ทำไมการเป็นผู้ฟังที่ดีจึงถือเป็นการบอกรักได้

วิธีแสดงออกโดยไม่บอกรัก | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0600:00:09 บางครั้งเนี่ยการแสดงออกซึ่งความรักเนี่ย

00:00:0900:00:11 มันก็เป็นตัววัดว่าอีกฝ่ายหนึ่งรู้สึก

00:00:1100:00:14 อย่างไรกับเรามันก็เหมือนกันเรียนรู้กัน

00:00:1400:00:18 ด้วยภาษากายหรือสิ่งที่ออกมาที่มากกับคำ

00:00:1800:00:20 พูดอ่ะเมื่อมันรู้สึกว่าแน่ใจแล้วว่าเออ

00:00:2100:00:23 เขามีใจตรงกับเราจึงอาจจะค่อยๆเอ่ยปาก

00:00:2400:00:27 หรือบางครั้งเนี่ยทำแบบนี้จนอีกฝ่ายหนึ่ง

00:00:2700:00:28 ก็รู้แล้วล่ะว่าเนี่ยมันต้องมีความรู้สึก

00:00:2800:00:31 พิเศษต่อกันโดยเฉพาะคนที่มีความรักที่

00:00:3100:00:34 ยั่งยืนส่วนใหญ่ในการครองชีวิตคู่เนี่ย

00:00:3400:00:36 มักจะเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์แบบเพื่อน

00:00:3600:00:40 เนี่ยจะยั่งยืนที่สุดดีกว่าคนที่แบบเจอ

00:00:4000:00:41 กันปั๊บ

00:00:4100:00:45 สปาร์คพึ่บๆๆมันจะฉาบฉวยมันขี้มักจะเป็น

00:00:4500:00:47 อย่างนั้นไม่ได้ว่าทุกคู่นะคะ

00:00:4700:00:49 [เพลง]

00:00:4900:00:53 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคภัยฟังราย

00:00:5300:00:59 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ

00:00:5900:01:02 วันนี้นะคะคุณผู้ฟังท่านเรามาติดตามถึง

00:01:0200:01:05 เรื่องของวิธีการแสดงออกโดยไม่บอกรักนะคะ

00:01:0500:01:07 การไม่บอกรักมีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถ

00:01:0700:01:10 แสดงให้อีกคนนึงรู้ได้ว่าเรารักนะคะ

00:01:1000:01:12 เดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทร์

00:01:1200:01:15 วิภาวดีสัมพันธ์ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัย

00:01:1500:01:18 ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญ

00:01:1800:01:20 ด้านความสัมพันธ์และครอบครัวค่ะสวัสดีค่ะ

00:01:2000:01:24 อาจารย์ค่ะสวัสดีค่ะมีวิธีการอะไรบ้างที่

00:01:2400:01:27 เราจะแสดงออกว่ารักเคยเห็นในโซเชียลตั้ง

00:01:2700:01:29 โพสต์คำถามนี้ขึ้นมาก็เลยเออเป็นหัวข้อ

00:01:2900:01:32 ที่น่าสนใจค่ะอาจารย์มีวิธีอะไรบ้างคะ

00:01:3200:01:33 อาจารย์

00:01:3300:01:37 นะคะแต่ในวันนี้เราก็คงจะพูดเป็นวิธีกลาง

00:01:3700:01:41 ๆนะคะสำหรับทั้งหญิงและชายจะเลือกเอาไป

00:01:4100:01:45 ใช้ได้จะใช้ทุกวิธีก็ได้จะใช้บางวิธีที่

00:01:4500:01:49 เราคิดว่าเราโอเคก็ได้นะคะค่ะก็เอ่อที่จะ

00:01:4900:01:52 ไม่พารวบรวมมาให้นี่ก็มีอยู่ประมาณ 10

00:01:5200:01:54 วิธีด้วยกันโหมีถึง 10 วินาทีเลยนะคะที่

00:01:5400:01:57 เราสามารถใช้ได้ทั้งหญิงและชายเพราะว่า

00:01:5700:02:00 จริงๆแล้วการบอกรักเนี่ยคุณสุรีย์พรจะ

00:02:0000:02:03 สังเกตว่าคนบางคนเนี่ยบอกรักง่ายๆแต่ไม่

00:02:0300:02:07 ได้รักจริงแต่บางคนเนี่ยบอกรักยากยากยาก

00:02:0700:02:14 แต่จริงๆมันรักๆๆๆๆๆก็ทำไมไม่บอกไม่พูดก็

00:02:1400:02:16 มันเป็นอะไรบางอย่างที่บางทีคนเรามันก็จะ

00:02:1600:02:20 ป๊อดน่ะป๊อดในบางเรื่องอ่ะยกตัวอย่างเช่น

00:02:2000:02:23 บางคนเนี่ยนะคะเป็นชายหนุ่มนะกล้าบ้าบิ่น

00:02:2300:02:27 ไปไหนไปกันลุยไหนลุยนั่นไม่เคยกลัวใครนะ

00:02:2700:02:29 ฮะแต่พอถึงเรื่องของหัวใจที่จะแสดงออก

00:02:2900:02:32 เนี่ยนะมันสั่นไปหมดอ่ะโดยเฉพาะผู้หญิง

00:02:3200:02:36 เนาะนะฮะมันเขินน่ะแล้วที่สำคัญที่สุด

00:02:3600:02:39 เนี่ยผู้ชายหลายคนนะคะกลัวเสียหน้าอ้าว

00:02:3900:02:43 กลัวว่าบอกไปแล้วถ้าเขาใจไม่ตรงกับเราอาจ

00:02:4300:02:46 จะยังไงล่ะเหมือนๆโบราณเขาเรียกว่าต้อง

00:02:4600:02:49 พูดสำนึกสำนวนโบราณเพราะว่าเดี๋ยวนี้คน

00:02:4900:02:52 รุ่นใหม่จะไม่ค่อยรู้จักนะคะเขาเรียกว่า

00:02:5200:02:56 กลัวตกม้าตายนะคะหรือบางทีเนี่ยกลัวเสีย

00:02:5600:02:59 เพื่อนถ้าประเภทที่เราเกิดไปชอบเพื่อน

00:02:5900:03:02 สนิทเข้าไงหยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท

00:03:0200:03:07 ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไปว่ารักเธอใช่ไหมคะ

00:03:0700:03:10 หรือเสียฟอร์มอะไรประมาณนั้นน่ะมันก็เป็น

00:03:1000:03:14 อันนึงที่ทำให้คนเราไม่กล้าบอกกันตรงๆแต่

00:03:1400:03:17 ก็อยากให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้อ่าเพราะรู้แล้ว

