00:00:07 → 00:00:09 ปัญหาของประเทศนั้นผมอยู่มาหลายปีผมทราบ

00:00:09 → 00:00:11 แล้วผมพยายามแก้มาอย่างต่อเนื่องมันมาก

00:00:11 → 00:00:14 จริงๆถ้าผมได้มีโอกาสผมก็จะแก้ปัญหานั้น

00:00:14 → 00:00:42 ต่อไปให้มากขึ้นเรื่อยๆ

00:00:42 → 00:00:54 [เพลง]

00:00:55 → 00:00:57 เรารู้ดีนะครับว่าสมองเนี่ยเป็นอวะที่

00:00:57 → 00:00:59 สำคัญมากๆของร่างกายเราเป็นบิก Boss ที่

00:00:59 → 00:01:03 ควบคุมการทำงานความรู้สึกนึกคิดฟังก์ชัน

00:01:03 → 00:01:05 ทุกอย่างของร่างกายนะครับแต่คุณผู้ชม

00:01:05 → 00:01:06 เชื่อมั้ยครับว่าในร่างกายของเรานะครับมี

00:01:06 → 00:01:11 อีกอวัยวะนึงนะครับที่สำคัญไม่แพ้สมองเลย

00:01:11 → 00:01:14 ต้องบอกว่าสามารถที่จะทำงานได้ด้วยตัวเอง

00:01:14 → 00:01:17 โดยที่ไม่ต้องผ่านการควบคุมของสมองได้

00:01:17 → 00:01:19 ด้วยและที่สำคัญเนี่ยมีความสำคัญต่อ

00:01:19 → 00:01:22 สุขภาพทั้งกายแล้วก็ใจของเราด้วยนะครับ

00:01:22 → 00:01:26 อววนั้นคือลำไส้ครับวันนี้ผมข่าต้น

00:01:26 → 00:01:28 สมบูรณ์แล้วก็ทททนะครับจะมาเล่าให้ฟังนะ

00:01:28 → 00:01:31 ครับว่าทำไมลำไส้ของเราเนี่ยมันถึงสำคัญ

00:01:31 → 00:01:34 แล้วถึงกับขนาดได้การขนาดนามว่าเป็นสมอง

00:01:34 → 00:01:37 ส่วนที่ 2 ของเราเลยนะครับแล้วจะทำยังไง

00:01:37 → 00:01:41 อ่ะให้ลำไส้ของเรามีสุขภาพสมบูรณ์ที่แข็ง

00:01:41 → 00:01:44 แรงครับ This is the Standard podcast

00:01:44 → 00:01:47 Eye Opening for your

00:01:47 → 00:01:51 ears Top to Toe podcast สุขภาพที่

00:01:51 → 00:01:55 ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด

00:01:55 → 00:01:58 เท้ามีงานวิจัยเยอะแยะเลยนะครับที่มีการ

00:01:58 → 00:02:00 ศึกษาแล้วก็พบว่าเราลำไส้เนี่ยมีความ

00:02:00 → 00:02:03 สัมพันธ์กับสุขภาพของสมองแล้วก็ลำไส้

00:02:04 → 00:02:07 เนี่ยยังมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของ

00:02:07 → 00:02:09 mental Health หรือว่าสุขภาพจิตด้วยนะ

00:02:09 → 00:02:12 ครับอย่างยาหลายๆตัวที่ใช้ในการรักษา

00:02:12 → 00:02:15 อาการทางสมองเช่นอาการปวดหัวมากๆการปวด

00:02:15 → 00:02:17 หัวข้างเดียวอย่างไมเกรนเนี่ยครับก็เป็น

00:02:17 → 00:02:19 ยากลุ่มเดียวกันที่สามารถที่จะใช้ในการ

00:02:19 → 00:02:22 รักษาความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินอาหาร

00:02:22 → 00:02:24 เช่นโรคกระเพาะหรือว่าโรคลำไส้ได้ด้วย

00:02:24 → 00:02:27 เท่านั้นยังไม่พอครับยาที่ใช้ในการรักษา

00:02:27 → 00:02:30 โรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดหรือว่าการ

00:02:30 → 00:02:32 แพนิคนะครับก็ยังสามารถที่จะใช้ในการ

00:02:32 → 00:02:35 รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะและลำไส้

00:02:35 → 00:02:38 ได้เช่นกันครับและหลายๆคนเคยเป็นแม้เวลา

00:02:38 → 00:02:41 ที่เราเครียดเรามักจะรู้สึกไม่อยากอาหาร

00:02:42 → 00:02:45 หรือว่าเวลาที่เราท้องผูกกินอาหารไม่ย่อย

00:02:45 → 00:02:47 มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายเนี่ยครับก็จะทำ

