00:00:00 → 00:00:02 ปวดหัวเรือรังเนี่ยเป็นโรคทางระบบประสาท
00:00:03 → 00:00:06 และสมองที่ซับซ้อนโรคนึงเลยนานแค่ไหนที่
00:00:06 → 00:00:09 เรียกว่าเรือรังส่วนใหญ่มันเป็นอะไรทำยัง
00:00:09 → 00:00:12 ไงมันก็ไม่หายไม่ใช่โรคที่แบบรักษาเดือน 2
00:00:12 → 00:00:14 เดือนหายแต่ก็ไม่ใช่โรคที่ต้องรักษาไป
00:00:14 → 00:00:16 ตลอดชีวิตเหมือนกันแล้วมีวิธีการรักษาได้
00:00:16 → 00:00:20 ยังไงสวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะกลับคุยเรื่อง
00:00:20 → 00:00:22 สมองกับหมอนุ่มนะคะวันนี้เรามาคุยกัน
00:00:22 → 00:00:26 เรื่องปวดหัวเรื้อรังนะคะเนาะเอ่อเป็น
00:00:26 → 00:00:29 อะไรนะคะแล้วก็จะรักษากันยังไงชื่อว่า
00:00:29 → 00:00:31 หลายคนนะคะที่ประสบปัญหาเรื่องของปวดหัว
00:00:31 → 00:00:34 เรื้อรังอยู่เนี่ยมักจะต้องมีความกังวล
00:00:34 → 00:00:36 แน่ๆอยู่แล้วนะคะว่าเอ๊ะเราปวดหัวเนี่ย
00:00:36 → 00:00:39 เราเป็นอะไรกันแน่เป็นเนื้องอกสมองหรือ
00:00:39 → 00:00:41 เปล่านะคะจะเป็นเส้นเลือดตีบเส้นเลือดแตก
00:00:41 → 00:00:43 มนะคะคนไข้ส่วนใหญ่ที่ปวดหัวระรังก็มักจะ
00:00:43 → 00:00:46 กังวลเรื่องตรงนี้นะคะเนาะแล้วก็อีกอัน
00:00:46 → 00:00:48 นึงเลยก็คือเริ่มรู้สึกว่าอ่ะถึงแม้จะไป
00:00:48 → 00:00:50 ตรวจแล้วไม่เจออะไรแต่เริ่มรู้สึกว่าทำ
00:00:50 → 00:00:54 ยังไงมันก็ไม่หายจะหายจากภาวะนี้ได้ยังไง
00:00:54 → 00:00:57 นะคะหรือเริ่มมีปัญหาบางอย่างเช่นรู้สึก
00:00:57 → 00:01:00 ว่ากินยาแก้ปวดไปละก็เมื่อก่อนเคยตอบสนอง
00:01:00 → 00:01:02 ดีปัจจุบันก็เริ่มกินยาแล้วก็เริ่มไม่
00:01:02 → 00:01:05 ค่อยได้ผลละนะคะแล้วก็ต้องใช้ยามากขึ้น
00:01:05 → 00:01:07 เรื่อยๆวันนี้หมอเลยจะมาโฟกัสเรื่องนี้
00:01:07 → 00:01:09 กันนะคะว่าปวดหัวเรื้อรังเนี่ยส่วนใหญ่
00:01:09 → 00:01:12 มันเป็นอะไรแล้วมีวิธีการรักษาได้ยังไง
00:01:12 → 00:01:15 อันแรกเลยนะคะปวดหัวเรื้อรังนะคะนานแค่
00:01:15 → 00:01:18 ไหนนะที่เรียกว่าเรือรังนะคะส่วนใหญ่เวลา
00:01:18 → 00:01:21 อาการอ่าโรคใดๆต่างๆนะคะเราก็มักจะตัดกัน
00:01:21 → 00:01:24 ที่ประมาณสัก 3 เดือนเพราะฉะนั้นเนี่ยใคร
00:01:24 → 00:01:26 ที่มีอาการปวดหัวเกิน 3 เดือนนะนะคะก็จะ
00:01:26 → 00:01:28 เริ่มเข้าข่ายแล้วแหละว่าเราเริ่มไม่ใช่
00:01:28 → 00:01:31 อาการปวดหัวทุทั่วๆไปละถ้าเกิดเป็นอาการ
00:01:31 → 00:01:34 ปวดหัวทั่วๆไปจากสาเหตุอื่นๆนะส่วนใหญ่จะ
00:01:34 → 00:01:36 ไม่ค่อยเป็นนานขนาดนี้นะคะเช่นอ่าอาจจะ
00:01:36 → 00:01:39 เป็นอาการปวดหัวชั่วคราวจากบางทีความ
00:01:39 → 00:01:42 เครียดบางทีอดนอนนะคะหรือบางทีก็เป็นปวด
00:01:42 → 00:01:45 หัวตอนที่เป็นไข้นะคะไม่สบายมีไข้สูงหรือ
00:01:45 → 00:01:47 ถ้าเกิดโรคที่เรากลัวต่างๆอย่างเช่น
00:01:47 → 00:01:49 เรื่องของพวกเนื้องอกหรือว่าเส้นเลือดตีบ
00:01:49 → 00:01:51 เส้นเลือดแตกเนี่ยส่วนใหญ่พวกนั้นนะคะมัก
00:01:51 → 00:01:53 จะมีอาการค่อนข้างเฉียบพลันหรือกลุ่ม
00:01:54 → 00:01:56 เนื้องอกเองอาจจะมานานๆได้หลายเดือนแต่ก็
00:01:56 → 00:01:59 จะต้องมักมีสัญญาณนะคะที่บอกว่าเราเป็น
00:01:59 → 00:02:02 โรครุนแกนะคะเช่นปวดมากขึ้นเรื่อยๆอย่าง
00:02:02 → 00:02:04 รวดเร็วนะคะหรือบางครั้งเป็นอาการปวดหัว
00:02:04 → 00:02:06 ที่รู้สึกว่าทนไม่ไหวะในชีวิตนี้ไม่เคย
00:02:06 → 00:02:09 ปวดเลยหรือมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท
00:02:09 → 00:02:11 อื่นๆร่วมด้วยเนาะเช่นมีชามีอ่อนแรงอะไร
00:02:12 → 00:02:14 ก็ว่ากันไปอีกอันนึงที่เจอบ่อยก็คืออาการ
00:02:14 → 00:02:17 ปวดตอนกลางคืนที่แบบนอนไปแล้วอยู่ดีๆตื่น
00:02:17 → 00:02:20 มาปวดแรงๆพวกนี้นะคะเป็นสัญญาณที่บอกว่า
00:02:20 → 00:02:23 เราน่าจะเป็นโรคที่รุนแรงและอันตรายก็อาจ
00:02:23 → 00:02:25 จะต้องรีบไปตรวจแต่ในวันนี้นะคะเราจะมา
00:02:25 → 00:02:28 โฟกัสกันว่าเอ้เราไม่ใช่กลุ่มอาการแบบ
00:02:28 → 00:02:30 นั้นน่ะแต่เราเป็นแบบเป็นเรื้อรางอ่ะเป็น
00:02:30 → 00:02:34 เราไม่หายสักทีเป็นนานมากนะคะซึ่งจริงๆ
00:02:34 → 00:02:36 เราเอา 3 เดือนนะคะแต่ว่าคนไข้ที่มาหาหมอ
00:02:36 → 00:02:39 ส่วนใหญ่นะนานกว่านั้นเพราะว่าเอ่อส่วน
00:02:39 → 00:02:41 ใหญ่เนี่ยกว่าจะแบบเอ่อเริ่มรู้สึกว่ากิน
00:02:41 → 00:02:43 ยาเราไม่ได้ผลเนี่ยจริงๆเป็นหลักแบบเป็น
00:02:43 → 00:02:46 ปีๆส่วนใหญ่ที่มาเจอกันก็จะเป็นเรื่องของ
00:02:46 → 00:02:50 2 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปีเป็นต้นไปทีนี้อ่า
00:02:50 → 00:02:52 สาเหตุอะไรล่ะที่ทำให้เราปวดหัวเรื้อรัง
00:02:52 → 00:02:55 ได้ขนาดนี้วันนี้นะคะก็จะโฟกัสกันที่
00:02:55 → 00:02:58 ไมเกรนเรื้อรังทำไมต้องเป็นไมเกรนเรื้อ
00:02:58 → 00:03:00 รังเพราะว่าหมอมองว่าจริงๆแล้วโรคปวดหัว
00:03:00 → 00:03:04 อื่นๆนะไม่ที่ไม่ใช่ไมเกรนนะคะเช่นอ่าอาจ
00:03:04 → 00:03:06 จะมีโรคปวดหัวจากกลุ่มที่เป็นเรื่องของ
00:03:06 → 00:03:08 ความเครียดกล้ามเนื้อตึงนะคะเช่นเทนชั่น
00:03:08 → 00:03:10 อะไรแบบเนี้ยส่วนใหญ่คนไ้อยากจะปวดได้นาน
00:03:10 → 00:03:13 จริงปวดเรื้อรางจริงปวดหลายๆปีแต่อาการ
00:03:13 → 00:03:16 ปวดเขาไม่ได้รุนแรงมากจนแบบกระทบชีวิต
00:03:16 → 00:03:18 ประจำวันหรือว่าจะต้องทานยาแก้ปวดเป็น
00:03:18 → 00:03:20 ประจำเพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มเนี้ยคนไข้
00:03:20 → 00:03:22 ส่วนใหญ่ก็เลยอาจจะไม่ค่อยได้มาหาหมอหรือ
00:03:22 → 00:03:25 ว่าก็ไม่ได้รู้สึกว่าอาการปวดเนี่ยมัน
00:03:25 → 00:03:27 กระทบกับชีวิตหรือจนมีความรู้สึกที่รู้
00:03:27 → 00:03:30 สึกว่าแบบไม่ไหวละกับอาการปวดนี้หัวนี้
00:03:30 → 00:03:32 แบบว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ละจะไม่ค่อยถึง
00:03:32 → 00:03:35 ขั้นนั้นแต่โรคที่ทำให้เราปวดหัวปวดทุก
00:03:35 → 00:03:38 วันปวดเกือบทุกวันปวดจนเริ่มมีปัญหากับคน
00:03:38 → 00:03:41 รอบข้างการทำงานนะคะหรือความสัมพันธ์ใน
00:03:41 → 00:03:43 ครอบครัวต่างๆเพราะว่าเวลามันปวดแล้วมัน
00:03:43 → 00:03:45 ก็หงุดหงิดอะไรอย่างเงี้ยค่ะแทบจะไม่พ้น
00:03:45 → 00:03:47 ไมเกรนเรื้อรงเลยเพราะว่าไมเกรนนะคะมัน
00:03:47 → 00:03:50 ไม่ใช่แค่โรคปวดหัวธรรมดาไมเกรนเนี่ยจริง
00:03:50 → 00:03:53 ๆแล้วเขาบอกเลยนะว่าเป็นแบบ Complex
00:03:53 → 00:03:56 neurological disorder นะคะก็คือเป็น
00:03:56 → 00:04:00 โรคทางระบบประสาทและสมองที่ซับซ้อนโรคนึง
00:04:00 → 00:04:02 เลยนะคะโดยเฉพาะถ้าเราเป็นเรื้อรังแล้ว
00:04:02 → 00:04:05 เนี่ยกลไกทางสมองเนี่ยมันยิ่งซับซ้อนมาก
00:04:05 → 00:04:08 กว่าปกติและนำไปสู่การเกิดโรคอื่นๆตามมา
00:04:08 → 00:04:10 ด้วยจะไม่ใช่แค่ปวดหัวและเพราะฉะนั้นวัน
00:04:10 → 00:04:12 นี้เราก็เลยมาโฟกัสที่เรื่องนี้กันนะคะ
00:04:12 → 00:04:16 ว่าถ้าคนที่เป็นปวดหัวเรื้อรังปวดมาหลายๆ
00:04:16 → 00:04:18 ปีนะคะแล้วก็ใช้ยาแก้ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
00:04:18 → 00:04:21 ต้องระวังนะคะว่าเราจะเข้าขายเป็นไมเกรน
00:04:21 → 00:04:23 เรื้อรังหมอว่าไมเกรนเรื้อรังเนี่ย
00:04:23 → 00:04:27 ปัจจุบันนะมันมียานะคะที่เอามารักษาได้
00:04:27 → 00:04:29 แล้วได้ผลค่อนข้างดีเลยแล้วก็การวิธีการ
00:04:29 → 00:04:31 การรักษาไม่ใช่แค่ยาเท่านั้นนะคะยังมี
00:04:31 → 00:04:35 วิธีการรักษาอื่นๆด้วยที่ตอบสนองดีมากๆนะ
00:04:35 → 00:04:38 คะเนาะซึ่งเดี๋ยวจะพูดในตอนลำดับตอนขั้น
00:04:38 → 00:04:41 ตอนการรักษาต่อไปอันแรกก่อนเลยว่าแล้วเรา
00:04:41 → 00:04:43 จะเช็คตัวเองได้ยังไงล่ะว่าเราอ่ะเป็น
00:04:43 → 00:04:46 ไมเกรนเรื้อรางแล้วหรือยังไมเกรนเรื้อรัง
00:04:46 → 00:04:49 คืออะไรก็คนที่เป็นไมเกรนเรื้อรังนะคะก็
00:04:49 → 00:04:51 ก็คือต้องเป็นเป็นไปเป็นคนไข้ไมเกรนก่อน
00:04:51 → 00:04:54 เพราะฉะนั้นเนี่ยคนไข้ไมเกรนก็คือต้องมี
00:04:54 → 00:04:57 ลักษณะอาการปวดหัวแบบที่เราจะสงสัยว่า
00:04:57 → 00:05:00 เป็นไมเกรนนั่นก็คือว่า 1 มักจะต้องปวด
00:05:00 → 00:05:03 หัวข้างเดียวนำมาก่อนบางครั้งอาจจะปวด 2
00:05:03 → 00:05:06 ข้างได้แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องมีข้างเดียวให้
00:05:06 → 00:05:09 เห็นหรืออาจจะเป็นการปวดสลับข้างเช่นบาง
00:05:09 → 00:05:12 ทีซ้ายบางทีขวาปวดมากๆแล้วค่อยปวด 2 ข้าง
00:05:12 → 00:05:14 แต่จะมีลักษณะที่เหมือนเป็นข้างเดียวนำมา
00:05:14 → 00:05:16 ก่อนให้เห็นบ้างอันที่ 2 คือลักษณะอาการ
00:05:16 → 00:05:19 ปวดเขาจะเป็นลักษณะปวดจากแบบหลอดเลือดนะ
00:05:19 → 00:05:22 ปวดตุบๆเหมือนหลอดเลือดเต้นบางคนรู้สึก
00:05:22 → 00:05:25 ว่ามีอะไรปูดๆอยู่ที่ขมับนะคะเหมือนแบบ
00:05:25 → 00:05:28 หลอดเลือดมันแบบคำได้ชัดเจนมากขึ้นจะไม่
00:05:28 → 00:05:30 ได้ปวดเหมือนแบบปวดกลุ่มกล้ามเนื้อทั่วไป
00:05:30 → 00:05:33 ที่เป็นแนวตึงๆมึนๆอันนี้ส่วนใหญ่จะเป็น
00:05:33 → 00:05:36 ลักษณะเหมือนมีอะไรเต้นตุบๆมากกว่าแล้วก็
00:05:36 → 00:05:38 จะต้องมีลักษณะอาการร่วมของไมเกรนนะคะที่
00:05:38 → 00:05:41 สำคัญเลยคนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าตอนปวด
00:05:41 → 00:05:44 หัวมันปวดจนรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนไม่อยาก
00:05:44 → 00:05:47 ทานอะไรหรือบางทีเนี่ยทานยาแก้ปวดแล้วก็
00:05:47 → 00:05:50 อ้วกออกมาอาเจียนออกมาเลยและมีลักษณะของ
00:05:50 → 00:05:53 กลัวแสงหรือกลัวเสียงกลัวแสงกลัวเสียงก็
00:05:53 → 00:05:56 คือว่าเรารับรู้สิ่งแวดล้อมเนี่ยมากกว่า
00:05:56 → 00:05:59 คนทั่วไปนะบางทีแบบเราเจะรู้สึกว่าหหแดด
00:05:59 → 00:06:01 ขนาดเนี้ยคนทั่วไปก็รู้สึกว่ามันไม่ได้
00:06:01 → 00:06:03 จ้าไม่ได้อะไรมากมายนะคะแสงจากหน้า
00:06:03 → 00:06:05 คอมพิวเตอร์เหมือนปกติแต่คนไข้ที่เป็น
00:06:05 → 00:06:07 ไมเกรนจะรู้สึกว่าแสงมันจ้ามากเรู้สึกว่า
00:06:07 → 00:06:11 เขาตาสู้แสกไม่ได้นะคะต้องแบบนอนหลับตา
00:06:11 → 00:06:13 สู้เสียงดังก็ไม่ได้ถ้ามีความแบบเสียงดัง
00:06:13 → 00:06:16 สิ่งแวดล้อมดังๆความวุ่นวายคนคุยกันเสียง
00:06:16 → 00:06:18 ดังๆเนี่ยยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้นเพราะ
00:06:18 → 00:06:20 ฉะนั้นเขก็จะรู้สึกว่าอยากอยู่เงียบๆคน
00:06:20 → 00:06:22 เดียวนะคะอยู่ที่มืดๆอันนี้คือเป็นลักษณะ
00:06:23 → 00:06:25 ของไมเกรนเพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นไมเกรน
00:06:25 → 00:06:27 เรื้อรงเราจะสงสัยก่อนว่าคนไข้มีอาการปวด
00:06:27 → 00:06:30 หัวแบบเนี้ยแล้วปวดตติดๆกันหลายๆเดือน
00:06:30 → 00:06:33 เป็นต้นไปนะคะส่วนใหญ่ก็คือเอาประมาณสัก 3
00:06:33 → 00:06:35 เดือนติดกันและแต่ละเดือนเนี่ยจะต้องปวด
00:06:35 → 00:06:38 อย่างน้อยประมาณสัก 15 วัน 15 วันก็คือ
00:06:38 → 00:06:40 แทบจะเกือบทุกวันเลยหรืออย่างน้อยก็คือ
00:06:40 → 00:06:42 วันเว้นวันแต่ตัวเลขตรงนี้นะคะหมอว่ามัน
00:06:42 → 00:06:45 ไม่ได้แบบเป็นตัวเลขเป๊ะๆเนาะอันเนี้ยมัน
00:06:45 → 00:06:47 เป็นเหมือนแบบการวินิจฉัยเราจะวินิจฉัย
00:06:47 → 00:06:50 ตามนี้นะว่ามีอาการปวดหัวไมเกรนอย่างน้อย
00:06:50 → 00:06:52 15 วันต่อเดือนอย่างน้อย 3 เดือนติดกัน
00:06:52 → 00:06:54 แต่จริงๆในชีวิตจริงของคนไข้อ่ะค่ะเราไม่
00:06:54 → 00:06:57 ได้มานั่งก่อนจะมาเจอแพทย์อ่ะก่อนจะมาเจอ
00:06:57 → 00:06:59 หมอเนี่ยบางทีเราไม่ได้นั่งเรคคอร์ดจริงๆ
00:06:59 → 00:07:01 หรอกว่าเราปวดกี่วันนะคะมันดูเป็นเอ่อภาพ
00:07:01 → 00:07:03 รวมมากกว่าว่าในเดือนนั้นๆเนี่ยเค้ารู้
00:07:03 → 00:07:05 สึกว่าการปวดหัวเขาคอ่ะเป็นถี่มากขึ้น
00:07:05 → 00:07:08 แล้วหรือยังเนาะบางคนบอก 14 วันหนูยังไม่
00:07:08 → 00:07:11 เลือลังค่ะจริงๆไม่ใช่นะเราดูภาพรวมว่า
00:07:11 → 00:07:13 อย่างเงี้ยเรารู้ว่าถ้าเราไม่ทำอะไรอ่ะ
00:07:13 → 00:07:16 ปล่อยไว้อ่ะคนไข้ก็จะเป็นไมเกนเรื้อรัง
00:07:16 → 00:07:18 อยู่ดีเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อให้ตัวเลข
00:07:18 → 00:07:20 เนี่ยเป็นคร่าวๆแต่ว่าเราต้องดูอาการของ
00:07:20 → 00:07:23 เราว่ามันไวต่อตัวกระตุ้นมากน้อยแค่ไหนนะ
00:07:23 → 00:07:26 คะเราปวดจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว
00:07:26 → 00:07:28 หรือยังนะคะกินยาแล้วก็เริ่มไม่ค่อยได้ผล
00:07:28 → 00:07:30 แล้วหรือยังทีนี้เนี่ยเนี่ยในไมเกรนเรื้อ
00:07:30 → 00:07:33 รังนะคะที่เขาเอา 15 วันเนี่ยจะมีคนไข้
00:07:33 → 00:07:36 กลุ่มนึงบอกว่าปวดไมเกรนไม่ถึงค่ะปวด
00:07:36 → 00:07:38 ไมเกรนตุบๆจริงๆอ่ะอาจจะแค่แบบ 10 วัน
00:07:38 → 00:07:40 อะไรอย่างเงี้ยอย่างงี้หนูเป็นไมเกรน
00:07:40 → 00:07:42 เรื้อรังมั้ยคะแต่ว่าปวดหัวบ่อยกว่านั้น
00:07:42 → 00:07:45 นะอันนี้นะคะในเกณฑ์วินิจฉัยเเขาคก็เอา
00:07:45 → 00:07:48 ว่าคนไข้ปวดมากกว่า 15 วันน่ะแต่ขอเป็น
00:07:48 → 00:07:51 ลักษณะไมเกรนน่ะแค่ 8 วันน่ะก็พอแล้ว
00:07:51 → 00:07:53 เพราะฉะนั้นคนไข้ปวดหัวเรื้อรงปวดไมเกรน
00:07:54 → 00:07:55 เรื้อรังเขาจะไม่ได้ตุบๆทุกวันแล้วนะ
00:07:55 → 00:07:58 อันเนี้ยมันจะฉีกกดอาการปวดไมเกรนอื่นๆละ
00:07:58 → 00:08:00 ว่าที่เขครู้สึกปวดหัวเกือบทุกวันน่ะบาง
00:08:00 → 00:08:03 ทีมันจะเป็นความตึงๆมึนๆสักครึ่งเดือนอ่ะ
00:08:03 → 00:08:05 อีกครึ่งเดือนค่อยเป็นไมเกรนแบบเนี้ยเรา
00:08:05 → 00:08:07 ก็จะเรียกรวมๆว่าเป็นไมเกรนเรื้อรัง
00:08:07 → 00:08:09 เหมือนกันเพราะฉะนั้นเนี่ยอาการปวดหัว
00:08:09 → 00:08:12 ไมเกรนเรื้อรังของคนไข้นะคะคนไข้จะเริ่ม
00:08:12 → 00:08:15 รู้สึกว่าเาไม่ได้เป็นเหมือนในตำราแล้ว
00:08:15 → 00:08:17 อ่ะไม่ได้รู้สึกว่ามันแบบตุ๊บๆตลอดละแต่
00:08:17 → 00:08:20 บางทีมันก็เป็นแนวแบบอึนๆอึนๆหัวไม่โล่ง
00:08:20 → 00:08:24 ได้นะคะแต่ว่าเอาว่าปวดหัวนั้นน่ะเอฟเฟค
00:08:24 → 00:08:26 กับชีวิตเขาแน่ๆแหละมีผลกับการทำงานความ
00:08:26 → 00:08:30 คิดสมาธิแล้วก็นำไปสู่การใช้ยแก้ปวดเพราะ
00:08:30 → 00:08:32 ฉะนั้นลองเช็คตัวเองที่ตอนนี้นะคะใครรู้
00:08:32 → 00:08:35 สึกว่าเราปวดหัวปวดบ่อยมากๆนะคะส่วนใหญ่
00:08:35 → 00:08:38 เกินประมาณซัก 10 122 วันเป็นต้นไปเริ่ม
00:08:38 → 00:08:41 เข้าขายละนะคะว่าเราอาจจะเลื้อรังยิ่งถ้า
00:08:41 → 00:08:43 เกิดมันเป็นแบบนี้มาติดๆกันหลายๆเดือน
00:08:43 → 00:08:45 อย่างน้อยก็สัก 3-4 เดือนเป็นต้นไปและ
00:08:45 → 00:08:47 อย่างน้อยมีลักษณะของอาการที่เหมือนเรา
00:08:47 → 00:08:50 สงสัยว่าเราจะเป็นไมเกรนเนี่ยแหละปวดตุ๊บ