00:03:1700:03:20 ถ้าเขามีใจด้วยมันก็จะมีปฏิกิริยาตอบมา

00:03:2000:03:23 แต่ถ้าเขาไม่มีใจมันก็จะได้ไม่เสียฟอร์ม

00:03:2300:03:27 ไม่เสียหน้าไม่เสียเพื่อนถูกไหมคะไม่ว่า

00:03:2700:03:29 หญิงรักชายหรือชายรักหญิงคือนายพ.ศเนี้ย

00:03:2900:03:32 ผู้หญิงหลายคนก็รู้สึกว่าเออมันแฟรงค์

00:03:3200:03:35 ดีเนาะที่เราจะบอกเลยว่าเรารักหรือไม่รัก

00:03:3500:03:38 แต่บางทีบอกไปแล้วมันก็เสียความสำคัญที่

00:03:3800:03:39 ดีเหมือนกัน

00:03:3900:03:42 บางทีมันก็มองหน้ากันไม่ติดถ้าเกิดใจมัน

00:03:4200:03:45 ไม่ตรงกันก็เป็นไปได้นะคะแล้วอย่างใน

00:03:4500:03:48 เรื่องของวิธีการแสดงออกว่ารักเนี่ยอัน

00:03:4800:03:51 นี้เป็นโมเมนต์ที่เราจะคุยกันว่าก่อนจะ

00:03:5100:03:53 เริ่มความสัมพันธ์หรือในระหว่างที่เรามี

00:03:5400:03:56 ความสัมพันธ์ไปแล้วเราเดินมาระยะหนึ่ง

00:03:5600:03:58 แล้วแต่แบบเฮ้ยทำไมไม่พูดอ่ะทำไมไม่บอก

00:03:5800:04:01 ได้ทั้งหมดได้ทั้งหมดเลยนะได้ทั้งหมด

00:04:0100:04:04 เพราะว่าบางครั้งเนี่ยการแสดงออกซึ่งความ

00:04:0400:04:07 รักเนี่ยมันก็เป็นตัววัดว่าอีกฝ่ายหนึ่ง

00:04:0700:04:10 รู้สึกอย่างไรกับเราถูกไหมคะมันก็เหมือน

00:04:1000:04:13 กันเรียนรู้กันด้วยภาษากายหรือสิ่งที่ออก

00:04:1300:04:18 มาที่มากกว่าคำพูดอ่ะถ้าจะเรียกว่า verbal

00:04:1800:04:21 กับ nonver อ่ะนะเป็นแบบนั้นน่ะนะคะแล้ว

00:04:2100:04:24 ก็เมื่อมันรู้สึกว่าแน่ใจแล้วว่าเออเขามี

00:04:2400:04:28 ใจตรงกับเราจึงอาจจะค่อยๆเอ่ยปากค่ะอะไร

00:04:2800:04:30 อย่างนี้ก็ได้หรือบางครั้งเนี่ยทำแบบนี้

00:04:3000:04:32 จนอีกฝ่ายหนึ่งก็รู้แล้วล่ะว่าเนี่ยมัน

00:04:3200:04:36 ต้องมีความรู้สึกพิเศษต่อกันใช่ไหมคะถ้า

00:04:3600:04:38 เรามักจะพูดเสมอว่าโดยเฉพาะคนที่มีความ

00:04:3800:04:41 รักที่ยั่งยืนส่วนใหญ่ในการทดลองชีวิตคู่

00:04:4100:04:43 เนี่ยมักจะเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์แบบ

00:04:4300:04:47 เพื่อนเนี่ยจะยั่งยืนที่สุดดีกว่าคนที่

00:04:4700:04:51 แบบเจอ

00:04:5100:04:54 มันจะฉาบฉวยมันขี้มักจะเป็นอย่างนั้นไม่

00:04:5400:04:57 ได้ว่าทุกคู่นะคะนะคะเพราะฉะนั้นมันขี้

00:04:5700:04:59 มักจะฉาบฉวยแล้วทำให้ความสัมพันธ์มันไม่

00:04:5900:05:01 ยืนยาวเพราะฉะนั้นมันต้องการเรียนรู้ซึ่ง

00:05:0100:05:05 กันและกันค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่อยๆศึกษากัน

00:05:0500:05:08 บางครั้งคบกันเป็นเพื่อนเพราะใกล้จะเป็น

00:05:0800:05:12 แฟนเอ๊ะไม่ใช่และมันถอยออกมาทันนึกออกไหม

00:05:1200:05:13 คะมันถอยออกมาทันความสัมพันธ์มันก็ยัง

00:05:1300:05:17 เป็นเพื่อนเหมือนเดิมค่ะแต่ถ้ารกอย่าง

00:05:1700:05:20 เร็วแล้วพอจะถอยออกมาเนี่ยบางทีมันมันมัน

00:05:2000:05:22 เกิดบางอย่างเกิดขึ้นน่ะที่มันเป็นช่อง

00:05:2200:05:25 ว่างหรือเป็นม่านมากั้นหรือเป็นอะไรที่ทำ

00:05:2500:05:29 ให้เราไม่โอเคในความสัมพันธ์ก็มีเยอะซึ่ง

00:05:2900:05:31 ก็แล้วแต่แต่ละคู่อีกแหละเราไม่ได้มีสูตร

00:05:3100:05:34 ตายตัวว่าคู่ถ้าเกิดเริ่มต้นความสัมพันธ์

00:05:3400:05:37 แบบเพื่อนมันจะเป็นแบบนี้ถ้าอยู่ๆมาเป็น

00:05:3700:05:39 แฟนกันเลยไม่รู้จักกันมาก่อนมันจะต้อง

00:05:3900:05:42 เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพียงแต่ว่าตามตามที่เขา

00:05:4200:05:45 สำรวจมาหรือตามสถิติแล้วพบว่าความ

00:05:4500:05:48 สัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาที่เริ่มต้นด้วย

00:05:4800:05:51 ความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันขี้มักจะยืนยาว

00:05:5100:05:55 กว่ากว่าคู่หวือหวาทั่วๆไปเอางี้แล้วกัน

00:05:5500:05:57 มันก็เป็นความรู้สึกอีกมุมนึงเหมือนกันนะ

00:05:5700:06:01 คะเพราะว่าในมุมของตัวเองเนี่ยถ้าวางใคร

00:06:0100:06:04 ไว้แบบไหนเขาจะเป็นแบบไหนถ้าคนนี้คือ

00:06:0400:06:06 เพื่อนคือเพื่อนเลยค่ะเปลี่ยนสถานะไม่ได้

00:06:0600:06:10 เลยเรากดบล็อกไงเรากดบล็อกของเขาไว้แต่

00:06:1000:06:13 ถ้าเราไม่ได้กดบล็อกหรือมันขี้มักจะเกิด

00:06:1300:06:17 ขึ้นโดยเราไม่รู้ตัวคุณสุรีย์พรบางทีความ

00:06:1700:06:20 รักมันไม่เลือกที่เกิดมันซึมไปโดยแบบว่า

00:06:2000:06:23 ตอนไหนถ้าเผลอมาอีกทีอุ๊ยตายขาดคนนี้ไม่

00:06:2300:06:27 ได้แล้วนึกออกมั้ยฮะเออเพราะฉะนั้นบางที

00:06:2700:06:29 เนี่ยเราล็อคไว้เป็นเพื่อนแต่เขาอาจจะไม่

00:06:3000:06:33 ได้คิดแค่เพื่อนหรือบางทีเราบอกว่าเพื่อน

00:06:3300:06:35 เนี่ยเพื่อนๆๆ

00:06:3500:06:39 แต่พอเขาไปควงคนอื่นอุ๊ยทำไมใจมันโบ๋อุ้ย

00:06:3900:06:43 ทำไมเรารู้สึกแย่อุ๊ยทำไมเรารู้สึกหวงอ่ะ

00:06:4300:06:46 อืมนั่นแหละแล้วเขาเข้าไปแล้วไม่รู้ตัว

00:06:4600:06:50 อุ๊ยตายแล้วมีใครเป็นแบบนี้บ้าง

00:06:5000:06:53 ทีนี้เราลองมาดูนะคะวิธีบอกรักของเรา

00:06:5300:06:56 เนี่ยอาจารย์วิภาค้นมาให้ประมาณ 10 แบบ

00:06:5600:06:58 ที่จะใช้ได้ทั้งหญิงและชายอย่างแรกเลยค่ะ

00:06:5800:07:02 ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีนะคะสำหรับเธอหรือ

00:07:0200:07:05 เขาคนนั้นเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั่วไป

00:07:0500:07:08 ระบายปัญหาเรื่องไร้สาระเรื่องน่าเบื่อ

00:07:0800:07:11 แค่ไหนเขาเล่าซ้ำๆซากแค่ไหนเราก็เป็นผู้

00:07:1100:07:14 ฟังที่ดีถามว่าทำไมมันแสดงให้เห็นว่าเรา

00:07:1400:07:18 เนี่ยเห็นความสำคัญแล้วก็สนใจในตัวเขามาก

00:07:1800:07:22 พอที่จะทนฟังปัญหาเหล่านั้นนะฮะเพราะ

00:07:2200:07:25 ฉะนั้นเนี่ยมันทำมันเป็นการบอกรักโดยไม่

00:07:2500:07:29 ต้องออกเสียงคุณสุรีย์พรนะคะมีเคสเยอะที่

00:07:2900:07:32 มาเล่าให้อาจารย์วิภาฟังอ่ะนะฮะว่าอย่าง

00:07:3200:07:34 เช่นผู้ชายคนเนี้ยนะคะมีทุกข์อะไรเนี่ย

00:07:3400:07:38 ความที่เป็นผู้บริหารนะระดับสูงด้วยนะใคร

00:07:3900:07:41 เป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วก็ไม่กล้าที่จะ

