00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice การสำรักในผู้สูงอายุเนะคะมันเกิด
00:00:08 → 00:00:11 จากความผิดปกติของโครงสร้างทางช่องปาก
00:00:11 → 00:00:15 แล้วก็การทำงานของอวัยวะต่างๆภายในช่อง
00:00:15 → 00:00:18 ปากอ่ะค่ะไม่ว่าจะเป็นช่องปากลิ้นคอหอย
00:00:18 → 00:00:21 หลอดอาหารอาจจะมีความผิดปกติเกี่ยวกับ
00:00:21 → 00:00:24 ระบบประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับควบคุม
00:00:24 → 00:00:27 การกลืนอ่ะค่ะอย่างเช่นโรคหลอดเลือดสมอง
00:00:27 → 00:00:31 โรคสมองเสื่อมโรคคินสันหรือโรคต่างๆทาง
00:00:31 → 00:00:35 ระบบประสาทโรคทางจิตเวทก็ได้ทำให้เขาไม่
00:00:35 → 00:00:39 สามารถโฟกัสกับการกินอาหารได้เป็นภาวะ
00:00:39 → 00:00:41 แทรกซ้อนที่อันตรายสุดๆเลยจากการสำนัก
00:00:41 → 00:00:45 อาหารทำให้คนไข้หายใจไม่ได้เซจอาหารก็มี
00:00:45 → 00:00:49 โอกาสที่จะทำให้เกิดปอดติดเชื้อตามมา
00:00:49 → 00:00:53 ได้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:53 → 00:00:57 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 This Is to PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:01:00 → 00:01:03 คุณผู้ฟังคะสำหรับในวันนี้นะคะเราจะมาคุย
00:01:03 → 00:01:07 กันถึงเรื่องของภัยเงียบจากการสำลักอาหาร
00:01:07 → 00:01:09 ในผู้สูงอายุนะคะใครจะไปคาดคิดว่าการ
00:01:09 → 00:01:12 สำลักอาหารเพียงแค่นิดเดียวเนี่ยอาจจะทำ
00:01:12 → 00:01:15 ให้เกิดสิ่งที่เราไม่คาดคิดได้เดี๋ยววัน
00:01:15 → 00:01:17 นี้เราจะคุยกับดรพรทิพย์สุยาสิทธิ์จาก
00:01:17 → 00:01:20 พรรควิชาการพยาบาลศัลยศาสตร์คณะ
00:01:20 → 00:01:22 พยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดี
00:01:22 → 00:01:26 ค่ะอาจารย์คะค่ะสวัสดีค่ะวันนี้เรามาคุย
00:01:26 → 00:01:30 กันเรื่องนี้นะคะก็คืออย่างที่บอกไปตตอน
00:01:30 → 00:01:32 ต้นว่าเพียงแค่สำลักเพียงแค่นิดเดียวแต่
00:01:32 → 00:01:35 อาจจะเปลี่ยนชีวิตหรืออาจจะเกิดเหตุการณ์
00:01:35 → 00:01:37 ที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้เช่นเดียวกันน่ะนะ
00:01:37 → 00:01:39 คะอาจารย์เรื่องของการสำลักอาหารอันนี้
00:01:39 → 00:01:42 ถามอาจารย์ก่อนเบื้องต้นคือแค่สำลักในผู้
00:01:42 → 00:01:44 สูงอายุเนี่ยก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
00:01:44 → 00:01:47 ได้ง่ายๆเลยอย่างเงี้ยเอ่อในกลไกของ
00:01:47 → 00:01:49 เรื่องการสำลักอาหารหรืออะไรต่างๆเหล่า
00:01:49 → 00:01:52 นี้มันมันเกิดจากอะไรคะทำไมถึงมันเกิด
00:01:52 → 00:01:56 อาการสำลักได้คะอ๋อก็คือการสำลักในผู้สูง
00:01:56 → 00:01:59 อายุเนี่ยนะคะมันเกิดจากเอ่อความผิดปกติ
00:01:59 → 00:02:02 ของอาจจะเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้าง
00:02:02 → 00:02:06 ทางช่องปากแล้วก็การทำงานของอวัยวะต่างๆ
00:02:06 → 00:02:09 ภายในช่องปากอ่ะค่ะไม่ว่าจะเป็นช่องปาก
00:02:09 → 00:02:14 ลิ้นคอหอยหลอดอาหารที่ทำงานน้อยลงเมื่อ
00:02:14 → 00:02:18 ผู้สูงอายุแก่ตัวลงอวยวะเหล่านี้ก็จะทำ
00:02:18 → 00:02:21 งานน้อยลงทำให้เวลาการกลืนก็ไม่มี
00:02:21 → 00:02:24 ประสิทธิภาพอีกทั้งประกอบกับอาจจะมีความ
00:02:24 → 00:02:27 ผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำหน้าที่
00:02:27 → 00:02:30 เกี่ยวกับควบคุมการเกลืนน่ะคะอจารอืโรค
00:02:30 → 00:02:34 ทางสมองต่างๆอย่างเช่นโรคหลอดเลือดสมอง
00:02:34 → 00:02:38 โรคสมองเสื่อมโรคพาคินสันหรือโรคต่างๆทาง
00:02:38 → 00:02:41 ระบบประสาทอันนี้จะส่งผลโดยตรงเลยเพราะ
00:02:41 → 00:02:44 ว่าเส้นประสาทมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของ
00:02:45 → 00:02:48 อวัยวะภายในช่องปากนะคะหรืออาจจะเป็นโรค
00:02:48 → 00:02:53 ทางจิตเวทก็ได้ที่ทำให้เขาไม่สามารถโฟกัส
00:02:53 → 00:02:57 กับการกินอาหารได้ก็สิ่งเหล่าเค่ะก็จะ
00:02:57 → 00:03:01 เป็นเอ่อกลไกสำคัที่ทำให้ผู้สูงอายุเนี่ย
00:03:01 → 00:03:04 มีโอกาสที่จะสำลักได้ค่ะค่ะซึ่งอันนี้มัน
00:03:04 → 00:03:07 มันอาจจะเกิดจากหลายๆปัจจัยร่วมด้วยก็ได้
00:03:07 → 00:03:11 นะคะอืแต่ว่าในการสำลักอาหารเนี่ยส่วน
00:03:11 → 00:03:13 ใหญ่มันก็จะไปลงที่ปอดมันเข้าปอดใช่มั้ย
00:03:13 → 00:03:16 คะอาจารย์ใช่ค่ะอันเนี้ยเป็นภาวะแทรกซ้อน
