00:00:01 → 00:00:05 การที่ผมเข้ามาอยู่ตรงนี้ มันก็มีแง่มุมที่ช่วยชีวิตผมเหมือนกัน
00:00:05 → 00:00:08 ถ้าผมยังไม่โดนจับ ผมอาจจะใช้ชีวิตเละเทะกว่านี้
00:00:08 → 00:00:10 อาจจะเสียชีวิตเพราะยาไปแล้วก็ได้
00:00:10 → 00:00:13 [เสียงดนตรี]
00:00:13 → 00:00:16 การใช้ชีวิตในเรือนจำเป็นอะไรที่ยาก และใหม่สำหรับเรา
00:00:16 → 00:00:19 การใช้ขันน้ำในการทำธุระ
00:00:19 → 00:00:23 ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน การใช้ทำธุระหนักเบาต่าง ๆ
00:00:23 → 00:00:24 เราไม่เคยใช้
00:00:24 → 00:00:26 ในสมัยนั้นนี่ ในเรือนจำก็ค่อนข้างแออัด
00:00:26 → 00:00:29 เราก็ต้องมากินข้าวกับขัน
00:00:29 → 00:00:32 [เสียงดนตรี]
00:00:32 → 00:00:35 วันนั้นนี่ที่เป็นคดีความโดนจับ คือทุกอย่างมันพังพินาศมาก ๆ
00:00:35 → 00:00:37 วันที่เราไม่เหลือใคร
00:00:37 → 00:00:41 ไม่เหลือแม้กระทั่งเพื่อนสักคนหนึ่ง ก็จะมีครอบครัวนี่แหละที่คอยดูแลเรา
00:00:42 → 00:00:47 [เสียงดนตรี]
00:00:47 → 00:00:49 วู้ !
00:00:49 → 00:00:51 - สวัสดีค่ะ - สวัสดีครับหมอเอ๋
00:00:51 → 00:00:54 จริง ๆ รู้จักมาตั้งนานแล้ว ต้องบอกว่าทันนะ อันนี้ทัน
00:00:54 → 00:00:57 ทันตอนสมัยที่ยังดังมาก ๆ นะคะ
00:00:57 → 00:00:59 ยุค 2000 วัยรุ่นยุค 2000
00:00:59 → 00:01:00 เพราะตอนนั้นเป็นวัยรุ่น
00:01:00 → 00:01:01 [เสียงหัวเราะ]
00:01:01 → 00:01:03 - อันนั้น Y2K ยุคนั้นเลย Y2K - ใช่ค่ะ
00:01:03 → 00:01:05 วันนี้เราจะคุยกันนิดนึง
00:01:05 → 00:01:09 คือหลาย ๆ คนก็คงจะรับทราบเรื่องราวของคุณแพท ผ่านทางสื่อเยอะแยะเลยนะคะ
00:01:09 → 00:01:10 ใช่ ใช่ครับ
00:01:10 → 00:01:14 วันนี้เราอยากจะเรียนรู้ หรือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันนิดนึง
00:01:14 → 00:01:15 โอ้ ยินดีมากเลยครับคุณหมอครับ
00:01:15 → 00:01:18 [เสียงดนตรี]
00:01:18 → 00:01:20 คือผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่รักดนตรี
00:01:20 → 00:01:25 แล้วก็เดินมาในเส้นทางสายดนตรี ฝึกซ้อม บริหารประสบการณ์มาเรื่อย ๆ
00:01:25 → 00:01:25 ค่ะ
00:01:25 → 00:01:31 จนมีผู้ใหญ่เห็นอะไร ก็เลยเข้าไปสู่วงการเพลงตามที่เราฝัน
00:01:31 → 00:01:34 เป็นอาชีพเดียวดีกว่านะ ที่เราอยู่ในหัวตอนนั้นเลยนะ
00:01:34 → 00:01:38 ก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่รักดนตรี แล้วก็รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กนะ แล้วก็ได้ทำ
00:01:38 → 00:01:42 โดยพื้นฐานก็อาจจะเป็นเด็กที่พูดน้อยนะครับ แล้วก็เพื่อนไม่เยอะ
00:01:42 → 00:01:45 แล้วก็มีโลกส่วนตัวสูง เป็นคนชอบฟังเพลง
00:01:45 → 00:01:49 แล้วก็จะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเรา
00:01:49 → 00:01:52 เพราะว่าเหมือนกับคุยภาษาเดียวกัน ไม่ค่อยเข้าใจ
00:01:52 → 00:01:52 ค่ะ
00:01:53 → 00:01:59 สมัยก่อนนี่มันไม่มีพวกสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่จะทำให้คนที่ชอบเรื่องเดียวกันมาคุยกัน
00:01:59 → 00:02:00 มาคุยกันเป็นสังคมของเรา
00:02:00 → 00:02:01 ใช่ เป็นสังคมของเรา
00:02:01 → 00:02:05 แต่ว่า ณ ตอนนั้นนี่ หันไปทางไหนก็ไม่มีใครรู้เรื่องดนตรี
00:02:05 → 00:02:07 หันไปทางไหนก็แบบ… ไม่ได้ฟังเพลงเหมือนเราอะไรอย่างนี้
00:02:08 → 00:02:10 เราก็เป็นเด็กวัยรุ่นคนนึง ที่รู้สึกคนอื่นไม่เข้าใจ
00:02:11 → 00:02:12 แล้วก็เพื่อนที่โรงเรียนที่เราเรียนนี่
00:02:12 → 00:02:16 ก็น้อยคนมากที่เล่นดนตรี หรือฟังเพลงคล้าย ๆ เรา
00:02:16 → 00:02:18 เราก็รู้สึกแปลกแยกในสังคม แล้วก็ยิ่งเก็บตัว
00:02:18 → 00:02:23 อีกอย่างหนึ่ง ในยุคนั้นนี่จะมี เขาเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมของ Rockstar
00:02:23 → 00:02:24 อืมฮึ
00:02:24 → 00:02:26 เราก็ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศมาเยอะนะ
00:02:26 → 00:02:28 เพราะว่าศิลปินที่เราชื่นชอบชื่นชมนะ
00:02:28 → 00:02:33 วงร็อกหลาย ๆ วง ก็มีวัฒนธรรมของ Rockstar ที่อาจจะผิด ๆ
00:02:34 → 00:02:35 เช่น ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
00:02:35 → 00:02:38 ต้องมีเรื่องของชีวิตโลดโผนอะไรต่าง ๆ
00:02:38 → 00:02:40 มันเป็นความอยากลอง
00:02:40 → 00:02:45 เป็นความอยากลอง แล้วเราก็มองในเรื่องของ การตามไอดอลด้วยวิธีผิด ๆ
00:02:45 → 00:02:50 เลียนแบบในรูปแบบที่เราไม่ได้ไปมองถึง ผลลัพธ์ที่จะตามมาของคนนั้น ๆ
00:02:50 → 00:02:54 คือแอบถามในลักษณะที่ว่า ณ ตอนนั้นเราคิดว่า มันไม่เป็นไรหรอก
00:02:54 → 00:02:57 เดี๋ยวมันคงไม่ติดหรอก หรือว่าคิดว่ายังไง
00:02:57 → 00:03:00 เราคิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้ มันถึงจะเป็นวิถีทางของ Rockstar
00:03:00 → 00:03:01 อ๋อ ค่ะ
00:03:01 → 00:03:02 ต้องเป็นแพทเทิร์นนะ
00:03:02 → 00:03:05 เพราะว่าศิลปินที่เราชื่นชอบ เขาก็ประสบความสำเร็จในระดับโลกอะไรอย่างนี้
00:03:05 → 00:03:06 เราก็คิดแบบนั้น
00:03:06 → 00:03:08 โดยที่เราไม่ได้ไปมองว่าสุดท้ายแล้ว
