00:00:06 → 00:00:09 ตรวจสุขภาพประจำปีเนี่ยเขาจะเจาะเลือดอัน
00:00:09 → 00:00:12 นี้ไขมันในเลือดนะครับมันก็จะมีอยู่ 4
00:00:12 → 00:00:15 ตัวก็คือคอเลสเตอรอลและไขมันเร็วที่เรา
00:00:15 → 00:00:18 ชอบเรียกกันก็คือตัว ldl อีกตัวนึงที่
00:00:18 → 00:00:22 เป็นไขมันเลวคือไตรกลีเซอไรด์แล้วก็ hdl
00:00:22 → 00:00:24 ตัวสุดท้ายคือไขมันดีพวกนี้ไม่มีอยู่ใน
00:00:24 → 00:00:27 อาหารนะบางคนบอกอุ๊ยอันนี้อาหารชนิดนี้มี
00:00:27 → 00:00:30 ldl คอเลสเตอรอลสูงไม่ใช่นอกจากนี้ยังมี
00:00:30 → 00:00:33 ไขมันที่สะสมในร่างกายไอ้ไขมันสะสมเนี่ย
00:00:33 → 00:00:35 มันไม่ได้อยู่ต้นแขนต้นขาหน้าท้องช่องพุง
00:00:35 → 00:00:39 ของเรามันอาจจะไปเกาะที่ต่ำเราก็เลยเรียก
00:00:39 → 00:00:43 ไขมันพอกตาถูกต้องเลยครับ
00:00:43 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:54 การโรงหมอกาชิฉันสุรีย์พรวงศ์สถิตย์พรค่ะ
00:00:54 → 00:00:58 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:58 → 00:01:02 การโรงหมอทาง Thai PBS
00:01:02 → 00:01:06 สาระวันนี้กันได้เป็นเรื่องของไขมันดีไข
00:01:06 → 00:01:08 มันร้ายมันต่างกันยังไงนะคะตัวไหนมันดี
00:01:08 → 00:01:11 ตัวไหนมันร้ายตัวไหนกินเยอะได้กินเยอะไม่
00:01:11 → 00:01:14 ได้นะคะเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร
00:01:14 → 00:01:16 เอกราชบำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์
00:01:16 → 00:01:18 บูรณาการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะ
00:01:18 → 00:01:22 สวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะสวัสดีครับผมโอ้โหคือ
00:01:22 → 00:01:25 จริงๆก็ต้องบอกว่าคุยกับอาจารย์มาก็พอจะ
00:01:25 → 00:01:30 จำได้ลางๆจำได้ลางๆด้วยนะไขมันดีไขมันไตร
00:01:30 → 00:01:33 และได้ยินกันมาตลอดนะคะมันก็เป็นชื่อมัน
00:01:33 → 00:01:37 ก็บอกเฉพาะอยู่แล้วเนาะว่าดีกับไม่ดีใช่
00:01:37 → 00:01:39 ไหมคะแต่บางทีเราไม่รู้ว่าไอ้ไขมันดี
00:01:39 → 00:01:44 เนี่ยมันจะอะไรกินอะไรถึงได้ไขมันดีและไข
00:01:44 → 00:01:45 มันร้ายที่เราไม่ควรที่จะกินหรือเลี่ยง
00:01:45 → 00:01:49 ได้เนี่ยมันจะเป็นประเภทแนวแบบไหนต้องวัน
00:01:49 → 00:01:51 นี้น้องอาจารย์ต้องมาอธิบายแบบว่าโอ้โห
00:01:51 → 00:01:54 แบบเจาะลึกลงไปเลยว่าแต่ละตัวเนี่ยมันคือ
00:01:54 → 00:01:57 อะไรยังไงบ้างได้เลยครับผมก่อนอื่นต้อง
00:01:57 → 00:01:59 บอกก่อนนะว่าพูดถึงเรื่องของไขมันเนี่ย
00:01:59 → 00:02:02 จริงๆแล้วเนี่ยมันก็มีทั้งไขมันในอาหาร
00:02:02 → 00:02:04 และไขมันในร่างกาย
00:02:04 → 00:02:08 ถูกไหมครับไขมันในอาหารและไขมันในร่างกาย
00:02:08 → 00:02:11 ถ้าเอาไขมันในร่างกายเราก็แบ่งออกเป็น 2
00:02:11 → 00:02:15 ส่วนนะครับก็คือไขมันในเลือดและไขมันที่
00:02:15 → 00:02:18 สะสมอยู่ในร่าง
00:02:18 → 00:02:22 เอวต้นแขนต้นขาหน้าท้องช่องพุงของเรานะ
00:02:22 → 00:02:25 ครับอันนั้นก็คือไขมันที่อยู่ในร่างกาย
00:02:25 → 00:02:28 แต่ว่าไขมันที่เรากินจากอาหารที่เราจะมา
00:02:28 → 00:02:32 พูดคุยนี่แหละมันส่งผลต่อไขมันในเลือดและ
00:02:32 → 00:02:35 ไขมันสะสมในร่างกายคือจริงๆธรรมชาติมันมี
00:02:35 → 00:02:37 ไขมันอยู่ในร่างกายอยู่แล้วไม่งั้นเราก็
00:02:37 → 00:02:40 จะหนาวกันสะท้านหนาวเพราะฉะนั้นไขมันมัน
00:02:40 → 00:02:43 ก็อยู่ตามธรรมชาติอยู่ตามธรรมชาติของมัน
00:02:43 → 00:02:45 อยู่แล้วแต่ว่าเราจะพอกพูนให้มันเพิ่ม
00:02:45 → 00:02:47 ขึ้นมากกว่าธรรมชาติไหมเช่นไขมันเลวใน
00:02:48 → 00:02:50 หลอดเลือดที่เราบอกว่าเฮ้ย ldl นะมันเลว
00:02:50 → 00:02:52 นะไตรกลีเซอไรด์แล้วมันเลวนะเวลาเราตรวจ
00:02:52 → 00:02:55 สุขภาพประจำปีเนี่ยเขาจะเจาะเลือดอันนี้
00:02:55 → 00:02:58 ไขมันในเลือดนะครับมันก็จะมีอยู่ 4 ตัวก็
00:02:58 → 00:03:02 คือคอเลสเตอรอลนะครับรวมๆแต่ซึ่งปัจจุบัน
00:03:02 → 00:03:04 เขาไม่ได้ดูเขาไม่ได้ดูและตัวเนี้ยใน
00:03:04 → 00:03:07 เลือดเนี่ยเพราะว่ามันมีมันมันเรียกว่า
00:03:07 → 00:03:09 Total collectrol หรือคอเลสเตอรอลรวม
00:03:09 → 00:03:13 เนี่ยมันมีทั้งตัวดีและตัวเลวอยู่อ๋อบาง
00:03:13 → 00:03:16 คนสูงอ่ะตัวเร็วคุณคุณอาจจะน็อคปกติแต่
00:03:16 → 00:03:18 ตัวนี้คุณอาจจะสูงก็ได้เขาก็เลยไม่ได้ดู
00:03:18 → 00:03:21 กันและโทโทกโคเลสเตอรอลอ่าแล้วถ้าเกิน 200
00:03:21 → 00:03:23 เนี่ยบางคนตกกะใจต้องไปกินยาไม่จำเป็นนะ
