00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:07 Voice บางทีอ่ะครับคนเราจะเห็นความทุกข์
00:00:08 → 00:00:10 ตัวเองชัดอยู่คนเดียวเวลาเรามีความทุกข์
00:00:10 → 00:00:13 ไม่โพสต์ไม่บอกใครเรารับรู้เราคนเดียวคน
00:00:13 → 00:00:15 อื่นไม่ได้รับรู้ของเราคนอื่นก็จะมีภาพ
00:00:15 → 00:00:18 คิดเอาว่าชีวิตเราดีพอมองว่าคนอื่นชีวิต
00:00:18 → 00:00:20 ดีปั๊บทีนี้ตัวคนอื่นที่กำลังมองเราเขาก็
00:00:20 → 00:00:22 รับรู้ความทุกข์ของตัวเองชัดที่สุดเหมือน
00:00:22 → 00:00:24 กันพอเขาเห็นตัวเองว่ามีทุกข์ชัดแล้วมา
00:00:24 → 00:00:26 เปรียบเทียบกับเราที่แบบมีความสว่างเอ๊ะ
00:00:26 → 00:00:28 คนอื่นไม่เห็นทุกข์เลยคนอื่นดีไปหมดอ่ะ
00:00:28 → 00:00:30 ตัวฉันเห็นความทุกข์ของฉันอยู่คนเดียวไม่
00:00:30 → 00:00:33 ได้บอกใครมันเลยกลายเป็นว่าเราไม่ได้เห็น
00:00:33 → 00:00:35 ความเป็นเพื่อนมนุษย์ที่แบบต่างคนต่างก็
00:00:35 → 00:00:37 มีความทุกข์อ่ะเราเลยเห็นว่าสแตนดาร์ดของ
00:00:37 → 00:00:39 การมีชีวิตที่ดีคือต้องมีความสุขล้วนๆเรา
00:00:39 → 00:00:42 เลยกลายเป็นว่าเอ๊ะตัวฉันแปลกประหลาดอยู่
00:00:42 → 00:00:44 คนเดียวยนะที่กำลังทุกข์
00:00:44 → 00:00:48 อยู่ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:48 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:54 ค่ะ This Is Toy PS
00:00:54 → 00:00:57 podcast วันนี้มาติดตามรับฟังกันค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 เกี่ยวกับเรื่องของโรคเสพติดความสำเร็จ
00:01:00 → 00:01:03 จากโซเชียลนะคะเรื่องนี้เป็นยังไงความ
00:01:03 → 00:01:06 สำเร็จจากโซเชียลมันเป็นการวัดอะไรคุณภาพ
00:01:06 → 00:01:08 ชีวิตได้ขนาดนั้นเลยหรอนะคะเดี๋ยวคุยกับ
00:01:08 → 00:01:11 ดรสุววุฒิวงษ์ทางสวัสดิ์นักจิตวิทยาการ
00:01:11 → 00:01:13 ปรึกษาค่ะสวัสดีค่ะคุณเอิ้นครับสวัสดี
00:01:13 → 00:01:15 ครับคุณรีสวัสดีครับคุณผู้ฟังอ่าเล่น
00:01:15 → 00:01:19 โซเชียลมยเล่นอยู่แล้วครับผมไม่ต้องสืบ
00:01:19 → 00:01:22 ไม่ต้องสืบเลยใช่มยเออแต่เวลาเล่นโซเชียล
00:01:22 → 00:01:25 เราจะเห็นอะไรบ้างอืเห็นชีวิตของคนอื่น
00:01:25 → 00:01:27 ด้วยใช่มคะคนที่เป็นเพื่อนกับเราใน
00:01:27 → 00:01:30 โซเชียลเนาะอหรือว่าบางทีก็มีมีโฆษณาเข้า
00:01:30 → 00:01:36 มานะคะเห็นว่าโอ้โหทำไมเขาชีวิตดูหรูหรา
00:01:36 → 00:01:39 ฟู่ฟ้าดีจมีสไตล์มีสตเป็นของตัวเองอะไร
00:01:39 → 00:01:43 อย่างงี้นะคะนั่งอ่าเครื่องบินเจส่วนตรง
00:01:43 → 00:01:46 ส่วนตัวโชว์เงินเป็นฟ่อนๆอมีรถมีบ้านมีตึ
00:01:47 → 00:01:49 เออได้ๆประสบความสำเร็จในอายุอย่างน้อย
00:01:49 → 00:01:53 อ่ายุนี้เลยฮิตมากเจอเจอบ่อยมากซึ่งจริงๆ
00:01:53 → 00:01:56 ไม่รู้จริงหรือเปล่าด้วยใช่มั้ยคะมันก็
00:01:56 → 00:01:58 คือโซเชียลนั่นแหละหรือบางคนอาจจะเป็นทุน
00:01:58 → 00:02:00 ฝีเทา
00:02:00 → 00:02:04 ขออนุญาตไปแตะครับนะคะมันก็เลยกลายเป็น
00:02:04 → 00:02:07 ว่าตอนเนี้ยเราเห็นความสำเร็จของคนน่ะ
00:02:07 → 00:02:11 ผ่านทางโซเชียลเยอะอ่าใช่เกิดแรงบันดาลใจ
00:02:11 → 00:02:14 อยากบ้างอืแต่เอ๊ะทำไมเราทำแล้วไม่เห็น
00:02:14 → 00:02:17 ได้เลยอืมไม่ง่ายเนาะไม่ง่ากลายเป็นว่า
00:02:17 → 00:02:20 การวัดความสำเร็จตอนเนี้ยต้องโชว์กันที่
00:02:20 → 00:02:23 โซเชียลเออทำไมกลายเป็นแบบนั้นคือคือต้อง
00:02:23 → 00:02:26 บอกว่าใครๆก็อยากมีภาพรักษณ์ที่ดีแหละอ่า
00:02:26 → 00:02:28 ใช่ใครๆก็อยากรับรู้ตัวเองดีเนาะผมว่า
00:02:28 → 00:02:30 ต้องบอกอย่างงี้ก่อนครับว่าโซเชียลมีเดีย
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยมันเข้ามาในยุคหลังๆเนาะผมว่าอาจจะ
00:02:33 → 00:02:37 มาช่วงประมาณปีแถวๆ 4950 51 อผมก็นึก
00:02:37 → 00:02:39 ย้อนไปสมัยแบบผมเรียนตอนนั้นน่าจะปริญญา
00:02:39 → 00:02:42 โทมั้ง Facebook เริ่มมาออแต่จริงๆปริญญา
00:02:42 → 00:02:44 ตรีเนี่ยมันเริ่มมีตั้งแต่ไฟแล้วเออๆใช่
00:02:44 → 00:02:47 เออแต่ไฟเนี่ยก็จะเป็นวัยรุ่นใช้ก็แบบ
00:02:47 → 00:02:50 ถ่ายรูปตัวเองถ่ายรูปถ่ายกับเพื่อนอืซึ่ง
00:02:50 → 00:02:53 ซึตอนนั้นน่ะผมรู้สึกว่าในยุคไฟป่ะครับ
00:02:53 → 00:02:56 ถ้าถ้าผู้ฟังเกิดทันเกิดทันกันมั้ยฮะทันๆ
00:02:56 → 00:02:58 ๆๆเออผมว่ายุคนั้นน่ะเรายังไม่ค่อยถ่าย
00:02:58 → 00:03:01 วัตถุอะไรเท่าไหร่อ่าพี่พี่รีพอนึกออก
00:03:01 → 00:03:03 มั้ยฮะนึกออกนึกออกแล้วก็จะมีแต่รูปเเป็น
00:03:03 → 00:03:06 โชเหยุกแรกๆเออรูปตัวเองรูปเรากับเพื่อน
00:03:06 → 00:03:09 อืแต่พอพอเริ่มเข้าสู่ยุค Facebook อะไร
00:03:09 → 00:03:10 เงี้ยครับแล้วมันเริ่มไปเรื่อยๆมันเริ่ม
00:03:10 → 00:03:12 มีการถ่ายเรื่องวัตถุแล้วมันเริ่มมีการ
00:03:12 → 00:03:15 สร้างคอนเทนอือเออผมว่ามันมาพร้อมกับพวก
00:03:15 → 00:03:17 YouTube ด้วยนะค่ะการสร้างเนื้อหาการ
00:03:17 → 00:03:20 สร้างสตอรี่การสร้างเรื่องเล่าบางอย่างจน
00:03:20 → 00:03:23 ทำให้มันไม่ใช่แค่ภาพตัวเองะมันขยับไปสู่
00:03:23 → 00:03:26 ว่าฉันมีเรื่องเล่าอย่างนี้นะค่ะฉันเคย
00:03:26 → 00:03:29 ผ่านจุดยากลำบากอย่างงี้อย่างงี้แล้วฉัน
00:03:29 → 00:03:31 ก็สัสามารถมีสิ่งนี้ได้ด้วยอายุเท่านี้
00:03:31 → 00:03:35 เออมาเริ่มเป็นคทนที่คนสนใจเล่าเรื่องราว
00:03:35 → 00:03:38 ชีวิตเล่าเรื่องราวใช่ครับแล้วภาพภาพที่
00:03:38 → 00:03:41 ลงเนี่ยมันก็เริ่มเป็นค่านิยมหรือเป็น
00:03:41 → 00:03:44 กระแสของสังคมว่าเราก็จะโพสต์ภาพชีวิตดี
00:03:44 → 00:03:47 โพสต์ภาพว่าเรามีความสุขกับสิ่งนั้นสิ่ง
