00:00:00 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 หลายๆคนเวลาลดน้ำหนักนะครับจะเจอปัญหา
00:00:08 → 00:00:11 เดียวกันเลยกับที่คุณคุณอิ๊งเจออยู่คก็
00:00:11 → 00:00:13 คือเป็นการลดน้ำหนักแบบไม่ sustain ไม่
00:00:13 → 00:00:15 ยั่งยืนนะครับมันเกิดขึ้นจากอะไรครับคุณ
00:00:15 → 00:00:17 หมอการลดน้ำหนักแบก็จริงๆต้องบอกว่าตอน
00:00:17 → 00:00:20 ที่น้องเเริ่มลดน้ำหนักเนี่ยเขาใช้การออก
00:00:20 → 00:00:23 กำลังกายอย่างหนักนะคะแล้วก็คงคุมอาหาร
00:00:23 → 00:00:25 ร่วมด้วยแล้วหลังจากนั้นเนี่ยเยังคงออก
00:00:25 → 00:00:27 กำลังกายแต่อาจจะไม่ได้เยอะเท่าเดิมร่วม
00:00:27 → 00:00:30 กับการกินอาหารที่เปลี่ยนไปก็เลยทำให้น้ำ
00:00:30 → 00:00:32 หนักเกลับขึ้นมานะคะตอนนี้เชฟก็จะเริ่มทำ
00:00:32 → 00:00:35 อาหารแล้ววันนี้จะทำอะไรดีคะวันนี้เราทำ
00:00:35 → 00:00:49 เราทำสลัดครับ
00:00:49 → 00:01:05 [เพลง]
00:01:05 → 00:01:08 ในกรณีของการกินสลัดเนี่ยหลายคนพยายามจะ
00:01:08 → 00:01:10 ทานสลัดเพื่อลดน้ำหนักแต่ทานเสร็จแล้วมัน
00:01:10 → 00:01:12 ก็จะไม่อิ่มทานเสร็จแล้วเดี๋ยวก็จะแบบผิว
00:01:13 → 00:01:15 อีกแล้วอะไรอย่างเงี้ยแล้วหลายคนมถูกต้อง
00:01:15 → 00:01:18 แล้วพอพอหิวปุ๊บหลายๆท่านก็จะบอกว่าไม่
00:01:18 → 00:01:20 อยากที่จะทานข้าวก็จะไปเลือกทานแบบขนม
00:01:20 → 00:01:23 กระจุกกระจิกอีกหรือว่าทานน้ำหวานซึ่งอัน
00:01:23 → 00:01:26 นั้นเนี่ยจะทำให้อ้วนง่ายกว่านะคะดังนั้น
00:01:26 → 00:01:27 สิ่งสำคัญที่อยู่ในสลัดก็คือจะต้องมี
00:01:27 → 00:01:31 โปรตีนที่พอนะคะถ้าถ้าสมมุติว่าทางบ้าน
00:01:31 → 00:01:34 อยากจะทำแล้วไม่มีอะไรเลยนะคะง่ายๆไข่ต้ม
00:01:34 → 00:01:37 ก็ยังได้เลยใช่ไข่ต้มครับแล้วก็สิ่งของ
00:01:37 → 00:01:40 ที่หาได้ใกล้ตัวครับอย่างเช่นอกไก่นะกค่ะ
00:01:40 → 00:01:43 แต่ก็อยู่ที่ความชอบนะครับถ้าชอบเอ่อเป็น
00:01:43 → 00:01:47 ปลานะครับผมก็ว่ามันก็ดีโอเคนะครับตอนนี้
00:01:47 → 00:01:49 ผมจะเตรียมเขาเรียกว่าเครื่องที่ทานด้วย
00:01:49 → 00:01:51 กันก่อนนะครับวันนี้ใช้แตงกับแครอทอันนี้
00:01:51 → 00:01:55 ใช้แตงกาญี่ปุ่นใช่ครับค่ะก็อันนี้แครอท