00:02:47 → 00:02:50 ให้สมองเราตื้อไปด้วยแล้วก็ทำให้เรารู้

00:02:50 → 00:02:55 สึกสุขภาพจิตไม่ดีเพราะว่าลำไส้สมองแล้ว

00:02:55 → 00:02:57 ก็อารมณ์ของเราเนี่ครับมันสัมพันธ์แล้วก็

00:02:57 → 00:03:00 ผูกพันกันไปหมดเลยครับและเหตุผลที่ลำไส้

00:03:00 → 00:03:03 นะครับได้รับการขนานนามนว่าเป็นสมองส่วน

00:03:03 → 00:03:06 ที่ 2 นะครับเหตุผลแรกเนี่ยก็คือว่าตรง

00:03:06 → 00:03:09 บริเวณลำไส้ของเราเี่ครับมีเซลล์ประสาท

00:03:09 → 00:03:12 อยู่เยอะมากนะครับหนาแน่นเป็นอันดับ 2

00:03:12 → 00:03:15 รองจากสมองของเราเลยนะครับโดยบริเวณลำไส้

00:03:15 → 00:03:17 นะครับมีเซลล์ประสาทอยู่หนาแน่นมากกว่า

00:03:17 → 00:03:19 100 ล้านเซลล์เลยนะครับด้วยเหตุผลที่

00:03:20 → 00:03:22 บริเวณลำไส้เครับมีเซลล์ประสาทอยู่ค่อน

00:03:22 → 00:03:24 ข้างเยอะนะครับทำให้ลำไส้เนี่ยมีความ

00:03:24 → 00:03:28 สามารถที่พิเศษมากกว่าอวัยวะอื่นๆนะครับ

00:03:28 → 00:03:31 คือมันสามารถที่จะทำงานได้เหมือนสมองเลย

00:03:31 → 00:03:34 คือสามารถที่จะเนอะไรบางอย่างได้แล้วก็

00:03:34 → 00:03:37 สามารถที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้โดย

00:03:37 → 00:03:40 ไม่ผ่านสมองและเมื่อตัดสินใจแล้วก็สามารถ

00:03:40 → 00:03:43 ที่จะสั่งการให้เกิดแอชได้ด้วยตัวเองเลย

00:03:43 → 00:03:45 ไม่ต้องผ่านการทำงานของสมองนะครับอย่าง

00:03:45 → 00:03:49 เวลาที่เรากินอาหารอะไรสักอย่างนึงครับ

00:03:49 → 00:03:51 ทุกคนจังหวะที่เราเริ่มกินอาหารเข้าไป

00:03:51 → 00:03:54 อยู่ในปากเราเคี้ยวเรากลืนเครับสเต็ปพวก

00:03:54 → 00:03:57 เนี้ยสมองเป็นตัวสั่งการนะครับแต่หลังจาก

00:03:57 → 00:04:00 นั้นนะครับไม่ว่าจะเป็นการที่อาหารเริ่ม

00:04:00 → 00:04:04 ผ่านหลอดอาหารลงไปมีการเคลื่อนตัวนะครับ

00:04:04 → 00:04:07 อาหารเคลื่อนตัวเคลื่อนช้าอาหารเยอะน้อย

00:04:07 → 00:04:10 หรือเปล่ากินอาหารอะไรเข้าไปบ้างอยู่ตรง

00:04:10 → 00:04:12 นี้นะครับส่วนที่เป็นตัวเซนส์ทั้งหมด

00:04:12 → 00:04:15 เนี่ยครับคือทางเดินอาหารคือกระเพาะแล้ว

00:04:15 → 00:04:18 ก็ลำไส้นะครับพวกเยเริ่มทำงานและ

00:04:18 → 00:04:20 มอนิเตอร์ด้วยตัวเองและจะประมวลผลเองว่า

00:04:20 → 00:04:23 เฮ้ยพอเราได้รับอาหารแบบนี้เข้ามาแล้วเรา

00:04:23 → 00:04:26 ควรจะทำยังไงต่อน้าหลอดอาหารเราควรจะบีบ

00:04:26 → 00:04:30 ตัวแรงขึ้นเร็วขึ้นกระเพาะควรคจะบีบตัว

00:04:30 → 00:04:33 มากน้อยแค่ไหนน้ำย่อยควรจะหลังตอนไหน

00:04:33 → 00:04:35 ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหารควร

00:04:35 → 00:04:38 จะหลังมากน้อยยังไงสิ่งเหล่าเยครับมัน

00:04:38 → 00:04:40 Short Cut ครับตัวอวัยวะที่เกี่ยวข้อง

00:04:40 → 00:04:42 กับทางเดินอาหารคือตั้งแต่กระเพาะลำไส้

00:04:43 → 00:04:45 เล็กลำไส้ใหญ่เนี่ยครับเป็นตัวจัดการทั้ง

00:04:45 → 00:04:48 สิ้นเรื่องการควบคุมการกินอาหารเครับเป็น

00:04:48 → 00:04:51 หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันได้ดีเลยนะครับ

00:04:51 → 00:04:54 ว่าลำไส้เนี่ยมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของ

00:04:54 → 00:04:56 ตัวเองสามารถที่จะตัดสินใจจัดการเรื่อง

00:04:56 → 00:04:58 ราวต่างๆ process อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง

00:04:59 → 00:05:01 กับการกินได้ด้วยตัวเองและไม่ผ่านสมองนะ

00:05:01 → 00:05:03 ครับโดยระบบประสาทของลำไส้เนี่ยมีชื่อ

00:05:03 → 00:05:06 ด้วยนะครับทุกคนเราเรียกว่า enteric

00:05:06 → 00:05:09 nervous System หรือว่าย่อว่า ens ซึ่ง

00:05:09 → 00:05:11 ระบบประสาทส่วนเยครับมันก็จะสามารถจะ

00:05:11 → 00:05:14 เชื่อมโยงกับ Central nervous System

00:05:14 → 00:05:16 หรือว่า cns ซึ่งเป็นระบบประสาทกลางระบบ

00:05:16 → 00:05:20 ประสาทหลักของสมองที่ควบคุมโดยสมองได้นะ

00:05:20 → 00:05:22 ครับนอกจากลำไส้เนี่ยจะมีเส้นประสาทอยู่

00:05:23 → 00:05:25 เยอะแล้วก็มีระบบประสาทที่สามารถจะประมวล

00:05:25 → 00:05:28 ผลตัดสินใจสั่งแอคชั่นได้ตัวเองแล้วนะ

00:05:28 → 00:05:31 ครับและยังมีอีกปัจจัยเป็นปัจจัยสำคัญเลย

00:05:31 → 00:05:34 ที่เป็นหัวใจเลยนะครับที่ทำให้ลำไส้เนี่ย

00:05:34 → 00:05:37 พิเศษกว่าอวัยวะอื่นๆคือสามารถที่จะควบ

00:05:37 → 00:05:41 คุมสุขภาพกายแล้วก็สุขภาพใจง่ายๆเรียกว่า

00:05:41 → 00:05:44 องค์รวมของสุขภาพของร่างกายของเราได้เลย

00:05:44 → 00:05:46 สิ่งๆนั้นเนี่ยนะครับมันคือสิ่งที่เรียก

00:05:46 → 00:05:50 ว่ากัสไมโครไบโอมครับกัสไมโครไบโอต้านะ

00:05:51 → 00:05:54 ครับคือจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ใน

00:05:54 → 00:05:57 digestive tract ก็คืออยู่ในกระเพาะ

00:05:57 → 00:06:00 อยู่ในลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ของเราเครับร่าง

00:06:00 → 00:06:01 กายเรานมีจุลินทรีย์อยู่เยอะแล้วนะครับ

00:06:02 → 00:06:03 แล้วจุลินทรีย์ที่อยู่ในบริเวณนี้นะครับ

00:06:03 → 00:06:06 โอ้โหต้องเรียกว่ามีเป็นพันล้านตัวเลยนะ

00:06:06 → 00:06:09 ครับแล้วก็มีอยู่หลักหมื่นชนิดเลยนะครับ

00:06:09 → 00:06:11 และไอ้เจ้าจุลินทรีย์เหล่านี้ละครับที่

00:06:11 → 00:06:14 เป็นตัวควบคุมสุขภาพของเราโดยที่เราไม่

00:06:14 → 00:06:17 รู้ตัวเลยนะครับทุกคนขอเล่าย้อนนิดนึง

00:06:17 → 00:06:19 แล้วกันนะครับว่าเฮ้ยในร่างกายของเรา

00:06:19 → 00:06:22 เนี่ยมันมีจุลินทรีย์มาได้ยังไงก็ต้อง

00:06:22 → 00:06:25 ย้อนไปตั้งแต่วิวัฒนาการสมัยก่อนเลยนะ

00:06:25 → 00:06:27 ครับว่ามนุษย์ของเรานะครับอยู่ร่วมกับ

00:06:27 → 00:06:30 จุลินทรีย์มานานแล้วครับทุกคนจากการปรับ

00:06:30 → 00:06:32 ตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อมที่

00:06:32 → 00:06:35 มันแปรปรวนเปลี่ยนไปนะครับคนกับ

00:06:35 → 00:06:37 จุลินทรีย์เนี่ยจึงมาอาศัยอยู่ร่วมกันแบบ

00:06:37 → 00:06:40 เกื้อกูลกันครับคือคนเนี่ยก็กินอาหารที่

00:06:40 → 00:06:42 เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์เข้าไปนะครับ

00:06:42 → 00:06:45 แล้วจุลินทรีย์เนี่ยก็ตอบแทนมนุษย์เรานะ

00:06:45 → 00:06:48 ครับด้วยการทำประโยชน์ให้กับร่างกายของ

00:06:48 → 00:06:50 เราไม่ว่าจะเป็นช่วยย่อยอาหารบางอย่างและ

00:06:50 → 00:06:53 ได้สารอาหารให้คนเอาไปใช้นะครับหรือว่า

00:06:53 → 00:06:56 ช่วยในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นช่วย