00:03:09 → 00:03:11 ศิลปินหลาย ๆ คน ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนี่
00:03:11 → 00:03:15 มีมากมายที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย อะไรอย่างนี้ ก็น่าเสียดายมาก
00:03:15 → 00:03:20 บางคนก็โดนยาเสพติดกัดกินสมองร่างกาย จนไม่สามารถที่จะทำงานได้
00:03:20 → 00:03:24 บางคนก็ได้รับผลกระทบในเรื่องของครอบครัว ที่มีปัญหาแตกแยก
00:03:24 → 00:03:26 ขออนุญาตถามว่าเวลาตอนที่เราใช้
00:03:26 → 00:03:30 มันทำให้เรารู้สึกว่า มันมีผลดีผลเสียกับเราอย่างไร
00:03:30 → 00:03:32 คือมันดีช่วงแรก
00:03:32 → 00:03:36 [เสียงดนตรี]
00:03:36 → 00:03:39 รู้สึกมีความสุข รู้สึก โอ้โห นี่แหละเป็นเพื่อนเรา
00:03:39 → 00:03:41 รู้สึกมันไม่เหงา รู้สึกนี่แหละคือสิ่งที่เข้าใจเรา
00:03:41 → 00:03:45 แต่ผลกระทบที่ตามมาหลังจากที่เรารู้สึกดี Feel good กับมันนี่
00:03:45 → 00:03:47 คือความสุขที่เราได้รับตอนแรก คือมันน้อยนิดมาก
00:03:47 → 00:03:52 ถ้าเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ที่มันตามมา ทั้งเรื่องของจิตใจ มันก็เริ่มมีผล
00:03:52 → 00:03:53 หมายถึงหลังจากนั้น
00:03:53 → 00:03:59 ใช่ หลังจากนั้นมันก็เริ่มมีความวิตกกังวล เริ่มรู้สึกร่างกายมันไม่ปกติ
00:03:59 → 00:04:00 โอเค
00:04:00 → 00:04:03 แล้วก็รับประทานอะไรก็ไม่ค่อยได้
00:04:03 → 00:04:05 ไม่ค่อยอยากอาหาร
00:04:05 → 00:04:08 พอเราพักผ่อนน้อย ไม่ได้นอน
00:04:08 → 00:04:11 บวกกลับไม่ค่อยได้ทานอะไร แล้วก็ยังรับสารเคมีเข้าร่างกาย
00:04:12 → 00:04:14 มันก็ทำให้ร่างกายค่อย ๆ แย่ลงไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ
00:04:14 → 00:04:17 แล้วก็มีผลต่อจิตประสาทของเรา
00:04:17 → 00:04:20 แล้วคุณพ่อคุณแม่เราแบบสนิทกันยังไงไหม
00:04:20 → 00:04:26 ผมค่อนข้างจะห่างจากครอบครัวเพราะว่า ผมออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
00:04:26 → 00:04:29 ตามหาความฝันตั้งแต่อายุประมาณ 17 ปี
00:04:29 → 00:04:29 อืม
00:04:29 → 00:04:33 ก็คือว่าหิ้วเสื้อผ้ากับกีตาร์ตัวนึง ออกมาจากบ้านเลย
00:04:33 → 00:04:34 อืม
00:04:34 → 00:04:37 คือตั้งใจเลยว่าจะมาเป็นนักดนตรี จะมาเป็นศิลปิน
00:04:37 → 00:04:38 โอเค อาชีพเดียวเลย
00:04:38 → 00:04:41 อาชีพเดียว แล้วก็เลยออกมาตามความฝัน
00:04:41 → 00:04:44 ออกจากบ้าน เพราะฉะนั้น ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาครอบครัว
00:04:44 → 00:04:48 ค่อนข้างที่จะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยเห็น ความสำคัญหรือไม่ค่อยเข้าใจ
00:04:48 → 00:04:53 ในเรื่องของความอบอุ่น หรือว่าความสำคัญของสถาบันครอบครัวแบบนี้ครับ
00:04:53 → 00:04:57 จะมาเข้าใจแล้วก็รับรู้ว่า เออ เรามีครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น
00:04:57 → 00:05:00 คือตอนที่เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำแล้ว
00:05:00 → 00:05:01 ณ วันที่เราไม่เหลือใคร
00:05:02 → 00:05:05 ไม่เหลือแม้กระทั่งเพื่อนสักคนหนึ่ง ก็จะมีครอบครัวนี่แหละที่คอยดูแลเรา
00:05:05 → 00:05:08 การตัดสินใจ การคบเพื่อน การเข้าไปยุ่งกับยาเสพติด
00:05:09 → 00:05:14 รวมทั้งการขาดความรู้ต่าง ๆ เรื่องของกฎหมายความรุนแรงของยาเสพติดต่าง ๆ
00:05:14 → 00:05:17 พอเราเข้าไปอยู่ในวงจรยาเสพติดแล้ว
00:05:17 → 00:05:21 ก็จะเริ่มรู้จักคนที่อยู่ในวงจรเดียวกัน เยอะมากขึ้น
00:05:21 → 00:05:21 ค่ะ
00:05:21 → 00:05:23 ก็ทำให้แบบ…ถลำลึก
00:05:24 → 00:05:30 แล้วก็ไปเป็นเครื่องมือของ...เขาเรียก กระบวนการค้ายาเสพติดโดยที่เราไม่รู้ตัว
00:05:30 → 00:05:35 ณ วันนั้นนี่ที่เป็นคดีความโดนจับ คือทุกอย่างมันพังแล้ว พังพินาศมาก ๆ
00:05:35 → 00:05:38 ทั้งอาชีพที่รักนะครับ แล้วก็เรื่องของชื่อเสียงต่าง ๆ
00:05:38 → 00:05:41 เรื่องทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ามันไม่เหลืออยู่แล้ว
00:05:41 → 00:05:44 แล้วก็เรื่องของครอบครัวที่ต้องอับอาย
00:05:44 → 00:05:46 ต้องเดือดร้อนจากเรื่องราวของเราต่าง ๆ
00:05:46 → 00:05:51 คือมันเป็นช่วงเวลาแค่ข้ามคืน เรายังนึกว่ามันฝันไปหรือเปล่า
00:05:51 → 00:05:54 แค่ข้ามคืนจริง ๆ ชีวิตมันพลิกเปลี่ยนไปหมด
00:05:54 → 00:05:55 ตอนนั้นก็ค่อนข้างช็อก แล้วก็
00:05:55 → 00:06:00 แล้วก็พยายามบังคับตัวเอง ให้อยู่กับความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด
00:06:00 → 00:06:02 ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพยายามตั้งสติ
00:06:02 → 00:06:04 ยิ่งตอนที่ตัวเองถูกส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำ
00:06:04 → 00:06:07 คือมันเป็นสถานที่ ที่มันใหม่สำหรับเราทุกอย่าง
00:06:07 → 00:06:10 แล้วเราเกิดความกังวลใจมาก ๆ
00:06:10 → 00:06:14 ว่าเราจะเจออะไรบ้างกับชีวิตที่เราจะต้องอยู่ นับจากนี้เป็นต้นไป
00:06:14 → 00:06:14 ค่ะ
00:06:14 → 00:06:17 ใช้เวลานานเท่าไหร่คะในความรู้สึก ของตัวเองที่เรารู้สึก คือแต่ละคน...
