00:00:12 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:27 → 00:00:30 มันก็คือรูปแบบอาหารนะคะที่คนแถบทะเล
00:00:30 → 00:00:33 เมดิเตอร์เรเนียนเรับประทานกันนะคะซึ่งใน
00:00:33 → 00:00:36 กลุ่มประเทศตรงเจะมีประกอบไปด้วย 16
00:00:36 → 00:00:38 ประเทศนะคะมากกว่า 16 ประเทศด้วยกันนะคะ
00:00:38 → 00:00:40 อ่าตัวอย่างเช่นประเทศกรีซนะคะประเทศ
00:00:40 → 00:00:44 ตุรกีอิตาลีหรือว่าสเปนนั่นเองค่ะในรูป
00:00:44 → 00:00:46 แบบอันนี้ทำไมเราถึงสนใจใช่มั้ยคะเพราะ
00:00:46 → 00:00:48 ว่าคนที่เา้าอยู่แถบทะเลเมดิเตอเรเนียน
00:00:48 → 00:00:51 เนี่ยเา้ามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วก็แข็ง
00:00:51 → 00:00:54 แรงอายุยืนยาวทำให้เราสนใจว่าอาหารการกิน
00:00:54 → 00:00:57 ของเขานั้นมันมีอยู่ตรงไหน
00:00:57 → 00:00:58 [เพลง]
00:00:58 → 00:01:02 ค่ะ
00:01:02 → 00:01:04 หลักการกินนะคะถ้าเอามาประยุกต์ใช้ใน
00:01:04 → 00:01:08 ประเทศไทยอ่ะค่ะอย่างง่ายๆก็อย่างแรกก็
00:01:08 → 00:01:10 คือการรับประทานอาหารทะเลค่ะไม่ว่าจะเป็น
00:01:10 → 00:01:14 ปูกุ้งหอยปลานะคะโดยเฉพาะปลาเนี่ยเหมาะสม
00:01:14 → 00:01:16 มากเลยนะคะในในผู้สูงอายุนะคะนอกจากนั้น
00:01:17 → 00:01:19 แล้วคือการรับประทานโปรตีนในกลุ่มที่เป็น
00:01:19 → 00:01:21 สัตว์ปีกค่ะหลีกเลี่ยงที่เป็นเนื้อแดงนะ
00:01:21 → 00:01:23 คะสัตว์ปีกก็เช่นไก่หรือว่าเป็ดนะคะนอก
00:01:24 → 00:01:25 จากกลุ่มโปรตีนกลุ่มนี้แล้วนะคะก็จะเป็น
00:01:25 → 00:01:28 การรับประทานพืชผักผลไม้ค่ะอันนี้ก็จะ
00:01:28 → 00:01:31 เป็นการเน้นในแบบแบบเมติเรเนียนเลยนะคะ
00:01:31 → 00:01:33 ซึ่งการประยุกต์ในประเทศไทยเราอ่ะค่ะก็จะ
00:01:33 → 00:01:36 เป็นพวกตะกูลถั่วค่ะไม่ว่าจะเป็นถั่ว
00:01:36 → 00:01:39 ลันเตานะคะถั่วแขกถั่วหวานนะคะหรือว่า
00:01:39 → 00:01:41 เป็นถั่วเหลืองนะคะเมล็ดถั่วที่มีแบบหลาก
00:01:41 → 00:01:44 ๆหหลายเมล็ดในฝักเดียวกันนั่นเองค่ะส่วน
00:01:45 → 00:01:47 ผักอื่นๆนะคะก็เป็นพวกผักใบเขียวหรอะไร
00:01:47 → 00:01:50 ที่เราพบในประเทศไทยเราได้นะคะนอกจากนั้น
00:01:50 → 00:01:53 แล้วอ่ะค่ะที่เป็นเอ่อเค้าเรียกต้นแบบ
00:01:53 → 00:01:55 หรือว่ามาตรฐานของเขาเลยค่ะก็คือการใช้
00:01:55 → 00:01:57 น้ำมันมะกอกค่ะนะใช้น้ำมันมะกอกในการ
00:01:57 → 00:02:00 ประกอบอาหารนะคะก็จะเป็นสไตล์ของ
00:02:00 → 00:02:03 เมดิเตอเรเนียนนั่นเอง
00:02:03 → 00:02:07 [เพลง]
