00:00:00 → 00:00:03 ของดน้ำหนัก 1 เดือน 5 กิโลด้วยการทำสิ่ง
00:00:03 → 00:00:06 นี้ทุกเช้าครับสวัสดีครับผมนายแพทย์ธวัช
00:00:06 → 00:00:08 พงศ์สวัสดีไปโหลดหรือว่าหมอ 1 เซลล์ที่
00:00:08 → 00:00:10 โลกที่ทุกคนรู้จักกันนะครับนะก็วันนี้
00:00:10 → 00:00:12 กลับมานะครับในเรื่องของการที่หลายๆคน
00:00:12 → 00:00:14 เนี่ยส่งเข้ามาถามว่าถ้าอยากจะลดน้ําหนัก
00:00:14 → 00:00:17 1 เดือนให้ได้สัก 5 กิโลเนี่ยบางคนตอน
00:00:17 → 00:00:19 นี้น้ำหนัก 80 มาคนตอนนี้น้ำหนัก 100 มัน
00:00:19 → 00:00:22 ทำได้มั้ยนะครับน้ำมันสามารถทำได้นะครับ
00:00:22 → 00:00:24 จริง morning ไม่อยากให้ไปโฟกัสในเรื่อง
00:00:24 → 00:00:26 ของตัวเลขน้ำหนักมากเกินไปนะครับอยากให้
00:00:26 → 00:00:28 โฟกัสในเรื่องของรูปร่างแต่เพื่อให้คุณ
00:00:28 → 00:00:30 เนี่ยสามารถมีเกณฑ์วัดที่ดีได้นะครับก็จะ
00:00:30 → 00:00:32 บอกว่าถ้าคุณน้ำหนักตัวเยอะเนี่ยเช่นนั้น
00:00:32 → 00:00:35 หนัก 80 90 100 นะครับ 70 เลยเนี้ยคุณ
00:00:35 → 00:00:37 สามารถลดได้นะครับ 5 กิโลใน 1 เดือนเนี่ย
00:00:37 → 00:00:40 โดยที่คุณเอาเทคนิคต่างๆช่องนี้ไปใช้ซึ่ง
00:00:40 → 00:00:42 วันนี้เนี่ยขอหนึ่งบอกเลยว่าหนึ่งเทคนิค
00:00:42 → 00:00:45 ที่มา 1 จะให้นะครับเมื่อคุณชมจนจบแล้วก็
00:00:45 → 00:00:47 ทำสิ่งนี้ทุกเช้านะครับน้ำมันจะช่วยให้
00:00:47 → 00:00:50 คุณสามารถเอาไขมันสะสมของคุณเนี่ยมาใช้
00:00:50 → 00:00:53 ได้มากขึ้นนะครับก่อนอื่นนะครับหากคุณชม 1
00:00:53 → 00:00:55 จาก YouTube นะครับสามารถกดไลค์กดแชร์
00:00:55 → 00:00:57 คลิปนี้นะครับกดปุ่มอะไรก็ได้ที่มีนะครับ
00:00:57 → 00:00:59 แล้วก็กดติดตามกดกระดิ่งนะครับเพื่อที่
00:00:59 → 00:01:01 คุณจะได้ไม่ช่วงเวลาที่เหมาะ 1 ลงคลิป
00:01:01 → 00:01:03 ใหม่ๆมานะครับแล้วก็อ่าคุณชมนึงจาก
00:01:03 → 00:01:06 Facebook หรือว่าไอจีนะครับก็สามารถกด
00:01:06 → 00:01:08 ไลค์กดแชร์คลิปเก็บไว้ชมได้นะครับแล้วก็
00:01:08 → 00:01:10 กดติดตามเพจนะครับเพื่อที่คุณจะได้ไม่
00:01:10 → 00:01:12 พลาดคลิปใหม่ๆเวลาที่หมอหนึ่งลงคลิปนะ
00:01:12 → 00:01:15 ครับคนที่ย้อนกลับมานะครับว่าถ้าอยากจะ
