ควรกินกาแฟแก้วสุดท้ายก่อนนอนกี่โมงเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน

กินกาแฟตอนไหนร่างกายตื่นตัวที่สุด | Top to Toe EP.4

จากช่อง : THE STANDARD PODCAST


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 ปิด Google ไปไหนขาดกาแฟไม่ได้ครับทุกๆ

00:00:0300:00:06 เช้านี้ตื่นมาป้าทานกาแฟไม่ตกถึงท้องจะ

00:00:0600:00:08 รู้สึกว่าร่างกายยังไม่พร้อมใช้งานสมอง

00:00:0800:00:11 ยังไม่ฟังก์ชันเลยแล้วคุณเป็นคนนึงนะครับ

00:00:1100:00:14 ที่ต้องขึ้นกาแฟในการเริ่มต้นวันใหม่คุณ

00:00:1400:00:16 เคยสงสัยกันไหมครับว่านี่คุณคุณจะกินกาแฟ

00:00:1600:00:20 แก้วแรกตอนกี่โมงดีที่จะดีที่สุดกับร่าง

00:00:2000:00:24 กายที่จะช่วยพูด AG ให้เราตื่นตัวแล้วมา

00:00:2400:00:27 คุณกาแฟแก้วสุดท้ายตอนไหนเพื่อที่จะทำให้

00:00:2700:00:30 ตอนกลางคืนเวลาที่เราจะนอนเนี่ยเรายังนอน

00:00:3000:00:33 หลับสบายไม่โดนรบกวนจัดฤทธิ์ของกาแฟครับ

00:00:3300:00:36 มาครับวันนี้ผมเข้าต้นสมบูรณ์จะมาเล่าให้

00:00:3600:00:40 คุณฟังเพราะว่าวิทยาศาสตร์มีคำตอบครับทับ

00:00:4000:00:44 to พอดแคสต์สุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์ไข

00:00:4400:00:48 ปัญหาตั้งแต่หัวจดเท้า

00:00:4800:00:50 ก่อนที่เราจะไปดูคำตอบกันนะครับว่าเราควร

00:00:5000:00:53 จะกินกาแฟแก้วแรกตอนไหนเราต้องมาทำความ

00:00:5300:00:55 เข้าใจก่อนว่าสารเคมีตัวนึงที่มีอยู่ใน

00:00:5500:00:59 กาแฟก็คือคาเฟอีนเนี่ยมันมีการเดินทางยัง

00:00:5900:01:02 ไงตั้งแต่เต็มที่มันอยู่ในเม็ดกาแฟจนมัน

00:01:0200:01:04 เข้ามาอยู่ในร่างกายของเราและร่างกายของ

00:01:0400:01:07 raid กำจัดมันออกไปครับเริ่มต้นนะครับใน

00:01:0700:01:10 เหมือนกาแฟเนี่ยจะมีเจ้าคาเฟอีนอยู่นะ

00:01:1000:01:14 ครับและการชงกาแฟคือการที่ใช้น้ำร้อนไป

00:01:1400:01:17 เตะเอาตัวคาเฟอีนเนี่ยให้มันละลายอยู่ใน

00:01:1700:01:20 น้ำและเราสามารถจะดื่มเข้าไปครับโอเคเสมอ

00:01:2000:01:22 ว่าเราชงกาแฟแล้วนะครับเติมน้ำร้อนไม่ว่า

00:01:2200:01:25 จะด้วยสกัดร้อนหรือสกัดเย็นเราดื่มเข้าไป

00:01:2500:01:28 และคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟด้วยครับจากค่อย

00:01:2800:01:31 ไหลเข้าไปในร่างกายของเรานะครับจนมันวิ่ง

00:01:3100:01:34 ไปถึงกระเพาะอาหารครับเป็นจุดเริ่มต้นเลย

00:01:3400:01:37 ที่คาเฟอีนเนี่ยจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแส

00:01:3700:01:40 เลือดของเราครับซึ่งโดยปกติแล้วนะครับเรา

00:01:4000:01:43 ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีในการพลิก Cafe

00:01:4300:01:46 กินจะเริ่มดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดครับ

00:01:4600:01:49 แต่ว่าเวลานี้นะครับจะแตกต่างกันออกไปได้

00:01:4900:01:51 ขึ้นอยู่กับว่าในกระเพาะอาหารของเราเนี่ย

00:01:5100:01:53 มีอาหารอยู่นั้นหรือเปล่าถ้าเกิดว่าท้อง

00:01:5300:01:55 เราว่างนะครับเข้าไปกินจะถูกดูดซึมได้

00:01:5500:01:58 ค่อนข้างเร็วกว่าตอนที่ท้องของเรามีอาหาร

00:01:5800:02:01 โดยเฉพาะอาหารพบขอเบอร์เช่นผักหรือว่า

00:02:0100:02:05 ผลไม้นะครับจะถูกดูดซึมได้ช้ากว่าสมบูรณ์

00:02:0500:02:07 ว่าโอเคล่ะเข้าฟิตเนสถูกดูดซึมเข้าไปใน

00:02:0700:02:10 เลือดของเรานะครับเจ้าคาเฟอีนนี้นะครับก็

00:02:1000:02:13 จะถูกลำเลียงไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย

