00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice วันนี้เดี๋ยวเรามาเจาะลึกในราย
00:00:08 → 00:00:11 ละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของโรคไต่นะคะคุย
00:00:11 → 00:00:14 กันกับนายแพทย์ปรัชญาภูมิอุทัยวิรัตน์นะ
00:00:14 → 00:00:16 คะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคไต
00:00:16 → 00:00:19 โรงพยาบาลจุฬาภรณกันค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอขา
00:00:20 → 00:00:23 ครับสวัสดีครับค่ะเราก็รู้กันโดยพื้นฐาน
00:00:23 → 00:00:25 ทั่วไปอยู่ละว่าก็เป็นโรคอันตรายอีกโรค
00:00:25 → 00:00:27 นึงนะคะแต่ว่าวันนี้เดี๋ยวขออนุญาตเจาะ
00:00:27 → 00:00:30 ลึกลงไปในรายละเอียดกันดีกว่าถามโดย
00:00:30 → 00:00:32 เบื้องต้นทั่วไปก่อนว่าจริงๆแล้วคนไทย
00:00:32 → 00:00:36 เนี่ยเป็นกันเยอะเลยใช่มั้ยคะครับผมก็คือ
00:00:36 → 00:00:38 โลกไตยเนี่ยถือว่าเป็นโลกที่พบได้ใน
00:00:38 → 00:00:43 อันดับต้นๆนะครับของประเทศไทยอ่าสถิติจาก
00:00:43 → 00:00:47 การสำรวจเนี่ยพบว่าประชากรของคนไทยเนี่ย
00:00:47 → 00:00:51 ติดเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนนะครับใช่ครับ
00:00:51 → 00:00:55 อ่าประชากรพบว่าประมาณ 15% ที่เราสำรวจ
00:00:55 → 00:00:58 เนี่ยจากประชากรทั้งหมดเนี่ยอย่างเช่นคน
00:00:58 → 00:01:01 เดินมาทั้งหมด 6 คนเนี่ยจะพบว่า 1 คน
00:01:01 → 00:01:05 เนี่ยเป็นโรคไตอ๋อในๆในจำนวนคนที่เดินมา 6
00:01:05 → 00:01:08 คนใช่ครับเป็นโรคไตเสื่อมรังนะครับต้องมี
00:01:08 → 00:01:11 คนนึงใช่ครับโอเป็นสถานการณ์ที่ถือว่า
00:01:11 → 00:01:14 เยอะพอสมควรนะครับค่ะก็คือเนื่องจากโรคไต
00:01:14 → 00:01:17 เนี่ยถือว่าเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการนะครับ
00:01:17 → 00:01:21 ค่ะมีตั้งแต่ไม่แสดงอาการเป็นโรคที่เกิด
00:01:21 → 00:01:24 ขึ้นตามมาจากโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง
00:01:24 → 00:01:28 อย่างเช่นโรคเบาหวานโรคความันโหิตสูงนะ
00:01:28 → 00:01:30 ครับจนกระทั่งมีอาการ
00:01:30 → 00:01:32 นะครับเมื่อมาตรวจพบบางคนเนี่ยอาจจะตรวจ
00:01:33 → 00:01:37 พบในระยะต้นๆบางคนเนี่ยตรวจพบเมื่อระยะ
00:01:37 → 00:01:40 การเป็นโรคไตเนี่ยอยู่ในระยะที่แสดงอาการ
00:01:40 → 00:01:43 แล้วก็ดำเนินไปเป็นไตวายอ่าที่ไม่สามารถ
00:01:43 → 00:01:46 ทำงานได้นะครับคอาการมันไม่มีอะไรที่จะ
00:01:46 → 00:01:50 คือเราถือว่าโลคไตเนี่ยคือเราแค่ตรวจพบ
00:01:50 → 00:01:54 ว่ามีลักษณะที่อ่าผิดปกติในปัสสาวะแล้วก็
00:01:54 → 00:01:56 ถือว่าเป็นโรคไตแล้วนะครับแต่มันยังไม่
00:01:56 → 00:02:00 แสดงอาการออกมาดังนั้นเนี่ยเราจะจะพบว่า
00:02:00 → 00:02:02 เราเป็นโรคไตได้ก็คือเราต้องมีการตรวจคัด
00:02:02 → 00:02:07 กรองค่ะนะครับแล้วจะเจอว่าตัวคนไข้เนี่ย
00:02:07 → 00:02:09 คือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตหรือเป็น
00:02:09 → 00:02:12 โรคไตแล้วหรือยังนะครับอือันนี้ก็เลยกลาย
00:02:12 → 00:02:14 เป็นว่าเพิ่มความเสี่ยงสำหรับคนที่ไม่
00:02:14 → 00:02:17 ค่อยตรวจสุขภาพใช่ครับเออไม่อยากไปถึงแม้
00:02:17 → 00:02:20 ว่าปีนึงจะครั้งนึงก็ตามแต่ใช่ครับก็ไม่
00:02:20 → 00:02:23 ไปตรวจจริงๆการตรวจคัดกรองเรื่องของโรคไต
00:02:23 → 00:02:26 เนี่ยคือทำได้ง่ายๆนะครับขั้นตอนที่ 1 ก็
00:02:26 → 00:02:30 คือเป็นการตรวจเรื่องของโรคประจำตัวอื่นๆ
00:02:30 → 00:02:32 ค่ะเรารู้ว่าสาเหตุของการเกิดโรคไตเนี่ย
00:02:32 → 00:02:35 โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากโรคเบาหวานและโรค
00:02:35 → 00:02:38 ความนันโลหิตสูงดังนั้นการตรวจคัดกรอง
00:02:38 → 00:02:41 เรื่องของอ่าความดันโลหิตก็เป็นอีกปัจจัย
00:02:41 → 00:02:44 หนึที่เราจะตรวจพบว่าคนไข้มีโรคไตรแล้ว
00:02:44 → 00:02:48 หรือยังนะครับอันที่ 2 ก็คือเป็นการตรวจ
00:02:48 → 00:02:52 ปัสสาวะนะครับปัสสาวะเนี่ยคือของคนเรา
00:02:52 → 00:02:54 เนี่ยเวลาเราตรวจเนี่ยเราจะดูว่ามีโปรตีน
00:02:54 → 00:02:57 มีเม็ดเลือดแดงมีเม็ดเลือดขาวลวกมาใน
00:02:57 → 00:02:59 ปัสสาวะหรือเปล่าอันนี้ต้องใช้การตรวจทาง
00:02:59 → 00:03:03 หต้องปฏิบัติการนะครับซึ่งอ่าอันสุดท้าย
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยเป็นการตรวจเลือดนะครับก็คือการตรวจ
00:03:06 → 00:03:10 หาค่าเตินซึ่งพอได้ค่าตัวนี้มาปุ๊บก็จะทำ
00:03:10 → 00:03:15 การคำนวณวัด GFR หรือ gora filtration
00:03:15 → 00:03:18 Rate ค่ะซึ่งตรงเนี้ยจะเป็นการบ่งบอกถึง
00:03:18 → 00:03:22 การทำงานหน้าที่ของไตได้นะครับอค่ะอ๋อไม่
00:03:22 → 00:03:24 น่าล่ะเวลาตรวจสุขภาพเนี่ยจะต้องมีการอ่า
00:03:24 → 00:03:27 ตรวจเลือดด้วยใช่มั้ยคะมีตรวจปัสสาวะมี
00:03:27 → 00:03:31 ตรวจอุจจาระใช่ครับปัสสาวะเนี่ยอืถ้ามี
00:03:31 → 00:03:33 ความเป็นปกติอาจจะบ่งบอกถึงสาเหตุของการ
00:03:33 → 00:03:35 เกิดโรคไตได้ครับค่ะโอเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:03:35 → 00:03:38 แหละอันนี้ที่สำคัญด้วยเหมือนกันนะคะเอา
00:03:38 → 00:03:40 เป็นว่าเราจะทำความรู้จักกับโรคไต่เอาให้
00:03:40 → 00:03:43 แบบว่าเข้าใจมากขึ้นคุณหมอบอกว่าสาเหตุ
00:03:43 → 00:03:47 เกิดโรคจากความดันอ่าเรื่องของเบาหวาน
00:03:47 → 00:03:50 ครับจุดต้นตอเลยนะคะนำมาสู่โรคอื่นๆอีก
00:03:50 → 00:03:52 มากมายปัจจัยอื่นๆด้วยมั้ยคะมีร่วมด้วย
00:03:52 → 00:03:57 มั้ยคะเช่นมีเยอะแยะมากมายนะครับเราขอผม
00:03:57 → 00:04:01 ขออนุญาตแบ่งโลกไตออกเป็น 2 กลุ่มให่ออัน
00:04:01 → 00:04:04 ที่ 1 คือโรคไตวายเฉียบพันธนะครับอกลุ่ม
00:04:04 → 00:04:07 ที่ 2 คือโรคไตวายเรื้อรังค่ะอันนี้คือ
00:04:07 → 00:04:10 เราจำแนกโดยลักษณะของการทำงานไตที่ผิด
00:04:10 → 00:04:13 ปกติโดยแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดขึ้นเป็น
00:04:13 → 00:04:16 หลักนะครับอ่ากลุ่มแรกเนี่ย
00:04:16 → 00:04:19 คือส่วนใหญ่คือตรวจพบว่าการทำงานของไตผิด
00:04:19 → 00:04:23 ปกติในระยะเวลาเป็นหลักวันถึงหลักสัปดาห์
00:04:23 → 00:04:25 นะครับค่ะในกลุ่มนี้เนี่ยก็คือก็จะมีหลาก
00:04:25 → 00:04:28 หลายประเภทนะครับโดยแบ่งออกเป็นอย่างเช่น
00:04:28 → 00:04:32 อันที่ 1 ภาวะขสารน้ำในร่างกายนะครับทาน
00:04:32 → 00:04:35 น้ำไม่เพียงพอร่างกายมีการขาดเกลือแร่
00:04:35 → 00:04:38 แล้วก็ขาดสารน้ำทำให้ไตเนี่ยทำทำงานหนัก
00:04:38 → 00:04:42 ขึ้นนะครับค่าไตวายขึ้นกลุ่มที่ 2 ก็คือ
00:04:42 → 00:04:46 เกิดจากตัวไตที่มันผิดปกติเองนะครับโรคใน
00:04:46 → 00:04:49 กลุ่มนี้เนี่ยก็คือจะได้แก่ตั้งแต่โรคไต
00:04:49 → 00:04:52 อักเสบนะครับซึ่งกลุ่มนี้คือจะต้องทำการ
00:04:52 → 00:04:55 ตรวจเพิ่มเติมนะครับโดยส่วนใหญ่คนไข้มัก
00:04:55 → 00:04:59 จะมีอาการอย่างเช่นอ่าปัสสาวะออกน้อยลงมี
00:04:59 → 00:05:02 อาการบวมหรือว่ามีอาการผิดโปติอื่นๆเช่น
00:05:02 → 00:05:04 ความดันโลหิตสูงกลุ่มนี้ก็ต้องไปทำการ
00:05:04 → 00:05:06 ตรวจเพิ่มเติมเช่นเดียวกันค่ะกลุ่มสุด
00:05:06 → 00:05:09 ท้ายของไตวายเฉียบพลันก็คือเป็นภาวะของ
00:05:09 → 00:05:13 การกดเบียดไตนะครับก็คือมีก้อนหรือว่ามี
00:05:14 → 00:05:16 ความเป็นปกติอื่นๆเนี่ยไปกดเบียดไม่
00:05:16 → 00:05:19 สามารถที่จะทำให้ปัสสาวะเนี่ยออกมาได้
00:05:19 → 00:05:23 อย่างปกติอืพวกนี้ก็ไปทำลายไตนะครับทำให้
00:05:23 → 00:05:27 อ่าการทำงานของไตเนี่ยลดลงเฉียบพันนะครับ
00:05:27 → 00:05:30 อย่างไรก็ตามถ้าเราสามารถแก้ไขสสาหที่เรา
00:05:30 → 00:05:34 ตรวจพบได้การทำงานของไตจะกลับมาสู่ปกตินะ
00:05:34 → 00:05:37 ครับในกลุ่มนี้เราเรียกว่าไตวายเฉียบพลัน
00:05:37 → 00:05:40 อ๋อคือคือเป็นเหมือนกับว่าเป็นปัจจุบัน
00:05:40 → 00:05:43 ขึ้นมาทันทีแต่ว่าใชครับอ่ะหาสาเหตุจำกัด
00:05:43 → 00:05:45 เอ่อเค้าเรียกอะไรจำกัดโรคได้ปุ๊บเนี่ย
00:05:45 → 00:05:48 มันก็ใช่กลับมาปกติได้ใช่ครับอแต่ถ้าเรา
00:05:48 → 00:05:51 ไม่สามารถที่จะกำจัดสาเหตุเหล่านี้ได้
00:05:51 → 00:05:54 หรือว่าเป็นโรคที่เป็นเรื้อรังอย่างเช่น
00:05:54 → 00:05:57 เบาหวานความดันโลหิตสูงการดำเนินโลคจะ
00:05:57 → 00:06:00 ค่อนข้างนานนะครับค่ะในกลุ่มนี้เี่ก็คือ
00:06:00 → 00:06:04 คนไข้มีโอกาสที่จะกลายไปเป็นโรคไตรเสื่อม
00:06:04 → 00:06:08 เรื้อรังนะครับอ๋อมันจะค่อยๆใช่ครับการมา
00:06:08 → 00:06:12 ของไตจะค่อยๆอ่าแย่ลงนะครับโดยที่
00:06:12 → 00:06:15 อ่าผู้ป่วยเนี่ยอาจจะยังไม่ทราบหรือว่า
00:06:15 → 00:06:18 อาจจะไม่ได้ติดตามในจุดนี้นะครับซึ่ง
00:06:18 → 00:06:20 อย่างที่เรียนให้ทราบในตอนแรกว่าการคุม
00:06:20 → 00:06:22 เรื่องของเบาหวานแล้วก็ความดันโลหิตสูง
00:06:22 → 00:06:23 เนี่ยเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ
00:06:23 → 00:06:27 ว่าคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยเมื่อมีการ
00:06:27 → 00:06:31 ดำเนินโลกไป 10-15 ปีเนี่ยเราพบว่า 30%
00:06:31 → 00:06:34 มีโอกาสเกิดโรคไตวายอ่าเรื้อรังเกิดขึ้น
00:06:34 → 00:06:38 ได้นะครับอซึ่งไตวายซึ่งไตวายเรื้อรัง
00:06:38 → 00:06:41 เนี่ยก็คือว่าจะต้องทำการตรวจแล้วก็อ่าหา
00:06:41 → 00:06:44 สาเหตุเพิ่มเติมนะครับว่าสาเหตุเกิดจาก
00:06:44 → 00:06:47 อะไรได้บ้างในกลุ่มนี้อย่างเช่นอันที่ 1
00:06:48 → 00:06:50 โรคเรื้อรังนะครับก็คือเบาหวานกับความ
00:06:50 → 00:06:53 โรหิตสูงที่คุมได้ไม่ดีกลุ่มที่ 2 เนี่ย
00:06:53 → 00:06:58 ก็คือจะพบในบางภูมิภาคที่ที่มีโอกาสเกิด
00:06:58 → 00:07:00 ได้มากกว่าอย่างเช่นเช่นภาคอีสานเนี่ยจะ
00:07:00 → 00:07:03 มีโอกาสเกิดโรคไตเสื่อมเลื้อรังในกลุ่ม
00:07:03 → 00:07:07 ของโรคนิ่วนะครับอืได้มากกว่าคนปกติคือ
00:07:07 → 00:07:09 คืออันนี้คือสแบ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น
00:07:09 → 00:07:13 ใช่ครับภูมิภาคได้เลยจากพฤติกรรมจากในการ
00:07:13 → 00:07:15 ใช่ครับเพราะว่าพฤติกรรมการรับประทาน
00:07:15 → 00:07:18 อาหารของของของแถบตะวันออกเฉียงเหนือ
00:07:18 → 00:07:21 เนี่ยคือเขาจะมีผักบางประเภทที่กลุ่ม
00:07:22 → 00:07:25 เนี้ยมันจะมีสารที่ก่อให้เกิดนิ่วได้มาก
00:07:25 → 00:07:29 กว่าคนปกตินะครับเช่นชาเอมเช่นอะไรพวกเนะ
00:07:29 → 00:07:32 ครับค่ะอ่าหรืออาจจะเป็นโรคที่มีส่วนทาง
00:07:32 → 00:07:35 พันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเช่นโรคไต
00:07:35 → 00:07:39 ถุงน้ำกลุ่มเนี้ยก็จะมีการดำเนินโรคตั้ง
00:07:39 → 00:07:42 แต่เด็กค่ะแล้วมีการถ่ายทอดพันธุกรรมจาก
00:07:42 → 00:07:46 เครือญาติก็คือพ่อแม่ปู่ย่าตายายนะครับทำ
00:07:46 → 00:07:48 ให้เกิดเรื่องของการทำงานของไตเนี่ย
00:07:48 → 00:07:53 เสื่อมลงในอนาคตอโอ้โหครับอันนี้ก็จะเป็น
00:07:53 → 00:07:56 อีกตัวอย่างนึงของของพันธุกรรมค่ะครับแต่
00:07:56 → 00:07:59 ยังไงก็ตามเนี่ยคือจากสาเหตุของไตวาย
00:07:59 → 00:08:03 เรื้อรังเนี่ยยังมีในกลุ่มของการใช้ยาอีก
00:08:03 → 00:08:06 อย่างเช่นปัจจุบันเนี่ยก็จะมีการใช้ยาแก้
00:08:06 → 00:08:09 ปวดในกลุ่มของเอนเสดค่ะนะครับหรือว่ามี
00:08:09 → 00:08:12 การใช้ยาต้มยาหม้อยาลูกกอนยาสมุนไพรค่ะ
00:08:12 → 00:08:16 ซึ่งกลุ่มเหล่าเนี้ยเราพบว่าในคนที่ใช้ยา
00:08:16 → 00:08:21 เหล่านี้ปริมาณมากและใช้ระยะเวลานานมีผล
00:08:21 → 00:08:25 ที่ทำให้เกิดไตวายได้โดยส่วนใหญ่เนี่ยการ
00:08:25 → 00:08:29 ติดตามอาการโรคเบาหวานเองเนี่ยทางคุณหมอ
00:08:29 → 00:08:33 เนี่ยเคจะมีการเจาะเลือดการทำงานของไต
00:08:33 → 00:08:36 เป็นระยะๆะอยู่แล้วแล้วก็จะมีการส่งตรวจ
00:08:36 → 00:08:39 โปรตีนไข่ขาวที่ลวกมาในปัสสาวะนะครับ
00:08:39 → 00:08:42 เมื่อใดก็ตามที่มีความผิดปกติดังกล่าว
00:08:42 → 00:08:45 เนี่ยเขาจะเริ่มสังเกตและว่าคนไข้เหล่า
00:08:45 → 00:08:47 เนี้ยเริ่มมีปัญหาเรื่องไตหรือเปล่านะ
00:08:47 → 00:08:49 ครับอ๋อคือหมายความว่าถ้าจะตรวจเบาหวานก็
00:08:50 → 00:08:52 คือต้องควบคู่กันไปเลยใช่ครับเพราะว่ามัน
00:08:52 → 00:08:55 มีความเสี่ยงที่ใช่ครับเพราะว่าโรคใน
00:08:55 → 00:08:57 กลุ่มเหล่านี้เนี่ยมีโอกาสที่จะทำให้เกิด
00:08:57 → 00:09:00 โรคไตหรือนอกเหนือจากโรคโรคไตก็อย่างเช่น
00:09:00 → 00:09:03 โรคหัวใจหลอดเลือดขาดเลือดนะครับหรือโรค
00:09:03 → 00:09:07 เส้นเลือดในสมองตีบอพวกนี้จะเป็นของที่
00:09:07 → 00:09:11 ที่ที่คนไข้จะเกิดคู่กันนะครับค่ะอืงั้น
00:09:11 → 00:09:14 แสดงว่าอ่ะจริงๆถ้าเกิดว่าเป็นเบาหวานอาจ
00:09:14 → 00:09:19 จะเป็นไตก็ได้ใช่ครับหรือไม่เป็นก็ได้ใช่
00:09:19 → 00:09:21 ครับไม่ได้บอกว่าเป็นเบาหวันทุกคนต้อง
