00:00:00 → 00:00:01 ถ้าน้อง
00:00:01 → 00:00:06 เอาใหม่แก้วเหนื่อยแก้วน้ำไม่มาหรอก
00:00:06 → 00:00:15 มึงออกไง
00:00:15 → 00:00:18 คุณเคยว่าภาพเหล่านี้นะครับเคยสงสัยไหม
00:00:18 → 00:00:21 ครับว่าเวลาที่เรากินเหล้าแล้วกินเหล้าหอ
00:00:21 → 00:00:24 เนี่ยทำไมเราถึงแสดงพฤติกรรมที่หลากหลาย
00:00:24 → 00:00:28 มากเลยบางคนอีกกินเหล้าแล้วก็รั้วโอ้โห
00:00:28 → 00:00:30 พูดเก่งพูดไม่หยุดเลยนะครับพูดทุกอย่าง
00:00:30 → 00:00:33 ที่เก็บอยู่ในใจหรือบางคนเนี่ยก็มาสายโวย
00:00:33 → 00:00:36 วายอ่ะครับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ฟิล์มไฟล์
00:00:36 → 00:00:38 ต่างๆนานา
00:00:38 → 00:00:41 เดียวนะครับหรือว่าบางคนก็จำอะไรไม่ได้
00:00:41 → 00:00:44 เลยครับเป็นจ่ายง่วงกินเหล้าแล้วง่วงหรือ
00:00:44 → 00:00:47 ว่าภาพปรับไปเลยตื่นมาจำอะไรไม่ได้เลย
00:00:47 → 00:00:49 เนี่ยวันนี้ครับผมค่าของสมบูรณ์นะเจ้าคะ
00:00:49 → 00:00:51 ทุกคนไปหาคำตอบเลยครับว่าอัลกอฮอล์ที่
00:00:51 → 00:00:54 อยู่ในพวกเหล้าเบียร์โซจูหรือไวน์นะครับ
00:00:54 → 00:00:57 มันไปทำอะไรกับสมองของเราทำให้เรามี
00:00:57 → 00:01:00 พฤติกรรมแบบนั้นแล้วทำไมกินพวกเราก.คมา
00:01:00 → 00:01:02 แล้วถึงแห่งน้องวิทยาศาสตร์เนี่ยช่วยแก้
00:01:02 → 00:01:06 แฮงค์ได้ยังไงครับช็อปที่เธอว์พอดแคสต์
00:01:06 → 00:01:09 สุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่
00:01:09 → 00:01:11 หัวจดเท้า
00:01:12 → 00:01:14 เวลาที่เรากินแอลกอฮอล์นะครับผมเชื่อเลย
00:01:14 → 00:01:17 ว่าทุกคนจะต้องรู้สึกเหมือนกันครับคือเรา
00:01:17 → 00:01:20 จะเริ่มรู้สึกว่ามันครึ้มลืมรู้สึกว่า
00:01:20 → 00:01:24 สมองของเราเนี่ยมันเริ่มทำงานได้ไม่ปกติ
00:01:24 → 00:01:29 นะครับทำงานได้ช้าลงทุกอย่างดูช้าลงกว่า
00:01:29 → 00:01:32 ปกตินั่นก็เป็นเพราะว่าแอลกอฮอล์หรือว่า
00:01:32 → 00:01:36 ที่ถูกต้องคือเอททานอลนะครับมันเป็นสารกด
00:01:36 → 00:01:39 ประสาทหรือว่าทำให้สมองของเราเนี่ยทำงาน
00:01:39 → 00:01:42 ได้น้อยหรือว่าช้าลงนั่นเองครับเพราะ
00:01:42 → 00:01:45 ฉะนั้นเนี่ยพอสมองทำงานช้าลงนะครับโอโห้
00:01:45 → 00:01:48 ว่ากระทบทุกส่วนของสมองเลยนะตาเราก็จะ
00:01:48 → 00:01:51 เริ่มฝากครับบางทีหนูเราเนี่ยก็จะแว่ว
00:01:51 → 00:01:54 จมูกเนี่ยก็จะเริ่มได้กลิ่นผิดเพี้ยนไปรส
00:01:54 → 00:01:57 ชาติเริ่มผิดเพี้ยนนะครับเดินมันดีว่าทรง
00:01:57 → 00:02:00 ตัวไม่อยู่ครับสติหลุดครับและควบคุม
00:02:00 → 00:02:03 อารมณ์ของเราเริ่มไม่ทำงานไม่ใช่เราจะควบ
00:02:03 → 00:02:07 คุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ครับสติสัมปชัญญะก็จะ
00:02:07 → 00:02:09 ไม่ค่อยมีความคิดความอ่านการตัดสินใจก็
00:02:09 → 00:02:12 เริ่มทำไม่ดีนะครับและไปถึงขั้นว่าเราจำ
