00:00:00 → 00:00:03 อยากกินแป้งหรือกินน้ำมันอ้วนกว่ากันคำ
00:00:03 → 00:00:06 ถามนี้นะครับเป็นคำถามที่คาใจเพื่อนๆหลาย
00:00:06 → 00:00:09 คนที่กำลังตั้งใจลดน้ำหนักอยู่มาเป็นเวลา
00:00:09 → 00:00:12 นานแล้วนะครับในคลิปนี้ถ้าหากเพื่อนๆฟัง
00:00:12 → 00:00:15 ศพเพื่อนๆจะได้รับคำตอบเลยครับว่าสุดท้าย
00:00:15 → 00:00:18 แล้วเนี่ยกินแป้งหรือกินน้ำมันอ้วนกว่า
00:00:18 → 00:00:21 กันก่อนอื่นนะครับหากรายชมคลิปมาแบงค์
00:00:21 → 00:00:23 ผ่านทาง YouTube สามารถกดติดตามได้ทาง
00:00:23 → 00:00:26 วิธีการนี้นะครับหักรายชมคลิปมาแบงค์พัน
00:00:26 → 00:00:28 ใน Facebook สามารถกดไลค์กดแชร์และกดติด
00:00:28 → 00:00:31 ตามเพื่อที่จะไม่พลาดคลิปดีๆแถมยังส่งต่อ
00:00:31 → 00:00:34 ความรู้ดีๆให้กับเพื่อนๆด้วยครับคันแรกนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับเพื่อนๆให้เรามาดูอาหารที่ทำให้เรา
00:00:37 → 00:00:40 อ้วนก่อนครับจะมีคุณสมบัติ 3 ข้อด้วยกัน
00:00:40 → 00:00:44 นะเพื่อนๆข้อแรกคือพลังงานสูงมากๆครับข้อ
00:00:44 → 00:00:47 ที่ 2 กินแล้วเพื่อนๆไม่อิ่มครับผมข้อที่
00:00:47 → 00:00:50 3 กินแล้วหรือยังรู้สึกแบบโค๊ตยังอยากไป
00:00:50 → 00:00:53 กินอะไรต่อครับยังไม่รู้สึกฟินครับอันนี้
00:00:53 → 00:00:55 คืออาหารที่ทำให้เราอ้วนนะครับส่วนอาหาร
00:00:55 → 00:00:58 ที่ทำให้เราผอมครับจากคุณลักษณะตรงกัน
00:00:58 → 00:01:02 ข้ามนะครับเพื่อนอ่าอันแรกคือพลังงานต่ำ
00:01:02 → 00:01:06 มากๆครับเพื่อนๆอันที่สองกินแล้วอิ่มครับ
00:01:06 → 00:01:10 อันที่ 3 กินแล้วพอใจครับผมกินแล้วรู้สึก
00:01:10 → 00:01:13 เป็นครับไม่อยากกินอะไรต่อแล้วครับในที่
00:01:13 → 00:01:16 นี้ผมลองยกตัวอย่างเข้ากล้องเปรียบเทียบ
00:01:16 → 00:01:19 กับน้ำมันดูนะครับเพื่อนๆเขากล้องเนี่ย 5
00:01:19 → 00:01:22 ช้อนโต๊ะตามรูปที่เพื่อนๆเห็นนะครับจะให้
00:01:22 → 00:01:26 พลังงาน 80 แคลอรี่ครับส่วนอันนี้คือน้ำ
00:01:26 → 00:01:30 มันครับ 1 ช้อนโต๊ะครึ่งของน้ำมันให้พลัง
00:01:30 → 00:01:33 งาน 100 80 แคลอรี่เลยครับเพื่อนๆจะเห็น
00:01:33 → 00:01:36 ได้ว่าลักษณะ 2 อันนี้แตกต่างกันอย่าง
00:01:36 → 00:01:39 สิ้นเชิงครับในส่วนของข้าวกล้องนะครับจะ