00:01:15 → 00:01:17 ผอมลงนะครับ 1 เดือนลดให้ได้สัก 5 กิโล
00:01:17 → 00:01:19 เป็นไปได้ไหมเพราะว่าแต่ก่อนเคยทำแล้วมัน
00:01:19 → 00:01:22 ยากมากๆเลยนะครับมันบอกเลยว่าทำได้ถ้าใคร
00:01:22 → 00:01:25 นะครับนะอยากจะรู้เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก
00:01:25 → 00:01:27 นะครับแบบละเอียดเลยนะครับนะก็ให้ชมที่
00:01:27 → 00:01:30 คลิป 3 ขั้นตอนลดไขมันพิกุลครั้งสุดท้าย
00:01:30 → 00:01:32 ในชีวิตนะครับชมจากยูทูปก็กดลิงค์ทางด้าน
00:01:32 → 00:01:35 บนนี้ได้เลยนะครับนะแต่ถ้าชมจาก Facebook
00:01:35 → 00:01:37 ก็ไปชมที่ที่ปักหมุดนะที่มา 1 ปรับไว้ที่
00:01:37 → 00:01:40 เพจของ Facebook นะครับนะอันนั้นก็จะเข้า
00:01:40 → 00:01:43 ใจละเอียดมากๆแต่ถ้าคุณยังไม่มีเวลาชมเอา
00:01:43 → 00:01:45 เทคนิคของวันนี้ 1 อันไปทำก่อนนะครับซึ่ง
00:01:45 → 00:01:48 สิ่งที่จะทำให้คุณผอมลงได้แบบนั้นก็คือ
00:01:48 → 00:01:51 การที่ตื่นมาทุกเช้านะครับอย่าเพิ่งทาน
00:01:52 → 00:01:54 บางคนน่ะติดนิสัยว่าตื่นมาแล้วตอนเช้าจะ
00:01:54 → 00:01:57 ต้องหาอะไรกินเลยนะครับเช่นตื่นเช้ามาน้ำ
00:01:57 → 00:01:59 เต้าหู้ตื่นเช้ามาปลาต้องโก๋กินโจ๊กนะ
00:01:59 → 00:02:03 ครับบ่เคยเข้าใจผิดว่าการตื่นมาแล้วต้อง
00:02:03 → 00:02:05 พานอาหารเช้าเป็นเรื่องสำคัญให้มาหนึ่ง
00:02:05 → 00:02:07 แล้วถ้าไม่ทานอาหารเช้าจะไม่เป็นโรค
00:02:07 → 00:02:10 กระเพาะหรอมาหนึ่งถ้าไม่ทานอาหารเช้าจะ
00:02:10 → 00:02:13 ไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์เหรอหนึ่งบอกเลยนะ
00:02:13 → 00:02:15 ครับว่าจากงานวิจัยล่าสุดบอกเลยนะคะว่า
00:02:15 → 00:02:19 การที่ตื่นมาแล้วคุณอาจจะเว้นอาหารเช้าไป
00:02:19 → 00:02:21 หรือเลื่อนเวลาอาหารเช้าออกไปหน่อยนึง
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยไม่ได้ทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะง่าย
00:02:24 → 00:02:26 ขึ้นและได้ทำให้คุณอัลไซเมอร์ด้วยเพราะ
00:02:26 → 00:02:28 จริงๆโลกกระเพาะเนี่ยสาเหตุหลักๆแล้ว
00:02:28 → 00:02:31 เนี่ยนะครับที่คนเรามักจะไม่ค่อยเจอเนอะ
00:02:31 → 00:02:33 มันเกิดจากการที่คุณมีแบคทีเรียในกระเพาะ