00:03:47 → 00:03:50 นี้จนกระทั่งมันเริ่มเป็นวัฒนธรรมค่ะว่า
00:03:50 → 00:03:52 การจะโพสต์ภาพในโซเชียลมีเดียเนี่ยมัน
00:03:53 → 00:03:55 ต้องสวยงามเออแต่จะบอกว่าทุกอย่างสวยงาม
00:03:55 → 00:03:58 ก็ไม่ใช่เนาะเพราะบางคนนะครับก็ชอบโพสต์
00:03:58 → 00:04:01 เรื่องลบๆในชีวิตค่ะแต่แน่นอนวันนี้ไม่
00:04:01 → 00:04:03 ใช่ประเด็นนั้นที่เราจะคุยกันเพราะว่าคน
00:04:03 → 00:04:05 ใช้โซเชียล Media เนี่ยครับก็จะมีหลาย
00:04:05 → 00:04:08 กลุ่มมีทั้งกลุ่มคนที่ตัดพ้อชีวิตบ่น
00:04:08 → 00:04:11 ชีวิตไม่ดีใส่ท็อกซิกเข้าไปในโซเชียลก็มี
00:04:11 → 00:04:13 แต่กลุ่มคนที่โพสต์เรื่องราวราเรื่องราว
00:04:13 → 00:04:15 ในชีวิตที่มีแต่ภาพสวยงามก็มีอยู่จริง
00:04:15 → 00:04:18 เช่นกันคือเคยได้ยินแนวคิดของเพื่อนน่ะนะ
00:04:18 → 00:04:21 คะในการโพสต์โซเชียล Media แบบเยค่ะเขาก็
00:04:21 → 00:04:24 พยายามที่จะไม่เอาสิ่งที่มันเป็นลบๆเนี่ย
00:04:24 → 00:04:27 ไปโพสต์ลงในโซเชียลเพราะว่าเให้เหตุผลว่า
00:04:27 → 00:04:30 เต้องการเห็นในเอ่อโชลของเขาอ่ะเป็นภาพ
00:04:31 → 00:04:34 ที่ดีๆมีแต่เรื่องความทรงจำดีๆแล้วก็
00:04:34 → 00:04:36 เรื่องไม่ดีก็เออไม่ต้องไปไปเก็บเป็นความ
00:04:36 → 00:04:39 ทรงจำเพราะพวกเนี้ยมันจะรีสกลับมาใน 1 ปี
00:04:39 → 00:04:41 ให้เราเห็นว่าวันนี้ในปีที่แล้วหรือปี
00:04:42 → 00:04:45 ก่อนๆหน้านี้เรายังไงโพสต์อะไรอะไรอย่าง
00:04:45 → 00:04:47 งี้ใช่มั้ยคะซึ่งเขาก็อ้าแต่เป็นแนวคิด
00:04:47 → 00:04:50 ที่ดีที่ดีอย่างหนึ่งนะในแง่ที่ว่าก็มี
00:04:50 → 00:04:53 แต่เรื่องดีๆให้เราได้จดจำให้คนอื่นได้
00:04:53 → 00:04:55 เห็นแต่บางทีการเห็นของคนอื่นเขาก็ไม่ได้
00:04:55 → 00:04:57 คิดแบบเราใช่ครับเพราะคนอื่นก็จะอดเปรียบ
00:04:57 → 00:05:00 เทียบไม่ได้อดรับรู้ในมุมด้านเดียวที่เรา
00:05:00 → 00:05:03 เป็นไม่ได้อือฮึคือมันเลยกลายเป็นว่าบาง
00:05:03 → 00:05:05 ทีอ่ะครับคนเราจะเห็นความทุกข์ตัวเองชัด
00:05:05 → 00:05:09 อยู่คนเดียวถูกมั้ยฮะเออเออเวลาเรามีความ
00:05:09 → 00:05:10 ทุกข์เหมือนตะกี้เพื่อนพี่ดีอ่ะครับไม่
00:05:10 → 00:05:14 โพสต์ไม่บอกใครหมายความว่าเรารับรู้เราคน
00:05:14 → 00:05:16 เดียวคนอื่นไม่ได้รับรู้ของเราคนอื่นก็จะ
00:05:16 → 00:05:20 มีภาพคิดไปเองคิดเอาว่าชีวิตเราดีอ่า
00:05:20 → 00:05:23 ชีวิตดีจังเลยอ่ะเออคมีความสุขเนาอะไร
00:05:23 → 00:05:25 อย่างเงี้ยใช่มั้พอพอมองว่าคนอื่นชีวิตดี
00:05:25 → 00:05:27 ปั๊บทีนี้ตัวคนอื่นที่กำลังมองเราเคก็รับ
00:05:27 → 00:05:29 รู้ความทุกข์ของตัวเองชัดที่สุดเหมือนกัน
00:05:29 → 00:05:31 ค่ะพอเขาคเห็นตัวเองว่ามีทุกข์ชัดแล้วมา
00:05:31 → 00:05:34 เปรียบเทียบกับเราที่แบบมีความสว่างอ๋อก็
00:05:34 → 00:05:37 จะรู้สึกว่าเอ๊ะคนอื่นไม่เห็นทุกข์เลยคน
00:05:37 → 00:05:40 อื่นดีไปหมดอ่ะอือฮึตัวฉันเห็นความทุกข์
00:05:40 → 00:05:42 ของฉันอยู่คนเดียวไม่ได้บอกใครอือฮึอย่าง
00:05:42 → 00:05:44 เงี้ยครับมันเลยกลายเป็นว่าเราไม่ได้เห็น
00:05:44 → 00:05:46 ความเป็นเพื่อนมนุษย์ที่แบบต่างคนต่างก็
00:05:46 → 00:05:49 มีความทุกข์อ่ะค่ะเราเลยเห็นว่าสแตนดาร์ด
00:05:49 → 00:05:51 ของการมีชีวิตที่ดีคือต้องมีความสุขล้วนๆ
00:05:51 → 00:05:54 อืเออเราเลยกลายเป็นว่าเอ๊ะตัวฉันแปลก
00:05:54 → 00:05:56 ประหลาดอยู่คนเดียวมั้ยนะที่กำลังทุกข์
00:05:56 → 00:05:59 อยู่เออทำไมเราไม่มีความสุขบ้างอะไอย่า
00:05:59 → 00:06:00 งี้ใช่มั้ย
00:06:00 → 00:06:03 คล้ายๆว่าล้างสมองเราเหมือนกันนะว่าเอ๊ะ
00:06:03 → 00:06:06 ฉันอยากจะมีความสุขแบบที่คนอื่นเดูมีสุข
00:06:06 → 00:06:08 ไปหมดเลยบ้างอะไเงี้ยครับออืซึ่งจริงๆใน
00:06:09 → 00:06:11 ชีวิตพาร์ทของหลายๆคนที่มีการโพสต์แบบว่า
00:06:12 → 00:06:15 ชีวิตดูสุขสบายมีความสุขเลยบางทีจริงๆเขา
00:06:15 → 00:06:18 อาจจะไม่ได้มีความสุขอยู่ก็ได้นะอาจจะ
00:06:18 → 00:06:21 ทุกข์อยู่แต่แค่ว่าก็ฉันแสดงอีกด้านนึง
00:06:21 → 00:06:23 ให้เห็นแค่นั้นเองใช่ใช่ครับบางคนโพสเป็น
00:06:23 → 00:06:25 เรื่องงานก็มีผมก็เจอคนที่เขาจำเป็นต้อง
00:06:25 → 00:06:27 ทำงานที่มันเกี่ยวข้องกับภาพรักเขาก็
00:06:27 → 00:06:29 จำเป็นจะต้องโพสต์ภาพในโซเชียลียเนี่ยที่
00:06:29 → 00:06:31 ค่อนข้างน่าเชื่อถือแล้วก็เป็นคนที่มี
00:06:31 → 00:06:33 ความสุขเพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องงานโอ
00:06:34 → 00:06:36 มันก็มันก็ยากดีอ้อภาพลักษณ์นี้มันเกี่ยว
00:06:36 → 00:06:38 ด้วยนะจริงๆคุณเอิ้นเพราะว่าอ่าอย่างที่
00:06:38 → 00:06:42 พี่อยู่ในแวดวงที่ต้องส่งสร้างภาพลักณ์
00:06:42 → 00:06:45 ที่ดีไม่ใช่แบบว่าไปอะไรอย่างงั้นนะหมาย
00:06:45 → 00:06:48 ถึงว่าเราก็ต้องคีลุตัวเองอ่ะในการที่จะ
00:06:48 → 00:06:52 ลงโซเชียลเนี่ยอะไรที่มันทำให้ภาพลักษณ์
00:06:52 → 00:06:55 ที่มันอาจจะไปเกี่ยวเนื่องกับองค์กรเนี่ย
00:06:55 → 00:06:58 เสียเนี่ยก็ต้องระวังอ้ามันเป็นอย่างงี้
00:06:58 → 00:07:00 นะใช่ใช่แล้วมันจะย้อนกลับมามีปัญหากับ
00:07:00 → 00:07:01 ตัวเราเองด้วยอย่างเช่นแบบการไม่ถูก
00:07:01 → 00:07:03 โปรโมทการไม่ได้ก้าวหน้าหรือแม้กระทั่ง
00:07:03 → 00:07:06 ความน่าเชื่อถือบางอย่างก็ลดลงอหรือไม่ง
00:07:06 → 00:07:09 การจะมาใส่ชุดว่ายน้มียังไม่ได้เลยครับ
00:07:09 → 00:07:12 ยังอาจจะหุดไม่สวยด้วยแล้วส่วนนึงแต่ว่า
00:07:12 → 00:07:15 เอ้ยมันก็เอ๊ะไม่ดีกว่าไม่คูอันอยู่กับ