00:01:55 → 00:01:59 นะครับซอยเป็นเส้นๆทำไมถึงเลือกทำสลัดใน
00:01:59 → 00:02:01 กรณีที่เป็นคนไม่ได้ทำอาหารเพราะว่าอย่าง
00:02:01 → 00:02:03 ที่ผมบอกคือเราเตรียมเดรสซิ่งนะครับซึ่ง
00:02:03 → 00:02:05 เดรสซิ่งวันนี้ง่ายมากเอาทุกอย่างตรง
00:02:05 → 00:02:09 เนี้ยเก็บใส่ทวหรือว่าแล้วใส่ตู้เย็นไว้
00:02:09 → 00:02:11 นะครับถึงเวลาเอาออกมาง่ายพอๆกับเอาใส่
00:02:11 → 00:02:14 ไมโครเวฟคือคนให้เข้าการกินได้เลยนะครับ
00:02:14 → 00:02:17 โอเคอันนี้เป็นแิครับเป็นพืชตระกูลคล้ายๆ
00:02:17 → 00:02:20 กับหัวใช้เท้าใช่ครับเราเอามาเพิ่มสีสัน
00:02:20 → 00:02:22 นะครับอันนี้ไม่มีก็ได้เนาะไม่ใส่ก็ได้
00:02:23 → 00:02:27 ค่ะการใส่ผักลงไปในกลุ่มของสลัดนะคะก็นอก
00:02:27 → 00:02:29 เหนือจากที่จะให้สีสันที่ว่ามาแล้วเนี่ย
00:02:29 → 00:02:31 มันก็จะมีไฟเบอร์นะคะก็จะช่วยทำให้อิ่ม
00:02:31 → 00:02:34 ท้องมากขึ้นนะคะแล้วก็ยังมีพวกของวิตามิน
00:02:34 → 00:02:36 แล้วก็เกลือแร่ด้วยสไลด์ Red radish นะ
00:02:36 → 00:02:38 ครับอาจารย์แล้วก็ใส่่ลงไปในน้ำเย็นนะ
00:02:38 → 00:02:41 ครับสำคัญคือน้ำเย็นนะครับแล้วก็เดี๋ยว
00:02:41 → 00:02:43 เขาจะเริ่มใส่ขึ้นนะครับแล้วก็ล้างความขม
00:02:43 → 00:02:46 ลบางทีอาจจะมีติดเผ็ดเล็กน้อยก็จะล้างออก
00:02:46 → 00:02:49 ไปนะครับเราใส่ไปเพื่อแน่นอนนะครับทำให้
00:02:49 → 00:02:52 มันดูน่ากินขึ้นนะครับโอเคโปรตีนวันนี้
00:02:52 → 00:02:55 เลือกเป็นปลาแซลมอนครับสุกก็ได้ดิบก็ได้
00:02:55 → 00:02:57 นะครับวันนี้เราทำดิบนะครับถ้าใครไม่ชอบ
00:02:58 → 00:03:01 ดิบก็เอามาจีกับกระเนาะได้ครับค่ะก็อาจจะ
00:03:01 → 00:03:04 สไลด์ก่อนแล้วก็ทำให้สุกนะครับโอเคลอก
00:03:04 → 00:03:07 หนังมาแล้วเรียบร้อยจริงๆแซลมอนนี่ถือว่า
00:03:07 → 00:03:09 เป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงเนาะแต่ว่า
00:03:09 → 00:03:11 เนื่องจากว่าไขมันในเนื้อปลาเนี่ยมันจะ
00:03:11 → 00:03:13 เป็นไขมันที่ดีที่เรียกว่ามีโอเมก้า 3
00:03:13 → 00:03:16 เยอะก็เลยมีคนพยายามจะกินมันเยอะนิดนึง
00:03:16 → 00:03:19 ครับโอเคเราจะสไลด์แซลมอนไว้ก่อนนะครับ
00:03:19 → 00:03:21 หลักๆเลยก็คือผมจะดูว่าไฟเบอร์ของปลาไป
