00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:16 งี้มั้ล่ะทิศทางนึงเป็นทิศทางของกลุ่ม
00:00:16 → 00:00:20 ฮอร์โมนลูกเพศเอ่อเดี๋ยว
00:00:20 → 00:00:23 นะเนี่ยอันเนี้ภาพมันเล็กไปหน่อยแต่เห็น
00:00:23 → 00:00:29 ใช่มั้ยคือทิศทางของโกสฮอร์โมนนะฮะนะแต่
00:00:29 → 00:00:32 ว่ามันโกสฮอร์โมนเนี่ยจะเป็นตัวหลัก
00:00:32 → 00:00:36 ฮอร์โมนลูกเทพทั้งหมด 6 ตัวในฝั่งเนี้ย
00:00:36 → 00:00:40 โกสฮอร์โมนไทรอยด์นะเนี่ยจะเป็นตัวหลัก
00:00:40 → 00:00:43 เลยที่จะมาสลายเผาผลาญพลังงานตอนที่ไม่
00:00:44 → 00:00:47 ได้กินนะตอนที่ไม่ได้กินอะไรหรือว่าตอน
00:00:47 → 00:00:51 ที่ทำ IF โปรองฟastหรือตอนที่ออกกำลังกาย
00:00:51 → 00:00:54 แล้วก็แบบไม่มีอะไรที่จะไปช่วยเผาผลาญ
00:00:54 → 00:00:57 เป็นพลังงานเอ่อดำเนินการออกกำลังกายต่อ
00:00:58 → 00:01:02 ไปอ่ะนะเนี่ยไอ้ตัวโกสฮอร์โมนตัวไทรรอยด์
00:01:02 → 00:01:06 นะฝั่งนี้แหละเค้าก็จะมาสลายไขมันที่มัน
00:01:06 → 00:01:09 สะสมไว้ที่เซลล์เนื้อเยื่อไขมันโดย
00:01:09 → 00:01:13 กระตุ้นฮอร์โมน sensitive นะฮะในการสลาย
00:01:13 → 00:01:16 เป็นgีซอรอลกับ free fatty acid นะแล้ว
00:01:16 → 00:01:20 ก็จะมีผลอ่าในเรื่องของการมีadิปนคติน
00:01:20 → 00:01:25 เนี่ยมาเป็นตัวอ่าทำให้เกิดภาวะ insulin
00:01:25 → 00:01:28 sensitivity แล้วก็ inibit ฮอร์โมน
00:01:28 → 00:01:32 ไสนะฮะคือคือฝั่งเนี้ยจะเป็นฝั่งในเรื่อง
00:01:32 → 00:01:36 ที่ว่าร่างกายเนี่ยอยู่ในโหมดของการสลาย
00:01:36 → 00:01:41 เผาผลาญพลังงานและเออและไม่มีตัวคล้ายๆ
00:01:41 → 00:01:44 ไม่มีไอ้พวกคอติซอลฮอร์โมนเครียดอะไรมารบ
00:01:44 → 00:01:49 กวนนะคือคืออยู่ในฝั่งที่กำลังกิน Low Cฟ
00:01:49 → 00:01:52 High Food Fat oil แล้วก็เอ่อกิน 2
00:01:52 → 00:01:55 มื้อกินมื้อแรกถูกต้องกินมื้อเย็นถูกต้อง
00:01:55 → 00:01:58 ทั้งมื้อแรกมื้อเย็นต่อ 1 วันเนี่ยกินพอ
00:01:58 → 00:02:03 ดีอ่าแล้วก็นอนไปอะไรเงี้ยนะอ่ามันก็เกิด
00:02:03 → 00:02:06 การสลายไปตามรูปแบบเนี้ยโดยการทำงานของ
00:02:06 → 00:02:11 ฮอร์โมนลูกเทพนะแต่มันก็จะเฉพาะนะเฉพาะ
00:02:11 → 00:02:14 กลุ่มฮอร์โมนลูกเทพที่ไม่เกี่ยวกับ
00:02:14 → 00:02:18 อินซูลินหรือในกลุ่มแคติโคลามีนนะฮะ
00:02:18 → 00:02:23 นะไอ้ตัวฝั่งเนี้ยฝั่งอ่าแอtionของ
00:02:23 → 00:02:29 แคติลามีนอ่าแดีนารalีนนะแดีนเนี่ยนะฮะนะ
00:02:29 → 00:02:32 พวกเนี้ยที่มันบอกที่เราอธิบายบอกว่ามัน
00:02:32 → 00:02:37 มีผลต่ออ่าไโปรปตีนไเปสเนี่ยนะฝั่งนี้จะ
00:02:37 → 00:02:40 เป็นฝั่งที่ไม่ได้เด่นมากเท่ากับฝั่ง
00:02:40 → 00:02:43 ฮอร์โมน sensive dip นะแต่ฝั่งนี้เนี่ย
00:02:43 → 00:02:47 นะช่วงแรกๆนะช่วงแรกๆเนี่ยเอ่อพวก
00:02:47 → 00:02:50 แดดนาลีนหรือแคตินเนี่ยนะเนื่องจากว่าเรา
00:02:50 → 00:02:53 ไม่ได้กินไงอ่ามันก็เป็นลักษณะของความ
00:02:53 → 00:02:57 เครียดที่แบบเป็น physology Y นะฮะซึ่ง
00:02:57 → 00:03:00 เวลาความเครียด physiology เนี่ยเ่อปรากฏ
