00:00:44 → 00:00:46 อืม อันนี้ก็ดี อันนี้ก็ดี
00:00:46 → 00:00:49 คุณแนนพอกับหมอเลยเนี่ย
00:00:49 → 00:00:54 โควิดชีวิตเปลี่ยนค่ะ ชีวิตเราทุกวันนี้อยู่แต่บ้าน และก็ทุกอย่างอยู่ในจอ
00:00:54 → 00:00:58 คุณหมอคิดดูสิคะ ทำงาน คุยกับเพื่อน สั่งอาหาร Shopping
00:00:58 → 00:01:02 อย่างนี้เราจะเรียกว่ามันเป็นปัญหาหนึ่งของการ work from home ได้ไหมคะคุณหมอชีวิตติดจอเนี่ย
00:01:02 → 00:01:04 แน่นอน
00:01:04 → 00:01:07 งั้นเดี๋ยววันนี้เราต้องคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคะ
00:01:07 → 00:01:08 สวัสดีคุณผู้ชมกันก่อน
00:01:08 → 00:01:09 สวัสดีค่ะ
00:01:09 → 00:01:12 ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:01:12 → 00:01:15 เมื่อกี้นี้เป็น Lifestyle เราสองคนแหละคุณหมอขา
00:01:15 → 00:01:18 ทุกๆคนน่าจะเป็นเหมือนเราก็คือช่วงนี้ work from home เนาะ
00:01:18 → 00:01:21 นอกจากตัวจะติดบ้านแล้วชีวิตเรายังติดจออีก
00:01:21 → 00:01:22 จริงด้วย
00:01:22 → 00:01:25 เชื่อว่าทุกคนประสบชะตากรรมเดียวกัน
00:01:25 → 00:01:28 เราจะมีภัยเงียบ อะไรที่มันคุกคามเราบ้าง ในช่วง work from homeแบบนี้
00:01:28 → 00:01:30 ต้องติดตามรายการนะคะ
00:01:43 → 00:01:47 คุณผู้ชมคะ ได้เวลาของหมอชวนคุยประจำสัปดาห์นี้นะคะ
00:01:47 → 00:01:52 ช่วงแรกของเราสนับสนุนโดยแดดแรงแค่ไหนก็ไม่แคร์ปกป้องผิวด้วย Heliocare
00:01:52 → 00:01:54 ทั้งกันแดดและด้านผิวแก่
00:01:54 → 00:01:57 ของดีอยากบอกต่อให้กับคุณผู้ชมทุกคนนะคะ
00:01:57 → 00:02:00 จะเลือกอะไรก็ต้องเลือกแบบที่มีงานวิจัย
00:02:00 → 00:02:03 ถูกต้องแล้วนะคะ นี่จริงๆ แล้วก็ใช้ได้ในช่วง work from home นะคะคุณหมอ
00:02:03 → 00:02:06 เพราะว่าเขากันได้ทุกรังสี
00:02:06 → 00:02:10 วันนี้หัวข้อที่เราจะคุยกันเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนนะคะคุณหมอ
00:02:10 → 00:02:13 ภัยเงียบในช่วง work from home
00:02:13 → 00:02:15 ใช่แล้ว
00:02:15 → 00:02:17 เราเริ่มจากอันแรกเลยค่ะ
00:02:17 → 00:02:20 ที่มักจะมากับการ work from home ก็คือโรคอะไรคะคุณหมอ
00:02:20 → 00:02:22 "ออฟฟิศซินโดรม"
00:02:22 → 00:02:25 เพราะว่าจริงๆ แล้วเราเปลี่ยนบ้านเป็นที่ทำงาน
00:02:25 → 00:02:29 เราก็มีโอกาสที่จะเป็นภาวะออฟฟิศซินโดรมได้เหมือนกัน
00:02:29 → 00:02:33 เพราะว่าจริงๆแล้วออฟฟิศซินโดรม มันเป็นภาวะที่มันมีอาการปวดบริเวณเนื้อเยื่อ
00:02:33 → 00:02:36 บริเวณกล้ามเนื้อต่างๆนะคะคุณแนน
00:02:36 → 00:02:41 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการนั่งทำงานนั่นเอง
