00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาพูดเรื่องของ
00:00:03 → 00:00:06 คอมบูชาหรือเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
00:00:06 → 00:00:08 ที่หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินนะครับแล้วก็บาง
00:00:09 → 00:00:11 คนก็คงจะเคยดื่มหรือว่าดื่มอยู่ประจำด้วย
00:00:11 → 00:00:13 นะครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องให้ฟังว่า
00:00:13 → 00:00:17 มันมีที่มาที่ไปอย่างไรนะครับมีหลักฐาน
00:00:17 → 00:00:21 อะไรไหมในแง่ของผลดีของมันนะครับแล้วก็ผล
00:00:21 → 00:00:23 เสียของมันมีอะไรบ้างก็เดี๋ยวจะเล่าฟัง
00:00:23 → 00:00:25 กันเลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:25 → 00:00:27 ธีรียวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:27 → 00:00:29 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:29 → 00:00:32 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องของ
00:00:32 → 00:00:35 กัมพูชานั้นจริงๆเนี่ยผมก็ลองไปค้นดูนะ
00:00:36 → 00:00:38 ครับว่าเออมันมีที่มาที่ไปอย่างไรเพราะ
00:00:38 → 00:00:41 ว่าเท่าที่เราแปลตรงตัวเลยนะครับคือมัน
00:00:41 → 00:00:44 น่าจะมาจากคำว่าคมบุซึ่งมันเป็นสาหร่าย
00:00:44 → 00:00:45 อย่างหนึ่งของญี่ปุ่นนะครับแล้วก็ชาก็คือ
00:00:45 → 00:00:47 ตัว
00:00:47 → 00:00:49 ฐานนั่นเองนะครับก็คือน่าจะเป็นเกี่ยว
00:00:49 → 00:00:51 ข้องกับสาหร่ายกับช้างแต่จริงๆมันไม่ใช่
00:00:51 → 00:00:55 ครับที่มาของมันเนี่ยคือมันมีการใช้ครั้ง
00:00:55 → 00:00:58 แรกในแมนจูของจีนนะครับแต่ว่าตอนนั้น
00:00:58 → 00:01:00 เนี่ยมันก็ไม่ได้เรียกอย่างนี้มันเรียก
00:01:00 → 00:01:03 ได้อย่างอื่นนะครับแล้วก็พอถัดมาเนี่ยมี
00:01:03 → 00:01:07 คุณหมอคนที่เป็นคนเกาหลีชื่อคุณหมอคอมบุ
00:01:07 → 00:01:10 นะครับไม่ใช่สาหร่ายนะครับเป็นชื่อหมอนะ
00:01:10 → 00:01:14 ครับแล้วเขาก็รักษาจักรพรรดิอยู่องค์
00:01:14 → 00:01:16 หนึ่งที่มีโรคเกี่ยวข้องกับระบบลำไส้แล้ว
00:01:16 → 00:01:18 ก็ระบบการย่อยนะครับเราก็เอาเครื่องดื่ม
00:01:18 → 00:01:22 วันนี้ให้กินนะครับก็ดีขึ้นก็เลยตั้งชื่อ
00:01:22 → 00:01:25 เครื่องดื่มอันนี้ว่ากัมพูชานะครับโดย
00:01:25 → 00:01:27 เป็นการให้เกียรติกับคุณหมอคนหูนั่นเองนะ
00:01:27 → 00:01:30 ครับแล้วพอหลังจากที่มีการแพร่หลายนะครับ
00:01:30 → 00:01:33 มันก็เข้าไปสู่รัสเซียเข้าไปสู่ยุโรปนะ
00:01:33 → 00:01:35 ครับแล้วก็มาอเมริกาด้วยที่ไทยก็คงจะมี
00:01:35 → 00:01:38 เยอะแยะนะครับแล้วเราก็คงจะเคยได้ยิน
