00:00:00 → 00:00:02 ขอต้อนรับอาจารย์หนิงนะคะวันนี้อยู่ในสาย
00:00:02 → 00:00:05 กับเรานะคะอาจารย์บุษราภรณ์ธนศรีลังกาคะ
00:00:05 → 00:00:09 นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษจากกรม
00:00:09 → 00:00:12 การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกสวัสดี
00:00:12 → 00:00:13 ค่ะอาจารย์หนิงคะอาจารย์สวัสดีครับ
00:00:13 → 00:00:16 อาจารย์สวัสดีค่ะพี่นกสวัสดีค่ะน้องเร
00:00:16 → 00:00:18 สวัสดีครับโอเหมือนไม่ได้คุยกับอาจารย์
00:00:18 → 00:00:21 หนิงสักพักใหญ่ๆเลยนะอาจารย์เดีอ่ะเป็น
00:00:21 → 00:00:23 อีกฤดูนึงแล้วนะคะอาจารย์หนิงเราจะมาทุกๆ
00:00:23 → 00:00:26 ไตรมาสนะครับไม่เจออาจารย์หนิงครั้งก่อน
00:00:26 → 00:00:29 หน้านี้ 6 เดือนแล้วนะคะ 6 แล้วเหรอใช่
00:00:29 → 00:00:31 มั้ยคะอาจารย์
00:00:31 → 00:00:34 6 ค่ะอูนานมากไม่น่าเชื่อน่ากจะไตรมาส
00:00:34 → 00:00:37 อย่างที่มบอกต้องแบบว่าปีละ 3 ครั้งนะคะ 3
00:00:37 → 00:00:40 ฤดูกโอแต่ว่ารอบนี้รอบไปัก 6 เดือนเลยอ่ะ
00:00:40 → 00:00:42 เออยังคิดถึงอาจารย์เดวันเวลาผ่านไปอย่าง
00:00:42 → 00:00:46 รวดเร็วเลยนะคะตอนนี้เตรียมตัวเตรียมกาย
00:00:46 → 00:00:50 ใจกันรับกับอื้อหือที่สะพึงกลัวมากเลยค่ะ
00:00:50 → 00:00:52 ใช่ๆๆๆครับอาจารย์หนิงเรื่องของหน้าร้อน
00:00:52 → 00:00:56 ปีนี้เขาคาดการณ์กันว่าอาจจะร้อนไม่เท่า
00:00:56 → 00:00:59 กับปีที่แล้วแต่ว่าเรื่องของหน้าร้อนใครๆ
00:00:59 → 00:01:02 ก็ไม่อยากจะเข้าไปย่างไกลอืเข้าใกล้สัก
00:01:02 → 00:01:03 เท่าไหร่เพราะฉะนั้นเรื่องของการเตรียม
00:01:03 → 00:01:05 เนื้อเตรียมตัวนี่ถือว่ามีความจำเป็นมั้ย
00:01:05 → 00:01:07 ครับกับเรื่องของหน้าร้อนแบบนี้ครับ
00:01:07 → 00:01:12 อาจารย์ค่ะก็การเตรียมตัวเข้าสู่สภาวะ
00:01:12 → 00:01:15 อากาศร้อนนะคะก็ถือว่าจำเป็นมากๆเลยที
00:01:15 → 00:01:20 เดียวนะเพราะความสุขของเรามันกำลังจะหาย
00:01:20 → 00:01:24 ไปคือถ้าจะร้อนจริงๆเนี่ยเ้าบอกว่าช่วง
00:01:24 → 00:01:26 เดือน 4 นะคะหรือว่าต้นๆมีนาคมีนาคก็คือ
00:01:27 → 00:01:30 เดือน 4 ของไทยแล้วนะคะอืก็เดือนหน้าอใช่
00:01:30 → 00:01:33 เพราะอากาศร้อนเนี่ยในทางการแพ้แผ่นไทย
00:01:33 → 00:01:36 มันจะมีในเรื่องของดินฟ้าอากาศก็คือ
00:01:36 → 00:01:39 ฤดูกาลเนี่ยจะมีผลกับอาการเจ็บป่วยหรือ
00:01:39 → 00:01:42 ว่าทำให้ร่างกายของคนเราเนี่ยเจ็บป่วยได้
00:01:42 → 00:01:46 ซึ่งมีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์มอุฐานวินิฉัย
00:01:46 → 00:01:50 นะคะซึ่งทีเงาเขาบอกว่าในทุกคนน่ะมันจะมี
00:01:50 → 00:01:54 ธาตุเจ้าเรือนครบแหละดินน้ำลมไฟเนาะอัน
00:01:54 → 00:01:56 นี้คือาตุที่อยู่ภายในร่างกายแต่คราว
00:01:56 → 00:01:59 เนี้ยธาตุที่อยู่ภายภายนอกร่างกายเรามัน
00:01:59 → 00:02:02 ก็มีดินนน้ำลมไฟเหมือนกันซึ่งก็คือสภาพ
00:02:02 → 00:02:05 อากาศนี่แหละค่ะที่มากระทบตัวของเราอคราว
00:02:05 → 00:02:08 เนี้ยเมื่อมันมากระทบตัวเราแต่ว่ามันเป็น
00:02:08 → 00:02:11 สภาพอากาศที่มันแบบมันแปรปรวนน่ะมันร้อน
00:02:11 → 00:02:14 เกินหนาวเกินเย็นเกินอะไรเค่ะมันก็ทำให้
00:02:14 → 00:02:17 ร่างกายเราจะต้องปรับตัวซึ่งมันก็ตรงกับ
00:02:17 → 00:02:20 ในช่วงความร้อนที่มันเข้ามาแบบรวดเร็ว
00:02:20 → 00:02:23 ร่างกายเราก็ต้องปรับานี้มันปรับตัวเนี่ย
00:02:23 → 00:02:25 เราก็จะต้องเตรียมค่ะเตรียมเพื่อไม่ให้
00:02:25 → 00:02:29 เราป่วยเตรียมยังไงหน้าร้อนอากาศร้อน
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยจะเกิดความร้อนอบอ้าวซึ่งมันก็จะส่ง
00:02:32 → 00:02:35 ผลกระทบกับธาตุไฟทั้งภายในภายนอกร่างกาย
00:02:35 → 00:02:39 เรานั่นแหละนะคะมันจะทำให้ไฟกำเริบอือ
00:02:39 → 00:02:42 กำเริบในที่เนี้ยเมื่อคนที่มีอาการไฟ
00:02:42 → 00:02:44 กำเริบทั้งหลายเค่ะมันอาจจะทำให้เกิด
00:02:44 → 00:02:47 อาการเกี่ยวกับทางธาตุไฟอย่างเช่นปวด
00:02:47 → 00:02:51 ศีรษะยินเวียนศีรษะหน้ามืดตาลายนะคะแล้ว
00:02:51 → 00:02:54 เมื่อไฟกำเริบเนี่ยมันจะมีลมคือไฟกับลม
00:02:54 → 00:02:57 มันจะไปด้วยกันอมันจะกำเริบร่วมกันนะคือ
00:02:57 → 00:03:00 ช่วยกันทำงานมันก็จะทำให้มีการอนเคลีย
00:03:00 → 00:03:04 วิงเวียนหน้ามืดตาลายเหนื่อยค่ะรู้สึกหาย
00:03:04 → 00:03:07 ใจไม่อิ่มอะไรต่างๆนี่เป็นเรื่องของความ
00:03:07 → 00:03:11 ร้อนที่มากระทกนะคะพอไฟกำเริบลมกำเริบ
00:03:11 → 00:03:14 แล้วเนี่ยน้ำในร่างกายก็จะหย่อนหมายถึง
00:03:14 → 00:03:17 ว่ามันโดนไฟแต่ลมมันเผาผลาญทั้งพัดแบบ
00:03:17 → 00:03:21 สะบัดเลยนะคะน้ำก็จะแห้งออืาวนี้พอน้ำ
00:03:21 → 00:03:23 แห้งมันก็จะทำให้เหมือนกับผิวพรรณมันไม่
00:03:23 → 00:03:28 สดชื่นมันแห้งเหี่ยวบางทีอ่ะบางคนที่ภูมิ
00:03:28 → 00:03:31 ต้านทานต่ำก็อาจจะมีอาการทางแบบกลุ่มผิว
00:03:31 → 00:03:35 หนังนะคะมีการฝื่นคันเป็นตุ่มอืเเรียกมัน
00:03:35 → 00:03:38 ไฟมันร่วมกับลมกับน้ำมากระทำโทษอย่าง
00:03:38 → 00:03:42 เงี้ยค่ะคราวเนี้ยเราจะต้องรู้เท่าทัน
00:03:42 → 00:03:44 เตรียมการรับมือกับอาการเจ็บป่วยซึ่งเรา
00:03:45 → 00:03:47 คาดการณ์ไว้ว่ามันมักจะเกิดขึ้นได้ง่าย
00:03:47 → 00:03:50 แหละเราก็ต้องมาเตรียมแนวทางแก้ไขเตรียม
00:03:50 → 00:03:52 ยังไงก็ในเรื่องของการรับประทานอาหารนี่
00:03:52 → 00:03:56 แหละค่ะง่ายที่สุดเลยครับต้องจำเป็นต้อง
00:03:56 → 00:04:00 ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่อาจจะทานหมูกรอบมัน
00:04:00 → 00:04:03 ๆน้ำน้ำชงนะหน้าร้อนก็น้ำชงด้วยนะตามใจ
00:04:03 → 00:04:07 ปากกันมากหวานมันอรดอร่อยควรจะทำยังไงดี
00:04:07 → 00:04:11 คะอาจารย์หนิงคะค่ะเราจะต้องรับประทาน
00:04:11 → 00:04:16 อาหารเครื่องดื่มผักผลไม้ผักพื้นบ้านทุก
00:04:16 → 00:04:19 สิ่งอย่างที่จะเอาเข้าไปสู่ร่างกายของเรา
00:04:19 → 00:04:25 น่ะค่ะให้มันมีรถที่ออกไปในทางอจืดเย็น
00:04:25 → 00:04:28 จืดเย็นให้มีรสจืดเย็นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
00:04:28 → 00:04:31 ก็อย่าลืมว่าเราจะต้องทานครบ 5 หมู่นั่น
00:04:31 → 00:04:35 แหละแต่เราไปเน้นผักผลไม้อาหารเมนูอาหาร
00:04:35 → 00:04:38 ที่มันมีฤทธิ์เย็นคือในทางการไพยแผ่นไทย
00:04:38 → 00:04:41 เนี่ยเขาเเรียกรสยาที่มีรสเีดเย็นว่าเป็น
00:04:41 → 00:04:44 ฤทธิ์หมายถึงออกฤทธิ์ให้ความเย็นครับการ
00:04:44 → 00:04:46 ออกฤทธิ์เย็นเนี่ยมันจะช่วยลดความร้อนที่
00:04:47 → 00:04:50 อยู่ภายในร่างกายของเรารวมถึงอ่าช่วย