00:08:50 → 00:08:52 ๆปวดข้างเดียวเนี่ยก็ให้เข้าขายละว่าเรา
00:08:53 → 00:08:55 น่าจะมีไมเกรนเรื้อรังทีนี้ความสำคัญของ
00:08:55 → 00:08:57 ไมเกรนเรื้อรังทำไมวันนี้เราต้องรู้จัก
00:08:57 → 00:08:59 กันเพราะว่าไมเกรนเรื้อรังรักษะษาแบบ
00:08:59 → 00:09:03 ไมเกรนทั่วไปไม่ได้นะคะถ้าคนที่เป็น
00:09:03 → 00:09:05 ไมเกรนเรื้อรังแล้วนะคะมันจะเกิดการ
00:09:05 → 00:09:09 กระตุ้นของระบบสมองอื่นๆตามมาวงจรการเกิด
00:09:09 → 00:09:12 ไมเกรนเนี่ยเหมอเคยอธิบายให้ฟังแล้วว่า
00:09:12 → 00:09:14 กลไกการเกิดไมเกรนเรารู้แล้วว่าคนไข้
00:09:14 → 00:09:17 เนี่ยมีตัวกระตุ้นเกิดการกระตุ้นระบบ
00:09:17 → 00:09:20 ประสาทแล้วก็หลอดเลือดไจ vascular System
00:09:20 → 00:09:22 เนี่ยที่เคยอธิบายให้ฟังกันเนี่ยมีตัว
00:09:22 → 00:09:25 กระตุ้นกระตุ้นระบบประสาทตรงนี้และเกิดทำ
00:09:25 → 00:09:28 ให้เกิดการหลังสารเคมีที่ผิดปกติเกิดสาร
00:09:28 → 00:09:31 การสาร cgrp ที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
00:09:31 → 00:09:33 แล้วก็สารอื่นๆอีกมากมายเนี่ยเกิดเป็น
00:09:33 → 00:09:36 อาการปวดหัวไมเกรนตุบๆๆขึ้นมาอันนั้นคือ
00:09:36 → 00:09:39 วงจรการเกิดไมเกรนทั่วๆไปนะคะแต่ว่าถ้าคน
00:09:39 → 00:09:42 ที่เป็นปวดไมเกรนเรื้อรังแรกๆเขามีตัว
00:09:42 → 00:09:45 กระตุ้นเกิดการกระตุ้นระบบประสาทหลังสาร
00:09:45 → 00:09:48 ปวดหัวแต่ถ้าวงจรนี้นะคะเกิดการทำงาน
00:09:49 → 00:09:52 อย่างต่อเนื่องนะคะตอนหลังๆเนี่ยมันจะ
00:09:52 → 00:09:55 กระตุ้นอ่าการทำงานของตัวมันเองและไม่
00:09:55 → 00:09:57 ต้องมีปัจจัยภายนอกมากระตุ้นแล้วก็ได้เรา
00:09:57 → 00:09:59 เรียกว่าเป็น Central sensitize
00:10:00 → 00:10:02 นะคะซึ่งในคนที่เป็นไมเกรนไม่เรื้อรังก็
00:10:02 → 00:10:05 มีแต่มันไม่ได้เยอะมากแต่คนที่เป็นไมเกรน
00:10:05 → 00:10:08 เรื้อรังเนี่ยภาวะที่มันกระตุ้นวงจรความ
00:10:08 → 00:10:11 ปวดกันเองอย่างต่อเนื่องเนี่ยมันเกิดขึ้น
00:10:11 → 00:10:13 อย่างต่อเนื่องและแทบจะตลอดเวลาทำให้คน
00:10:14 → 00:10:16 ไข้รู้สึกว่าอาการปวดหัวของเขาคแม้ไม่มี
00:10:16 → 00:10:19 ตัวกระตุ้นจากภายนอกเลยก็ตามเขาก็ปวดหัว
00:10:19 → 00:10:22 อยู่ดีเช่นส่วนใหญ่คนไข้ที่มาเจอหมอจะบอก
00:10:22 → 00:10:25 ว่าเมื่อก่อนเนี่ยต้องเจอแดดอากาศร้อนอด
00:10:25 → 00:10:29 นอนแล้วค่อยปวดหัวปวดไมเกรนแต่หลังๆตอน
00:10:29 → 00:10:31 ที่ที่มันเป็นเรื้อรางไปแล้วไม่ต้องมีตัว
00:10:31 → 00:10:34 กระตุ้นละตื่นมาคือปวดเลยหรือบางครั้งก็
00:10:34 → 00:10:36 รู้สึกว่าเราอ่ะพยายามใช้ชีวิตอย่างดี
00:10:37 → 00:10:39 แล้วนะนะคะเคยรู้มาว่าโอเคเป็นไมเกรนเรา
00:10:39 → 00:10:41 ต้องไม่เครียดเราต้องออกกำลังกายเราต้อง
00:10:41 → 00:10:44 นอนให้พอพยายามปรับทุกอย่างในชีวิตละกิน
00:10:44 → 00:10:48 ก็ดีนอนก็พอทำทุกอย่างพยายามไม่เครียดแต่
00:10:48 → 00:10:50 ทำไมปวดหัวมันยังอยู่นั่นก็อธิบายได้จาก
00:10:50 → 00:10:54 กลไกวงจรสมองตรงนี้แหละว่าคนไข้มีภาวะที่
00:10:54 → 00:10:56 มันกระตุ้นวงจรความปวดเองอย่างต่อเนื่อง
00:10:56 → 00:10:58 มี Central sensitization เองอย่างต่อ
00:10:58 → 00:11:03 เนื่องและทำให้เค้าเนี่ยเกิดเอ่อวงจรความ
00:11:03 → 00:11:05 ปวดเนี่ยไม่ต้องมีสิ่งเร้าก็ปวดหัวขึ้นมา
00:11:05 → 00:11:09 ได้นะคะนั่นเลยนำไปสู่ที่บอกว่าเอ่ออาการ
00:11:09 → 00:11:12 ปวดหัวไมเกรนมันไม่ใช่แค่โรคปวดหัวนะแต่
00:11:12 → 00:11:14 เป็นโรคของทางสมองที่มันซับซ้อนมากอันนี้
00:11:14 → 00:11:18 หมอก็จะแบบอธิอธิบายวงจรแบบแค่คร่าวๆนะคะ
00:11:18 → 00:11:20 เพื่อให้ไม่ได้อยากให้ต้องรู้จักวงจรนี้
00:11:20 → 00:11:23 หรอกแต่อยากให้เห็นภาพว่าทำไมตอนที่เรา
00:11:23 → 00:11:25 เป็นเรือรางไปแล้วอ่ะเราไม่ต้องมีตัว
00:11:25 → 00:11:28 กระตุ้นเราก็ยังปวดอยู่หรือทำไมเราแบบกิน
00:11:28 → 00:11:31 ยาแก้วปวดไปแล้วมันถึงไม่หายเพราะว่าเอ่อ
00:11:31 → 00:11:34 สมองของเราเนี่ยมันไวต่อสิ่งกระตุ้นมากๆ
00:11:34 → 00:11:37 นะคะหรือแม้แต่ไม่มีต่อปัจจัยกระตุ้นจาก
00:11:37 → 00:11:40 ภายนอกละเราก็มีอาการปวดหัวขึ้นมาเองได้
00:11:40 → 00:11:42 นะคะและที่สำคัญนะคะอันนี้นะคะก็คือเป็น
00:11:42 → 00:11:45 วงจรความปวดหัวแต่เรารู้แล้วว่าไอ้วงจร
00:11:45 → 00:11:48 เนี้ยนะสารสื่อประสาทต่างๆที่มันเกี่ยว
00:11:48 → 00:11:51 ข้องกับวงจรเนี้ยนะคะไม่ว่าจะเป็นพวก cgrp
00:11:51 → 00:11:54 เซโรโทนินหรือว่าสารอื่นๆอีกมากมายเนี่ย
00:11:54 → 00:11:57 มันไม่ได้เป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความปวด
00:11:57 → 00:11:59 เพียงอย่างเดียวเราเชื่อว่าเราค้นพบว่า
00:11:59 → 00:12:02 สารพวกเนี้ยมันยังเกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ
00:12:02 → 00:12:06 ด้วยเช่นโรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลนะคะหรือ
00:12:06 → 00:12:09 โรคความปวดอื่นๆและที่ไม่ใช่แค่ปวดหัว
00:12:09 → 00:12:12 เช่นคนไข้อาจจะเป็นกลุ่มปวดตัวเรื้อรังนะ
00:12:12 → 00:12:15 คะที่หาสาเหตุอย่างอื่นก็ไม่เจอซึ่งมัน
00:12:15 → 00:12:18 สามารถอธิบายได้จากภาวะสมองของเราที่มัน
00:12:18 → 00:12:20 ตอบสนองต่อความปวดตรงเนี้ยเปลี่ยนแปลงไป
00:12:20 → 00:12:22 ได้หมดเลยนะคะเนาะเพราะฉะนั้นคนไข้ที่
00:12:22 → 00:12:25 เป็นไมเกฑ์เรื้อรังอ่ะหมอถึงให้ความสำคัญ
00:12:25 → 00:12:28 มากว่าถ้าเขายเรื้อรังแล้วเนี่ยยังไงก็
00:12:28 → 00:12:30 ต้องรักษามันจะไม่เหมือนกับคนไข้ที่แบบ
00:12:30 → 00:12:33 นานๆทีเป็นทีอันนั้นเนี่ยเราจะเน้นที่การ
00:12:33 → 00:12:35 ดูแลตัวเองการปรับการใช้ชีวิตแล้วก็การ
00:12:35 → 00:12:37 หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นเป็นหลักคนไปเกณฑ์
00:12:37 → 00:12:39 เรื้อรังก็ยังต้องทำสิ่งเหล่านั้นอยู่
00:12:39 → 00:12:42 เพียงแต่ว่าเราต้องรักษาวงจรสมองของเรา
00:12:42 → 00:12:45 ตรงเนี้ยให้ไม่ไวต่อตัวกระตุ้นจนไปเกินไป
00:12:46 → 00:12:48 ด้วยไม่งั้นนะคะสิ่งที่เกิดขึ้นคือเราดู
00:12:48 → 00:12:52 แลตัวเองอ่ะวงจรกระตุ้นปวดดูแลตัวเองปวด
00:12:52 → 00:12:55 คนไขก็จะรู้สึกท้อว่าดูแลตัวเองดียังไง
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยเราก็ไม่หายปวดหัวอยู่ดีนะคะอาจจะนำ
00:12:58 → 00:13:00 ไปสู่ว่าอ่ะงั้นก็กลับไปนอนดึกหรือว่าไป
00:13:00 → 00:13:02 ใช้ชีวิตที่มันยิ่งทำให้อาการปวดมากขึ้น
00:13:02 → 00:13:05 ไปอีกอันนี้ก็จะเป็นตัววงจรสมองที่บอกว่า
00:13:05 → 00:13:08 ทำไมไมเกรนเรื้อรังถึงคิดแบบคนที่เป็น
00:13:08 → 00:13:11 ไมเกรนทั่วไปไม่ได้รักษาเหมือนคนที่เป็น
00:13:11 → 00:13:14 ไมเกรนทั่วไปไม่ได้ซึ่งแล้วใครล่ะที่จะ
00:13:14 → 00:13:17 เสี่ยงกับการเป็นไมเกรนเรื้อรังจริงๆแล้ว
00:13:17 → 00:13:20 นะคะไมเกรนเรื้อรังนะถ้าคนที่เริ่มเป็น
00:13:20 → 00:13:23 ไมเกรนใหม่ๆเนี่ยเอ่อแรกๆเลยอ่ะทุกคนที่
00:13:23 → 00:13:26 เวลาเป็นไมเกรนทุกคนจะเหมือนๆกันก็คือ
00:13:26 → 00:13:29 เป็นไมเกรนแค่เราเรียกว่าเป็นไมเกรนที่
00:13:29 → 00:13:30 ที่เป็นแบบชนิดเป็นน้อยหรือว่าเป็นแค่
00:13:30 → 00:13:33 คั้งคราวนะคะหรือว่าเป็นแค่ episodic
00:13:33 → 00:13:36 episodic ก็คือเป็นค้างคราวไมเกรนนะคะคน
00:13:36 → 00:13:38 ไข้ทุกคนจะต้องเคยผ่านเฟสนี้ว่ามีตัว
00:13:38 → 00:13:41 กระตุ้นแสงแดดความเครียดอดนอนประจำเดือน
00:13:41 → 00:13:44 อะไรต่างๆเกิดการกระตุ้นวงจรสมองแล้วก็
00:13:44 → 00:13:47 เป็นอาการปวดหัวซึ่งทุกคนก็จะเริ่มจากปวด
00:13:47 → 00:13:50 น้อยๆเป็นไม่บ่อยเดือนนึง 2 ครั้งครั้ง 2
00:13:50 → 00:13:53 ครั้งหรือนานๆทีเป็นทีพอเริ่มปวดบ่อยขึ้น
00:13:53 → 00:13:55 เข้าก็อาจจะเริ่มปวดเป็นประจำเช่นประมาณ
00:13:55 → 00:13:58 สัก 4-6 ครั้งต่อเดือนพอเริ่มปวดบ่อยขึ้น
00:13:58 → 00:14:01 ไปอีกเราก็จะเริ่มบอกว่าเริ่มเป็นไมเกรน
00:14:01 → 00:14:02 ที่เป็นคังคาวที่เป็นบ่อยแล้วนะเริ่มเป็น
00:14:02 → 00:14:05 High frequency episodic ไมเกนแล้วนะ
00:14:05 → 00:14:07 นะคะก็อาจจะเริ่มปวดไปเป็น 10 ครั้งต่อ
00:14:07 → 00:14:10 เดือน 14 ครั้งต่อเดือนและสุดท้ายพอมัน
00:14:10 → 00:14:12 เริ่มเกินประมาณสัก 15 ครั้งต่อเดือนหรือ
00:14:12 → 00:14:14 ว่าเกินครึ่งเดือนเป็นต้นไปเนี่ยเราก็จะ
00:14:14 → 00:14:17 บอกว่าคนไคร่เนี่ยเข้าสู่ไมเกรนเรื้อรง
00:14:17 → 00:14:19 และเป็นโคนิคละนะคะเพราะฉะนั้นทุกคนจะมี
00:14:19 → 00:14:22 เฟสเป็นน้อยมาก่อนนะแล้วเริ่มเป็นี่แล้ว
00:14:22 → 00:14:25 ค่อยเป็นเรือหลังหายากมากๆนะคะที่อยู่ดีๆ
00:14:25 → 00:14:28 แบบว่าโอหเป็นไมเกรนมาแล้วอยู่ดีๆก็คือมา
00:14:28 → 00:14:31 เจอเป็นเรือลังเลยส่วนใหญ่กลุ่มนั้นเนี่ย
00:14:31 → 00:14:33 หมอพบว่าอาจจะต้องแบบเป็นมาไมเกรนมาไม่
00:14:33 → 00:14:36 ได้นานมากนะคะแบบหลักไม่ได้กี่เดือนหรือ
00:14:36 → 00:14:38 ว่าเป็นปีแต่ว่ามีปัจจัยเรื่องอื่นที่มา
00:14:38 → 00:14:40 กระตุ้นหนักๆด้วยเช่นมีโรคซุมเศร้าด้วยมี
00:14:40 → 00:14:43 โรควิตกกังดนด้วยกลุ่มเนี้ยโอเคคนไข้จะ
00:14:43 → 00:14:46 เทิร์นเป็นไมเกรนเหือรังที่เร็วกว่าคน
00:14:46 → 00:14:49 ปกติแต่ว่าถ้าเกิดคนที่เป็นไมเกรนทั่วๆไป
00:14:49 → 00:14:52 อ่ะเป็น episodic มาก่อนเป็นครั้งคราวมา
00:14:52 → 00:14:54 ก่อนถามว่านานมยจะถึงกลายเป็นไมเกรนเรื้อ
00:14:54 → 00:14:57 รังเนี่ยส่วนใหญ่นะคะก็ใช้เวลาหลากหลายปี
00:14:57 → 00:15:00 นะส่วนใหญ่ก็เฉลี่ยอยู่ประมาณแบบ 2-3 ปี
00:15:00 → 00:15:02 เป็นต้นไปเคเคยแบบเก็บงานวิจัยค้นพบว่าคน
00:15:02 → 00:15:05 ไข้ที่เป็นคั้งคราวน่ะสามารถเทิร์นไปเป็น
00:15:05 → 00:15:08 เรื้อรังได้กลายไปเป็นเรื้อรังได้ถึงแม้
00:15:08 → 00:15:09 ว่าเราจะไม่ได้ใช้ยาแก้ปวดเยอะหรือว่าเรา
00:15:09 → 00:15:12 ดูแลตัวเองดีแทบตายเนี่ยก็อาจจะเกกลาย
00:15:12 → 00:15:15 เป็นเป็นไมเกรนเรื้อรังได้ประมาณ 2-3 เพ
00:15:15 → 00:15:17 ต่อปีนั่นหมายความว่าทุกคนที่เป็นไมเกรน
00:15:17 → 00:15:20 มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นไมเกรนเรื้อรัง
00:15:20 → 00:15:22 ได้นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเรายิ่งต้องคุม
00:15:22 → 00:15:24 ปัจจัยเสี่ยงให้ดีนะคะดูแลตัวเองให้ดีนะ
00:15:24 → 00:15:27 คะเราจะได้ไม่กลายเป็นไมเกรนเรื้อรังให้
00:15:27 → 00:15:29 ได้มากที่สุดถามว่าปัจจัยเสี่ยงอะไรล่ะ
00:15:29 → 00:15:31 ที่จะมากระตุ้นความเป็นไมเกรนน้อยๆตรงเ
00:15:31 → 00:15:34 ให้เป็นเรือรังได้เร็วขึ้นนะคะอันแรกเลย
00:15:34 → 00:15:36 ความสำคัญเลยก็คือเรื่องของความถี่ของ
00:15:36 → 00:15:39 ไมเกรนเองนะคะความถี่ของไมเกรนเนี่ยจะ
00:15:39 → 00:15:43 เป็นตัวปัจจัยที่อธิบายจากวงจรสมองเมื่อ
00:15:43 → 00:15:46 กี้ค่ะเราเจอตัวกระตุ้นวงจรถูกสมองถูก
00:15:46 → 00:15:49 กระตุ้นปวดหัวเจอตัวกระตุ้นสมองถูก
00:15:49 → 00:15:51 กระตุ้นปวดหัวเพราะฉะนั้นนึกภาพตามเหมือน
00:15:51 → 00:15:54 ไฟรัดวงจรน่ะค่ะเหมือนไฟไหม้ก็ได้หรือ
00:15:54 → 00:15:56 อะไรก็ได้ที่พอเราเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้
00:15:56 → 00:15:59 อ่ะที่เคยช็อตไป 1 ครั้งแล้วอ่ะแล้วถ้า
00:15:59 → 00:16:01 เราใช้งานอ่ะแล้วมันก็แบบช็อตอีกรัดวงจร
00:16:01 → 00:16:04 อีกอ่ะมันก็จะยิ่งไวต่อการช็อตแล้วก็ดรัด
00:16:04 → 00:16:06 วงจรมากขึ้นเรื่อยๆนะคะเพราะฉะนั้นคนที่
00:16:06 → 00:16:08 เป็นไมเกรนครั้งคราวแบบว่าเจอตัวกระตุ้น
00:16:08 → 00:16:11 บ่อยๆที่ทำให้ไมเกรนมาบ่อยๆอ่ะเช่นคนที่
00:16:11 → 00:16:13 แบบกระตุ้นจากความเครียดหรือว่ากระตุ้น
00:16:13 → 00:16:15 จากแสงแดดก็ได้แล้วเราก็ยังแบบเอ้ยไปเจอ
00:16:15 → 00:16:17 ตัวกระตุ้นนาๆแล้วก็ปวดหัวเจอตัวกระตุ้น
00:16:17 → 00:16:20 นาๆแล้วปวดหัวยิ่งปวดถี่บ่อยขึ้นเท่าไหร่
00:16:20 → 00:16:23 มันก็จะยิ่งทำให้วงจรนั้นน่ะไวต่อความปวด
00:16:23 → 00:16:26 ได้มากขึ้นนะคะก็จะยิ่งเกิดเป็นความถี่
00:16:26 → 00:16:28 ของไมเกรนที่มันถี่ขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
00:16:28 → 00:16:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยความถี่ไมเกรนเนี่ยถึง
00:16:30 → 00:16:33 เป็นปัจจัยสำคัญเลยนะคะว่าจะทำให้คนเนี้ย
00:16:33 → 00:16:35 กลายเป็นไมเกรนเรื้อรางแล้วถี่แค่ไหนล่ะ
00:16:35 → 00:16:38 ถึงเสี่ยงเคยมีคนแบบว่าเก็บตัวเลขนะคะคั
00:16:38 → 00:16:40 Point เนี่ยก็คือเอาเกินประมาณสัก 4
00:16:40 → 00:16:43 ครั้งต่อเดือนเป็นต้นไปหมอก็ให้เฉลี่ยสัก
00:16:43 → 00:16:45 ประมาณ 4-6 ครั้งต่อเดือนก็ได้เพราะบางที
00:16:45 → 00:16:48 แบบเอ้ยเดือนนี้ 3 เดือนนี้ 5 เดือนนี้ 6
00:16:48 → 00:16:50 อะไรอย่างเงี้ยค่ะเราก็ดูแบบเป็นภาพรวม
00:16:50 → 00:16:53 แต่เมื่อไร่ที่มันเริ่มปวดแบบมาแบบสม่ำ
00:16:53 → 00:16:55 เสมอมากขึ้นเรื่อยๆละเกินประมาณสัก 4-6
00:16:55 → 00:16:57 ครั้งต่อเดือนเป็นต้นไปนะคะพบว่ากลุ่ม
00:16:57 → 00:17:00 เนี้ยเสี่ยงที่ที่จะกลายเป็นไมเกรนเรื้อ
00:17:00 → 00:17:03 รงมากขึ้นนะคะอันนึงเลยก็อธิบายจากตัววง
00:17:03 → 00:17:06 จรของสมองนั่นแหละที่มันก็จะไวต่อความปวด
00:17:06 → 00:17:08 ไวต่อสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้นมากขึ้นไปอีกอีก
00:17:08 → 00:17:11 อันนึงคือเรื่องของการใช้ยาแก้ปวดนึกภาพ
00:17:11 → 00:17:15 ตามว่าถ้าเกิดคนไข้ปวดหัวบ่อยปวดถี่นั่น
00:17:15 → 00:17:17 หมายความว่าเขาจะต้องใช้ยาแก้ปวดเยอะตาม
00:17:17 → 00:17:20 เนาะอย่างเช่นถ้าเราปวดหัวเดือนละครั้ง
00:17:20 → 00:17:22 โอเคครั้งนึงเนี่ยปวดไมเกรนนะคะส่วนใหญ่
00:17:22 → 00:17:25 โดยเฉลี่ยคนไข้มักจะต้องทานยาประมาณ 1-2
00:17:25 → 00:17:27 เม็ดตอนเป็นใหม่ๆเนี่ยปวดน้อยน้อยเม็ด
00:17:27 → 00:17:29 เดียวเอาอยู่แต่ว่าถ้าเริ่มเป็นมานาขึ้น
00:17:29 → 00:17:31 เนี่ยส่วนใหญ่อ่ะปวดครั้งนึงต้องใช้
00:17:31 → 00:17:33 ประมาณซัก 2 เม็ด 2 เม็ดอาจจะเป็นยาตัว
00:17:33 → 00:17:35 เดียวกันหรือว่ายาคนละชนิดอ่าชนิดกันที่
00:17:36 → 00:17:39 กินร่วมกันลองคุณเล่นๆคร่าวๆว่าถ้าเราปวด
00:17:39 → 00:17:41 หัวประมาณสัก 4 ครั้งอ่ะ 4-5 ครั้งต่อ
00:17:42 → 00:17:44 เดือนขึ้นไปนั่นหมายความว่าถ้าเราใช้
00:17:44 → 00:17:46 ครั้งละ 2 เม็ดนั่นหมายความว่าเราเดือน
00:17:46 → 00:17:48 นึงเราจะใช้ประมาณยาแก้ป่วดประมาณ 10
00:17:48 → 00:17:51 เม็ดละซึ่งเรารู้แล้วว่าการใช้ยามากกว่า
00:17:51 → 00:17:53 10-15 เม็ดต่อเดือนมันจะนำไปสู่การใช้ยา
00:17:53 → 00:17:56 แก้ปวดที่มากเกินไปแล้วสุดท้ายตรงนั้นน่ะ
00:17:56 → 00:17:59 จะย้อนมากระตุ้นอาการปวดหัวเราให้มันเป็น