00:03:00 → 00:03:04 ว่าแดนเนี่ยเขาก็ออกมาโดยที่คอิซอลเนี่ย
00:03:04 → 00:03:07 ยังไม่ได้ออกมามากมายอะไรต่างๆนะฮะแต่ถ้า
00:03:07 → 00:03:11 เกิดว่ามันโปรองฟเยอะๆหรือว่ามัน heavy
00:03:11 → 00:03:15 exercise เยอะๆเลยอ่ะนะฮะหรือคนๆเนี้ย
00:03:15 → 00:03:18 ไอ้พวกเซลล์เนื้อเยื่อไขมันTheชูเนี่ยมัน
00:03:18 → 00:03:21 ไม่ได้มีพลังงานสะสมมากมายอะไรต่างๆมัน
00:03:21 → 00:03:24 underweight อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะเมื่อ
00:03:24 → 00:03:27 นั้นนี่แหละนะภาวะที่ร่างกายมันต้องการ
00:03:27 → 00:03:30 พลังงานในช่วงที่ไม่มีอะไรกินเนี่ยไม่ใช่
00:03:30 → 00:03:35 feeding state นะในที่สุดแล้วคอิซอลจะ
00:03:35 → 00:03:39 ออกมาเพราะว่าเขาก็จะsignนล่ะว่าเออพลัง
00:03:39 → 00:03:42 งานมันอาจจะไม่พอมันหมิ่นเหม่เหลือเกิน
00:03:42 → 00:03:45 เนี่ยแล้วพลังงานสำรองก็ไม่มีนะเนี่ย
00:03:45 → 00:03:50 คอร์ิก็จะเริ่มพีคขึ้นเรื่อยๆนะนะซึ่งนะ
00:03:50 → 00:03:53 เวลาที่คอร์ติมาแดดาลีนก็ยิ่งมาใหญ่เลย
00:03:53 → 00:03:56 เพราะว่าคอร์ตซอลเนี่ยเจะเผาผลาญพลังงาน
00:03:56 → 00:03:59 หรือจะเอาพลังงานมาได้ยังไงอ่ะอ่าเ้าไม่
00:03:59 → 00:04:03 ได้มีผลโดยตรงในการเผาผลาญเพียงแต่ว่าเขา
00:04:03 → 00:04:05 ออกมาควบคุมเพราะฉะนั้นตัวที่เขาสั่งการ
00:04:05 → 00:04:08 ได้อ่ะแล้วเก็เตงมาด้วยคือแดดาลีนเพั้น
00:04:08 → 00:04:11 เพราะฉะนั้นเนี่ยในที่สุดแล้วเนี่ยนะบท
00:04:11 → 00:04:14 บาททางฝั่งฮอร์โมน sensive โดยโค้ด
00:04:14 → 00:04:18 ฮอร์โมนต่างๆเนี่ยก็จะลดลงไปเรื่อยๆนะ
00:04:18 → 00:04:20 เพราะอะไรเพราะตัวแม่เขามาพอแม่มาปุ๊บ
00:04:20 → 00:04:23 เนี่ยฝั่งนี้ก็ไม่กล้ามาแล้วนะแล้วแม่เอา
00:04:23 → 00:04:27 แอดเดรนาลีนลูกชายคนเล็กมาด้วยนะฮะแอชั
00:04:27 → 00:04:30 ทางด้านนี้เนี่ยมันก็จะเด่นขึ้นมาเรื่อยๆ
00:04:30 → 00:04:33 เรื่อยๆเรๆๆๆๆแต่มันเป็นการควบคุมโดย
00:04:33 → 00:04:38 คอรisซอลกับแดดาลีนและมันไปสั่งเรื่อง
00:04:38 → 00:04:41 ไโปโปรตินไเปสเป็นหลักอ่าเไม่ได้ไปสั่ง
00:04:41 → 00:04:43 ฮอร์โมน
00:04:43 → 00:04:47 sensitive อันเนี้ยอันนี้คือจุดแยกนะ
00:04:47 → 00:04:52 แล้วก็จุดแยกตรงนี้แหละก็คือจุดที่อยากจะ
00:04:52 → 00:04:56 อธิบายในรูปแรกเลยอันเนี้ยว่าไอ้ตัวเบอร์
00:04:56 → 00:05:00 1 เนี่ยนะถ้ามันเป็นเบอร์ 1 ของคนที่มัน
00:05:01 → 00:05:04 กินถูกเออกินถูกคือกิน Low Cฟ High Good
00:05:05 → 00:05:09 Fat Til ตามalMetabบิเรกอ่าบวกนิดๆ
00:05:09 → 00:05:12 หน่อยๆอะไรต่างๆเกินไม่เยอะแยะอะไรต่างๆ
00:05:12 → 00:05:15 เนี่ยนะเราปรุงถูกกินเป็นมื้อแรกมื้อเย็น
00:05:15 → 00:05:19 อะไรต่างๆถูกต้องหมดรวยเนี่ยนะนะฝั่ง
00:05:19 → 00:05:21 เบอร์ 1 ที่มันเป็นฮอร์โมน Sensive P
00:05:21 → 00:05:25 เนี่ยก็จะเด่นนะทุกอย่างเนี่ยจะอยู่ใน
00:05:25 → 00:05:28 ความพอดีเพราะฮอร์โมนลูกเทพที่เป็นโกน
00:05:28 → 00:05:31 ฮอร์โมนไทรรอยด์กลูคารอนอะไรพวกเนี้ยนะ