00:02:33 → 00:02:36 บางชนิดนะครับซึ่งชื่อ hk โลลายแบคทีเรีย
00:02:36 → 00:02:38 ตัวนี้ใครที่มีเยอะเพื่อนเนี่ยมันจะทำให้
00:02:38 → 00:02:40 เป็นโรคกระเพาะได้ง่ายกว่าซึ่งสังเกตนะ
00:02:40 → 00:02:43 ครับว่าคนเราเนี่ยโหน้ำย่อยมันจะกัด
00:02:43 → 00:02:45 กระเพาะของตัวเราเองได้เนี่ยมันยากมากนะ
00:02:45 → 00:02:47 ครับเพราะว่าที่กระเพาะของคนเรามันมีสาร
00:02:47 → 00:02:49 เคลือบอยู่แต่คนที่สารเคลือบบางมักจะเกิด
00:02:49 → 00:02:51 จากการที่อาจจะกินยาแก้อักเสบเป็นประจำ
00:02:51 → 00:02:54 หรือว่าอาจจะกินพวกแอลกอฮอล์พวกเนี่ยจะทำ
00:02:54 → 00:02:56 ให้สารเคลือบผิวของกระเพาะคุณเนี่ยแย่ลง
00:02:56 → 00:02:58 และทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะได้ก็นั้นการ
00:02:58 → 00:03:00 ที่คุณไม่ทานอาหารเช้าหรือว่าเลื่อนอ่าน
00:03:00 → 00:03:02 จะเอาเวลาออกไปหน่อยเนี่ยมันไม่ทำให้คุณ
00:03:02 → 00:03:04 เป็นโรคกระเพาะง่ายขึ้นเลยน้องโอเคไหมนะ
00:03:04 → 00:03:07 ครับนะดังนั้นสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำ
00:03:07 → 00:03:10 อย่างที่มึงบอกเลยคือการปวดอาหารเช้าไปนะ
00:03:10 → 00:03:12 ครับนะแล้วการที่เราเลื่อนอาหารเช้าลด
00:03:12 → 00:03:14 อาหารเช้าไปมันทำให้เราผอมลงได้ยังไงนะ
00:03:14 → 00:03:17 ครับก็อื่นคุณต้องเข้าใจแบบนี้ก่อนว่า
00:03:17 → 00:03:19 ร่างกายของคนเราเนี่ยเมื่อได้พลังงานจาก
00:03:19 → 00:03:22 อาหารภายนอกมามันจะใช้พลังงานจากอาหารภาย
00:03:22 → 00:03:24 นอกก่อนเพราะฉันคุณภาพกูตื่นนั้นคุณทาน
00:03:24 → 00:03:27 เลยจะเกิดขึ้นจากการที่คุณอยู่ทานมาตลอด
00:03:27 → 00:03:29 ทั้งคืนร่างกายไม่มีอาหารเข้าไปเลยไอ้
00:03:29 → 00:03:31 ช่วงนั้นแหละคือช่วงนี้ร่างกายคุณเอาไข
00:03:31 → 00:03:33 มันสะสมมาใช้แต่กำลังใช้อยู่ดีๆตื่นมา 6
00:03:33 → 00:03:36 โมงก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องก็ยังใช้ไขมัน
00:03:36 → 00:03:38 เป็นพลังงานในตัวร่างกายของคุณต้องใช้
00:03:38 → 00:03:40 พลังงานอยู่ตลอดเวลาดูไว้ดังนั้นหกโมง
00:03:40 → 00:03:42 เช้ายังไม่มีอะไรกินก็ยังต้องใช้ไขมันใน
00:03:42 → 00:03:44 ร่างกายเป็นพลังงานอยู่ 7 โมงยังไม่ได้