00:07:4100:07:43 ไประบายให้ใครฟังนั่นก็ลูกน้องนี่ก็อัน

00:07:4300:07:47 นั้นนี่นี่นั่นเขาก็ไปที่ร้านอาหารแห่ง

00:07:4700:07:50 หนึ่งและร้านอาหารแห่งนั้นเนี่ยก็มีเจ้า

00:07:5000:07:54 ของร้านที่เธอก็วัยเดียวกันเป็นหญิงสาว

00:07:5400:07:57 วัยเดียวกันนะคะแล้วก็เธอก็อ่ะทักทายเป็น

00:07:5700:08:00 ลูกค้าแล้วเหมือนกับเห็นมาคนเดียวก็เป็น

00:08:0000:08:03 ไงคะอาหารอร่อยไหมอะไรก็เริ่มพูดคุยกันนะ

00:08:0300:08:06 คะอันนี้เป็นตัวอย่างนะคะแต่จริงๆมันมี

00:08:0600:08:09 ลักษณะแบบนี้หลายเคสคุยกันแล้วเธอก็พร้อม

00:08:0900:08:12 ที่จะฟังก็บริการลูกค้าเนอะเขาอยากเล่า

00:08:1200:08:15 อะไรก็เล่าผู้ชายเองก็รู้สึกว่าดีที่ได้

00:08:1500:08:17 คุยกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่ต้องรับรู้