00:02:12 → 00:02:15 อะไรไม่ได้ว่าอาการที่เรียกว่า Black Out
00:02:15 → 00:02:18 นะคะหรือว่าสลบเหมือนไปเลยนะครับปกติแล้ว
00:02:18 → 00:02:20 ตอนที่เราไม่กินเหล้านะครับสมองสามารถที่
00:02:20 → 00:02:24 จะสั่งงานให้เอายั๊วะนู้นอะวันนี้ทำนู่น
00:02:24 → 00:02:26 นี่นั่นได้นะครับซึ่งจะทำอย่างนั้นได้
00:02:26 → 00:02:31 สมองต้องส่งกระแสประสาทไปยังอวัยวะต่างๆ
00:02:31 → 00:02:34 เพื่อบอกให้มันทำงานนะครับซึ่งไอ้เต้า
00:02:34 → 00:02:37 กระแสประสาทเนี่ยคิดง่ายๆมันเหมือนกับเรา
00:02:37 → 00:02:39 กำลังขับรถนี่นะครับรถยนต์เขาจะวิ่งจาก
00:02:39 → 00:02:43 สมองไปยังจุดนึงไปยังอวัยวะจุดหนึ่งได้นะ
00:02:43 → 00:02:45 ครับมันก็ต้องผ่านสี่แยกผ่านไฟเขียวไป
00:02:45 → 00:02:48 เรื่อยๆจนถึงจุดหมายปลายทางถูกไหมครับที่
00:02:48 → 00:02:51 นี้นะคะในสมองของเรานะครับมีจราจรอยู่ 2
00:02:51 → 00:02:55 คนครับทุกๆสี่แยกเลยครับจราจรคนแรกนะครับ
00:02:55 → 00:02:57 เป็นสารสื่อประสาทที่เรียกว่า New โลตัส
00:02:57 → 00:03:00 มิเตอร์นี่แหละชื่อว่าครูต่ำนะครับโจ๊ก
00:03:00 → 00:03:04 กลูตาเมตนี้นะครับจะเป็นคนควบคุมสัญญาณไฟ
00:03:04 → 00:03:06 เขียวฮะเมื่อไหร่ก็ตอนที่มันเปิดไฟเขียว
00:03:06 → 00:03:09 กระแสประสาทหรือว่ารถให้กระดูกวิ่งผ่าน
00:03:09 → 00:03:11 แยกกันไปได้ครับเพราะเขียวไปเรื่อยๆไป
00:03:11 → 00:03:14 เรื่อยๆก็จะแสประสาทก็จะวิ่งไปถึงโอยวะ
00:03:14 → 00:03:15 ปลายทางแล้วก็สั่งให้มันทำงานได้อย่าง
00:03:15 → 00:03:19 ปกติครับจราจรคนที่ 2 นะครับก็เป็นสาร
00:03:19 → 00:03:22 สื่อประสาทเหมือนกันครับชื่อว่ากาบาฮะ
00:03:22 → 00:03:25 เจ้ากาบ้านะครับจะคอยคุ้มสี่แยกเหมือนกัน
00:03:25 → 00:03:28 แต่จะทำหน้าที่ในการคอยเอาไม้ก้านนะครับ
00:03:28 → 00:03:32 มาขวางทางรถไม่ให้รถเนี่ยมันวิ่งผ่านแยก
00:03:32 → 00:03:35 นั้นไปครับเมื่อไหร่ที่กาบาทำงานนะครับก็
00:03:35 → 00:03:39 จะขัดขวางกระแสประสาทไม่ให้วิ่งไปสมองก็
00:03:39 → 00:03:42 จะสั่งงานโดยนั้นไม่ได้นะครับหรือว่าสั่ง
00:03:42 → 00:03:45 ได้ช้าลงนั่นเองโดยปกติแล้วนะครับเจ้า
00:03:45 → 00:03:48 จราจรสองคนทั้งครูตาเมตและก็กาบาเนี่ยเขา
00:03:48 → 00:03:51 ทำงาน Balance กันดีครับทำงานสัมพันธ์กัน
00:03:51 → 00:03:53 เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่อยากให้รถติดนะครับ
00:03:53 → 00:03:56 ไฟเขียวก็จะเปิดตลอดไอ้โต๊ะไม้กันก็ยก
00:03:56 → 00:03:58 ขึ้นนะครับเพื่อให้สมองเนี่ยสามารถที่จะ
00:03:58 → 00:04:00 ส่งคำสั่งไปยังเนี่ยมันต่างของร่างกาย
00:04:01 → 00:04:04 แล้วก็ร่างกายของเราก็จะทำงานปกติครับแต่
00:04:04 → 00:04:06 เมื่อไหร่ก็ตามเนี่ยที่เราเริ่มกฤตดื่ม
00:04:06 → 00:04:09 แอลกอฮอล์เข้าไปเนี่ยฮะเจ้า External
