00:00:12 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:29 อาการของโรคพิสันโดยส่วนใหญ่จะเป็นปัญหา
00:00:29 → 00:00:31 ทางด้านการการเคลื่อนไหวนะครับซึ่งอาการ
00:00:31 → 00:00:34 หลักๆของโรคพิสันก็คืออาการมือสั่นนะครับ
00:00:34 → 00:00:37 ซึ่งผู้ป่วยมักจะเริ่มต้นด้วยอาการสั่น
00:00:37 → 00:00:39 ที่มือข้างใดข้างนึงก่อนนะครับและร่วมกับ
00:00:39 → 00:00:41 ปัญหาในเรื่องของการเคลื่อนไหวที่ช้าลง
00:00:41 → 00:00:44 การเดินและการทรงตัวที่ลำบากครับผมคราว
00:00:44 → 00:00:46 นี้ในโรคพิสันเนี่ยเราจะเน้นในเรื่องของ
00:00:46 → 00:00:48 การรักษาที่ค่อนข้างเร็วเพราะว่าถ้าเรา
00:00:48 → 00:00:50 ปล่อยไว้เนี่ยอาการการเคลื่อนไหวหรือ
00:00:50 → 00:00:52 อาการสั่นเนี่ยจะมีปัญหาในเรื่องของการ
00:00:52 → 00:00:55 รุนแรงมากขึ้นและในบางครั้งเนี่ยพออาการ
00:00:55 → 00:00:57 รุนแรงมากๆเนี่ยยารับประทานที่ใช้รักษา
00:00:57 → 00:01:01 เนี่ยอาจจะควบคุมอาการได้ไม่เต็มที่ครับ
00:01:01 → 00:01:06 [เพลง]
00:01:06 → 00:01:08 การรักษาหลักโดยทั่วไปจะเป็นเรื่องของยา
00:01:08 → 00:01:11 ที่ใช้รับประทานนะครับยาส่วนใหญ่ก็จะเป็น
00:01:11 → 00:01:13 ในเรื่องของยาที่เพิ่มสารสืบประสาท
00:01:13 → 00:01:17 โดปามีนในสมองเพื่อทำให้อาการสั่นลดลงการ
00:01:17 → 00:01:19 เคลื่อนไหวต่างๆของผู้ป่วยดีขึ้นแต่อย่าง
00:01:19 → 00:01:23 ไรก็ตามนะครับอาการสั่นเนี่ยเป็นอาการที่
00:01:23 → 00:01:25 หมอพู้ดอย่างงี้ค่อนข้าง sensitive นิด
00:01:25 → 00:01:27 นึงและเป็นอาการที่ค่อนข้างเด่นชัดกับผู้
00:01:27 → 00:01:29 ป่วยนิดนึงเพราะฉะนั้นเนี่ยในบางครั้ง
00:01:29 → 00:01:32 เนี่ยความคาดหวังของผู้ป่วยเนี่ยต่อการ
00:01:32 → 00:01:34 รักษาในเรื่องของอาการสัเนี่ยมีค่อนข้าง
00:01:34 → 00:01:37 มากพอมีค่อนข้างมากเนี่ยบางครั้งถ้าผู้
00:01:37 → 00:01:40 ป่วยมาโดยที่อาการสั่นค่อนข้างชัดและค่อน
00:01:40 → 00:01:42 ข้างรุนแรงเนี่ยบางครั้งยาคุมอาการได้ไม่
00:01:42 → 00:01:45 หมดพอยาคุมอาการได้ไม่หมดเนี่ยผู้ป่วยก็
00:01:45 → 00:01:47 จะรู้สึกว่าโอ้อาการสั่นยังมีปัญหากับการ
00:01:47 → 00:01:49 ใช้ชีวิตประจำวันอยู่เลยอะไรต่างๆใน
00:01:49 → 00:01:52 ลักษณะนี้ในทางกลับกันนะครับผู้ป่วยพากิน
00:01:52 → 00:01:54 สันดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยเพราะฉะนั้น
00:01:54 → 00:01:57 เวลาเราใช้ยารับประทานในโดสขนาดเยอะๆ
00:01:57 → 00:01:59 เนี่ยผู้ป่วยบางรายก็มีผลข้างเคียงางผู้
00:01:59 → 00:02:01 ป่วยบางรายก็ไม่สามารถที่จะรับประทานยาใน
00:02:01 → 00:02:04 ขณาที่สูงๆได้ไหวครับผมทำให้เราคิดว่า
00:02:04 → 00:02:07 เอ๊ะการรักษาในเรื่องของอาการสั่นในโรคาก
