00:00:00 → 00:00:04 ชีวิตนึงอ่ะเราจะสามารถรักผู้ชายที่สุด
00:00:04 → 00:00:06 ได้ 1 คนพ่อเอาตำแหน่งนั้นไปแล้วผมสามารถ
00:00:06 → 00:00:09 รักผู้หญิงได้ 2 คนแม่เอาตนั้นไปแล้ว
00:00:09 → 00:00:12 ฉะนั้นเนี่ยมันจะเหลืออีกที่นั่งเดียว
00:00:12 → 00:00:15 เท่านั้นมันเป็นบรรยากาศความรักที่นักเลง
00:00:15 → 00:00:18 มากเลยนะคำว่าเอาไม่อยู่ของว่าเนี่ยที่
00:00:18 → 00:00:21 ผ่านมามันเป็นยังไงคือผมอ่ะโทษนู่นโทษนี่
00:00:21 → 00:00:24 โทษวันเวลาสถานที่อะไรต่างๆไว้เยอะไปหมด
00:00:24 → 00:00:26 เลยครับผมก็เลยกลับมาคิดว่าหรือเป็น
00:00:26 → 00:00:30 ที่ตัวเราเองคนเดียวถ้วนๆว่ะที่เราอ่ะ
00:00:30 → 00:00:33 เรายังไม่เจอแกนกลางของมันฟังดูเหมือนกับ
00:00:33 → 00:00:37 ว่าโทษไปทุกอย่างแล้วตอนนี้เหลืออย่าง
00:00:37 → 00:00:42 เดียวโทษตัวเองใช่เราเป็นนักคิดที่ให้คุณ
00:00:42 → 00:00:47 ค่ากับความรู้สึกครับแล้วเนี่ยคือปัญหา
00:00:47 → 00:00:49 อ้าวมันควรจะเป็นข้อดีไม่ใช่เหรอครับนัก
00:00:49 → 00:00:52 คิดที่ให้คุณค่ากับความรู้สึกมันควรจะ
00:00:52 → 00:00:54 เป็นข้อดีและพรสวรรค์ไม่ใช่เหรอฮะกลาย
00:00:54 → 00:00:57 เป็นปัญหาเพราะเราคิดว่ารักไม่ได้ไง
00:00:57 → 00:01:05 ว้าวเราอืแต่เราต้องรู้สึกว่ารัก
00:01:05 → 00:01:10 จูนใจพcสประสบการณ์การจูนใจที่ทำให้เรา
00:01:10 → 00:01:14 ได้พบความสุขคนดูเออคุณกำลังดูและคุณ
00:01:14 → 00:01:17 กำลังฟังจูนใจพcส.นะครับรายการที่ยอด
00:01:17 → 00:01:21 เยี่ยมที่สุดที่พิธีกรหลักนะครับไม่เคย
00:01:21 → 00:01:23 เข้ารายการเองและเธอนั่งอยู่ข้างหลังผม
00:01:23 → 00:01:27 คุณหมอเอิ้ลพีดาครับโอ้
00:01:27 → 00:01:30 นี่ป้าปรบมือเพร้อมทำงานอยู่แล้วป้าปรบ
00:01:30 → 00:01:32 มือดีขอบคุณมากครับยินดีครับเสร็จแล้ว
00:01:32 → 00:01:37 เหรอครับหมออะไรหลายทีแล้วนะเออหลายที
00:01:37 → 00:01:41 แล้วนะจริงๆแล้วอ่ะครับเอ่อพcสนี้เนี่ย
00:01:41 → 00:01:44 เกิดพวาสนเลยครับดีใจครับดีใจครับเพราะ
00:01:44 → 00:01:47 ว่ามันเหมือนแบบอารมณ์ประมาณคนจะคลอดแล้ว
00:01:47 → 00:01:50 แล้วเด็กยังไม่กลับหัวซะทีอ่ะยังยังเอ้ย
00:01:50 → 00:01:53 ทำจะเอ้ยว่านพี่ต้องทำไงดีต้องมีเพลงเข้า
00:01:53 → 00:01:55 ก่อนมั้ยต้องแบบไม่รู้เลยพี่พี่ทำไปเหอะ
00:01:55 → 00:01:58 คนอื่นเขาก็ทำไปแล้วอ่ะมันไม่เหมือนกัน
00:01:58 → 00:02:01 หรอกก็ทำเอาตามที่พี่ชอบถ้างั้นเนี่ยเล่า
00:02:02 → 00:02:05 ให้แบบเราทบทวนกันนิดนึงได้มยว่ามันหมาย
00:02:05 → 00:02:08 ยังไงผมไม่แน่ใจว่าเนื้อหามันจะเป็นยังไง
00:02:08 → 00:02:11 ผมก็ไม่ค่อยรู้แต่ว่าถ้าชื่อแบบเนี้ยมัน
00:02:11 → 00:02:14 เท่ดีนะมันดูแบบเหมือนเป็นช่างซ่อมหัวใจ
00:02:14 → 00:02:17 อ่ะแบบมาเอารถมาเอาใจมาจูนอะไรอย่างเงี้ย
00:02:17 → 00:02:21 เออเหมือนถ้าแอปเปิ้ลก็ไอจูนอ่าอ่าแต่นี้
00:02:21 → 00:02:24 ก็เอิ้ลจูนเออเอิ้นจูนเออใช่ครับจริงๆพี่
00:02:24 → 00:02:27 เอิ้นรู้สึกเซอร์ไพรส์มากในวันนั้นน่ะที่
00:02:27 → 00:02:31 เราเจอกันครับคุณคุณเจอกันที่ไหนเราเจอ
00:02:31 → 00:02:35 กันที่โรงพยาบาลเออซึ่งฉันก็งงมากว่าคุณ
00:02:35 → 00:02:38 จะไปหาฉันทำไมที่โรงพยาบาลอันเนี้ทุกคนก็
00:02:38 → 00:02:40 จะไม่ทราบเรื่องนี้นะครับคือผมไม่ได้บอก
00:02:40 → 00:02:43 ใครอยู่แล้วคือปกติผมกับพี่เอิ้ลเนี่ย
00:02:43 → 00:02:46 ด้วยความสัมพันธ์อันดีต่อกันเนี่ยผมจะทัก
00:02:46 → 00:02:49 ไปจะโทรไปเมื่อไหร่ผมก็เชื่อว่าพี่อ่ะยิน
00:02:49 → 00:02:51 ดีรับสายอยู่แหละเพื่อจะปรึกษาอะไรบาง
00:02:51 → 00:02:53 อย่างบางเรื่องที่เราไม่สบายใจเพราะว่า
00:02:53 → 00:02:56 พี่พร้อมดูแลความรู้สึกของคนอื่นมากมายคน
00:02:56 → 00:02:59 ไข้มากมายเงี้แต่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนใช้
00:02:59 → 00:03:02 อำนาจในทางที่ผิดไปนิดหน่อยอนั่นน่ะเรา
00:03:02 → 00:03:04 ใช้โควต้าคนสนิทเพื่อปรึกษาเรื่องที่เรา
00:03:04 → 00:03:06 ไม่สบายใจอย่างเงี้ยมันอาจจะไม่ถูกก็ไป
00:03:06 → 00:03:09 ตามขั้นตอนเอกสารดีกว่าโทรนัดหมายกับโรง
00:03:09 → 00:03:12 พยาบาลไปเองอยากให้มันเจอกันในที่ที่มัน
00:03:13 → 00:03:14 จะได้คุยเรื่องนี้เท่า
00:03:14 → 00:03:18 อืใช่ครับแล้วก็ผมก็เลยเป็นครั้งแรกใน
00:03:18 → 00:03:21 ชีวิตผมที่ได้เข้าไปในแผนกเอ่อเค้าเรียก
00:03:21 → 00:03:25 ว่าจิตเอ่อ Mind Center Mind Center
00:03:25 → 00:03:27 อ่ะเรียกเรียกให้ซอบซ Mind Center ก็
00:03:27 → 00:03:30 อารมณ์ประมาณจิตแพทย์จิตเวทอารมณ์ประมาณ
00:03:30 → 00:03:33 เนี้ยเออๆเอาตัวเองเข้าไปเลยไปแบบครั้ง
00:03:33 → 00:03:36 แรกในชีวิตเลยแล้วก็นัดหมายคุณหมอที่เรา
00:03:36 → 00:03:38 สบายใจที่สุดหมอเอิ้ล
00:03:38 → 00:03:42 พีดาก็ทำเอกสารลงทะเบียนนู่นี่ตามปกติเลย
00:03:42 → 00:03:46 ไม่มีใครรู้เลยอ่าเปิดเข้าไปคนฟังคนดู
00:03:46 → 00:03:48 เอ้ยประสบการณ์แรกของแบบความประทับใจแรก
00:03:48 → 00:03:52 ของการที่เราเข้าไปในแผนกจิตเวชอ่ะหมอมอง
00:03:52 → 00:03:55 หน้าเราด้วยความแบบเหมือนมีไมตรียิ้มมุม
00:03:55 → 00:04:00 ปากเอ้าเธอมาทำอะไรที่เนี่ยอ้าก็มาหาหมอ
00:04:00 → 00:04:04 ไงทำไมอ่ะคนอย่างี้ต้องหาเหรออ้าวนี่คือ
00:04:04 → 00:04:07 ความประทับใจแรกของผมเลยแบบสุดท้ายก็ไม่
00:04:07 → 00:04:09 มีก็นั่งนั่งคุยกันอ่ะมันมีอะไรมันมีอะไร
00:04:09 → 00:04:13 ถึงขั้นที่ต้องแบบต้องมาที่นี่เอ่อเรา
00:04:13 → 00:04:15 อยากจะเข้าใจตัวเองแล้วไปหาพี่เอิ้นในวัน
00:04:15 → 00:04:16 นั้นเนี่ยอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเรื่อง
00:04:16 → 00:04:19 แปลกของฉันคือเธอเจอฉันเมื่อไหร่ก็ได้เธอ
00:04:19 → 00:04:23 เจอฉันที่ไหนก็ได้
00:04:23 → 00:04:26 แต่คิวพี่เอิ้ลยังคิดว่าตัวเองอ่ะอ่านเวท
00:04:26 → 00:04:29 ระเบียนผิดอยู่เลยนะใช่ถ้าผมเจอพี่เอิ้ล
