00:00:00 → 00:00:02 พูดถึงเรื่องของความฝันเี่จริงๆมันก็เป็น
00:00:02 → 00:00:05 เรื่องปกติของคนที่นอนหลับ่ะค่ะครับไอ
00:00:05 → 00:00:08 สภาวะการนอนหลับมันมีช่วงที่ฝันได้แล้วก็
00:00:08 → 00:00:12 ช่วงที่ขยับตัวไปมาได้หลับสนิทหรือว่า
00:00:12 → 00:00:15 หลับลึกอะไรอย่างเงี้ยได้ะมีหลาย Stage
00:00:15 → 00:00:20 ของการนอนรับออค่ะเราฝันกันเพราะอะไรมัน
00:00:20 → 00:00:23 สาเหตุของการฝันที่เราฝันกันเออทั้ทั้ง
00:00:23 → 00:00:26 ฝันดีทั้งฝันร้ายตั้งมันสาเหตุของการฝัน
00:00:26 → 00:00:30 นี่มันมันสืบเนื่องจากอะไรคุณหมอะโอคจ
00:00:30 → 00:00:32 แล้วความฝันนี้บางทีมันก็เป็นความเ้า
00:00:32 → 00:00:36 เรียกเป็นประสบการณ์ของแต่ละคนบางที
00:00:36 → 00:00:39 พอมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างมันก็อาจจะเข้า
00:00:39 → 00:00:43 ไปอยู่ในความฝันแต่ว่าถามว่าทำไมความฝัน
00:00:43 → 00:00:47 มันถึงเป็นร้ายบางทีมันเป็นดีเนี่ยมันก็
00:00:47 → 00:00:52 ไม่ได้บอกสาเหตุทุกทุกกรณีนะคะนอกจากว่า
00:00:52 → 00:00:56 มันเกิดซ้ำๆบ่อยๆแล้วก็ดูแบบมีผลกระทบ
00:00:56 → 00:00:58 อะไรอย่าเงี้ยเราถึงจะรู้สึกว่าเอ้มัน
00:00:58 → 00:01:03 เป็นความผิดปกติอืประมาณนี้ค่ะอืค่ะแสดง
00:01:03 → 00:01:06 ว่าคนเราครับเชิญครับพี่วค่ะคนเราสามารถ
00:01:06 → 00:01:09 เอ่อฝันซ้ำซ้ำเรื่องเดิมๆกันแบบเหมือนเรา
00:01:09 → 00:01:12 ดูในละครแบบนางเอกฝันถึงชาติเดิมอะไร
00:01:12 → 00:01:16 อย่างเงี้ยมันเป็นไปได้มั้ยคะคุณหมอคือ
00:01:16 → 00:01:18 ส่วนใหญ่ถ้าสตเป็นเหตุการณ์ซ้ำๆแล้วก็
00:01:18 → 00:01:21 เป็นเหตุการณ์ที่แบบไม่ค่อยดีอย่างที่บอก
00:01:21 → 00:01:25 เป็นฝันร้ายก็น่าจะแบบเอ่อเป็นความเค้า
00:01:25 → 00:01:27 เรียกเป็นประสบการณ์ที่ติดอย่างเช่นบางคน
00:01:27 → 00:01:30 ที่เเรียกว่าเป็นหลังจากมีมีเรื่องกระทบ
00:01:30 → 00:01:32 กระเทือนจิตใจจที่รุนแรงอะไรเงี้ยแล้วทำ
00:01:32 → 00:01:36 ให้เค้าติดาตนั้นแล้วก็กลับมาคิดถึงคิด
00:01:36 → 00:01:39 ถึงอะไรอย่างเงี้ยก็เป็นฝันร้ายที่มันจะ
00:01:39 → 00:01:43 แบบมีผลจากภาวะจิตใจบางอย่างได้ค่ะอือ
00:01:43 → 00:01:45 แสดงว่าความฝันจริงๆแล้วมันก็เกิดจาก
00:01:45 → 00:01:49 ประสบการณ์ระหว่างทางของแต่ละคนใช่มั้ยฮะ
00:01:49 → 00:01:55 มันเกิดจากการสะสมเรื่องนั้นๆเข้ามาค่ะที
00:01:55 → 00:01:57 นี้ถ้าสมมุติว่าเราพูดพอดีตัวเองเป็นหมอ
00:01:58 → 00:02:00 เด็กใช่มั้ยคะหมอระบบประสาทเป็นหมอสมอง
00:02:00 → 00:02:03 เด็กเนี่ยเราก็จะพูดในเรื่องของฝันร้ายใน
00:02:03 → 00:02:06 เด็กใช่มั้คะคือคือจริงๆแล้วในเด็กเนี่ย
00:02:06 → 00:02:09 เวลาเวลาฝันร้ายมันจะมีประเภทที่เอ่อพ่อ
00:02:09 → 00:02:11 แม่นั่นแหละเป็นคนมาบอกว่าอุ๊ยเด็กเ่ะ
00:02:11 → 00:02:15 ตื่นขึมาร้องไห้กลางคืนแบบอือเหมือนกับ
00:02:15 → 00:02:18 แบบกลัวอะไรบางอย่างจริงๆพอถ้าเกิดมาด้วย
00:02:18 → 00:02:22 แบบเนี้ยเราก็มักจะต้องถามว่าเอ๊ยเด็กอ่ะ
00:02:22 → 00:02:26 เคอ่ะรู้มั้ยว่าเฝันร้ายถ้าเป็นผู้ใหญ่เ
00:02:26 → 00:02:28 ก็จะมาเล่าว่าเอ๊ะเคฝันด้วยฝันนี่ใช่มั้ย
00:02:28 → 00:02:32 แต่เด็กมันจะมีฝันร้ายที่เค้าเบอกว่าเฝัน
00:02:32 → 00:02:36 ร้ายเกลัวเร้องไห้สื่อสสื่อสันได้ 100%
00:02:36 → 00:02:39 ใช่มอันนี้คือฝันร้ายที่แบบรู้รว่าเขาจำ
00:02:39 → 00:02:43 ได้แต่มีอีกประเภทนึงคือเมีอาการแบบอูยวย
00:02:43 → 00:02:47 วายร้องไห้ร้องห่มแบบฮะดูตีออกชบหัวแต่
00:02:47 → 00:02:50 เหตุการณ์นั้นจำอะไรไม่ได้เลยอืซึ่งอย่าง
00:02:50 → 00:02:53 เงี้ยแล้วก็พ่อแม่ก็ประเมินว่าเป็นัร้าย
00:02:53 → 00:02:56 ทั้ง 2 อย่างกสันไร้ 2 เนี่ยเป็นคนละแบบ
00:02:56 → 00:03:00 กันสันไลฟ์มันจะมีแบบนี้ได้
00:03:00 → 00:03:03 แล้วก็เวลาเราเจอแบบนี้เวลาพ่อแม่มาถาม
00:03:03 → 00:03:06 ว่าเอ๊ะคเด็กอ่ะเป็นอะไรหรือเปล่าถ้าเ
00:03:06 → 00:03:08 เป็นอย่างงนี้บ่อยๆสิ่งที่เราต้องคิดถึง
