะได้ไม่ปวดหัว
00:48:19 → 00:48:22 บ่อยจะได้ใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุดนะคะ
00:48:22 → 00:48:25 สำหรับกลุ่มก่อนนะคะก็คืออยู่ในกลุ่มเออ
00:48:25 → 00:48:28 ก่อนนะคะเออกับทะเบียนเนาะกลุ่มนี้นะคะก็
00:48:28 → 00:48:31 เป็นยารักษาไมเกรนได้ที่ค่อนข้างได้ค่อน
00:48:31 → 00:48:33 ข้างดีเลยนะคะลดอาการปวดได้ค่อนข้างเร็ว
00:48:33 → 00:48:36 นะคะข้อเสียหลักๆของกลุ่มนี้เลยก็คือทำ
00:48:36 → 00:48:39 ให้หลอดเลือดเนี่ยหดตัวนะคะเอ่อที่เนี้ย
00:48:39 → 00:48:43 มันเป็นยากลุ่มค่อนข้างที่มันไม่ได้ออก
00:48:43 → 00:48:46 ฤทธิ์จำเพาะกับอาการไมเกรนเท่านั้นก็คือ
00:48:46 → 00:48:48 นอกจากจะแบบไมเกรนหลอดเลือดไมเกรนหดตัว
00:48:48 → 00:48:50 แล้วเนี่ยมันก็ไปออกฤทธิ์หลอดเลือดส่วน
00:48:50 → 00:48:54 อื่นหดตัวด้วยที่แบบถ้าเป็นคนที่ที่เคย
00:48:54 → 00:48:57 เป็นข่าวหรือว่าแบบคนรู้จักหรือว่าบางที
00:48:57 → 00:48:59 บางยี่ห้อก็จะเขียนหน้ากล่องว่าการทานยา
00:48:59 → 00:49:02 นี้นานๆหรือว่าไปทานยาร่วมกับยาอื่นนะคะ
00:49:02 → 00:49:04 เช่นยาต้านไวรัสหรืออะไรอย่างนี้ให้
00:49:04 → 00:49:08 ระหว่างเรื่องเรียกเลือดไม่ไปเลี้ยงมือ
00:49:08 → 00:49:11 ปลายมือปลายเท้าก็คือแบบมีอาการเหมือน
00:49:11 → 00:49:16 นิ้วดำเท้าดำนะคะซึ่งก็บางทีอาจจะต้องแบบ
00:49:16 → 00:49:19 บางคนถ้าเป็นเยอะมากๆเงี้ยค่ะก็จะมีแบบ
00:49:19 → 00:49:21 อาจจะต้องแบบตัดนิ้วหรืออะไรอย่างนี้นะคะ
00:49:21 → 00:49:24 ซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยเอ่อตั้งแต่ที่ตรวจคน
00:49:24 → 00:49:29 ไข้มานะคะคืออ่ามีความเสี่ยงที่จะถึงขั้น
00:49:29 → 00:49:31 หลอดเลือดอุดตันแล้วไปถึงขั้นตัดแนวหน้า
00:49:31 → 00:49:33 ค่อนข้างน้อยคนไข้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการมา
00:49:33 → 00:49:36 ก่อนเช่นแบบกินยาแล้วรู้สึกเริ่มมือชาและ
00:49:36 → 00:49:38 นะคะแบบเหมือนเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายได้
00:49:38 → 00:49:40 ไม่ดีอะไรเงี้ยถ้ามีอาการเตือนเราเนี่ย
00:49:40 → 00:49:42 ค่ะก็อาจจะต้องระวังกับการใช้ยากลุ่มนี้
00:49:42 → 00:49:45 มากขึ้นนะคะแล้วก็อีกเรื่องนึงนะคะก็คือ
00:49:45 → 00:49:47 นอกจากหลอดเลือดปลายมือปลายเท้าก็จะเป็น
00:49:47 → 00:49:50 หลอดเลือดหัวใจนะคะงั้นถ้าเกิดแบบตอนที่
00:49:50 → 00:49:53 เราทานอายุน้อยๆแบบ 30 40 ก็จะยังไม่