00:04:29 → 00:04:32 ข้างนอกร้านกาแฟหรือใดๆก็ตามเมันก็จะอาจ
00:04:32 → 00:04:35 จะเป็นวันที่เราจำว่าเราเจอกันในรูปแบบ
00:04:35 → 00:04:38 ปกติอ่าแต่วันนั้นน่ะมันทำให้ผมรู้สึกว่า
00:04:38 → 00:04:41 อ่ะโอเคบางอย่างเราก็ต้องลองลองเข้าไปใน
00:04:41 → 00:04:43 โซนที่เราไม่เข้าเข้าใจบ้างเข้าไปในพื้น
00:04:44 → 00:04:46 ที่ที่เราไม่แน่ใจว่าที่นั่นเขาทำอะไรกัน
00:04:46 → 00:04:48 แต่เรารู้สึกว่ามันอาจจะเกี่ยวกับสิ่งที่
00:04:48 → 00:04:51 เรารู้สึกอยู่อืในตอนนั้นนะครับก็เลยไป
00:04:51 → 00:04:55 เจอพี่ที่นั่นอืฮะแล้วจำได้ว่าประสบการณ์
00:04:55 → 00:05:00 ในวันนั้นเนี่ยมันก็คือเอ่อบางทีพี่เอิ้ล
00:05:00 → 00:05:04 ก็อาจจะไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากการที่ชวน
00:05:04 → 00:05:09 ว่านคิดครับชวนว่านรู้สึกใช่ครับแล้วก็ทบ
00:05:09 → 00:05:14 ทวนแล้วก็สุดท้ายเราก็เ่อเจอย้ายที่วางใจ
00:05:14 → 00:05:17 ไอ้คำว่าจูนใจมันก็เลยผุดขึ้นมานะเป็นการ
00:05:17 → 00:05:19 คุยกันไปเรื่อยๆอ่ะแล้วผมก็ไม่รู้ว่าไม่
00:05:19 → 00:05:21 แน่ใจว่าคำว่าจูนใจมันเกิดขึ้นช่วงไหนของ
00:05:21 → 00:05:25 บทสนทนาอือแต่ผมจำคำนั้นได้อือครับผมเออ
00:05:25 → 00:05:27 พี่เอาใช้นี่แหละชื่อนี้แหละโคตรเท่เลยดี
00:05:27 → 00:05:30 แล้วอันนี้ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้กำเนิด
00:05:30 → 00:05:35 ครับเหรอครับเอาเรียกว่าร่วมให้กำเนิด
00:05:35 → 00:05:38 ร่วมให้กำเนิดเออฟังดูเสียวเหมือนกันนะ
00:05:38 → 00:05:42 ประมาทร่วมเออประมาทร่วมให้กำเนิดครับ
00:05:42 → 00:05:46 แล้วก็มาเทปของตัวเองเลยอยากจะมาจูน
00:05:46 → 00:05:48 เรื่องอะไรเอาจริงนะพี่ตอนที่พี่โทรมาหา
00:05:48 → 00:05:52 ผมอ่ะโทรมารีเสิร์ชข้อมูลเ่ะนี่คือรายการ
00:05:52 → 00:05:55 ที่รีเสิร์ชข้อมูลยาวที่สุดในรอบ 20 ปี
00:05:55 → 00:05:57 การทำงานของผมนะคือพี่เอิ้นน่ะรู้จักผมมา
00:05:57 → 00:06:00 นานเรื่องชีวิตส่วนตัวผมอ่ะมันไม่ได้มี
00:06:00 → 00:06:04 อะไรคือผมไม่ชอบความเสี่ยงอยู่แหละผมแบบ
00:06:04 → 00:06:06 รู้สึกว่าอยู่มันแบบปกติอ่ะอยู่ให้ให้มัน
00:06:07 → 00:06:09 มีความหวาดเสียวน้อยสุดอ่ะมันจะทำให้ทุก
00:06:09 → 00:06:12 อย่างมันมันเรียบง่ายปล่อยปลอดภัยยั่งยืน
00:06:12 → 00:06:15 สำหรับผมนะเรื่องส่วนตัวเรื่องครอบครัว
00:06:15 → 00:06:17 ที่บ้านการดูแลนู่นนี่พี่ก็จะเห็นมาเป็น
00:06:17 → 00:06:20 ระยะอยู่แล้วว่าก็เป็นไปตามสเต็ปของมันอื
00:06:20 → 00:06:23 ใช่ครับเรื่องเดียวที่ทำให้ผมอ่ะต้องเดิน
00:06:23 → 00:06:26 เข้าไปที่ห้องนั้นกับพี่อ่ะแล้วผมรู้สึก
00:06:26 → 00:06:29 ว่าโหคนเดียวไม่รอดแน่ดูแล้วดูแล้ว
00:06:29 → 00:06:31 ปล่อยทรงไปอย่างเงี้ยก็คือเรื่องความรัก
00:06:31 → 00:06:34 เอาว่าจริงๆคนรู้จักทั้งหมดไม่มีใครรู้
00:06:34 → 00:06:40 เลยนะว่าหรอวะพี่พี่ว่าพี่พี่ไปหาหมออ๋อ
00:06:40 → 00:06:42 ด้วยเรื่องนี้เหรอก็น่าจะเป็นเรื่องเดียว
00:06:42 → 00:06:47 ที่ผมแบบคิดว่าคิดเองไม่รอดอืแล้วก็ต้อง
00:06:47 → 00:06:52 ขอบคุณมากๆเลยที่ไว้วางใจครับเอ่อตอนที่
00:06:52 → 00:06:56 เราคุยกันเนี่ยว่านเคยบอกพี่เอิ้นว่าจะ
00:06:56 → 00:06:59 ไม่อยากที่จะพูดในเรื่องของความรักใช่
00:06:59 → 00:07:02 ครับโดยเฉพาะในที่สาธารณะใช่ครับเพราะเรา
00:07:02 → 00:07:05 เคยมีประสบการณ์ที่มันไม่โอเคมาก่อนแต่
00:07:05 → 00:07:07 ว่าวันนี้เนี่ยเรารู้อยู่แล้วนะว่ามันอาจ
00:07:07 → 00:07:11 จะมีคนอื่นที่นอกจากเรา 2 คนได้ฟังแต่ว่า
00:07:11 → 00:07:13 ก็เลือกที่จะคุยเรื่องนี้งั้นวันนี้เรา
00:07:13 → 00:07:17 คุยถึงเรื่องความรักที่ที่เอาไม่อยู่กัน
00:07:17 → 00:07:20 แล้วกันนะอันนี้เห็นเห็นด้วยเลยว่าจริงๆ
00:07:20 → 00:07:23 อ่ะชีวิตเราแบบทุกอย่างมันดูราบรื่นไปหมด
00:07:24 → 00:07:28 แต่ว่าอาจจะมีareเรียareเรียนี้แหละที่
00:07:28 → 00:07:30 รู้สึกว่า
00:07:30 → 00:07:36 เอ๊มันไปไม่สุดทางซะทีผมเคยเข้าใจตัวเอง
00:07:36 → 00:07:41 ว่าเรื่องการคุยกับกับแพทย์ในเรื่องในแง่
00:07:41 → 00:07:44 ของจิตใจเนี่ยเป็นเรื่องท้ายๆที่ผมจะทำใน
00:07:44 → 00:07:46 ชีวิตเลยด้วยซ้ำหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นใน
00:07:46 → 00:07:49 ชีวิตรอบนี้ของผมเลยด้วยซ้ำอือแต่ว่าโอเค
00:07:49 → 00:07:51 เราได้ค้นพบบางอย่างแล้วว่ามันต้อง
00:07:51 → 00:07:54 คุยแล้วล่ะถ้าจะมีหัวข้อใดในรายการที่
00:07:54 → 00:07:56 เป็นรายการสุดพิเศษที่พิธีกรเป็นคนที่ผม
00:07:56 → 00:07:59 ไว้วางใจเดินเข้าไปวันนั้นน่ะวันนี้ก็
00:07:59 → 00:08:02 เช่นกันเอาเรื่องที่ผมอพยายามจะปิดพยายาม
00:08:02 → 00:08:04 จะซ่อนมันไว้ที่สุดอาจจะเป็นหนึ่งเรื่อง
00:08:04 → 00:08:07 ที่ทำให้ผมรู้สึกอ่อนแอแล้วเปราะบางที่
00:08:07 → 00:08:11 สุดแล้วกันมาคุยวันนี้ซะเลยอคำว่าเอาไม่
00:08:11 → 00:08:14 อยู่ของว่าเนี่ยที่ผ่านมามันเป็นยังไง
00:08:14 → 00:08:17 แพทเทิร์นที่เราจับได้ในทุกครั้งที่มี
00:08:17 → 00:08:19 ความรักเอาจริงๆผมไม่ชัวร์นะครับไม่ไม่
00:08:19 → 00:08:21 ค่อยชัวร์เท่าไหร่แต่ว่าทุกครั้งที่เราจะ
00:08:21 → 00:08:23 เริ่มต้นอะไรบางอย่างมันก็มันก็เหมือนจะ
00:08:23 → 00:08:28 ดีไปหมดแหละอือช่วงช่วงดันกราฟขึ้นไปต่าง
00:08:28 → 00:08:31 คนต่างแบบสดชื่นดูแลหัวใจกันไปในช่วงแรก
00:08:31 → 00:08:33 ในช่วงทำความรู้จักเนี่ยก็เหมือนจะดี
00:08:33 → 00:08:38 แล้วเราก็จะเห็นภาพลางๆของงานสีขาวที่มัน
00:08:38 → 00:08:41 วุ่นวายไปหมดว่าเอ้ยมันต้องไปถึงตรงนั้น
00:08:41 → 00:08:44 ได้แน่ๆแล้วก็ไม่น่ามีอะไรนะระหว่างพวก
00:08:44 → 00:08:47 เรา 2 คนที่มันจะแบบที่มันจะทำให้มันเป็น
00:08:47 → 00:08:50 ไปไม่ได้เริ่มต้นน่ะมันก็เหมือนจะเราจะ
00:08:50 → 00:08:52 เห็นความเป็นไปได้เต็มไปหมดเลยอ่ะแล้วก็