00:03:16 → 00:03:19 ที่อันตรายสุดๆเลยจากการสำลักอาหารเพราะ
00:03:19 → 00:03:22 ว่าเอ่อหลอดอาหารกับหลอดลมเราอ่ะค่ะมัน
00:03:22 → 00:03:25 ติดกันแต่ทีเนี้ยตัวหลอดลมเราอ่ะมันจะมี
00:03:25 → 00:03:28 ตัววาว์วที่ปิดไว้แต่ทีนี้ถ้าเกิดเวลาเรา
00:03:28 → 00:03:30 สำลักอ่ะค่ะหลายๆครั้งเนี่ยอาหารก็จะหลุด
00:03:30 → 00:03:33 เข้าไปในหลอดลมพอเข้าไปในหลอดลมก็จะเข้า
00:03:33 → 00:03:38 ไปที่ปอดก็ทำให้ 1 เลยคือทำให้คนไข้หายใจ
00:03:38 → 00:03:42 ไม่ได้คนเราหายใจไม่ได้นี่ก็คือตายเลยใช่
00:03:42 → 00:03:46 มั้ยคะค่ะ 2 คือถ้าหายใจได้ก็มีโอกาสหมาย
00:03:46 → 00:03:50 ก็หมายถึงอ่าเศษอาหารอาจจะชิ้นเล็กๆแล้ว
00:03:50 → 00:03:52 ลงไปลึกอย่างเงี้ยก็มีโอกาสที่จะทำให้
00:03:52 → 00:03:55 เกิดปอดติดเชื้อตามมาได้เพราะว่าอาหาร
00:03:55 → 00:03:57 เป็นสิ่งแปลกฟอร์มแล้วก็อาหารเป็นสิ่ง
00:03:57 → 00:04:02 สกปรกออืเนี่ยก็เป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ
00:04:02 → 00:04:06 เลยโดยเอ่อมีรายงานอ่ะค่ะว่าผู้สูงอายุ
00:04:06 → 00:04:10 เนี่ยหากมีเอ่อการสำรักอาหารก็มีโอกาสที่
00:04:10 → 00:04:14 จะเกิดปอดติดเชื้ออักเสบรุนแรงตามมาแล้ว
00:04:14 → 00:04:17 มันเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายมากๆเพราะ
00:04:17 → 00:04:19 ว่าในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี
00:04:19 → 00:04:23 เนี่ยค่ะจะพบอัตราการเสียชีวิตจากปอดติด
00:04:23 → 00:04:29 เชื้อถึง 30% โอก็คือ 1 ใน 3 เยอะนะใช่
00:04:29 → 00:04:33 ใช่เพราะว่าผู้สูงอายุเร่างกายเขาอ่อนแอ
00:04:33 → 00:04:36 อยู่แล้วจากราการทำงานหลักของร่างกายที่
00:04:36 → 00:04:41 ลดลงภูมิต้านทานเอ่อการตอบสนองต่อภาวะติด
00:04:41 → 00:04:43 เชื้อก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนผู้ใหญ่ก็เลย
00:04:43 → 00:04:46 ทำให้เกิดมีภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสรุนแรง
00:04:46 → 00:04:50 กว่าแล้วก็ไปสู่การเสียชีวิตได้อืเอาแค่
00:04:50 → 00:04:52 นึกภาพเวลาที่เรากินอะไรไปแล้วแบบว่า
00:04:52 → 00:04:55 สำลักอ่ะเรายังรู้สึกแบบว่าแย่หนักอยู่
00:04:55 → 00:04:58 เหมือนกันนะคะนี่แล้วเป็นผู้สูงอายุด้วย
00:04:58 → 00:05:02 ก็ยิ่งค่ะหลายปัจจัยอีกต่างหากบางทีของ
00:05:02 → 00:05:06 ที่ไม่น่าจะสำลักก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะ
00:05:06 → 00:05:08 สำรักได้อย่างเราอย่างเราเนี่ยไว้ผู้ใหญ่
00:05:08 → 00:05:11 ใช่มั้ยคะเรากินน้ำกินเอ่อฟรุ๊ตตี้
00:05:11 → 00:05:15 โยเกิร์ตอะไรที่มันซอบๆนุ่มๆหรืออกินอะไร
00:05:15 → 00:05:17 อย่าเงี้ยเรารู้สึกเรากินได้ไม่มีปัญหา
00:05:17 → 00:05:21 เลยแต่ว่าในผู้สูงอายุที่มีภาวะเกืนลำบาก
00:05:21 → 00:05:27 เค้าอาจจะกินของเหล่าเนี้ยได้ยากค่ะอืใช่
00:05:27 → 00:05:30 แม้กระทั่งแม้กระทั่งเวลาที่เอ่อเป็นผู้
00:05:30 → 00:05:32 สูงอายุที่อาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือ
00:05:32 → 00:05:35 แบบจะนั่งรับประทานอาหารได้ก็ตามเนี่ยก็
00:05:35 → 00:05:38 มีโอกาสที่จะสำลักได้เพราะพอกันเลยไม่ได้
00:05:38 → 00:05:41 หมายความว่าจะต้องนอนเอ่อในการที่จะมีคน
00:05:41 → 00:05:44 ป้อนอย่างเดียวแล้วสำลักได้ง่ายกว่าการ
00:05:44 → 00:05:47 นั่งแบบนั้นหรือเปล่าคะจะจะบอกว่าท่าทาง
00:05:47 → 00:05:51 เนี้ยมีความสำคัญมากเลยมันเพิ่มความ
00:05:51 → 00:05:54 เสี่ยงที่จะสำลักได้เลยนะคะคือปกติเนี่ย
00:05:54 → 00:05:57 เราถ้ากินข้าวเราปกติก็คือนั่งตัวตรงใช่
00:05:57 → 00:05:59 มั้ยคะซึ่งอันเนี้ยจะทำให้อาหารเนี่ย
00:05:59 → 00:06:04 สามารถเอ่อผ่านลงหลอดอาหารได้นะคะแต่ถ้า
00:06:04 → 00:06:08 เกิดสมมุติเรานอนนะคะอือาหารมันไม่ได้ตก
00:06:08 → 00:06:10 ลงไปในกระเพาะอาหารโดยตรงกระเพาะอาหารเรา
00:06:10 → 00:06:15 อยู่ข้างใต้มันอาจจะแบบไปได้ช้าลงไปได้
00:06:15 → 00:06:18 ยากขึ้นทำให้มีโอกาสสำลักค่ะเพราะฉะนั้น
00:06:18 → 00:06:22 จริงๆแล้วอ่ะค่ะไม่แนะนำให้นอนรับประทาน
00:06:22 → 00:06:25 อาหารด้วยซ้ำก็คือต้องพยายามจับนั่งตัว
00:06:25 → 00:06:29 ตรงอ่ะค่ะ 90 องศถ้าเป็นไปได้อืใช่เพราะ
00:06:29 → 00:06:32 ว่าอาหารนะคะคือ 1 เอ่อเวลาเรานั่งนะคะ
00:06:32 → 00:06:36 อาหารก็จะอออยู่ในปากใช่มั้ยคะมันก็จะ
00:06:36 → 00:06:39 ค่อยๆตกลงไปในหลอดอาหารและทีนี้หลอดอาหาร