00:07:15 → 00:07:18 ภาพลักษณของอาชีพใช่บางบางอาชีพคือใส่ชุด
00:07:18 → 00:07:21 ว่ายน้ำเป็นอาชีคือจะจะให้ใส่ใส่อะไรว่าย
00:07:21 → 00:07:23 น้ำหรอคะมันก็ต้องอันใช่มั้ยชุดว่ายน้ำ
00:07:23 → 00:07:25 ใช่แต่ชุดว่ายน้ำก็ต้องกรองอีกว่าชุดว่าย
00:07:25 → 00:07:28 น้ำแบบไหนอ่ะใส่ชุดว่ายน้ำแต่ถ้าโพสต์ท่า
00:07:28 → 00:07:30 เข้าไปอีกอ่าอเออมันก็มุมมองก็เปลี่ยนได้
00:07:30 → 00:07:33 อีกใช่ครับแต่ทีเนี้ยพอพอโพสต์เป็นภาพ
00:07:33 → 00:07:35 ชีวิตที่ดีๆอะไรเงี้ยฮะอบางครั้งตัวเเอง
00:07:35 → 00:07:38 เนี่ยก็มานั่งช้ำใจว่าภาพภาพชีวิตที่แท้
00:07:38 → 00:07:39 จริงที่เขาเจออ่ะไม่ได้ตรงกับภาพ
00:07:39 → 00:07:42 โซเชียลมีเดียที่เขาลงมันเป็นกำกำลัง
00:07:42 → 00:07:46 พยายามที่จะปิดบังหรือว่าไม่อยากให้ใคร
00:07:46 → 00:07:48 ใช่มิดบังใช่ครับแต่บางทีผมว่าคนที่มี
00:07:48 → 00:07:50 ความทุกข์อ่ะเขาก็อยากจะสื่อสารอยากจะบอก
00:07:50 → 00:07:52 ใครสักคนเหมือนกันนะแต่เขาอาจจะรู้สึก
00:07:52 → 00:07:54 กังวลว่าการได้เอ่อบอกให้ใครสักคนรับรู้
00:07:54 → 00:07:56 มันอาจจะมีผลกระทบต่องานของเขาก็ได้ค่ะ
00:07:57 → 00:07:59 เขาก็เลยเลิกจะเก็บความทุกข์ไว้ในใจก็มี
00:07:59 → 00:08:02 แต่เก็บไว้ในใจอย่างงั้นมากๆมันก็ไม่ดี
00:08:02 → 00:08:05 คือมันต้องระบายบ้างหรรือเปล่าหรือว่าเรา
00:08:06 → 00:08:08 ก็เป็นมนุษย์น่ะมันก็มีทั้งสุขและทุกข์
00:08:08 → 00:08:12 อ่ะออจะจะโพสต์ทุกข์ก็ได้จะโพสต์สุขก็ได้
00:08:12 → 00:08:15 มันก็มีคละเคล้าปะปะปนกันไปไม่มีใครมี
00:08:15 → 00:08:17 ความสุขตลอดหรือทุกข์ตลอดอยู่แล้วะอใช่
00:08:17 → 00:08:19 ครับเออเพรางั้นจริงๆแล้วผมว่าจริงๆการ
00:08:19 → 00:08:22 ใช้โซเชียลมีเดียมันแล้วแต่วัตถุประสงค์
00:08:22 → 00:08:24 แล้วก็แต่ละคนใช้ด้วยความรู้เท่าทันแค่
00:08:24 → 00:08:27 ไหนอบางทีถ้าใช้ไม่รู้เท่าทันมันก็กลาย
00:08:27 → 00:08:29 เป็นว่าตัวเราเองก็พยายามจะเฟรมให้ชิชวิต
00:08:29 → 00:08:31 ตัวเองสวยงามเหมือนในโซเชียลมีเดียก็มี
00:08:31 → 00:08:33 ชันโพสต์ภาพสวยๆไปแล้วฉันก็พยายามบีบ
00:08:34 → 00:08:36 บังคับให้ตัวเองมีชีวิตสวยๆแบบที่ฉันลง
00:08:36 → 00:08:40 ภาพก็มีเอเหนื่อยมอ่ะหรือหรือบางคนนะครับ
00:08:40 → 00:08:42 พอยิ่งลงภาพสวยเท่าไหร่อาจจะมีเค้าเรียก
00:08:42 → 00:08:46 ว่าด้อมด้อมที่เแอนตี้เราอือๆๆๆๆเค้าก็
00:08:46 → 00:08:49 อาจจะพยายามมาขุดภาพหรือพยายามสืบอะไรก็
00:08:49 → 00:08:51 ตามที่จะบอกว่าเราไม่ได้ดีอย่างที่ภาพที่
00:08:51 → 00:08:54 ส่งให้ดูอะไรเงี้ยฮะแต่คือถ้ามันกำลัง
00:08:54 → 00:08:57 อยู่ในระดับที่พอดีอ่ะไม่ไม่ดูโอเวอร์
00:08:57 → 00:09:00 เกินหรืออะไรไปอ่ะมันมันก็ไม่น่าจะมี
00:09:00 → 00:09:04 ปัญหาใช่มยแต่ว่าบางทีมันแบบดูแบบโหเกิน
00:09:04 → 00:09:06 จริงไปอะไรเงี้ยนอะไอย่างเงี้ยครับบางที
00:09:06 → 00:09:09 ก็จะมีคนหมั่นไส้ใช้คำว่าหมั่นไส้เนาะจาก
00:09:09 → 00:09:12 ชื่นชมอาจจะเริ่มรู้สึกว่าอืมอ่าใช่ครับ
00:09:12 → 00:09:14 ทีนี้เราในฐานะผู้ใช้ต้องระมัดระวัง
00:09:14 → 00:09:15 เหมือนกันในฐานะที่เราเป็นคนเสพสื่ออ่ะ
00:09:16 → 00:09:18 ครับระวังอิทธิพลของสื่อที่มีต่อใจเราให้
00:09:18 → 00:09:20 มากๆเพราะว่าเดี๋ยวนี้คำว่าสื่อเนี่ยมัน
00:09:20 → 00:09:22 ไม่ได้อยู่แค่ในแบบคาวหรือว่าช่อง
00:09:22 → 00:09:25 โทรทัศน์แต่โซเชียล Media หรือแม้กระทั่ง
00:09:25 → 00:09:27 ภาพที่เพื่อนโพสต์นี่ก็เรียกว่าสื่อได้
00:09:27 → 00:09:29 เหมือนกันมันคือสิ่งกระตุ้นนะครับค่ะแล้ว
00:09:29 → 00:09:31 บางครั้งพอเราได้รับสื่อปั๊บได้รับ
00:09:31 → 00:09:33 อิทธิพลของสื่อจากเดิมที่เราควรจะพอใจ
00:09:33 → 00:09:35 ชีวิตตัวเองอยู่แล้วว่าเอ้ยชีวิตฉันก็
00:09:35 → 00:09:39 โอเคนิอืกลายเป็นว่าเอ๊ะเกิดการตั้งคำถาม
00:09:39 → 00:09:42 หรือชั้นแบบเค้าเรียกว่ามักน้อยเกินไป
00:09:42 → 00:09:45 หรือหรือชั้นแบบเรียกอะไรนะประมาทชีวิตไป
00:09:45 → 00:09:48 ฉันต้องทำมากกว่านี้มั้ยนะอหรือจริงๆที่
00:09:48 → 00:09:51 ฉันเป็นมันมันดูกระจอกในสายตาคนอื่นนะฉัน
00:09:51 → 00:09:53 อาจจะควรต้องทำอะไรให้มากเหมือนที่คนอื่น
00:09:53 → 00:09:55 เขาทำหรือเปล่าอือมันเลยกลายเป็นว่าจาก
00:09:55 → 00:09:57 เดิมอ่ะครับที่เราอาจจะรู้จักชีวิตที่แบบ
00:09:57 → 00:10:00 พอดีๆๆเบาๆของเราอยู่แล้วกลายเป็นว่าเรา
00:10:00 → 00:10:02 ไปบ้าจี้อ่ะครับเห็นคนอื่นเขามีแล้วพอหัน
00:10:02 → 00:10:05 มาถามตัวเองว่าฉันไม่มีเฮ้ยหรือว่าฉัน
00:10:05 → 00:10:08 ต้องมีเพราะใครๆก็มีอืมเพราะเห็นโดยส่วน
00:10:09 → 00:10:11 มากจะเป็นแนวนี้อ่าใช่ครับพอเห็นใครๆก็มี
00:10:11 → 00:10:14 ปั๊บจริงมันจากที่เกินจริงก็เลยเหมือน
00:10:14 → 00:10:17 เอ๊ะปกติเออเออใครๆก็มีเป็นปกติฉันไม่มี
00:10:17 → 00:10:18 ฉันผิด
00:10:18 → 00:10:22 ปกติไม่อ้อแต่ก็ว่าไม่ได้นะเพราะว่าพอมัน
00:10:22 → 00:10:26 เห็นบ่อยๆเห็นเยอะๆมันมันขึ้นมาเพราะเรา
00:10:26 → 00:10:28 อยู่กับโซเชียลอ่ะคนไทยเล่นโซเชียลเยอะนะ
00:10:28 → 00:10:31 ว่าไปก็เลยทำให้เราได้เห็นพวกเนี้ยเยอะ
00:10:31 → 00:10:34 ตลอดเวลาตลอดแล้วแล้วเดี๋ยวเนี้ยครับเวลา
00:10:34 → 00:10:36 คนว่างเนาะถ้าเป็นยุคเมื่อก่อนคนว่างๆอาจ
00:10:36 → 00:10:39 จะยืนชมนกชมไม้อาจจะคุยกับคนข้างๆหรืออาจ
00:10:39 → 00:10:42 จะเปิดอะไรนะหนังสือมาอ่านหนังสือพิมพ์
00:10:42 → 00:10:45 ยุคนี้ปั๊บคนว่างปั๊บหยิบมือถือมาไถะใช่
00:10:45 → 00:10:47 คำถามคือเข้าไปไถอะไรมันก็ไม่พ้น