00:09:21 → 00:09:23 เป็นไตนะใช่อย่างที่อย่างที่เรียนให้ทราบ
00:09:23 → 00:09:26 ก็คือหมายถึงว่าการควบคุมน้ำตาลในในผู้
00:09:26 → 00:09:29 ป่วยเบาหวานเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญอืครับอัน
00:09:30 → 00:09:32 ที่ 2 อย่างที่บอกก็คือว่าในคนไข้ที่คุม
00:09:32 → 00:09:35 น้ำตาลได้ไม่ดีค่ะเมื่อติดตามไป 10-15 ปี
00:09:35 → 00:09:39 เนี่ยจะตรวจพบว่า 30% เนี่ยกลายไปเป็นโรค
00:09:39 → 00:09:42 ไตโอ้โหเกือบครึ่งแล้วนะใช่ครับก็มีโอกาส
00:09:42 → 00:09:45 ที่จะไม่เป็นได้ค่ะครับแต่ว่าความเสี่ยง
00:09:45 → 00:09:47 มันมีอยู่แหละเพราะฉะนั้นคือเราไม่ต้อง
00:09:47 → 00:09:50 เสี่ยงถ้าอย่างงั้นเนี่ยคืออะไรมันจุดจาก
00:09:50 → 00:09:53 เบาหวานไปไปไปเป็นไตได้ค่ะมันมันมีจุดตรง
00:09:53 → 00:09:56 ไหนอ่ะคะครับอ่ามีงานวิจัยรองรับว่าการ
00:09:56 → 00:09:59 คุมเรื่องของระดับน้ำตาลที่ไม่ดีเนี่ยคค
00:09:59 → 00:10:03 จุต้นเหตที่ทำให้เกิดหลอดเลือดอืส่วนปลาย
00:10:03 → 00:10:05 ค่ะหลอดเลือดส่วนปลายก็คือเป็นหลอดเลือด
00:10:05 → 00:10:10 ที่ไปเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆเช่นหัวใจไต
00:10:10 → 00:10:14 สมองหรืออ่าตามปลายเท้าปลายมือปลายเท้านะ
00:10:14 → 00:10:17 ครับสิ่งเหล่านี้เนี่ยเมื่อการคุมน้ำตาล
00:10:17 → 00:10:20 ไม่ดีมีโอกาสที่ทำให้เส้นเลือดเหล่าเนี้
00:10:20 → 00:10:23 ผิดปกติได้ค่ะพอเส้นเลือดเหล่านี้ผิดปกติ
00:10:23 → 00:10:25 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือทำให้การทำงานของ
00:10:25 → 00:10:30 แต่ละอวัยวะเนี่ยเกิดปัญหาขึ้นอืในส่วน
00:10:30 → 00:10:33 ของไตเนี่ยก็คือจะมีโปรตีนรั่วนะครับมี
00:10:33 → 00:10:35 เรื่องของเม็ดเลือดแดงที่อาจจะรั่วอมาใน
00:10:35 → 00:10:38 ปัสสาวะได้รวมถึงอ่ามีเรื่องของการทำงาน
00:10:38 → 00:10:41 ของไตที่อาจจะแย่ลงตามมาในระยะท้ายๆแล้ว
00:10:41 → 00:10:44 ถ้าเป็นความดันล่ะคะมันจะมีอะไรที่มันไป
00:10:44 → 00:10:48 ถึงไตได้ครับไตเนี่ยมีหลอดเลือดส่วนปลาย
00:10:48 → 00:10:52 เนี่ยเข้าไปเลี้ยงในในในในอวัยวะค่อนข้าง
00:10:52 → 00:10:56 มากนะครับปกติการคุมความดันโลหิตที่เหมาะ
00:10:56 → 00:11:00 สมจะช่วยให้ให้อวัยวะต่างๆเหล่านี้เี่ไม่
00:11:00 → 00:11:03 โดนทำลายก็เหมือนกับเวลาที่ความดันสูงมาก
00:11:03 → 00:11:06 เลือดก็อาจจะโดนดันไปที่อวัยวะต่างๆเหล่า
00:11:06 → 00:11:10 นี้สูงขึ้นอมันก็เลยทำให้เกิดเรื่องของ
00:11:10 → 00:11:12 การทำอันตรายต่ออวัยวะต่างๆเหล่านี้นะ
00:11:12 → 00:11:16 ครับรวมถึงอ่าพวกนี้เี่มันจะมีการกระตุ้น
00:11:16 → 00:11:20 เรื่องของอ่าสารเคมีบางอย่างที่ทำให้เกิด
00:11:20 → 00:11:23 การทำลายไตร่วมด้วยได้เช่นเดียวกันครับ
00:11:23 → 00:11:26 โอโหถ้าเรายังไม่เป็นโรคไตการตรวจคัดกรอง
00:11:26 → 00:11:28 เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับก็คืออย่างที่
00:11:28 → 00:11:31 เรียนให้ทราบ 3 อย่างตรวจวัดความนันโลหิต
00:11:31 → 00:11:34 อันที่ 2 ตรวจปัสสาวะอันที่ 3 ตรวจเจาะ่า
00:11:34 → 00:11:38 ผลเลือดนะครับแต่ถ้าเมื่อคนไข้เป็นโรค
00:11:38 → 00:11:41 ต่างๆแล้วเนี่ยก็คือต้องควบคุมเรื่องของ
00:11:41 → 00:11:45 ปัจจัยเสี่ยงให้ดีอือฮึควบคุมความดันควบ
00:11:45 → 00:11:47 คุมเรื่องของเบาหวานให้ดีเพื่อที่จะได้
00:11:47 → 00:11:51 ชะลอการเกิดโรคไตได้นะครับส่วนในคนไข้ที่
00:11:51 → 00:11:54 เป็นโรคไตอยู่แล้วจุดเมื่อเป็นโรคไต
00:11:54 → 00:11:56 เสื่อมเรื้อรังเนี่ยจุดประสงค์ของคนไข้
00:11:56 → 00:11:59 ต่างๆเหล่านี้ก็คือเป็นการชะลอไม่ให้ไต
00:11:59 → 00:12:01 เสื่อมเร็วค่ะนะครับแบ่งเป็นคนไข้ 3
00:12:01 → 00:12:03 กลุ่มครับผมออ๋ออันนี้เป็น 3 กลุ่มด้วย
00:12:03 → 00:12:06 กันอ่ะนอกจากนี้แล้วนะคะเดี๋ยวเรามาคุย
00:12:06 → 00:12:08 กันว่าอ่ะกรรมพันธ์เราคุยไปแล้วแล้วใคร
00:12:08 → 00:12:10 บ้างที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงคะคุณหมอใน
00:12:10 → 00:12:13 เรื่องนี้อันดับแรกก็คงเป็นเรื่องของอายุ
00:12:13 → 00:12:16 นะครับอย่างที่เรียนให้ทราบกันว่าในอายุ
00:12:16 → 00:12:19 ที่มากขึ้นมีโอกาสเป็นโรคไตได้มากขึ้น
00:12:19 → 00:12:22 เพราะเนื่องจากว่าความเสื่อมเนี่ยโดยปกติ
00:12:22 → 00:12:24 โดยที่ไม่มีโรคร่วมเลยเนี่ยค่ะแค่อายุมาก
00:12:24 → 00:12:27 ขึ้นเนี่ยการทำงานของไตจะลดลงประมาณ 1%
00:12:27 → 00:12:31 ต่อปีต่อปีใช่ครับตั้งแต่อายุเกิน 30 ปี
00:12:31 → 00:12:34 เป็นต้นไปโอ้ใช่ครับ 30 เลยเหรอคะใช่ครับ
00:12:34 → 00:12:37 อย่างเช่นว่าเราเทียบว่าการงานของไต 100%
00:12:37 → 00:12:41 ที่อายุ 30 ปี 30 ปีนะครับเมื่อผ่านไป 60
00:12:41 → 00:12:44 ปีเนี่ยคืออายุ 90 ปีเนี่ยไตเราก็จะเหลือ
00:12:44 → 00:12:46 การทำงานประมาณ 40%
00:12:46 → 00:12:51 อืโหทำอะไรได้บ้างมั้ยเนี่ยไม่ได้เลยอัน
00:12:51 → 00:12:52 อันนี้คือเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบ
00:12:52 → 00:12:56 คุมได้ถูกมั้ยครับก็คือเป็นอายุอันที่ 2
00:12:56 → 00:12:59 ก็คือปัจจัยจากโรคร่วมต่างๆค่ะอย่าเช่น
00:12:59 → 00:13:01 อ่าการมีโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นอย่างเช่น
00:13:01 → 00:13:03 เบาหวานความดันโลหิตสูงที่เรียนให้ทราบ
00:13:03 → 00:13:06 แล้วนะครับอันที่ 3 เองเนี่ยก็คือเป็นใน
00:13:06 → 00:13:09 ส่วนเรื่องของพันธุกรรมอย่างที่บอกคือจะ
00:13:09 → 00:13:12 มีโรคบางโรกที่มีการถ่ายทอดทั้งพันธุกรรม
00:13:12 → 00:13:15 อ่าจะเป็นการถ่ายทอดในส่วนของยีนเด่นหรือ
00:13:15 → 00:13:18 ยีนด้อยก็คือจะถ่ายทอดจากพ่อแม่ปู่ย่าตา
00:13:18 → 00:13:21 ยายมาสู่ตัวผู้ป่วยเองเนี่ยแต่สิ่งเหล่า
00:13:21 → 00:13:24 เนี้คือจะต้องได้รับการตรวจโดยแพทย์เพื่อ
00:13:24 → 00:13:27 ทำการยืนยันว่าเป็นโรคนี้จริงนะครับโรค
00:13:27 → 00:13:30 ที่พบได้บ่อยที่ที่ที่ที่พอมีรายงานก็คือ
00:13:30 → 00:13:34 ในกลุ่มของโรกถุงน้ำไตนะครับค่ะก็คือผู้
00:13:34 → 00:13:37 ป่วยจะมาด้วยอาการแน่นท้องเมื่อไปตรวจพบ
00:13:37 → 00:13:40 อ่าไปพบแพทย์เนี่ยก็จะทำการตรวจก็จะพบว่า
00:13:40 → 00:13:44 ไตเนี่ยกลายไปเป็นถุงน้ำเต็มไปหมดใช่ครับ
00:13:44 → 00:13:48 ทั้ง 2 ข้างแล้วก็คำก้อนนั้นได้ค่ะครับ
00:13:48 → 00:13:50 ที่บอกว่าแน่นท้องนี่คือใช่ครับเป็นถุง
00:13:50 → 00:13:53 น้ำไปแล้วไตใช่ครับเเพราะว่าถ้าคนไข้ยัง
00:13:54 → 00:13:56 ไม่มีอาการยังคำก้อนไม่ได้ส่วนก็ยังไม่
00:13:56 → 00:13:58 รู้ตัวถูกมั้ยครับยกเว้นว่าเคยมีประวัติ
00:13:58 → 00:14:01 ในครอบครัวมาก่อนอซึ่งอันเนี้ยคุณหมอเจะเ
00:14:01 → 00:14:05 ก็จะส่งตรวจอ่าบุตรหลานหรือว่าคุณพ่อคุณ
00:14:05 → 00:14:07 แม่ถูกมั้ยครับถ้าถ้าเคยมีประวัติมาก่อน
00:14:07 → 00:14:10 แต่ถ้าไม่มีโดยส่วนใหญ่ก็มักจะมาโดยโดย
00:14:10 → 00:14:14 ที่ตรวจพบว่ามีก้อนเรียบร้อยและนะครับ
00:14:14 → 00:14:16 กลุ่มเยก็คือจะมีการทำงานของไตที่มันแย่
00:14:16 → 00:14:20 ลงได้นะครับเมื่อติดตามไปอายุที่มากขึ้น
00:14:20 → 00:14:22 นะครับหรือนอกเหนือจากนั้นเนี่ยก็คือจะมี
00:14:23 → 00:14:27 โรคไตบางชนิดอย่างเช่นอ่าโรคที่ไม่ได้
00:14:27 → 00:14:30 เกิดจากตัวไตเองแต่ว่ามาจากโรคที่เป็นจาก
00:14:30 → 00:14:34 ทั่วร่างกายอย่างเช่นอ่าโรค sle หรือที่
00:14:34 → 00:14:37 ในประเทศไทยที่รู้จักกันว่าโรคพุ่มพวงค่ะ
00:14:37 → 00:14:39 นะครับอันเนี้ยก็จะเมื่อไหร่ก็ตามที่มัน
00:14:39 → 00:14:43 มีภูมิอ่าภูมิของตัวเองเไปทำลายออวัยวะ
00:14:43 → 00:14:46 ต่างๆ 1 ในนั้นก็คือไตก็อาจจะมีอาการแล้ว
00:14:46 → 00:14:51 ก็ทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ออนะครับค่ะ
00:14:51 → 00:14:53 สุดท้ายเองเนี่ยปัจจัยเสี่ยงก็คือที่เรา
00:14:53 → 00:14:55 พบกันได้มากขึ้นในปัจจุบันก็คืออาหาร
00:14:55 → 00:14:59 เสริมสมุนไพรรวมถึงยาาบางชนิดที่มีผลต่อ
00:14:59 → 00:15:03 ไตนะครับการรับประทานยาเหล่านี้ในปริมาณ
00:15:03 → 00:15:06 ที่มากและในระยะเวลาที่นานเนี่ยเป็น
00:15:06 → 00:15:11 ปัจจัยที่ทำให้เกิดไตวายได้นะครับบางคน
00:15:11 → 00:15:14 อาจจะเจอเร็วส่วนบางคนคือไม่เคยมีอาการมา
00:15:14 → 00:15:17 ก่อนอมาตรวจพบอีกทีนึงค่าไตการทำงานของไต
00:15:18 → 00:15:21 ลดลงไปเรียบร้อยะโอ้โหแล้วเราไม่รู้ตัว
00:15:21 → 00:15:24 ด้วยใช่ครับเราจะที่ไปกินอาหารเสริมใช่
00:15:24 → 00:15:26 ครับอ้าแล้วอย่างงี้เราจะไปตรวจสอบยังไง
00:15:26 → 00:15:28 ล่ะคะกับอาหารเสริมอะไรต่างๆเหล่านี้เรา
00:15:28 → 00:15:31 ไม่รู้เลยครับจริงๆเนี่ยเราแนะนำว่าในคน
00:15:31 → 00:15:36 ทั่วไปที่ไม่ได้มีภาวะขาดโภชนาการเนี่ย
00:15:36 → 00:15:39 ค่ะเรานว่าอาหาร 5 หมู่เป็นสิ่งที่เพียง
00:15:39 → 00:15:44 พอสำหรับการดำรงชีวิตนะครับค่ะถ้าในคน
00:15:44 → 00:15:46 ปกติเนี่ยก็คือแนะนำว่าให้ดื่มน้ำให้
00:15:46 → 00:15:49 เพียงพอนะครับอาจจะเป็นน้ำเปล่าหรือว่า
00:15:49 → 00:15:52 น้ำต่างๆที่ไม่ใช่สมุนไพรเนี่ยดื่มอย่าง
00:15:52 → 00:15:56 น้อยเนี่ย 1.5 -2 ลิตรต่อวันนะครับหรือ
00:15:56 → 00:15:58 ถ้าเทียบเป็นปริมาณแก้วมาตรฐานก็ประมาณ 6
00:15:58 → 00:16:01 6 ถึง 8 แก้วนะครับหลีกเลี่ยงอาหารที่
00:16:01 → 00:16:05 เป็นอ่าไขมันที่เ้าเรียกว่ากรดไขมันอ่า
00:16:05 → 00:16:09 อิ่มตัวนะครับซึ่งจะพบได้ในพวกไขมันที่มา
00:16:09 → 00:16:13 จากสัตว์อย่างเช่นพวกมันหมูกากหมูหรือว่า
00:16:13 → 00:16:16 น้ำมันที่เป็นน้ำมันปานะครับพวกเพยายาม
00:16:16 → 00:16:20 หลีกเลี่ยงให้ไปให้ไปรับประทานใช้น้ำมัน
00:16:20 → 00:16:22 ที่เป็นส่วนประกอบไขมันที่ไม่อิ่มตัวจะดี
00:16:22 → 00:16:25 กว่านะครับนอกเหนือจากนี้นะการบริโภคผัก
00:16:25 → 00:16:28 และผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมเนี่ยก็จะเป็น
00:16:28 → 00:16:31 ปัจจัยที่ช่วยลดเรื่องของอาการที่จะเกิด
00:16:31 → 00:16:34 อ่าการป้องกันไตเสื่อมได้นะครับที่สำคัญ
00:16:34 → 00:16:38 ที่สุดคืออย่ารับประทานอาหารเค็มนะครับ
00:16:38 → 00:16:40 ปัจจุบันเนี่ยต้องต้องยอมรับอย่างนึงนะ
00:16:40 → 00:16:43 ครับอาหารที่มีรสชาติอร่อยในท้องตลาด
00:16:43 → 00:16:47 เนี่ยส่วนนึงคือมีรสชาติที่เค็มนะครับค่ะ
00:16:47 → 00:16:51 จริงๆเนี่ยอ่า Who เนี่ยแนะนำว่าการรับ
00:16:51 → 00:16:54 ประทานอ่าอาหารในปัจจุบันเนี่ยควรใส่
00:16:55 → 00:16:58 เกลือได้ไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา 1 ช้อนชา
00:16:58 → 00:17:01 ดูเหมือนจะเกินเกินใช่ครับดังนั้นเนี่ยใน
00:17:01 → 00:17:04 คนปกติเนี่ยไตมันยังทำงานได้ดีอยู่ดัง
00:17:04 → 00:17:07 นั้นเการรับประทานเกลือเข้าไปได้ร่างกาย
00:17:07 → 00:17:10 ก็ขับออกได้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ภาวะไต
00:17:10 → 00:17:14 วายอ่าเรื้อรังเนี่ยเริ่มเกิดขึ้นเวลาที่
00:17:14 → 00:17:16 รับประทานเค็มเข้าไปเนี่ยร่างกายก็ขับออก
00:17:16 → 00:17:18 มาไม่ได้ดังนั้นเนี่ยมันเลยทำให้เกิด
00:17:18 → 00:17:22 อาการบวมขึ้นอืนะครับโอ้โหน่ากนอกเหนือ
00:17:22 → 00:17:24 จากเกลือเนี่ยก็จะมีส่วนประกอบอาหารที่มี
00:17:24 → 00:17:28 รสชาติเค็มอย่างเช่นอ่าซีอิ๊วน้้ำปลาค
00:17:28 → 00:17:32 พันธุ์ที่มีส่วนของกะปิหรือว่าผงชูรสอ
00:17:32 → 00:17:34 สิ่งต่างๆเหล่าเนี้ยก็จะเป็นสารที่ให้
00:17:34 → 00:17:37 ความเค็มอยู่ะนะครับงั้นเราแนะนำว่าอ่อน
00:17:37 → 00:17:40 เค็มลงหน่อยแต่ว่าไปเพิ่มรสชาติอย่างอื่น
00:17:40 → 00:17:44 เช่นความเปรี้ยวอ๋อนะครับหรือถ้าในคนไข้
00:17:44 → 00:17:45 บางคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของกระเพาะ
00:17:46 → 00:17:48 อาหารที่อักเสบอะไรพวกเนี้ยก็อาจจะเพิ่ม
00:17:48 → 00:17:51 รสชาติเผ็ดได้นะครับแต่ว่ายังไงก็ตาม
00:17:51 → 00:17:54 เนี่ยเรื่องเค็มเนี่ยควรจะลดลงนะครับเคย
00:17:54 → 00:17:58 มีคำแนะนำบอกว่าเวลาที่เรารับประทานอาหาร
00:17:58 → 00:18:03 ที่นอกบ้านเนี่ยสิ่งที่ควรจะเติมจาก
00:18:03 → 00:18:05 เครื่องปรุงเนี่ยมีได้อย่างเดียวคือพริก
00:18:05 → 00:18:09 ไทยครับโโแล้วจะไหวกันเหรอคะครับเพราะว่า
00:18:09 → 00:18:12 คืออาหารที่เขาปรุงมาจากอ่าพวกนี้เี่คือ
00:18:13 → 00:18:16 เขาจะมีการใส่ความเค็มความหวานมาพอสมควร
00:18:16 → 00:18:18 และนะครับดังนั้นเนี่ยคือสิ่งที่ดีที่สุด
00:18:18 → 00:18:22 คือพยายามปรับนิสัยใช่อือฮึอันที่ 1 คือ
00:18:22 → 00:18:26 ชิมก่อนปรุงค่ะอันที่ 2 ถ้าคิดว่า
00:18:26 → 00:18:31 อ่าสิ่งอาหารรสชาติต่างๆเหล่าเนี้ยรสชาติ
00:18:31 → 00:18:34 จัดอยู่ะก็อย่าไปเติมค่ะนะครับเครื่อง
00:18:34 → 00:18:38 ปรุงเอ่อแต่เราแนะนำว่าอาจต้องปรับนิสัย