00:01:38 → 00:01:40 สรรพคุณตั้งหลายอย่างนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:01:40 → 00:01:43 เรื่องของการลดน้ำตาลนะครับช่วยควบคุมเบา
00:01:43 → 00:01:46 หวานนะครับลดไขมันลดความอ้วนลดน้ำหนักนะ
00:01:46 → 00:01:49 ครับอ่าอาจจะแก้ไขเรื่องของมะเร็งได้นะ
00:01:49 → 00:01:51 ครับแล้วก็มีพูดถึงเรื่องของการปรับสมดุล
00:01:51 → 00:01:53 ของแบคทีเรียในลำไส้หรือที่เรียกว่า
00:01:53 → 00:01:56 โปรไบโอติกนั่นเองนะครับแล้วก็สามารถที่
00:01:56 → 00:02:00 จะทำให้เราเนี่ยมีอ่าสุขภาพที่ดีแข็งแรง
00:02:00 → 00:02:02 นะครับอย่างไรก็ตามผมต้องบอกก่อนเลยนะ
00:02:02 → 00:02:04 ครับสำหรับคนที่ไม่ได้อยากจะฟังยาวมากนะ
00:02:04 → 00:02:07 ครับคือหลักฐานในทางการแพทย์เกี่ยวข้อง
00:02:07 → 00:02:10 กับคนบูชาว่ามันมีข้อดีนั้นน้อยมากนะครับ
00:02:10 → 00:02:13 ในคนแทบไม่มีเลยเท่าที่ผมหาดูมีรายงานนิด
00:02:13 → 00:02:15 ๆหน่อยๆนะครับแต่ว่ามันมีรายงานการเกิด
00:02:15 → 00:02:17 โทษเหมือนกันนะครับของคอมบูชานั่นเองนะ
00:02:17 → 00:02:20 ครับแต่ว่าส่วนใหญ่เวลาที่เขาทดลองเนี่ย
00:02:20 → 00:02:23 ก็มักจะทดลองในสัตว์แล้วก็ในเซลล์ซะเป็น
00:02:23 → 00:02:25 ส่วนใหญ่ซึ่งบางอย่างมันก็ดีบางอย่างมัน
00:02:25 → 00:02:28 ก็ไม่สามารถที่จะใช้ในคนได้นะครับทีนี้
00:02:29 → 00:02:32 ทำไมมันถึงไม่มีงานทดลองในคนทำไมถึงไม่มี
00:02:32 → 00:02:35 วิจัยอีกคนต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับข้อมูล
00:02:35 → 00:02:37 ฉากเนี่ยถ้าเราเข้าใจวิธีในการทำของมัน
00:02:37 → 00:02:39 แล้วเนี่ยเราจะตอบข้อนี้ได้เลยนะครับ
00:02:39 → 00:02:42 เพราะว่าแต่ละคนเวลาเขาทำออกมาเนี่ยมันทำ
00:02:42 → 00:02:45 ไม่เหมือนกันลักษณะวิธีเนี่ยคล้ายกันก็
00:02:45 → 00:02:48 จริงแต่ว่าทำออกมาแล้วมันไม่เหมือนกันดัง
00:02:48 → 00:02:50 นั้นเนี่ยมันเป็นการยากที่เราจะควบคุม
00:02:50 → 00:02:53 ปริมาณและคุณภาพให้มันเหมือนกันทุกครั้ง
00:02:53 → 00:02:55 ที่เราเอามาทดลองดังนั้นถ้าเราทดลองกับคน
00:02:55 → 00:02:58 กลุ่มนึงแล้วอีกเอ่อคนอีกกลุ่มนึงก็อยาก
00:02:58 → 00:03:01 จะเอาไปทดลองบ้างนะครับอ่าอาจจะได้คงบูชา
00:03:01 → 00:03:04 ที่มีความแตกต่างกันทั้งคุณสมบัติแล้วก็
00:03:04 → 00:03:06 สภาพที่อยู่ข้างในนะครับนั่นคือปัญหาของ
00:03:06 → 00:03:09 การที่ผมคิดว่ามันถึงไม่มีการทดลองนี่
00:03:09 → 00:03:11 แหละครับและที่สำคัญคือมันไม่ได้มีการควบ
00:03:11 → 00:03:14 คุมอะไรชัดเจนสำหรับการผลิตด้วยนะครับที
00:03:14 → 00:03:16 นี้เราต้องมารู้ไหนๆผมก็พูดเรื่องการผลิต