00:01:39 → 00:01:42 ให้ไฟเบอร์ที่สูงครับมีคาร์โบไฮเดรทเชิง
00:01:42 → 00:01:46 ซ้อนครับมีวิตามินครับมีเกลือแร่ครับผม
00:01:46 → 00:01:49 และก็มีสารต้านอนุมูลอิสระครับส่วนน้ำมัน
00:01:49 → 00:01:53 ครับไม่มีอะไรเลยครับนอกจากตัวน้ำมันเอง
00:01:53 → 00:01:55 ครับไฟเบอร์ไม่มีครับคาร์โบไฮเดรตไม่มี
00:01:55 → 00:01:58 โปรตีนไม่มีครับส่วนเข้ากล้องเนี่ยมีแถม
00:01:58 → 00:02:01 นะครับมีแถมแก้ไขมันเล็กน้อยให้เราไว้
00:02:01 → 00:02:05 ละลายวิตามินด้วยครับแล้วยังแถมโปรตีนให้
00:02:05 → 00:02:07 เราด้วยครับผมเพื่อนๆลองดูภาพนี้นะครับ
00:02:07 → 00:02:10 อันนี้คือกระเพาะอาหารของเราถ้าเราเติม
00:02:10 → 00:02:14 น้ำมันไป 500 แคลอรี่เนี่ยจะเท่ากับ 4
00:02:14 → 00:02:17 ช้อนโต๊ะนิดเองครับก็คือยังไม่เต็ม
00:02:17 → 00:02:19 กระเพาะเลยครับเราเลยยังไม่รู้สึกอิ่ม
00:02:19 → 00:02:22 ครับเมื่อเรากินน้ำมันไปปริมาณ 500
00:02:22 → 00:02:24 แคลอรี่ครับเราลองมาเทียบกับข้าวกล้องนะ
00:02:24 → 00:02:28 ครับเวลาที่เพื่อนๆอยากได้เข้ากล้อง 500
00:02:28 → 00:02:31 แคลอรี่เนี่ยเพื่อนๆจะต้องใส่เข้ากล้องไป
00:02:31 → 00:02:35 ถึง 31 ช้อนโต๊ะด้วยกันครับก็จะได้ 500
00:02:35 → 00:02:38 แคลอรี่ครับในตัวของข้าวกล้องเนี่ยจะไป
00:02:38 → 00:02:41 ยืดขยายของกระเพาะอาหารครับทำให้ส่งกระแส
00:02:41 → 00:02:44 ประสาทไปยังสมองแล้วทำให้เรารู้สึกอิ่ม
00:02:44 → 00:02:47 แล้วก็พึงพอใจครับเพื่อนๆแต่ในยุค
00:02:47 → 00:02:50 ปัจจุบันเวลาคนที่เขาอยากจะลดน้ำหนักหรือ
00:02:50 → 00:02:53 ว่ากลัวอ้วนเนี่ยเขามักจะตัดข้าวทิ้งครับ
00:02:53 → 00:02:56 เพื่อนๆทำให้เขาต้องไปกินกับที่มีน้ำมัน
00:02:56 → 00:02:58 เยอะครับอย่างนี้จะลดน้ำหนักลงได้แป๊บนึง
00:02:58 → 00:03:02 แล้วก็ตันครับก็เพราะว่าในตัวน้ำมันหัว
00:03:02 → 00:03:04 พลังงานสูงแถมกินไม่อิ่มครับหลังจากนี้นะ
00:03:04 → 00:03:07 ครับเพื่อนๆอยากจะลดน้ำหนักเพื่อนๆต้อง
00:03:07 → 00:03:10 เปลี่ยนจากการที่เราตัดข้าวทิ้งครับให้
00:03:10 → 00:03:13 ทานข้าวให้อิ่มแล้วเราตัดน้ำมันในกับลง
00:03:13 → 00:03:16 ครับผมแบบนี้จะทำให้เพื่อนๆลดน้ำหนักได้
00:03:16 → 00:03:19 กินแล้วก็มีความสุขด้วยครับผมจะตัวอย่าง