00:02:07 → 00:02:10 กินสันเนี่ยควรจะมีการรักษาแบบอื่นอยู่
00:02:10 → 00:02:13 ด้วยคราวนี้หมอพูดในทางหลักโดยทั่วไปนะ
00:02:13 → 00:02:15 ครับผู้ป่วยที่มีอาการสั่นรุนแรงที่ยาควบ
00:02:15 → 00:02:18 คุมไม่อยู่เนี่ยจะต้องไปผ่าตัดสมองนะครับ
00:02:18 → 00:02:21 ที่เรารู้จักกันในชื่อของ Deep Brain
00:02:21 → 00:02:23 stimulation ซึ่งเป็นการฝังชิปในสมอง
00:02:23 → 00:02:26 ซึ่งฟังดูกับผู้ป่วยหลายๆรายเนี่ยก็จะ
00:02:26 → 00:02:29 กังวลมากๆเลยอุ้ยอาการสั่นฉันต้องผ่าตัด
00:02:29 → 00:02:32 สมองแล้วเหรอทำให้เรามีความรึมีมีความคิด
00:02:32 → 00:02:34 ว่าเอ๊ะการรักษาโรคพากินสันเนี่ยในเรื่อง
00:02:35 → 00:02:38 ของอาการสั่นเนี่ยยาก็เป็นจุดนึงการผ่า
00:02:38 → 00:02:40 ตัดเป็นอีกจุดนึงดูมันห่างไกลกันเหลือ
00:02:40 → 00:02:43 เกินมีการรักษาอะไรมั้ยที่เราสามารถที่จะ
00:02:43 → 00:02:45 ช่วยเสริมยาที่ผู้ป่วยรับประทานอยู่ทำให้
00:02:45 → 00:02:48 อาการสั่นของผู้ป่วยดีขึ้น
00:02:48 → 00:02:52 [เพลง]
00:02:52 → 00:02:55 ครับค่ะก็ต้องเรียนตามตรงค่ะอย่างที่
00:02:55 → 00:02:57 อาจารย์ได้เรียนไว้เลยนะคะว่าอาการสัใน
00:02:57 → 00:02:59 โรคพาร์กินสันนะคะมันค่อนข้างที่จะรักษา
00:02:59 → 00:03:02 ษาได้ค่อนข้างยากแล้วก็ผู้ป่วยส่วนหนึ่ง
00:03:02 → 00:03:04 อ่ะค่ะก็จะตอบสนองต่อการรักษาด้วยการรับ
00:03:04 → 00:03:06 ประทานยาทั่วไปได้ไม่ค่อยดีนะคะก็เลยเป็น
00:03:06 → 00:03:09 ที่มาว่าผู้ป่วยโรคพากินสันมักจะมีอาการ
00:03:09 → 00:03:12 สั่นเป็นขณะพักคืออยู่เฉยๆคๆก็จะมีอาการ
00:03:12 → 00:03:15 สั่นขึ้นมานะคะแต่เรามีไอเดียว่าพอผู้
00:03:15 → 00:03:17 ป่วยเนี่ยค่ะมีการหยิบจับของหรือใช้มือทำ
00:03:17 → 00:03:20 งานเราพบว่าอาการสันั้นจะดูน้อยลงเข้าไป
00:03:20 → 00:03:22 อย่างชัดเจนเลยอันนี้ก็เลยเป็นไอเดียของ
00:03:22 → 00:03:24 เราค่ะว่าถ้าเกิดเราให้ผู้ป่วยเนี่ยคะได้
00:03:24 → 00:03:27 สามารถใช้มือทำงานหรือมีกิจกรรมนะคะเราก็
00:03:27 → 00:03:29 พบว่าลักษณะของอาการสัที่เกิดขึ้นนะคใน
00:03:30 → 00:03:31 ลักษณะของ Racing TR ผู้ป่วยโรค
00:03:31 → 00:03:34 พาร์กินสันเนี่ยจะลดการสั่นลงได้อย่างชัด
00:03:34 → 00:03:37 เจนก็เลยเป็นไอเดียค่ะว่าถ้าเราสาให้ผู้
00:03:37 → 00:03:39 ป่วยเนี่ยสามารถที่จะมีการใช้งานของมือ
00:03:39 → 00:03:42 โดยที่ไม่ต้องคิดว่าจะใช้งานนะคะโดยเรา
00:03:42 → 00:03:44 มิมิคเอาตัวเรื่องของการกระตุ้นกล้าม
00:03:44 → 00:03:47 เนื้อด้วยไฟฟ้านะคะเข้ามาแทนการควบคุมการ
00:03:47 → 00:03:50 ทำงานของสมองในการควบคุมการใช้งานของมือ
00:03:50 → 00:03:52 นั้นจะสามารถผู้ป่วยเนี่ยลดอาการสั่นของ