00:02:07 → 00:02:12 ค่ะการรับประทานแบบเิน Diet นั้นนะคะมัน
00:02:12 → 00:02:15 ดีต่อสุขภาพตรงที่เอ่อมีผักผลไม้อ่ะค่ะ
00:02:15 → 00:02:19 ที่หลากหลายแล้วก็ทำให้เอ่อมีการค้นพบว่า
00:02:19 → 00:02:22 คนที่กินแบบเมดิเตอเรเนียนเนี่ยค่ะเขาจะ
00:02:22 → 00:02:24 เป็นโรคเกี่ยวกับทางหลอดเลือดน้อยกว่าคน
00:02:24 → 00:02:28 ที่เาไม่ได้กินแบบเตเนชัดเจนค่ะการรับ
00:02:28 → 00:02:33 ประทานแบบเเตเนนะคะจะมีการศึกษาค่ะเราพบ
00:02:33 → 00:02:35 ว่าผู้ป่วยอ่ะค่ะเขากินอาหารแบบ
00:02:35 → 00:02:38 เมดิเตอร์เรเนียนเนี่ยค่ะมีโอกาสเกิดโรค
00:02:38 → 00:02:42 รดหลกเลือดสมองโรดหัวใจนะคะน้อยกว่าผู้
00:02:42 → 00:02:46 ที่ไม่กินอาหารกลุ่มนี้
00:02:46 → 00:02:49 [เพลง]
00:02:49 → 00:02:53 ค่ะค่ะในปัจจุบันนะคะก็มีหลักฐานค่ะว่า
00:02:53 → 00:02:55 อาหารเมดิเตอเรเนียนนะคะนั้นก็ยังมี
00:02:55 → 00:02:57 ประโยชน์นะคะในเรื่องของการที่จะป้องกัน
00:02:57 → 00:02:59 นะคะความเสื่อมทางระบบประสาทเพิ่มขึ้นได้
00:02:59 → 00:03:02 นะไม่ว่าจะเป็นทางด้านโรคพาร์กินสันนะคะ
00:03:02 → 00:03:04 หรือโรคอัลไซเมอร์ค่ะโดยเฉพาะอย่างยิ่งนะ
00:03:04 → 00:03:06 คะเนื่องจากว่าศูนย์ของเรานะคะเป็นศูนย์
00:03:06 → 00:03:09 ที่มีความเฉพาะทางทางด้านโรคพาร์กินสันนะ
00:03:09 → 00:03:11 คะเราจึงได้พยายามที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม
00:03:12 → 00:03:14 นะคะว่าการที่ผู้ป่วยนะคะรับประทานอาหาร
00:03:14 → 00:03:17 แบบเมดิเรนเนี่ยจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
00:03:17 → 00:03:20 กับอาการนะคะหรือการดำเนินของรูคพิสันค่ะ
00:03:20 → 00:03:23 ทางเราก็เลยได้มีการทำการเอ่อวิจัยนะคะ
00:03:23 → 00:03:26 ที่เป็นแบบ systematic Review นะคะซึ่ง
00:03:26 → 00:03:29 ก็พบว่าในผู้สูงวัยนะคะที่ยังไม่มีอาการ
00:03:29 → 00:03:31 ของโรคพักิสันเลยนะคะหรือยังไม่มีอาการ
00:03:31 → 00:03:34 ที่เรียกว่าเป็นกลุ่มอาการพินซิมเลยนั้น
00:03:34 → 00:03:36 หากได้รับประทานอาหารเตรียนมาอย่างต่อ
00:03:36 → 00:03:39 เนื่องนะคะก็พบว่าความเสี่ยงของการที่จะ
00:03:39 → 00:03:42 เกิดภาวะอาการเคลื่อนไหวช้าแบบ
00:03:42 → 00:03:44 parkinsonism นั้นนะคะก็ลดน้อยลงกว่าผู้
00:03:45 → 00:03:48 ที่ไม่ได้ทานอาหารค่ะนอกจากนี้นะคะในผู้
00:03:48 → 00:03:50 ป่วยนะคะโรคพาร์กินสันนะคะซึ่งได้รับการ
00:03:50 → 00:03:52 วินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคพาร์กินสันนะคะหาก