00:06:39 → 00:06:43 เนี่ยมันก็จะมีการบีบตัวก็จะทำให้การไหล
00:06:43 → 00:06:46 ของอาหารจากช่องปากลงไปในกระเพาะอาหาร
00:06:46 → 00:06:49 เนี่ยทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเหมือนใช้
00:06:49 → 00:06:52 แรงล้มถ่วงของโรคช่วยอ่ะค่ะช่วยดึงอค่ะ
00:06:52 → 00:06:55 งี้ถ้าเกิดว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้ว
00:06:55 → 00:06:57 เป็นผู้สูงอายุด้วยอ่ะจำเป็นที่จะต้อง
00:06:57 → 00:07:00 ป้อนอาหารก็อาจจะต้องปรับระดับติด
00:07:00 → 00:07:03 ให้แบบใช่ค่ะอย่างน้อยก็ขอให้เป็นความ
00:07:03 → 00:07:06 จริงถ้าที่แนะนำเลยคือนั่งศีรษะตรง 90
00:07:06 → 00:07:09 องศาแต่ถ้าผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติด
00:07:09 → 00:07:12 เตียงมีข้อจำกัดก็ขอให้เป็นศีรษะสูงอ่ะ
00:07:12 → 00:07:17 ค่ะอืศีรษะสูงค่ะอันนี้ก็จะเป็นเบื้องต้น
00:07:17 → 00:07:20 ในการที่จะช่วยในการลดการสำลักอาหารในผู้
00:07:20 → 00:07:24 สูงอายุได้ในเบื้องต้นอืสำหรับแบบบางที
00:07:24 → 00:07:27 เจอผู้ป่วยที่แบบติดเตียงนะผู้สูงอายุติด
00:07:27 → 00:07:30 เตียงอันเนี้ยมันอาจจะมีปัจจัยทำให้การ
00:07:30 → 00:07:32 สำลักอาหารมันเกิดขึ้นได้ง่ายมากนั่นเอง
00:07:32 → 00:07:35 นะคะทีนี้อาจารย์คะแล้วการสำลักอาหาร
00:07:35 → 00:07:39 เนี่ยคือต้องแบบมันมีความถี่หรือยังไง
00:07:39 → 00:07:41 อะไรมั้คะบ่อยแค่ไหนหรือมีอาการแบบไหนที่
00:07:41 → 00:07:45 แบบว่าเฮ้ยดูแล้วไม่ค่อยโอเคละจำเป็นต้อง
00:07:45 → 00:07:48 รีบไปส่งหาหมอเพราะว่าอย่างของคุณแม่ค่ะ
00:07:48 → 00:07:50 อาจารย์อันนี้เดี๋ยวเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้
00:07:50 → 00:07:54 กับคุณผู้ฟังด้วยเพียงแค่น้ำแค่นั้นเองนะ
00:07:54 → 00:07:57 คะไม่ได้เป็นอาหารไม่ได้เป็นข้าวไม่ได้
00:07:57 → 00:08:00 เป็นอะไรเลยอ่ะค่ะเป็นแค่น้ำเนะคะแต่
00:08:00 → 00:08:05 สำลักแล้วก็เอ่อมีอาการบวมเอ่อแขนบวมท้อง
00:08:05 → 00:08:08 บวมเอ่อเหมือนกับซีกซีกขวาจะบวมอะไร
00:08:08 → 00:08:11 ประมาณเยค่ะก็ไม่แน่ใจว่าเฮ้ยมันเกิดจาก
00:08:11 → 00:08:14 อะไรพอเห็นแบบนั้นนะคะก็เลยรีบพาไปส่งโรง
00:08:14 → 00:08:17 พยาบาลโอ้ยโดนแอดมิเลยค่ะอาจารย์จริงๆ
00:08:17 → 00:08:21 แล้วเนี่ยการสำลักเนี่ยถ้าเกิดการถ้าคน
00:08:21 → 00:08:24 ไข้อ่ะค่ะเกิดการสำลักทุกครั้งหรือทุก
00:08:24 → 00:08:26 ครั้งที่รับประทานอาหารหรือน้ำอ่ะค่ะก็
00:08:26 → 00:08:29 ควรจะรีบพาไปโรงพยาบาลนะคะเพราะเพราะว่า
00:08:29 → 00:08:32 อันเนี้ยแสดงว่าเขาเกิดปัญหากับการกินและ
00:08:32 → 00:08:35 แล้วก็มันมีความเสี่ยงที่จะสำสำลักได้อีก
00:08:35 → 00:08:39 นะคะค่ะแล้วก็อาการอื่นๆก็อย่างเช่นเอ่อ
00:08:39 → 00:08:43 เกิดการสำลักจนมีอาการหน้าแดงไอหายใจหอบ
00:08:44 → 00:08:48 เหนื่อยหายใจหอบรุนแรงหายใจไม่ออกอืหรือ
00:08:48 → 00:08:52 มีอาการอุดกั้นทางเดินหายใจก็คือสงสัยว่า
00:08:52 → 00:08:55 อาหารนจะติดเข้าไปในหลอดลมและทำให้เขา
00:08:55 → 00:08:59 เนี่ยมีอาการหายใจลำบากหรือผู้สูงอายุที่
00:09:00 → 00:09:03 เคยมีประวัติติดเชื้อจากการสำลักมาแล้ว
00:09:03 → 00:09:08 อันนี้ก็มีโอกาสที่จะสำลักซ้ำได้อ๋อค่ะก็
00:09:08 → 00:09:11 เป็นการเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกหรือ
00:09:11 → 00:09:15 สำลักแม้กระทั่งรับประทานอาหาร
00:09:15 → 00:09:20 เอ่อปริมาณน้อยๆปบวกกับน้ำหนักลดลงอันนี้
00:09:20 → 00:09:23 ก็ควรพาไปพบแพทย์เพราะว่าแสดงว่าเขาเนี่ย
00:09:23 → 00:09:23 ไม่
00:09:24 → 00:09:28 สามารถทานอาหารได้จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
00:09:28 → 00:09:32 เขาและค่ะน้ำหนักลดอย่างเงี้ยค่ะหรือเอ่อ
00:09:32 → 00:09:35 การสำลักในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้
00:09:35 → 00:09:38 ป่วยที่เป็นโรคทางระบบประสาทอย่างเช่นพาร
00:09:39 → 00:09:43 กินสันโรคอัมพฤกอัมพาตหรือภาวะมีภาวะสมอง
00:09:43 → 00:09:47 เสื่อมค่ะก็ควรจะพาไปพบแพทย์ค่ะเพราะว่า
00:09:47 → 00:09:50 เคสเหล่าเมีความสิ่งที่จะสำลักได้สูงค่ะ
00:09:50 → 00:09:54 ค่ะอาจารย์คะถามนิดนึงย้อนไปตรงที่ว่าคือ
00:09:54 → 00:09:57 ทานอาหารน้อยลงน้ำหนักลดลงเนี่ยคือกิน
00:09:57 → 00:10:00 น้อยลงแค่กินน้อยคือเหมือนกับว่าไม่ได้
00:10:00 → 00:10:02 ป้อนคำใหญ่อ่ะก็ยังมีความเสี่ยงในการ