00:03:52 → 00:03:55 มือเนี่ยได้ดีหรือไม่นะคะก็เลยเป็นโจทย์
00:03:55 → 00:03:57 ในการวิจัยของเราค่ะแล้วก็ได้เป็นที่มา
00:03:57 → 00:03:59 ของการพัฒนาเป็นถุงมือากิสานในยุปัจจุบัน
00:03:59 → 00:04:01 ค่ะ
00:04:01 → 00:04:05 [เพลง]
00:04:05 → 00:04:08 ค่ะซึ่งตัวของถุพักกินสันค่ะก็จะอุปกรณ์
00:04:08 → 00:04:11 ทางการแพทย์ซึ่งจะมีลักษณะในการทำงานอยู่
00:04:11 → 00:04:14 2 โปรแกรมด้วยกันนะคะกลไกแรกจะเป็นกลไก
00:04:14 → 00:04:17 ที่ใช้ในการดีทคหรือเป็นการตรวจจับสัญญาณ
00:04:17 → 00:04:20 สันนะคะซึ่งเราก็จะเป็นอุปกรณ์ในลักษณะ
00:04:20 → 00:04:23 ของไจโรสโคปนะคะหรือว่าเป็นแอมเตอร์นะคะ
00:04:23 → 00:04:26 ซึ่งจะมีหน้าที่ในการที่จะ detect นะคะ
00:04:26 → 00:04:28 สัญญาหรือลักษณะของอาการสั่นนะคว่าลักษณะ
00:04:28 → 00:04:31 อาการสั่นนั้นเข้าได้กับลักษณะอาการสั่น
00:04:31 → 00:04:33 ของโรคพาร์กินสันหรือไม่นะคะโรค
00:04:33 → 00:04:35 พาร์กินสันผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่มีอาการ
00:04:35 → 00:04:37 สั่นขณะพักมักจะมีอาการสั่นที่เป็นลักษณะ
00:04:37 → 00:04:40 จำเพาะนะคะคือเป็นลักษณะอาการสั่นขณะพัก
00:04:40 → 00:04:42 ในช่วงความถี่ประมาณ 4-7 เฮซนะคะเพราะ
00:04:43 → 00:04:45 ฉะนั้นเมื่อกลไกนี้นะคะสามารถดีทคลักษณะ
00:04:45 → 00:04:49 ของอาการสัได้แล้วนะคกลไกก็จะมีการควบคุม
00:04:49 → 00:04:52 นะคะการทำงานนะคะดยการที่จะไปกระตุ้นนะคะ
00:04:52 → 00:04:54 ให้อุปกรณ์มีการปล่อยกระแสไฟฟ้านะคะเพื่อ
00:04:55 → 00:04:57 เป็นการกระตุ้นนะคะกล้ามเนื้อนะคะด้วย
00:04:57 → 00:04:59 ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เหมาะสมนะคเพื่อจะไป
00:04:59 → 00:05:02 ลดอาการมือสันที่เกิดขึ้นค่ะเพราะฉะนั้น
00:05:02 → 00:05:04 นะคะตัวอุปกรณ์นี้นะคะก็จอุปกรณ์ที่มีการ
00:05:04 → 00:05:07 ควบคุทำงานเนี่ยอยู่ 2 ระบบระบบแรกคือ
00:05:07 → 00:05:09 เป็นระบบในเรื่องของการตรวจวัดอาการสันนะ
00:05:09 → 00:05:11 คะแล้วก็ตรวจจับสัญญาณสันนะคะว่าเข้าได้
00:05:11 → 00:05:14 ลักกับลักษณะของอาการสันในโรคพารกินสัน
00:05:14 → 00:05:16 หรือไม่กับอุปกรณ์ที่ 2 เป็นอุปกรณ์ที่
00:05:16 → 00:05:18 ใช้ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อมือด้วยไฟฟ้านะ
00:05:18 → 00:05:21 คะซึ่งอุปกรณ์ตัว EMS ตัวนี้นะคะก็เป็น
00:05:21 → 00:05:24 อุปกรณ์ซึ่งเทียบเท่านะคะกับอุปกรณ์ EMS
00:05:24 → 00:05:26 นะคะหรือการกระตุ้นกล้ามเนื้อรถไฟฟ้าซึ่ง
00:05:26 → 00:05:28 เราใช้ในปัจจุบันนะคะซึ่งเป็นงานของทาง
00:05:28 → 00:05:30 ด้านกายภาพบำบัด
00:05:30 → 00:05:33 ซึ่งก็จะมีความปลอดภัยนะคะแล้วก็การทำงาน
00:05:33 → 00:05:35 ทั้งหมดนะคะก็จะสามารถที่จะควบคุมนะคะ