00:05:31 → 00:05:35 พวกนี้นี่เขาทำงานแบบพอดีพอๆไม่เยอะไม่
00:05:35 → 00:05:39 เยอะแต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าคุณกินไม่ถูก
00:05:39 → 00:05:41 เอนเนerมันimbาalanceซมันไม่บาanceซเมื่อ
00:05:41 → 00:05:46 ไหร่นะฮะนะอย่างเช่นนี่แหละที่เราเห็นไง
00:05:46 → 00:05:49 ว่ากิน low คฟแต่ไโปรตีนแล้วก็ไม่รู้
00:05:49 → 00:05:53 เรื่องรู้ราวไอ้เรื่องเอ่อก high High
00:05:53 → 00:05:55 good healthy fat น้ำมงน้ำมันพืชสัตว์
00:05:55 → 00:05:58 อะไรอย่าเงี้ยนะแล้วก็ไปคิดว่ากิน
00:05:58 → 00:06:01 ไฮโปรตีนแล้วเดี๋ยวมันก็ในไฮโปรตีนกูกิน
00:06:01 → 00:06:04 เนื้อสัตว์บกก็ไขมันอิ่มตัวเยอะแยะพึบพับ
00:06:04 → 00:06:07 แหละนะแล้วก็ไขมันไม่ได้มีแต่อิ่มตัว
00:06:07 → 00:06:10 เนี่ยมันก็มีเชิงเดี่ยวเชิงซงเชิงซ้อนมี
00:06:10 → 00:06:13 ทั้งพามิติกสเตียริกอะไรในที่สุดบวกลบคูณ
00:06:13 → 00:06:16 หารแล้วมันจะน่าจะได้หรอกน่ะก็คือเ้าไม่
00:06:16 → 00:06:20 ได้คิดประเด็นของเรื่องของไขมัน 60% ไงฮะ
00:06:20 → 00:06:24 นะเพราะงั้นในกรณีที่ไม่ได้กินแบบอ่าเพจ
00:06:24 → 00:06:29 ที่เราแนะนำนะอ่ามันอาจจะฟุกๆอ่าทุกอย่าง
00:06:30 → 00:06:32 เนี่ยมันก็กลายเป็นความพอดีก็ได้แต่ส่วน
00:06:32 → 00:06:35 ใหญ่มันจะไม่ค่อยฟลุกเอ่าเพราะบอดี้ไทย
00:06:35 → 00:06:39 ของคนก็ดีนะหรือหรือในเรื่องของการกินที่
00:06:39 → 00:06:43 มันไม่มีหลักการที่มายึดโยงเนี่ยในที่สุด
00:06:43 → 00:06:46 แล้วเนี่ยมันจะ energy imbalance จะเร็ว
00:06:46 → 00:06:52 จะช้าก็แล้วแต่แต่ละบุคคลนะเวลามันอนี่
00:06:52 → 00:06:55 บาanceซเนี่ยนะแล้วในช่วงที่กินเนี่ยมัน
00:06:55 → 00:06:58 ก็เป็นประเด็นเรื่องนึงแหละส่วนใหญ่แล้ว
00:06:58 → 00:07:02 เบอร์ 2 กับเบอร์ 4 มันก็จะเด่นเลยนะของ
00:07:02 → 00:07:05 คนที่ energy inบาalanceซนะนะหมายถึงว่า
00:07:05 → 00:07:08 กินที่ไม่ได้กินแนวตามเพจเราอ่ะแบบที่
00:07:08 → 00:07:13 อยู่เกินรือหรือว่าในในเอ่อต่างๆอ่ะโลฮั
00:07:13 → 00:07:17 high โปรตีน high นะเนี่ยนะเพราะฉะนั้น
00:07:17 → 00:07:21 เนี่ยในที่สุดแล้วเอ่อในช่วงที่เค้าไม่
00:07:21 → 00:07:24 กินล่ะจะอธิบายยังไงกับไอ้คนที่กินไม่ถูก
00:07:24 → 00:07:27 เนี่ยนะฮะนะเพราะในช่วงที่กินเนี่ยมันก็
00:07:27 → 00:07:29 มักมักจะมีเรื่องของการผิดและการเกินของ
00:07:29 → 00:07:32 เบอร์ 2 เบอร์ 4 เพราะฉะนั้นออกมาที่
00:07:32 → 00:07:34 เบอร์ 5 เนี่ยนะมันก็อยู่ในรูปแบบของ
00:07:34 → 00:07:37 เบอร์ 2 เด่นกว่าหรือเบอร์ 4 เยอะกว่า
00:07:37 → 00:07:39 อะไรต่างๆหรือทั้ง 2 ทั้ง 4 เยอะพอกัน
00:07:39 → 00:07:43 เป็น land cycle นะฮะนะทนี้เบอร์ 1
00:07:43 → 00:07:45 เนี่ยนะมันจะมายุ่งยังไงกับคนที่กินไม่
00:07:45 → 00:07:50 ถูกนะฮะนะส่วนใหญ่แล้วเบอร์ 1 บอกว่ามี 2
00:07:50 → 00:07:53 แบบแบบนึงเป็นฮอร์โมนเensitiveไเปสอีกแบบ
00:07:53 → 00:07:57 นึงก็คือเป็นadดีนมากุนไโปโปตีนไเปสเนี่ย