00:10:02 → 00:10:05 สำลักได้เช่นเดียวกันมันแสดงว่ามันไม่ได้
00:10:05 → 00:10:07 อยู่ที่ปริมาณอาหารที่ป้อนเข้าไปละ้างั้น
00:10:08 → 00:10:11 อ๋อๆๆหมายๆหมายถึงคำว่ากินอาหารได้น้อย
00:10:11 → 00:10:13 หมายถึงคนไข้รับประทานอาหารได้น้อยจนทำ
00:10:13 → 00:10:16 ให้มีน้ำหนักตัวลดลงค่ะแต่ความจริงแล้ว
00:10:16 → 00:10:20 การทาอาหารปริมาณคำเล็กๆน้อยๆเนี่ยอันนี้
00:10:20 → 00:10:24 เป็นข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวหมายถึงเอ่อ
00:10:24 → 00:10:27 คนเราเวลาการทานอาหารเพื่อที่จะป้องกัน
00:10:27 → 00:10:30 การสำลักอย่างนึงก็คือคือ 1 ก็คือกินคำ
00:10:30 → 00:10:33 เล็กๆอืให้เป็นชิ้นเคี้ยวง่ายอย่างเงี้ย
00:10:33 → 00:10:39 ค่ะแล้วก็กินเอ่อแยกของแข็งกับแยกน้ำซุป
00:10:39 → 00:10:42 ทานแยกกันไม่ควรจะกินรวมกันเพราะว่าเขาจะ
00:10:42 → 00:10:44 ได้โฟกัสอย่างเช่นถ้าเขาสมมุติกินเป็น
00:10:44 → 00:10:48 เอ่อมันฝรั่งต้มแครอตต้มผักต้มอันนี้ก็
00:10:48 → 00:10:52 ควรเคี้ยวแต่ผักแต่ถ้าเกิดอาหารเขามีน้ำ
00:10:52 → 00:10:55 ซุปก็คือควรจะซดน้ำซุปแยกอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:55 → 00:10:58 อ้าวเออนี้เป็นความรู้ใช่ๆไม่ควรทานรวม
00:10:58 → 00:11:01 กันเพราะว่าผู้สุกอเาจะต้องโฟกัสกับการ
00:11:01 → 00:11:03 ทานอาหารเอออันนี้คือคือเป็นแนวทางนะคะ
00:11:03 → 00:11:06 คุณผู้ฟังเพราะว่าปกติเนี่ยเราป้อนอะไรไป
00:11:06 → 00:11:08 อ่ะมันจะต้องมีน้ำซุปไปด้วยเพื่อให้แบบ
00:11:08 → 00:11:11 ว่ากลืนได้ง่ายแล้วก็รู้สึกว่าแบบว่าน่า
00:11:11 → 00:11:13 จะทำให้เขาแบบกินได้ง่ายขึ้นอะไรอย่าง
00:11:13 → 00:11:17 เงี้ยใช่ค่ะแล้วก็นอกจากเนี้ยค่ะนอกจาก
00:11:17 → 00:11:20 กินคำเล็กๆแล้วผู้สูงอายุก็ควรจะนั่งตัว
00:11:20 → 00:11:25 ตรงขณะรับประทานอาหารแล้วพอกินข้าวเสร็จ
00:11:25 → 00:11:28 ก็ควรจะนั่งตัวตรงอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1
00:11:28 → 00:11:31 ชมเพื่อที่จะป้องกันการสำลักค่ะเพราะว่า
00:11:31 → 00:11:34 มันมีโอกาสที่อาหารอ่ะค่ะจะไหลย้อนขึ้นมา
00:11:34 → 00:11:37 ได้ถ้าเรากินข้าวเสร็จแล้วก็จับนอนเลยอื
00:11:37 → 00:11:41 กดไหลย้อนได้อีกอีกต่างหากด้วนะใช่ๆๆๆค่ะ
00:11:41 → 00:11:44 แล้วก็เวลาทานอาหารเนี่ยก็ควรจะให้เา้า
00:11:44 → 00:11:47 ค่อยๆทานอยากตั้งใจคือไม่ต้องไปเร่งรีบ
00:11:47 → 00:11:51 เค้านะคะแล้วก็เอ่อไม่ควรจะรบกวนเค้าก็
00:11:51 → 00:11:54 คือปล่อยเขาทันไปให้ผู้สูงอายุโฟกัสกับ
00:11:54 → 00:11:57 การทานอาหารไม่ควรชวนผู้สูงอายุอ่ะค่ะพูด
00:11:57 → 00:11:59 คุยระหว่างรับประทานอาหารเพราะว่าเคยเป็น
00:11:59 → 00:12:02 มั้ยคะเวลาเราทานข้าวเราคุยไปแล้วเราข้าว
00:12:02 → 00:12:07 ติดคอเคยเคยใช่ๆเพราะฉะนั้นอ่าผู้สูงอายุ
00:12:07 → 00:12:09 เนี่ยก็ต้องยี้ระวัดระวังยี่กว่านั้นอีก
00:12:09 → 00:12:12 ค่ะต้องใส่ใจกว่าเดิมก็คือโอเคเราจะไม่
00:12:12 → 00:12:16 ชวนผู้สูงอายุคุยระหว่างทานข้าวค่ะหรือดู
00:12:16 → 00:12:19 ทีวีอะไรอย่างเงี้ยก็ไม่ควรเพราะว่าจะ
00:12:19 → 00:12:24 เป็นการรบกวนการรับประทานอาหารค่ะแล้วก็
00:12:24 → 00:12:28 ใช่แล้วก็ควรจะมีอาจจะเวลารับประทานอาหาร
00:12:28 → 00:12:31 แล้วควรจะเตรียมอาหารหลายๆแบบอย่างเช่น
00:12:31 → 00:12:35 อาหารที่เป็นน้ำอาหารที่ต้องเคี้ยวแต่ว่า
00:12:35 → 00:12:37 ต้องเคี้ยวง่ายหน่อยอะไรอย่างเงี้ยค่ะแบบ
00:12:38 → 00:12:41 ให้มันมีความหลากหลายจะได้แบบได้สารอาหาร
00:12:41 → 00:12:45 ครบ้วนนะคะจะได้ไม่เหมื่ออาหารด้วยแล้วก็
00:12:45 → 00:12:48 เวลาเตรียมอาหารนะคะก็เตรียมสิ่งที่ผู้
00:12:48 → 00:12:52 สูงอายุชอบชอบทานแต่ว่าต้องไม่ขัดกับตัว
00:12:52 → 00:12:54 โรคที่เขาเป็นอยู่นะคะไม่ใช่ว่าเอ่อเป็น
00:12:54 → 00:12:57 ความดันโลหิตสูงแต่ว่าคุณยายชอบทานน้ำ
00:12:57 → 00:13:02 พริกกะปิขอกะปิหนักๆโออันนี้คุณหมอคุณหมอ
00:13:02 → 00:13:04 เออกุมขมับแล้ว
00:13:04 → 00:13:07 เออใช่ก็ต้องเป็นเป็นอาหารตามตัวโลกเ้า
00:13:08 → 00:13:10 ค่ะคือเข้าใจได้แหละเพราะว่าคือรสชาติไอ้
00:13:11 → 00:13:14 การรับรสชาติของอาหารเนี่ยมันน้อยลงไปอาจ
00:13:14 → 00:13:16 จะแบบกินอาหารแล้วแบบว่ารู้สึกแบบโหมัน
00:13:16 → 00:13:19 ไม่อร่อยเลยค่ะถึงแม้จะเป็นอาหารแบบเดิม
00:13:19 → 00:13:21 นะแต่มันรู้สึกไม่อร่อยเลยเลยอยากอาจจะ