00:05:36 → 00:05:38 ผ่านทาง mobile แอปพลิเคชันของโทรศัพท์
00:05:38 → 00:05:40 มือถือนะคะซึ่งเราได้มีการเขียนโปรแกรมนะ
00:05:40 → 00:05:43 คะให้สามารถที่จะควบคุมนะคะแล้วก็สามารถ
00:05:43 → 00:05:46 ที่จะรายงานนะคะสัญญาณลักษณะของอาการสั่น
00:05:46 → 00:05:49 นะคะรวมถึงผลของการกระตุ้นนะคะผ่านมาเก็บ
00:05:49 → 00:05:52 นะคะบริมายังหน่วยเก็บความจำนะคะที่
00:05:52 → 00:05:54 โทรศัพท์มือถือค่ะแล้วตัวข้อมูลตรงนี้นะ
00:05:54 → 00:05:57 คะก็สามารถที่จะอัปโหลดนะคะขึ้นไปยังฐาน
00:05:57 → 00:06:00 ข้อมูลนะคะเอ่ออย่างเช่นคราวนะคะเพื่อให้
00:06:00 → 00:06:02 แพทย์นะคะสามารถที่จะดึงข้อมูลนะคะมา
00:06:02 → 00:06:05 เพื่อเป็นการวินิจฉัยนะคะแล้วก็มาแปรผลใน
00:06:05 → 00:06:07 การปรับการรักษาหรือการดูแลผู้ป่วยได้
00:06:07 → 00:06:09 อย่างต่อเนื่อง
00:06:09 → 00:06:13 [เพลง]
00:06:13 → 00:06:16 ค่ะอันนี้ก็เป็นตัวถุงมือ Parkinson นะคะ
00:06:16 → 00:06:19 ซึ่งก็จะประกอบนะคะไปด้วยอุปกรณ์หลักๆนะ
00:06:19 → 00:06:21 คะอยู่ 3 ส่วนนะคะส่วนแรกค่ะก็คือเป็น
00:06:21 → 00:06:23 ไมโครคอนโทรลเลอร์นะคะซึ่งก็เป็นอุปกรณ์
00:06:23 → 00:06:26 ที่ใช้ในการควบคุมการทำงานนะคะของตัวถุง
00:06:26 → 00:06:28 มือ Parkinson นะคะส่วนที่ 2 ค่ะก็เป็น
00:06:28 → 00:06:31 ส่วนที่มีหน้าที่ในการปล่อยกระแสไฟฟฟ้านะ
00:06:31 → 00:06:32 คะที่เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อนะคอันนี้
00:06:32 → 00:06:34 ก็คือเป็น Surface นะคะอิเล็กโทรดซึ่งจะ
00:06:34 → 00:06:37 อยู่ภายในถุงมือนะคะและส่วนที่ 3 ค่ะก็
00:06:37 → 00:06:39 คือโทรศัพท์มือถือค่ะซึ่งเรามีการติดตั้ง
00:06:39 → 00:06:42 แอปพลิเคชันนะคะที่จะสามารถควบคุมการทำ
00:06:42 → 00:06:44 งานนะคะของตัวถุงมือ Parkinson นะคะแล้ว
00:06:44 → 00:06:47 ก็เก็บข้อมูลนะคะผ่านทางสัญญาณบูทธาก
00:06:47 → 00:06:49 โทรศัพท์มือถือค่ะมาเก็บไว้ยังฐานข้อมูล
00:06:49 → 00:06:51 ที่โทรศัพท์มือถือได้เช่นเดียวกันค่ะวิธี
00:06:51 → 00:06:54 การใช้งานนะคะด้วยจากคองไข้โรคักกินสัน
00:06:54 → 00:06:57 ค่ะจะมีอาการสั่นขณะพักนะคะประมาณ 4-7
00:06:57 → 00:07:00 เฮิตนะคะขณะนี้นะคะหมอจะลองมิมิคนะคะ
00:07:00 → 00:07:02 อาการสั่นนะคะของที่มือนะคะให้ใกล้เคียง
00:07:02 → 00:07:05 กับผู้ป่วยโรคพาร์กินสันนะ
00:07:05 → 00:07:08 คะก็จะเห็นว่าตัวอุปกรณ์นะคะสามารถที่จะ
00:07:08 → 00:07:10 detect นะคะลักษณะของอาการสั่นนะคะได้
00:07:10 → 00:07:13 อย่างชัดเจนนะคะแล้วก็สามารถที่จะตรวจวัด
00:07:13 → 00:07:16 นะคะว่าขณะนี้นะคะความถี่ของอาการสั่นนะ
00:07:16 → 00:07:18 คะจะอยู่ที่ประมาณ 4 เฮิตนะคซึ่งก็เป็น