00:03:21 → 00:03:23 ทางไหนเขาจะวิ่งเส้นหลักเลยก็คือเป็นเส้น
00:03:23 → 00:03:26 นี้นะครับถ้าเราตัดตามเส้นก็คือถ้าเราตัด
00:03:26 → 00:03:28 แบบนี้ค่ะปลามันจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆๆนะ
00:03:28 → 00:03:31 ครับมันไม่เกาะกันเพราะฉั้นตัขวางใช่
00:03:31 → 00:03:40 [เพลง]
00:03:40 → 00:03:44 ครับโอเคครับคุณหมอครับเราเริ่มเรสซิ่ง
00:03:44 → 00:03:47 กันเลยครับเรามีอันนี้เป็นน้ำส้มใายชูนะ
00:03:47 → 00:03:49 ครับตัวนี้จะมีอยู่ 2 แบบนะครับก็จะเป็น
00:03:49 → 00:03:51 น้ำส้มสายชูที่กลั่นจากธัญญพืชกับน้ำส้ม
00:03:51 → 00:03:54 ใายชูที่กลั่นจากข้าวแล้วแต่ชอบนะครับมี
00:03:54 → 00:03:56 ความแตกต่างกันนิดหน่อยอันนี้ใช้หมดเลย
00:03:56 → 00:04:00 ครับต่อมานะครับเป็นน้ำมันงา
00:04:00 → 00:04:04 อ่ะเดี๋ยววันนี้จะไปซื้อน้ำมันงามอล่ะได้
00:04:04 → 00:04:06 ใช้เยอะใช่ไหมมครับใช่รู้สึกมันมีหลาย
00:04:06 → 00:04:09 เมนูมากเลยซีอิ๊วนะครับผมโชวอยู่ครับอัน
00:04:09 → 00:04:15 นี้กันเค็มนะครับต่อมาน้ำตาลโอเคในในสูตร
00:04:15 → 00:04:17 น้ำตาลเนี่ยจะเขียนไว้ว่า 100 กรัมครับ
00:04:17 → 00:04:19 อาจารย์แต่ว่าเราต้องการควบคุมน้ำหนัก
00:04:19 → 00:04:21 ด้วยตัดเหลือครึ่งเดียวนะครับ
00:04:21 → 00:04:25 อแล้วก็อันสุดท้ายเป็นงาคั่วนะครับคั่ว
00:04:25 → 00:04:27 แล้วก็เอมาบดถ้าหาที่บดไม่ได้ง่ายนิด
00:04:27 → 00:04:30 เดียวใช้โครกตำอ๋อโอเคค่ะนะครับตัวงาที่
00:04:30 → 00:04:33 เราใส่เข้าไปมี 2 เหตุผล 1 คือเพิ่ม
00:04:33 → 00:04:36 Texture ของน้ำสลัดนะครับ 2 คือเพื่อทำ
00:04:36 → 00:04:40 ให้น้ำมันกับของเหลวเนี่ยเขาผสมกันได้
00:04:40 → 00:04:44 ง่ายขึ้นนะครับผมโอเคเสร็จะเสร็จแล้วครับ
00:04:44 → 00:04:47 ง่ายมากนะครับก็คือเราก็จะจัดจานจัดจาน
00:04:47 → 00:04:50 แล้วครับอย่างนึงที่สำคัญมากเกี่ยวกับผัก
00:04:50 → 00:04:52 สลัดที่หลายๆคนไม่รู้นะครับก็คือเวลาที่
00:04:52 → 00:04:54 เราทำผักสลัดแล้วเราเวลาเราทานแล้วเรารู้
00:04:54 → 00:04:56 สึกว่ามันไม่อร่อยเนี่ยเพราะว่า 1 คือไม่
00:04:56 → 00:05:00 สดผักสลัดไม่สด 2 คือคือผักชิ้นใหญ่เกิน
00:05:00 → 00:05:03 ไปอ๋อเวลาเราเข้าปากเข้าไปทานปุ๊บผักมัน