00:13:21 → 00:13:23 กินอะไรที่มันรู้สึกว่ารสชาติมันแบบเข้ม
00:13:24 → 00:13:27 ข้นขึ้นนะคะมีความจัดจ้านขึ้นอะไรแบบ
00:13:27 → 00:13:30 เนี้ยแต่ก็ต้องระวังอืความจริงของจัดจ้าน
00:13:30 → 00:13:32 อย่างเงี้ยก็ไม่แนะนำให้กินนะเอาจริงๆของ
00:13:32 → 00:13:36 เผ็ดอ่ะค่ะเพราะว่าเวลาเรากินของเผ็ดนึก
00:13:36 → 00:13:40 ภาพเรากินต้มแซ่บกระดูกหมูอ่าแบบเผ็ดสุดๆ
00:13:40 → 00:13:43 เราเรารู้สึกยังไงคะเวลาเรากินต้มแซ่บโอ
00:13:43 → 00:13:44 เผ็ด
00:13:44 → 00:13:47 ร้อนเผ็ดร้อนแล้วเราจะไอใช่มั้ยคะมันแสบ
00:13:48 → 00:13:51 คอนะตรงเยใช่แสบคอแสบจมูกไปหมดเพราะ
00:13:51 → 00:13:55 ฉะนั้นเนี่ยไม่แนะนำให้กินอาหารรสจัดอื
00:13:55 → 00:13:58 เลยเพราะว่ามันจะเพิ่มโอกาสทำให้ไอสำลัก
00:13:58 → 00:13:59 ได้
00:13:59 → 00:14:03 ค่ะใช่โความจริงอน้ำพริกกะปิก็ไม่ควรกิน
00:14:03 → 00:14:05 นะเนี่ยใช่
00:14:05 → 00:14:10 มคือต้องเป็นอาหารแบบอะไค่ะหมายถึงว่าถ้า
00:14:10 → 00:14:13 ต่อให้เรียกร้องยังไงเราก็ต้องยืนหยัดว่า
00:14:13 → 00:14:16 อาหารสำหรับผู้สู่งอายุต้องเป็นแบบที่
00:14:16 → 00:14:19 เหมาะสมเท่านั้นใช่อาอาจจะเผ็ดน้อยทำเผ็ด
00:14:19 → 00:14:24 น้อยสูดเผ็ดน้อยอืหรือใส่สีสันดูให้มันดู
00:14:24 → 00:14:27 แบบหลอกๆนิดนึงว่าเออสีมันดูเหมือนเผ็ด
00:14:27 → 00:14:31 เนาะเออประมาณนี้ก็นใช่ค่ะใช่คือแล้วก็
00:14:31 → 00:14:35 อ่าต่อเลยค่ะค่ะแล้วก็เวลารับประทานอาหาร
00:14:35 → 00:14:40 อ่ะค่ะก็อยกินอาหารแห้งเกินไปคือต้องก็
00:14:40 → 00:14:44 คือควรจะมีน้ำซุปสลับกันด้วยเพื่อจะให้
00:14:44 → 00:14:48 เกลืนกลืนง่ายไม่ติดคออค่ะถ้าติดคอก็
00:14:48 → 00:14:53 สำลักอีกใช่มั้ยคะอ่าใช่ๆใช่อืแต่ว่าแยก
00:14:53 → 00:14:56 แยกน้ำกับอาหารต่างกันเอ้น้ำซุปกับอาหาร
00:14:57 → 00:14:59 ต่างเอ่อแยกกันนะคะคุณผู้ฟัง
00:14:59 → 00:15:02 ใช่ค่ะน้ำที่เป็นน้ำซุปกับน้ำที่เป็นชิ้น
00:15:02 → 00:15:07 ๆก้อนๆกินแยกกันแต่ให้กินสลับกันได้อืถ้า
00:15:07 → 00:15:11 เกิดสมมุติว่ามีการสำรักแล้วก็เราเห็นละ
00:15:11 → 00:15:15 อาจจะยังประเมินไม่ถูกค่ะอาจารย์ว่าสำรัก
00:15:15 → 00:15:17 แบบเนี้ยเราควรต้องรีบส่งคุณหมอหรืออะไร
00:15:17 → 00:15:19 เมื่อกี้อาจารย์บอกไปแล้วว่าถ้าเกิดมันมี
00:15:19 → 00:15:23 อาการที่ต้องไปพบแพทย์นะคะเช่นแบบหน้าแดง
00:15:23 → 00:15:26 ละเริ่มมีอาการไอหอบรุนแรงหรืออะไรอย่า
00:15:26 → 00:15:29 เงี้ยต้องต้องใช้ระยะเวลาแบบเร็วแค่ไหนคะ
00:15:29 → 00:15:33 ที่จะต้องรีบไปถึงมือคุณหมอให้ได้เอาเอา
00:15:33 → 00:15:37 เอาจริงๆควรพาไปพบแพทย์ทันทีค่ะเพราะนั้น
00:15:37 → 00:15:40 เป็นอาการอันตรายแล้วแต่ว่าเราสามารถทำ
00:15:40 → 00:15:44 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนได้อืก็คือเวลา
00:15:44 → 00:15:46 ผู้ป่วยสำลักเนี่ยก็คือสงสัยว่าอาหาร
00:15:46 → 00:15:51 เนี่ยจะติดค้างอาจจะติดค้างอยู่ในคอหอย
00:15:51 → 00:15:55 หรืออาจจะติดค้างในลอดลมออเพราะฉะนั้น
00:15:55 → 00:15:58 เนี่ยเราอ่ะถ้าเราเห็นว่าผู้ป่วยสำลัก
00:15:58 → 00:16:01 เริ่มไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ละหรือ
00:16:01 → 00:16:06 เริ่มไม่มีสติก็คือวิธีง่ายๆก็คือให้คนดู
00:16:06 → 00:16:10 แลอ่ะค่ะค่ะเดินไปด้านหลังแล้วก็พยายาม
00:16:10 → 00:16:13 โน้มตัวพร้อมกับประคองตัวผู้สเอ่อผู้ที่
00:16:13 → 00:16:17 สำลักอ่ะคะแล้วก็ใช้มืออีกข้างนึงประกบ
00:16:17 → 00:16:20 หรือตบที่แผ่นหลังก่อนระหว่างสบักทั้ง 2
00:16:20 → 00:16:22 ข้างนึกนึกออกใช่มั้ยคะกระดูกสบักก็คือ
00:16:23 → 00:16:27 ไหล่ไหล่เราแล้วมันก็คือตรงกลางลองตบที่
00:16:27 → 00:16:29 ระหว่างสมัทั้ง 2 ข้างให้อาหารที่ติดอยู่
00:16:30 → 00:16:35 ออกมาค่ะแต่ถ้าเกิดไม่ออกอาการไม่ดีขึ้น
00:16:35 → 00:16:40 ก็ให้ผู้ดูแลอ่ะค่ะกำมือภาคนึงในลักษณะ
00:16:40 → 00:16:45 กอดจากด้านหลังอแล้วก็ใช้สันมือตรงส่วน
00:16:45 → 00:16:46 ที่ติดกับ
00:16:46 → 00:16:49 มือก็คือสันมือก็หมายความว่าบริเวณนิ้ว
00:16:49 → 00:16:52 โป้งกับนิ้วชี้อ่ะค่ะตรงนั้นเรียกว่าสัน
00:16:52 → 00:16:58 มือนะคะแล้วก็ห้ามใช้กำปั้นอืให้ใช้สัน
00:16:58 → 00:17:01 มือเพราะว่ามันจะออกแรงได้ดีกว่าค่ะอ๋อ
00:17:01 → 00:17:05 ความความเ่าใช่ะทีนี้ใช่แล้วทีนี้ใช้สั่น