00:17:59 → 00:18:01 บ่อยขึ้นเพราะฉะนั้นใครที่เป็นไมเกรนความ
00:18:01 → 00:18:04 ถี่น้อยๆอยู่ลองสังเกตตัวเองว่าเราปวด
00:18:04 → 00:18:07 ความถี่แค่ไหนถ้าเดือนละครั้ง 2 ครั้งยัง
00:18:07 → 00:18:09 ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนะคะก็พยายามดูแลตัว
00:18:09 → 00:18:11 เองให้ดีปรับเ่าปัจจัยเสี่ยงหลีกเลี่ยง
00:18:11 → 00:18:13 ตัวกระตุ้นให้มากที่สุดนะคะเราก็จะยัง
00:18:13 → 00:18:15 เป็นไมเกรนที่เป็นชนิดครั้งคราวต่อไปแต่
00:18:15 → 00:18:17 ถ้าใครที่เริ่มรู้สึกว่าไมเกนเราเริ่มมา
00:18:17 → 00:18:20 สม่ำเสมอนะคะมากขึ้นเรื่อยๆละเกิน 4
00:18:20 → 00:18:22 ครั้ง 5 ครั้งละถึงแม้เราจะยังไม่ได้เป็น
00:18:22 → 00:18:24 เรื้อรงนะแต่กลุ่มนี้นะคะเราจะเรียกว่า
00:18:25 → 00:18:27 เริ่มเป็นไมเกรนที่เป็นถี่ถ้ารักษาได้
00:18:27 → 00:18:30 เร็วย้อนกลับไปให้ไมเกรนของเราเนี่ยเป็น
00:18:30 → 00:18:33 นานๆทีเป็นทีเป็นน้อยๆเนี่ยเราก็จะป้อง
00:18:33 → 00:18:36 กันการเป็นไมเกรนเรื้อรงได้ง่ายนะคะแล้ว
00:18:36 → 00:18:38 ก็รักษาได้ผลดีมากด้วยนะคะยิ่งรักษาเร็ว
00:18:39 → 00:18:41 ก็ยิ่งรักษาง่ายอันที่ 2 นะคะนอกจาก
00:18:41 → 00:18:43 ปัจจัยของเรื่องของความถี่ของตัวไมเกรน
00:18:43 → 00:18:46 แล้วนะคะก็คือเรื่องของการใช้ยาแก้ปวดมาก
00:18:46 → 00:18:48 เกินไปหรือบางครั้งเขาคก็เรียกว่าภาวะติด
00:18:48 → 00:18:50 ยาแก้ปวดนะแต่หมออ่ะไม่ค่อยอยากใช้คำว่า
00:18:51 → 00:18:53 ติดยาแก้ปวดในคนไข้ไมเกรนเพราะเรารู้แล้ว
00:18:53 → 00:18:55 ว่าจริงๆคนไข้ไม่ได้อยากติดยานะคะคำว่า
00:18:55 → 00:18:58 ติดยาคือเหมือนแบบจริงๆเราไม่ได้นดก็ได้
00:18:58 → 00:19:00 อ่ะเราได้ต้องการมันก็ได้แต่ว่าเราใช้มัน
00:19:00 → 00:19:02 แต่คนไข้ไมเกรนไม่ใช่แบบนั้นนะคะคนไข้
00:19:02 → 00:19:04 ไมเกรนเนี่ยอาการปวดไมเกรนลักษณะของ
00:19:04 → 00:19:07 ไมเกรนเนี่ยเบอกเลยว่าเป็น moderate to
00:19:07 → 00:19:09 severe นะคะก็คือเป็นปวดปานกลางถึง
00:19:09 → 00:19:12 รุนแรงเลยนะคะปวดมาแต่ละครั้งไม่ใช่อาการ
00:19:12 → 00:19:15 ปวดแบบปวดแบบรำคาญอ่ะปวดจนแบบต้องไปนอน
00:19:15 → 00:19:18 พักปวดจนอาเจียนปวดจนต้องแบบเอ่อมีผลกับ
00:19:18 → 00:19:21 การเรียนหรือการทำงานณณเวลาที่ปวดนั้นๆนะ
00:19:21 → 00:19:23 คะเพราะฉะนั้นอาการไมเกรนคนไข้อ่ะถ้ามัน
00:19:23 → 00:19:27 มาและมันไม่ใช่ว่าเขาจะทนได้ส่วนใหญ่จะ
00:19:27 → 00:19:29 ต้องจบที่การใช้ใช้ยาแก้ปวดนั่นแหละนะคะ
00:19:29 → 00:19:32 เนาะหมอถึงแบบไม่ได้อยากให้รู้สึกว่าเค้า
00:19:32 → 00:19:34 ติดยาแก้ปวดขนาดนั้นแต่มันเป็นเพราะว่า
00:19:34 → 00:19:36 ความถี่ที่มันมาบ่อยแล้วอาการที่มัน
00:19:36 → 00:19:40 รุนแรงเคถึงต้องใช้ยาแก้ปวดต่างหากทีนี้
00:19:40 → 00:19:44 ใช้ยาแก้ปวดที่มากเกินไปสุดท้ายตรงนั้น
00:19:44 → 00:19:48 น่ะมันจะมาย้อนไอ้วงจรกระตุ้นไมเกรนเมื่อ
00:19:48 → 00:19:51 กี้ที่เรารู้จักอ่ะทำให้เราอ่ะปวดหัวง่าย
00:19:51 → 00:19:54 ขึ้นไปอีกปวดบ่อยขึ้นไปอีกนะคะหรือที่เรา
00:19:54 → 00:19:57 เรียกว่า medication overuse Head EG
00:19:57 → 00:20:00 นะคะ medication ก็คือยา overuse ก็คือ
00:20:00 → 00:20:03 ใช้มากเกินไป Head คืออาการปวดศีรษะแปร
00:20:03 → 00:20:06 ตรงตัวก็คือเป็นโรคปวดศีรษะที่เกิดจากการ
00:20:06 → 00:20:10 ใช้ยาแก้ปวดที่มากเกินไปมากแค่ไหนถ้าเป็น
00:20:10 → 00:20:13 กลุ่มปวดทั่วๆไปนะเช่นกลุ่มพวก
00:20:13 → 00:20:16 พาราเซตามอลกลุ่มเอ่อยาแก้ปวดที่ไม่ใช่
00:20:16 → 00:20:18 สเตียรอยด์เอนเซนนะคะเช่นไอ้บูโรเฟนนา
00:20:18 → 00:20:21 พรอกเซนต่างๆนะคะกลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ
00:20:21 → 00:20:24 ต่างๆกลุ่มเนี้ยเราให้ได้ถึงประมาณสัก 15
00:20:24 → 00:20:27 เม็ดต่อเดือนแต่ถ้าเป็นยาแก้ปวดกลุ่ม
00:20:27 → 00:20:29 ไมเกรนโดยตรงเช่นกลุ่มเออร์กอนหรือกลุ่ม
00:20:30 → 00:20:33 พวกทริปแทนกลุ่มยาใหม่ๆเนี่ยนะคะหรือเป็น
00:20:33 → 00:20:35 บางคนใช้ข้ามสเต็ปไปเลยไปใช้กลุ่มพวก
00:20:35 → 00:20:38 อนุพันธ์มอร์ฟีนเช่นพวกกลุ่มไปเลยนะคะ
00:20:38 → 00:20:41 พวกนี้ถือว่าเป็นกลุ่มยาที่เอ่อจะติดยา
00:20:41 → 00:20:43 ได้ง่ายกว่าแล้วก็กระตุ้นสมองได้มากกว่า
00:20:43 → 00:20:46 พวกนี้นะคะเอาแค่ประมาณ 10 เม็ดต่อเดือน
00:20:46 → 00:20:49 ก็ถือว่าใช้ยาเกินละแล้วถ้าเราใช้แบบ
00:20:49 → 00:20:51 เนี้ยประมาณสัก 3 เดือนติดกันนะคะก็คือ
00:20:51 → 00:20:53 คล้ายๆตัวเลขของไมเกณฑเรื้อรังนั่นแหละ
00:20:53 → 00:20:56 เนาะอ่ายาแก้ปวดก็เหมือนกันถ้าใช้เกินสัก
00:20:56 → 00:20:59 3 เดือนติดกันเป็นต้นไปสุดท้ายท้ายจะ
00:20:59 → 00:21:02 เกิดภาวะ moh ก็คือปวดหัวจากยาแก้วปวดกัน
00:21:02 → 00:21:06 กนานนะคะซึ่งอันเนี้ยหมอว่ามันเป็นปัจจัย
00:21:06 → 00:21:08 เสี่ยงหลักๆเลยนะของคนไข้ไมเกรนเรื้อรัง
00:21:08 → 00:21:11 ที่มาเจอกันแล้วทำให้คนไข้เนี่ยยิ่งปวด
00:21:11 → 00:21:14 หัวมากขึ้นปวดอ่ามากขึ้นเรื่อยๆใช้ยาแก้
00:21:14 → 00:21:16 ปวดมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสุดท้ายมันเหมือน
00:21:16 → 00:21:19 เป็นวงจรที่เราไม่รู้จะจัดการยังไงกับมัน
00:21:19 → 00:21:23 น่ะเพราะว่าปวดหัวไม่กินยาก็ทนไม่ได้กิน
00:21:23 → 00:21:26 ยาไปอ้าเริ่มไม่หายก็ต้องใช้ยามากขึ้นแต่
00:21:26 → 00:21:28 จะไม่กินยาก็ใช้ชีวิตไม่ได้นะคะเพราะ
00:21:28 → 00:21:31 ฉะนั้นวงจรเนี่ยคนไข้จะรู้สึกว่าเค้าไม่
00:21:31 → 00:21:33 สามารถจัดการชีวิตตัวเองได้อีกต่อไปละนะ
00:21:34 → 00:21:36 คะแล้วก็นำไปสู่อารมณ์ที่ผิดปกติตามมา
00:21:36 → 00:21:39 ความเครียดวิตกกังวลซึมเศร้าต่างๆนะคะแต่
00:21:39 → 00:21:42 ให้รู้ไว้เลยว่าปัจจุบันมีทางรักษาเพราะ
00:21:42 → 00:21:45 ฉะนั้นเนี่ยฟังต่อนะคะว่าเอ้ยถ้าเราเป็น
00:21:45 → 00:21:47 ข้าวข่ายกลุ่มนี้นะเราจะจัดการดูแลตัวเอง
00:21:47 → 00:21:50 ได้ยังไงนอกเหนือจากความถี่ของอาการ
00:21:50 → 00:21:53 ไมเกรนและการใช้ยาแก้ปวดแล้วนะคะปัจจัย
00:21:53 → 00:21:55 เสี่ยงอื่นๆที่เขาเจอว่าถ้าเรามีลักษณะ
00:21:55 → 00:21:58 แบบเนี้ยก็จะยิ่งทำให้เราอ่ะเสี่ยงต่อ
00:21:58 → 00:22:00 เป็นเกณฑ์เรื้อรังมากยิ่งขึ้นอีกนะคะอัน
00:22:00 → 00:22:02 แรกเลยก็คือเรื่องของอารมณ์นั่นแหละความ
00:22:02 → 00:22:05 เครียดวิตกกังวลเรารู้อยู่แล้วว่ายิ่ง
00:22:05 → 00:22:08 เครียดยิ่งกังวนสุดท้ายก็จะเป็นหนึ่งใน
00:22:08 → 00:22:11 ตัวกระตุ้นไมเกรนและพอยิ่งเป็นไมเกรนบ่อย
00:22:11 → 00:22:13 ก็ยิ่งย้อนกลับไปกระตุ้นทำให้อารมณ์เรา
00:22:13 → 00:22:16 ยิ่งแย่ลงอีกไปดปวดหัวบ่อยๆหาอะไรก็ไม่
00:22:16 → 00:22:19 เจอหามาก็หลายที่สแกนก็ไม่เคยเจอความผิด
00:22:19 → 00:22:21 ปกติอะไรแต่ทำไมเราถึงไม่หายปวดหัวมันก็
00:22:21 → 00:22:24 ว้อนย้อนวงจรกลับไปกลับมานะคะยิ่งเครียด
00:22:24 → 00:22:27 ก็ยิ่งปวดยิ่งปวดก็ยิ่งเครียดกลุ่มเนี้ย
00:22:27 → 00:22:29 คนไข้ก็พอเริ่มเริ่มมีอารมณ์ที่ผิดปกติ
00:22:29 → 00:22:32 มากๆเข้าเนี่ยมันก็เหมือนกระตุ้นกันไป
00:22:32 → 00:22:35 กระตุ้นกันมาแล้วก็เริ่มเข้าสู่วงจรความ
00:22:35 → 00:22:38 ปวดเรื้อรังที่ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรง
00:22:38 → 00:22:40 ไหนก่อนแล้วคนไข้บางคนเริ่มรู้สึกว่าเอ่อ
00:22:40 → 00:22:42 หาหมอจิตแพทย์ก่อนดีมั้ยคะหรือจะมารักษา
00:22:42 → 00:22:45 ปวดหัวก่อนดีเพราะมันเริ่มแยกไม่ออกแล้ว
00:22:45 → 00:22:48 ว่าเราเป็นแค่โรคเครียดหรือว่าจริงๆเรา
00:22:48 → 00:22:50 เครียดจากที่เราปวดหัวเยอะคนไข้ที่มีความ
00:22:50 → 00:22:53 เครียดความกังวลมากๆเนี่ยพบว่าเสี่ยงต่อ
00:22:53 → 00:22:55 ปัจจัยเฉี่ยงที่ทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรัง
00:22:55 → 00:22:58 มากยิ่งขึ้นอันอื่นๆก็คือเรื่องของโรค
00:22:58 → 00:23:02 อ้วนนะคะโรคอ้วนเนี่ยหลายคนเวลาหมออธิบาย
00:23:02 → 00:23:04 คนไข้ว่าเออจริงๆเนี่ยภาวะที่น้ำหนักตัว
00:23:04 → 00:23:07 เกินเนี่ยมันสามารถกระตุ้นไมเกรนได้นะ
00:23:07 → 00:23:08 เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เนี่ยหมอก็จะแบบพอเรา
00:23:08 → 00:23:11 รักษาไมเกรนกันดีๆอยากให้คนไข้เนี่ยได้
00:23:11 → 00:23:14 ปรับการใช้ชีวิตถ้าใครมีภาวะน้ำหนักตัว
00:23:14 → 00:23:16 ที่มันเยอะเกินไปเมื่อเทียบกับส่วนสูงน้ำ
00:23:16 → 00:23:18 หนักเนี่ยเราก็จะแบบพยายามบอกให้คนไข้
00:23:18 → 00:23:21 เห็นความสำคัญว่าเออทำไมเราต้องลดน้ำหนัก
00:23:21 → 00:23:23 นะคะเพราะจริงๆแล้วเนี่ยเขาเจอแล้วว่า
00:23:23 → 00:23:26 ภาวะที่น้ำหนักตัวเกินผิดปกติเป็นหนึ่งใน
00:23:26 → 00:23:28 ตัวกระตุ้นไมเกรนทำให้ไมเกรนมันเป็นบ่อย
00:23:28 → 00:23:31 ขึ้นและนอกจากไมเกรนเองแล้วเนี่ยโรคที่
00:23:31 → 00:23:33 เป็นน้ำหนักตัวผิดปกติก็ยังกระตุ้นให้
00:23:33 → 00:23:35 เกิดโรคหลอดเลือดต่างๆด้วยนะคะไม่ว่าจะ
00:23:35 → 00:23:38 เป็นความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดหัวใจ
00:23:38 → 00:23:41 ตีบนะคะโรคหลอดเลือดสมองตีบซึ่งปัจจัยพวก
00:23:41 → 00:23:43 เนี้ยเราเรียกว่าภาวะ metabolic Syndrome
00:23:43 → 00:23:44 ต่างๆเนี่ยก็พบว่าสุดท้ายเดี๋ยวมันก็
00:23:44 → 00:23:47 เกี่ยวข้องกันไปเกี่ยวข้องกันมาไมเกรนเอง
00:23:47 → 00:23:49 ก็เหมือนกันใครที่เป็นไมเกรนเองบ่อยๆโดย
00:23:49 → 00:23:52 เฉพาะเป็นไมเกรนที่มีออร่าเนี่ยก็พบว่า
00:23:52 → 00:23:54 เออหลังๆเนี่ยเก็บงานวิจัยออกมาก็พบว่าคน
00:23:54 → 00:23:57 ไข้กลุ่มเนี้ยก็ดูจะมีความเสี่ยงของคนไข้
00:23:57 → 00:24:00 ที่มีโรคหลอดเลือดผิดปกติในอนาคตข้างหน้า
00:24:00 → 00:24:02 ได้มากกว่าคนปกติเหมือนกันเพราะฉะนั้นพวก
00:24:02 → 00:24:04 เมันเป็นปัจจัยเรื่องของเกี่ยวข้องกับพวก
00:24:04 → 00:24:07 โรคหลอดเลือดต่างๆนะคะที่จะมากระตุ้นกัน
00:24:07 → 00:24:10 นะเพราะฉะนั้นคนไข้นะคะจริงๆไเป็นเราเป็น
00:24:10 → 00:24:13 ไมเกรนนะแล้วเราลองดูแลตัวเองอ่ะคุมอาหาร
00:24:13 → 00:24:16 ลดน้ำหนักออกกำลังกายบางคนทำเท่านี้นะอ่า
00:24:16 → 00:24:19 อาการปวดไมเกรนเราก็ถี่น้อยลงได้เหมือน
00:24:19 → 00:24:21 กันและอีกอันนึงเลยที่เจอบ่อยๆเหมือนกัน
00:24:21 → 00:24:23 เลยก็คือเรื่องของความตึงตัวของกล้าม
00:24:23 → 00:24:25 เนื้อกล้ามเนื้อตึงนะคะหรือบางคนก็จะ
00:24:25 → 00:24:28 เรียกว่าอ่าเป็น Office syndrome ก็ได้
00:24:28 → 00:24:31 หือหรือเป็นกลุ่มที่เป็นเหมือนปวดคอปวด
00:24:31 → 00:24:33 ต้นคอเรือหลังอันนี้เนี่ยจริงๆเป็นทั้ง
00:24:33 → 00:24:36 ตัวปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดไมเกรนเรื้อ
00:24:36 → 00:24:40 รังและจริงๆแล้วคนที่เป็นไมเกรนเรื้อรัง
00:24:40 → 00:24:43 ก็จะมีกล้ามเนื้อที่ตึงตัวมากขึ้นปัจจัย
00:24:43 → 00:24:45 เสี่ยงที่หมอพูดในที่ที่เนี้ยอ่าจริงๆ
00:24:45 → 00:24:48 แล้วเนาะทุกแทบจะทุกอันเลยอ่ะมันเหมือน
00:24:48 → 00:24:51 อันนึงจะกระตุ้นไมเกรนก่อนแล้วสุดท้ายอ่ะ
00:24:51 → 00:24:53 ไอ้ตัวไมเกรนเองก็มาทำให้อันนั้นน่ะมัน
00:24:53 → 00:24:56 แย่งลงด้วยเช่นพอคนที่ไข้ที่ปวดหัวไมเกรน
00:24:56 → 00:24:59 น่ะค่ะตอนที่เราปวดไมเกนมากๆปวดหัวมากๆนะ
00:24:59 → 00:25:02 คะมันจะมีการหลัสารสืบประสาทสารเคมีต่างๆ
00:25:02 → 00:25:05 ที่มันออกมาผิดปกติเนี่ยจะเกิดอาการนึงก็
00:25:05 → 00:25:07 คือเรื่องของตัว next stiffness ก็คือ
00:25:07 → 00:25:10 กล้ามเนื้อคอเนี่ยมันตึงตัวมากกว่าปกตินะ
00:25:10 → 00:25:13 คะหลายคนรู้เลยบอกว่าถ้าคอเริ่มตึงเดี๋ยว
00:25:13 → 00:25:16 ไมเกรนมาหรือบางคนก็จะบอกว่าบางทีอ่ะไม่
00:25:16 → 00:25:18 ได้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อตึงมากแต่ปวด
00:25:18 → 00:25:21 ไมเกรนเมื่อไหร่เอาละข้างนั้นกล้ามเนื้อ
00:25:21 → 00:25:24 จะตึงตัวมากขึ้นนะคะซึ่งถ้าเรายิ่งเป็น
00:25:24 → 00:25:26 บ่อยๆมากขึ้นเท่าไหร่นะกล้ามเนื้อตึงมาก
00:25:26 → 00:25:29 ขึ้นเช่นจริงๆตอนแรกเราเป็นไมเกรนไม่ได้
00:25:29 → 00:25:31 ถี่มากเดืออาจจะเดือนละ 4 ครั้ง 3-4
00:25:32 → 00:25:34 ครั้งแต่พอเราแบบนั่งทำงานนานนะคะไม่ได้
00:25:34 → 00:25:37 ออกกำลังกายกล้ามเนื้อตึงตัวมากสุดท้าย
00:25:37 → 00:25:39 เรามีเรื่องของตัวเหมือนพวกออฟิ Syndrome
00:25:39 → 00:25:41 ร่วมด้วยกล้ามเนื้อตึงตัวที่ผิดปกติมันก็
00:25:41 → 00:25:44 ย้อนกลับมากระตุ้นไมเกรนบ่อยขึ้นนะคะก็ทำ
00:25:44 → 00:25:47 ให้กระตุ้นกันไปกระตุ้นกันมาหรือคนไข้
00:25:47 → 00:25:50 เนี่ยไมเกรนเรื้อลังบางคนนะคะเขาจะรู้สึก
00:25:50 → 00:25:53 ว่าแรกๆเนี่ยเขาคปวดไมเกรนปวดตุบๆปวดข้าง
00:25:53 → 00:25:55 เดียวแต่พอหลังๆเนี่ยเวลาที่เป็นปวดหัว
00:25:55 → 00:25:57 ทุกวันน่ะมันแย่ไม่ค่อยออกแล้วว่าเอ้ย
00:25:57 → 00:25:59 เป็นปวดตุๆหรือบางทีก็จะรู้สึกว่าเหมือน
00:25:59 → 00:26:01 เป็นแค่ปวดกล้ามเนื้อธรรมดาละแล้วปวดขึ้น
00:26:01 → 00:26:05 มาเหมือนรัดๆบีบๆนะคะหลายคนก็โอเคงั้นลอง
00:26:05 → 00:26:08 ไปแบบรักษากล้ามเนื้อก่อนไปนวดไปฝังเข็ม
00:26:08 → 00:26:10 กายภาพบำบัดอะไรอ่ะคือคือเน้นรักษากล้าม
00:26:10 → 00:26:13 เนื้ออย่างเดียวแต่ไม่ได้รักษาที่ไมเกรน
00:26:13 → 00:26:15 ด้วยก็จะพบว่าเอพอคายกล้ามเนื้อไปได้สัก
00:26:15 → 00:26:18 ไม่กี่วันน่ะวัน 2 วันเอาแล้วไมเกรนมา
00:26:18 → 00:26:21 กล้ามเนื้อตึงใหม่นะคะบางคนก็มาแบบว่า
00:26:21 → 00:26:23 เอ่อเคยรักษากล้ามเนื้อมาแล้วมาเป็นปีๆ
00:26:23 → 00:26:25 เลยค่ะแต่ว่าสุดท้ายคือกล้ามเนื้อตึงเร็ว
00:26:25 → 00:26:27 มากเพราะอะไรก็ไม่รู้จริงๆก็พอเนี่ยแหละ
00:26:27 → 00:26:29 ค่ะเราเป็นไมเกรนที่เป็นถี่ด้วยมันก็
00:26:29 → 00:26:31 กระตุ้นกันไปกระตุ้นกันมานะคะเพราะฉะนั้น
00:26:31 → 00:26:33 มันก็เลยต้องเหมือนรักษาร่วมกันนะคะแล้ว
00:26:33 → 00:26:36 คนไข้ไมเกรนส่วนใหญ่หมอว่าเกิน 50% อ่ะ
00:26:36 → 00:26:38 กล้ามเนื้อตึงทุกคนยิ่งถ้าเป็นไมเกรน
00:26:38 → 00:26:40 เรื้อรังไปแล้วแล้วสุดท้ายเลยอันที่มา
00:26:40 → 00:26:42 กระตุ้นที่ทำให้เราเป็นปัจจัยเสี่งไมเกรน
00:26:42 → 00:26:45 เรื้อรังก็คือการใช้วิถีชีวิตที่ไม่ถูก
00:26:45 → 00:26:48 ต้องตัวไลฟ์สไตล์ที่ทำให้เรามีความเสี่ยง
00:26:48 → 00:26:51 จะเป็นไมเกรนมากยิ่งขึ้นเนี่ยจริงๆของา
00:26:51 → 00:26:53 ต่างประเทศเนี่ยเขาเน้นย้ำมากเลยนะคะว่า
00:26:53 → 00:26:54 มันเป็นปัจจัยเสียงที่สำคัญมากแล้วมัน
00:26:54 → 00:26:58 เป็นปัจจัยเสียงที่เราคุมได้การใช้วิวิถี
00:26:58 → 00:27:01 ชีวิตที่ผิดปกติอะไรเช่นนอนดึกอดนอนเป็น