00:03:16 → 00:03:20 แล้วเราต้องรู้ว่าเอ๊ะแล้วมันผลิตยังไงนะ
00:03:20 → 00:03:23 ครับคอมบูชาเนี่ยจริงๆมันเป็นตัวแรกจริงๆ
00:03:23 → 00:03:26 คือเป็นชาชาดำนี่แหละครับเอามาเติมน้ำตาล
00:03:26 → 00:03:29 เข้าไปแล้วก็ใส่แบคทีเรียกับยีสต์เข้าไป
00:03:29 → 00:03:31 แล้วก็ให้มันหมักหลังจากนั้นพอมันหมัก
00:03:31 → 00:03:34 เสร็จเรียบร้อยปุ๊บเราก็จะได้ตัวกัมพูชา
00:03:34 → 00:03:37 ออกมาแล้วอันนี้ล่ะครับที่เรามาดื่มแต่
00:03:37 → 00:03:39 ว่านี่ฟังดูมันเป็นสิ่งที่ทำง่ายๆใช่ไหม
00:03:39 → 00:03:43 ครับแต่เราต้องเข้าใจว่าเอ๊ะทำไมฟังดูมัน
00:03:43 → 00:03:44 ก็ไม่มีอะไรนะทำไมทำออกมาแล้วมันไม่
00:03:44 → 00:03:47 เหมือนกันต้องบอกอย่างนี้ครับสมัยก่อนใช่
00:03:47 → 00:03:51 ครับมันมาจากชาดำแต่ว่าบางคนเขาก็ใช้ชา
00:03:51 → 00:03:53 เขียวบางคนก็ไปใช้ชาอย่างอื่นบางคนใช้
00:03:53 → 00:03:57 ผลไม้เลยก็มีนะครับดังนั้นสิ่งที่เป็นสาร
00:03:57 → 00:03:58 ตั้งต้นในการหมักนี่มันก็ไม่เหมือนกันละ
00:03:58 → 00:04:02 ต่อมาก็มีการเติมน้ำตาลเข้าไปนะครับน้ำ
00:04:02 → 00:04:04 ตาลตัวนี้เนี่ยจะเป็นแหล่งพลังงานให้กับ
00:04:04 → 00:04:06 แบคทีเรียแล้วก็ยีสต์ที่เราจะเติมเข้าไป
00:04:06 → 00:04:08 นั่นเองนะครับตัวแบคทีเรียและก็ยีสต์
00:04:08 → 00:04:11 เนี่ยมันไม่ใช่เป็นผงๆเหมือนที่เราเติม
00:04:11 → 00:04:14 เข้าไปนะครับมันเป็นแผ่นกลมๆหนาๆเหมือน
00:04:14 → 00:04:16 ก้อนเค้กก้อนนึงนะครับเรียกว่า scopy นะ
00:04:16 → 00:04:19 ครับตัวแผ่น scopy ตัวนี้มันย่อมาจากคำ
00:04:19 → 00:04:23 ว่า sinbiotic culture of bacteria
00:04:23 → 00:04:27 And this นะครับโดยในนี้เนี่ยมันมี
00:04:27 → 00:04:31 แบคทีเรียและยีสต์ที่หลากหลายแล้วก็แต่ละ
00:04:31 → 00:04:34 คนเนี่ยใช้แบคทีเรียกับยีสต์คนละตัวกัน
00:04:34 → 00:04:37 มันคนละตัวกันละนะครับเวลาที่มันใช้คนละ
00:04:37 → 00:04:40 ตัวกันคุณสมบัติของคอมบูชาที่ได้ออกมามัน
00:04:40 → 00:04:42 ก็จะไม่เหมือนกันรสชาติก็จะไม่เหมือนกัน
00:04:42 → 00:04:46 เช่นกันนะครับนั่นคือปัญหานะฮะทีนี้เวลา
00:04:46 → 00:04:49 ที่เขาทำแบบนี้เนี่ยนะครับคือเอาชามาที่
00:04:49 → 00:04:52 หนึ่งละนะครับเติมน้ำตาลลงไปน้ำตาลปกติ
00:04:52 → 00:04:54 ของเรานั่นแหละครับน้ำตาลซูโครสเรานี่
00:04:54 → 00:04:56 แหละเติมเสร็จปุ๊บแล้วก็เอาแผ่นสโคปีซึ่ง
00:04:56 → 00:04:59 มันเป็นยีสต์แล้วก็แบคทีเรียโดยแบคทีเรีย
00:04:59 → 00:05:00 เนี่ยมักจะเป็นแบคทีเรียซึ่งสร้างกรด
00:05:00 → 00:05:03 อะซิติกนะครับกด assistive ก็คือน้ำส้ม
00:05:03 → 00:05:05 สายชูเรานี่แหละครับใส่เข้าไปในนั้นแล้ว