00:17:05 → 00:17:08 มือใช่มั้ยคะเอาสั่นมือตรงนั้นน่ะค่ะวาง
00:17:08 → 00:17:13 ไปกดบริเวณหน้าท้องค่ะกุมกดไว้ที่หน้า
00:17:13 → 00:17:16 ท้อง 5 ครั้งเป็นจังหวะอ่ะค่ะบริเวณเอ่อ
00:17:16 → 00:17:19 ใต้ราวนมตรงหน้าท้องอ่ะค่ะแล้วก็กดหน้า
00:17:19 → 00:17:22 ท้องสัก 5 ครั้งเป็นจังหวะเหมือนเรา
00:17:23 → 00:17:26 พยายามจะดึงตัวเขาขึ้นค่ะอันเนี้ยก็จะ
00:17:26 → 00:17:29 ช่วยทำให้อาหารที่ติดอยู่หลุดออกมาอืแต่
00:17:29 → 00:17:33 ถ้าไม่ดีขึ้นควรรีบนำไปส่งโรงพยาบาลให้
00:17:33 → 00:17:37 เร็วที่สุดค่ะเพราะว่ามีโอกาสที่อาหารติด
00:17:37 → 00:17:42 คอแล้วคนไข้จะขาดอากาศหายใจได้อืแล้ววิธี
00:17:42 → 00:17:45 แบบว่าคือเราเห็นเสำรักอ่ะเราก็จะรีบส่ง
00:17:45 → 00:17:48 น้ำให้เขาคแบบไปแบบดื่มเพื่อกลืนหรืออะไร
00:17:48 → 00:17:52 อย่างเงี้ยมันมันถูกมยคะคือคือถ้าเกิด
00:17:52 → 00:17:56 ปกติเนี่ยสำลักมันอาจจะติดในหลอดอาหารใช่
00:17:56 → 00:18:00 มั้ยคะค่ะอ่ะคือออันนั้นก็คืออาการสำลัก
00:18:00 → 00:18:02 ไม่รุนแรงก็สามารถช่วยเหลือด้วยกันอ่าอาจ
00:18:02 → 00:18:07 จะกินน้ำอืก็ช่วยไล่ไปได้แต่ถ้าเกิดอาหาร
00:18:07 → 00:18:11 ติดในหลอดลมการกินนน้ำมันก็จะไม่ช่วยอื
00:18:11 → 00:18:13 เพราะมันคนลสวเพราะฉะนั้นอาการก็จะไม่ดี
00:18:13 → 00:18:17 ขึ้นอาการก็จะไม่ดีขึ้นโอ้โหก็แสดงว่าเรา
00:18:17 → 00:18:20 ก็ต้องประเมินดูจากเอ่อท่าทางดูจากสีหน้า
00:18:20 → 00:18:23 หรือหรืออาการที่แสดงออกว่ามันดูผิดปกติ
00:18:23 → 00:18:26 ไปคือถ้าเกิดแค่สำลักเราก็จะแบบว่าเออแบบ
00:18:26 → 00:18:30 เอขอน้ำหน่อยขอน้ำหน่อยแล้วก็แบบน้ำใช่ๆ
00:18:30 → 00:18:33 คนคนเราพอรีเฟลกตอนสำลักตอนแรกเลยเนี่ยก็
00:18:33 → 00:18:36 คือจะพยายามหาน้ำอะไรมากินใช่มั้ยคะก็ให้
00:18:36 → 00:18:41 เขาลองกินดูก่อนถ้ามันไม่ดีขึ้นยังรู้สึก
00:18:41 → 00:18:44 เหมือนมีอะไรติดคอแล้วเริ่มแบบเริ่มเริ่ม
00:18:44 → 00:18:47 ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้วเริ่มจะหมดสติ
00:18:47 → 00:18:49 ละอะไรอย่างเงี้ยแสดงว่าเนี่ยอาหารอาจจะ
00:18:49 → 00:18:53 ติดคอหมายถึงติดหลอดลมอ่ะค่ะอืก็ต้องช่วย
00:18:53 → 00:18:55 เหลือแบบที่อาจารย์บอกเมื่อกี้ก็คือ 1 ก็
00:18:55 → 00:19:00 คือเอาลองลองเอามือตบที่ตำแหน่งระหว่าง
00:19:00 → 00:19:03 สบักทั้ง 2 ข้างเพื่อเหมือนเหมือนเป็นแรง
00:19:03 → 00:19:07 ดันน่ะค่ะให้อาหารมันหลุดออกมาแต่ถ้าเกิด
00:19:07 → 00:19:10 สมมุติใช้วิธีเบาๆแล้วมันไม่เวิร์คก็ต้อง
00:19:10 → 00:19:15 เอากำป้านอาจไปกดบริเวณหน้าท้องโดยเรา
00:19:15 → 00:19:20 เนี่ยเดินจากเอ่อยืนจากด้านหลังแล้วก็ดัน
00:19:20 → 00:19:26 กำปั้นเข้าหาตัวผู้ดูแลค่ะนึกภาพออกใช่
00:19:26 → 00:19:28 มั้ยค่ะเหมือนเราพยายามจะกระทุ้งอะไรสัก
00:19:28 → 00:19:31 อย่างอือฮึโดยออกแรงเข้าหาตัวผู้ดูแล
00:19:31 → 00:19:34 อันเนี้ยก็จะเป็นการออกแรงกดเพื่อให้
00:19:34 → 00:19:39 อาหารที่ติดในหลอดคอมันหลุดออกมาอือันนี้
00:19:39 → 00:19:42 อยากให้บรรจุลงไปในหลักสูตรในการสอนการ
00:19:42 → 00:19:46 ปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยค่ะอ่าใช่เพราะว่า
00:19:46 → 00:19:50 มีหลายครั้งที่เด็กใครๆก็สำลักได้ค่ะเด็ก
00:19:50 → 00:19:53 ก็มีอผู้ใหญ่ก็มีค่ะใช่อันนี้อันนี้
00:19:53 → 00:19:56 จำเป็นเลยนะคะเพราะว่าปกติเราอ่ะสมองคน
00:19:56 → 00:20:00 เราอ่ะขาดอากาศได้แค่ 4 นาทีแล้วถ้าคนดู
00:20:00 → 00:20:06 แลดูแลไม่ได้อ่ะก็ผู้สูงอายุก็มีโอกาสที่
00:20:06 → 00:20:09 จะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้เลยอื
00:20:09 → 00:20:12 เนี่ยมันน่ากลัวตรงเนี้ยเพราะว่ามันแค่ 4
00:20:12 → 00:20:16 นาทีเองสั้นๆนะคะแบบแต่แต่คนที่มีอะไรไป
00:20:16 → 00:20:22 ติดตรงหลอดลมอ่ะเทรมานมากเลยอ่ะในในแต่ล
00:20:22 → 00:20:25 ใช่ๆทนี้อาจารย์คะมันต้องแบบแล้วยังไงคะ
00:20:26 → 00:20:28 มันนำไปสู่ถึงการที่แบบเสียชีวิตได้แค่
00:20:28 → 00:20:31 แบบจากการเอ้ยสำลักที่เราคุยมาเนี่ยมันก็
00:20:31 → 00:20:35 ยังพอมีจุดที่แก้ไขได้แต่ว่าถ้าแบบโอโห
00:20:35 → 00:20:38 อาการหนักคืออย่างที่ของคุณแม่เนี่ยคือ
00:20:38 → 00:20:42 เข้า ICU ไปเลยอะไรแบบเนี้ยค่ะมันมันไป
00:20:42 → 00:20:44 ถึงตรงจุดไหนคะที่มันทำให้เกิดความรุนแรง
00:20:44 → 00:20:48 ได้ขนาดนี้ถึงแบบว่าอาจจะเอ่อต้องใช้ระยะ