00:08:52 → 00:08:54 อย่าทำให้มันดีที่สุดเลยอแล้วก็โอเค
00:08:54 → 00:08:57 ระหว่างทางมันก็อาจจะมีเรื่องราวเกิดขึ้น
00:08:57 → 00:08:59 อ่ะมีอุบัติเหตุทางความรู้สึกนู่นนี่เกิด
00:08:59 → 00:09:03 ขึ้นว่ามันจะเรื่องนี้รบกวนจิตใจ
00:09:03 → 00:09:06 เหลือเกินแต่ว่าผมเคยใช้วิธีการโทษช่วง
00:09:07 → 00:09:10 ชีวิตและวันเวลานะว่าอืเฮ้ยวันนั้นเราเรา
00:09:10 → 00:09:12 เด็กเกินไปป่าวะที่เราจะเข้าใจมันใช้วิธี
00:09:12 → 00:09:15 นี้อยู่แบบหลายครั้งเหมือนกันเออจริงๆมัน
00:09:15 → 00:09:18 ก็แค่เรายังเด็กน้อยเกินไปอ่ะเราเลยดูแล
00:09:18 → 00:09:22 ไม่ไหวอ่ะอ่าแต่พอโตขึ้นมาปุ๊บอ้าวก็ยัง
00:09:22 → 00:09:26 ไม่ไหวนี่หว่าผ่านไป 10 ปีปุ๊บเอ้าบางที
00:09:26 → 00:09:27 เรื่องเป็นเรื่องเดิมๆด้วยซ้ำอ่ะครับ
00:09:27 → 00:09:32 เรื่องแบบเราไม่ชอบในบางอารมณ์ของของการ
00:09:32 → 00:09:36 มีชีวิตคู่อ่ะแบบความไม่ได้หยั่งใจอะไร
00:09:36 → 00:09:38 แบบนี้มั้งครับไม่แน่ไม่แน่ใจนะพี่เอิ้น
00:09:38 → 00:09:40 คือผมเองก็ไม่แน่ใจแต่บางวันน่ะมันจะเป็น
00:09:40 → 00:09:43 วันที่ไม่ได้มีอะไรเลยไม่ได้ไม่ได้ทะเลาะ
00:09:43 → 00:09:46 กันด้วยซ้ำไม่ได้เจอไม่ได้ทะเลาะไม่ได้มี
00:09:46 → 00:09:49 อะไรอืแต่วันนั้นน่ะอาจจะเป็นวันที่เรา
00:09:49 → 00:09:52 นั่งอยู่แล้วแบบมันไม่เป็นเป้าเลยว่ะแล้ว
00:09:52 → 00:09:54 ยังไงดีน้ามันจะยังไงดีนะอ่ะหรือมีเวลา
00:09:54 → 00:09:57 อยู่กับตัวเองมากไปหน่อยแล้วมันก็เลยคิด
00:09:57 → 00:10:00 มากอ่ะครับอืคิดเอาเองว่า
00:10:00 → 00:10:04 แบบมันจะรอดยังไงวะมันมันเรียกว่าอยู่ๆ
00:10:04 → 00:10:07 มันก็มีความคาดหวังอืครับได้มั้ยอ่ะจาก
00:10:07 → 00:10:09 จากประโยคเมื่อแถวๆเมื่อกี้ที่ผมบอกว่าพอ
00:10:09 → 00:10:13 เราเริ่มต้นเราเริ่มเห็นภาพในวันข้างหน้า
00:10:13 → 00:10:16 ที่แบบวาดฝันกันเอาไว้ว่าแบบมันไป
00:10:16 → 00:10:19 ถึงแน่จะใช้เวลากี่ปีเหอะกูไปถึงแน่
00:10:19 → 00:10:22 ไม่ซับซ้อนเลยความรักไม่ซับซ้อนอยู่แล้ว
00:10:22 → 00:10:26 อือโธ่ 2 คนถ้วนๆเดินไปด้วยกันอืถึงแน่
00:10:26 → 00:10:30 งานนั้นน่ะถึงอยู่แล้วสบายสักพักทาง
00:10:30 → 00:10:33 ยืดออกไปยืดออกไปแล้วงานไกล
00:10:34 → 00:10:36 ไกลจนไม่เห็นแล้วอ่ะเห็นเป็นจุดๆแล้วมัน
00:10:36 → 00:10:39 ก็หายไปเลยแบบเงี้ยในบางวันที่เรายังไม่
00:10:39 → 00:10:41 ได้เลิกกันด้วยซ้ำอ่ะแต่ว่าหันไปดูปุ๊บ
00:10:41 → 00:10:44 อ้าวเฮ้ยงานหายไปแล้วอ่ะคือผมอ่ะโทษนู่น
00:10:44 → 00:10:47 โทษนี่โทษวันเวลาสถานที่อะไรต่างๆไว้เยอะ
00:10:47 → 00:10:49 ไปหมดเลยครับแต่จริงๆแะผมก็เลยกลับมาคิด
00:10:49 → 00:10:52 ว่าหรือเป็นที่ตัวเราเองคนเดียวถ้วนๆ
00:10:52 → 00:10:57 ว่ะที่เราอ่ะเรายังไม่เจอแกนกลางของมัน
00:10:57 → 00:11:01 ฟังดูเหมือนกับว่าโทษไปทุกอย่างแล้วตอน
00:11:01 → 00:11:04 นี้เหลืออย่างเดียวโทษตัวเองใช่ครับหรือ
00:11:04 → 00:11:05 ว่าถ้า
00:11:05 → 00:11:08 แก้ให้ถูกจุดอ่ะไฝมีเม็ดเดียวมึงจี้
00:11:08 → 00:11:11 ให้โดนน่ะแล้วก็จบแล้วหรือเปล่าอะไรเงี้ย
00:11:11 → 00:11:16 เอออืใช่ครับคือเท่าที่เรารู้จักกันมาพี่
00:11:16 → 00:11:19 เอิ้ลเห็นว่าหรือมุมมองมาตลอดเนี่ยจริงๆ
00:11:19 → 00:11:21 แล้วความรักเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
00:11:21 → 00:11:24 มากๆในชีวิตครับรวมทั้งปลายทางของความรัก
00:11:24 → 00:11:29 ด้วยมุมมองที่ว่ามันน่าจะง่ายสุดท้ายถ้า
00:11:29 → 00:11:32 ตอนนี้นะมันง่ายจริงป่ะมันไม่ซับซ้อนจริง
00:11:32 → 00:11:35 มั้ยคิดว่ามันเป็นความซับซ้อนที่ที่พวก
00:11:35 → 00:11:38 เราพยายามเข้าใจมันนะไม่งั้นไม่งั้นโล่
00:11:38 → 00:11:42 มันรันแบบอ่าด้วยคนคนที่มีคู่เต็มไปหมด
00:11:42 → 00:11:44 เลยเอองั้นพี่เอิ้นคิดว่าจูนที่ 1 อ่ะนะ
00:11:44 → 00:11:48 ครับก็คือต้องจูนใหม่
00:11:48 → 00:11:51 ว่ารักที่ว่าง่ายอ่ะมันอาจจะไม่ง่ายหรอก
00:11:51 → 00:11:55 โอ้ยมันไม่น่ามีอะไรซับซ้อนอืแค่ตัวเราก็
00:11:55 → 00:11:57 ซับซ้อนแล้วล่ะบางคนแค่รักตัวเองยังรัก
00:11:57 → 00:12:02 ไม่เป็นเลยครับใช่มั้ยคะก็คือการมองว่า
00:12:02 → 00:12:05 ความรักเนี่ยมันเป็นเรื่องง่ายไม่ยุ่งยาก
00:12:05 → 00:12:09 ไม่ซับซ้อนเนี่ยความพิเศษที่สุดอ่ะมันคือ
00:12:09 → 00:12:13 การที่ว่านได้ตระหนักแล้วว่าเวลามันเกิด
00:12:13 → 00:12:18 ปัญหามันไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลครับหรือ
00:12:18 → 00:12:21 ว่าการโทษนู่นโทษนี่อะไรอย่างเงี้ยสุด
00:12:21 → 00:12:24 ท้ายมันย้อนกลับมาถึงจุดพีคที่สุดของ
00:12:24 → 00:12:28 เรื่องราวนี้คือเอ้ยเราอยากที่จะรู้จัก
00:12:28 → 00:12:32 ตัวเองมากขึ้นรู้จักที่มาที่ไปของตัวเอง
00:12:32 → 00:12:35 ครับเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหานี้ด้วย
00:12:35 → 00:12:38 ด้วยตัวเราเองอ่าอันนี้พี่เอิ้นว่ามัน
00:12:38 → 00:12:42 พิเศษมากในการคุยกันของเราวันเนี้ยมันเลย
00:12:42 → 00:12:45 จะเราจะไม่ได้ไปแตะต้องอะไรชีวิตคนอื่น
00:12:45 → 00:12:48 เลยอ่ะครับอ่าจะชวน
00:12:48 → 00:12:51 มองใน
00:12:51 → 00:12:57 การเกิดเติบโตมาแล้วดำเนินชีวิตในแบบของ
00:12:57 → 00:13:00 เราสุดท้ายพี่อิว่าเราจะได้คำตอบเรื่อง
00:13:00 → 00:13:06 นี้เองอือืงั้นกลับมาที่คำถามว่าครับผม
00:13:06 → 00:13:09 เอ่อบ้านเติบโตมากับบรรยากาศความรักแบบ
00:13:09 → 00:13:12 ไหนเออที่บ้านนี่แหละมั้งที่มันทำให้ผม
00:13:12 → 00:13:15 แบบรู้สึกว่ามันมันเกิดคำว่าง่ายมาก่อน
00:13:15 → 00:13:18 มันไม่ได้มีความสะดวกสบายเลยด้วยซ้ำก็ผม
00:13:18 → 00:13:22 พอนึกออกว่ามันมีความแบบอบอุ่นแต่ลำบาก
00:13:22 → 00:13:24 ตลอดทางเลยอ่ะอ่ะเอาอาตีว่าเป็นอ่ะพ่อแม่
00:13:24 → 00:13:26 แล้วกันนะครับพ่อแม่ก่อนแล้วกันนะครับอาจ