00:03:08 → 00:03:12 ก็คือว่าเอ๊ะมันเป็นหนเป็นเป็นโรคครับ
00:03:13 → 00:03:17 หรือว่าไม่ใช่โรคอเป็นโรคทางด้านสมองโรค
00:03:17 → 00:03:21 จิตเวชหรือเปล่าคนละกันเพราั้นจริงๆอัน
00:03:21 → 00:03:24 นี้ก็คือสิ่งที่เราต้องประเมินจากการ
00:03:24 → 00:03:28 อาการคามฝัร้ายถ้าเป็นของเด็กนะคะถ้าเป็น
00:03:28 → 00:03:30 ผู้ใหญ่เขาก็ว่าจะต้องำได้เถึงมาบอกเรา
00:03:30 → 00:03:36 เนาว่าเัหลายก็จะเป็นค่ะอืมแสดงว่าฝันอะไ
00:03:36 → 00:03:39 อ่าฮะเชิญอะไรฮะเชิญแสดงว่าฝันร้ายเอง
00:03:39 → 00:03:42 เนี่ยฝันร้ายเองเนี่ยก็ก็บ่งบอกได้ว่าแต่
00:03:42 → 00:03:46 ละคนอาจจะมีเรื่องของปัญหาทางด้านสุขภาพ
00:03:46 → 00:03:49 ได้พอสมควรได้บ้างได้บ้างใช่มั้ยคุณหมอ
00:03:49 → 00:03:52 ค่ะอ่าเมื่อกี้อย่ายกตัวอย่างใช่มั้ยคะ
00:03:52 → 00:03:54 ถ้าสมมุติว่าเป็นฝันร้ายแบบที่สมมติในใน
00:03:54 → 00:03:57 เด็กเนี่ยเป็นฝันร้ายที่เาตื่นขึ้นมาแล้ว
00:03:57 → 00:04:00 ก็ร้องไห้ตลอดเวลาร้องไห้แล้วก็คเนี่ยไอ้
00:04:00 → 00:04:05 ที่การจำได้เนี่ยเบอกว่าจากลักษณะของความ
00:04:05 → 00:04:10 ฝันเนี่ยมันเกิดในช่วงของการนอนหลับที่ช
00:04:10 → 00:04:13 เรียกว่าการนอนหลับแบบตากระตุก็คือเรม
00:04:13 → 00:04:17 Sleep ก็คือเป็นพระที่เด็กเนี่ยอ่ามักจะ
00:04:17 → 00:04:20 มีอาการตอนใกล้ๆจะตื่นงั้นเวลาเด็กมาด้วย
00:04:20 → 00:04:23 เอ๊ะฝัร้ายตอนช่วงใกล้ใกล้ตื่นตอนเช้าๆ
00:04:23 → 00:04:26 ใกล้ๆจะตื่นเช้าๆหรือกลางดึกเนี่ยครับก็
00:04:26 → 00:04:29 ต้องคิดถึงกลุ่มเยเป็นฝันร้ายแบบเด็กเด็ก
00:04:29 → 00:04:33 ที่กลัวแล้วจะมีภาวะกังวลหรือเครียดอื
00:04:33 → 00:04:36 หรือว่ามีอะไรบางอย่างเป็นภาวะกระทบ
00:04:36 → 00:04:39 กระเทือนแต่อีกแบบนึงที่เขาไม่เจำไม่ได้
00:04:39 → 00:04:42 เลยแต่ดูเดูเแบบดูรุนแรงจังเลยแล้วก็
00:04:42 → 00:04:45 เหมือนกลัวอะไรมากอะไรเงี้ยตืขึ้นมาจำ
00:04:45 → 00:04:48 อะไรไม่ได้เลยพวกเนี้ยอ่าเป็นอันนึงที่
00:04:48 → 00:04:51 เราอาจจะต้องคิดว่าเอ๊ะมันเป็นโรคหรือ
00:04:51 → 00:04:55 เปล่าเป็นโรคที่เอ่อมันมีโรคชนิดนึงนะคะ
00:04:55 → 00:04:58 ที่เป็นโรคอาการชักขณะหลับซึ่งมีลักษณะ
00:04:58 → 00:05:02 ที่แบบเหมือนกับตืขึ้นมาวๆวๆพูดอะไรไม่
00:05:02 → 00:05:05 รู้ทำอะไรแปลกๆเสร็จแล้วเก็หลับไปแล้วก็จ
00:05:05 → 00:05:08 อะไรไม่ได้พนี้ก็เป็นอาการชักชนิดนึงอัน
00:05:08 → 00:05:11 นี้ก็จะต้องระวังเอ้ถ้าเป็นักเราอาจจะ
00:05:11 → 00:05:17 ต้องมาตรวจเพิ่มเติมก็คือเป็นเอ่อทางภาวะ
00:05:17 → 00:05:20 บางอาจจะเป็นพทุกรรมก็คือคนไข้เนี่ยเด็ก
00:05:20 → 00:05:24 เนี่ยเขาจำไม่ได้แต่ว่ามันจะเกิดเหตุ
00:05:24 → 00:05:28 ว่ามันเกิดในภาวะของ non Sleep ก็คือใน
00:05:28 → 00:05:33 ช่วงที่เ่อไม่ได้เป็นช่วงไสชของการหลับ
00:05:33 → 00:05:36 ที่เป็นดอนเมก็คือไม่มีตากระตุกอันนี้ก็
00:05:36 → 00:05:39 เด็กจะจำไม่ได้แล้วมักจะเกิดในช่วงแรกๆ
00:05:39 → 00:05:42 ของการนหลับค่ะพวกนี้จริงๆกลุ่มเนี้ยจะ
00:05:42 → 00:05:45 ไม่ค่อยจะไม่ค่อยถ้าเขาไม่ใช่โรคมชักแล้ว
00:05:45 → 00:05:49 ก็ดูดูน่ากลัวแต่มันไม่ค่อยมีอะไรแล้วก็
00:05:49 → 00:05:52 อ่าก็ต้องระวังเ้ามีอุบัติเหตุหรืออะไร
00:05:52 → 00:05:56 เงี้ยเวลามีอาแต่เจำไม่ได้ค่ะแล้ววิธีการ
00:05:56 → 00:05:58 เนี่ยก็จะไม่เหมือนกัน 2 กลุ่ม 3 กลุ่มเย
00:05:58 → 00:06:03 ค่ะอือืค่ะเออคุณหมอคะถ้าเอ่อเรามีลูก
00:06:03 → 00:06:07 เล็กหรือว่าหลานเล็กๆเค้าฝันเมาเล่าให้
00:06:07 → 00:06:10 เราฟังระดับแค่ไหนที่คุณพ่อคุณแม่หรือผู้
00:06:10 → 00:06:14 ปกครองอ่ะค่ะเอ่อถึงควรจะพาลูกหลานไป
00:06:14 → 00:06:17 ปรึกษาคุณหมอหรือว่าเอ่อมีสัญญาณอะไรที่
00:06:17 → 00:06:20 เราจะต้องพึงระวังเวลาเราฟังจากเอ่อลูก
00:06:20 → 00:06:22 หลานเนี่ยค่ะแล้วก็ควรจะต้องรับคำปรึกษา
00:06:22 → 00:06:27 จากแพทย์อ่ะค่ะจ้เอ่อคือสัญญาณก็คือว่า