00:06:17 → 00:06:18 ปรับตัวใช่ไหม
00:06:18 → 00:06:23 ใช่ เพราะว่ามันเริ่มต้นจากคนที่แบบ อยู่ในจุดที่มีทุกอย่าง
00:06:23 → 00:06:23 ครับ
00:06:23 → 00:06:26 แล้วก็อยู่แค่ข้ามคืนเปลี่ยนไป
00:06:26 → 00:06:29 ทีนี้สิ่งที่ทำให้เราปรับตัวตรงนี้ค่ะ
00:06:29 → 00:06:31 เออ...ใช้เวลาร่วมเดือนเนอะ
00:06:31 → 00:06:34 ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเปล่า เป็นคนที่เหมือนกับว่า
00:06:34 → 00:06:36 พยายามอยู่กับปัจจุบันได้เร็ว
00:06:36 → 00:06:38 แล้วก็พยายามที่จะปรับตัว
00:06:38 → 00:06:39 ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า
00:06:40 → 00:06:47 ทำยังไงก็ได้ให้เราเอาชีวิตรอดอยู่ อยู่ได้ แล้วก็ปลอดภัยนะครับ
00:06:47 → 00:06:51 ผมก็เลยคิดว่า เราน่าจะทำหรือปรับตัวให้ได้เร็วที่สุด
00:06:51 → 00:06:54 เราต้องทำตัวให้เข้ากับเพื่อนที่อยู่ข้างใน ได้เร็วที่สุด
00:06:54 → 00:06:57 เพราะว่าเราเข้าไปในสถานะที่ไม่เหมือนคนปกติ
00:06:57 → 00:06:59 เราก็เป็นแบบทุกคนรู้
00:06:59 → 00:06:59 รู้จักเรา
00:06:59 → 00:07:03 รู้จักเราว่าเป็นศิลปิน เป็นดาราตามที่เขาเข้าใจนี่
00:07:03 → 00:07:04 เพราะฉะนั้น เราจะโดนเพ่งเล็งมาก ๆ
00:07:05 → 00:07:06 ว่าเราจะได้รับอภิสิทธิ์ไหม
00:07:06 → 00:07:09 เราจะใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่น เราจะหยิบโหย่งหรือเปล่า
00:07:10 → 00:07:13 เราจะปฏิบัติตามกฎระเบียบ ได้เหมือนคนอื่นไหมอะไรอย่างนี้
00:07:13 → 00:07:17 ผมก็เลยพยายามที่จะทำทุกอย่าง ให้เหมือนคนอื่นได้เร็วที่สุด
00:07:17 → 00:07:18 เป็นคน Positive มากค่ะ
00:07:18 → 00:07:18 ครับ
00:07:19 → 00:07:22 คือเราไม่อยากให้คนเกลียดเรา พูดง่าย ๆ เพราะยังไงเราก็ต้องอยู่
00:07:22 → 00:07:25 ผมก็เลยพยายามปรับตัวในทุก ๆ ด้าน
00:07:25 → 00:07:27 แต่มันก็เหนื่อยและมันก็ยาก
00:07:27 → 00:07:31 แล้วเราก็จำเป็นที่จะต้องแบบเรียนรู้มาก ๆ
00:07:31 → 00:07:32 ผ่านมาจากตรงนั้นค่ะ
00:07:32 → 00:07:37 สิ่งที่เราได้เรียนรู้ทั้งในด้านบวกและด้านลบ จากการใช้ชีวิตตรงนั้นคืออะไรบ้างคะ
00:07:37 → 00:07:40 ณ ตอนนั้นผมคิดได้แน่ ๆ เลย บอกว่า
00:07:40 → 00:07:43 การที่ผมเข้ามาอยู่ตรงนี้ มันก็มีแง่มุมที่ช่วยชีวิตผมเหมือนกัน
00:07:43 → 00:07:47 ถ้าผมยังไม่โดนจับ หรือยังไม่ต้องเข้าไปอยู่ในนี้
00:07:47 → 00:07:50 ผมอาจจะใช้ชีวิตเละเทะกว่านี้
00:07:50 → 00:07:54 แล้วก็อาจจะแบบ... อาจจะเสียชีวิตเพราะยาไปแล้วก็ได้
00:07:54 → 00:07:58 เพราะว่าเคยแบบ…ช็อกเพราะยามา 2 หนแล้ว ซึ่งมันอันตรายมาก
00:07:58 → 00:08:01 หรือผมอาจจะเสพยา หรือผมอาจจะเมา
00:08:01 → 00:08:07 แล้วก็ไปขับรถทำให้ชีวิตคนอื่นเสียหายไป หรือส่งผลกระทบต่อครอบครัวอื่นก็ได้
00:08:07 → 00:08:12 ขออนุญาตนิดนึงค่ะ ถ้าฟังดูเหมือนกับ จริง ๆ เราก็ใช้ยาปริมาณพอสมควร
00:08:12 → 00:08:16 ตอนที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำช่วงแรกค่ะ เราต้องไปบำบัดไหมคะ
00:08:16 → 00:08:17 คือบอกตรง ๆ ว่า
00:08:18 → 00:08:22 จริง ๆ แล้ว มันควรที่จะมีอาการหรืออะไรนะ เพราะเราใช้ต่อเนื่องมาเป็นปี ๆ
00:08:22 → 00:08:23 แต่ ณ จุดนั้นน่ะ
00:08:23 → 00:08:28 ด้วยความที่ชีวิตมันเปลี่ยน สถานการณ์มันเครียดเรื่องอื่น
00:08:28 → 00:08:30 - แล้วเราต้องปรับตัว มีอะไรให้เราแบบ... - ก็เลยไม่มีปัญหา
00:08:30 → 00:08:35 ใช่ มันไม่ได้มีใจไปอยู่ตรงเรื่องของยา หรือความอยากอะไรต่าง ๆ เลย
00:08:35 → 00:08:38 มันเป็นเรื่องที่แบบตื่นเต้นตลอดเวลา ว่าเราจะเจออะไรวะ
00:08:38 → 00:08:40 มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราบ้าง อะไรอย่างนี้
00:08:40 → 00:08:42 มันเข้ามาใหม่ทุกวันให้เราต้องปรับตัว
00:08:42 → 00:08:44 มันก็เลยไม่ได้มีอาการแบบนั้นเลย
00:08:44 → 00:08:45 โอเค
00:08:45 → 00:08:47 ถ้ามองในด้านดีก็คือ
00:08:47 → 00:08:49 - มันสามารถจะดึงเราออกจากวงจรได้ - ถูกต้อง
00:08:49 → 00:08:55 มันอาจจะทำให้เรานี่ไม่เจอเรื่อง ที่อาจจะรุนแรงและร้ายแรงกว่านี้ที่มาจากยา
00:08:55 → 00:08:57 - ใช่ ก็ถ้ามองในมุมนึงอะนะ - ค่ะ
00:08:57 → 00:09:00 แต่ก็ไม่อยากให้ใครเข้าไปนะข้างใน
00:09:00 → 00:09:05 ถ้าเทียบกับเราตอนที่เข้าไปอยู่ ออกมา แล้วก่อนที่เราจะเข้าไป