00:13:26 → 00:13:31 จะเป็นคู่รักคู่แรกที่ผมเห็นอ่าฮะแล้ว
00:13:31 → 00:13:33 ระหว่างทางอ่ะเค้าเก็ไม่ได้มีอะไรที่มัน
00:13:33 → 00:13:37 จะทำให้ความรักเค้ารันแบบสะดวกสบายอะไร
00:13:37 → 00:13:40 ไม่ได้ไม่ได้ได้ทุกสิ่งที่ต้องการไม่ได้
00:13:40 → 00:13:43 ไปในที่ที่อยากไปอะไรแบบเนี้ยอ่ามันก็
00:13:43 → 00:13:47 อยู่ด้วยกันได้ดีนี่น่ะอ่าบางทีแบบอ๋อมัน
00:13:47 → 00:13:50 ก็ไม่ได้ต้องมีอะไรพิเศษเลยนี่น่ะมันก็
00:13:50 → 00:13:54 เป็นเรื่องออืปกติทุกวันของเขาเป็นเรื่อง
00:13:54 → 00:13:56 น่าเบื่อหน่ายที่เขารู้สึกว่าเขายินดีจะ
00:13:56 → 00:13:59 ทดเอาไว้ในหัวใจเค้าอ่ะมันก็แค่นั้นน่ะ
00:13:59 → 00:14:02 สำหรับที่ผมที่ผมโตมานะ
00:14:02 → 00:14:06 โคิดว่าโอเคถ้างั้นน่ะเราก็เราเองก็เป็น
00:14:06 → 00:14:09 ได้เปล่าว่ะแบบอะไรแบบเนี้ยคือหมายความ
00:14:09 → 00:14:12 ว่าอย่างความรักของคุณพ่อคุณแม่เนี่ยคือ
00:14:12 → 00:14:14 เขาค้าก็มีปัจจัยอะไรหลายๆอย่างที่ภายนอก
00:14:14 → 00:14:17 ที่เขาต้องใช้พลังงานต้องแก้ปัญหาครับ
00:14:17 → 00:14:22 ต้องเพื่อการดำรงอยู่เงี้ยแต่ว่าคือเค้า
00:14:22 → 00:14:24 ก็ยังอยู่ด้วยกันได้ใช่ครับในความ
00:14:24 → 00:14:27 สัมพันธ์เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรต่อกัน
00:14:27 → 00:14:31 ก็ไปด้วยหรือต่อให้เรียกร้องก็ผ่านมันไป
00:14:31 → 00:14:34 ได้ใช่ให้เรียกร้องก็ไม่มีก็ไม่มีให้ก็
00:14:34 → 00:14:37 เอาไงก็ก็ไปต่อไปต่อมั้ล่ะไปต่อก็มีเท่า
00:14:37 → 00:14:40 นั้นแหละเอออะไรเงี้ยครับก็ได้เท่าเดิมนะ
00:14:40 → 00:14:42 แต่ก็ไปด้วยกันมั้ล่ะเไปนี่ก็เห็นเไปกัน
00:14:42 → 00:14:45 นี่แล้วก็อีกอย่างนึงที่ผมเห็นมาก็คือว่า
00:14:45 → 00:14:48 ตราบใดที่มันไม่มีคนเพิ่มอ่ะมันมักจะเป็น
00:14:48 → 00:14:51 ไปได้เสมอออมันจะง่ายขึ้นเรื่อยๆเลยครับ
00:14:51 → 00:14:53 แบบก็เรื่องใหญ่สุดมันก็คือเรื่องคนเพิ่ม
00:14:53 → 00:14:57 อ่ะอ่าครับงั้นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่
00:14:57 → 00:15:00 ไปต่อไม่ได้ก็คือเรื่องการมีคนมาเพิ่ม
00:15:00 → 00:15:02 มื้อที่ 3 หรืออะไรก็ตามอะไรทำนองนั้น
00:15:02 → 00:15:05 ครับอืดังงั้นตัดจากเรื่องนี้ไปแล้วก็ไม่
00:15:05 → 00:15:09 น่ามีไปด้วยกันมั้ยล่ะครับแย่จะแย่เท่า
00:15:09 → 00:15:11 ที่ผมเห็นมานะเท่าที่ผมเห็นมาทั้งหมดมัน
00:15:11 → 00:15:13 เป็นบรรยากาศความรักที่นักเลลงมากเลยนะ
00:15:13 → 00:15:15 แมนๆเออเจอแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กเลยครับ
00:15:15 → 00:15:18 เห็นแบบนั้นแหละบางทีมันก็มีแบบปนยีวนนิด
00:15:18 → 00:15:24 หน่อยอ่าพ่อพรุ่งนี้วันอะไรพฤหัสบดไงอืม
00:15:24 → 00:15:27 อ่าเดือน 11 วันที่เท่านี้เท่านี้วันอะไร
00:15:27 → 00:15:30 อ๋อเฮ้อตีงอนอะไรเงี้ยอารมณ์
00:15:30 → 00:15:32 [เสียงหัวเราะ]
00:15:32 → 00:15:36 ครบรอบแต่งงาเดอ๋อก็พ่อก็จำได้แล้วว่าจะ
00:15:36 → 00:15:38 โอเคปีหน้าก็จะไม่พลาดแล้วเอ่ออารมณ์
00:15:38 → 00:15:40 ประมาณนี้คือมันแต่งงานมา 20-30 ปีมันก็
00:15:40 → 00:15:43 นานปีหน้ามาใหม่พ่อพวกนี้ว่าอะไรเพราะเรา
00:15:43 → 00:15:47 แต่งงานไงเหมือนจะใช่แต่ก็ในลีกของผู้
00:15:47 → 00:15:49 หญิงก็จะมาละเราแต่งกันมากี่
00:15:49 → 00:15:52 ปีโห
00:15:52 → 00:15:59 สะพึงเออ 31 มั้งเฮ้ย 32 ต่างหากล่ะนี่ผม
00:15:59 → 00:16:01 ก็ตีว่าอันโรแมนติกและที่ผมเห็นอันนี้สุด
00:16:01 → 00:16:05 และอันนี้สุดละสุดแล้วครับโอหสุดแล้วฮะ
00:16:05 → 00:16:08 ไม่ต้องกินข้าวไม่ต้องมีของขวัญไม่ต้อง
00:16:08 → 00:16:10 แค่จำได้ก็เซอร์ไพรส์จำได้นี่คือสุดยอด
00:16:10 → 00:16:13 แล้วจำได้นี่คือสุดยอดแล้วอันนี้คือ
00:16:13 → 00:16:16 บรรยากาศความรักครับที่เราเห็นแล้วเติบโต
00:16:16 → 00:16:20 มารอดได้ด้วยการก็คือแค่ซื่อสัตย์อ่ะถ้า
00:16:20 → 00:16:23 ฟังดูนะถ้านอกเหนือกว่านี้แล้วไม่ได้
00:16:24 → 00:16:26 จำเป็นอะไรนิยามของคำว่ารักของเราคืออะไร
00:16:26 → 00:16:29 คำถามยากมากๆเลยนะครับมันเป็นคำถามระดับ
00:16:29 → 00:16:32 จักรววานถ้ามุมมองผมในวันนี้นะในวันที่
00:16:32 → 00:16:36 กำลังจะ 40 ขวบอ่ะอือผมพอนึกออกนะว่าว่า
00:16:36 → 00:16:38 ความรักที่ผมรู้สึกกับมันไม่ใช่เรื่องนาม
00:16:38 → 00:16:41 มาทำสักเท่าไหร่อีกต่อไปแล้วครับมันเป็น
00:16:41 → 00:16:44 การตัดสินใจมันเป็นผู้คนจำนวนน้อยมาก
00:16:44 → 00:16:48 สมมุติว่าโลกเนี้ยหรือชีวิตนึงอ่ะอืเราจะ
00:16:48 → 00:16:52 สามารถรักผู้ชายที่สุดได้ 1 คนอือ่ะพ่อ
00:16:53 → 00:16:55 เอาตำแหน่งนั้นไปแล้วผมสามารถรักผู้หญิง
00:16:55 → 00:16:58 ได้ 2 คนแม่เอาตำแหน่งนั้นไปแล้ว 1 อื
00:16:58 → 00:17:01 ฉะนั้นเนี่ยมันจะเหลืออีกที่ที่นั่งเดียว
00:17:01 → 00:17:05 อือหือเท่านั้นถ้าตอบพี่เอิ้ลวันนี้ว่าผม
00:17:05 → 00:17:08 มองมันยังไงเนี่ยมันคือการตัดสินใจและผู้
00:17:08 → 00:17:12 คนจำนวนแค่เนี้ยผมมีหน้าที่แค่นั้นที่จะ
00:17:12 → 00:17:15 แบบรับเข้ามาเพิ่มในชีวิตได้แค่นั้นที่
00:17:15 → 00:17:18 เราจะไม่ใช่ให้เค้าเป็นทุกอย่างนะแล้วเรา
00:17:18 → 00:17:20 ก็ไม่ต้องเป็นทุกอย่างของเขาไม่มีใครเป็น
00:17:20 → 00:17:23 อะไรแบบนั้นได้หรอกอืแต่ว่าบนโลกที่
00:17:23 → 00:17:26 วุ่นวายไปหมดคน 3 คนเนี้ยมันมันคือความอบ
00:17:27 → 00:17:29 อุ่นยั่งยืนในหัวใจผมอ่ะ
00:17:29 → 00:17:32 มันมีแค่นั้นเลยมันมีแค่นั้นแล้วอ่ะที่
00:17:32 → 00:17:33 นั่งที่ยังไม่มีใครนั่งเนี่ยมันอาจจะไม่
00:17:34 → 00:17:36 มีก็ได้นะครับจนเราแกะเท่าจนตายไปซึ่งมัน
00:17:36 → 00:17:39 เป็นที่นั่งฟรีอยู่แล้วอ่ะเออนิยามของเรา
00:17:39 → 00:17:42 ก็คือพี่อว่าตอนนี้ความรักมันคือความอบ
00:17:42 → 00:17:45 อุ่นยั่งยืนความรู้สึกที่สำคัญนี้เนาะ
00:17:45 → 00:17:49 ครับรู้สึกอบอุ่นแล้วก็ยั่งยืนด้วยคือฟัง