00:06:27 → 00:06:30 ถ้าสมมุติว่าเด็กคนนั้นน่ะเค้าแบบมีอาการ
00:06:30 → 00:06:34 แบบเกิดบ่อยจนเนอนไม่ได้ค่ะแต่เขาตื่น
00:06:34 → 00:06:37 ขึ้นมาแล้วเต้องแบบเกลัวกันกลับไปนอนอ่ะ
00:06:37 → 00:06:40 คือเฝั่นร้ายดูแบบน่ากลัวฉะนั้นถ้าไปหา
00:06:40 → 00:06:45 หมอไปหาหมอหมอก็ต้องพยายามหาหาสาเหตุว่า
00:06:45 → 00:06:48 ไอ้เนี่ยยมันเกิดจากอะไรงั้นจริงๆถ้ามัน
00:06:48 → 00:06:52 เกิดบ่อยมีผลกระทบกับการนอนหลับมีอ่าภาวะ
00:06:52 → 00:06:56 บางอย่างที่เอ๊ะดูเด็กเปลี่ยนนิสัยไปหรือ
00:06:56 → 00:06:59 มีลักษณะบางากอันนี้ควรจะต้องไปค่ะ
00:06:59 → 00:07:06 อือืค่ะเออแสดงว่าปกติเนี่ยเอออะไเออเวลา
00:07:06 → 00:07:08 เด็กเล็กอ่ะค่ะคุณหมอคุณพ่อคุณแม่เนี่ควร
00:07:08 → 00:07:12 จะพาเเข้านอนตอนกี่โมงแล้วเควรหลับเอ่อ
00:07:12 → 00:07:15 ได้ประมาณกี่ชั่วโมงอะไรเงี้ยค่ะว่าเพราะ
00:07:15 → 00:07:18 ว่าอ่าเท่าที่ขวัญมีข้อมูลมาคือเหมือน
00:07:18 → 00:07:21 เด็กเล็กเนี่ยก็อาจจะ 19:00 นแล้วก็ให้
00:07:21 → 00:07:23 เขานอน 11 ชมเพราะว่าถ้าเขานอนไม่พอเนี่ย
00:07:23 → 00:07:26 สุดท้ายพอตอนเช้าเนี่ยไปถึงถึงที่โรง
00:07:26 → 00:07:29 เรียนเนี่ยเขาอาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่า
00:07:29 → 00:07:31 น่ารักกับเพื่อนๆหรือสังคมตรงนั้นเนี่ย
00:07:31 → 00:07:34 เอ่อเด็กเล็กเข้านอนประมาณกี่โมงมันถึงจะ
00:07:34 → 00:07:38 ดีกับเด็กเล็กคะคุณหมอเอ่อโดยโดยปกติ
00:07:39 → 00:07:43 เนี่ยอ่าระยะเวลาการนอนหลับของมันจะแบ่ง
00:07:43 → 00:07:45 มันจะเพิ่มมันจะลดลงตามอายุนะเท่าที่ยิ่ง
00:07:45 → 00:07:49 เด็กเล็กมากๆสแเกิดก็อาจะนอน 18 ชมงี้เน
00:07:49 → 00:07:52 แล้วมันก็จะลลงไปเรื่อยๆทีนี้อยู่ที่เล็ก
00:07:52 → 00:07:54 ขนาดไหนถ้าสมมติว่า
00:07:54 → 00:07:57 เป็น 3-4 ขวบ 5 ขวบอะไรเงี้ยก็น่าจะ
00:07:57 → 00:08:02 ประมาณ 9 ชมอ่าพอโตขึ้นมาก็ 8 ช่มนะคะผู้
00:08:02 → 00:08:05 ใหญ่ก็ประมาณสัก 10 ชมงอือฮึค่ะจริงๆแล้ว
00:08:05 → 00:08:09 ก็คือถ้าเกิดนอนเร็วแล้วก็เป็นเวลาได้
00:08:09 → 00:08:12 เนี่ยมันก็จะดีคือบางคนบอกว่าเออฉันอยาก
00:08:12 → 00:08:14 จะให้นอน 7 ชมงก็นอนเที่ยงคนตื่น 7:00 น
00:08:14 → 00:08:18 นอน 2:00 นตื่น 99:00 นอะไรงี้ดีมยจริงๆ
00:08:18 → 00:08:21 มันก็ไม่ดีมันคจะนอนเป็นช่วงเวลาที่แบบอ
00:08:21 → 00:08:26 ตรงเวลาที่ให้มันเป็นพแพทเทิร์นของเขานะ
00:08:26 → 00:08:29 คะนนคนจะเป็นเวลาให้พอแล้วก็ในเวลา
00:08:29 → 00:08:33 แพทเทิร์นที่มันควรจะเป็นคอืครับเอ่อในใน
00:08:33 → 00:08:37 ในส่วนของเด็กอ่ะครับคุณหมอเด็กเอ่อผมผม
00:08:37 → 00:08:39 ถ้าถ้าในเทียบกับผู้ใหญ่ผู้ใหญ่ในแต่ละ
00:08:40 → 00:08:42 วันเขาจะเจอเรื่องราวเจอประสบการณ์หรือ
00:08:42 → 00:08:45 เจอรู้จักความกลัวที่มันค่อนข้างเยอะกว่า
00:08:45 → 00:08:49 แต่แต่กับเด็กเนี่ยผมว่าเอ่อผมกำลังคิด
00:08:49 → 00:08:51 ว่าเด็กเองก็เจอประสบการณ์ที่น้อยกว่าผู้
00:08:51 → 00:08:54 ใหญ่ในแต่ละวันเอ่อความกลัวในแต่ละอย่าง
00:08:54 → 00:08:57 อาจจะไม่ไม่ยังอาจยังไม่รู้จักความกลัว
00:08:57 → 00:08:59 ด้วยซ้ำไปในบางเรื่องบางราแล้วทำไมทำไม
00:08:59 → 00:09:04 เด็กถึงเขาถึงอืมีอาการฝันร้ายได้ที่ค่อน
00:09:04 → 00:09:08 ข้างที่จะน่าน่าน่าเป็นห่วงครับคุณหมอเออ
00:09:08 → 00:09:10 คือจริงๆถ้าเป็นกลุ่มที่แบบเด็กตื่นขึนมา
00:09:10 → 00:09:13 ร้องไห้แล้วทำได้เนี่ยจรโดยอย่างที่ที่
00:09:13 → 00:09:16 คุณโอ๊ว่าเลยค่ะคือเด็กเนี่ยเวลามีเหตุ
00:09:16 → 00:09:20 การณ์อะไรบางอย่างนะมันจะถ้าเแสดงออกมา
00:09:20 → 00:09:23 เนี่ยเหตุการณ์มันจะไม่ค่อยซับซ้อนครับเพ
00:09:23 → 00:09:25 จะไม่ได้มีอะไรมากซึ่งบางครั้งเราคิดไม่
00:09:26 → 00:09:28 ถึงด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์เนี้ยมันไปกระทบ
00:09:28 → 00:09:32 กระเทือนจิตใจเฮะแต่พวกเเราต้องค่อยๆ EXP
00:09:32 → 00:09:35 เนเวลาเราเจอแล้วเราเอ้ยทำไมเด็กคนนี้มี