00:04:50 → 00:04:53 บรรเทาอาการจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่มี
00:04:53 → 00:04:56 ความร้อนที่มากระทบกับร่างกายของเรานะคะ
00:04:56 → 00:05:00 ซึ่งก็อาจารย์ก็จะแนะนำเป็นพวกสมุนไพรนะ
00:05:00 → 00:05:03 คะที่มันมีรสเจียดเย็นแล้วก็สมุนไพรต่างๆ
00:05:03 → 00:05:07 เหล่าเนี้ยเราก็จะไปปรุงแต่งเป็นอาหารได้
00:05:07 → 00:05:13 เลยเนาะอย่างเช่นอาจจะเป็นพวกอ่าแตงกวานะ
00:05:13 → 00:05:16 คะหรือจะเป็นบวบหรือจะเป็นฟักอันนี้คือ
00:05:16 → 00:05:21 คือจำพวกผักนะคะเป็นผักบุ้งเป็นตำลึงเป็น
00:05:21 → 00:05:25 ผักกัดขาวคือผักที่มันแบบพวกบวบพวกมัน
00:05:25 → 00:05:30 สียดๆเย็นๆซักมะระอะไรนี่ได้หมดเลยนะคะขม
00:05:30 → 00:05:32 นิดๆก็ได้เพราะขมมันจะแกกให้นะคะคราว
00:05:33 → 00:05:36 เนี้ยถ้าเป็นพวกผลไม้นี่ก็แตงโมมาเลยมคะ
00:05:36 → 00:05:39 แตงโมมาเลยค่ะแตงโมได้นะคะแตโมนี่เป็น
00:05:39 → 00:05:42 ช่วยเย็นได้แคลอรี่ต่ำด้วยกินแล้วไม่อ้วน
00:05:42 → 00:05:45 กินแล้วสดชื่นนะคะแตงโม
00:05:45 → 00:05:51 ชมพูสาลี่อ่าสาลลกำอะไรพวกนี้ได้หมดนะคะ
00:05:51 → 00:05:56 แคตมีรอื่นๆแคนตะลุกช่วงนี้นะคะอืก็มี
00:05:56 → 00:05:59 เยอะอยู่นะผลไม้บ้านเราเนาะที่ออกเย็นๆ
00:05:59 → 00:06:02 ได้หมดเลยมะม่วงนี่ไม่น่าจะมันออกจะหวาน
00:06:02 → 00:06:05 จัดหน่อยมันออกหน้าร้อนมะม่วงไม่หวานค่ะ
00:06:05 → 00:06:08 ออกหวานคืออากาศร้อนมันเราจะต้องหลีก
00:06:09 → 00:06:13 เลี่ยงอาหารที่มันมีรสัหวานมันรอ๋อโหวาน
00:06:13 → 00:06:16 มันนี่นี่ไม่โอเคเลยนะคะเรียกว่าเป็น
00:06:16 → 00:06:20 อาหารในสภาวะอากาศที่ร้อนๆคราวเนี้ถ้าจะ
00:06:20 → 00:06:24 กินเป็นแบบเมนูอาหารก็จะต้องเป็นเป็นเมนู
00:06:24 → 00:06:28 อาหารที่ไม่เผ็ดร้อนมากเกินไปนะคะไม่มัน
00:06:28 → 00:06:32 ไม่หวานจัดอืคือเน้นให้มันออกรถจืดๆหน่อย
00:06:32 → 00:06:36 อย่างเช่นพวกสารพัดแกงจืดอืนะคะแล้วก็ไอ้
00:06:36 → 00:06:40 ผักพื้นบ้านที่มันมีรสเย็นอย่างพวกมะระ
00:06:40 → 00:06:43 สะเดาครับพวกเนี้ยค่ะเอาไปปรุงแต่งได้เลย
00:06:43 → 00:06:46 ถ้าจะทำแกงเรียงก็ได้แต่ว่าเครื่องเทศ
00:06:46 → 00:06:50 เนี่ยมันจะต้องอ่อนลงซอฟลงเนาลยไทต้องลด
00:06:50 → 00:06:53 ลงหน่อยอาจจะไปเพิ่มพวกใบตำลึงแมงรักบวบ
00:06:53 → 00:06:56 น้ำเต้าเห็ดต่างๆสารพัดเห็ดใส่เข้าไปเลย
00:06:56 → 00:07:00 นะคะพวกแกงจืดนี่ได้หมดเลยแกฟักเขียว
00:07:00 → 00:07:05 ตำลึงมะระแกงขี้เล็กขี้เล็กบอกขี้เหล็ก
00:07:05 → 00:07:07 เป็นขี้เห็กอ๋อขี้เห็กขี้เหล็กเพราะว่า
00:07:07 → 00:07:10 ขี้เหล็กมีมีสรรพคุณเรื่องเย็นใช่มั้ยคะ
00:07:10 → 00:07:13 อาจารย์ขี้เหล็กนี่ขมเย็นค่ะขี้เหล็ก
00:07:13 → 00:07:17 เนี่ยถือว่าเป็นเป็นเมนูอาหารที่บำรุง
00:07:17 → 00:07:22 ธาตุอืคือมันคบกับอ่าบในเรื่องของสูตรยา
00:07:22 → 00:07:25 ไทยเลยเพราะแกงขี้เหล็กมันจะมีความขมความ
00:07:25 → 00:07:28 ขมเนี่ยมันจะช่วยให้เจริญอาหารเราจะกิน
00:07:28 → 00:07:30 ข้าวได้เยอะเนาะบางบางคนอาจจะไม่ชอบแหละ
00:07:30 → 00:07:33 แต่ว่าถ้ากินอาหารที่แบบอ่ากินได้สม่ำ
00:07:33 → 00:07:36 เสมอร่างกายของเราก็จะบริบูรณ์ดีนะคะคราว
00:07:36 → 00:07:39 เนี้ในขี้เหล็กเนี่ยมันจะมีสารที่ช่วย
00:07:39 → 00:07:41 เค้าเรียกว่าช่วยผ่อนคลายช่วยทำให้นอน
00:07:41 → 00:07:45 หลับก็จะทำนอนหลับแบบหลับลึกเลยค่ะพอเช้า
00:07:45 → 00:07:48 มาในขี้เหล็กเนี่ยยอดขี้เหล็กดอกขี้เหล็ก
00:07:48 → 00:07:50 ที่เราแกงเข้าไปเนี่ยมันจะมีไฟเบอร์สูง
00:07:50 → 00:07:53 มากแล้วมันค่อยระบายเพราะฉะนั้นแกงขี้
00:07:53 → 00:07:55 เหล็กหม้อเดียวมันจะทำให้กินท่อได้นอน
00:07:55 → 00:07:58 หลับขับถ่ายสะดวกออแต่ก็ไม่ควรมากเกินไป
00:07:59 → 00:08:02 บางคนก็จู๊ดๆเหมือนกันนะคะอาจารย์หนิงทัน
00:08:02 → 00:08:05 มากไม่ได้อธาตุหนักธาตุเบาไม่เหมือนกัน
00:08:05 → 00:08:08 เนาะบางคนธาตธาตุเข้าหนักั้นก็โอเคบางคน
00:08:08 → 00:08:11 ธาตุเบากจุ๊ดๆง่ายก็คือกินให้หลากหลายละ
00:08:11 → 00:08:15 ค่ะกินกินหลายๆเมนูหลายๆอย่างแต่ว่าให้
00:08:15 → 00:08:17 ให้เน้นแบบว่าไม่เผ็ดร้อนมากเกินไปเพราะ
00:08:17 → 00:08:20 ว่าสภาพอากาศร้อนๆน่ะเจอกับรสเผ็ดร้อน
00:08:20 → 00:08:23 เนี่ยมันจะทำให้ร่างกายเราเนี่ยได้รับาต
00:08:23 → 00:08:26 ซอยกำเริบมากอซึ่งก็จะเกิดอาการต่างๆมน
00:08:26 → 00:08:29 ที่หนิมได้บอกมาค่ะแล้วก็นดื่มเนี่ยค่ะ
00:08:29 → 00:08:31 เลือกดิ่นได้เลยนะคะอย่างเช่นน้ำตีผลา
00:08:31 → 00:08:36 เนี่ยเป็นสมุนไพรประจำฤดูร้อนตีผอันตรงตา
00:08:37 → 00:08:41 หืจะออกรขมๆหน่อยนะคะอ่าสมอวิเทศสมอไทย
00:08:41 → 00:08:44 เนี่ยค่ะเป็นยาปรับธาตในหน้าร้อนช่วยปรับ
00:08:44 → 00:08:47 สมดุลของร่างกายในฤดูร้อนคำว่าปรับสมดุล
00:08:47 → 00:08:50 เนี่ยมันจะช่วยให้ธาตในร่างกายดินน้ำลมไฟ
00:08:50 → 00:08:55 อ่ะค่ะมันทำงานประสานกันทำงานกันไปด้วยดี
00:08:55 → 00:08:57 หมายถึงว่าช่วยกันทำงานได้สม่ำเสมอแล้ว
00:08:57 → 00:08:59 ร่างกายของเรามันก็จะอยู่ในภาวะที่
00:08:59 → 00:09:02 บาลานซ์สมดุลก็จะไม่ค่อยป่วยนะคะหรือว่า
00:09:03 → 00:09:05 จะเป็นพวกน้ำหย่านางถ้าเกิดว่าเจอความ
00:09:05 → 00:09:08 ร้อนมากๆเอาเราอาจจะปั่นน้ำย้านางกิ่นก็
00:09:08 → 00:09:11 ได้นะคะน้ำยนางย่านางนี้มีฤทธิ์ที่เย็น
00:09:11 → 00:09:14 มากทานแล้วมันรสยังไงคะย่านางมันหอมๆเหรอ
00:09:14 → 00:09:19 คะน้ำย่าหนังเขียวๆอืไม่ค่อหอมนะคะพี่นุก
00:09:19 → 00:09:21 มันคือถ้าคนกินยากเี่มันมันจะออกหนิเขียว
00:09:21 → 00:09:24 นิดนึงนะหนิงว่าหนก็กินยากถ้าเรากินไม่
00:09:24 → 00:09:27 ได้เราไปกินน้ำบัวบกค่ะอเราไปกินน้ำบัวบก
00:09:27 → 00:09:31 เออถึงว่าพอนึกถึงความเขียวอ้ีูบกจะชื่น
00:09:31 → 00:09:34 ใจมากเลยค่ะใช่ค่ะหรือว่าจะเป็นพวกน้ำดอก
00:09:34 → 00:09:38 ไม้ค่ะน้ำพวกดอกมะลิน้ำเกียสทั้ง 5 ก็ได้
00:09:38 → 00:09:40 มลี้พิกุลบุญนาคสารพีบัวหลวงซึ่งตอนนี้
00:09:41 → 00:09:44 มันมีจำหน่ายแบบในร้านขายยาในอ่าคลินิก
00:09:44 → 00:09:47 การแพทยแผ่นทายอะไรน้ำดอกไม้เยอะค่ะอื
00:09:47 → 00:09:51 เป็นซองๆใช่มั้ยคะชงแบบชาค่ะเป็นชานี่
00:09:51 → 00:09:53 แหละชงดื่มแต่ว่าถ้าอากาศร้อนๆแบบเนี้ย
00:09:53 → 00:09:56 เราอาจจะทำเป็นเย็นก็ได้นะคะอาจจะเติมแบบ
00:09:56 → 00:10:00 อ่าน้ำตาลกรวดนะคะเป็นสักนิดนึงหรือเป็น
00:10:00 → 00:10:02 น้ำผึ้งก็ได้สักหน่อยนึงไม่ไม่ต้องเน้น
00:10:02 → 00:10:05 ความหวานคำว่านของอาจารย์หนิงมันต้องนิด