00:03:52 → 00:03:55 ได้ทานอาหารเตเนมาอย่างต่อเนื่องนะคะก็พบ
00:03:55 → 00:03:58 ว่ายังจะช่วยนะคะในเรื่องของการทำให้
00:03:58 → 00:04:00 ปัญหาทางด้านการเคลื่อนไหวไหวที่ไม่ดี
00:04:00 → 00:04:02 เช่นปัญหาการเคลื่อนไหวช้านะคะโดยรวมมี
00:04:02 → 00:04:05 อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนค่ะนอกจากนี้นะคะ
00:04:05 → 00:04:07 นอกเหนือจากปัญหาเรื่องของอาการการ
00:04:07 → 00:04:10 เคลื่อนไหวนะคะเราก็พบว่าอาการที่นอก
00:04:10 → 00:04:12 เหนือจากการเคลื่อนไหวอาธิเช่นปัญหาใน
00:04:12 → 00:04:14 เรื่องของอาการนอนนะคะหรือปัญหาเรื่องของ
00:04:14 → 00:04:17 ความจำนะคะหากผู้ป่วยโรคพักกินสารได้รับ
00:04:17 → 00:04:19 ประทานอาหารเตนไดเอตนะคะมาอย่างต่อเนื่อง
00:04:19 → 00:04:22 นะคะก็พบว่าปัญหาเหล่านี้นะคะก็มีความรุน
00:04:22 → 00:04:25 แรงนะคะที่น้อยกว่าผู้ที่ไม่รับประทาน
00:04:25 → 00:04:28 อาหารเช่นเดียวกัน
00:04:28 → 00:04:32 ค่ะ
00:04:32 → 00:04:35 จริงๆแล้วหมอเชื่อว่าอาหารนะคะมันก็เป็น
00:04:35 → 00:04:38 สิ่งที่แสดงนะคะถึงศักยภาพนะคะถึง
00:04:38 → 00:04:41 วัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาคนะคะโดยทั่วไปแล้ว
00:04:41 → 00:04:43 เนี่ยค่ะหลักๆของอาหารมักจะมีความคล้าย
00:04:43 → 00:04:45 คึงกันนะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อ
00:04:45 → 00:04:47 สัตว์ซึ่งก็มีทุกๆชาติอยู่แล้วนะคะบ้าน
00:04:47 → 00:04:50 เราก็มีอาหารทะเลเหมือนกันบ้านเราก็มี
00:04:50 → 00:04:52 สัตว์ปีกเหมือนกันบ้านเราก็มีเนื้อแดง
00:04:52 → 00:04:55 เหมือนกันนะคะเช่นเดียวกันค่ะบ้านเราก็มี
00:04:55 → 00:04:58 ผักผลไม้เหมือนกันแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็น
00:04:58 → 00:05:00 ผักผลไม้นะคะในในแบบทางแถบเตนแต่เราก็
00:05:00 → 00:05:03 เป็นผักผลไม้ในเมืองร้อนะคะซึ่งก็ถือว่า
00:05:03 → 00:05:05 เป็นลักษณะของพืชพันธุ์นะคะซึ่งมีความ
00:05:05 → 00:05:09 จำเพาะนะคะแล้วก็สามารถที่จะนำมาใช้นะคะ
00:05:09 → 00:05:11 หรือมาปรับนะคะให้มีลักษณะที่ใกล้เคียง
00:05:11 → 00:05:14 กันได้เช่นเดียวกันตอนแรกดูอาจจะไม่คล้าย
00:05:14 → 00:05:15 คความเป็นเมดิเตอเรเนียนแต่หากเรามีการ
00:05:15 → 00:05:18 ปรับแปลงเพียงเล็กน้อยนะคะอาทิเช่นเราก
00:05:18 → 00:05:20 เราปรับในเรื่องของการใช้น้ำมันนะคะเรา
00:05:20 → 00:05:22 พยายามเลือกนะคะเนื้อสัตว์ที่มาใช้นะคะ