00:49:53 → 00:49:56 ค่อยกลัวมากแต่พออายุเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
00:49:56 → 00:49:59 อ่ะค่ะถ้าเกิดทานแล้วมีแน่นหน้าอกนะคะอัน
00:49:59 → 00:50:01 นี้ก็ต้องระวังว่ามันอาจจะทำให้หลอดเลือด
00:50:01 → 00:50:04 หัวใจเหมือนเกิดการหดตัวชั่วคราวด้วยนะคะ
00:50:04 → 00:50:06 อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องของโรคหัวใจเพิ่ม
00:50:06 → 00:50:09 มากขึ้นนะคะแล้วส่วนใหญ่พวกนี้ค่ะก็จะ
00:50:09 → 00:50:12 ต้องแบบทานปริมาณค่อนข้างเยอะถ้ายังทาน
00:50:12 → 00:50:15 แบบนิดๆหน่อยๆเดือนละครั้งสองครั้งแล้ว
00:50:15 → 00:50:17 ไม่มีอาการอย่างที่กล่าวมาไม่มีแน่นหน้า
00:50:17 → 00:50:19 อกไม่มีมือชาก็ยังพอใช้ได้แต่ถ้าเกิด
00:50:19 → 00:50:22 เริ่มปวดบ่อยมากขึ้นนะคะเริ่มใช้เป็น
00:50:22 → 00:50:25 เดือนละ 4 เม็ด 5 เม็ดนะอันนี้อาจจะต้อง
00:50:25 → 00:50:28 ไปรักษาที่ต้องการไมเกรนแทนจะได้ไม่ต้อง
00:50:28 → 00:50:30 มาเสี่ยงกับการใช้ยาแก้ปวดเรื่อยๆนะคะ
00:50:30 → 00:50:33 เนาะหรือถ้าเกิดจะลดความเสี่ยงของเรื่อง
00:50:33 → 00:50:36 หลอดเลือดพวกหลอดเลือดหดตัวให้มันน้อยลง
00:50:36 → 00:50:39 เราอาจจะเลือกไปใช้ยากลุ่มใหม่มากขึ้นนะ
00:50:39 → 00:50:41 คะอย่างกลุ่มเออก่อนเนี่ยเราจะเรียกว่า
00:50:41 → 00:50:43 เป็นกลุ่มเก่านะคะถ้าเลือกไปใช้ยากลุ่ม
00:50:43 → 00:50:45 ใหม่มากขึ้นอย่างเช่นกลุ่มทริปแทนนะคะ
00:50:45 → 00:50:49 เช่น errarum แทนนะคะถามว่ายังมีผลกับ
00:50:49 → 00:50:51 หลอดเลือดไหมก็ยังมีนะคะแต่ว่าอาจจะน้อย
00:50:51 → 00:50:54 กว่าแล้วก็เวลาเราหยุดยาไปแล้วเช่นสมมุติ
00:50:54 → 00:50:56 ว่ามันมีผลกับหลอดเลือดมาจริงๆเกิดอาการ
00:50:56 → 00:50:58 ขึ้นมาแล้วจริงๆอย่างถ้าเออก่อนหยุดเนี่ย
00:50:58 → 00:51:01 บางทีลิสต์มันยังอยู่ยาวนะคะอยู่ไปหลาย
00:51:01 → 00:51:02 วันแต่ว่าถ้าเป็นกลุ่มใหม่เนี่ยหยุดปุ๊บ
00:51:02 → 00:51:04 เนี่ยไม่กี่ชั่วโมงมันก็หมดฤทธิ์อะไร
00:51:04 → 00:51:08 ประมาณนี้นะคะก็ลองดูนะคะ
00:51:08 → 00:51:11 ปวดหัวข้างซ้ายและปวดตึงคอบ่าไหล่นะคะอัน
00:51:12 → 00:51:15 นี้ก็เป็นอาการที่เจอบ่อยมากๆเจอร่วมกัน
00:51:15 → 00:51:17 แล้วก็เป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่ก็ทำให้คนเป็น
00:51:18 → 00:51:21 เรื้อรังนะคะก็คือ 1 ก็คือเป็นปวดตึง