00:10:05 → 00:10:09 เดียวมากๆเลยเหวานเลยนะคือ้าถ้าคนกินได้
00:10:09 → 00:10:12 แบบว่าไม่ใส่น้ำตาอะไหนูแนะนำว่าเอาเพียว
00:10:12 → 00:10:15 ๆเลยค่ะมันจะได้ประโยชน์อย่าเต็มที่เพราะ
00:10:15 → 00:10:18 ว่าในในฤทธิ์ของยามันมีความเย็นอยู่แล้วะ
00:10:18 → 00:10:21 พอเรากินเข้าไปเราก็จะรู้สึกบำรุงหัว
00:10:21 → 00:10:24 ใจถ้ามีความหอมก็ช่วยบำรุงหัวใจรุงจิตให้
00:10:24 → 00:10:27 ชุ่มชื่นอย่างพวกใบเตยพวกเกสรดอกไม้เนี่ย
00:10:27 → 00:10:30 ค่ะพูดถึงน้ำแล้วสดช่นนึกถึงตอนสมัยตอน
00:10:30 → 00:10:33 พี่นกเด็กนะหลายหลายสิบปีมาแล้วนะไม่รู้
00:10:33 → 00:10:36 ว่าอาจารย์หนิงหรือน้องดีมอ่ะยังไารรู้
00:10:36 → 00:10:38 จักน้ำยาอุทัยมั้ยคะอาจารย์หนิอ๋ออุทัย
00:10:38 → 00:10:44 ใส่น้ำใส่ขันใส่น้ำแข็งน้ำืใจสมัยก่อน
00:10:44 → 00:10:46 เป็นเรื่องเป็นราวนะคะค่ะพี่นกน้ำยาวไทย
00:10:46 → 00:10:50 ทำมาจากแก่นฝางเเรียกว่าเป็นวางเสริงวาง
00:10:50 → 00:10:53 เสริงมันจะมีสรรพคุณบำรุงเลือดบำรุงร่าง
00:10:53 → 00:10:55 กายอืสมัยก่อนทำไมเราชอบกันจังเลยนะคะ
00:10:55 → 00:10:57 เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วไม่ค่อยเห็นเดี๋ยวนี้
00:10:57 → 00:11:01 มีมาแต่น้อยเนาก็จะกินเป็นพวกน้ำเฮลซึ่ง
00:11:01 → 00:11:03 มันแบบมันหวานมากอย่างเงี้ยค่ะซึ่งน้ำตาล
00:11:03 → 00:11:06 เยอะเลยใครที่กินเป็นประจำก็จะต้องระวัง
00:11:06 → 00:11:07 เหมือนกันกลิ่นเหมือนกันแต่ยังมีขายใช่
00:11:07 → 00:11:10 มั้ยคะอาจารยหนิได้ร้านขายยาเนาะเออไปหา
00:11:10 → 00:11:13 มาทานบ้างดีกมีขายแล้วก็พยายามที่จะเขาจะ
00:11:13 → 00:11:15 ปรับแพ็คเกจให้มันดูทันสมัยขึ้นอะไรอย่าง
00:11:15 → 00:11:18 เงี้ยน้ำยาอุทยมันมีมันมีขายเราสามารถ
00:11:18 → 00:11:20 ซื้อมาหยดใส่น้ำดื่มได้แต่มันมีช่วงนึง
00:11:20 → 00:11:24 ที่สาวๆเอามาทาปากอ่ะอ๋อใช่ทาปากทาแก้ม
00:11:24 → 00:11:28 ครับอาจารแงทาแก้มแบบใช่เออเห็นมมี
00:11:28 → 00:11:31 ประโยชน์มีประโยชน์หลากหลายเด็กสมัยนี้
00:11:31 → 00:11:35 อาจจะไม่ทันูลำลึกพอรู้มว่าพทาปากมันก็จะ
00:11:35 → 00:11:38 แบบมีสดชื่นในหน้าร้อนนี้ได้ด้วยนะมาไว
00:11:38 → 00:11:41 กันแล้วนะคะเรารำลึกคววามกำหลังเดีวเรา
00:11:41 → 00:11:43 วัยเดียวกันครับอาจารยเรารวมกันนี่หลาย
00:11:43 → 00:11:47 ร้อยเอ่อเกินรโอเกินร้อยเกินร้อยอาจารย์
00:11:47 → 00:11:50 หนิงพูดถึงพืชผักที่เมื่อกี้บอกเอ่อขม
00:11:50 → 00:11:53 เย็นมานะคะบวบฟักอะไรก็แล้วแต่มันมีผัก
00:11:53 → 00:11:56 ชนิดนึงที่มันออกฤิร้อนแรงแล้วเราก็จะ
00:11:56 → 00:12:00 เป็นเมนูประจำกะเพรานี่เราอ๋ออาหารอาหาร
00:12:00 → 00:12:04 ประจำตัวของคนไทยร้อนใช่เราก็ต้องลดเมนู
00:12:04 → 00:12:06 นี้ลงในหน้านี้มคะหน้าร้อนนี้หรือว่าก็
00:12:06 → 00:12:10 ทานได้มันเป็นมันเป็นเ้าเรียกว่าเมนูสิ้น
00:12:10 → 00:12:12 คิดของเราเเมนูสิ้นคิดเราไปไหนเราคิดไม่
00:12:13 → 00:12:15 ออกทุกวันนี้ก็กินใช่ๆเป็นครับเป็นอาทิ
00:12:15 → 00:12:18 ว่ามันต้องมีครับอย่างน้อยสักมื้อ 2 มื้อ
00:12:18 → 00:12:21 ต้องมีครับอาจารย์อย่างเงี้ยค่ะคืออากาศ
00:12:21 → 00:12:25 มันร้อนเราก็อาจจะลดลดเผ็ดร้อนลงหน่อยค่ะ
00:12:25 → 00:12:27 บอกพ่อค้าแม่ค้าหรือถ้าเราทำเองอะไรก็ตาม
00:12:27 → 00:12:31 แต่ลดพลิกลงหน่อยค่ะเอาเอาจากกะเพราอย่าง
00:12:31 → 00:12:34 เดียวก็ไม่เป็นไรหรอกรเผ็ดลงแล้วก็อาจจะ
00:12:34 → 00:12:36 กินเป็นน้ำที่มันมีลิกเย็นค่ะพี่นกเอาไป
00:12:36 → 00:12:40 เคยตัดิกันกินเป็นน้ำเก๊กฮวยกินเป็นน้ำ
00:12:40 → 00:12:44 อ่าบัวบกน้ำแปงโมน้ำผลไม้ที่มันมีริบเียน
00:12:44 → 00:12:47 หน่อยมันก็จะช่วยตัดความร้อนตรงนั้นได้
00:12:47 → 00:12:49 เหมือนกันได้ความอร่อยแล้วก็ไม่ไม่ได้เก
00:12:49 → 00:12:52 คิดกับร่างกายเท่าไหร่อืเพราะปกติเให้เรา
00:12:52 → 00:12:56 น้อยอยู่แล้วทาตามร้านเราอยากได้หลายๆใบ
00:12:56 → 00:12:59 แพงหมายถึงรสชาติไงรสชาติที่เกระทบอะไร
00:12:59 → 00:13:01 มากค่ะเรื่องของอาหารเนี่ยเพราะว่าไอตัว
00:13:01 → 00:13:04 อาหารเรามีความหลากหลายของรสชาติอยู่แล้ว
00:13:04 → 00:13:09 ในตำรับทได้ทอือาจารย์ครับเรื่องของบรรดา
00:13:09 → 00:13:13 เจ้าทาสประจำตัวของเราเนี่ยที่จะได้รับผล
00:13:13 → 00:13:15 กระทบมากที่สุดในช่วงหน้าร้อนนี่ก็คือ
00:13:15 → 00:13:17 ต้องเป็นธาตุไฟอย่างี้แหละครับอาจารย์
00:13:17 → 00:13:19 หรือว่ามันเกี่ยวมั้ยเออเกี่ยวมั้ยครับ
00:13:19 → 00:13:22 อาจารย์อืเกี่ยวมากเลยทีเดียวค่ะเกี่ยว
00:13:22 → 00:13:25 มากเลยเราก็ต้องทุกคนเนี่ยก็จะมีธาตุเจ้า
00:13:25 → 00:13:27 เรือนที่เป็นธาตุเด่นในร่างกายที่เเรียก
00:13:27 → 00:13:31 ว่าธาตุกำหนาจเรนเนาบางคนเป็นดินบางคน
00:13:31 → 00:13:34 เป็นน้ำบางคนเป็นลมบางคนเป็นไฟคนที่เป็น
00:13:34 → 00:13:36 ไฟเนี่ยค่ะหรือว่าคนที่เกิดเดือน 2 เดือน
00:13:36 → 00:13:39 3 เดือน 4 เเรียกว่าเดือนมกราคม
00:13:39 → 00:13:43 กุมภาพันธมีนาคช่วงเดือนเค่ะชวงรใน 3 3
00:13:43 → 00:13:47 เดือนเนี้ยก็จะได้รับผลกระทบจากอากาศจาก
00:13:47 → 00:13:50 สิ่งแวดล้อมได้มากกว่าธาตุอื่นๆหมายถึง
00:13:50 → 00:13:53 ว่ามีความบอบบางมากกว่าทั้ง 3
00:13:53 → 00:13:56 ธาตุจะกำเนิได้ง่ายบอบบางแล้วก็อ่อนไหว
00:13:56 → 00:13:59 กับเรื่องของสภาพอากาศได้มากกว่าใชค่ะ
00:13:59 → 00:14:02 เจ้าธาตุเรือนอื่นเห็นเลยอ่ะคนใกล้ตัว
00:14:02 → 00:14:04 เป็นเหงือกอักเสบเป็นเค้าเรียกว่าอะไรนะ
00:14:04 → 00:14:07 ร้อนในขึ้นมาแล้วไปทั้งนั้นเลยค่ะอาการ
00:14:07 → 00:14:09 ร้อนนาย
00:14:09 → 00:14:12 อาการเป็นหนองเป็นเป็นเรียกว่าเป็นไฟหมด
00:14:12 → 00:14:15 เลยค่ะเรียกว่าเกิดจากปิตะสฐานเกิดใช่
00:14:15 → 00:14:18 เดือนนี้เลยอ่ะค่ะอาจารย์อ๋อเออเกิดช่วง 3
00:14:18 → 00:14:20 เดือนต้นนี้เลยมกราคมกุมภาคือจริงๆอ่ะ
00:14:20 → 00:14:23 บ้านเราเนาะถ้าเราจะนับตามเป็นเป็นเลข 1
00:14:23 → 00:14:25 2 3 4 5 6 7 อ่ะบางทีมันก็ไม่ตรง
00:14:25 → 00:14:29 มากออเวลาที่เราดูแลรักษาคนไข้ดูตามสภาพ
00:14:29 → 00:14:32 อากาศจริงเลยค่ะบางทีเดือนเนี้ยมันเป็น
00:14:32 → 00:14:35 แค่เดือน 1 เดือน 2 แต่อากาศมันร้อนผิด
00:14:35 → 00:14:38 ปกติเนื่องจากเป็นอะไรเอลนีโย่เป็นอะไร
00:14:38 → 00:14:41 ต่างๆมาเนี่ยค่ะมันก็คือเป็นบรรยากาศที่
00:14:41 → 00:14:44 มีความร้อนพอมีความร้อนมันก็คือสิ่งที่มา
00:14:44 → 00:14:46 กระทำโทษน่ะมันก็เป็นเรื่องของปิดตะก็
00:14:46 → 00:14:48 เป็นเรื่องความร้อนเราก็เอาเอาตรงนี้มา