00:10:47 → 00:10:50 โซเชียลมีเดียเออว่าแบบ Instagram บ้าง
00:10:50 → 00:10:52 Facebook บ้างอะไรเงี้ยครับว่าคนอื่นทำ
00:10:52 → 00:10:55 อะไรชีวิตเป็นยังไงเออเราก็เม้นต์คุยกับ
00:10:55 → 00:10:57 เพื่อนอะไรเงี้ยครับค่ะเออมันเลยกลายเป็น
00:10:57 → 00:11:00 ว่าตัวเราก็เผลอไปรับสื่อตลอดเวลาเพราะ
00:11:00 → 00:11:02 บางทีมันก็มี Dead แอนในชีวิตค่อนข้าง
00:11:02 → 00:11:05 เยอะนั่งนั่งแบบกินข้าวว่างอ่ะก็ไถมือถือ
00:11:05 → 00:11:07 อกินอยู่บนรถไฟฟ้าอยู่รถเมล์เดินทางไม่
00:11:08 → 00:11:10 รู้จะทำอะไรอ่ะก็ไถมือถือออกแค่เดินปึ๊บ
00:11:10 → 00:11:14 นี่ก็หยิบละนะะรู้สึกเป็นสังคมขี้เหงาจัง
00:11:14 → 00:11:16 เลยแบบว่าจะต้องอยู่คนเดี๋ยวนี้ติดมือถือ
00:11:16 → 00:11:18 แล้วก็แบบดูแต่ในมือถืออ่ะฮะมันกลายเป็น
00:11:18 → 00:11:20 ว่าเราไม่ได้กลับมาสัมผัสหรือมาอยู่กับ
00:11:20 → 00:11:23 ประสบการณ์ในชีวิตจริงอ่ะอืเพราะเราอยู่
00:11:23 → 00:11:25 กับภาพมายาที่แบบโซเชียลมีเดียสร้างให้
00:11:25 → 00:11:28 เรารับรู้อ่ะครับอืยังบางคนก็มองว่าโอ้โห
00:11:28 → 00:11:32 นี้พวกเเนี่ยคืออ่ะตอนแรกชื่นชมอชีวิตเดี
00:11:32 → 00:11:35 เนอะหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยความสำเร็จเ
00:11:35 → 00:11:39 ทำไมแบบดูง่ายจังอายุน้อยแต่อเออได้เงิน
00:11:39 → 00:11:41 ขนาดนี้เลยหรอเหาเงินได้ง่ายขนาดนั้นเลย
00:11:41 → 00:11:44 หรอเออครับใช่ป่ะซึ่งซึมันอาจจะไม่ได้ไม่
00:11:44 → 00:11:48 ได้จริงก็ได้บางคนอาจจะไปยืนถ่ายรูปกับรถ
00:11:48 → 00:11:51 คนอื่นอือๆๆก็มีอ้ามันก็มีเฉลยมาแล้วนะ
00:11:51 → 00:11:55 ที่แบบว่าไปสร้างภาพแบบว่าเออกำรถคนอื่น
00:11:55 → 00:11:57 บ้านคนอื่นใช่เหรือหรือมากกว่านั้นก็มี
00:11:57 → 00:12:00 แบบเรื่องของอะไรนะตัวววัตถุที่แบบได้มา
00:12:00 → 00:12:04 อย่างไม่ถูกต้องค่ะก็มีเออเป็นมิจฉาชีพ
00:12:04 → 00:12:06 หลอกก็มีครับใช่หรือพวกนี้เป็นมิจฉาชีพ
00:12:06 → 00:12:09 เลยก็มีเดี๋ยวนี้เป็นมิจฉาชีพเลยใช่ทำให้
00:12:09 → 00:12:10 เชื่อว่าเป็นอย่างงั้นอะไรอย่างเงี้ยฮะ
00:12:10 → 00:12:15 เฮอมันกลายเป็นว่าอ่ะอิจฉาละ 1 อืเออ
00:12:15 → 00:12:17 เปรียบเทียบกับตัวเองว่าเราก็ต้องคือบาง
00:12:17 → 00:12:19 ทีกลายเป็นว่าเราไปใช้วิธีที่ผิดๆในการ
00:12:19 → 00:12:22 ที่จะวันนึงฉันจะเป็นอย่างงี้ใช่ต้องการ
00:12:22 → 00:12:24 ทางรัดทางเร็วเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้ผมว่า
00:12:24 → 00:12:27 หลายๆคนใจร้อนขึ้นนะครับอพอเห็นคนอื่น
00:12:27 → 00:12:29 เข้ารวยเร็วได้เราก็แบบเฮ้ยงั้นฉันจะต้อง
00:12:29 → 00:12:31 หาวิธีทางลัดที่เร็วที่สุดค่ะเออแต่เรา
00:12:32 → 00:12:34 ไม่จะไม่ค่อยๆสร้างให้มั่นคงอ่ะครับอ่า
00:12:34 → 00:12:38 เอาเอแบบว่าขอให้ได้มีโอกาสนี้บ้างใช่ๆๆ
00:12:38 → 00:12:40 เพื่อจะได้รู้สึกตัวเองไม่ด้อยหรือรู้สึก
00:12:40 → 00:12:42 ชนะหรือรู้สึกเฉิดฉายต่อหน้าทุกคนใน
00:12:42 → 00:12:46 โซเชียลมีเดียเออก็เลยกลายเป็นว่าการแสดง
00:12:46 → 00:12:48 คุณค่าหรือการที่แบบว่าจะประสบความสำเร็จ
00:12:48 → 00:12:50 เลยเราดูจากแต่โซเชียลมีเดียอย่างเดียว
00:12:50 → 00:12:52 อ่าใช่เป็นการประกาศ
00:12:52 → 00:12:56 ศักดาฉันมีสิ่งนี้ถ่ายรูปหน่อยใชเออฉันไป
00:12:56 → 00:12:59 อันนี้เออถ่ายรูปไม่แต่ถ้าอย่างแบบเอ่อคน
00:12:59 → 00:13:02 ที่เขาประสบความสำเร็จจริงๆอ่ะส่วนใหญ่
00:13:02 → 00:13:04 เขาจะไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งโชว์ใน
00:13:04 → 00:13:08 โซเชียลนะเขาก็จะแบบว่าเขอาจจะอยู่กับ
00:13:08 → 00:13:10 ชีวิตของเขาที่แบบอยากจะเบาๆอยากจะมีแล้ว
00:13:10 → 00:13:13 ก็เฉยๆไม่ได้ยึดติดกับวัตถุไม่ได้ยึดติด
00:13:13 → 00:13:15 กับการโชว์บางคนบางคนเอาจจะรู้สึกด้วยซ้ำ
00:13:15 → 00:13:18 ว่าการโชว์มันไม่ใช่สาระที่แท้จริงอ่ะค่ะ
00:13:18 → 00:13:20 แต่แค่เขาได้ทำแล้วภูมิใจกับตัวเองว่าเา
00:13:20 → 00:13:23 สามารถทำงานชิ้นนี้สำเร็จแล้วเขาก็ได้
00:13:23 → 00:13:25 อยู่กับสิ่งที่เขามีแล้วก็อยู่กับชีวิต
00:13:25 → 00:13:27 ตัวเองในวงเล็กๆอย่างเงี้ยครับบางทีตรงเ
00:13:27 → 00:13:30 อาจจะเป็นกลุ่มคนที่คนพบค้นพบความจริงว่า
00:13:30 → 00:13:32 Self esteem หรือแม้กระทั่งความภาคภูมิ
00:13:32 → 00:13:34 ใจเนี่ยบางทีมันไม่ได้ยึดติดกับโซเชียล
00:13:34 → 00:13:36 Media มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครพูดถึง
00:13:36 → 00:13:38 เขายังไงแต่มันเกี่ยวกับการที่ว่าเขารับ
00:13:38 → 00:13:41 รู้ตัวเองว่ายังไงอืเออถ้าถ้าคนเราค้นพบ
00:13:41 → 00:13:43 ว่าตัวเองพอใจอยู่แล้วกับตัวเองอครับว่า
00:13:44 → 00:13:46 โอ้เรารักชีวิตตัวเองจังที่ที่ได้ทำที่
00:13:46 → 00:13:49 ได้พบที่ได้มีอือที่ได้สร้างอะไรบางอย่าง
00:13:49 → 00:13:51 ที่สำเร็จนะครับบางครั้งเราอาจจะไม่ต้อง
00:13:51 → 00:13:54 นึกเลยว่าเอ่อคนอื่นจะต้องชื่นชมคนอื่นจะ
00:13:54 → 00:13:56 ต้องมานั่งรับรู้เพราะว่ามันไม่ใช่สาระ
00:13:56 → 00:13:59 ที่เขาจะต้องดึงเข้ามาแบบต้องภูมิใจอ่ะอื
00:13:59 → 00:14:00 เออเพราะบางทีมันมีเหมือนกันที่พอเราทำ
00:14:00 → 00:14:03 สำเร็จแล้วคนอื่นไม่ได้ภูมิใจด้วยกลาย
00:14:03 → 00:14:05 เป็นว่าเรารู้สึกเฟลอ่ะอ่าว่าความรู้สึก
00:14:05 → 00:14:08 ไอ้ความสำเร็จนี้ไม่ถูกมองเห็นไม่ถูกยอม
00:14:08 → 00:14:11 รับออหรือไม่ได้ให้คนอื่นให้คุณค่ามันก็
00:14:11 → 00:14:14 จะกลายเป็นคนบ้าจี้พยายามไปหาความสำเร็จ
00:14:14 → 00:14:17 อื่นที่ทำให้คนชมเอ่ะคือมันมันไปขึ้นอยู่