00:17:49 → 00:17:52 ดูเหมือนกับว่าไม่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
00:17:52 → 00:17:56 เนี่ยคือ 3 ที่นั่งนี้ก็จะยังอยู่ที่ผ่าน
00:17:56 → 00:18:00 มาเราดูแลเอ้ยให้ความรู้สึกเพื่อให้เกิด
00:18:00 → 00:18:02 ความอบอุ่นยั่งยืนนี้ยังไงผมคิดว่ามัน
00:18:02 → 00:18:06 โอเคนะมันโอเคแล้วนะในในในที่ในระหว่าง
00:18:06 → 00:18:09 ทางที่ผ่านมาแต่ว่าพอมีเวลาทบทวนบางอย่าง
00:18:09 → 00:18:12 ปึ๊บเอาจริงๆผมยังไม่เคยทำแบบดีที่สุดแบบ
00:18:12 → 00:18:15 เต็มข้อของผมได้เลยอ่ะคือศักยภาพในการดู
00:18:15 → 00:18:18 แลผมทำได้มากกว่านั้นน่ะด้วยซ้ำแบบเรียบ
00:18:18 → 00:18:21 ง่ายนะแบบที่มันไม่ได้ดูโหแบบหวือหวาอะไร
00:18:21 → 00:18:23 ผมก็ไม่ได้มีอะไรให้เค้าขนาดนั้นแต่ว่าพอ
00:18:23 → 00:18:25 พอมันถึงเส้นที่แบบเอ้ยโอเคและแล้วผมก็
00:18:25 → 00:18:28 ปล่อยละไม่เคยไม่เคยดึงจนแบบทำให้มันเต็ม
00:18:28 → 00:18:30 พ่อกับผมไม่เคยเลยนะผมเองอ่ะมีความขัด
00:18:30 → 00:18:33 แย้งกับวิธีคิดของแบบว่าอ่าปริมาณเวลาที่
00:18:33 → 00:18:37 เจอกันไม่ได้สำคัญเท่าคุณภาพของการเจอกัน
00:18:37 → 00:18:40 แล้วใช้เวลาร่วมกันด้วยซ้ำอะไรผมว่าแบบ
00:18:40 → 00:18:43 จริงหรอวะเอ่อถ้าความถี่น้อยคุณภาพมันก็
00:18:43 → 00:18:47 ไม่ค่อยเกิดหรือความถี่เยอะแล้วก็ตีกัน
00:18:47 → 00:18:49 บ่อยครั้งก็ไม่เกิดอะไรอยู่ดีมั่วซั่วไป
00:18:49 → 00:18:53 หมดอะไรเงี้ยแต่เอาว่าผมอ่ะไม่เคยให้ทั้ง
00:18:53 → 00:18:56 เวลาและคุณภาพให้มันอยู่ในปริมาณที่เหมาะ
00:18:56 → 00:18:59 สมเลยด้วยซ้ำบางครั้งก็น้อยจนแบบคุณภาพ
00:18:59 → 00:19:01 ประมาณนี้ก็โอเคและก็เลยไม่ได้ทำให้มัน
00:19:01 → 00:19:04 ถึงขั้นว่าความดึงดูดในการอยู่ด้วยกันนะ
00:19:04 → 00:19:07 ครับมันบางทีมันมันกระชุ่มกระชวยได้นะ
00:19:07 → 00:19:09 ด้วยเรื่องด้วยเรื่องติ๊งต๊องนี่แหละด้วย
00:19:09 → 00:19:11 เรื่องแบบกินกาแฟสักถ้วยนึงในวันที่ไม่
00:19:11 → 00:19:13 ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอะไรเงี้ยอันนั้นน่ะ
00:19:13 → 00:19:15 เป็นโมเมนต์ที่ดีซึ่งผมขาดหายมากกับความ
00:19:15 → 00:19:18 เอาไม่อยู่ที่ผ่านมาเนี่ยมันยังเป็นความ
00:19:18 → 00:19:23 ค้างคาใจอยู่มยว่าเรายังทำมันไม่ดีพอไม่
00:19:23 → 00:19:26 ค้างครับไม่ค้างแต่ว่าถ้าให้ประมวลผลนะ
00:19:26 → 00:19:28 ครับผมก็จะตอบได้ว่าเออเอาจริงๆแล้วผมอาจ
00:19:28 → 00:19:32 จะยังไม่เคยทำมันอย่างสุดฝีมือแค่มันมี
00:19:32 → 00:19:33 ลูกค้าซื้ออยู่แล้วแน่ๆก็ทำประมาณนี้มัน
00:19:33 → 00:19:36 ก็ขายได้ก็โอเคแต่ว่าเราไม่ได้ฟันจริงๆ
00:19:36 → 00:19:41 อ่าฮะครับโอเคแล้วถ้าเกิดว่าธนกิจจะแสดง
00:19:41 → 00:19:46 ความรักกับใครสักคนครับการแสดงความรักของ
00:19:46 → 00:19:50 เราเราให้เพื่อให้เขารู้ว่าเรารักเค้า
00:19:50 → 00:19:53 เนี่ยโดยปกติเราแสดงออกยังไงครับผมชอบบอก
00:19:53 → 00:19:56 กล่าวนะชอบบอกกล่าวสมมุติว่าเป็นพาสปอร์ต
00:19:56 → 00:19:59 แห่งความแห่งความรู้สึกดีนั้นน่ะเออแล้ว
00:19:59 → 00:20:03 เราสตมป์ว่าเอ้ยเรารักกันนะเราอ่าผมแบบ
00:20:03 → 00:20:06 ขอบคุณมากที่ดีใจที่ได้เป็นแฟนกันนะ
00:20:06 → 00:20:11 ขอบคุณมากแบบอ่าก็คือการบอกคำพูดก็คือรู้
00:20:11 → 00:20:15 สึกแบบนั้นก็คือบอกครับบอกไปบอกไปที่ผ่าน
00:20:15 → 00:20:19 มาเนี่ยคนที่เรารักเ้าสัมผัสมันได้มั้ยผม
00:20:19 → 00:20:22 คิดว่าการบอกจะน้อยลง
00:20:22 → 00:20:25 เมื่อเราต่างสัมผัสมันไม่
00:20:25 → 00:20:29 ใช่คือไอเอาจริงๆนะพี่คือคุณหมอเอาจริงๆ
00:20:29 → 00:20:34 คำว่ารักหรือว่าถ้อยคำดีๆอ่ะครับส่วนมาก
00:20:34 → 00:20:37 มันจะลั่นเอาเองโดยเราไม่ต้องไม่ต้องไป
00:20:37 → 00:20:41 พยายามมันหรอกเออรักว่ะแบบก็แค่อยากบอกไป
00:20:41 → 00:20:44 อ่ะแต่ถ้ามันเริ่มไม่รู้สึกแบบนั้นหรือ
00:20:44 → 00:20:47 ว่าไม่แน่ใจว่าวันนี้มันยังไงนะเราก็จะ
00:20:47 → 00:20:50 ไม่ได้พยายามบอกว่าเอ้ยแสดงว่าจริงๆแล้ว
00:20:50 → 00:20:52 มันก็ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์เราเหมือนกัน
00:20:52 → 00:20:56 ครับถ้ามันน่ะมันจะเป็นประโยคแปลกๆ
00:20:56 → 00:20:59 เช่นรักคุณเหมือนเดิมนะแม้ว่ามันจะไม่
00:20:59 → 00:21:03 เหมือนสัปดาห์ก่อนนิดหน่อยสีมันเปลี่ยนไป
00:21:03 → 00:21:05 นิดหน่อยอะไรอย่างเงี้ยมันเริ่มแปลกแล้ว
00:21:05 → 00:21:07 แล้วแบบก็ถ้ายังไม่แน่ใจก็ไม่ต้องไม่ต้อง
00:21:07 → 00:21:10 ลั่นออกมาอ่าการแสดงออกของเราหรือการสื่อ
00:21:10 → 00:21:12 สารในคำว่าราวของเราเนี่ยส่วนใหญ่มันก็
00:21:12 → 00:21:15 ผ่านเรื่องของสัมผัสครับเรื่องของการที่
00:21:15 → 00:21:18 เราบอกเค้าตามความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น
00:21:18 → 00:21:22 ตอนนั้นครับเออแต่อีกอันนึงมันก็คือขึ้น
00:21:22 → 00:21:24 อยู่กับอารมณ์เราตอนนั้นเหมือนกันเนาะคือ
00:21:24 → 00:21:26 เป็นคนที่จะไม่ไม่ประดิษเพื่อความพึงพอใจ
00:21:26 → 00:21:29 อ่ะถ้าที่พี่เอิ้นรู้จักเรามานะถ้าเป็นคน
00:21:29 → 00:21:31 ปกติเลยนะอืบางทีไม่รู้สึกเราก็ไม่ได้พูด
00:21:32 → 00:21:34 ออกมาไม่ต้องถึงคำว่ารักกันหรอกครับบางที
00:21:34 → 00:21:38 จะวางสายก่อนนอนน่ะไม่ได้ยินคำว่าอกทบ๊าย
00:21:38 → 00:21:39 บายอ่ะเพราะว่าเขาก็ไม่ได้อยากพูดอะไร
00:21:40 → 00:21:42 ประมาณนี้นะเดาว่าบางคนก็โอโหวันนี้มันมี
00:21:42 → 00:21:44 เรื่องถกเถียงกันนิดหน่อยฉะนั้นน่ะต่างคน
00:21:44 → 00:21:47 ต่างไปฝันเถอะจะฝันอะไรก็ฝันไปที่ไม่ใช่
00:21:47 → 00:21:49 เรื่องกลูพอละเอออะไรประมาณเนี้ยครับซึ่ง
00:21:49 → 00:21:52 ผมว่าโอเคเดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ก็ก็ว่ากัน
00:21:52 → 00:21:57 ใหม่อือความไอ้จังหวะของการจะส่งความรัก