00:09:05 → 00:09:06 เรามองตัวเองยังไงดีคะ
00:09:06 → 00:09:08 ก็ผมว่าแทบจะเป็นคนละคน
00:09:08 → 00:09:10 เรื่องของวิธีคิด
00:09:10 → 00:09:13 การเลือกทางเดินชีวิตอะไร มันเปลี่ยนไปเยอะมาก ๆ
00:09:13 → 00:09:18 แอบบอกว่าในฐานะของคนที่เคยมอง ในตอนที่เป็นศิลปินกับตอนนี้ค่ะ
00:09:18 → 00:09:20 ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะอายุด้วยหรือเปล่า
00:09:20 → 00:09:24 แต่รู้สึกว่านิ่งขึ้น แล้วก็แบบเหมือนกับ ผ่านเรื่องราว มันคงไม่จำเป็นต้องแก่
00:09:24 → 00:09:28 แต่ว่าคนหลายคนพอผ่านเรื่องราว มันมีการตกผลึกในชีวิต
00:09:28 → 00:09:30 มันมีแบบ…อะไรที่เรามองเห็นมากขึ้น
00:09:30 → 00:09:31 ถูกต้อง
00:09:31 → 00:09:32 เรามองเห็นหลาย ๆ ด้านมากขึ้น
00:09:32 → 00:09:36 เราก็เลยรู้สึกว่า นิ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากขึ้น
00:09:36 → 00:09:39 อยู่ข้างในมาเกือบ 17 ปี แล้วก็ออกมา
00:09:39 → 00:09:41 พอใช้ชีวิตจริง ๆ ในโลกปัจจุบัน
00:09:41 → 00:09:43 มันก็ทำให้มองย้อนกลับไปต่าง ๆ
00:09:43 → 00:09:45 แล้วก็ทำให้ได้คิดอะไรอีกเยอะ
00:09:45 → 00:09:49 เรียกว่าชีวิตผมมันเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา แล้วเราเติบโตกันอยู่ตลอดเวลา
00:09:50 → 00:09:53 จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคิดว่า เรายังต้องเรียนรู้ต่อไปเรื่อย ๆ กับชีวิต
00:09:53 → 00:09:56 ได้ยินมาว่าคุณแพทรู้สึกว่าได้เรียนรู้ธรรมะ
00:09:56 → 00:09:59 [เสียงดนตรี]
00:09:59 → 00:10:01 สมัยก่อนแทบจะไม่ไหว้พระเลย
00:10:01 → 00:10:05 แล้วก็ไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำนะ กิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ
00:10:05 → 00:10:08 พอเข้าไปนี่ จุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงที่ว่า
00:10:09 → 00:10:12 พอมันอยู่ข้างในแล้ว เราเริ่มมีเวลาอยู่กับตัวเอง
00:10:12 → 00:10:13 เริ่มมีสติมากขึ้น
00:10:13 → 00:10:14 อืม
00:10:14 → 00:10:16 แล้วก็มานั่งดูชีวิตตัวเอง ณ ขณะนี้
00:10:16 → 00:10:17 ค่ะ
00:10:17 → 00:10:20 โอ้โห เราอยู่ที่ไหนนี่ ทำไมเราต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะอะไร
00:10:20 → 00:10:25 ชีวิตดูเหมือนจะดีกว่าคนอื่นทั่ว ๆ ไป ที่เราเห็นอยู่ตอนนี้เยอะแยะเลย
00:10:25 → 00:10:30 เพราะเหตุใดชีวิตมันถึงกลับกลายมาเป็นแบบนี้ เริ่มหาคำตอบ เริ่มหาเหตุผล
00:10:30 → 00:10:34 เราไม่ต้องไปโทษยาเสพติด ไม่ต้องไปโทษเพื่อนโทษสังคมต่าง ๆ
00:10:34 → 00:10:36 เรามาโทษตัวเอง เรามาดูการกระทำของเรา
00:10:36 → 00:10:39 ถ้าเราไม่เลือกเส้นทางนั้น ถ้าเราไม่เลือกคบคนแบบนั้น
00:10:40 → 00:10:41 หรือใด ๆ ก็ตามนี่
00:10:41 → 00:10:46 จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มันอยู่ที่การตัดสินใจแล้วก็ความคิดของตัวเอง
00:10:46 → 00:10:50 เราทำอะไรที่ขวางโลก ขวางกฎหมาย
00:10:50 → 00:10:53 ทำอะไรที่แบบเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป และไม่ฟังใครเลย
00:10:53 → 00:10:57 สิ่งเหล่านี้มันคือข้อบกพร่อง ข้อเสีย ทำให้เรามาถึงจุดนี้
00:10:57 → 00:11:01 ผมก็เลยคิดว่า เราไม่อยากจะให้ชีวิตเรามันแย่ไปกว่านี้
00:11:01 → 00:11:05 ยังไม่อยากทำร้ายตัวเองให้ชีวิตพังไปกว่านี้ เราก็คงต้องปรับเปลี่ยนแล้ว ถึงเวลาแล้ว
00:11:05 → 00:11:06 ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว
00:11:06 → 00:11:11 ก่อนหน้านั้นน่ะ เราทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้าม ทำสิ่งที่สังคมเขาว่าดีนี่ เราไม่เอาเลย
00:11:11 → 00:11:14 แล้วชีวิตมันเป็นแบบนี้ เราลองกลับไปดูซิ
00:11:14 → 00:11:16 กลับไปทำสิ่งที่ผู้ใหญ่เขาว่าดี
00:11:16 → 00:11:20 กลับไปทำสิ่งที่มันอยู่ใน...ถูกที่ถูกทาง ตามที่คนส่วนใหญ่เขาว่าดูซิ
00:11:20 → 00:11:25 ดูซิว่า เกิดการชาเลนจ์ในตัวเองว่าดูซิว่า ชีวิตมันจะดีขึ้นกว่าเดิมไหม
00:11:25 → 00:11:26 อืม
00:11:26 → 00:11:27 มันเกิดจากจุดนี้เลย
00:11:27 → 00:11:33 แล้วก็อยู่ในเรือนจำนี่ ทางเรือนจำ เขาค่อนข้างปลูกฝังเรื่องพุทธศาสนาอยู่แล้ว
00:11:34 → 00:11:39 คือเรียกว่าตอนเช้านี่ ผู้ต้องขังตื่นขึ้นมา ตอนประมาณตี 5 ครึ่ง เก็บที่นอนนี่
