00:00:06 → 00:00:09 ความเก่งตามค่านิยมของสังคมเราในปัจจุบัน
00:00:09 → 00:00:12 โดยทั่วๆไปเนี่ยถ้าเราพูดถึงถ้าเก่งทาง
00:00:12 → 00:00:15 วิชาการวัดกันด้วยเกรดหรือผลสอบถ้าความ
00:00:15 → 00:00:18 เก่งในเรื่องนั้นๆว่าถ้าเรามีความชอบ
00:00:18 → 00:00:21 เนี่ยในเรื่องนั้นๆด้วยเรื่องนั้นมันจะ
00:00:21 → 00:00:23 พัฒนาได้เร็วมากเพราะฉะนั้นเนี่ยจึงบอก
00:00:24 → 00:00:26 ว่าถ้าคนเราเนี่ยนะคะเริ่มรู้ว่าเราเก่ง
00:00:26 → 00:00:27 อะไร
00:00:27 → 00:00:30 แล้วบวกกับความชอบลงไปด้วยแล้วตั้งจุด
00:00:30 → 00:00:33 มุ่งหมายให้ดีเนี่ยมันจะทำให้เราสามารถ
00:00:33 → 00:00:35 พัฒนาสิ่งนั้นไปได้ดีมากเลยค่ะ
00:00:35 → 00:00:37 [เพลง]
00:00:37 → 00:00:40 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคภัยฟังราย
00:00:40 → 00:00:47 การโรงหมอแต่ดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:47 → 00:00:49 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:49 → 00:00:52 รายการโรงหมอทางไทย PBS Plus วันนี้เรา
00:00:52 → 00:00:55 กลับมาพบกันเช่นเคยนะคะติดตามกันสาระวัน
00:00:55 → 00:00:58 นี้นะฮะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจำเป็นไหมที่
00:00:58 → 00:01:01 เราจะต้องเป็นคนเก่งอ่าเป็นคำถามที่ให้
00:01:01 → 00:01:04 คุณผู้ฟังถามตัวเองด้วยนะคะอันนี้จุลีพร
00:01:04 → 00:01:06 ก็ถามตัวเองด้วยเหมือนกันนะคะแต่ถามตัว
00:01:06 → 00:01:08 เองแล้วเนี่ยจะได้คำตอบหรือเปล่าเนี่ยนะ
00:01:08 → 00:01:11 คะก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ว่าต้องคุยกับ
00:01:11 → 00:01:14 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทร์วิภาวดีผู้ทรง
00:01:14 → 00:01:16 คุณวุฒิมหาวุฒิวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
00:01:16 → 00:01:18 เจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
00:01:18 → 00:01:21 และครอบครัวค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดี
00:01:21 → 00:01:24 ค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่านค่ะถาม
00:01:24 → 00:01:26 อาจารย์ก่อนเลยประโยคเดิมจำเป็นไหมที่เรา
00:01:26 → 00:01:28 ต้องเป็นคนเก่ง
00:01:28 → 00:01:30 ถ้าถามว่าจำเป็นไหม
00:01:30 → 00:01:33 ก็จะย้อนถามคุณชลีพรกันว่าเก่งคืออะไรคะ
00:01:33 → 00:01:36 เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ
00:01:36 → 00:01:41 ที่จะตอบโจทย์ตอบสนองต่อความต้องการของ
00:01:41 → 00:01:46 ผู้บังคับบัญชาคุณครูค่ะพ่อแม่อะไรอย่าง
00:01:46 → 00:01:49 นี้อันนี้ก็หมายถึงการกระทำใช่ไหมคะทำได้
00:01:49 → 00:01:52 และทำดีทำได้ดีในเรื่องนั้นๆแล้วมันก็
00:01:52 → 00:01:59 ต้องพ่วงดีเก่งด้วยอ่านะฮะรู้ดีทำได้ทำดี
00:01:59 → 00:02:02 ในเรื่องนั้นๆถูกไหมคะนะคะเพราะฉะนั้นถาม
00:02:02 → 00:02:04 ว่าเราคนเราจำเป็นต้องเก่งไหม
00:02:04 → 00:02:08 ก็ใช้คำว่าก็น่าจะจำเป็นถูกไหมคะแต่ว่า
00:02:09 → 00:02:12 ไม่ได้ไม่ได้เก่งแบบเก่งมันมีหลายระดับ
00:02:12 → 00:02:16 ถูกไหมคะเก่งแบบพอที่จะไปไหนไปไหนได้เก่ง
00:02:16 → 00:02:19 แบบเป็น expert เลยนะคะหรือเป็นผู้เชี่ยว
00:02:19 → 00:02:22 ชาญเรื่องนั้นๆไปเลยอะไรอย่างนี้เป็นต้น
00:02:22 → 00:02:26 นะคะแต่มีคนที่เขาเขาตั้งคำถามว่าเอ๊ะคน
00:02:26 → 00:02:28 เราเนี่ยจะเป็นไหมต้องเก่งอะไรสักอย่าง
00:02:28 → 00:02:31 ไหมจริงๆอยู่รอดในสังคมและได้เนี่ยนะฮะ
00:02:31 → 00:02:34 หรือความเก่งเนี่ยมันต้องเปรียบเทียบไหม
00:02:34 → 00:02:36 มันอาจจะต้องเปรียบเทียบหรือไม่ต้อง
00:02:36 → 00:02:38 เปรียบเทียบหรือต้องเอาไปไขว่คว้าหามัน
00:02:39 → 00:02:41 ไหมนะฮะทุกความเก่งเนี่ยมันมีอยู่ในตัว
00:02:41 → 00:02:44 เองหรือยังนะฮะเพียงแต่ว่าเราค้นหาในตัว
00:02:44 → 00:02:46 คนแต่ละคนแล้วอ่ะมันมีความเก่งอยู่แล้ว
00:02:46 → 00:02:50 เพียงแต่ว่าเราค้นหามันเจอไหมและประยุกต์
00:02:50 → 00:02:54 มันมาใช้ได้ถูกวิธีไหมนะคะอาจารย์วิภา
00:02:54 → 00:02:57 เนี่ยเป็นคนที่ชอบศึกษาชีวิตคนนะคะหลายคน
00:02:57 → 00:02:59 ที่ยังเคยไปเจออยู่ท่านหนึ่งเนี่ยท่าน
00:02:59 → 00:03:03 เป็นประติมากรรมนะคะลักษณะของการปั้นกัน
00:03:03 → 00:03:07 อะไรอย่างนี้ก็หากินก๊อกๆแก๊กๆแบบศิลปิน
00:03:07 → 00:03:11 นะคะตามตลาดตามข้างถนนแต่ปรากฏว่ามีผู้
00:03:11 → 00:03:15 หญิงตาดีเป็นฝรั่งนะคะมีผู้หญิงตาดีเห็น
00:03:15 → 00:03:19 แล้วก็มาสนับสนุนเธอนะถ้าจนในที่สุดก็ได้
00:03:19 → 00:03:21 เป็นคู่ชีวิตกันแต่ตอนนี้ประสบความสำเร็จ
00:03:21 → 00:03:23 ระดับโลกเลยเกี่ยวกับเรื่องของ
00:03:23 → 00:03:27 ประติมากรรมนะคะเป็นผู้ชายไทยนะคะเพราะ