00:03:19 → 00:03:21 ที่หมอเที่ยวให้เพื่อนๆดูนะครับเพื่อนๆจะ
00:03:21 → 00:03:25 เห็นว่าข้าวชนะน้ำมันขาดลอยเลยครับเพื่อน
00:03:25 → 00:03:28 ๆคือมวยคนละรุ่นเลยครับข้าวเหนียวชนะน้ำ
00:03:28 → 00:03:30 มันทั้งในแง่ของการลดน้ำหนักและในเรื่อง
00:03:30 → 00:03:34 การดูแลสุขภาพเลยครับผมโฮมออย่างนี้ชก
00:03:34 → 00:03:37 ข้ามรุ่นไม่แฟร์เลยยังไงข้าวก็ต้องชนะ
00:03:37 → 00:03:40 อยู่แล้วข้าวสารอาหารก็คบน้ำมันสารอาหาร
00:03:40 → 00:03:43 ไม่ครบข้าวก็อิ่มกว่าน้ำมันไม่อิ่มอย่าง
00:03:43 → 00:03:46 นี้ไม่แฟร์เลยหมอลองเทียบใหม่ให้ดูได้ไหม
00:03:46 → 00:03:50 คะได้ครับงั้นเดี๋ยวหมอเอาเวอร์ชั่นข้าว
00:03:50 → 00:03:52 ที่แปรรูปแล้วเนี่ยมาเทียบกับน้ำมันที่
00:03:52 → 00:03:56 แปลลูกครับผมข้าวที่แปรรูปหมายถึงน้ำตาล
00:03:56 → 00:03:58 นั่นเองครับส่วนประกอบไม่มีอะไรเหลือเลย
00:03:58 → 00:04:01 ครับเหลือแค่และคาร์โบไฮเดรตที่เป็นน้ำ
00:04:01 → 00:04:04 ตาลครับไฟเบอร์สารต่างๆที่มีประโยชน์กับ
00:04:04 → 00:04:07 ร่างกายเราสกัดออกครับเหลือแค่ตัวน้ำตาล
00:04:07 → 00:04:09 ที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเปรียบเทียบกับตัวน้ำ
00:04:09 → 00:04:11 มันครับที่ไม่มีสารอย่างอื่นเลยครับมีแค่
00:04:11 → 00:04:14 น้ำมันเหมือนกันครับเพราะว่าน้ำมันก็แปร
00:04:14 → 00:04:17 รูปมาเช่นเดียวกันครับน้ำมันปาล์มก็แปลมา
00:04:17 → 00:04:20 จากต้นปาล์มถูกต้องไหมครับน้ำมันมะพร้าว
00:04:20 → 00:04:23 ก็ต้องแปลรูปมาจากมะพร้าวนั่นเองครับอัน
00:04:23 → 00:04:26 นี้ถึงจะเรียกว่าโช๊ครุ่นเดียวกันครับ
00:04:26 → 00:04:28 เพื่อนๆเราลองมาเปรียบเทียบกันดูเรือครับ
00:04:28 → 00:04:31 ว่าอันไหนอ้วนกว่ากันครับเพื่อนๆหมอยกตัว
00:04:31 → 00:04:34 อย่างภาพนี้ให้เพื่อนๆเห็นนะครับอันนี้
00:04:34 → 00:04:36 คือเมนูที่ประกอบด้วยน้ำตาลเท่านั้นนะ
00:04:36 → 00:04:41 ครับชาดำเย็นชามะนาวโซดามะนาวอเมริกัน
00:04:41 → 00:04:43 โอ้วเย็นหรือว่าน้ำแดงครับพวกนี้ใส่น้ำ
00:04:43 → 00:04:46 ตาลลงไปอย่างเดียวครับแคลอรี่ที่ทุกท่าน
00:04:46 → 00:04:50 เห็นเนี่ยก็คือประมาณ 100 กิโลแคลอรีต่อ
00:04:50 → 00:04:52 แก้วเท่านั้นครับเพื่อนๆส่วนถ้าเป็นน้ำ