00:07:18 → 00:07:20 ความถี่นะคซึ่งเป็นความถี่จำพ้อนะให้ผู้
00:07:20 → 00:07:24 เปิดโรคพิสันค่ะหลังจากนั้นนะคะเมื่อตัว
00:07:24 → 00:07:26 อุปกรณ์นะคะสามารถที่จะดีทคลักษณะอาการ
00:07:27 → 00:07:29 สั่นที่เป็นลักษณะจำเพาะของโรคพิสันได้
00:07:29 → 00:07:32 แล้วค่ะตัวถุงมือนะคะก็จะมีการปล่อยกระแส
00:07:32 → 00:07:35 ไฟฟ้าโดยอัตโนมัตินะคะในปริมาณที่เหมาะสม
00:07:35 → 00:07:37 นะคะซึ่งเราจะมีการตั้งค่านะให้กับผู้
00:07:37 → 00:07:40 ป่วยเฉพาะรายนะคะเมื่อตัวถุงมือสามารถที่
00:07:40 → 00:07:42 จะวัดความสั่นได้แล้วก็จะมีการปล่อยกระแส
00:07:43 → 00:07:45 ไฟฟ้าให้กับผู้ป่วยนะคะซึ่งก็จะส่งผ่านนะ
00:07:45 → 00:07:47 คะตัวเ Surface อิเล็กโทรดที่บริเวณของ
00:07:47 → 00:07:50 ตัวถุงมือด้านในนะคะหลังจากนั้นอาการสาร
00:07:50 → 00:07:52 ของผู้ป่วยก็จะลดลงค่ะแล้วข้อมูลที่ใช้ใน
00:07:52 → 00:07:55 เรื่องของการที่จะวัดสัญญาณสั่นนะคะรวม
00:07:55 → 00:07:57 ถึงการกระตุ้นกล้ามเนื้อนะคะก็จะสามารถ
00:07:57 → 00:08:00 ที่จะเก็บมาทั้งหมดอยู่ที่บริษัทศ์มือถือ
00:08:00 → 00:08:02 ค่ะนอกจากนี้หากผู้ป่วยนะคะได้นำโทรศัพท์
00:08:02 → 00:08:04 นะคะรวมถึงอุปกรณ์ถุนพักกินสันกลับไปใช้
00:08:04 → 00:08:07 ที่บ้านนะคะสามารถอัปโหลดนะคะ Data นะคะ
00:08:07 → 00:08:10 ข้อมูลทั้งหมดนะของการกระตุ้นนะคะผ่านทาง
00:08:10 → 00:08:13 เอ่อไปทางระบบคาวนะคะเพื่อให้แพทย์นะคะ
00:08:13 → 00:08:15 สามารถให้ให้การติดตามอาการผู้ป่วยนะคะ
00:08:16 → 00:08:18 หรือสามารถที่จะนำผลคะมาเป็นการแปลผลนะคะ
00:08:18 → 00:08:20 ในเรื่องของการปรับการรักษาให้กับผู้ป่วย
00:08:20 → 00:08:23 ได้ค่ะเมื่อเสร็จสิ้นวัน
00:08:23 → 00:08:27 [เพลง]
00:08:27 → 00:08:30 ค่ะต้องเลืนอย่างนี้นะนะครับว่าการรักษา
00:08:30 → 00:08:33 โรคสั่นใน Parkinson เนี่ยหลักๆยังอยู่
00:08:33 → 00:08:34 ที่เรื่องของยาที่ใช้รับประทานเพราะ
00:08:34 → 00:08:37 ฉะนั้นผู้ป่วย Parkinson ที่มีเรื่องของ
00:08:37 → 00:08:40 อาการสั่นเนี่ยสิ่งแรกคือแพทย์จะต้องปรับ
00:08:40 → 00:08:43 ยาเพื่อรักษาอาการก่อนนะครับแต่ต้องเรียน
00:08:43 → 00:08:46 ว่าอาการสั่นเนี่ยในโรคผากกินสั่นเนี่ย
00:08:46 → 00:08:48 การตอบสนองต่อยาเยบางครั้งมันไม่ชัดเจนนะ
00:08:48 → 00:08:50 ครับอย่างที่เรากล่าวไปในผู้ป่วยบางราย
00:08:50 → 00:08:53 เนี่ยพออาการสั่นรุนแรงปั๊บเราเราให้ผู้
00:08:53 → 00:08:56 ป่วยเริ่มยาเนี่ยอาการสั่นลดลงเพียงแค่
00:08:56 → 00:08:58 นิดหน่อยเท่านั้นเองอาการสั่นในบางครั้ง
00:08:58 → 00:09:00 เนี่ยยังมีปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
00:09:00 → 00:09:04 คราวนี้ถ้าผู้ป่วยที่รับการรักษาด้วยยา