00:14:17 → 00:14:21 กับการกดไลก์กดอกดไลหรือคนอื่นเทิดทูลเรา
00:14:21 → 00:14:24 มั้ยเออหรือการแบบว่ามีคอมเมนต์ที่แบบโห
00:14:24 → 00:14:26 ชื่นชมหรือเราไปยึดติดตรงนั้นเพราะว่าเอา
00:14:26 → 00:14:28 จริงๆมันเกิดขึ้นจริงเหมือนกันนะคะคุณผู้
00:14:28 → 00:14:30 ฟังว่า
00:14:30 → 00:14:32 มันก็มีเกิดขึ้นจริงเหมือนกันนะคะคุณผู้
00:14:32 → 00:14:36 ฟังว่าที่แบบเออบางคนแบบอุ๊ยทำไมแบบทำ
00:14:36 → 00:14:40 อย่างงี้แล้วทำไมคนมากดไลก์หรืออะไรเงี้ย
00:14:40 → 00:14:43 น้อยไปดูแค่ตรงเนี้ยแล้วเขาก็พยายามจะไป
00:14:43 → 00:14:45 ทำอะไรที่มันให้มันแบบเพื่อแบบมีคนมากด
00:14:45 → 00:14:48 ไลก์เยอะๆอืใช่ครับไปมองแค่ตรงจุดนั้นจุด
00:14:48 → 00:14:50 เดียวไปเลยอ่ะแปลกมากใช่ใช่กลายเป็นบ้า
00:14:50 → 00:14:53 จี้แฉลบออกไปนอกทางก็มีอืจริงครับเพราะ
00:14:54 → 00:14:55 งั้นเหมือนที่พี่รีบอกอ่ะครับคนที่สำเร็จ
00:14:55 → 00:14:57 จริงๆบางครั้งเอาจจะไม่นั่งไม่ได้นั่งสน
00:14:57 → 00:14:59 ใจโซเชียลมีเดีย
00:14:59 → 00:15:01 ว่าเขาจะต้องโพสต์แล้วใครจะไร้เเท่าไหร่
00:15:01 → 00:15:03 เพเขาจะอยู่กับการสนใจแค่ตัวเองอ่ะว่าฉัน
00:15:03 → 00:15:06 อยากทำอะไรฉันมีความสุขกับอะไรหรือฉันพอ
00:15:06 → 00:15:08 ใจกับชีวิตอะไรเอาจจะรู้สึกด้วยซ้ำว่าการ
00:15:08 → 00:15:10 มีคนอื่นเข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตเามารับ
00:15:10 → 00:15:13 รู้ชีวิตเขามันอาจจะเป็นเรื่องเกะกะก็ได้
00:15:13 → 00:15:15 อเกะกะเกินความจำเป็นแล้วมันก็รุงรังแบบ
00:15:15 → 00:15:17 ในการจะมีความสุขแบบของตัวเองเรียบง่าย
00:15:17 → 00:15:20 อ่ะค่ะอืแต่ถ้าเกิดว่าบุคคลนั้นจะมีชื่อ
00:15:20 → 00:15:23 เสียงหรือจะมีคนมาแบบชื่นชอบหรือว่าชื่น
00:15:23 → 00:15:25 ชมในความสำเร็จของเขาเนี่ยอันนี้ก็ห้าม
00:15:25 → 00:15:27 กันไม่ได้เนาแต่ว่าห้ามกันไม่ได้ห้ามกัน
00:15:27 → 00:15:29 ไม่ได้แต่ตัวเแค่จะไม่พาตัวเองวิ่งเข้าไป
00:15:29 → 00:15:32 หาแสงเจะไม่ช้างแสงอะไรมากมายแต่ว่าแสงจะ
00:15:32 → 00:15:34 เกิดขึ้นเองแล้วคนจะรับรู้เองออือเพราะ
00:15:34 → 00:15:37 ฉะนั้นแสดงว่าเราไม่ได้จำเป็นจะต้องเลียน
00:15:37 → 00:15:39 แบบเขาใช่มั้ยไม่ต้องครับไม่ต้องสุดท้าย
00:15:39 → 00:15:42 ผมว่าสำคัญคือให้เรากลับมาชัดกับตัวเองดี
00:15:42 → 00:15:45 กว่าว่าตัวเราอยากมีชีวิตประมาณไหนผมผม
00:15:45 → 00:15:47 เองก็เคยดูโซเชียลมีเดียแล้วก็อิจฉาคน
00:15:47 → 00:15:50 อื่นอ่าผมเห็นคนอื่นเขาแบบโหมีลูกค้าเยอะ
00:15:50 → 00:15:51 กว่าเราอันนี้เป็นเรื่องที่แบบเล่าเลบ่อย
00:15:52 → 00:15:54 ผมก็เห็นความอิจฉาในใจอืเพราะว่ามันจะมี
00:15:54 → 00:15:56 แบบอ่ะเพื่อนร่วมวงการที่เขาทำงานแล้วแบบ
00:15:56 → 00:15:59 โอ้โหลูกค้าเยอะจังเอาจจะพิมพ์โม้อย่าง
00:15:59 → 00:16:01 เงี้ยฮะผมก็แบบอยากกำจัดความอิจฉานี้จัง
00:16:02 → 00:16:05 อือเออทำไงดีนะผมก็คิดว่างั้นถ้าเรามีลูก
00:16:05 → 00:16:09 ค้าเท่าเค้าเราคงจะหาอิจฉาแล้วเป็นยังไง
00:16:09 → 00:16:12 เอ่อพอผมคิดเรื่องนี้ปั๊บผมก็คิดว่างั้น
00:16:12 → 00:16:15 ผมคงจะต้องทำบางสิ่งเพื่อทำให้ลูกค้าเยอะ
00:16:15 → 00:16:18 อืมเริ่มๆพยายามรคว
00:16:18 → 00:16:22 คึจะต้องเค้นตัวเองใช่ครับก็นึกถึงแบบอ่ะ
00:16:22 → 00:16:24 ต้องออกสื่อให้มากขึ้นต้องไลฟ์มากกว่านี้
00:16:24 → 00:16:27 ต้องเขียนบทความมากกว่านี้อ่าแต่ทุกอย่าง
00:16:27 → 00:16:29 มันใช้แรงอ่ะครับผมก็เห็นแล้วแล้วว่ามัน
00:16:29 → 00:16:31 เหนื่อยนะถ้าจะทำพวกนั้นน่ะเหนื่อยแต่
00:16:31 → 00:16:33 เอ้อเราอยากหาอิจฉาใช่มั้ยล่ะงั้นเราก็
00:16:33 → 00:16:36 ต้องยอมเหนื่อยใช่่มั้ยล่ะอนี่คือความคิด
00:16:36 → 00:16:39 ชุดแรกอออความคิดชุดแรกนะใชว่าชุดแรกอว่า
00:16:39 → 00:16:42 อ่ะโอเคงั้นเรายอมเหนื่อยทีนี้มันมีความ
00:16:42 → 00:16:44 คิดชุดที่ 2 ที่ตั้งคำถามขึ้นมาอีกว่า
00:16:44 → 00:16:46 สมมุติต่อให้เราแบบเหนื่อยแล้วผ่านตรงนี้
00:16:46 → 00:16:49 ไปเราได้จำนวนลูกค้าเท่าเเลยอ่ะอือฮึเรา
00:16:49 → 00:16:52 รู้สึกหายอิจฉาจริงๆใช่มั้ยคำตอบแรกที่
00:16:52 → 00:16:55 ได้คือใช่อาจจะหายอิจฉาอืแต่คำตอบที่ 2
00:16:55 → 00:16:59 ที่มันวิ่งตามมาคือความอิจฉาหายไปแต่มี
00:16:59 → 00:17:02 ความ burn Out เข้ามาแทนหมดไฟเลยเพราะ
00:17:02 → 00:17:04 เพราะเรารู้กำลังตัวเองดีว่าเราไม่ใช่คน
00:17:04 → 00:17:06 แรงเยอะอครับถ้าเราจะต้องมีลูกค้าแล้ว
00:17:06 → 00:17:08 เซอร์วิสให้ได้เยอะเท่าเ้าอ่ะอือผมเห็น
00:17:08 → 00:17:10 ตัวเอง burn Out ไปเลยอ่ะใช้พลังงานเยอะ
00:17:10 → 00:17:12 ขึ้นใช้พลังงานเยอะเกินไปแล้วมันก็จะ
00:17:12 → 00:17:15 เกลียดอาชีพตัวเองเคยเคยเห็นจุดนั้นมา
00:17:15 → 00:17:17 แล้วจุดที่แบบทำงานจนกระทั่งแบบอยาก
00:17:17 → 00:17:19 เปลี่ยนอาชีพอ่ะเฮ้ยมันกลายเป็นท็อกซิก
00:17:19 → 00:17:21 กับตัวเองขึ้นมาเฉยเลยเนาะทิตัวเองก็เลย
00:17:21 → 00:17:24 ถามตัวเองว่าเราจะกำจัดความอิจฉาแล้วให้
00:17:24 → 00:17:26 ได้ไอ้ความรู้สึกไม่ดีอีกอย่างนึงเข้ามา
00:17:26 → 00:17:29 เหรอโออันนี้ยังรู้เท่าทันความรู้สึกตัว
00:17:29 → 00:17:31 เองอันนี้ผมก็นั่งคิดถามว่าแบบเราต้องการ
00:17:31 → 00:17:34 อย่างงั้นจริงๆหรออแล้วเราจะพยายามกำจัด
00:17:34 → 00:17:36 ความอิจฉาด้วยวิธีการนี้มันจะคุ้มจริงๆ
00:17:36 → 00:17:38 หรออย่างเงี้ยฮะอือฮึเออสุดท้ายก็เลยคิด
00:17:38 → 00:17:40 ว่าไม่น่าใช่แล้วล่ะทางนี้ไม่น่าใช่อ่าก็