00:03:27 → 00:03:29 ฉะนั้นตรงนี้เราจะเห็นด้วยว่าความเก่งตรง
00:03:29 → 00:03:30 เนี้ย
00:03:30 → 00:03:34 ตัวเองอ่ะมองไม่เห็นนะคะแต่ผู้หญิงคนนั้น
00:03:34 → 00:03:36 เนี่ยเพราะเขาเห็นงานเค้าบอกว่า
00:03:36 → 00:03:39 ฝีมือระดับคุณเนี่ยมันอยู่ตรงนี้ไม่ได้
00:03:39 → 00:03:42 แล้วล่ะอืมแล้วจะบอกไหมคะ
00:03:42 → 00:03:46 อันเนี้ยความเก่งเนี่ยนะคะมันก็บางทีเรา
00:03:46 → 00:03:49 หาไม่เจออ่ะคุณสุรีย์พรนะคะเพราะนั้นเค้า
00:03:49 → 00:03:51 จึงบอกว่าคนเราเนี่ยมันต้องหาให้ได้ว่า
00:03:51 → 00:03:55 เราเนี่ยมีอะไรดีในตัวก่อนนะคะทีนี้ความ
00:03:55 → 00:03:58 เก่งของความเก่งตามค่านิยมของสังคมเราใน
00:03:58 → 00:04:01 ปัจจุบันเนี่ยโดยทั่วๆไปเนี่ยถ้าเราพูด
00:04:01 → 00:04:03 ถึงถ้าเก่งทางวิชาการวัดที่ไหนคะคุณ
00:04:03 → 00:04:05 ศิริพร
00:04:05 → 00:04:09 คำนำหน้าป่ะคะก็ด้วยค่ะแต่ก่อนจะได้คำนำ
00:04:09 → 00:04:12 หน้ามาเนี่ยมันต้องมีอะไรคะนักวิชาการมัน
00:04:12 → 00:04:14 ต้องมีการสอบใช่ไหมคะตั้งแต่ประถมมาเลย
00:04:14 → 00:04:17 เนี่ยนะคะก็วัดกันด้วยเกรดหรือผลสอบหรือ
00:04:17 → 00:04:20 ที่บอกว่าเป็นสเป็นดรเป็นอะไรต่างๆมันก็
00:04:21 → 00:04:24 ต้องมีการสอบผ่านถูกไหมคะนะคะเพราะฉะนั้น
00:04:24 → 00:04:26 ทางวิชาการเนี่ยมันก็จะมีเรื่องของความ
00:04:26 → 00:04:29 รู้นะฮะอาจจะเป็นเรื่องของภาษานะคะแต่บาง
00:04:29 → 00:04:32 คนอาจจะเก่งในเรื่องของการเอ่อเข้าสังคม
00:04:32 → 00:04:34 อะไรต่างๆเหล่านี้เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็จะ
00:04:34 → 00:04:38 มีความเก่งไปต่างๆกันนะคะทีนี้ความเก่ง
00:04:38 → 00:04:40 เนี่ยมันจะอยู่กับเราตลอดไหม
00:04:40 → 00:04:44 อ่านะฮะสมมติว่าเราเคยเก่งภาษาอังกฤษตอน
00:04:44 → 00:04:48 อยู่ประถมแล้วเราไม่ได้ใช้มันเลยพอเข้าไป
00:04:48 → 00:04:51 สู่ในในเมื่อโตขึ้นแล้วเนี่ยเราไม่ได้ใช้
00:04:51 → 00:04:54 ภาษาอังกฤษเลยเราทำงานในวงคนไทยหมดเลยทำ
00:04:54 → 00:04:57 เก่งมันจะหายไปไหมคะอ้ามันจางไปฮะเพราะ
00:04:57 → 00:04:59 ฉะนั้นความเก่งตรงเนี้ย
00:04:59 → 00:05:03 มันก็เลยขึ้นกับทักษะไอ้ตัวนึงนะคะก็คือ
00:05:03 → 00:05:06 ได้ทำสิ่งนั้นตลอดไหมบ่อยๆไหมจนทำให้ความ
00:05:06 → 00:05:09 เก่งนะมันคงอยู่ถูกไหมคะมันก็กลายเป็น
00:05:09 → 00:05:14 เรื่องของทักษะไปนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า
00:05:14 → 00:05:18 เรามีความรู้เราเก่งแล้วเรามีทักษะแต่เรา
00:05:18 → 00:05:19 ไม่ได้ใช้
00:05:19 → 00:05:23 ไม่ได้ใช้งานมันก็หายไปได้ถูกไหมคะมันมี
00:05:23 → 00:05:27 โอกาสได้ใช้เลยเพราะฉะนั้นเนี่ยเขาจึงบอก
00:05:27 → 00:05:29 ว่าเราต้องแยกแยะให้ออกก่อนตั้งแต่เรา
00:05:29 → 00:05:31 ลำดับแรกเลยนะคะว่า
00:05:31 → 00:05:35 ถ้าความเก่งในเรื่องนั้นๆบวกกับความชอบ
00:05:35 → 00:05:39 ค่ะคุณฟรีพรนะคะว่าถ้าเรามีความชอบเนี่ย
00:05:39 → 00:05:41 ในเรื่องนั้นๆด้วยเรื่องนั้นมันจะพัฒนา
00:05:41 → 00:05:46 ได้เร็วมากนะคะแต่คนเราเนี่ยมันมีความ
00:05:46 → 00:05:49 สามารถเยอะมากเลยรอบตัวมันไม่ใช่แค่
00:05:49 → 00:05:52 เรื่องเดียวนะคะแต่ในโบราณน่ะมันจะมีคำ
00:05:52 → 00:05:56 พูดที่บอกว่ารู้จริงสิ่งเดียวอาจมีมั่ง
00:05:56 → 00:06:00 เลี้ยงชีพนะคะร้อยชั่วหรือเหลนหลานอะไร
00:06:00 → 00:06:03 พวกนี้นะคะแล้วก็หมายความว่าชี้ให้เห็น
00:06:03 → 00:06:06 ว่าเอ่อคนเราเก่งอะไรแค่อย่างเดียวเหมือน
00:06:06 → 00:06:09 กับคนที่ทำกับข้าวขายอ่ะนะคะบางเจ้าเนี่ย
00:06:09 → 00:06:12 ทอดหมูอร่อยบางเจ้าทำข้าวต้มมัดอร่อย
00:06:12 → 00:06:15 บางเจ้าทำอะไรเขาก็ขายดิบขายดีมาจนถึง
00:06:15 → 00:06:19 ชั่วลูกชั่วหลานเลยอันนี้นะคะคือความเก่ง
00:06:19 → 00:06:21 ที่แบบว่ารู้จริงสิ่งเดียวอาจแต่จริงๆ
00:06:21 → 00:06:23 แล้วในคนเรามันไม่ได้รู้แค่อย่างเดียว
00:06:23 → 00:06:26 หรอกมันทำอะไรได้อีกตั้งเยอะเนี่ยอืมนะฮะ
00:06:26 → 00:06:28 เพราะฉะนั้นเนี่ยจึงบอกว่าถ้าคนเราเนี่ย
00:06:28 → 00:06:31 นะคะเริ่มรู้ว่าเราเก่งอะไร
00:06:31 → 00:06:35 แล้วบวกกับความชอบลงไปด้วยแล้วตั้งจุด
00:06:35 → 00:06:37 มุ่งหมายให้ดีเนี่ยมันจะทำให้เราสามารถ
00:06:37 → 00:06:40 พัฒนาสิ่งนั้นไปได้ดีมากเลยค่ะอันนี้เห็น
00:06:40 → 00:06:42 ด้วยเห็นด้วยยิ่งถ้าแบบความชอบเข้าไปนี่
00:06:42 → 00:06:45 แบบใช่ค่ะสุดๆเลยค่ะ
00:06:45 → 00:06:50 ก็เหมือนกับแบบอาจารย์กำลังจะบอกว่าคือ
00:06:50 → 00:06:53 ทุกคนมีความเก่งอยู่แล้วแหละแต่ว่าเราแค่
00:06:53 → 00:06:56 หามันบางคนอาจจะยังหาไม่เจอว่าเจอไม่รู้
00:06:56 → 00:06:59 ตัวด้วยตกลงเก่งอะไรหรือมันไม่มีโอกาสได้