00:07:57 → 00:08:02 นะคนที่มันกินไม่ถูกนี่แหละนะฮะไอ้ฝั่ง
00:08:02 → 00:08:05 ฝั่งนี้เนี่ยนี่ฝั่งนี้เนี่ยนะฝั่งที่
00:08:05 → 00:08:07 แคติโคลามีนแอดรินาลีนแล้วกระตุ้น
00:08:07 → 00:08:12 ไโปรฟาตินไเปสเนี่ยนะช่วงแรกๆนะฮะช่วงแรก
00:08:12 → 00:08:18 ๆมันก็ยังพอสมน้ำสมเนื้อไปอ่าไม่ขาดไม่
00:08:18 → 00:08:22 เกินอะไรมากๆฮะแต่ในช่วงหลังที่หมอบอกว่า
00:08:22 → 00:08:25 ในเมื่อคอร์ติตัวแม่เข้ามามากขึ้นมากขึ้น
00:08:25 → 00:08:29 มากขึ้นในช่วงที่ไม่กินแบบเนี้ยนี่แหละนะ
00:08:29 → 00:08:31 ไอ้ไอฝั่งนี้แหละทั้งแดดนาลีนทั้ง
00:08:31 → 00:08:36 ไรโปรตีนไเปสเนี่ยมันเยอะเกินซึ่งอ่าพวก
00:08:36 → 00:08:39 นี้เนี่ยส่วนใหญ่มันจะโอเวอร์ไปหมดเลยอ่า
00:08:39 → 00:08:42 มันก็จะสลายเผาผลาญไขมันทั้งคีเซอรทั้ง
00:08:42 → 00:08:46 เอ่อฟีฟตyaซidเนี่ยออกมาเยอะแยะถ้าร่วม
00:08:47 → 00:08:50 กับยีน Express ที่เมื่อกี้บอกไว้ว่าบาง
00:08:50 → 00:08:54 คนนะมันมีไฮเปอร์อย่างหมอโต้งไฮโปรใช่ม
00:08:54 → 00:09:00 บางคนมันไฮเปอร์ไรปโปรตีนแtivityอ่ะนะไต
00:09:00 → 00:09:03 activity มันเยอะอ่ะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:09:03 → 00:09:07 นะพวกเนี้ยฟีฟตี้acซิดไตกีซมันเยอะเยอะ
00:09:07 → 00:09:10 มันเยอะจนกระทั่งเออเนี่ยมันก็จะมีตัว
00:09:10 → 00:09:13 อะไรอ่ะมีตัวไคโรไมคอนมาจับแล้วเอาไปที่
00:09:13 → 00:09:17 ตับพอไปที่ตับแล้วเนี่ยเนี่ยมันก็ไปให้
00:09:17 → 00:09:19 ตับแบบเยอะๆอ่ะแหละนะฮะนะเพราะฉะนั้นนั้น
00:09:19 → 00:09:23 เบอร์ 1 ในฝั่งที่มันเป็นเรื่องของแคติน
00:09:23 → 00:09:27 และไโปรตีนไส Activity เยอะๆเนี่ยนะมันก็
00:09:27 → 00:09:32 จะไปส่ง FYD ให้กับตับเยอะๆพอตับมันได้
00:09:32 → 00:09:35 พวกนี้มาเยอะๆในเบอร์ 1 เนี่ยนะจาก
00:09:35 → 00:09:38 อิทธิพลของคอร์ตนะโดยเฉพาะยิ่งกาลเวลา
00:09:38 → 00:09:40 ผ่านไปนานๆเหล่าเนี้ยนะในที่สุดแล้ว
00:09:40 → 00:09:44 เดี๋ยวตับมันก็ckingนะแล้วก็ออกมาที่
00:09:44 → 00:09:48 เบอร์ 5 ค่อนข้างเด่นนะหรือบางทีมันอาจจะ
00:09:48 → 00:09:50 เด่นมากกว่าเบอร์เบอร์ 2 กับเบอร์ 4 ด้วย
00:09:50 → 00:09:54 นะฮะนะเนี่ยเบอร์ 1 เดี๋ยวเนี้ยนะคือมัน
00:09:54 → 00:09:59 มาเป็นองค์ประกอบของ 2 4 1 3 อ่านะ
00:09:59 → 00:10:04 หรือ 2 หรือ 4 หรือ 4 หรือ 2 หรือ 1 อ่า 1
00:10:04 → 00:10:09 นี่ก็จะหนาขึ้นแดงโล่โจ้เลยนะซึ่งกรณีแบบ
00:10:09 → 00:10:12 เนี้ยส่วนใหญ่นะมันก็จะทำให้ค่าเรมนมัน
00:10:12 → 00:10:17 เยอะเออมันเกินไปเยอะๆเลยนะ 30 40 50
00:10:17 → 00:10:22 เลยนะอันนี้แหละก็คือตัวที่มาอธิบาย
00:10:22 → 00:10:27 ว่าแล้วฉันไม่ได้กินตามเพจแกล่ะนะแล้วฉัน
00:10:27 → 00:10:32 ก็กินโลคไฮโปรตีนเนี่ยกินๆไปแล้วอ่ะเออนะ
00:10:32 → 00:10:35 ในที่สุดผลแลบมันก็ไม่ดีอ่ะนะเวลามาเข้า
00:10:35 → 00:10:38 ตารางแลบของเรานะแต่ส่วนใหญ่เค้าก็ไม่ได้
00:10:39 → 00:10:43 มาเข้าตารางแลบของเราเราไปแอบไปแอบดูข้อ