00:17:40 → 00:17:43 เลยถามตัวเองต่อว่าเอ๊ะแล้วเราจะพยายามทำ
00:17:43 → 00:17:46 ให้ลูกค้าเท่าเ้าทำไมอ่ะผมก็เลยไปแกะรอย
00:17:46 → 00:17:50 ได้ว่าอ๋อจำนวนลูกค้าเป็นตัวแทนการถูกยอม
00:17:50 → 00:17:54 รับอ๋อในอาชีพของตนเองว่าถ้าถ้ายิ่งมีคน
00:17:54 → 00:17:56 เข้ามาเหมือนคนยอดยอดขายไงฮะเหมือนถ้าคน
00:17:56 → 00:17:59 เข้าหาเยอะยอดขายเยอะยอดขายดีเราเราเราก็
00:17:59 → 00:18:03 จะผูกว่าความสำเร็จอยู่ที่ยอดอ่าใช่อ่าผม
00:18:03 → 00:18:05 ก็จะไปคิดเอาว่าอ๋อเราถูกยอมรับเยอะๆก็
00:18:05 → 00:18:07 เลยถามตัวเองต่อว่าเอ๊ะแล้วเราเป็นคนที่
00:18:07 → 00:18:11 ไม่ถูกยอมรับหรอก็ไม่เนาะเออผมก็มานั่ง
00:18:11 → 00:18:14 นึกว่าเฮ้ยที่ผ่านมาเราก็แบบได้ได้เซอร์ส
00:18:14 → 00:18:16 ลูกค้าหลายๆคนที่มาปรึกษาแล้วเาก็ชีวิตดี
00:18:16 → 00:18:19 ขึ้นต่อให้จะไม่ใช่ปริมาณที่แบบโอ้โห
00:18:19 → 00:18:22 อย่างล้นแต่แต่ทุกคนก็ได้คุณภาพกลับไปเรา
00:18:22 → 00:18:24 ก็รู้สึกว่างานเราก็มีคุณค่าหรือแม้
00:18:24 → 00:18:26 กระทั่งที่เราออกมาได้ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ
00:18:27 → 00:18:29 มาอัดเทปลงหมออืหรือแม้กระทั่งอื่นๆที่
00:18:30 → 00:18:32 เรามีโอกาสได้บรรยายสิ่งนี้ไม่เรียกว่า
00:18:32 → 00:18:34 สิ่งที่มีคุณค่าหรอแล้วสิ่งนี้การที่เขา
00:18:34 → 00:18:36 ให้เกียรติเราในการเชิญมาให้เราพูดอย่าง
00:18:36 → 00:18:39 เงี้ยครับไม่เรียกว่าการยอมรับหรอออืเออ
00:18:39 → 00:18:42 พอพอมานั่งระลึกอครับก็ดูว่าเฮ้ยจริงๆ
00:18:42 → 00:18:44 แล้วตัวเราไม่เห็นจะเป็นคนที่ไม่ถูกยอม
00:18:44 → 00:18:47 รับเลยนี่จริงๆแล้วตัวเราควรจะพอใจควรจะ
00:18:47 → 00:18:49 รู้สึกชื่นชมกับสิ่งที่เราได้ทำได้เป็น
00:18:49 → 00:18:52 ที่ผ่านมาด้วยซ้ำค่ะเออพอคิดวุมนี้ปั๊บก็
00:18:52 → 00:18:55 รู้สึกว่าเอ๊ะเราก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไป
00:18:55 → 00:18:57 แบบดิ้นรนเพื่อแบบกำจัดความอิจฉาก้อนนั้น
00:18:57 → 00:19:01 เลยอ่ะนี่เป็นชุดความคิดที่ 3 เลยค่อยๆ
00:19:01 → 00:19:03 สเต็ปทีละสเต็ปใช่ค่อยๆสเต็ปเราก็เลยวาง
00:19:03 → 00:19:06 ได้แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องไขวิญญาณ
00:19:06 → 00:19:09 ตัวเองเพื่อแบบเติบโตขึ้นแล้วก็ให้ให้แบบ
00:19:09 → 00:19:12 แข่งขันกับคนอื่นผมผมย้อนกลับไปที่ปรัชญา
00:19:12 → 00:19:14 ตอนสมัยก่อตั้งงานแรกๆหลังจากเรียนจบเนาะ
00:19:15 → 00:19:17 อือฮึเอ่อผมมีโอกาสได้ฟังชีวิตคนทำงานใน
00:19:17 → 00:19:20 ยุคปัจจุบันที่แบบค่อนข้างมีแรงกดดันสูง
00:19:20 → 00:19:22 อ่าใช่แล้วก็แบบต้องดิ้นรนต้องแข่งขัน
00:19:22 → 00:19:26 ต้องสู้ต้องทำยอดแล้วก็ชีวิตที่จะได้ใช้
00:19:26 → 00:19:28 กับตัวเองมันก็น้อยลงเพราะเวลาต้องไปทุ่ม
00:19:28 → 00:19:30 กับงานเวลาที่จะให้กับครอบครัวก็หายไป
00:19:30 → 00:19:33 เวลาที่จะใช้ชีวิตแบบไร้สาระบ้างก็หายไป
00:19:33 → 00:19:35 ผมก็รู้สึกว่าเฮ้ยนั่นไม่ใช่ชีวิตที่มัน
00:19:35 → 00:19:37 ควรจะเป็นเลยอ่ะแล้วตัวเราอยากเป็นยังไง
00:19:37 → 00:19:40 ล่ะค่ะเออปรัชญาตั้งต้นในการทำงานคือเรา
00:19:40 → 00:19:43 อยากมีชีวิตที่ได้ทำงานและก็ได้พักผ่อนใน
00:19:43 → 00:19:45 วมตัวเองได้ให้เวลากับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่
00:19:45 → 00:19:48 งานด้วยอย่างสมดุลนะครับอ่าฮะเออพอพอย้อน
00:19:49 → 00:19:51 กลับไปนึกตรงนี้ได้ก็รู้สึกว่าเอ๊ะที่เรา
00:19:51 → 00:19:54 ทำอยู่ก็ถูกทางแล้วนี่แล้วเราจะบ้าจี้
00:19:54 → 00:19:56 เปลี่ยนไปทางอื่นที่มันไม่ใช่ทำไมเอิ้น
00:19:56 → 00:19:59 กำลังจะบอกว่าจริงๆแล้วเนี่ยโอเคเราเห็น
00:19:59 → 00:20:02 ในโซเชียลในความสำเร็จเราผูกควเราเราเห็น
00:20:02 → 00:20:05 เราก็อยากเป็นแบบนั้นบ้างแต่เส้นทางเส้น
00:20:05 → 00:20:07 ทางแต่ละคนอาจจะไม่ได้เหมือนกันก็ได้ใน
00:20:07 → 00:20:10 ความสำเร็จอันนี้ในเชิงปริมาณของเราอาจจะ
00:20:10 → 00:20:13 เชิงคุณภาพแต่แค่ปริมาณไม่ได้เยอะเท่าแต่
00:20:13 → 00:20:16 มันมีคุณภาพกว่าใช่ค่ะอาจจะจากทางอื่นก็
00:20:16 → 00:20:19 ได้หละไม่ได้จำเป็นต้องมีเงินแบบเอามากอง
00:20:19 → 00:20:21 ข้างหน้าเหมือนกันหรือว่าฉันต้องได้นั่ง
00:20:21 → 00:20:27 ชั้นเ CL หรือได้เอ่อจิบแชมเปญจิบวายแล้ว
00:20:27 → 00:20:30 โชว์อะไรอย่าเงี้ยถึงจะแบบใช่เพราะว่าแต่
00:20:30 → 00:20:32 ละคนจะมีคือสุดท้ายเหมือนที่ผมย้ำกับทุก
00:20:32 → 00:20:35 คนเสมอว่ามนุษย์มักใช้ชีวิตวิ่งไปหาความ
00:20:35 → 00:20:38 พอใจอืแต่ประเด็นคือการได้มาซึ่งความพอใจ
00:20:38 → 00:20:40 เนี่ยแต่ละคนมันจะใช้ใช้ไม่เหมือนกันอ่า
00:20:40 → 00:20:42 เหมือนกินข้าวอ่ะทุกคนต้องการจะกินแล้ว
00:20:42 → 00:20:45 อิ่มค่ะแล้วต้องกินแล้วอร่อยด้วยแต่
00:20:45 → 00:20:47 ประเด็นคืออาหารที่ถูกจริตถูกปากเราอ่ะ
00:20:47 → 00:20:50 บางคนอาจจะชอบส้มตำค่ะแต่บางคนบอกว่าอยาก
00:20:50 → 00:20:53 กินพิซซ่าอืมันไม่ผิดเลยคือคนที่ชอบ
00:20:53 → 00:20:55 พิซซ่ากินก็จะรู้สึกว่าอร่อยค่ะแล้วก็
00:20:55 → 00:20:58 อิ่มด้วยแต่ถ้าคนก็ชอบรสชาติแบบไยๆหน่อย
00:20:58 → 00:21:01 กินส้มตำก็อิ่มแลอร่อยด้วยอือแสดงว่ามัน
00:21:01 → 00:21:04 ปลายทางได้เหมือนกันแต่แค่วิธีการเข้าอ่ะ
00:21:04 → 00:21:08 คนละทางอืแต่ไม่ผิดอ่ะมันกลายเป็นว่าจริง
00:21:08 → 00:21:10 ๆเราต้องมีความสุขหรือว่าเรารู้สึกว่าเออ
00:21:10 → 00:21:13 เนี่ยประสบความสำเร็จละด้วยด้วยความรู้
00:21:13 → 00:21:15 สึกของตัวเองใช่ครับไม่ใช่จากคนอื่นมาตัด