00:51:21 → 00:51:23 กล้ามเนื้อนะคะกล้ามเนื้อตึงมากๆเกิดเป็น
00:51:23 → 00:51:25 ปมกล้ามเนื้อเกิดเป็นพริกก็พอขึ้นมาก็
00:51:25 → 00:51:29 ร้าวขึ้นมาปวดศีรษะได้นะคะหรือปวดศีรษะ
00:51:29 → 00:51:32 เองเช่นเป็นไมเกรนนะคะพอเป็นไมเกรนช่วง
00:51:32 → 00:51:34 ที่ไมเกรนกำเริบนอกจากจะปวดหัวแล้วเนี่ย
00:51:34 → 00:51:38 มันจะยังหลั่งสารความปวดหรือสารบางอย่าง
00:51:38 → 00:51:40 เนี่ยที่ทำให้เรารู้สึกตึงกล้ามเนื้อมาก
00:51:40 → 00:51:43 ขึ้นด้วยนะคะกลุ่มไมเกรนกับกลุ่ม
00:51:43 → 00:51:45 ออฟฟิศซินโดรมก็เลยชอบเจอร่วมกันนะคะ
00:51:45 → 00:51:47 เพราะฉะนั้นคนไข้ที่มีปัญหาทั้งปวดหัวปวด
00:51:47 → 00:51:49 ไหล่ปวดอย่างเงี้ยส่วนใหญ่ก็ต้องรักษา
00:51:49 → 00:51:52 ร่วมกันไปนะคะบางคนเป็นไมเกรนปวดไหล่ด้วย
00:51:52 → 00:51:54 แต่ว่ารักษาแค่เหมือนปวดกล้ามเนื้ออย่าง
00:51:54 → 00:51:57 เดียวในเกณฑ์ไม่หายพอไมเกรนไม่หายเอา
00:51:57 → 00:51:59 ไมเกรนกำเริ่มใหม่ปวดตึงใหม่อีกละนะคะ
00:51:59 → 00:52:02 หรือบางคนเป็นไมเกรนแต่คอตึงมากอ่าหมอให้
00:52:02 → 00:52:04 ยารักษาไมเกรนไปแต่ถ้าเกิดกล้ามเนื้อคอ
00:52:04 → 00:52:06 ตึงมากเนี่ยไอ้ตัวเนี้ยก็ยังมากระตุ้น
00:52:06 → 00:52:08 ไมเกรนได้อยู่เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ก็ต้อง
00:52:08 → 00:52:11 รักษาควบคู่กันไปนะคะถ้าอาการยังเป็นไม่
00:52:11 → 00:52:13 เยอะนะคะลองเริ่มจากง่ายๆก็คือยืดกล้าม
00:52:13 → 00:52:15 เนื้อเนี่ยแหละค่ะถ้าเรารู้สึกว่าคอมัน
00:52:15 → 00:52:18 ตึงมากแล้วเราปวดหัวนะคะก็ลองยืดยืดกล้าม
00:52:18 → 00:52:21 เนื้อนะคะส่วนใหญ่พอเรายืดกล้ามเนื้อออก
00:52:21 → 00:52:24 กำลังกายนะคะนอนไม่พอนะคะพยายามจัดการ
00:52:24 → 00:52:26 ความเครียดไม่ให้มันเยอะเกินไปเนี่ยบางที
00:52:26 → 00:52:28 ก็อาการปวดหัวอาการตื่นกล้ามเนื้อก็ดี
00:52:28 → 00:52:30 ขึ้นได้นะคะ
00:52:30 → 00:52:33 มือชาจะเป็นตอนนอนบ่อยๆค่ะเกี่ยวกับ
00:52:33 → 00:52:36 เรื่องเส้นเลือดในสมองไหมคะส่วนใหญ่ถ้า
00:52:36 → 00:52:39 เป็นอาการชาตอนนอนหรือสัมพันธ์กับท่านนอน
00:52:39 → 00:52:41 นะคะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อ
00:52:41 → 00:52:43 กับเส้นประสาทบ้างกว่านะคะลองสังเกตอาการ
00:52:43 → 00:52:46 ตัวเองดูบางทีถนัดนอนตะแคงหรือว่านอนท่า
00:52:46 → 00:52:48 ใดท่าหนึ่งแล้วเราเหมือนเผลอไปนอนทับเส้น