00:08:1700:08:20 ว่าเขาคือใครนึกออกมั้ยไม่ต้องมากังวลว่า

00:08:2000:08:23 เขาจะไปบอกหรือคุยกับใครแต่ปรากฏว่าพอมี

00:08:2300:08:25 ปัญหาทีไรก็จะนึกถึงผู้หญิงคนเนี้ยนะคะ

00:08:2500:08:29 แล้วก็เป็นคนแรกที่จะพอกลุ้มใจอะไรก็

00:08:2900:08:31 เริ่มขยายจากการมานั่งร้านอาหารเป็น

00:08:3100:08:35 โทรศัพท์หานะฮะไปๆมาติดเป็นนิสัยค่ะมารู้

00:08:3600:08:39 ตัวอีกทีขาดคนนี้ไม่ได้แล้วค่ะมันกลาย

00:08:3900:08:42 เป็นความรักไปแล้วค่ะโอ้ยเห็นไหมคะแล้วก็

00:08:4200:08:44 แฮปปี้เอ็นแซดิ้งนะคะอ่าเธอก็แต่งงานกัน

00:08:4500:08:47 ในที่สุดอะไรอย่างนี้เป็นต้นอุ๊ยแต่จริงๆ

00:08:4700:08:51 นะคะในสังคมตอนนี้เอาเอาตอนนี้ดีกว่าไม่

00:08:5100:08:54 ได้หมอเป็นสังคมแล้วกันค่ะการตั้งใจฟัง

00:08:5400:08:56 หรือการรับฟังปัญหาของคนอื่นหรือแม้

00:08:5600:08:58 กระทั่งด้วยความเป็นเพื่อนค่ะคนใน

00:08:5800:09:02 ครอบครัวเองน้อยมากจริงๆมันมีการสื่อสาร

00:09:0200:09:05 กันน้อยเราจะไปสื่อสารกับคนไกลตัวมากกว่า

00:09:0500:09:08 เช่นโซเชียลนะคะเพราะฉะนั้นอาจารย์นิภา

00:09:0800:09:10 จึงบอกว่าเนี่ยไม่ว่าจะเป็นคู่สามีภรรยา

00:09:1000:09:13 หรือพ่อแม่ลูกเนี่ยการสื่อสารสำคัญที่สุด

00:09:1300:09:16 ค่ะแล้วคุณพ่อคุณแม่กรุณาเป็นนักฟังที่ดี

00:09:1600:09:20 ไม่ใช่ลูกอ้าปากปั๊บก็สอนทันทีอะไรอย่าง

00:09:2000:09:22 นี้หรือแม้แต่คนเป็นครูนะคะลูกศิษย์มี

00:09:2200:09:25 ปัญหานี่อย่าเพิ่งสอนได้ไหมฟังให้จบก่อน

00:09:2500:09:28 นะฮะซึ่งบางทีเนี่ยเขาไม่ได้ต้องการคำแนะ

00:09:2800:09:31 นำหรอกค่ะมีใครสักคนที่รับฟังเขาเท่านั้น

00:09:3100:09:34 พอมันเป็นการแสดงความรักแบบนี้โดยไม่ต้อง

00:09:3400:09:39 ออกเสียงโอ้ไม่น่าเชื่อนะเป็นการออกนะคะ

00:09:3900:09:43 มาดูวิธีที่ 2 ค่ะการชมเชยค่ะ

00:09:4300:09:46 การชมเชยในเรื่องต่างๆเท่ากับการที่เรา

00:09:4600:09:50 มองบวกในคนๆนั้นถูกไหมคะไม่ใช่เจอปั๊บมา

00:09:5000:09:54 แม้เธอกระโปรงสั้นไปนะจ๊ะแหมเธอสีนี้ไม่

00:09:5400:09:57 ได้เข้ากับเธอเลยนะลบก่อนทั้งนั้นใช่ไหม

00:09:5700:10:00 คะเพราะฉะนั้นการชมเชยเนี่ยเช่นเอ้าอุ๊ย

00:10:0000:10:03 ตายคุณสุรีย์พรเป็นนิเทศจังเลยอ่ะเสื้อ

00:10:0300:10:05 ตัวนี้เก๋ๆดูดีมากเลย

00:10:0500:10:09 ขอบอกก่อนนะคะว่าความความรู้สึกนี้ไม่ใช่

00:10:0900:10:13 สตอเบอแหลนะเลือกสิ่งที่ดีมาพูดแต่ไม่ใช่

00:10:1300:10:17 สตอเบอแหลว่าเขาอะไรขาวเป็นดำๆเป็นขาวอ่ะ

00:10:1700:10:21 ไม่ใช่นะฮะเออมันต้องหาส่วนดีๆในแต่ละคน

00:10:2100:10:25 ให้ได้เช่นบอกว่าเออฉันชอบที่เธอทำจังเลย

00:10:2500:10:28 อ่ะมันทำให้ฉันรู้สึกดีมากเลยฉันชอบจัง

00:10:2800:10:30 เลยอ่ะที่เธอนั่งอยู่ตรงเนี้ยอะไรอย่าง

00:10:3000:10:35 เงี้ยนะคะเพราะฉะนั้นมันๆมันเป็นอะไรที่

00:10:3500:10:37 บวกบวกต่อกันเพราะฉะนั้นการมองบวกต่อกัน

00:10:3700:10:40 เนี่ยมันเป็นการบอกแล้วล่ะคนที่เราเกลียด

00:10:4000:10:43 เราจะบวกด้วยไหม

00:10:4300:10:45 เราก็ต้องบวกกับคนที่เรารักถูกมั้ยคะ

00:10:4500:10:47 เพราะฉะนั้นการมองบวกกันและกันเนี่ยมัน

00:10:4700:10:50 เป็นการบอกรักชนิดนึงค่ะคุณสุรีย์พร

00:10:5000:10:52 อาจารย์เนาะอย่างนี้คือบางทีเรื่องของน้ำ

00:10:5200:10:56 เสียงอ่ะฟังแล้วมันแบบว่า

00:10:5600:10:57 ตกลง

00:10:5700:11:00 หมวกใช่มั้ย

00:11:0000:11:03 แบบประชดไงหรือแบบสตอเบอแหลอย่างที่

00:11:0300:11:06 อาจารย์วิภาบอกว่ามันไม่ได้เป็นจริงแต่

00:11:0600:11:09 เสแสร้งแกล้งทำหรือพูดประชดไปเลยเช่น

00:11:0900:11:11 สมมุติว่าเขาแต่งตัวมาไม่ดีอย่างเงี้ยนะ

00:11:1100:11:15 ฮะก็ไปสตอเบอแหลกับเขาอู้ยแต่งตัวเท่จัง

00:11:1500:11:18 เลยนะอะไรอย่างเงี้ยมันซ้ำเสียงเนี่ยมัน

00:11:1800:11:20 จะมีเสียง 1 เสียง 2 อะไรประมาณนี้ใช่ไหม

00:11:2100:11:23 คะเราก็ฟังดูได้ว่าน้ำเสียงนะเนี่ยมัน

00:11:2300:11:25 เป็นน้ำเสียงของการประชดประชันหรือการแดก

00:11:2500:11:28 กันอะไรอย่างเงี้ยคนไทยถนัดมากเรื่องแดก

00:11:2800:11:31 ดันเนี่ยนะคะอาจารย์แล้วอีกนิดนึงตรงที่

00:11:3100:11:35 ว่าคือบางทีผู้ชายอาจจะแบบว่าก็พูดไม่

00:11:3500:11:39 เป็นน่ะก็เนี่ยคือห่วงแหละแต่งตัวอย่าง

00:11:3900:11:41 เงี้ยกระโปรงเหมือนสั้นน่ะก็กระโปรงมัน

00:11:4100:11:44 สั้นจริงๆก็บอกตรงๆแล้วไงเอออันนี้มันไม่

00:11:4400:11:49 ใช่ชมมันมีวิธีไม่ได้อยู่เฉยๆนะคะก็ถ้า

00:11:4900:11:52 ไม่ตอบก็เดี๋ยวอ่าอันนี้อีกก็ยังไม่ใช่

00:11:5200:11:55 ไม่ตอบไงคือเค้าเข้ามาเนี่ยเราต้องชมเชย

00:11:5500:11:59 เขาแต่เขาทำให้ฉันสวยไหมก็ดีถ้าเราคิดจะ

00:11:5900:12:03 ตำหนิไม่ต้องพูดนึกออกไหมคะเอาแบบก็ดีเอา

00:12:0300:12:08 แค่นั้นพอนะฮะแล้วก็อาจจะบอกอืมดีนะได้

00:12:0800:12:12 เห็นขาสวยๆอะไรอย่างนี้ก็พูดไปอ่าก็ไม่

00:12:1200:12:16 ต้องไปตำหนิเขานะคะอย่างนี้เป็นต้นอ่าแต่

00:12:1600:12:18 การตำหนิเนี่ยไม่ใช่ว่าตำหนิแบบนั้นแต่

00:12:1800:12:21 ว่าบางครั้งเราตำหนิเพื่อที่จะให้เขาดี

00:12:2100:12:24 ขึ้นได้แต่คนส่วนใหญ่เนี่ยชอบฟังความรู้

00:12:2400:12:28 สึกบวกๆมากกว่านะฮะอ่ะวิธีต่อไปค่ะขอบคุณ

00:12:2800:12:33 ค่ะเห็นไหมคะง่ายๆขอบคุณมันจะเป็นความรู้

00:12:3300:12:36 สึกที่พิเศษว่าเราเนี่ยคนฟังอ่ะฟังแล้วพอ

00:12:3600:12:40 ใจว่าสิ่งที่เราทำให้อ่ะมีคนเห็นนะฮะเติม

00:12:4000:12:44 ยิ้มให้กันและกันไม่ใช่เขาทำอะไรให้ตายก็

00:12:4400:12:46 เฉยไม่ตอบโต้อะไรเลยนะคะเพราะฉะนั้น

00:12:4600:12:49 ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้แม้แต่จะเป็น

00:12:4900:12:51 เรื่องเล็กเรื่องน้อยเค้าก็จะรู้สึกว่า

00:12:5100:12:53 เราเห็นคุณค่าของเขาไม่ว่าจะเรื่องใดก็

00:12:5300:12:57 ตามอย่างเงี้ยค่ะซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้ต้อง

00:12:5700:13:00 ใช้การลงทุนอะไรเลยแค่คำว่าขอบคุณแค่นั้น

00:13:0000:13:03 เองเป็นไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ

00:13:0300:13:07 แต่มันคุณสุรีย์พรชอบฟังมั้ยเวลาเราทำ

00:13:0700:13:10 อะไรให้แล้วคนมาขอบคุณเราเนี่ย

00:13:1000:13:12 มันจะรู้สึกเหมือนว่าเขาเห็นเขาเห็นเขา

00:13:1200:13:14 เห็นนะฮะค่ะ

00:13:1400:13:19 วิธีต่อไปค่ะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ

00:13:1900:13:21 เพราะบางคนเนี่ยเอาตัวเป็นเซลล์ Center

00:13:2100:13:24 ไม่ได้เจอมาตั้งนานพอเจอปั๊บเนี่ยฉันน่ะ

00:13:2400:13:27 เหนื่อยจังเลยเธออะไรพูดถึงตัวเองก่อนแต่

00:13:2700:13:31 ถ้าเราเจอเขาปั๊บแล้วเราบอกว่าเป็นไงสบาย

00:13:3100:13:36 ดีไหมนะคะยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่มีไอ้เหตุ

00:13:3600:13:39 การณ์อะไรเกิดขึ้นที่ร้ายแรงหรือร้ายแรง

00:13:3900:13:41 มากน้อยแค่ไหนก็ตามแล้วเราถามเขาเนี่ยเขา

00:13:4100:13:44 จะรู้สึกดีมากเช่นสมมุติว่าเราเรารู้ว่า

00:13:4400:13:47 เขาไปเกิดอุบัติเหตุมารถชนเล็กๆน้อยๆไม่

00:13:4800:13:49 ได้เจ็บตัวหรอกอย่างน้อยที่สุดเราก็ถาม

00:13:4900:13:54 ก่อนเลยว่าเป็นไงเจ็บหรือเปล่าเป็นเอ่อ

00:13:5400:13:58 เจ็บปวดตรงไหนไหมสบายดีไหมไม่ใช่ถามคำแรก

00:13:5800:14:01 รถพังเยอะไหมเสียไปเท่าไหร่อย่างเงี้ยมัน

00:14:0100:14:04 คนละแบบนะคะเพราะฉะนั้นไอ้การถามเล็กๆ

00:14:0400:14:07 น้อยๆเนี่ยกินข้าวหรือยังเมื่อคืนนอนหลับ

00:14:0700:14:10 ไหมอะไรอย่างเงี้ยนะคะสบายดีไหมอะไรอย่าง

00:14:1000:14:13 เงี้ยนะคะแม้จะเป็นคำถามที่ดูเหมือนกับ

00:14:1300:14:15 มันไม่สำคัญนะแล้วก็เป็นคำถามแต่มันเป็น

00:14:1500:14:18 คำถามที่ออกมาจากใจจริงเป็นความรู้สึกที่

00:14:1800:14:21 จริงใจไม่เสแสร้งเนี่ยคนฟังจะรู้สึกดีไป

00:14:2100:14:24 ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นน้ำเสียงเอยอะไรเอ่ย

00:14:2400:14:26 นะคะไม่ใช่ว่านั่งเล่นโซเชียลอยู่แล้วปาก

00:14:2600:14:30 ก็ถามเป็นไงสบายดีมั้ยจ๊ะแต่มันไม่ได้มี

00:14:3000:14:34 อายซุอาย Contact หรือว่าไม่ได้อะไรเลยนะ

00:14:3400:14:36 ฮะมันก็จะกลายเป็นเสแสร้งแกล้งถามเพราะ

00:14:3600:14:40 ฉะนั้นไอ้การสื่อสารแบบเนี้ยภาษากายมันมี

00:14:4000:14:42 ความสำคัญค่อนข้างมากนะคะเพราะฉะนั้นถาม

00:14:4200:14:45 เขาเนี่ยตาต่อตามองกันหรือถ้าเหตุการณ์

00:14:4500:14:47 นั้นมันมีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างร้ายแรง