00:04:09 → 00:04:11 ครับจะเริ่มไปปั่นปวดทันทีครับดูสิ่งที่
00:04:11 → 00:04:15 มันทำคือมันจะไปเพิ่มการทำงานของเจ้ากา
00:04:15 → 00:04:19 บ้าครับหรือว่าไม้กันให้ปิดบ่อยขึ้นติด
00:04:19 → 00:04:22 นานขึ้นด้วยนะครับในขณะเดียวกันนะมันก็จะ
00:04:22 → 00:04:26 ไปขัดขวางการทำงานของกลูตาเมตครับทำให้ไฟ
00:04:26 → 00:04:28 เขียวยังไม่ค่อยเปิดหรือเปิดสั้นลงครับ
00:04:28 → 00:04:33 คราวนี้ก็ยุ่งเลยสิครับพอไฟเขียวไม่ทำงาน
00:04:33 → 00:04:36 นะครับแถวมีไม้กั้นอีกกระแสประสาทในก็
00:04:36 → 00:04:39 วิ่งไปไม่ได้เพราะฉะนั้นสมองของเราจึงทำ
00:04:39 → 00:04:43 งานน้อยลงช้าลงสิ่งที่เราจะรู้สึกคือเรา
00:04:43 → 00:04:48 จะรับรู้จริงๆน้อยลงรู้สึกช้าลง
00:04:48 → 00:04:52 อย่าคิดอะไรได้น้อยลงแล้วก็จำได้น้อยลงใน
00:04:52 → 00:04:55 ธรรมซึ่งการทำงานของสมองที่น้อยลงมันก็
00:04:55 → 00:04:58 สัมพันธ์กับปริมาณอัลกอฮอล์หรือว่าแต่โต
00:04:58 → 00:05:01 โน่ที่มีในร่างกายนะครับถ้าเรามีอยู่เล็ก
00:05:01 → 00:05:04 น้อยนะครับเราก็จะรู้สึกมึนๆนะครับแต่ถ้า
00:05:04 → 00:05:07 เริ่มมีอ่ะพอหอมมากขึ้นไปเรื่อยๆเรื่อยๆ
00:05:07 → 00:05:11 นะครับเราก็จะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าและ
00:05:11 → 00:05:14 เก๊าท์หรือว่าหลับไปเลยครับจำอะไรไม่ได้
00:05:14 → 00:05:17 สักอย่างต่อที่เราตื่นมาแล้วนะครับที่นี่
00:05:17 → 00:05:20 หลายคนอาจจะมีคำถามว่าอ้าวแล้วถ้าเกิดว่า
00:05:20 → 00:05:23 เรากินแอลกอฮอต่อเนื่องไปเรื่อยๆมันจะ
00:05:23 → 00:05:26 เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ต้องบอกว่าร่างกายของ
00:05:26 → 00:05:28 เราเนี่ยมันก็จับตัวถ้าพอมันเริ่มรู้ว่า
00:05:28 → 00:05:30 เอ้ยไอ้ต้องแอลกอฮอล์หรือว่าแอปเปิ้ลโอ้
00:05:30 → 00:05:33 นี่เลยครับมันไปทำให้ไฟเขียวเนี่ยมีปัญหา
00:05:33 → 00:05:36 เปิดน้อยลงแล้วก็มันไปทำให้แผงกั้นมาปิด
00:05:36 → 00:05:39 บ่อยขึ้นสิ่งที่มันทำนะครับมันก็เลยไป
00:05:39 → 00:05:44 เพิ่มทำให้ต้องภูตะเมดมันเปิดไฟเขียวนาน
00:05:44 → 00:05:47 ขึ้นกว่าเดิมและก็ไปบอกไอ้ต้องกาบาให้แก
00:05:47 → 00:05:50 ต่อไปเนี่ยการติดหมายเท่ากับปิดแป๊บเดียว
00:05:50 → 00:05:52 พอนะเรายกขึ้นเลยครับสมองจะ Active มาก
00:05:52 → 00:05:56 ขึ้นเมื่อเรากินเหล้าบ่อยมากขึ้นนะครับ
00:05:56 → 00:05:59 นี่เค้าให้เราเกิดอาการติดเหล้างอมแงม
00:05:59 → 00:06:02 ครับกินเท่าไหร่ก็ไม่เมาก็คอแข็งอ่ะฝึกไป
00:06:02 → 00:06:05 เรื่อยๆแล้วเสนอมันปรับตัวนะครับพอเราคอ
00:06:05 → 00:06:08 แข็งนี้เราต้องกินเหล้าไปมาถึงมากขึ้นมาก
00:06:08 → 00:06:11 ขึ้นเพื่อให้เมานั่นเองครับแล้วก็ว่าเรา
00:06:11 → 00:06:14 กินเหล้าต่อเนื่องร่างกายปรับตัวไปแล้ว
00:06:14 → 00:06:17 ไอ้เจ้ากาบ้ากับกูต่ำ่นะครับมีการปรับตัว