00:18:38 → 00:18:41 อันนี้เนี่ยจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะครับ
00:18:41 → 00:18:45 หรือในก๋วยเตี๋ยวเองเนี่ยก็จะมีน้ำใสกับ
00:18:45 → 00:18:48 น้ำข้นที่เขาใส่ซีอิ๊วดำหรือว่าซีอิ๊ว
00:18:48 → 00:18:50 หวาดเข้าไปเยอะดังนั้นเนี่ยก็แนะนำว่าก็
00:18:50 → 00:18:52 ปรับการรับประทานอย่างเช่นเป็นก๋วยเตี๋ยว
00:18:52 → 00:18:55 น้ำใสค่ะหรือรับประทานเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง
00:18:55 → 00:18:59 ก็ได้อ๋อจะได้ไม่ไม่ไปเคตซุเพราะว่าในใน
00:18:59 → 00:19:02 คนไข้โรกไตเองเนี่ยผมจะแนะนำให้คนไข้
00:19:02 → 00:19:06 พยายามไม่ไม่ไม่รับประทานน้ำซุปนะครับ
00:19:06 → 00:19:08 ครับแต่ถ้าน้ำซุปอร่อยนี้โอ้โหไม่ต้อง
00:19:08 → 00:19:11 ปรุงก็ได้กินได้หมดเลยน้ำซุปถึงแม้จะแข็ง
00:19:11 → 00:19:15 แรงใช่ครับแต่การทำงานของไตมันก็จะลดลงลง
00:19:15 → 00:19:17 ไปเรื่อยๆลแนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีครับ
00:19:17 → 00:19:20 แล้วตรวจคัดกรองอืตรงนี้อันนี้คือสำคัญ
00:19:20 → 00:19:22 เลยใช่มั้ยคะใช่ครับแต่ผมขออนุญาตเพิ่ม
00:19:22 → 00:19:26 ข้อมูลนิดนึงนะครับคืออย่างที่บอกคือถึง
00:19:26 → 00:19:28 แม้ว่าการทำงานของไตเนี่ยเมื่ออายุมาก
00:19:29 → 00:19:31 ขึ้นเนี่ยมันจะเสื่อมลง 1% เนี่ยแต่
00:19:31 → 00:19:33 เนื่องจากว่าไตเราเป็นอวัยวะที่พิเศษ
00:19:33 → 00:19:37 อย่างหนึคือเรามีไตอยู่ 2 ข้างค่ะดังนั้น
00:19:37 → 00:19:40 เนี่ยการทำงานของไตเนี่ยอ่าจะช่วยกันทำ
00:19:40 → 00:19:44 งานออในแต่ละข้างเนี่ยเขาจะทำงานอยู่ 70%
00:19:44 → 00:19:46 ค่ะนั่นคือหมายถึงว่าสาเหตุทำไมเวลาที่คน
00:19:46 → 00:19:50 ไข้มีเพียง 1 ไตไตข้างเดียวถึงยังทำงาน
00:19:50 → 00:19:54 ได้ปกติอยู่นะครับเพราะว่าไตเนี่ยเวลาที่
00:19:54 → 00:19:56 เขายังมีความปกติอยู่เนี่ยเขาจะไม่ได้ทำ
00:19:56 → 00:19:59 งานเต็มที่ในแต่ละข้างอ้าเหรอคะใช่ครับ
00:19:59 → 00:20:02 คือหมายถึงว่าข้างนึงจะทำงาน 70% ข้างนึง
00:20:02 → 00:20:04 จะทำงาน 70% แต่เมื่อมันรวมกันมันกลาย
00:20:04 → 00:20:08 เป็น 100% อ๋อเกินรอยด้วยใช่ครับอ่าเพียง
00:20:08 → 00:20:11 แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เวลาไตเสื่อม
00:20:11 → 00:20:14 เนี่ยจุดเริ่มต้นเนี่ยมันอาจจะยังไม่ได้
00:20:14 → 00:20:17 แสดงเห็นเพราะว่าไตทั้ง 2 ข้างก็ยังช่วย
00:20:17 → 00:20:19 กันทำงานอยู่อืแต่พอสักพักนึงเนี่ยเมื่อ
00:20:19 → 00:20:22 การทำงานของไตมันลดลงมากขึ้นเนี่ยพอ 2
00:20:22 → 00:20:25 ข้างทำงานเนี่ยมันทำงานได้ไม่ถึง 100%
00:20:25 → 00:20:27 มันจะค่อยๆลดแต่ถ้าเกิดว่ามันลงไปเยอะ
00:20:27 → 00:20:30 ครับจะมีอะไรบอกได้มั้ยคะในในร่างกายของ
00:20:30 → 00:20:33 เราที่จะแสดงออกมาอาการที่เราจะพบได้นะ
00:20:33 → 00:20:35 ครับในคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของ
00:20:35 → 00:20:38 ไตลดลงเนี่ยอย่างเช่นภาวะบวมบวมน้ำเนื่อง
00:20:38 → 00:20:42 จากไตเนี่ยมีหน้าที่ในการขับเกลือแร่ขับ
00:20:42 → 00:20:45 น้ำออกจากในร่างกายในส่วนเกินที่เรารับ
00:20:45 → 00:20:49 ประทานเข้าไปถูกมั้ยครับเวเราดื่มน้ำก็จะ
00:20:49 → 00:20:51 มีการปัสสาวะออกมาเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตทำ
00:20:51 → 00:20:55 งานได้ลดลงคนไข้ก็จะบวมส่วนเริ่มแรกก็คือ
00:20:55 → 00:20:58 จะบวมที่ขาทั้ง 2 ข้างนะครับเป็นบวมปด
00:20:58 → 00:21:00 บุ๋มหลังจากนั้นเนี่ยเมื่อบวมมากขึ้นบาง
00:21:00 → 00:21:02 คนอาจจะมีปัญหาเรื่องของการหายใจที่ผิด
00:21:02 → 00:21:05 ปกติเพราะว่ามีน้ำท่วมปอดหรือว่าจะมี
00:21:05 → 00:21:09 เรื่องของหนังตาเปลือกตาที่บวมอันนี้จะ
00:21:09 → 00:21:12 เป็นอาการที่สังเกตได้ง่ายๆนะครับสิ่งที่
00:21:12 → 00:21:16 2 ก็คือปัสสาวะเป็นฟองหะใช่ใช่ครับปกติ
00:21:16 → 00:21:18 เนี่ยเราจะมีปัสสวะเป็นฟองอยู่แล้วะแต่
00:21:18 → 00:21:20 เมื่อไหร่ก็ตามที่สังเกตว่าเอ๊สมัยก่อน
00:21:21 → 00:21:23 เราราดน้ำแค่ครั้งเดียวค่ะแต่ว่าพอหลัง
00:21:23 → 00:21:26 จากนั้นเนี่ยทำไมช่วงนี้ราด 2-3 ครั้ง
00:21:26 → 00:21:28 แล้วเนี่ยยังมีฟองอยู่เลยอันเนี้ยเป็น
00:21:28 → 00:21:31 ปัญหาที่เราต้องไปหานะครับเพราะว่าสิ่ง
00:21:31 → 00:21:33 ที่ออกมากับปัสสาวะเป็นฟองเนี่ยคือโปรตีน
00:21:33 → 00:21:37 ที่ลั่วออกมาในปัสสาวะอ้าวนะครับหรือนอก
00:21:37 → 00:21:38 เหนือจากนั้นเนี่ยอาการที่อาจจะมีความ
00:21:38 → 00:21:41 ปกติได้ก็อย่างเช่นเรื่องของปัสสาวะเป็น
00:21:41 → 00:21:44 สีเลือดหรือว่าเป็นสีเลือดสดนะครับ
00:21:44 → 00:21:47 อันเนี้ยคือผิดปกติค่ะหรือในระยะท้ายๆ
00:21:47 → 00:21:49 เนี่ยก็จะมีความผิดปกติของการสร้าง
00:21:49 → 00:21:52 ฮอร์โมนบางชนิดได้เพราะเนื่องจากว่าไตเอง
00:21:52 → 00:21:54 เนี่ยเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนด้วยค่ะที่
00:21:54 → 00:21:58 สำคัญคืออ่าเป็นฮอร์โมนอิริพอยอิตินอัน
00:21:58 → 00:22:01 นี้เี่เป็นการสร้างเม็ดเลือดแดงเมื่อไหร่
00:22:01 → 00:22:03 ก็ตามที่ขาดตรงนี้ปุ๊บร่างกายก็จะมีภาวะ
00:22:03 → 00:22:09 ซีดตามมานะครับสุดท้ายเองไตเปลี่ยนการทำ
00:22:09 → 00:22:13 งานของวิตามินดีให้กลายเป็นในรูปที่ทำงาน
00:22:13 → 00:22:15 นะครับเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตเสื่อมลงเนี่ย
00:22:15 → 00:22:17 การเปลี่ยนวิตามินดีให้เป็นรูป Active
00:22:17 → 00:22:20 form เนี่ยมันจะน้อยลงพอน้อยลงปุ๊บมันทำ
00:22:20 → 00:22:23 ให้เกิดปัญหาเรื่องของภาวะมวลกระดูกเกิด
00:22:23 → 00:22:26 เรื่องของกระดูกพรุนได้ดังนั้นเนี่ยในคน
00:22:26 → 00:22:28 สูงอายุหรือว่ายังไม่สูงอายุแต่ว่ามี
00:22:28 → 00:22:31 ปัญหาเรื่องกระดูกพุนเค้าก็จะต้องเวิร์ค
00:22:31 → 00:22:34 หาสาเหตุเรื่องของไตด้วยนะครับออโอ้โห
00:22:34 → 00:22:37 หลายอย่างมากจริงๆนะคะคุณหมอคะอันนี้ถาม
00:22:37 → 00:22:40 นิดนึงเรื่องของปัสสาวะที่ถ้าถ้ามันเป็น
00:22:40 → 00:22:44 สีเลือดสีเข้มๆอันเนี้ยผิดปกติผิดปกติ
00:22:44 → 00:22:46 ครับถ้าอย่างสีเข้มๆอย่างการดื่มน้ำน้อย
00:22:46 → 00:22:49 หรืออะไรพวกเยมันจะนำไปสู่ในอนาคตได้มั้ย
00:22:49 → 00:22:52 คะที่ว่าจะทำให้ไตเสื่อมมันต้องนานแค่ไหน
00:22:52 → 00:22:55 หรืออะไรังไงมั้ยคะครับอ่าในกลุ่มที่รับ
00:22:55 → 00:22:59 ประทานน้ำน้อยเนี่ยร่างกายก็พยายามที่จะ
00:22:59 → 00:23:02 ปรับตัวโดยการขับปัสสาวะออกมาจำนวนน้อย
00:23:02 → 00:23:04 อ๋อดังนั้นเนี่ยสีเลยเข้มขึ้นถูกมั้ยคะ
00:23:04 → 00:23:07 เพราะร่างกายพยายามเก็บน้ำอือฮึในกลุ่ม
00:23:07 → 00:23:10 เนี้ยถ้าไม่ได้น้อยเกินไปร่างกายก็ถือว่า
00:23:10 → 00:23:12 เป็นการปรับตัวยังไม่มีปัญหาแต่เมื่อไหร่
00:23:12 → 00:23:17 ก็ตามที่ทำแบบเนี้ยนานๆแล้วร่างกายดันมี
00:23:17 → 00:23:20 ภาวะผิดปกติจากสาเหตุอื่นร่วมด้วยอือมัน
00:23:20 → 00:23:22 จะยิ่งทำให้การทำงานของไตเนี่ยแย่ลงได้
00:23:23 → 00:23:26 เร็วนะครับเหมือนเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้
00:23:26 → 00:23:30 เกิดโรคไตตามมาได้นะครับนั้นจึงมีคำแนะนำ
00:23:30 → 00:23:32 ว่าไม่ควรที่ดื่มน้ำน้อยกว่า 1.5 -2
00:23:32 → 00:23:37 ลิตรอืในคนปกตินะครับแต่ถ้าในคนที่มีโรค
00:23:37 → 00:23:40 อื่นๆเช่นโรคหัวใจมีปัญหาเรื่องของการบีบ
00:23:40 → 00:23:42 ตวงหัวใจพวกเนี้ยเขาอาจจะต้องจำกัดน้ำมาก
00:23:42 → 00:23:46 ขึ้นนะครับแต่ว่าถ้าในคนที่ไม่ได้มีอาการ
00:23:46 → 00:23:49 หรือว่ายังไม่ได้เป็นโรคไตเนี่ยผมก็ยัง
00:23:49 → 00:23:52 ยืนยันว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
00:23:52 → 00:23:54 คือ 1.5 ลิตรถึง 2 ลิตรเนี่ยเป็นสิ่งที่
00:23:54 → 00:23:58 ดีครับค่ะภาวะไตวายอ่าอ่าถามเป็นความรู้
00:23:58 → 00:24:00 ว่ามันมันเป็นภาวะเดียวเลยมั้ยคะหรือว่า
00:24:00 → 00:24:04 มันมีแบ่งย่อยอะไรอีกมั้ยครับภาวะไต
00:24:04 → 00:24:06 เสื่อมเนี่ยแบ่งเป็นเฉียบพลันกับเรื้อรัง
00:24:06 → 00:24:09 นะครับอันนี้เป็นกลุ่มใหญ่ๆแต่สาเหตุ
00:24:09 → 00:24:12 เนี่ยมีได้หลากหลายสาเหตุนะครับแต่ใน
00:24:12 → 00:24:16 กลุ่มที่มีความสำคัญเนี่ยคือในกลุ่มของไต
00:24:16 → 00:24:20 วายเรื้อรังค่ะที่เคยเรียนให้ทราบว่าใน
00:24:20 → 00:24:26 ประเทศไทยเนี่ยมีการสำรวจพบว่าประชากรที่
00:24:26 → 00:24:28 เดินมา 6 คนเนี่ยอือฮือ 1 คนจะเป็นไตวาย
00:24:28 → 00:24:32 เรื้อรังอืนะครับค่ะไม่ว่าจากสาเหตุใดๆก็
00:24:33 → 00:24:36 ตามแต่เราพบว่า 1 คนจาก 6 คนก็คือประมาณ
00:24:36 → 00:24:40 16% เนี่ยคนไข้เหล่าเนี้ยมีภาวะเรื่อง
00:24:40 → 00:24:43 ของไตเสื่อมเรื้อรังอยู่อืนะครับซึ่ง
00:24:43 → 00:24:45 กลุ่มเนี้ยเป็นกลุ่มที่ที่สำคัญเพราะว่า
00:24:45 → 00:24:48 อย่างที่บอกคือเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตวาย
00:24:48 → 00:24:51 เรื้อรังเนี่ยอ่าเป็นมากขึ้นเราจะแบ่ง
00:24:51 → 00:24:54 เป็น 5 ระยะนะครับระยะที่ 1 ที่ 2 เนี่ย
00:24:54 → 00:24:57 อาจจะยังไม่แสดงอาการอ่าระยะที่ 3 4
00:24:57 → 00:25:00 เนี่ยเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนค่ะระยะที่ 5
00:25:00 → 00:25:03 เนี่ยไตทำงานไม่เพียงพอจำเป็นที่ต้องได้
00:25:03 → 00:25:06 รับการบำบัดทดแทนไตค่ะดังนั้นเนี่ยใน
00:25:06 → 00:25:08 กลุ่มที่เป็นระยะที่ 3 4 5 จำเป็นที่จะ
00:25:08 → 00:25:10 ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะกับ
00:25:11 → 00:25:14 อายุรแพทย์โลคไตนะครับค่ะในกลุ่มนี้อ๋อ 1
00:25:14 → 00:25:18 2 นี่ยังไม่แสดงอาการใช่ครับ 3 4 เริ่ม
00:25:18 → 00:25:20 มีภาวะแทรกซ้อนเริมมีภาวะแทรกซ้อน 5 นี่
00:25:20 → 00:25:24 คือต้องมีการเริ่มมีการทำบำบัดทดแทนไปอื
00:25:25 → 00:25:28 การจะก้าวไปสู่ 3 4 1 2 ว่าไม่มีอาการ
00:25:28 → 00:25:31 3 4 มันจะบอกอะไรมีอาการอะไรออกมาให้
00:25:31 → 00:25:34 เรารู้บ้างมั้ยคะครับอันที่ 1 เลยจากการ
00:25:34 → 00:25:37 ตรวจสุขภาพนะครับบางคนเนี่ยไม่มีแสดง
00:25:37 → 00:25:41 อาการเลยแต่ว่ามาตรวจพบค่าไตว่ามีปัญหาใน
00:25:41 → 00:25:44 ระยะที่ 3 ในระยะที่ 4 แล้วหรือในคนไข้
00:25:44 → 00:25:47 บางคนมีโรคเรื้อรังติดตามมาโดยตลอดตอนแรก
00:25:47 → 00:25:50 ไตยังดีอยู่พอตามมาสักระยะนึงไตเริ่มวาย
00:25:50 → 00:25:54 มากขึ้นอืหรือในระยะที่ 3 คนไข้ที่มี
00:25:54 → 00:25:57 ปัญหาเรื่องของโรคทางพันธุกรรมค่ะพอสัก
00:25:57 → 00:26:00 วันวันนึงเนี่ยไตเทำงานได้ลดลงก็จะมาอยู่
00:26:00 → 00:26:02 ในระยะที่ 3 กับ 4 ดังนั้นเนี่ยการดำเนิน
00:26:02 → 00:26:05 โลกของแต่ละสาเหตุจะไม่เหมือนกันค่ะแต่
00:26:05 → 00:26:07 เรารู้ว่าในระยะที่ 3 กับในระยะที่ 4
00:26:07 → 00:26:11 เนี่ยเริ่มมีอาการและเริ่มมีภาวะแทรกสอน
00:26:11 → 00:26:13 ค่ะในคนไข้กลุ่มเหล่าเนี้ยจำเป็นที่ต้อง
00:26:13 → 00:26:16 รับการดูแลอย่างดีอือเพื่อไม่ให้กลายไป
00:26:16 → 00:26:19 เป็น 5 อย่างรวดเร็วอย่างรวดใช่ครับอย่าง
00:26:19 → 00:26:23 รวดเร็วแสดงว่ามันถ้าดูแลอย่างดีครับก็จะ
00:26:23 → 00:26:27 ไปเป็น 5 อย่างช้าๆใช่ครับเมื่อไหร่ก็ตาม
00:26:27 → 00:26:29 ที่เป็นไไตวายเรื้อรังแล้วเนี่ยจะไม่กลับ
00:26:29 → 00:26:33 ไปเป็นปกติอแต่เราสามารถชะลอไม่ให้กลายไป
00:26:33 → 00:26:37 เป็นในระยะสุดท้ายค่ะอย่างรวดเร็วคุณหมอ
00:26:37 → 00:26:40 บอกว่าไตมี 2 ข้างใช่ครับทำงานข้างละ 70%
00:26:40 → 00:26:43 อร 30% มันหายไปไหนอ่ะคะครับมันยังไม่ทำ
00:26:43 → 00:26:46 งานมันก็เก็บของมันเอาไว้อ้อใช่ครับเพราะ
00:26:46 → 00:26:49 ว่าแต่ละอย่างเช่นข้างนี้ทำงาน 70% ข้าง
00:26:49 → 00:26:51 นี้ทำงาน 70% สุดท้ายผลรวมมันก็คือเกิน
00:26:51 → 00:26:53 100 100% ถูกมั้ยครับดังนั้นเนี่ยมันก็
00:26:53 → 00:26:56 ไม่จำเป็นต้องทำงานเต็มที่่ค่ะอ๋อแบ่งกัน
00:26:56 → 00:26:59 ทำงานใช่ครับเบาๆกันไปใช่ครับแต่ถ้ามันลง
00:26:59 → 00:27:01 ลงลงลงลงเมื่อไรมันลงมาแล้วเนี่ยปุ๊บคราว
00:27:01 → 00:27:03 เนี้ยทั้ง 2 ข้างต้องทำงานเต็มที่ละเอา
00:27:03 → 00:27:06 ไอ้ 30% ที่ยังไม่ได้ใช้เนี่ยเอามาใช้ซะ
00:27:06 → 00:27:08 เต็มที่แต่ปัญหาของมันก็คือว่าในเมื่อไต
00:27:08 → 00:27:10 มันเสื่อมมันก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มร้อย
00:27:11 → 00:27:13 ทั้ง 2 ข้างบวกกันก็ยังไม่เต็มร้อยใช่
00:27:13 → 00:27:17 โอ้โหอ้าแล้วอย่างงั้นคือถ้าเราจะชะลอ
00:27:17 → 00:27:20 ชะลอนะครับก็คืออันที่ 1 เลยต้องตรวจพบ
00:27:20 → 00:27:23 ก่อนว่าว่าคนไข้เป็นโรคไตหรือเปล่าถูก
00:27:23 → 00:27:25 มั้ยครับค่ะการตรวจก็อย่างที่บอกก็คือยัง