00:03:23 → 00:04:26 อ่าต้องมาดูวิเคราะห์
00:04:26 → 00:04:31 แล้วก็ hdl ตัวสุดท้ายคือไขมันดีในบรรดา
00:04:31 → 00:04:34 ทั้งหมดเนี่ยของ limit Profile ที่เขา
00:04:34 → 00:04:35 เรียก Limit Profile ไขมันในหลอดเลือด
00:04:35 → 00:04:38 ของเราอันนี้พวกนี้ไม่มีอยู่ในอาหารนะบาง
00:04:38 → 00:04:41 คนบอกอุ๊ยอันนี้อาหารชนิดนี้มี ldl
00:04:41 → 00:04:43 คอเลสเตอรอลสูงไม่ใช่
00:04:43 → 00:04:45 ldl ไม่ได้มีอยู่ในอาหารแต่ถ้าคุณกิน
00:04:45 → 00:04:50 อาหารชิ้นนั้นแล้วอาจจะส่งผลให้ ldl สูง
00:04:50 → 00:04:53 นะอันนี้คือไขมันที่อยู่ในหลอดเลือด
00:04:53 → 00:04:57 ที่มีดีและมีเลวในหลอดเลือดแล้วถ้าเลวมาก
00:04:57 → 00:04:59 เป็นไงครับ
00:04:59 → 00:05:01 เราก็จะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจแล้วหลอด
00:05:01 → 00:05:03 เลือดเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วหลอด
00:05:03 → 00:05:07 เลือดอ๋อที่เขาเอาเลือดเราไปตรวจเลือด
00:05:07 → 00:05:11 40 โปรไฟล์นี่แหละแต่ 4 ตัวเนี่ยเราก็ดู
00:05:11 → 00:05:15 ว่าเฮ้ย ldl ตัวเร็วเราสูงไหมนะ
00:05:15 → 00:05:18 ไตรกลีเซอไรด์ตัวเลวเราสูงไหม sdl ตัวดี
00:05:18 → 00:05:22 เราสูงไหมอ่าหรือต่ำเกินไปไหมนะอันนี้คือ
00:05:22 → 00:05:24 ไขมันในหลอดเลือดซึ่งอาหารที่เราจะคุยกัน
00:05:24 → 00:05:27 ต่อไปเนี่ยนะว่าไขมันในอาหารเนี่ยดีเลว
00:05:27 → 00:05:30 มันก็ส่งผลกระทบต่อไขมันในเลือดอ๋อ
00:05:30 → 00:05:33 อันนี้คือส่วนของไขมันจากอาหารที่จะส่งผล
00:05:33 → 00:05:34 กระทบต่อไขมันในเลือดแล้วเราต้องรู้ก่อน
00:05:34 → 00:05:37 ว่าไขมันในเลือดเราต้องรักษาภาวะให้ปกติ
00:05:37 → 00:05:38 ไว้นะ
00:05:38 → 00:05:42 ldl ไม่ควรเกิน 130 นะไตรกลีเซอไรด์ไม่
00:05:42 → 00:05:44 ควรเกิน 150 นะใครปิดน้ำต้องรีบปรับ
00:05:45 → 00:05:47 เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอยู่หลับนอนออก
00:05:47 → 00:05:50 กำลังกาย hdl ไม่ควรต่ำกว่า 40 นะ hcl
00:05:50 → 00:05:52 ต่ำคุณก็ต้องออกกำลังกายคุณก็ต้องกิน
00:05:52 → 00:05:55 อาหารที่ช่วยเพิ่ม hcl ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว
00:05:55 → 00:05:57 น้อยจะต้อง Exercise อย่างนี้มันก็จะดี
00:05:57 → 00:06:01 กับการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอันนี้
00:06:01 → 00:06:03 คือไขมันที่อยู่ในหลอดเลือดนอกจากนี้ยัง
00:06:03 → 00:06:06 มีไขมันที่สะสมในร่างกายเช่นต้นแขนต้นขา
00:06:06 → 00:06:08 หน้าท้องช่วงพุงที่เราให้อ้วนพีมีพุงนี้
00:06:08 → 00:06:11 แหละนึกออกมั้ยครับจับไปปลูกโหนี่พุงไข
00:06:11 → 00:06:15 มันอ้าคุณมีนี่คือไขมันที่สะสมอยู่ใน
00:06:15 → 00:06:19 เนื้อเยื่ออ่าของร่างกายเราเรียกว่าเอ่อ
00:06:20 → 00:06:21 ฟอร์มของไขมันเนี่ยเราเลี้ยง
00:06:21 → 00:06:24 ไตรกลีเซอไรด์เหมือนกันนะครับคือมันสะสม
00:06:24 → 00:06:27 อยู่เราจับไปปุ๊บเนี่ยเป็นก้อนเลยเนี่ย
00:06:27 → 00:06:30 ใช่ครับมันนอกจากมันอยู่ในเลือดแล้วเนี่ย
00:06:30 → 00:06:34 มันยังอยู่สะสมอีกได้อยู่ในพุงของเรา
00:06:34 → 00:06:37 อย่างนี้แล้วไม่แค่นั้นนะครับไอ้ไขมัน
00:06:37 → 00:06:40 สะสมเนี่ยมันไม่ได้อยู่ต้นแขนต้นขาหน้า
00:06:40 → 00:06:43 ท้องช่องพุงของเรามันอาจจะไปเกาะที่ตับ
00:06:43 → 00:06:48 เราก็เลยเรียกไขมันพอกตาถูกต้องเลยครับ
00:06:48 → 00:06:52 เห็นไหมนี่ก็คือส่วนของไขมันซึ่งพวกนี้
00:06:52 → 00:06:54 เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการกินอาหารทั้งนั้น
00:06:54 → 00:06:58 เลยที่ส่งผลต่อไขมันในเลือดและไขมันที่
00:06:58 → 00:07:00 สะสมต้นแขนต้นขาหน้าท้องช่วงพุงรวมไปถึง
00:07:00 → 00:07:03 ไขมันพอกตับไม่ได้เกี่ยวกับอายุเลยใช่ไหม
00:07:03 → 00:07:05 คะ
00:07:05 → 00:07:09 อายุมากขึ้นก็อาจจะแปรผันกับไขมันที่สะสม
00:07:09 → 00:07:11 เพิ่มมากขึ้นเป็นไปได้ว่าเม็ดแต่พอริม
00:07:11 → 00:07:15 แล้วลดน้อยลงนะอ่าและก็อาหารการกินแต่บาง
00:07:15 → 00:07:16 คนอายุน้อย
00:07:16 → 00:07:21 แซงป้าๆไปก็มีอายุน้อยร้อยไขมันถูกต้อง
00:07:21 → 00:07:26 ครับเพราะว่าพฤติกรรมการกินไม่ดีไงอ่า
00:07:26 → 00:07:29 ไลฟ์สไตล์หรือการใช้ลีลาชีวิตนะจริงอยู่
00:07:29 → 00:07:32 หลับนอนออกกำลังกายไม่ดีกลายเป็นว่าเอ้ย
00:07:32 → 00:07:36 อายุ 30 40 ไขมันพอกตับและบางคนเกษียณ
00:07:36 → 00:07:38 แล้วเฮ้ยตับฉันยังดีไขมันยังพอกตับน้อย