00:03:44 → 00:03:46 กิน 8 โมงป่ะกินแล้วเพราะ 8 โมงครับกิน
00:03:46 → 00:03:48 แล้วร่างกายฉันหยุดใช้ไขมันในร่างกายของ
00:03:48 → 00:03:51 คุณแล้วก็ใช้อาหารที่คุณทานเข้ามานั่น
00:03:51 → 00:03:53 แหละมาเป็นพลังงานก่อนมันคุณลองนึกภาพว่า
00:03:53 → 00:03:56 สิ่งที่คุณทำได้คือแต่ก่อนคุณเคยทานตอน
00:03:56 → 00:03:58 8:00 นแล้วคุณอาจจะปวดเมื่อเช้าไปเลย
00:03:58 → 00:04:01 แล้วก็ไปทานอีกทีตอนก็เป็นเริ่มแรกตอน
00:04:01 → 00:04:03 เที่ยงคุณก็จะได้ช่วงเวลาของการที่ใช้ไข
00:04:03 → 00:04:06 มันเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงเห็นไหม 8 โมง 9
00:04:06 → 00:04:08 โมง 10 โมง 11 โมงแล้วค่อยไปใช้พลังงาน
00:04:08 → 00:04:11 จากอาหารภายนอกตอนเที่ยงแต่คุณต้องระวัง
00:04:11 → 00:04:13 นะครับอย่าเข้าใจผิดเด็กผ่านว่าตรวจเมื่อ
00:04:13 → 00:04:16 เช้าไปเลยแล้วกันจริงๆแล้วร่างกายของคุณ
00:04:16 → 00:04:18 สมมติคุณทาน 3 มื้อนะแต่โมงเช้าเที่ยงและ
00:04:19 → 00:04:21 ก็ 4 โมงเย็นคุณเคยทาน 3 มื้อคุณก็ควรจะ
00:04:21 → 00:04:24 ต้องทานสารอาหารให้ได้ครบเหมือนเดิมแต่
00:04:24 → 00:04:27 แช่เลื่อนเวลาของการทานเช้าออกไปหรือบาง
00:04:27 → 00:04:30 คนน่ะอ้ะนึกตัวอย่างง่ายนะครับบางคนทาน
00:04:30 → 00:04:32 8:00 นแล้วก็ทานเที่ยงแล้วก็กลับมากิน
00:04:32 → 00:04:35 ข้าวบ้านด้วยกันกับคนอื่นๆตอน 18:00 นแบบ
00:04:35 → 00:04:37 เนี้ยก็กินแบบเดิมกูจะได้กินตั้งแต่ 08:00
00:04:37 → 00:04:39 น 18:00 นแต่การที่คุณเลื่อนเมื่อเช้าออก
00:04:39 → 00:04:42 ไปหน่อยอาจจะเลื่อนจาก 8:00 นเป็น 10:00
00:04:42 → 00:04:44 ช่วงเวลาการกินของคุณจะกลายเป็น 10 โมง
00:04:44 → 00:04:46 18:00 นเป็นภาพว่าช่วงเวลาการกินหนึ่ง
00:04:46 → 00:04:49 วันหลังกูมันสั้นขึ้นแล้วหลัง 18:00 นไป
00:04:49 → 00:04:50 เรื่อยๆจนถึง 10 โมงเช้าอีกวันนึงเนี่ย
00:04:50 → 00:04:52 เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายคุณได้ใช้ไขมันภาย
00:04:52 → 00:04:55 ในมันมากขึ้นเนี่ยแม้คุณก็จะผอมลงได้ง่าย
00:04:55 → 00:04:57 ขึ้นจากการแค่คุณปากนิดเดียวเองอ่ะเลื่อน
00:04:57 → 00:04:59 เวลาอาหารเช้าออกไปหน่อยคะนี่ถามว่าแล้ว