00:21:57 → 00:22:01 แล้วก็การอยากได้ความรักของเราครับแล้วคน
00:22:01 → 00:22:04 ที่เรารักมันไม่แมตชผมว่ามันคือความรู้
00:22:04 → 00:22:07 สึกร่วมอ่ะครับคือถ้าวันนั้นมันโอเคผมว่า
00:22:07 → 00:22:10 มันน่าจะรู้สึกคล้ายๆกันไม่ไม่หลุดโทนกัน
00:22:10 → 00:22:13 มากเท่าไหร่คนที่เรารักเ้ามีฟีดแบคยังไง
00:22:13 → 00:22:13 งอน
00:22:14 → 00:22:18 มั้ยน้อยใจโอ๊ะมีอยู่แล้วครับมีอยู่แล้ว
00:22:18 → 00:22:22 มีอยู่แล้วครับมีเป็นสรณะครับมีเป็นสรณะ
00:22:22 → 00:22:25 ครับพยายามแบบปรับตัวนะคือผมก็พยายามปรับ
00:22:25 → 00:22:27 ตัวนะบางทีถ้าเกิดเป็นตอนวัยหนุ่มอะไร
00:22:27 → 00:22:29 เงี้ยผมก็จะแบบไม่เข้าใจเลยอะไรเงี้ยอัน
00:22:29 → 00:22:31 นี้ก็แบบอ่าวัยหนุ่มไม่เข้าใจเลยในเมื่อ
00:22:31 → 00:22:36 เราตัดสินใจที่จะจะเอจะคบกันน่ะมันก็องอน
00:22:36 → 00:22:38 ก็บางทีถ้าเข้าใจเลยว่าเรื่องอะไรก็จะ
00:22:38 → 00:22:40 พยายามแก้ให้ถูกจุดใช้เวลาสั้นที่สุดใน
00:22:40 → 00:22:43 การคุยซะคุยซะอือ่าแล้วเราข้ามผ่านมันไป
00:22:44 → 00:22:46 ยังไงดีแต่ถ้าเรื่องไหนที่โดนงอนแล้วไม่
00:22:46 → 00:22:52 เข้าใจว่าหัวข้ออะไรวะซวยละก็ต้องมาย้อน
00:22:52 → 00:22:55 ดูว่ามีอะไรวะเมื่อกี้พูดอะไรไปวะไม่แน่
00:22:55 → 00:22:58 ใจอืหรือว่าไปไหนแล้วไม่ได้ไปด้วยหรือ
00:22:58 → 00:23:02 เปล่านะไม่น่ามีเรื่องอะไรวะแต่ก็บางทีก็
00:23:02 → 00:23:05 พยายามจะหาคำตอบให้เร็วที่สุดนะครับคือผม
00:23:05 → 00:23:08 ไม่ค่อยชอบอยู่อะไรที่มันขมุกขมัวนานเท่า
00:23:08 → 00:23:11 ไหร่อ่ะตรงเนี้ยพี่เอิ้ลว่าน่าสนใจแล้วก็
00:23:11 → 00:23:13 เป็นประเด็นสำคัญก็คือเราไม่ชอบอยู่กับ
00:23:13 → 00:23:16 ความรู้สึกที่มันขมุกขมัวเวลาที่มันเกิด
00:23:16 → 00:23:20 ความรู้สึกอึมครึมความรู้สึกขัดแย้งเราจะ
00:23:20 → 00:23:23 เป็นยังไงไม่มีใครชอบทะเลาะอยู่แต่
00:23:23 → 00:23:25 กลายเป็นเรื่องแบบที่ต้องเกิดขึ้นเสมอเลย
00:23:25 → 00:23:28 อะไรเงี้ยแต่ว่าอย่างที่บอกครับผมเองอ่ะ
00:23:28 → 00:23:31 มีวิธีการที่ไม่แน่ใจว่ามันถูกต้องหรือ
00:23:31 → 00:23:33 เปล่าครับแต่ว่าก็อย่างที่บอกว่าจะพยายาม
00:23:33 → 00:23:35 ใช้เวลาให้มันน้อยที่สุดไอ้กับบรรยากาศ
00:23:35 → 00:23:38 ที่มันคำแบบนั้นหรือไม่ก็บางทีที่เดาว่า
00:23:38 → 00:23:42 ไม่ค่อยเวิร์คแต่ว่าก็พอใช้งานได้คือกด
00:23:42 → 00:23:45 SCP แอไปเลยเช่นมันนี้มันจบวันแล้ววัน
00:23:45 → 00:23:47 นี้เราพอแค่นี้แล้วล่ะแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้
00:23:47 → 00:23:50 ว่ากันใหม่เนาะวันเนี้ยคุยกันต่อก็ไม่ได้
00:23:50 → 00:23:52 ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้แล้วล่ะเราลองแบบใบ
00:23:52 → 00:23:55 ยืดกล้ามเนื้อแล้วนอนพักสายตากันดูเพราะ
00:23:55 → 00:23:58 ว่าก็คุยกันต่อนะเดี๋ยวมันจะมีชนวนบาง
00:23:58 → 00:24:00 อย่างที่ทำให้จากร้ายจะกลายเป็นร้ายมาก
00:24:00 → 00:24:03 หรือเปล่าก็ไม่รู้อะไรเงี้ยครับซึ่งอาจจะ
00:24:03 → 00:24:05 เป็นอ่ะกลายเป็นการคิดของเราฝั่งเดียว
00:24:05 → 00:24:07 หรือเปล่าเพราะว่าถ้ายังอยากคุยต่อแต่เรา
00:24:07 → 00:24:11 ก็แบบอืมันไม่น่าจะไม่น่าดีแล้วอ่ะไม่น่า
00:24:11 → 00:24:13 จะดีสำหรับการคุยในค่ำคืนนี้อีกแล้วอะไร
00:24:13 → 00:24:17 เงี้ยใช้วิธีสิแอดเหมือนกันอืองั้นซึ่ง
00:24:17 → 00:24:19 จริงๆแล้วความขัดแย้งแต่ละครั้งมันก็คง
00:24:19 → 00:24:23 แบบไม่เหมือนกันเนาะครับในแต่ละช่วงแต่ละ
00:24:23 → 00:24:27 เวลาเราเองก็อาจจะไม่ได้เข้าใจความขัด
00:24:27 → 00:24:30 แย้งนั้นซะทีเดียวแต่ที่สำคัญก็คืออย่า
00:24:30 → 00:24:32 อยู่นานอย่าอยู่กับมันนานครับพี่อิ้นฟัง
00:24:32 → 00:24:35 มาทั้งหมดเนี่ยเป็นไปได้ไหมว่าค่อนข้าง
00:24:35 → 00:24:38 เห็นมุมมองที่ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องของ
00:24:38 → 00:24:40 ความรักเนาะว่าจริงๆว่าเป็นคนให้ความ
00:24:40 → 00:24:42 สำคัญกับเรื่องนี้มากๆแล้วทุกครั้งที่มี
00:24:42 → 00:24:46 ความรักเนี่ยเราก็จะเห็นปลายทางงานสีขาว
00:24:46 → 00:24:50 อะไรต่างๆเรามีเรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
00:24:50 → 00:24:52 ครับเพราะว่ามันเป็นพื้นที่สำคัญอย่างที่
00:24:52 → 00:24:56 บอกตำแหน่งนี้มีอยู่แค่ตำแหน่งเดียวอ่ะ
00:24:56 → 00:25:00 ใช่ครับอ่าเราได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์
00:25:00 → 00:25:03 ของคนใกล้ตัวหรือคุณพ่อคุณแม่มาตลอดก็คือ
00:25:03 → 00:25:07 ไม่ว่ามันมีปัญหาอะไรเดี๋มันก็จะผ่านไป
00:25:07 → 00:25:12 ครับถ้าเรารักกันความยากมันกลายเป็นปัญหา
00:25:12 → 00:25:14 ที่เป็นปัจจัยภายนอกแต่ถ้าเกิดเป็นความ
00:25:14 → 00:25:17 รู้สึกระหว่างคน 2 คนที่มีความรักมันควร
00:25:17 → 00:25:20 จะง่ายแต่กลายเป็นว่าพอเจอกับโลกของความ
00:25:20 → 00:25:22 จริงของตัวเองมันไม่เป็นอย่างงั้นนะครับ
00:25:22 → 00:25:28 พี่ครับหมอครับแพทย์ครับเพื่อน
00:25:28 → 00:25:32 เคยรู้สึกผิดหวังมั้ยคะที่มันไม่ง่าย
00:25:32 → 00:25:36 อย่างที่เราคิดรู้สึกรู้สึกคืออาจจะดูแบบ
00:25:36 → 00:25:39 กวนตีนดูไม่ค่อยแบบแสดง
00:25:39 → 00:25:43 ความบอบบางให้ให้ใครเห็นนะครับทุกคนเลย
00:25:43 → 00:25:46 รอบตัวผมอ่ะก็แทบไม่เห็นหรอกเมื่อมันไม่
00:25:46 → 00:25:49 เป็นไปตามคาดนะครับมันก็มันก็จะพ่วงมา
00:25:49 → 00:25:54 ด้วยความผิดหวังอือาจจะบางครั้งถึงขั้น
00:25:54 → 00:25:57 เสียใจจริงๆอย่างอย่างที่บอกเนาะจริงๆ
00:25:57 → 00:26:00 ความรักมันเป็นอารมณ์ความรู้สึกอ่ะครับ
00:26:00 → 00:26:02 งั้นเนี่ยอารมณ์ความรู้สึกมันเป็นเรื่อง
00:26:02 → 00:26:05 ที่ซับซ้อนอยู่แล้วแม้กระทั่งมันเป็น
00:26:05 → 00:26:07 เรื่องของเราเองครับความรู้สึกของเราภาย
00:26:07 → 00:26:10 ในเองเนาะพอเรามีความรักกับใครสักคนที่