00:27:01 → 00:27:04 ประจำดื่มแอลกอฮอล์ไม่ออกกำลังกายไม่ต้อง
00:27:04 → 00:27:07 โรคไมเกรนน่ะหมอว่าถ้าเราแบบโอเคกินเหล้า
00:27:07 → 00:27:10 สูบบุหรี่ไม่ออกกำลังกายเลยกินของทอดของ
00:27:10 → 00:27:13 มันกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพบ่อยๆเราก็
00:27:13 → 00:27:15 รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้เสี่ยงแค่ไมเกรน
00:27:15 → 00:27:17 นะจริงๆมันก็เสี่ยงโรคหลอดเลือดอื่นๆโรค
00:27:17 → 00:27:20 หลอดเลือดตีบโรคมะเร็งโรคอื่นๆด้วยเพราะ
00:27:20 → 00:27:23 ฉะนั้นการใช้วิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้องเนี่ย
00:27:23 → 00:27:26 มันเป็นการกระตุ้นโรคต่างๆในร่างกายที่ทำ
00:27:26 → 00:27:28 ให้เกิดความไม่สมดุลหลังๆเก็ถึงมีเรื่อง
00:27:28 → 00:27:32 ของเวชศาสตร์วิถีชีวิตหรืออะไรต่างๆเนาะ
00:27:32 → 00:27:35 เน้นให้เราเนี่ยคุมปรับที่พฤติกรรมการใช้
00:27:35 → 00:27:37 ชีวิตปรับที่ตัวเราเองก่อนเนี่ยแหละเพื่อ
00:27:37 → 00:27:40 ให้โรคต่างๆในร่างกายเนี่ยมันดีขึ้นได้
00:27:40 → 00:27:43 ด้วยตัวของเขาเองก่อนฉะนั้นก็นี่นะคะก็จะ
00:27:43 → 00:27:46 เป็นอ่ารวมคนอ่าความปัจจัยเสี่ยงที่ทำไม
00:27:46 → 00:27:50 คนไข้ไมเกรนคนนึงนะคะถึงจะกลายเป็นไมเกรน
00:27:50 → 00:27:52 เรื้อรังได้ยิ่งมีจำนวนความเสี่ยงเยอะ
00:27:53 → 00:27:55 เท่าไหร่นะเราก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่เรา
00:27:55 → 00:27:58 จะเป็นไมเกรนเรื้อรางมากขึ้นทั้งนั้นนะคะ
00:27:58 → 00:28:01 เช่นพอเราปวดหัวบ่อยๆอ่ะกินยาแก้ปวดเยอะ
00:28:02 → 00:28:04 หรือบางคนรู้สึกว่าแบบพอปวดหัวแล้วต้องหา
00:28:04 → 00:28:07 ของหวานกินหรือว่าอ่ะต้องไปกินอะไรที่
00:28:07 → 00:28:09 เหมือนให้มันผ่อนคลายนำไปสู่อาน้ำหนักตัว
00:28:09 → 00:28:13 เกินเริ่มไม่ออกกำลังกายปวดหัวบ่อยมากก็
00:28:13 → 00:28:15 ไม่อยากจะไปออกกำลังเนาะยิ่งออกกำลัง
00:28:15 → 00:28:17 เหนื่อยก็เดี๋ยวยิ่งปวดหัวกล้ามเนื้อก็
00:28:17 → 00:28:20 ตึงมากขึ้นนะคะพอปวดหัวบ่อยก็เครียดไปอีก
00:28:20 → 00:28:23 กงวนไปอีกเว้ยว่าจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่า
00:28:23 → 00:28:26 เป็นเนื้องอกมั้ยเนี่ยบางคน MRI มา 3-4
00:28:26 → 00:28:28 รอบก็ไม่เคยเจออะไรก็รู้สึกว่าไม่มีอะไร
00:28:29 → 00:28:31 แล้วทำไมมันไม่หายปวดหัวก็อธิบายได้จากวง
00:28:31 → 00:28:34 จรสมองอันนี้แล้วก็ตัวความเป็นไมเกรน
00:28:35 → 00:28:37 เรื้อรังอันนี้นะคะว่าทำไมอธิบายว่าทำไม
00:28:37 → 00:28:40 เราเนี่ยถึงวนเวียนอยู่ในวงจรเนี้ยแล้ว
00:28:40 → 00:28:43 มันไม่สามารถหลุดออกจากตรงเนี้ยได้สักที
00:28:43 → 00:28:46 ซึ่งเอ่อจริงๆถามว่าภาวะติดยาแก้ปวดเนี่ย
00:28:46 → 00:28:49 เอ่อจริงๆน่ะมันไม่ได้เจอในทุกคนนะหมอเจอ
00:28:49 → 00:28:52 เหมือนกันว่าบางคนเนี่ยปวดหัวเรื้อรังนะ
00:28:52 → 00:28:55 ปวดแบบโหปวด 30 วันเลยอ่ะแต่ใช้วิธีทนคือ
00:28:55 → 00:28:59 ไม่ไม่กินไม่กินแล้วเาก็อยู่ด้วยความแบบ
00:28:59 → 00:29:01 มีภาวะเครียดค่อนข้างเยอะหรือว่าอาจจะมี
00:29:01 → 00:29:03 อารมณ์ที่แปรปรวนเนาะเวลาปวดหัวมันก็
00:29:04 → 00:29:06 อารมณ์หงุดหงิดค่อนข้างง่ายอยู่แล้วก็จะ
00:29:06 → 00:29:08 มีปัญหากับคนรอบข้างได้แต่ว่าก็อาจจะเป็น
00:29:08 → 00:29:11 คนที่รู้สึกว่าไม่ๆยังไงก็ไม่กินยาอะไร
00:29:11 → 00:29:13 เงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นเอ่อภาวะติดยาแก้ปวด
00:29:13 → 00:29:14 หรือใช้ยาแก้ปวดเยอะมันก็จะไม่ได้จำเป็น
00:29:14 → 00:29:17 ว่าจะต้องเจอในไมเกรนเรื้อรังทุกคนหรอกนะ
00:29:17 → 00:29:20 คะแต่ส่วนใหญ่อ่ะเจอนะคะเพราะว่าอย่างที่
00:29:21 → 00:29:23 บอกคือถ้าเราเป็นคนที่ปวดไมเกรนเราต้องทำ
00:29:23 → 00:29:25 งานหรืออะไรเงี้ยมักจะเป็นความปวดที่มัน
00:29:25 → 00:29:28 ทนไม่ค่อยไหวสุดท้ายเราก็จะต้องใช้าแก้
00:29:28 → 00:29:30 ปวดอยู่ดีซึ่งถ้าเกิดคนที่เป็นไมเกรน
00:29:30 → 00:29:32 เรื้อรังแล้วแล้วมีเอ่อใช้ยาแก้ปวดเยอะ
00:29:32 → 00:29:36 ด้วยเนี่ยก็ยิ่งรักษายากกว่าคนที่เป็น
00:29:36 → 00:29:38 ไมเกรนเรื้อรังอย่างเดียวเราก็ต้องระมัด
00:29:38 → 00:29:41 ระวังตรงนี้นะคะใครที่ยังเป็นไมเกรนน้อยๆ
00:29:41 → 00:29:44 เอ่อใช้ยาแก้ปวดไม่บ่อยเนี่ยเมื่อไหร่ที่
00:29:44 → 00:29:47 แบบตัวเองเริ่มเป็นไมเกรนถีขึ้นแล้วเริ่ม
00:29:47 → 00:29:50 ใช้ยาแก้ปวดแบบต้องพกไว้ในกระเป๋าเดือน
00:29:50 → 00:29:53 นึงเกิน 1 แผงเกิน 10 เมตเป็นต้นไปไม่
00:29:53 → 00:29:56 ต้องรอให้เราเป็นเรื้อรังนะรีบรักษานะคะ
00:29:56 → 00:29:59 จะได้ไม่นำไปสู่ไมเกนเรื้อรังอ่าทีนี้เรา
00:29:59 → 00:30:02 ก็น่าจะพอเห็นภาพแล้วล่ะว่าปวดหัวเรื้อ
00:30:02 → 00:30:06 รังของเราที่มันไม่หายสักทีปวดมากขึ้น
00:30:06 → 00:30:08 เรื่อยๆแม้จะไม่มีตัวกระตุ้นใช้ชีวิต
00:30:08 → 00:30:10 อย่างดีทุกอย่างก็แล้วอะไรก็แล้วทำไมไม่
00:30:11 → 00:30:14 หายปวดหัวตรวจมาทุกอย่างก็ปกติมีแต่จะใช้
00:30:14 → 00:30:16 ยาแก้ปวดมากขึ้นไปเรื่อยๆไปอีกต้องระวัง
00:30:16 → 00:30:19 นะคะว่าเราเข้าขายเป็นไมเกรนเรื้อรางแล้ว
00:30:19 → 00:30:22 หรือยังถ้าใครฟังมาตรงนี้ถึงตรงนี้นะคะ
00:30:22 → 00:30:25 เรารู้สึกว่าอืมเราน่าจะใช่แล้วแหละเรา
00:30:25 → 00:30:27 น่าจะเป็นไมเกรนเรือร่างแล้วล่ะนะคะ
00:30:27 → 00:30:29 เดี๋ยวฟังต่อไปว่าเรามีวิธีการรักษาใน
00:30:29 → 00:30:32 ปัจจุบันอะไรบ้างและแต่ละอันเนี่ยเหมาะ
00:30:32 → 00:30:34 กับใครแต่ถ้าใครที่ฟังมาถึงตรงนี้แล้วรู้
00:30:34 → 00:30:37 สึกว่าเอ๊ะฟังฟังและดูและเหมือนเราจะไม่
00:30:37 → 00:30:40 ใช่นะไม่ใช่ไมเกรนเรื้อรงนะคะอันนี้การ
00:30:40 → 00:30:43 รักษาตรงนี้ก็จะเป็นอีกแบบนึงนะคะเช่นบาง
00:30:43 → 00:30:46 คนเนี่ยเป็นปวดหัวเรื้อร่างแต่ว่าเนี่ย
00:30:46 → 00:30:48 ลองฟังหมอมาเท่าที่ฟังมาเมื่อกี้ฟังยังไง
00:30:48 → 00:30:51 ก็ดูเหมือนไม่ใช่ไมเกรนอาจจะเป็นแค่กลุ่ม
00:30:51 → 00:30:53 กล้ามเนื้อตึงเรื้อรางหรือว่าปวดแบบปวด
00:30:53 → 00:30:55 จากความเครียดมากๆปวดเทนชั่นหรือปวดจาก
00:30:55 → 00:30:58 โรคอืดหรือมีสัญญาณอันตรายต่างๆที่หมอบอก
00:30:58 → 00:31:00 ไปแล้วว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณของโรคร้าย
00:31:00 → 00:31:03 แรงต่างๆเช่นปวดกลางดึกปวดจนมีความผิด
00:31:03 → 00:31:07 ปกติระบบประสาทปวดแบบปวดที่สุดในชีวิตที่
00:31:07 → 00:31:10 ไม่เคยปวดมาก่อนอะไรเงี้ยอันนี้นะคะเราจะ
00:31:10 → 00:31:12 แยกโรคหรือว่าวิธีการรักษาต่างๆอันเนี้ย
00:31:12 → 00:31:14 ออกไปเลยอีกกลุ่มหนึ่งที่เราจะพูดในวัน
00:31:14 → 00:31:18 นี้คือจะเน้นของเรื่องไมเกรนเรื้อรังเป็น
00:31:18 → 00:31:21 หลักนะคะซึ่งเป็นโรคที่ปัจจุบันการรักษา
00:31:21 → 00:31:23 เนี่ยมันมีวิธีการรักษาเยอะมากขึ้นเรื่อย
00:31:23 → 00:31:28 ๆนะคะยาที่พัฒนาขึ้นมาเนี่ยก็สามารถมาใช้
00:31:28 → 00:31:31 ยับยั้งหยุดวงจรของสมองเราที่เราไวต่อ
00:31:31 → 00:31:33 ความปวดที่เมื่อกี้อธิบายไปเนี่ยได้มาก
00:31:33 → 00:31:36 ขึ้นด้วยเรามาดูกันว่าปัจจุบันนะคะขั้น
00:31:36 → 00:31:38 ตอนการรักษาไมเกรนเนี่ยมีอะไรบ้างหมอก็
00:31:38 → 00:31:41 สรุปมาคร่าวๆประมาณซัก 6 ขั้นตอนจริงก็
00:31:41 → 00:31:43 ไม่เชิงเป็นขั้นตอนเราไม่ได้แบบว่าต้องทำ
00:31:43 → 00:31:46 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 ไป 5 นะจริงๆก็คือทุก
00:31:46 → 00:31:50 คนเนี่ยเอ่อจะต้องอัน 3 อันแรกเนี่ยอันจะ
00:31:50 → 00:31:52 ต้องเป็นอันที่เราจะต้องมาตัดสินใจกันว่า
00:31:52 → 00:31:54 คนไหนเหมาะกับอะไรนะคะก็คือเรื่องของการ
00:31:54 → 00:31:57 ใช้ยาป้องกันไมเกรนนะคะโดยเฉพาะยาฉีด
00:31:57 → 00:32:00 รักษาไมเกรนอันที่ 2 เรื่องของการฉีดบูน
00:32:00 → 00:32:02 ท็อกซินนะคะหรือว่าโบท็อกซ์นั่นเองนะคะ
00:32:02 → 00:32:05 แล้วก็อันที่ 3 ก็คือการรักษาภาวะยาแก้
00:32:05 → 00:32:08 ปวดเกินขนาดอันเนี้ยจะเป็นอันที่เราจะ
00:32:08 → 00:32:11 ต้องมาตัดสินใจกันว่าคนไข้ที่เอ่อมีอาการ
00:32:11 → 00:32:13 ไมเกรนเรื้อรังเนี่ยคนไข้ดูเหมาะกับอัน
00:32:13 → 00:32:16 ไหนลักษณะเป็นแบบไหนมี moh ร่วมด้วยหรือ
00:32:16 → 00:32:19 เปล่าส่วนอีก 3 ข้อที่เหลืออันนี้ทุกคน
00:32:19 → 00:32:21 ต้องทำนะคะก็คือเรื่องของการปรับเปลี่ยน
00:32:21 → 00:32:25 วิถีชีวิตการจัดการโรคร่วมแล้วก็การจด
00:32:25 → 00:32:27 บันทึกว่าเราเป็นไมเกรนระดับไหนนะคะอัน
00:32:27 → 00:32:30 นี้ไม่เรื้อรังหรือเรื้อรังอันนี้ต้องทำ
00:32:30 → 00:32:32 ทุกคนเพราะฉะนั้นเรามาดู 3 ข้อแรกกันก่อน
00:32:32 → 00:32:36 นะคะเรื่องของการใช้ยาฉีดรักษาไมเกรนเอ่อ
00:32:36 → 00:32:38 ทำไมเป็นไมเกรนเรื้อรงเหมอถึงต้องเน้นว่า
00:32:38 → 00:32:41 เป็นยาฉีดไมเกรนเพราะว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:32:41 → 00:32:44 เรารู้แล้วว่ายาป้องกันไมเกรนนะคะจริงๆใน
00:32:45 → 00:32:47 อดีตเนี่ยยาป้องกันไมเกรนก่อนยุคประมาณ
00:32:47 → 00:32:50 ซักอ่า 5 ปี - 10 ปีเนี้ยจริงๆก็จะมีแค่
00:32:50 → 00:32:53 ยารับประทานเป็นหลักที่เป็นยารักษาไมเกรน
00:32:53 → 00:32:56 นะคะซึ่งก่อนหน้าเนี่ยจริงๆยารับประทาน
00:32:56 → 00:32:58 ทุกตัวไม่มียายาอันไหนที่เขาเขียนว่าเป็น
00:32:58 → 00:33:01 ยาไมเกรนเลยนะจะเป็นเอ่อยาในกลุ่มยากัญ
00:33:01 → 00:33:05 ชักกลุ่มยาความดันกลุ่มยาคลายเครียดกลุ่ม
00:33:05 → 00:33:07 ยาขยายหลอดเลือดจะเห็นว่าคนไข้ส่วนใหญ่
00:33:07 → 00:33:10 เนี่ยบางทีได้รับยามาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอัน
00:33:10 → 00:33:13 นั้นน่ะให้มาเพื่อรักษาไมเกรนนะคะบางคนก็
00:33:13 → 00:33:15 จะสงสัยเว้ยเป็นไมเกรนทำไมต้องกินยากัน
00:33:15 → 00:33:17 ซักเป็นไมเกรนทำไมต้องกินยาความดันความ
00:33:17 → 00:33:19 ดันเขาก็ไม่ได้สูงสักหน่อยก็เลยทำให้บาง
00:33:20 → 00:33:22 ทีเขาก็ไม่ได้กินยาเพราะเข้าใจว่าเอ๊ะวัน
00:33:22 → 00:33:24 นั้นที่ไปหมอคิดว่าความดันสูงหรือเปล่า
00:33:24 → 00:33:26 เลยให้ยามาพอกลับมาบ้านความดันปกติแล้ว
00:33:26 → 00:33:29 อ่ะงั้นไม่กินละกันนั่นก็เป็นแบบการรักษา
00:33:29 → 00:33:32 แบบเดิมๆที่เราใช้ยาป้องกันแบบรับประทาน
00:33:32 → 00:33:35 เป็นหลักซึ่งจริงๆถ้าคนที่เป็นไมเกรนไม่
00:33:35 → 00:33:37 ได้เป็นบ่อยไม่ได้เป็นถี่จริงๆหมอว่ามัน
00:33:37 → 00:33:40 ก็เป็นทางเลือกแรกได้ในการที่แบบเอ่อเรา
00:33:40 → 00:33:42 จะลองให้ยารับประทานดูก่อนแต่สำหรับ
00:33:42 → 00:33:46 ไมเกรนเรื้อรังเนี่ยเพบว่าพอณจุดที่เรา
00:33:46 → 00:33:49 รักษาคนไข้ที่แบปวดหัวเกินสัก 15-20 วัน
00:33:49 → 00:33:52 หรือว่าปวดทุกวันไปแล้วอ่ะยาป้องกันน่ะ
00:33:52 → 00:33:55 มันช้านะคะเพราะว่ายาป้องกันแบบทรับ
00:33:55 → 00:33:58 ประทานมันช้าเพราะว่าปกติเวลาเราให้ยารับ
00:33:58 → 00:34:01 ประทานอ่ะค่ะเราไม่ได้สามารถให้ยาที่แบบ
00:34:01 → 00:34:04 ตู้มเดียวให้คนไข้ได้เพราะว่ายาป้องกัน
00:34:04 → 00:34:07 แบบรับประทานเช่นอายากันญชักสมมุติว่าเรา
00:34:07 → 00:34:10 จะใช้ตัวยากัญญชักตัวนึงิจอาจจะต้องปรับ
00:34:10 → 00:34:13 โดสไปถึง 50 มก 100 มิลกรัมถึงจะคุมอาการ
00:34:13 → 00:34:16 ไมเกรนคนไข้ได้นะคะแต่ว่าเรารู้ว่าเรา
00:34:16 → 00:34:19 ต้องให้คนไข้ที่เริ่มที่ 25 กินได้ไม่มี
00:34:19 → 00:34:21 ไซเอฟเฟคไม่มีผลข้างเคียงก็ค่อย 50 อ่ะ
00:34:22 → 00:34:24 ค่อยปรับขึ้นไปเรื่อยๆซึ่งโดยประสบการณ์
00:34:24 → 00:34:27 อ่ะกว่าจะปรับให้คนไข้แล้วได้ระดับยาที่
00:34:27 → 00:34:30 เราต้องการในการรักษาโรคอ่ะค่ะมันใช้เวลา
00:34:30 → 00:34:34 เป็นเดือนๆลองนึกภาพว่าถ้าเราเป็นไมเกรน
00:34:34 → 00:34:35 เรื้อรังอยู่อ่ะแล้วเราก็กินยาแก้ปวด
00:34:35 → 00:34:38 เกือบทุกวันอยู่อ่ะแล้วเรารออีก 1 เดือน 2
00:34:38 → 00:34:40 เดือนอ่ะค่ะกว่ายาที่เราต้องการจะออก
00:34:40 → 00:34:43 ฤทธิ์อ่ะหมายความว่าเรากินยาที่กระตุ้นวง
00:34:43 → 00:34:47 จรสมองเราไปอีก 2 เดือนพอไป 2 เดือนเนี่ย
00:34:47 → 00:34:49 สมองตอนนั้นก็ไม่เหมือนสมองตอน 2 เดือน
00:34:49 → 00:34:52 ก่อนละอ่ะก็ต้องปรับยาตามขึ้นไปอีกนะคะ
00:34:52 → 00:34:56 เพราะฉะนั้นมันก็เลยเหมือนรักษาไมเกรน
00:34:56 → 00:34:59 เรื้อรังได้ไม่ไม่เร็วเท่าที่ควรแต่ว่า
00:34:59 → 00:35:03 ถามว่าจริงๆคืออ่ะถ้าเราใช้วิธีแบบใช้ให้
00:35:03 → 00:35:06 ยาหลายๆตัวร่วมกันแล้วก็ค่อยๆปรับยาแบบ
00:35:06 → 00:35:09 เท่าที่คนไข้ทนผลข้างเคียงไหวเนี่ยให้ได้
00:35:09 → 00:35:12 เร็วที่สุดก็ยังเป็นการรักษาที่จริงๆก็
00:35:12 → 00:35:14 ค่อนข้างโอเคแหละแล้วก็แล้วก็ยาชนิดรับ
00:35:14 → 00:35:16 ประทานมันก็จะมีประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ
00:35:16 → 00:35:18 ด้วยอ่ะอย่างเช่นคนไข้ความดันสูงแล้วใช้
00:35:18 → 00:35:20 ยากลุ่มความดันความดันเขาก็ลงไปด้วยนะคะ
00:35:20 → 00:35:22 เนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยยาป้องกันแบบชนิดรับ
00:35:23 → 00:35:26 ประทานมันก็ยังมีที่การใช้อยู่นะคะแต่ถ้า
00:35:26 → 00:35:29 ให้เลือกได้ถ้าให้เลือกได้แล้วต้องใช้ยา
00:35:29 → 00:35:33 ป้องกันในคนไข้ไมเกรนเรื้อรังนะคะยาฉีด
00:35:33 → 00:35:36 รักษาไมเกรนอาจจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าเพราะ
00:35:36 → 00:35:38 ว่ายามันออกฤทธิ์เร็วกว่านะคะฉีดไปแล้วก็
00:35:38 → 00:35:41 คือออกฤทธิ์เลยนะคะส่วนใหญ่ก็อย่างบางตัว
00:35:42 → 00:35:44 เนี่ยถ้ายิ่งถ้าเป็นตัวดิบทางหลอดเลือดดำ
00:35:44 → 00:35:46 เนี่ยก็เป็นหลักวันแล้วก็ออกฤทธิ์เลยหรือ
00:35:46 → 00:35:48 ว่าถ้าเป็นกลุ่มปากกาฉีดทางหน้าท้องก็อาจ
00:35:48 → 00:35:50 จะประมาณสัก 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ก็คือออก
00:35:50 → 00:35:53 ฤทธิ์ได้ค่อนข้างเร็วผลข้างเคียงน้อย
00:35:53 → 00:35:56 เหมือนเราใช้ไม่ต้องมานั่งไต่ระดับยาก็
00:35:56 → 00:35:58 คือเราใช้ยาที่สูงสุดที่มันคุมอาการได้
00:35:58 → 00:36:01 แล้วที่เหลือเราค่อยถ้าอาการดีขึ้นเราก็
00:36:01 → 00:36:04 ค่อยมาลดยาอีกทีนึงนะคะซึ่งอันเนี้ยปกติ
00:36:04 → 00:36:08 อย่างถ้าก่อนหน้านี้นะคะตอนที่ยาฉีดรักษา
00:36:08 → 00:36:11 ไมเกรนกลุ่มยับยั้ง cgrp เนี่ยออกมาใหม่ๆ
00:36:11 → 00:36:13 เนี่ยในทางของต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น
00:36:13 → 00:36:16 อเมริกายุโรปเขาอาจจะยังบอกว่าเอ้ยเราให้
00:36:16 → 00:36:18 ยาป้องกันแบบรับประทานแบบเดิมก่อนอ่าถ้า