00:04:59 → 00:05:01 ช่วงเวลาที่อีกต่อไปแล้วทานอะไรได้บ้าง
00:05:01 → 00:05:03 ไหมนะครับไม่ได้หมายความว่าให้อดไปเลยนะ
00:05:03 → 00:05:06 คุณสามารถทานได้แต่อาจจะทานเป็นน้ำเปล่า
00:05:06 → 00:05:09 อาจจะทานเป็นชาที่มีแคลอรี่ไม่หวานแล้ว
00:05:09 → 00:05:12 อาจจะทานเป็นพวกกาแฟดำอย่างนี้ได้นะครับ
00:05:12 → 00:05:14 บ่ 1 เนี่ยทำเทคนิคแบบนี้เหมือนกันนะครับ
00:05:14 → 00:05:17 ช่วงที่มัน 1 ลดน้ำหนักเนี่ยก็หนึ่งก็
00:05:17 → 00:05:19 อาหารเช้าเนี่ยย้ายไปทานตอนเที่ยงเลยแต่
00:05:19 → 00:05:22 ก่อนก็จะเป็นคนที่ทาง 8:00 นเที่ยงทาน 6
00:05:22 → 00:05:24 โมงเย็นนะฮะแทนที่จะกินแบบนี้ก็เลื่อน
00:05:24 → 00:05:27 มื้อเช้า 8:00 นจะกินเที่ยงเลยระหว่างตัว
00:05:27 → 00:05:30 คนไข้ก็ in แล้วเปล่าบ้างชาบ้างกาแฟดำ
00:05:30 → 00:05:32 บ้างนะครับนะที่ไม่มีแคลอรี่แล้วพอเราไป
00:05:32 → 00:05:35 เริ่มกินมื้อแรกเที่ยงแล้วก็กินอีกมื้อ
00:05:35 → 00:05:37 นึงตอนหกโมงเย็นแล้วก็จะได้เวลาของช่วง
00:05:37 → 00:05:40 เวลาการทานแค่ 6 ชั่วโมงส่วนอีกสิบแปด
00:05:40 → 00:05:42 ชั่วโมงก็ได้ 6 โมงเย็นยันเที่ยงอีกวัน
00:05:42 → 00:05:44 นึงร่างกายได้ใช้แต่ให้มันเนาะแต่ข้อควร
00:05:44 → 00:05:47 ระวังที่หมอนึงบอกนะครับว่ามันไม่ใช่การ
00:05:47 → 00:05:49 อดอาหารไป 1 มื้อจากที่เคยกินเช้าเที่ยง
00:05:49 → 00:05:51 เย็นแล้วกดเช้าไปแล้วกินเที่ยงกับเย็น
00:05:51 → 00:05:54 เหมือนเดิมแต่สิ่งสำคัญคือในช่วงเวลาของ
00:05:54 → 00:05:57 การทานยกตัวอย่างนึงนะช่วงเที่ยงจนถึง 6
00:05:57 → 00:05:59 โมงเย็นหนึ่งก็ยังจำเป็นที่ต้องได้สาร
00:05:59 → 00:06:02 อาหารเท่าเดิมบ่เคยกินเช้ายังไงก็เอาสาร
00:06:02 → 00:06:04 อาหารที่กินมื้อเช้าไปเฉลี่ยกินเที่ยงกับ
00:06:04 → 00:06:07 เย็นหรือบางทีมาหนึ่งคิดว่าให้โปรตีนอ่ะ
00:06:07 → 00:06:09 จะไม่พอหรือเปล่านะครับพอเหลือแค่ 2 มื้อ
00:06:09 → 00:06:12 บางวันก็จะเป็นกินเที่ยงกับเย็นแล้วก็มี
00:06:12 → 00:06:14 เสริมนมบ้างตอนบ่าย3โมงเห็นไหมมันคือการ
00:06:14 → 00:06:17 ย้ายเวลาการทานเท่านั้นเองแต่ให้มีช่วง
00:06:17 → 00:06:19 เวลาของการหยุดทานใน 1 วันวันๆขึ้นดัง
00:06:19 → 00:06:22 นั้นนะครับถ้าใครสามารถให้เราสามารถปรับ