00:27:25 → 00:27:28 คงเน้นย้ำเรื่องของการตรวจคัดกรอง
00:27:28 → 00:27:31 นะอันที่ 2 เนี่ยคือถ้ารู้แล้วว่าเป็นโรค
00:27:31 → 00:27:34 ไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราจะแนะนำให้คนไข้
00:27:34 → 00:27:37 ต้องดูแลตัวเองนะครับโดยเฉพาะระยะที่ 3
00:27:37 → 00:27:39 ระยะที่ 4 เนี่ยยังเป็นระยะที่ยังชะลอได้
00:27:39 → 00:27:42 อยู่ค่ะคนไข้เหล่านี้นคือจะต้องได้รับการ
00:27:42 → 00:27:45 ควบคุมอาหารออันที่ 1 คือไม่รับประทาน
00:27:45 → 00:27:49 เค็มค่ะอันที่ 2 ก็คือมีเกลือแร่บางตัว
00:27:49 → 00:27:52 เริ่มมีปัญหาอย่างเช่นฟอสฟอรัสแคลเซียม
00:27:52 → 00:27:55 หรือว่าวิตามินดีอือหรือว่าพาราไทร
00:27:55 → 00:27:57 ฮอร์โมนกลุ่มเนี้ก็จะมีอาหารเฉพาะที่เ
00:27:57 → 00:27:59 ต้องมาเรียนรู้ว่าเาจะต้องหลีกเลี่ยง
00:27:59 → 00:28:02 อาหารประเภทไหนรับประทานอาหารประเภทไหน
00:28:02 → 00:28:05 ได้นะครับอันที่ 3 เนี่ยคือต้องดูแลโรค
00:28:05 → 00:28:07 ร่วมให้ดีๆเพราะเรายังรู้ว่าอย่างที่
00:28:07 → 00:28:10 เรียนให้ทราบว่าโรคเบาหวานโรคความดันนั้น
00:28:10 → 00:28:13 ส่งผลมาถึงโรคไตดังนั้นต้องควบคุมปัจจัย
00:28:13 → 00:28:15 เสี่ยงเหล่าเนี้ยให้ดีนะครับแล้วที่ไม่
00:28:16 → 00:28:20 ควรมองข้ามก็คือเรื่องของการสูบบุหรี่ออ
00:28:20 → 00:28:22 เรารู้ว่าบุหรี่เนี่ยเป็นตัวที่ทำให้การ
00:28:23 → 00:28:25 ดำเนินโลคของไตเนี่ยเสียได้อย่างรวดเร็ว
00:28:25 → 00:28:28 ขึ้นดังนั้นเนี่ยจะแนะนำเสมอครับว่าอยาก
00:28:28 → 00:28:31 ให้หยุดการสุกบุหรี่ให้หยุดเลยนะอันนี้
00:28:31 → 00:28:33 ไม่ใช่ว่าค่อยๆลดไปนะใช่ครับไม่ใช่ค่อยๆ
00:28:33 → 00:28:35 ลดครับต้องหยุดต้องหยุดบุหรี่หยุดสุดท้าย
00:28:35 → 00:28:39 เองเนี่ยก็คือทำการรักษาควบคู่ก็คือเป็น
00:28:39 → 00:28:42 การรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นค่ะทั้ง
00:28:42 → 00:28:45 เรื่องความดันโลหิตสูงทั้งเรื่องของอ่า
00:28:45 → 00:28:49 การกระตุ้นเม็ดเลือดแดงค่ะให้กลับมาในใน
00:28:49 → 00:28:53 อยู่ในภาวะที่ปกตินะครับรวมถึงการสอนญาติ
00:28:53 → 00:28:58 และครอบครัวเป็นการให้ความรู้แก่คนไข้ว่า
00:28:58 → 00:29:03 อือที่ค่ะดังนั้นเราต้องเริ่มวางแผนว่าคน
00:29:03 → 00:29:06 ไข้เหล่าเนี้ยจะเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไต
00:29:06 → 00:29:09 ชนิดไหนอ๋อมีมีให้เลือกได้ใช่ครับใช่มคะ
00:29:09 → 00:29:12 อือันนี้เดี๋ยวขออนุญาตค่ะคุณหมอพอดีว่า
00:29:12 → 00:29:16 คุณน้าเป็นแล้วคุณหมอก็สั่งห้ามเลยว่าอา
00:29:16 → 00:29:18 ล่ะช่วงนี้งดเค็มแน่ๆนะเพราะว่าคือเบา
00:29:18 → 00:29:22 หวานส่งผลมาที่ตายตอนแรกเอ่อคุมระดับเบา
00:29:22 → 00:29:25 หวานได้เป็นอย่างดีก็ดูแลมาอย่างดีอยู่ๆ
00:29:25 → 00:29:28 วันนึงไม่รู้ไปทำยังไง่าเบาหวาน
00:29:28 → 00:29:30 แย่ลงนะคะปรากฏว่ามันก็มีผลกับเรื่องของ
00:29:31 → 00:29:34 ไตทีนี้คุณหมอก็เลยห้ามอ่ะห้ามเค็มนะผัก
00:29:34 → 00:29:38 ผลไม้ไม่ให้กินเลยอ่าต้องเรียนให้ทราบ
00:29:38 → 00:29:41 ก่อนนะครับว่ามันจะมีเกลือแร่บางตัวที่มี
00:29:41 → 00:29:44 ปัญหาดังนั้นต้องทราบก่อนว่าในคนไข้โรกไต
00:29:44 → 00:29:47 เนี่ยมีปัญหาเรื่องของค่าโปแทสเซียมที่
00:29:47 → 00:29:49 สูงหรือเปล่าอืหรือว่ามีเรื่องของ
00:29:49 → 00:29:52 ฟอสฟอรัสที่สูงหรือเปล่าค่ะจะมีอาหารบาง
00:29:52 → 00:29:54 ประเภทที่เราไม่แนะนำให้รับประทานอย่าง
00:29:54 → 00:29:58 เช่นค่ะอาหารที่มีโปแทสเซียมสูงค่ะได้แก
00:29:58 → 00:30:03 ผลมนะครับผลไม้ที่เจอได้บ่อยที่ที่พบเยอะ
00:30:03 → 00:30:06 นะครับในโปแทสเซียมก็คือกล้วยทุกชนิด
00:30:06 → 00:30:12 โอหง่ายเลยนะลำทุเรียนโนะครับแก้วมังกระ
00:30:12 → 00:30:15 แก้วมังกรจืดๆเนี่ยนะคะใช่ครับในกลุ่ม
00:30:15 → 00:30:17 เหล่านี้เราพบว่าโปแทสเซียมค่อนข้างสูง
00:30:17 → 00:30:19 ค่ะนะครับแต่ก็จะมีไม่กี่ชนิดที่
00:30:19 → 00:30:22 โปแทสเซียมไม่ได้สูงมากอย่างเช่นแตงโมอื
00:30:22 → 00:30:25 แตงโมเนี่ยโปแทสเซียมน้อยนะครับหรือผัก
00:30:25 → 00:30:27 บางชนิดเองก็เป็นตัวที่ทำให้เกิด
00:30:27 → 00:30:31 โปแตสเซียมสูงได้อย่างเช่นคะน้าค่ะผักใบ
00:30:31 → 00:30:36 ยอดโอ้โหชะเอมค่ะชะอมค่ะนะครับสิ่งต่างๆ
00:30:36 → 00:30:38 เหล่าเนี้ยคือทำให้โปแทสเซียมสูงได้ดัง
00:30:38 → 00:30:42 นั้นเนี่ยอ่าหมอคิดว่าเราคงจำไม่ได้ทุก
00:30:42 → 00:30:45 ชนิดแต่เราสามารถที่จะเปิดหาข้อมูลใน
00:30:45 → 00:30:48 อินเทอร์เน็ตได้ก็ลองหาดูว่าอาหารที่มี
00:30:48 → 00:30:52 โปแทสเซียมสูงเหล่าเนี้ยควรที่จะงดนะครับ
00:30:52 → 00:30:55 อันต่อมาก็คือฟอสฟอรัสเรารู้ว่าในคนไข้
00:30:55 → 00:30:58 ที่เป็นไตเสื่อมเลือเื้อรังในระยะท้าย
00:30:58 → 00:31:01 เนี่ยเขาจะไม่สามารถที่จะขับฟอสฟอรัสได้
00:31:01 → 00:31:03 นะครับดังนั้นเนี่ยก็จะมีอาหารบางชนิด
00:31:03 → 00:31:08 อย่างเช่นถั่วงาธัญพืชของหมักดองอาหาร
00:31:08 → 00:31:12 กระป๋องกุนเชียงโอ้หรือพวกเนี้ยอาหารที่
00:31:13 → 00:31:15 มีโปรตที่มีฟอสฟอรัสสูงเนี่ยค่ะคุณหมอ
00:31:16 → 00:31:19 เขาคก็จะแนะนำให้ให้ให้งดนะครับแต่ก็จะมี
00:31:19 → 00:31:21 อาหารอีกหลายๆชนิดเช่นเดียวกันที่สามารถ
00:31:21 → 00:31:23 ที่รับประทานได้ดังนั้นเนี่ยคือเมื่อไหร่
00:31:24 → 00:31:26 ก็ตามที่เป็นไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราจะ
00:31:26 → 00:31:28 มีคลินิกไตเื่อเมเรื้อลังซึ่งตรรงนี้นี่
00:31:28 → 00:31:32 แหละจะเป็นการดูแลคนไข้แบบองค์รวมอ๋อจะมี
00:31:32 → 00:31:34 นักโภชนาการเข้ามาช่วยดูแลเรื่องของอาหาร
00:31:35 → 00:31:38 ค่ะจะมีนักเภสัชวิทยาเนี่ยคุณเภสัชเนี่ย
00:31:38 → 00:31:41 เาจะช่วยดูเรื่องของยาค่ะเพราะว่าคนไข้
00:31:41 → 00:31:43 โรคไตเนี่ยผมเชื่อแน่นอนว่าต้องรับยามาก
00:31:43 → 00:31:46 กว่า 1 ที่ค่ะนะครับต่างๆเหล่าเนี้ยเขาจะ
00:31:46 → 00:31:48 มาช่วยดูให้ว่ายาไหนมีประโยชน์ยาไหนที่มี
00:31:48 → 00:31:51 ผลต่อไตแล้วก็ช่วยคัดกรองอแล้วก็พบกับนัก
00:31:51 → 00:31:54 โภชนาการนะครับหรือนอกเหนือจากนี้เนี่ยก็
00:31:54 → 00:31:58 จะมีทีมคุณพยาบาลที่ช่วยสอนว่าเอาล่ะคน
00:31:58 → 00:32:00 ไข้เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราต้อง
00:32:00 → 00:32:03 ดูแลสุขภาพอย่างไรต้องฉีดวัคซีนอะไรหรือ
00:32:03 → 00:32:05 เปล่าสุดท้ายแล้วเนี่ยเมื่อไตเสื่อมไป
00:32:05 → 00:32:07 เนี่ยเรามีการบำบับทดแทนไตยังไงค่ะ
00:32:07 → 00:32:10 อันเนี้ยนะครับในคนไข้ไตไตวายเรื้อรัง
00:32:10 → 00:32:13 เนี่ยผมแนะนำว่าให้เข้าสู่คลินิกไตวาย
00:32:13 → 00:32:16 เรื้อรังเสมออ๋อจะเป็นเฉพาะทางไปเลยใช่
00:32:16 → 00:32:19 ครับในปัจจุบันเนี่ยคือทุกโรงพยาบาลของ
00:32:19 → 00:32:21 ทุกจังหวัดเนี่ยจะมีคุณหมอไตอยู่ะค่ะแล้ว
00:32:21 → 00:32:24 ก็จะมีคลินิกไตเสื่อมเรื้อรังเพื่อดูแลคน
00:32:24 → 00:32:27 ไข้กลุ่มนี้โดยเฉพาะค่ะนะครับจุดประสงค
00:32:27 → 00:32:30 หลักของเาเลยคือการชะลอไม่ให้ไตเสื่อมอื
00:32:30 → 00:32:32 อย่างรวดเร็วครับเดี๋ยวให้คุณหมอได้ได้
00:32:32 → 00:32:35 ได้เล่าให้ฟังหน่อยครับสำหรับในส่วนของ
00:32:35 → 00:32:38 ถ้าเกิดว่าคลินิกอ่าคลินิกในการบำบัดใช่
00:32:38 → 00:32:41 มั้ยคะเป็นเป็นแบบนี้ครับเราจะแยกคลินิก
00:32:41 → 00:32:44 ออกเป็น 2 ส่วนอืในคนไข้ที่เป็นไตเสื่อม
00:32:44 → 00:32:47 เรื้อรังเนี่ยค่ะเขาเรียกว่าจะเข้าพบคุณ
00:32:47 → 00:32:51 หมอที่เป็นอายุรแพทย์โรคไตนะครับในแต่ละ
00:32:51 → 00:32:54 โรงพยาบาลที่มีความพร้อมบางที่จะจัดตั้ง
00:32:54 → 00:32:57 เป็นคลินิกไตเสื่อมเลื้อรังคลินิกไต
00:32:57 → 00:33:00 เสื่อมเรือรังครับบางที่จะจัดให้ตรวจกับ
00:33:00 → 00:33:04 คุณหมอโลกไตแต่ก็จะมีทีมสหสาขาวิชาชีพ
00:33:04 → 00:33:07 ช่วยดูตรงนี้ให้อยู่อ๋อนะครับเบื้องต้น
00:33:07 → 00:33:09 เลยเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นไตเสื่อมเรื้อ
00:33:09 → 00:33:13 รังเนี่ยผมจะแนะนำให้เข้าไปพบคุณหมอไต
00:33:13 → 00:33:17 ก่อนค่ะเสมอนะครับเพื่อร่วมดูแลในจุดนี้อ
00:33:17 → 00:33:20 ค่ะเมื่อไหร่ก็ตามที่การดูแลไปสักระยะ
00:33:20 → 00:33:24 หนึงแล้วไตวายมากขึ้นไตเสื่อมการงานของไต
00:33:24 → 00:33:27 ต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไตค่ะก็ก็จะเข้า
00:33:27 → 00:33:31 สู่อ่าคลินิกไตเทียมคลินิกไตเทียมอ๋อซึ่ง
00:33:31 → 00:33:35 คลินิคไตเทียมเนี่ยก็จะแบ่งออกตามอ่าการ
00:33:35 → 00:33:39 บำบัดทดแทนไตที่คนไข้เลือกรับนะครับค่ะมี
00:33:39 → 00:33:43 ตั้งแต่การบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดค่ะ
00:33:43 → 00:33:45 หรือเรียกว่าฮีโม dialysis อันที่ 2 คือ
00:33:45 → 00:33:48 การล้างไตทางช่องท้องอันนี้ก็จะเป็นอ่า
00:33:48 → 00:33:51 peritoneal dialysis ค่ะกลุ่มที่ 3 ก็
00:33:51 → 00:33:55 คือจะเป็นการปลูกถ่ายปลูกถ่ายไตนะครับ
00:33:55 → 00:33:57 หรือที่เรียกว่า kidney transplantation
00:33:57 → 00:34:00 กลุ่มสุดท้ายปัจจุบันเราก็จะมีคนไข้สังคม
00:34:00 → 00:34:03 ผู้สูงอายุถูกมั้ยครับไม่รับการบำบัดทด
00:34:03 → 00:34:05 แทนไตใน 3 กลุ่มแรกอือเราก็จะจัดเป็น
00:34:05 → 00:34:09 กลุ่มที่เรียกว่าดูแลแบบประคับประคองอ๋อ
00:34:10 → 00:34:12 คือไม่ยอมไม่ไม่ยอม 3 อย่างแรกไม่เอาเลย
00:34:12 → 00:34:14 ใช่ครับหรือว่า 3 อย่างแรกอาจจะไม่เหมาะ
00:34:14 → 00:34:18 กับเขาอือย่างเช่นในคนไข้ที่อายุมากๆ 90
00:34:18 → 00:34:22 ปีนอนติดเตียงมีโรคร่วมเยอะหรือคนไข้ที่
00:34:22 → 00:34:26 เป็นโรคมะเร็งนะครับกลุ่มเหล่านี้น่ะเรา
00:34:26 → 00:34:30 ค้าคาว่าถ้าเขฟอกเลือดกับเขาไม่ฟอกเลือด
00:34:30 → 00:34:34 อัตราการรอดชีวิตไม่แตกต่างกันอืแล้วก็
00:34:34 → 00:34:37 เน้นการดูแลาแบบองค์รวมค่ะนะครับอันนี้ก็
00:34:37 → 00:34:40 คือเป็นทางเลือกที่ 4 ขึ้นมาซึ่งยอมรับ
00:34:40 → 00:34:44 โดยสมาคมโลกไตที่เพิ่งประกาศให้กับคุณหมอ
00:34:44 → 00:34:47 ทุกท่านได้ได้ให้ให้คนไข้เนี่ยได้เลือก
00:34:47 → 00:34:50 แนวทางนี้ด้วยอ๋ออันนี้คือขึ้นอยู่กับแต่
00:34:50 → 00:34:53 ละเคสไม่เหมือนกันไม่เหมือนกันครับอือื
00:34:53 → 00:34:57 จากปัจจัยอาจจะแล้วแต่บุคคลเลยอันนี้่
00:34:57 → 00:34:58 ครับค่ะคือเราจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วย
00:34:58 → 00:35:02 กันก็คือส่วนผู้ป่วยเองคนดูแลแล้วก็แพทย์
00:35:02 → 00:35:04 เจ้าของใครค่ะ 3 คนเนี้ยจะต้องเป็นคนที่
00:35:04 → 00:35:07 ช่วยร่วมกันตัดสินแล้วก็ให้ความรู้กับคน
00:35:07 → 00:35:11 ไข้และญาติค่ะว่าเขาจะเลือกแบบไหนอือนะ
00:35:11 → 00:35:14 ครับค่ะอ่าท้ายนี้คุณหมอมีอะไรอยากฝากถึง
00:35:14 → 00:35:16 คุณผู้ฟังหน่อยมั้ยคะฟังกันมามากมายกับ
00:35:16 → 00:35:20 ข้อมูลตรงนี้แล้วเนี่ยนะหลายคนนึกในใจไม่
00:35:20 → 00:35:23 อยากเป็นครับเอออีกคนอีกบางคนบางส่วนที่
00:35:23 → 00:35:25 ฟังอยู่ฉันเป็นอยู่เอออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:35:25 → 00:35:28 ฟากหน่อยค่ะครับก็คือคือโรกไตเนี่ยถือว่า
00:35:28 → 00:35:33 เป็นภัยเงียบนะครับดังนั้นเนี่ยทุกคนจะ
00:35:33 → 00:35:36 ไม่อยากเป็นถูกมยครับค่ะหมอถึงแนะนำว่า
00:35:36 → 00:35:39 การตรวจคัดกรองน่ะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
00:35:39 → 00:35:42 นะครับตั้งแต่การตรวจในระยะที่ยังไม่เป็น
00:35:42 → 00:35:45 โรคหรือว่ามีปัจจัยเสี่ยงเนี่ยตัวไหนที่
00:35:45 → 00:35:48 ที่จะทำให้เกิดโรคตามมาเนี่ยถ้าเราหยุด
00:35:48 → 00:35:51 สามารถที่จะดูแลตรงนั้นได้ดีมันจะไม่ทำ
00:35:52 → 00:35:55 ให้เกิดโรคไตค่ะตามมานะครับดังนั้นเนี่ย
00:35:55 → 00:35:57 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคือการตรวจคัดกรอง
00:35:57 → 00:36:02 นะครับการดูแลก็แนะนำว่าดื่มน้ำให้เพียง
00:36:02 → 00:36:06 พอรดเค็มไม่สุบบุหรี่แล้วก็รักษาโรคที่มี
00:36:06 → 00:36:09 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อ
00:36:10 → 00:36:12 รังนะครับสุดท้ายเนี่ย
00:36:12 → 00:36:16 อ่าแนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีนะครับวัน
00:36:16 → 00:36:17 นี้ได้ความรู้กันเยอะแยะมากมายค่ะต้อง
00:36:17 → 00:36:20 ขอบคุณนายแพทย์ปรชญาภูมิอุทัยวิรัตนะคะ
00:36:20 → 00:36:22 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคไต
00:36:22 → 00:36:24 โรงพยาบาลจุฬาภรณที่มาให้ความรู้กับเราใน
00:36:25 → 00:36:27 วันนี้ด้วยขอบคุณคุณหมอค่ะครับขอบคุณครับ
00:36:27 → 00:36:29 ค่ะสวัสดี
00:36:29 → 00:36:36 [เพลง]
00:36:36 → 00:36:39 ค่ะ