00:05:22 → 00:05:24 เป็นเนื้อที่เป็นเนื้อที่ไม่ใช่เนื้อแดง
00:05:24 → 00:05:28 นะคะหรือมีการปรับนะคะลักษณะของธัญพืชนะ
00:05:28 → 00:05:31 คะให้เป็นธัญพืชที่่งมีลักษณะของถั่วที่
00:05:31 → 00:05:34 ดีนะคะหรือไขมันอิ่มตัวนะคะที่น้อยนะคะก็
00:05:34 → 00:05:37 จะมีประโยชน์นะคะในเรื่องของการที่จะนำมา
00:05:37 → 00:05:39 ปรับนะคะให้มีความคล้ายคลึงนะคะกับอาหาร
00:05:39 → 00:05:42 ที่เป็นแถบเมอเรเนียนได้นะคะอีกอย่างนึง
00:05:42 → 00:05:44 ที่บ้านเราอาจจะไม่ค่อยคล้ายคลึงเท่าไหร่
00:05:44 → 00:05:46 ก็คือเรื่องของวายแดงแต่ปัจจุบันนี้คนไทย
00:05:46 → 00:05:48 ก็นิยมการดื่มไววายเพิ่มขึ้นนะคะจึพบว่า
00:05:48 → 00:05:51 ในแถบเเนนเนี่ยพู้ผู้ประชากรแถบนั้นก็จะ
00:05:51 → 00:05:53 ค่อนข้างนิยมการดื่มไวแดงค่อนข้างมากนะคะ
00:05:53 → 00:05:56 ในปัจจุบันเนื่องจากว่าอาจจะได้อิทธิพล
00:05:56 → 00:06:00 ล่ะค่ะของต่างชาตินะคะรวมถึงมีมีคนมีความ
00:06:00 → 00:06:02 เชื่อกันนะคะว่าการดื่มวแดงนะก็ช่วยทำให้
00:06:02 → 00:06:05 สุขภาพโดยรวมนะคะดีขึ้นนะคะก็ทำให้มีคน
00:06:05 → 00:06:08 นิยมนะคะการรับประทานววแดงเพิ่มขึ้นซึ่ง
00:06:08 → 00:06:09 อันเนี้ยค่ะก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะมา
00:06:09 → 00:06:12 ปรับนะคะในประเทศไทยได้นั้นก็เลยเป็นที่
00:06:12 → 00:06:14 มานะค่ะว่าทางศูนย์ของเราเนี่ยก็พยายาม
00:06:14 → 00:06:17 ที่จะได้มีการศึกษานะคะวิจัยนะถึงแนวทาง
00:06:17 → 00:06:20 ของการปรับอาหารไทยนะคะให้มีลักษณะของรูป
00:06:20 → 00:06:24 แบบอาหารนะคะโดยอิงนะคะจากข้อมูลนะคะหรือ
00:06:24 → 00:06:27 สัดส่วนของสารอาหารนะคะที่อ้างอิงค่ะมา
00:06:27 → 00:06:28 จากอาหารที่ในกลุ่มของเป็นเมดิเตอเรเนียน
00:06:28 → 00:06:32 ค่ะโดยทั่วไปนะคะพวกถั่วนะคะที่แบบแถบ
00:06:32 → 00:06:33 เมดิเตอเรเนียนนะคะจะนิยมอย่างเช่นพวก
00:06:33 → 00:06:36 ถั่วอัลมอนนะคะถั่วแมคคาเดเมียเป็นต้นนะ
00:06:36 → 00:06:38 คะแต่ของทั้งเราเนี่ยเมื่อไม่มีนะคะเราก็
00:06:38 → 00:06:40 มีถั่วที่มีคุณสมบัติที่มีความใกล้ใกล้
00:06:40 → 00:06:44 เคียงนะอาทิเช่นถั่วลิสงนะคะหรือแม้แต่
00:06:44 → 00:06:46 เม็ดมะเร็ดมหิมพานอันนี้ก็สามารถที่จะใช้
00:06:47 → 00:06:50 ทดแทนได้นะคะนอกจากนี้ค่ะอีกหนึไอเทมเลย
00:06:50 → 00:06:53 เนี่ยซึ่งคนไทยนิยมมากๆเลยนะคะก็คือตัว
00:06:53 → 00:06:55 มะพร้าวนะคะอย่างเช่นน้ำเอ่อไม่ว่าจะเป็น