00:06:22 → 00:06:25 แบบนี้ได้นี่นาลองดูนะครับนะสิ่งหนึ่งที่
00:06:25 → 00:06:27 ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ง่ายๆเร็วขึ้นนะครับ
00:06:27 → 00:06:29 ท่านรู้จะปรับอะไรเนาะก็เลื่อนเวลาเช้า
00:06:29 → 00:06:32 ออกไปให้มันไกลกว่าเดิมอีกนิดนึงหรือบาง
00:06:32 → 00:06:35 คนอาจจะงดเช้าแล้วไปกินเที่ยงกะเย็นแล้ว
00:06:35 → 00:06:37 ก็เสริมสารอาหารในช่วงระหว่างเที่ยงกับ
00:06:37 → 00:06:40 เย็นให้มันอิ่มเนาะให้สารอาหารครบถ้วนแบบ
00:06:40 → 00:06:43 นี้จะช่วยคุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นเห็นภาพ
00:06:43 → 00:06:45 มากขึ้นไหมนะครับเนอะเพราะฉะนั้นจริงๆ
00:06:45 → 00:06:47 เนี่ยตรงนี้มันเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของ
00:06:47 → 00:06:50 การที่เราลดน้ำหนักที่หลายๆคนอาจจะเคยได้
00:06:50 → 00:06:51 ยินว่ามันเราเรียกมันว่าการทำ
00:06:51 → 00:06:53 intermittent fasting เหลือการทำ i s
00:06:53 → 00:06:56 นั่นแหละนะครับแต่อย่างที่หมอนึงบอกคุณ
00:06:56 → 00:06:58 ห้ามโฟกัสที่เรื่องของการตัดมื้ออาหาร
00:06:58 → 00:07:01 ปลอกอย่างเดียวเมื่อคนไปไสว่ามานึงแล้ว
00:07:01 → 00:07:03 ถ้าไม่กินเช้าแล้วก็ไม่กินเย็นด้วยกินจะ
00:07:03 → 00:07:05 เที่ยงมื้อเดียวได้ไหมคุณต้องระวังเด็ด
00:07:05 → 00:07:07 ขาดเลยนะว่าการกินมื้อเดียวต่อวันเนี่ยจะ
00:07:07 → 00:07:09 ทำให้น้ำหนักของคุณนิ่งง่ายมากๆใครเคย
00:07:09 → 00:07:12 เป็นแบบนี้ไหมคือไม่กินเช้าไม่เย็นๆนะ
00:07:12 → 00:07:14 แล้วก็กินมื้อเดียวต่อวันแล้วก็หยุดกินไป
00:07:14 → 00:07:16 เลยนะครับเนอะแล้วก็เข้าใจว่าเออแบบนี้
00:07:16 → 00:07:18 ยิ่งกินน้อยร่างกายของเราจะได้ลดน้ำหนัก
00:07:18 → 00:07:21 ได้ดีการทำแบบนี้แหละทำให้คุณเกิดการ
00:07:21 → 00:07:23 โยโย่ได้ง่ายเพราะเมื่อไรก็ตามยิ่งคุณทาน
00:07:23 → 00:07:26 น้อยร่างกายของคุณระบบเขาพายมันก็จะพัง
00:07:26 → 00:07:28 โอเคไหมนะครับนะคะฉะนั้นจะทานน้อยเด็ดขาด
00:07:28 → 00:07:32 นะครับให้ทานให้จำกัดเวลามากขึ้นแล้วเอา
00:07:32 → 00:07:35 สารอาหารที่ควรจะทานมื้อเช้าไปเฉลี่ยทาน
00:07:35 → 00:07:37 ในมื้อเที่ยงมื้อเย็นหรือว่าไปเพิ่มมื้อ