00:52:48 → 00:52:51 ประสาทก็จะทำให้เหมือนมีอาการมือชาได้นะ
00:52:51 → 00:52:53 คะถ้าเป็นจากในเส้นเลือดสมองเนี่ยส่วน
00:52:53 → 00:52:54 ใหญ่ไม่ได้สัมพันธ์กับการนอนหรือว่าเป็น
00:52:54 → 00:52:57 ท่านอนนะคะแล้วก็อาการเส้นเลือดสมองตีบ
00:52:57 → 00:52:59 เฉียบพลันคำว่าเฉียบพลันก็คือเกิดขึ้นทัน
00:52:59 → 00:53:01 ทีทันใดเพราะฉะนั้นเวลาอาการเกิดขึ้นมา
00:53:01 → 00:53:04 แล้วเนี่ยมันก็จะเกิดอาการชาแบบปุ๊บอยู่
00:53:04 → 00:53:06 ดีๆทำอะไรอยู่แล้วก็แบบชาชาไปเลยชาชา
00:53:06 → 00:53:10 ครึ่งซีกทาหน้าทาแขนชาหน้าชาแขนขาอะไร
00:53:10 → 00:53:12 อย่างนี้ค่ะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบครึ่งซีก
00:53:12 → 00:53:14 ไปเลยนะคะหรืออย่างน้อยก็จะต้องเป็นแบบ
00:53:14 → 00:53:17 บริเวณครึ่งหนึ่งของร่างกายนะคะแล้วก็
00:53:17 → 00:53:20 อาการมันก็จะเป็นแบบเกิดขึ้นมาเฉียบพลัน
00:53:20 → 00:53:24 นะคะถ้าเกิดเลือดไปเลี้ยงสมองทันก็อาจจะ
00:53:24 → 00:53:26 เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วหายไปนะคะแบบแป๊บ
00:53:26 → 00:53:29 เดียวแต่ถ้าเกิดแบบเป็นแล้วมีอาการหลอด
00:53:29 → 00:53:31 เลือดสมองตีบไปเลยอันนั้นคนไข้ก็จะชาแบบ
00:53:31 → 00:53:33 มีถาวรไปเลยเพราะฉะนั้นมันก็จะไม่
00:53:33 → 00:53:35 สัมพันธ์กับการนอนหรือว่าสัมพันธ์กับท่า
00:53:35 → 00:53:38 ทางนะคะถ้าเป็นจากการนอนเป็นท่าทางส่วน
00:53:38 → 00:53:41 ไอ้พวกเนี้ยบางทีเกิดจากบางทีเราไปนอนทับ
00:53:41 → 00:53:45 แขนหรือว่าเอ่อนอนทับท่าใดท่านึงนานเกิน
00:53:45 → 00:53:49 ไปก็ทำให้เกิดอาการชาขึ้นมามากกว่านะคะ
00:53:49 → 00:53:53 ไอระคายคอบ่อยๆมีผลต่อเส้นเลือดในสมองไหม
00:53:53 → 00:53:58 คะจริงๆอาการไอไม่ได้มีผลกับเรื่องเส้น
00:53:58 → 00:54:01 เลือดในสมองอะไรนะคะแต่ว่าคนที่เป็นปวด
00:54:01 → 00:54:04 หัวอยู่แล้วหรือว่าคนที่มีโรคสมองอยู่
00:54:04 → 00:54:08 แล้วเช่นแบบคนที่มีสมมุตินะคะมีก้อนเนื้อ
00:54:08 → 00:54:10 งอกหรือมีเส้นเลือดที่มันผิดปกติเนี่ยการ
00:54:10 → 00:54:13 ไอเนี่ยมันจะไปทำให้แรงดันน่ะมันเยอะขึ้น
00:54:13 → 00:54:16 ก็จะทำให้ปวดหัวมากขึ้นนะคะแต่ถ้าแบบไม่
00:54:16 → 00:54:18 ได้เป็นปวดหัวหรือไม่ได้เป็นโรคอะไรกันไอ
00:54:18 → 00:54:21 ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคสมองอะไรนะคะ
00:54:21 → 00:54:25 คนไข้ไมเกรนเรื้อรังลายนึงเขาบอกว่าปวด