00:14:48 → 00:14:51 วินิจฉัยส่วนนึงในการดูแลรักษาคนไข้ได้อ
00:14:51 → 00:14:54 อาจจะไม่มองว่าอ๋อช่วงนี้ฤดูหนาวแต่อากาศ
00:14:54 → 00:14:56 มันร้อนน่ะเราก็ไปรักษาแบบฤดูหนาวอย่าง
00:14:56 → 00:14:59 งี้ก็อาจจะไม่ตรงเท่าไหร่อดูสภาพททำ
00:14:59 → 00:15:01 บรรยากาศเต็มด้วยอือย่างงี้คนที่เกิดธาต
00:15:01 → 00:15:04 ที่ตรงกันข้ามกับช่วงนี้เาก็จะได้เปรียบ
00:15:04 → 00:15:09 มั้ยคะเช่นในเปียบอยู่คนท่าน้ำนท่าน้ำ
00:15:09 → 00:15:12 เนี่ยเก็จะเป็นคนที่แบบมีน้ำในร่างกาย
00:15:12 → 00:15:15 เยอะอความร้อนมากระทบเเคก็อาจจะร้อนไม่
00:15:15 → 00:15:18 เท่าคนธาตไฟหรือว่าคนธาดลมไฟกับลมจะกระทบ
00:15:18 → 00:15:21 เยอะโดยเฉพาะไฟเพราะมันร้อนแต่น้ำกับดิน
00:15:21 → 00:15:23 เี่เขาจะนิ่งๆหน่อยน้ำนี่จะได้เปรียบที่
00:15:23 → 00:15:26 สุดในส่วนฤดูร้อนอืครับแล้วลมล่ะครับ
00:15:27 → 00:15:29 อาจารย์ครับลมนี่เป็นยังไงบ้างจะคล้ายกัน
00:15:29 → 00:15:33 ค่ะน้องดีคือลมกับไฟมันมักจะทำงานร่วมกัน
00:15:33 → 00:15:36 ดินกับน้ำมันมักจะทำงานร่วมกันถ้าไฟกิบลม
00:15:36 → 00:15:39 มักจะกำเริบตามอย่างเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้น
00:15:39 → 00:15:42 เมื่อไฟได้รับผลกระทบกำเริบเกิดความร้อน
00:15:42 → 00:15:45 เกิดอาการร้อนในเกิดเป็นผื่นเป็นตุ่มเป็น
00:15:45 → 00:15:48 พันเป็นไข้เป็นเหนื่อยอ่อนเสน้ำมืตลาย
00:15:48 → 00:15:51 วนเวียนนนี่คือลมมาละลมมาสมทบไฟทำงาน
00:15:51 → 00:15:53 เมื่อไหร่ลมมาสมทบเมื่อนั้นค่ะเหมือนภาวะ
00:15:53 → 00:15:55 อารมณ์เหมือนกันเวลาที่เราอารมณ์ร้อนน่ะ
00:15:55 → 00:15:57 มันไม่ใช่แค่ไฟอย่างเดียวนะมันเป็นลมมัน
00:15:57 → 00:16:01 ด้วยกันเลยออารมณ์หงุดหงิดุนเขียวที่โมห
00:16:01 → 00:16:04 ข้อย่างเงี้ยอันนี้รู้สึกเลยนะเคยรู้สึก
00:16:04 → 00:16:06 เลยว่าเวลาโมโหหรืออะไรเนี่ยมันจะวุ้งๆ
00:16:06 → 00:16:09 อย่างที่เขาบอกกันเลยอ่ะขึ้นง่ายลมใช่ค่ะ
00:16:09 → 00:16:12 ถ้าลมอย่างเดียวมันก็อาจมาเร็วค่ะมันพัด
00:16:12 → 00:16:15 มาวูบวาบๆวแต่ถ้าลมปนไฟด้วยเี่คือแรง
00:16:15 → 00:16:19 ริษยาอาฆาตหมายถึงว่ามีความร้อนแรงแห่งไฟ
00:16:19 → 00:16:22 เข้ามาด้วยมีมีความดุร้ายอย่างเงี้ทีนี้
00:16:22 → 00:16:24 มันมาถึงเรื่องของการที่เราต้องปรับละ
00:16:24 → 00:16:28 เพราะถ้าเราเจอทั้งเอ่อรอบรอบข้างอากาศ
00:16:28 → 00:16:32 มันรนะคะกระพือด้วยข้างในเราเกิดอยู่ใน
00:16:32 → 00:16:35 ธาตุลมธาตุไฟอย่างงนี้ด้วยเนี่ยเราก็ต้อง
00:16:35 → 00:16:38 เอาน้ำลงนะคะอาจารย์หนิงเราการอาบการเอา
00:16:38 → 00:16:41 น้ำล้างหน้าลูบตามตัวตามอะไรหรือว่าอาบ
00:16:41 → 00:16:44 น้ำช่วงกลางวันถ้ามีโอกาสได้ด้วยควรทำมคะ
00:16:44 → 00:16:48 น้ำเข้ารูปเลยฮะน้ำเข้าูคือคืออันนี้เขา
00:16:48 → 00:16:52 เรียกว่าเป็นการช่วยปรับสมดุลให้กับร่าง
00:16:52 → 00:16:55 กายคือปรับพฤติกรรมของเราเองนอกจากการ
00:16:55 → 00:16:58 หลีกเลี่ยงแสงแดดแดดจะัดเข้าร่มอยู่ในที่
00:16:58 → 00:17:02 ที่อากาศสงเนาะใส่เสื้อผ้าที่มันระบาย
00:17:02 → 00:17:06 อากาศอาบน้ำบ่อยๆหรือว่าจะใช้อ่าน้ำเย็น
00:17:06 → 00:17:11 ผ้าเย็นทุ่มน้ำมาปๆๆๆร่างกายให้เรารู้สึก
00:17:11 → 00:17:13 เย็นนะคะถ้าได้ออกแดบจริงๆก็ใส่หมวกใส่
00:17:13 → 00:17:16 อะไรที่ใบใหญ่ๆหน่อยแล้วก็เรื่องสำคัญก็
00:17:16 → 00:17:19 คือการดื่มน้ำฤดูเนี้ยจะต้องไม่ขาดน้ำเลย
00:17:19 → 00:17:22 ค่ะดื่มน้ำให้เพียงพอนะคะแล้วถ้าเกิด
00:17:22 → 00:17:27 อย่างคนที่อยู่ในห้องแอร์เข้าแอร์แล้วออก
00:17:27 → 00:17:30 มาร้อนร้อนแล้วไปแอร์
00:17:30 → 00:17:35 ใช่้อูมหอูมิปกนะคะอืแต่ไม่ดื่มน้ำที่มัน
00:17:35 → 00:17:39 เย็นจัดหรือว่าดื่มน้ำอุ่นตลอดนี่ก็จะไม่
00:17:39 → 00:17:43 โอเคเท่าไหร่สำหรับคนที่เข้าๆออกๆแอร์อ๋อ
00:17:43 → 00:17:45 เย็นร้อนเย็นร้อนอย่าให้กินน้ำอุณหภูมิ
00:17:45 → 00:17:47 ห้องเพื่อว่ามันจะร่างกายของเราจะปรับ
00:17:47 → 00:17:50 อุณหภูมิในร่างกายให้มันเป็นอยู่ในภาวะ
00:17:50 → 00:17:55 ที่สมดุลภาวะที่ปกติก็จะจะไม่ป่ยง่ายหน้า
00:17:55 → 00:17:57 หนาวที่ผ่านมาเนี่ยเราก็บอกว่าอากาศแห้ง
00:17:57 → 00:17:59 เราก็ดื่มน้ำมันเติมเข้าไปแล้วนะคะ
00:17:59 → 00:18:01 อาจารย์หนิงพอหน้าร้อนเนี่ยน้ำออกจไปเสีย
00:18:01 → 00:18:05 เหงื่ออีกน้ำนี่สำคัญที่สุดแทบจะทุกภาวะ
00:18:05 → 00:18:07 อาการค่ะเพราะเพะ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์นใน
00:18:07 → 00:18:10 ร่างกายเราคือน้ำเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะ
00:18:10 → 00:18:13 ขาดไม่ได้เหมือนชีวิตเราเี่ค่ะ 3 วันเรา
00:18:13 → 00:18:15 ขาดน้ำเราอาจจะเดดสมเก็ได้สำหรับคนไม่
00:18:15 → 00:18:17 แข็งแรงไม่เหมือนข้าวเราไม่กินข้าว 3
00:18:18 → 00:18:20 เดือนเราก็อยู่ได้อะไรเค่ะเพราะฉะนั้นน้ำ
00:18:20 → 00:18:23 นี่คือเรียกว่าเป็นเป็นาตที่มีความสำคัญ
00:18:23 → 00:18:27 กับร่างกายของเรามากแต่น้ำอุณหภูมิห้องก็
00:18:27 → 00:18:30 จะเหมาะสมที่สุดน้ำอุ่นก็ก็ก็ได้แต่ไม่
00:18:30 → 00:18:33 ควรจะเย็นจัดเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปน้ำแข็ง
00:18:33 → 00:18:36 กินน้ำแขจน้ำเย็นนี่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์
00:18:36 → 00:18:40 กับร่างกายนะคะอืแต่เราก็ชอบกินกันมากคือ
00:18:40 → 00:18:43 มันให้ความสดชื่นในทันทีทันใดแต่ว่าถ้า
00:18:43 → 00:18:45 เรากินความเย็นสะสมไปเรื่อยๆนานๆเนี่ยมัน
00:18:45 → 00:18:48 จะทำให้ระบบไรเวียนในร่างกายของเรานมัน
00:18:48 → 00:18:51 มันโฟวไม่ค่อยดีมันวิ่งไม่ค่อยดีโอ้เออ
00:18:51 → 00:18:55 นึกออกลก็คือมันจะไปกระทบแบบว่าเลือดลม
00:18:55 → 00:18:58 ที่มันจะอาจจะหนืดๆมั้ยคะเกี่ยวมั้ยคะออ
00:18:58 → 00:19:02 ใช่ค่ะมันก็จะไปส่งผลกับกลุ่มอาการเจ็บ
00:19:02 → 00:19:05 ป่วยต่างๆหลายๆอย่างจากอาหารที่ไปรวมกับ
00:19:05 → 00:19:08 ระบบเหลเวียนที่ไม่ดีหรือกินเยอะๆเกิดการ
00:19:09 → 00:19:12 อ่าอุดตันของไขมันกินหวานกินมันเข้าไป
00:19:12 → 00:19:15 เนี่ยค่ะเกิดไขมันสะสมเกิดเป็นโรคอ้วน
00:19:15 → 00:19:19 อะไรต่างๆนานาอื้อหือมันจะรวมกันหมดเลยอื
00:19:19 → 00:19:24 หวานมันก็ลดนะคะอืมันก็จะไปส่งผลให้มัน
00:19:24 → 00:19:28 ความมันเนี่ยก็จะกระพือเรื่องของความร้อน
00:19:28 → 00:19:31 ข้างในร่างกายของเราอาจารย์ครับมีค่ะอๆ
00:19:31 → 00:19:33 อาจารย์เชิญๆก่อนได้เลยครับอาจารย์ครับ
00:19:33 → 00:19:36 เชิญครับคือเมื่อกี้พูดเรื่องหวานเรื่อง