00:06:17 → 00:06:20 เรียบร้อยแล้วอยู่วันนึงเกิดหรืออยากจะ
00:06:20 → 00:06:23 หยุดกินเอาคอกังหันจะเกิดอะไรขึ้น 6 รับ
00:06:23 → 00:06:26 รองเลยครับปวดหัวแน่นอนนะเพราะว่าร่างกาย
00:06:26 → 00:06:29 มันปรับตัวไปแล้วนะครับการทำงานของจราจร
00:06:29 → 00:06:32 สองคนมันไม่สัมพันธ์กันอีกต่อไปเพราะ
00:06:32 → 00:06:35 อย่างนั้นเราจะหยุดปวดหัววิงเวียนนะครับ
00:06:35 → 00:06:39 โอ้โหจำอะไรก็ไม่ค่อยได้คืออาการที่เรียก
00:06:39 → 00:06:42 ว่าถอนพิษสุดานว่าถอนพิษเหล้านั้นเองแนะ
00:06:42 → 00:06:43 นำเลยนะครับถ้าเกิดว่าเราอยากจะหยุดกิน
00:06:43 → 00:06:46 เหล้านะครับค่อยๆถอนลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่
00:06:46 → 00:06:49 เรากินในแต่ละวันลงนะครับตั้งเวลากราบาร์
00:06:49 → 00:06:53 แล้วก็กูต่ำเหตุนะครับในการปรับตัวจนมา
00:06:53 → 00:06:56 อยู่ในระดับที่ปกตินะครับเราก็จะไม่รู้
00:06:56 → 00:07:00 สึกปวดหัวในการถอนเหล้าครับซิเวลากิน
00:07:00 → 00:07:03 เหล้าทำไมเราต้องแห้งด้วยอาการแห้งมันคือ
00:07:03 → 00:07:06 อะไรอ่ะต้องบอกว่าร่างกายของเรานะครับมี
00:07:06 → 00:07:09 กลไกว่าอะไรก็ตามที่เรากินก็ไปนะครับก่อน
00:07:09 → 00:07:12 ที่สารอาหารเหล่านั้นหรืออะไรก็ตามเที่ยว
00:07:12 → 00:07:15 ดื่มเนี่ยมันจะถูกส่งไปยังทั่วร่างกายทุก
00:07:15 → 00:07:19 อย่างจะถูกดูดซึมและส่งไปพิษตับก่อนครับ
00:07:19 → 00:07:22 ตอบของเรานะครับทำหน้าที่เป็น QC ครับคอย
00:07:22 → 00:07:24 ตรวจตราว่าไอ้ที่เรากินเข้าไปเนี่ยมัน
00:07:24 → 00:07:26 ปลอดภัยเปล่าวะถ้าเกิดตับเจออะไรที่มัน
00:07:26 → 00:07:29 ไม่ปลอดภัยนะครับตับเนี่ยก็จะจัดการมัน
00:07:29 → 00:07:31 ก่อนแต่สภาพมันก่อนให้ไปอยู่ในรูปที่ปลอด
00:07:31 → 00:07:35 ภัยมากขึ้นก่อนที่จะส่งไปทั่วร่างกายนะ
00:07:35 → 00:07:37 ครับเพราะอัตโนไปอยู่ที่ปักนะครับสิ่งที่
00:07:37 → 00:07:41 ตับจะทำก็คือจะแปลงร่าง at ตาลโอ้ที่เป็น
00:07:41 → 00:07:44 พิษนะครับให้อยู่ในรูปที่ปลอดภัยมากขึ้น
00:07:44 → 00:07:46 ที่สามารถที่จะขับออกทางปัสสาวะได้นะครับ
00:07:47 → 00:07:49 สตูบหน้าที่ตับนี้นะครับก็คือพืชจะ
00:07:49 → 00:07:52 เปลี่ยนรูปของแอปเปิ้ลเน่าให้กลายเป็น
00:07:52 → 00:07:56 สิ่งที่เรียกว่า astori High ครับโดยใช้
00:07:56 → 00:07:58 เอนไซม์อยู่ตัวนึงนะครับที่ชื่อว่า
00:07:58 → 00:08:03 แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนสหรือว่า a d e s
00:08:03 → 00:08:06 Shop sketch ที่ 1 นะครับคือ attano มา
00:08:06 → 00:08:08 เจอกับ ends and a d h เปลี่ยนไปเป็น
00:08:08 → 00:08:12 ahai ซึ่งอาซิซอรี่หายนะครับเป็นสารที่
00:08:12 → 00:08:14 มีพิษหนักว่า SR นอกอีกด้วยซ้ำนะครับ
00:08:14 → 00:08:17 เพราะฉันต่ำในก็จะต้องรีบเปลี่ยนมา Story