00:07:38 → 00:07:42 อ่าฉะนั้นเราต้องรักษา
00:07:42 → 00:07:45 สุขภาพไว้ให้ดีเห็นไหมครับมันส่งผลต่อไข
00:07:45 → 00:07:48 มันในร่างกายแล้วคำว่าไขมันในร่างกายมัน
00:07:48 → 00:07:51 ครอบคลุมทั้งไขมันในเลือดไขมันที่สะสมโดย
00:07:51 → 00:07:54 เฉพาะในช่องพุงของเราที่สามารถจะหลั่งสาร
00:07:54 → 00:07:57 พวก informatory cytoy หรือสารที่ก่อให้
00:07:57 → 00:07:59 เกิดการอักเสบแล้วรบกวนระบบ metabolism
00:07:59 → 00:08:02 ต่างๆของร่างกายนี้หมดเลยรวมไปถึงไขมัน
00:08:02 → 00:08:05 ที่จะมาพอกตับเราแล้วมันพ่อไปได้หมดทุก
00:08:05 → 00:08:06 อวัยวะ
00:08:06 → 00:08:10 คือไขมันที่ในร่างกายซึ่งมันมาจากอีตัวไข
00:08:10 → 00:08:14 มันในอาหารที่เรากินนี่แหละเป็นหลักนอก
00:08:14 → 00:08:16 จากนี้ยังมีเรื่องของออกกำลังกายก็ส่งผล
00:08:16 → 00:08:19 ถูกไหมครับต่อไขมันในเลือดไขมันสะสมใน
00:08:19 → 00:08:21 ร่างกายแข็งแรงพอกตับก็เหมือนกันท้ายที่
00:08:21 → 00:08:22 สุดแล้วมันคือ
00:08:23 → 00:08:27 ลีลาชีวิตหรือไลฟ์สไตล์อ่าว่าคุณน่ะปรับ
00:08:27 → 00:08:31 เปลี่ยนพฤติกรรมการกินนะไขมันดีไหมมันเลว
00:08:31 → 00:08:33 มากน้อยแค่ไหนนะเรื่องกินนี่สำคัญเลย
00:08:33 → 00:08:35 เพราะมันมีผลโดยตรงต่อไขมันในเลือดและไข
00:08:35 → 00:08:39 มันที่สะสมในร่างกายอ่าโดยตรง
00:08:39 → 00:08:43 สร้างแบบนี้แล้วรู้แล้วเส้นทางชีวิตไง
00:08:43 → 00:08:46 มันจะเป็นยังไงทำลายเห็นอยู่ข้างหน้าแล้ว
00:08:46 → 00:08:49 ๆๆ
00:08:49 → 00:08:52 ออกกำลังกายเข้ามาดิออกอ้าเดินแต่ละวันก็
00:08:52 → 00:08:54 น้อยนั่งจุ่มปุ้มอยู่กับหน้าจอ
00:08:54 → 00:08:56 คอมพิวเตอร์อันนี้สำคัญเลยต่อให้คุณกินไข
00:08:57 → 00:09:01 มันดีนะแต่คุณออกออกกำลังกายไม่ออกอ่ะนึก
00:09:01 → 00:09:03 ออกไหมครับเดินก็ไม่เดินขยับลำไส้ก็ไม่มี
00:09:03 → 00:09:07 เขาบอกว่าหมื่นเก้าหลังๆมีงานวิจัยนะครับ
00:09:07 → 00:09:09 แค่
00:09:09 → 00:09:12 เกิน 6,900 ก็เริ่มได้ประโยชน์แล้ว
00:09:12 → 00:09:18 8,000 8,900 ไม่ใช่ 8,900 นะ 8,9 เดือน
00:09:18 → 00:09:20 ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
00:09:20 → 00:09:23 โรคไขมันในเลือดสูงแล้ว
00:09:23 → 00:09:25 แต่ว่าอาจารย์เดินแบบนี้มันไม่ใช่แบบเดิน
00:09:25 → 00:09:27 แล้วก็มานั่งแล้วค่อยมาเดินหรืออะไรอย่าง
00:09:27 → 00:09:30 นี้ได้มันต้องเดินเก็บแต้มเก็บแต้มได้หรอ
00:09:30 → 00:09:34 ถูกต้อง
00:09:34 → 00:09:39 ประกันชีวิตเลย 20 ปีมีเงินปันผล
00:09:39 → 00:09:42 8,900 บาทมีการปันผลว่าคุณลดความเสี่ยง
00:09:42 → 00:10:31 ต่อการเกิดเบาหวานได้ 30%
00:10:31 → 00:10:34 3 มื้อกิน 3 มื้อคุณลีได้วันละ 30 นาที
00:10:34 → 00:10:38 แล้วนะสะสมไปถูกต้อง 5 วัน 150 นาทีอุ๊ย
00:10:38 → 00:10:43 ตามข้อแนะนำ w h o เลยก็ยังดีถ้าเรา
00:10:43 → 00:10:45 เดินได้ทุกวัน
00:10:45 → 00:10:49 เราก็มีเราเรียก physical activity วิธี
00:10:49 → 00:10:52 การทางกายเคลื่อนไหวร่างกายไม่ใช่
00:10:52 → 00:10:56 ไลฟ์สไตล์คือนั่งๆนอนๆและสไตล์เนี่ยเป็น
00:10:56 → 00:11:02 ไทยเขาแปลว่าพฤติกรรมเหนื่อยนิ่ง
00:11:02 → 00:11:07 Facebook ขยับครับแต่ขยับนิ้วนิ้วการลูก
00:11:07 → 00:11:08 กะตา
00:11:08 → 00:11:11 กะรู้กะตาฝ้าฟางซะหน้าจอประสาทตาเสื่อม
00:11:11 → 00:11:15 ไม่อาจารย์คือการจะไปเดินตอนนี้หรือออก
00:11:15 → 00:11:16 กำลังกายตอนนี้เนี่ย
00:11:16 → 00:11:19 เช้ามันไม่ได้อยู่แล้วบางทีเจอ PM เข้าไป
00:11:19 → 00:11:22 หนักหนาสาหัสหนักหน่วงเหลือเกินตอนเย็น PM
00:11:22 → 00:11:25 ก็ใช่ว่าจะหายนะระหว่างวันมันดูมันเหมือน
00:11:25 → 00:11:27 เบาลงแต่พอมาตอนเย็นเฮ้ย
00:11:27 → 00:11:30 เริ่มส้มแล้วเริ่มแดกอ้าวแล้วฉันจะไปออก
00:11:30 → 00:11:33 กำลังกายที่ไหนล่ะเออมันก็เลยกลายเป็นว่า
00:11:33 → 00:11:38 สะสมเข้าไปไขมันใช่คือเราก็จะมีมรรคมีข้อ
00:11:38 → 00:11:40 อ้างไงคุณเดินในบ้านสิ
00:11:40 → 00:11:42 อ๋อ
00:11:42 → 00:11:47 เดินในบ้านก็ได้ถูกไหมครับอ่าคุณแบบมีลู่
00:11:47 → 00:11:49 วิ่งคุณไม่มีลูกก็ได้อาจารย์อ่ะสมมุติว่า
00:11:49 → 00:11:53 โอ้โหแบบชีวิตรันทดมากไม่มีลู่วิ่งทุกวัน
00:11:53 → 00:11:56 นี้มันก็ราคาถูกไม่กี่พันและวิธีการมัน
00:11:56 → 00:11:59 เป็นราวตากผ้าไปแล้วค่ะ
00:11:59 → 00:12:02 เดินก็ได้เดินแกว่งแขนอยู่กับบ้านอ่ะ
00:12:02 → 00:12:05 เหมือนย่ำอยู่กับที่อ่ะอ่าคุณลีน่าจะรู้