00:36:18 → 00:36:22 ปรับยาแล้ว 3 ตัวคนไข้ทนอ่ายังไม่ดีขึ้น
00:36:22 → 00:36:24 หรือคนไข้ทนผลข้างเคียงไม่ไหวหยุดการ
00:36:24 → 00:36:27 รักษาไปก่อนอ่ะเราค่อยมาพิจารณายาฉีดแต่
00:36:27 → 00:36:31 ปัจจุบันันกลับกันละถ้าคนไข้ฉีดได้ฉีดไหว
00:36:31 → 00:36:34 ฉีดก่อนเลยเพื่อให้เราอ่ะคุมอาการไมเกรน
00:36:34 → 00:36:36 ให้เร็วที่สุดก่อนเมื่อเราคุมอาการไมเกรน
00:36:36 → 00:36:38 ได้เร็วที่สุดละหยุดยาแก้ปวดได้เร็วที่
00:36:38 → 00:36:41 สุดอันนั้นน่ะอาการไมเกรนของคนไข้ก็จะแบบ
00:36:41 → 00:36:44 สงบเร็วแล้วก็จะรักษาง่ายเพราะฉะนั้น
00:36:44 → 00:36:47 เนี่ยยาฉีดรักษาไมเกรนถึงเหมือนจะมาแทบจะ
00:36:47 → 00:36:50 มาเป็นแบบการรักษาหลักในในปัจจุบันแล้ว
00:36:50 → 00:36:52 ล่ะว่าเลือกเป็นทางเลือกแรกเลยถ้าคนไข้
00:36:52 → 00:36:55 สามารถฉีดยาได้ปัจจุบันเองในเมืองไทยเอง
00:36:55 → 00:36:58 เนี่ยก็มีครบทั้ง 4 ตัวเหมือนต่างประเทศ
00:36:58 → 00:37:01 ละนะคะก็คือจะเป็นแบบฉีดปากกา 3 ตัวแล้ว
00:37:01 → 00:37:04 ก็เป็นแบบดิบเข้าดอดเลือดดำ 1 ตัวถามว่า
00:37:04 → 00:37:07 ต้องใช้ตัวไหนจริงๆในแง่ของตัวเอ่อผล
00:37:07 → 00:37:10 ประสิทธิภาพในการรักษาเนี่ยแต่ละตัวเนี่ย
00:37:10 → 00:37:12 ในงานวิจัยอ่ะเปอร์เซ็นต์มันอาจจะไม่ได้
00:37:12 → 00:37:14 มาเทียบกันตรงๆมากนักมันไม่สามารถเอามา
00:37:14 → 00:37:16 เทียบว่าตัวนี้ดีกว่าตัวนี้หรือตัวนี้ได้
00:37:16 → 00:37:19 นะคะส่วนใหญ่แล้วเนี่ยหมอจะพิจารณาจากคน
00:37:19 → 00:37:22 ไข้แต่ละคนมากกว่าว่าคนไข้น่าจะเหมาะกับ
00:37:22 → 00:37:25 ตัวไหนมีโรคร่วมอะไรหรือเปล่ามีความดัน
00:37:25 → 00:37:28 สูงมยมีภาวะซึมเศร้าร่วด้วยด้วยหรือเปล่า
00:37:28 → 00:37:30 สะดวกแบบการใช้ยาแบบไหนแบบเดือนละครั้ง
00:37:30 → 00:37:34 หรือแบบ 3 เดือนครั้งมีเรื่องแบบเอ่อท้อง
00:37:34 → 00:37:36 ผูกหรือเปล่าอะไรเงี้ยพวกเนี้ยมันจะเป็น
00:37:36 → 00:37:39 ปัจจัยที่นำมาประกอบการพิจารณาว่าเราอ่ะ
00:37:39 → 00:37:42 จะเลือกใช้ตัวไหนให้คนไข้ที่น่าจะเหมาะสม
00:37:42 → 00:37:45 ที่สุดพอใช้ไปแล้วถ้าได้ผลไม่ดีเท่าที่
00:37:45 → 00:37:48 ควรในแง่ของการรักษาไมเกรนเนี่ยถ้าเป็น
00:37:48 → 00:37:51 ไมเกรนไม่เรื้อรังเนี่ยกลุ่มยาฉีดเนี่ย
00:37:51 → 00:37:55 ค่ะหมอให้แบบ 70 80% อัพเลยนะคะ 80 90%
00:37:55 → 00:37:58 ได้เลยอ่ะที่จากประสบการณ์ที่ฉีดคนไข้มา
00:37:58 → 00:38:00 ที่เป็นไม่ได้เรื้อรังมากเนี่ยการตอบสนอง
00:38:00 → 00:38:03 ดีมากแต่กลุ่มที่เป็นเรื้อรังเนี่ยเ่อมัน
00:38:03 → 00:38:06 อาจจะใช้เวลานานกว่าแล้วก็อาจะการตอบสนอง
00:38:06 → 00:38:09 ในช่วงแรกเนี่ยก็อาจจะไม่ได้ดีเ่อเท่ากับ
00:38:09 → 00:38:12 กลุ่มไม่เรือรังแต่ว่าก็มักจะได้ผลที่
00:38:12 → 00:38:14 ค่อนข้างแบบสุดท้ายทำให้คนไข้กลับไปใช้
00:38:14 → 00:38:16 ชีวิตได้นะคะอย่างน้อยก็สักประมาณ 50-70
00:38:16 → 00:38:20 per และหยุดยาแก้ปวดได้ทีนี้ถ้าเราฉีตัว
00:38:20 → 00:38:23 นึงไปะแล้วมันได้ผลไม่ตามที่เราคาดหวัง
00:38:23 → 00:38:25 ไว้แบบเนี้ยว่าเอ้ยคนไข้ต้องหยุดยาแก้ปวด
00:38:25 → 00:38:27 ให้ได้นะคะต้องกลับไปปวดให้ไม่เกินสัก 4
00:38:27 → 00:38:29 ครั้งต่อเดือนให้ได้ต้องใช้ยาแก้ปวดให้
00:38:29 → 00:38:32 น้อยที่สุดให้ได้เราสามารถเปลี่ยนสวิตชไป
00:38:32 → 00:38:35 ใช้ตัวอื่นนะคะก็พบว่าประสิทธิภาพก็อาจจะ
00:38:35 → 00:38:38 สูงขึ้นตามขึ้นมาอีกเพราะฉะนั้นมันอาจจะ
00:38:38 → 00:38:41 ไม่ได้ฟิกนะคะว่าอุ้ยเราต้องใช้ตัวนี้นะ
00:38:41 → 00:38:43 แล้วพอฉีดตัวนี้แล้วไม่ได้ผลแล้วบางคนก็
00:38:43 → 00:38:46 เลิกรักษาไปเลยเพราะคิดว่าอุ้ยกลุ่มนี้
00:38:46 → 00:38:48 เราน่าจะไม่ตอบสนองแล้วล่ะจริงๆเนี่ยเรา
00:38:48 → 00:38:51 สามารถสวิตเป็นอีกตัวอื่นได้ก็อย่าเพิ่ง
00:38:51 → 00:38:54 แบบท้อหรือว่าหมดการรักษาไปนะคะแล้วก็
00:38:54 → 00:38:56 อย่างกลุ่มไมเกรนเรื้อรังอย่างเงี้ยเ่า
00:38:56 → 00:38:58 ถ้ากลุ่มไม่เรือรังนะฉีเดือนแรกส่วนใหญ่
00:38:58 → 00:39:00 เห็นผลหมดแต่เพราะกลุ่มไมเกรนเรื้อรง
00:39:00 → 00:39:02 อย่างเงี้ยค่ะเวลาเราประเมินผลการรักษาคน
00:39:02 → 00:39:04 ไข้อ่ะก็ต้องขออย่างน้อยสัก 3 เดือน
00:39:04 → 00:39:06 เหมือนกันเพราะว่าในเดือนแรกเนี่ยวงจร
00:39:06 → 00:39:09 สมองที่เกิดภาวะกระตุ้นตัวเองแล้วแบบไว
00:39:09 → 00:39:11 ต่อความปวดมากๆบางทีมันก็ยังไม่ได้สามารถ
00:39:11 → 00:39:13 ยดยั้งได้ในตั้งแต่เดือนแรกเลยเพราะ
00:39:13 → 00:39:15 ฉะนั้นก็อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงเหมือนกัน
00:39:15 → 00:39:18 อันนี้ก็จะเป็นการเ่อรักษาโดยการใช้ยา
00:39:18 → 00:39:21 ป้องกันนะคะเรียกว่ายาป้องกันไมเกรนทำไม
00:39:21 → 00:39:25 ต้องป้องกันเพราะว่าเรารู้แล้วว่าถ้าเกิด
00:39:25 → 00:39:27 เราไม่ป้องกันเนี่ยเ่อคนไข้ไม่ปวดหัวแล้ว
00:39:27 → 00:39:31 รอไปปวดสุดท้ายตอนปวดตอนเนี้ยคนไข้ยังไง
00:39:31 → 00:39:34 ก็ต้องใช้ยาแก้ปวดการใช้ยาป้องกันก็คือทำ
00:39:34 → 00:39:37 ยังไงให้คนไข้อ่ะปวดขึ้นมาน้อยที่สุดเค้า
00:39:37 → 00:39:40 จะได้ใช้ยาแก้ปวดให้น้อยที่สุดแล้วก็จะ
00:39:40 → 00:39:43 ได้เทิร์นจากไมเกรนเรื้อลังเนี่ยกลับมา
00:39:43 → 00:39:46 สู่ภาวะไมเกรนที่ไม่ไวต่อตัวกระตุ้น
00:39:46 → 00:39:49 สำหรับเอ่อคนที่รู้สึกว่ายังฉีดยาไม่ได้
00:39:49 → 00:39:52 นะคะอาจจะด้วยข้อจำกัดอะไรต่างๆก็อย่า
00:39:52 → 00:39:56 เพิ่งหมดทางรักษาไปเรายังสามารถใช้ยารับ
00:39:56 → 00:39:58 ประทานได้เหมือนกันนะคะเพียงแต่ว่าอย่าง
00:39:58 → 00:40:01 ที่หมอบอกว่ามันอาจจะช้ากว่าหน่อยแล้วก็
00:40:01 → 00:40:03 อาจจะมีเรื่องผลข้างเคียงที่มากกว่าแต่ก็
00:40:03 → 00:40:06 ไม่ใช่ว่าแบบทุกคนจะต้องมีผลข้างเคียงนะ
00:40:06 → 00:40:08 เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้เยอะมากคนไข้
00:40:08 → 00:40:12 ส่วนใหญ่ก็ยังทานยาได้แล้วก็พอเราค่อยๆ
00:40:12 → 00:40:14 ปรับยากันไปเนี่ยช่วนใหญ่อาการก็ดีขึ้น
00:40:14 → 00:40:16 ได้เหมือนกันนะคะเพราะฉะนั้นก็เ่อเลือก
00:40:16 → 00:40:19 ให้มันเหมาะสมกับแต่ละคนอีกทีนึงอันที่ 2
00:40:19 → 00:40:22 นะคะของการรักษาไมเกนเรือรังไม่พูดเรื่อง
00:40:22 → 00:40:25 นี้ไม่ได้ก็คือเรื่องของการฉีด urin
00:40:25 → 00:40:29 ท็อกซินนั่นเองนะคะหลายคนก็มาปรึกษาว่า
00:40:29 → 00:40:31 เคยได้ยินมาค่ะว่าเราสามารถรักษาไมเกรน
00:40:31 → 00:40:35 ด้วยบนุท็อกซินได้ขอฉีดได้มั้ยคะโอเคพอ
00:40:35 → 00:40:38 ซักประวัติจริงๆคนไข้อาจจะพิ่งปวดประมาณ
00:40:38 → 00:40:41 ไม่เกินสัก 10 ครั้งต่อเดือนนะคะก็คือ
00:40:41 → 00:40:42 เรียกว่ายังไม่ได้เข้าขายเป็นไมเกรนเรื้อ
00:40:43 → 00:40:46 รังนั่นเองฉีดได้ไหมจริงๆแล้วเนี่ยิุ
00:40:46 → 00:40:48 ท็อกซินนะคะหรือเรียกว่าโบท็อกซ์เลยแล้ว
00:40:48 → 00:40:51 กันเนาะจะได้ง่ายๆเค้าพึ่งได้ข้อบ่งชี้ใน
00:40:52 → 00:40:55 การรักษาไมเกรนเฉพาะไมเกรนเรื้อรังเพราะ
00:40:55 → 00:40:57 ฉะนั้นถ้าเกิดเราใช้
00:40:57 → 00:41:00 ไมเกรนที่ไม่ใช่ไมเกรนเรื้อรังได้ผลมก็
00:41:00 → 00:41:04 น่าจะได้แหละโดยหลักการแต่ได้ตอบสนองได้
00:41:04 → 00:41:06 ดีเท่าที่ควรที่ควรจะเป็นไมอันนี้เราก็จะ
00:41:06 → 00:41:09 บอกไม่ได้เนื่องจากว่างานวิจัยที่เขาเก็บ
00:41:09 → 00:41:13 คนไข้มาแล้วพบว่าตอบสนองกับการรักษาด้วย
00:41:13 → 00:41:15 โบท็อกซ์ได้ค่อนข้างดีคือจะต้องเป็นกลุ่ม
00:41:15 → 00:41:18 ไมเกรนเรื้อรังนะคะก็คือปวดมากกว่า 15
00:41:18 → 00:41:20 วันต่อเดือนขึ้นไปอย่างน้อย 3 เดือนทำไม
00:41:20 → 00:41:24 โบท็อกถึงรักษาไมเกรนได้นะคะอันนี้ก็เป็น
00:41:24 → 00:41:27 คนคำถามที่คนไข้ส่วนใหญ่จะสงสัยว่าเอ้ย
00:41:27 → 00:41:30 โบทท็อกซินโบท็อกซ์ที่เราฉีดหน้ากันเนี่ย
00:41:30 → 00:41:33 หรอคะมันเอามารักษาไมเกรนยังไงอันนี้นะคะ
00:41:33 → 00:41:37 ก็จะอธิบายได้จากการที่กลไกการออกฤทธิ์
00:41:37 → 00:41:39 ของตัวบนุท็อกซินนะคะชื่อเขาบอกแล้วว่า
00:41:39 → 00:41:43 มันเป็นท็อกซินก็คือจริงๆตัวสารบนุเนี่ย
00:41:43 → 00:41:47 มันมีฤทธิ์ในการทำให้กล้ามเนื้อเนี่ยไม่
00:41:47 → 00:41:51 สามารถหดตัวได้ก็คือตัวยาบุมท็อกซินเนี่ย
00:41:52 → 00:41:55 เขาจะไปบล็อกสารชื่อประสาทนะคะที่เกี่ยว
00:41:55 → 00:41:57 ข้องกับทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเพราะฉะนั้น
00:41:57 → 00:42:00 เนี่ยพอเราฉีดไปปุ๊บกล้ามเนื้อก็หดเกร็ง
00:42:01 → 00:42:03 ตัวไม่ได้กล้ามเนื้อก็จะคลายตัวอันที่ 2
00:42:03 → 00:42:06 นะคะนอกจากที่มันไปยับยั้งสารสื่อประสาท
00:42:06 → 00:42:08 ที่ทำให้กล้ามเนื้อไม่เกร็งตัวไม่ได้ละ
00:42:08 → 00:42:11 เ้ายังเป็นลดการส่งสัญญาณสารสื่อประสาท
00:42:11 → 00:42:14 ต่างๆที่มันเป็นอ่าเส้นประสาทเค้าเรียก
00:42:14 → 00:42:18 ว่าภายนอกเนาะภายนอกก็คือส่วนของเพิอนอก
00:42:18 → 00:42:22 กะโหลกนั่นเองนะคะให้ไม่หลั่งสารเคมีที่
00:42:22 → 00:42:25 ผิดปกตินะอย่างเช่นสาร cgrp ที่เรารู้กัน
00:42:25 → 00:42:27 ว่าเดี๋ยวสุดท้ายมันก็จะไปกระตุ้นต่อที่
00:42:27 → 00:42:29 ทำให้เกิดเอ่อหลอดเลือดขยายตัวแล้วก็เกิด
00:42:29 → 00:42:32 เป็นอาการปวดหัวไมเกรนเพราะฉะนั้นโบท็อก
00:42:32 → 00:42:35 มันเลยเหมือนลดทั้งความไวของเส้นประสาทลด
00:42:35 → 00:42:39 การกระตุ้นความปวดต่อเนื่องต่อลดสาร cgrp
00:42:39 → 00:42:42 ลดการกระตุ้นความปวดและทำให้กล้ามเนื้อ
00:42:42 → 00:42:45 รอบๆเนี่ยคลายตัวด้วยนะคะซึ่งเราก็รู้
00:42:45 → 00:42:48 อยู่แล้วว่าคนไข้ไมเกรนมักจะมีกล้ามเนื้อ
00:42:48 → 00:42:51 ที่ตึงตัวมากปกติแล้วก็พอกล้ามเนื้อคลาย
00:42:51 → 00:42:53 ตัวอย่างน้อยก็เป็นปัจจัยที่ลดปัจจัย
00:42:53 → 00:42:56 กระตุ้นไมเกรนของเราได้ด้วยเหมือนกันนะคะ
00:42:56 → 00:42:59 เพราะว่าตตำแหน่งของการฉีดโบท็อกซ์นะคะใน
00:42:59 → 00:43:02 คนไข้ไมเกรนเนี่ยเราจะฉีดตามแนวของกล้าม
00:43:02 → 00:43:06 เนื้อนะคะไล่ไปตั้งแต่หน้าผากขมับไท้ทอย
00:43:06 → 00:43:09 แล้วก็กล้ามเนื้อต้นคอนะคะซึ่งตำแหน่งตรง
00:43:10 → 00:43:12 เนี้ยก็จะมีเส้นประสาทนะคะในรูปก็คือแทน
00:43:12 → 00:43:15 สีเหลืองที่เราเห็นจุดสีแดงๆคือจุด
00:43:15 → 00:43:18 ตำแหน่งฉีดอ่าบทุท็อกซินนะคะส่วนเส้นสี
00:43:18 → 00:43:21 เหลืองๆที่เราเห็นคือเส้นประสาทนะคะอัน
00:43:21 → 00:43:23 นี้ก็จะเป็นเส้นประสาทใบหน้าเส้นประสาท
00:43:23 → 00:43:26 ขมับเส้นประสาทไท้ทอยแล้วก็ตรงเส้นประสาท
00:43:26 → 00:43:28 แถวๆแถวต้นคอเพราะฉะนั้นเราไม่ได้ฉีดเข้า
00:43:28 → 00:43:31 ที่เส้นประสาทนะคะเราฉีดเข้าที่กล้าม
00:43:31 → 00:43:34 เนื้อแต่โดยฤทธิ์ของตัวยาเขาคอ่ะเขาก็จะ
00:43:34 → 00:43:36 ไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทออกมาจาก
00:43:36 → 00:43:38 เส้นเส้นประสาทต่างๆเหล่านี้ไปด้วยมันก็
00:43:38 → 00:43:43 เลยสามารถช่วยลดความไวของไมเกรนที่ไวต่อ
00:43:43 → 00:43:45 ตัวกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกได้ด้วยเหมือน
00:43:45 → 00:43:48 กันจะเห็นว่ากลกายยาเลยออกฤทธิ์ได้ค่อน
00:43:48 → 00:43:52 ข้างดีสำหรับไมเกรนเรื้อรางที่ยิ่งถ้ามี
00:43:52 → 00:43:55 เ่อตัวเรื่องของกล้ามเนื้อตึงตัวร่วมด้วย
00:43:55 → 00:43:57 เนี่ยก็จะยิ่งได้ผลดีมากขึ้นอีกนะคะเพราะ
00:43:57 → 00:44:00 ฉะนั้นพอเวลาคนไข้เป็นไมเกรนเรื้อรงมาอ่ะ
00:44:00 → 00:44:04 คนไข้ก็จะถามและจะฉีดยารักษาไมเกรนเมื่อ
00:44:04 → 00:44:06 กี้ดีั้ยคะฉีดยายับยั้งสาร cgrp เมื่อกี้
00:44:07 → 00:44:10 ดีไหรือว่าจะฉีดบนุท็อกซินดีอันนึงเราก็
00:44:10 → 00:44:13 เลยลองดูเลยนะคะว่าคนไข้เนี่ยคนไข้บางคน
00:44:13 → 00:44:15 เนี่ยเป็นไมเกนเรื้อรังแต่กล้ามเนื้อไม่
00:44:15 → 00:44:18 ได้ตึงมากแต่ไวต่อตัวกระตุ้นมากๆเลยแบบไว
00:44:18 → 00:44:20 ต่อสิ่งเรามากๆหรือว่าแม้แต่ไม่มีตัว
00:44:20 → 00:44:23 กระตุ้นก็ปวดหัวละอ่ะอันนั้นเราก็อาจจะ
00:44:23 → 00:44:25 อยากฉีดยารักษายับยั้งสาร cgrp ก็น่าจะ
00:44:25 → 00:44:28 ได้ประโยชน์มากกว่าแต่โอหคนเป็นไมเกรน
00:44:28 → 00:44:30 เรื้อรางมาแล้วกล้ามเนื้ออื้อหือตึงแข็ง
00:44:30 → 00:44:33 มากปวดเจ็บกล้ามเนื้อตลอดเวลาอย่างเงี้ย
00:44:33 → 00:44:36 บูนท็อกซินก็น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
00:44:36 → 00:44:39 เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็อาจจะมีความเหมาะสม
00:44:39 → 00:44:42 กับอ่ายาต่าต่างกันไปก็ขึ้นกับอาการของ
00:44:42 → 00:44:46 เราอีกทีนึงถามว่ารักษาร่วมกันได้ยได้บาง
00:44:46 → 00:44:49 คนที่เป็นไมเกรนเรื้อรังมากๆแบบอื้อหือทำ
00:44:49 → 00:44:53 ยังไงก็ไม่หายปวดหรือว่าเอ่อยังหยุดยการ
00:44:53 → 00:44:55 ใช้ยาแก้ปวดไม่ได้สักทีเราก็ต้องทำ 2
00:44:55 → 00:44:57 อย่างร่วมกันเลยคือใช้ยาป้องกันไมเกรน
00:44:57 → 00:45:01 ด้วยแล้วก็ต้องฉีดตัว urin ท็อกซินด้วยนะ
00:45:01 → 00:45:04 คะยิ่งทำร่วมกันประสิทธิภาพในการรักษาผล
00:45:04 → 00:45:07 การรักษาก็จะยิ่งดีขึ้นมากไปอีกอันที่ 3
00:45:07 → 00:45:10 ก็คือเราต้องดูว่าคนไข้มีภาวะใช้ยาแก้ปวด
00:45:10 → 00:45:12 เกินขนาดด้วยมนะคะหรือที่เรียกว่า
00:45:13 → 00:45:15 medication overuse Head นะหมอขอเอ่อ
00:45:16 → 00:45:18 เรียก moh สั้นๆละกันเ่ออย่างที่บอกตอน
00:45:19 → 00:45:22 ต้นว่าคนไข้ไมเกรนเรื้อรังไม่ได้จำเป็นจะ
00:45:22 → 00:45:24 ต้องมีภาวะนี้ทุกคนนะคะไม่ได้จำเป็นต้อง
00:45:24 → 00:45:27 มี moh ทุกคนบางคนเป็นการปวดแบบทนเอาเขาค
00:45:27 → 00:45:30 ก็จะไม่ได้ใช้ยาแก้ปวดเยอะแต่ส่วนใหญ่
00:45:30 → 00:45:34 เกิน 50% 70% เลยส่วนใหญ่ไมเกรนเรื้อรัง
00:45:34 → 00:45:37 มักจะมีภาวะใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดร่วมด้วย
00:45:37 → 00:45:40 แล้วเขาก็พบเลยว่าจริงๆแล้วอ่ะภาวะปวดหัว
00:45:40 → 00:45:42 ที่เกิดจากยาแก้ปวดเกินขนาดหรือ moh
00:45:42 → 00:45:44 เนี่ยจริงๆมันไม่ได้เป็นภาวะที่เจอใน
00:45:44 → 00:45:47 เฉพาะไมเกรนนะคะเอ่อจริงๆโรคอื่นเนี่ยมัน
00:45:47 → 00:45:50 ก็สามารถทำให้เกิดภาวะนี้ได้เหมือนกัน
00:45:50 → 00:45:52 เพียงแต่ว่าอย่างเช่นคนไข้ปวดเทนชั่น
00:45:52 → 00:45:54 เรื้อรังอ่ะค่ะปวดจากกล้ามเนื้อตึงเรื้อ
00:45:54 → 00:45:58 รังเนี่ยถ้าคนนั้นอ่อเค้าไวต่อการกินยา
00:45:58 → 00:46:00 หรือรู้สึกว่าเออปวดนิดนึงเราต้องกินดัก
00:46:00 → 00:46:03 ไวก่อนเา้าก็อาจจะมี moh ได้เหมือนกันนะ
00:46:03 → 00:46:08 แต่พบว่าสาเหตุนะคะหรือโรคที่ทำให้เกิด
00:46:08 → 00:46:11 moh เยอะที่สุดคือไมเกรนหมอถึงบอกเลยว่า