00:08:17 → 00:08:20 High ให้เป็นตัวที่ปลอดภัยที่ชื่อว่าอา
00:08:20 → 00:08:23 ซิเตทครับอ่ะโดนที่หายเนี่ยจะเปลี่ยนเป็น
00:08:23 → 00:08:26 อะซิเตทได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้เอนไซม์ที่
00:08:26 → 00:08:30 ชื่อว่าอะดิ High ดีไฮโดรจีเนสหรือว่า a
00:08:30 → 00:08:35 a l d e s ครับเพราะฉะนั้นจะเกตโลจะ
00:08:35 → 00:08:38 เปลี่ยนเป็นอาซิซอรี่ High ที่เป็นพิษมาก
00:08:38 → 00:08:40 ๆและจะเปลี่ยนจากการสีซอรีฮายไปเป็น
00:08:40 → 00:08:43 อะซิเตทที่ไม่เป็นพิษและถูกขับออกทางฉี่
00:08:43 → 00:08:47 ได้โดยอาศัยเอนไซม์ 2 ตัวก็คือ a d H
00:08:47 → 00:08:51 และอยู่แถว D H นั่นเองครับที่นี่ต้อง
00:08:51 → 00:08:53 เอนไซม์ 2 ตัวนี้นะครับแต่ละคนก็มีใน
00:08:53 → 00:08:55 ปริมาณที่มากน้อยแตกต่างกันไปเนาะนั่น
00:08:56 → 00:08:57 หมายความว่าร่างกายของเราเนี่ยจะสามารถ
00:08:57 → 00:09:00 จัดการกับ Excel ไม่เหมือนกันบางคนมีน้อย
00:09:00 → 00:09:02 ๆก็จะกินเหล้าแล้วตัวแดงเลยครับเพราะว่า
00:09:02 → 00:09:05 ไม่ค่อยมีเอนไซม์พวกนี้ที่นี่แล้วมัน
00:09:05 → 00:09:07 เกี่ยวกับอาการแฮ้งค์ยังไงก็ต้องบอกว่า
00:09:07 → 00:09:10 ไอ้ขั้นตอนที่จะเปลี่ยน otori หายที่มี
00:09:10 → 00:09:12 พิษมากๆนะครับไปเป็นตัวที่ปลอดภัยเนี่ย
00:09:12 → 00:09:16 มันไม่ใช่แค่เอนไซม์ครับแต่มันใช้สารตัว
00:09:16 → 00:09:19 หนึ่งด้วยที่ชื่อว่า glutathione ครับ
00:09:19 → 00:09:21 ซึ่งเจ้า glutathione เนี่ยถูกผลิตขึ้นมา
00:09:21 → 00:09:24 ในตับปกติแล้วกูต้องให้โอนก็ไม่อยู่ในตับ
00:09:24 → 00:09:26 ปริมาณนึงครับที่เพียงพอในการที่จะ
00:09:26 → 00:09:29 เปลี่ยน astori หาเงินผิดเป็นตัวที่ไม่
00:09:29 → 00:09:31 เป็นพิษนะครับแต่ถ้าเกิดว่าเรากินเหล้า
00:09:31 → 00:09:35 หนักมากเร็วมากรัวมากเนี่ยเอ้ยปริมาณเอตา
00:09:35 → 00:09:38 โน่ที่เข้าไปตัดมันเยอะมากเกินไปครับไม่
00:09:38 → 00:09:40 ต้องกูต้าไธโอนมันมีไม่พอเพราะฉะนั้นอ่ะ
00:09:40 → 00:09:43 ในตับแล้วก็จะเต็มไปด้วยอาซิซเอานี่ High
00:09:43 → 00:09:45 ครับไอ้มึงไปหมดเลยแล้วอย่างที่บอกไปว่า
00:09:45 → 00:09:48 เอา Story หายเนี่ยเป็นสารที่มีพิษก็กด s
00:09:48 → 00:09:51 n o 10 ถึง 30 เท่าเลยนะครับมันก็จะ
00:09:51 → 00:09:54 วิ่งไปทั่วร่างกายนะคะทีนี้ไปจัดการสมอง
00:09:54 → 00:09:58 ครับทำให้เรารู้สึกปวดหัวคลื่นไส้เริ่ม
00:09:58 → 00:10:01 แบบเดินไม่ตรงจำอะไรไม่ได้นะครับเป็น
00:10:01 → 00:10:04 อาการที่เราได้ว่าแห่งเรานั่นเองครับ
00:10:04 → 00:10:07 อาการแฮงค์เหล้าเนี่ยคงเป็นการที่หลายคน
00:10:07 → 00:10:09 ไม่ชอบไม่อยากเจอนะครับเพราะมันปวดหัวมาก
00:10:09 → 00:10:12 หนูจะเปิดนะครับอย่างนี้วิทยาศาสตร์จะ
00:10:12 → 00:10:13 ช่วยทำให้เรา
00:10:13 → 00:10:17 แห้งน้อยลงได้ไหมก็บอกว่ามีอยู่นะครับก็