00:02:1300:02:16 ด้วยการสูบฉีดของหัวใจรับหัวใจจับตามด้วย

00:02:1600:02:19 ใต้แล้วก็จะวิ่งไปทั่วร่างกายเลยโดยปกติ

00:02:1900:02:21 แล้วนะครับร่างกายของเรานี่เราใช้เวลา

00:02:2100:02:25 ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก็จะดูดซึม

00:02:2500:02:28 เข้า Skin ไปอยู่ในกระแสเลือดได้จนหมดนะ

00:02:2800:02:30 ครับที่นี่เพราะคาเฟอีนเนี่ยมันอยู่ใน

00:02:3000:02:33 เลือดของเราและมันก็จะโดนส่งไปยังส่วน

00:02:3300:02:36 ต่างๆของร่างกายด้วยการปั้มของหัวใจนะ

00:02:3600:02:39 ครับที่สูบฉีดเลือดวิ่งไปทั่วเลยและเนี่ย

00:02:3900:02:42 ครับคือจุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนที่จะ

00:02:4200:02:44 เกิดขึ้นกับอัยวะต่างๆของเราครับที่นี่

00:02:4400:02:47 เขาฟรีนะครับก็จะวิ่งไปยังเอายุวต่างๆนะ

00:02:4700:02:50 ครับเอาไว้ว่าแรกจะพูดถึงก็คือสมองครับ

00:02:5000:02:53 ที่สมองนี่ไงครับที่เจ้าคาเฟอีนนะครับจะ

00:02:5300:02:56 ทำให้เราไม่ง่วงครับที่ต้องตาต้องใจกัน

00:02:5600:02:59 ก่อนว่าปกติแล้วทำไมเราถึงรู้สึกง่วงจัง

00:02:5900:03:02 เลยเวลาก็ตื่นขึ้นมานี้นะครับสมองของเรา

00:03:0200:03:06 เนี่ยจะต้องใช้พลังงานนะครับเวลาที่สมอง

00:03:0600:03:10 คิดเวลาสั่งให้แขเราขยับให้เราพูดให้เรา

00:03:1000:03:13 เดินให้เราวิ่งสมองทำงานตลอดเวลาโดยปกติ

00:03:1300:03:17 แล้วนะครับในร่างกายของเราอ่ะจะมีสิ่งที่

00:03:1700:03:21 เรียกว่า ATP ซึ่งเป็นแหล่งพลังงาน ATP

00:03:2100:03:24 ย่อมาจากภายในสิ้นใช้ฟอสเฟต a ที่พี่ไป

00:03:2400:03:26 เหมือนกับน้ำมันที่ใช้ขับเคลื่อนรถยนต์นะ

00:03:2600:03:28 ครับเป็นน้ำมันให้กับสมองแล้วก็อวัยวะ

00:03:2800:03:31 ต่างๆของร่างกายเมื่อต้องใช้พลังงานนะ

00:03:3100:03:35 ครับที่นี้เวลาสมองต้องการเอา ATP หรือ

00:03:3500:03:38 พลังงานมาใช้นะครับมันก็จะมีการทำให้โอเค

00:03:3800:03:41 ทีพีเนี่ยแตกตัวสิ่งที่ได้ครับมันจะได้

00:03:4100:03:45 สารเคมีตัวนึงที่ชื่อว่าอ่าอะดีโนซีนครับ

00:03:4500:03:48 ซึ่งผมขอตั้งฉายาให้มันว่าสารง่วงแล้วกัน

00:03:4800:03:52 เพราะฉะนั้นยิ่งสมองเราทำงานมากขึ้นมาก

00:03:5200:03:55 ขึ้นระหว่างวันนี้นะครับในสมองเราก็จะมี

00:03:5500:03:57 เจ้าหน้าที่ nosy หรือว่าสารง่วงเนี่ย

00:03:5700:04:01 เพิ่มมากขึ้นมากขึ้นไปเรื่อยหมอพินิจไม่

00:04:0100:04:04 เซลล์สมองนี่นะครับบริเวณผิวของเซลล์สมอง

00:04:0400:04:08 เนี่ยมันก็จะมีตู้รับจดหมายครับที่รูของ

00:04:0800:04:11 มันให้ครับตรงช่องเนี่ยมีขนาดและก็รูป

00:04:1100:04:13 ร่างเนี่ยเหมือนกับเจ้าอะดิโนซีเลยครับ

00:04:1300:04:16 ซึ่งเจ้าอะดิโนซีเนี่ยสามารถที่จะวิ่ง

00:04:1600:04:20 เข้ามาเกาะแล้วก็สามารถที่จะเสกคาถาโอมจง

00:04:2000:04:24 จงง่วงจงง่วงจงง่วงเมื่อไหร่ก็ตามที่ใน

00:04:2400:04:27 สมองแล้วนะมีอะดีโนซีนเยอะนะครับร่างกาย

00:04:2700:04:29 ของเราเนี่ยก็จะรู้สึกง่วงนั่นเองครับที่

00:04:2900:04:32 มีความสนุกมันมีอยู่ที่ว่าเจ้าคาเฟอีนี่

00:04:3200:04:36 นะครับมันมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้า