00:11:39 → 00:11:45 เขาก็จะมีเปิดเสียงตามสายเกี่ยวกับการสวดมนต์ ให้ผู้ต้องขังเริ่มสวดมนต์ตั้งแต่เช้า
00:11:45 → 00:11:48 แล้วก็ช่วงเช้าหลังจากอาบน้ำ
00:11:48 → 00:11:51 รอรับประทานอาหารที่ทางหลวงมาแจกนี่
00:11:51 → 00:11:56 ก็จะมีเสียงตามสายเป็นพระเทศน์ เรื่องราวต่าง ๆ แง่มุมธรรมะต่าง ๆ
00:11:56 → 00:11:57 ก็เรียกว่าซึมซับมา
00:11:57 → 00:12:01 แล้วก็ในโอกาสสำคัญ ก็จะมีพระสงฆ์นี่ เข้ามาเทศน์ในโอกาสสำคัญ
00:12:01 → 00:12:06 รวมทั้งบางทีก็มีการจัดกิจกรรม ให้พระมารับบาตร
00:12:06 → 00:12:11 แต่ว่าเท่าที่ฟังนี่ อยากบอกว่า ได้แง่คิดอย่างหนึ่งค่ะคือว่า
00:12:11 → 00:12:15 - สิ่งที่เกิดขึ้นนี่ เราเลือกถูกไหมคะ - ใช่
00:12:15 → 00:12:18 ตอนที่เราดัง เรามีโอกาสในชีวิตเยอะแยะเลย
00:12:18 → 00:12:20 เราจะใช้หรือไม่ใช้ก็เป็นสิทธิ์ของเรา
00:12:20 → 00:12:23 แต่ตอนนั้นเราอยากลอง เรารู้สึกว่านี่คือวิถีของเรา
00:12:23 → 00:12:24 อันนี้คือทางเลือกที่ 1 เนอะ
00:12:24 → 00:12:24 ครับ
00:12:24 → 00:12:25 แล้วเราก็ถลำลึก
00:12:26 → 00:12:27 อันที่ 2 คือตอนที่เราอยู่ในเรือนจำ
00:12:27 → 00:12:29 ต่อให้บอกว่ามีเสียงตามสาย
00:12:29 → 00:12:32 ถามว่า ณ ปัจจุบันนี้ เขาเปิดมา
00:12:32 → 00:12:35 ถ้าเราไม่อยากฟัง เราปิดใจ เราก็ไม่ฟังนะ เราก็ปิด
00:12:35 → 00:12:37 แล้วเราก็เดินไปทำอย่างอื่น ไม่สนใจ
00:12:37 → 00:12:39 ถูกต้อง ถูกต้อง อาจจะเป็นแค่เสียงหนึ่งให้มันผ่านไป
00:12:39 → 00:12:41 ใช่ แต่อันนี้มันเหมือนได้ตกผลึก
00:12:41 → 00:12:43 เราเริ่มเปิดใจมากกว่า
00:12:43 → 00:12:45 อยากลองดูซิว่าทำแล้วจะเป็นยังไง
00:12:45 → 00:12:51 แล้วก็สุดท้ายนี่ เราเริ่มจาก การคิดด้วยเหตุด้วยผลของตัวเองนะครับ
00:12:51 → 00:12:55 แล้วก็หลาย ๆ เหตุการณ์ ชีวิตต่าง ๆ นี่ มันไปเข้าหลักธรรมะนะครับ
00:12:55 → 00:13:00 เรื่องของเหตุของผล เรื่องของการกระทำ เรื่องของกรรม
00:13:00 → 00:13:06 มันไปเข้าหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือพุทธศาสนาของเราทุกอย่างเลย
00:13:06 → 00:13:09 แล้วมันพิสูจน์ได้จริงจากชีวิตตัวเอง แล้วเราก็เห็นผลด้วยตาของเรา
00:13:09 → 00:13:13 รวมทั้งเราได้เห็นตัวอย่างจากเพื่อนรอบ ๆ เรา คนเยอะแยะมากมาย
00:13:13 → 00:13:17 มันก็เลยทำให้เราเชื่อ ในเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า
00:13:17 → 00:13:19 และเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือเหตุและผล
00:13:19 → 00:13:22 แล้วก็ค่อย ๆ ศึกษา แล้วก็ปฏิบัติมาเรื่อย ๆ
00:13:22 → 00:13:25 มันคือความเป็นจริงในชีวิต อันที่ 1 เนอะ แล้วก็สามารถพิสูจน์ได้
00:13:25 → 00:13:28 แต่ว่าอันนี้อยากจะบอกทุกคนเลยจริง ๆ ว่า
00:13:28 → 00:13:29 ในความรู้สึกของเราคือพอมองว่า
00:13:29 → 00:13:33 พุทธศาสนา เราต้องเข้าวัดนะ เราต้องทำบุญ ต้องมีพิธีกรรม
00:13:33 → 00:13:36 อันนี้ไม่ใช่เลย อันนี้เป็นหลักวิธีคิดที่ถูกต้องว่า
00:13:36 → 00:13:40 เฮ้ย เรายอมรับ เราเอามาใช้ แล้วเราก็พิสูจน์มันไปอย่างนี้ค่ะ
00:13:40 → 00:13:43 คือตอนหลังนี่ พอผมได้ไปบวช ได้ไปศึกษา
00:13:43 → 00:13:45 แล้วก็ถกเรื่องธรรมะกับพระอาจารย์ครับ
00:13:45 → 00:13:48 จริง ๆ แล้วเรื่องของธรรมะนี่
00:13:48 → 00:13:53 พระพุทธเจ้าท่านก็อยากจะให้พุทธศาสนิกชนนี่ เอามาใช้ในชีวิตประจำวันนั่นแหละหลัก ๆ นี่
00:13:54 → 00:13:57 เห็นด้วยจริง ๆ เลยว่าแบบ จริง ๆ แล้ว ถ้าเราไปอยู่วัดน่ะ
00:13:57 → 00:14:01 มันตัดสิ่งแวดล้อมภายนอก ไม่มีใครมากวนเรา ไม่มีใครมาทำให้เราโมโห
00:14:01 → 00:14:04 แต่การเอาหลักมาใช้ในชีวิตประจำวัน อันนี้ยากกว่าอีก
00:14:04 → 00:14:06 เพราะว่ามันมีสิ่งมากระทบทุกวัน
00:14:06 → 00:14:07 ใช่ ก็คือเหมือนได้ฝึกด้วยครับ
00:14:07 → 00:14:08 ใช่
00:14:08 → 00:14:10 เหมือนได้ฝึกด้วย แล้วก็การมีสมาธิ การอะไร
00:14:10 → 00:14:15 มันก็ทำให้เราแบบว่า…รู้เท่าทันจิตใจของเรา
00:14:15 → 00:14:17 เวลาเราโกรธใครโมโหใคร หรือเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
00:14:18 → 00:14:23 มันจะมี…เขาเรียกว่าตัวเตือน ตัวรู้ขึ้นมา เด้งขึ้นมา เฮ้ย เรากำลังแบบ…
00:14:23 → 00:14:24 หงุดหงิดแล้วนะอะไรอย่างนี้
00:14:24 → 00:14:27 อีกคำถามนึงสงสัยมากเลย ในกรณีตอนที่เราอยู่