00:19:36 → 00:19:40 หวานความหวานใช่ค่ะที่เราถ้าเรากินคือบาง
00:19:40 → 00:19:42 ทีเราก็นึกอ่ะเนาะว่ามันร้อนมากอ่ะเราก็
00:19:42 → 00:19:45 อยากจะกินหวานหวานหวานมากเย็นมากเข้าไป
00:19:45 → 00:19:49 เลยซึ่งอีความหวานที่เรารับไปเรื่อยๆมากๆ
00:19:49 → 00:19:52 เค่ะมันจะส่งอันตรายกับร่างกายเราคือเยอะ
00:19:53 → 00:19:56 มากมันยกตัวอย่างอย่างเช่นเกการสะสมของไข
00:19:56 → 00:19:59 มันในร่างกายเนาะน้าท้องสะโพกต้นขาคือโรค
00:19:59 → 00:20:01 อ้วนนั่นแหละนอกจากนั้นเนี่ยคนกินหวาน
00:20:01 → 00:20:04 เยอะๆนะคะมันจะทำให้กระดูกและฟันไม่แข็ง
00:20:04 → 00:20:08 แรงด้วยอนะคะแล้วกินน้ำตาลเนี่ยพอมันไป
00:20:08 → 00:20:11 สสงเยอะๆไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายเป็นลุก
00:20:11 → 00:20:13 โต๊ดเป็นน้ำตาลจากผลไม้ต่างๆก็ตามถ้ามัน
00:20:13 → 00:20:17 กินเยอะเนี่ยจะทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด
00:20:17 → 00:20:19 พอเลือดเป็นกรดเนี่ยร่างกายเราจะเสีย
00:20:19 → 00:20:21 สมดุลระบบการทำงานของเรามันก็จะล้มเหลว
00:20:21 → 00:20:24 ง่ายนะคะหรือไม่โรคความดันลงเหตุสูงเนี่ย
00:20:24 → 00:20:27 ก็จะเกิดขึ้นได้เหมือนกันถ้าเรากินหวาน
00:20:27 → 00:20:30 เยอะๆเกิดไขมันสะสมมันก็เกิดการอุดตันใน
00:20:30 → 00:20:32 กระแสเลือดใช่มั้คะก็เกิดแรงดันเลือดที่
00:20:32 → 00:20:35 ผิดปกติแล้วบางคนคิดว่ากินหวานๆเนี่ยมัน
00:20:35 → 00:20:39 จะทำให้สดชื่นคายเครียดไม่ใช่นะคะคือหวาน
00:20:39 → 00:20:41 เนี่ยในระยะแรกอ่ะสดชื่นก็จริงแต่พอกิน
00:20:41 → 00:20:44 สะสมมากๆจะทำให้เกิดความเครียดมากกว่า
00:20:44 → 00:20:47 เดิมแล้วความหวานเนี่ยเป็นสาเหตุของอาการ
00:20:47 → 00:20:50 เจ็บป่วยร้ายแรงเยอะมากไม่ว่าจะเป็นปวด
00:20:50 → 00:20:53 ศีรษะไมเกรนเป็นตะคิวเป็นกระเป็นแผลผู้
00:20:53 → 00:20:56 พองหริสิดวงทวารเบาหวานหัวใจโดยเฉพาะ
00:20:56 → 00:21:00 มะเร็งเนี่ยค่ะอืมะเร็งชอบความหวานมากๆ
00:21:00 → 00:21:04 นอกจากนั้นข้อนี้สำคัญค่ะกินหวานเยอะๆแต่
00:21:04 → 00:21:09 ทำให้แก่เร็วอือออเพราะว่ามันไปความหวานเ
00:21:09 → 00:21:11 ค่ะมันจะมีผลเสียกับสุขภาพมันทำให้ผิว
00:21:11 → 00:21:14 พรรณแล้วก็ในเรื่องของมันจะไปทำลายโครง
00:21:14 → 00:21:17 สร้างของพวกคอลลาเจนแล้วก็อิลาสตินที่
00:21:17 → 00:21:20 อยู่ในชั้นผิวเพราะฉะนั้นเซลล์ผิวเซลล์
00:21:20 → 00:21:22 ผิวเราจะสูญเสียความยืดหยุ่นไม่้กระชับ
00:21:22 → 00:21:26 ไม่ต่งึงก็คือเก็ความแเหี่ยวเร็วนั่นเอง
00:21:26 → 00:21:29 อันเนี้อันนี้แหละหนหนปความหวานเพราะตรง
00:21:29 → 00:21:30 นี้
00:21:30 → 00:21:33 แหละตามที่คนโบเค็ดลับเค็ดลับมิน่าล่ะ
00:21:33 → 00:21:37 อาจารย์หนิงตามที่คนโบราณเบอกหวานเป็นลม
00:21:37 → 00:21:39 เป็นลมที่ว่านี่คือหมายถึงว่าฟังสิ่งที่
00:21:39 → 00:21:42 อาจารย์บอกเนี่ยแทบจะเป็นลมเลยอะไร
00:21:42 → 00:21:44 เงี้สิ่งที่อาจารย์หนิอาจารย์หนิหลีก
00:21:44 → 00:21:47 เลี่ยงินแล้วมันหลีกเลี่ยงสุดท้ายอุยมัน
00:21:47 → 00:21:50 ทำให้แก่ได้อ่ะใช่มันไปทำลายให้เซลล์ด้าน
00:21:50 → 00:21:53 ในมันอักเสบไงมันอักเสบข้างในมันอักเสบ
00:21:53 → 00:21:57 อ่ะโอนหมดหมดความเกาะเกี่ยวยึดโยงกับสาย
00:21:57 → 00:22:00 ใยคอลลาเจนต่างๆคือเพราะฉะนั้นคือถ้าถ้า
00:22:00 → 00:22:03 ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูกาลไหนเจ้าธาตุเรือน
00:22:03 → 00:22:07 ไหนถ้าเลี่ยงหวานได้ก็ควรจะต้องเลี่ยงได้
00:22:07 → 00:22:10 ใช่มั้ยอาจารย์หลีกเลี่ยงทุกฤดูกาลแล้วก็
00:22:10 → 00:22:13 ในแต่ละวันที่เราไปกินอีอีพวกคากาแฟอะไร
00:22:13 → 00:22:16 ทั้งหลายในแต่ละวันเค่ะนั่นแหละคือสิ่ง
00:22:16 → 00:22:19 ที่เราได้น้ำตาลเยอะมากแล้วที่ผ่านมาใน
00:22:19 → 00:22:21 วันเเราต้องเอาหวานน้อยนะคะเวลาที่ไปสั่ง
00:22:21 → 00:22:24 กินเครื่องเดึดเนี่ยไอ้พวกไอตรงไอติมอะไร
00:22:24 → 00:22:27 ทั้งหลายทั้งแเนี่ยนแน้ำตาลมันเยอะมากมัน
00:22:27 → 00:22:31 ช่วยให้เราสดชจรว่าเรานับขาบกันแต่วน้ำ
00:22:31 → 00:22:33 ตาลนี่ไม่ต้องเลยมากกว่าขาบอีกใช่มั้ยคะ
00:22:33 → 00:22:36 อันตรายกว่าคาบอีกอ่ะนะฮะพูดกันง่ายๆครับ
00:22:36 → 00:22:39 อาจารย์เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของขี้
00:22:39 → 00:22:42 เหล็กขี้เหล็กเนี่ยคือเป็นอะไรที่มันดู
00:22:42 → 00:22:46 กินยากมากเลยอาจารย์ครับมันมีวิธีการปรุง
00:22:46 → 00:22:49 อย่างอื่นมถ้าไม่ใช่แกงขี้เหล็กเราเอามา
00:22:49 → 00:22:52 ทำอย่างอื่นที่แบบว่ามันจะสามารถทานได้
00:22:52 → 00:22:54 ง่ายได้บ้ามยครับอาจารย์ครับคือผมเนี่ย
00:22:54 → 00:22:57 เมื่อกี้เมื่อกี้ฟังอาจารย์พูดสรรพคุณนะ
00:22:57 → 00:22:59 ผมอ่ะอยากกินมาแต่คือผมทำใจกินแกงขี้
00:22:59 → 00:23:02 เหล็กไม่ได้จริงๆครับอาจารย์ด้วยกลิ่นเอย
00:23:02 → 00:23:04 ด้วยอะไรไม่แก่
00:23:04 → 00:23:08 ค่ะจริงๆค่ะคือ
00:23:08 → 00:23:12 อารของคนเราเนี่ยค่ะพอชบปัดถิมาวัยหรือ
00:23:12 → 00:23:15 ว่า 32 ปีขึ้นไปเเรียกวัยสูงอายุในทางการ
00:23:15 → 00:23:17 อ้าวใช่แล้วอดีพอเริ่มพอเริ่มสูงวยขึ้นไป
00:23:17 → 00:23:20 เนี่ยค่ะครับอันรถขมๆทั้งหลายมันจะกิน
00:23:20 → 00:23:23 ง่ายโดยอัตโนมัติเงเหมือนกันเมื่อก่อนกิน
00:23:23 → 00:23:25 ขมไม่ได้เดี๋ยวนี้กินได้ทุกอย่างแต่คราว
00:23:25 → 00:23:27 เนี้ถ้าเกิดน้องบีมยังแบบว่ายังสดชื่นยัง
00:23:27 → 00:23:30 เป็นเด็กๆที่ยังไม่แก่กินลำบากเอาอย่าง
00:23:30 → 00:23:33 เงี้ยค่ะไม่ต้องกินเป็นแกงก็ได้เรากิน
00:23:33 → 00:23:37 เป็นแบบไพวกสะเดาน้ำปลาหวานคล้ายๆอย่าง
00:23:37 → 00:23:39 งั้นก็ได้ทำเป็นลวกที่เห็กทำเหมือนสะเดา
00:23:39 → 00:23:42 อ่ะค่ะแต่ว่าเอาเป็นยอดมันไปลวกเสร็จแล้ว
00:23:42 → 00:23:45 ทำน้ำปลาหวานกินคู่กันไปเลยอ๋อเหรอฮะมัน
00:23:45 → 00:23:47 จะมันมันมันจะหวานนะคะพอกินน้ำเข้าไปมัน
00:23:47 → 00:23:49 จะหวานเหมือนเรากินสะเดาเลยนะคะแบบเดียว
00:23:49 → 00:23:52 กันเลยยอดขี้เหล็กแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น
00:23:52 → 00:23:56 ระวังนิดนึงเวลาที่ต้มน้ำยอดขี้เหล็กหรือ
00:23:56 → 00:23:59 ว่าดอกขี้เหล็กเค่ะให้ต้มน้ำออกก่อนสัก 2
00:23:59 → 00:24:03 น้ำเพราะว่าความขมของเขาจะอ่าเป็นอันตราย
00:24:03 → 00:24:07 กับตับถ้ากินเยอะๆมันจะสะสมที่ตับได้คะแป
00:24:07 → 00:24:09 ว่าต้มออกแล้วก็ไม่มีปัญหาก็กินเป็นอาหาร
00:24:09 → 00:24:13 อยู่แล้วอ๋อนี่คือวิธีการปรุงใบขี้เหล็ก