00:09:04 → 00:09:06 แล้วนะครับและอาการสั่นยังมีปัญหากับ
00:09:06 → 00:09:09 ชีวิตประจำวันเนี่ยเราจะพิจารณาแล้วว่า
00:09:09 → 00:09:11 ผู้ป่วยรายนั้นๆเนี่ยเหมาะสำหรับการใช้
00:09:11 → 00:09:13 ถุงมือ Parkinson หรือเปล่านะครับเพราะ
00:09:13 → 00:09:16 ว่าอย่างที่คุณหมอออยนงได้พูดไปนะครับการ
00:09:16 → 00:09:19 รักษาด้วยยาเป็นการรักษาในผ่านทางกลไกของ
00:09:19 → 00:09:22 สมองนะครับแต่การรักษาด้วยถุงมือเนี่ย
00:09:22 → 00:09:24 เป็นการรักษาเสริมนะครับไม่ใช่เป็นการ
00:09:24 → 00:09:27 รักษาหลักผ่านทางกลไกทางด้านกล้ามเนื้อ
00:09:27 → 00:09:31 และข้อต่อเสื้อซึ่งซึ่งจะช่วยเสริมกลไก
00:09:31 → 00:09:33 ทางสทางสมองอีกทีเพราะฉะนั้นพวกเราถึง
00:09:33 → 00:09:36 เชื่อกันว่าในผู้ป่วยที่มีอาการสั่นที่
00:09:36 → 00:09:38 ค่อนข้างรุนแรงยารับประทานคุมอาการไม่
00:09:38 → 00:09:41 อยู่เนี่ยการรักษาเสริมในแบบเนี้ยก็จะ
00:09:41 → 00:09:44 ช่วยให้อาการสัตว์ลด
00:09:44 → 00:09:47 [เพลง]
00:09:47 → 00:09:51 ลงจากการวิจัยนะคะอย่างที่อาจารย์รุ่งรวด
00:09:51 → 00:09:53 ได้เรียนไปนะคะว่าเราได้ทำการศึกษาวิจัย
00:09:53 → 00:09:55 นะคะในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันนะคะที่มี
00:09:55 → 00:09:57 อาการสั่นค่อนข้างรุนแรงนะคะแล้วก็ตอบ
00:09:58 → 00:10:00 สนองต่อการรับษาด้วยยารับประทานได้ไม่ดี
00:10:00 → 00:10:02 นะคะพบว่าเมื่อให้ผู้ป่วยนะคะได้มาลองใช้
00:10:02 → 00:10:05 ตัวถุงมือพาร์กินสันนะคะก็พบว่าสามารถลด
00:10:05 → 00:10:08 อาการสั่นแบบขณะพักนะคะหรือ Racing trier
00:10:08 → 00:10:10 นะคะได้ชัดเจนนะคะเมื่อเทียบกับผู้ป่วยนะ
00:10:10 → 00:10:12 คะที่ใช้ถุงมือหลอกค่ะและนอกจากนี้นะคะ
00:10:13 → 00:10:16 ทางเรานะคะก็ถือว่าเป็นงานวิจัยซึ่งได้
00:10:16 → 00:10:18 รับการสนับสนุนนะคะจากหลายหน่วยงานนะคะ
00:10:18 → 00:10:20 ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากสำนักงานวัตกรรมแห่ง
00:10:20 → 00:10:23 ชาตินะคะในปีที่ผ่านมานะคะโโยในปีนี้นะคะ
00:10:23 → 00:10:26 เราได้รางวัลนตกมแห่งชาตินะคะสาขาสังคม
00:10:26 → 00:10:29 และสิ่งแวดล้อมนะคะอ่าประเภทหน่วยงานภาค
00:10:29 → 00:10:31 เอกชนนะคะจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาตินะ
00:10:31 → 00:10:34 คะนอกจากนี้ค่ะตัวถุงพิสันนะคะก็ยังได้
00:10:34 → 00:10:38 รับรางวัลนะคะเบอ award นะคะรวมถึงได้รับ
00:10:38 → 00:10:41 รางวัลนะคะเท็จฟันนะคะซึ่งก็เป็นตัวซึ่ง
00:10:41 → 00:10:44 ช่วยทำให้เรามีการพัฒนาต่อยอดนะคะเป็นแบบ
00:10:44 → 00:10:46 อุตสาหกรรมนะคะเพื่อการพัฒนาถุงมือเนี่ย
00:10:46 → 00:10:49 ให้มีประสิทธิภาพที่มากขึ้นนะคะแล้วก็