00:04:3600:04:40 อะดีโนซีนหรือว่าสารง่วงนั่นเองครับทำให้

00:04:4000:04:43 เข้าฟรีนี่นะครับสามารถที่จะแย่งชิงกับ

00:04:4300:04:47 อาดิโดซีในการไปจับกับไอ้โจตู้จดหมายที่

00:04:4700:04:51 อยู่บนผิวของเซลล์ประสาททำให้ undersea

00:04:5100:04:54 นะครับไม่สามารถที่จะมาเกาะบนไอ้ตู้

00:04:5400:04:57 จดหมายนี้ได้แล้วก็เสกคาถาโอมจงง่วงจง

00:04:5700:05:00 ง่วงทำให้ร่างกายของเราเนี่ยเออมันม่วง

00:05:0000:05:03 นั่นเองครับเพราะฉะนั้นคาเฟอินทำให้เรา

00:05:0300:05:07 ไม่ง่วงได้ยังไงคาเฟอีนไฟบล็อกไม่ให้อะดิ

00:05:0700:05:11 โนซีนหรือว่าสันม่วงสามารถที่จะมาเกาะกับ

00:05:1100:05:14 ตู้จดหมายที่อยู่บนผิวของเซลล์ประสาทแล้ว

00:05:1400:05:18 ก็สั่งให้เซลล์ประสาทเนี้ยทำงานช้าลงนั่น

00:05:1800:05:20 เองครับเพราะฉะนั้นร่างกายของเราก็เลย

00:05:2000:05:23 ตื่นตัวเพราะว่าคาเฟอีนเนี่ยไปแย่งเกาะ

00:05:2300:05:26 ตู้จดหมายแทน are to see หรือว่าสาร

00:05:2600:05:29 ง่วงนั่นเองครับที่นี่ไอ้โจ๊กตู้จดหมาย

00:05:2900:05:33 ที่มีรูจำเพาะกับอะดิ C หรือว่าสารง่วงนะ

00:05:3300:05:36 ครับไม่ได้เจอแค่ในสมองนะแต่มันเจอใน

00:05:3600:05:39 อวัยวะอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือว่า

00:05:3900:05:42 ไต่ก็ตามนะครับที่นี่เช่นกันเหมือนให้

00:05:4200:05:45 สมองเลยเมื่อไหร่ก็ตามที่อะโดรซีนมาเกาะ

00:05:4500:05:48 กับตู้จดหมายปุ๊บมันจะสั่งให้เซลล์เซลล์

00:05:4800:05:52 นะเนี่ยทำงานช้าลงหรือว่าให้พักผ่อนนะ

00:05:5200:05:56 ครับเพราะฉะนั้นเวลาที่อดิโอซีนไปเกาะ

00:05:5600:05:59 บริเวณตู้จดหมายที่อยู่ตรงเซลล์หัวใจมัน

00:05:5900:06:03 จะขอให้หัวใจเนี่ยทำงานช้าลงหรือว่าสูบ

00:06:0300:06:08 ฉีดเลือดช้าลงช้าลงช้าลงนั่นเองจึงเป็น

00:06:0800:06:10 เหตุผลว่าทำไมตอนกลางคืนนี้จะนอนเนี่ยหัว

00:06:1000:06:14 ใจเราจะเต้นช้าลงช้าลงตอนที่เรานอนหลับนะ

00:06:1400:06:18 ครับที่นี้พอคาเฟอีนเนี่ยไปแย่งเจ้าอะดิ C

00:06:1800:06:22 ในการเกาะตู้จดหมายในหัวใจจะเกิดอะไรขึ้น

00:06:2200:06:25 สัญญาณที่จะบอกว่าให้เจ้าเซลล์หัวใจมันทำ

00:06:2500:06:29 งานช้าลงเนี่ยมันก็จะโดนบล็อกไปกับการมัน

00:06:2900:06:33 จะทำให้หัวใจเนี่ยทำงานมากขึ้นเต้นแรง

00:06:3300:06:36 ขึ้นเลือดสูบฉีดแดงขึ้นจึงเป็นที่มาว่า

00:06:3600:06:39 ทำไมตอนที่เรากินกาแฟเราจะรู้สึกว่าโอโห

00:06:3900:06:42 หัวใจเราเต้นแรงจังเลยนั่นก็เป็นเพราะแบบ

00:06:4200:06:45 นี้ครับเช่นกันในตายนะครับเมื่อไหร่ก็ตาม

00:06:4500:06:49 ที่อยู senior ไปเกาะกับตู้จดหมายบริเวณ

00:06:4900:06:52 เซลล์ตายนะครับก็จะทำให้ตายเนี่ยทำงาน

00:06:5200:06:56 น้อยลงน้อยลงผลิตฉี่น้อยลงทำให้ตอนที่เรา

00:06:5600:06:59 นอนตอนกลางคืนเราไม่ปวดฉี่นั่นเองแต่

00:06:5900:07:03 เมื่อร้านกาแฟเข้าไปป๊าบคาเฟอีนดันไปแย่ง

00:07:0300:07:06 จับเจ้าตู้จดหมายแทนอะดิโนซีนทำให้คำสั่ง

00:07:0600:07:11 เนี้ยหายไปไปก็จะทำงานหนักขึ้นหนักขึ้น

00:07:1100:07:14 สร้างฉี่มากขึ้นมากขึ้นทำให้เรารู้สึกปวด

00:07:1400:07:16 ฉี่แล้วก็อยากเข้าห้องน้ำบ่อยมาคืนตอนที่

00:07:1600:07:20 เรากินกาแฟนั่นเองครับ a หลายคนอาจจะ

00:07:2000:07:22 สงสัยว่าอย่างนี้เจ้าคาเฟอีนเนี่ยมันจะ

00:07:2200:07:25 เกาะอยู่กับตู้จดหมายเนี่ยตลอดไปตลอดกาล

00:07:2500:07:28 เลยหรือเปล่าคำตอบคือไม่ใช่นะครับมันจะ

00:07:2800:07:31 เกาะอยู่แบบนั้นเนี่ยเป็นระยะเวลาหนึ่ง

00:07:3100:07:34 โดยทั่วไปประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังจากนั้น

