00:00:00 → 00:00:02 หลายๆคนบอกว่าเลือกที่จะทำอาหารเอง
00:00:02 → 00:00:05 ก็พอที่จะรู้ว่าเครื่องปรุงรสอะไรที่มัน
00:00:05 → 00:00:08 ดีหรือไม่ดีหรือว่าใส่มากใส่น้อยแต่เวลา
00:00:08 → 00:00:10 ที่เราไปรับประทานอาหารนอกบ้านเนี่ยบางที
00:00:10 → 00:00:12 เราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาใส่อะไรบ้างศาลให้
00:00:12 → 00:00:15 คำเค็มสารให้ความหวานอะไรพวกนี้เราควรจะ
00:00:15 → 00:00:17 ต้องมีข้อกังวลหรือข้อที่เราต้องใส่ใจ
00:00:17 → 00:00:20 เป็นพิเศษยังไงนะครับในเรื่องของการปรุง
00:00:20 → 00:00:22 ประกอบก็สำคัญนะคะในการที่จะห่างไกลจาก
00:00:22 → 00:00:25 มะเร็งเนี่ยเราอาจจะต้องดูในเรื่องของการ
00:00:25 → 00:00:28 ปรุงรสด้วยนะคะการปรุงรสเนี่ยเราอาจจะเคย
00:00:28 → 00:00:31 ได้ยินว่ารสหวานมันเค็มใช่ไหมคะจริงๆรส
00:00:31 → 00:00:33 หวานมันเค็มเนี่ยมันก็สามารถจะห่างไกลจาก
00:00:33 → 00:00:36 โรคมะเร็งได้เหมือนกันบางคนก็สงสัยมัน
00:00:36 → 00:00:40 เกี่ยวอย่างไรนะคะจริงๆแล้วการลดเค็ม
00:00:40 → 00:00:43 เพื่อป้องกันในเรื่องของโรคความดันโลหิต
00:00:43 → 00:00:45 สูงป้องกันโรคไตหรือเปล่านะคะจริงๆแล้ว
00:00:45 → 00:00:48 เนี่ยในเรื่องของการที่เราได้รับในตัวของ
00:00:48 → 00:00:50 โซเดียมที่มากเกินไปเนี่ยก็อาจจะเป็น
00:00:50 → 00:00:52 ปัจจัยเสี่ยงนะคะทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:00:52 → 00:00:55 กระเพาะอาหารได้ดังนั้นตามคำแนะนำขององค์
00:00:55 → 00:00:58 การอนามัยโลกหรือองค์การสุขภาพต่างๆเนี่ย
00:00:58 → 00:01:00 เขาจะแนะนำว่าใน 1 วันเนี่ยเราควรได้รับ
00:01:00 → 00:01:03 ในตัวของโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม
00:01:03 → 00:01:06 ต่อวันนะคะแต่คนไทยเนี่ยกินเกินคำแนะนำนะ
00:01:06 → 00:01:09 คะแถมให้ไปไกลนิดนึงนะคะกินถึง 2 เท่านะ
00:01:09 → 00:01:13 คะซึ่งตรงนี้อาจจะต้องแนะนำนิดนึงว่าความ
00:01:13 → 00:01:15 พอดี 2,000 มิลลิกรัมต่อวันถ้าในแง่ของ
00:01:15 → 00:01:17 เครื่องปรุงรสเนี่ยอย่างเช่นเกลือ 1 ช้อน
00:01:17 → 00:01:20 ชาก็เท่ากับ 2,000 มิลลิกรัมต่อวันแล้วนะ
00:01:20 → 00:01:23 คะหรือว่าเอ่อในตัวของน้ำปลา 5 ช้อนชาก็