00:10:49 → 00:10:53 สามารถที่จะนำออกมาผลิตนะคเอ่อในวงกว้าง
00:10:53 → 00:10:55 นะคะเป็นการเผยแผร่ให้กับผู้ป่วยได้มาก
00:10:55 → 00:10:58 ขึ้นเช่นเดียว
00:10:58 → 00:11:01 กัน
00:11:02 → 00:11:05 ปัจจุบันตัวถุงมือนี้นะคะก็ได้มีเอ่อให้
00:11:05 → 00:11:07 เปิดให้กับผู้ป่วยนะคะโรคผักกินสารที่มี
00:11:07 → 00:11:10 อาการมือสั่นที่เด่นนะคะแล้วก็ตอบสนองต่อ
00:11:10 → 00:11:12 การรักษาด้วยยารับประทานที่ยังไม่ดีนะคะ
00:11:12 → 00:11:15 ให้มาสสามารถที่จะมาทดสอบนะหรือว่าทดลอง
00:11:15 → 00:11:18 การใช้ตัวถุงมือได้นะคะหากผู้ป่วยคะได้
00:11:18 → 00:11:20 ประโยชน์จากการใช้ทางเราก็ยินดีสนับสนุน
00:11:20 → 00:11:22 ให้ผู้ป่วยได้สามารถที่ใช้ถุงมือในการ
00:11:22 → 00:11:24 รักษานะคะควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยารับ
00:11:24 → 00:11:26 ประทานที่เป็นมาตรฐานของการรักษาโรคพัก
00:11:26 → 00:11:29 กินสันโดยทั่วไปค่ะค่ะก็พู้ป่วยนะคะที่สน
00:11:29 → 00:11:32 ใจนะคะที่จะทดลองใช้ตัวถุมพิสันนะคะก็
00:11:32 → 00:11:35 สามารถที่จะติดต่อนะคะมาทางที่ศูนย์พาริส
00:11:35 → 00:11:37 คันเป็นเลิศนะคะทางการแพทย์ค่ะโรค
00:11:37 → 00:11:40 พาร์กินสันและกลุ่มรคความเคลื่อนไหวผิด
00:11:40 → 00:11:42 ปกติโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทยได้
00:11:42 → 00:11:48 ค่ะที่ World Wi เวบนะคะจุฬา
00:11:48 → 00:11:57 [เพลง]
00:11:57 → 00:12:00 pd.apw ฉัยที่ค่อนข้างเร็วนะครับหรือว่า
00:12:00 → 00:12:03 แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง
00:12:03 → 00:12:05 อย่างที่กล่าวถึงเมื่อกี้นี้นะครับก็ติด
00:12:05 → 00:12:07 ต่อมาได้ที่ศูนย์พิสันเช่นเดียวกันราย
00:12:07 → 00:12:09 ละเอียดอยู่ในที่เว็บไซต์นะครับคราวนี้
00:12:09 → 00:12:11 ความเสี่ยงของโรค Parkinson มีอันไหนบ้าง
00:12:11 → 00:12:13 หมออยากจะพูดคร่าวๆตรงนี้นิดนึงนะครับ
00:12:13 → 00:12:15 อย่างแรกสุดก็คือว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้น
00:12:15 → 00:12:18 อันนี้แน่นอนเพิ่มตามอายุแต่อายุเรา
00:12:18 → 00:12:20 เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นะครับเอ่ออันที่ 2
00:12:20 → 00:12:23 ก็คือว่าถ้ามีประวัติในเรื่องของครอบครัว
00:12:23 → 00:12:26 นะครับโดโดยเฉพาะว่าถ้ามีญาติสายตรงที่มี
00:12:26 → 00:12:28 เอ่อเป็นโรคผากกินสันนะครับแล้วเรารู้สึก
00:12:28 → 00:12:30 ว่าเอ๊ะเราสั่นนิดๆหรือว่าอะไรต่างๆพวก
00:12:30 → 00:12:32 นี้ก็อาจก็จะควรจะมาตรวจค่อนข้างเร็วนะ
00:12:32 → 00:12:35 ครับสงสัยนี้แนะนำมาตรวจได้นะครับเรามี
00:12:35 → 00:12:38 เอ่อโครงการที่เราจะตรวจเพื่อค้นหานะครับ