00:14:4700:14:50 หรือน่าตกใจกุมมือสักนิดนึงหรือแตะตัวสัก

00:14:5100:14:54 หน่อยนึงค่ะเจ็บตรงไหนหรือเปล่าสบายดีไหม

00:14:5400:14:58 เออมันโดนอะไรร้ายแรงไหมอ่ะอะไรอย่างนี้

00:14:5800:15:01 นะคะถามด้วยความรู้สึกจริงใจมันจะดีกว่า

00:15:0100:15:03 วิธีการต่อไปค่ะ

00:15:0300:15:07 ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างตรงนี้จะไม่พาไม่

00:15:0700:15:10 ค่อยห่วงคุณผู้หญิงคุณผู้หญิงเนี่ยจะเก็บ

00:15:1000:15:12 เล็กเก็บน้อยเก่งนะฮะแต่คุณผู้ชายเนี่ย

00:15:1200:15:15 ต้องฝึกเรื่องนี้เยอะๆนะคะถ้าคุณผู้ชาย

00:15:1500:15:17 เนี่ยไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเล็กเรื่อง

00:15:1700:15:20 น้อยเพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าผู้ชายคน

00:15:2000:15:22 ไหนที่เป็นผู้ชายที่ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อย

00:15:2200:15:26 ๆเนี่ยผู้หญิงมักจะชอบชนะเลิศจะบอกเลยว่า

00:15:2600:15:29 เป็นผู้ชายโรแมนติกใช่ไหมคะเพราะฉะนั้น

00:15:2900:15:31 เนี่ยต้องฝึกนะคะถ้าเป็นคุณผู้ชายเนี่ย

00:15:3100:15:34 ต้องฝึกการสังเกตการใส่ใจเพราะมันแสดงถึง

00:15:3400:15:37 ความเอาใจใส่ดูแลแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ

00:15:3700:15:40 นะฮะซึ่งไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่นะคะไม่

00:15:4000:15:43 ต้องไปแหมอะไรที่มันโมโหยิ่งใหญ่ใหญ่โต

00:15:4300:15:48 แค่ถามว่าเหนื่อยไหมถ้าน้ำก่อนไหมถ้าเห็น

00:15:4800:15:51 เขาผิดหวังก็ปลอบใจเห็นเขาออกมาจากห้องทำ

00:15:5100:15:54 งานแล้วหน้าเศร้าๆเนาะมีอะไรไหมเป็นอะไร

00:15:5400:15:57 หรือเปล่าโอเคไหมอะไรอย่างนี้นะคะสังเกต

00:15:5700:15:59 ความต้องการหรือความเปลี่ยนแปลงของเขา

00:16:0000:16:04 เนี่ยซึ่งเราไม่จำเป็นต้องมากมายเช่นไป

00:16:0400:16:07 กินข้าวด้วยกันเนี่ยจำเมนูโปรดเขาได้หรือ

00:16:0700:16:10 อะไรที่เขาแพ้อะไรที่เขาชอบอะไรที่เขาไม่

00:16:1000:16:14 ชอบอะไรที่เขากินมานานแล้วเขากำลังต้องอด

00:16:1400:16:17 ตอนนี้เช่นจะได้เอ็ดอะไรอย่างนี้นะคะนัก

00:16:1700:16:21 ร้องคนโปรดอะไรพวกนี้ค่ะเล็กน้อยๆหัดจด

00:16:2100:16:25 หัดจำบ้างนะฮะมันแสดงถึงความใส่ใจและให้

00:16:2500:16:27 ความสำคัญกับเขาหรือเธอคนนั้นเนี่ยมาก

00:16:2700:16:30 น้อยแค่ไหนเพราะฉะนั้นถ้าผู้ชายคนไหน

00:16:3000:16:33 เนี่ยเป็นคนละเอียดแบบนี้นะคะผู้หญิงชอบ

00:16:3300:16:38 ทุกคนเลยนะคะอันนี้ก็การันตีนะฮะ

00:16:3800:16:41 วิธีต่อไปนะคะก็คือการทำเซอร์ไพรส์บ้าง

00:16:4100:16:44 บางโอกาสนะคะเซอร์ไพรส์บ้างบางโอกาสไม่

00:16:4500:16:47 ได้ต้องพร่ำเพรื่อคือมันอะไรที่มันมาก

00:16:4700:16:50 เกินไปมันก็เฝือใช่ไหมคะเราต้องหัดสังเกต

00:16:5000:16:53 ว่าเขาชอบอะไรเป็นพิเศษไหมเช่นเสื้อผ้า

00:16:5300:16:56 แบรนด์ไหนสมมุตินะเป็นแบรนด์คือบางคนไม่

00:16:5600:16:58 ใช่ต้องเป็นของจริงนะคะ

00:16:5800:17:00 ของก๊อปอะไรก็ได้แต่ว่ามันเป็นต้องยี่ห้อ

00:17:0000:17:03 นี้อะไรเนี่ยเขาจะปลดปลาหรือสไตล์นี้นะคะ

00:17:0300:17:07 หรือของสะสมเล็กๆน้อยๆเช่นรู้ว่าเอาเขา

00:17:0700:17:10 สะสมไอ้ของร้านกาแฟร้านนี้ไอ้ตัวการ์ตูน

00:17:1000:17:12 ของตัวนี้

00:17:1200:17:18 ชอบอะไรชอบอะไรโดยไม่ต้องถามตรงๆนะฮะไอ้

00:17:1800:17:20 มันจะหมดความรู้สึกเซอร์ไพรส์ถามมาถึงวัน

00:17:2000:17:22 เกิดและเธออยากได้อะไรอ่ะอย่างเงี้ยมัน

00:17:2200:17:25 มันไม่ออกอ่ะนะคะเพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย

00:17:2600:17:29 ในช่วงเวลาพิเศษโดยเฉพาะเช่นวาเลนไทน์นะ

00:17:2900:17:32 คะถ้าเราอยากจะบอกรักใครนะไอ้วันพวกนี้

00:17:3200:17:34 มันมีความสำคัญใช่ไหมคะวันวาเลนไทน์วัน

00:17:3400:17:38 เกิดวันปีใหม่พวกเนี้ยนะฮะเราก็ให้ความ

00:17:3800:17:41 สำคัญกับเขาโดยการที่รู้ใจว่าเขาอยากได้

00:17:4100:17:42 อะไร

00:17:4200:17:44 นะฮะเพราะฉะนั้นไอ้การให้ของขวัญน่ะ

00:17:4400:17:47 อาจารย์วิภาดาจะตัวจะพาเองเนี่ยนะคะจะ

00:17:4700:17:49 ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการให้ของขวัญของ