00:21:15 → 00:21:18 สินหรือเราต้องไปเห็นเขาว่าต้องเป็นแบบ
00:21:18 → 00:21:20 นั้นเราต้องเป็นแบบนั้นเท่านั้นใช่ใช่ใช่
00:21:20 → 00:21:21 ครับเพราะงั้นกว่าจะรู้จักตัวเองเนี่ย
00:21:22 → 00:21:24 โอ้โหบางคนกว่าจะค้นพบว่าตัวเองจริงๆแล้ว
00:21:24 → 00:21:26 ชีวิตต้องการอะไรอาจจะนานมากเลยฮะโอถ้า
00:21:26 → 00:21:29 อย่างงี้คือระหว่างทางเราไม่รู้ตัวเลย
00:21:29 → 00:21:32 อย่างของคุณเอิ้นเนี่ยก็ยังแบบมีแกว่งๆ
00:21:32 → 00:21:35 บ้างนะในบางครั้งแต่ก็ยังยังยังมีชุดความ
00:21:35 → 00:21:38 คิดแต่ทีนี้ถ้าเกิดว่าเอ้ยเราหลงไปกับตรง
00:21:38 → 00:21:41 จุดนั้นหรือว่าแบบอะไรอย่างเงี้ยเราจะทำ
00:21:41 → 00:21:43 ยังไงได้บ้างมยมีคำแนะนำมั้ยผมว่าผมว่า
00:21:43 → 00:21:46 ตั้งต้นจากการรู้ตัวก่อนว่าเอ่อทางที่เรา
00:21:46 → 00:21:48 ไปมันเกิดความกดดันเกิดความอึดอัดอย่าง
00:21:48 → 00:21:50 เงี้ยครับเพราะผมมองว่าทางที่ถูกต้องมัน
00:21:50 → 00:21:53 จะทำให้เราสบายใจแต่ทางที่ไม่ค่อยโถก
00:21:53 → 00:21:55 เนี่ยจะทำให้เราอึดอัดเสมอมันอาจจะสบายใจ
00:21:55 → 00:21:59 ในช่วงแรกแต่สพักระยะยาวลองรู้ไปครับมัน
00:21:59 → 00:22:01 จะมีผลลัพธ์บางอย่างที่เราไม่สบายใจมัน
00:22:01 → 00:22:04 วัดกันเล็กๆสั้นๆระยะทางแค่นี้ไม่ได้ใช่
00:22:04 → 00:22:06 ครับของพวกนี้ผมว่าเราอาจจะไม่มีทางรู้
00:22:06 → 00:22:08 เร็วเร็วก็ได้อาจจะต้องใช้เวลาบ่มกับตัว
00:22:08 → 00:22:11 เองสักพักนึงจนกระทั่งเห็นข้อเท็จจริงบาง
00:22:11 → 00:22:13 อย่างอือซึ่งผมว่าตรงเมันเป็นประโยชน์ใน
00:22:13 → 00:22:15 เชิงการเรียนรู้และการรู้จักตัวเองค่ะเอ
00:22:15 → 00:22:18 ต่อให้เราจะฉลบออกนอกทางไปบ้างผมว่าก็ฉลบ
00:22:18 → 00:22:20 ไปเถอะแล้วขอให้เราคล้ายๆเอาประสบการณ์
00:22:20 → 00:22:22 ตอนที่ฉลบออกไปแล้วไม่ใช่ทางเนี่ยมาจดจำ
00:22:22 → 00:22:25 ให้ได้ว่าอ๋ออันนี้ไม่ใช่อืเพื่อให้หาอัน
00:22:25 → 00:22:27 ที่ใช่กว่าค่ะสุดท้ายของพวกนี้เป็นอะไร
00:22:27 → 00:22:30 ที่ค่อยๆเรดรู้ค่อยๆค่อยๆหาทางว่าอะไรใช่
00:22:30 → 00:22:32 ไม่ใช่ของผมเนี่ยไอ้ตอนชลปที่เล่าให้ฟัง
00:22:32 → 00:22:35 อ่ะครับน่าจะแบบไปไปเริ่มเรียนรู้สิ่งนี้
00:22:35 → 00:22:38 ประมาณ 2-3 ปีที่แล้วเองอ้อไม่นานนะไม่
00:22:38 → 00:22:40 นานไม่นานทำงานตรงนั้นมาน่าจะ 4 ปีกว่า
00:22:41 → 00:22:43 แล้วฮะแล้วก็แบบมีเหตุการณ์พวกเที่มัน
00:22:43 → 00:22:46 วิ่งมากวนใจบ่อยๆในโซเชียล Media แล้วก็
00:22:46 → 00:22:49 นึกทบทวนกับตัวเองบ่อยๆนึกไปนึกมาอ๋อมัน
00:22:49 → 00:22:51 เป็นอย่างงี้ค่ะแล้วผมว่าจริงๆปรากฏการณ์
00:22:51 → 00:22:54 ที่ผมเป็นนะครับคนอื่นก็เป็นเห็นคนอื่น
00:22:54 → 00:22:57 โพสต์นู่นโพสต์นี่แล้วก็แบบแกว่งแกว่งเอง
00:22:57 → 00:23:00 สุดท้ายอยากจะบอกว่าการการหยุดใช้โซเชียล
00:23:00 → 00:23:04 บ้างหรือการลดการมองเห็นสิ่งเร้าสิ่ง
00:23:04 → 00:23:06 กระตุ้นโพสต์ต่างๆหรือที่เขาจะเรียกว่า
00:23:06 → 00:23:09 โซเชียลดีทอกเนี่ยครับอันนี้ผมแนะนำอยาก
00:23:09 → 00:23:11 ให้ทุกคนลองใช้ดูเหมือนกันอ่าว่างเว้น
00:23:11 → 00:23:13 บ้างใช่่เพราะไม่งั้นหัวเราจะถูกดึงเข้า
00:23:13 → 00:23:16 ไปในในโซเชียลมีเดียแล้วพอหยุดเล่นนะครับ
00:23:16 → 00:23:18 ภาพมันจะยังวนในหัวเราว่าคนอื่นเขามีเรา
00:23:18 → 00:23:21 ไปเห็นโรคอะไรมาของคนอื่นมันก็ติดมาในหัว
00:23:21 → 00:23:23 เราอ่ะครับเพราะงั้นบางครั้งการการหยุด
00:23:23 → 00:23:25 ใช้การงดการใช้บ้างอันเนี้ยเป็นส่วนสำคัญ
00:23:25 → 00:23:28 ที่จะคล้ายๆดึงตัวเรากลับมาล้างพิออกไป
00:23:28 → 00:23:32 บ้างครับอยู่กับตัวเองบ้างนะคะไม่งั้นจะ
00:23:32 → 00:23:35 ท็อกซิกไปกับตัวเองเดี๋ยก็โซเชียลมันก็
00:23:35 → 00:23:38 เชื่ออะไรไม่ได้ทั้งหมดอไม่ใช่ทั้งหมด
00:23:38 → 00:23:39 หรอกมันก็มีทั้งจริงแต่มันอาจจะจริงแค่
00:23:40 → 00:23:42 บางส่วนหรือเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการ
00:23:42 → 00:23:44 ที่คนๆนั้นได้สิ่งนั้นมาเแลกเปลี่ยนกับ
00:23:44 → 00:23:47 อะไรบ้างอ่าใช่เออเราจะแลกด้วยมั้ยล่ะ
00:23:47 → 00:23:49 อย่างเงี้ยฮะผมก็บางอย่างก็เห็นคนอื่นเข
00:23:49 → 00:23:51 มีแล้วก็เออก็ดีแต่เราไม่ได้อยากแลกเออ
00:23:51 → 00:23:53 ไหวป่ะล่ะเราอาจจะไม่ได้อยากมีก็ให้คน
00:23:53 → 00:23:56 อื่นเขามีไปอสุดท้ายเรากลับมาสร้างสิ่ง
00:23:56 → 00:23:58 ที่เท่าที่เราจำเป็นต้องใช้อ่ะครับค่ะคือ
00:23:58 → 00:23:59 คือเหมือนกับว่าเรารู้ความต้องการของตัว
00:23:59 → 00:24:02 เองอ่ะเนาะใช่ๆบางอย่างไปไปสร้างแบบเยอะ
00:24:02 → 00:24:05 แยะมากมายสุดท้ายเราไม่ได้ใช้ทั้งหมดมัน
00:24:05 → 00:24:07 ก็ดูแบบเปลืองอ่ะมันดูไปแลกออกมาทำไมก็
00:24:08 → 00:24:09 ไม่รู้อย่างเงี้ยใช่เราจะมาเหนื่อยมาก
00:24:09 → 00:24:12 เกินไปทำไมบางทั้ที่จริงๆมันมีอีกหลายหน
00:24:12 → 00:24:14 ทางที่เราจะสำเร็จได้ในรูปแบบของเราใช่ใน
00:24:14 → 00:24:17 แบบความเป็นแบบเราใช่แต่นี้ว่ากันไม่ได้
00:24:17 → 00:24:19 บางคนชอบขึ้นที่สูงบางคนเสนุกกับการได้
00:24:19 → 00:24:21 ท้าทายตัวเองเรื่อยๆว่าขึ้นสูงได้เท่า
00:24:21 → 00:24:24 ไหร่ก็ไม่ว่ากันถ้าเชอบแต่ถ้าเรารู้ตัวดี
00:24:24 → 00:24:26 ว่าแบบเราไม่ได้เป็นคนอยากปีนเคลื่อนที่
00:24:26 → 00:24:27 สูงอ่ะครับเราต้องรู้ให้ทันว่าเราต้อง
00:24:27 → 00:24:30 อยู่ประมาณไหนเออเป็นแนวกลัวความสูงค่ะ
00:24:30 → 00:24:33 อยู่ลบบแต่สูตัวผมไม่ได้วิ่งหาความสูงนะ