00:09:35 → 00:09:39 อาการพอซักประวัติไปเรื่อยๆเนี่ยใน่าใน
00:09:39 → 00:09:42 สิ่งแวดล้อมที่เขาเจอมันมีไม่ซับซ้อนมาก
00:09:42 → 00:09:45 ก็คือมีแต่ที่บ้านที่โรงเรียนแค่เนี้ยอื
00:09:45 → 00:09:48 ครับก็ก็มักจะได้ได้เหตุการณ์ประมาณที่
00:09:48 → 00:09:52 มันมีปัญหาว่าเอ้ยมันไปไปกระตุ้นให้เขามี
00:09:52 → 00:09:54 ความรู้สึกนี้ซึ่งส่วนใหญ่พ่อแม่ก็พอไป
00:09:54 → 00:09:58 กลับไปเ่อรื้อฟื้นอะไรอย่างเงี้ยก็พอจะ
00:09:58 → 00:10:01 ได้กลับมาอืแล้วเราพอเรารู้ว่าเอ้ยตรงนี้
00:10:01 → 00:10:05 เป็นปมเนาะบางทีมันก็คลายได้โดยที่นิด
00:10:05 → 00:10:07 เดียวเองอะไรเงี้ยค่ะเด็กจะไม่ค่อยซับ
00:10:07 → 00:10:10 ซ้อนมากับผู้ใหญ่อือาจจะอะไรนะเขาเรียก
00:10:10 → 00:10:14 ว่าที่ผมสังเกตเห็นบ่อยๆก็เล่นเล่นมาก
00:10:14 → 00:10:18 เกินไปแล้วก็เล่นจนแบบเอ่อบาดเจ็บอันนั้น
00:10:18 → 00:10:21 ก็เริ่มเริ่มกลัวเอ่อเล่นน่ากลัวน่ากลัว
00:10:21 → 00:10:24 ซ่อนแอบอะไรเงี้ยแล้วหาหาไม่เจอนานๆดมืดๆ
00:10:24 → 00:10:26 อะไรเงี้ยมันก็เกี่ยวข้องใช่มั้ยหนังีนิด
00:10:26 → 00:10:28 หน่อยอะไรอย่าเงี้ยซึ่งเราก็อาจจะไม่รู้
00:10:28 → 00:10:30 สึกแต่เด็กรู้สึกอะไรอย่างเงี้
00:10:30 → 00:10:32 อ๋อเรียกว่าฝัง
00:10:32 → 00:10:39 ใจเออค่ะเขาเรียกว่าฝังใจมั้เป็นฝังใจแบบ
00:10:39 → 00:10:43 เด็กๆอ่ะซึ่งเราอาจจะคิดไม่ถึงอืซึ่งๆพวก
00:10:43 → 00:10:46 นี้ก็เหมเรื่องสิ่งแวดล้อมค่ะซึ่งในมุม
00:10:46 → 00:10:48 ของผู้ใหญ่เองเอ๊เรื่องบางเรื่องมันเล็ก
00:10:48 → 00:10:50 นิดเดียวโอ๊ยดูแป๊บเดียวก็ไม่เห็นจะน่า
00:10:50 → 00:10:52 กลัวเลยแต่ถ้าเด็กเขากลัวจริงๆแล้วเนี่ย
00:10:52 → 00:10:56 อย่างเช่นอะไรอ่ะเ่าเปิดหนังสยองสยองหนัง
00:10:56 → 00:10:58 ผีน่ากลัวน่ากลัวเสียงน่ากลัวน่ากลัวให้
00:10:59 → 00:11:01 ให้เขาฟังแล้วเขากลัวริจริงอ่ะเขาจะจำจำ
00:11:01 → 00:11:05 แล้วก็เอาเก็บไปฝันได้ใช่ค่ะเพราอันนี้
00:11:05 → 00:11:09 เป็นสิ่งแวดล้อมที่เราอาจจะต้องดูแลอือ่า
00:11:09 → 00:11:12 เด็กเล็กๆบางทีแบบมันเค้าเรียกเป็นของ
00:11:12 → 00:11:14 บริสุทธิ์เนาะสิ่งนี้เราไม่เคยเจอครับ
00:11:15 → 00:11:17 เด็กก็แบบยังไม่มีภูมิต้านทานอะไรประมาณ
00:11:17 → 00:11:20 นี้จอืแสดงว่ามันก็แก้ได้สิครับเด็กใน
00:11:21 → 00:11:23 เรื่องของฝันร้ายหรือว่าอาการกลัวระหว่าง
00:11:23 → 00:11:28 นอนเองเนี่ยส่วนใหญ่นะคะจะไม่ค่อยแบบเอ่อ
00:11:28 → 00:11:29 ซับซ้อนมาก
00:11:29 → 00:11:33 อกแล้วก็ในบางภาวะอย่างเช่น
00:11:33 → 00:11:37 เอ่อพัฒนาการของเด็กเนี่ยอย่างที่ที่บอก
00:11:37 → 00:11:40 ว่ามันเป็นเ่อกรพันธ์ในในบ้านมีคนเป็นคน
00:11:40 → 00:11:45 แบบเป็นมีคนแบบนี้หลายคนพออายุโขึ้นก็หาย
00:11:45 → 00:11:48 ไปก็มีค่ะคือเหมือนกับมันเป็นแพทเทิร์น
00:11:48 → 00:11:51 ที่มันฝังอยู่ในพันธุกรรมแบบเนี้ยมันจะมา
00:11:51 → 00:11:54 แบบนี้อะไรก็มีแต่ก็ไม่ได้เป็นอันตราย
00:11:54 → 00:11:59 อะไรก็มีค่ะอืผมผมอยากให้คุณหมออ่าเชิญ
00:11:59 → 00:12:03 พี่ขวัญกนฮะค่ะถ้าอยากให้คุณหอแนะนำ
00:12:03 → 00:12:05 เกี่ยวกับว่าถ้าลูกๆฝันเราควรรับมือกับ
00:12:05 → 00:12:09 ลูกยังไงแล้วก็กิจกรรมก่อนนอนที่ก่อนจะพา
00:12:09 → 00:12:11 เด็กๆเข้านอนเนี่ยเราควรทำอะไรกับเด็กๆ
00:12:11 → 00:12:16 บ้างอ่ะค่ะเพื่อให้เขานอนหลักฝันดีอาจจะ
00:12:16 → 00:12:20 อก็จริงๆแล้วถ้าถ้าในเรื่องของการที่
00:12:20 → 00:12:25 เตรียมตัวไปนอนเนี่ยก็คงเ่าจับเวลาที่ให้
00:12:25 → 00:12:29 แบบเป็นเวลาที่เหมาะสมเนาะกับเตามอายุเค
00:12:29 → 00:12:31 เนี่ยเค้าควรจะเ้านอนกี่โมง 2:00 21:00
00:12:31 → 00:12:34 นอย่างเงี้ยเค้าก็ควรจะนอนประมาณนี้ัด
00:12:34 → 00:12:37 เวลาให้เหมาะสมให้มันเป็นเวลาแล้วก็ก่อน
00:12:37 → 00:12:41 นอนเนี่ยก็อย่ากินอะไรที่โอท้องอืดมากนอน
00:12:41 → 00:12:44 ไม่หลับนู่นนี่นะอันที่อันแรกอันที่ 2 ก็