00:01:23 → 00:01:27 เท่ากับ 2 อันโซเดียมแล้วก็ว่าซีอิ๊วขาว 5
00:01:27 → 00:01:29 ช้อนชาเท่ากับ 2,000 มิลลิกรัมโซเดียม
00:01:29 → 00:01:31 แล้วจริงๆมันก็ยากเหมือนกันนะคะถ้าพูดถึง
00:01:31 → 00:01:34 ในแง่ของเนื่องจากคนไทยทำอาหารอร่อยนะคะ
00:01:34 → 00:01:37 แล้วโซเดียมมันก็จะเป็นสิ่งที่มันผูกติด
00:01:37 → 00:01:39 กับในเรื่องของความอร่อยอยู่แล้วดังนั้น
00:01:39 → 00:01:42 ให้ข้อมูลไปแล้วในเรื่องของการปฏิบัติก็
00:01:42 → 00:01:45 อาจจะต้องคิดอีกมานิดนึงระลึกนิดนึงว่า
00:01:45 → 00:01:48 การกินโซเดียมมากเกินไปนอกจากโรคอื่นๆที่
00:01:48 → 00:01:50 เคยได้รับข้อมูลแล้วโรคมะเร็งก็มีส่วนใน
00:01:50 → 00:01:53 การที่จะส่งเสริมให้เกิดความเสี่ยงมะเร็ง
00:01:53 → 00:01:56 กระเพาะอาหารได้เหมือนกันค่ะแล้วก็รสหวาน
00:01:56 → 00:02:00 นะคะรสหวานเนี่ยถามว่าเป็นโดยตรงไหมที่ทำ
00:02:00 → 00:02:02 ให้เกิดในเรื่องของโรคมะเร็งก็คงจะไม่ได้
00:02:02 → 00:02:05 โดยตรงนะคะแต่ว่าตัวน้ำตาลเนี่ยมันเป็น
00:02:05 → 00:02:07 สิ่งที่เรากินได้ง่ายซึ่งน้ำปลาเนี่ยใน
00:02:07 → 00:02:11 แง่ของน้ำตาลหรือว่าเครื่องดื่มที่ปรุง
00:02:11 → 00:02:13 แต่งรสชาติที่ใส่น้ำตาลเยอะๆเนี่ยก็จะ
00:02:13 → 00:02:16 เป็นที่มาของภาวะอ้วนได้เหมือนกันนะคะดัง
00:02:16 → 00:02:18 นั้นเนี่ยตามคำแนะนำในเรื่องของปริมาณที่
00:02:18 → 00:02:21 พอเหมาะของน้ำตาลที่เราเติมเติมไปว่าจะไป
00:02:21 → 00:02:23 เติมในอาหารหรือเติมในเครื่องดื่มเนี่ย
00:02:23 → 00:02:26 ต่อวันไม่ควรเกิน 6 ช้อนชานะคะแล้วก็ตัว
00:02:26 → 00:02:29 น้ำมันนะคะน้ำมันเนี่ยจริงๆปริมาณก็อาจจะ
00:02:29 → 00:02:32 ต้องระมัดระวังเช่นกันเพราะว่าการที่เรา
00:02:32 → 00:02:34 ได้รับน้ำมันมากเกินไปก็จะเป็นที่มาของ
00:02:34 → 00:02:36 เค้าอ่ะอ้วนแล้วน้ำหนักเกินได้เหมือนกัน
00:02:36 → 00:02:39 เขาก็แนะนำว่าน้ำมันควรจะไม่เกิน 6 ช้อน
00:02:39 → 00:02:42 ชาต่อวันแล้วก็น้ำมันอาจจะมีข้อแนะนำ
00:02:42 → 00:02:44 เพิ่มเติมคือน้ำมันที่มันเป็นน้ำมันทอด
00:02:44 → 00:02:47 ซ้ำเพราะตัวน้ำมันทอดซ้ำเนี่ยจะทำให้ตัว
00:02:47 → 00:02:50 น้ำมันเสียโครงสร้างเกิดสารโคล่าซึ่งอาจ