00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice วันนี้เดี๋ยวเรามาเจาะลึกในราย
00:00:08 → 00:00:11 ละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของโรคไต่นะคะคุย
00:00:11 → 00:00:14 กันกับนายแพทย์ปรัชญาภูมิอุทัยวิรัตน์นะ
00:00:14 → 00:00:16 คะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคไต
00:00:16 → 00:00:19 โรงพยาบาลจุฬาภรณกันค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอขา
00:00:20 → 00:00:23 ครับสวัสดีครับค่ะเราก็รู้กันโดยพื้นฐาน
00:00:23 → 00:00:25 ทั่วไปอยู่ละว่าก็เป็นโรคอันตรายอีกโรค
00:00:25 → 00:00:27 นึงนะคะแต่ว่าวันนี้เดี๋ยวขออนุญาตเจาะ
00:00:27 → 00:00:30 ลึกลงไปในรายละเอียดกันดีกว่าถามโดย
00:00:30 → 00:00:32 เบื้องต้นทั่วไปก่อนว่าจริงๆแล้วคนไทย
00:00:32 → 00:00:36 เนี่ยเป็นกันเยอะเลยใช่มั้ยคะครับผมก็คือ
00:00:36 → 00:00:38 โลกไตยเนี่ยถือว่าเป็นโลกที่พบได้ใน
00:00:38 → 00:00:43 อันดับต้นๆนะครับของประเทศไทยอ่าสถิติจาก
00:00:43 → 00:00:47 การสำรวจเนี่ยพบว่าประชากรของคนไทยเนี่ย
00:00:47 → 00:00:51 ติดเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนนะครับใช่ครับ
00:00:51 → 00:00:55 อ่าประชากรพบว่าประมาณ 15% ที่เราสำรวจ
00:00:55 → 00:00:58 เนี่ยจากประชากรทั้งหมดเนี่ยอย่างเช่นคน
00:00:58 → 00:01:01 เดินมาทั้งหมด 6 คนเนี่ยจะพบว่า 1 คน
00:01:01 → 00:01:05 เนี่ยเป็นโรคไตอ๋อในๆในจำนวนคนที่เดินมา 6
00:01:05 → 00:01:08 คนใช่ครับเป็นโรคไตเสื่อมรังนะครับต้องมี
00:01:08 → 00:01:11 คนนึงใช่ครับโอเป็นสถานการณ์ที่ถือว่า
00:01:11 → 00:01:14 เยอะพอสมควรนะครับค่ะก็คือเนื่องจากโรคไต
00:01:14 → 00:01:17 เนี่ยถือว่าเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการนะครับ
00:01:17 → 00:01:21 ค่ะมีตั้งแต่ไม่แสดงอาการเป็นโรคที่เกิด
00:01:21 → 00:01:24 ขึ้นตามมาจากโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง
00:01:24 → 00:01:28 อย่างเช่นโรคเบาหวานโรคความันโหิตสูงนะ
00:01:28 → 00:01:30 ครับจนกระทั่งมีอาการ
00:01:30 → 00:01:32 นะครับเมื่อมาตรวจพบบางคนเนี่ยอาจจะตรวจ
00:01:33 → 00:01:37 พบในระยะต้นๆบางคนเนี่ยตรวจพบเมื่อระยะ
00:01:37 → 00:01:40 การเป็นโรคไตเนี่ยอยู่ในระยะที่แสดงอาการ
00:01:40 → 00:01:43 แล้วก็ดำเนินไปเป็นไตวายอ่าที่ไม่สามารถ
00:01:43 → 00:01:46 ทำงานได้นะครับคอาการมันไม่มีอะไรที่จะ
00:01:46 → 00:01:50 คือเราถือว่าโลคไตเนี่ยคือเราแค่ตรวจพบ
00:01:50 → 00:01:54 ว่ามีลักษณะที่อ่าผิดปกติในปัสสาวะแล้วก็
00:01:54 → 00:01:56 ถือว่าเป็นโรคไตแล้วนะครับแต่มันยังไม่
00:01:56 → 00:02:00 แสดงอาการออกมาดังนั้นเนี่ยเราจะจะพบว่า
00:02:00 → 00:02:02 เราเป็นโรคไตได้ก็คือเราต้องมีการตรวจคัด
00:02:02 → 00:02:07 กรองค่ะนะครับแล้วจะเจอว่าตัวคนไข้เนี่ย
00:02:07 → 00:02:09 คือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตหรือเป็น
00:02:09 → 00:02:12 โรคไตแล้วหรือยังนะครับอือันนี้ก็เลยกลาย
00:02:12 → 00:02:14 เป็นว่าเพิ่มความเสี่ยงสำหรับคนที่ไม่
00:02:14 → 00:02:17 ค่อยตรวจสุขภาพใช่ครับเออไม่อยากไปถึงแม้
00:02:17 → 00:02:20 ว่าปีนึงจะครั้งนึงก็ตามแต่ใช่ครับก็ไม่
00:02:20 → 00:02:23 ไปตรวจจริงๆการตรวจคัดกรองเรื่องของโรคไต
00:02:23 → 00:02:26 เนี่ยคือทำได้ง่ายๆนะครับขั้นตอนที่ 1 ก็
00:02:26 → 00:02:30 คือเป็นการตรวจเรื่องของโรคประจำตัวอื่นๆ
00:02:30 → 00:02:32 ค่ะเรารู้ว่าสาเหตุของการเกิดโรคไตเนี่ย
00:02:32 → 00:02:35 โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากโรคเบาหวานและโรค
00:02:35 → 00:02:38 ความนันโลหิตสูงดังนั้นการตรวจคัดกรอง
00:02:38 → 00:02:41 เรื่องของอ่าความดันโลหิตก็เป็นอีกปัจจัย
00:02:41 → 00:02:44 หนึที่เราจะตรวจพบว่าคนไข้มีโรคไตรแล้ว
00:02:44 → 00:02:48 หรือยังนะครับอันที่ 2 ก็คือเป็นการตรวจ
00:02:48 → 00:02:52 ปัสสาวะนะครับปัสสาวะเนี่ยคือของคนเรา
00:02:52 → 00:02:54 เนี่ยเวลาเราตรวจเนี่ยเราจะดูว่ามีโปรตีน
00:02:54 → 00:02:57 มีเม็ดเลือดแดงมีเม็ดเลือดขาวลวกมาใน
00:02:57 → 00:02:59 ปัสสาวะหรือเปล่าอันนี้ต้องใช้การตรวจทาง
00:02:59 → 00:03:03 หต้องปฏิบัติการนะครับซึ่งอ่าอันสุดท้าย
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยเป็นการตรวจเลือดนะครับก็คือการตรวจ
00:03:06 → 00:03:10 หาค่าเตินซึ่งพอได้ค่าตัวนี้มาปุ๊บก็จะทำ
00:03:10 → 00:03:15 การคำนวณวัด GFR หรือ gora filtration
00:03:15 → 00:03:18 Rate ค่ะซึ่งตรงเนี้ยจะเป็นการบ่งบอกถึง
00:03:18 → 00:03:22 การทำงานหน้าที่ของไตได้นะครับอค่ะอ๋อไม่
00:03:22 → 00:03:24 น่าล่ะเวลาตรวจสุขภาพเนี่ยจะต้องมีการอ่า
00:03:24 → 00:03:27 ตรวจเลือดด้วยใช่มั้ยคะมีตรวจปัสสาวะมี
00:03:27 → 00:03:31 ตรวจอุจจาระใช่ครับปัสสาวะเนี่ยอืถ้ามี
00:03:31 → 00:03:33 ความเป็นปกติอาจจะบ่งบอกถึงสาเหตุของการ
00:03:33 → 00:03:35 เกิดโรคไตได้ครับค่ะโอเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:03:35 → 00:03:38 แหละอันนี้ที่สำคัญด้วยเหมือนกันนะคะเอา
00:03:38 → 00:03:40 เป็นว่าเราจะทำความรู้จักกับโรคไต่เอาให้
00:03:40 → 00:03:43 แบบว่าเข้าใจมากขึ้นคุณหมอบอกว่าสาเหตุ
00:03:43 → 00:03:47 เกิดโรคจากความดันอ่าเรื่องของเบาหวาน
00:03:47 → 00:03:50 ครับจุดต้นตอเลยนะคะนำมาสู่โรคอื่นๆอีก
00:03:50 → 00:03:52 มากมายปัจจัยอื่นๆด้วยมั้ยคะมีร่วมด้วย
00:03:52 → 00:03:57 มั้ยคะเช่นมีเยอะแยะมากมายนะครับเราขอผม
00:03:57 → 00:04:01 ขออนุญาตแบ่งโลกไตออกเป็น 2 กลุ่มให่ออัน
00:04:01 → 00:04:04 ที่ 1 คือโรคไตวายเฉียบพันธนะครับอกลุ่ม
00:04:04 → 00:04:07 ที่ 2 คือโรคไตวายเรื้อรังค่ะอันนี้คือ
00:04:07 → 00:04:10 เราจำแนกโดยลักษณะของการทำงานไตที่ผิด
00:04:10 → 00:04:13 ปกติโดยแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดขึ้นเป็น
00:04:13 → 00:04:16 หลักนะครับอ่ากลุ่มแรกเนี่ย
00:04:16 → 00:04:19 คือส่วนใหญ่คือตรวจพบว่าการทำงานของไตผิด
00:04:19 → 00:04:23 ปกติในระยะเวลาเป็นหลักวันถึงหลักสัปดาห์
00:04:23 → 00:04:25 นะครับค่ะในกลุ่มนี้เนี่ยก็คือก็จะมีหลาก
00:04:25 → 00:04:28 หลายประเภทนะครับโดยแบ่งออกเป็นอย่างเช่น
00:04:28 → 00:04:32 อันที่ 1 ภาวะขสารน้ำในร่างกายนะครับทาน
00:04:32 → 00:04:35 น้ำไม่เพียงพอร่างกายมีการขาดเกลือแร่
00:04:35 → 00:04:38 แล้วก็ขาดสารน้ำทำให้ไตเนี่ยทำทำงานหนัก
00:04:38 → 00:04:42 ขึ้นนะครับค่าไตวายขึ้นกลุ่มที่ 2 ก็คือ
00:04:42 → 00:04:46 เกิดจากตัวไตที่มันผิดปกติเองนะครับโรคใน
00:04:46 → 00:04:49 กลุ่มนี้เนี่ยก็คือจะได้แก่ตั้งแต่โรคไต
00:04:49 → 00:04:52 อักเสบนะครับซึ่งกลุ่มนี้คือจะต้องทำการ
00:04:52 → 00:04:55 ตรวจเพิ่มเติมนะครับโดยส่วนใหญ่คนไข้มัก
00:04:55 → 00:04:59 จะมีอาการอย่างเช่นอ่าปัสสาวะออกน้อยลงมี
00:04:59 → 00:05:02 อาการบวมหรือว่ามีอาการผิดโปติอื่นๆเช่น
00:05:02 → 00:05:04 ความดันโลหิตสูงกลุ่มนี้ก็ต้องไปทำการ
00:05:04 → 00:05:06 ตรวจเพิ่มเติมเช่นเดียวกันค่ะกลุ่มสุด
00:05:06 → 00:05:09 ท้ายของไตวายเฉียบพลันก็คือเป็นภาวะของ
00:05:09 → 00:05:13 การกดเบียดไตนะครับก็คือมีก้อนหรือว่ามี
00:05:14 → 00:05:16 ความเป็นปกติอื่นๆเนี่ยไปกดเบียดไม่
00:05:16 → 00:05:19 สามารถที่จะทำให้ปัสสาวะเนี่ยออกมาได้
00:05:19 → 00:05:23 อย่างปกติอืพวกนี้ก็ไปทำลายไตนะครับทำให้
00:05:23 → 00:05:27 อ่าการทำงานของไตเนี่ยลดลงเฉียบพันนะครับ
00:05:27 → 00:05:30 อย่างไรก็ตามถ้าเราสามารถแก้ไขสสาหที่เรา
00:05:30 → 00:05:34 ตรวจพบได้การทำงานของไตจะกลับมาสู่ปกตินะ
00:05:34 → 00:05:37 ครับในกลุ่มนี้เราเรียกว่าไตวายเฉียบพลัน
00:05:37 → 00:05:40 อ๋อคือคือเป็นเหมือนกับว่าเป็นปัจจุบัน
00:05:40 → 00:05:43 ขึ้นมาทันทีแต่ว่าใชครับอ่ะหาสาเหตุจำกัด
00:05:43 → 00:05:45 เอ่อเค้าเรียกอะไรจำกัดโรคได้ปุ๊บเนี่ย
00:05:45 → 00:05:48 มันก็ใช่กลับมาปกติได้ใช่ครับอแต่ถ้าเรา
00:05:48 → 00:05:51 ไม่สามารถที่จะกำจัดสาเหตุเหล่านี้ได้
00:05:51 → 00:05:54 หรือว่าเป็นโรคที่เป็นเรื้อรังอย่างเช่น
00:05:54 → 00:05:57 เบาหวานความดันโลหิตสูงการดำเนินโลคจะ
00:05:57 → 00:06:00 ค่อนข้างนานนะครับค่ะในกลุ่มนี้เี่ก็คือ
00:06:00 → 00:06:04 คนไข้มีโอกาสที่จะกลายไปเป็นโรคไตรเสื่อม
00:06:04 → 00:06:08 เรื้อรังนะครับอ๋อมันจะค่อยๆใช่ครับการมา
00:06:08 → 00:06:12 ของไตจะค่อยๆอ่าแย่ลงนะครับโดยที่
00:06:12 → 00:06:15 อ่าผู้ป่วยเนี่ยอาจจะยังไม่ทราบหรือว่า
00:06:15 → 00:06:18 อาจจะไม่ได้ติดตามในจุดนี้นะครับซึ่ง
00:06:18 → 00:06:20 อย่างที่เรียนให้ทราบในตอนแรกว่าการคุม
00:06:20 → 00:06:22 เรื่องของเบาหวานแล้วก็ความดันโลหิตสูง
00:06:22 → 00:06:23 เนี่ยเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ
00:06:23 → 00:06:27 ว่าคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยเมื่อมีการ
00:06:27 → 00:06:31 ดำเนินโลกไป 10-15 ปีเนี่ยเราพบว่า 30%
00:06:31 → 00:06:34 มีโอกาสเกิดโรคไตวายอ่าเรื้อรังเกิดขึ้น
00:06:34 → 00:06:38 ได้นะครับอซึ่งไตวายซึ่งไตวายเรื้อรัง
00:06:38 → 00:06:41 เนี่ยก็คือว่าจะต้องทำการตรวจแล้วก็อ่าหา
00:06:41 → 00:06:44 สาเหตุเพิ่มเติมนะครับว่าสาเหตุเกิดจาก
00:06:44 → 00:06:47 อะไรได้บ้างในกลุ่มนี้อย่างเช่นอันที่ 1
00:06:48 → 00:06:50 โรคเรื้อรังนะครับก็คือเบาหวานกับความ
00:06:50 → 00:06:53 โรหิตสูงที่คุมได้ไม่ดีกลุ่มที่ 2 เนี่ย
00:06:53 → 00:06:58 ก็คือจะพบในบางภูมิภาคที่ที่มีโอกาสเกิด
00:06:58 → 00:07:00 ได้มากกว่าอย่างเช่นเช่นภาคอีสานเนี่ยจะ
00:07:00 → 00:07:03 มีโอกาสเกิดโรคไตเสื่อมเลื้อรังในกลุ่ม
00:07:03 → 00:07:07 ของโรคนิ่วนะครับอืได้มากกว่าคนปกติคือ
00:07:07 → 00:07:09 คืออันนี้คือสแบ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น
00:07:09 → 00:07:13 ใช่ครับภูมิภาคได้เลยจากพฤติกรรมจากในการ
00:07:13 → 00:07:15 ใช่ครับเพราะว่าพฤติกรรมการรับประทาน
00:07:15 → 00:07:18 อาหารของของของแถบตะวันออกเฉียงเหนือ
00:07:18 → 00:07:21 เนี่ยคือเขาจะมีผักบางประเภทที่กลุ่ม
00:07:22 → 00:07:25 เนี้ยมันจะมีสารที่ก่อให้เกิดนิ่วได้มาก
00:07:25 → 00:07:29 กว่าคนปกตินะครับเช่นชาเอมเช่นอะไรพวกเนะ
00:07:29 → 00:07:32 ครับค่ะอ่าหรืออาจจะเป็นโรคที่มีส่วนทาง
00:07:32 → 00:07:35 พันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเช่นโรคไต
00:07:35 → 00:07:39 ถุงน้ำกลุ่มเนี้ยก็จะมีการดำเนินโรคตั้ง
00:07:39 → 00:07:42 แต่เด็กค่ะแล้วมีการถ่ายทอดพันธุกรรมจาก
00:07:42 → 00:07:46 เครือญาติก็คือพ่อแม่ปู่ย่าตายายนะครับทำ
00:07:46 → 00:07:48 ให้เกิดเรื่องของการทำงานของไตเนี่ย
00:07:48 → 00:07:53 เสื่อมลงในอนาคตอโอ้โหครับอันนี้ก็จะเป็น
00:07:53 → 00:07:56 อีกตัวอย่างนึงของของพันธุกรรมค่ะครับแต่
00:07:56 → 00:07:59 ยังไงก็ตามเนี่ยคือจากสาเหตุของไตวาย
00:07:59 → 00:08:03 เรื้อรังเนี่ยยังมีในกลุ่มของการใช้ยาอีก
00:08:03 → 00:08:06 อย่างเช่นปัจจุบันเนี่ยก็จะมีการใช้ยาแก้
00:08:06 → 00:08:09 ปวดในกลุ่มของเอนเสดค่ะนะครับหรือว่ามี
00:08:09 → 00:08:12 การใช้ยาต้มยาหม้อยาลูกกอนยาสมุนไพรค่ะ
00:08:12 → 00:08:16 ซึ่งกลุ่มเหล่าเนี้ยเราพบว่าในคนที่ใช้ยา
00:08:16 → 00:08:21 เหล่านี้ปริมาณมากและใช้ระยะเวลานานมีผล
00:08:21 → 00:08:25 ที่ทำให้เกิดไตวายได้โดยส่วนใหญ่เนี่ยการ
00:08:25 → 00:08:29 ติดตามอาการโรคเบาหวานเองเนี่ยทางคุณหมอ
00:08:29 → 00:08:33 เนี่ยเคจะมีการเจาะเลือดการทำงานของไต
00:08:33 → 00:08:36 เป็นระยะๆะอยู่แล้วแล้วก็จะมีการส่งตรวจ
00:08:36 → 00:08:39 โปรตีนไข่ขาวที่ลวกมาในปัสสาวะนะครับ
00:08:39 → 00:08:42 เมื่อใดก็ตามที่มีความผิดปกติดังกล่าว
00:08:42 → 00:08:45 เนี่ยเขาจะเริ่มสังเกตและว่าคนไข้เหล่า
00:08:45 → 00:08:47 เนี้ยเริ่มมีปัญหาเรื่องไตหรือเปล่านะ
00:08:47 → 00:08:49 ครับอ๋อคือหมายความว่าถ้าจะตรวจเบาหวานก็
00:08:50 → 00:08:52 คือต้องควบคู่กันไปเลยใช่ครับเพราะว่ามัน
00:08:52 → 00:08:55 มีความเสี่ยงที่ใช่ครับเพราะว่าโรคใน
00:08:55 → 00:08:57 กลุ่มเหล่านี้เนี่ยมีโอกาสที่จะทำให้เกิด
00:08:57 → 00:09:00 โรคไตหรือนอกเหนือจากโรคโรคไตก็อย่างเช่น
00:09:00 → 00:09:03 โรคหัวใจหลอดเลือดขาดเลือดนะครับหรือโรค
00:09:03 → 00:09:07 เส้นเลือดในสมองตีบอพวกนี้จะเป็นของที่
00:09:07 → 00:09:11 ที่ที่คนไข้จะเกิดคู่กันนะครับค่ะอืงั้น
00:09:11 → 00:09:14 แสดงว่าอ่ะจริงๆถ้าเกิดว่าเป็นเบาหวานอาจ
00:09:14 → 00:09:19 จะเป็นไตก็ได้ใช่ครับหรือไม่เป็นก็ได้ใช่
00:09:19 → 00:09:21 ครับไม่ได้บอกว่าเป็นเบาหวันทุกคนต้อง