00:10:17 → 00:10:19 ต้องบอกว่าเรามีวิธีในการแก้แฮงค์หรือว่า
00:10:19 → 00:10:22 ทำให้แห้งน้อยลงได้ซึ่งทำได้ตั้งแต่ก่อน
00:10:22 → 00:10:25 กินเหล้าระหว่างกินเหล้าหรือว่าหลังกิน
00:10:25 → 00:10:27 เหล้านะครับมาตั้งแต่ก่อนกินเหล้าเลยนะ
00:10:27 → 00:10:31 ครับข้อแรกครับเราไม่ควรให้กินแอลกอฮอล์
00:10:31 → 00:10:34 ใดก็ตามตอนที่เราท้องว่างครับทำไมถึงเป็น
00:10:34 → 00:10:37 แบบนั้นเป็นคำแนะนำเลยนะก่อนกินเหล้าเคย
00:10:37 → 00:10:39 กินอาหารหนักๆเข้าไปก่อนเลยเพราะอาหารที่
00:10:39 → 00:10:42 เป็นไขมันเยอะๆหรือ / ที่มีคาร์โบไฮเดรต
00:10:42 → 00:10:44 เยอะนะครับถามว่าทำไมเพราะว่าแอลกอฮอล์
00:10:44 → 00:10:48 ถูกดูดซึม 2 ที่ครับคือที่กระเพาะประมาณ
00:10:48 → 00:10:52 40% และที่ลำไส้อีก 80% ครับเวลากิน
00:10:52 → 00:10:55 อาหารเข้าไปเยอะให้เต็มก็พอนะครับเฉพาะอะ
00:10:55 → 00:10:57 ที่เป็นไข่มาเนี่ยมันจะทำให้หูรูดหรือว่า
00:10:57 → 00:11:00 วาวล์ระหว่างกระเพาะกับลำไส้นะครับมันปิด
00:11:00 → 00:11:03 ตัวลงเพื่อที่จะจัดเก็บอาหารไว้ในกระเพาะ
00:11:03 → 00:11:06 เพื่อย่อยประมาณ 4-6 ชั่วโมงครับก็จะทำ
00:11:06 → 00:11:09 ให้แอลกอฮอล์ด้วยครับไม่วิ่งไปที่ลำไส้
00:11:09 → 00:11:12 เร็วเกินไปจะถูกดูดซึมแค่บริเวณกระเพาะ
00:11:12 → 00:11:14 ซึ่งดูดซึมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
00:11:14 → 00:11:17 ประมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเนี่ยก็จะมี
00:11:17 → 00:11:19 ไม่เยอะเกินนะครับไม่ได้เป็นคลื่นสึนามิ
00:11:19 → 00:11:22 ไปถล่มต่ำนะครับกราบก็ยังพอมีเวลาที่จะ
00:11:22 → 00:11:25 ค่อยๆจัดการกับแอตเติลโอ้แล้วก็การสื่อ
00:11:25 → 00:11:28 สารที่ปลอดภัยและก็ขับออกสู่ร่างกายนั่น
00:11:28 → 00:11:32 เองครับชุดที่สองนะครับคือเราควรจะกินน้ำ
00:11:32 → 00:11:34 เยอะๆครับไม่ว่าจะทั้งก่อนจะกินเหล้า
00:11:34 → 00:11:36 ระหว่างกินเหล้าหรือหลังกินเหล้าเลยครับ
00:11:36 → 00:11:39 กินน้ำเยอะก็ปวดฉี่ออกเป็นเรื่องดีนะครับ
00:11:39 → 00:11:42 ทำไมอ่ะก็เพราะว่าเวลาที่เราจะกำจัด SR
00:11:42 → 00:11:45 นอกจากร่างกายเนี่ยสุดท้าย S เราจะต้อง
00:11:45 → 00:11:47 แปลเป็นตัวที่ปลอดภัยกว่าและมันจะต้องถูก
00:11:47 → 00:11:50 ขับออกจากหน้าไปทางปัสสาวะนะครับนั้นการ
00:11:50 → 00:11:52 กินน้ำเยอะก็ช่วยเราฉี่บ่อยขึ้นเท่านั้น
00:11:52 → 00:11:55 ยังไม่พอครับถ้าเราปล่อยให้ร่างกายของเรา
00:11:55 → 00:11:57 เนี่ยมีปริมาณน้ำน้อยมากเกินไปหรือว่า
00:11:57 → 00:12:00 ดีไฮเดรตเนี่ยนะครับอวัยวะต่างๆในร่างกาย
00:12:00 → 00:12:03 เนี่ยมันจะไปดึงน้ำออกมาจากสมองของเรา
00:12:03 → 00:12:07 ครับสมองของเราในมันก็จะหดตัวเล็กลงเล็ก
00:12:07 → 00:12:10 ลงแล้วถ้าไม่รบปวดหัวหนักมากๆนั่นเองครับ