00:06:59 → 00:07:01 ไปทำอะไรให้รู้สึกว่าตัวเองทำออกมาแล้ว
00:07:01 → 00:07:04 มันได้ดีหรือเปล่าคะใช่ค่ะก็มีส่วนค่ะ
00:07:04 → 00:07:07 นะคะเพราะฉะนั้นบางคนเนี่ยตอนเป็นเด็กนะ
00:07:07 → 00:07:10 เค้าถึงได้ให้เด็กลองหลายๆอย่างค่ะว่า
00:07:10 → 00:07:13 เด็กคนนี้จะเก่งศิลปะไหมวาดรูปเก่งมั้ย
00:07:13 → 00:07:16 อะไรมั้ยอย่างเงี้ยค่ะไปเรื่อยๆเพราะ
00:07:16 → 00:07:18 ฉะนั้นบางคนเนี่ยจะพบว่าตัวเองทำได้หลาย
00:07:18 → 00:07:19 อย่างมากเลย
00:07:19 → 00:07:22 หรือบางทีเนี่ยคุณสุรีย์พรเคยได้ยินคำว่า
00:07:22 → 00:07:25 รู้แบบเป็ดไหมคะ
00:07:25 → 00:07:27 เคยได้ยินคำนี้
00:07:27 → 00:07:30 นะคะมันจะมีความหมายรายได้ด้านเชิงบวก
00:07:30 → 00:07:34 เชิงลบนะคะก็คือในเชิงเชิงบวกก็จะบอกว่า
00:07:34 → 00:07:37 คนนี้ใช้ได้เป็ดมันทำอะไรบ้างคะว่ายน้ำ
00:07:37 → 00:07:41 ได้นะคะลงน้ำได้ก็ไม่จมนะคะบินได้ก็นิด
00:07:41 → 00:07:45 หน่อยค่ะพอข้ามรั้วได้นะคะบินได้เดินได้
00:07:45 → 00:07:48 อะไรอย่างนี้นะคะก็ทำได้หลายอย่างแต่ไม่
00:07:48 → 00:07:51 เก่งสักอย่างนะฮะในเชิงลบก็คือไม่เก่งสัก
00:07:51 → 00:07:53 อย่างเลยก็หมายความว่าทำได้ทุกอย่างแหละ
00:07:53 → 00:07:56 แต่ไม่เก่งสักอย่างนึงว่ายน้ำก็ว่ายได้
00:07:56 → 00:08:00 แต่ไม่ได้เก่งได้ขนาดปลาหรือขนาดหงส์หรือ
00:08:00 → 00:08:03 อะไรอย่างเงี้ยนะคะแล้วก็บินก็บินได้
00:08:03 → 00:08:07 เตี้ยๆอ่ะนะคะเดินก็เดินกะด้อกระแดะก้น
00:08:07 → 00:08:10 หันไปหันมาหันมาหันไปอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:08:10 → 00:08:13 เพราะฉะนั้นมันก็มองได้ทั้งเชิงบวกเชิงลบ
00:08:13 → 00:08:16 ว่าคนคนที่รู้อะไรหลายๆอย่างหรือเก่งหลาย
00:08:16 → 00:08:18 ๆอย่างเนี่ยเขาเรียกว่าเก่งแบบเป็ดนะคะ
00:08:18 → 00:08:21 แต่ก็ไม่ไม่ได้ดีสักอย่างหนึ่งอันนี้มอง
00:08:21 → 00:08:24 ในเชิงลบนะคะแต่ยังไงก็เอาตัวรอดนะคะ
00:08:24 → 00:08:27 อย่างอาจารย์วิภาเองเนี่ยเราสอนอาจารย์
00:08:27 → 00:08:31 วิภาประจำที่สาขาวิชาสาธารณสุขนะฮะของ
00:08:31 → 00:08:34 ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเนี่ยในสมัยที่
00:08:34 → 00:08:37 รับราชการอยู่เนี่ยแล้วก็ตั้งตั้งเป้ากัน
00:08:37 → 00:08:39 ไว้เลยว่านักศึกษาของเราเนี่ยต้องเก่งแบบ
00:08:39 → 00:08:43 เป็ดคือทำได้ทุกอย่างนะฮะเขาเขาให้สอน
00:08:43 → 00:08:47 วิชาการเราก็ทำได้จัดอบรมสัมมนาเราก็ต้อง
00:08:47 → 00:08:50 ทำได้จัดการละเล่นจัดกิจกรรมจัดบันเทิง
00:08:50 → 00:08:54 เราทำได้หมดถามว่าทำไมเพราะถ้าเด็กของเรา
00:08:54 → 00:08:56 เก่งหลายๆอย่างจะมีคนอยากได้เหมือนกับเขา
00:08:56 → 00:08:59 จ้างคนคนเดียวได้คน 10 คนน่ะถูกมั้ยฮะ
00:08:59 → 00:09:01 เด็กเราก็จะไม่เคยว่างงานเป็นที่ต้องการ
00:09:01 → 00:09:05 ของสังคมตลอดเวลาแต่ถ้าเด็กเราบอกอุ๊ยอัน
00:09:05 → 00:09:07 นี้ก็ทำไม่ได้ค่ะอุ้ยคอมก็ไม่เป็นค่ะภาษา
00:09:07 → 00:09:09 อังกฤษก็ไม่ได้ค่ะอะไรอย่างเงี้ยนะคะรู้
00:09:09 → 00:09:12 อย่างเดียวค่ะเรื่องศาลแล้วสุขจบข่าวมัน
00:09:12 → 00:09:13 ไปไม่ได้
00:09:13 → 00:09:16 นะคะนะคะเพราะฉะนั้นตรงนี้เราก็จะมี
00:09:16 → 00:09:19 ลักษณะอย่างนั้นนะคะที่เราจะตั้งเป้าเอา
00:09:19 → 00:09:23 ไว้เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าคนเราเก่งมั้ยควร
00:09:23 → 00:09:26 จะต้องเก่งเนาะนะฮะแต่ถามว่าคนเราเนี่ยจะ
00:09:26 → 00:09:29 ต้องจำเป็นต้องเก่งทุกเรื่องไหมคุณ
00:09:29 → 00:09:32 สุรีย์พรไม่จำเป็นไหมคะไม่ค่ะไม่ไม่สร้าง
00:09:32 → 00:09:34 คำตอบเนี่ยเราคุยกันตั้งนานเนี่ยนะก็บอก
00:09:34 → 00:09:37 แค่ว่าแค่หาจุดเด่นของเราให้ได้แล้วพัฒนา
00:09:37 → 00:09:39 มันให้สำเร็จนะคะเพราะฉะนั้นจุดเด่นจุด
00:09:39 → 00:09:42 เดียวเนี่ยเลี้ยงตัวได้สบายแล้วนะคะแต่
00:09:42 → 00:09:46 ถ้าเราเอาเวลานะคะอยากจะเก่งทุกอย่างใน
00:09:46 → 00:09:50 คิดดูนะคะว่าเราต้องเอาเวลาที่มาพัฒนา
00:09:50 → 00:09:52 สิ่งที่เราไม่เก่งอ่ะนึกออกไหมคะมันทำให้
00:09:52 → 00:09:55 เราเสียเวลาที่จะไปพัฒนาส่วนที่ดีของเรา
00:09:55 → 00:09:58 นะฮะแต่ทีนี้มันก็ต้องมาแก้ไขบางทีมัน
00:09:58 → 00:10:01 จำเป็นน่ะนะฮะอย่างสมมติว่าเรามีสอบเสร็จ
00:10:01 → 00:10:05 วิชานะคะเราเก่งแค่วิชาที่ 1 อีก 9 วิชา
00:10:05 → 00:10:07 แยกหมดเลยเนี่ยมันก็สอบไม่ผ่านถูกมั้ยคะ
00:10:07 → 00:10:10 เพราะฉะนั้นก็ต้องบอกว่าเราต้องพยายามที่
00:10:10 → 00:10:13 จะเอาให้ตัวรอดน่ะนะฮะเอาตัวรอดให้รอดใน 9
00:10:13 → 00:10:15 วิชานั้นน่ะส่วนไอ้วิชาที่ 10 ที่เราเก่ง
00:10:15 → 00:10:18 น่ะไม่ต้องห่วงมันมันผ่านอยู่และแต่ยังไง