00:02:50 → 00:02:53 จะเป็นเกาะมะเร็งได้เหมือนกันนะคะดังนั้น
00:02:53 → 00:02:55 น้ำมันทอดซาวด์ก็อาจจะต้องระมัดระวังหรือ
00:02:55 → 00:02:58 ว่าถ้าเราอยู่ที่บ้านเรามักจะไม่ได้ทอด
00:02:58 → 00:03:00 ซ้ำเกิน 2 ครั้งอยู่แล้วนะคะแต่ถ้าเราไป
00:03:00 → 00:03:02 ซื้อข้างนอกจะเห็นว่ายิ่งอะไรที่ต้องใช้
00:03:02 → 00:03:05 การทอดน้ำมันท่วมเนี่ยเขาคงไม่ได้เปลี่ยน
00:03:05 → 00:03:08 น้ำมัน 2 ครั้งแล้วทิ้งใช่ไหมคะมันก็จะ
00:03:08 → 00:03:10 เป็นโอกาสที่เราจะได้รับน้ำมันทอดซ้ำจาก
00:03:10 → 00:03:12 อาหารทอดถ้าเราซื้อจากข้างนอก
00:03:12 → 00:03:16 พอพูดถึงการทอดการใช้น้ำมันเพื่อจะทอดซ้ำ
00:03:16 → 00:03:20 ถ้าถ้าเป็นเราที่บ้านเราเราอาจจะทอดซ้ำ
00:03:20 → 00:03:23 ได้ใช้ซ้ำได้สักกี่ครั้งคุณเอกบางทีก็
00:03:23 → 00:03:25 เห็นว่ามันยังใสๆอยู่อ่ะจะทิ้งก็เสียดาย
00:03:25 → 00:03:28 ตามข้อมูลในเรื่องของการดูในเรื่องของ
00:03:28 → 00:03:31 เอ่อตัวสารโคล่านะคะหรือสารโคล่าก็คือ 3
00:03:31 → 00:03:34 ตัวที่ทำมันดูในเรื่องของความเสี่ยงของ
00:03:34 → 00:03:37 โรคมะเร็งถ้าเกิดเรากินเข้าไปจะมีความ
00:03:37 → 00:03:38 เสี่ยงมากขึ้นเนี่ย
00:03:38 → 00:03:41 เราแนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 ครั้งนะคะแต่ 2
00:03:41 → 00:03:44 ครั้งเราก็ควรจะพอได้แล้วนะคะซึ่งตรงนี้
00:03:44 → 00:03:46 เนี่ยจริงๆเราก็สามารถจะสังเกตจากตัวตัว
00:03:46 → 00:03:48 น้ำมันได้เหมือนกันนะคะน้ำมันอาจจะมีความ
00:03:48 → 00:03:51 เหนียวและสีที่เปลี่ยนไปก็ควรจะทิ้งแล้ว
00:03:51 → 00:03:52 ค่ะ
00:03:52 → 00:03:56 คำถามต่อมาอันนี้มาจากคำถามในกลมือหัวใจ
00:03:56 → 00:03:59 เลยทำไมน้ำตาลแค่ 6 ช้อนชาปกติบางทีผมติด
00:03:59 → 00:04:01 หวานแล้วบางทีผมก็ลืมตัวเวลาที่สั่ง
00:04:01 → 00:04:06 เครื่องดื่มมาผมก็จะหวาน 100% 125% ไป
00:04:06 → 00:04:09 เลยคำว่า 6 ช้อนชาทำไมต้องแค่ 6 ช้อนชา
00:04:09 → 00:04:13 ค่ะ 6 ช้อนชาจริงๆแล้วมันมีที่มานะคะมี
00:04:13 → 00:04:15 ที่มาที่ไปเพราะว่า 6 ช้อนชาเนี่ยเขาคิด
00:04:15 → 00:04:18 จากในเรื่องของเปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่
00:04:18 → 00:04:20 ได้จากในตัวน้ำตาล address Sugar ก็คือ