00:06:55 → 00:06:59 กะทินะคะอันเนี้ยเป็นอาหารซึ่งเอ่อค่อน
00:06:59 → 00:07:01 ข้างข้างที่จะมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างมาก
00:07:01 → 00:07:03 นะคะแล้วก็แล้วอาหารไทยส่วนใหญ่เนี่ยจะมี
00:07:03 → 00:07:05 กะทิเป็นส่วนผสมค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็น
00:07:05 → 00:07:08 อาหารอย่างเช่นอาหารคาวหรืออาหารหวานนะคะ
00:07:08 → 00:07:10 เพราะฉะนั้นนะค่ะทางเราก็เลยได้มีวิธีใน
00:07:10 → 00:07:13 การปรับค่ะก็คือเราพยายามที่จะลดกะทินะคะ
00:07:13 → 00:07:16 ที่เป็นอาหารไทยเนี่ยลงนะคะโดยการที่ไป
00:07:16 → 00:07:18 ปรับนะคะโดยการใช้นมจากธัญพืชนะคะอาทิ
00:07:18 → 00:07:21 เช่นนมถั่วเหลืองนะคะเพิ่มเติมอันนี้ก็ท
00:07:21 → 00:07:23 สามารถที่จะทำให้เราสามารถปรับสูตรอาหาร
00:07:23 → 00:07:26 เนี่ยให้มีความคล้ายคลึงกับแถบไตรเนตรที่
00:07:26 → 00:07:29 ยังคงรสชาติที่อร่อยนะคะแล้วก็คุณภาพนะคะ
00:07:29 → 00:07:32 ของสุของการดำรงสุขภาพที่ดีให้กับผู้ป่วย
00:07:32 → 00:07:34 ได้
00:07:34 → 00:07:38 [เพลง]
00:07:38 → 00:07:41 ค่ะอันนี้ก็เป็นลักษณะของอาหารไทยนะคะที่
00:07:41 → 00:07:44 เป็นแบบเมดิเตอเรเนียนนะคะวันนี้ก็จะขอนำ
00:07:44 → 00:07:46 เสนอนะคะอาหารนะคะแล้วก็เครื่องดื่มรวม
00:07:46 → 00:07:49 กันทั้งหมด 4 ชนิดนะคะอันดับแรกค่ะก็คือ
00:07:49 → 00:07:53 ขนมจีนน้ำยาซเมอเรเนียนนะคะเมนูที่ 2 ค่ะ
00:07:53 → 00:07:56 ก็คือห่อหมกเมดิเตอร์เรเนียนนะคะเมนูที่ 3
00:07:56 → 00:07:59 นะคะก็คือขนมถ้วยเมดิเตอร์เรเนียนนะคะและ
00:07:59 → 00:08:01 แล้วก็เมนูที่ 4 ค่ะก็คือน้ำใบใจหอมค่ะก็
00:08:01 → 00:08:04 คือโดยสัดส่วนทั่วไปนะคะเวลาที่เราทำตัว
00:08:04 → 00:08:08 ขนมจีนน้ำยานะคะเบสนะคะของตัวน้ำที่เรา
00:08:08 → 00:08:11 ใช้ก็จะคือน้ำกะทินะคะแล้วก็จะผสมกันนะคะ
00:08:11 → 00:08:14 กับพริกแกงนะคะแล้วก็เนื้อปลาขูดนะคะซึ่ง
00:08:14 → 00:08:15 จริงๆเนื้อปลาก็คือเป็นเข้ากับ
00:08:15 → 00:08:17 เมดิเตอเรเนียนอยู่แล้วนะคะแต่กะทิเนี่ย
00:08:17 → 00:08:19 อาจจะไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่นะคะเพราะฉะนั้น
00:08:19 → 00:08:22 ด้วยการที่เราทำเ่อตัวขนมจีนน้ำยาตัวนี้
00:08:22 → 00:08:25 นะคะเราก็ได้มีการปรับนะคะในการลดกะทินะ
00:08:25 → 00:08:27 คะแล้วก็เปลี่ยนเป็นนมจากธัญพืชค่ะก็คือ
00:08:27 → 00:08:29 ใช้เป็นนมถั่วเหลืองจืดนะนะคะเพื่อเป็น
00:08:30 → 00:08:32 การปรุงนะคะปรากฏว่ารสชาตินะคะก็จะมีความ