00:14:27 → 00:14:32 พอเราเริ่มอยู่ไปสักพักนึง เราเริ่มชินกับการใช้ชีวิตในเรือนจำ
00:14:32 → 00:14:32 ครับ
00:14:32 → 00:14:35 วันแรกที่เราจะออกมา กังวลหรือกลัวอะไรไหมคะ
00:14:35 → 00:14:38 ผมไม่กังวลเลย ผมคิดแค่ว่า
00:14:38 → 00:14:40 แค่ผมได้ออกไป ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง
00:14:40 → 00:14:44 มันคือความฝันอันยิ่งใหญ่หนึ่งเดียว ที่เฝ้ารอมาตลอด
00:14:44 → 00:14:47 เกือบ 17 ปีแล้วนะ
00:14:47 → 00:14:51 แต่ส่วนก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมรับว่า ผมก็จะพยายามหาข้อมูลโลกภายนอก
00:14:51 → 00:14:57 เพราะต้องยอมรับว่าผมเข้าไปตั้งแต่ยุคที่ ยังไม่มีโซเชียล ยังไม่มีสมาร์ตโฟน
00:14:57 → 00:14:58 ค่ะ
00:14:58 → 00:15:01 แล้วก็เทคโนโลยีอะไรก็ยังไม่ได้มีมาก
00:15:01 → 00:15:04 ผมก็เลยต้องพยายามสอบถาม หรือหาข้อมูลให้มากที่สุด
00:15:04 → 00:15:07 ในการที่จะปรับตัวออกไปใช้ชีวิตภายนอก ในยุคปัจจุบัน
00:15:07 → 00:15:12 ก็จะสอบถามน้อง ๆ ที่เพิ่งเข้ามาบ้าง เพื่อเตรียมพร้อมในการใช้ชีวิต
00:15:12 → 00:15:13 แต่พอออกมาแล้วนี่
00:15:13 → 00:15:15 สิ่งที่เรามีความรู้จากการสอบถาม
00:15:15 → 00:15:18 หรือดูจากสื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทางเรือนจำเปิดให้นี่
00:15:18 → 00:15:22 มันไม่ได้แม้แต่แบบเศษเสี้ยว ไม่ถึงเปอร์เซ็นต์เดียวของความจริง
00:15:22 → 00:15:23 มันยิ่งใหญ่กว่ามาก
00:15:23 → 00:15:28 แล้วมันก็มีอะไรที่ทำให้เราว้าวเยอะมาก ๆ เยอะมาก ๆ เลยครับ
00:15:29 → 00:15:32 เพราะฉะนั้นนี่ มันก็เป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัว
00:15:32 → 00:15:34 มันเป็นเรื่องสนุกมากกว่า
00:15:34 → 00:15:35 ไม่มีความกังวลใด ๆ
00:15:35 → 00:15:39 ถ้าจะพูดถึงว่ากังวลไหมว่าคนอื่นจะมองว่า เคยผ่านเรือนจำมา
00:15:39 → 00:15:43 หรือเป็นอดีตผู้ต้องขังอะไรอย่างนี้ ผมไ่ม่เลยนะ
00:15:43 → 00:15:43 โอเค
00:15:43 → 00:15:45 ผมมีชุดความคิดที่แบบว่า
00:15:45 → 00:15:49 โอเค ถ้าเรามั่นใจในตัวเองว่า เราปรับเปลี่ยนตัวเองได้จริงแล้ว
00:15:49 → 00:15:54 เราจะไม่ไปยุ่งกับสิ่งผิด ๆ อีกแล้วนะครับ
00:15:54 → 00:15:56 แค่นี้ผมว่าเพียงพอแล้ว
00:15:56 → 00:16:00 ต่อไปก็เป็นเรื่องของการพิสูจน์ตัวเอง
00:16:00 → 00:16:02 เป็นเรื่องของมุมมอง ถ้าใครไม่เข้าใจ หรือใครยังรังเกียจ
00:16:02 → 00:16:04 อันนั้นเราห้ามความคิดเขาไม่ได้
00:16:04 → 00:16:06 ถูกไหม แล้วผมก็จะมีความคิดหนึ่งว่า
00:16:06 → 00:16:10 คนที่เขาเกลียดเรา หรือมองในมุมที่แย่ ๆ กับเรา
00:16:10 → 00:16:13 แสดงว่าเขายังไม่ได้รู้จักเราจริง
00:16:13 → 00:16:16 เพราะฉะนั้น ก็ไม่ว่ากัน อะไรแบบนี้
00:16:16 → 00:16:19 อันนี้เป็นมุมมอง เป็นชุดความคิดที่ดีมากเลย
00:16:19 → 00:16:22 เพราะว่าหลายคนที่ทำไม่ได้นี่
00:16:22 → 00:16:26 แล้วไปยึดติดกับสิ่งที่คนอื่นเขามองเรา หรือเขาตัดสินเรา
00:16:26 → 00:16:27 ก็เลยทำให้มีความทุกข์
00:16:27 → 00:16:28 ใช่ ๆ
00:16:28 → 00:16:33 ตอน...มีอยู่ช่วงหนึ่งที่คุณแพทบอกว่า เอาล่ะ เรามาเริ่มกัน
00:16:33 → 00:16:37 เริ่มเปิดใจ แล้วก็คิดว่าเราจะลองเปลี่ยน จากเดิมที่บอกว่า
00:16:37 → 00:16:42 เราทำอะไรที่แหวกแนว เราอยากทำ ใครเตือนแล้วก็ไม่เชื่ออะไรอย่างนี้
00:16:42 → 00:16:46 แล้ววันนี้เราบอกว่า เอาล่ะ เราจะเริ่มแล้ว เราจะลองแล้ว คำถามคือ
00:16:46 → 00:16:48 เราลองเราเริ่มทำอะไรยังไงบ้าง
00:16:48 → 00:16:49 - เริ่มจากอะไร - ใช่
00:16:49 → 00:16:53 ตอนที่อยู่ในเรือนจำนี่ เราเริ่มมองหาสิ่งที่มันจะพัฒนาตัวเอง
00:16:54 → 00:16:55 หรือสิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง
00:16:55 → 00:16:59 หนึ่งในนั้นที่มองเห็น แล้วทำเป็นอันดับแรกเลยคือเรื่องของการศึกษา
00:16:59 → 00:16:59 อืม
00:16:59 → 00:17:02 การเรียนรู้ การศึกษาต่อ
00:17:02 → 00:17:05 เพราะ ณ ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้จบมหาวิทยาลัย
00:17:05 → 00:17:10 แล้วก็ค่อนข้างที่จะต่อต้าน หรือแอนตี้ระบบการศึกษาในประเทศไทยมาก ๆ
00:17:10 → 00:17:10 โอเค
00:17:10 → 00:17:14 แล้วก็รู้สึกว่า ชีวิตเราคงไม่ได้ใช้ความรู้ที่เขาสอน
00:17:14 → 00:17:16 แต่พอเราโตมา เราถึงไปได้เรียนรู้