00:10:43 → 00:10:46 มูลแล้วเราก็เอาเค้ามาเออนะแต่เค้าอ่ะไม่
00:10:46 → 00:10:48 รู้เรื่องรู้ราวหรอกเค้าก็นึกว่ามันน่าจะ
00:10:48 → 00:10:53 ดีแต่เรามาอธิบายซะละเอียดแบบนี้เลยนะอัน
00:10:53 → 00:10:57 นี้แหละคือจุดที่อยากจะเสริมในกรณีที่ว่า
00:10:57 → 00:10:59 เอาหมอแล้วถ้าเกิดเค้าไม่ได้กินตามเพจเ้า
00:10:59 → 00:11:03 ไม่รู้จักเอ่อน้ำมันสกัดเย็นไม่ได้ปรุง
00:11:03 → 00:11:07 น้ำสลัดทองทออยอะไรอย่างเงี้ยเออเออแต่ผ
00:11:07 → 00:11:11 ตรวจแลบมาแล้วเล็มแนนไม่ดีไตีซยังสูงเอ่อ
00:11:11 → 00:11:16 TYG ยังเกินไปเยอะเลยอะไรต่างๆเนี่ยนะ
00:11:16 → 00:11:19 อ๋อแล้วบอกว่าส่วนส่วนใหญ่อันเนี้ยเป็นผล
00:11:19 → 00:11:22 ของตัวแม่คอร์ติซอลเอ่อเขามามีผลยังไง
00:11:22 → 00:11:25 เหลืออีกตัวแม่คอรติซอลก็มีผลตรงจุดเบอร์
00:11:25 → 00:11:28 1 นี่แหละแต่มันจะเป็นเบอร์ 1 ฝ่ายที่
00:11:28 → 00:11:32 เป็นเรื่องของแคติโคลามีนกับเอนไซม์ไ
00:11:32 → 00:11:35 โปรตีนไส
00:11:35 → 00:11:38 Hyperactivity คือไม่ได้มาเกี่ยวกับ
00:11:38 → 00:11:42 Hormone Sensive ไส ADCIN อะไรนะอัน
00:11:42 → 00:11:44 นั้นมันเป็นลูกเทพประเภทที่ไปเป็นโกส
00:11:44 → 00:11:48 ฮอร์โมนไทรอยด์กลูคารอนเทสโตซอโรนอะไร
00:11:48 → 00:11:51 อย่างเงี้ยนะเนี่ยมันเป็นเรื่องของ
00:11:51 → 00:11:56 แอดรินาลีนโดยเฉพาะแต่ไปๆมาๆพอผ่านไปนานๆ
00:11:56 → 00:11:59 เข้าแล้วยังกินไม่ถูกกินไม่เป็นนี่แหละ
00:11:59 → 00:12:02 หลายๆปีบางคนก็เป็นปีอ่ะแบบแอดที่อยู่ใน
00:12:02 → 00:12:05 อยู่เกินร้อยเห็นมั้ยล่ะ
00:12:05 → 00:12:08 เออหมดแล้วล่ะที่จะอธิบายเสริมอย่างเงี้ย
00:12:08 → 00:12:11 มีข้อสงสัยอะไรมั้ย
00:12:11 → 00:12:15 ยังไม่มีครับต้องฟังอะไรอีกหลายรอบครับ
00:12:15 → 00:12:20 อ้าวแล้วอันเนี่ยสุทัศ์ฟังแล้วพอจะเก็ท
00:12:20 → 00:12:24 เข้าใจเปล่าโอ้ต้องอัดทิ้งไว้ครับเดี๋ยวๆ
00:12:24 → 00:12:26 เดี๋ยวต้องกลับมาย้อนฟังครับเพราะว่าหัว
00:12:26 → 00:12:28 ผมตอนนี้เบลอไปหมด
00:12:28 → 00:12:32 ะตั้งแต่ตั้งแต่เช้าผมตัดมากี่ขิบแล้วนะ
00:12:32 → 00:12:35 ของเริ
00:12:35 → 00:12:39 คือก็เป็นจุดนึงที่อยากจะขยายว่าในกรณี
00:12:39 → 00:12:40 ที่นะ
00:12:40 → 00:12:45 ไอ้ไอ้ตัวคอซอลเนี่ยเค้ามายุ่งในตอนที่
00:12:45 → 00:12:48 ว่าเราเรา energy balance เนี่ยส่วนใหญ่
00:12:48 → 00:12:52 เค้าก็จะมายุ่งเอ่อตอนนี้แหละคือเค้าก็
00:12:52 → 00:12:55 ยุ่งตอนที่ฟีดถ้ายุ่งตอนที่ฟีดคอซอลเจะ
00:12:55 → 00:12:59 ยุ่งตอนที่โปรตีนมันเยอะเอ่อหรือตอนที่ไข
00:12:59 → 00:13:02 มันเนี่ยมันผิดเบอร์ 2 เบอร์ 4 นะครับ
00:13:02 → 00:13:05 แล้วตอนที่ฟาสล่ะเออตอนที่ฟาสไม่ได้กิน
00:13:05 → 00:13:07 แล้วเบอร์ 2 ก็ไม่ได้กินเบอร์ 4 ก็ไม่ได้
00:13:07 → 00:13:10 กินน่ะมันฟาสน่ะนะนี่ข้อที่ก็จะมาเอา
00:13:10 → 00:13:14 เรื่องกับอีเบอร์ 1 นี่แหละนะแต่เบอร์ 1
00:13:14 → 00:13:17 เนี่ยมันมี 2 พทไงอ่าพารทข้างล่างนี่เป็น
00:13:17 → 00:13:20 พารท hormon sensive pace แล้วพารทข้าง