00:24:33 → 00:24:35 ตัวผมตัวผมมองหาความรู้สึกเบาที่มากขึ้น
00:24:35 → 00:24:39 นะครับใช่ๆมันน่าจะเป็นเพราะอายุที่มาก
00:24:39 → 00:24:41 ขึ้นครับพออายุมากขึ้นก็แบบอยากเบากว่า
00:24:41 → 00:24:44 นี้ได้มั้ยใช่เริ่มตกตกอความคิดได้นะคะ
00:24:44 → 00:24:47 จากที่แบบอาจจะเคยแบบหูมีพลังลดเหลือในใน
00:24:47 → 00:24:50 วันที่มีแรงแต่วันนี้คือแบบว่าเฮ้ยพื้น
00:24:50 → 00:24:53 ฐานแค่เอาแบบแค่เนี้ยในแต่ละวันน่ะให้มัน
00:24:53 → 00:24:56 มีความสุขอ่ะมันแค่นั้นเองไม่ได้มีอะไรอื
00:24:56 → 00:24:59 เพราะสุดท้ายปลายทางเราก็เอาอะไรไปไม่ได้
00:24:59 → 00:25:01 ทั้งหมดอือเพียงแต่ว่าชื่อเสียงอาจจะยัง
00:25:01 → 00:25:04 อยู่ก็ได้ครับนะคะอ่ะเอาเอาความจริงหรือ
00:25:04 → 00:25:08 จะเอาในโซเชียลมาใช้ในชีวิตเราหรืออยากจะ
00:25:08 → 00:25:10 เป็นแบบไหนก็อยู่ที่ตัวเรานะคะขอบคุณคุณ
00:25:10 → 00:25:13 เอิ้นค่ะครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะหมดเวลา
00:25:13 → 00:25:15 แล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ
00:25:15 → 00:25:18 รายการโรงหมอทางไทย PBS podcast ค่ะวัน
00:25:18 → 00:25:21 นี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This Is Toy
00:25:21 → 00:25:24 PBS podcast ต่อมไทรรอยด์มีประโยชน์ต่อ
00:25:24 → 00:25:27 ร่างกายแต่สำหรับบางคนอาจก่อให้เกิดโรค
00:25:27 → 00:25:29 และมีผลข้าเคียงจากต่อมนี้ได้ในแพทย์
00:25:29 → 00:25:32 ศิรสิทธิ์เลาหทัยศัลยแพทย์เฉพาะทางจากโรง
00:25:32 → 00:25:36 พยาบาลสิครินมาเล่าให้ฟังครับต่อม
00:25:36 → 00:25:38 ไทรรอยด์นะครับก็จะเป็นต่อมไร้ท่อนะครับ
00:25:38 → 00:25:41 เป็นต่อมขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายตำแหน่ง
00:25:41 → 00:25:43 จะอยู่บริเวณกลางลำคอนะครับหน้าที่ก็คือ
00:25:43 → 00:25:46 จะผลิตตัวฮอร์โมนไทรรอยด์ฮอร์โมนไทรรอยด์
00:25:46 → 00:25:49 เนี่ยจะควบคุมเมตาบอลิซึมของร่างกายก็คือ
00:25:49 → 00:25:52 อย่างเช่นควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจความ
00:25:52 → 00:25:55 ดันอุณหภูมิของร่างกายโรคไทรรอยด์เนี่ย
00:25:55 → 00:25:57 มันเป็นคำกว้างๆนะครับแต่จริงๆแล้วเนี่ย
00:25:57 → 00:26:00 ถ้าเราเจาะลึกลงไปเนี่ยมันจะมีพวก
00:26:00 → 00:26:04 ไทรรอยด์สูงไทรรอยด์ต่ำแล้วก็เป็นพวกโรค
00:26:04 → 00:26:06 ที่เกิดจากก้อนที่ต่อมไทรรอยด์ตัว
00:26:06 → 00:26:08 ไทรรอยด์สูงเนี่ยบางคนจะเรียกว่าเป็น
00:26:08 → 00:26:12 ไฮเปอร์ไทรรอยด์ก็จะมีอาการกระสับกระส่าย
00:26:12 → 00:26:16 อารมณ์แปรปรวนนอนไม่หลับใจสั่นขี้ร้อนกิน
00:26:16 → 00:26:20 จุแต่ว่าน้ำหนักลงนะครับแล้วก็ 70% เนี่ย
00:26:20 → 00:26:22 มีอาการมือสั่นได้ฮอร์โมนไทรอยด์สูงเนี่ย
00:26:22 → 00:26:25 เกิดขึ้นได้จากว่าบางโรคเนี่ยนะครับก็
00:26:25 → 00:26:28 เกิดจากคุมคุ้มกันไปกระตุ้นการทำงานของต
00:26:28 → 00:26:30 ไทรอยด์นะครับแล้วก็บางโรคก็เกิดจากว่า
00:26:30 → 00:26:32 ต่อมไทรรอยด์เนี่ยสามารถผลิตฮอร์โมนได้
00:26:32 → 00:26:35 เองนะครับทำให้ฮอร์โมนสูงขึ้นส่วนอีกอัน
00:26:35 → 00:26:38 นึงนะครับโรคไทรรอยด์ต่ำนะครับค่ะหรือว่า
00:26:38 → 00:26:41 ไฮโปไทรอยด์อันนี้ก็จะทำให้มีตัวบวมน้ำ
00:26:41 → 00:26:45 หนักขึ้นเฉื่อยชาขี้หนาวได้พวกนี้เนี่ยใน
00:26:45 → 00:26:47 อดีตนะครับเราก็จะเห็นว่าเกิดจากคนที่ขาด
00:26:47 → 00:26:50 iod นะครับก็จะเห็นว่ามีคอพอกนะครับแล้ว
00:26:50 → 00:26:52 ก็มีฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำร่วมด้วยตอนเนี้ย
00:26:53 → 00:26:55 เอ่อโรคคอพ่เนี่ยค่อนข้างน้อยละเราจะเจอ
00:26:55 → 00:26:57 ฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำได้ในคนที่เป็นโรค
00:26:57 → 00:27:00 ไทรอยดอักเสบบางชนิดก้อนนต่อมไทรอยด์
00:27:00 → 00:27:02 เนี่ยจริงๆเราเจอกันได้เยอะมากคือในอดีต
00:27:02 → 00:27:04 เราเจอกันได้น้อยเพราะว่าเราจะเจอจากการ
00:27:04 → 00:27:06 คลำอย่างเดียวแต่ในปัจจุบันเนี่ยคนเรา
00:27:06 → 00:27:09 เริ่มมีการห่วงใยสุขภาพตนเองมากขึ้นนะ
00:27:09 → 00:27:12 ครับไม่มีการตรวจอัลตร้าซาวทำอะไรกันเยอะ
00:27:12 → 00:27:15 ขึ้นเราก็จะได้เจอกันเยอะมากตัวก้อนนิ
00:27:15 → 00:27:17 ต่อมไทรรอยด์เนี่ยเราเจอได้ถึงสัก 50%
00:27:17 → 00:27:19 ของคนทั่วไปเลยแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะคไม่
00:27:19 → 00:27:22 ได้แล้วไม่มีอากาศส่วนใหญ่แล้วเนี่ยเราจะ
00:27:22 → 00:27:24 เจอในผู้หญิงผู้หญิงจะเจอได้มากกว่าผู้
00:27:24 → 00:27:27 ชายประมาณ 4 เท่าเลยคือมันไม่ได้มีสาเหตุ
00:27:27 → 00:27:29 ที่เป็นเฉพาะเจาะจงว่าทำไมผู้หญิงถึงจะ
00:27:29 → 00:27:32 ต้องมากกว่าผู้ชายจริงๆแล้วถึงแล้วเราเจอ
00:27:32 → 00:27:34 ได้เยอะนะครับแต่ส่วนใหญ่เนี่ยมันเป็น
00:27:34 → 00:27:37 ก้อนที่ปกติดีไม่ได้เป็นมะเร็งหรือว่าไม่
00:27:37 → 00:27:39 ได้เป็นอะไรที่น่ากลัวนะครับโอกาสที่จะ
00:27:39 → 00:27:44 เป็นมะเร็งเนี่ยก็ประมาณสัก 4-7 เ
00:27:44 → 00:27:48 เอง This Is Toy PBS
00:27:48 → 00:27:52 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:27:52 → 00:27:55 Application ของ Thai PBS podcast
00:27:55 → 00:27:58 spotify Sou Cloud Google podcast
00:27:58 → 00:28:00 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:00 → 00:28:04 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:04 → 00:28:07 View the world via The Voice
00:28:07 → 00:28:12 [เพลง]