00:10:18 → 00:10:22 ก็ตามเกรดมันก็ต้องเกิน 2.00 ใช่ไหมคะ
00:10:22 → 00:10:25 เพราะฉะนั้นเราก็ทำให้มันดีขึ้นได้นะคะ
00:10:25 → 00:10:28 แต่เสร็จแล้วเอาเวลาตรงนั้นน่ะที่เหลือ
00:10:28 → 00:10:31 เนี่ยนะคะมาพัฒนาตัวเองแล้วจะเห็นว่าจาก
00:10:31 → 00:10:34 ประวัติของศิลปินหรือคนเก่งๆในในโลกเรา
00:10:34 → 00:10:37 เนี่ยนะฮะหลายคนที่เรียนหนังสือเนี่ยสอบ
00:10:37 → 00:10:40 ตกตลอดแต่ทำไมไปดังในเรื่องของการแต่ง
00:10:40 → 00:10:44 เพลงบางคนนะฮะอู้ไปได้พุ่งแบบเป็นๆระดับ
00:10:44 → 00:10:47 โลกเลยอ่ะนะคะก็เพราะว่าเขาเก่งในเรื่อง
00:10:47 → 00:10:51 นั้นแต่มาวัดกันด้วยด้วยคะแนนเอ้ยวิชาทาง
00:10:51 → 00:10:55 วิชาการต่างๆเนี่ยเค้าแย่หมดอ่ะถูกไหมคะ
00:10:55 → 00:10:58 แล้วก็มองถูกมองกล้ากลายเป็นคนโง่ในสายตา
00:10:58 → 00:11:01 ของสังคมซึ่งจริงๆเขาไม่ได้โง่เรื่องนั้น
00:11:01 → 00:11:04 แต่เขาเป็นอัจฉริยะในบางเรื่องก็ได้ถูก
00:11:04 → 00:11:07 ไหมคะเหมือนกับอาจารย์กำลังจะบอกว่าคือ
00:11:07 → 00:11:10 ถ้าเกิดสมมุติเราเก่งเหมือนกันหมดเลย
00:11:10 → 00:11:15 เนี่ยมันก็แปลกมันก็มันก็จะแค่แบบว่าโลก
00:11:15 → 00:11:17 เราก็คงไม่ได้ไปก้าวไกลไปอันนั้นก็กลาย
00:11:17 → 00:11:20 เป็นหุ่นยนต์ไปแล้วเหมือนกันหมดเลยเหมือน
00:11:20 → 00:11:23 กันหมดถ้าหลายๆคนมารวมๆกันมันก็สรรสร้าง
00:11:23 → 00:11:25 อะไรขึ้นมาได้เหมือนกัน
00:11:25 → 00:11:30 เพราะฉะนั้นตรงเนี้ยเอ่อหาให้ได้แม้แต่
00:11:30 → 00:11:34 ตอนนี้นะคะเอ่ออายุเยอะๆแล้วก็ตามเนี่ยจะ
00:11:34 → 00:11:36 นิภาก็เคยลองดูเพราะว่าหลายท่านเนี่ยนะคะ
00:11:36 → 00:11:40 อย่างเช่นเอ่อท่านที่เก่งเรื่องปฏิมากรรม
00:11:40 → 00:11:43 เคยได้ยินไหมคะที่ดินซอยอย่างเงี้ยท่านมา
00:11:43 → 00:11:46 เรียนประติมากรรมเอาหลังอายุ 60 และนะคะ
00:11:46 → 00:11:48 อาจารย์นิภาก็มีความรู้สึกว่าเอ๊ะเราก็มา
00:11:48 → 00:11:51 หาว่าเรายังพัฒนาอะไรได้บ้างนะหลังที่เรา
00:11:51 → 00:11:55 เราโตๆแล้วเนี่ยนะคะเลยมาพัฒนาเรื่องทำ
00:11:55 → 00:11:55 อาหาร
00:11:55 → 00:11:58 [เสียงหัวเราะ]
00:11:58 → 00:12:02 นะคะจากจากสิ่งที่ต่ำกว่า 0 นะคะทำไม่
00:12:02 → 00:12:04 เป็นโอ้เดี๋ยวนี้ทำได้หลายเมนูแล้วค่ะทำ
00:12:04 → 00:12:07 อาหารใส่บาตรได้แล้วนะคะอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:12:07 → 00:12:10 คะก็มาเรียนรู้ก็สนุกดีนะคะแล้วก็เริ่ม
00:12:10 → 00:12:12 รู้ว่าเออเราเก่งเรื่องนั้นเรื่องนี้ตอน
00:12:12 → 00:12:14 นี้กำลังถูกยกย่องว่าเป็นคนที่ทำน้ำผลไม้
00:12:14 → 00:12:17 เก่งมาก
00:12:17 → 00:12:20 ไม่ธรรมดาจริงๆก็ก็คิดเหมือนอาจารย์ค่ะ
00:12:20 → 00:12:23 ว่าโอเคตอนนี้เราก็อายุพอสมควรแล้วนะคะ
00:12:23 → 00:12:26 แล้วก็รู้สึกว่าบางอย่างเนี่ยพอเราไม่ได้
00:12:26 → 00:12:28 ไม่ได้ใช้งานเหมือนที่อาจารย์บอกตอนแรก
00:12:28 → 00:12:30 เลยอ่ะเราอาจจะเคยมีทักษะการเรียนรู้มา
00:12:30 → 00:12:34 แต่พอเราไม่ได้ใช้งานปุ๊บมันจางหายไปค่ะ
00:12:34 → 00:12:37 ตอนนี้ก็อยากจะกลับมารีรันในความรู้อัน
00:12:37 → 00:12:41 นั้นใหม่เหมือนกันแต่แบบยังไม่มีเวลา
00:12:41 → 00:12:44 ได้เลยค่ะเพราะว่าตอนนี้มันโดนงานประจำนะ
00:12:44 → 00:12:47 งานประจำในหน้าที่เนี่ยมันกลบหมดเหมือน
00:12:47 → 00:12:49 งานเหมือนๆตอนที่เจนนิภารับราชการเนี่ย
00:12:49 → 00:12:53 เข้าใจเลยนะคะทุกวันเนี่ยทำแต่งานใช้คำ
00:12:53 → 00:12:56 ว่างานรูทีนนะงานประจำไม่มีหัวที่จะมา
00:12:56 → 00:12:58 creative อะไรเลยเพราะฉะนั้นถึงได้บอก
00:12:58 → 00:13:01 ว่าพอถึงจุดที่เกษียณอายุปั๊บไม่ยอมต่อ
00:13:01 → 00:13:04 อายุราชการเด็ดขาดเพราะอยากจะมาทำงานที่
00:13:04 → 00:13:07 เราชอบบ้างและงานที่เราไม่ใช่ทำตามหน้า
00:13:07 → 00:13:10 ที่และนะฮะเพราะว่าตอนที่ทำตามหน้าที่มัน
00:13:10 → 00:13:12 ต้องแก้ปัญหาเรื่องคนเรื่องของเรื่องอะไร
00:13:12 → 00:13:15 อย่างเงี้ยนะคะทุกวันแต่ตอนนี้เราทำงาน
00:13:15 → 00:13:18 ที่เราสร้างสรรค์ได้และนะฮะอยากจะเขียน
00:13:18 → 00:13:21 หนังสืออยากจะทำงานศิลปะอยากจะทำอะไรแม้
00:13:21 → 00:13:24 จะเรียนทำกับข้าว
00:13:24 → 00:13:27 มันก็ทำให้ชีวิตเรามีความสุขแล้วก็มาค้น
00:13:27 → 00:13:29 พบว่าไอ้สิ่งที่เราทำไม่ได้แม้แต่หุงข้าว
00:13:29 → 00:13:34 หม้อไฟฟ้าเดี๋ยวนี้เรา expert แล้วนะเรา
00:13:34 → 00:13:36 ไม่ต้องเอานิ้วเข้าไปแหย่ไปดูว่าระดับน้ำ
00:13:36 → 00:13:40 ขนาดนี้เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วนะคะนี่ล่า
00:13:40 → 00:13:46 สุดไปเรียนรู้วิธีทอดดักแด้หนอนไหมจากแม่
00:13:46 → 00:13:50 ค้าที่เขาขายนะคะคือวันก่อนได้ไปเที่ยว