00:02:41 → 00:02:45 แล้วคุณแนนคิดดูนะ ถ้าเราอยู่บ้านมันจะมีโอกาสเกิดมากกว่าอยู่ที่ทำงานอีก
00:02:45 → 00:02:48 มันก็จริงเพราะอะไร โต๊ะเก้าอี้มันไม่ได้มาตรฐาน
00:02:48 → 00:02:49 ถูก ใช่
00:02:49 → 00:02:52 บางคนก็นั่งทำบนโซฟา บางคนอยู่บนเตียง บางคนก็กินข้าว
00:02:52 → 00:02:57 คุณแนนหมอจะบอกให้ คนส่วนหนึ่งเลยไม่มีโต๊ะทำงานที่บ้าน
00:02:57 → 00:03:02 นั้นหมายความว่าพอเราไม่มีโต๊ะทำงานที่บ้าน เราใช้โต๊ะอะไร อาจจะใช้โต๊ะทานข้าว
00:03:02 → 00:03:03 บางทีใช้โซฟา
00:03:03 → 00:03:05 บางทีใช้เตียงนอนในการทำงาน
00:03:05 → 00:03:08 แล้วคุณแนนคิดว่า Preposition ท่าทางมันไม่ได้แน่นอน
00:03:08 → 00:03:10 แล้วเราก็ไม่มีเก้าอี้ดีๆด้วย
00:03:10 → 00:03:13 เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ ที่ถูกต้องเนี่ยคุณแนน
00:03:13 → 00:03:16 เวลาเรานั่ง เราก็จะนั่งด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
00:03:16 → 00:03:18 เราไม่ได้นั่งแบบอย่างนี้เนาะ
00:03:18 → 00:03:20 บางคนก็จะนั่ง
00:03:20 → 00:03:22 บางคนนอนด้วยซ้ำ
00:03:22 → 00:03:26 นั่งค่อม ห่อไหล่ ก้มคอ
00:03:26 → 00:03:28 และก็ไขว่ห้าง
00:03:28 → 00:03:31 นี่คือเป็นท่าต้องห้ามทั้งนั้นเลยเวลาที่เรานั่งทำงาน
00:03:32 → 00:03:35 เราก็ต้องดูด้วยว่าถ้าสมมุติเราต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เนี่ย
00:03:35 → 00:03:37 การวางมือของเราเป็นยังไง
00:03:37 → 00:03:40 เพราะว่ามันจะไปเกี่ยวข้องกันหมด กระดูกและข้อต่างๆ
00:03:40 → 00:03:43 ก็ระยะที่เราจะต้องวางคอมพิวเตอร์เนี่ยคุณแนน
00:03:43 → 00:03:46 จะต้องวางอยู่ประมาณระยะห่างคือประมาณ 1 ช่วงแขน
00:03:46 → 00:03:50 สายตาของเราที่ดูระดับคอมพิวเตอร์จอคอม
00:03:50 → 00:03:53 จะต้องอยู่ในภาวะระดับสายตาหรือต่ำกว่าเล็กน้อย
00:03:53 → 00:03:55 การวางแขนจะต้องไม่ใช่วางและอย่างนี้
00:03:55 → 00:03:59 จะต้องแบบ องศาการทำมุมตั้งฉาก
00:03:59 → 00:04:02 จะต้อง 90 องศากับไหล่และก็แนบลำตัว
00:04:02 → 00:04:04 แต่ว่าห้ามนั่งไขว่ห้าง
00:04:04 → 00:04:06 มุมนี้ก็สำคัญ
00:04:06 → 00:04:08 นะคะมุมนี้ก็สำคัญ เก้าอี้จะต้องไม่สูงเกินไป
00:04:08 → 00:04:14 เพราะว่าต้องบอกว่าหัวเข่า จะต้องอยู่ระดับเดียวกันกับสะโพกหรือต่ำกว่าเล็กน้อย
00:04:14 → 00:04:15 ไม่งั้นกล้ามเนื้อเราก็จะเกร็ง
00:04:15 → 00:04:19 และมันไม่ใช่เกร็งเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพก มันขึ้นไปถึงกล้ามเนื้อหลัง