00:20:48 → 00:20:51 เวลาในการรักษาหรือบางทีอาจจะเสียชีวิต
00:20:51 → 00:20:54 ได้อย่างเงี้ยค่ะอ๋อคือความจริงอ่ะเอ่อ
00:20:54 → 00:20:57 ผู้สูงอายุอ่ะค่ะจะเสียชีวิตจากภาวะแทรก
00:20:57 → 00:21:02 ซ้อนอืจากการติดเชื้อหรือไม่ก็จากการขาด
00:21:02 → 00:21:06 อากาศหายใจค่ะซึ่งเราก็ไม่อยากให้เป็น
00:21:06 → 00:21:11 อย่างงั้นก็เลยต้องให้การพยาบาลให้การปฐม
00:21:11 → 00:21:16 พยาบาลช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนค่ะใช่อื
00:21:16 → 00:21:18 เพราะฉะนั้นมันมันมีโอกาสเป็นไปได้หมดทุก
00:21:18 → 00:21:21 คนนะคะบางคนอาจจะคิดว่าเอ้ยสำลักแค่นี้
00:21:21 → 00:21:23 เนี่ยก็ไม่คาดคิดเหมือนกันสำรักแค่นี้ใช่
00:21:23 → 00:21:26 มั้ยคะจะนำไปสู่ของการติดเชื้อในกระแส
00:21:26 → 00:21:30 เลือดซึ่งแบบความความรู้สึกของคนโดยทั่ว
00:21:30 → 00:21:32 ไปค่ะอาจารย์ว่าการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:21:32 → 00:21:35 เนี่ยเอออาจจะต้องได้รับการบาดเจ็บเอ่อ
00:21:35 → 00:21:38 หรือว่ามีอุบัติเหตุมาแล้วมันเข้ามาทาง
00:21:38 → 00:21:40 บาดแผลหรืออะไรอย่างงั้นไปจริงๆมันไม่ใช่
00:21:40 → 00:21:46 นะอือก็ความจริงโอกาสการการสำลักเนี่ยค่ะ
00:21:46 → 00:21:49 มันนอกจากจะทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดอัน
00:21:49 → 00:21:51 นั้นนี่คือเหมือนเป็นเ Point แล้วนะแต่
00:21:51 → 00:21:54 ตอนแรกเลยเเอาจจะติดเชื้อในปอดก่อนอืเกิด
00:21:54 → 00:21:59 ภาวะปอดปวมเพราะว่าตัวเศษอาหารอ่ะ
00:21:59 → 00:22:04 มันมันเข้าไปติดในปอดมันเอ่าใช่แล้วแล้ว
00:22:04 → 00:22:07 ทีนี้ถ้าเกิดสมมุติว่าเราปล่อยไปให้การ
00:22:07 → 00:22:11 ช่วยเหลือไม่ทันเขาก็มีโอกาสที่การติด
00:22:11 → 00:22:13 เชื้อนั้นจะแพร่กระจายไปทั้งตัวก็ทำให้
00:22:13 → 00:22:17 ติดเชื้อในกระแสเลือดตามาได้อืเหมือนกับ
00:22:17 → 00:22:19 อาจารย์จะบอกว่าจริงๆแล้วเศษอาหารพวก
00:22:19 → 00:22:22 เนี้ยมันควรไปอยู่ในกระเพาะอาหารมันไม่
00:22:22 → 00:22:25 ได้ควรอยู่ในปอดใชใช่มันไม่ควรไปอยู่ที่
00:22:25 → 00:22:29 อื่นใช่เออแล้วเออนะเพราะว่ามันอยู่ผิด
00:22:29 → 00:22:33 ที่ผิดทางแล้วมันก็อาจจะมีความไม่สะอาด
00:22:33 → 00:22:35 หรือหรือมันก็มันสิ่งแปลกปลอมแหละร่างกาย
00:22:35 → 00:22:38 ของเรามันพยายามที่จะกำจัดสิ่งแปบปลอมที่
00:22:38 → 00:22:41 เข้าอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้วอ่ะแต่อัน
00:22:41 → 00:22:43 นี้มันดันไปอยู่ในปอดติดเชื้อในกระแส
00:22:43 → 00:22:47 เลือดได้ค่ะอืไม่น่าเชื่อจริงๆนะคะว่า
00:22:47 → 00:22:51 เอ่อเพียงแค่เล็กๆน้อยๆแต่ว่าอย่างที่
00:22:51 → 00:22:53 อาจารย์เน้นย้ำให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันว่า
00:22:53 → 00:22:56 มันไม่ได้บอกว่าการสำลักครั้งเดียวก็จะนำ
00:22:56 → 00:22:59 ไปสู่เอ่ออะไรต่างๆเหล่านี้ความรุนแรงได้
00:22:59 → 00:23:02 แต่บางทีมันอาจจะต้องสังเกตความที่เล็กๆ
00:23:02 → 00:23:05 น้อยๆมาเช่นมีการสำลักอยู่บ่อยครั้งหรือ
00:23:05 → 00:23:08 แบบเอาละมีการสำลักครั้งนึงแล้วนะครั้ง
00:23:08 → 00:23:10 ที่ 2 นี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่ม
00:23:10 → 00:23:13 มากขึ้นเนาะอาจารย์เนาะอือค่ะใช่ค่ะเพราะ
00:23:13 → 00:23:17 ฉะนั้นก็คือถ้าคนไข้มีอาการแบบที่อาจารย์
00:23:17 → 00:23:19 บอกไปเมื่อสักครู่นี้ว่าอาการแบบไหนต้อง
00:23:19 → 00:23:23 พาไปพบแพทย์ก็ควรจะพาไปพบคุณหมอคุณหมอ
00:23:23 → 00:23:26 เวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือนักกิจกรรมบำบัดเพื่อ
00:23:26 → 00:23:30 ให้เขาเนี่ยสามารถวางแผนการดูแลวางแผนการ
00:23:30 → 00:23:33 ฟื้นฟูให้คนให้คนไครอ่ะค่ะสามารถกลับมา
00:23:33 → 00:23:38 ทานอาหารได้อย่างปกติสุขลดอากาศการสำลัก
00:23:38 → 00:23:41 ได้ค่ะนะก็ต้องช่วยกันสังเกตช่วยกันดูแล
00:23:41 → 00:23:44 นะคะแค่เราธรรมดาปกติที่เรายังไม่ได้อายุ
00:23:45 → 00:23:48 มากสำลักที่นึงก็หน้าดำหน้าแดงแล้วนะคะไอ
00:23:48 → 00:23:51 จนแบบน้ำหูน้ำตาไหลเหมือนกันนะเนี่ยนะคะ
00:23:51 → 00:23:53 เพราะฉะนั้นก็อ่าเล็กๆน้อยๆคือต้องใส่ใจ
00:23:53 → 00:23:56 รายละเอียดมากขึ้นในความที่เขาเป็นผู้สูง
00:23:56 → 00:24:00 อายุนะคะใช่ค่ะใช่ค่ะมีรายละอดคนข้างเยอะ
00:24:00 → 00:24:02 แต่ว่าเชื่อว่าคุณผู้ฟังก็จะช่วยดูแลผู้