00:13:50 → 00:13:53 ต่างจังหวัดแล้วได้ดักแด้มาเนี่ยที่เขา
00:13:53 → 00:13:56 ยังไม่ได้ปรุงอ่ะนะคะแล้วก็เอ๊ะเค้าให้มา
00:13:56 → 00:13:59 แล้วเราจะทำอะไรทำไม่เป็นนะฮะแต่รับ
00:13:59 → 00:14:01 ประทานแต่รับประทานอยู่นะคะแล้วตัวมัน
00:14:01 → 00:14:05 อ้วนมากเลยค่ะหน้ารับประทานมากเลยตัวอ้วน
00:14:05 → 00:14:08 ขนาดนิ้วโป้งนะคะเขาให้มา 2 ถุงก็เลยไป
00:14:08 → 00:14:11 ถามพ่อค้าแม่ค้าที่เขาขายดักแด้ทอดเนี่ย
00:14:11 → 00:14:13 ต้องมีวิธีถามว่าเขาทำยังไงไปเรียนรู้
00:14:13 → 00:14:17 เพราะเราลองมาทำอู้เจ๋งใช้ได้
00:14:18 → 00:14:20 อะไรเหมือนเหมือนทำขายเลย
00:14:20 → 00:14:24 สะอาดด้วยนะน้ำมันแล้วก็ไม่มีการใช้น้ำ
00:14:24 → 00:14:27 มันเก่าเด็ดขาดอะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:14:27 → 00:14:31 โอ้โหก็แต่จริงๆอันเนี้ยคือพอมันเป็นคำ
00:14:31 → 00:14:33 ถามขึ้นมาเราจำเป็นมั้ยจะต้องเก่งแต่ว่า
00:14:33 → 00:14:36 มันยังหาไม่เจอหรือว่าเราต้องมีวิธีการ
00:14:36 → 00:14:41 หรืออะไรยังไงไหมคะที่จะแบบเออถ้าๆถ้าเรา
00:14:41 → 00:14:46 หานะคะว่าเราเราเอางี้ก่อนดีกว่าถ้าเรา
00:14:46 → 00:14:49 อยากจะพัฒนาสิ่งที่เราดีอยู่แล้วนะคะอยาก
00:14:49 → 00:14:52 ให้หลักสัก 3 ข้อสั้นๆก่อนนะคะแล้วเดี๋ยว
00:14:52 → 00:14:54 เราค่อยไปพูดกันถึงว่าเราจะก้าวไปเป็นคน
00:14:54 → 00:14:57 เก่งนะเราจะทำยังไงสมมุติเราเริ่มรู้แล้ว
00:14:57 → 00:15:00 ว่าเราจะเราทำอะไรได้ดีนะคะ
00:15:00 → 00:15:03 แล้วก็มีหลัก 3 ข้อที่เขาให้ไว้ก็คือบอก
00:15:03 → 00:15:06 ว่าคนเราเนี่ยจะเจ๋งที่สุดนะคะเราก็จะ
00:15:06 → 00:15:08 ต้องได้พัฒนาสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้วให้ดี
00:15:08 → 00:15:11 ขึ้นดีขึ้นดีขึ้นหมายความว่าเราโฟกัสแค่
00:15:11 → 00:15:15 สิ่งที่เราเก่งอยู่แล้วนะคะประเด็นที่ 2
00:15:15 → 00:15:17 ก็คือว่าถ้าสิ่งที่เราไม่ถนัดเนี่ยบาง
00:15:17 → 00:15:19 ครั้งเราก็ทิ้งไม่ได้เหมือนกับที่บอกว่า
00:15:19 → 00:15:22 เราเก่ง 1 วิชาแต่อีก 9 วิชาเนี่ยมันต้อง
00:15:22 → 00:15:25 ผ่านด้วยมันถึงจะสอบผ่านเนี่ยนะคะเพราะ
00:15:25 → 00:15:28 มันเป็นวิชาภาคบังคับหรืออะไรกันเนี่ยเรา
00:15:28 → 00:15:30 ก็อย่าทิ้งมันค่ะเอาเรียนรู้พอให้มันผ่าน
00:15:30 → 00:15:33 ไปให้ได้นะคะเดี๋ยวไม่ต้องไปตกทุกข์ร้อน
00:15:33 → 00:15:35 กับมันเพราะมันไม่ได้เป็นตัวที่จะทำให้
00:15:35 → 00:15:38 คุณไปสู่อาชีพหรอกนะคะอาชีพจริงๆมันคือ
00:15:38 → 00:15:41 สิ่งที่คุณเก่งนั่นแหละนะคะแล้วก็ประเด็น
00:15:41 → 00:15:44 ที่ 3 ก็คือเมื่อคุณอยู่ตัวแล้วเนี่ยนะฮะ
00:15:44 → 00:15:47 หมายความว่าผ่านแล้วนะเรียนไอ้ภาคบังคับ
00:15:47 → 00:15:49 อะไรทั้งหลายที่เขาต้องให้เราได้จบปริญญา
00:15:49 → 00:15:51 ตรีอะไรก็แล้วแต่มันผ่านแล้วแหละนะฮะ
00:15:51 → 00:15:55 เมื่อเรารู้ตัวและเราอยู่ตัวและเราเก่ง
00:15:55 → 00:15:57 และในเรื่องนั้นเราพัฒนาในข้อ 1 ที่บอกนะ
00:15:57 → 00:16:00 คะโฟกัสในสิ่งที่เราเก่งเนี่ยเราต้องถ่าย
00:16:00 → 00:16:04 ทอดค่ะให้ผู้อื่นทำได้และเอาเวลาที่เหลือ
00:16:04 → 00:16:07 เนี่ยไปทำสิ่งที่คุณถนัดและทำได้ดีที่สุด
00:16:07 → 00:16:11 นึกออกไหมคะเอออย่างนี้เพราะฉะนั้นอันนี้
00:16:11 → 00:16:14 มันก็จะทำให้เราสามารถที่จะเก่งเขาบอกว่า
00:16:14 → 00:16:19 เราจะเก่งไปได้ดีมากเลยนะคะค่ะคำว่าเก่ง
00:16:19 → 00:16:21 นี้เลยกลายเป็นว่ากำลังมองตามอาจารย์บอก
00:16:21 → 00:16:24 เลยว่าการที่เราจะต้องถ่ายทอดความความ
00:16:24 → 00:16:26 เก่งความสามารถของเราให้กับคนอื่นด้วย
00:16:26 → 00:16:29 เนี่ยคือบางคนก็อาจจะมีความเก่งอยู่กับ
00:16:29 → 00:16:31 เขาไม่ได้มีโอกาสใช่ค่ะมันต้องมีโอกาส
00:16:31 → 00:16:34 ด้วยค่ะอาจารย์ที่จะได้แสดงความสามารถตัว
00:16:34 → 00:16:37 เองออกมาแต่คำว่าเก่งเนี่ยเราคงไม่ได้บอก
00:16:37 → 00:16:38 ตัวเองค่ะอาจารย์อาจจะต้องเป็นคนอื่นบอก
00:16:39 → 00:16:40 หรือเปล่าหรือว่าเราต้องเราบอกตัวเองได้
00:16:40 → 00:16:43 ว่าเอ้ยฉันก็เก่งนะอะไรอย่างงี้มันก็ได้
00:16:43 → 00:16:45 ทั้ง 2 อย่างอ่ะนะคะคือคนอื่นเขาก็สะท้อน
00:16:45 → 00:16:48 กลับมาใช่ไหมว่าเออถ้าเราทำได้ดีนะเราทำ
00:16:48 → 00:16:50 ได้นะเพราะว่าบางคนเนี่ยจะมีความรู้สึก
00:16:51 → 00:16:53 ว่าฉันยังไม่เห็นรู้สึกว่ามันดีเลยอ่ะ
00:16:53 → 00:16:56 ทำไมคนอื่นชมฉันจังเลยว่ามันดีนะฮะหลายคน
00:16:56 → 00:16:58 ก็รู้สึกอย่างนั้นก็ขอให้ฟังคนอื่นบ้าง
00:16:58 → 00:17:01 เขาบอกกระจกมี 6 ด้านนะคะเราต้องฟังคน
00:17:01 → 00:17:03 อื่นเข้า feedback บางที่เนี่ยโดยเฉพาะ
00:17:03 → 00:17:06 พวกศิลปินทั้งหลายไม่ค่อยจะพอใจงานของตัว