00:12:05 → 00:12:08 ใช่ไหมซ้ายขวาซ้ายอย่างนี้แล้วก็ปี๊ดๆของ
00:12:08 → 00:12:11 เราไป
00:12:11 → 00:12:14 อ่ะถ้าเราจะมีข้ออ้างว่าเฮ้ยเราแบบออกไป
00:12:14 → 00:12:18 ไม่ได้เพราะผี
00:12:18 → 00:12:22 เดินเสร็จแล้วก็มากินต่อแล้วก็นอน
00:12:22 → 00:12:27 แล้วจะกินไขมันอะไรที่ดีอาจจะเอาดีหรือจะ
00:12:27 → 00:12:34 เอาเร็วก่อนเอาดีสิอ่าเอานี่ก่อนนะ
00:12:34 → 00:12:36 เอาดีก่อนไขมันดี
00:12:36 → 00:12:40 ไขมันดีๆอย่างไรเดี๋ยวเราจะพูดกลุ่มของไข
00:12:40 → 00:12:43 มันเนี่ยคือมันแบ่งได้หลากหลายชนิดนะครับ
00:12:43 → 00:12:48 อ่าแต่กลุ่มของไขมันดีที่นักโภชนาการนัก
00:12:48 → 00:12:50 กำหนดอาหารแนะนำสูงสุดเลยเปอร์เซ็นต์สูง
00:12:50 → 00:12:55 สุดนะครับถ้าเป็นตัวเลขเนี่ยคือประมาณ 20%
00:12:55 → 00:12:58 ของพลังงานรวมทั้งวันที่ได้รับแต่ตัวเลข
00:12:58 → 00:13:01 เนี่ยไม่ต้องไปจำหรอกเราเป็นคนทั่วไปเรา
00:13:01 → 00:13:04 ไม่ได้ไปจัดอาหารอยู่ในโรงพยาบาลนะจะเป็น
00:13:04 → 00:13:06 วิชาชีพคณะกำหนดอาหารนั้นมีความจำเป็นนะ
00:13:06 → 00:13:09 ครับอ่าอยู่ที่ประมาณ 20% เนี่ยคือกลุ่ม
00:13:09 → 00:13:13 ของกฎไขมันอันนี้แบ่งตามความอิ่มตัวนะไม่
00:13:13 → 00:13:15 อิ่มตัวตำแหน่งเดี่ยวโอ้ฟังแล้วดูยากจัง
00:13:15 → 00:13:19 เนาะชื่อเล่นคือโอเมก้า 9 หน่อยนะครับ
00:13:19 → 00:13:23 โอเมก้า 9 ซึ่งพบมากในน้ำมัน
00:13:23 → 00:13:25 มะกอก
00:13:25 → 00:13:29 แล้วเธอจะบอกว่าน้ำมันมะกอกเนี่ยโอ้โหฮิต
00:13:29 → 00:13:33 ปั๊บยิ่งสกัดเย็นได้ยิ่งดีโหกินเปล่าๆเลย
00:13:33 → 00:13:35 ถ้างั้นอ่ะ
00:13:35 → 00:13:39 อย่ายกซดอย่ายกซดอาจารย์เน้นย้ำคุณใส่ใน
00:13:39 → 00:13:43 น้ำสลัดอะไรทั้งหลายแหล่นะครับหรือเอาไป
00:13:43 → 00:13:46 ใส่ในซุปพวกนี้นะครับปรุงประกอบอาหารที่
00:13:46 → 00:13:49 ไม่ผ่านความร้อนมากนะครับในน้ำมันมะกอก
00:13:49 → 00:13:53 ที่เป็นกลุ่มของโอเมก้า 9 สูงนะครับอัน
00:13:53 → 00:13:56 นี้เป็นกลุ่มของไขมันดีน้ำมันรำข้าวน้ำ
00:13:56 → 00:13:59 มันรำข้าวอันนี้ก็มีโอเมก้า 9 อยู่สูง
00:13:59 → 00:14:02 เหมือนกันนะครับแล้วก็น้ำมันเมล็ดชาอัน
00:14:02 → 00:14:04 นี้อาจารย์เคยทำวิจัยทั้งน้ำมันรำข้าวและ
00:14:04 → 00:14:09 น้ำมันเมล็ดชาเนี่ยจัดอาหารนำไม่ได้ให้คน
00:14:09 → 00:14:12 ที่ไขมันในเลือดสูงยกซดนะแต่การเอาน้ำมัน
00:14:12 → 00:14:15 มะกอกโทษทีน้ำมันรำข้าวและน้ำมันเมล็ดชา
00:14:15 → 00:14:19 เนี่ยคนละโครงการวิจัยกันนะแต่ผลเนี่ยให้
00:14:19 → 00:14:22 ผลที่ดีทั้งคู่เลยคือจัดอาหารที่ปรุง
00:14:22 → 00:14:25 ประกอบด้วยน้ำมันมะกอกเอ้ยไม่ใช่น้ำมันรำ
00:14:25 → 00:14:28 ข้าวและน้ำมันเมล็ดชานะครับอ่าให้คนที่ไข
00:14:28 → 00:14:31 มันในเลือดสูงรับประทาน
00:14:31 → 00:14:34 เป็นระยะเวลา 1 เดือนนะครับอาจารย์จัดให้
00:14:34 → 00:14:37 3 มื้อเลยนะ
00:14:37 → 00:14:41 แน่นอนเต็มคาราเมลเลยนะการศึกษาวิจัยคน
00:14:41 → 00:14:46 เนี่ยป. 60 คนนะกลุ่มนึงกินน้ำมันเอ่อรำ
00:14:46 → 00:14:48 ข้าวนะกลุ่มนึงกินน้ำมันที่เป็นน้ำมัน
00:14:48 → 00:14:51 ถั่วเหลืองเปรียบเทียบนะครับอ่าแล้วก็มา
00:14:51 → 00:14:54 เปรียบเทียบผลนะครับก็พบว่าเฮ้ยมันช่วยลด
00:14:54 → 00:14:57 ไขมันเลวที่เราเรียก ldl เขาคอเลสเตอรอล
00:14:57 → 00:15:01 เนี่ยลงได้นะครับแล้วก็มีผลในการที่จะ
00:15:01 → 00:15:04 ช่วยเรื่องของการเพิ่ม antiox สีแดง
00:15:04 → 00:15:07 สารต้านอนุมูลอิสระเจาะเลือดตรวจด้วย
00:15:07 → 00:15:11 นะครับอันนี้จากการปรุงประกอบอาหารโดยใช้
00:15:11 → 00:15:13 น้ำมัน
00:15:13 → 00:15:16 รำข้าวเนี่ยวันละ 2
00:15:16 → 00:15:19 ช้อนโต๊ะ
00:15:19 → 00:15:22 คือ 30 กรัมนะครับเนี่ยองค์ประกอบอาหาร
00:15:22 → 00:15:25 เช่นเอาไปทอดไข่เอาไปผัดผัก
00:15:25 → 00:15:30 อย่างนี้ในเมนูหรือไปใส่ในยอใส่ในข้าวต้ม
00:15:30 → 00:15:35 อย่างนี้หรือซุปแกงจืดนะครับกินเป็นอาหาร
00:15:35 → 00:15:38 ปกติเลยไม่ได้กินเป็นเม็ดเป็นแคปซูลหรือ
00:15:38 → 00:15:43 กินแบบเกาะปากนะครับอันนี้น้ำมันรำข้าว
00:15:43 → 00:15:46 สามารถที่จะลด ldl คอเลสเตอรอลได้แล้ว
00:15:46 → 00:15:48 เพิ่มฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระต้านการ
00:15:48 → 00:15:50 อักเสบ
00:15:50 → 00:15:54 ในเลือดได้ด้วยระยะเวลาที่ทดลองหรือ 1
00:15:54 → 00:16:00 เดือนเองเนอะ