00:54:25 → 00:54:28 แบบแสบๆในหัวค่ะอันนี้อันตรายไหมคะอันนี้
00:54:28 → 00:54:31 อาจจะตอบให้ไม่ได้นะคะเพราะว่าอาจจะต้อง
00:54:31 → 00:54:35 อาศัยประวัติที่คุยเนาะมากขึ้นนะคะแต่ว่า
00:54:35 → 00:54:37 ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นแบบเป็นในเกณฑ์
00:54:37 → 00:54:41 เรื้อรังแบบนานๆระดับนึงอ่ะค่ะแบบคือเวลา
00:54:41 → 00:54:44 คนไข้ถามว่าแบบจะเป็นเนื้องอกไหมคะบางที
00:54:45 → 00:54:47 เราก็ดูที่ระยะเวลานะคะถ้าปวดมา 10 ปี
00:54:47 → 00:54:49 อย่างนี้บางทีก็ไม่น่าใช่ละถ้าอาการปวด
00:54:49 → 00:54:52 เหมือนเดิมนะคะแต่ถ้าเกิดแบบโอเคปวด
00:54:52 → 00:54:54 เรื้อรังแบบปวดมากขึ้นมาในช่วง 3 เดือน
00:54:54 → 00:54:56 นี้แล้วปวดแล้วปวดรุนแรงเลยแอบพวกนี้อาจ
00:54:56 → 00:54:58 จะต้องระวังพวกกลุ่มเนื้องอกไว้ด้วยนะคะ
00:54:58 → 00:55:00 เพราะส่วนใหญ่เนื้องอกในสมองเนี่ยเป็น
00:55:00 → 00:55:04 อวัยวะที่ค่อนข้างแบบเวลาเป็นเนื้องอก
00:55:04 → 00:55:06 แล้วเนี่ยอาการมันจะค่อนข้างเร็วถ้าเรา
00:55:06 → 00:55:09 ยังไม่ได้รักษาอะไร 3 เดือน 6 เดือนอะไร
00:55:09 → 00:55:12 เงี้ยก้อนโตขึ้นมักจะต้องมาปวดหัวรุนแรง
00:55:12 → 00:55:14 มากแล้วหรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นให้
00:55:15 → 00:55:17 เห็นบ้างนะคะปวดถ้าปวดมา 10 ปีลักษณะ
00:55:17 → 00:55:19 อาการปวดเหมือนเดิมเลยปวดไปเป็นหายๆเลย
00:55:19 → 00:55:22 ส่วนใหญ่จะไปอยู่ในกลุ่มที่เป็นกลุ่มปวด
00:55:22 → 00:55:25 หัวไม่หายที่เป็นไมเกรนร่างเป็นปวดจาก
00:55:25 → 00:55:27 ความเครียดเรื้อรังปวดจาก tension ปวด
00:55:27 → 00:55:29 ตะกร้ามเนื้อหรือว่าปวดจากใช้ยาแก้ปวดแบบ
00:55:29 → 00:55:32 นั้นมากกว่านะคะเนาะแต่ว่ายังไงถ้าเกิด
00:55:32 → 00:55:34 แบบเพื่อนเป็นเรื้อรังเราไม่หายสักทีอ่ะ
00:55:34 → 00:55:37 ค่ะก็ลองให้เพื่อนไปรักษาดูนะคะว่าส่วน
00:55:37 → 00:55:39 ใหญ่เนี่ยถ้าเป็นไมเกรนเรื้อรังอ่ะค่า
00:55:39 → 00:55:44 รักษาอาการมันก็ดีขึ้นได้จริงๆนะคะ
00:55:44 → 00:55:47 ปวดหัวไมเกรนมาตั้งแต่ปี 43 ตอนนี้ปกปี 66
00:55:47 → 00:55:51 แล้วค่ะกินยาค่ะก็ถ้าเป็น 20 ปีอย่าง
00:55:51 → 00:55:53 เงี้ยค่ะก็ถือว่าเป็นไมเกรนเรื้อรังอยู่
00:55:53 → 00:55:57 ละนะคะถ้าไม่เคยรองรับสายโดยการอ่ารักษา
00:55:57 → 00:55:59 ด้วยยาป้องกันหรือว่าลองปรึกษาคุณหมอจริง
00:55:59 → 00:56:02 จังนะคะลองรักษาดูนะคะจะได้ไม่ต้องใช้ยา