00:07:37 → 00:07:39 ระหว่างวันเป็นมื้อย่อยๆมือ 1 แบบนี้ได้
00:07:39 → 00:07:42 นะแต่ขอให้มีช่วงเวลาของการหยุดทานนาน
00:07:42 → 00:07:44 ขึ้นยังว่าหนึ่งยกตัวอย่างมาหนึ่งเองเคย
00:07:44 → 00:07:47 ทาน 08:00 นถึง 18:00 นแต่เช้าออกเลื่อน
00:07:47 → 00:07:50 เช้าไปทางเที่ยงแล้วสารอาหารแทนที่จะตัด
00:07:50 → 00:07:51 เช้าออกไปเลยและให้เหลือแต่เที่ยงกับเย็น
00:07:51 → 00:07:54 ก็อาจจะเอาอาหารสารอาหารมาเฉลี่ยก็กิน
00:07:54 → 00:07:56 โปรตีนมื้อเช้าเท่าไหร่เอาไปเฉลี่ยกับ
00:07:56 → 00:07:58 กลางวันกับเย็นเหลือจะเพิ่มมือเสริมตอน
00:07:58 → 00:08:01 15:00 นแล้วตัวข้อ 2 การทานแทนที่จะกลาย
00:08:01 → 00:08:03 เป็น 08:00 น 18:00 นก็เหลือแค่เที่ยงถึง
00:08:03 → 00:08:06 18:00 นที่สารอาหารยังเท่าเดิมโอเคไหมนะ
00:08:06 → 00:08:08 ครับเนาะสังเกตไหมว่าคนอื่นจะไม่ได้ทาน
00:08:08 → 00:08:10 น้อยเลยทานเท่าเดิมแต่แค่บีบเวลาให้มัน
00:08:10 → 00:08:12 สั้นขึ้นเท่านั้นเองนะครับซึ่งแบบนี้คุณ
00:08:12 → 00:08:15 ก็สามารถทำได้ง่ายเลยเหมือนกันแล้วคุณจะ
00:08:15 → 00:08:18 รู้เลยว่าเฮ้ยลดน้ำหนักไม่ยากนี่นามันคือ
00:08:18 → 00:08:20 สิ่งที่บางคนเนี่ยเราไม่รู้เฉยๆว่าทำแค่
00:08:20 → 00:08:22 นี้น้ำหนักก็ลดลงได้แล้วซึ่งนักเรียนของ
00:08:22 → 00:08:25 หมอหนึ่งในกลุ่ม 7000 8000 นะลดน้ําหนัก
00:08:25 → 00:08:27 1 เดือน 5 กิโลเป็นเรื่องง่ายมากๆเลยนะ
00:08:27 → 00:08:29 ครับเพราะว่าเขารู้จักร่างกายของเขาว่า
00:08:29 → 00:08:32 ร่างกายทำงานยังไงต้องปรับยังไงแล้วพอเรา
00:08:32 → 00:08:34 เข้าใจนะว่าร่างกายเราทำแบบนี้อีกหน่อย
00:08:34 → 00:08:36 คุณจะไม่กลับไปอ้วนน่ะหรือต่อให้น้ำหนัก
00:08:36 → 00:08:38 ขึ้นนี่หน่อยคุณแล้วกลับไปลดได้ง่ายมาก
00:08:38 → 00:08:40 เลยที่ไม่ต้องพึ่งยามลงทุนอาหารเสริมเลย
00:08:40 → 00:08:43 นะครับก็หวังว่าจบวันนี้แล้วนะครับคุณ
00:08:43 → 00:08:45 แล้วเทคนิคนี้ไปปรับใช้นะครับใครที่พรุ่ง
00:08:45 → 00:08:47 นี้จะเริ่มทำอะไรนะครับน้ำหนักเท่าไหร่
00:08:47 → 00:08:49 อยากรู้เหลือเท่าไหร่ก็คอมเม้นมาด้านล่าง
00:08:49 → 00:08:52 นะครับเดี๋ยวหนึ่งมาตอบนะครับ