00:26:10 → 00:26:14 เป็นอีกคนนึงอ่ะแน่นอนมันเหมือนจักรวาล 2
00:26:14 → 00:26:18 จักรวาลที่จะต้องมาจูนกันแล้วก็คงไม่ใช่
00:26:18 → 00:26:21 มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่คุณน่ะเป็นคนที่
00:26:21 → 00:26:24 ต้องใช้วิธีการนี้นะวิธีการไหนครับวิธี
00:26:24 → 00:26:29 การที่ต้องตระหนักจงออกไปเจ็บปวดใช่เพื่อ
00:26:29 → 00:26:33 เรียนรู้เพื่อเข้าใจใช่นี่ไงต้องตระหนัก
00:26:33 → 00:26:37 ได้ด้วยตัวเอง
00:26:37 → 00:26:42 ออเจ็บปวดสินะเจ็บปวดอีกสักกี่ครั้งระวัง
00:26:42 → 00:26:45 สังเกตเนี่ยเราเป็นนักคิดที่ให้คุณค่ากับ
00:26:45 → 00:26:49 ความรู้สึกครับแล้วเนี่ยคือปัญหาค่ะอ้าว
00:26:49 → 00:26:52 มันควรจะเป็นข้อดีไม่ใช่เหรอครับนักคิด
00:26:52 → 00:26:54 ที่ให้คุณค่ากับความรู้สึกมันควรจะเป็น
00:26:54 → 00:26:56 ข้อดีและพรสวรรค์ไม่ใช่เหรอฮะกลายเป็น
00:26:56 → 00:27:00 ปัญหาเพราะเราคิดว่ารักไม่ได้ไง
00:27:00 → 00:27:04 ว้าวอืแต่เราต้องรู้สึกว่ารักอืแต่สิ่ง
00:27:04 → 00:27:07 ที่ดำเนินมาตลอดเนี่ยเราไม่ค่อยอนุญาตให้
00:27:07 → 00:27:10 ตัวเองอยู่กับความรู้สึกมากนักครับจนถึง
00:27:10 → 00:27:13 จุดๆนึงที่ความคิดมันพาเราไปไม่ไหวแล้ว
00:27:13 → 00:27:17 หรือความคิดมันไม่สามารถให้เหตุผลหรือโทษ
00:27:17 → 00:27:19 ฟ้าโทษดินโทษอะไรได้อีกต่อไปแล้วอ่ะเรา
00:27:19 → 00:27:22 ถึงจะอนุญาตให้ตัวเองสัมผัสความรู้สึก
00:27:22 → 00:27:25 แล้วอยู่กับมันตรงนั้นอืจริงๆความรักที่
00:27:25 → 00:27:28 อบอุ่นแล้วก็ยั่งยืนอาจจะแค่ต้องการตรง
00:27:28 → 00:27:31 นั้นแหละไม่ว่าจะกำลังขัดแย้งไม่ว่าจะ
00:27:31 → 00:27:36 กำลังโกรธกำลังหงุดหงิดกำลังเสียใจก็
00:27:36 → 00:27:39 อนุญาตให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกอันนี้คือ
00:27:39 → 00:27:41 ความลับอย่างนึงนะที่ทำให้ความรักจะไม่
00:27:41 → 00:27:44 ซับซ้อนความรักจะไม่ซับซ้อนทันทีเลยถ้า
00:27:44 → 00:27:47 เกิดว่าเราต่างคนต่างรู้จักตัวเองดีพอ
00:27:47 → 00:27:51 แล้วการรู้จักกันดีพอทำให้เรายอมรับซึ่ง
00:27:51 → 00:27:54 กันและกันได้มากพอ
00:27:54 → 00:27:56 แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราคิดว่าเราไม่
00:27:56 → 00:28:00 อยากจะยอมรับเลยหรือเราไม่ชอบเลยแล้วความ
00:28:00 → 00:28:03 เข้าใจมันจะค่อยๆเกิดขึ้นเองงั้นคนเนี่ย
00:28:03 → 00:28:06 มักจะแบบใฝ่หาว่าเอ้ยเราต้องเข้าใจกันเรา
00:28:06 → 00:28:07 ต้องเข้าใจกันพี่เอิ้ลไม่ค่อยเชื่อเรื่อง
00:28:07 → 00:28:10 นี้เหมือนกันว่าเราจะเข้าใจกันได้ทุก
00:28:10 → 00:28:13 อย่างคือเราไม่ได้เป็นเค้าอ่ะเออใช่ครับ
00:28:13 → 00:28:16 เออแม้กระทั่งเนี่ยพี่เอิ้ลแต่งงานมา 13
00:28:16 → 00:28:17 ปี
00:28:17 → 00:28:20 นะมีเรื่องไม่เข้าใจสามีเยอะมากเลยแต่
00:28:20 → 00:28:23 เข้าใจคนอื่นบนโลกแบบนี่พี่พงเคยพูดแบบ
00:28:23 → 00:28:26 นี้นะสามีพี่เคยพูดแบบนี้แบบในช่วง 2 ปี
00:28:26 → 00:28:28 แรกของการแต่งงานเออเธอนี้ดูเข้าใจทุกคน
00:28:29 → 00:28:32 บนโลกเลยเนาะยกเว้นฉันอุ๊ยอุ๊ยแรงป่ะแรง
00:28:32 → 00:28:34 เออแต่มันทำให้เราได้ตระหนักเหมือนกันว่า
00:28:34 → 00:28:37 เอ้ยิ่งเราบางทีเราพยายามจะเข้าใจเรายิ่ง
00:28:37 → 00:28:39 ไม่เข้าใจอ่ะแล้วมันเกิดว่าแบบแล้วทำไม
00:28:39 → 00:28:42 เธอเป็นคนแบบเนี้ยพอเวลาเราไม่เข้าใจอ่ะ
00:28:42 → 00:28:45 แล้วทำไมต้องเรื่องมากอืแล้วทำไมเรื่อง
00:28:45 → 00:28:47 แค่นี้ต้องเรื่องใหญ่หมอก็เป็นเหรอฮะเป็น
00:28:48 → 00:28:49 สิ
00:28:49 → 00:28:54 คะเหลือหรอคะสุดท้ายอยู่กันด้วยอะไรรู้มย
00:28:54 → 00:28:57 คือมันง่ายขึ้นมาเลยบอกว่าเออยอมรับแล้ว
00:28:57 → 00:28:59 กันยอมรับทั้งที่ยังไม่เข้าใจนั่นแหละยอม
00:28:59 → 00:29:01 รับให้เขาเป็นผู้ชายที่ขี้บ่นได้ในบาง
00:29:01 → 00:29:04 ครั้งอันนี้อาจจะกลับกันนะยอมรับที่เขาจะ
00:29:04 → 00:29:07 แบบน้อยใจเราที่ทุกวันนี้พี่เอิ้นก็ยังจำ
00:29:08 → 00:29:11 ไม่ได้ว่าพี่เอิ้นแต่งงานวันไหนอุ๊ยหมอก็
00:29:11 → 00:29:13 เป็นเหรอครับเป็นเลย
00:29:13 → 00:29:16 ค่ะชีวิตน่ะมันจะยุ่งยุ่งยากความรักมัน
00:29:16 → 00:29:20 ยุ่งยากทันทีเวลาที่ 1 เราไม่รู้จักตัว
00:29:20 → 00:29:22 เองเพราะั้นการไม่รู้จักตัวเองมันทำให้
00:29:22 → 00:29:25 บางทีเราไม่รู้จักกันเรายังไม่กล้าที่จะ
00:29:25 → 00:29:28 แบบมองความคิดความรู้สึกของตัวเองโดยตรง
00:29:28 → 00:29:31 เลยการที่เราจะมองความคิดความรู้สึกของ
00:29:31 → 00:29:36 อีกฝ่ายโดยตรงตามความเป็นจริงอือเออแล้ว
00:29:36 → 00:29:38 เราจะอนุญาตให้เขาเป็นแบบนั้นเราจะอนุญาต
00:29:38 → 00:29:40 ให้เราเป็นแบบนี้อะไรอย่างเงี้ยก็จะเป็น
00:29:40 → 00:29:42 เรื่องยากละงั้นสิ่งที่ผู้คนเวลามีความ
00:29:42 → 00:29:46 รักในจุดๆนึงนะคือเราเราไม่เอาฮันีมพีด
00:29:46 → 00:29:49 วาดมีพูดช่วงนึงว่าเฮ้ยตอนแรกๆอ่ะมันสดใส
00:29:49 → 00:29:52 เห็นงานสีขาวชัดเจนเลยเออทุกอย่างมันดู
00:29:52 → 00:29:56 เรียบง่ายมันมีความสุขมันอิ่มมันแบบอึทำ
00:29:56 → 00:30:00 อะไรก็ตื่นเต้นอันนั้นคือพีiครับซึ่งต้อง
00:30:00 → 00:30:03 ไม่นับนะอืครับแต่พ้นช่วงนั้นไปแล้วอ่ะ
00:30:03 → 00:30:05 มันคือช่วงของความเป็นจริงละจักรวาล 2
00:30:05 → 00:30:09 จักรวาลที่แตกต่างกันและไม่มีใครอยากเสีย
00:30:09 → 00:30:11 จักรวาลของตัวเองอ่ะทุกคนก็อยากจะเป็นตัว
00:30:11 → 00:30:16 เองครับจะอยู่กันยังไงการที่ยอมรับแม้ว่า
00:30:16 → 00:30:20 ไม่เข้าใจอ่ะพี่เอิ้นว่าเป็นวิธีการนึง
00:30:20 → 00:30:22 ที่พี่เอิ้นใช้แล้วได้ผลมากๆในชีวิตเพราะ
00:30:22 → 00:30:25 ฉั้นทำให้ความยุ่งยากซับซ้อนของคำว่าความ
00:30:25 → 00:30:28 รู้สึกโดยเฉพาะคำว่ารักเนี่ยมันมันลดน้อย
00:30:28 → 00:30:31 ลงแต่ที่สำคัญเราจะยอมรับทั้งๆที่ไม่เข้า