00:05:05 → 00:05:06 ก็ยีสต์ใส่เข้าไปในนั้นนะครับแล้วก็ไม่
00:05:06 → 00:05:08 ได้มียีสต์ตัวเดียวหรือแบคทีเรียตัวเดียว
00:05:08 → 00:05:10 ด้วยมันมีเป็นเยอะแยะไปหมดหลากหลายชนิดนะ
00:05:10 → 00:05:13 ครับพอวางเข้าไปในนั้นแล้วก็เอาไปหมักนะ
00:05:13 → 00:05:16 ครับการหมักเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับว่าหมักนาน
00:05:16 → 00:05:19 แค่ไหนนะครับหมักยิ่งนานมันก็ปล่อยกรดออก
00:05:19 → 00:05:21 มาเยอะขึ้นนะครับมีแอลกอฮอล์ออกมาด้วยนะ
00:05:21 → 00:05:24 ครับอ่าแล้วก็ยังมีน้ำตาลที่หลงเหลืออยู่
00:05:24 → 00:05:26 รสชาติก็จะเปลี่ยนไปเป็นยิ่งเปรี้ยวมาก
00:05:26 → 00:05:29 ขึ้นนะครับแล้วก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิการ
00:05:29 → 00:05:33 หมักหมักเป็นเวลานานแค่ไหนอยู่ในที่มืด
00:05:33 → 00:05:36 อยู่ในที่ไม่มืดนะครับ PS หรือค่าความ
00:05:36 → 00:05:39 เป็นกรดต่างของสารตั้งต้นมันแค่ไหนนะครับ
00:05:39 → 00:05:42 พวกเนี้ยทั้งหมดมันจะมีส่วนที่ออกมาทำให้
00:05:42 → 00:05:45 คนบูชาเนี่ยมีความแตกต่างกันสำหรับแต่ละ
00:05:45 → 00:05:49 เจ้าที่ทำนะครับทีนี้ในคอมบูชาเนี่ยมันมี
00:05:49 → 00:05:50 อะไรอยู่ในนั้นบ้างแล้วก็เวลาที่เราดื่ม
00:05:50 → 00:05:53 เนี่ยเราจะได้อะไรเข้าไปบ้างนะครับประการ
00:05:53 → 00:05:56 แรกนะครับมันมีตัวชาอยู่ในนั้นนะครับถ้า
00:05:56 → 00:05:59 เป็นกัมพูชาทั่วๆไปเนี่ยก็จะมีชาเป็นสาร
00:05:59 → 00:06:02 ตั้งต้นดังนั้นเนี่ยในชามันมีอะไรครับ
00:06:02 → 00:06:06 อีสานบางอย่างเช่นคาเฟอีนนะครับคนบูชา
00:06:06 → 00:06:09 เนี่ยเวลาที่เราดื่มเข้าไปจะมีคาเฟอีน
00:06:09 → 00:06:12 อยู่ที่ประมาณ 14-17 มิลลิกรัมนะครับถ้า
00:06:12 → 00:06:15 เทียบก็คือประมาณสัก 1 ใน 4 ของกาแฟทั่วๆ
00:06:15 → 00:06:18 ไปแก้วธรรมดาเล็กๆนี่แหละครับเราก็จะได้
00:06:18 → 00:06:20 คาเฟอีนเข้าไปด้วย
00:06:20 → 00:06:23 เวลาที่เราหมักไว้นะครับมันก็จะมีส่วน
00:06:23 → 00:06:26 ประกอบของพวกแบคทีเรียพวกนี้เข้าไปอยู่ใน
00:06:26 → 00:06:28 คอมบูชาซึ่งถือว่าเป็นแบบแบคทีเรียที่ดี
00:06:28 → 00:06:30 นะครับเรียกว่า probiotic นั่นเองนะครับ
00:06:30 → 00:06:32 ตัวนี้ก็น่าจะช่วยเรื่องของการปรับสมดุล
00:06:32 → 00:06:36 ลำไส้พวกนี้นะครับเวลาหมักมันก็จะได้กรด
00:06:36 → 00:06:38 ออกมานะครับกรดก็จะมีหลายตัวเลยนะครับแต่
00:06:39 → 00:06:41 ว่าตัวที่เป็นตัวหลักก็คือกรดอะซิติกหรือ
00:06:41 → 00:06:45 กรดน้ำใส่ชูนั่นเองซึ่งมันจะทำให้ค่าของ
00:06:45 → 00:06:48 ค่าความเป็นกรดด่างของตัวคอมบูชาเนี่ย