00:07:3400:07:37 เนี่ยไอ้เจ้าคาเฟอีนเดี๋ยวมันก็จะหลุดออก

00:07:3700:07:40 จากตู้จดหมายแล้วก็ล่องลอยไปตามกระแส

00:07:4000:07:43 เลือดเหมือนเดิมจนมนูวิ่งเข้าไปที่ตับของ

00:07:4300:07:45 เรานะครับปรับของเราเนี่ยก็จะทำหน้าที่ใน

00:07:4500:07:49 การแตกตัวคาเฟอีนให้เป็นโมเลกุลเล็กๆแล้ว

00:07:4900:07:53 ก็ส่งไปที่ไตและไปในก็จะขับมันออกไปใน

00:07:5300:07:56 น้ำปัสสาวะแล้วเราก็จะฉี่เอาค่าฟิล์มออก

00:07:5600:07:59 จากร่างกายของเราไปครับทั้งหมดเนี้ยคือ

00:07:5900:08:02 การเดินทางอาของคาเฟอีนตั้งแต่ในเมล็ด

00:08:0200:08:06 กาแฟจนเข้ามาสู่ในร่างกายจนถูกขับออกไป

00:08:0600:08:08 จากร่างกายของเราครับตอนนี้เริ่มเห็ดภาพ

00:08:0800:08:10 แล้วนะครับว่าเจ้าเข้าไป E เนี่ยมันเข้า

00:08:1000:08:13 ไปสร้างความปั่นป่วนในร่างกายได้ยังไง

00:08:1300:08:16 สรุปสั้นๆคือมันเข้าไป Block การทำงานของ

00:08:1600:08:20 อะดิโนซีนหรือว่าสารวงนั่นเองที่นี้เรามา

00:08:2000:08:23 หาคำตอบกันดีกว่าว่ากาแฟแก้วแรกเราควรจะ

00:08:2300:08:27 กินตอนไหนอ่ะหลายคนอาจจะเริ่มเห้ยได้คำ

00:08:2700:08:31 ใบ้แล้วอ่ะอ๋อเราควรจะกินตอนที่ร่างกาย

00:08:3100:08:33 ของเราเนี่ยมีอดีตโอซีนเยอะหรือเปล่า

00:08:3400:08:36 Coffee เนี่ยมันจะได้เป็นบล็อกการทำงาน

00:08:3600:08:39 ของอนินทรีย์หรือว่าต้องศาลว่าไงคำตอบคือ

00:08:3900:08:43 ถูกต้องเลยครับคุณเข้าใจถูกแล้วแต่มันไม่

00:08:4300:08:46 ใช่อย่างนั้นสิครับเพราะว่าตอนที่เราตื่น

00:08:4600:08:49 นอนใหม่ๆเนี่ยนะครับปริมาณอะดีโนซีนใน

00:08:4900:08:51 ร่างกายหรือว่าสารง่วงเนี่ยมันมีอยู่น้อย

00:08:5100:08:55 มากๆครับต้องย้อนกลับไปตอนกลางคืนก่อนที่

00:08:5500:08:57 เราจะนอนเอ้อคืนเกาะเนี่ยเวลาที่ร่างกาย

00:08:5700:09:00 เราใช้งานหนักรู้สึกง่วงนะตอนนั้นและแน่

00:09:0000:09:02 นอนปริมาณอะดิโดซีหรือสารงวดว่ามันมีเยอะ

00:09:0200:09:05 มากแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรานอนหลับไปนะ

00:09:0500:09:09 ครับร่างกายเนี่ยจะทยอยกำจัดอะดิโนซีนโดย

00:09:0900:09:12 การเอาอะดิ senior ไปใช้ในการผลิต ATP

00:09:1200:09:16 หรือว่าแหล่งพลังงานสะสมไว้มากขึ้นมาก

00:09:1600:09:18 ขึ้นจนตอนเราตื่นตอนเช้าร่างกายเราจะเต็ม

00:09:1800:09:22 ไปด้วย ATP หรือว่าพลังงานและมีอดุลย์ซิม

00:09:2200:09:25 น้อยที่สุดในตอนเช้านะครับเพราะฉะนั้นถ้า

00:09:2500:09:28 ตื่นมาปั๊บแล้วก็รีบชงกาแฟแล้วก็กินปุ๊บ

00:09:2800:09:31 อาจจะไม่เกิดประโยชน์เท่าไหร่ครับเพราะ

00:09:3100:09:33 ว่าเรามีปริมาณ odyssea ในร่างกายอยู่

00:09:3300:09:36 น้อยอยู่แล้วนะครับเพราะว่ายังไม่พอครับ

00:09:3600:09:38 ในตอนเช้าตื่นใหม่ๆร่างกายเนี่ยยังมีการ

00:09:3800:09:42 หลั่งฮอร์โมนอีกหนึ่งตัวที่มีชื่อว่าข้อ

00:09:4200:09:45 ที่โซ่เป็นฮอร์โมนที่มีชื่อเล่นหรือมี

00:09:4500:09:48 ฉายาว่าเป็นเฟซ Hormone หรือว่าข้อมูล

00:09:4800:09:50 แห่งความเครียดหรือว่า I love Hormones

00:09:5000:09:52 ฮอร์โมนแห่งการตื่นตัวนะครับเมื่อไหร่ก็

00:09:5200:09:55 ตามที่เรามีเจ้าข้อที่เศร้ามากเนี่ยร่าง

00:09:5500:09:58 กายของเราเนี่ยจะรู้สึกตื่นตัวพร้อมที่จะ

00:09:5800:10:01 ออกไปต่อสู้กับชีวิตคุยกับเจ้านายใจร้าย

00:10:0100:10:05 ขอออกไปสู้กับการจราจรที่ติดขาดนะครับนี้

00:10:0500:10:09 ตอนเขาตื่นมาข้อที่เศร้าเนี่ยจะสูงขึ้น

00:10:0900:10:12 มากๆนะครับถ้าเรารีบกินกาแฟเข้าไปเนี่ย

00:10:1200:10:15 มันจะยิ่งไปทำให้ร่างกันเลอะเข้าไปอีก

00:10:1500:10:18 เสริมการทำงานของข้อที่ซอกเข้าไปอีก Alert

00:10:1800:10:20 มากไปก็ไม่ใช่เรื่องดีครับเพราะแทนที่เรา

00:10:2000:10:23 จะรู้สึกตื่นตัวมีพลังเราจะกลับรู้สึก

00:10:2300:10:28 วิตกกังวลรู้สึกเครียดรู้สึก

00:10:2800:10:30 กระสับกระส่าย

00:10:3000:10:33 นั่นหมายความว่าเรายังไม่ควรรีบกินกาแฟ

00:10:3300:10:36 หลังจากที่เราตื่นนอนครับอย่างนี้เราก็จะ

00:10:3600:10:40 กินกาแฟตอนไหนอ่ะอ่ะอ่าคำตอบก็คือว่าเรา

00:10:4000:10:44 ควรจะกินกาแฟตอนที่ระดับคอสีส้มของเรา

00:10:4400:10:47 เนี่ยมันต่ำลงนั่นเองแล้วข้อที่ส้อมมันจะ

00:10:4700:10:51 ต่ำลงตอนไหนล่ะมีการค้นพบครับว่าโดยปกติ

00:10:5100:10:55 แล้วนะครับถ้าคนเราตื่นนอนตอน 7:00 นข้อ

00:10:5500:10:58 ติโซเนี่ยจะสูงที่สุด 3 ช่วงเวลาก็คือ

00:10:5800:11:02 ช่วงตอนประมาณแต่ 9:00 นอยู่ประมาณ 2

00:11:0200:11:04 ชั่วโมงหลังจากที่เราตื่นนอนจากนั้นมันจะ

00:11:0400:11:09 ลดลงแล้วก็จะสูงขึ้นอีกทีนึงตอนประมาณ

00:11:0900:11:13 เที่ยงตรงแล้วก็จะค่อยลดลงและจะไปสู่วิธี

00:11:1300:11:16 หนึ่งต่อประมาณ 5 โมงเย็นนั่นอาจจะเป็นผล

00:11:1600:11:18 ว่าทำไมเราถึงรู้สึกตื่นตัวหลังจากที่เรา

00:11:1800:11:21 ตื่นนอนไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงหรือตอนพัก

00:11:2100:11:23 กลางวันหรือตอนที่เราเลิกงานนั่นเองครับ

00:11:2300:11:27 พอเรารู้แบบนี้ปากนะครับว่า Call เช่าสูง

00:11:2700:11:31 ตอน 9:00 นกับเที่ยงตรงเราก็ควรกินกาแฟใน

00:11:3100:11:34 ช่วงรอยต่อนะครับในช่วงที่ระดับคอโชคมัน

00:11:3400:11:37 จะตกลงไปเป็นลูกนั่นเองคือประมาณช่วง

00:11:3700:11:40 10:00 นถึง 11:30 นนั่นเองเป็นเวลาที่

00:11:4000:11:43 เหมาะสมที่สุดในการกินกาแฟแก้วแรกครับตอน

00:11:4300:11:45 ยกหรือว่าเราควรจะกินกาแฟแก้วแรกประมาณ

00:11:4500:11:49 ช่วง 10:00 นถึง 11:30 นนะครับช่วงที่

00:11:4900:11:52 ระดับข้อมูลคอนโซลเนี่ยมันต่ำลงทีละคนอาจ

00:11:5200:11:55 จะมีคำถามว่าเอ๋แล้วถ้าเกิดเราอยากจะกิน

00:11:5500:11:58 กาแฟตอนบาทด้วยล่ะเราควรจะกินตอนไหนใน

00:11:5800:12:00 เมื่อเรารู้แล้วว่าข้อถ้าโตเดี๋ยวมันจะ

00:12:0000:12:05 สูงตอนเที่ยงตรงและก็ 17:00 นนะแล้วก็กิน

00:12:0500:12:08 ในช่วงระหว่างนี้คือตั้งแต่บ่ายโมงถึง

00:12:0800:12:12 บ่าย 4 โมงได้ไหมคำตอบก็คือว่ากินได้นะ

00:12:1200:12:16 ครับแต่คุณอาจจะมีปัญหานอนไม่หลับก็ได้

00:12:1600:12:19 ตอนกลางคืนเพราะเหตุผลคือว่าคาเฟอีนเนี่ย

00:12:1900:12:21 จะอยู่ในร่างกายของประมาณ 10 ชั่วโมงก่อน

00:12:2100:12:24 ที่เราจะฉี่กำจัดมันออกไปนะครับเพราะ

00:12:2400:12:27 ฉะนั้นเราจะรู้ได้ไงว่าเราควรจะกินกาแฟ

00:12:2700:12:30 แก้วสุดท้ายตอนไหนคิดง่ายครับเราดูก่อน

00:12:3000:12:34 ว่าเราตั้งใจจะนอนตอนกี่โมงแล้วก็ลบมา 10

00:12:3400:12:36 ชั่วโมงถ้าเราอยากจะนอนตอน 4 ทุ่มคือ

00:12:3600:12:41 22:00 น - 10 ก็คือ 12 นั่นหมายความว่า

00:12:4100:12:43 เราควรจะกินกาแฟแก้วสุดท้ายประมาณเที่ยง

00:12:4300:12:46 ตรงเพื่อที่จะทำให้ไม่กระทบกับการนอนตอน

00:12:4600:12:48 กลางคืนนั่นเองแต่หลายคนก็บอกว่าเฮ้ยไม่

00:12:4800:12:52 ได้ตอนบ่ายหลังจากกินข้าวปั๊บม่วงอีกแล้ว

00:12:5200:12:54 อ่ะร่างกายขาดกาแฟไม่ได้ต้านทานไม่ไหว

00:12:5400:12:58 จริงๆต้องการเอาคาเฟอีนเข้าไปแล้วเราจะทำ

00:12:5800:13:01 ยังไงผมก็และก็คิดดูครับมันก็พอมีวิธี

00:13:0100:13:03 อยู่นะครับถึงแม้ว่าเราจะต้านทานความ

00:13:0300:13:07 ต้องการคาเฟอีนของเราได้แต่เราสามารถที่

00:13:0700:13:11 จะบริหารปริมาณคาเฟอีนที่จะเข้าสู่ร่าง

00:13:1100:13:14 กายตอนช่วงบ่ายได้ครับที่นี่ในชีวิตจริง

00:13:1400:13:17 ของเราเนี่ยเราจะบริหารปริมาณคาเฟอีนได้

00:13:1700:13:20 ยังไงบ้างไม่ยากเลยครับปริมาณคาเฟอีนใน

00:13:2000:13:23 กาแฟชอบกินเข้าไปนะครับขึ้นอยู่กับปัจจัย

00:13:2300:13:25 ทั้งหมด 3 อย่างนะครับอย่างที่หนึ่งคือ

00:13:2500:13:29 ชนิดของกาแฟอย่างที่สองคือระดับการคั่ว

00:13:2900:13:32 ของกาแฟและสุดท้ายคือวิธีการชงกาแฟแล้วนะ

00:13:3200:13:35 ครับเรามาเริ่มกันตั้งแต่การเลือกชนิดของ

00:13:3500:13:38 กาแฟกันดีกว่าครับโดยปกติแล้วนะครับเมล็ด

00:13:3800:13:40 กาแฟเนี่ยจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์หลักๆนะ

00:13:4000:13:44 ครับนั่นก็คืออาราบิก้าและก็โรบัสต้าครับ

00:13:4400:13:46 อะไรบิก้านะครับเป็นสายพันธุ์ที่มักจะ

00:13:4600:13:51 ปลูกตามที่สูงมีกลิ่นที่หอมอบอวลรสชาติ

00:13:5100:13:55 ที่ละมุนนะครับและก็มีปริมาณคาเฟอีนที่

00:13:5500:13:57 ไม่เยอะมากเกินไปครับต้องกันข้างครับโร

00:13:5700:14:00 บาร์ซ่านะครับจะเป็นเมล็ดกาแฟที่มีความมี

00:14:0000:14:03 คนนุ่มลึกมากกว่าจะปลูกทางบริเวณที่ราบ

00:14:0300:14:07 ลุ่มนะครับมีความโขงที่มากกว่าอาราบิก้า

00:14:0700:14:11 และก็ยังมีปริมาณคาเฟอีนที่มากกว่าอาราบิ

00:14:1100:14:14 ก้าถึง 3 เท่าเลยนะครับเพราะฉะนั้นถ้า

00:14:1400:14:16 เกิดว่าคุณอยากได้ปริมาณคาเฟอีนเยอะๆใน

00:14:1600:14:20 ตอนเช้าจัดโรบัสต้าเข้าไปจุกเลยครับคุณจะ

00:14:2000:14:24 ได้คาเฟอินเต็มๆแต่ถ้าตอนบ่ายคุณยังอยาก

00:14:2400:14:26 ได้คาเฟอีนอยู่แต่อยากได้ในปริมาณที่ไม่

00:14:2600:14:29 เยอะมากจนเกินไปอาจจะลองเลือกกินกาแฟ

00:14:2900:14:32 อาราบิก้าแถมตัวพลาซ่าก็ได้ครับปัจจัยที่

00:14:3200:14:36 2 นะครับคือระดับการคั่วของกาแฟครับและ

00:14:3600:14:39 หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าเมล็ดกาแฟเนี่ย

00:14:3900:14:42 สามารถที่จะคั่วได้ 3 ระดับนั่นก็คือขั้ว

00:14:4200:14:46 อ่อนคั่วกลางและก็คั่วเค็มซึ่งระดับการ

00:14:4600:14:49 คั่วของกาแฟที่แตกต่างกันนะครับจะทำให้มี

00:14:4900:14:53 รสชาติและก็มีกลิ่นที่แตกต่างกันออกไปแต่

00:14:5300:14:56 ละคนเนี่ยก็คงมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน

00:14:5600:15:00 ขึ้นกับเทสแล้วก็รสนิยมนะครับที่นี่

00:15:0000:15:02 มีคำถามว่า a ระดับการคั่วที่ไม่เหมือน

00:15:0200:15:06 กันเนี่ยส่งผลให้ปริมาณคาเฟอีนที่อยู่ใน

00:15:0600:15:11 เมล็ดกาแฟเนี่ยแตกต่างกันไหมคำตอบคือการ

00:15:1100:15:14 คั่วที่แตกต่างกันนะครับไม่ส่งผลต่อ

00:15:1400:15:15 ปริมาณ

00:15:1500:15:19 คาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟแต่ละเม็ดแต่สิ่งที่

00:15:1900:15:22 แตกต่างกันก็คือว่ายิ่งเราใช้อุณหภูมิสูง

00:15:2200:15:25 ความร้อนในการคั่วเมล็ดกาแฟนนานขึ้นนาน

00:15:2500:15:28 ขึ้นจนเป็นกาแฟคั่วเข้มนี่นะครับเมล็ด

00:15:2800:15:32 กาแฟเนี่ยมันจะถูกทำให้บวมขยายตัวแล้วก็

00:15:3200:15:36 มีความเป็นรูพรุนมากขึ้นพงษ์ตัวนะครับและ

00:15:3600:15:38 ก็จะมีความหนาแน่นที่น้อยลงหรือว่ามีน้ำ

00:15:3800:15:42 หนักที่เบาลงจากกาแฟคั่วอ่อนนั่นเอง

00:15:4200:15:44 ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ

00:15:4400:15:47 มีเมล็ดกาแฟที่เราคั่วแต่ละแบบนี้มี

00:15:4700:15:51 ปริมาณคาเฟอีนเหมือนกันแต่เวลาที่เราตวง

00:15:5100:15:54 เมล็ดแต่ละแบบนี้นะครับเราจะได้จำนวน

00:15:5400:15:57 เมล็ดไม่เท่ากันครับถ้าเราตัวกาแฟโดยใช้

00:15:5800:16:00 น้ำหนักเป็นเกณฑ์นะครับเราจะได้ปริมาณของ

00:16:0000:16:04 เมล็ดกาแฟคั่วเข้มเยอะกว่าเพื่อนทำให้ได้

00:16:0400:16:07 ปริมาณคาเฟอีนมากกว่าเมล็ดกาแฟชนิดอื่น

00:16:0700:16:10 ครับแต่ถ้าเกิดว่าเราตัวกาแฟโดยการตัด

00:16:1000:16:14 เป็นสกู๊ปนะครับด้วยความที่เจ้ากาแฟคั่ว

00:16:1400:16:16 แค่เนี่ยมันมีความพองตัวมากกว่าเพื่อนเรา

00:16:1600:16:20 จะได้ปริมาณเมล็ดกาแฟเนี่ยน้อยลงก็จะทำ

00:16:2000:16:23 ให้ได้ปริมาณคาเฟอีนเนี่ยลดน้อยลงนั่นเอง

00:16:2300:16:26 ครับสรุปง่ายๆคือถ้าคุณตวงกาแฟโดยใช้น้ำ

00:16:2600:16:29 หนักนะครับมาได้กาแฟคั่วเข้มจะให้ปริมาณ

00:16:2900:16:32 คาเฟอีนที่มากที่สุดแต่ถ้าเกิดว่าคุณตัว

00:16:3200:16:35 กาแฟโดยการตัดเป็นสกุ๊ปเมล็ดกาแฟคั่วออก

00:16:3500:16:38 จะให้ประมาณคาเฟอีนมากที่สุดนั่นเองครับ

00:16:3800:16:41 เพราะฉะนั้นก็ต้องอยู่ที่วิธีการตัวของ

00:16:4100:16:43 คุณนะครับว่าคุณใช้แบบไหนและก็สามารถที่

00:16:4300:16:46 จะลงอ่ะเปลี่ยนระดับการคั่วของเล่นกาแฟ

00:16:4600:16:49 เพื่อการปรับปริมาณคาเฟอีนที่จะเข้าสู่

00:16:4900:16:51 ร่างกายครับมาถึงปัจจัยที่ 3 ที่ส่งผลต่อ

00:16:5100:16:54 ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟนะครับในก็คือวิธีการ

00:16:5400:16:57 โชว์นั่นเองผมเคยบอกไปตั้งแต่ตอนต้นแล้ว

00:16:5700:17:01 ว่าปกติแล้วเราใช้นํ้าร้อนในการสกัดเอา

00:17:0100:17:03 Cafe is ออกมาจากเมล็ดกาแฟใช่ไหมครับ

00:17:0300:17:06 เพราะว่าความร้อนนะครับจะทำให้โมเลกุลของ

00:17:0600:17:09 น้ำเนี่ยมันมีพลังงานเยอะขึ้นมันก็จะวิ่ง

00:17:0900:17:13 ชนให้เจ้าเมล็ดกาแฟได้ดีมากยิ่งขึ้นทำให้

00:17:1300:17:16 น้ำร้อนสามารถที่จะสกัดเอาคาเฟอีออกมาได้

00:17:1600:17:20 ดีกว่าน้ำเย็นนั่นหมายความว่าถ้าเราใช้

00:17:2000:17:23 ปริมาณกาแฟที่เข้ากันเราใช้นํ้าร้อนในการ

00:17:2300:17:27 ชงเราจะได้คาเฟอีนมากกว่าใช้น้ำเย็นชง

00:17:2700:17:30 เค้านอกจากอุณหภูมิแล้วนะครับขนาดของผม

00:17:3000:17:33 กาแฟก็มีส่วนครับยิ่งเราบดผงกาแฟเนี่ยให้

00:17:3300:17:35 มันเล็กให้มันละเอียดมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่