00:06:56 → 00:06:58 ในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาใน

00:06:58 → 00:07:01 ร่างกายของเรานะครับช่วยทำให้อ่าระบบการ

00:07:01 → 00:07:03 ขับถ่ายของเราดีขึ้นช่วยเยอะแยะมากมายเลย

00:07:03 → 00:07:07 นะครับอยู่กันมานานแล้วนะฮะแล้วตอนที่เรา

00:07:07 → 00:07:10 เป็นทารกอยู่ในท้องคุณแม่นะครับในตัวคุณ

00:07:10 → 00:07:12 แม่เราเนี่ยก็มีจุลินทรีย์อยู่เยอะเนาะ

00:07:12 → 00:07:13 เพราะฉะนั้นตอนที่เราอยู่ในมดลูกเนี่นะ

00:07:13 → 00:07:15 ครับก็จะมีจุลินทรีย์เนี่ยมาลายล้อมตัว

00:07:15 → 00:07:17 เราเลยครับเป็นจุดเริ่มต้นจุดแรกที่

00:07:17 → 00:07:20 จุลินทรีย์จะเข้าไปอยู่ในตัวเรานะครับ

00:07:20 → 00:07:25 เพราะฉะนั้นทารกคนไหนนะครับที่อ่าผ่าคลอด

00:07:25 → 00:07:29 กับทารกที่คลอดตามปกติก็คือมีการเคลื่อน

00:07:29 → 00:07:32 ตัวของทารกจากมดลูกผ่านช่องคลอดออกมานะ

00:07:32 → 00:07:35 ครับบอกว่าทารกที่ผ่านการคลอดจากปกตินะ

00:07:35 → 00:07:38 ครับจะมีจุลินทรีย์ที่ดีๆจากคุณแม่เนี่ย

00:07:38 → 00:07:41 ติดตัวมาตั้งต้นค่อนข้างเยอะครับเทียบกับ

00:07:41 → 00:07:44 ทารกที่ผ่าคลอดนะครับอ่านั่นเป็นจุดเริ่ม

00:07:44 → 00:07:46 ต้นจากนั้นนะครับพอเราคลอดมาแล้วเนี่ยนะ

00:07:46 → 00:07:50 ครับเราก็ต้องมีการกินนมใช่มยต้องบอกว่า

00:07:50 → 00:07:52 ในนมแม่เนี่ยครับก็มีสารอาหารจำเป็น

00:07:52 → 00:07:56 สำหรับจุลินทรีย์สำคัญๆที่อยู่ในตัวของา

00:07:56 → 00:07:59 ดกด้วยนะครับเพราะงั้นเด็กคนไหนนะครับที่

00:07:59 → 00:08:02 ที่กินนมแม่เนี่ยครับก็จะมีสุขภาพร่างกาย

00:08:02 → 00:08:06 ที่แข็งแรงดีกว่าเด็กที่กินนมวัวเป็นหลัก

00:08:06 → 00:08:08 นะครับเพราะว่านมแม่เนี่ยครับจะทำให้

00:08:08 → 00:08:12 จุลินทรีย์ดีๆอยู่ในตัวทารกหรือว่าตัว

00:08:12 → 00:08:14 เด็กที่เติบโตมาเนี่ยเยอะมากยิ่งขึ้นนะ

00:08:14 → 00:08:17 ครับพอโอเคแหละเราคลอบมาจากแม่เราเรากิน

00:08:17 → 00:08:21 นมแม่เรานะครับแล้วเราก็ค่อยๆโตขึ้นนะ

00:08:21 → 00:08:24 ครับทุกอย่างที่เราทำไม่ว่าจะเป็นการกิน

00:08:24 → 00:08:27 ไลฟ์สไตล์สิ่งแวดล้อมที่เราเลือกอยู่ทั้ง

00:08:27 → 00:08:30 หมดทั้งมวลนะครับมันจะเป็นตัวเชฟเลยว่า

00:08:30 → 00:08:33 ไอ้จุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกายของเราโดย

00:08:33 → 00:08:35 เฉพาะจุลินทรีย์ที่อยู่ในบริเวณกัดในลำ

00:08:35 → 00:08:38 ไส้ของเราเนี่ยมันมีสัดส่วนที่ดีหรือไม่

00:08:38 → 00:08:41 ดีมากกว่ากันมันสมดุลมั้ยนะครับพอพูด

00:08:41 → 00:08:43 อย่างนี้ก็แน่นอนครับจุลินทรีย์ที่อยู่ใน

00:08:43 → 00:08:47 ลำไส้เนี่ยฮะมีทั้งตัวดีแล้วก็ตัวไม่ดี

00:08:47 → 00:08:49 ครับทุกคนไอ้ตัวดีเนี่ยแน่นอนมันทำ

00:08:49 → 00:08:51 ประโยชน์ให้กับเรานะครับอย่างที่เคย

00:08:51 → 00:08:52 เกริ่นไปแล้วนะครับมันช่วยในเรื่องของการ

00:08:52 → 00:08:56 ขับถ่ายมันช่วยในการย่อยอาหารที่ปกติร่าง

00:08:56 → 00:08:58 กายของตัวเราเองเนี่ยอาจจะย่อยไม่ได้แต่

00:08:58 → 00:09:00 มันย่อยได้แล้วทำทำให้เกิดสารอาหารที่มี

00:09:00 → 00:09:02 ประโยชน์แล้วร่างกายของเราเนี่ยสามารถจะ

00:09:02 → 00:09:04 ดูดซึมออกไปใช้ได้สามารถที่จะคอย

00:09:04 → 00:09:08 มอนิเตอร์ฮะว่ามีไอสิ่งแปลกปลอมตัวร้าย

00:09:08 → 00:09:10 เข้ามาหรือเปล่าแล้วมันก็ทำงานร่วมกับ

00:09:10 → 00:09:12 ระบบคุมคุ้มกันในการจัดการไอ้สิ่งแปลก

00:09:12 → 00:09:14 ปลอมที่เข้ามาในร่างกายนะครับช่วยในการ

00:09:14 → 00:09:17 ควบคุมอารมณ์ของเราอีกนะครับให้เรารู้สึก

00:09:17 → 00:09:21 มีความสุขแจ่มใสสุขภาพจิตดีไม่เครียดนะ

00:09:21 → 00:09:22 ครับเพราะทางวิทยาศาสตร์นะครับเชื่อว่า

00:09:22 → 00:09:26 จุลินทรีเหล่านี้นะครับมีความสำคัญมากๆใน

00:09:26 → 00:09:28 การสร้างฮอร์โมนตัวนึงที่ชื่อว่า

00:09:28 → 00:09:29 เซโรโทนิน

00:09:29 → 00:09:31 ครับคือฮอร์โมนแห่งความสุขนั่นแหละถ้ามัน

00:09:31 → 00:09:34 มีเยอะเนี่ยเราก็จะรู้สึกมีความสุขนะครับ

00:09:34 → 00:09:36 สามารถที่จะต่อกอนกับความเครียดได้ดีกว่า

00:09:36 → 00:09:39 นะครับนั่นคือประโยชน์ของแบคทีเรียตัวดี

00:09:39 → 00:09:42 หรือว่าจุลินทรีย์ตัวดีนะครับอ่ะลืมบอกไป

00:09:42 → 00:09:44 ว่าจุลินทรีย์เนี่ยมีทั้งแบคทีเรียมีทั้ง

00:09:44 → 00:09:47 ไวรัสแล้วก็มีทั้งราซึ่งก็เป็นยีสด้วยนะ

00:09:47 → 00:09:50 ครับมีหลากหลายประเภทมากเลยนะฮจุลินซีตัว

00:09:50 → 00:09:52 รทำอะไรบ้างนะครับมันสามารถที่จะเปลี่ยน

00:09:52 → 00:09:54 โปรตีนให้กลายไปเป็นสารที่ทำให้เกิด

00:09:54 → 00:09:58 มะเร็งได้นะครับหรือว่าจะโจมตีจนอินทรีย์

00:09:58 → 00:10:00 ตัวดีของเรานะครับครับเท่านั้นยังไม่พอ

00:10:00 → 00:10:03 ครับสามารถทำให้เกิดการอักเสบหรือว่าเหตุ

00:10:03 → 00:10:06 การณ์ไม่ดีแล้วก็ทำร้ายระบบภูมิคุ้นกัน

00:10:06 → 00:10:08 ของเราได้ด้วยนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยครับ

00:10:08 → 00:10:10 เรามีหน้าที่ที่จะทำยังไงอ่ะให้มี

00:10:10 → 00:10:14 จุลินทรีย์ดีๆมากกว่าจุลินทรีย์ที่ไม่ดี

00:10:14 → 00:10:17 ครับเพราะฉะนั้นเป้าหมายของการที่เราจะมี

00:10:17 → 00:10:20 สุขภาพลำไส้ที่ดีที่จะส่งผลไปถึงการมี

00:10:20 → 00:10:24 สุขภาพร่างกายสุขภาพสมองแล้วก็สุขภาพใจ

00:10:24 → 00:10:28 ที่ดีนะครับคือการทำยังไงอ่ะให้สัดส่วน

00:10:28 → 00:10:32 ของจุดินีีที่ดีมันมีเยอะกว่าจุลินทรีย์

00:10:32 → 00:10:34 ที่ไม่ดีหรือว่ามันมี Balance ของ

00:10:34 → 00:10:36 จุลินทรีย์ที่เหมาะสมนั่นเองนะครับสิ่งๆ

00:10:36 → 00:10:39 เนี้ยมันเรียกว่ากัสไมโครไบโอมซึ่งมันแปล

00:10:39 → 00:10:42 ว่ามันคือ community หรือว่าสิ่งแวดล้อม

00:10:42 → 00:10:46 ของจุลินทรีย์ที่อยู่ในกัหรือว่าลำไส้ของ

00:10:46 → 00:10:48 เราครับคิดง่ายๆเลยครับทุกคนว่า

00:10:48 → 00:10:50 จุลินทรีย์เนี่ยมันเหมือนกับถ้าจะให้

00:10:50 → 00:10:52 เปรียบเทียบง่ายๆนะครับไอ้เจ้าจุลินทรีย์

00:10:52 → 00:10:54 ที่อยู่ในช่องท้องหรือว่าอยู่ในลำไส้ของ

00:10:54 → 00:10:56 เราเนี่ยครับมันก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยง

00:10:56 → 00:10:59 ตัวเล็กๆที่เราเลี้ยงเอาไว้เต็มไปหมดนะ

00:10:59 → 00:11:02 ครับถ้าเราอยากจะให้สัตว์เลี้ยงที่ตัวที่

00:11:02 → 00:11:04 มันน่ารักตัวที่มันนิสัยดีอ่ะมันเพิ่ม

00:11:04 → 00:11:07 จำนวนเยอะๆนะครับเราก็ต้องพยายามสร้าง

00:11:07 → 00:11:09 สิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับมันครับสิ่งแวด