00:17:4900:17:53 คนมากมันไม่ได้อยู่ที่ราคาของสิ่งของแต่

00:17:5300:17:56 มันจะของนั้นมันจะค่อนข้างมีค่าหรือมีค่า

00:17:5600:17:59 ทางใจราคาไม่ใช่ตัวปัญหาแต่มันแสดงถึง

00:17:5900:18:03 สัมผัสถึงความรู้สึกดีๆหรือความใส่ใจที่

00:18:0300:18:06 เรามีให้กันมากกว่านะคะ

00:18:0600:18:08 มาประการที่ 7 ค่ะ

00:18:0800:18:11 ต้องเพิ่มความโรแมนติกบ้างในความสัมพันธ์

00:18:1100:18:14 ไม่ใช่ว่าเออเช้าไปกินข้าวด้วยกันเย็น

00:18:1400:18:17 กลางวันกินข้าวด้วยกันเย็นกินข้าวด้วยกัน

00:18:1700:18:20 ทุกวันทุกวันมันก็จืดชืดน่าเบื่อถูกไหมคะ

00:18:2000:18:23 ไปกินข้าวใช่มันต้องมีความโรแมนติกมาก

00:18:2300:18:26 แล้วก็ใช้ใช้อิเล็กทรอนิกส์อะไรให้มัน

00:18:2600:18:29 เป็นประโยชน์เช่นเดี๋ยวนี้การส่งข้อความ

00:18:2900:18:33 เนาะทางไลน์ทางแชทอะไรให้มันน่ารักๆอ่ะนะ

00:18:3300:19:00 คะเช่น

00:19:0000:19:04 นะคะอย่าลืมกินข้าวนะคะหรือมีอะไรไม่สบาย

00:19:0400:19:07 เล่าให้เราฟังได้นะหรือรู้ว่าเขาไปทริป

00:19:0700:19:09 นี้เขาต้องไปกับคนที่เขาไม่โอเคแต่ต้องไป

00:19:0900:19:12 เพราะหน้าที่การงานเราก็อาจจะถามว่ามี

00:19:1200:19:16 อะไรไหมเล่าได้นะเรียกได้ตลอดเลยนะอะไร

00:19:1600:19:19 อย่างนี้นะคะมันก็จะทำให้เรารู้สึกว่าใส่

00:19:1900:19:22 ใจอ่ายิ่งเดี๋ยวนี้มันมีการส่งเพลงเนาะ

00:19:2200:19:26 แทนใจมันบอกอะไรก็ได้นะฉันเป็นหนอนในดอก

00:19:2600:19:29 ไม้ฉันเป็นอะไร

00:19:2900:19:33 อย่างนี้นะคะมันก็เป็นอะไรที่เพิ่มความ

00:19:3300:19:35 โรแมนติกหรือสีสันอย่างเช่นเขาทำงาน

00:19:3500:19:38 เครียดๆอยู่เนี่ยดูดิขึ้นมาแล้วมีอะไร

00:19:3800:19:41 หวานๆส่งมาเนี่ยบางทีมันก็ทำให้คนเราอบ

00:19:4100:19:43 อุ่นขึ้นมาได้เหมือนกันยิ้มได้เลยแหละอ่า

00:19:4300:19:47 นะฮะประการที่ 8 ค่ะขอให้กำลังใจในยามที่

00:19:4700:19:50 ต้องการใครสักคนวันนี้ข้อนี้สำคัญในความ

00:19:5000:19:52 ทรงเนี้ยสำคัญมากเพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่า

00:19:5200:19:55 รักใครจริงๆแล้วเนี่ยเราก็อยากจะอยู่

00:19:5500:19:57 เคียงข้างเขาในวันทั้งวันที่ดีและวันที่

00:19:5700:20:00 ไม่ดีจริงไหมคะนะฮะในชีวิตด้วยการเหมือน

00:20:0000:20:03 กันเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยจะให้เราเห็นว่า

00:20:0300:20:06 ไม่ว่าเค้าจะเจอปัญหาหรือหมดกำลังใจหรือ

00:20:0600:20:08 เสียใจหรืออะไรก็ตามเนี่ย

00:20:0800:20:12 พอเงยหน้าขึ้นมาทีไรก็เจอเราทุกทีนะฮะ

00:20:1200:20:14 ช่วยอะไรไม่ได้ก็ยังยืนอยู่ข้างๆก็ยังดี

00:20:1400:20:17 นะฮะไม่หนีไปไหนเป็นความรู้สึกที่ดีขึ้น

00:20:1700:20:21 เขาก็จะสัมผัสได้เลยว่าเราห่วงใยเขาแล้ว

00:20:2100:20:25 ก็จริงใจกับเขานะฮะมากแค่ไหนมันบอกได้ชัด

00:20:2500:20:27 เจนเลยว่า

00:20:2700:20:30 มันบอกได้ชัดเจนกว่าการตะโกนบอกฉันรักเธอ

00:20:3000:20:33 ซะอีกแหนะนะฮะจำได้ว่ามีเพื่อนอยู่คนนึง

00:20:3300:20:37 ตอนที่เขาคบหาดูใจกับแฟนเขานะคะ

00:20:3700:20:40 เขาก็ขับรถไปชนเด็กจริงๆอ่ะเขาไม่ได้ชน

00:20:4000:20:43 หรอกเด็กวิ่งมาชนรถเขานะคะแล้วผู้หญิงมัน

00:20:4300:20:47 ก็ตกใจใช่ไหมเขาตอนที่อาจารย์วิภาไปหา

00:20:4700:20:50 เพื่อนคนเนี้ยก็คือไปช่วยที่โรงพักอ่ะนะ

00:20:5000:20:52 คือโทรหาเพื่อนทุกคนแล้วก็ใครใกล้ก็ไปหา

00:20:5200:20:53 เนี่ย

00:20:5300:20:56 ปรากฏว่าแฟนเขามาถึงแล้วนะฮะแล้วเขาก็

00:20:5600:20:58 เล่าให้เราฟังว่าวันนี้เป็นวันที่เขาตัด

00:20:5800:21:01 สินใจว่าจะ Say Yes หรือ Say No กับผู้

00:21:0100:21:04 ชายคนนี้หมายถึงในใจนะคะเพราะว่าเขาคิด

00:21:0400:21:08 ว่าถ้าผู้ชายคนนี้มาแล้วคำถามแรกเนี่ยถาม

00:21:0800:21:10 ว่ารถเป็นอะไรไหม

00:21:1000:21:14 อันนั้นจะตัดครั้งนี้ถึงตัวเขาว่าเขาเป็น

00:21:1400:21:18 ไรไหมเนี่ยค่ะเขาจะดูใจผู้ชายคนเนี้ยแต่

00:21:1800:21:20 ปรากฏว่าผู้ชายคนนี้สอบผ่านสิ่งแรกที่มา

00:21:2000:21:23 ถามก็คือถามว่าเออว่าเพื่อนเจ็บตรงไหน

00:21:2300:21:25 หรือเปล่าเป็นอะไรหรือเปล่าตกใจมากไหม

00:21:2500:21:29 อะไรอย่างเงี้ยไม่ได้ห่วงรถก่อนนะคะเขาก็

00:21:2900:21:32 เลยบอกสอบผ่านโอเคอะไรอย่างเงี้ยนะคะ

00:21:3200:21:35 เพราะฉะนั้นตรงเนี้ยยิ่งมี Event นะคะ

00:21:3500:21:38 หรือเหตุการณ์สำคัญๆโดยเฉพาะวิกฤตในชีวิต

00:21:3800:21:40 เนี่ยแล้วเรายังยืนอยู่เคียงข้างเขาอ่ะ

00:21:4000:21:43 เขาจะรู้เองอ่ะค่ะว่าเราคือคนที่รักเขา

00:21:4300:21:46 ไม่ว่าเขาจะมองเราในขณะนั้นว่าเป็นสถานะ

00:21:4600:21:49 เพื่อนหรือสถานะใครก็ตามนะคะเพราะฉะนั้น

00:21:4900:21:51 ตรงนี้มันสร้างความประทับใจได้อย่างยอด

00:21:5100:21:53 เยี่ยมเลย

00:21:5300:21:58 วิธีที่ 9 นะคะชวนหากิจกรรมทำร่วมกันนะคะ

00:21:5800:22:02 อันนี้เน้นว่าแรกๆอาจจะไปด้วยกันก่อนหมาย

00:22:0200:22:05 ถึงว่าไปเอาใช้คำว่า Present Face ก่อน

00:22:0600:22:09 เขาไปไหนก็ติดพวงเข้าไปด้วยและหนักเข้า

00:22:0900:22:12 หนักเข้าก็หาวิธีที่จะไปกันสองคนนะคะ

00:22:1200:22:13 [เพลง]