00:46:11 → 00:46:14 จริงๆแล้วเนี่ยปวดหัวเรื้อรังที่เป็นมา
00:46:15 → 00:46:18 หลายๆปีไม่หายสักทีแล้วกระทบการใช้ชีวิต
00:46:18 → 00:46:21 มากๆและใช้ยาแก้ปวดเยอะๆแทบจะไม่พ้นไมเกน
00:46:21 → 00:46:23 เรือรังเลยค่ะเนาะยิ่งพอเราซักประวัติ
00:46:23 → 00:46:26 ย้อนกลับไปดีๆนะคะส่วนใหญ่ก็แทบจะใช่หมด
00:46:26 → 00:46:28 ทุกคนเลยเลยนะคะก็จะมีบางส่วนแหละที่โอเค
00:46:28 → 00:46:31 เป็นโรคอื่นแต่ยิ่งถ้ามี moh ร่วมด้วย
00:46:31 → 00:46:34 เนี่ยก็ยิ่งมักจะเป็นไมเกรนเรื้อรังเนี่ย
00:46:34 → 00:46:37 ละค่ะ moh ก็ไม่ต้องจำก็ได้นะว่าเรากินยา
00:46:37 → 00:46:39 อันไหนไปแล้วต้องอือกี่เม็ดละอะไรเงี้ยจำ
00:46:39 → 00:46:42 คร่าวๆเกิน 10-15 เม็ดนะคะเกิน 3 เดือน
00:46:42 → 00:46:45 เพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยต่อให้เป็นยาแก้ปวด
00:46:45 → 00:46:46 แบบอ่อนไม่ว่าจะเป็นพวกพาราคายกล้าม
00:46:47 → 00:46:49 เหนื้อแล้วเกิน 10 เม็ดอ่ะหมอว่ามันก็
00:46:49 → 00:46:51 เยอะและเสี่ยงที่จะเกิด moh แล้วเพราะ
00:46:51 → 00:46:54 ฉะนั้นถ้าเราเริ่มกินยาแก้ปวดเกิน 10
00:46:54 → 00:46:57 เม็ดให้ระวังนะคะเนาะว่าเราเราจะเริ่มมี
00:46:57 → 00:47:00 ภาวะนี้แล้วถ้าคนไข้ไมเกรนเรื้อรังและมี
00:47:00 → 00:47:04 ภาวะนี้ร่วมด้วยอันนี้รักษายากขึ้นไปอีก
00:47:04 → 00:47:06 เพราะว่านอกจากเราจะต้องใช้ยาป้องกัน
00:47:06 → 00:47:09 ไมเกรนที่ 2 ข้อเมื่อกี้ละก็คือยาฉีดหยับ
00:47:09 → 00:47:13 ยั้งสาร cgrp และบนุท็อกซินแล้วเราจะต้อง
00:47:13 → 00:47:18 รักษาภาวะ moh นี้ด้วยนะคะซึ่ง moh นี้
00:47:18 → 00:47:22 รักษายังไงจริงๆตามตำรานะคะหรือว่าเอ่อใน
00:47:22 → 00:47:27 หนังสือทางทฤษฎีติดยาแก้ปวดหยุดยารักษาก็
00:47:27 → 00:47:30 คือหยุดยาคิดง่ายๆเหมือนเราสมมุติคนติด
00:47:30 → 00:47:34 สารเสพติดอ่ะจะเลิกทำไงก็ต้องหยุดซึ่งทุก
00:47:34 → 00:47:38 อันที่เวลาเป็นภาวะสมองที่มันติดในการที่
00:47:38 → 00:47:41 ใช้สารอะไรบางอย่างแล้วเช่นติดบุหรี่หรือ
00:47:41 → 00:47:43 ว่าติดสารเสพติหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ย
00:47:43 → 00:47:46 หลักการของการหยุดคือต้องหยุดเลยจะเห็น
00:47:46 → 00:47:49 ว่าหลายคนที่แบบออย่างเช่นติดบุหรี่บอก
00:47:49 → 00:47:52 ว่าจสูบแบบ 1 ซองเหลือแบบ 10 มวลเหลือ 5
00:47:52 → 00:47:55 มวลสุดท้ายนะคะคนไข้กลุ่มเนี้ยมักจะเลิก
00:47:55 → 00:47:57 ไม่ได้เพราะว่ามันเหมือนยังมีตัวกระตุ้น
00:47:57 → 00:47:59 อยู่เรื่อยๆแล้วสุดท้ายมันจะกระตุ้นความ
00:47:59 → 00:48:03 อยากหรือว่าเอ่อ System RE System ของ
00:48:03 → 00:48:05 เราให้มันมีความแบบเพิ่มขึ้นไปอีกเดี๋ยว
00:48:05 → 00:48:07 ตอนหลังลดไปเหลือ 5 มวลแล้วมันจะกลับมา 10
00:48:07 → 00:48:09 ใหม่อะไรอย่างเงี้ยนะคะเนาะเพราะฉะนั้น
00:48:09 → 00:48:11 หลักการการหยุดพวกเนี้ยคือหยุดแล้วหยุด
00:48:11 → 00:48:15 เลยซึ่ง moh ก็เหมือนกันถ้าเราเจอว่าคน
00:48:15 → 00:48:18 ไข้มีภาวะใช้ยาแก้ปวดเกินสิ่งที่ต้องทำ
00:48:18 → 00:48:22 คือบอกให้คนไข้หยุดเลยค่ะแต่ในชีวิตจริง
00:48:22 → 00:48:25 ไม่มีใครทำได้สักคนนึงมันไม่สำเร็จมันยาก
00:48:25 → 00:48:28 เกินไปแล้วหมอว่ามันก็ทรกับคนไข้เกินไปนะ
00:48:28 → 00:48:31 แบบว่าคนไข้แบบเาปวดหัวเยอะมากๆอ่ะแล้ว
00:48:31 → 00:48:35 เขาต้องใช้ยาทุกวันถ้าเขาปวดถึงขนาดเขาทน
00:48:35 → 00:48:38 ได้อ่ะเคงไม่ต้องใช้ยาทุกวันหรอกถ้าทำได้
00:48:38 → 00:48:41 เคงทำมานานและในการที่ไม่ทันยาแก้ปวดอ่า
00:48:41 → 00:48:43 แล้วพอแบบพอเราเจอว่าเ้ยคนไข้มี moh ปุ๊บ
00:48:43 → 00:48:47 มาถึงปุ๊บหยุดเลยค่ะซึ่งส่วนใหญ่คนไข้มัก
00:48:47 → 00:48:49 จะไม่สำเร็จนะคะแล้วก็จะต้องกลับไปใช้ยา
00:48:49 → 00:48:52 แก้ปวดอยู่ดีทีนี้แล้วทำยังไงล่ะนะคะถึง
00:48:52 → 00:48:55 จะทำให้คนไข้ถอนยาได้สำเร็จส่วนใหญ่หมอ
00:48:55 → 00:48:58 เลยมองว่าถ้าคนไข้ที่มามาหาการแล้วมี moh
00:48:58 → 00:48:59 แล้วอยู่ดีๆเราบอกว่าคนไข้หยุดเลยนะ
00:48:59 → 00:49:02 อันเนี้ยยังไงก็ไม่สำเร็จแน่นอนนะคะเพราะ
00:49:02 → 00:49:04 ว่ามันปวดหัวเยอะก็ต้องกลับไปกินอยู่ดี
00:49:04 → 00:49:07 แต่ถ้าเราเจอคนไข้ว่ามีไมเกรนเรื้อราง
00:49:07 → 00:49:10 แล้วก็มี moh แล้วเราให้ยาป้องกันคนไข้ไป
00:49:10 → 00:49:14 ก่อนเช่นมาเจอกันครั้งแรกรู้และมีไมเกน
00:49:14 → 00:49:17 เลื้อลังมี moh ด้วยนะคะเราก็ใส่ยาป้อง
00:49:17 → 00:49:20 กันให้คนไข้ก่อนอาจจะเป็นยารับประทานยา
00:49:20 → 00:49:23 ฉีดรักษาไมเกรนฉีดโบทนุมท็อกซินอะไรก็ได้
00:49:24 → 00:49:26 ทำให้ความไวของสมองเลดลงก่อนตัวกับ
00:49:26 → 00:49:28 กระตุ้นต่อสิ่งเราต่างๆเขลดลงก่อนเมื่อ
00:49:28 → 00:49:31 เริ่มลดหยุดยาแก้ปวดนะคะอันนี้ก็จะทำได้
00:49:31 → 00:49:33 สำเร็จมากขึ้นหรือถ้าโอเคบางคนบอกว่า
00:49:33 → 00:49:36 พร้อมค่ะเดี๋ยวลองหยุดเลยนะคะอันนั้นยิ่ง
00:49:36 → 00:49:38 ทำได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเพราะว่าภาวะ
00:49:38 → 00:49:41 moh เราก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าเราจะหายได้
00:49:41 → 00:49:44 อ่ะเราก็ต้องหยุดยานะคะเพียงแต่ว่าหยุด
00:49:44 → 00:49:47 ยังไงให้คนไข้ใช้ชีวิตได้ปกติมากที่สุด
00:49:47 → 00:49:50 และมีความร่วมมือที่จะหยุดมากที่สุดมาก
00:49:50 → 00:49:52 กว่าอันนั้นหมอว่ามันสำคัญกว่านะคะเพราะ
00:49:52 → 00:49:55 บางทีเนี่ยถ้ายาป้องกันยังไม่ออกฤทธิ์
00:49:55 → 00:49:58 เต็มที่เลยแล้วเราเอาไปให้คนไข้ไม่ให้กิน
00:49:58 → 00:50:01 ยาเลยคนไข้ทำไม่สำเร็จสุดท้ายคนไข้อ่ะจะ
00:50:01 → 00:50:03 ไม่อยากรักษาอะไรเลยอ่ะยาป้องกันก็ไม่
00:50:03 → 00:50:05 อยากใช้ต่อละก็กลับไปใช้ยาแก้ปวดเหมือน
00:50:05 → 00:50:08 เดิมนะคะเพราะฉะนั้นบางทีเราก็จะต้องแบบ
00:50:08 → 00:50:12 เอ่อให้เวลาของสมองในการที่เอ่อวัยต่อตัว
00:50:12 → 00:50:15 กระตุ้นรดลงก่อนแล้วก็ค่อยๆถอนยาแก้ปวด
00:50:15 → 00:50:19 อีกทีนึงแต่ว่าถ้าไม่ถอนอันเนี้ยก็ไม่ได้
00:50:19 → 00:50:22 นะเพราะว่าเคยเจอคนไข้บางท่านนะคะคือแบบ
00:50:22 → 00:50:25 เป็นไมเกรนเรื้อรางอาจจะรักษาโดยยาฉีดมา
00:50:25 → 00:50:28 และนะคะฉีดยาไปแล้ว 3 เดือน 6 เดือนแต่
00:50:28 → 00:50:30 ทำไมเรู้สึกว่าเ้าไม่ตอบสนองเลยนะคะแล้ว
00:50:31 → 00:50:33 ก็ยังใช้ยาแก้ปวดทุกวันอยู่ดีนั่นก็คือ
00:50:33 → 00:50:36 ว่าเค้าอ่ะรักษาไมเกรนเรือร่างแต่เขาไม่
00:50:36 → 00:50:38 ได้รักษา moh ร่วมด้วยนั่นเลยเป็นเหตุผล
00:50:38 → 00:50:41 ว่าทำให้เขาอ่ะหยุดฉีดยาฉีดไม่ได้สักที
00:50:41 → 00:50:43 หรือสุดท้ายก็รู้สึกว่าฉีดยาไปแล้วมันก็
00:50:43 → 00:50:45 ไม่ได้ผลเพราะว่าไอ้ตัวยาแก้ปวดมันก็ยัง
00:50:45 → 00:50:47 ย้อนกลับมากระตุ้นอยู่นะคะเพราะฉะนั้น
00:50:47 → 00:50:50 จริงๆอ่ะสุดท้ายอ่ะถ้าเกิดแบบเราให้ยา
00:50:50 → 00:50:53 ป้องกันไปดีๆแล้วอ่ะยังไงเราก็ต้องแบบค่อ
00:50:54 → 00:50:56 เ่อให้กำลังใจคนไข้แล้วก็ต้องบอกความสำ
00:50:56 → 00:51:00 สำัของคนไข้ว่าทำไมเหตุผลถึงจะต้องหยุดยา
00:51:00 → 00:51:02 แก้ปวดให้ได้เพราะไม่งั้นเราก็หยุดรักษา
00:51:02 → 00:51:05 ไมเกรนไม่ได้ค่ะแต่ถ้าเราหยุดยาแก้ปวดได้
00:51:05 → 00:51:08 เร็วเท่าไหร่เราก็คุมอาการปวดไมเกรนได้
00:51:08 → 00:51:11 เร็วเท่าไหร่เราก็จะหยุดการรักษาไมเกรน
00:51:11 → 00:51:14 ได้เร็วเท่านั้นนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยพอพอ
00:51:14 → 00:51:16 เราให้ยาป้องกันไประดับนึงแล้วเราจะพบว่า
00:51:16 → 00:51:21 มันมีคนไข้กลุ่มนึงนะคะที่เขาติดยาแก้ปวด
00:51:21 → 00:51:24 จริงๆเช่นอุ๊ยประเมินแล้วนะว่าเนี่ยให้ยา
00:51:24 → 00:51:27 ป้องกันไปละฉีดบทุท็อกซินจริงๆไม่น่าจะ
00:51:27 → 00:51:31 ปวดเยอะละแต่ยังติดคำว่าต้องกินยาดัก
00:51:31 → 00:51:32 เพราะรู้แล้วว่าเมื่อก่อนเนี่ยเป็นไมเกรน
00:51:33 → 00:51:36 น่ะถ้ารออ่ะแล้วไปกินยามันไม่หายนะคะมัน
00:51:36 → 00:51:38 จะปวดหนักจนอาเจียนไปและนะคะกินยาไปก็
00:51:38 → 00:51:40 อาเจียนยาออกมาอยู่ๆเพราะฉะนั้นสิ่งที่
00:51:40 → 00:51:43 เกิดขึ้นคือเารู้สึกว่าพอเริ่มปวดนิดนี้
00:51:43 → 00:51:44 ต้องกินยาเลยเริ่มปวดนิดนี้ต้องกินยาเลย
00:51:44 → 00:51:47 นะคะเพราะถ้ากลุ่มเนี้ยนะคะอันเนี้ย
00:51:47 → 00:51:49 อันเนี้ยเราต้องแบบอื้อหือบอกคนไข้ว่าไม่
00:51:49 → 00:51:52 ได้นะคะเรารักษาเราให้ยาป้องกันและเพราะ
00:51:52 → 00:51:55 ฉะนั้นเนี่ยไมเกนเราน่าจะเบาลงะต้องหยุด
00:51:55 → 00:51:57 ยาค่ะรอปวดก่อนแล้วค่อยทานเหมือนเดิมอะไร
00:51:57 → 00:51:59 อย่างงี้อันเนี้ยถึงเจเป็นแบบเป็นคีย์
00:51:59 → 00:52:02 สำคัญเลยหมอว่าภาวะเนี่ยเป็นคีย์สำคัญเลย
00:52:02 → 00:52:04 สำหรับคนไข้ไมเกรนบางท่านที่เหมือนเคย
00:52:04 → 00:52:07 รักษาไมเกรนมาละไม่ว่าจะเป็นยากินยาฉีด
00:52:07 → 00:52:10 หรืออะไรก็ตามแล้วรู้สึกว่าไม่หายพอมาซัก
00:52:10 → 00:52:13 ประวัติจริงๆอ้าวยังใช้ยาแก้ปวดเกิน 10-15
00:52:13 → 00:52:15 เมตต่อเดือนอยู่ดีอ่ะค่ะมันก็เลยเหมือนวง
00:52:15 → 00:52:18 จรเนี่ยอันนึงเราก็พยายามหยุดอีกอันนึงก็
00:52:18 → 00:52:21 พยายามกระตุ้นเหมือนเหมือนเราพยายามดับไฟ
00:52:21 → 00:52:23 เนาะให้หม้อสนิทแต่ว่ายาแก้ปวดก็เหมือน
00:52:23 → 00:52:26 ฟืนที่มันก็ยังเติมไปให้มันลุกขึ้นมาอยู่
00:52:26 → 00:52:28 ดีพอเราพยายามดับอันนี้ก็ยังเติมนะคะ
00:52:28 → 00:52:32 เพราะฉะนสุดท้ายต้องรักษาร่วมกันนะรักษา
00:52:32 → 00:52:36 ควบคู่กันไปถึงจะทำให้ทุกอย่างหม้อสนิท
00:52:36 → 00:52:38 แล้วสมองของเราก็คือไม่กลับมาไว้กับตัว
00:52:38 → 00:52:40 ตัวกระตุ้นอีกถึงจะหยุดรักษาไมเกรนได้
00:52:40 → 00:52:43 เพราะว่าส่วนใหญ่คำถามที่เจอบ่อยอ่ะคนไข้
00:52:43 → 00:52:47 จะถามว่ารักษาไปแล้วหายมคะต้องรักษาตลอด
00:52:47 → 00:52:51 ชีวิตมคะนะคะอันเนี้ยก็จะเป็นคำที่อธิบาย
00:52:51 → 00:52:54 แหละว่าคนไข้จะต้องรักษานานแค่ไหนจะหยุด
00:52:54 → 00:52:57 รักษาได้หรือเปล่าส่วนใหญ่คนไข้ไมเกรน
00:52:57 → 00:53:00 เรื้อรังต้องรักษานานแค่ไหนนะคะปกติโดย
00:53:00 → 00:53:03 ทั่วไปอ่ะไมเกรนนะเวลาเรารักษาเนี่ยคือ
00:53:03 → 00:53:05 เราลดความไวของสมองต่อตัวกระตุ้นนะคะ
00:53:05 → 00:53:08 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะต้องคุมให้คนไข้ไม่
00:53:08 → 00:53:11 ไวต่อตัวกระตุ้นก็คือต้องกลับไปสู่ในจุด
00:53:11 → 00:53:14 ที่ปวดศีรษะไม่เกินประมาณสัก 3 ครั้ง 2-3
00:53:14 → 00:53:16 ครั้งต่อเดือนหรือไม่เกินสัก 4 ครั้งต่อ
00:53:16 → 00:53:18 เดือนก็คือเราไม่ไวต่อตัวกระตุ้นจนเกินไป
00:53:18 → 00:53:22 แล้วรักษาสภาวะนั้นให้สมองเราอยู่สภาวะ
00:53:22 → 00:53:25 นั้นให้ได้นานที่สุดอย่างน้อยเนี่ยประมาณ
00:53:25 → 00:53:28 สัก 6 เดือนแต่สำหรับในมเกณฑเรื้อรังอาจ
00:53:28 → 00:53:31 จะนานกว่านั้นนะเราเริ่มนับจุดที่เราคุม
00:53:31 → 00:53:33 อาการได้นะบางคนบอกเนี่ยได้ยามา 6 เดือน
00:53:33 → 00:53:35 แล้วแต่ว่านัก 6 เดือนยังปวด 10 วันหยุด
00:53:35 → 00:53:38 ยารักษาได้หรือยังคะไม่ได้เพราะเรารู้ว่า
00:53:38 → 00:53:40 หยุดไปเดี๋ยวคนไข้ก็กลับมาไวต่อตัว
00:53:40 → 00:53:42 กระตุ้นใหม่อยู่ดีเพราะฉะนั้นเวลาถามว่า
00:53:42 → 00:53:45 รักษานานแค่ไหนคะนับจากจุดที่เราคุมอาการ
00:53:45 → 00:53:48 ไมเกรนได้และคุมอาการนั้นให้ได้อย่างน้อย
00:53:48 → 00:53:51 ประมาณสัก 6 เดือนถึง 12 เดือนตัวเลข
00:53:51 → 00:53:53 เนี้ยมันก็เลยเป็นเหมือนว่าทำไมคนไข้
00:53:53 → 00:53:56 ไมเกนต้องรักษานานกว่าอ่ะลองสมมุตินะว่า
00:53:56 → 00:53:58 ว่าคนไข้ไมเกรนเรื้อดังที่มาหาหมออาจจะ
00:53:58 → 00:54:02 ปวดหัว 30 วันต่อเดือนเลย 30 วันโดยทั่ว
00:54:02 → 00:54:05 ไปเวลาเรารักษาไมเกรนยาฉีดยากินบทุ
00:54:05 → 00:54:09 ท็อกซินเราคาดหวังที่มากกว่า 50% ความถี่
00:54:09 → 00:54:12 ลดลงมากกว่า 50% เป็นต้นไปอ่ะแล้วถ้าเรา
00:54:12 → 00:54:15 เอาน้อยที่สุดก็คือที่ 50% แต่จริงๆเนี่ย
00:54:15 → 00:54:17 ยิ่งรักษาหลายอย่างหลายทางอ่ะมันได้เกิน
00:54:17 → 00:54:19 อยู่แล้วค่ะมัน 780 อยู่ะแต่ว่าเราเอา
00:54:19 → 00:54:21 น้อยที่สุดก่อนเลยอ่ะสมมุติเราเอาว่าคน
00:54:21 → 00:54:24 ไข้ตอบสนองแค่ 50% สมมุติว่าตั้งต้นเดือน
00:54:24 → 00:54:27 ที่ 1 ปวด 30 วันเดือนที่ 2 เริ่มออก
00:54:27 → 00:54:29 ฤทธิ์ก็คืออาจจะปวดหัวประมาณสัก 15 วัน
00:54:29 → 00:54:32 ถึง 20 วันเดือนที่ 3 ก็อาจจะเหลือประมาณ
00:54:32 → 00:54:35 สัก 7 วันถึง 10 วันเดือนที่ 4 ก็อาจจะ
00:54:35 → 00:54:39 เหลือประมาณซัก 4 วันถึง 6 วันเดือนที่ 5
00:54:39 → 00:54:42 อ่ะค่อยน้อยกว่า 4 นั่นหมายความว่าคนไข้
00:54:42 → 00:54:45 ไมเกรนเรื้อรังนะ 5 เดือนแรกของการรักษา
00:54:46 → 00:54:49 เราแค่ลดความไวของสมองเองนะคะที่ทำให้ปวด
00:54:49 → 00:54:52 ความถี่ลดลงแต่ยังคุมไม่ได้นะแล้วเราต้อง
00:54:52 → 00:54:55 คุมนะจุดที่ให้ปวดหัวไม่เกินสัก 4 วัน
00:54:55 → 00:54:57 เนี่ยต่อไปอีกสัก 6 เดือนเพราะฉะนั้นคน
00:54:57 → 00:55:00 ไข้ไมเกรนเรื้อรังเนี่ยเวลารักษาหมอเลย
00:55:00 → 00:55:02 บอกจะต้องบอกคนไข้ว่าอย่างน้อยประมาณสัก 1
00:55:02 → 00:55:05 ปีนะคะด้วยเหตุผลนี้ถ้าอันนี้ตอบสนองเป็น
00:55:05 → 00:55:07 ไปตามที่เราคาดหมายนะก็ประมาณอย่างน้อย
00:55:07 → 00:55:10 สัก 1 ปีแต่ถ้าเกิดเราไปกว่าจะรักษาโรค
00:55:10 → 00:55:13 ร่วมอะไรอีกวิตกกังวลอะไรอีกแล้วกว่าจะ
00:55:13 → 00:55:15 คุมอาการได้นานกว่านั้นอีกก็อาจจะไปถึงปี
00:55:15 → 00:55:17 ครึ่งอะไรอย่างนี้ก็ได้เหมือนกันเพราะ
00:55:17 → 00:55:19 ฉะนั้นนะคะคนไข้ไมเกรนใจจเย็นๆเวลาเริ่ม
00:55:19 → 00:55:23 รักษาแล้วต้องรักษาให้นานพอแล้วค่อยหยุด
00:55:23 → 00:55:26 ยาที่เจอบ่อยๆก็คือรักษาไปอ่ะดีแหละพอ
00:55:26 → 00:55:28 เดือน 2 เดือนมันก็ตอบสนองดีเลยเนาะก็รู้
00:55:28 → 00:55:31 สึกว่าอ้าวหยุดยาแก้ปวดได้แล้วนี่หายปวดะ
00:55:31 → 00:55:33 ก็เลยหยุดการรักษาไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น
00:55:33 → 00:55:35 คือเดี๋ยวสมองอ่ะก็จะกลับมาถูกกระตุ้น
00:55:35 → 00:55:37 ใหม่ก็ต้องกลับมารักษากันใหม่อยู่ดีเพราะ
00:55:37 → 00:55:39 ฉะนั้นถ้ายิ่งเราเป็นไมเกรนเรื้อรักมัน
00:55:40 → 00:55:42 ใช้เวลานะไม่ใช่โรคที่แบบรักษาเดือน 2
00:55:42 → 00:55:44 เดือนหายแต่ก็ไม่ใช่โรคที่ต้องรักษาไป
00:55:44 → 00:55:46 ตลอดชีวิตเหมือนกันเพราะฉะนั้นเอ่อไม่
00:55:46 → 00:55:49 อยากให้ท้อจนแบบหยุดรักษาไปอยากให้รู้ว่า
00:55:49 → 00:55:52 จริงๆอ่ะไมเกรนน่ะมันสามารถรักษาได้ใช้