00:08:32 → 00:08:35 คล้ายคลึงมากๆเลยนะคะกับขนมจีนน้ำยาทั่ว
00:08:35 → 00:08:38 ไปนะคะแต่ว่าพลังงานน้อยลงกว่าครึ่งนึงนะ
00:08:38 → 00:08:41 คะแล้วก็ยังได้ประโยชน์ค่ะจากน้ำนมถั่ว
00:08:41 → 00:08:43 เหลืองด้วยค่ะเมนูที่ 2 นะคะก็คือเป็นห่อ
00:08:43 → 00:08:45 หมกเมดิเตอร์เรเนียนนะคะโดยทั่วไปแล้วค่ะ
00:08:45 → 00:08:49 ห่อหมกนะคะก็จะเป็นการนำเอาเนื้อปกายขูด
00:08:49 → 00:08:52 นะคะมาผสมกันนะคะกับน้ำกะทินะคะแล้วก็ใส่
00:08:52 → 00:08:54 เครื่องแกงนะคะแล้วก็นำไปนึ่งนะคะนี่คือ
00:08:54 → 00:08:57 หลักการในการทำห่อหมกทั่วไปนะคะแต่เราพบ
00:08:57 → 00:09:00 ว่าการที่เราเอากะทินะคะคะมาทานบ่อยๆส่วน
00:09:00 → 00:09:03 หนึ่งก็จะ 1 ก็คือพลังงานจะค่อนข้างสูงนะ
00:09:03 → 00:09:05 คะแล้วก็กะทิก็จะมีไขมันสูงด้วยนะคะก็เลย
00:09:05 → 00:09:08 เป็นที่มาว่าเราต้องการที่จะลดไขมันตรง
00:09:08 → 00:09:10 นี้ลงนะคะด้วยการที่จะปรับนะให้มีอาหารมี
00:09:10 → 00:09:13 ความเป็นเตเนมากขึ้นด้วยการเสริมธัญพืช
00:09:13 → 00:09:15 เข้าไปนะคะเพราะฉะนั้นด้วยตัวของห่อหมก
00:09:15 → 00:09:18 เนี่ยค่ะเราไม่ได้ผสมตัวกะทิเลยนะคะเรา
00:09:18 → 00:09:21 ใส่เป็นน้ำนมถั่วเหลืองทั้งหมดนะคะแล้วก็
00:09:21 → 00:09:24 ผสมกับเครื่องแกงนะคะผสมกับเนื้อปากายขูด
00:09:24 → 00:09:27 นะคะแล้วก็ผสมกับไข่นะคะแล้วก็เอ่อไปไป
00:09:27 → 00:09:29 นวดรวมกันนะคะแล้วก็นำไปนึ่งค่ะเพราะ
00:09:29 → 00:09:31 ฉะนั้นรสชาตินะคะอันนี้ก็จะเป็นรสชาติที่
00:09:31 → 00:09:35 แบบไทยแท้เลยนะคะอีกอันนึงค่ะเราจะไม่ไม่
00:09:35 → 00:09:37 ใส่กะทิโรยหน้านะคะเพราะเราไม่ต้องการให้
00:09:37 → 00:09:39 พลังงานเยอะนะคะต้องการที่จะให้ผู้ป่วย
00:09:39 → 00:09:42 ได้ปริมาณไขมันนะคะที่ดีนะคะจากตัวน้ำนม
00:09:42 → 00:09:44 ถั่วเหลืองนะคะจากเนื้อสัตว์มากกว่าค่ะ
00:09:44 → 00:09:47 ตัวขนมถ้วยนะคะอันนี้ก็เป็นอาหารซึ่งค่อน
00:09:47 → 00:09:49 ข้างที่จะอย่างที่บอกค่ะขนมเนี่ยส่วนใหญ่
00:09:49 → 00:09:51 เในเมืองไทยนะคะขนมมักจะไปมีส่วนประกอบ
00:09:51 → 00:09:54 เนี่ยของตัวกะทิค่อนข้างเยอะมากๆหลายๆ
00:09:54 → 00:09:56 ชนิดเลยเนี่ยมีกะทิผสมอยู่นะคะอย่างตัว
00:09:56 → 00:09:59 ของขนมถ้วยเนี่ยค่ะจะมี 2 ส่วนก็คือส่วน
00:09:59 → 00:10:01 ส่วนที่เป็นตัวเนื้อขนมนะคะแล้วก็ส่วนที่
00:10:01 → 00:10:04 เป็นหน้าขนมในส่วนของตัวเนื้อขนมเนี่ยค่ะ
00:10:04 → 00:10:06 ก็ต้องมีการผสมนะคะด้วยตัวกะทิเข้าไปเช่น