00:12:44 → 00:12:48 คืออาจจะต้องผ่อนคลายไม่ต้องแบบมีเรื่อง
00:12:48 → 00:12:51 ที่ทำให้ตื่นเต้นมากเกินไปแล้วก็ทำให้นอน
00:12:51 → 00:12:53 ไม่หลับครับแล้วก็จริงๆเดี๋ยวนี้ปัจจุบัน
00:12:53 → 00:12:57 เมีพวกโซเชียลมีเดียเยอะแยะแล้วก็พวก
00:12:57 → 00:13:00 โทรทัศน์พวกเอ่ออ่อ iPad อะไรอย่างเงี้ย
00:13:00 → 00:13:03 ซึ่งมันก็ทำให้เขาอ่ะตื่นเต้นเนาะเวลาเดู
00:13:03 → 00:13:06 นี่เก็จะไม่ยอมนอนอืออันนี้ก็จะเป็นส่ง
00:13:06 → 00:13:09 ที่ควรจะหลีกเรี่ยงแล้วก็วางก่อนที่จะมี
00:13:09 → 00:13:13 มีการถึงเวลานอนนะซึถ้าคุณเป็นเด็กเล็กๆ
00:13:13 → 00:13:16 เนี่ยเค้าก็เราก็อาจจะไปเล่าเรื่องสนิทาน
00:13:16 → 00:13:19 ในสนุกๆให้เไม่ใช่สนุกๆให้เขาแบบรู้สึก
00:13:19 → 00:13:22 ผ่อนคลายครับแล้วก็ไม่ต้องแบบตื่นเต้นมาก
00:13:22 → 00:13:27 อืก็เก็จะได้รับได้อคก็น่าจะเป็นแบบช่วง
00:13:27 → 00:13:31 เวลาที่ที่ควรจะรีกแล้วก็ไม่ตื่นเต้นเกิน
00:13:31 → 00:13:36 ไปไม่มีสภาวะที่เป็นเครียดหรือว่าเอ่อ
00:13:36 → 00:13:39 อิ่นอื่นมากเกินไปท้องอืดอะไรอย่างเงี้ย
00:13:39 → 00:13:45 ค่ะก็จะทำให้แมันดีขึ้นอค่ะอืครับเอ่อที่
00:13:45 → 00:13:49 ผมจะทำจะจะถามต่อก็คือในเรื่องของเอ่อ
00:13:49 → 00:13:52 กรณีที่เด็กแบบมีอาการเขาเรียกว่าสมมุติ
00:13:52 → 00:13:55 นะผมผมอาจจะเห็นจากคลิปค่อนข้างเยอะเอ่อ
00:13:55 → 00:13:58 เด็กที่แบบตื่นจากฝันร้ายหรือว่ากลัวอะไร
00:13:58 → 00:14:01 มากๆเนี่ยแล้วเขารู้สึกแบบกลัวจนสั่นอ่ะ
00:14:01 → 00:14:05 คุณหมอกลัวจนแบบร้องไห้แบบกระจองงอแงเลย
00:14:05 → 00:14:07 อ่ะแบบนี้ถือว่าเป็นเป็นเป็นเป็นอันตรายม
00:14:07 → 00:14:10 ครับแล้วมันจะส่งผลยังไงมย
00:14:10 → 00:14:14 ฮะก็ตอนนี้พี่ถ้าเกิดพี่เล่าให้ฟังว่า
00:14:15 → 00:14:17 เป็นเด็กใช่มั้ยคะอยู่ที่ขนาดเด็กเนาะถ้า
00:14:17 → 00:14:21 สมมุติว่าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาเป็นแบบพูด
00:14:21 → 00:14:25 กันรู้เรื่องแล้วก็จะคงจะเ่อคงจะคุยกัน
00:14:25 → 00:14:28 ถามกันได้นะว่ามันเป็นอะไรนู่นนี่นั่นเหา
00:14:28 → 00:14:31 เป็นอย่างไรแต่ถ้าเป็นเด็กเล็กๆตื่นขึ้น
00:14:31 → 00:14:34 มาร้องไห้นะเราก็คงแค่ปลอบให้เขาแบบให้
00:14:34 → 00:14:40 เขารู้สึกเอ่อไม่ไม่กลัวเกินไปครับแล้วก็
00:14:40 → 00:14:44 สังเกตสังเกตว่าเเกิดอะไรขึ้นหรือว่าค่อย
00:14:44 → 00:14:46 มา explore กันอีกทีนึงแต่ถ้าเป็นเด็กที่
00:14:46 → 00:14:50 โตขึ้นมันก็คงจะมีโอกาสที่จะเล่าเรื่อง
00:14:50 → 00:14:53 ที่รู้เรื่องมากขึ้นครับนี่ก็เป็นเรื่อง
00:14:53 → 00:14:56 ที่เราแต่ว่าเวลาเกลวยเราก็คงต้องอยู่กับ
00:14:56 → 00:15:00 เแล้วก็ตอบเอันคือว่าอย่างกรณีที่บอกว่า
00:15:00 → 00:15:04 เด็กอ่ะเวลาเมีอาจารย์แบบร้องไห้เหมือน
00:15:04 → 00:15:07 เหมือนละเมออะไรอย่างเงี้ยเสร็จแล้วเ้าก็
00:15:07 → 00:15:09 จำไม่ได้เพอันนี้แบบเนี้ยเราไม่ต้องไป
00:15:09 → 00:15:12 ปลุกเค้านะคะออเหรอฮะคือก็ไม่จำเป็นต้อง
00:15:12 → 00:15:15 ไปปลุกให้เค้าแบบตื่นขึ้นมาเพราะจริงๆ
00:15:15 → 00:15:19 ภาวะแบบนั้นน่ะเป็นภาวะที่ที่เเรียกว่าไไ
00:15:19 → 00:15:21 เเค่ะออฮปกไปเนี่ยเขาก็ไม่รู้เรื่องอยู่
00:15:21 → 00:15:25 ดีก็ไม่จำเป็นต้องกลุกแต่ว่าถ้าเป็นกลุ่ม
00:15:25 → 00:15:28 ที่เ้าตื่นขแล้วร้องไห้แล้วเคก็แบบกผวา
00:15:28 → 00:15:30 แล้วก็อยากจะกอดเหล่าอย่าเงี้ยก็ต้องก็
00:15:30 → 00:15:34 ต้องอยู่กับเนะคคนละคนละ management นะคะ
00:15:34 → 00:15:39 ค่ะอ๋อแสดงว่าเอเออก็เคยเจอเหมือนกันนะ
00:15:39 → 00:15:41 แบบอยู่ดีร้องไห้นอนอยู่ดีร้องไห้ลองอยู่
00:15:41 → 00:15:45 ดีหัวเราะก็มีใช่มั้ยคุณหมอนอนหลับอยู่ก็
00:15:45 → 00:15:48 เป็นละเมอค่ะก็ปล่อยอันนี้คือปล่อยได้คือ
00:15:48 → 00:15:51 ค่ะกำลังจะถามคุณหมอนเลยค่ะว่าเคยเห็น
00:15:51 → 00:15:54 คลิปในติกต๊อกต่างๆที่คุณพ่อคุณแม่เอ่อ
00:15:54 → 00:15:57 ถ่ายลูกนอนละเมอหรืออะไรอย่างเงี้ยแล้ว