00:04:19 → 00:04:22 มันก็จะทำให้เรามีอาการปวดหลัง
00:04:22 → 00:04:25 แต่ก็ควรจะวางไว้บนโต๊ะนะคุณแนน
00:04:25 → 00:04:27 Laptop เนี่ยคือไม่ใช่เอามาวางไว้ที่ตัก
00:04:27 → 00:04:30 พอวางไว้ที่ตักปุ๊บอย่างนี้ แล้วก็นั่งทำไป
00:04:30 → 00:04:32 คอก็ไป ทุกอย่างไปหมดเลย
00:04:32 → 00:04:34 ใช่ ผิดปกติหมดเลย
00:04:34 → 00:04:37 แล้วก็คือบางทีเวลาเราทำงาน เราใช้ Laptop ใช่ไหมคะคุณแนน
00:04:37 → 00:04:39 เราถือไปถือมาได้ เราไปนู่นไปนี่ได้
00:04:39 → 00:04:41 ก็ต้องปรับระยะให้ดี
00:04:41 → 00:04:44 บางทีเขาแนะนำบอกว่า ไม่งั้นคุณแยกคีย์บอร์ดกับคุณแยกเมาส์
00:04:44 → 00:04:47 เพื่อคุณจะสามารถที่จะปรับระยะขนาดหน้าจอ
00:04:47 → 00:04:51 ให้มันพอดีในขณะที่เราทำงาน
00:04:51 → 00:04:55 แล้วก็ประเภทแบบพฤติกรรมการนั่งก็สำคัญ
00:04:55 → 00:04:58 นั่งนานๆ อันนี้ก็ไม่ดีคุณแนน
00:04:58 → 00:05:02 เพราะว่าทุกอย่างตึงเกร็งไปหมด ระบบไหลเวียนก็ไม่ดี
00:05:02 → 00:05:04 อาจจะทำให้เกิดอาการขาบวมเท้าบวมได้
00:05:04 → 00:05:07 ยิ่งถ้าสมมุติว่าบางคนที่เขามีเส้นเลือดขอด
00:05:07 → 00:05:13 หรือมีปัญหาเรื่องของระบบไหลเวียนอยู่แล้ว มันก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดปัญหามากขึ้นไปอีก
00:05:13 → 00:05:15 เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรจะทำ
00:05:15 → 00:05:18 สมมุติว่าเรานั่งทำงาน อยู่นานๆ
00:05:18 → 00:05:20 ก็บิดขี้เกียจบ้างก็ได้
00:05:20 → 00:05:24 จริงๆคุณแนนการบิดขี้เกียจนี่มันดีนะ
00:05:24 → 00:05:27 เพราะว่ามันคือการยืด
00:05:30 → 00:05:33 มันคือการยืด มันคือการยืดกล้ามเนื้อแบบหนึ่งนะคะ
00:05:33 → 00:05:37 เราก็อาจจะที่จะแบบว่า ลุก เดิน ยืน
00:05:37 → 00:05:38 เปลี่ยนกริยาบท เปลี่ยนท่าทางบ้าง
00:05:38 → 00:05:40 คือแบบอย่าอยู่ตรงนั้นนานๆ
00:05:40 → 00:05:44 คุณแนนรู้ไหมในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา
00:05:44 → 00:05:48 ปัญหาจากออฟฟิศซินโดรมเนี่ย เยอะมาก
00:05:48 → 00:05:51 เพราะว่าคนเวลา Work from home เนี่ย
00:05:51 → 00:05:53 นอนบนเตียง
00:05:53 → 00:05:56 คุณแนนรู้ไหมบางคน โดยเฉพาะสาวๆ หรือว่าหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลาย
00:05:56 → 00:06:01 ขอโทษครับ 24 ชั่วโมง บางคนนนานกว่า 24 ชั่วโมงอีก
00:06:01 → 00:06:02 อยู่บนเตียงหน่ะหรอคะ
00:06:02 → 00:06:05 คุณพระ! เป็นแผลกดทับไหมคะเนี่ย
00:06:05 → 00:06:07 ทั้งกินทั้งนอนทั้งเกลือกกลิ้ง
00:06:07 → 00:06:09 ทั้งแบบว่าทำงาน