00:11:09 → 00:11:11 ล้อมที่ง่ายที่สุดก็คือเรื่องของอาหาร

00:11:11 → 00:11:13 นั่นเองครับจุลินทรีย์ที่อยู่ลำไส้ของเรา

00:11:13 → 00:11:14 เนี่ยครับด้วยความที่มันมีหลากหลายชนิด

00:11:14 → 00:11:17 เนาะมันก็จะชอบอาหารที่แตกต่างกันไปครับ

00:11:17 → 00:11:19 จุลินทรีย์บางตัวนะครับก็ชอบกินอาหารที่

00:11:19 → 00:11:23 เป็นพวกไฟเบอร์ผักผลไม้นะครับธัญพืชแล้ว

00:11:23 → 00:11:25 ก็ถั่วนะฮกลุ่มที่ 1 นะครับกินพวก Healthy

00:11:25 → 00:11:28 เนาะจุลินทรีย์อีกกลุ่มนึงนะครับอาจจะชอบ

00:11:28 → 00:11:31 กินพวกน้ำน้ำตาลกินพวกแป้งนะครับในขณะที่

00:11:31 → 00:11:33 จุลินซีอีกกลุ่มนึงครับอาจจะชอบกินพวกไข

00:11:33 → 00:11:37 มันแล้วก็เนยนะครับซึ่งโดยทั่วไปแล้ว

00:11:37 → 00:11:39 จุลินทรีย์กลุ่มที่ดีนะครับก็คือจะเป็น

00:11:39 → 00:11:41 กลุ่มที่เป็นกลุ่ม Healthy ฮะชอบกินอาหาร

00:11:41 → 00:11:44 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนะครับคืออาหาร

00:11:44 → 00:11:47 เป็นพวกไฟเบอร์เยอะๆผักผลไม้นะครับถ้าเรา

00:11:47 → 00:11:49 เข้าใจแบบนี้แล้วนะครับก็ไม่ยากเลยครับ

00:11:49 → 00:11:51 ถ้าเราอยากจะเพิ่มจุลินทรีย์กลุ่มที่ดี

00:11:52 → 00:11:54 กลุ่มที่ Healthy นะครับเราก็ต้องพยายาม

00:11:54 → 00:11:56 กินอาหารที่มัน Healthy เพราะว่านั่นน่ะ

00:11:56 → 00:11:59 คือแหล่งพลังงานของไอ้เจ้าจุลินทรียกลุ่ม

00:11:59 → 00:12:02 ดีครับถ้าเรากินพวกไฟเบอร์กินผักผลไม้กิน

00:12:02 → 00:12:04 ถั่วกินัาพืชอะไรเข้าไปเยอะๆแล้วเนี่ย

00:12:04 → 00:12:07 ครับจุลินทรีย์กลุ่มดีนะครับมันก็เจริญ

00:12:07 → 00:12:09 เติบโตแล้วก็เพิ่มจำนวนแล้วก็เป็นประชากร

00:12:09 → 00:12:12 หลักในลำไส้ของเรานั่นเองครับแล้วก็จะทำ

00:12:12 → 00:12:15 ให้ช่วยในการดูแล maintain ให้ฟังก์ชัน

00:12:15 → 00:12:18 ต่างๆของร่างกายเนี่ยมันดีแล้วก็สมดุล

00:12:18 → 00:12:21 ครับแต่ถ้าเกิดว่าเรากินแต่อาหารพวก

00:12:21 → 00:12:24 จังก์ฟู้ดมีน้ำตาลเยอะมีไขมันเยอะนะครับ

00:12:24 → 00:12:26 มันก็จะทำให้จุลินทรีย์กลุ่มที่ไม่ค่อยดี

00:12:26 → 00:12:29 เนี่ยมันเจริญเติบโตเยอะแล้วก็ไปเบียด

00:12:29 → 00:12:32 แย่งพื้นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์อื่นๆ

00:12:32 → 00:12:34 ที่ดีในลำไส้ของเรานะครับก็จะทำให้

00:12:34 → 00:12:37 Balance หรือว่ากัดไมโครไบโอมเนี่ยมัน

00:12:37 → 00:12:40 เสียไปครับโอ้เท่านั้นยังไม่พอครับมีอีก

00:12:40 → 00:12:42 เรื่องนึงที่น่าสนใจมากครับทุกคนอย่างที่

00:12:42 → 00:12:46 บอกไปว่าอ่าเจ้าลำไส้เนี่ยนะครับมัน

00:12:46 → 00:12:50 สามารถที่จะสื่อสารกับสมองได้ผ่านระบบ ens

00:12:50 → 00:12:53 แล้วก็ cns นะครับก็มีการศึกษาด้านก

00:12:53 → 00:12:56 Science นะครับก็เจอว่าจริงๆแล้วเนี่ย

00:12:56 → 00:12:58 การที่เราอยากกินอะไรสักอย่างนึงนะครับ

00:12:58 → 00:13:02 มันกถูก induce หรือว่าถูกครอบงำโดย

00:13:02 → 00:13:04 จุลินทรีย์ที่อยู่ในท้องครับถ้าเกิดว่า

00:13:04 → 00:13:06 จุลินทรีย์ในลำไส้เราเนี่ยเป็นจุลินทรีย์

00:13:06 → 00:13:08 กลุ่มที่แบบชอบกินน้ำตาลหรือว่าไขมันเยอะ

00:13:08 → 00:13:10 ๆนะครับมันสามารถจะไปบอกสมองได้ว่าเฮ้ย

00:13:10 → 00:13:13 เธอมองหาอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาลเต็มไป

00:13:13 → 00:13:15 ด้วยไขมันให้ะหน่อยสิเพราะว่านั่นเป็น

00:13:15 → 00:13:17 แหล่งพลังงานของชั้นนะครับเพราะงั้นบางที

00:13:17 → 00:13:20 ที่เราชอบกินของทอดของหวานเนี่ยอาจจะไม่

00:13:20 → 00:13:22 ใช่ความผิดเราก็ได้ครับเป็นความผิดของ

00:13:22 → 00:13:24 จุลินทรียเนาะโทษจุรินทรีย์ไปนะครับเพราะ

00:13:24 → 00:13:25 ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือกินอาหารที่