00:55:52 → 00:55:55 เวลานิดนึงแล้วเมื่อไหร่ที่เราคุมอาการ
00:55:55 → 00:55:57 คุมวงจรสมองของเราให้มันไม่ไวต่อตัว
00:55:57 → 00:55:59 กระตุ้นจนเกินไปและให้มันคงที่ได้อย่าง
00:55:59 → 00:56:02 น้อยซักประมาณ 6 เดือนเราจะหยุดการรักษา
00:56:02 → 00:56:04 ได้เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเลือกวิธีการ
00:56:04 → 00:56:06 รักษาใดๆก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยาฉีด
00:56:06 → 00:56:10 ยับยั้ง ctp เ่อยารับประทานแบบป้องกัน
00:56:10 → 00:56:13 ไมเกรนหรือว่าการใช้บนุท็อกซินนั่นก็หมาย
00:56:13 → 00:56:15 ความว่าเราต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยซัก
00:56:15 → 00:56:18 ประมาณ 6-12 เดือนก็จะเป็นที่มาว่าจะฉีด
00:56:18 → 00:56:20 ยากี่เดือนคะจะกินยากี่เดือนคะแต่ว่าทุก
00:56:20 → 00:56:23 อย่างไม่ได้มีแบบว่าโหต้องฉีดไปเลย 12
00:56:23 → 00:56:25 หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะเอ่อบางทีเราอาจจะ
00:56:25 → 00:56:28 บางคนบางท่านฉีดยา 6 เดือนดีขึ้นปรับยา
00:56:28 → 00:56:31 กินต่อหรือใช้บนุทอกซินต่ออะไรเงี้ยซึ่ง
00:56:31 → 00:56:33 ตรงเนี้ยมันเป็นเรื่องของความแตกต่างของ
00:56:33 → 00:56:36 แต่ละท่านเลยว่าใครจะตอบสนองกับแบบไหน
00:56:36 → 00:56:39 แล้วเราจะปรับให้เหมาะสมกับคนไข้ยังไงแต่
00:56:39 → 00:56:42 คีย์เวิร์ดสำคัญก็คือไมเกนเรื้อรังมียานะ
00:56:42 → 00:56:46 คะมียารักษาได้แล้วได้ผลค่อนข้างดีด้วย
00:56:46 → 00:56:49 แต่ใช้เวลาอย่ารีบอ่าหยุดการรักษาเร็ว
00:56:49 → 00:56:53 เกินไปมักจะกลับมาเป็นซ้ำและต้องรักษายา
00:56:53 → 00:56:56 แก้ปวดเกินขนาดร่วมกันไปด้วยสุดท้ายท้าย
00:56:56 → 00:57:00 นะคะอันที่จะเป็นข้อที่ต้องทำร่วมกันไปนะ
00:57:00 → 00:57:03 คะก็คือเรื่องของการปรับพฤติกรรมและการ
00:57:03 → 00:57:06 ใช้ชีวิตนะคะอันเนี้ยใครๆก็รู้เนาะใช้
00:57:06 → 00:57:10 ชีวิตให้ดีเป็นยังไงก็คือออกกำลังกาย
00:57:10 → 00:57:13 พยายามไม่เครียดจนเกินไปเอ่อนอนให้เพียง
00:57:13 → 00:57:17 พอนะคะแต่อันที่คนอาจจะนึกไม่ค่อยถึงคือ
00:57:17 → 00:57:20 ดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยดื่มน้ำเนี่ยภาวะไ
00:57:20 → 00:57:24 เกรนนะคะพบว่าถ้าเรากินน้ำน้อยเกินไปหรือ
00:57:24 → 00:57:28 มีภาวะขาดน้ำคนไข่จะไวต่ออาการปวดศีรษะ
00:57:28 → 00:57:30 มากยิ่งขึ้นยิ่งโดยเฉพาะถ้าเกิดเราออกไป
00:57:30 → 00:57:32 เจอแบบตัวกระตุ้นแบบเช่นแสงแดดหรือว่าเรา
00:57:32 → 00:57:35 เสียเหงื่อมากๆก็ต้องยิ่งกินน้ำทดแทนเข้า
00:57:35 → 00:57:37 ให้เพียงพอเพราะยิ่งถ้าเกิดขาดน้ำเมื่อ
00:57:37 → 00:57:39 ไหร่จะรู้สึกมึนศีรษะและปวดศีรษะเพิ่มมาก
00:57:39 → 00:57:42 ขึ้นเรี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรนอาหารกับ
00:57:42 → 00:57:44 ไมเกรนเป็นอะไรที่แบบกระตุ้นได้เยอะมาก
00:57:45 → 00:57:46 ปัจจัยเรื่องของอาหารเนี่ยหลายคนก็จะมา
00:57:47 → 00:57:49 ถามอย่างเช่นเรื่องของกาแฟกาแฟเนี่ยนะคะ
00:57:49 → 00:57:53 เป็น 2 แบบเลยนะคะว่าบางคนทานกาแฟแล้วดี
00:57:53 → 00:57:55 ขึ้นบางคนทานกาแฟแล้วกระตุ้นไมเกรน
00:57:55 → 00:57:57 อันเนี้ยเราก็จะจะดูว่าแต่ละคนเนี่ยเา้า
00:57:57 → 00:58:00 มีตัวกระตุ้นแบบไหนนะคะเช่นบางคนกินกาแฟ
00:58:00 → 00:58:02 แล้วดีเราก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องให้คนไข้ไป
00:58:02 → 00:58:05 งดสามารถทานได้แต่ว่าก็ทานในปริมาณเดิม
00:58:05 → 00:58:08 ไม่ใช่เอากาแฟมาเป็นยาแก้วปวดอย่ากินมาก
00:58:08 → 00:58:10 เกินไปเพราะมากเกินไปสุดท้ายก็จะกลับไป
00:58:10 → 00:58:12 กระตุ้นไมเกรนอยู่ดีแต่ถ้าคนที่ไม่เคย
00:58:12 → 00:58:14 ดื่มกาแฟมาก่อนเลยเราก็คงไม่แนะนำให้คน
00:58:14 → 00:58:17 ไข้ไปดื่มกาแฟเพื่อเพื่อลดไมเกรนเพราะอัน
00:58:17 → 00:58:18 นี้อาจจะกระตุ้นไมเกรนก็ได้เพะงั้นอัน
00:58:19 → 00:58:20 กาแฟอาจจะต้องเป็นอะไรที่สังเกตตัวเองนะ
00:58:20 → 00:58:24 คะแต่อาหารอื่นๆที่ที่กระตุ้นแบบค่อนข้าง
00:58:24 → 00:58:26 จะแทบทุกคนเลยอ่ะอันแรกแอลกอฮอลแน่ๆโดย
00:58:26 → 00:58:29 เฉพาะกลุ่มไวนไวนแดงอะไรพวกเค่ะก็จะมีสาร
00:58:29 → 00:58:31 กระตุ้นมากกว่าแอลกอฮอล์อื่นๆด้วยแล้วก็
00:58:31 → 00:58:34 อาหารที่เป็นพวกแปรรูปต่างๆเช่นไม่ว่าจะ
00:58:34 → 00:58:37 เป็นพวกไส้กรอกแฮมอะไรอย่างเงี้ยที่เป็น
00:58:37 → 00:58:39 มีขบวนการการแปรรูปเยอะๆหรือพวกแบบ
00:58:39 → 00:58:42 ผลิตภัณฑ์จากพวกนมวัวต่างๆเช่นแบบชีสเนย
00:58:42 → 00:58:45 แข็งอะไรพวกเนี้ยค่ะช็อกโกแลตพวกนี้จะ
00:58:45 → 00:58:47 เป็นอาหารที่กระตุ้นคล้ายๆกันผลไม้ถ้าจะ
00:58:47 → 00:58:49 เป็นผลไม้ก็จะเป็นพวกผลไม้รดเปรี้ยวจาก
00:58:49 → 00:58:52 พวกกลุ่มแบบเปรี้ยวจัดๆเลยซีตรัสมะนาว
00:58:52 → 00:58:55 หรือว่าเป็นพวกกล้วยแบบกล้วยสุกๆเลยอะไร
00:58:55 → 00:58:57 เงี้ยค่ะพวกเนี้ยก็อธิบายได้จากสารใน
00:58:57 → 00:58:59 อาหารนั้นแหละนะคะที่จะมากระตุ้นไมเกรน
00:58:59 → 00:59:02 หรือว่าพวกอาหารที่มีผงชูรสต่างๆหรือแม้
00:59:02 → 00:59:05 กระทั่งอันที่เรานึกไม่ค่อยถึงก็คือตัว
00:59:05 → 00:59:07 สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ปัจจุบันน่ะ
00:59:07 → 00:59:09 ชูการฟรีเนาะแต่ว่าไปใส่สารให้ความหวาน
00:59:09 → 00:59:12 แทนน้ำตาลแทนอย่างเงี้ยอ่าตัวนั้นน่ะก็
00:59:12 → 00:59:14 บางคนก็กระตุ้นไมเกรนได้แต่เรื่องอาหาร
00:59:14 → 00:59:16 เนี่ยคือไม่ได้อยากให้เครียดจนเกินไปจน
00:59:16 → 00:59:18 รู้สึกว่าเราแบบทานอะไรไม่ได้เลยเรา
00:59:18 → 00:59:20 เลี่ยงตัวสำคัญำคัญก็พออย่างเช่นเรื่อง
00:59:20 → 00:59:22 ของแอลกอฮอล์ชีสช็อกโกแลตอะไรที่แบบมัน
00:59:22 → 00:59:25 ไม่ได้จำเป็นหรือว่าอาหารแปรรูปพวกแบบไส้
00:59:25 → 00:59:26 กรอกอะไรอย่าเงี้ยค่ะที่แบบเราก็รู้อยู่
00:59:26 → 00:59:28 แล้วว่าพวกเมันก็ไม่ได้ดีกับสุขภาพเรื่อง
00:59:28 → 00:59:30 อื่นด้วยอันนี้ก็เลี่ยงไปแต่อาหารอื่นๆ
00:59:30 → 00:59:32 เนี่ยถ้าใครทานได้แล้วไม่ได้กระตุ้น
00:59:32 → 00:59:34 ไมเกรนต่อให้ไปอ่านมาก็อาจจะพอทานได้แต่
00:59:34 → 00:59:36 ว่าในปริมาณที่เหมาะสมไม่งั้นคนไข้ก็จะ
00:59:37 → 00:59:39 รู้สึกเครียดว่ากินอะไรไม่ได้เลยนอกจาก
00:59:39 → 00:59:41 อาหารจริงๆปัจจัยอีกสำคัญนึงคือเรื่องของ
00:59:41 → 00:59:43 มื้ออาหารด้วยมากกว่ามื้ออาหารเนี่ยคนไข้
00:59:43 → 00:59:46 ไมเกรนถ้าเกิดเขาแบบหิวจัดๆเกินไปกระตุ้น
00:59:46 → 00:59:48 ไมเกรนเพราะฉะนั้นคนไข้ไมเกรนเลยต้อง
00:59:48 → 00:59:51 พยายามทานอาหารให้ตรงมือนิดนึงนะนะคะบาง
00:59:51 → 00:59:54 ทีบางคนแบบว่าโอใช้แบบอยากลดน้ำหนักงด
00:59:54 → 00:59:56 อาหารแบบหลายๆชั่วโมงจนเกินไปอ่ะค่ะค่ะ
00:59:56 → 00:59:58 เช่นข้ามมื้อเช้าไปเลยอะไรอย่างเงี้ยพอ
00:59:58 → 01:00:00 เราหิวมากๆหิวจัดๆอ่ะค่ะเราก็จะกระตุ้น
01:00:00 → 01:00:03 ไมเกรนได้เหมือนกันแล้วก็นอกจากนี้นะคะ
01:00:03 → 01:00:05 เรื่องของการออกกำลังกายเนี่ยในคนไข้
01:00:05 → 01:00:07 ไมเกรนนะค่ะคนไข้จะชอบบอกว่ามันออกแล้ว
01:00:07 → 01:00:10 ปวดหัวมากขึ้นเพราะฉะนั้นก็ถ้าเราปวดหัว
01:00:10 → 01:00:13 ไมเกรนหนักๆอยู่นะคะเราก็ต้องเลี่ยงการ
01:00:13 → 01:00:15 ออกกำลังกายแบบหนักๆอ่ะค่ะที่เป็นการออก
01:00:15 → 01:00:18 กำลังกายแบบเป็นวกัส Exercise ที่มันใช้
01:00:18 → 01:00:21 แรงหรือว่าออกหนักเกินไปเช่นกีฬาบางอย่าง
01:00:21 → 01:00:24 หรือว่าที่มันแบบเล่นต่อเนื่องจัดๆนะคะ
01:00:24 → 01:00:26 เราก็อาจจะต้องเริ่มจากเบาๆก่อนเช่นแบบ
01:00:26 → 01:00:30 คาร์ดิโอเบาๆเดินเร็วๆวิ่งเหยาะๆปั่น
01:00:30 → 01:00:31 จักรยานอยู่กับที่อะไรอย่างเงี้ยค่ะที่
01:00:31 → 01:00:34 ออกแบบให้เราไม่รู้สึกว่ามันมาย้อนกลับมา
01:00:34 → 01:00:36 กระตุ้นไมเกรนแล้วเมื่อไมเกรนเราดีขึ้นะ
01:00:36 → 01:00:38 เราก็จะพัฒนากการออกกำลังกายของเราต่อไป
01:00:38 → 01:00:41 ได้เหมือนกันนี่ก็จะเป็นตัวกระตุ้นตัวการ
01:00:41 → 01:00:44 ปรับพฤติกรรมแล้วก็ที่จะช่วยในไมเกรนได้
01:00:44 → 01:00:46 นะคะอันนี้ช่วยได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็น
01:00:46 → 01:00:48 ไมเกรนเรื้อรางหรือไม่เรื้อรางแล้วก็ช่วย
01:00:48 → 01:00:51 เรื่องอื่นๆด้วยรักษาโรคร่วมนะคะอันนี้ก็
01:00:51 → 01:00:54 สำคัญมากเหมือนกันนะคะเพราะว่าไมเกรน
01:00:54 → 01:00:56 เรื้อรังมักจะมีโรคร่วมที่ทำให้อาการ
01:00:56 → 01:01:00 ไมเกรนแย่ลงไปอีกเพบว่าแบบบางโรคเโรคบาง
01:01:00 → 01:01:02 โรคไม่ว่าจะเป็นพวกกล้ามเนื้อคอบาไหลที่
01:01:02 → 01:01:05 ตึงมากๆนะคะโรควิตกกังวลซึมเศร้าหรือการ
01:01:05 → 01:01:08 นอนหลับที่ผิดปกติโรคนอนไม่หลับไมเกรน
01:01:08 → 01:01:11 ทั่วไปที่ไม่เรือรังก็มีก็เจอได้เนาะแบบ
01:01:11 → 01:01:13 ว่าคนปวดไมเกรนไม่ได้บ่อยมากก็มีปวดกล้าม
01:01:13 → 01:01:16 เนื้อได้มีวิตกกังวลได้แต่เจอไม่ได้เยอะ
01:01:16 → 01:01:21 มากอาจจะสักแบบ 20% 20 20% 30% แต่พอ
01:01:21 → 01:01:24 เป็นไมเกรนเรื้อรังปุ๊บพวกเนี้ยเจอเกิน
01:01:24 → 01:01:27 50% หมดเลยก็คือแบบแทบจะโอ้โหถ้าปวดหัว
01:01:27 → 01:01:30 ไมเกรนแทบทุกวันมาปวดเกิน 15-20 วันมา
01:01:30 → 01:01:32 กล้ามเนื้อตึงทุกคนเลยแล้วก็มักจะเครียด
01:01:32 → 01:01:34 ทุกคนด้วยนะคะเครียดในที่นี้ก็อาจจะเป็น
01:01:34 → 01:01:37 จากตัวโรคปวดหัวไมเกรนเองที่เราเป็นบ่อย
01:01:37 → 01:01:40 แล้วเราไม่หายสักทีก็ทำให้เราเริ่มแบบ
01:01:40 → 01:01:42 กังวลแล้วว่าเราเป็นโรคอะไรเมื่อไหร่มัน
01:01:42 → 01:01:45 จะหายไปจะใช้ชีวิตได้ยังไงทะเลาะกันที่
01:01:45 → 01:01:48 บ้านตลอดเพราะว่าแบบอ่าปวดหัวมามันก็
01:01:48 → 01:01:50 อารมณ์ไม่ค่อยดีหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะและ
01:01:50 → 01:01:52 อีกอันนึงเองก็คือตัวโรคไมเกรนเองที่มี
01:01:52 → 01:01:55 สารเคมีที่ผิดปกติเค้าก็พบว่าสารเคมี
01:01:55 → 01:01:57 เหล่าเนี่ยยมันก็เกี่ยวข้องกับพวกอารมณ์
01:01:57 → 01:02:00 ด้วยไม่ว่าจะเป็นพวกเซโรโทนิน cgrp อะไร
01:02:00 → 01:02:02 ต่างๆเนี่ยก็เกี่ยวกับเรื่องวิตกกาวดและ
01:02:02 → 01:02:03 ซึมเศร้าด้วยเพราะฉะนั้นพอเป็นไมเกรน
01:02:04 → 01:02:06 เรื้อรังเนี่ยก็เลยยิ่งแบบทำให้เหมือนมี
01:02:06 → 01:02:08 ความเสี่ยงรวบพวกเนี้ยเกินมากขึ้นไปอีก
01:02:08 → 01:02:13 แบบว่าเกิน 50% ซึ่งถ้าเราไม่รักษาเอ่อ
01:02:13 → 01:02:15 ส่วนใหญ่อ่ะมันก็จะทำให้ไมเกรนเราไม่หาย
01:02:15 → 01:02:17 สักทีเหมือนกันนะอย่างเช่นที่แบบหมอเจอมา
01:02:17 → 01:02:20 ว่าแบบคนไข้ปวดไมเกรนเรื้อรังอ่ะบางคน
01:02:20 → 01:02:22 เนี่ยไปรักษากล้ามเนื้ออย่างเดียวพอรักษา
01:02:22 → 01:02:24 กล้ามเนื้ออย่างเดียววงจรสมองมันยังไว
01:02:24 → 01:02:26 อยู่อ่ะค่ะมันก็ย้อนกลับมากับตตุ้นไมเกรน
01:02:26 → 01:02:28 ใหม่กล้ามเนื้อตึงใหม่ในทางกลับกันเอเค
01:02:28 → 01:02:31 เรารักษาไมเกรนไปแต่คนไข้หุมกล้ามเนื้อ
01:02:31 → 01:02:33 ตึงมากเลยแบบเรารักษาไมเกรนอ่ะไมเกรนดี
01:02:33 → 01:02:35 ขึ้นแล้วนะปวดไมเกรนเนี่ยหายแล้วไม่บ่อย
01:02:35 → 01:02:37 แล้วแต่กล้ามเนื้อแบบอื้อหือตึงมากแล้ว
01:02:37 → 01:02:39 สุดท้ายไอ้กล้ามเนื้อนั้นน่ะก็ย้อนกลับมา
01:02:39 → 01:02:41 กระตุ้นไมเกรนใหม่อยู่ดีอ่ะค่ะเพราะ
01:02:41 → 01:02:43 ฉะนั้นมันก็เลยต้องรักษาร่วมๆกันไปมันถึง
01:02:44 → 01:02:46 จะดีขึ้นแล้วไม่ย้อนกลับมากระตุ้นนะหรือ
01:02:46 → 01:02:48 ว่าเรื่องแบบวิตกกังวลซึมเศร้าเองก็ตาม
01:02:48 → 01:02:50 เงี้ยเรารู้ว่าคนไข้ปวดหัวทุกวันปลวดหัว
01:02:50 → 01:02:52 เรือร่างอ่ะค่ะคนไข้กังวลอยู่ละซึ่งมี
01:02:52 → 01:02:55 กลุ่มนึงเ่ะที่เราใช้ยารักษาไมเกรนไปแล้ว
01:02:55 → 01:02:57 คนไข้ก็ออารมดีเลยกลุ่มเนี้ยก็แสดงว่าคน
01:02:57 → 01:03:00 ไข้เป็นวิตกกังวลจากที่ปวดหัวมากกว่าไม่
01:03:00 → 01:03:02 ใช่เป็นตัวโรคซุมเศร้าเองตัวโรควิตกกังวล
01:03:02 → 01:03:05 เองแต่บางคนอย่างเงี้ยรักษาไมเกรนดีขึ้นะ
01:03:05 → 01:03:07 ปวดไมเกรนดีขึ้นแล้วแต่อารมณ์ยังผิดปกติ
01:03:07 → 01:03:09 อย่างนี้ก็ต้องใช้ยากลุ่มรักษาวิตกกังวล
01:03:09 → 01:03:11 ซุมเศร้าด้วยเหมือนกันไม่งั้นก็ย้อนกลับ
01:03:11 → 01:03:14 มากระตุ้นไมเกรนใหม่นะคะซึ่งจริงๆอ่ะค่ะ
01:03:14 → 01:03:17 ยารักษาไมเกรนนะคะในหลายตัวเนี่ยก็อยู่ใน
01:03:17 → 01:03:20 กลุ่มยาที่รักษาเรื่องอารมณ์วิโตกังวลซึม
01:03:20 → 01:03:22 เศร้านี่แหละเพราะฉะนั้นถ้าคนไหนมีอารมณ์
01:03:22 → 01:03:25 ที่ผิดปกติเราก็จะพยายามเลือกยาที่ให้คน
01:03:25 → 01:03:27 ไข้เหมือนกินยา 1 เม็ดแต่ได้ประโยชน์หลาย
01:03:27 → 01:03:30 อย่างจะได้ไม่ต้องทานยามากเกินไปอีกอัน
01:03:30 → 01:03:32 นึงที่เจอบ่อยๆคือเรื่องของทางเดินอาหาร
01:03:32 → 01:03:34 ทางเดินอาหารที่เจอในไมเกรนเยอะๆนะคะไม่
01:03:34 → 01:03:36 พ้นโรคกระเพาะกระเพาะอาหารอักเสบเพราะว่า
01:03:36 → 01:03:39 ส่วนหนึ่งก็คือคนใขกินยาแก้ปวดเยอะนะยา
01:03:39 → 01:03:41 แก้ปวดเมื่อก่อนเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะตกอยู่
01:03:41 → 01:03:43 ในกลุ่มแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์หรือว่า
01:03:43 → 01:03:45 กลุ่มเอนเสดเนี่ยซึ่งส่วนใหมันกัดกระเพาะ
01:03:45 → 01:03:47 เยอะแล้วคนไข้กลุ่มเยก็จะกินยามานานมากมา
01:03:47 → 01:03:50 กินมาหลายปียังไงก็มักจะมีเรื่องของแผลใน
01:03:50 → 01:03:52 กระเพาะอาหารหรือว่ากระเพาะอาหารอักเสบ
01:03:52 → 01:03:54 ร่วมด้วยอยู่แล้วซึ่งใครที่มีอาการเยอะ
01:03:54 → 01:03:57 มากๆคนไข้ก็จะเริ่มย้ายชิฟไปกินยากลุ่ม
01:03:57 → 01:03:59 อื่นแทนและพวกไายกล้ามเนื้อหรือว่าแบบพวก
01:03:59 → 01:04:01 กลุ่มเออร์กอตกลุ่มอย่างอื่นแทนนะคะแต่
01:04:01 → 01:04:03 ว่าส่วนใหญ่ก็ยังมีปัญหาเรื่องของการ
01:04:03 → 01:04:05 ระคายเคืองกระเพาะอาหารอยู่ดีงั้นก็จะมา
01:04:05 → 01:04:08 คู่กันนอกจากนี้คือตัวโรคกระเพาะเนี่ยตัว
01:04:08 → 01:04:10 ปัจจัยนึงที่เป็นตัวกระตุ้นการหลังกดที่
01:04:10 → 01:04:13 ผิดปกติก็คือเรื่องของความเครียดนะคะ
01:04:13 → 01:04:16 เพราะฉะนั้นคนไข้ก็เครียดปวดกระเพาะ
01:04:16 → 01:04:18 เครียดเป็นไมเกรนกินยาปวดกระเพาะก็จะวน
01:04:18 → 01:04:22 เวียนแบบนี้ดังนั้นก็ใครที่เริ่มมีนะคะก็
01:04:22 → 01:04:24 ต้องเริ่มรักษาที่ตัวต้นเหตุไมเกรนนั่น
01:04:24 → 01:04:26 แหละทำยังไงให้มันไม่ปวดบ่อยๆก่อนเราก็จะ
01:04:27 → 01:04:28 ได้ไม่ต้องไปใช้ยาแก้ปวดเยอะรักษาโรค