00:06:09 → 00:06:12 มันสบาย นุ่ม
00:06:12 → 00:06:16 แต่คุณไม่รู้ตัว คือเขาหนุ่มสาวเขาไม่รู้สึกทันที
00:06:16 → 00:06:18 แต่ด้วยความมันสะสม สะสม สะสม
00:06:18 → 00:06:22 คุณจะเริ่มมีอาการปัญหาของออฟฟิศซินโดรม
00:06:22 → 00:06:24 เมื่อเวลามันค่อยๆผ่านไป
00:06:24 → 00:06:26 และก็เมื่ออายุมากขึ้นเท่าไหร่
00:06:26 → 00:06:31 พอความยืดหยุ่นของระบบกล้ามเนื้อ หรือกระดูกมันน้อยลง
00:06:31 → 00:06:33 มันก็จะเริ่มมีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ
00:06:33 → 00:06:36 เขาถึงบอกว่าบางทีถ้าสมมุติว่าคุณจะนั่งบนเตียงนะ
00:06:36 → 00:06:38 สมมุติคุณจะนอนทำงานบนเตียงนะ
00:06:38 → 00:06:39 คุณเอาหมอนวางนิดนึง
00:06:39 → 00:06:43 หนุนหลัง เขาเรียกว่าเอาลัมบ้าซัพพอร์ต ตรงบริเวณนี้
00:06:43 → 00:06:48 เพื่อจะทำให้ Preposition หรือการวางของเรามันดีขึ้น
00:06:48 → 00:06:51 นะคะแล้วก็ลดการบาดเจ็บที่คอ
00:06:51 → 00:06:54 แล้วคุณก็อาจจะไปซื้อโต๊ะ
00:06:54 → 00:06:58 คุณก็ทำเลียนแบบ นั่งทำงาน อย่างงี้ก็พอได้อยู่
00:06:58 → 00:07:04 ก็อาจจะใช้วิธีปรับระดับขาของเรา ให้มันได้ระนาบอย่างที่เราพูดกันไปเมื่อกี้
00:07:04 → 00:07:06 อันนี้ก็พอช่วยได้
00:07:06 → 00:07:12 แต่อย่างไรก็ตามการที่อยู่ใน Preposition หรือว่าอยู่ในท่าเดียวกันนานๆ
00:07:12 → 00:07:16 และยิ่งถ้าเป็นท่าที่ไม่ถูกต้อง แน่นอน คุณออฟฟิศซินโดรมแน่นอน
00:07:16 → 00:07:20 และคุณก็จะเป็นคนที่มีอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อตลอดเวลา
00:07:20 → 00:07:24 และมันก็จะกลายเป็นการเกร็งกล้ามเนื้อของทั้งคอ ทั้งหลัง ทั้งสะโพก
00:07:24 → 00:07:28 ทั้งไหล่ และก็ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
00:07:28 → 00:07:32 อาจจะทำให้เกิดปวดศีรษะไมเกรน ทำให้ปัญหาเรื่องของอารมณ์
00:07:32 → 00:07:35 เวลาคนปวดอะคุณแนน เออมันอารมณ์ไม่ดี
00:07:35 → 00:07:37 มันไม่สบายตัว
00:07:37 → 00:07:40 เพราะฉะนั้นป้องกันไว้ก่อนอย่างที่คุณหมอบอกนะคะ
00:07:40 → 00:07:43 ปรับท่านั่งให้เหมาะสมและก็เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
00:07:43 → 00:07:46 เพราะว่าช่วงนี้ถ้าเป็นขึ้นมาเมื่อไหร่ไปหาหมอก็ลำบาก
00:07:46 → 00:07:48 จะทำกายภาพก็ลำบาก
00:07:48 → 00:07:53 เพราะฉะนั้นจะต้องจัดสรรท่าในการนั่งหรือว่านอนของคุณให้มันเหมาะ
00:07:53 → 00:07:57 ให้มันไม่เกิดออฟฟิศซินโดรมในช่อง work from home แบบนี้นะคะ
00:07:57 → 00:08:03 นอกจากอาการออฟฟิศซินโดรมแล้ว จริงๆ เรายังมีภัยเงียบจากการ Work from home อีกหลายอย่าง