00:30:31 → 00:30:34 ใจได้เนี่ยเราต้องอนุญาตให้ตัวเองอยู่กับ
00:30:34 → 00:30:36 ความเบื่อได้ก่อนนะอนุญาตให้ตัวเองอยู่
00:30:36 → 00:30:41 กับความจืดชืดอนุญาตให้ตัวเองอยู่กับ
00:30:41 → 00:30:44 อารมณ์ที่ตัวเองไม่ชอบความคิดที่ตัวเอง
00:30:44 → 00:30:47 ไม่ชอบความผิดหวังในบางอย่างที่เขาไม่
00:30:47 → 00:30:50 เป็นอย่างที่เราอยากจะให้เขาเป็นซึ่งสิ่ง
00:30:50 → 00:30:52 เหล่าเนี้ยก่อนหน้าเพี่เอิ้นอาจจะคุยกับ
00:30:52 → 00:30:54 วาดไม่ได้เลยนะเพราะอะไรถามได้มั้ครับ
00:30:54 → 00:30:58 เพราะถ้าไม่รู้สึกอ๋อกลับมาที่เรื่องเดิม
00:30:58 → 00:31:02 ใช่ทุกอย่างมันมีเวลาของมันครับพี่นี่
00:31:02 → 00:31:04 เป็นหนึ่งในการเรียนรู้นะเรากลับมาที่หัว
00:31:04 → 00:31:07 ข้อว่าอยากเรียนรู้ว่าเพราะอะไรความรัก
00:31:07 → 00:31:11 ที่เอาไม่อยู่เนี่ยคือถ้าเราจะเป็นหนึ่ง
00:31:11 → 00:31:13 ในประสบการณ์การเรียนรู้เนี่ยบ้านต้อง
00:31:13 → 00:31:17 ผ่านมันมาแล้วก็เริ่มตระหนักแล้วว่าการ
00:31:17 → 00:31:20 แก้ปัญหาต้องอยู่ที่ตัวเราอือครับการ
00:31:20 → 00:31:22 เรียนรู้ถึงจะประสบความสำเร็จแล้วการ
00:31:22 → 00:31:25 เรียนรู้นี้จะไม่เกิดจากการที่มีใครมาบอก
00:31:25 → 00:31:29 มาสอนเราเป็นคนที่มีปัญญาเป็นของตัวเอง
00:31:29 → 00:31:31 ครับพี่เอิ้นใช้คำนี้แล้วกันอ่ะไม่ใช่คำ
00:31:31 → 00:31:34 ว่าเก่งอยู่แล้วนะครับแต่เท่าที่รู้จัก
00:31:34 → 00:31:39 กันมาพี่เอิ้ลแน่ใจว่านเป็นคนที่มีปัญญา
00:31:39 → 00:31:41 เป็นของตัวเองปัญญาที่มันเป็นแบบฉบับ
00:31:41 → 00:31:43 เฉพาะว่าธนกิจเนี่ย
00:31:43 → 00:31:46 มันเลยอาจจะต้องใช้เวลาใช้เวลาในการที่
00:31:47 → 00:31:50 สะสมประสบการณ์พาตัวเองไปสัมผัสเรียน
00:31:50 → 00:31:54 รู้ตกตะกอนในตระหนักทางที่สบายไม่ค่อย
00:31:54 → 00:31:58 เลือกไปใช่ครับผมนี่เป็นความย้อนแย้ง
00:31:59 → 00:32:00 อย่าง
00:32:00 → 00:32:03 นึงงั้นในความง่ายไม่ง่ายเห็นมั้ดังนั้น
00:32:03 → 00:32:07 เรื่องไหนที่มันยากก็ให้มันยากเถอะอือได้
00:32:07 → 00:32:12 ครับได้เลยครับเอออ่ะอย่างที่พี่บอกนะ
00:32:12 → 00:32:15 อะไรที่มันยากอ่ะก็จงยอมรับซะว่ามันยาก
00:32:15 → 00:32:19 แต่มึงทำได้นะอืมันเป็นไปได้นะอือใช่แต่
00:32:19 → 00:32:22 ว่าไม่ใช่แบบไม่ใช่กระบวนท่าแบบเดิมๆอ่ะ
00:32:22 → 00:32:25 อืถ้าเรากลับมาที่ความรักที่เราเอาไม่
00:32:25 → 00:32:29 อยู่กับเรื่องนี้เนาะกับการคุยกันในวัน
00:32:29 → 00:32:33 เนี้ยว่านว่านได้อะไรบ้างสำหรับผมนะครับ
00:32:33 → 00:32:36 ต่อเนื่องจากที่พี่เอิ้ลบอกนะครับว่าบาง
00:32:36 → 00:32:41 ทีไอ้คนคิดเยอะคิดเก่งคิดเร็วทำเร็วอะไร
00:32:41 → 00:32:44 อย่างเงี้ยจริงมันก็เป็นข้อดีแหละแต่มัน
00:32:44 → 00:32:47 อาจจะไม่ได้ดีกับทุกเรื่องในโลกความรัก
00:32:47 → 00:32:50 อาจจะใช้ความคิดที่รวดเร็วหรือการอยู่กับ
00:32:50 → 00:32:52 สถานการณ์ที่เราไม่ชอบแล้วพยายามจะออกไป
00:32:52 → 00:32:56 จากเรื่องนี้เร็วๆอาจจะไม่เวิร์คบางทีก็
00:32:56 → 00:32:58 ต้องจมๆอยู่ด้วยกันแป๊บนึงอ่ะมึงไม่ชอบ
00:32:58 → 00:33:01 หรอกอาการแบบเนี้ยแต่ว่ามึงอยู่ด้วยกัน
00:33:01 → 00:33:05 ก่อนเละก็เละด้วยกันแล้วถ้าถ้าฟ้ามันเปิด
00:33:05 → 00:33:08 เราก็อยู่ด้วยกันไงอาจจะต้องเป็นวิธีนั้น
00:33:08 → 00:33:10 ซึ่งผมอาจจะต้องอ่ะต้องต้องปรับตัวเอง
00:33:10 → 00:33:15 เหมือนกันแหละอือฮึใช่ๆอืครับอันนี้คือ
00:33:15 → 00:33:19 ข้อสรุปของเราสำหรับผมนะครับที่หน้าพี่
00:33:19 → 00:33:22 เอิ้นเชื่อว่าตำแหน่งสุด
00:33:22 → 00:33:27 ท้ายมีอยู่จริงครับครับแล้วก็mindซตของ
00:33:27 → 00:33:31 ความรักที่เราเชื่อว่าความรักดีๆคือความ
00:33:32 → 00:33:36 อบอุ่นและความยั่งยืนไซตที่ดีเนี้ยวันนึง
00:33:36 → 00:33:40 ก็จะนำพาคนที่เป็นความอบอุ่นและความยั่ง
00:33:40 → 00:33:44 ยืนมาสู่ชีวิตว่าแน่นอนงั้นการจูนใจในวัน
00:33:44 → 00:33:46 นี้เนาะเพื่อนคิดว่ามันเป็นการจูนมุมมอง
00:33:46 → 00:33:49 ของความรักใหม่อีกครั้งนึงเพราะงั้นแต่
00:33:49 → 00:33:54 เดิมความรักสำหรับเราเราอาจจะวางนิยามมัน
00:33:54 → 00:33:56 ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วล่ะนะแกน
00:33:56 → 00:33:58 หลักของคำว่ารักของว่านมันไม่ได้เปลี่ยน
00:33:58 → 00:34:01 ไปไหนแต่ว่าสิ่งที่มันจะต่างไปก็คือว่า
00:34:01 → 00:34:05 เราได้ตระหนักว่าไอ้ความรักต้องง่ายเนี่ย
00:34:05 → 00:34:07 มันอาจจะเป็นประสบการณ์ของเราหรือ mindset
00:34:07 → 00:34:11 ของเราแค่คนเดียวมันไม่ใช่ของทุกคนบนโลก
00:34:11 → 00:34:15 ครับหมอแล้วธรรมชาติของความรักที่ว่ามัน
00:34:15 → 00:34:19 มันยากจริงๆมันก็ง่ายได้มันง่ายได้ด้วย
00:34:19 → 00:34:23 การยอมรับในสิ่งที่มันเป็นงั้นต่อมาคือ
00:34:23 → 00:34:26 ความรักไม่ใช่ความคิดเราจะคิดว่ารักก็ไม่
00:34:26 → 00:34:29 ได้เราจะรักษาความรักด้วยเหตุผลก็ไม่ได้
00:34:29 → 00:34:32 แต่ความรักคือความรู้สึกงั้นเอาความคิดมา
00:34:32 → 00:34:36 เยียวยาความรู้สึกไม่ได้อืเอาความคิดมา
00:34:36 → 00:34:41 รักษาความรักไม่ได้ต่อมาคือการที่ความรัก
00:34:41 → 00:34:46 ใจอยู่ยั่งยืนได้อาจจะต้องเริ่มต้นด้วย
00:34:46 → 00:34:49 การยอมรับแม้ว่าไม่เข้าใจจูนใจในวันนี้
00:34:49 → 00:34:53 คิดว่าน่าจะได้เปลี่ยนมุมมองสักเล็กน้อย
00:34:54 → 00:34:57 สำหรับความรักในแบบบ้านธนกิจแล้วก็เชื่อ
00:34:57 → 00:35:01 ว่ามุมมองนี้จะทำให้พื้นที่สุดท้ายนั้น
00:35:01 → 00:35:04 ว่าได้เจอคนๆนั้นจริงๆอวยพรนะครับหวังใจ
00:35:04 → 00:35:06 ว่าจะเป็นอย่างงั้นครับครับผมเป็นคำอวยพร
00:35:06 → 00:35:10 จากแพทย์ที่เขียนเพลงบ่อยกว่าเขียนใบรับ
00:35:10 → 00:35:14 รองแพทย์นะครับที่ที่ผมรัก
00:35:14 → 00:35:18 ครับขอบคุณมากครับขอบคุณครับบ๊ายบาย
00:35:18 → 00:35:22 [เสียงหัวเราะ]