00:16:00 → 00:16:02 มากินน้ำมันรำข้าวเนี่ยปรุงประกอบอาหาร
00:16:03 → 00:16:05 เนี่ยก็จะช่วยลดได้แต่ไม่ใช่ว่าโอ้โหเลย
00:16:05 → 00:16:08 ใต้ไปไกลแล้วนะของคุณ ldl 200-300 แล้ว
00:16:09 → 00:16:12 คุณหวังว่าอู้หูยจะแบบดึงลงมาได้เขาถึง
00:16:12 → 00:16:14 บอกเลยว่าคุณต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำ
00:16:14 → 00:16:17 เพราะเพราะคุณเริ่มเปลี่ยนน้ำอ่ะจะได้
00:16:17 → 00:16:21 พรีเวนต์นะเพราะมันตรวจเร็วอุ๊ยคุณเริ่ม
00:16:21 → 00:16:24 อิ่มแล้วอ่ะเออคุณดึงลงมาได้โดยไม่ต้อง
00:16:24 → 00:16:25 ใช้ยา
00:16:25 → 00:16:27 ไปแล้ว
00:16:27 → 00:16:32 ไงต้องเป็นยาแล้วแหละครับผมน้ำมันเมล็ดชา
00:16:32 → 00:16:35 เหมือนกันอาจารย์ก็ทำการศึกษาวิจัย
00:16:35 → 00:16:38 นะครับก็พบว่าเฮ้ยอาหารที่กลมกล่อมด้วยนะ
00:16:38 → 00:16:42 ครับก็ช่วยในการลด lalal ช่วยในการเพิ่ม
00:16:42 → 00:16:47 สารต้านอนุมูลอิสระนานแล้วก็เอ่อรถเอ่อ
00:16:47 → 00:16:50 ออกซิไดซ์ ldl คือต้องบอกก่อนครับ
00:16:50 → 00:16:53 ที่เราเรียกว่าไขมันเลวเนี่ยจริงๆแล้วตัว
00:16:53 → 00:16:55 มันอยู่เฉยๆมันไม่ได้เลวนะ
00:16:55 → 00:16:58 แต่มันไปปะกันแถมคือไป Featuring ทำ
00:16:58 → 00:17:00 ปฏิกิริยากันกับอนุมูลอิสระไอ้เจ้า ldl
00:17:00 → 00:17:03 เนี่ย ldl คือสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นได้
00:17:03 → 00:17:06 เองเราตราหน้ามันว่าเลวเนี่ยจริงๆแล้วตัว
00:17:06 → 00:17:08 มันอยู่เฉยๆมันไม่เลวมันเลวต่อเมื่อเรามี
00:17:09 → 00:17:12 อนุมูลอิสระเกิดขึ้นมาทำปฏิกิริยากับ ldl
00:17:12 → 00:17:16 แล้วกลายร่างครับ ldl เนี่ยกลายพันธุ์
00:17:16 → 00:17:20 กลายร่างบางคนเรียก ldl เนี่ยขึ้นสนิม
00:17:20 → 00:17:23 เพราะมันมีอนุมูลอิสระมาทำปฏิกิริยา
00:17:23 → 00:17:27 ออกซิเดชันเรียกว่าออกซิไดซ์ area L มัน
00:17:27 → 00:17:29 กลายเป็นสิ่งแปลกปลอมแล้วอ่ะเพราะร่างกาย
00:17:29 → 00:17:32 เราอ่ะผลิต ldl ขึ้นมาเองเรารู้จัก ldld
00:17:32 → 00:17:34 ร่างกายเรารู้จัก lel แต่เมื่อไหร่ก็ตาม
00:17:34 → 00:17:36 ที่มีอนุมูลอิสระมาทำปฏิกิริยากับ area
00:17:36 → 00:17:40 ปุ๊บเกิดออกซิไดซ์ ldl อันนี้แหละเป็น
00:17:40 → 00:17:42 สนิมเหล็กของ ldl ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอม
00:17:42 → 00:17:45 ร่างกายเราไม่รู้จักไอ้เจ้าเซลล์เม็ด
00:17:45 → 00:17:48 เลือดขาวบุหรี่มันก็จะมาจับกินเพราะมัน
00:17:48 → 00:17:51 คือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอยู่ในร่าง
00:17:51 → 00:17:54 กายอยู่ที่ไหนครับหลอดเลือดครับเม็ดเลือด
00:17:54 → 00:17:57 ขาวก็มากันเลยจับกินที่ผนังเซลล์ของหลอด
00:17:57 → 00:17:58 เลือด
00:17:58 → 00:18:01 มันก็จะทำให้ไอ้เม็ดเลือดขาวเนี่ยมันกินๆ
00:18:01 → 00:18:04 ๆเข้าไปจนท้องแตกตายอ่ะอารมณ์ประมาณนั้น
00:18:04 → 00:18:07 เลยคือกินยิ่งมีเยอะมันก็กินกินมากกินมาก
00:18:07 → 00:18:11 กินมากจนเกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดหรือ
00:18:12 → 00:18:14 ศัพท์วิชาการเขาเรียกว่า Park
00:18:14 → 00:18:18 หลอดเลือดเราก็จะเป็นไงครับตีบถูกต้อง
00:18:18 → 00:18:22 เพราะมันมีแต่การพอกขึ้นนึกออกไหมครับ
00:18:22 → 00:18:24 เหมือนสายยางที่มันชอบมีตะไคร่น้ำอ่ะ
00:18:24 → 00:18:28 ตะไคร่น้ำอ่ะคือพระทำให้ใส่ยางแล้วอ่ะตีบ
00:18:28 → 00:18:31 อารมณ์เหมือนเราบีบใส่ยางเมื่อมันตีปุ๊บ
00:18:31 → 00:18:34 แรงดันโลหิตเราสูงขึ้นไหมครับสูงขึ้น
00:18:34 → 00:18:37 เหมือนเรามีพยายามจะแบบน้ำจะพุ่งแรงมาก
00:18:37 → 00:18:40 ขึ้นวันดีคืนร้ายกูรีไม่ใช่คืนดีนะวันดี
00:18:40 → 00:18:44 คืนร้ายห่านะครับไอ้แรงดันความดันโลหิต
00:18:44 → 00:18:45 ที่มันสูงขึ้นเนี่ยเพราะหลอดเลือดมันติด
00:18:45 → 00:18:48 เนี่ยมันอาจจะไปดัน
00:18:48 → 00:18:51 ไขมันเจาะเลือดเนี่ย
00:18:51 → 00:18:54 ที่โดยเฉพาะหลอดเลือดฝอยเล่นๆเส้นเล็กๆ
00:18:54 → 00:18:55 อ่ะที่สมองอ่ะ
00:18:55 → 00:18:58 ตัดการไขมันมันก็มีอยู่มันหลุดออกมาแล้ว
00:18:58 → 00:19:02 ไปอุดตันที่หลอดเลือดสมองอื้มนึกออกใช่
00:19:02 → 00:19:04 ไหมครับคือแทนที่มันจะเกาะแน่นอยู่ตรง
00:19:04 → 00:19:08 ผนังอยู่เฉยๆ
00:19:08 → 00:19:11 ยิ่งแรงดันสูงสูบฉีดสูงความดันสูงมันก็
00:19:11 → 00:19:14 เล่นรูดดันมากไอ้ที่มันตีมันตันอยู่นี่
00:19:14 → 00:19:20 แหละมันก็เลยหลุดออกมาแล้ว
00:19:20 → 00:19:25 ตีบตันอุดหน้าอุดตันตีอุดตันต้องบอกงี้