00:04:52 → 00:04:55 มันล้วนๆนะครับเพื่อนๆเพื่อนๆอยากจะเอา
00:04:55 → 00:04:58 หลอดดูดอันไหนมากกว่ากันครับระหว่างกลุ่ม
00:04:58 → 00:05:01 แรกครับผมที่เป็นเครื่องก็ใส่น้ำตาลหรือ
00:05:01 → 00:05:03 ว่าเป็นน้ำมันเพียวๆครับ
00:05:03 → 00:05:07 สมองเราเนี่ยอยากจะดูดอันแรกมากกว่าใช่
00:05:07 → 00:05:09 ไหมครับทดหลุดแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยฟินกว่า
00:05:10 → 00:05:13 อันที่สองเนี่ยเราไม่อยากจะดูดมาเลยเพราะ
00:05:13 → 00:05:15 รู้สึกว่าเฮ้ยมันๆปากและแคลอรี่ก็สูงกว่า
00:05:15 → 00:05:18 เป็นสิบเท่าครับผมถ้าเพื่อนๆเลือกเครื่อง
00:05:18 → 00:05:21 ดื่มที่ทำจากน้ำตาลล้วนๆนะครับเซลล์ของ
00:05:21 → 00:05:25 เพื่อนๆจะได้รับน้ำตาลเข้าไปครับแล้วก็จะ
00:05:25 → 00:05:28 เผาผลาญน้ำตาลได้ปกติครับหรือว่าบางคนกิน
00:05:28 → 00:05:30 อาหารแบบน้ำมันเกียร์เพียวๆเลยครับก็คือ
00:05:30 → 00:05:33 ตัดน้ำตาลตัดทุกอย่างที่เป็นแป้งทิ้งครับ
00:05:33 → 00:05:36 สุดท้ายแล้วเนี่ยน้ำมันก็จะเข้าเซลล์เรา
00:05:36 → 00:05:38 ได้อยู่ดีครับร่างกายเราเนี่ยจริงๆแล้ว
00:05:38 → 00:05:42 เดิมทีเขาจะใช้น้ำตาลเป็นพลังงานหลักครับ
00:05:42 → 00:05:45 แต่ว่าถ้าเกิดว่าหลายคนตัดน้ำตาลทิ้ง
00:05:45 → 00:05:47 เหลือแต่น้ำมันครับเซลเค้าเนี่ยก็ต้อง
00:05:47 → 00:05:50 พยายามปรับตัวครับเพื่อที่จะใช้น้ำมัน
00:05:50 → 00:05:54 เป็นพลังงานทดแทนครับผมสุดท้ายก็ลดน้ำ
00:05:54 → 00:05:57 หนักได้เหมือนกันแต่ในยุคปัจจุบันที่คน
00:05:57 → 00:05:59 น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วเป็นโรคเบาหวาน
00:05:59 → 00:06:01 มาขึ้นครับก็เพราะเขากินเมนูนี้ครับ
00:06:01 → 00:06:05 เพื่อนๆเขาเอาน้ำตาลกับน้ำมันมาผสมกัน
00:06:05 → 00:06:07 ครับกลายเป็นเมนูที่ทุกท่านเห็นเนี่ยนะ
00:06:07 → 00:06:11 ครับก็คือชาเย็นกาแฟเย็นโอวัลตินภูเขาไฟ
00:06:11 → 00:06:14 แบบนี้ครับคือน้ำมันบวกกับน้ำตาลเนี่ยอัน
00:06:14 → 00:06:18 นี้คือแยกกับเซลล์เรามากๆครับผมเนื่องจาก
00:06:18 → 00:06:21 ว่าธรรมดาเนี่ยถ้าไม่มีน้ำมันครับร่างกาย
00:06:21 → 00:06:25 เราจะนำพลังงานจากน้ำตาลไปใช้เผาผลาญได้
00:06:25 → 00:06:27 แล้วร่างกายก็จะสดชื่นครับจะไม่ลงเหลือ