00:17:06 → 00:17:08 เองเท่าไหร่ทำเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่ามัน
00:17:08 → 00:17:11 ไม่ยังไม่ดีพอสักทีนึงอ่ะทั้งที่แบบว่า
00:17:11 → 00:17:13 โอ้โหคนอื่นเขาก็ชื่นชมกันใหญ่เลยเพราะ
00:17:13 → 00:17:16 ฉะนั้นเราก็น่าจะบอกตัวเองได้บ้างว่าเอ้อ
00:17:16 → 00:17:19 มันก็มันก็ใช้ได้นะในระดับนึงแต่มันอาจจะ
00:17:19 → 00:17:21 ยังไม่ดีที่สุดในใจเราเพราะบางทีตั้งเป้า
00:17:21 → 00:17:24 หมายไว้สูงกว่านั้นนะคะแต่ก็ให้ยอมรับฟัง
00:17:24 → 00:17:27 เสียงสะท้อนจากคนอื่นนะคะเพราะว่างานโดย
00:17:27 → 00:17:31 เฉพาะทางด้านศิลปะเนี่ยมันมันคนมันมุมมอง
00:17:31 → 00:17:34 ต่างกันน่ะเอายกตัวอย่างใช่ไหมคะในช่วง
00:17:34 → 00:17:38 ที่ทรงแบดอ่ะกำลังดัง
00:17:38 → 00:17:42 จนแบบว่านะคะแต่เพลงเค้าน่ารักก็อยู่ๆมัน
00:17:42 → 00:17:45 ก็ดังขึ้นมาอืมใช่ไหมคะทั้งๆที่มันออกมา
00:17:45 → 00:17:48 ตั้งนานแล้วแต่มาณจุดนึงมันกลายเป็นจุด
00:17:48 → 00:17:51 ฮิตขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยทั้งเล่นเพลง
00:17:51 → 00:17:55 ออกมาใหม่ๆก็งั้นๆแหละแต่กลับมาโดนใจวัย
00:17:55 → 00:17:58 น้ำนมวัยรุ่นฟันนั้นลง
00:17:58 → 00:18:01 อะไรอย่างนี้นะคะเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้
00:18:01 → 00:18:03 มันก็ต้องฟัง feedback กลับมาว่าทำไมมัน
00:18:03 → 00:18:07 ถึงได้ได้ถูกใจทำไมมันถึงได้ไปสะกิดตรง
00:18:07 → 00:18:08 นั้นตรงนี้เพราะฉะนั้นในโลกโซเชียลในขณะ
00:18:08 → 00:18:12 นี้มันดังได้ในข้ามคืนน่ะมันไม่รู้ว่าไป
00:18:12 → 00:18:14 โดนต่อมอะไรของใครเข้าอ่ะแล้วเขาก็ถูกใจ
00:18:14 → 00:18:17 เขาก็โยนกันต่อๆมันก็กลายเป็นฮิตขึ้นมา
00:18:17 → 00:18:20 ได้เหมือนกันนะฮะแต่ว่าเก่งนี่ก็ต้องต้อง
00:18:20 → 00:18:23 เป็นคนดีด้วยนะไม่ใช่เก่งจนแบบพอพูดถึงคน
00:18:24 → 00:18:28 ดีมาเลยนะคะก็อยากจะบอกว่ามี 9 คุณสมบัติ
00:18:28 → 00:18:31 นะฮะที่จะทำให้เราก้าวไปสู่การเป็นคนเก่ง
00:18:31 → 00:18:34 ที่ดีและมีความสุขได้อย่างแรกคุณสมบัติ
00:18:34 → 00:18:37 เลยหรอคะถ้าถ้าอยากจะฟอร์มตัวเองเนาะบาง
00:18:37 → 00:18:42 คนอาจจะมีแล้ว 8 ข้อก็ได้ค่ะไปข้อเดียว
00:18:42 → 00:18:44 นะคะอย่างแรกเลยเนี่ยควรจะต้องเป็นคนที่
00:18:44 → 00:18:48 ใฝ่รู้ค่ะเป็นประเภทหนอนหนังสือหรือชอบ
00:18:48 → 00:18:51 ฟังชอบอ่านชอบอะไรอย่างนี้มากๆคือฝ่ายรู้
00:18:51 → 00:18:56 นะคะอันที่ 2 คืออยู่ใกล้คนเก่งเข้าไว้นะ
00:18:56 → 00:18:58 ฮะชีวิตเราเนี่ยจะเป็นยังไงเนี่ยบางทีมัน
00:18:58 → 00:19:00 ขึ้นอยู่กับหนังสือที่เราอ่านบ้านที่เรา
00:19:00 → 00:19:03 อยู่ผู้คนที่เรารู้จักนะคะเพราะฉะนั้น
00:19:03 → 00:19:06 เนี่ยควรจะหาเขาเรียกว่าอะไรฮะตัวอย่าง
00:19:06 → 00:19:09 หรือโมเดลหรือแบบอย่างนะครับเปิดใจที่จะ
00:19:09 → 00:19:13 เรียนรู้ชีวิตผู้คนนะฮะศึกษาเรียนรู้จาก
00:19:13 → 00:19:18 เขานะคะหากว่าเป็นคนในบ้านเดียวกันเนี่ย
00:19:18 → 00:19:49 อาจจะเรียน
00:19:49 → 00:19:52 อันที่ 3 ก็คือตั้งเป้าหมายค่ะพยายามค้น
00:19:52 → 00:19:55 หาว่าสิ่งที่เราต้องตามเนี่ยคืออะไรนะคะ
00:19:55 → 00:19:59 แล้วสิ่งที่เราทำได้คืออะไรนะคือเรา
00:19:59 → 00:20:02 ต้องการอะไรแล้วเราทำได้แค่ไหนเพราะบางคน
00:20:02 → 00:20:04 เนี่ยมันจะขัดแย้งกันตรงที่ว่าเราชอบอ่ะ
00:20:04 → 00:20:07 เราอยากอ่ะแต่เราทำไม่ได้อ่ะนึกออกมั้ยคะ
00:20:07 → 00:20:10 เด็กบางคนอยากเรียนแพทย์มากเลยแต่ปรากฏ
00:20:10 → 00:20:13 ว่าไม่เก่งทางวิทยาศาสตร์เลยไม่มีความ
00:20:13 → 00:20:15 ถนัดทางวิทยาศาสตร์เลยมันก็ไปไม่ได้นะฮะ
00:20:15 → 00:20:18 เพราะฉะนั้นตรงเนี้ยตั้งเป้าหมายแล้วหา
00:20:18 → 00:20:21 ให้เจอนะคะตั้งจุดประสงค์หรือ Go เอาไว้
00:20:21 → 00:20:24 เลยว่าเราต้องเก่งในเรื่องนี้นะแล้วเดิน
00:20:24 → 00:20:27 ตามเป้าหมายอย่างเคร่งครัดนะคะนั่นก็คือ
00:20:27 → 00:20:30 ต้องตั้งใจจริงประการที่ 4 ค่ะต้องมุ่ง
00:20:30 → 00:20:35 มั่นอดทนและไม่ยอมแพ้นะคะความเก่งไม่ใช่
00:20:35 → 00:20:39 พรสวรรค์เสมอไปนะคะมันต้องพอจะแหวงด้วยนะ
00:20:39 → 00:20:42 คะเพราะฉะนั้นคนเก่งระดับโลกเนี่ยถามเถอะ
00:20:42 → 00:20:45 ค่ะว่าทำไมเขาเก่งเพราะเขาฝึกฝนฝึกฝนฝึก
00:20:45 → 00:20:49 ฝนฝึกฝนและฝึกฝนค่ะนะคะโดยที่มีอุปเข้ามา
00:20:49 → 00:20:52 มากมายเนี่ยแต่เราก็ไม่ล้มเลิกล้มไม่รู้
00:20:52 → 00:20:55 กี่ครั้งก็ลุกขึ้นมาใหม่นะคะที่จะทำไปได้
00:20:55 → 00:20:58 เรื่อยๆนั้นคือมุ่งมั่นอดทนไม่ยอมแพ้นะคะ
00:20:58 → 00:21:01 แล้วเราต้องทุ่มเทนะคะเพราะเราต้องตั้ง