00:24:02 → 00:24:05 สูงอายุของเรากันได้เป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ
00:24:05 → 00:24:08 เอาล่ะหมดเวลาแล้วค่ะอาจารย์คะเดี๋ยวเรา
00:24:08 → 00:24:10 ก็คงต้องลาคุณผู้ฟังไปพร้อมๆกันตรงนี้
00:24:10 → 00:24:13 ด้วยนะคะแล้วก็กลับมาติดตามกันใหม่กับราย
00:24:13 → 00:24:15 การโรงหมอทางไทย PBS podcast ค่ะวันนี้
00:24:15 → 00:24:17 ต้องขอบคุณอาจารย์ด้วยนะคะสวัสดีค่ะ
00:24:18 → 00:24:21 อาจารย์ค่ะสวัสดีค่ะล่ะค่ะคุณผู้ฟังลาไป
00:24:21 → 00:24:25 แล้วนะคะสวัสดีค่ะ is Toy PBS podcast
00:24:25 → 00:24:28 ลักษณะของคนที่ไม่มีความสุขมีอารคล้ายๆ
00:24:28 → 00:24:30 กับกับโรคซึมเศร้าแต่ไม่เหมือนกันคนที่
00:24:30 → 00:24:32 ไม่มีความสุขเป็นอย่างไรผู้ช่วย
00:24:32 → 00:24:34 ศาสตราจารย์ดรจันท์วิภาดิลกสัมพันธ์ผู้
00:24:34 → 00:24:37 เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และครอบครัวมา
00:24:37 → 00:24:40 บอกให้รู้ครับอาการที่พวกเรามักจะเป็น
00:24:40 → 00:24:42 ห่วงกันในปัจจุบันนี้ที่ดูไม่มีความสุขก็
00:24:42 → 00:24:46 คือพวกโรคซึมเศร้าคนะฮะหรือรู้สึกอาการ
00:24:46 → 00:24:50 เศร้ามันหม่นหมองมันหดหู่นะฮะแต่คนที่ไม่
00:24:50 → 00:24:52 มีความสุขเนี่ยมันไม่ได้แค่นั้นนะคะมันจะ
00:24:52 → 00:24:56 มีทั้งเศร้าหม่นหมองหดหู่หงุดหงิดปี๊ดแตก
00:24:56 → 00:25:00 ง่ายเหวี่ยงวีนนะฮะน้อยใจง่ายไม่มีความ
00:25:00 → 00:25:04 สุขนะคะเบื่อไปหมดทุกอย่างเบื่อโลกเบื่อ
00:25:04 → 00:25:09 ตัวเองซึมกระทือซังกระตายนะไม่ยินดียิน
00:25:09 → 00:25:13 ร้ายไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเฉยไปหมดนะฮะ
00:25:13 → 00:25:16 รู้สึกว่างเปล่าเหมือนกับทุกๆวันเนี่ยมัน
00:25:16 → 00:25:19 ก็เหมือนๆกันพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก
00:25:19 → 00:25:23 แล้วๆเล่าๆนะคะไม่มีความสุขแต่ก็บอกไม่
00:25:23 → 00:25:26 ได้ว่าทุกข์อะไรมันมีแต่ความสงสัยว่าทำไม
00:25:26 → 00:25:28 เราคนอื่นเมีความสุขทำไมันไม่ไม่มีความ
00:25:28 → 00:25:31 สุขรู้สึกเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจลืม
00:25:31 → 00:25:35 ตาขึ้นมาก็เหนื่อยละนะฮะเหนื่อยแล้วก็
00:25:35 → 00:25:38 อยากจะแสร้งว่าตัวเอง่ะสบายดีไม่มีอะไรนะ
00:25:38 → 00:25:42 ฮะแล้วก็ยังมีอาการท้อแท้นะฮหดหู่สิ้น
00:25:42 → 00:25:46 หวังรู้สึกผิดรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่านะฮะ
00:25:46 → 00:25:52 จิตตกไม่มีสาเหตุร้องไห้ง่ายขึ้นเศร้านะ
00:25:52 → 00:25:55 ฮะฟังดูแล้วนะคะรวมๆกันแล้วเนี่ยก็
00:25:55 → 00:25:59 อาจารย์วิภาขอใช้คำว่าเป็นลักษณะที่ไม่
00:25:59 → 00:26:02 สามารถสัมผัสกับความสุขได้เลยอันลักษณะ
00:26:02 → 00:26:06 ใหญ่ๆก็คือหงุดหงิดเบื่อเศร้าท้อห่อ
00:26:06 → 00:26:09 เหี่ยวซังกระตายนะฮะบางคนเนี่ยไม่เคยดู
00:26:09 → 00:26:11 ว่าเศร้าเลยนะคะแต่มันจะมีอาการเหล่า
00:26:11 → 00:26:14 เนี้ยนะฮะเพราะฉะนั้นการรักษาเนี่ยบางที
00:26:14 → 00:26:17 ไปกินเอายาซึมเศร้าทั้งๆที่มันไม่ใช่อ่ะ
00:26:18 → 00:26:20 ซึ่งล่าสุดเนี่ยนะฮะสมาคมจิตแพทย์แห่ง
00:26:20 → 00:26:23 ประเทศไทยเนี่ยเกจำกัดความอันนี้แล้วว่า
00:26:23 → 00:26:25 ทั้งหมดทั้งมวลที่เราคุยกันมาตั้งแต่ต้น
00:26:25 → 00:26:29 เนี่ยค่ะมันคือโรคสูญเสียความสามารถในการ
00:26:29 → 00:26:32 มีความสุขบางคนไม่รู้สึกตัวค่ะว่าเป็นโรค
00:26:32 → 00:26:35 นี้แต่คิดว่าทำไมอ่ะฉันตื่นมาฉันก็เบื่อ
00:26:36 → 00:26:38 ไปหมดเลยทำอะไรก็ไม่มีความสุขกินของอร่อย
00:26:38 → 00:26:41 ก็ไม่อร่อยต่อให้เพื่อนเอาของขวัญของ
00:26:41 → 00:26:44 กำนันเอาทองมาให้เอาเงินมาวางให้มันก็เฉย
00:26:44 → 00:26:48 ๆชืดชานึกออกมยคะซึ่งจริงๆแล้วการแก้ไขเ
00:26:48 → 00:26:54 จะว่าง่ายก็ไม่ง่ายจะว่ายากก็ไม่ยาก
00:26:54 → 00:26:59 ค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:26:59 → 00:27:02 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:27:02 → 00:27:06 ของ Thai PBS podcast spotify S
00:27:06 → 00:27:09 Cloud Google podcast Apple podcast
00:27:09 → 00:27:12 และ YouTube Channel Thai PBS podcast
00:27:12 → 00:27:15 Thai PBS podcast View the world
00:27:15 → 00:27:17 via The Voice
00:27:17 → 00:27:22 [เพลง]