00:19:25 → 00:19:30 มันตีบมันหลุดนะตีบแล้วหลุด
00:19:30 → 00:19:35 ไปอุดให้ตันตีทีนี้อุดตัน
00:19:35 → 00:19:38 ทำให้เกิดศัตรูก่อนด้วยสมอง
00:19:38 → 00:19:41 เห็นไหมครับจากออกซิไดซ์ ldl นี่แหละ
00:19:41 → 00:19:45 เนี่ยอาจารย์ย้อนกลับมาว่าเฮ้ยอาจารย์พบ
00:19:45 → 00:19:49 ว่าคนที่กินน้ำมันเมล็ดชา
00:19:49 → 00:19:52 มันช่วยลดการเกิดออกซิได ldl ได้
00:19:52 → 00:19:55 น้ำมันมะกอกก็เช่นกันน้ำมันรำข้าวก็เช่น
00:19:55 → 00:19:57 กันพวกนี้มีงานวิจัยแต่อันนี้ที่อาจารย์
00:19:57 → 00:20:02 ทำงานวิจัยออกมาเองเลยนะ
00:20:02 → 00:20:08 ของของรัฐบาลน่ะอ่าตอนนั้นจากสกวหน่วยงาน
00:20:08 → 00:20:11 ของรัฐที่สนับสนุนเพราะน้ำมันมะกอกน้ำมัน
00:20:11 → 00:20:14 มะกอกน้ำมันรำข้าวมันอยู่ตระกูลเดียวกัน
00:20:14 → 00:20:17 โอเมก้า 90 นะครับซึ่งมันอยู่ในกลุ่มของ
00:20:17 → 00:20:21 ไขมันดีน้ำมันมาใช้บางคนไม่รู้จักอาจารย์
00:20:21 → 00:20:24 เน้นเสมอพอมองหาสิ่งมองเห็นมันมีนานแล้ว
00:20:24 → 00:20:27 นะแต่มันไม่รู้จักใช่จริงกว่าปีแล้วที่
00:20:27 → 00:20:29 มันมีอยู่แล้วก็มีการปลูกกันที่
00:20:29 → 00:20:32 แม่ฟ้าหลวง
00:20:32 → 00:20:36 ของสมเด็จพระเทพฯท่านก็มีนะครับเอามาริสา
00:20:36 → 00:20:39 มาสกัดน้ำมันนี่แหละแล้วมีโอเมก้า 9 สูง
00:20:39 → 00:20:42 มีพวกแอนตี้ออกซิแดนท์ฟีโน่ต่างๆเนี่ยสูง
00:20:42 → 00:20:44 ก็ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอันนี้คือ
00:20:44 → 00:20:47 กลุ่มของโอเมก้า 9 อันนี้น้ำมันมะกอกน้ำ
00:20:47 → 00:20:50 มันรำข้าวน้ำมันเมล็ดชาถ้าฝรั่งเนี่ยต่าง
00:20:50 → 00:20:52 ประเทศนะเขามีน้ำมันคาโนล่ารู้จักมั้ยเคย
00:20:52 → 00:20:56 ได้ยินคาโนล่าและล่าสุดที่ hiphop
00:20:56 → 00:21:00 Popular ไม่แพ้กันคือน้ำมันอะโวคาโด
00:21:00 → 00:21:03 เคยเห็นไหมครับอะโวคาโดยังไม่อันนี้ก็
00:21:03 → 00:21:07 โอเมก้า 9 สูงครับในอโวคาโดวิตามินอีสูง
00:21:07 → 00:21:10 เรามีมะกอกน้ำมันมะกอกรำข้าวเมล็ดชา
00:21:10 → 00:21:15 คาโนล่าอะโวคาโดอันนี้คือไขมันดีน้ำมันดี
00:21:15 → 00:21:17 หรือเราจะกินเอาโวคาโดเล่นก็ได้อาจารย์
00:21:18 → 00:21:21 แต่ว่าเราไม่ได้ปรุงประกอบอาหารเองอ่ะเรา
00:21:21 → 00:21:25 ไปตามสั่งตามร้านแล้วทำยังไงอ่ะแล้วมัน
00:21:25 → 00:21:27 ไม่ได้มีเขาไม่ได้ใช้น้ำมันพวกนี้แน่ๆ
00:21:27 → 00:21:28 [เพลง]
00:21:28 → 00:21:31 เราบางร้านเขามีครับบางร้านเนี่ยต้องบอก
00:21:31 → 00:21:34 ว่าใช้น้ำมันรำข้าวองค์ประกอบก็มีแต่ถ้า
00:21:34 → 00:21:37 ไม่มีนะอันนั้นอาจจะเป็นไขมันเลวเราก็จะ
00:21:37 → 00:21:39 ต้องเลือกมื้ออาหารที่ดี
00:21:39 → 00:21:42 บ้างและถูกต้องแล้วอย่างน้อยเนี่ยเราต้อง
00:21:42 → 00:21:45 กินอาหารที่ปรุงประกอบเองด้วยนะครับกลุ่ม
00:21:45 → 00:21:47 ที่ดีถัดมาไม่ใช่มีแค่โอเมก้า 9 อย่าง
00:21:47 → 00:21:51 เดียวเลข 9 โอเรกอันเป็นสิริมงคลที่คนไทย
00:21:51 → 00:21:54 ชอบแนวเกย์
00:21:54 → 00:21:58 ถัดมานะฮะโอเมก้าถัดมาคุ้นหูกันดีโอเมก้า
00:21:58 → 00:22:00 3 อ๋อ
00:22:00 → 00:22:02 โอเมก้า 3 ที่พบมากใน
00:22:02 → 00:22:08 ปลาน้ำมันปลาอาหารทะเลคือไขมันจากตานะ
00:22:08 → 00:22:10 ครับพวกกลุ่มของโอเมก้า 3 จริงๆแล้วเนี่ย
00:22:10 → 00:22:13 ในสัตว์ก็มีในพืชก็มีนะในพืชโอเมก้า 3
00:22:13 → 00:22:14 ที่เยอะก็คือ
00:22:14 → 00:22:18 Flex seat นะหรือเมล็ดเฟล็กซ์บางคนบอก
00:22:18 → 00:22:21 ว่าดูต่างประเทศนะถ้าเกิดว่าโอเมก้า 3 ใน
00:22:21 → 00:22:23 พืชบ้านเราคือถั่วดาวอินคา
00:22:23 → 00:22:26 มาทางภาคเหนือนะครับอันนี้ก็จะมีถั่วดาว
00:22:26 → 00:22:29 อินคากันเยอะก็มีโอเมก้า 3 อยู่สูงเกือบ
00:22:29 → 00:22:32 50% อะไรในกลุ่มของโอเมก้า 3 เนี่ยดีต่อ
00:22:32 → 00:22:36 ใจเหมือนกันมันช่วยในการลดไขมันเลวที่
00:22:36 → 00:22:37 อยู่ในหลอดเลือดที่เราเรียกว่า
00:22:37 → 00:22:39 ไตรกลีเซอไรด์
00:22:39 → 00:22:43 ถ้าคุณ ldl สูงเมื่อกี้บอกไปแล้วโอเมก้า 9
00:22:43 → 00:22:46 ลด ldl ได้ดีน้ำมันมะกอกรำข้าวเมล็ดชาลด
00:22:46 → 00:22:50 ldl นะครับและรถออกซิไดซ์ lel ด้วยอ่า
00:22:50 → 00:22:52 ldl ที่มันเป็นสนิมเหล็ก
00:22:52 → 00:22:55 ส่วนโอเมก้า 3 จะลดไตรกลีเซอไรด์ได้ดี
00:22:55 → 00:22:59 ไตรกลีเซอไรด์ก็เลวทำให้เกิดโรคหัวใจเรา
00:22:59 → 00:23:02 หลอดเลือดและอีก 1 คุณประโยชน์ของโอเมก้า