00:56:02 → 00:56:07 แก้ปวดบ่อยๆนะคะ
00:56:07 → 00:56:11 ปวดไมเกรนแล้วมีเสียงวิ้งๆในหูตื่นมาแล้ว
00:56:11 → 00:56:13 เสียงวิ้งหาย
00:56:13 → 00:56:19 แต่ตอนนี้เสียงวิ้งไม่หายต้องทำยังไงคะ
00:56:19 → 00:56:23 ก็ต้องดูว่าอาการเสียงวิ้งในหูเนี่ยเป็น
00:56:23 → 00:56:24 เป็นสัมพันธ์กับไมเกรนหรือเปล่ามันจะมี
00:56:24 → 00:56:27 กลุ่มไมเกรนที่เราเรียกว่าเป็นไมเกรนแล้ว
00:56:27 → 00:56:29 มีอาการบ้านหมุนหรือว่ามีอาการทางหูร่วม
00:56:29 → 00:56:32 ด้วยได้อย่างเช่นกลุ่มพวกเป็นเป็นไมเกรน
00:56:32 → 00:56:34 ไมเกรนาสวยไทเกอร์อะไรอย่างนี้ค่ะกลุ่ม
00:56:34 → 00:56:36 นี้คนไข้ก็จะมีอาการเวียนหัวมาพร้อมๆกับ
00:56:36 → 00:56:39 ปวดหัวมีรู้สึกเหมือนเป็นอาการน้ำในหูไม่
00:56:39 → 00:56:41 เท่ากันหรืออะไรมาในช่วงปวดหัวได้แต่ถ้า
00:56:41 → 00:56:44 เกิดแบบเป็นไม่ได้สัมพันธ์กับอาการปวดหัว
00:56:44 → 00:56:46 แล้วนะคะก็คือไมเกรนดีขึ้นแล้วหายไปแล้ว
00:56:46 → 00:56:49 แต่ว่าเสี่ยงวิ้งเนี่ยยังอยู่อันนี้อาจจะ
00:56:49 → 00:56:54 เป็นอาการของทางอ่าในหูละนะคะพวกระบบเส้น
00:56:54 → 00:56:56 เส้นประสาทหูเสื่อมหรืออะไรแบบนี้นะคะอาจ
00:56:57 → 00:56:59 จะต้องลองไปตรวจกับคุณหมอหูเขาจะปลูกดูนะ
00:56:59 → 00:57:01 คะ
00:57:01 → 00:57:07 โอเคหมดแล้ว
00:57:07 → 00:57:16 เดี๋ยวขอดูในนี้อีกทีนึงเนาะ
00:57:16 → 00:57:20 โอเคคุยตอบคำถามอาจจะแบบว่า
00:57:20 → 00:57:23 เลยทำให้อาการอะไรนะคะแบบ
00:57:23 → 00:57:26 ตอบหลายเรื่องนะคะคุยนอกเรื่องไปหน่อยนะ
00:57:26 → 00:57:30 คะจริงๆคลิปนี้นะคะก็สรุปให้ฟังนะคะว่า
00:57:30 → 00:57:34 สรุปแล้วคนไข้ที่ปวดหัวไม่หายส่วนใหญ่มัน
00:57:34 → 00:57:38 เป็นเพราะอะไรนะคะก็คือเป็นเพราะว่าโลก
00:57:38 → 00:57:40 ของเราที่เราเป็นปวดหัวไม่หายเนี่ยก็คือ
00:57:40 → 00:57:43 เป็นกลุ่มโรคที่มันจะมีความเสี่ยงที่จะทำ
00:57:43 → 00:57:45 ให้เราปวดหัวเรื้อรังได้อยู่แล้วนะคะ
00:57:45 → 00:57:47 อย่างเช่นกลุ่มไมเกรนเรื้อรังกลุ่มปวด
00:57:47 → 00:57:49 กล้ามเนื้อเรื้อรังกลุ่มปวดจากความเครียด
00:57:49 → 00:57:52 นะคะหรือใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดนะคะส่วนใหญ่
00:57:52 → 00:57:55 ถ้าตกอยู่ 4 กลุ่มนี้จะทำให้คนไข้ปวดหัว
00:57:55 → 00:57:59 แบบปวดมากขึ้นปวดเรื่อยๆปวดไม่หายสักที