00:17:16 → 00:17:21 อ๋อ จริง ๆ แล้วเราไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ว่าเขาฝึกเรื่องของความเข้าใจ
00:17:21 → 00:17:26 แล้วก็รอยหยักสมองเรา ให้เราคิดอะไรที่มันซับซ้อนแล้วก็ละเอียดขึ้น
00:17:26 → 00:17:28 มีขั้นมีตอนอะไรอย่างนี้
00:17:28 → 00:17:30 เออ เรามารู้ตรงนั้น
00:17:30 → 00:17:32 แต่ไม่มีใครบอกเรา ไม่มีครูบอกเรา ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไรไง
00:17:33 → 00:17:35 ก็อาจจะเป็นเรื่องของระบบการศึกษาสมัยก่อน
00:17:35 → 00:17:38 จุดแรกเลยคือเริ่มเรียนปริญญาตรีต่อในเรือนจำ
00:17:38 → 00:17:40 แล้วก็ใช้เวลา 4 ปีก็จบปริญญาตรี
00:17:40 → 00:17:44 ให้ครอบครัวได้ภูมิใจว่าเราก็ทำสำเร็จนะ
00:17:44 → 00:17:48 แล้วก็แบบปรับเปลี่ยนตัวเอง ได้ทำให้เขาได้ภูมิใจได้บ้าง
00:17:48 → 00:17:50 แล้วเลือกเรียนสาขาอะไรคะ
00:17:50 → 00:17:52 ตอนนั้นเรียนศิลปศาสตร์ครับ เรียนศิลปศาสตร์
00:17:52 → 00:17:55 - ก็คือมันตรงกับความชอบของเราอยู่แล้ว - ใช่ ๆ
00:17:55 → 00:17:59 ก็ไปค้นพบความสามารถตัวเองเรื่องการวาดรูป เรื่องศิลปะในเรือนจำ
00:17:59 → 00:18:01 ผมก็ไปเรียนจนจบหลักสูตร
00:18:01 → 00:18:04 แล้วก็ผลิตงานศิลปะตอนที่อยู่ในเรือนจำ
00:18:04 → 00:18:08 แล้วก็ตั้งเป้าให้กับตัวเองว่า เราจะใช้เวลาในเรือนจำนี้
00:18:08 → 00:18:10 ผลิตงานที่เรารักนะครับ
00:18:10 → 00:18:15 แล้วก็มีเป้าหมายว่าวันหนึ่งเราออกไป เราจะสะสมงานเหล่านี้
00:18:15 → 00:18:18 เพื่อต่อยอดนำสร้างอาชีพที่สุจริตในอนาคต
00:18:18 → 00:18:24 แกลเลอรีแสดงงาน หรือเอาเพลงที่แต่ง ไปทำเป็นซิงเกิล อะไรก็ว่าไปนะ
00:18:24 → 00:18:26 แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดใหญ่มาก
00:18:26 → 00:18:28 อย่างมีคุณค่ามากขึ้น
00:18:28 → 00:18:32 แน่นอนในส่วนของการรับโทษ เรารับไป ตามกฎหมาย เราก็ชดใช้ไป
00:18:32 → 00:18:36 ในส่วนของชีวิตที่มันต้องอยู่นี่ เราก็ต้องอยู่ด้วยความหวัง
00:18:36 → 00:18:41 - แล้วก็เตรียมพร้อมสำหรับโอกาส - เตรียมพร้อมสำหรับวันที่เราออกไป
00:18:41 → 00:18:42 ใช่ ๆ สำหรับโอกาส
00:18:42 → 00:18:46 คุณแพทมองเป้าหมายในชีวิตของตัวเองไว้ยังไงคะ หลังจากนี้
00:18:46 → 00:18:50 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิตการงาน สุขภาพ หรืออะไรใด ๆ
00:18:50 → 00:18:54 พอ ณ จุดนี้นี่ เราไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้ว
00:18:54 → 00:18:59 แล้วก็มีภาระ มีสิ่งที่ต้องดูแล ต้องดูแลครอบครัวเป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว
00:18:59 → 00:19:01 ก่อนหน้านี้อย่างที่เกริ่นไปว่า
00:19:01 → 00:19:06 ผมเป็นคนที่อาจจะไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว แล้วไม่ค่อยเข้าใจเรื่องคำว่าครอบครัว
00:19:06 → 00:19:09 มาเข้าใจจริง ๆ ตอนเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว
00:19:09 → 00:19:13 ตอนเป็นคนที่คนอื่นเขาไม่อยากจะรู้จักนะครับ
00:19:13 → 00:19:16 แต่สุดท้ายแล้วก็เหลือแต่ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่
00:19:16 → 00:19:19 พี่ ๆ น้อง ๆ ของเราทั้งนั้น ที่คอยเป็นห่วงเรา คอยดูแลเรา
00:19:19 → 00:19:26 ส่งเสียเรา หาเงินหาทอง คอย support เราตลอดมาเกือบ 17 ปี
00:19:26 → 00:19:29 ทำให้เรารู้ว่าคนที่เราควรจะรัก
00:19:29 → 00:19:33 แล้วก็ให้ความสำคัญมาอันดับต้น ๆ เลย ก็คือครอบครัวของเรา
00:19:33 → 00:19:38 ตรงนี้ทำให้เราแบบเข้าใจ เรื่องของครอบครัวมาก ๆ
00:19:38 → 00:19:40 แล้วก็ ณ วันที่เราอยู่ข้างใน
00:19:41 → 00:19:44 ณ วันที่เรายังไม่รู้ว่า เราจะได้ออกไปเมื่อไหร่
00:19:44 → 00:19:47 เราเห็นครอบครัวเรามาเยี่ยม คุณพ่อคุณแม่ของเรามาเยี่ยมนี่
00:19:47 → 00:19:49 ท่านก็แก่ลงไปเรื่อย ๆ
00:19:50 → 00:19:52 มองผ่านลูกกรงมองผ่านกระจกที่เข้ากั้นนี่
00:19:53 → 00:19:55 รู้สึกมีความกังวลว่าเราจะได้ออกไปทัน
00:19:56 → 00:19:58 ทันที่จะเจอ ได้กอดเขาไหมอย่างนี้
00:19:58 → 00:20:02 เพราะว่าเราก็ทราบมาตลอดว่า อย่างคุณแม่ก็มีโรคประจำตัวอะไรอย่างนี้
00:20:02 → 00:20:06 แล้วก็พอออกมาก็ถือว่า ท่านยังอยู่รอเรา
00:20:06 → 00:20:09 เป็นความโชคดี เราก็พยายามจะดูแลให้ดีที่สุด
00:20:09 → 00:20:11 การงานต่าง ๆ ก็ขยายเติบใหญ่ขึ้น