00:12:39 → 00:12:41 ความเสี่ยงของผู้ป่วยซึ่งจริงๆไม่ได้ใช้
00:12:41 → 00:12:43 เวลานานแลที่สำคัญคือไม่เจ็บตัวนะครับ
00:12:43 → 00:12:46 เป็นการตรวจทางด้าน Digital นะครับคือให้
00:12:46 → 00:12:49 ผู้ป่วยทำการเอ่อวัดการเคลื่อนไหวอะไร
00:12:49 → 00:12:51 ต่างๆซึ่งเรามีการวัดและค่อนข้างละเอียด
00:12:51 → 00:12:53 และในปัจจุบันเนี่ยเราใช้ AI ในการ
00:12:53 → 00:12:56 ประเมินเพะงั้นก็มีความเอ่อแม่นยำที่
00:12:56 → 00:12:59 เพิ่มมากขึ้นนะครับคราวนี้นนอกเหนือจาก
00:12:59 → 00:13:01 ความเสี่ยงแล้วตรวจแล้วเนี่ยสิ่งที่สำคัญ
00:13:01 → 00:13:03 คือไม่มีใครอยากจะเป็นใช่มั้ยครับเพราะ
00:13:03 → 00:13:05 ฉะนั้นหมอขอแนะนำคร่าวๆนะครับว่าโรคพา
00:13:05 → 00:13:08 กินสันถึงแม้ในปจะเป็นโรคที่ไม่ติดต่อใน
00:13:09 → 00:13:11 ปัจจุบันก็ป้องกันได้นะครับเอ่อเราจะป้อง
00:13:11 → 00:13:13 กันอย่างไรนะครับอย่างลกสุดก็คือว่าเรา
00:13:14 → 00:13:17 ออกกำลังกายที่สม่ำเสมอนะครับเอ่อเริ่ม
00:13:17 → 00:13:20 ทันทีนะครับและสิ่งที่สำคัญคือทำสม่ำเสมอ
00:13:20 → 00:13:22 และต่อเนื่องนะครับอันนี้เป็นจุดหนึ่งที่
00:13:22 → 00:13:25 สำคัญหมอเน้นมากๆเลยนะครับอันที่ 2 คือ
00:13:25 → 00:13:28 การรับประทานอาหารที่มีสุขภาพนะครับและ
00:13:28 → 00:13:30 อันที่ 3 ก็คือมีสุขภาพการนอนที่ดีนะครับ
00:13:30 → 00:13:32 อันนี้ก็เป็นประเด็นอันหนึ่งที่สำคัญว่า
00:13:32 → 00:13:34 อย่างเช่นถ้าเรารู้ว่ามีความเสี่ยงใน
00:13:34 → 00:13:36 เรื่องของการนอนละเมออะไรต่างๆเราจะต้อง
00:13:36 → 00:13:39 รีบแก้ไขนะครับในจุดนี้ก็เป็นแนวทางป้อง
00:13:39 → 00:13:42 กันที่สำคัญนะครับและอยากจะให้เข้าใจและ
00:13:42 → 00:13:45 ในปัจจุบันเนี่ยหลักฐานทางการวิจัยก็
00:13:45 → 00:13:47 เพิ่มมากขึ้นว่าถ้าเราปฏิบัติตนต่อเนื่อง
00:13:47 → 00:13:49 ตั้งแต่แรกเริ่มเนี่ยโอกาสที่จะเป็นมันก็
00:13:49 → 00:13:52 ลดน้อยลงครับ
00:13:52 → 00:13:54 [เพลง]
00:13:54 → 00:13:58 ผม tn and Health เราจะรวบรวมความรูู้้
00:13:58 → 00:14:01 ทางด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ
00:14:01 → 00:14:04 ถือพร้อมก่อติดความเคลื่อนไหวจากทุก
00:14:04 → 00:14:08 ประเด็นสุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุม
00:14:08 → 00:14:10 มองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้
00:14:10 → 00:14:14 ทางด้านต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุก
00:14:14 → 00:14:19 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:14:19 → 00:14:27 [เพลง]
00:14:27 → 00:14:32 โรค
00:14:32 → 00:14:41 [เพลง]
00:15:03 → 00:15:06 อ