00:12:10 → 00:12:13 อยากที่ 3 นะครับถ้าไม่อยากแห้งมากจนเกิน
00:12:13 → 00:12:17 ไปนะครับเราควรจะเลือกน้ำเมาที่สีไม่เข้ม
00:12:17 → 00:12:20 มากครับเพราะว่าน้ำเอาสีเข้มๆไม่ว่าจะ
00:12:20 → 00:12:23 เป็นหนูวายแบรนด์ดีหรือว่าวิสกี้นะครับ
00:12:23 → 00:12:25 วิธีการหมักหรือวิธีการกลั่นของมาเนี่ย
00:12:25 → 00:12:29 มันไม่ได้ได้มาแค่ SR เน่าแต่มันจะได้
00:12:29 → 00:12:32 สิ่งที่เรียกว่าคอนเทนเนอร์หรือว่าสารที่
00:12:32 → 00:12:35 อื่นๆที่ปะปนมาด้วยไม่ว่าจะเป็นเม็ด kano
00:12:35 → 00:12:37 หรือว่าสารอื่นๆอีกครับจะจงแมคคาโน่นะ
00:12:37 → 00:12:40 ครับโอ้โหเป็นแอลกอฮอล์ที่กินไม่ได้ครับ
00:12:40 → 00:12:43 มันจะไปทำลายประสาทและก็สมองของเรานะครับ
00:12:43 → 00:12:47 ถ้าเกิดกินไปเยอะๆแล้วก็นอกจากตับร่างกาย
00:12:47 → 00:12:49 เราต้องกำจัด attano แล้วออกมาสู้กับกิน
00:12:49 → 00:12:52 แมคคาโน่หรือผ่อน genus เหล่านี้อีกแล้ว
00:12:52 → 00:12:55 ก็จะแห้งแล้วก็ปวดหัวแล้วกับปกติฮะเช็ค
00:12:55 → 00:12:57 ต่อมาพริกที่ 4 นะครับเราไม่ควรที่จะกิน
00:12:57 → 00:13:00 เครื่องดื่มที่มีแก๊สโดยเฉพาะเบียร์หรือ
00:13:00 → 00:13:03 ว่าพวกน้ำอัดลมโซดาอะไรนะครับก่อนที่จะ
00:13:03 → 00:13:05 กินเหล้าครับถ้าว่าทำไมเพราะว่าเครื่อง
00:13:05 → 00:13:07 ดื่มที่มีแก๊สเหล่านั้นนะครับมันจะทำให้
00:13:07 → 00:13:10 การดูดซึมของแอลกอฮอล์เนี่ยรวดเร็วมาก
00:13:10 → 00:13:12 ยิ่งขึ้นแล้วก็จะเมาได้ง่ายขึ้นครับซึ่ง
00:13:12 → 00:13:14 เป็นที่มาว่าคนถึงบอกว่าเอ๊ยอยากกิน
00:13:14 → 00:13:17 อัลกอฮอล์หลายขนานก็คืออยากกินเบียร์ก่อน
00:13:17 → 00:13:19 ให้จะกินเหล้านั่นเองเนี่ย
00:13:19 → 00:13:23 การที่สุดเวอร์ว่ากินไปแล้วปวดหัวมากเรา
00:13:23 → 00:13:26 แห้งแล้วอ่ะทำยังไงดีอยากกินยาแก้ปวดหัว
00:13:26 → 00:13:29 ได้ไหมก็บอกว่ากินได้ครับโดยยากลุ่มแก้
00:13:29 → 00:13:32 ปวดที่แนะนำให้กินคือกลุ่ม nsaids นะครับ
00:13:32 → 00:13:34 หรือว่าพวกแอสไพรินนั่นเองเพราะว่า
00:13:34 → 00:13:37 แอสไพรินนะครับเคยเล่าไปแล้วนะครับไปย้อน
00:13:37 → 00:13:40 ดูได้นะครับทุกคนและ asley เนี่ยจะยับ
00:13:40 → 00:13:42 ยั้งการสร้างพวกเพราะซักแอนรินหรือว่าที่
00:13:42 → 00:13:45 เป็นสาลี่ของกับความเจ็บปวดก็ชนกปวดน้อย
00:13:45 → 00:13:48 ลงครับถามว่าทำไมไม่แนะนำพวกพาราเซตาก็
00:13:48 → 00:13:50 เพราะว่าพาราเซตามอลเนี่ยนะครับมันไปรบ
00:13:50 → 00:13:53 กวนการทำงานของตับให้เราคิเนโตโน่หรือ
00:13:53 → 00:13:55 แอลกอฮอล์ตับก็ทำงานเหนื่อยจะแย่แล้วเรา
00:13:55 → 00:13:58 เพิ่มพาราเซตามอลเข้าไปอีกเนี่ยตัดก็ทำ
00:13:58 → 00:14:02 งานหนักเพิ่มเป็นทวีคูณนั่นเองครับเออรส
00:14:02 → 00:14:05 ตื่นเช้ามาแล้วจะกินอะไรดีช่วยแก้แฮงค์