00:13:20 → 00:13:23 บนเนี่ยมันเป็นพารทของแคติลามีนกับ
00:13:23 → 00:13:26 ไโปโปรตีนไเปสเนี่ยนี่คอร์ติซอเ้าโฟกัส
00:13:26 → 00:13:32 อยู่ข้างบนตรงนี้นะอ่าอ่าครับ
00:13:32 → 00:13:36 ทีนี้นะการสลายเนี่ยไม่ว่าจะเป็นพวกโกส
00:13:36 → 00:13:41 ฮอร์โมนนะหรือไอ้ตัวแดดินก็ตามเนี่ยนะฮะ
00:13:41 → 00:13:44 นะแล้วมันก็จะได้เป็นคีซerอลกับฟีฟ faty
00:13:44 → 00:13:48 acid ใช่มั้ล่ะนะถ้านะส่วนใหญ่เนี่ยมัน
00:13:48 → 00:13:52 ก็จะพาส่งตับหมดแหละนะฮะพาส่งตับหมดแหละ
00:13:52 → 00:13:55 นะพอส่งเข้าไปในตับเนี่ยทั้งกีเซอรอล
00:13:55 → 00:13:58 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลทั้งีฟตyaซidเนี่ยนะที่
00:13:58 → 00:14:02 เกิดการสลายแล้วสลายเยอะๆอ่ะนะฮะนะเวลา
00:14:02 → 00:14:05 ส่งเข้าตับเนี่ยไอ้ 2 ตัวเนี้ยเอ่อก็ไป
00:14:06 → 00:14:10 อ่ะนะอ่าก็ไปเข้าไปเข้าไปเข้าไปในตับนะฮะ
00:14:10 → 00:14:13 นะถ้าตับจัดการได้คือรีบส่งกีเซอรอล
00:14:13 → 00:14:16 เปลี่ยนเป็นปูโคสแล้วแล้วก็ไปให้ตรงนั้น
00:14:16 → 00:14:21 ตรงนี้ใช้เป็นพลังงานทันนะอ่าส่วน Cty
00:14:21 → 00:14:24 Acid เนี่ยนะก็ส่งเข้าไปอ่ะส่งเข้าไปจะ
00:14:24 → 00:14:26 ส่งแบบอ่าเบอร์ 1 ข้างบนเบอร์ 1 ข้างล่าง
00:14:26 → 00:14:30 อะไรก็ตามนะฮะนะถ้าส่งไปแล้วนะถ้าส่งไป
00:14:30 → 00:14:32 แล้วเนี่ยมันใช้ไม่ได้เปลี่ยนเป็น
00:14:32 → 00:14:37 คีโตน่าไม่ทันนะมันเยอะเหลือเกินนะนะ
00:14:37 → 00:14:40 เพราะฉะนั้นมันก็จะมีนะฮะนะคือยังไงยังไง
00:14:40 → 00:14:43 ในตับเนี่ยนะมันมีกระบวนการเอ่อ
00:14:43 → 00:14:46 กลูโคนesisเนี่ยเนี่ยที่จะมีน้ำตาลเกิด
00:14:46 → 00:14:49 ขึ้นอยู่แล้วอ่ะนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:14:49 → 00:14:52 fatic acid ตรงนี้กับน้ำตาลเนี่ยก็เลย
00:14:52 → 00:14:55 เกิด remodelling หรือ repacking ใหม่นะ
00:14:55 → 00:14:58 แล้วก็ออกมาเป็น VLDA นะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:14:58 → 00:15:02 เนี่ยคำสงสัยอย่างนึงก็คือไอ้ตัว Facy
00:15:02 → 00:15:04 Acid เนี่ยที่บอกว่ามันมีแอtionัมาจาก
00:15:04 → 00:15:07 สิ่งนั้นสิ่งนี้เนี่ยนะแล้วในที่สุดแล้ว
00:15:07 → 00:15:12 ทำไมมันไปจับไอ้กับไอ้ตัวน้ำตาลที่จะ
00:15:12 → 00:15:16 ฟอร์มเป็นBlackโบโบนเนี่ยนะแล้วตัวไตไลด์
00:15:16 → 00:15:20 3 3 โมเลกุลเนี่ยไปจับนะกับแบ็คบน
00:15:20 → 00:15:23 อันเนี้ยแล้วกลายมาเป็นตัวไตีซใหม่แล้วก็
00:15:23 → 00:15:27 ลอยลำออกมาทาง VLDL ได้ยังไงนะมันทำได้
00:15:27 → 00:15:31 หมดแหละนะฮะอันเนี้ไม่ต้องกลัวนะคือจาก
00:15:31 → 00:15:35 อนุภาคหน่วยย่อยๆต่างๆนะฮะนะในที่สุดแล้ว
00:15:35 → 00:15:39 ตับเนี่ยนะก็จะต้องทำอะไรซักอย่างนึงนะ
00:15:39 → 00:15:41 กับอนุภาคเหล่านี้แต่ส่วนใหญ่มันก็คือ
00:15:41 → 00:15:44 ปฏิกิริยาที่มันจะเชื่อมต่อคือเชือบต่อ
00:15:44 → 00:15:47 แล้วเป็นไตกีซรายเนี่ยถ้าพื้นที่ของตับมี
00:15:47 → 00:15:49 ให้เก็บมันก็เก็บพอกเข้าไปในเซลล์ของตับ