00:10:06 → 00:10:08 เดียวกันนะคะแล้วผสมกับแป้งนะคะแล้วก็ผสม
00:10:08 → 00:10:10 กับน้ำตาลปี๊บนะคะเพื่อทำให้รสชาติมัน
00:10:10 → 00:10:12 เป็นลักษณะของแป้งที่เหนียวนุ่มนะคะแล้ว
00:10:12 → 00:10:15 ก็มีความหวานหวานละมุนนะคะแล้วก็ทับเนี่ย
00:10:15 → 00:10:18 ด้วยหน้าหน้าขนมนะคะซึ่งก็จะเป็นตัวกะทิ
00:10:18 → 00:10:20 นะคะมีความเค็มเล็กน้อยนะคะผสมอยู่ด้าน
00:10:20 → 00:10:23 หน้าเพราะฉะนั้นนะคะด้วยตัวของขนมถ้วยายน
00:10:23 → 00:10:25 ที่เราทำเนี่ยค่ะตัวแป้งนะคะที่เป็นตัว
00:10:25 → 00:10:28 เนื้อขนมเนี่ยเราจะไม่ใส่กะทินะคะเราจะ
00:10:28 → 00:10:30 เป็นการพผสมนะเอากะทิเนี่ยออกนะคะแล้วก็
00:10:30 → 00:10:33 ใส่เป็นนมถั่วเหลืองเข้าไปแทนนะคะแล้วก็
00:10:33 → 00:10:36 ใช้ปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างน้อยกว่านะคะ
00:10:36 → 00:10:39 ในขณะที่ตัวหน้าขนมเนี่ยค่ะเรายังใช้กะทิ
00:10:39 → 00:10:42 อยู่เพราะว่ามันยังได้ความความเค็มมัน
00:10:42 → 00:10:44 หวานนะของตัวกะทิอ่ะนะคะซึ่งอันนี้เป็น
00:10:44 → 00:10:46 สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าความความความ
00:10:46 → 00:10:49 ทานอาหารที่มีไทยิรเนี่ยค่ะอาหารไทยหรือ
00:10:49 → 00:10:51 ขนมไทยเนี่ยมันต้องมีความยูนิคือมีความ
00:10:51 → 00:10:53 เค็มความหอมความมันนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:10:54 → 00:10:56 ตรงหน้าขนมเเลยยังคงความที่เป็นตัวของ
00:10:56 → 00:10:58 กะทิไว้ค่ะเพื่อความอร่อยของขนมค่ะแต่
00:10:58 → 00:11:00 อย่างน้อยพลังงานก็ลดลงกว่าเดิมอย่างแน่
00:11:00 → 00:11:03 นอนค่ะตัวอย่างน้ำใบเตยนะคะก็น้ำใบเตยนะ
00:11:03 → 00:11:06 คะเวลาที่เราทำนะคะเราเอาใบเตยนะคะมาปั่น
00:11:06 → 00:11:10 นะคะกับอ่ากับน้ำนะคะแล้วก็นำมาต้มนะคะ
00:11:10 → 00:11:13 แล้วก็ใส่นะคะตัวน้ำตาลกรวดนะคะแล้วก็ตัว
00:11:13 → 00:11:16 น้ำตาลปี๊บนะคะซึ่งก็เอ่อเป็นน้ำตาลที่
00:11:16 → 00:11:18 ไม่ใช่น้ำใชน้ำตาลขัดขาวนะคะก็เป็นอาหาร
00:11:18 → 00:11:23 ซึ่งมีการแปรรูปน้อยนะคะแล้วก็มาตมาต้มนะ
00:11:23 → 00:11:25 คะเพื่อให้ได้ให้ได้ได้ผู้ป่วยเนี่ยรับ
00:11:25 → 00:11:28 ประทานคู่กันกับอาหารนะคะเวลาที่ทานรวม
00:11:28 → 00:11:30 กันเนี่ยก็จะให้ให้ความรู้สึกที่เย็นชื่น
00:11:30 → 00:11:33 ใจจนะคะก็อย่างข้อดีนะคะของตัวน้ำใบเตย
00:11:33 → 00:11:36 หอมนะคะก็คือใบเตยเนี่ยก็เป็นตัวสมุดก็