00:05:03 → 00:05:06 เ่อจะมีน้ำค่อนข้างเยอะใช่ค่ะนะครับง่าย
00:05:06 → 00:05:10 มากครับอาจารย์หักนะครับหักครึ่งได้เลยนะ
00:05:10 → 00:05:13 ครับหักให้เป็นชิ้นเล็กลงนะครับมันจะทำ
00:05:13 → 00:05:16 ให้เราทานสลัดได้มีอรรถรสมากขึ้นนะครับโค
00:05:16 → 00:05:19 แล้วก็อีกเรื่องนึงที่ควรทำนะครับก็คือ
00:05:19 → 00:05:22 การล้างผักด้วยน้ำเย็นก่อนที่จะนำผักสลัด
00:05:22 → 00:05:26 มาทำสลัดค่ะเพื่อที่ว่าผักจะกรอบนะครับ
00:05:26 → 00:05:30 ถ้าสมมุติว่าล้างแล้วเปียกนะครับค่ะมีตัว
00:05:30 → 00:05:33 ที่เป็นเรียกว่าเอ่อตัวปั่นน้ำผักสลัดจะ
00:05:33 → 00:05:35 มีขายตามห้างตัวเล็กๆนะครับใช้เชือกดึง
00:05:35 → 00:05:37 หรือว่าใช้หมุนเอาเพื่อสลัดน้ำออกออเวลา
00:05:38 → 00:05:41 เราทานสลัดแล้วมีน้ำเนี่ยมันจะจืดนะครับ
00:05:41 → 00:05:43 แล้วก็จะไม่อร่อยนะครับสุดท้ายก็กลายเป็น
00:05:43 → 00:05:46 ว่าไม่ชอบทานสลัดก็เพราะว่ามันไม่มีรส
00:05:46 → 00:05:49 ชาตินะครับโอเคโอเคครับหลังจากนี้เราก็
00:05:49 → 00:05:52 ใช้น้ำสลัดที่เราทำนะครับตัวนี้เราสามารถ
00:05:52 → 00:05:55 เก็บใส่ตู้เย็นไปได้เลยนะครับวันนี้เรา
00:05:55 → 00:05:57 ใช้ก่อนไม่เยอะนะ
00:05:58 → 00:06:02 ครับคุกสลัดนะครับแล้วสายจานน้ำใช่ครับ
00:06:02 → 00:06:04 แล้วจัดสายจานเวลาทานเราไม่ต้องคลุกละนะ
00:06:04 → 00:06:06 ครับเราทานอย่างเดียวเนี่ยค่ะข้อดีของ
00:06:06 → 00:06:09 สลัดน้ำใสสเวลาที่มีคนชอบถามว่าระหว่าง
00:06:09 → 00:06:11 การรับประทานสลัดน้ำใสกับน้ำข้นอันไหน
00:06:11 → 00:06:14 อ้วนกว่ากันเวลาที่เราเ่อเอาผักหรือว่ามา
00:06:14 → 00:06:17 ผสมกับน้ำสลัดในถ้วยผสมอย่างเงี้ยนะคะถ้า
00:06:17 → 00:06:19 สมมุติว่ามันเป็นน้ำข้นเนี่ยมันจะเกาะกับ
00:06:19 → 00:06:22 ผักเพราะฉะนั้นถ้าเราใส่ไปเยอะเนี่ยมันก็
00:06:22 → 00:06:25 จะได้กินทั้งหมดเลยแต่ถ้าเป็นน้ำใสเนี่ย
00:06:25 → 00:06:26 ค่ะมันก็จะยังเหลืออยู่เพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:06:26 → 00:06:30 ไม่กินเราก็ทิ้งไปเซฟได้แล้วก็แต่งสีสัน
00:06:30 → 00:06:38 นะครับ
00:06:38 → 00:06:59 [เพลง]
00:06:59 → 00:07:06 A
00:07:06 → 00:07:21 [เพลง]