00:09:21 → 00:09:23 เป็นไตนะใช่อย่างที่อย่างที่เรียนให้ทราบ
00:09:23 → 00:09:26 ก็คือหมายถึงว่าการควบคุมน้ำตาลในในผู้
00:09:26 → 00:09:29 ป่วยเบาหวานเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญอืครับอัน
00:09:30 → 00:09:32 ที่ 2 อย่างที่บอกก็คือว่าในคนไข้ที่คุม
00:09:32 → 00:09:35 น้ำตาลได้ไม่ดีค่ะเมื่อติดตามไป 10-15 ปี
00:09:35 → 00:09:39 เนี่ยจะตรวจพบว่า 30% เนี่ยกลายไปเป็นโรค
00:09:39 → 00:09:42 ไตโอ้โหเกือบครึ่งแล้วนะใช่ครับก็มีโอกาส
00:09:42 → 00:09:45 ที่จะไม่เป็นได้ค่ะครับแต่ว่าความเสี่ยง
00:09:45 → 00:09:47 มันมีอยู่แหละเพราะฉะนั้นคือเราไม่ต้อง
00:09:47 → 00:09:50 เสี่ยงถ้าอย่างงั้นเนี่ยคืออะไรมันจุดจาก
00:09:50 → 00:09:53 เบาหวานไปไปไปเป็นไตได้ค่ะมันมันมีจุดตรง
00:09:53 → 00:09:56 ไหนอ่ะคะครับอ่ามีงานวิจัยรองรับว่าการ
00:09:56 → 00:09:59 คุมเรื่องของระดับน้ำตาลที่ไม่ดีเนี่ยคค
00:09:59 → 00:10:03 จุต้นเหตที่ทำให้เกิดหลอดเลือดอืส่วนปลาย
00:10:03 → 00:10:05 ค่ะหลอดเลือดส่วนปลายก็คือเป็นหลอดเลือด
00:10:05 → 00:10:10 ที่ไปเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆเช่นหัวใจไต
00:10:10 → 00:10:14 สมองหรืออ่าตามปลายเท้าปลายมือปลายเท้านะ
00:10:14 → 00:10:17 ครับสิ่งเหล่านี้เนี่ยเมื่อการคุมน้ำตาล
00:10:17 → 00:10:20 ไม่ดีมีโอกาสที่ทำให้เส้นเลือดเหล่าเนี้
00:10:20 → 00:10:23 ผิดปกติได้ค่ะพอเส้นเลือดเหล่านี้ผิดปกติ
00:10:23 → 00:10:25 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือทำให้การทำงานของ
00:10:25 → 00:10:30 แต่ละอวัยวะเนี่ยเกิดปัญหาขึ้นอืในส่วน
00:10:30 → 00:10:33 ของไตเนี่ยก็คือจะมีโปรตีนรั่วนะครับมี
00:10:33 → 00:10:35 เรื่องของเม็ดเลือดแดงที่อาจจะรั่วอมาใน
00:10:35 → 00:10:38 ปัสสาวะได้รวมถึงอ่ามีเรื่องของการทำงาน
00:10:38 → 00:10:41 ของไตที่อาจจะแย่ลงตามมาในระยะท้ายๆแล้ว
00:10:41 → 00:10:44 ถ้าเป็นความดันล่ะคะมันจะมีอะไรที่มันไป
00:10:44 → 00:10:48 ถึงไตได้ครับไตเนี่ยมีหลอดเลือดส่วนปลาย
00:10:48 → 00:10:52 เนี่ยเข้าไปเลี้ยงในในในในอวัยวะค่อนข้าง
00:10:52 → 00:10:56 มากนะครับปกติการคุมความดันโลหิตที่เหมาะ
00:10:56 → 00:11:00 สมจะช่วยให้ให้อวัยวะต่างๆเหล่านี้เี่ไม่
00:11:00 → 00:11:03 โดนทำลายก็เหมือนกับเวลาที่ความดันสูงมาก
00:11:03 → 00:11:06 เลือดก็อาจจะโดนดันไปที่อวัยวะต่างๆเหล่า
00:11:06 → 00:11:10 นี้สูงขึ้นอมันก็เลยทำให้เกิดเรื่องของ
00:11:10 → 00:11:12 การทำอันตรายต่ออวัยวะต่างๆเหล่านี้นะ
00:11:12 → 00:11:16 ครับรวมถึงอ่าพวกนี้เี่มันจะมีการกระตุ้น
00:11:16 → 00:11:20 เรื่องของอ่าสารเคมีบางอย่างที่ทำให้เกิด
00:11:20 → 00:11:23 การทำลายไตร่วมด้วยได้เช่นเดียวกันครับ
00:11:23 → 00:11:26 โอโหถ้าเรายังไม่เป็นโรคไตการตรวจคัดกรอง
00:11:26 → 00:11:28 เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับก็คืออย่างที่
00:11:28 → 00:11:31 เรียนให้ทราบ 3 อย่างตรวจวัดความนันโลหิต
00:11:31 → 00:11:34 อันที่ 2 ตรวจปัสสาวะอันที่ 3 ตรวจเจาะ่า
00:11:34 → 00:11:38 ผลเลือดนะครับแต่ถ้าเมื่อคนไข้เป็นโรค
00:11:38 → 00:11:41 ต่างๆแล้วเนี่ยก็คือต้องควบคุมเรื่องของ
00:11:41 → 00:11:45 ปัจจัยเสี่ยงให้ดีอือฮึควบคุมความดันควบ
00:11:45 → 00:11:47 คุมเรื่องของเบาหวานให้ดีเพื่อที่จะได้
00:11:47 → 00:11:51 ชะลอการเกิดโรคไตได้นะครับส่วนในคนไข้ที่
00:11:51 → 00:11:54 เป็นโรคไตอยู่แล้วจุดเมื่อเป็นโรคไต
00:11:54 → 00:11:56 เสื่อมเรื้อรังเนี่ยจุดประสงค์ของคนไข้
00:11:56 → 00:11:59 ต่างๆเหล่านี้ก็คือเป็นการชะลอไม่ให้ไต
00:11:59 → 00:12:01 เสื่อมเร็วค่ะนะครับแบ่งเป็นคนไข้ 3
00:12:01 → 00:12:03 กลุ่มครับผมออ๋ออันนี้เป็น 3 กลุ่มด้วย
00:12:03 → 00:12:06 กันอ่ะนอกจากนี้แล้วนะคะเดี๋ยวเรามาคุย
00:12:06 → 00:12:08 กันว่าอ่ะกรรมพันธ์เราคุยไปแล้วแล้วใคร
00:12:08 → 00:12:10 บ้างที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงคะคุณหมอใน
00:12:10 → 00:12:13 เรื่องนี้อันดับแรกก็คงเป็นเรื่องของอายุ
00:12:13 → 00:12:16 นะครับอย่างที่เรียนให้ทราบกันว่าในอายุ
00:12:16 → 00:12:19 ที่มากขึ้นมีโอกาสเป็นโรคไตได้มากขึ้น
00:12:19 → 00:12:22 เพราะเนื่องจากว่าความเสื่อมเนี่ยโดยปกติ
00:12:22 → 00:12:24 โดยที่ไม่มีโรคร่วมเลยเนี่ยค่ะแค่อายุมาก
00:12:24 → 00:12:27 ขึ้นเนี่ยการทำงานของไตจะลดลงประมาณ 1%
00:12:27 → 00:12:31 ต่อปีต่อปีใช่ครับตั้งแต่อายุเกิน 30 ปี
00:12:31 → 00:12:34 เป็นต้นไปโอ้ใช่ครับ 30 เลยเหรอคะใช่ครับ
00:12:34 → 00:12:37 อย่างเช่นว่าเราเทียบว่าการงานของไต 100%
00:12:37 → 00:12:41 ที่อายุ 30 ปี 30 ปีนะครับเมื่อผ่านไป 60
00:12:41 → 00:12:44 ปีเนี่ยคืออายุ 90 ปีเนี่ยไตเราก็จะเหลือ
00:12:44 → 00:12:46 การทำงานประมาณ 40%
00:12:46 → 00:12:51 อืโหทำอะไรได้บ้างมั้ยเนี่ยไม่ได้เลยอัน
00:12:51 → 00:12:52 อันนี้คือเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบ
00:12:52 → 00:12:56 คุมได้ถูกมั้ยครับก็คือเป็นอายุอันที่ 2
00:12:56 → 00:12:59 ก็คือปัจจัยจากโรคร่วมต่างๆค่ะอย่าเช่น
00:12:59 → 00:13:01 อ่าการมีโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นอย่างเช่น
00:13:01 → 00:13:03 เบาหวานความดันโลหิตสูงที่เรียนให้ทราบ
00:13:03 → 00:13:06 แล้วนะครับอันที่ 3 เองเนี่ยก็คือเป็นใน
00:13:06 → 00:13:09 ส่วนเรื่องของพันธุกรรมอย่างที่บอกคือจะ
00:13:09 → 00:13:12 มีโรคบางโรกที่มีการถ่ายทอดทั้งพันธุกรรม
00:13:12 → 00:13:15 อ่าจะเป็นการถ่ายทอดในส่วนของยีนเด่นหรือ
00:13:15 → 00:13:18 ยีนด้อยก็คือจะถ่ายทอดจากพ่อแม่ปู่ย่าตา
00:13:18 → 00:13:21 ยายมาสู่ตัวผู้ป่วยเองเนี่ยแต่สิ่งเหล่า
00:13:21 → 00:13:24 เนี้คือจะต้องได้รับการตรวจโดยแพทย์เพื่อ
00:13:24 → 00:13:27 ทำการยืนยันว่าเป็นโรคนี้จริงนะครับโรค
00:13:27 → 00:13:30 ที่พบได้บ่อยที่ที่ที่ที่พอมีรายงานก็คือ
00:13:30 → 00:13:34 ในกลุ่มของโรกถุงน้ำไตนะครับค่ะก็คือผู้
00:13:34 → 00:13:37 ป่วยจะมาด้วยอาการแน่นท้องเมื่อไปตรวจพบ
00:13:37 → 00:13:40 อ่าไปพบแพทย์เนี่ยก็จะทำการตรวจก็จะพบว่า
00:13:40 → 00:13:44 ไตเนี่ยกลายไปเป็นถุงน้ำเต็มไปหมดใช่ครับ
00:13:44 → 00:13:48 ทั้ง 2 ข้างแล้วก็คำก้อนนั้นได้ค่ะครับ
00:13:48 → 00:13:50 ที่บอกว่าแน่นท้องนี่คือใช่ครับเป็นถุง
00:13:50 → 00:13:53 น้ำไปแล้วไตใช่ครับเเพราะว่าถ้าคนไข้ยัง
00:13:54 → 00:13:56 ไม่มีอาการยังคำก้อนไม่ได้ส่วนก็ยังไม่
00:13:56 → 00:13:58 รู้ตัวถูกมั้ยครับยกเว้นว่าเคยมีประวัติ
00:13:58 → 00:14:01 ในครอบครัวมาก่อนอซึ่งอันเนี้ยคุณหมอเจะเ
00:14:01 → 00:14:05 ก็จะส่งตรวจอ่าบุตรหลานหรือว่าคุณพ่อคุณ
00:14:05 → 00:14:07 แม่ถูกมั้ยครับถ้าถ้าเคยมีประวัติมาก่อน
00:14:07 → 00:14:10 แต่ถ้าไม่มีโดยส่วนใหญ่ก็มักจะมาโดยโดย
00:14:10 → 00:14:14 ที่ตรวจพบว่ามีก้อนเรียบร้อยและนะครับ
00:14:14 → 00:14:16 กลุ่มเยก็คือจะมีการทำงานของไตที่มันแย่
00:14:16 → 00:14:20 ลงได้นะครับเมื่อติดตามไปอายุที่มากขึ้น
00:14:20 → 00:14:22 นะครับหรือนอกเหนือจากนั้นเนี่ยก็คือจะมี
00:14:23 → 00:14:27 โรคไตบางชนิดอย่างเช่นอ่าโรคที่ไม่ได้
00:14:27 → 00:14:30 เกิดจากตัวไตเองแต่ว่ามาจากโรคที่เป็นจาก
00:14:30 → 00:14:34 ทั่วร่างกายอย่างเช่นอ่าโรค sle หรือที่
00:14:34 → 00:14:37 ในประเทศไทยที่รู้จักกันว่าโรคพุ่มพวงค่ะ
00:14:37 → 00:14:39 นะครับอันเนี้ยก็จะเมื่อไหร่ก็ตามที่มัน
00:14:39 → 00:14:43 มีภูมิอ่าภูมิของตัวเองเไปทำลายออวัยวะ
00:14:43 → 00:14:46 ต่างๆ 1 ในนั้นก็คือไตก็อาจจะมีอาการแล้ว
00:14:46 → 00:14:51 ก็ทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ออนะครับค่ะ
00:14:51 → 00:14:53 สุดท้ายเองเนี่ยปัจจัยเสี่ยงก็คือที่เรา
00:14:53 → 00:14:55 พบกันได้มากขึ้นในปัจจุบันก็คืออาหาร
00:14:55 → 00:14:59 เสริมสมุนไพรรวมถึงยาาบางชนิดที่มีผลต่อ
00:14:59 → 00:15:03 ไตนะครับการรับประทานยาเหล่านี้ในปริมาณ
00:15:03 → 00:15:06 ที่มากและในระยะเวลาที่นานเนี่ยเป็น
00:15:06 → 00:15:11 ปัจจัยที่ทำให้เกิดไตวายได้นะครับบางคน
00:15:11 → 00:15:14 อาจจะเจอเร็วส่วนบางคนคือไม่เคยมีอาการมา
00:15:14 → 00:15:17 ก่อนอมาตรวจพบอีกทีนึงค่าไตการทำงานของไต
00:15:18 → 00:15:21 ลดลงไปเรียบร้อยะโอ้โหแล้วเราไม่รู้ตัว
00:15:21 → 00:15:24 ด้วยใช่ครับเราจะที่ไปกินอาหารเสริมใช่
00:15:24 → 00:15:26 ครับอ้าแล้วอย่างงี้เราจะไปตรวจสอบยังไง
00:15:26 → 00:15:28 ล่ะคะกับอาหารเสริมอะไรต่างๆเหล่านี้เรา
00:15:28 → 00:15:31 ไม่รู้เลยครับจริงๆเนี่ยเราแนะนำว่าในคน
00:15:31 → 00:15:36 ทั่วไปที่ไม่ได้มีภาวะขาดโภชนาการเนี่ย
00:15:36 → 00:15:39 ค่ะเรานว่าอาหาร 5 หมู่เป็นสิ่งที่เพียง
00:15:39 → 00:15:44 พอสำหรับการดำรงชีวิตนะครับค่ะถ้าในคน
00:15:44 → 00:15:46 ปกติเนี่ยก็คือแนะนำว่าให้ดื่มน้ำให้
00:15:46 → 00:15:49 เพียงพอนะครับอาจจะเป็นน้ำเปล่าหรือว่า
00:15:49 → 00:15:52 น้ำต่างๆที่ไม่ใช่สมุนไพรเนี่ยดื่มอย่าง
00:15:52 → 00:15:56 น้อยเนี่ย 1.5 -2 ลิตรต่อวันนะครับหรือ
00:15:56 → 00:15:58 ถ้าเทียบเป็นปริมาณแก้วมาตรฐานก็ประมาณ 6
00:15:58 → 00:16:01 6 ถึง 8 แก้วนะครับหลีกเลี่ยงอาหารที่
00:16:01 → 00:16:05 เป็นอ่าไขมันที่เ้าเรียกว่ากรดไขมันอ่า
00:16:05 → 00:16:09 อิ่มตัวนะครับซึ่งจะพบได้ในพวกไขมันที่มา
00:16:09 → 00:16:13 จากสัตว์อย่างเช่นพวกมันหมูกากหมูหรือว่า
00:16:13 → 00:16:16 น้ำมันที่เป็นน้ำมันปานะครับพวกเพยายาม
00:16:16 → 00:16:20 หลีกเลี่ยงให้ไปให้ไปรับประทานใช้น้ำมัน
00:16:20 → 00:16:22 ที่เป็นส่วนประกอบไขมันที่ไม่อิ่มตัวจะดี
00:16:22 → 00:16:25 กว่านะครับนอกเหนือจากนี้นะการบริโภคผัก
00:16:25 → 00:16:28 และผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมเนี่ยก็จะเป็น
00:16:28 → 00:16:31 ปัจจัยที่ช่วยลดเรื่องของอาการที่จะเกิด
00:16:31 → 00:16:34 อ่าการป้องกันไตเสื่อมได้นะครับที่สำคัญ
00:16:34 → 00:16:38 ที่สุดคืออย่ารับประทานอาหารเค็มนะครับ
00:16:38 → 00:16:40 ปัจจุบันเนี่ยต้องต้องยอมรับอย่างนึงนะ
00:16:40 → 00:16:43 ครับอาหารที่มีรสชาติอร่อยในท้องตลาด
00:16:43 → 00:16:47 เนี่ยส่วนนึงคือมีรสชาติที่เค็มนะครับค่ะ
00:16:47 → 00:16:51 จริงๆเนี่ยอ่า Who เนี่ยแนะนำว่าการรับ
00:16:51 → 00:16:54 ประทานอ่าอาหารในปัจจุบันเนี่ยควรใส่
00:16:55 → 00:16:58 เกลือได้ไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา 1 ช้อนชา
00:16:58 → 00:17:01 ดูเหมือนจะเกินเกินใช่ครับดังนั้นเนี่ยใน
00:17:01 → 00:17:04 คนปกติเนี่ยไตมันยังทำงานได้ดีอยู่ดัง
00:17:04 → 00:17:07 นั้นเการรับประทานเกลือเข้าไปได้ร่างกาย
00:17:07 → 00:17:10 ก็ขับออกได้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ภาวะไต
00:17:10 → 00:17:14 วายอ่าเรื้อรังเนี่ยเริ่มเกิดขึ้นเวลาที่
00:17:14 → 00:17:16 รับประทานเค็มเข้าไปเนี่ยร่างกายก็ขับออก
00:17:16 → 00:17:18 มาไม่ได้ดังนั้นเนี่ยมันเลยทำให้เกิด
00:17:18 → 00:17:22 อาการบวมขึ้นอืนะครับโอ้โหน่ากนอกเหนือ
00:17:22 → 00:17:24 จากเกลือเนี่ยก็จะมีส่วนประกอบอาหารที่มี
00:17:24 → 00:17:28 รสชาติเค็มอย่างเช่นอ่าซีอิ๊วน้้ำปลาค
00:17:28 → 00:17:32 พันธุ์ที่มีส่วนของกะปิหรือว่าผงชูรสอ
00:17:32 → 00:17:34 สิ่งต่างๆเหล่าเนี้ยก็จะเป็นสารที่ให้
00:17:34 → 00:17:37 ความเค็มอยู่ะนะครับงั้นเราแนะนำว่าอ่อน
00:17:37 → 00:17:40 เค็มลงหน่อยแต่ว่าไปเพิ่มรสชาติอย่างอื่น
00:17:40 → 00:17:44 เช่นความเปรี้ยวอ๋อนะครับหรือถ้าในคนไข้
00:17:44 → 00:17:45 บางคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของกระเพาะ
00:17:46 → 00:17:48 อาหารที่อักเสบอะไรพวกเนี้ยก็อาจจะเพิ่ม
00:17:48 → 00:17:51 รสชาติเผ็ดได้นะครับแต่ว่ายังไงก็ตาม
00:17:51 → 00:17:54 เนี่ยเรื่องเค็มเนี่ยควรจะลดลงนะครับเคย
00:17:54 → 00:17:58 มีคำแนะนำบอกว่าเวลาที่เรารับประทานอาหาร
00:17:58 → 00:18:03 ที่นอกบ้านเนี่ยสิ่งที่ควรจะเติมจาก
00:18:03 → 00:18:05 เครื่องปรุงเนี่ยมีได้อย่างเดียวคือพริก
00:18:05 → 00:18:09 ไทยครับโโแล้วจะไหวกันเหรอคะครับเพราะว่า
00:18:09 → 00:18:12 คืออาหารที่เขาปรุงมาจากอ่าพวกนี้เี่คือ
00:18:13 → 00:18:16 เขาจะมีการใส่ความเค็มความหวานมาพอสมควร
00:18:16 → 00:18:18 และนะครับดังนั้นเนี่ยคือสิ่งที่ดีที่สุด
00:18:18 → 00:18:22 คือพยายามปรับนิสัยใช่อือฮึอันที่ 1 คือ
00:18:22 → 00:18:26 ชิมก่อนปรุงค่ะอันที่ 2 ถ้าคิดว่า
00:18:26 → 00:18:31 อ่าสิ่งอาหารรสชาติต่างๆเหล่าเนี้ยรสชาติ
00:18:31 → 00:18:34 จัดอยู่ะก็อย่าไปเติมค่ะนะครับเครื่อง
00:18:34 → 00:18:38 ปรุงเอ่อแต่เราแนะนำว่าอาจต้องปรับนิสัย