00:22:1300:22:17 ไม่ได้เดี๋ยวไก่ตื่นนะคะต้องมีเราก็ต้อง

00:22:1700:22:20 มีความรู้สึกดีๆต่อกันเนี่ยไม่มีใครอยาก

00:22:2000:22:23 อยู่ด้วยหรอกถ้าคนเราไม่รู้สึกดีๆต่อกัน

00:22:2300:22:26 เพราะฉะนั้นแรกๆก็ไปแจมก่อนนะฮะอาจจะหลาย

00:22:2600:22:29 ๆคนก่อนแล้วจากนั้นเนี่ยก็ชวนเขาพอมีเวลา

00:22:2900:22:32 ว่างอ่ะไปดูหนังกันไหมไปเที่ยวด้วยกันไหม

00:22:3200:22:35 นะคะไปออกกำลังด้วยกันไหมไปหาของกินอร่อย

00:22:3500:22:38 ๆกันไหมอะไรอย่างเงี้ยเพื่อจะได้นั่งด้วย

00:22:3800:22:41 กันพูดคุยกันเพราะสิ่งเหล่านี้ค่ะคุณ

00:22:4100:22:43 สุรีย์พรมักจะทำให้เราเรียนรู้กันและกัน

00:22:4300:22:47 ว่าเราจะไปกันได้ไหมนะรสนิยมความคิดเห็น

00:22:4700:22:49 ในเรื่องต่างๆดูหนังด้วยกันแล้วออกมา

00:22:4900:22:52 วิจารณ์เธอว่าพระเอกเป็นไงนางเอกเป็นยัง

00:22:5200:22:55 ไงฉันเห็นเป็นไงเราจะเห็นทัศนคติของกัน

00:22:5500:22:58 และกันนะคะเพราะฉะนั้นตรงนี้มันจะเรียน

00:22:5800:23:01 รู้ซึ่งกันและกันทำให้เรารู้ว่าเราอยากจะ

00:23:0100:23:05 ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับเขาไปมากแค่ไหนถ้า

00:23:0500:23:07 เราไปแล้วเราเบื่อหรือว่ามีความรู้สึกว่า

00:23:0700:23:10 มันไม่ใช่อ่ะมันจะได้ถอยออกมาถูกไหมคะ

00:23:1000:23:14 เพราะฉะนั้นเนี่ยแต่ตรงนี้มันเป็นวิธีการ

00:23:1400:23:16 ที่เราจะบอกรักเพราะฉะนั้นการบอกรักเนี่ย

00:23:1600:23:18 เราก็จะอยากไปไหนกับเขาสองต่อสองถูกไหมคะ

00:23:1800:23:21 แล้วก็มันจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้

00:23:2100:23:25 ด้วยให้รู้จักว่าตัวตนของกันและกันเป็น

00:23:2500:23:28 ยังไงแล้วก็สร้างความผูกพันให้แน่นแฟน

00:23:2800:23:31 ขึ้นเรื่อยๆค่ะดีกว่าการที่เราจะมาบอกรัก

00:23:3100:23:34 ก่อนแล้วมาเรียนรู้กันเพราะฉะนั้นเขาก็

00:23:3400:23:37 ต้องดูแล้วล่ะว่าเรื่องที่เราหาเหตุไป

00:23:3700:23:39 ด้วยกันสองต่อสองเนี่ยมันก็ต้องมีอะไรสัก

00:23:3900:23:40 พิเศษ

00:23:4000:23:43 แล้วเรา Say Yes ไปกับเขาเนี่ยแต่ว่าเรา

00:23:4300:23:46 ก็ต้องมีอะไรพิเศษๆกับเขาเพียงแต่ว่ามัน

00:23:4600:23:49 จะ Just A Friend หรือว่ามันจะมากกว่า

00:23:4900:23:51 นั้นต่อไปอะไรอย่างเงี้ยเพื่อนหรือเปล่า

00:23:5100:23:54 มันจะเปลี่ยนเลนส์ไหมมาเดินลู่เดียวกัน

00:23:5400:23:58 ไหมอะไรอย่างนี้นะคะค่ะมาวิธีสุดท้ายวิธี

00:23:5800:24:02 ที่ 10 นะคะก็คือภาษากายค่ะนะฮะอันนี้คือ

00:24:0200:24:05 การสัมผัสแทนคำพูดและเพราะว่าผู้หญิงผู้

00:24:0500:24:07 ชายมันเป็นประจุไฟฟ้าคนละคู่อ่ะมันสปาร์ค

00:24:0700:24:11 พึ่บๆๆๆได้นะคะเพราะฉะนั้นภาษากายที่แสดง

00:24:1100:24:12 ออกของความรักเนี่ย

00:24:1200:24:17 ตั้งแต่การปกป้องดูแลใส่ใจนะฮะต้องเนียนๆ

00:24:1700:24:20 ด้วยนะคะอย่าบ่มนะฮะบุ่มบ่าไม่ใช่มาถึงไป

00:24:2000:24:23 แตะเนื้อต้องตัวเขาเลยไม่ได้เราต้องค่อย

00:24:2300:24:25 เป็นค่อยไปทั้งไม่ว่าจะหญิงบอกชายหรือชาย

00:24:2500:24:28 บอกหญิงเหมือนกันถ้าผู้หญิงมาถึงตัวผู้

00:24:2800:24:30 ชายและผู้ชายก็กลัวนะเพราะเดี๋ยวนี้มัน

00:24:3000:24:32 น่ากลัวนะผู้หญิงบางคนน่ะเพราะว่าอย่าง

00:24:3200:24:35 หมอกี้บอกว่าเกิดราศีตุ๊กแกนะคะผู้ชาย

00:24:3500:24:38 เค้าก็กลัวเกาะแล้วไม่ปล่อยนะคะเพราะ

00:24:3800:24:41 ฉะนั้นเราอาจจะเริ่มเรียนๆเนาะเช่นข้าม

00:24:4100:24:44 ถนนเนี่ยประกอบกันซะหน่อยนะฮะหรือจูงมือ

00:24:4400:24:47 สักนิดนึงพอถึงอีกฝั่งนึงแล้วถ้าเขาไม่

00:24:4700:24:49 สะบัดก็จับต่อไปเรื่อยๆนะคะอะไรอย่าง

00:24:4900:24:50 เงี้ย

00:24:5000:24:53 นะคะเพราะฉะนั้นมันก็เป็นเนียนๆนะค่อยๆ

00:24:5300:24:55 เนียนๆหรือว่าเราจะไปไหนเอาแตะหลังหน่อย

00:24:5500:24:59 อบหลังนิดนึงอะไรอย่างนี้นะคะยังไม่ใช่

00:24:5900:25:02 เป็นลักษณะของการบุกแบบบุกแบบ

00:25:0200:25:05 กระต่ายตื่นน่ะแบบนั้นน่ะอย่านะคะต้อง

00:25:0500:25:08 ทำเนียนๆเหมาะสมถูกกาลเทศะเพื่อเพิ่มความ

00:25:0800:25:10 ไว้วางใจเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนะคะ

00:25:1000:25:13 แล้วเราเนี่ยก็จะอ่านได้จากสัมผัสนั้น

00:25:1300:25:16 ด้วยว่าเขารู้สึกอย่างไรเช่นสมมุติว่าพอ

00:25:1600:25:19 ข้ามถนนจูงมือกันพอถึงอีกฝ่ายเขารีบปลด

00:25:1900:25:22 เลยเนี่ยแสดงว่ายังต่อไม่ได้นะฮะเราก็จะ

00:25:2200:25:25 เรียนรู้กันต่อไปอะไรอย่างเงี้ยนะคะถือ

00:25:2500:25:28 ว่าเป็นสัญญาณที่ให้เรารับรู้ได้ว่าแต่ละ

00:25:2800:25:30 ฝ่ายรู้สึกอย่างไรต่อกันถ้าเขายอมให้เรา

00:25:3000:25:34 จับต่อไปเรื่อยๆเนี่ยอ่ะมีทางมีทางนะคะ

00:25:3400:25:35 อะไรอย่างนี้เป็นต้น

00:25:3500:25:38 ซึ่งท่านผู้ฟังนะคะอาจจะเลือกทั้ง 10

00:25:3800:25:41 วิธีไปใช้หรือคิดว่าวิธีใดวิธีหนึ่งจะ

00:25:4100:25:44 เหมาะสมก็ลองดูค่ะนะคะมันก็เป็นวิธีบอก

00:25:4400:25:48 รักที่ไม่เสียหน้าไม่เสียฟอร์มแล้วถ้าเรา

00:25:4800:25:51 มั่นใจแล้วว่าปฏิกิริยาที่เขามีต่อเราใน

00:25:5100:25:54 แสดงว่าเขามีใจเหมือนกันก็ลองบอกรักเถอะ

00:25:5400:25:57 ค่ะนะคะเพราะว่าอาจารย์วิภาเป็นผู้หญิง

00:25:5700:26:00 เนาะก็เลยบอกได้ว่าผู้หญิงทุกคนเนี่ยชอบ

00:26:0000:26:03 ความชัดเจนนะฮะที่ผู้ชายจะมาบอกด้วยวาจา

00:26:0300:26:06 อีกครั้งหนึ่งว่ารักไม่รักนะฮะเพราะว่า

00:26:0600:26:09 ไม่อย่างนั้นแล้วเนี่ยมันก็จะทำให้เรา

00:26:0900:26:11 เกิดความคลุมเครือคลุมเครืออย่างนี้ไป

00:26:1100:26:14 เรื่อยๆก็ถ้าเกิดจะชัดเจนได้จะยิ่งดีถ้า

00:26:1400:26:18 พอเวลาไม่ชัดเจนเนี่ยมันก็ติดอยู่ในใจนะ

00:26:1800:26:21 คะไม่รู้ว่าเอ๊ะเราคบกันสถานะไหนเนี่ยนะ

00:26:2100:26:24 ฮะทุกคนอยากมีสถานะทั้งนั้นแหละนะคะอ่า

00:26:2400:26:26 อันนี้ก็เป็นวิธีการแสดงออกโดยไม่บอกรัก

00:26:2600:26:30 ในหลายๆวิธีวิธีไหนที่จะคิดวิธีไหนที่จะ

00:26:3000:26:33 เหมาะกับคุณผู้ฟังก็ลองไปทำดูนะคะได้ผล

00:26:3300:26:35 ยังไงก็บอกเราด้วย

00:26:3500:26:38 คอมเมนต์ก็ได้นะคะวันนี้ขอบคุณอาจารย์

00:26:3800:26:41 วิภาค่ะที่มาคุยกันค่ะสวัสดีค่ะ

00:26:4100:26:43 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะหมดเวลาแล้วพบกัน

00:26:4300:26:46 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง ThaiPBS

00:26:4600:26:51 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ

00:26:5100:26:53 อาการปวดเท้าจากการเดินหรือยืนเป็นเวลา

00:26:5300:26:57 นานๆเกิดบริเวณใดบ้างแล้วทำไมการใส่รอง

00:26:5700:26:59 เท้าส้นสูงมักมีปัญหาแพทย์หญิงกิตติยา

00:26:5900:27:02 ศรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA

00:27:0200:27:04 มาเล่าให้ฟังครับ

00:27:0400:27:08 ก็ยืนนานเดินนั้นส่งผลต่อร่างกายยังไง 1

00:27:0800:27:11 มีน้ำหนักกรดอยู่ที่ฝ่าเท้าเป็นเวลานาน

00:27:1100:27:14 นึกภาพตามมานะฝ่าเท้านะต่อไปกล้ามเนื้อ

00:27:1400:27:16 น่องต้องทำงานตลอดเวลามีเลือดคั่งค้าง

00:27:1600:27:19 อยู่ที่เท้าเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก

00:27:1900:27:22 หลังจะแอ่นเพราะว่ากล้ามเนื้อหลังและขาจะ

00:27:2200:27:25 ล้าจากการยืนนานการยืนเป็นเวลานานๆโดยไม่

00:27:2500:27:28 ได้เปลี่ยนอิริยาบถเนี่ยจะทำให้มีเลือด

00:27:2800:27:31 เนี่ยไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อน้อยลงก็

00:27:3100:27:35 จะทำให้ปวดกล้ามเนื้อน่องต้นขาปวดเมื่อย

00:27:3500:27:38 เท้านะเป็นเส้นเลือดขอดก็อาจจะมีเอ็นฝ่า

00:27:3800:27:41 เท้าอักเสบในระยะยาว

00:27:4100:27:45 ตามมาอีกปวดข้อต่อกระดูกหลังสะโพกหัวเข่า

00:27:4500:27:48 ก็ไปสู่โรคข้อเสื่อมอันที่ 1 อาการปวด

00:27:4800:27:50 เมื่อยกล้ามเนื้อน่องและต้นขาเพราะว่าขณะ

00:27:5000:27:53 ยืนเป็นยังไงกล้ามเนื้อน่องเนี่ยต้องแบก

00:27:5300:27:55 รับน้ำหนักทั้งตัวเลยใช่ไหมปกติแล้วกล้าม

00:27:5500:27:58 เนื้อน่องจะมีความแข็งแรงมากเลยเราสามารถ

00:27:5800:28:01 จะยื่นขาเดียวหรือยืนเขย่งส้นเท้ายกตัว

00:28:0100:28:03 ขึ้นลงได้แต่ว่ากล้ามเนื้อน่องเขามีจุด

00:28:0300:28:05 อ่อนก็คือเป็นกล้ามเนื้อที่ราแล้วก็ปวด

00:28:0500:28:08 เมื่อยได้ง่ายเนื่องจากกล้ามเนื้อน่องมี

00:28:0800:28:10 เลือดมาเลี้ยงน้อยนะเพราะฉะนั้นถ้าต้องทำ

00:28:1000:28:12 งานแบบยืนอยู่นิ่งกล้ามเนื้อน่องจะต้อง

00:28:1200:28:17 เกร็งตัวตลอดเวลาทำให้มีของเสียข้างค้าง

00:28:1700:28:20 มากก็จะเกิดอาการปวดเมื่อยได้นอกจากนี้

00:28:2000:28:23 การใส่รองเท้าส้นสูงก็จะทำให้กล้ามเนื้อ

00:28:2300:28:25 น่องเนี่ยทำงานมากขึ้นเนื่องจากรองเท้า

00:28:2500:28:28 ส้นสูงน่ะจะมีผลให้จุดศูนย์ถ่วงของร่าง

00:28:2800:28:31 กายตกไปทางด้านหน้ามากขึ้นกล้ามเนื้อน่อง

00:28:3100:28:33 ที่อยู่ด้านหลังก็จะคอยดึงร่างกายไม่ให้

00:28:3300:28:37 ล้มไปข้างหน้าดังนั้นการใส่ส้นสูงร่วมกับ

00:28:3700:28:40 การยืนนานเนี่ยมีผลทำให้ปวดเมื่อยกล้าม

00:28:4000:28:42 เนื้อน่องได้ง่ายยิ่งขึ้นนอกจากกล้าม

00:28:4200:28:44 เนื้อน่องแล้วเนี่ยกล้ามเนื้อต้นขาเอง

00:28:4400:28:46 เนี่ยก็จะมีการป่วนเมื่อยด้วยเพราะว่า

00:28:4600:28:48 หน้าที่หลักของกล้ามเนื้อต้นขาก็คือพยุง

00:28:4800:28:52 หัวเข่าไม่ให้พับลงไปขนาดยืนเฮ้ยขณะยืน

00:28:5200:28:54 นานเนี่ยกล้ามเนื้อต้นขาต้องเกร็งตัวตลอด

00:28:5400:28:58 เวลาเลยจะทำให้อาการเกิดอาการล้าสะสมของ

00:28:5800:29:09 กล้ามเนื้อต้นขาเกิดอาการปวดที่ต้นขาได้

00:29:0900:29:12 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application

00:29:1200:29:14 ของไทยพีแดช็อต

00:29:1400:29:18 spotify soundcloud Google podcast

00:29:1800:29:22 และ YouTube Channel Thai PBS portcut

00:29:2200:29:27 ท้าย PBS beautiful

00:29:2700:29:32 [เพลง]