00:08:03 → 00:08:06 ติดตามช่วงหน้า พักก่อนสักครู่เดี๋ยวกับมาดูกันต่อค่ะ
00:08:15 → 00:08:18 กลับมาคุยกันต่อค่ะในช่วงที่ 2 ของหมอชวนคุย
00:08:18 → 00:08:24 ช่วงนี้สนับสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:08:24 → 00:08:28 กลับมาคุยกันต่อในช่วงนี้นะคะกับภัยเงียบในช่วง work from home
00:08:28 → 00:08:31 ช่วงที่แล้ว เรื่องของกลุ่มออฟฟิศซินโดรม
00:08:32 → 00:08:34 เรารู้แล้วว่าต้องดูแลตัวเองยังไง
00:08:34 → 00:08:36 มาถึงอันต่อไปกันบ้าง
00:08:36 → 00:08:38 มีอะไรอีกบ้างที่เกิดขึ้นในช่วง work from home
00:08:38 → 00:08:41 คุณแนนนอกจากเป็นเรื่องของการนั่งทำงานแล้วเนี่ย
00:08:41 → 00:08:43 อะไรที่เราใช้หนักมากๆ
00:08:43 → 00:08:45 อันนี้ประสบกับตัวเองค่ะคุณหมอ
00:08:45 → 00:08:46 สายตา
00:08:46 → 00:08:51 อาการที่เกิดกับตา ในการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์ เป็นระยะเวลานานๆ
00:08:51 → 00:08:55 มันจะมีความรุนแรงมากขึ้น ตามระยะเวลาใช้งาน
00:08:55 → 00:08:59 สิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าเราเริ่มมีปัญหาแล้วเนี่ย
00:08:59 → 00:09:01 ก็คืออาการทางสายตา
00:09:01 → 00:09:05 อย่างเช่น เมื่อย ปวดเมื่อยตา ปวดเข้าไปในกระบอกตา
00:09:05 → 00:09:08 หรือบางทีเรากระพริบตาแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมเจ็บตา
00:09:08 → 00:09:10 ตาพร่า
00:09:10 → 00:09:16 และก็เวลาเรามองอีกอันนึง แล้วขยับไปมาอีกอันนึง แล้วเรารู้สึกว่าการโฟกัสมันช้า
00:09:16 → 00:09:17 ช้าลงกว่าเดิม
00:09:17 → 00:09:20 แล้วบางทีเวลาที่เราปวดตาเนี่ยคุณแนน
00:09:20 → 00:09:24 ปวดเข้าไปในกระบอกตา มันจะมีความรู้สึกเหมือนเราปวดศีรษะไปด้วย
00:09:24 → 00:09:26 ปวดหัว มึนหัว หรือบางทีเป็นไมเกรนขึ้นมา
00:09:26 → 00:09:31 หรือบางทีก็อาจจะมีอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดต้นคอ
00:09:31 → 00:09:34 ร่วมไปกับอาการปวดตาร่วมไปด้วย
00:09:34 → 00:09:38 ปัญหามาจากเลนส์แก้วตาของเราก็จะ สูญเสียความยืดหยุ่น
00:09:38 → 00:09:42 กล้ามเนื้อรอบๆ ตาก็จะมีอาการเมื่อยล้าได้ง่าย
00:09:42 → 00:09:45 คือความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อตาเราก็หายไป
00:09:45 → 00:09:52 เพราะงั้นจริงๆแล้วเนี่ยเราจะต้องดูแล ปรับพวกการใช้สายตาของเรา
00:09:52 → 00:09:56 กับจอคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกัน การเสียหายที่เกิดขึ้นกับสายตา
00:09:56 → 00:09:59 เขามีกฎเหล็ก ในการดูแลสายตา