00:14:05 → 00:14:07 ได้นะครับเช็คที่ 6 ครับแล้วควรจะกิน
00:14:07 → 00:14:10 อาหารที่ลดอาการแก้แฮงค์อย่างแรกครับคุณ
00:14:10 → 00:14:13 จะกินไข่เยอะๆนะเพราะว่าใครเนี่ยเขาจะมี
00:14:13 → 00:14:17 amino Acid ที่ชื่อว่าซิสเตอีนที่เป็น
00:14:17 → 00:14:20 สารตั้งต้นในการผลิต glutathione ครับ
00:14:20 → 00:14:22 อุ้ยคุณๆมั้ยแล้ว glutathione เนี่ยครับ
00:14:22 → 00:14:26 มันใช้ในการเปลี่ยน astori หายที่เป็นพิษ
00:14:26 → 00:14:29 ไปเป็นอะซิเตทที่ไม่เป็นพิษก็จะฉี่ออกมา
00:14:29 → 00:14:31 จากร่างกายนั่นเองครับกินไข่เยอะช่วยได้
00:14:31 → 00:14:34 ครับนอกจากนั้นนะครับก็สามารถที่จะกินพวก
00:14:34 → 00:14:37 ผลไม้ต่างๆนะครับถ้วยน้ำผลไม้รสเปรี้ยว
00:14:37 → 00:14:40 บ้างและอะไรก็ตามครับที่มีวิตามินหรือว่า
00:14:40 → 00:14:43 แร่ธาตุเยอะก็จะช่วยทำให้อวัยวะต่างๆแล้ว
00:14:43 → 00:14:46 เนี่ยกลับมาทำงานได้ปกติเร็วยิ่งขึ้นและ
00:14:46 → 00:14:49 ก็หลายคนก็บอกว่าการกินอาหารที่ที่ร้อนๆ
00:14:49 → 00:14:51 จะเป็นโจ๊กหรือข้าวต้มตอนเช้านี้ครับก็
00:14:51 → 00:14:54 ช่วยแก้แฮงค์ได้ดีเช่นกันครับหลายคนจะถาม
00:14:54 → 00:14:55 ว่าเดี๋ยวนี้มันมียาแก้แฮงค์หรือว่า
00:14:55 → 00:14:58 เครื่องดื่มที่เขาอ้างว่าสามารถจะลดอาการ
00:14:58 → 00:15:00 แห้งได้ที่เรากินหลังจากที่ดื่มเหล้านะ
00:15:00 → 00:15:03 ครับมันช่วยไหมก็ต้องบอกว่าจากการศึกษา
00:15:03 → 00:15:05 งานวิจัยนะครับยังไม่มีงานไหนนะครับออกมา
00:15:05 → 00:15:08 ยืนยันว่ายาแก้แฮงค์หรือว่าเครื่องดื่ม
00:15:08 → 00:15:10 แก้แฮงค์เหล่านั้นเนี่ยสามารถที่จะแก้
00:15:10 → 00:15:13 แฮงค์ได้โดยตรงนะครับแล้วก็มีการเอามา
00:15:13 → 00:15:15 วิเคราะห์ด้วยครับว่าไอ้พวกยาเหล่านั้น
00:15:15 → 00:15:17 เนี่ยมันผลิตมาจากอะไรเขาก็เจอว่าส่วน
00:15:17 → 00:15:19 ประกอบส่วนใหญ่นะครับของยาแก้แฮงค์เนี่ย
00:15:19 → 00:15:22 เต็มไปด้วยพวกวิตามินและก็แร่ธาตุต่างๆ
00:15:22 → 00:15:25 ครับเวลาที่เรากินเข้าไปนี่นะครับแน่นอน
00:15:25 → 00:15:28 ครับมันช่วยทำให้อวัยวะต่างๆกลับมาทำงาน
00:15:28 → 00:15:31 ได้อย่างปกติเร็วขึ้นก็เหมือนกับเป็นการ
00:15:31 → 00:15:34 ช่วยอาการแฮงค์ทางอ้อมนั่นเองครับจากที่
00:15:34 → 00:15:36 คุณจะตัดสินใจกินเหล้าหรือว่าไม่กินเหล้า
00:15:36 → 00:15:38 เนี่ยเป็นความชอบส่วนบุคคลนะครับแต่ถ้า
00:15:38 → 00:15:42 เกิดว่าใครอยากจะกินเหล้าแล้วก็อยากจะแนะ
00:15:42 → 00:15:44 นำให้หน่อยครับว่าควรจะกินอย่างมีสตินะ
00:15:44 → 00:15:47 ครับควรจะรู้ลิมิตของตัวเองเพราะว่าเรา
00:15:47 → 00:15:50 จำเป็นต้องดูผู้รับผิดชอบร่างกายของเรา
00:15:50 → 00:15:53 รวมถึงรับผิดชอบชีวิตของคนที่อยู่รอบข้าง
00:15:53 → 00:15:57 ของเราด้วยนะครับอย่าลืมนะครับเมาไม่ขับ
00:15:57 → 00:16:01 นะครับคนกับแท็กซี่นะ