00:06:27 → 00:06:31 น้ำตาลส่วนเกินในร่างกายครับผมแต่ถ้าเกิด
00:06:31 → 00:06:34 ว่าเรากินน้ำมันเข้าไปร่วมกับน้ำตาลครับ
00:06:34 → 00:06:37 น้ำมันจะแย่งเข้าเซลล์เข้าไปครับเพื่อนๆ
00:06:37 → 00:06:40 แทนที่เซลล์เราเนี่ยจะเผาผ่านน้ำตาลได้
00:06:40 → 00:06:43 เซลล์เราก็ไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าไปผ่าน
00:06:43 → 00:06:46 ได้ครับน้ำตาลก็เลยหลงเหลือในเลือดเยอะ
00:06:46 → 00:06:48 ครับเพื่อนๆเลยทำให้เกิดเป็นโรคเบาหวาน
00:06:48 → 00:06:52 ขึ้นมาแล้วก็ทำให้เกิดโรงม้วนขึ้นมาครับ
00:06:52 → 00:06:54 เพื่อนๆเพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆจะเลือก
00:06:54 → 00:06:57 เครื่องดื่มนะครับให้เพื่อนๆเลือกที่ตัด
00:06:57 → 00:07:00 นมตัดน้ำมันตัดไขมันทิ้งนะครับเหลือ
00:07:00 → 00:07:03 เครื่องดื่มที่มีแต่น้ำตาลครับอันนี้ใน
00:07:03 → 00:07:06 แง่รดน้ำหนักจะลดได้ดีกว่ามากๆครับเพื่อน
00:07:06 → 00:07:09 ๆแต่ในแง่ของการดูแลสุขภาพทั้งสองเครื่อง
00:07:09 → 00:07:12 ดื่มนะครับเพื่อนๆไม่ดีกับสุขภาพทั้งคู่
00:07:12 → 00:07:15 ครับแต่หมอมีทางเลือกที่ดีกว่านั้นให้
00:07:15 → 00:07:18 เพื่อนๆครับทั้งในแง่ลดน้ำหนักแล้วก็ใน
00:07:18 → 00:07:21 แง่ทั้งสุขภาพเลยครับทางที่ดีที่สุดให้
00:07:21 → 00:07:24 เพื่อนๆเปลี่ยนเครื่องดื่มครับที่ไม่มี
00:07:24 → 00:07:27 น้ำตาลแล้วก็ไม่มีไขมันเลยครับผมนั่นก็
00:07:27 → 00:07:31 คือชาชงที่เป็นจากใบครับเป็นชาร์จใสครับ
00:07:31 → 00:07:34 ผมหรือว่าเป็นกาแฟดำครับคือกาแฟละลายน้ำ
00:07:34 → 00:07:37 ร้อนเลยครับแล้วก็ดีที่สุดครับคือน้ำ
00:07:37 → 00:07:40 เปล่าครับเพื่อนๆนอกจากเพื่อนๆจะไม่
00:07:40 → 00:07:42 จำเป็นต้องเลือกครับว่าจะเอาน้ำตาลเข้าดี
00:07:42 → 00:07:46 หรือเอาไขมันเข้าร่างกายดีเพื่อนๆยังจะ
00:07:46 → 00:07:50 ใช้ไขมันจากร่างกายออกไปด้วยครับเพื่อนๆ
00:07:50 → 00:07:53 ผอมได้ครับผมมาแบงค์หวังว่าความรู้ในคลิป
00:07:53 → 00:07:56 นี้จะทำให้เพื่อนๆลดน้ำหนักต่อได้อย่างมี
00:07:56 → 00:07:59 ความสุขนะครับแล้วเจอกันในคลิปถัดไปอยู่
00:07:59 → 00:08:02 กับผมคุณหมอแบงค์ดอกเกอร์แบงก์ Good
00:08:02 → 00:08:02 Doctor
00:08:02 → 00:08:10 [เพลง]