00:09:59 → 00:10:06 เพื่อไม่ให้เรามีปัญหาโรคเขาเรียกว่า "โรค Computer Vision Syndrom"
00:10:06 → 00:10:10 ก็คือโรคที่สายตาที่มาจากการใช้คอมพิวเตอร์
00:10:10 → 00:10:13 กฎเหล็กของการดูแลสายตาก็คือ 20 20 20
00:10:13 → 00:10:14 Twenty Twenty Twenty
00:10:14 → 00:10:15 ทำอะไรบ้าง
00:10:15 → 00:10:18 เวลาคุณใช้งานเนี่ย อย่าใช้เกิน 20 นาที
00:10:18 → 00:10:20 20 นาทีแล้วก็พักสายตา
00:10:20 → 00:10:21 อ่า 20 นาทีแล้วก็พักสายตา
00:10:21 → 00:10:23 พักสายตา 20 วินาที
00:10:23 → 00:10:27 มองออกไปในระยะไกลๆ ประมาณ 20 ฟุต
00:10:27 → 00:10:28 อันนี้จำไม่ยาก
00:10:28 → 00:10:32 ใช้คอม มองคอมปุ๊บ 20 นาที ค่อยพัก
00:10:32 → 00:10:37 มองไปไกลๆ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที
00:10:37 → 00:10:41 จริงๆแล้วก็คือแพทย์นี่คือ ใช้แนะนำกันทั่วโลกเลยทีเดียว
00:10:41 → 00:10:43 อีกอันหนึ่งที่หมอใช้เนอะ
00:10:43 → 00:10:46 ก็คือต้องบริหารกล้ามเนื้อ ด้วยการกรอกตา
00:10:46 → 00:10:50 กรอกตาให้ไป กรอกตาไปทางซ้าย กรอกตาขึ้นบน
00:10:50 → 00:10:52 กรอกตาไปทางขวา กรอกตาลงล่าง
00:10:52 → 00:10:57 และถ้าเรารู้ในเวลาที่เรามองจ้องตาอยู่เรื่อย ปัญหามันเกิดจากการที่เราไม่กระพริบตา
00:10:57 → 00:11:01 คือจริงๆเขามีงานวิจัยถ้าสมมุติว่าเราดูโทรทัศน์
00:11:01 → 00:11:04 หน้าจอ ดูจอคอม ทั้งหลายแหล่เนี่ย
00:11:04 → 00:11:06 เราจะลืมกระพริบตา
00:11:06 → 00:11:09 จากที่เราเคยกระพริบตา 15 ครั้งต่อนาที
00:11:09 → 00:11:12 เรากระพริบน้อยกว่า 7 ครั้งต่อนาทีอีกคุณแนน
00:11:12 → 00:11:14 น้อยกว่าครึ่งนึงเลย
00:11:14 → 00:11:21 และก็การกระพริบตามันจะเป็นต่อคุณภาพ หรือสุขภาพดวงตาอย่างมาก
00:11:21 → 00:11:25 เวลาถ้าเรากระพริบตามันมีการบีบตัวของกล้ามเนื้อ
00:11:25 → 00:11:29 และกล้ามเนื้อตรงรอบๆ ตามันมีส่วนสำคัญคือท่อน้ำตา
00:11:29 → 00:11:33 เพราะฉะนั้นเวลาที่เรากระพริบตามันจะมีการบีบกล้ามเนื้อท่อน้ำตาออกมา
00:11:33 → 00:11:36 ให้มันมีน้ำหล่อลื่น
00:11:36 → 00:11:40 มันก็ทำให้ดวงตาของเรามีน้ำหล่อลื่นเวลาที่เราขยับ หรือกระพริบตา
00:11:41 → 00:11:43 มันก็ทำให้ความเสียหายน้อยลง
00:11:43 → 00:11:47 ก็ฝึกเอาไว้จะได้ห่างไกลจาก Computer Vision Syndrome
00:11:47 → 00:11:52 โรคต่อไปที่มากับช่วง Work from home อันนี้หลายๆคนเป็น แนนก็เป็นหนึ่งในนั้น
00:11:52 → 00:11:54 น้ำหนักขึ้นมา 5 โลแล้วค่ะคุณหมอตั้งแต่มีโควิด
00:11:54 → 00:11:57 นั่นก็คือโรคอ้วน