01:04:28 → 01:04:31 กระเพาะก็จะได้ดีขึ้นด้วยอีกอันนึงก็เป็น
01:04:31 → 01:04:33 กลุ่มลำไส้แปรป่วนนะคะพวกนี้ก็จะเป็นโรค
01:04:33 → 01:04:36 ที่มาคล้ายๆกับกลุ่มโรควิตกกังวลและซึม
01:04:36 → 01:04:39 เศร้าว่ามันสัมพันธ์กับภาวะแบบสารเคมีบาง
01:04:39 → 01:04:41 อย่างนะคะแล้วก็เรื่องของความเครียดเป็น
01:04:41 → 01:04:44 หลักที่ทำให้คนไข้อาจจะมีท้องผูกบ้างท้อง
01:04:44 → 01:04:47 ผูกสลับท้องเสียคนไข้ไมเกนเรื้อรังส่วน
01:04:47 → 01:04:49 ใหญ่ก็มักจะมีปัญหาเรื่องของอ่าทางเดิน
01:04:49 → 01:04:53 อาหารและลำไส้นะคะรวมไปถึงโรคนอนหลับด้วย
01:04:53 → 01:04:56 นะคะก็ส่วนใหญ่พอปวดหัวก็นอนไม่หลับหลับ
01:04:56 → 01:04:58 ก็เครียดก็ยิ่งนอนไม่หลับนอนไม่หลับก็
01:04:58 → 01:05:01 ยิ่งปวดหัวก็เป็นปัจจัยที่มันเจอร่วมๆกัน
01:05:01 → 01:05:03 นะคะเพราะฉะนั้นเวลาเราเอ่อเจอคนไข้
01:05:03 → 01:05:06 ไมเกรนเรื้อรังเราต้องลิสออกมาให้หมดเลย
01:05:06 → 01:05:08 ว่าคนไข้เป็นไมเกรนเรื้อรังแล้วมีอะไรอีก
01:05:08 → 01:05:12 บ้างนะคะมีใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดด้วยั้ยมี
01:05:12 → 01:05:15 วิตกกังวลซึมเศร้ามยมีกล้ามเนื้อตึงมาก
01:05:15 → 01:05:18 หรือเปล่านะคะมีโรคกระเพาะอาหารโรคลำไส้ม
01:05:18 → 01:05:21 นะคะนอนก็ไม่หลับด้วยหรือเปล่านะคะหรือ
01:05:21 → 01:05:23 นอกเหนือจากอื่นๆจากนี้ก็ยังมีอีกใน
01:05:23 → 01:05:26 เรื่องกลุ่มย่อยๆอีกนะคะก็งั้นก็เราก็
01:05:26 → 01:05:28 ต้องประเมินคนไข้ให้ครบทุกด้านนะคะแล้วก็
01:05:29 → 01:05:32 รักษาร่วมกันไปก็จะได้ผลการรักษาที่ดีที่
01:05:32 → 01:05:35 สุดและสุดท้ายเลยนะคะสำหรับคนไข้ไมเกรน
01:05:35 → 01:05:37 ไม่ว่าจะเลื้อรังไม่เลื้อรังนะคะการจด
01:05:37 → 01:05:41 บันทึกสำคัญมากเพราะว่าคือไมเกรนเนี่ยจะ
01:05:41 → 01:05:43 เห็นว่าตั้งแต่ที่หมอย้ำตั้งแต่ว่าใครจะ
01:05:43 → 01:05:46 เป็นไมเกรนเรื้อรังแล้วใครที่จะมีความ
01:05:46 → 01:05:48 เสี่ยงที่จะเป็นไมเกรนเรื้อรงหนึ่งในนั้น
01:05:48 → 01:05:52 คือเรื่องของความถี่ของไมเกรนใช่ไหมยคะ
01:05:52 → 01:05:56 แล้วก็ปริมาณการใช้ยาแก้ปวดซึ่งนึกสภาพ
01:05:56 → 01:05:59 ถ้าเราปวดมา 5 ปีเราจะจำได้หรอคะว่าเรา
01:05:59 → 01:06:02 ปวดเดือนละกี่วันแบบว่ามันไม่มีทางจะจำ
01:06:02 → 01:06:06 ได้แน่ๆเป๊ะๆแน่ๆค่ะว่าเราปวดกี่วันแล้ว
01:06:06 → 01:06:10 เรากินยาอะไรไปบ้างกินตัวไหนชื่ออะไรกิน
01:06:10 → 01:06:13 กี่เม็ดส่วนใหญ่คนไข้ก็มักจะหรือเราเอง
01:06:14 → 01:06:16 เนี่ยคนทั่วๆไปก็มักจะจำได้ในระยะสั้นๆ
01:06:16 → 01:06:18 แหละ 1 เดือน 2 เดือนแล้วเนี่ยพอนึกออก
01:06:18 → 01:06:21 เริ่มเกิน 3 เดือน 4 เดือนเนี่ยมันได้แค่
01:06:21 → 01:06:24 คร่าวๆละแต่จะเห็นว่าอันนี้มันสำคัญมาก
01:06:24 → 01:06:27 เช่นคนให้่ปวดหัวอ่ะถ้าเรายึดตามการ
01:06:27 → 01:06:30 วินิจฉัยจริงๆเลยบอกไมเกนเลื้อรังเอาเกิน
01:06:30 → 01:06:34 15 วันแล้วถ้าเขาปวด 12 วันกับเาปวด 16
01:06:34 → 01:06:36 วันหมาอว่าเกิน 3 เดือนคนไข้ไม่ได้สามารถ
01:06:36 → 01:06:40 บอกได้เป๊ๆอ่ะค่ะว่าเอ้ย 12 หรือ 17 หรือ
01:06:40 → 01:06:43 18 ส่วนใหญ่ทุกคนก็จะพูดเหมือนกันว่า 10
01:06:43 → 01:06:45 กว่าวันน่ะค่ะอะไรอย่างเงี้ยแต่โอเคถ้า
01:06:45 → 01:06:47 ปวดทุกวันอันนี้จำได้เพราะมันทุกวันนะคะ
01:06:47 → 01:06:50 หรือถ้าปวดน้อยมากๆอ่ะค้าง 2 ครั้งอันนี้
01:06:50 → 01:06:52 ก็ยังจำได้แต่ใน Range ที่แบบอยู่ในช่วง
01:06:52 → 01:06:56 10-20 อ่ะค่ะมันยากที่เราจะจดตามและอีก
01:06:56 → 01:06:58 อย่างคือในชีวิตของเราต้องจำเรื่องอะไร
01:06:58 → 01:07:01 ต่างๆมากมายไหนจะบันทึกการเงินไหนจะงาน
01:07:01 → 01:07:04 ที่ต้องทำนะคะเพราะฉะนั้นโจทย์บันทึกไว้
01:07:04 → 01:07:09 เถอะจะได้ไม่ต้องอ่ากังวลหรือว่าต้องใช้
01:07:09 → 01:07:12 ความคิดตรงนี้ไปจดจำเรื่องนี้อีกวันไหน
01:07:12 → 01:07:16 ปวดหัวกดเลยบันทึกเลยวันไหนกินยาจดเลยนะ
01:07:16 → 01:07:19 คะเดี๋ยวนี้ก็มีวิธีต่างๆมากมายไม่ว่าจะ
01:07:19 → 01:07:23 ใช้ในมือถือนะคะบางคนก็จดเขียนมือไดอารี่
01:07:23 → 01:07:27 บางคนก็ใช้เอ่อแแอพลิเคชันอะไรต่างๆได้นะ
01:07:27 → 01:07:29 คะแล้วแต่ความเหมาะสมความสะดวกของแต่ละคน
01:07:30 → 01:07:32 เลยอันนี้หมอก็จะยกตัวอย่างให้ดูว่าคนไข้
01:07:32 → 01:07:36 ไมเกรนที่เหมาะให้คนคนไข้อ่าจดมาเนี่ยมัน
01:07:36 → 01:07:38 เอามาใช้ประโยชน์อะไรยังไงได้บ้างซึ่ง
01:07:38 → 01:07:41 อย่างคนนี้นะคะก็คือให้เขียนเลยว่าก่อน
01:07:41 → 01:07:44 ที่เขาจะเป็นไมเกนเารู้สึกยังไงเจะบรรยาย
01:07:44 → 01:07:47 เลยว่าแบบอื้อหือรู้สึกตัวเองแบบเปราะบาง
01:07:47 → 01:07:49 มากแบบไอ้โดนแดดก็ไม่ได้ไอ้นู่นก็ไม่ได้
01:07:49 → 01:07:52 ไอ้นี่ก็ไม่ได้กินยาก็เหมือนเริ่มไม่หาย
01:07:52 → 01:07:54 รู้สึกว่าแบบเฮ้ยเราไปทำกรรมทำอะไรไว้
01:07:54 → 01:07:57 ทำไมเราถึงต้องมาเป็นแบบนี้เริ่มรู้สึก
01:07:57 → 01:07:59 ว่าแบบใช้ชีวิตยากะบางครั้งก็มีคิดอยู่
01:07:59 → 01:08:01 เหมือนกันว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
01:08:01 → 01:08:03 นี่คือการระบายความรู้สึกออกมาก่อนที่จะ
01:08:03 → 01:08:06 มาเริ่มรักษาซึ่งโอ้โหจะเห็นว่าช่วงแรกๆ
01:08:06 → 01:08:10 เนี่ยอาการปวดไมเกรนก็เป็นแบบเยอะเลยวัน
01:08:10 → 01:08:13 ไหนเป็นเยอะเป็นน้อยเขาเขียนบรรยายไว้หมด
01:08:13 → 01:08:15 เลยนะคะวันไหนกินยาอันนี้พอดีอันเนี้ย
01:08:15 → 01:08:18 เป็นไดอารี่ที่หมอทำมาให้คนไข้ก็คือใช้
01:08:18 → 01:08:21 สติ๊กเกอร์ช่วยในการที่แบบให้คนไข้อ่ะ
01:08:21 → 01:08:24 ง่ายต่อการจดมากขึ้นเช่นเอ่อสติ๊กเกอร์
01:08:24 → 01:08:26 เม็ดยาสีนี้คือยาตัวเนี้ยกินยาแทนที่เรา
01:08:26 → 01:08:28 จะต้องมานั่งเขียนว่าเรากินยาอะไรไปเราก็
01:08:28 → 01:08:30 เหมือนแค่แบบอ่ะหยิบสติ๊กเกอร์มาแปะอะไร
01:08:30 → 01:08:33 อย่างเงี้ยค่ะให้แบบง่ายต่อคนไข้มากขึ้น
01:08:33 → 01:08:35 คนไข้จะได้แบบอยากจดให้หมออะไรอย่างเงี้ย
01:08:35 → 01:08:37 ค่ะก็จะเห็นว่าแบบโหช่วงแรกๆนะคะก็คือกิน
01:08:37 → 01:08:40 ยารักษาอะไรไปมีวันไหนไม่สบายอะไรอย่าง
01:08:40 → 01:08:43 เงี้ยคนไข้ก็เขียนไว้หมดเลยก็คือดีมากนะ
01:08:43 → 01:08:45 คะว่าสามารถหาตัวกระตุ้นของตัวเองได้เจอ
01:08:45 → 01:08:48 แล้วก็หาแพชชั่นได้ด้วยว่าแบบอุ๊ยวันนี้
01:08:48 → 01:08:49 ไปออกกำลังกายช่วงนี้ออกกำลังกายเยอะไม่
01:08:49 → 01:08:52 ปวดหัวเลยค่ะเขาก็จะมีกำลังใจในการที่จะ
01:08:52 → 01:08:55 ทำต่อไปจริงๆอันเนี้ยก่อนหน้าเนี้ยที่
01:08:55 → 01:08:58 เริ่มรักษาคือปวดเกือบทุกวันเลยนะคะพอดี
01:08:58 → 01:08:59 อันนี้ไม่ได้แคปมาอันนี้รักษาไปแล้วะก็
01:09:00 → 01:09:02 คือมันเริ่มน้อยลงและจากแบบเดิมทีที่ปวด
01:09:02 → 01:09:04 ประมาณ 10-20 วันต่อเดือนตอนนี้ก็เริ่ม
01:09:04 → 01:09:07 เหลือประมาณแค่ 4 วัน 5 วันแหละคนไข้ก็มี
01:09:07 → 01:09:10 กำลังใจว่าเออเราแบบปวดหัวน้อยลงแล้วนะ
01:09:10 → 01:09:12 ที่เรารักษาอยู่เนี่ยมันถูกต้องและเพราะ
01:09:12 → 01:09:15 ฉะนั้นประโยชน์ของการจดไมเกรนนะคะมันคือ
01:09:15 → 01:09:17 มันได้หลายอย่างทั้งในแง่ของให้หมออ่ะ
01:09:17 → 01:09:19 มอนิเตอร์ติดตามอาการคนไข้ด้วยว่าที่เรา
01:09:19 → 01:09:22 รักษาไปอ่ะคนไข้ดีขึ้นหรือเปล่าอย่างเช่น
01:09:22 → 01:09:26 ลดจาก 8 วันเหลือ 4 วันจริงๆคือ 50% เลย
01:09:26 → 01:09:28 นะคะแต่ถ้าเกิดเราไม่ได้จดไว้อ่ะเดือนที่
01:09:28 → 01:09:30 แล้ว 8 เดือนนี้น่าจะประมาณ 6 มั้งคะอะไร
01:09:30 → 01:09:33 อย่างเงี้ยคือมันไม่ได้เหมือนมีมอนิเตอร์
01:09:33 → 01:09:36 ชัดๆว่าที่เรารักษาอยู่อ่ะมันได้ตรงตาม
01:09:36 → 01:09:38 ที่เราต้องการมต้องปรับยาเพิ่มแล้วหรือ
01:09:38 → 01:09:39 ยังเหมือนโรคอื่นๆอ่ะเรามีตัวให้
01:09:39 → 01:09:42 มอนิเตอร์รักษาเบาหวานเราเจาะน้ำตาลเราดู
01:09:42 → 01:09:45 ค่าน้ำตาลสะสมคุณหมอเขาคก็จะดูได้ว่าเรา
01:09:45 → 01:09:48 ต้องปรับยาขึ้นปรับยาลงไหมแต่โรคไมเกรน
01:09:48 → 01:09:50 ไม่มีการเจาะเลือดที่จะบอกว่าคนเนี้ยตอน
01:09:50 → 01:09:52 นี้เป็นมากหรือเป็นน้อยนะคะสิ่งสำคัญแล้ว
01:09:52 → 01:09:55 ก็วัดจาก 1 ความถี่ของอาการปวดหัวปวดกี่
01:09:55 → 01:09:58 วันใช้ยาแก้ปวดยังเยอะอยู่มยหมอก็จะได้
01:09:58 → 01:10:00 รู้ด้วยว่าอ้าคนไข้ไม่ได้ปวดเยอะแล้วนี่
01:10:00 → 01:10:02 ยังกินยาเกือบทุกวันอยู่เลยอย่างเงี้ยอ่ะ
01:10:02 → 01:10:05 ก็ต้องระวังเรื่อง moh ละก็ต้องมาคุยกับ
01:10:05 → 01:10:08 คนไข้ว่าเราก็ต้องมาแก้ตรงนี้กันแล้วก็
01:10:08 → 01:10:10 นอกจากนี้ก็ยังเป็นตัวที่แบบทำให้คนไข้
01:10:10 → 01:10:12 ได้สังเกตอาการตัวเองด้วยว่าอะไรที่เป็น
01:10:12 → 01:10:15 ตัวกระตุ้นเคกันแน่เขก็จะได้เลี่ยงนะคะ
01:10:15 → 01:10:17 แล้วก็เป็นรีวอร์ดด้วยเป็นกำลังใจด้วย
01:10:17 → 01:10:20 เอ้ยรักษามาถูกทางและก็เหมือนจะได้แบบว่า
01:10:21 → 01:10:23 มีกำลังใจในการรักษาต่อไปเพราะฉะนั้น
01:10:23 → 01:10:26 เนี่ยอยากให้คนไข้ไมเกรนทุกคนคนะคะเริ่ม
01:10:26 → 01:10:28 เริ่มบันทึกอาการของตัวเองนะคะว่าเราอยู่
01:10:28 → 01:10:31 ในกลุ่มไหนเป็นกลุ่มไมเกรนค้างคราวที่
01:10:31 → 01:10:33 เป็นน้อยๆนะเปิดนไม่เกินประมาณซักแบบ
01:10:33 → 01:10:35 ครั้ง 2 ครั้งต่อเดือนไม่เกิน 4 ครั้งต่อ
01:10:35 → 01:10:38 เดือนหรือเราเริ่มเป็นแบบความทีเยอะและนะ
01:10:38 → 01:10:40 คะเราก็จะได้เหมือนมีตัวที่เตือนเราขึ้น
01:10:40 → 01:10:43 มาว่าเราควรจะไปพบแพทย์แล้วหรือยังเราควร
01:10:43 → 01:10:45 จะต้องจัดการไมเกรนแล้วหรือยังเริ่มจด
01:10:45 → 01:10:47 เริ่มบันทึกเริ่มหาตัวกระตุ้นของเราตั้ง
01:10:47 → 01:10:50 แต่วันนี้นะคะก็จะเป็นตัวที่สามารถเอาไป
01:10:50 → 01:10:52 ใช้ประโยชน์ในการรักษาได้อย่างแน่นอนคิด
01:10:52 → 01:10:55 ว่าวันเนี้ยครบนะคะสำหรับคนไข้ที่ปวดหัว
01:10:55 → 01:10:59 เรื้อรังแล้วเข้าขายว่าน่าจะเป็นไมเกรน
01:10:59 → 01:11:02 เรื้อรังนะคะก็คืออธิบายให้เห็นภาพเลย
01:11:02 → 01:11:05 ตั้งแต่ว่าที่เราปวดหัวเรื้อรังแล้วคนไหน
01:11:05 → 01:11:08 น่าจะเป็นไมเกรนเรื้อรังแบบไหนปวดกี่
01:11:08 → 01:11:11 ครั้งต่อเดือนปวดมากกว่า 15 วันต่อเดือน
01:11:11 → 01:11:14 ปวดเกิน 3 เดือนติดกันขึ้นไปที่เราน่าจะ
01:11:14 → 01:11:17 เข้าขายเป็นไมเกรนเรื้อรังและอ่าซึ่ง
01:11:17 → 01:11:19 ไมเกนเรื้อรังเนี่ยไม่ต้องมีตัวกระตุ้นก็
01:11:19 → 01:11:23 ได้นะบดจะปวดอยู่ดีๆตื่นมาก็ปวดเลยเริ่ม
01:11:23 → 01:11:26 กินยาก็เริ่มไม่ตอบสนองกับการรักษาและมี
01:11:26 → 01:11:28 ความเสี่ยงที่จะใช้ยาแก้ปวดมากขึ้นไป
01:11:28 → 01:11:32 เรื่อยๆนะคะรวมไปถึงเอ่อได้รู้ว่าอะไรที่
01:11:32 → 01:11:35 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เรากลายเป็น
01:11:35 → 01:11:37 ไมเกรนเรือรังเราจะได้เลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
01:11:37 → 01:11:40 นั้นๆนะคะเราจะได้ไม่ต้องไปสู่ความเสี่ยง
01:11:40 → 01:11:43 ที่เป็นไมเกรนเรื้อรังและรักการรักษานะคะ
01:11:43 → 01:11:46 อัปเดตการรักษาไมเกนเรื้อรังให้ทุกคนได้
01:11:46 → 01:11:49 ฟังกันนะคะว่าปัจจุบันวิธีการรักษาไม
01:11:49 → 01:11:52 เกณฑ์เรือรังมีอะไรบ้างนะคะแล้วเราก็ควร
01:11:52 → 01:11:54 จะปฏิบัติตัวยังไงก็หวังว่าเอ่อจะเป็น
01:11:54 → 01:11:57 ประโยชน์กับคนไข้ที่ปวดหัวเรื้อรังอยู่
01:11:57 → 01:12:00 ทุกท่านนะคะยิ่งโดยเฉพาะถ้าคนไข้ที่เอ่อ
01:12:00 → 01:12:02 รู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นไมเกรนเรื้อรังก็
01:12:02 → 01:12:04 รีบจัดการตัวเองรีบรักษาหรือถ้าบางคนที่
01:12:04 → 01:12:06 ฟังมาแล้วเอ้ยก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเลยว่า
01:12:06 → 01:12:08 เอ้ยเราเป็นไมเกรนเรื้อรังหรอเรารู้แค่
01:12:08 → 01:12:11 ว่าเราปวดหัวเรื้อรังลองฟังดูนะคะว่าเรา
01:12:11 → 01:12:14 เข้าขายแล้วหรือยังก็สามารถไปติดตามดู
01:12:14 → 01:12:17 คลิปอื่นๆทางช่องทางใน YouTube ของหมอก็
01:12:17 → 01:12:19 ได้นะคะก็คุยเรื่องสมองกับหมอนุเหมือนกัน
01:12:19 → 01:12:22 ว่าบางคลิปอาจจะเป็นประโยชน์กับเรานะคะก็
01:12:22 → 01:12:24 จะคุยเรื่องของอาการปวดหัวแบบไหนการ
01:12:24 → 01:12:26 ปฏิบัติตัวอะไรอย่างเงี้ยนะคะเราก็ลองไป
01:12:26 → 01:12:30 ติดตามกันดูได้เอ่อมีคำถามมั้ยคะก็มีคำ
01:12:30 → 01:12:33 ถามนิดหน่อยนะคะสามารถไปรักษาได้ที่ไหน
01:12:33 → 01:12:36 น้องแปลิงก์ไว้ให้แล้วนะคะตอนนี้เป็นแบบ
01:12:36 → 01:12:39 เรื้อรังเลยถ้าเป็นแบบเรื้อรังแนะนำรักษา
01:12:39 → 01:12:42 นะคะคือเป็นเรื้อรังเนี่ยส่วนใหญ่ไม่ค่อย
01:12:42 → 01:12:44 หายเองได้ด้วยการปรับการใช้ชีวิตอย่าง
01:12:44 → 01:12:46 เดียวละส่วนใหญ่แบบว่าคนไข้จะรู้สึกว่า
01:12:46 → 01:12:49 ไมเกรนมันมาบ่อยมากไม่ว่าจะดูแลตัวเองยัง
01:12:49 → 01:12:52 ไงกินดีอยู่ดียังไงก็ไม่ค่อยหายเองละนะคะ
01:12:52 → 01:12:54 ที่มันก็อธิบายได้จากวงจรของสมองของเรา
01:12:54 → 01:12:56 ที่มันไวแต่ตัวกระตุ้นจนเกินไปอ่ะปวดคิ้ว
01:12:56 → 01:13:00 ทั้ง 2 ข้างปวดไยทอยรวมถึงปวดใบไหล่บ่อยๆ
01:13:00 → 01:13:02 แบบนี้เรียกไมเกรนยคะคือถ้าเป็นตำแหน่ง
01:13:02 → 01:13:06 หัวคิ้วแล้วก็ไอยอยไม่เคยมีปวดข้างเดียว
01:13:06 → 01:13:09 ในชีวิตเลยนะแต่เป็นตรงนี้และตรงนี้เยอะๆ
01:13:09 → 01:13:11 นะคะแล้วปวดบ่าไหลายร่วมด้วยหมอว่าอาจจะ
01:13:11 → 01:13:13 เป็นข้าวข่ายกลุ่มปวดเทนชั่นมากกว่าแต่
01:13:14 → 01:13:16 ถ้าเป็นไมเกรนเนี่ยอย่างน้อยๆอ่ะค่ะจะรู้
01:13:16 → 01:13:19 สึกว่ามีสักครั้งนึงแหละที่มันลักษณะ
01:13:19 → 01:13:22 ไมเกรนมันชัดก็คือแบบโอ้โหแสงจ้ามาได้
01:13:22 → 01:13:26 กลิ่นแบบนี้ปวดตุบๆข้างเดียวและระยะหลัง
01:13:26 → 01:13:28 ที่มันปวดบ่อยๆขึ้นมากๆเข้าเนี่ยมันก็
01:13:28 → 01:13:30 กลายเป็นปวดแบบปวดทั้งหัวปวดหน้าผากปวด
01:13:30 → 01:13:32 ถอยๆอันนั้นได้แหละแต่ถ้าไม่เคยมีลักษณะ
01:13:32 → 01:13:35 ไมเกรนเลยน่าจะเป็นพวกกลุ่มปวดเทนชั่นมาก
01:13:35 → 01:13:38 กว่ามีคนไข้บอกมารักษาอาการดีขึ้นมากดีใจ
01:13:38 → 01:13:42 ด้วยนะคะยินดีมากๆค่ะก็สำหรับคำถามก็หมด
01:13:42 → 01:13:44 แล้วนะคะก็คิดว่าคลิปนี้น่าจะเป็น
01:13:44 → 01:13:47 ประโยชน์กับทุกๆท่านก็เดี๋ยวไว้เ่อมี
01:13:47 → 01:13:49 อัปเดทการรักษาอะไรใหม่ๆหรือว่าอะไรที่
01:13:49 → 01:13:51 เกี่ยวข้องกับอาการปวดศีรษะหรือว่าโรค
01:13:51 → 01:13:53 สมองนะคะหมาก็จะมาไลฟ์ให้ฟังกันครั้งหน้า
01:13:53 → 01:13:59 อีกทีนึงนะคะสำหรับวันนี้ก็สวัสดีค่ะ