00:13:25 → 00:13:28 Healthy นั่นเองฮะแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม

00:13:28 → 00:13:30 นะครับเราใช้ชีวิตชีวิตแบบไม่สมดุลก็คือ

00:13:30 → 00:13:33 กินไม่ดีนอนก็ไม่ดีออกกำลังกายไม่ดีนะ

00:13:33 → 00:13:35 ครับมันส่งผลหมดเลยนะครับทำให้กัส

00:13:35 → 00:13:38 ไมโครไบโอมก็คือสภาพแวดล้อมที่ดีมันเสีย

00:13:38 → 00:13:42 ไปนะครับมันจะมีวิธีในการ Reset ให้กัส

00:13:42 → 00:13:45 ไมโครไบโอมเนี่ยมันอยู่ในสภาวะที่ดีได้ม

00:13:45 → 00:13:47 คำตอบก็คือได้ครับทุกคนถ้าเกิดว่า

00:13:47 → 00:13:50 จุลินทรีย์ดีๆในร่างกายเราน้อยนะครับเรา

00:13:50 → 00:13:53 สามารถที่จะเติมเอาจุลินทรีย์ดีๆเข้าไปใน

00:13:53 → 00:13:56 ร่างกายได้นะครับนั่นก็คือการกินสิ่งที่

00:13:56 → 00:13:57 เรียกว่า

00:13:57 → 00:14:00 โปรไบโอติกครับโปรไบโอติกเนี่ยมันคือ

00:14:00 → 00:14:03 กลุ่มแบคทีเรียตัวดีชนิดดีนะครับที่กิน

00:14:03 → 00:14:04 เข้าไปแล้วเนี่ยมันก็จะไปช่วยทำให้ร่าง

00:14:04 → 00:14:07 กายของเราเนี่ยสมดุลมากยิ่งขึ้นนะครับบอก

00:14:07 → 00:14:10 ชื่อไปหลายคนน่าจะคุ้นเลย 1 ในนั้นก็มีบั

00:14:10 → 00:14:12 นั่นเองนะครับถามว่าเราจะกินไอ้เจ้า

00:14:12 → 00:14:15 โปรไบโอติกจากไหนอ่ะโอ้หลักการง่ายๆครับ

00:14:15 → 00:14:17 อาหารพวกหมักดองจะมีจุลินทรีย์กลุ่มนี้

00:14:17 → 00:14:21 อยู่เยอะเลยครับไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตนะฮะ

00:14:21 → 00:14:24 หรือว่าจะเป็นอาหารหมักดองของทางญี่ปุ่น

00:14:24 → 00:14:27 เกาหลีนะครับกิมจิอย่างเงี้ยครับจะมี

00:14:27 → 00:14:29 จุลินทรีย์กลุ่มนี้อยู่เยอะเลยครับถเรา

00:14:29 → 00:14:31 กินเข้าไปนะครับมันก็จะไปเพิ่มแล้วก็ไป

00:14:31 → 00:14:33 เพิ่มจำนวนในนั้นแล้วก็ไปเป็นประชากรหลัก

00:14:33 → 00:14:36 นะฮะอาหารไทยอ่ะมีมั้ยมีครับอาหารหมักดอง

00:14:36 → 00:14:39 ของไทยไม่ว่าจะเป็นปลาร้านะครับหรือว่า

00:14:39 → 00:14:41 ปลาส้มอย่างเงี้ยนะครับกินได้เลยครับผัก

00:14:41 → 00:14:43 กาดดองเงี้ยครับของดองนะครับจะมี

00:14:43 → 00:14:45 จุลินทรีย์กลุ่มดีอยู่เยอะถ้าเรากินเข้า

00:14:45 → 00:14:47 ไปเนี่ยก็สามารถที่จะไปเพิ่มจุลินทรีย์

00:14:47 → 00:14:50 กลุ่มดีได้ครับอ่ะนั่นเป็นหนึ่งวิธีที่จะ

00:14:50 → 00:14:53 เป็นการปรับบานหรือว่าทำให้ไมโครไบโอม

00:14:53 → 00:14:56 เนี่ยมันกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งหนึงนะครับ

00:14:56 → 00:14:58 อีกหนึ่งอย่างที่เราควรกินเพื่อไปเสริม

00:14:58 → 00:15:00 กันนะครับก็คือคือการกินสิ่งที่เรียกว่า

00:15:00 → 00:15:03 พรีไบโอติกครับน่าจะเคยได้ยินใช่ไหมมครับ

00:15:03 → 00:15:06 มี Pro แล้วก็มีพีด้วยอ่ะ Pro คือสิ่งมี

00:15:06 → 00:15:08 ชีวิตถูกมคือจุลินทรีย์ตัวดีกินเข้าไป

00:15:08 → 00:15:11 ส่วนพีมันคืออะไรพีมันคืออาหารของไอ้เจ้า

00:15:11 → 00:15:13 โปรไบโอติกนั่นแหละครับคืออาหารของ

00:15:13 → 00:15:16 จุลินทรีย์นั่นเองคือถ้าเรากินโปรไบโอติก

00:15:16 → 00:15:17 เข้าไปแล้วใส่จุลินทรีย์ตัวดีเข้าไปแล้ว

00:15:18 → 00:15:20 นะครับแล้วเรากินพรีไบโอติกก็คืออาหารของ

00:15:20 → 00:15:22 จุลินทรีย์ตัวดีเข้าไปด้วยนะครับก็จะเป็น

00:15:23 → 00:15:24 การส่งเสริมให้จุลินทรีย์ตัวดีเนี่ยมัน

00:15:24 → 00:15:27 เจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้เร็วมากยิ่งขึ้น