00:15:57 → 00:15:59 เอ่อคุณพ่อคุณแม่เนี่ยเวลาเห็นลูกนอน
00:15:59 → 00:16:02 ละเมอก็อาจจะเก็บความทรงจำเนาะแต่จริงๆ
00:16:02 → 00:16:05 แล้วจังหวะนั้นเนี่ยเค้าควรทำอะไรหรือเค
00:16:05 → 00:16:08 ควรกอดลูกหรือเขาคควรปลอบแบบไหนหรือว่า
00:16:08 → 00:16:12 ไม่ต้องทำอะไรเลยคะคุณหมอค่ะคือถ้าเค้า
00:16:12 → 00:16:15 เป็นแบบละเมอนะแล้วเจำไม่ได้เนี่ยไม่ต้อง
00:16:15 → 00:16:18 ไปกเขาไม่ต้องทำอะไรแต่ระวังสมมติเด็กบาง
00:16:18 → 00:16:22 คนเดินอ่ะค่ะออเมอเดินบางทีต้องระวัง้
00:16:22 → 00:16:25 ประตูต้องล็อคอ่ะอย่าให้เค้าแบบเดินตรง
00:16:25 → 00:16:29 บันไดอะไรอย่างเงี้ยต้องระวังนิดนึงค่ะ
00:16:29 → 00:16:31 คือส่วนใหญ่พวกนี้เราก็ไม่ค่อยได้ใช้ยา
00:16:31 → 00:16:34 กับเด็กนะคะแต่ถ้าสมันเยอะๆเราก็อาจจะ
00:16:34 → 00:16:38 ต้องปรับเอ่อวงจรคการมาบ้างก็อาจจะต้องมี
00:16:38 → 00:16:43 ยานิดหน่อยค่ะอืเออผมสงสัยทำไมบางคนนอน
00:16:43 → 00:16:48 ละเมอถึงมเมไปได้แบบลุกขึ้นไปนั่นไปนี่
00:16:48 → 00:16:50 ได้แบบโบางคนไกลๆเลยคุณหมอมันเป็นไปได้
00:16:50 → 00:16:54 ยังไงฮะมันไม่ชนอะไรก่อน
00:16:54 → 00:16:59 หรน่าแปลกูเอ่าใช่ค่ะจริงๆเอ่อเค้าก็เค้า
00:16:59 → 00:17:03 ก็จัดกลุ่มนี้เป็นกลุ่มภาวะนึงของการนอน
00:17:03 → 00:17:06 หลับผิดปกติหรืองที่เป็นเยอะๆอ่ะค่ะออ
00:17:06 → 00:17:09 ครับแต่ว่ามันเป็นคล้ายๆวงจรการนอนหลับ
00:17:09 → 00:17:12 ที่เา้าแบบมีการเคลื่อนไหวเยอะกว่าคนอื่น
00:17:12 → 00:17:16 อืประมาณนี้แล้วก็บางทีมันจะเป็นในช่วง
00:17:16 → 00:17:20 เวลานึงมากกว่าอีกเวลานึงหมายถึงในช่วง
00:17:20 → 00:17:22 อายุนึงอาจจะเป็นแล้วพอโตขึ้นอาจจะน้อยลง
00:17:23 → 00:17:29 ไปเรื่อยๆอย่างงี้ก็มีค่ะอืค่ะอืค่ะเวลาเ
00:17:29 → 00:17:32 ฝันร้ายหรือว่านอนเ่าหลับแบบฝันไปด้วย
00:17:32 → 00:17:35 บ่อยๆอย่างเงี้ยค่ะมันจะส่งผลกระทบต่อการ
00:17:35 → 00:17:40 พัฒนาของสมองของเด็กมยคะคุณหมอครับค่ะก็
00:17:40 → 00:17:43 อย่างอย่างถ้าสมมุติว่าเด็กที่ฝันร้ายมาก
00:17:43 → 00:17:46 ๆแล้วเกลัวมากจนที่เขาไม่อยากกลับไปนอน
00:17:46 → 00:17:50 เนี่ยมันก็จะมีปัญหาว่าเนอนไม่พอแน่ๆครับ
00:17:50 → 00:17:53 การพัฒนาของการนอนเนี่ยพอไม่ไม่พอเนี่ย
00:17:53 → 00:17:56 สมองมันก็เหนื่อยเนาะแล้วก็ทำให้การ
00:17:56 → 00:17:58 พัฒนาการการเรียนรู้อะไรอย่างอย่างตอน
00:17:58 → 00:18:01 กลางวันก็ไม่คงไม่อยากเรียนเท่าไหร่อือ่า
00:18:01 → 00:18:03 อารมณ์ก็ไม่ค่อยดีอะไรอย่าเงี้ยมันก็จะ
00:18:03 → 00:18:06 เป็นไปได้สำหรับคนที่นอนไม่พออืแต่้า
00:18:06 → 00:18:09 สมมติว่าเคแบไม่ได้เป็นเยอะเป็นแค่เวลา
00:18:09 → 00:18:11 เป็นแค่ส้างๆแป๊บเดียวแล้วก็หายไปแล้วก็
00:18:12 → 00:18:15 หายไปเลยก็ไม่มีอะไรส่วนใหญ่เก็จะปกตินะ
00:18:15 → 00:18:19 คะค่ะอืตามเขาเรียกว่าพัฒนาการก็จะเริ่ม
00:18:19 → 00:18:23 เปลี่ยนไปใช่มั้ยฮะใช่ค่ะก็จะกลับไปสู่คน
00:18:23 → 00:18:26 ทั่วไปค่ะอือย่างอย่าผู้ใหญ่นะครับในผู้
00:18:26 → 00:18:29 ใหญ่เองถ้าฝันร้ายบบ่อยเนี่ยมันจะส่งผล
00:18:29 → 00:18:32 ต่อสุขภาพเอ่อเช่นเดียวกับที่เกิดใน
00:18:32 → 00:18:35 เรื่องของเอ่ออ่อนเพลียหรือว่าอะไรงี้มฮ
00:18:35 → 00:18:38 หรือมันจะส่งผลมากกว่านี้อีกมั้ยครับคือ
00:18:38 → 00:18:40 จริงๆแล้วผู้ใหญ่เนี่ยเจะเล่าเรื่องได้
00:18:40 → 00:18:42 เป็นเรื่องเป็นราวเพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:18:42 → 00:18:45 บางอย่างมันสัมพันธ์กับภาวะจิตใจของเขา
00:18:45 → 00:18:49 เนาะอเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วถ้าอ่าต้นเหตุ
00:18:49 → 00:18:53 ของการที่เขาฝันร้ายตรงนั้นน่ะมันได้ได้
00:18:53 → 00:18:56 รับการโยยาไอ้สิ่งเหล่าเนี้ยมันก็จะดี
00:18:56 → 00:19:00 ขึ้นอืก็ก็จะไม่มีปัญหาแต่บางคนเนี่ยเขา
00:19:00 → 00:19:02 เรียกว่าเป็น Post traumatic dis เอ่อ