00:04:20 → 00:04:23 เขาแนะนำว่าการอนามัยโลกได้แต่ว่าไม่ควร
00:04:23 → 00:04:26 เกิน 5% ของพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน
00:04:26 → 00:04:28 ซึ่งถ้าขอได้ฟรีแบบเขาจะคิดที่พลังงาน
00:04:28 → 00:04:31 ประมาณ 2,000 บาทกิโลแคลอรี่ต่อวันถ้าตี
00:04:31 → 00:04:34 เป็นตัวน้ำตาลก็จะได้ประมาณ 6 ช้อนชานะคะ
00:04:34 → 00:04:36 ซึ่งตรงนี้เนี่ยมันจะเขาจะดูในเรื่องของ
00:04:36 → 00:04:40 การปัจจัยเสี่ยงว่าขอลดระดับของน้ำตาลลง
00:04:40 → 00:04:43 แต่ประมาณ 5% ของพลังงานเนี่ยเพราะว่าจะ
00:04:43 → 00:04:45 ช่วยป้องกันในเรื่องของโรคเรื้อรังต่างๆ
00:04:45 → 00:04:47 ที่มันจะเกิดขึ้นได้ดังนั้นก็เลยเป็นคำ
00:04:47 → 00:04:50 แนะนำที่เกิดขึ้นมาจากเดิมเนี่ยเขาจะคิด
00:04:50 → 00:04:54 ไว้ที่ 10% แต่ว่าพอลดลง 5% เนี่ยก็พบว่า
00:04:54 → 00:04:56 มันช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ
00:04:56 → 00:04:59 ได้เขาก็เลยเพื่อสุขภาพระยะยาวค่ะเขาจะ
00:04:59 → 00:05:01 แนะนำในสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแต่อย่างที่
00:05:01 → 00:05:04 อาจารย์เต้บอกว่าแค่สั่งน้ำหวาน 100%
00:05:04 → 00:05:08 เนี่ยเขาก็ให้มาแถมเป็นกำไรแล้ว 12 ช้อน
00:05:08 → 00:05:11 ชานะคะซึ่งมันก็เกินอยู่แล้วนะคะดังนั้น
00:05:11 → 00:05:14 อาจจะต้องระมัดระวังนะคะในการกินอะไรที่
00:05:14 → 00:05:16 เรารู้สึกว่าก็ปกติที่เขาใส่มาไม่ได้
00:05:16 → 00:05:19 เพิ่มเติมแต่จริงๆเค้าใส่เกินมาที่แนะนำ
00:05:19 → 00:05:20 ต่อวันอยู่แล้ว
00:05:20 → 00:05:23 ดูเหมือนว่าพฤติกรรมการกินของเรานั่นแหละ
00:05:23 → 00:05:28 เป็นจุดแรกเลยที่คุณจะใส่ใจเลยเออค่ะเขา
00:05:28 → 00:05:29 ดูจากกราฟิกอันนี้หลายๆท่านอาจจะบอกว่า
00:05:30 → 00:05:33 อ่ะเริ่มของน้ำตาลก็ชัดเจนว่าถ้าเราจะ
00:05:33 → 00:05:35 เติมในเครื่องดื่มใดๆก็ตามใหญ่ๆให้เกิน 6
00:05:35 → 00:05:38 ช้อนชาน้ำมันก็อย่าให้เกิน 6 ช้อนชาหลายๆ
00:05:38 → 00:05:40 ท่านอาจจะถามในเรื่องของโซเดียมถ้างั้นก็
00:05:40 → 00:05:43 ใช้เกลือ 1 ช้อนชาแล้วเพราะฉะนั้นเรายัง
00:05:43 → 00:05:46 มี Option เหลืออีกก็คือเกลือ 1 ช้อนชา
00:05:46 → 00:05:48 แล้วเดี๋ยวเติมน้ำปลาอีกสัก 5 ช้อนชาแล้ว