00:21:01 → 00:21:03 เอาไว้เลยว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี
00:21:03 → 00:21:07 เราต้องลงทุนด้วยความตั้งใจมานะบากบั่นนะ
00:21:07 → 00:22:02 ฮะต้องแลกค่ะนะคะ
00:22:02 → 00:22:04 เป็นเรื่องที่ยากลำบาก
00:22:04 → 00:22:07 แต่ถ้าเรายึดที่คุณธรรม
00:22:07 → 00:22:10 มันจะตัดสินใจง่ายขึ้นถูกไหมคะเพราะมันมี
00:22:10 → 00:22:12 หลายเรื่องที่มันจะทำให้เราไขว้เขวได้
00:22:12 → 00:22:15 ง่ายๆนะคะ
00:22:15 → 00:22:18 ถ้าประสบกับตัวเองอย่างเช่นคนที่เก่งมวย
00:22:18 → 00:22:23 เงี้ยแล้วแล้วมาถูกล่อด้วยการล้มมวยนึก
00:22:24 → 00:22:25 ออกไหมคะโดยเอาข้าวของเงินทองเข้ามาเนี่ย
00:22:25 → 00:22:28 มันเสียอนาคตมาเยอะแล้วค่ะเพราะไม่มี
00:22:28 → 00:22:31 คุณธรรมในเรื่องของใช้ความเก่งแต่ต้องมี
00:22:31 → 00:22:34 คุณธรรมอย่างนี้เข้ามาจับนะคะก็ทำให้
00:22:34 → 00:22:36 ชีวิตพังไปอันนี้ยกตัวอย่างเท่านั้นนะคะ
00:22:36 → 00:22:40 ค่ะมาอันที่ 7 ค่ะคนเราต้องมีทักษะพื้น
00:22:40 → 00:22:43 ฐานก่อนที่จะเป็นคนเก่งทักษะพื้นฐานใน
00:22:43 → 00:22:46 ปัจจุบันนะคะยุคนี้ก็มี 5 ข้อค่ะโอ้โหอัน
00:22:46 → 00:22:50 ที่ 1 ก็คือต้องทำอาหารได้เพราะอะไรคะไป
00:22:50 → 00:22:53 ไหนไม่อดตายแล้วค่ะถ้าทำอาหารได้ไหมตอน
00:22:53 → 00:22:55 นี้อาจารย์วิภามีข้อดีแล้วรอดแล้วนะคะรอด
00:22:55 → 00:22:59 แล้วอันที่ 2 ต้องเก่งดนตรีบ้างไม่ต้อง
00:22:59 → 00:23:01 ถึงกับเป็น expert เขาบอกว่าเป็นเพราะ
00:23:01 → 00:23:04 อะไรไหมคะไปไหนก็ตามค่ะเปิดหมวกเล่นดนตรี
00:23:04 → 00:23:07 มีคนเอาตังค์มาให้ค่ะนะคะมันจะช่วยหากิน
00:23:07 → 00:23:10 ได้แล้วก็แก้เครียดได้ด้วยในกรณีที่เรา
00:23:10 → 00:23:14 อยาก relax นะคะอันที่ 3 อันนี้เป็นวิจัย
00:23:14 → 00:23:16 ของปัจจุบันนะคะเพราะฉะนั้นอย่ามาห้าม
00:23:16 → 00:23:19 เถียงนะห้ามเถียงนะเราไม่เถียงกันนะเรา
00:23:19 → 00:23:22 เอาผลเข้ามานะอันที่ 3 ต้องเก่งในเรื่อง
00:23:22 → 00:23:24 ของการติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ
00:23:24 → 00:23:26 เพราะภาษาอังกฤษมันเป็นภาษาที่ใช้กันมาก
00:23:26 → 00:23:29 ที่สุดในโลกนะคะถ้ารู้ภาษาอังกฤษได้อย่าง
00:23:30 → 00:23:32 นึงเนี่ยมันก็สามารถจะเดินทางไปได้ครึ่ง
00:23:32 → 00:23:37 โลกละนะคะและสุดท้ายค่ะต้องเก่งไอที
00:23:37 → 00:23:41 ตรงนี้จะวิภายังชดใช้ไม่ได้อยู่นะ
00:23:41 → 00:23:44 คะเป็นน้องโบว์โลเทคอยู่นะคะน้องโบราณที่
00:23:44 → 00:23:46 lotex อยู่ก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่แต่ก็พอ
00:23:46 → 00:23:51 พอไปได้ก่ำๆแก้มๆนะคะอันนี้คือถ้ามีทักษะ
00:23:51 → 00:23:52 พื้นฐานทั้ง 4 อย่างนี้ก็จะทำให้เรา
00:23:52 → 00:23:55 สามารถพัฒนาการเป็นคนเก่งไปได้เยอะที
00:23:55 → 00:23:58 เดียวนะคะประการที่ 8 ค่ะเขาบอกว่าอย่า
00:23:58 → 00:24:02 กลัวงานยากหรืองานที่ไม่เคยทำนะคะเพราะ
00:24:02 → 00:24:06 ว่างานที่ที่หรืองานยากประเทศจีนพอบอกว่า
00:24:06 → 00:24:10 ทำไม่มีทางเป็นไปได้ยากมากเลยอยากไปเสีย
00:24:10 → 00:24:13 ใจหรืออย่าไปท้อแท้ค่ะเขาบอกว่า
00:24:13 → 00:24:17 ความสามารถที่ปราศจากโอกาสในคือการสูญ
00:24:17 → 00:24:19 เปล่าเพราะฉะนั้นให้มองว่าอันนี้เป็นคำ
00:24:19 → 00:24:21 พูดของ napole เรียนเชียวนะคะนะฮะเพราะ
00:24:21 → 00:24:24 ฉะนั้นเขาจึงบอกว่าอย่าไปกลัวงานยากแต่
00:24:24 → 00:24:27 ให้มองว่างานยากนะคือความท้าทายที่จะทำ
00:24:27 → 00:24:29 ให้เราเติบโตขึ้นอุปสรรคทั้งหลายคือการ
00:24:29 → 00:24:33 เรียนรู้ที่จะทำให้เราเก่งขึ้นนะคะตรงนี้
00:24:33 → 00:24:35 อาจารย์วิภาได้กับตัวเองแล้วบอกได้เลยว่า
00:24:35 → 00:24:39 สมัยที่เริ่มทำงานใหม่ๆนะคะพอเจ้านายรับ
00:24:39 → 00:24:42 งานมาเราก็จะมาเอาอีกแล้วนะฮะมีความรู้
00:24:42 → 00:24:46 สึกว่าทำอะไรยากๆอีกแล้วอะไรเงี้ยแต่พอ
00:24:46 → 00:24:49 ตอนนี้นะคะเห็นเห็นประโยชน์ที่ท่านทำแบบ
00:24:49 → 00:24:52 นั้นแล้วโยนงานยากๆมาให้เรานะคะเพราะมัน
00:24:52 → 00:24:54 ทำให้เราโตเร็วมากแล้วก็ทำให้เราเรียนรู้
00:24:54 → 00:24:57 อะไรได้มากทีเดียวนะคะจากไอ้เรื่องยากๆ
00:24:57 → 00:25:00 พวกนั้นน่ะอืมนะคะทั้งๆที่ตอนนั้นเคืองนะ
00:25:00 → 00:25:02 ฮะเวลาเจ้านาย
00:25:02 → 00:25:06 รับงานยากๆมาโยนให้เราเนี่ยนะคะแล้วก็
00:25:06 → 00:25:09 ประการสุดท้ายนะคะก็คือบอกว่าต้องสร้าง
00:25:09 → 00:25:11 เครือข่ายเพื่อเลือกแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะ
00:25:11 → 00:25:14 คะในโลกที่ไร้พรมแดนในปัจจุบันถึงได้บอก
00:25:14 → 00:25:16 นะคะว่าถ้าเรามีพื้นฐานคืออินเทอร์เน็ต
00:25:16 → 00:25:18 เก่งๆเนี่ยเราสามารถจะหาข้อมูลแลกเปลี่ยน