00:19:02 → 00:19:05 orderer ใช่มั้ยก็คือหลังเกิดเหตุการณ์
00:19:05 → 00:19:07 อะไรบางอย่างแล้วมันเียนเยอะเป็นเยอะจน
00:19:07 → 00:19:11 กระทั่งเป็นโรคอันเนี้ยทำให้ทางนอนเก็มี
00:19:11 → 00:19:15 ปัญหาแล้วก็เ่อนอนไม่ได้อันเนี้ยต้อง
00:19:15 → 00:19:18 รักษาเลยต้องไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ให้การ
00:19:18 → 00:19:21 รักษาโรคของเขาแล้วก็จะทำให้พเราโรคเ
00:19:21 → 00:19:24 รักษาแล้วแต่นอนเาก็จะดีขึ้นสฝาร้ายก็จะ
00:19:24 → 00:19:28 น้อยลงอืเหมือนที่เราได้ยินบ่อยๆนะคือคือ
00:19:28 → 00:19:32 แบบคนที่เจอแบบประสบเหตุสะเทือนใจนะอย่าง
00:19:32 → 00:19:35 เช่นเรื่องอะไรอ่ะอุบัติเหตุกตามเรื่อง
00:19:35 → 00:19:38 ของสูญเสียบางอย่างก็ตามแล้วก็เก็บมาเป็น
00:19:38 → 00:19:41 ฝันร้ายบ่อยๆีทุกคืนทุกคืนทุกเป็นสัปดาห์
00:19:41 → 00:19:43 เป็นเดือนบางคนนี้เป็นเป็นเป็นเดือนเลยนะ
00:19:43 → 00:19:46 คุณหมอแล้วสิ่งเนี้แหละที่มันจะส่งผลต่อ
00:19:46 → 00:19:49 สุขภาพใช่มั้ฮะใช่ค่ะแล้วจริงๆถ้าเกิดเขา
00:19:49 → 00:19:52 แบบมีผลกับสุขภาพเนี่ยอันนี้ต้องไปปรึกษา
00:19:52 → 00:19:56 แพทยอย่างน้อยเนี่ยเขาก็ต้องแก้แก้ที่ที่
00:19:56 → 00:20:01 ตัวอาการกับแก้ที่ต้นเหตุที่ถ้าจะแก้ได้
00:20:01 → 00:20:04 อืหาต้นเหตุซะก่อนแล้วก็ถึงจะรู้แหละว่า
00:20:04 → 00:20:09 จะแก้ยังไงดีใช่คือจริงๆมันก็จะมี 2 ช่วง
00:20:09 → 00:20:12 เนาะอย่างเช่นเพนอนไม่หลับเไม่กล้าไปนอน
00:20:12 → 00:20:15 บางทีเราอาจจะต้องพยายามให้ให้เ้าเป็นผู้
00:20:15 → 00:20:18 ใหญ่ก็ให้อย่าอย่าให้เขารู้สึกว่าเคลิ้มๆ
00:20:18 → 00:20:21 หลับง่ายขึ้นกระตุ้นอ่าวงจรการหลับให้เขา
00:20:21 → 00:20:25 ดีขึ้นกับเนก็คือพยายามไปหาต้นตอว่าเอ๊ะ
00:20:25 → 00:20:28 มันเกิดอะไรขึ้นแล้วก็แก้ทางจิตวิทยา
00:20:28 → 00:20:31 เป็นแบบนั้นเก็จะสามารถรักขาได้ค่ะ
00:20:31 → 00:20:33 เปลี่ยนที่นอน่ะครับเปลี่ยนที่นอนสถานที่
00:20:33 → 00:20:37 อะไรเงี้ยมันช่วยได้มั้ยฮะเอ่าก็อาจจะ
00:20:37 → 00:20:42 เป็นปัจจัยเสริมเนาะที่ที่นอนไม่สบายก็ก็
00:20:42 → 00:20:45 ยิ่งนอนไม่หลับแต่ถ้าที่นอนสบายอากาศดีๆ
00:20:45 → 00:20:48 เย็นๆอะไรอย่างเงี้ยให้แสงสว่างเเกินไปก็
00:20:48 → 00:20:51 จะทำให้การนอนดีขึ้นนี่ก็เป็นเค้าเรียก
00:20:51 → 00:20:55 ว่าเป็นเอ่อเป็นสร้างสิ่งแวดล้อมสร้าง
00:20:55 → 00:20:58 บรรยากาศให้มันเหมาะสมกับการนอนใช่มั้ค
00:20:58 → 00:21:01 ค่ะคุณหมอค่ะกฎทั่วไปของคนที่ที่อยากนอน
00:21:01 → 00:21:04 ให้ให้สบายก็ก็เป็นกฎที่ควรทำอยู่แล้วออ
00:21:04 → 00:21:08 ครับค่ะค่ะสำหรับเ่อประสบการณ์จากตัวเอง
00:21:08 → 00:21:10 แล้วกันนะคะอาจจะเป็นคนนอนหลับยากนิดนึง
00:21:11 → 00:21:15 แล้วก็มีช่วงนึงเคยซื้อเ่อเมลาโทนินที่
00:21:15 → 00:21:19 เป็นเยลลี่อ่ะค่ะคุณหมอมาเอ่อลองดูสุด
00:21:19 → 00:21:22 ท้ายตอนที่นอนน่ะรู้สึกเหมือนตัวเองตกเหว
00:21:22 → 00:21:25 อันเนี้ยมันมันเกี่ยวข้องกันมั้ยคะกับกับ
00:21:25 → 00:21:30 เอ่อตัวาเิที่เข้าไปในร่างกายเราแล้วก็
00:21:30 → 00:21:34 ความฝันว่าเหมือนตัวเองตกเียวอ่ะค่ะคุณ
00:21:34 → 00:21:38 หมอจริงๆเแล้วตนินเนี่ยที่ที่เขาเป็นที่
00:21:38 → 00:21:41 มาซื้อที่ขายตามร้านขายยาหรือว่าร้านตาม
00:21:41 → 00:21:43 ร้านทั่วไปเนาะตามร้านทั่วไปน่าจะเป็น
00:21:43 → 00:21:46 อาหารเสริมใช่มั้ยคะส่วนใหญ่ทีนี้ปริมาณ
00:21:46 → 00:21:49 ของยาที่ได้เข้าไปเนี่ยในเม็ดยาเนี่ยเรา
00:21:49 → 00:21:53 ก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นยังไงแต่ว่ามันจะมี
00:21:53 → 00:21:57 ขนาดเยอะมากกับขนาดไม่เยอะแล้วก็มียาที่
00:21:57 → 00:21:59 เป็นลักษณะเป็นยาเลยส่วนใหญ่เนี่ยหมอจะ
00:21:59 → 00:22:03 ใช้ยาในกลุ่มคนไข้เด็กเพราะว่ามันเป็นยา
00:22:03 → 00:22:07 ที่เ่อยานอนหลับที่ไม่ไม่ไม่ได้อันตราย
00:22:07 → 00:22:11 ไม่ได้มีริธที่ทำให้แบบเมาตอนเช้าตอนตื่น