00:15:27 → 00:15:30 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วก็ทำให้

00:15:30 → 00:15:32 Balance ของจุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ยมัน

00:15:32 → 00:15:34 กลับมาสมดุลได้เร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเองนะ

00:15:34 → 00:15:36 ครับเพราะฉะนั้นทุกวันนี้เก็จะเห็นอาหาร

00:15:36 → 00:15:39 เสริมเยอะแยะเลยนะครับโฆษณาว่าโอ้มี

00:15:39 → 00:15:42 พรีไบโอติกมีโปรไบโอติกเยอะแยะเลยนะฮะคำ

00:15:42 → 00:15:44 แนะนำนะครับก็ดูในฉลากนิดนึงนะครับว่ามี

00:15:44 → 00:15:48 ส่วนประสมที่เป็น prebiotic หรือว่าโอติ

00:15:48 → 00:15:50 อยู่มากน้อยแค่ไหนนะครับแต่ถ้าเกิดว่าใคร

00:15:50 → 00:15:53 เป็นสายธรรมชาตินะครับอยากได้รับ

00:15:53 → 00:15:56 prebiotic หรือว่าโอติจากการกินอาหารที่

00:15:56 → 00:15:58 มีประโยชน์เนี่ยก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่

00:15:58 → 00:16:00 ดีนะครับโดยโบติกบอกไปแล้วนะครับกินอาหาร

00:16:00 → 00:16:02 พวกหมักนะครับส่วนพรีไบโอติกเนี่ยก็เจอ

00:16:02 → 00:16:05 ได้ในผักผลไม้เยอะแยะเลยนะครับไม่ว่าจะ

00:16:05 → 00:16:09 เป็นกระเทียมหอมแดงนะครับอะโวคาโดกล้วย

00:16:09 → 00:16:10 เงี้ยครับหลักๆแล้วนะครับถ้าเกิดว่าเรา

00:16:10 → 00:16:15 กินผักผลไม้กินธัญพืชกินถั่วซึ่งเป็น

00:16:15 → 00:16:17 แหล่งพลังงานหลักของแบคทีเรียตัวดีนะครับ

00:16:17 → 00:16:21 รับรองว่าคุณได้พรีไบโอติกมากเพียงพอโดย

00:16:21 → 00:16:23 ที่ไม่ต้องกินอาหารเสริมเลยล่ะครับจากที่

00:16:23 → 00:16:25 เล่ามาทั้งหมดนะครับมองข้ามไม่ได้เลยนะฮะ

00:16:25 → 00:16:28 ว่าลำไส้เป็นอวะที่สำคัญที่เราควรจะดูแล

00:16:28 → 00:16:31 อย่างมากนะครับเพราะสุขภาพลำไส้ที่ดีจะ

00:16:31 → 00:16:35 ส่งผลทำให้เรามีสุขภาพร่างกายสุขภาพสมอง

00:16:35 → 00:16:37 รวมไปถึง mental Health สุขภาพใจของเรา

00:16:37 → 00:16:40 ก็จะดีตามไปด้วยนะครับถามว่าทำให้สุขภาพ

00:16:40 → 00:16:43 ลำไส้ของเราดีได้ยังไงนะครับก็แน่นอนครับ

00:16:44 → 00:16:46 กินให้ดีนอนให้พอออกกำลังกายเยอะๆนะครับ

00:16:46 → 00:16:50 ก็จะทำให้สัดส่วนของจุลินทรีย์ดีๆมันมี

00:16:50 → 00:16:52 เยอะกว่าจุลินทรีย์ที่ไม่ดีแล้วมันก็จะ

00:16:52 → 00:16:57 บานทำให้กัไมโครไบโอมของเราอยู่ในภาวะที่

00:16:57 → 00:16:59 สมดุลนั่นเองนะครับและเมื่อไหร่ก็ก็ตาม

00:16:59 → 00:17:01 ที่เรารู้สึกว่าร่างกายของเราเริ่มป่วย

00:17:01 → 00:17:04 บ่อยะตรงเนี้ยอาจจะไม่สมดุลก็ได้นะครับ

00:17:04 → 00:17:06 เติมอาหารที่มีจุลินทรีย์ดีๆเข้าไปนะครับ

00:17:07 → 00:17:09 การกินของหมักดองเนี่ยช่วยได้นะครับแล้ว

00:17:09 → 00:17:11 ก็เลือกกินอาหารที่เน้นไปทางผักผลไม้

00:17:11 → 00:17:14 ธัญพืชถั่วก็จะช่วยทำให้ลำไส้ของคุณมี

00:17:14 → 00:17:16 สุขภาพที่ดี

00:17:16 → 00:17:20 ครับ Top to Toe The Standard

00:17:20 → 00:17:26 podcast Eye Opening for your ears