00:20:11 → 00:20:14 มีบริษัทของตัวเอง มีน้อง ๆ มีทีมงาน
00:20:14 → 00:20:16 เพราะฉะนั้นนี่ การใช้ชีวิตทุกวันนี้
00:20:16 → 00:20:18 มันไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียว เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
00:20:18 → 00:20:20 ทำอะไรมันก็ต้องคิดเยอะ
00:20:20 → 00:20:21 ระมัดระวังมากขึ้น
00:20:21 → 00:20:22 ระมัดระวังมาก ๆ
00:20:22 → 00:20:26 แล้วก็เรื่องของการใช้ชีวิต การใช้จ่าย การดูแลตัวเอง
00:20:26 → 00:20:30 คือทุกวันนี้ ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามทุกอย่าง
00:20:30 → 00:20:33 ไม่งั้นผลกระทบที่ตามมา มันมหาศาลมาก
00:20:33 → 00:20:33 ไม่ใช่แค่เรา
00:20:33 → 00:20:35 ไม่ใช่แค่เราแล้ว มันมีคนข้างหลังอีกเยอะ
00:20:35 → 00:20:38 มันไม่เหมือนเราคนนั้นแล้วนะครับ
00:20:38 → 00:20:41 ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะครับ
00:20:41 → 00:20:45 แล้วก็ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่
00:20:45 → 00:20:48 ผมก็จะตั้งหลักอยู่ 3 อย่างก็คือ
00:20:48 → 00:20:52 แน่นอนงานที่เรารัก เราก็รับผิดชอบให้ดี ทำให้เต็มที่
00:20:52 → 00:20:55 ทำให้ทุกคนแฮปปี้กับงานของเรา
00:20:55 → 00:20:58 ให้แฟนคลับมีความสุขกับงานของเรา
00:20:58 → 00:21:02 ในส่วนของการดูแลครอบครัว เรื่องของการให้เวลาก็ต้องให้
00:21:02 → 00:21:06 เพราะว่าเราเสียเวลาอยู่ในเรือนจำมานานแล้ว
00:21:06 → 00:21:11 แล้วก็ไม่รู้คุณพ่อคุณแม่จะอยู่กับเรา กับครอบครัวของเราอีกกี่ปี
00:21:11 → 00:21:15 และส่วนที่เราตั้งปณิธานไว้ การช่วยเหลือสังคม การให้ข้อคิด
00:21:15 → 00:21:20 แรงบันดาลใจต่าง ๆ จากเรื่องราวที่เราผ่านมา ให้กับเยาวชน แล้วก็ครอบครัว คนในสังคมนี่
00:21:20 → 00:21:21 ก็ยังทำต่อเนื่อง
00:21:21 → 00:21:24 ก็พยายามจะบาลานซ์ 3 สิ่งนี้ให้ดี
00:21:24 → 00:21:24 โอเคค่ะ
00:21:24 → 00:21:27 ก็จริง ๆ วันนี้ที่ได้คุยกันเนอะ
00:21:27 → 00:21:29 ก็ได้มุมมอง แล้วก็ได้แง่คิดเยอะเลยค่ะ
00:21:30 → 00:21:33 อันแรกเลยก็คือเรื่องของชีวิตเรา เราเลือกเองได้
00:21:33 → 00:21:33 ครับ
00:21:33 → 00:21:36 อันที่ 2 คือการเปิดใจ เพื่อที่จะรับรู้สิ่งใหม่
00:21:36 → 00:21:39 แล้วก็เรื่องของวิธีคิดเนอะ
00:21:39 → 00:21:41 แล้วก็สภาพจิตใจ การดูแลจิตใจตัวเอง
00:21:41 → 00:21:45 รวมถึงการให้ความสำคัญในชีวิตของเรา
00:21:45 → 00:21:48 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว เรื่องงาน รวมถึงสังคมด้วย
00:21:48 → 00:21:49 ใช่
00:21:49 → 00:21:50 วันนี้ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
00:21:50 → 00:21:53 ได้แง่คิด แล้วก็คิดว่าคนที่ฟังอยู่
00:21:53 → 00:21:56 น่าจะได้มุมมองความคิดจากคุณแพทด้วยค่ะ
00:21:56 → 00:21:58 - ขอบคุณค่ะ - ยินดีครับ
00:21:58 → 00:22:03 [เสียงดนตรี]
00:22:03 → 00:22:07 หลังจากที่ผ่านเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ในชีวิตเนอะ
00:22:07 → 00:22:11 แล้วมองย้อนกลับไป เรามองว่า แพท พาวเวอร์แพทในอดีตเป็นยังไงคะ
00:22:11 → 00:22:15 เป็นคนที่ไม่ค่อยน่าคบเท่าไหร่ เป็นคนที่อันตรายนะ
00:22:16 → 00:22:19 แล้วก็เป็นคนที่หัวรั้นหัวดื้อ
00:22:19 → 00:22:25 ผมเข้าใจว่านะ วัยรุ่นทุกคนอยากจะหาแนวทาง แล้วก็ตัวตนของตัวเอง
00:22:25 → 00:22:25 อา...
00:22:26 → 00:22:29 ในแบบที่แบบ…ไม่ต้องเหมือนแบบแผนก็ได้
00:22:29 → 00:22:33 อยากหาแนวทางของตัวเองว่า เออ นี่คือวิถีทางของฉัน ชะตาชีวิตของตัวเอง
00:22:34 → 00:22:36 ทีนี้ในฐานะที่เป็นตัวแพทเองเลยนะคะ
00:22:36 → 00:22:39 ควรจะเข้าไป Approach แพทในอดีตยังไงดี
00:22:39 → 00:22:43 ต้องคุย คุยด้วยความเข้าใจ แล้วก็เปิดโอกาสให้เขาพูดในสิ่งที่เขาคิด
00:22:43 → 00:22:48 ค่อย ๆ ช่วยกัน ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน ให้มองถึงเห็นผล
00:22:48 → 00:22:51 โดยที่พูดด้วยความเข้าใจและไม่ใช้อารมณ์
00:22:51 → 00:22:55 แล้วก็ไม่ใช้เกณฑ์ของตัวเองมาตัดสิน
00:22:56 → 00:22:57 แบบนั้นมากกว่า
00:22:57 → 00:22:59 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:22:59 → 00:23:00 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:23:00 → 00:23:02 ปัญญาของแผ่นดิน