00:17:3500:17:38 มันก็จะมีพื้นที่ผิวมากขึ้นเท่านั้นมันก็

00:17:3800:17:41 จะไปเจอกับน้ำที่จะมาสกัดคาเฟอีนได้มาก

00:17:4100:17:44 ขึ้นคาเฟอีนก็จะถูกสกัดออกไปได้มากติดตาม

00:17:4400:17:47 ไปด้วยครับสรุปก็คือยิ่งบดละเอียดก็จะได้

00:17:4700:17:50 Cafe อิ่มมากขึ้นตามไปด้วยที่เนี้ย

00:17:5000:17:53 บริซ่าหลายคนเนี่ยก็จะบอกว่าเฮ้ยไม่จริงๆ

00:17:5300:17:56 กาแฟที่สกัดเกณฑ์หรือว่าครูเนี่ยไม่มี

00:17:5600:17:59 คาเฟอีนมากกว่ากาแฟรอด้วยซ้ำไปคำตอบคือ

00:17:5900:18:01 เคยเป็นอย่างนั้นจริงๆครับเพราะว่าเจ้า

00:18:0100:18:03 โคลบลูด้วยนะครับมีประมาณคาเฟอีนมากกว่า

00:18:0300:18:07 กาแฟดริปหรือว่ากาแฟที่สกัดด้วยน้ำร้อนก็

00:18:0700:18:09 เป็นเพราะว่าเวลาที่เราทำโคมรู้ว่าเราใช้

00:18:0900:18:12 ปริมาณกาแฟที่เยอะมากกว่าตอนที่เราสกัด

00:18:1200:18:14 ร้อนหลายเท่าเลยนะครับนอกจากนั้นเนี่ยเรา

00:18:1400:18:17 ยังใช้เวลาในการบ่มหรือเวลาในการสกัดกาแฟ

00:18:1700:18:20 มากกว่ากาแฟร้อนตั้งหลายชั่วโมงด้วยระยะ

00:18:2000:18:22 เวลาที่นานขึ้นปริมาณกาแฟที่เราสั่งไปก็

00:18:2200:18:25 เยอะขึ้นนะครับทำให้กาแฟที่สกัดด้วยโคบู

00:18:2500:18:29 เนี่ยมีปริมาณคาเฟอีนที่สูงกว่ากาแฟที่

00:18:2900:18:31 สกัดด้วยน้ำร้อนนั่นเองเพราะฉะนั้นข้างใน

00:18:3100:18:33 ตอนบ่ายเดี๋ยวเราไม่ต้องการปริมาณคาเฟที่

00:18:3300:18:36 มากเกินไปเนี่ยเราอาจจะหลีกเลี่ยงการกิน

00:18:3600:18:39 กาแฟ Cold brew กันนะครับหลังจากที่เรา

00:18:3900:18:41 เข้าใจหลักการทำงานของคาเฟอีเมื่ออยู่ใน

00:18:4100:18:44 ร่างกายของเราแล้วนะครับเราก็ได้มาซึ่งขอ

00:18:4400:18:47 ตอบว่าเราควรจะกินกาแฟแก้วแรกตอนไหนเรา

00:18:4700:18:50 ควรจะกินกาแฟแก้วสุดท้ายตอนไหนแต่ทั้งหมด

00:18:5000:18:53 ทั้งมวลที่ผมเล่ามาเนี่ยนะครับมันคือหลัก

00:18:5300:18:56 การทางวิทยาศาสตร์แต่ในชีวิตจริงแล้วนะ

00:18:5600:18:58 ครับประสิทธิภาพในการทำงานของคาเฟอีนใน

00:18:5800:19:00 ร่างกายของแต่ละคนเนี่ยก็ไม่เหมือนกัน

00:19:0000:19:04 ระยะเวลาที่ร่างกายแต่ละคนจะกำจัดคาเฟอีน

00:19:0400:19:07 ออกไปก็ไม่เท่ากันเพราะฉะนั้นพ่อคุณแม่

00:19:0700:19:09 หลักการทางวิทยาศาสตร์แล้วต่อจากนี้ไปคือ

00:19:0900:19:12 การประยุกต์เอาหลักการทางวิทยาศาสตร์ไป

00:19:1200:19:15 ใช้กับศิลปะในการใช้ชีวิตของคุณนะครับว่า

00:19:1500:19:18 คุณจะบริหารจัดการปริมาณคาเฟอีนระหว่าง

00:19:1800:19:21 วันของคุณยังไงให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตของ

00:19:2100:19:24 คุณมากที่สุดไปลองทดลองดูนะครับได้ผลยัง

00:19:2400:19:27 ไงเนี่ยมาคอมเม้นใต้คลิป YouTube นี้ให้

00:19:2700:19:30 ผมสั่งด้วยนะครับอ่ะ

00:19:3000:19:37 [เพลง]