00:18:38 → 00:18:41 อันนี้เนี่ยจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะครับ
00:18:41 → 00:18:45 หรือในก๋วยเตี๋ยวเองเนี่ยก็จะมีน้ำใสกับ
00:18:45 → 00:18:48 น้ำข้นที่เขาใส่ซีอิ๊วดำหรือว่าซีอิ๊ว
00:18:48 → 00:18:50 หวาดเข้าไปเยอะดังนั้นเนี่ยก็แนะนำว่าก็
00:18:50 → 00:18:52 ปรับการรับประทานอย่างเช่นเป็นก๋วยเตี๋ยว
00:18:52 → 00:18:55 น้ำใสค่ะหรือรับประทานเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง
00:18:55 → 00:18:59 ก็ได้อ๋อจะได้ไม่ไม่ไปเคตซุเพราะว่าในใน
00:18:59 → 00:19:02 คนไข้โรกไตเองเนี่ยผมจะแนะนำให้คนไข้
00:19:02 → 00:19:06 พยายามไม่ไม่ไม่รับประทานน้ำซุปนะครับ
00:19:06 → 00:19:08 ครับแต่ถ้าน้ำซุปอร่อยนี้โอ้โหไม่ต้อง
00:19:08 → 00:19:11 ปรุงก็ได้กินได้หมดเลยน้ำซุปถึงแม้จะแข็ง
00:19:11 → 00:19:15 แรงใช่ครับแต่การทำงานของไตมันก็จะลดลงลง
00:19:15 → 00:19:17 ไปเรื่อยๆลแนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีครับ
00:19:17 → 00:19:20 แล้วตรวจคัดกรองอืตรงนี้อันนี้คือสำคัญ
00:19:20 → 00:19:22 เลยใช่มั้ยคะใช่ครับแต่ผมขออนุญาตเพิ่ม
00:19:22 → 00:19:26 ข้อมูลนิดนึงนะครับคืออย่างที่บอกคือถึง
00:19:26 → 00:19:28 แม้ว่าการทำงานของไตเนี่ยเมื่ออายุมาก
00:19:29 → 00:19:31 ขึ้นเนี่ยมันจะเสื่อมลง 1% เนี่ยแต่
00:19:31 → 00:19:33 เนื่องจากว่าไตเราเป็นอวัยวะที่พิเศษ
00:19:33 → 00:19:37 อย่างหนึคือเรามีไตอยู่ 2 ข้างค่ะดังนั้น
00:19:37 → 00:19:40 เนี่ยการทำงานของไตเนี่ยอ่าจะช่วยกันทำ
00:19:40 → 00:19:44 งานออในแต่ละข้างเนี่ยเขาจะทำงานอยู่ 70%
00:19:44 → 00:19:46 ค่ะนั่นคือหมายถึงว่าสาเหตุทำไมเวลาที่คน
00:19:46 → 00:19:50 ไข้มีเพียง 1 ไตไตข้างเดียวถึงยังทำงาน
00:19:50 → 00:19:54 ได้ปกติอยู่นะครับเพราะว่าไตเนี่ยเวลาที่
00:19:54 → 00:19:56 เขายังมีความปกติอยู่เนี่ยเขาจะไม่ได้ทำ
00:19:56 → 00:19:59 งานเต็มที่ในแต่ละข้างอ้าเหรอคะใช่ครับ
00:19:59 → 00:20:02 คือหมายถึงว่าข้างนึงจะทำงาน 70% ข้างนึง
00:20:02 → 00:20:04 จะทำงาน 70% แต่เมื่อมันรวมกันมันกลาย
00:20:04 → 00:20:08 เป็น 100% อ๋อเกินรอยด้วยใช่ครับอ่าเพียง
00:20:08 → 00:20:11 แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เวลาไตเสื่อม
00:20:11 → 00:20:14 เนี่ยจุดเริ่มต้นเนี่ยมันอาจจะยังไม่ได้
00:20:14 → 00:20:17 แสดงเห็นเพราะว่าไตทั้ง 2 ข้างก็ยังช่วย
00:20:17 → 00:20:19 กันทำงานอยู่อืแต่พอสักพักนึงเนี่ยเมื่อ
00:20:19 → 00:20:22 การทำงานของไตมันลดลงมากขึ้นเนี่ยพอ 2
00:20:22 → 00:20:25 ข้างทำงานเนี่ยมันทำงานได้ไม่ถึง 100%
00:20:25 → 00:20:27 มันจะค่อยๆลดแต่ถ้าเกิดว่ามันลงไปเยอะ
00:20:27 → 00:20:30 ครับจะมีอะไรบอกได้มั้ยคะในในร่างกายของ
00:20:30 → 00:20:33 เราที่จะแสดงออกมาอาการที่เราจะพบได้นะ
00:20:33 → 00:20:35 ครับในคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของ
00:20:35 → 00:20:38 ไตลดลงเนี่ยอย่างเช่นภาวะบวมบวมน้ำเนื่อง
00:20:38 → 00:20:42 จากไตเนี่ยมีหน้าที่ในการขับเกลือแร่ขับ
00:20:42 → 00:20:45 น้ำออกจากในร่างกายในส่วนเกินที่เรารับ
00:20:45 → 00:20:49 ประทานเข้าไปถูกมั้ยครับเวเราดื่มน้ำก็จะ
00:20:49 → 00:20:51 มีการปัสสาวะออกมาเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตทำ
00:20:51 → 00:20:55 งานได้ลดลงคนไข้ก็จะบวมส่วนเริ่มแรกก็คือ
00:20:55 → 00:20:58 จะบวมที่ขาทั้ง 2 ข้างนะครับเป็นบวมปด
00:20:58 → 00:21:00 บุ๋มหลังจากนั้นเนี่ยเมื่อบวมมากขึ้นบาง
00:21:00 → 00:21:02 คนอาจจะมีปัญหาเรื่องของการหายใจที่ผิด
00:21:02 → 00:21:05 ปกติเพราะว่ามีน้ำท่วมปอดหรือว่าจะมี
00:21:05 → 00:21:09 เรื่องของหนังตาเปลือกตาที่บวมอันนี้จะ
00:21:09 → 00:21:12 เป็นอาการที่สังเกตได้ง่ายๆนะครับสิ่งที่
00:21:12 → 00:21:16 2 ก็คือปัสสาวะเป็นฟองหะใช่ใช่ครับปกติ
00:21:16 → 00:21:18 เนี่ยเราจะมีปัสสวะเป็นฟองอยู่แล้วะแต่
00:21:18 → 00:21:20 เมื่อไหร่ก็ตามที่สังเกตว่าเอ๊สมัยก่อน
00:21:21 → 00:21:23 เราราดน้ำแค่ครั้งเดียวค่ะแต่ว่าพอหลัง
00:21:23 → 00:21:26 จากนั้นเนี่ยทำไมช่วงนี้ราด 2-3 ครั้ง
00:21:26 → 00:21:28 แล้วเนี่ยยังมีฟองอยู่เลยอันเนี้ยเป็น
00:21:28 → 00:21:31 ปัญหาที่เราต้องไปหานะครับเพราะว่าสิ่ง
00:21:31 → 00:21:33 ที่ออกมากับปัสสาวะเป็นฟองเนี่ยคือโปรตีน
00:21:33 → 00:21:37 ที่ลั่วออกมาในปัสสาวะอ้าวนะครับหรือนอก
00:21:37 → 00:21:38 เหนือจากนั้นเนี่ยอาการที่อาจจะมีความ
00:21:38 → 00:21:41 ปกติได้ก็อย่างเช่นเรื่องของปัสสาวะเป็น
00:21:41 → 00:21:44 สีเลือดหรือว่าเป็นสีเลือดสดนะครับ
00:21:44 → 00:21:47 อันเนี้ยคือผิดปกติค่ะหรือในระยะท้ายๆ
00:21:47 → 00:21:49 เนี่ยก็จะมีความผิดปกติของการสร้าง
00:21:49 → 00:21:52 ฮอร์โมนบางชนิดได้เพราะเนื่องจากว่าไตเอง
00:21:52 → 00:21:54 เนี่ยเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนด้วยค่ะที่
00:21:54 → 00:21:58 สำคัญคืออ่าเป็นฮอร์โมนอิริพอยอิตินอัน
00:21:58 → 00:22:01 นี้เี่เป็นการสร้างเม็ดเลือดแดงเมื่อไหร่
00:22:01 → 00:22:03 ก็ตามที่ขาดตรงนี้ปุ๊บร่างกายก็จะมีภาวะ
00:22:03 → 00:22:09 ซีดตามมานะครับสุดท้ายเองไตเปลี่ยนการทำ
00:22:09 → 00:22:13 งานของวิตามินดีให้กลายเป็นในรูปที่ทำงาน
00:22:13 → 00:22:15 นะครับเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตเสื่อมลงเนี่ย
00:22:15 → 00:22:17 การเปลี่ยนวิตามินดีให้เป็นรูป Active
00:22:17 → 00:22:20 form เนี่ยมันจะน้อยลงพอน้อยลงปุ๊บมันทำ
00:22:20 → 00:22:23 ให้เกิดปัญหาเรื่องของภาวะมวลกระดูกเกิด
00:22:23 → 00:22:26 เรื่องของกระดูกพรุนได้ดังนั้นเนี่ยในคน
00:22:26 → 00:22:28 สูงอายุหรือว่ายังไม่สูงอายุแต่ว่ามี
00:22:28 → 00:22:31 ปัญหาเรื่องกระดูกพุนเค้าก็จะต้องเวิร์ค
00:22:31 → 00:22:34 หาสาเหตุเรื่องของไตด้วยนะครับออโอ้โห
00:22:34 → 00:22:37 หลายอย่างมากจริงๆนะคะคุณหมอคะอันนี้ถาม
00:22:37 → 00:22:40 นิดนึงเรื่องของปัสสาวะที่ถ้าถ้ามันเป็น
00:22:40 → 00:22:44 สีเลือดสีเข้มๆอันเนี้ยผิดปกติผิดปกติ
00:22:44 → 00:22:46 ครับถ้าอย่างสีเข้มๆอย่างการดื่มน้ำน้อย
00:22:46 → 00:22:49 หรืออะไรพวกเยมันจะนำไปสู่ในอนาคตได้มั้ย
00:22:49 → 00:22:52 คะที่ว่าจะทำให้ไตเสื่อมมันต้องนานแค่ไหน
00:22:52 → 00:22:55 หรืออะไรังไงมั้ยคะครับอ่าในกลุ่มที่รับ
00:22:55 → 00:22:59 ประทานน้ำน้อยเนี่ยร่างกายก็พยายามที่จะ
00:22:59 → 00:23:02 ปรับตัวโดยการขับปัสสาวะออกมาจำนวนน้อย
00:23:02 → 00:23:04 อ๋อดังนั้นเนี่ยสีเลยเข้มขึ้นถูกมั้ยคะ
00:23:04 → 00:23:07 เพราะร่างกายพยายามเก็บน้ำอือฮึในกลุ่ม
00:23:07 → 00:23:10 เนี้ยถ้าไม่ได้น้อยเกินไปร่างกายก็ถือว่า
00:23:10 → 00:23:12 เป็นการปรับตัวยังไม่มีปัญหาแต่เมื่อไหร่
00:23:12 → 00:23:17 ก็ตามที่ทำแบบเนี้ยนานๆแล้วร่างกายดันมี
00:23:17 → 00:23:20 ภาวะผิดปกติจากสาเหตุอื่นร่วมด้วยอือมัน
00:23:20 → 00:23:22 จะยิ่งทำให้การทำงานของไตเนี่ยแย่ลงได้
00:23:23 → 00:23:26 เร็วนะครับเหมือนเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้
00:23:26 → 00:23:30 เกิดโรคไตตามมาได้นะครับนั้นจึงมีคำแนะนำ
00:23:30 → 00:23:32 ว่าไม่ควรที่ดื่มน้ำน้อยกว่า 1.5 -2
00:23:32 → 00:23:37 ลิตรอืในคนปกตินะครับแต่ถ้าในคนที่มีโรค
00:23:37 → 00:23:40 อื่นๆเช่นโรคหัวใจมีปัญหาเรื่องของการบีบ
00:23:40 → 00:23:42 ตวงหัวใจพวกเนี้ยเขาอาจจะต้องจำกัดน้ำมาก
00:23:42 → 00:23:46 ขึ้นนะครับแต่ว่าถ้าในคนที่ไม่ได้มีอาการ
00:23:46 → 00:23:49 หรือว่ายังไม่ได้เป็นโรคไตเนี่ยผมก็ยัง
00:23:49 → 00:23:52 ยืนยันว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
00:23:52 → 00:23:54 คือ 1.5 ลิตรถึง 2 ลิตรเนี่ยเป็นสิ่งที่
00:23:54 → 00:23:58 ดีครับค่ะภาวะไตวายอ่าอ่าถามเป็นความรู้
00:23:58 → 00:24:00 ว่ามันมันเป็นภาวะเดียวเลยมั้ยคะหรือว่า
00:24:00 → 00:24:04 มันมีแบ่งย่อยอะไรอีกมั้ยครับภาวะไต
00:24:04 → 00:24:06 เสื่อมเนี่ยแบ่งเป็นเฉียบพลันกับเรื้อรัง
00:24:06 → 00:24:09 นะครับอันนี้เป็นกลุ่มใหญ่ๆแต่สาเหตุ
00:24:09 → 00:24:12 เนี่ยมีได้หลากหลายสาเหตุนะครับแต่ใน
00:24:12 → 00:24:16 กลุ่มที่มีความสำคัญเนี่ยคือในกลุ่มของไต
00:24:16 → 00:24:20 วายเรื้อรังค่ะที่เคยเรียนให้ทราบว่าใน
00:24:20 → 00:24:26 ประเทศไทยเนี่ยมีการสำรวจพบว่าประชากรที่
00:24:26 → 00:24:28 เดินมา 6 คนเนี่ยอือฮือ 1 คนจะเป็นไตวาย
00:24:28 → 00:24:32 เรื้อรังอืนะครับค่ะไม่ว่าจากสาเหตุใดๆก็
00:24:33 → 00:24:36 ตามแต่เราพบว่า 1 คนจาก 6 คนก็คือประมาณ
00:24:36 → 00:24:40 16% เนี่ยคนไข้เหล่าเนี้ยมีภาวะเรื่อง
00:24:40 → 00:24:43 ของไตเสื่อมเรื้อรังอยู่อืนะครับซึ่ง
00:24:43 → 00:24:45 กลุ่มเนี้ยเป็นกลุ่มที่ที่สำคัญเพราะว่า
00:24:45 → 00:24:48 อย่างที่บอกคือเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตวาย
00:24:48 → 00:24:51 เรื้อรังเนี่ยอ่าเป็นมากขึ้นเราจะแบ่ง
00:24:51 → 00:24:54 เป็น 5 ระยะนะครับระยะที่ 1 ที่ 2 เนี่ย
00:24:54 → 00:24:57 อาจจะยังไม่แสดงอาการอ่าระยะที่ 3 4
00:24:57 → 00:25:00 เนี่ยเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนค่ะระยะที่ 5
00:25:00 → 00:25:03 เนี่ยไตทำงานไม่เพียงพอจำเป็นที่ต้องได้
00:25:03 → 00:25:06 รับการบำบัดทดแทนไตค่ะดังนั้นเนี่ยใน
00:25:06 → 00:25:08 กลุ่มที่เป็นระยะที่ 3 4 5 จำเป็นที่จะ
00:25:08 → 00:25:10 ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะกับ
00:25:11 → 00:25:14 อายุรแพทย์โลคไตนะครับค่ะในกลุ่มนี้อ๋อ 1
00:25:14 → 00:25:18 2 นี่ยังไม่แสดงอาการใช่ครับ 3 4 เริ่ม
00:25:18 → 00:25:20 มีภาวะแทรกซ้อนเริมมีภาวะแทรกซ้อน 5 นี่
00:25:20 → 00:25:24 คือต้องมีการเริ่มมีการทำบำบัดทดแทนไปอื
00:25:25 → 00:25:28 การจะก้าวไปสู่ 3 4 1 2 ว่าไม่มีอาการ
00:25:28 → 00:25:31 3 4 มันจะบอกอะไรมีอาการอะไรออกมาให้
00:25:31 → 00:25:34 เรารู้บ้างมั้ยคะครับอันที่ 1 เลยจากการ
00:25:34 → 00:25:37 ตรวจสุขภาพนะครับบางคนเนี่ยไม่มีแสดง
00:25:37 → 00:25:41 อาการเลยแต่ว่ามาตรวจพบค่าไตว่ามีปัญหาใน
00:25:41 → 00:25:44 ระยะที่ 3 ในระยะที่ 4 แล้วหรือในคนไข้
00:25:44 → 00:25:47 บางคนมีโรคเรื้อรังติดตามมาโดยตลอดตอนแรก
00:25:47 → 00:25:50 ไตยังดีอยู่พอตามมาสักระยะนึงไตเริ่มวาย
00:25:50 → 00:25:54 มากขึ้นอืหรือในระยะที่ 3 คนไข้ที่มี
00:25:54 → 00:25:57 ปัญหาเรื่องของโรคทางพันธุกรรมค่ะพอสัก
00:25:57 → 00:26:00 วันวันนึงเนี่ยไตเทำงานได้ลดลงก็จะมาอยู่
00:26:00 → 00:26:02 ในระยะที่ 3 กับ 4 ดังนั้นเนี่ยการดำเนิน
00:26:02 → 00:26:05 โลกของแต่ละสาเหตุจะไม่เหมือนกันค่ะแต่
00:26:05 → 00:26:07 เรารู้ว่าในระยะที่ 3 กับในระยะที่ 4
00:26:07 → 00:26:11 เนี่ยเริ่มมีอาการและเริ่มมีภาวะแทรกสอน
00:26:11 → 00:26:13 ค่ะในคนไข้กลุ่มเหล่าเนี้ยจำเป็นที่ต้อง
00:26:13 → 00:26:16 รับการดูแลอย่างดีอือเพื่อไม่ให้กลายไป
00:26:16 → 00:26:19 เป็น 5 อย่างรวดเร็วอย่างรวดใช่ครับอย่าง
00:26:19 → 00:26:23 รวดเร็วแสดงว่ามันถ้าดูแลอย่างดีครับก็จะ
00:26:23 → 00:26:27 ไปเป็น 5 อย่างช้าๆใช่ครับเมื่อไหร่ก็ตาม
00:26:27 → 00:26:29 ที่เป็นไไตวายเรื้อรังแล้วเนี่ยจะไม่กลับ
00:26:29 → 00:26:33 ไปเป็นปกติอแต่เราสามารถชะลอไม่ให้กลายไป
00:26:33 → 00:26:37 เป็นในระยะสุดท้ายค่ะอย่างรวดเร็วคุณหมอ
00:26:37 → 00:26:40 บอกว่าไตมี 2 ข้างใช่ครับทำงานข้างละ 70%
00:26:40 → 00:26:43 อร 30% มันหายไปไหนอ่ะคะครับมันยังไม่ทำ
00:26:43 → 00:26:46 งานมันก็เก็บของมันเอาไว้อ้อใช่ครับเพราะ
00:26:46 → 00:26:49 ว่าแต่ละอย่างเช่นข้างนี้ทำงาน 70% ข้าง
00:26:49 → 00:26:51 นี้ทำงาน 70% สุดท้ายผลรวมมันก็คือเกิน
00:26:51 → 00:26:53 100 100% ถูกมั้ยครับดังนั้นเนี่ยมันก็
00:26:53 → 00:26:56 ไม่จำเป็นต้องทำงานเต็มที่่ค่ะอ๋อแบ่งกัน
00:26:56 → 00:26:59 ทำงานใช่ครับเบาๆกันไปใช่ครับแต่ถ้ามันลง
00:26:59 → 00:27:01 ลงลงลงลงเมื่อไรมันลงมาแล้วเนี่ยปุ๊บคราว
00:27:01 → 00:27:03 เนี้ยทั้ง 2 ข้างต้องทำงานเต็มที่ละเอา
00:27:03 → 00:27:06 ไอ้ 30% ที่ยังไม่ได้ใช้เนี่ยเอามาใช้ซะ
00:27:06 → 00:27:08 เต็มที่แต่ปัญหาของมันก็คือว่าในเมื่อไต
00:27:08 → 00:27:10 มันเสื่อมมันก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มร้อย
00:27:11 → 00:27:13 ทั้ง 2 ข้างบวกกันก็ยังไม่เต็มร้อยใช่
00:27:13 → 00:27:17 โอ้โหอ้าแล้วอย่างงั้นคือถ้าเราจะชะลอ
00:27:17 → 00:27:20 ชะลอนะครับก็คืออันที่ 1 เลยต้องตรวจพบ
00:27:20 → 00:27:23 ก่อนว่าว่าคนไข้เป็นโรคไตหรือเปล่าถูก
00:27:23 → 00:27:25 มั้ยครับค่ะการตรวจก็อย่างที่บอกก็คือยัง