00:15:49 → 00:15:52 นะฮะแต่ถ้าพื้นที่ของตับไม่มีหรือตับอาจ
00:15:52 → 00:15:56 จะมีกลไกบางสิ่งบางอย่างที่บอกว่าเออเไม่
00:15:56 → 00:15:59 ได้ไม่ได้ต้องส่งออกทาง VLDL เพราะว่าตรง
00:15:59 → 00:16:01 นั้นตรงนี้เนี่ยเ้าเรียกร้องให้เอาอะไรไป
00:16:01 → 00:16:06 ซ่อมเค้าหน่อยเออนะเอ่อก็ต้องส่งออกอ่ะนะ
00:16:07 → 00:16:10 มันมีสัญญาณนี่แหละนะฮะนะที่จะส่งออกนะ
00:16:10 → 00:16:13 เพราะฉะนั้นเนี่ยใครก็ตามนะถ้ากินแล้ว
00:16:13 → 00:16:17 เนี่ยนะสมมุติว่าคุณก็มีเก้าอี้ 4 ขา
00:16:17 → 00:16:19 เนี่ยนะก็คือออกกำลังกายมันก็ดีกว่าไม่
00:16:19 → 00:16:22 ออกเพราะการออกกำลังกายเนี่ยมันจะมีการ
00:16:22 → 00:16:24 บาดเจ็บมีการซ่อมซ่อมนะมันก็จะส่งสัญญาณ
00:16:24 → 00:16:28 มาที่ตับเนี่ยเอาอาหารเอาพลังงานเอาสาร
00:16:28 → 00:16:30 อาหารอะไต่างๆส่งมาทีคุณจะซ่อมอะไรอย่าง
00:16:30 → 00:16:34 เงี้ยนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยแทนที่มันจะ
00:16:34 → 00:16:38 พอกที่ตับนะตับมันก็ต้องมีสัญญาณรับมาจาก
00:16:38 → 00:16:40 อวัยวะต่างๆโดยเฉพาะกล้ามเนื้อเนี่ยว่า
00:16:40 → 00:16:43 ส่งไปส่งไปอะไรอย่าเงี้ยนะมันก็เลยไม่พอก
00:16:43 → 00:16:47 ตับนะนี่แหละที่แทนเซียหรือใครบอกว่าออก
00:16:47 → 00:16:50 กำลังกายแล้วมันก็ดีนะมันก็มาช่วยเอ่อลด
00:16:50 → 00:16:53 การดื้ออินซูลินช่วยให้กล้ามเนื้ออะไร
00:16:53 → 00:16:56 ต่างๆเอาคอเลสเตอรอลเอาพลังงานเอา
00:16:56 → 00:16:58 ไตรกีเซอรไรด์เอาน้ำตาลไปใช้อะไรอย่าง
00:16:58 → 00:17:03 เงี้ยเออก็เป็นกลไกแบบนี้แหละนะฮะ
00:17:03 → 00:17:07 นะเอ่อแต่ถ้าเกิดว่าคุณก็กินผิดอ่าเอาล่ะ
00:17:07 → 00:17:11 คุณกินโลครับคุณกินเอ่อจำกัดครับควบคุม
00:17:12 → 00:17:14 ครับแล้วกิน high ไ high โปรตีนไม่รู้จัก
00:17:14 → 00:17:16 น้ำมันสกัดเย็นไม่รู้จัก high fat อะไร
00:17:16 → 00:17:20 เงี้ยนะฮะก็กินๆไปตามเชื่อตามองค์ความรู้
00:17:20 → 00:17:25 ทางเอ่อเพจต่างๆที่ที่เค้าเอ่อเได้รับ
00:17:25 → 00:17:28 ความนิยมอ่ะนะฮะแล้วเสร็จแล้วเออแล้วคุณ
00:17:28 → 00:17:30 ก็ไม่ออกกำลังกายอย่างเงี้ยไม่มีล่องเวลา
00:17:30 → 00:17:33 อะไรต่างๆไม่เคยหรอกคาร์ดิโอเอยฮิตเอย
00:17:33 → 00:17:35 อะไรต่างๆเดินๆอะไรต่างๆก็ไม่เดินหรอกนะ
00:17:35 → 00:17:38 ฮะนะเพราะฉะนั้นอย่างเนี้ยนะในที่สุดแล้ว
00:17:38 → 00:17:42 ตับมันก็อ่วมมรทยอ่ะนะไหนจะต้อง repcking
00:17:42 → 00:17:44 remodelling นะจะต้องใส่ไว้ที่ตัวมัน
00:17:45 → 00:17:48 ก่อนนะก็คือเป็นเ่อง่ายสุดใกล้สุดเลย
00:17:48 → 00:17:51 เนี่ยก็บรรจุแพ็คไว้ในตัวมันเนี่ยนะฮะ
00:17:51 → 00:17:54 แล้วมันไม่มีสัญญาณไงของกล้ามน้งกล้าม
00:17:54 → 00:17:56 เนื้อหรืออวัยวะอื่นๆเลยที่จะเรียกร้อง
00:17:56 → 00:18:00 ว่าอ้าตับๆเออแกเป็นเซ็นเตอร์ในการจัดการ
00:18:00 → 00:18:03 พลังงานสารอาหารเนี่ยช่วยส่งมาทีตอนนี้
00:18:03 → 00:18:05 ฉันต้องการสร้างเซลล์ใหม่ฉันต้องการฉันจะ