00:11:57 → 00:11:59 ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นกับตัวเองด้วยจริงๆ
00:11:59 → 00:12:02 ก็เราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราอ่ะ
00:12:02 → 00:12:05 ก็เอาของทุกอย่างที่เป็นของกินมาวางไว้บนโต๊ะ
00:12:05 → 00:12:08 อยู่ตรงคอมพิวเตอร์ อยู่ตรงจอคอมพิวเตอร์ของเรา
00:12:08 → 00:12:11 เราก็มี Activity น้อยเพราะว่าเราอยู่แต่ในบ้าน
00:12:12 → 00:12:15 เพราะที่จริงๆ ต้องบอกว่า Timeline การทำงานของเราไม่มี
00:12:15 → 00:12:16 และเราก็ไม่ได้ออกกำลังกาย
00:12:16 → 00:12:17 และเราก็กินทั้งวัน
00:12:17 → 00:12:19 เพราะฉะนั้นก็อ้วนแน่นอน ถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย
00:12:19 → 00:12:21 อันนี้ก็ห้ามยาก เราก็ต้องคุม
00:12:21 → 00:12:24 จัดสรรเวลาการทำงานให้ชัดเจนนะคะ
00:12:24 → 00:12:29 และก็คุมอาหารที่เราทาน และก็แบ่งเวลา Exercise ออกกำลังกาย
00:12:29 → 00:12:30 ต้องดูแลกันหน่อย
00:12:30 → 00:12:31 อันนี้ต้องดูแล
00:12:31 → 00:12:32 โควิดมันทำให้เครียดไหม ถามจริง
00:12:32 → 00:12:33 โอโห ที่สุด
00:12:33 → 00:12:34 เครียดทุกอย่างค่ะคุณหมอ
00:12:34 → 00:12:37 งั้นถามว่าเราจะป้องกันปัญหาพวกนี้ได้ยังไง
00:12:37 → 00:12:41 คือต้องบอกว่าเราก็อาจจะต้องปรับวิธีการคิดของเรา
00:12:41 → 00:12:45 ว่าต่อไปเนี่ยเราคงไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วแหละ
00:12:45 → 00:12:49 เราจะอยู่ยังไง New Normal ให้เรามีสุขภาพที่ดี
00:12:49 → 00:12:52 สุขภาพที่ดีในที่นี้หมอหมายถึง ทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจนะ
00:12:52 → 00:12:55 เราจะจัดสรรเวลาการทำงานของเราไง
00:12:55 → 00:12:57 จัดสรรเวลาพักผ่อนของเรายังไง
00:12:57 → 00:12:59 จัดสรรอาหารที่เรารับประทานยังไง
00:12:59 → 00:13:01 จัดสรรการออกกำลังกาย
00:13:01 → 00:13:04 คือทุกอย่างให้มันชัดเจน
00:13:04 → 00:13:08 และก็ให้สุขภาพร่างกายของเรา ได้ทำงานเป็นปกตินะคุณแนน
00:13:08 → 00:13:11 คือการกระทำอย่างนี้มันต้องเริ่มจากการยอมรับก่อนว่า
00:13:11 → 00:13:16 สิ่งที่เราจะต้องเผชิญต่อไปในอนาคตเนี่ย ของการใช้ชีวิตเนี่ย
00:13:16 → 00:13:19 มันเป็นเรื่อง New Normal และ มันไม่เหมือนเดิม
00:13:19 → 00:13:22 เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตัว
00:13:22 → 00:13:28 พอเราปรับตัวได้ปุ๊บ เราก็จะลดความเครียด และก็ความวิตกกังวลลง
00:13:28 → 00:13:32 และก็ต้องเซ็ตเวลาการใช้ชีวิตของเรา
00:13:32 → 00:13:34 ถึงเวลานอนต้องนอน
00:13:34 → 00:13:37 เพราะว่าเราเครียด เราวิตกกังวล เรานอนไม่หลับ