00:27:25 → 00:27:28 คงเน้นย้ำเรื่องของการตรวจคัดกรอง
00:27:28 → 00:27:31 นะอันที่ 2 เนี่ยคือถ้ารู้แล้วว่าเป็นโรค
00:27:31 → 00:27:34 ไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราจะแนะนำให้คนไข้
00:27:34 → 00:27:37 ต้องดูแลตัวเองนะครับโดยเฉพาะระยะที่ 3
00:27:37 → 00:27:39 ระยะที่ 4 เนี่ยยังเป็นระยะที่ยังชะลอได้
00:27:39 → 00:27:42 อยู่ค่ะคนไข้เหล่านี้นคือจะต้องได้รับการ
00:27:42 → 00:27:45 ควบคุมอาหารออันที่ 1 คือไม่รับประทาน
00:27:45 → 00:27:49 เค็มค่ะอันที่ 2 ก็คือมีเกลือแร่บางตัว
00:27:49 → 00:27:52 เริ่มมีปัญหาอย่างเช่นฟอสฟอรัสแคลเซียม
00:27:52 → 00:27:55 หรือว่าวิตามินดีอือหรือว่าพาราไทร
00:27:55 → 00:27:57 ฮอร์โมนกลุ่มเนี้ก็จะมีอาหารเฉพาะที่เ
00:27:57 → 00:27:59 ต้องมาเรียนรู้ว่าเาจะต้องหลีกเลี่ยง
00:27:59 → 00:28:02 อาหารประเภทไหนรับประทานอาหารประเภทไหน
00:28:02 → 00:28:05 ได้นะครับอันที่ 3 เนี่ยคือต้องดูแลโรค
00:28:05 → 00:28:07 ร่วมให้ดีๆเพราะเรายังรู้ว่าอย่างที่
00:28:07 → 00:28:10 เรียนให้ทราบว่าโรคเบาหวานโรคความดันนั้น
00:28:10 → 00:28:13 ส่งผลมาถึงโรคไตดังนั้นต้องควบคุมปัจจัย
00:28:13 → 00:28:15 เสี่ยงเหล่าเนี้ยให้ดีนะครับแล้วที่ไม่
00:28:16 → 00:28:20 ควรมองข้ามก็คือเรื่องของการสูบบุหรี่ออ
00:28:20 → 00:28:22 เรารู้ว่าบุหรี่เนี่ยเป็นตัวที่ทำให้การ
00:28:23 → 00:28:25 ดำเนินโลคของไตเนี่ยเสียได้อย่างรวดเร็ว
00:28:25 → 00:28:28 ขึ้นดังนั้นเนี่ยจะแนะนำเสมอครับว่าอยาก
00:28:28 → 00:28:31 ให้หยุดการสุกบุหรี่ให้หยุดเลยนะอันนี้
00:28:31 → 00:28:33 ไม่ใช่ว่าค่อยๆลดไปนะใช่ครับไม่ใช่ค่อยๆ
00:28:33 → 00:28:35 ลดครับต้องหยุดต้องหยุดบุหรี่หยุดสุดท้าย
00:28:35 → 00:28:39 เองเนี่ยก็คือทำการรักษาควบคู่ก็คือเป็น
00:28:39 → 00:28:42 การรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นค่ะทั้ง
00:28:42 → 00:28:45 เรื่องความดันโลหิตสูงทั้งเรื่องของอ่า
00:28:45 → 00:28:49 การกระตุ้นเม็ดเลือดแดงค่ะให้กลับมาในใน
00:28:49 → 00:28:53 อยู่ในภาวะที่ปกตินะครับรวมถึงการสอนญาติ
00:28:53 → 00:28:58 และครอบครัวเป็นการให้ความรู้แก่คนไข้ว่า
00:28:58 → 00:29:03 อือที่ค่ะดังนั้นเราต้องเริ่มวางแผนว่าคน
00:29:03 → 00:29:06 ไข้เหล่าเนี้ยจะเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไต
00:29:06 → 00:29:09 ชนิดไหนอ๋อมีมีให้เลือกได้ใช่ครับใช่มคะ
00:29:09 → 00:29:12 อือันนี้เดี๋ยวขออนุญาตค่ะคุณหมอพอดีว่า
00:29:12 → 00:29:16 คุณน้าเป็นแล้วคุณหมอก็สั่งห้ามเลยว่าอา
00:29:16 → 00:29:18 ล่ะช่วงนี้งดเค็มแน่ๆนะเพราะว่าคือเบา
00:29:18 → 00:29:22 หวานส่งผลมาที่ตายตอนแรกเอ่อคุมระดับเบา
00:29:22 → 00:29:25 หวานได้เป็นอย่างดีก็ดูแลมาอย่างดีอยู่ๆ
00:29:25 → 00:29:28 วันนึงไม่รู้ไปทำยังไง่าเบาหวาน
00:29:28 → 00:29:30 แย่ลงนะคะปรากฏว่ามันก็มีผลกับเรื่องของ
00:29:31 → 00:29:34 ไตทีนี้คุณหมอก็เลยห้ามอ่ะห้ามเค็มนะผัก
00:29:34 → 00:29:38 ผลไม้ไม่ให้กินเลยอ่าต้องเรียนให้ทราบ
00:29:38 → 00:29:41 ก่อนนะครับว่ามันจะมีเกลือแร่บางตัวที่มี
00:29:41 → 00:29:44 ปัญหาดังนั้นต้องทราบก่อนว่าในคนไข้โรกไต
00:29:44 → 00:29:47 เนี่ยมีปัญหาเรื่องของค่าโปแทสเซียมที่
00:29:47 → 00:29:49 สูงหรือเปล่าอืหรือว่ามีเรื่องของ
00:29:49 → 00:29:52 ฟอสฟอรัสที่สูงหรือเปล่าค่ะจะมีอาหารบาง
00:29:52 → 00:29:54 ประเภทที่เราไม่แนะนำให้รับประทานอย่าง
00:29:54 → 00:29:58 เช่นค่ะอาหารที่มีโปแทสเซียมสูงค่ะได้แก
00:29:58 → 00:30:03 ผลมนะครับผลไม้ที่เจอได้บ่อยที่ที่พบเยอะ
00:30:03 → 00:30:06 นะครับในโปแทสเซียมก็คือกล้วยทุกชนิด
00:30:06 → 00:30:12 โอหง่ายเลยนะลำทุเรียนโนะครับแก้วมังกระ
00:30:12 → 00:30:15 แก้วมังกรจืดๆเนี่ยนะคะใช่ครับในกลุ่ม
00:30:15 → 00:30:17 เหล่านี้เราพบว่าโปแทสเซียมค่อนข้างสูง
00:30:17 → 00:30:19 ค่ะนะครับแต่ก็จะมีไม่กี่ชนิดที่
00:30:19 → 00:30:22 โปแทสเซียมไม่ได้สูงมากอย่างเช่นแตงโมอื
00:30:22 → 00:30:25 แตงโมเนี่ยโปแทสเซียมน้อยนะครับหรือผัก
00:30:25 → 00:30:27 บางชนิดเองก็เป็นตัวที่ทำให้เกิด
00:30:27 → 00:30:31 โปแตสเซียมสูงได้อย่างเช่นคะน้าค่ะผักใบ
00:30:31 → 00:30:36 ยอดโอ้โหชะเอมค่ะชะอมค่ะนะครับสิ่งต่างๆ
00:30:36 → 00:30:38 เหล่าเนี้ยคือทำให้โปแทสเซียมสูงได้ดัง
00:30:38 → 00:30:42 นั้นเนี่ยอ่าหมอคิดว่าเราคงจำไม่ได้ทุก
00:30:42 → 00:30:45 ชนิดแต่เราสามารถที่จะเปิดหาข้อมูลใน
00:30:45 → 00:30:48 อินเทอร์เน็ตได้ก็ลองหาดูว่าอาหารที่มี
00:30:48 → 00:30:52 โปแทสเซียมสูงเหล่าเนี้ยควรที่จะงดนะครับ
00:30:52 → 00:30:55 อันต่อมาก็คือฟอสฟอรัสเรารู้ว่าในคนไข้
00:30:55 → 00:30:58 ที่เป็นไตเสื่อมเลือเื้อรังในระยะท้าย
00:30:58 → 00:31:01 เนี่ยเขาจะไม่สามารถที่จะขับฟอสฟอรัสได้
00:31:01 → 00:31:03 นะครับดังนั้นเนี่ยก็จะมีอาหารบางชนิด
00:31:03 → 00:31:08 อย่างเช่นถั่วงาธัญพืชของหมักดองอาหาร
00:31:08 → 00:31:12 กระป๋องกุนเชียงโอ้หรือพวกเนี้ยอาหารที่
00:31:13 → 00:31:15 มีโปรตที่มีฟอสฟอรัสสูงเนี่ยค่ะคุณหมอ
00:31:16 → 00:31:19 เขาคก็จะแนะนำให้ให้ให้งดนะครับแต่ก็จะมี
00:31:19 → 00:31:21 อาหารอีกหลายๆชนิดเช่นเดียวกันที่สามารถ
00:31:21 → 00:31:23 ที่รับประทานได้ดังนั้นเนี่ยคือเมื่อไหร่
00:31:24 → 00:31:26 ก็ตามที่เป็นไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราจะ
00:31:26 → 00:31:28 มีคลินิกไตเื่อเมเรื้อลังซึ่งตรรงนี้นี่
00:31:28 → 00:31:32 แหละจะเป็นการดูแลคนไข้แบบองค์รวมอ๋อจะมี
00:31:32 → 00:31:34 นักโภชนาการเข้ามาช่วยดูแลเรื่องของอาหาร
00:31:35 → 00:31:38 ค่ะจะมีนักเภสัชวิทยาเนี่ยคุณเภสัชเนี่ย
00:31:38 → 00:31:41 เาจะช่วยดูเรื่องของยาค่ะเพราะว่าคนไข้
00:31:41 → 00:31:43 โรคไตเนี่ยผมเชื่อแน่นอนว่าต้องรับยามาก
00:31:43 → 00:31:46 กว่า 1 ที่ค่ะนะครับต่างๆเหล่าเนี้ยเขาจะ
00:31:46 → 00:31:48 มาช่วยดูให้ว่ายาไหนมีประโยชน์ยาไหนที่มี
00:31:48 → 00:31:51 ผลต่อไตแล้วก็ช่วยคัดกรองอแล้วก็พบกับนัก
00:31:51 → 00:31:54 โภชนาการนะครับหรือนอกเหนือจากนี้เนี่ยก็
00:31:54 → 00:31:58 จะมีทีมคุณพยาบาลที่ช่วยสอนว่าเอาล่ะคน
00:31:58 → 00:32:00 ไข้เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังเนี่ยเราต้อง
00:32:00 → 00:32:03 ดูแลสุขภาพอย่างไรต้องฉีดวัคซีนอะไรหรือ
00:32:03 → 00:32:05 เปล่าสุดท้ายแล้วเนี่ยเมื่อไตเสื่อมไป
00:32:05 → 00:32:07 เนี่ยเรามีการบำบับทดแทนไตยังไงค่ะ
00:32:07 → 00:32:10 อันเนี้ยนะครับในคนไข้ไตไตวายเรื้อรัง
00:32:10 → 00:32:13 เนี่ยผมแนะนำว่าให้เข้าสู่คลินิกไตวาย
00:32:13 → 00:32:16 เรื้อรังเสมออ๋อจะเป็นเฉพาะทางไปเลยใช่
00:32:16 → 00:32:19 ครับในปัจจุบันเนี่ยคือทุกโรงพยาบาลของ
00:32:19 → 00:32:21 ทุกจังหวัดเนี่ยจะมีคุณหมอไตอยู่ะค่ะแล้ว
00:32:21 → 00:32:24 ก็จะมีคลินิกไตเสื่อมเรื้อรังเพื่อดูแลคน
00:32:24 → 00:32:27 ไข้กลุ่มนี้โดยเฉพาะค่ะนะครับจุดประสงค
00:32:27 → 00:32:30 หลักของเาเลยคือการชะลอไม่ให้ไตเสื่อมอื
00:32:30 → 00:32:32 อย่างรวดเร็วครับเดี๋ยวให้คุณหมอได้ได้
00:32:32 → 00:32:35 ได้เล่าให้ฟังหน่อยครับสำหรับในส่วนของ
00:32:35 → 00:32:38 ถ้าเกิดว่าคลินิกอ่าคลินิกในการบำบัดใช่
00:32:38 → 00:32:41 มั้ยคะเป็นเป็นแบบนี้ครับเราจะแยกคลินิก
00:32:41 → 00:32:44 ออกเป็น 2 ส่วนอืในคนไข้ที่เป็นไตเสื่อม
00:32:44 → 00:32:47 เรื้อรังเนี่ยค่ะเขาเรียกว่าจะเข้าพบคุณ
00:32:47 → 00:32:51 หมอที่เป็นอายุรแพทย์โรคไตนะครับในแต่ละ
00:32:51 → 00:32:54 โรงพยาบาลที่มีความพร้อมบางที่จะจัดตั้ง
00:32:54 → 00:32:57 เป็นคลินิกไตเสื่อมเลื้อรังคลินิกไต
00:32:57 → 00:33:00 เสื่อมเรือรังครับบางที่จะจัดให้ตรวจกับ
00:33:00 → 00:33:04 คุณหมอโลกไตแต่ก็จะมีทีมสหสาขาวิชาชีพ
00:33:04 → 00:33:07 ช่วยดูตรงนี้ให้อยู่อ๋อนะครับเบื้องต้น
00:33:07 → 00:33:09 เลยเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นไตเสื่อมเรื้อ
00:33:09 → 00:33:13 รังเนี่ยผมจะแนะนำให้เข้าไปพบคุณหมอไต
00:33:13 → 00:33:17 ก่อนค่ะเสมอนะครับเพื่อร่วมดูแลในจุดนี้อ
00:33:17 → 00:33:20 ค่ะเมื่อไหร่ก็ตามที่การดูแลไปสักระยะ
00:33:20 → 00:33:24 หนึงแล้วไตวายมากขึ้นไตเสื่อมการงานของไต
00:33:24 → 00:33:27 ต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไตค่ะก็ก็จะเข้า
00:33:27 → 00:33:31 สู่อ่าคลินิกไตเทียมคลินิกไตเทียมอ๋อซึ่ง
00:33:31 → 00:33:35 คลินิคไตเทียมเนี่ยก็จะแบ่งออกตามอ่าการ
00:33:35 → 00:33:39 บำบัดทดแทนไตที่คนไข้เลือกรับนะครับค่ะมี
00:33:39 → 00:33:43 ตั้งแต่การบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดค่ะ
00:33:43 → 00:33:45 หรือเรียกว่าฮีโม dialysis อันที่ 2 คือ
00:33:45 → 00:33:48 การล้างไตทางช่องท้องอันนี้ก็จะเป็นอ่า
00:33:48 → 00:33:51 peritoneal dialysis ค่ะกลุ่มที่ 3 ก็
00:33:51 → 00:33:55 คือจะเป็นการปลูกถ่ายปลูกถ่ายไตนะครับ
00:33:55 → 00:33:57 หรือที่เรียกว่า kidney transplantation
00:33:57 → 00:34:00 กลุ่มสุดท้ายปัจจุบันเราก็จะมีคนไข้สังคม
00:34:00 → 00:34:03 ผู้สูงอายุถูกมั้ยครับไม่รับการบำบัดทด
00:34:03 → 00:34:05 แทนไตใน 3 กลุ่มแรกอือเราก็จะจัดเป็น
00:34:05 → 00:34:09 กลุ่มที่เรียกว่าดูแลแบบประคับประคองอ๋อ
00:34:10 → 00:34:12 คือไม่ยอมไม่ไม่ยอม 3 อย่างแรกไม่เอาเลย
00:34:12 → 00:34:14 ใช่ครับหรือว่า 3 อย่างแรกอาจจะไม่เหมาะ
00:34:14 → 00:34:18 กับเขาอือย่างเช่นในคนไข้ที่อายุมากๆ 90
00:34:18 → 00:34:22 ปีนอนติดเตียงมีโรคร่วมเยอะหรือคนไข้ที่
00:34:22 → 00:34:26 เป็นโรคมะเร็งนะครับกลุ่มเหล่านี้น่ะเรา
00:34:26 → 00:34:30 ค้าคาว่าถ้าเขฟอกเลือดกับเขาไม่ฟอกเลือด
00:34:30 → 00:34:34 อัตราการรอดชีวิตไม่แตกต่างกันอืแล้วก็
00:34:34 → 00:34:37 เน้นการดูแลาแบบองค์รวมค่ะนะครับอันนี้ก็
00:34:37 → 00:34:40 คือเป็นทางเลือกที่ 4 ขึ้นมาซึ่งยอมรับ
00:34:40 → 00:34:44 โดยสมาคมโลกไตที่เพิ่งประกาศให้กับคุณหมอ
00:34:44 → 00:34:47 ทุกท่านได้ได้ให้ให้คนไข้เนี่ยได้เลือก
00:34:47 → 00:34:50 แนวทางนี้ด้วยอ๋ออันนี้คือขึ้นอยู่กับแต่
00:34:50 → 00:34:53 ละเคสไม่เหมือนกันไม่เหมือนกันครับอือื
00:34:53 → 00:34:57 จากปัจจัยอาจจะแล้วแต่บุคคลเลยอันนี้่
00:34:57 → 00:34:58 ครับค่ะคือเราจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วย
00:34:58 → 00:35:02 กันก็คือส่วนผู้ป่วยเองคนดูแลแล้วก็แพทย์
00:35:02 → 00:35:04 เจ้าของใครค่ะ 3 คนเนี้ยจะต้องเป็นคนที่
00:35:04 → 00:35:07 ช่วยร่วมกันตัดสินแล้วก็ให้ความรู้กับคน
00:35:07 → 00:35:11 ไข้และญาติค่ะว่าเขาจะเลือกแบบไหนอือนะ
00:35:11 → 00:35:14 ครับค่ะอ่าท้ายนี้คุณหมอมีอะไรอยากฝากถึง
00:35:14 → 00:35:16 คุณผู้ฟังหน่อยมั้ยคะฟังกันมามากมายกับ
00:35:16 → 00:35:20 ข้อมูลตรงนี้แล้วเนี่ยนะหลายคนนึกในใจไม่
00:35:20 → 00:35:23 อยากเป็นครับเอออีกคนอีกบางคนบางส่วนที่
00:35:23 → 00:35:25 ฟังอยู่ฉันเป็นอยู่เอออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:35:25 → 00:35:28 ฟากหน่อยค่ะครับก็คือคือโรกไตเนี่ยถือว่า
00:35:28 → 00:35:33 เป็นภัยเงียบนะครับดังนั้นเนี่ยทุกคนจะ
00:35:33 → 00:35:36 ไม่อยากเป็นถูกมยครับค่ะหมอถึงแนะนำว่า
00:35:36 → 00:35:39 การตรวจคัดกรองน่ะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
00:35:39 → 00:35:42 นะครับตั้งแต่การตรวจในระยะที่ยังไม่เป็น
00:35:42 → 00:35:45 โรคหรือว่ามีปัจจัยเสี่ยงเนี่ยตัวไหนที่
00:35:45 → 00:35:48 ที่จะทำให้เกิดโรคตามมาเนี่ยถ้าเราหยุด
00:35:48 → 00:35:51 สามารถที่จะดูแลตรงนั้นได้ดีมันจะไม่ทำ
00:35:52 → 00:35:55 ให้เกิดโรคไตค่ะตามมานะครับดังนั้นเนี่ย
00:35:55 → 00:35:57 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคือการตรวจคัดกรอง
00:35:57 → 00:36:02 นะครับการดูแลก็แนะนำว่าดื่มน้ำให้เพียง
00:36:02 → 00:36:06 พอรดเค็มไม่สุบบุหรี่แล้วก็รักษาโรคที่มี
00:36:06 → 00:36:09 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อ
00:36:10 → 00:36:12 รังนะครับสุดท้ายเนี่ย
00:36:12 → 00:36:16 อ่าแนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีนะครับวัน
00:36:16 → 00:36:17 นี้ได้ความรู้กันเยอะแยะมากมายค่ะต้อง
00:36:17 → 00:36:20 ขอบคุณนายแพทย์ปรชญาภูมิอุทัยวิรัตนะคะ
00:36:20 → 00:36:22 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคไต
00:36:22 → 00:36:24 โรงพยาบาลจุฬาภรณที่มาให้ความรู้กับเราใน
00:36:25 → 00:36:27 วันนี้ด้วยขอบคุณคุณหมอค่ะครับขอบคุณครับ
00:36:27 → 00:36:29 ค่ะสวัสดี
00:36:29 → 00:36:36 [เพลง]
00:36:36 → 00:36:39 ค่ะ