00:18:05 → 00:18:08 เอาคอเลสเตอรอลฉันจะเอาพลังงานฉันจะเอา
00:18:08 → 00:18:10 ไอ้พวกสารอาหารเอาโปรตีนอะไรต่างๆมาซ่อม
00:18:10 → 00:18:14 ซ่อมน้าอะไรนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเรื่องของ
00:18:14 → 00:18:17 เรื่องก็คือเก้าอี้ 4 ขายังไงยังไงเนี่ย
00:18:17 → 00:18:20 ก็ต้องมีครบแหละนะแต่จะทำมากทำน้อยทำถูก
00:18:20 → 00:18:26 ทำผิดก็ขอให้ได้ทำแล้วกันนะเออดีกว่าเอา
00:18:26 → 00:18:30 แต่เรื่องกินนะนะพอถึงจุดนึงอย่างงั้นยัง
00:18:30 → 00:18:34 ไงนะถ้ามีเวลาพอถ้ามีความเข้าใจนะทุก
00:18:34 → 00:18:38 อย่างสำคัญพร้อมๆกันไปแหละ
00:18:38 → 00:18:42 นะแค่นี้แหละอ่าอ่า
00:18:42 → 00:18:45 ครับโอเคครับคือเห็นโพสต์อันนี้แล้วเนี่ย
00:18:45 → 00:18:50 มันมีการต่อขยายได้ไงอ่าๆก็เลยว่าเออบาง
00:18:50 → 00:18:54 ทีอาจจะเขียนเสริมก็เนาะอ่ะผมยังเมาเมา
00:18:54 → 00:18:57 อยู่เลยจบแล้วผมยังเมาอยู่เลยกับไอ้โฟน
00:18:57 → 00:19:02 โคนเ
00:19:02 → 00:19:05 น่ะนี้โคนนี้ใช่มั้ยโอเคใช่ล่าสุดเนี่ย
00:19:05 → 00:19:09 ครับผมผมยังยังมึนๆอยู่เลยคือโพสต์ล่าสุด
00:19:09 → 00:19:15 เนี่ยสุทั์เนี่ยเอ่อสุทัศ์โพสต์ไปแล้วตอน
00:19:15 → 00:19:18 17:00 น.แล้วหมอก็เข้าไปฟังแล้วก็เข้าไป
00:19:18 → 00:19:23 ดูแล้วอยู่ดีๆมันก็หายไปมันไม่จบครับพี่
00:19:23 → 00:19:27 หมอเพราะว่ามันมีต่อเออมันมีต่อตอนแรกมัน
00:19:27 → 00:19:30 มีแค่ 5 หรือ 6 นาทีแล้วก็มีต่อยาวอีก
00:19:30 → 00:19:33 เป็น 10 นาทีเลยผมเลยต้องลบแล้วก็เอากลับ
00:19:33 → 00:19:38 มาให้ใหม่ถูกแล้วล่ะถูกแล้วนะเพราะว่าที่
00:19:38 → 00:19:43 หมอเมื่อต้นมาถามนี่แหละนะใช่ๆแต่หมอบอก
00:19:43 → 00:19:45 เลยนะทั้งหมดเนี่ย
00:19:45 → 00:19:49 ถ้าใครเข้าใจนะเข้าใจนะแล้วก็อีกอันนึง
00:19:49 → 00:19:53 ที่ตอนแรกที่หมอโต้งถามเนี่ยนะคือจุดนั้น
00:19:53 → 00:19:58 กับจุดนี้เนี่ยจบแล้วจบเลยนะมันจะเข้าใจ
00:19:58 → 00:20:01 โมเดลในเรื่องเหล่าเนี้ยพลังงานสารอาหาร
00:20:01 → 00:20:05 ทุกอย่างที่เป็นแผนภาพแห่งปีอ่ะมันจะจบ
00:20:05 → 00:20:11 ด้วย 2 2 เรื่องของคำถาม 2 หมอเนี่ย
00:20:11 → 00:20:14 ครับ
00:20:14 → 00:20:19 มันจะซับซ้อนไปนิดนึงเราก็กลัว
00:20:19 → 00:20:22 ว่าไม่ว่ามันฟังหลายรอบได้ครับมันต้องฟัง
00:20:22 → 00:20:26 หลายรอบอ่ะมันไม่มีไม่จบจบในรอบเดียวไม่
00:20:26 → 00:20:29 ได้อ่ะคนที่จะฟังหลายรอบเนี่ยแปลว่าเขาสน
00:20:29 → 00:20:35 ใจมากๆแต่หมอว่าเยอะหรอกไม่น่าจะเยอะ
00:20:35 → 00:20:40 คนเดียวก็พอแล้วหมอดีใจมากๆเลยว่าอึ้ยไอ้
00:20:40 → 00:20:42 ที่เราพูดพูดไปอยู่อย่างเงี้ยมันใช้ได้
00:20:42 → 00:20:46 อ่ะมันไม่ไม่สับสนไม่สับสนถ้าค่อยๆฟัง
00:20:46 → 00:20:49 ค่อยๆเรียบเรียงอ่ะฟังด้วยจดด้วยแล้วก็มา
00:20:50 → 00:20:53 อ่านทวนแล้วก็มาฟังซ้ำเนี่ยเข้าใจเข้าใจ
00:20:53 → 00:20:58 ไม่สับสนหรอกใช่ครับ
00:20:58 → 00:21:04 อืจบแรกจบตรงเฮ
00:21:04 → 00:21:23 [เพลง]
00:21:23 → 00:21:28