00:22:11 → 00:22:14 ัวอะไรอย่าเงี้ยันเนี้ยมันจะมีประโยชน์ใน
00:22:14 → 00:22:17 แง่ของว่าเ่อมันไปทำให้วงจรการนอนหลับของ
00:22:17 → 00:22:20 เราอ่ะมันปกติอือย่าเช่นสมมติว่าเราอยาก
00:22:20 → 00:22:25 จะนอนซัก 3 นเราก็ียนสักอ่อ 20:00 นอย่าง
00:22:25 → 00:22:28 เงี้ยมันก็จะทำให้อ่าไอ้ตัวสขาเนี่ยเข้า
00:22:28 → 00:22:32 ไปพอดีทำให้หลับนี้ยาที่เราให้เราก็จะให้
00:22:32 → 00:22:36 พอดีกับคนไข้ไม่ให้โดสเยอะเกินไปอาหาร
00:22:36 → 00:22:41 เสริมที่ได้เมลาเวลาโนีเอ่อเมลาเวลาโนี
00:22:41 → 00:22:45 เนาะตัวเนี้ยเให้ไปเนี่ยบางทีได้เยอะเกิน
00:22:45 → 00:22:50 ไปแล้วมันอาจจะมีฤทธิที่ทำให้แบบอุ้ยเ่อ
00:22:50 → 00:22:53 เปลี่ยนวงจรการลลับที่เยอะเกินไปหรือ
00:22:53 → 00:22:57 เปล่าคือไม่แน่ใจว่าที่คุณคุณขวัญันเข้า
00:22:57 → 00:23:00 ไปเนี่ยเนี่ยเป็นเป็นแบบไหนขนาดไหนนะ
00:23:00 → 00:23:02 เพราะเท่าที่ฟังมาเนี่ยมันมีหลายขนาดมาก
00:23:02 → 00:23:07 โดสสูงมากก็มีค่ะเออนานๆแล้วเหมือนกันค่ะ
00:23:07 → 00:23:10 จำจำตัวโดสไม่ได้แล้วค่ะคุณหมอแต่ว่าคือ
00:23:10 → 00:23:12 พอพอมันเป็นประสบการณ์ที่พอลองทานแล้วมัน
00:23:12 → 00:23:16 มันรู้สึกนอนหลับฝันเหมือนตกเหวก็เลยเอ่อ
00:23:16 → 00:23:20 หยุดก็เลยไม่ได้ทานต่ออืค่ะคือการที่คน
00:23:20 → 00:23:24 เราจะเปลี่ยนสชตการที่นอนหลับครับคือนอนเ
00:23:24 → 00:23:27 มันจะมีนอนแบบนอนแบบเ้าไ Sleep นะนอนแบบ
00:23:27 → 00:23:30 เอ่อเบาๆแล้วก็ลงไปลึกไปเรื่อยๆแล้วก็
00:23:30 → 00:23:32 ค่อยตื่นขึ้นมาเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วการ
00:23:32 → 00:23:35 ที่คนเราเนี่ยเวลานอนแล้วอยู่เฉยๆสะดุ้ง
00:23:35 → 00:23:38 เนี่ยมันมีทุกคนเป็นเรื่องปกติแล้วก็การ
00:23:38 → 00:23:41 เปลี่ยนสชตงเยแต่ละคนไม่เหมือนกันที่ตัว
00:23:41 → 00:23:44 ยามันอาจจะไปกระตุ้นสตรงเที่ทำให้มันมี
00:23:44 → 00:23:48 การเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
00:23:48 → 00:23:54 อืค่ะเออก็ก็มีอะไรที่นี่เอ่อต้องให้ความ
00:23:54 → 00:23:57 สำคัญเกี่ยวกับการนอนรวมถึงเรื่องของสุข
00:23:57 → 00:24:00 สุขภาพระหว่างวันเพื่อไม่ให้เราฝันร้าย
00:24:00 → 00:24:05 ด้วยนะคุณหมอนะใช่อืเอ่อเหตุการณ์ตอนกลาง
00:24:05 → 00:24:08 วันเราก็ต้องให้แบบไม่ซีเรียสไม่เครียด
00:24:08 → 00:24:11 มากเกินไปไม่กระทบกระเทินจิตใจมากเกินไป
00:24:11 → 00:24:15 ก่อนนอนก็ต้องผอดคลายให้ให้เพียงพอไม่
00:24:15 → 00:24:18 งั้นก็คิดมากก็นอนไม่หลับอีกอะไรอย่าง
00:24:18 → 00:24:22 เงี้ยค่ะค่ะครับอือเออมันมันจะมีเคล็ดลับ
00:24:22 → 00:24:25 มยครับเกิดแบบว่าเอ้ยระหว่างวันเราก็
00:24:25 → 00:24:28 เครียดแหละทำงานบางทีบางอย่างมันก็เแล้ว
00:24:28 → 00:24:31 ก็บางอีกครั้งก็เอ่อมีเรื่องของการพัก
00:24:31 → 00:24:34 ผ่อนไม่เพียงพอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอุ๊ย
00:24:34 → 00:24:38 ทำอย่างงี้ก่อนนอนเดี๋ยวจะได้แบบนอนสบายๆ
00:24:38 → 00:24:41 มันจะพอมีเคล็ดลับยครับคุณหมอเรื่องการ
00:24:41 → 00:24:44 นอนสบายๆนี่น่าจะมีการเขียนอยู่ทั่วไปเลย
00:24:44 → 00:24:47 นะตอนนี้ก็สึกคนเขนิยมกันจัดการเรื่อง
00:24:47 → 00:24:52 สุขภาพเยอะมากนะคะไม่ว่าจะต้องตอนตอนเช้า
00:24:52 → 00:24:55 ตอนกลางวันตอนเย็นควรจะมีการออกกำลังกาย
00:24:55 → 00:25:00 ควรจะกินอาหารให้แบบไม่วจะกินคาเฟอีนมาก
00:25:00 → 00:25:03 เกินไปเพื่อทำให้นอนไม่หลับฮอย่าเงี้ยกน
00:25:03 → 00:25:07 นอน้านั่งสมาธิได้ไม่แบบเล่นโซเชียล Media
00:25:07 → 00:25:11 ก่อนเ่อขณะที่นอนหลับอยู่ในอุณหภูมิที่
00:25:11 → 00:25:15 เหมาะสมอ่าความแสงสว่างที่ไม่มากเกินไปก็
00:25:15 → 00:25:17 จะทำให้เรานอนหลับได้ดีเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:25:17 → 00:25:19 พวกนี้ก็เป็นแบบเป็น General รูต้องบอก
00:25:20 → 00:25:24 ว่าเป็นกฎทั่วไปที่คนทั่วไปคุณจะทำ