00:05:48 → 00:05:50 ก็เติม Cock อีกสัก 5 ช้อนชาอย่างนั้นคือ
00:05:50 → 00:05:52 ความหมายของกราฟิกนี้หรือเปล่าครับหรือ
00:05:52 → 00:05:55 ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งอันนี้จริงๆให้เลือก
00:05:55 → 00:05:57 อย่างใดอย่างหนึ่งนะคะแต่ในความเป็นจริง
00:05:57 → 00:06:00 เราคงไม่ได้เลือกไม่ได้ใช่มั้ยคะเพราะว่า
00:06:00 → 00:06:03 เราเราจะไปบอกว่าให้ใช้เกลืออย่างเดียวนะ
00:06:03 → 00:06:06 วันนี้มันคงเป็นไปไม่ได้นะคะโอเคเข้าใจละ
00:06:06 → 00:06:09 ครับเข้าใจแล้วมีคำถามเข้ามาเรื่องของ
00:06:09 → 00:06:14 ชนิดของของน้ำมันว่าน้ำมันหมู 6 ช้อนชา
00:06:14 → 00:06:16 เนี่ยน้ำมันหมูเลยได้ไหมหรือว่าเอาเป็น
00:06:16 → 00:06:19 น้ำมันจากน้ำมันรำข้าวดีหรือน้ำมันน้ำมัน
00:06:19 → 00:06:22 ประเภทไหนดีครับจริงๆอย่างที่ทำคำแนะนำ
00:06:22 → 00:06:25 เพื่อสุขภาพแล้วเราคงไม่ได้ห่างไกลจากโรค
00:06:25 → 00:06:27 มะเร็งอย่างเดียวใช่ไหมคะมันมีโรคอื่นๆ
00:06:27 → 00:06:29 ที่เราจะต้องห่างไกลด้วยเหมือนกันโรค
00:06:29 → 00:06:31 เรื้อรังอื่นๆบางๆความดันหัวใจดังนั้น
00:06:31 → 00:06:33 เนี่ยตัวน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพคือควรจะ
00:06:33 → 00:06:37 เป็นกลุ่มน้ำมันที่กรดไขมันไม่อิ่มตัว
00:06:37 → 00:06:41 อย่างเช่นพวกน้ำมันรำข้าวน้ำมันรำข้าว
00:06:41 → 00:06:43 จริงๆมันจะเหมาะกับการปรุงประกอบอาหารของ
00:06:43 → 00:06:46 คนไทยนะคะเพราะว่าเราคงไม่ใช่กลิ่นสละกิน
00:06:46 → 00:06:49 แบบและใช้น้ำมันมะกอกได้ซะทุกมื้อนะคะ
00:06:49 → 00:06:52 จริงๆแล้วมันรำข้าวเนี่ยมันจะสะดวกในการ
00:06:52 → 00:06:54 ประกอบของอาหารไทยเพราะว่ามีกรดไขมันไม่
00:06:54 → 00:06:57 อิ่มตัวตำแหน่งเดียวพวกหูฝาดต่างๆดีต่อ
00:06:57 → 00:07:01 สุขภาพมันสามารถผัดได้แต่อย่างไรก็ตามก็
00:07:01 → 00:07:04 คงไม่ได้ใช้เกิน 2 ครั้งในการเคาะถ้าจะ
00:07:04 → 00:07:06 ต้องใช้เพราะว่ายังไงมันน้ำมันอาจจะเสร็จ
00:07:06 → 00:07:09 โครงสร้างได้ถ้าใช้ซ้ำเกินไปค่ะทำให้ทุก
00:07:09 → 00:07:12 อย่างเป็นไปได้มหาวิทยาลัยมหิดลปัญญาของ
00:07:12 → 00:07:14 แผ่นดิน
00:07:14 → 00:07:20 [เพลง]