00:24:13 → 00:24:15 ให้คงสคุณไว้ได้มากที่สุดใช่มั้ยครับ
00:24:15 → 00:24:18 อาจารย์ออใช่ค่ะต้มประมาณ 2 น้ำอันนี้เข
00:24:18 → 00:24:21 มีการวิจัทดลองกันเรียบร้อย้วอ้ากลายเป็น
00:24:21 → 00:24:25 ว่าขมมากๆนี่ก็ก็แยกกับตับเหมือนกันก็ใช่
00:24:25 → 00:24:29 ค่ะถ้าขมมาดมากคือมันเป็นพวกอเนาหนูจำที่
00:24:29 → 00:24:32 สาเกไม่ได้คือมันผมมากๆพอมันไปเก็บสะสม
00:24:32 → 00:24:36 อยู่ที่ตับเรื่อยๆๆๆก็อ่าเกโรคตับมีปัญหา
00:24:36 → 00:24:39 กับตับได้ในภายหลังอืเ้าเรียกว่าอะไรนะ
00:24:39 → 00:24:42 คล้ายๆพวกบราคอนอะไรคล้ายๆสารผมอะไรพวก
00:24:42 → 00:24:45 เนี้ยอออเออนี่พอดีว่ามีคุณผู้ฟังทางบ้าน
00:24:45 → 00:24:48 ฝากถามมาพอดีเลยครับเรื่องของการปรุงใบ
00:24:48 → 00:24:51 ขี้เหล็กอย่างไรให้คงสรรพคุณไว้ได้มากที่
00:24:51 → 00:24:54 สุดก็คืออย่างที่อาจารย์บอกก็คือก่อนจะ
00:24:54 → 00:24:58 เอามาทำกินต้มเอาน้ำออกอย่างน้ 2 น้ำต้ม
00:24:58 → 00:25:01 ต้นานมั้ยครับอาจารย์ครับต้องต้เดดก็เวลา
00:25:01 → 00:25:03 มันเดือดมันเดือดแล้วก็ต้มต่อไปอีกสัก
00:25:03 → 00:25:07 10-15 นาทีก็คือ 1 น้ำก็เอามาเทน้ำออกมา
00:25:07 → 00:25:10 ต้มอีกทีนึงให้เดือด 10-15 นาทีโจารคราว
00:25:10 → 00:25:13 นี้ก็จะเป็นเวลาที่เขไปขายในตลาดพี่น้อง
00:25:13 → 00:25:16 เคยเห็นมที่เป็นก้อนๆอ๋อมันจะออกสีอ่อนๆ
00:25:16 → 00:25:17 แล้วใช่มย
00:25:17 → 00:25:21 คะจเขียวกลายเป็นเหลือง
00:25:21 → 00:25:25 มเลยไม่เหลือไม่เหลือยาเลยาวเอ๋อออไอ้พี่
00:25:25 → 00:25:28 นกเนี่ยก็นึกว่าลักษณะของการต้มเอาความข
00:25:28 → 00:25:31 ออกไปเนี่ยมันจะไม่มีประโยชน์ลงเหลืออยู่
00:25:31 → 00:25:33 โอเราคิดว่าแค่ลวกเท่านั้นค่ะอาจารย์หนิ
00:25:33 → 00:25:36 ใช่นี้มันเป็นภูมิปัญญาค่ะอ๋อต้องต้มให้ด
00:25:36 → 00:25:40 ปัญญาต้องมีกรรมวิธีในการทำอืยาทุกอย่าง
00:25:40 → 00:25:43 ต้องใช้แบบถูกต้นถูกส่วนถูกขนาดถูกวิธี
00:25:43 → 00:25:46 ถูกกับโรคออมันจะได้ตัวเออขี้เหล็กเคุณ
00:25:46 → 00:25:51 ผู้ฟังต้องบอกต่อๆกันไปเลยนะว่า 2 น้ำน้ำ
00:25:51 → 00:25:54 ละ 15 นาที 10 ถ 15 นาที 10-5 นาทีเดือด
00:25:54 → 00:25:58 แล้วก็ทิ้งก็คือเวลาตั้งเวลาเนอะในไม่
00:25:58 → 00:26:01 เวลาเลยค่ะเราชัวเหมือนเราต้มไข่อยากให้
00:26:01 → 00:26:04 เป็นยางมาตูพอเดือดแล้ว 6 นาทีมันก็จะ
00:26:04 → 00:26:06 เป็นอย่าเงี้ยค่ะทุกอย่างมันจะมีเคล็ดลับ
00:26:06 → 00:26:09 เนาะอ๋อทีนี้มาถึงอีกหนึ่งคำถามครับ
00:26:09 → 00:26:11 อาจารย์คือเมื่อกี้เราพูดตั้งแต่ตอนต้น
00:26:11 → 00:26:13 ที่พนกถามอาจารย์ไปเรื่องของหน้าร้อนมัน
00:26:14 → 00:26:16 เป็นหน้าของมะม่วงอ่ามะม่วงมันจะมันจะออก
00:26:16 → 00:26:19 มาเยอะคุณผู้ฟังเลยสอบถามมาว่าเอ๊ที่
00:26:19 → 00:26:23 อาจารย์หนิงบอกว่าอืไม่ค่อยจะแนะนำสัก
00:26:23 → 00:26:25 เท่าไหร่เพราะมันหวานใช่มั้ยทีนี้มะม่วง
00:26:25 → 00:26:28 เขียวเสวยเนี่ยที่แบบเหลืองนิดๆไม่ถึงกับ
00:26:28 → 00:26:32 สุกเนี่ยมันพอที่จะทดแทนก้อมแกล้มกันได้
00:26:32 → 00:26:34 มั้ยครับอาจารย์อร่อยเนากำลังนิ่มๆจริงๆ
00:26:34 → 00:26:37 อร่อยอร่อยพูดแล้วกืนน้ำลายหายอยากได้
00:26:37 → 00:26:40 มั้ยคะไม่ว่าจะเป็นไม่ว่าจะเป็นเควเสวย
00:26:40 → 00:26:46 ที่แบบว่ากำลังแบบอ่าหืออ่าใกล้ๆสุการสุก
00:26:46 → 00:26:51 สัก 50 แข็งๆดิบๆใช่มันยังไม่หวานจริงๆ
00:26:51 → 00:26:53 อันนี้ก็คือทั้งหวานทั้งมันเลยนะคะโอโห
00:26:53 → 00:26:56 เอ้ยเรียบร้อยเลยจบเลยไม่ได้เลยทั้งดิบ
00:26:56 → 00:27:00 ทั้งทั้งแก่ทั้งสุกก็คือไม่ได้เลยแต่ว่า
00:27:00 → 00:27:02 จะกินให้หายอยากก็แบบว่าหน่อยๆได้แล้วก็
00:27:02 → 00:27:05 กินอย่างอื่นหลากหลายก็ไปช่วยออ๋อแต่คือ
00:27:05 → 00:27:07 ถ้าจะไปกินแบบตะบี้ตะบันแบบว่าเพราะมัน
00:27:07 → 00:27:10 เป็นผลไม้ประจำฤดูกาลไงหน้าร้อนพอดีเนาะ
00:27:10 → 00:27:13 ร้อนแล้วยิ่งน้ำปลาหวาบางทีเราก็บอกว่า
00:27:13 → 00:27:17 ให้กินผักผลไม้ตามฤดูกาลแต่ก็แบบว่าก็กิน
00:27:17 → 00:27:20 อันที่มันกินได้ถูกกับสอดคล้องกับธาตุอัน
00:27:20 → 00:27:23 ไหนที่มันไม่สอดคล้องก็ถึงมันจะตรงฤดูก็
00:27:23 → 00:27:26 กินหน่อยๆมันมันมาให้เราได้ิมลิ้มรสแห่ง
00:27:26 → 00:27:30 ความอร่อยอืเอ้าตายแล้วมะม่วงน้ำปลาหวาน
00:27:30 → 00:27:33 เอยตายอข้าวเหนียวมะม่วงเอเรียบร้อยเลย
00:27:33 → 00:27:37 พวกเราทีนี้ก็พอพอพอคำอ่ะกินกันพอเยียวยา
00:27:37 → 00:27:40 จิตใจแล้วกันนะอย่าไปแบบตะบี้ตะบันแบบพอ
00:27:40 → 00:27:42 เห็นว่าว่าตะบี้ตะบันนึกภาพออกนะคือพอ
00:27:42 → 00:27:44 เห็นว่าคือช่วงหน้าร้อนมะม่วงมันจะถูกไง
00:27:44 → 00:27:46 จัดเป็นจานอมะม่วงมันจะราคาค่อนข้างไม่
00:27:46 → 00:27:50 ได้แพงเหมือนนอกฤดูกาลทีนี้แบบโอ้โหพอหพอ
00:27:50 → 00:27:53 อาจารย์พูดแบบนี้ปั๊เอาเลยทีนี้ต้อง
00:27:53 → 00:27:56 เปลี่ยนวิธีการกินเลยแบบนี้แล้วถ้ามะม่วง
00:27:56 → 00:27:59 เขียวเสวยเนี่ยอาจารย์ไม่ค่อยแนะเท่าอ
00:27:59 → 00:28:01 แก้วมังกรครับอาจารย์อ๋ออันนี้จืดเลยล่ะ
00:28:01 → 00:28:04 อ่าแก้วมังกรนี่พอไหวมครับอาจารย์ู้ฟัง
00:28:04 → 00:28:07 ได้เยอะๆเลยค่ะอันนี้เป็นผลไม้ฤดูร้อนเลย
00:28:07 → 00:28:10 ค่ะอ๋อพอกินได้เลยใช่มั้ยครับอาจารย์ความ
00:28:10 → 00:28:12 ร้อนในร่างกายก็ช่วยระบายดีด้วยสคุณแล้ว
00:28:13 → 00:28:15 ก็ช่วยลดน้ำหนักได้มันจะเหมือนคือเม็ดๆ
00:28:15 → 00:28:18 ของมันคล้ายๆมันเม็ดแมงรักอ่ะค่ะกินแล้ว
00:28:18 → 00:28:20 มันก็ทำให้เราอิ่มด้วยครับอย่างมันจะไม่
00:28:20 → 00:28:23 พองตัวขนาดแมงรักแต่มันไม่อร่อยเท่ากับ
00:28:23 → 00:28:26 มะม่วงต้องเปลี่ยนสิเราต้องยกลับมาเหมือน
00:28:26 → 00:28:29 เดิมไม่เอาสิเราเราอยในภาพในหัวนี้มีความ
00:28:29 → 00:28:32 ฝังจต้องออนเราต้องมฟออนแล้วอย่างสีอ่ะ
00:28:32 → 00:28:34 ครับอาจารย์มันต้องออกมาให้ได้ใช่มีผล
00:28:34 → 00:28:38 มั้ยครับสีสีสีม่วงใช่มั้ยสีม่วงกับสี
00:28:38 → 00:28:41 ขาวกแก้วมังกรอะไรเงี้มันมันมีผลด้วยมั้ย
00:28:41 → 00:28:45 ครับอาจารย์ครับคือจริงๆพวกผักผลไม้สีๆ
00:28:45 → 00:28:47 อ่ะมันมีประโยชน์อยู่แล้วค่ะมันมีพวกครับ
00:28:47 → 00:28:50 แอนเค้าเรียกอะไรเนาะแอนทราคิโนอะไรสัก
00:28:50 → 00:28:54 อย่างที่สสีอ่ะคือพวกผักผลไม้ที่มีสีเยอะ
00:28:54 → 00:28:57 ๆอ่ะเขาให้กินหลากสีที่ถ้าบอกว่ากินผัก 5
00:28:57 → 00:29:00 สีกินค่ะผลไม้ 8 สีอะไรเนี่ยค่ะได้เลยค่ะ
00:29:00 → 00:29:03 มีประโยชน์ไม่ต้องกลัวสีมันไม่มีทิษนะคะ