00:57:59 → 00:58:01 แล้วก็ต้องใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำนะคะบวก
00:58:01 → 00:58:05 กับการใช้ชีวิตที่หรือมีการมีความปวดมากๆ
00:58:05 → 00:58:08 ปวดมานานๆแล้วก็ใช้ชีวิตที่เคร่งเครียด
00:58:08 → 00:58:11 เช่นมีความเครียดใช้ความคิดเยอะๆอดนอนนอน
00:58:11 → 00:58:14 ไม่พอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกินไม่พอดื่ม
00:58:14 → 00:58:16 น้ำไม่พอก็จะยิ่งทำให้อาการปวดหัวเรา
00:58:16 → 00:58:19 เนี่ยแย่ลงนะคะส่วนใหญ่แล้วนะคะถ้าเกิด
00:58:19 → 00:58:22 แบบลองมาคุยหรือว่าลองมาซักประวัติเรามา
00:58:22 → 00:58:24 รักษากันจริงๆเนี่ยทำควบคู่กันไปทั้ง 2
00:58:24 → 00:58:27 อย่างอ่ะมักจะทำให้อาการปวดหัวที่มันเป็น
00:58:27 → 00:58:30 เรื้อรังมันเป็นไม่หายเนี่ยดีขึ้นได้นะคะ
00:58:30 → 00:58:33 แล้วก็ถึงแม้อาการปวดหัวเรื้อรังเนี่ย
00:58:33 → 00:58:37 สาเหตุแบบเนี่ยคุยมาประมาณเกิน 90% มักจะ
00:58:37 → 00:58:39 เป็นสาเหตุที่ไม่ได้รุนแรงคือเป็นไมเกรน
00:58:39 → 00:58:41 เป็น tension เป็นอะไรอาจจะไม่ได้ทำให้
00:58:41 → 00:58:43 ถึงกับแบบเป็นโรคที่รุนแรงถึงกับเสีย
00:58:43 → 00:58:46 ชีวิตนะคะแต่ว่ากระทบคุณภาพชีวิตแน่นอนนะ
00:58:46 → 00:58:49 คะส่วนใหญ่หมอเจอคนไข้กลุ่มที่เป็นปวดหัว
00:58:49 → 00:59:49 เรื้อรังแบบเนี้ย
00:59:49 → 00:59:52 จะช่วยลดบรรเทาตรงนี้ลงได้นะคะแล้วก็
00:59:52 → 00:59:55 กลุ่มที่เป็นปวดหัวเรื้อรังเนี่ยก็จะมี
00:59:55 → 00:59:58 กลุ่มน้อยๆนะคะที่อาจจะต้องระวังเรื่อง
00:59:58 → 01:00:01 ของตัวโรคที่มันรุนแรงมากขึ้นอย่างเช่น
01:00:01 → 01:00:03 เรื่องของเนื้องอกในสมองนะคะก็ให้สังเกต
01:00:03 → 01:00:06 อาการว่าเราจะเข้าข่ายกลุ่มนั้นหรือเปล่า
01:00:06 → 01:00:09 เพราะว่าอาจจะต้องไปพบคุณหมอหรืออาจจะ
01:00:09 → 01:00:12 ต้องไปสแกนคอมพิวเตอร์สมัครต่อไปนะคะเนาะ
01:00:12 → 01:00:15 ก็หวังว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน
01:00:15 → 01:00:17 ที่มีอาการปวดหัวหรือว่ามีคนใกล้ตัวปวด
01:00:17 → 01:00:20 หัวอยู่นะคะที่แบบรู้สึกว่าแบบเอ้ยปวด
01:00:20 → 01:00:22 เนื้อรังไม่หายไม่รู้จะทำยังไงนะคะสักที
01:00:22 → 01:00:26 ลองมาฟังดูนะคะก็อาจจะเห็นแนวทางมากขึ้น
01:00:26 → 01:00:29 ว่าเออเราน่าจะเป็นอะไรหรือว่าเราจะไป
01:00:29 → 01:00:32 รักษายังไงต่อไปนะคะเนาะก็สำหรับคลิปนี้
01:00:32 → 01:00:36 ก็วันนี้ก็สวัสดีค่ะ