00:23:02 → 00:23:06 3 ก็คือช่วยลดการอักเสบได้ด้วยการอักเสบ
00:23:06 → 00:23:08 เรื้อรังการอักเสบของ
00:23:08 → 00:23:11 นั้นแล้วเนี่ยโอเมก้า 3 ก็จะโดดเด่นในการ
00:23:11 → 00:23:13 ลดไตรกลีเซอไรด์ลดการอักเสบของหลอดเลือด
00:23:13 → 00:23:17 รวมไปถึงช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอด
00:23:17 → 00:23:20 เลือดไอ้ตะกรันไขมันที่มันอุดตันเกิดลิ่ม
00:23:20 → 00:23:23 เลือดเกิดการอุดตันเนี่ยก็จะลดน้อยลง
00:23:23 → 00:23:25 โอเมก้า 3 ช่วยได้
00:23:25 → 00:23:28 อันนี้คือกลุ่มของไขมันดีแล้วคุณจะกินปลา
00:23:28 → 00:23:34 ทะเลนะครับจะเป็นแซลมอนจะเป็นปลาจากทะเล
00:23:34 → 00:23:38 น้ำลึกอะไรก็แล้วแต่นะครับอ่าหรือปลาน้ำ
00:23:38 → 00:23:41 จืดก็ได้ที่อาจารย์เน้นย้ำเสมอจะเป็นปลา
00:23:41 → 00:23:44 ดุกสวายตะเพียนช่อนอะไรพวกนี้นะครับก็มี
00:23:44 → 00:23:46 คุณประโยชน์ในการที่จะเป็นแหล่งของ
00:23:46 → 00:23:49 โอเมก้า 3 ได้เช่นเดียวกันก็ดีต่อใจได้
00:23:49 → 00:23:51 เช่นเดียวกันนะครับอันนี้คือกลุ่มไขมันดี
00:23:51 → 00:23:54 ส่วนไขมันไม่ดีอันนี้เรารู้กันส่วนใหญ่
00:23:54 → 00:23:57 เลยนะครับก็คือไขมันอิ่มตัวและไขมัน
00:23:57 → 00:23:59 ทรานส์ไขมันทรานส์เนี่ยเรารู้และประเทศ
00:23:59 → 00:24:01 ไทยบ้านเราอยห้ามผลิตน้ำเข้าจัดจำหน่าย
00:24:01 → 00:24:05 เมื่อก่อนปุ๊บเยอะมากในน้ำมันพืชบางชนิด
00:24:05 → 00:24:07 อืม
00:24:07 → 00:24:11 น้ำมันพืชบางชนิดและก็มีการไปเติม
00:24:11 → 00:24:15 ไฮโดรเจนเข้าไปเพื่อให้ไม่เป็นขายอะไรพวก
00:24:15 → 00:24:18 นี้พวกครีมเทียม
00:24:18 → 00:24:22 เบเกอรี่นะครับไขมันอิ่มตัวเอ้ยโทษทีไข
00:24:22 → 00:24:24 มันทรานส์นะครับอันนั้นก็ห้ามผลิตน้ำข้าว
00:24:24 → 00:24:28 จัดจำหน่ายนะแต่มันก็จะมีไขมันอิ่มตัวนะ
00:24:28 → 00:24:33 ครับที่เลวน้อยกว่าก็ยังต้องระมัดระวัง
00:24:33 → 00:24:35 ควบคุมในการกินนะครับเพราะพวกนี้มันทำให้
00:24:36 → 00:24:39 ไขมันเลวสูงไขมันอิ่มตัวเนี่ยนะครับทำให้
00:24:39 → 00:24:44 ldl คอเลสเตอรอลสูงนะเอ่อทำให้เกิด
00:24:44 → 00:24:48 ออกซิเจนมากขึ้นนะครับอันนี้ก็จะไม่ดีกับ
00:24:48 → 00:24:51 สุขภาพร่างกายของเรานะครับก็คือพวกไขมัน
00:24:51 → 00:24:55 อิ่มตัวพบมากในพวกเนื้อสัตว์ติดมัน
00:24:55 → 00:24:59 งานที่คนชอบกินหนังหนังสัตว์ทั้งหลายแหล่
00:24:59 → 00:25:01 ไขมันอิ่มตัวสูงนะครับแล้วก็ในน้ำมัน
00:25:01 → 00:25:05 ปาล์มที่มีพวกปลามีแต่ไขมันอิ่มตัวสูงนะ
00:25:05 → 00:25:07 พวกเบเกอรี่ทั้งหลายแหล่นะครับที่เรามี
00:25:07 → 00:25:10 การใช้กันอยู่ทุกวันนี้นะพวกครีมเทียมพวก
00:25:10 → 00:25:15 เนยพวกนี้มีไขมันอิ่มตัวอยู่สูงอาหารแปร
00:25:15 → 00:25:18 รูปนะจากเนื้อสัตว์นะครับพวกนี้ก็มีไขมัน
00:25:18 → 00:25:21 อิ่มตัวอยู่สูงเบเกอรี่คุกกี้โดนัทชานม
00:25:21 → 00:25:24 ไข่มุกเจอทั้งแป้งและไขมันอิ่มตัวแป้ง
00:25:24 → 00:25:26 เนี่ยมันทำให้ไขมันเลวไตรกลีเซอไรด์สูงนะ
00:25:26 → 00:25:30 อ๋อแป้งคนชอบกินแป้งเนี่ยมันแปรรูปมันแปล
00:25:30 → 00:25:32 ไปเป็นไขมันนะครับแป้งสามารถแปลงร่างกลาย
00:25:32 → 00:25:35 เป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์อยู่ในหลอดเลือด
00:25:35 → 00:25:38 ของเราทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและ
00:25:38 → 00:25:39 แป้งสามารถที่จะเปลี่ยนไปเป็น
00:25:39 → 00:25:41 ไตรกลีเซอไรด์เก็บสะสมต้นแขนต้นขาหน้า
00:25:41 → 00:25:45 ท้องช่องพุงและไขมันพอกตับ
00:25:45 → 00:25:50 แป้งเยอะนะก็จะส่งผลทำให้อ้วนแล้วก็
00:25:50 → 00:25:53 เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหล่อๆเลือด
00:25:53 → 00:25:56 ต้องเบาเบเกอรี่ถูกต้องครับผมแล้วแต่
00:25:56 → 00:25:58 เบเกอรี่ทุกวันนี้มันมีเบเกอรี่ทางเลือก
00:25:58 → 00:26:01 ไงถูกมั้ยครับทำมาจากไขมันดีอย่างเงี้ย
00:26:01 → 00:26:05 ครีมเทียมมาจากน้ำมันรำข้าวล่าสุดมี
00:26:05 → 00:26:08 เคลียร์ครีมไฟเบอร์แล้ว
00:26:08 → 00:26:12 ครีมให้ความมันน่ะเอามาใส่ในกาแฟอ่ะแต่
00:26:12 → 00:26:14 คุณ
00:26:14 → 00:26:17 คุณได้ไฟเบอร์ด้วย
00:26:17 → 00:26:22 ฉันได้กินผักอ่ะกินความมันแต่ว่าแต่มันก็
00:26:22 → 00:26:24 อาจจะไม่ได้ได้ตามอาหารแต่มันอาจจะไม่ได้
00:26:24 → 00:26:30 แบบโอ้โหเหมือนกินผักผลไม้เลย
00:26:30 → 00:26:33 เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพมันก็ยังดีกว่า