00:29:03 → 00:29:06 อืออแต่มันน่ากลัวเหมือนกันเนาะได้เลยไม่
00:29:06 → 00:29:09 เกี่ยวเลยไม่มีปัญหาไม่มีปัญหาถือว่าทาน
00:29:09 → 00:29:13 ได้อ่าทานได้ทานได้ขอให้สบายใจกันแน่นอน
00:29:13 → 00:29:17 ว่าเอ่ออีกหนึ่งสมุนไพรไทยที่หลายคนเนี่ย
00:29:17 → 00:29:20 นิยมชมชอบชอบรับประทานกันนั่นก็คือ
00:29:20 → 00:29:23 กระเทียมอ้าแล้วมีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมา
00:29:23 → 00:29:26 พอดีนี่คนนี้น่าจะกินกันเป็นประจำก็เลย
00:29:26 → 00:29:29 ถามมาเลยครับอาจารย์ทานกระเทียมวันละ
00:29:29 → 00:29:32 ประมาณสัก 5-7 กลีบเนี่ยได้มั้ยครับ
00:29:32 → 00:29:34 อาจารย์อันนี้เป็นกระเทียมไทยด้วยนะไม่
00:29:34 → 00:29:36 ใช่กระเทียมจีนกระเทียมไทยก็จะเล็กแล้วก็
00:29:36 → 00:29:40 ฉุนหอมรสแรงรสชาติจัดจ้านอ่าพอไหวมั้ย
00:29:40 → 00:29:42 ครับช่วงหน้าร้อนแบบนี้ครับอาจารย์ไม่มี
00:29:43 → 00:29:45 ปัญหาคือมันไม่กระทบหรอกค่ะมันไม่ได้ออก
00:29:45 → 00:29:48 ฤทธิ์ยาวนานมันมันแค่เผ็ดร้อนช่วงที่เรา
00:29:48 → 00:29:52 กินแค่นั้นเองคือแสดงว่าคนที่ถามเนี่ยเ
00:29:52 → 00:29:54 น่าจะมีความรู้ในเรื่องของการใช้สมุนภัย
00:29:54 → 00:29:59 ในงานสาธารณสุขมนถานเพเป็นหนท่านี้อาการ
00:29:59 → 00:30:01 เจ็บป่วยเบื้องต้นแล้ววิธีการกินเนี่ยกิน
00:30:01 → 00:30:06 วันละ 5-7 ปีเหมือนที่เาบอกออุ้ยนี่แสดง
00:30:06 → 00:30:08 ว่าซึ่งอันนี้มันก็ช่วยในเรื่องของคือ
00:30:08 → 00:30:10 กระเทียมมันขับลงแก้วท้องอืดท้องเฟ้อแล้ว
00:30:10 → 00:30:14 ก็มันลดไขมันในเส้นเลือดลดคอเลสเตอรอลได้
00:30:14 → 00:30:16 แล้วถ้ากระเทียมจีนล่ะคะที่ใหญ่ๆอ่ะ
00:30:16 → 00:30:19 สรรพคุณ 5-7 กลีบมันก็จะเยอะมากเลยมีความ
00:30:19 → 00:30:21 ทดแทนกันยังไงหรือเข้มข้นไม่เหมือนกันค
00:30:21 → 00:30:23 ไม่สู้กระเทียมไทยเราค่ะพี่นออเหรอ
00:30:23 → 00:30:25 กระเทียมว่าจริงๆมันอาจจะสู้เราไม่ได้
00:30:25 → 00:30:29 ด้วยซ้ำไปเพราะมันไม่เผ็ดเลยใช่ๆๆๆมันมัน
00:30:29 → 00:30:31 ได้แค่รู้สึกว่าอ่ะฉันได้กินกระเทียมอ่ะ
00:30:31 → 00:30:34 แค่นั้นเองอ่ะแต่ว่ารสชาติหรือว่ากลิ่น
00:30:34 → 00:30:36 อะไรเนี่ยแทบจะไม่ได้กันแต่ว่าอ่อนกว่า
00:30:36 → 00:30:39 ของเราอ่อนกว่าของเราทั้งที่ใหญ่กว่า
00:30:39 → 00:30:42 อย่างงั้นน่ะเนาะค่ะคือไอ้ใหญ่ๆี่ิบไม่
00:30:42 → 00:30:44 แรงหรอกค่ะคือสมุนไพรเนาะส่วนใหญ่เนี่ย
00:30:44 → 00:30:48 ไอ้ตัวเล็กๆอ่ะจะิแรงถ้าเป็นสีสีกว่าถ้า
00:30:48 → 00:30:50 เป็นตัวผู้ตัวเมียตัวเมียนี่จะแรงกว่ามัน
00:30:50 → 00:30:52 จะเป็นอย่างเงี้ยโดยธรรมชาติส่วนใหญ่ของ
00:30:52 → 00:30:56 สมุนไพรอืคือพูดง่ายๆก็คือช่วงหน้าร้อน
00:30:56 → 00:30:59 ที่กำลังจะมามาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
00:30:59 → 00:31:02 เนี่ยสิ่งที่อาจารย์อยากจะแนะนำก็คือ
00:31:02 → 00:31:05 เรื่องของอาหารการกินเนี่ยเน้นไปที่จืด
00:31:05 → 00:31:08 แล้วก็เย็นใช่มั้ยคจ๊เย็นใช่ค่ะอืแล้วก็
00:31:08 → 00:31:12 หวานมันเลี่ยงไปอยากจะฝากทิ้งท้ายว่าคือ
00:31:12 → 00:31:16 เนื่องจากว่าพออากาศร้อนๆเนี่ยอาการที่
00:31:16 → 00:31:18 มักจะเกิดเยอะในอาจจะเป็นทุกวัยก็ได้นะค
00:31:19 → 00:31:21 สวก็เยอะมากหน่อยะค่ะเหนื่อยอ่อนเพลีย
00:31:21 → 00:31:25 เวียนๆนะเมื่อตรายก็ลองพกสมุนไพรติดตัวก็
00:31:25 → 00:31:30 ได้นะคะยาหอมยาลมยาดมยาหม่งคกไปค่ะอันนี้
00:31:30 → 00:31:33 ก็จะช่วยได้ก็ลงเวียนๆนะมือตลาเทพจิตที่
00:31:33 → 00:31:36 เป็นมิตเป็นเม็ดก็ได้ใช้มได้เลยเดี๋ยวนี้
00:31:36 → 00:31:40 มีหลากหลายรูปแบบนะคะโอเออพูดพูดถึงตอนสด
00:31:40 → 00:31:42 ชื่นขึ้นมาเลยนะอุปกรณ์ที่พกไว้ช่วงหน้า
00:31:42 → 00:31:46 ร้อแบบเนี้ยยาหอมอาจารย์หนิงมีแนะนำมย
00:31:46 → 00:31:49 ครับยาหอมยาดมยาลมยาหม่องประมาณนี้เลยล่ะ
00:31:49 → 00:31:51 ครับที่เขาพูดกันอะไรประมาณเยฮอาจารย์ค่ะ
00:31:51 → 00:31:54 ยาหอมแล้วพกตัวไหนก็ได้นะคะในบัญชียาหลัก
00:31:54 → 00:31:57 มันมี 5 ตัวถ้าเรากินยาหอมยังไม่เก่งเป็น
00:31:57 → 00:32:01 เมือใหหัดกินยาหอมก็อาจจะกินยาหอมเทพจิตอ
00:32:01 → 00:32:04 ซึ่งมันเป็นยาหอมที่แบบละมละมนุ่มๆอ่อนๆ
00:32:04 → 00:32:08 นะคะรสไม่อ่าซ้าเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นหอมน้ำ
00:32:08 → 00:32:12 มะโกมันจะมีความเผ็ดมีความขมด้วยสำหรับคน
00:32:12 → 00:32:15 ที่กินเก่งแล้วอย่างเงี้ยค่ะกินแบบเริ่ม
00:32:15 → 00:32:18 ต้นอาจจะเป็นเทพจิตหรือว่าทิพยโอสถนี้ก็
00:32:18 → 00:32:21 ได้ครับๆเทพจิตนี่เหมือนมันมีดอกดอกไม้
00:32:21 → 00:32:23 เยอะด้วยใช่มั้ยคะเท่าที่ค่ะเทพจิตเนี่ย
00:32:24 → 00:32:27 มันจะเป็นโดยเฉพาะดอกมะลิจะเป็นดอกเท่ายา
00:32:27 → 00:32:30 ทั้งหลายเลยเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะลด
00:32:30 → 00:32:34 ความร้อนได้ค่อนข้างดีหอมเย็นอืค่ะคือ
00:32:34 → 00:32:36 ตั้งแต่ที่ได้คุยกับอาจารย์หนิงเรื่องของ
00:32:36 → 00:32:40 ยาหอมเทพจิตรเนี่ยคือผมก็ต้องพกติดตัวไว้
00:32:40 → 00:32:42 ไม่ให้ขาดเลยนะครับอาจารย์หลายคนก็หาว่า
00:32:42 → 00:32:46 แบบหลายคนก็มาทักโอโหมันกินแบบคนแก่เลยวะ
00:32:46 → 00:32:48 บ้าป่ามันได้ผลจริงๆแต่มันดีจริงๆนะอาร
00:32:48 → 00:32:51 หลายคนที่ฟังแล้วก็บอกมาเหมือนกันว่าเรู้
00:32:51 → 00:32:53 สึกว่าเออรู้จักยาหอมใช่เนี่ยรู้จักจาก
00:32:53 → 00:32:55 อาจารย์หนิงนี่แหละที่อาจารย์หนิงแนะนำ
00:32:55 → 00:32:57 เลยอแล้วก็ช่วยชีวิตได้หลายหนอ่ะมันสสด
00:32:57 → 00:32:59 ชื่นแล้วแล้วพอกินน้ำตาเรามันมันจะรู้สึก
00:33:00 → 00:33:02 ว่าโอ้โหมันจะแบบร่างกายมันเย็นมากสบายนะ
00:33:02 → 00:33:05 สบายมันรู้สึกสบายไปทั้งตัวเลยมันจะเย็น
00:33:05 → 00:33:08 มันเลลมมันเดินดีนี่ไม่ได้สปอนเซอร์อะไร
00:33:08 → 00:33:10 จาก
00:33:10 → 00:33:12 เทพจินดา
00:33:12 → 00:33:15 สิ่งดีๆให้กับคุณผู้ฟังทุกท่านเนาแล้วก็
00:33:15 → 00:33:17 น้ำยาอุทัยนะที่เราย้อนกลับไปฟื้นหามาใส่
00:33:18 → 00:33:20 น้ำก็ได้ออใช่ๆๆก็ถือว่างนี้ก็เอาซื้อไป
00:33:20 → 00:33:24 ติดบ้านไว้หน่อยค่ะะอากาศร้อนๆก็หยดใส่อื
00:33:24 → 00:33:26 ก็คืออย่างนมันก็ทำให้รู้สึกว่าสดชื่น
00:33:26 → 00:33:29 เอ๊ะอาจารย์มันเป็นชื่อสรรพคุณมันเป็น
00:33:29 → 00:33:32 ชื่อของการค้าหรือว่าเเเรียกน้ำยาอะไรคะ
00:33:32 → 00:33:36 ฝางเ้าเรียกน้ำยาอะไรนะคะเคก็เรียกน้ำยา
00:33:36 → 00:33:39 อุทัยลอุทัยน้ำยาอุทัยเป็นชื่อของการค้า
