การหุงข้าวแบบไหนช่วยรักษาสารอาหารได้ดีที่สุด

3 ข้าวไทยเสริมภูมิคุ้มกัน | คลิป MU

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 คนไทยรับประทานข้าวเป็นอาหารหลักแทบทุกมื้อ

00:00:0200:00:04 แต่หลายคนจะทราบแค่ว่า

00:00:0400:00:07 ข้าวเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานกับร่างกายเท่านั้น

00:00:0700:00:11 แต่แท้จริงแล้ว ยังมีข้าวไทยอื่น ๆ ที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์

00:00:1100:00:14 ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ให้กับร่างกายได้ค่ะ

00:00:1400:00:23 [เสียงดนตรี]

00:00:2300:00:26 ข้าวไทยอย่างแรกที่อยากแนะนำคือ ข้าวไรซ์เบอร์รี

00:00:2600:00:30 เป็นการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับข้าวขาวดอกมะลิ 105

00:00:3000:00:33 ซึ่งเมล็ดข้าวจะมีสีม่วงเข้ม

00:00:3300:00:36 และถ้าเป็นข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี จะมีดัชนีน้ำตาลที่ปานกลาง

00:00:3700:00:39 ซึ่งเหมาะที่จะรับประทาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลค่ะ

00:00:3900:00:43 นอกจากนี้ ข้าวไรซ์เบอร์รี ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย

00:00:4300:00:47 ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี แอนโทไซยานิน และโพลีฟีนอล

00:00:4700:00:51 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าข้าวทั่วไป

00:00:5100:00:53 ซึ่งข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง

00:00:5400:00:56 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน

00:00:5600:00:58 โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูงค่ะ

00:00:5800:01:02 [เสียงดนตรี]

00:01:0200:01:05 สำหรับข้าวไทยชนิดที่ 2 ที่อยากแนะนำคือ “ข้าวมันปู”

00:01:0500:01:10 ข้าวมันปูเป็นข้าวกล้องชนิดหนึ่ง ที่มีเปลือกเป็นสีน้ำตาลแดง

00:01:1000:01:13 ซึ่งเปลือกสีน้ำตาลแดง จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

00:01:1300:01:17 สำหรับข้าวมันปู จะมีความโดดเด่นในเรื่องของใยอาหาร

00:01:1700:01:20 ซึ่งจะมีปริมาณใยอาหาร ที่สูงกว่าข้าวขาวถึง 4 เท่า

00:01:2000:01:24 และมีสารสำคัญ พวกแอนโทไซยานินและแคโรทีน

00:01:2400:01:26 ซึ่งจะช่วยในการต้านอนุมูลอิสระได้

00:01:2700:01:29 และยังมีในกลุ่มของวิตามินบี 1 และ บี 2

00:01:2900:01:31 ซึ่งวิตามิน B1 B2

00:01:3100:01:34 จะเป็นสารอาหาร ที่ช่วยเปลี่ยนสารอาหารหลักเป็นพลังงาน

00:01:3400:01:37 ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากอาหาร ที่เรารับประทานได้

00:01:3700:01:41 นอกจากนี้ข้าวมันปู ถือว่าเป็นข้าวที่มีฟอสฟอรัสต่ำ

00:01:4100:01:45 ซึ่งก็จะเหมาะกับผู้ป่วยโรคไต ที่ต้องการควบคุมระดับฟอสฟอรัสในเลือดค่ะ

00:01:4500:01:49 [เสียงดนตรี]

00:01:4900:01:51 สำหรับข้าวไทยอย่างสุดท้ายที่อยากแนะนำ

00:01:5100:01:53 สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานข้าวขาว

00:01:5400:01:55 คือข้าว กข 43

00:01:5500:01:58 ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมของ ข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี

00:01:5800:02:00 และพันธุ์สุพรรณบุรี 1 ค่ะ

00:02:0000:02:03 สำหรับความโดดเด่นของข้าว กข 43

00:02:0300:02:07 คือเป็นข้าวที่มีดัชนีน้ำตาลที่ปานกลาง และค่อนข้างต่ำ

00:02:0700:02:11 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลค่ะ

00:02:1100:02:14 [เสียงดนตรี]

00:02:1400:02:17 สำหรับการรับประทานข้าว เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

00:02:1700:02:19 แนะนำเลยว่า ประการแรกเลย

00:02:1900:02:21 การเลือกรับประทานข้าวกล้อง

00:02:2100:02:26 ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่ได้ผ่านการขัดเปลือก เยื่อหุ้มเมล็ดออกหรือจมูกข้าวออก

00:02:2600:02:29 จะทำให้สามารถสงวนสารอาหารในกลุ่มของใยอาหาร

00:02:2900:02:32 วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

00:02:3200:02:34 ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 1 บี 2

00:02:3400:02:36 หรือแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่าง ๆ

00:02:3600:02:39 และในประเด็นที่สองก็คือเรื่องการหุงข้าว

00:02:3900:02:42 จากการวิจัยเปรียบเทียบการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ

00:02:4200:02:46 หุงข้าวแบบใช้การนึ่ง และหุงข้าวแบบใช้หม้อไฟฟ้า

00:02:4600:02:50 พบว่าการหุงข้าวแบบใช้หม้อไฟฟ้า ช่วยรักษาสารอาหารได้มากที่สุดค่ะ

00:02:5000:02:55 เพราะใช้ระยะเวลาและปริมาณน้ำ น้อยกว่าการหุงข้าวแบบอื่น

00:02:5500:02:57 แม้เม็ดข้าวจะมีการสัมผัสน้ำ

00:02:5700:03:00 แต่ก็ไม่มีการเทน้ำทิ้งแบบการหุงเช็ดน้ำ

00:03:0000:03:04 จึงทำให้รักษาวิตามินบี ที่สามารถละลายในน้ำได้มากกว่าค่ะ

00:03:0400:03:06 [เสียงดนตรี]

00:03:0600:03:10 ข้าวถือว่าเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตหลัก ที่ให้พลังงานกับร่างกาย

00:03:1000:03:13 โดยใน 1 วัน เราต้องการคาร์โบไฮเดรตถึง 50% เลย

00:03:1300:03:17 หากเรารับประทานข้าว หรือคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไป

00:03:1700:03:22 คาร์โบไฮเดรตก็สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ในร่างกายและส่งผลเสียต่อร่างกายได้

00:03:2200:03:26 จะเห็นว่า ข้าวทั้ง 3 อย่างนี้ มีสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย

00:03:2600:03:29 เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่าง ๆ ได้

00:03:2900:03:31 โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

00:03:3200:03:34 ซึ่งก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

00:03:3400:03:38 โดยปริมาณที่เหมาะสมสำหรับต่อมื้อ ถ้ารับประทานข้าว

00:03:3800:03:40 ประมาณ 3 ทัพพีต่อมื้อค่ะ

00:03:4000:03:42 หากเรารับประทานข้าวเกิน 3 ทัพพีต่อมื้อ

00:03:4200:03:46 จะทำให้เราได้รับปริมาณ ของคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไป

00:03:4600:03:49 ซึ่งคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไป ที่เราได้รับในแต่ละมื้อ

00:03:4900:03:52 จะสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมภายในร่างกาย

00:03:5200:03:55 และก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยง ต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้

00:03:5500:03:57 แต่ถ้าเรารับประทานน้อยเกินไป

00:03:5700:03:59 ก็ทำให้ร่างกายเราขาดพลังงาน

00:03:5900:04:04 ดังนั้นเราควรเลือกข้าวที่ดีต่อสุขภาพ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