00:11:36 → 00:11:39 คือเป็นพืชนะคะก็คือเป็นตัวสมุนไพรนะคะ
00:11:39 → 00:11:42 ซึ่งก็มีในประเทศไทยอยู่แล้วนะคะซึ่งก็
00:11:42 → 00:11:44 ให้ความหอมนะคะแล้วก็ให้ความสดชื่นนะคะ
00:11:44 → 00:11:46 แล้วก็น้ำใบเตยเนี่ยก็ยังช่วยในเรื่องของ
00:11:46 → 00:11:48 การที่จะลดความร้อนนะคะอย่างเช่นเรื่อง
00:11:48 → 00:11:51 ของอาการอย่างเช่นเอ่อร้อนในกระหายน้ำนะ
00:11:51 → 00:11:53 คะก็สามารถที่จะช่วยลดได้ค่ะก็ถือว่าเป็น
00:11:53 → 00:11:55 เครื่องดื่มนะคะซึ่งก็จะช่วยในการบำรุง
00:11:55 → 00:11:57 ร่างกายผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้
00:11:57 → 00:12:02 ค่ะ
00:12:02 → 00:12:05 ก็ทางศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์นะคะ
00:12:05 → 00:12:09 โรคพากกินสันนะคะเราก็ได้พยายามพัฒนานะคะ
00:12:09 → 00:12:12 การเอ่อการครัวนะสำหรับผู้ป่วยโรค
00:12:12 → 00:12:15 พาร์กินสันนะคะหรือมีชื่อคือว่าเอ่อ pisan
00:12:15 → 00:12:17 disease Cooking Club นะคขึ้นมานะคะ
00:12:17 → 00:12:19 แล้วเราก็มีการพัฒนาทีมนะคะที่เป็นทีมงาน
00:12:19 → 00:12:22 ผู้ปรุงอาหารไม่ว่าจะเป็นทั้งแพทย์แล้วก็
00:12:22 → 00:12:24 พยาบาลนะคะแล้วก็นักโภชนาการนะคะปัจจุบัน
00:12:24 → 00:12:27 นะคะเราก็ไม่มีการพัฒนาเมนูอาหารนะคะที่
00:12:27 → 00:12:30 เป็นแบบเวรนนะคะมาหลายๆเมนูแล้วนะคะแล้ว
00:12:30 → 00:12:33 ก็วันที่ 1 เมษายนนี้ค่ะทางเราก็จะนำเอา
00:12:33 → 00:12:37 ผลงานที่เราได้ทำนะคะรวมถึงเมนูนะคะสัด
00:12:37 → 00:12:39 ส่วนของการปรุงอาหารนะคะแล้วก็การคำนวณ
00:12:39 → 00:12:42 พลังงานนะคะแล้วก็สารอาหารที่เราได้ทำนะ
00:12:42 → 00:12:45 คะนำไปเผยแพร่ค่ะผ่านทางตัวเว็บไซต์ของ
00:12:45 → 00:12:47 เรานะคะแล้วก็ Facebook ของเรา
00:12:47 → 00:12:50 [เพลง]
00:12:50 → 00:12:54 ค่ะ tn and Health เราจะรวบรวมความรู้
00:12:54 → 00:12:57 ทางด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ
00:12:57 → 00:13:00 ถือพร้อมก่อติดความคามเคลื่อนไหวจากทุก
00:13:00 → 00:13:03 ประเด็นสุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุม
00:13:03 → 00:13:06 มองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้
00:13:06 → 00:13:10 ทางด้านต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุก
00:13:10 → 00:13:14 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:13:14 → 00:13:27 [เพลง]
00:13:27 → 00:13:53 โรค
00:13:53 → 00:13:56 เ