00:25:18 → 00:25:21 เรียนรู้กันได้มากมายทีเดียวนะคะเพื่อแลก
00:25:21 → 00:25:24 เปลี่ยนระหว่างกันแล้วก็ถ่ายทอดจุดเด่น
00:25:24 → 00:25:29 ถ่ายทอดจุดอ่อนเรียนรู้นะคะเสริมเติมซึ่ง
00:25:29 → 00:25:32 กันและกันได้นะคะยิ่งถ่ายทอดยิ่งเก่งให้
00:25:32 → 00:25:34 คิดอย่างนี้เพราะฉะนั้นเธอถึงได้เน้น
00:25:34 → 00:25:36 เรื่องการถ่ายทอดไงคะว่าเราเก่งอย่าเก่ง
00:25:36 → 00:25:40 คนเดียวต้องสอนคนอื่นด้วยนะฮะแล้วก็มันจะ
00:25:40 → 00:25:42 เป็นเส้นทางที่ทำให้เราเก่งขึ้นเก่งขึ้น
00:25:42 → 00:25:45 เก่งขึ้นอย่ามองว่าหวงวิชาไว้อย่างสมัย
00:25:45 → 00:25:48 ก่อนเนี่ยนะใครรู้วิชาว่าต้องตายไปกับตัว
00:25:48 → 00:25:51 ฉันไม่สอนใครเป็นความคิดที่ผิดนะคะเอ้อนะ
00:25:51 → 00:25:54 คะเรายิ่งๆเรียนเรายิ่งให้เรายิ่งได้นะคะ
00:25:54 → 00:25:57 เราจะเรียนรู้และถ่ายทอดกันไปมาอย่างนี้
00:25:57 → 00:26:02 เป็นต้นนะคะอ๋อฟังแล้วคุณสมบัติไม่
00:26:02 → 00:26:04 มี
00:26:04 → 00:26:06 แต่ไม่เป็นไรก็
00:26:06 → 00:26:08 ทุกคนมีความเก่งเป็นของตัวเองอยู่แล้วนะ
00:26:08 → 00:26:12 คะก็พยายามสรรสร้างหรือว่าหาจุดที่เหมาะ
00:26:12 → 00:26:14 สมสำหรับตัวเองละกันเนาะแต่ขอเตือนนิดนึง
00:26:14 → 00:26:17 ถ้าอยากให้เก่งในทางที่ดีนะคะท่านผู้ฟัง
00:26:17 → 00:26:19 อย่าเก่งในทางที่ไม่ดีนะคะ
00:26:19 → 00:26:23 ฝากไว้อันนี้จริงค่ะอาจารย์วันนี้ขอบคุณ
00:26:23 → 00:26:25 อาจารย์ด้วยค่ะที่มาร่วมพูดคุยกับเราใน
00:26:25 → 00:26:28 วันนี้ด้วยนะคะขอบคุณค่ะอาจารย์ค่ะยินดี
00:26:28 → 00:26:30 ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณ
00:26:30 → 00:26:32 ผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอ
00:26:32 → 00:26:35 นะคะขอบคุณที่ติดตามรับฟังสวัสดีค่ะ This
00:26:35 → 00:26:37 Is Choice
00:26:37 → 00:26:40 ขี้ลืมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
00:26:40 → 00:26:43 แต่จะลืมมากหรือน้อยย่อมมีปัจจัยที่แตก
00:26:43 → 00:26:46 ต่างกันอะไรทำให้ขี้ลืมแพทย์หญิงกิตติยา
00:26:46 → 00:26:49 ศรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์มา
00:26:49 → 00:26:50 เล่าให้ฟังครับ
00:26:50 → 00:26:53 ถ้าเรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกัน
00:26:53 → 00:26:56 หลายๆวันเลยนะนะหรือว่าบางคนนอนน้อยไม่
00:26:56 → 00:26:59 ได้พอตามที่ร่างกายต้องการนะฮะอาจจะทำให้
00:26:59 → 00:27:03 หลงๆลืมๆได้นะเพราะว่าการนอนน้อยเนี่ยจะ
00:27:03 → 00:27:06 ทำทำให้สมองทำงานหนักต่อเนื่องและเกิด
00:27:06 → 00:27:10 ความเหนื่อยล้าสะสมส่งผลให้เราเนี่ยไม่มี
00:27:10 → 00:27:14 สมาธิแล้วก็เกิดอาการขี้ลืมได้ถ้าเกิดนอน
00:27:14 → 00:27:16 หลับไม่ไม่ต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน
00:27:16 → 00:27:19 เนี่ยต้องพบแพทย์แล้วนะต้องปรึกษาปัญหา
00:27:19 → 00:27:21 ด้านการนอนหลับต่อไปไม่ออกกำลังก็คือผล
00:27:21 → 00:27:23 ทางอ้อมให้ร่างกายไม่ค่อยได้รับออกซิเจน
00:27:23 → 00:27:26 สมองก็จะได้รับออกซิเจนน้อยไปตามด้วยทำ
00:27:26 → 00:27:29 หลายอย่างในเวลาเดียวกันค่ะซึ่งบางคนเขา
00:27:29 → 00:27:32 มีพรสวรรค์เขาทำได้หลายๆอย่างพร้อมกัน
00:27:32 → 00:27:35 เนี่ยจริงๆบางคนมีพรสวรรค์จริงๆแต่จะเอา
00:27:35 → 00:27:37 อย่างเขาไงอ่ะทำไมอ่ะทำหลายๆอย่างพร้อม
00:27:37 → 00:27:41 กันน่ะไม่ต้องทำทีละอย่างบางคนต้องทำทีละ
00:27:41 → 00:27:41 อย่าง
00:27:41 → 00:27:45 ต้องจดจ่ออะไรแค่อย่างเดียวสภาวะเครียด
00:27:45 → 00:27:49 สมองทำงานหนักนะทั้งความเครียดความกังวล
00:27:49 → 00:27:53 เนี่ยก็จะส่งผลต่อความทรงจำนะเมื่อตกอยู่
00:27:53 → 00:27:56 ในสภาพเนี้ยสมองจะหลั่งสาร
00:27:56 → 00:28:01 สื่อประสาทมากกว่าปกติทั้งคืนไม่มีผลทำ
00:28:01 → 00:28:03 ให้เกิดปัญหาด้านความจำค่ะแล้วก็ทำให้
00:28:03 → 00:28:06 เกิดอาการนอนไม่หลับโรคซึมเศร้าก็เหมือน
00:28:06 → 00:28:09 กันอาการขี้หลงขี้ลืมเนี่ยจะเกิดขึ้นใน
00:28:09 → 00:28:12 ผู้ป่วยโรคซึมเศร้านะคะเนื่องจากไม่
00:28:12 → 00:28:15 สามารถจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว
00:28:15 → 00:28:18 ก็มีความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่มีผล
00:28:18 → 00:28:28 ต่อความจำความคิด
00:28:28 → 00:28:31 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:28:31 → 00:28:35 ของไทยพีแดช็อตคลาส spotify soundcloud
00:28:35 → 00:28:37 Google podcast Apple podcast และ
00:28:37 → 00:28:40 YouTube Channel ThaiPBS portcut
00:28:40 → 00:28:45 ท้าย PBS beautiful
00:28:45 → 00:28:51 [เพลง]