00:26:33 → 00:26:35 ที่จะไม่กินเลยถูกต้องครับผมฉะนั้นแล้ว
00:26:35 → 00:26:41 เนาะก็เลือกไขมันดีเลี่ยงไขมันเลวเราก็จะ
00:26:41 → 00:26:44 มีสุขภาพที่ดีชีวีที่ยืนยาวครับเพราะ
00:26:44 → 00:26:46 ฉะนั้นจำไขมันเดียวไว้อย่างเดียวนอกนั้น
00:26:46 → 00:26:47 คือมันไม่โอเค
00:26:47 → 00:26:50 จำทั้งสองอย่างอาจจะจำไม่ได้อะไรประมาณ
00:26:50 → 00:26:53 นี้
00:26:53 → 00:26:56 โอเคครับขอบคุณค่ะอาจารย์เอกราชขาสวัสดี
00:26:56 → 00:26:57 ค่ะ
00:26:57 → 00:26:59 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลาแล้วนะคะพบ
00:26:59 → 00:27:02 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai
00:27:02 → 00:27:04 PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:27:04 → 00:27:07 สวัสดีค่ะ
00:27:07 → 00:27:10 ถ้าไม่ได้ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงจึงกลายเป็น
00:27:10 → 00:27:12 ส่วนหนึ่งของครอบครัวและยังทำให้มนุษย์ตก
00:27:12 → 00:27:14 เป็นทาสได้อีกด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:27:14 → 00:27:17 สัตวแพทย์ดรธีรจิตรุ่งเรืองกิจไกลจาก
00:27:17 → 00:27:20 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาเล่าให้ฟังครับ
00:27:20 → 00:27:22 พฤติกรรมการเลี้ยงเนี่ยเราเคยคุยกันหลาย
00:27:22 → 00:27:24 ครั้งแล้วว่าในอดีตเนี่ยคนก็จะเลี้ยง
00:27:24 → 00:27:26 สัตว์เลี้ยงเลี้ยงสุนัขเป็นแบบแบบสัตว์
00:27:26 → 00:27:30 เลี้ยงอ่ะเป็นคอยเฝ้าบ้านมีอาหารก็ให้ก็
00:27:30 → 00:27:33 หากินกันนอนข้างนอกบ้างอยู่อยู่นอกบ้าน
00:27:33 → 00:27:35 อยู่ภายในรั้วอ่ะโอเคอย่างดีเลยก็ภายใน
00:27:35 → 00:27:38 รั้วแต่บางทีก็ใส่แต่เธออยากจะไปไหนก็ไป
00:27:38 → 00:27:40 แต่ถึงเวลาจริงฉันก็เอาอาหารกองไว้ตั้ง
00:27:40 → 00:27:43 ไว้ตักให้วันนี้มีกินก็กินไม่มีกินก็วัน
00:27:43 → 00:27:45 หลังค่อยกินแล้วกันอันนี้ในชนบทสมัยก่อน
00:27:45 → 00:27:47 เป็นแบบนี้นะครับแต่เดี๋ยวนี้เนี่ย
00:27:47 → 00:27:50 พฤติกรรมการเลี้ยงเปลี่ยนไปมากๆจากเดิม
00:27:50 → 00:27:52 เนี่ยจากเดิมเป็นสุนัขใต้ถุนเรือนอย่าง
00:27:52 → 00:27:53 ที่เคยพูดไปแล้วเดี๋ยวนี้กลายเป็นสุนัขใน
00:27:53 → 00:27:56 เรือและสุนัขในเรือนก็มีความผูกพันมาก
00:27:56 → 00:27:57 ขึ้น
00:27:57 → 00:27:59 การเอาใจใส่มากขึ้นดูแลมากขึ้นเพราะว่า
00:27:59 → 00:28:02 มองเป็นสมาชิกตัวหนึ่งในบ้านเบื้องต้น
00:28:02 → 00:28:05 เป็นสมาชิกตัวหนึ่งในบ้านเป็นหมาเป็นแมว
00:28:05 → 00:28:08 ของเราอะไรอย่างนี้ก็มีการให้ความสำคัญ
00:28:08 → 00:28:10 อะไรต่างๆมากขึ้นแต่เดี๋ยวนี้กลายเป็น
00:28:10 → 00:28:12 สมาชิกคนหนึ่งในบ้านไปแล้วหลายๆครอบครัว
00:28:12 → 00:28:15 จะเห็นว่าพอมีลูกเนี่ยโอ้โหลูกเป็นพระ
00:28:15 → 00:28:18 เจ้าเลยทุกอย่างดูแลทุกอย่างทำให้ทุก
00:28:18 → 00:28:20 อย่างอยากได้นู่นทำนู่นอยากได้นู่นอยาก
00:28:20 → 00:28:23 ได้นี่ทำให้หาให้ซื้อให้ตอนนี้จากลูกหลาย
00:28:24 → 00:28:27 ๆคนไม่มีลูกมีแมวมีสุนัขเป็นลูกเพราะ
00:28:27 → 00:28:30 ฉะนั้นพฤติกรรมคล้ายกันเลยคือดูแลเทิดทูน
00:28:30 → 00:28:33 ทุกอย่างให้เต็มที่อาจจะเป็นเพราะว่า
00:28:33 → 00:28:37 เดี๋ยวนี้เป็นโสดกันเยอะขึ้นไม่มีใครต้อง
00:28:37 → 00:28:41 ดูแลแล้วก็ไม่มีใครมาดูแลอ้าวแล้วเขาดูแล
00:28:41 → 00:28:45 เราหรอคะ
00:28:45 → 00:28:48 เราไม่เหงาแล้วเรามีเรามีครอบครัวเรามี
00:28:48 → 00:28:51 ลูกคิดถึงอยากกลับบ้านไปเล่นด้วยอะไร
00:28:51 → 00:28:53 อย่างเงี้ยเออไม่ได้ไม่ได้มีแฟนแต่ว่ามี
00:28:53 → 00:28:54 ลูก
00:28:54 → 00:28:58 บางทีเนี่ยจะบอกว่าบางคนสองคนอยู่กัน 2
00:28:58 → 00:29:02 คนไม่มีลูกก็มีสุนัข
00:29:02 → 00:29:06 เพราะฉะนั้นก็จะฟรีทุกอย่างเต็มที่กัน
00:29:06 → 00:29:09 เหมือนกับว่าเป็นคนนึงเป็นอะไรต่างๆเหล่า
00:29:09 → 00:29:11 นั้นเพราะฉะนั้นเนี่ยความสำคัญหรือว่า
00:29:11 → 00:29:13 ความยิ่งใหญ่ของสัตว์เลี้ยงก็จะมีมากขึ้น
00:29:13 → 00:29:16 อยากได้อะไรเราก็ต้องพยายามเตรียมตัวให้
00:29:16 → 00:29:18 เพราะว่ามันเป็นความสุขของสัตว์เลี้ยงและ
00:29:18 → 00:29:20 เป็นความสุขของตัวเราด้วยหลายๆคนคิดแบบ
00:29:20 → 00:29:28 นั้น
00:29:28 → 00:29:31 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:31 → 00:29:33 ของไทย
00:29:33 → 00:29:46 spotify Sound Google podcast Apple
00:29:46 → 00:29:51 [เพลง]