00:33:39 → 00:33:43 อุทัยทิพอาจารย์ครับมีคุณผู้ฟังทางบ้าน
00:33:43 → 00:33:45 ฝากถามมาเหมือนกันเรื่องของพวกเมี่ยงคำ
00:33:45 → 00:33:51 ที่เต็มไปด้วยเอ่อสมุนไพรมาเหลือเกินครับ
00:33:51 → 00:33:54 เหมาะมยครับกับการกินช่วงหน้าร้อนรๆแบบ
00:33:54 → 00:33:57 นี้ดีเหมือนกันเอืคือเมี่ยงคำมันเป็นสนย
00:33:58 → 00:34:01 ธาตุมันเป็นสุนไพรปรับธาตุเป็นอาหารที่
00:34:01 → 00:34:05 ช่วยบำรุงธาตุทั้ง 4 เลยมีหิงมันมันมีรส
00:34:05 → 00:34:09 ของยารสของสมุนไพรครบทั้ง 10 รสาดหวานมัน
00:34:09 → 00:34:14 เค็มเปรี้ยวขมสขเร้อนเกืดเย็นครบเลยหแต่
00:34:14 → 00:34:16 เติมน้ำหวานมันเนี่ยจะเป็นพวกอ่าใบทอง
00:34:16 → 00:34:19 หลางที่เราใช้ห่อเนาะหรือเราจะใช้ใบบัว
00:34:19 → 00:34:22 อะไรนี่ก็ได้หวานนี้ก็ทั้งแบบมะพร้าวทั้ง
00:34:22 → 00:34:25 อยู่ในน้ำจิ้มมันทั้งถั่วทั้งอะไคือมัน
00:34:25 → 00:34:28 ครบหมดทุกรสเลยเพราะฉะนั้นพอกิน
00:34:28 → 00:34:29 น่าสน
00:34:29 → 00:34:33 ใมันร่างกายของเรามันมันเหมือนมัน
00:34:33 → 00:34:36 จะบแล้วมันช่วยปรับให้ร่างกายของเราเนี่ย
00:34:36 → 00:34:40 ทำงานอยู่ในภาวะปกติได้ดีคือแต่เราก็อาจ
00:34:40 → 00:34:43 จะไม่จำเป็นต้องกินบ่อยๆหรอกค่ะเดือนละ
00:34:43 → 00:34:48 ครั้งก็พอโอ้นี่เป็นอาหารที่ครบถ้วนจริงๆ
00:34:48 → 00:34:51 อ่ะมองดูนะสคุณเยอะผมถึงขั้นต้องเปิดรูป
00:34:51 → 00:34:53 ดูเลยครับว่าโหมันบกันทั้ง 10 รสชาติกัน
00:34:53 → 00:34:56 ขนาดนี้เลยใช่มเนี่ยเยงทำดีค่ะเมี่ยงทำ
00:34:56 → 00:34:59 อาหารที่ดีมากๆคำดีมันมีอีก 1 อาหาร
00:34:59 → 00:35:01 เหมือนกันครับอาจารย์ที่มักจะมาในช่วงของ
00:35:01 → 00:35:05 หน้าร้อนเอย่างข้าวแช่เนี่ยข้าแช่ันนี้ก็
00:35:05 → 00:35:08 ใช่เลยนะมันถือว่าช่วยปรับสมดุลเรื่องของ
00:35:08 → 00:35:11 ธาตุเจ้าเรือนประจำตัวของเราได้มากน้อย
00:35:11 → 00:35:14 ขนาดไหนครับอาจารย์มันปรับความร้อนในร่าง
00:35:14 → 00:35:18 กายค่ะปรับธาตุไฟหมายถึงว่ามันเป็นอ่า
00:35:18 → 00:35:24 อาหารที่ช่วยปลับธาตุในฤดูร้อนได้ 1 ตัว
00:35:24 → 00:35:26 เลยเพราะว่ามีความเย็นมากกินแล้วมันจะรู้
00:35:26 → 00:35:31 สึกสดพื่นขเลยทันทีค่ะสำหรับคนที่มีธาตุ
00:35:31 → 00:35:33 ไฟเป็นธาตุเจ้าเรือนก็ดีหรือว่าสำหรับคน
00:35:33 → 00:35:37 ที่อยู่ในภาวะอากาศร้อนๆข้าวร่มสักนิดกิน
00:35:37 → 00:35:39 ข้าวแช่ไปสัก 1 ร่างกายจะปรับขึ้นได้รวด
00:35:39 → 00:35:44 เร็วเพราะว่ามีความเย็นมากอือืโอๆก็เพราะ
00:35:44 → 00:35:46 มันต้องแช่เย็นๆเนาะมันจะได้ชื่นใจมัน
00:35:46 → 00:35:48 เย็นเพราะฉะนั้นสุดท้ายเรื่องของน้ำเย็น
00:35:48 → 00:35:51 ก็ทานได้พอสมควรใช่มั้ยคะจากเข้าแช่อะไร
00:35:51 → 00:35:53 เงี้ยจากใช่ว่าแบบแต่ไม่ใช่เย็นจเย็นเป็น
00:35:53 → 00:35:57 หลักเลยอืน้ำแข็งเยอะๆก็ไม่ใช่ประมาณ
00:35:57 → 00:35:59 เมื่อกี้อาจารย์หนิงพูดทิ้งท้ายเรื่องของ
00:35:59 → 00:36:01 ช่วงหน้าร้อนที่ต้องพกยดมอย่าลมอย่าหม่อง
00:36:01 → 00:36:03 เอาไว้เนี่ยงมีคุณผู้ฟังก็เลยฝากถามมา
00:36:03 → 00:36:06 เหมือนกันครับอาจารย์ว่าคือวิธีการที่เขา
00:36:06 → 00:36:10 มักจะใช้เี่ก็คือเอาขวดม่องเนี่ยเปิดแล้ว
00:36:10 → 00:36:13 ก็ทิ้งไว้ในรถให้กลิ่นมันหอมตลบอบอวน
00:36:13 → 00:36:16 เนี่ยใช้แทนน้ำหอมปรับอากาศมันมันมันจะ
00:36:16 → 00:36:18 เป็นอะไรกับร่างกายมยครับอาจารย์ครับใช้
00:36:18 → 00:36:20 วิธีการแบบนี้ครับอาจารย์หรือว่าอนั้นไม่
00:36:20 → 00:36:24 เหมาะค่ะมันมันไม่ใช่วิธีการใช้ที่ถูก
00:36:24 → 00:36:27 ต้องคือในยาหม่องอ่ะมันจะมีหลายอย่าง
00:36:27 → 00:36:31 พิเสนกบูรเมนทอลอะไรต่างๆนานาเนาะพวกไพวก
00:36:31 → 00:36:35 เนี้ยคราวเนี้ยในตัวพวกกาบูลพิเสนเนี่ย
00:36:35 → 00:36:38 ถ้ามันอยู่ในบรรยากาศมันเป็นสารที่ระหเขา
00:36:38 → 00:36:41 เรียกว่าระหมันก็จะเข้ากับบรรยากาศเต็มไป
00:36:41 → 00:36:44 หมดเลยคราวเนี้ยพอมันเข้าตาเราอย่างตาเรา
00:36:44 → 00:36:47 มันเป็นเยื่อบุที่บางๆเงี้ยค่ะพอได้รับ
00:36:47 → 00:36:50 เยอะๆอาจจะแสบตาระคายเคืองตารวมทั้งจมูก
00:36:50 → 00:36:52 เราเหมือนกันที่มันได้รับกลิ่นมากเกินไป
00:36:52 → 00:36:55 มันมันเค้าเรียกว่ามันอื้ออึงอยู่ในรถอ่ะ
00:36:55 → 00:36:58 มันเยอะมากเกินไปอถ้าเราจะใช้เนี่ยเวลา
00:36:59 → 00:37:02 ที่เรามีอาการเราก็เปิดทาแล้วเราก็ปิดอื
00:37:02 → 00:37:05 คือใช้ตามอาการที่เป็นเราไม่ได้เป็นอะไร
00:37:05 → 00:37:08 เราก็ไม่ไม่ต้องไปเปิดให้มันแบบให้มัน
00:37:08 → 00:37:11 ป้องกันเราไม่ต้องอ๋อคือวิธีใช้ได้ถูก
00:37:12 → 00:37:16 ต้องก็คือแบบถ้ามีอาการก็ก็เอาข้มาเปิดดม
00:37:16 → 00:37:19 ก็ได้เอามาดมเอามาถูตามจมูกอะไรอย่างงี้
00:37:19 → 00:37:21 ใช่ค่ะแต่ยาหม่องนี่เป็นสรรพคุณที่คู่คน
00:37:22 → 00:37:25 ไทยเนาครอบจักรวาลเออติดตัวจริงๆพี่นจ
00:37:25 → 00:37:27 อย่างจริงๆใช่ครับช่วงสุดท้ายครับมี
00:37:27 → 00:37:29 กระเปานึงก็หนักไปหมด
00:37:30 → 00:37:32 เลยครับผมอาจารย์ช่วงท้ายแล้วอยากให้ฝาก
00:37:32 → 00:37:35 ทิ้งท้ายอะไรกับคุณผู้ฟังทางบ้านนิดนึง
00:37:35 → 00:37:37 ครับเรื่องของการเตรียมเนื้อเตรียมตัวรับ
00:37:37 → 00:37:40 กับช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่
00:37:40 → 00:37:43 กี่วันข้างหน้าครับอาจารย์ครับับร้อก็
00:37:43 → 00:37:49 อยากจะให้เน้นในเรื่องของการปรับปรับ
00:37:49 → 00:37:52 พฤติกรรมการดูแลร่างกายของเราแบบง่ายๆแบบ
00:37:52 → 00:37:56 ธรรมชาติเี่แหละค่ะอย่างเช่นดื่มน้ำเยอะ
00:37:56 → 00:37:59 หน่อยรเลื่องแสงแดดแล้วก็ในเรื่องของผิว
00:37:59 → 00:38:03 เราเนี่ยอาจจะต้องนึกถึงครีมกันแดดเหมือน
00:38:03 → 00:38:07 กันนะคะจะออกไปไหนมาไหนก็ให้ทาครีมกันแดด
00:38:07 → 00:38:09 มันต้องทาทุกวันอยู่แล้วเนาะเพราะว่ามัน
00:38:09 → 00:38:12 ก็จะช่วยเรื่องของการแบบอ่ากรองแสงที่จะ
00:38:12 → 00:38:16 มากระทบกับตัวเรานอกจากนั้นเนี่ยมลพิษที่
00:38:16 → 00:38:18 อยู่กับแสงแดดอันนี้สำคัญเหมือนกัน PM ก็
00:38:18 → 00:38:21 ยังอยู่นะคะมันอยู่ทุกฤดูกาลเลยเพราะ
00:38:21 → 00:38:23 ฉะนั้นนอกจากเรื่องแสงแดดเรื่องอะไรต่างๆ
00:38:23 → 00:38:27 เนี่ยการใส่หน้ากากนะคะก็จะช่วยเราได้ใส่
00:38:27 → 00:38:31 เสื้อผ้าที่มันแบบอ่าระบายอากาศดีๆหน่อย
00:38:31 → 00:38:34 แล้วก็ที่สำคัญก็อย่าลืมเรื่องอาหารการ
00:38:34 → 00:38:38 กินล่ะค่ะครับอาหารที่มีรสจีดเย็นเข้าไว้
00:38:38 → 00:38:42 ก็จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้