00:13:37 → 00:13:40 ปัญหาถัดมาพอเราไม่นอน เกิดอะไรขึ้น
00:13:40 → 00:13:43 ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซม ร่างกายไม่ได้พักผ่อนมากเพียงพอ
00:13:43 → 00:13:47 ภูมิต้านทานลดลง เกิดภาวะอีกอันนึงตามมา
00:13:47 → 00:13:49 เขาเรียกว่าภาวะ Burnout Syndrom
00:13:49 → 00:13:52 จริงๆ แล้ว Burnout เนี่ยคุณแนน
00:13:52 → 00:13:55 มันเกิดในคนที่ทำงานเยอะๆ มากๆ
00:13:55 → 00:13:59 แต่ว่าอันนี้ Burnout มันเกิดจากที่เราทำงานมากเหมือนกัน
00:13:59 → 00:14:03 แต่ว่าทำงานมากในลักษณะที่มันไม่ได้มีการพักผ่อน
00:14:03 → 00:14:07 เพราะว่ามันมาจากการเครียดสะสม
00:14:07 → 00:14:12 เพราะงั้นการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลา การพักผ่อนที่ไม่เป็นเวล่ำเวลา
00:14:12 → 00:14:15 การไม่ได้ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ไม่ดี
00:14:15 → 00:14:17 อันนี้มันปรับเปลี่ยนหมด ปรับเปลี่ยนสารสื่อประสาทในสมอง
00:14:17 → 00:14:19 ปรับเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกาย
00:14:19 → 00:14:21 การทำงานของฮอร์โมนที่ผิดปกติไป
00:14:21 → 00:14:24 การทำงานของสารสื่อประสาทที่มันผิดเพี้ยนไป
00:14:24 → 00:14:29 มันก็จะส่งผลทำให้เราเนี่ย ร่างกายเราทำงานผิดปกติ
00:14:29 → 00:14:32 การควบคุมการทำงานของร่างกายหรือเมตาบอลิซึมเปลี่ยน
00:14:32 → 00:14:37 มันก็ส่งผลทำให้เกิดภาวะ Burnout ได้ง่าย
00:14:37 → 00:14:40 ต่อมหมวกไตต้องทำงานหนักขึ้น แทนที่จะนอน
00:14:40 → 00:14:43 แทนที่จะได้พัก แทนที่จะได้ซ่อมแซมร่างกาย
00:14:43 → 00:14:46 ร่างกายก็กลับมาทำงานตลอดเวลา
00:14:46 → 00:14:48 ต่อมหมวกไตก็ทำงานแบบรับไปเต็มๆเลย
00:14:48 → 00:14:50 งั้นภาวะ Burnout แน่นอนอันนี้
00:14:50 → 00:14:54 วันนี้เยอะมากเลย และแนนเชื่อว่าทุกคนถ้าเกิดว่าฟังและคิดตามไปด้วยเนี้ย
00:14:54 → 00:14:56 เราก็เข้าข่ายแทบจะทุกอาการเลยนะคะ
00:14:56 → 00:15:02 เพราะฉะนั้นอย่าทำให้สถานการณ์นี้ มันมาทำลายทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเรา
00:15:02 → 00:15:06 นำวิธีที่คุณหมอแนะนำไปปรับใช้ เราจะได้ Work from home อย่างมีประสิทธิภาพ
00:15:06 → 00:15:08 และก็ไม่ทำลายสุขภาพเราด้วยนะคะ
00:15:08 → 00:15:10 วันนี้หมดเวลาแล้ว
00:15:10 → 00:15:13 ครั้งหน้าคุณหมอจะชวนพวกเรามาคุยเรื่องสนุกๆ เรื่องไหน
00:15:13 → 00:15:15 ก็กลับมาติดตามกันได้ที่นี่เวลาเดิมนะคะ
00:15:15 → 00:15:17 คุณหมอและแนนลาไปก่อน
00:15:17 → 00:15:19 สวัสดีค่ะ