00:06:48 → 00:06:50 อยู่ค่อนข้างต่ำนะครับก็คืออยู่ที่ประมาณ
00:06:50 → 00:06:54 2.5 ถึง 3.5 นะครับโดยประมาณถ้าค่าความ
00:06:54 → 00:06:56 เป็นกรดด่างหรือ pH เนี่ยเราเทียบกับ
00:06:56 → 00:06:58 เลือดเราก็ได้นะครับเลือดของเราเนี่ยค่า
00:06:58 → 00:07:01 pH คือ 7.4 แต่คงบูชาเนี่ยคือประมาณที่ 3
00:07:01 → 00:07:03 นั่นเองนะครับนะครับมันก็เป็นกรดดังนั้น
00:07:03 → 00:07:06 คนที่มีโรคกระเพาะทานไปก็อาจจะมีปัญหาได้
00:07:06 → 00:07:09 นะครับอาจจะปวดท้องได้นะครับหรือคนที่มี
00:07:09 → 00:07:12 โรคไตนะครับเพราะว่าทานเข้าไปเนี่ยร่าง
00:07:12 → 00:07:14 กายอาจจะเป็นกรดมากขึ้นก็ได้เพราะว่าโรค
00:07:14 → 00:07:17 ไตเนี่ยนะครับไตมีปัญหาอยู่แล้วมันไม่
00:07:17 → 00:07:19 สามารถที่จะขับกรดออกมาได้ดังนั้นถ้าเรา
00:07:19 → 00:07:21 เติมกรดเข้าไปในร่างกายเยอะๆก็อาจจะเกิด
00:07:21 → 00:07:25 ปัญหาขึ้นมาก็ได้นะครับอ่าในโครงหมูฉากก็
00:07:25 → 00:07:28 ยังมีสารโพลีฟฟรีนอลซึ่งถือเป็นสารต้าน
00:07:28 → 00:07:32 อนุมูลอิสระนะครับที่มาจากสารตัวนี้มัน
00:07:32 → 00:07:35 เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Passive
00:07:35 → 00:07:38 นะครับแล้วก็อีกตัวนึงคือ expression นะ
00:07:38 → 00:07:40 ครับกลุ่มพวกนี้จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
00:07:40 → 00:07:43 ซึ่งพบมากในชาเขียวดังนั้นถ้าสารตั้งต้น
00:07:43 → 00:07:45 ของเขาเนี่ยเป็นชาเขียวก็จะมีสารตัวนี้
00:07:45 → 00:07:48 เยอะหน่อยแต่ถ้าเป็นเป็นชาดำหรือชาอย่าง
00:07:48 → 00:07:51 อื่นก็จะมีสารตัวนี้น้อยหน่อยนะครับอ่า
00:07:51 → 00:07:55 น้ำตาลอ่าแน่นอนเราใส่น้ำตาลเข้าไปให้มัน
00:07:55 → 00:07:57 ๆแต่ว่าน้ำตาลมันก็จะหลงเหลืออยู่แล้วน้ำ
00:07:57 → 00:08:00 ตาลในคอมบูชาเนี่ยนะครับมักจะเป็นน้ำตาล
00:08:00 → 00:08:03 ซูโครสน้ำตาลกลูโคสพวกนี้เป็นน้ำตาลเชิง
00:08:03 → 00:08:05 เดี่ยวนะครับแล้วก็ฟรุกโตสเป็นน้ำตาลเชิง
00:08:05 → 00:08:08 เดี่ยวมันหมายความว่าอะไรนะครับมันหมาย
00:08:08 → 00:08:10 ความว่าถ้าเราดื่มเยอะๆเข้าไปเนี่ยเราได้
00:08:10 → 00:08:12 แคลอรี่จากน้ำตาลพวกนี้โดยใช่เหตุเลยแล้ว
00:08:12 → 00:08:15 ก็แทนที่จะช่วยเรื่องของการทำให้ไขมันของ
00:08:15 → 00:08:18 เราลดลงมันอาจจะไปทำให้ไขมันโดยเฉพาะ
00:08:18 → 00:08:20 ไตรกลีเซอไรด์ของเราสูงขึ้นก็ได้นะครับ
00:08:20 → 00:08:23 แล้วการที่เป็นเบาหวานก็อาจจะได้รับพวก
00:08:23 → 00:08:25 นี้เกินก็เป็นยังไงครับได้รับน้ำตาลเกิน
00:08:25 → 00:08:29 ก็เป็นเบาหวานได้นอกเหนือจากนี้ผลผลิตมัน
00:08:29 → 00:08:32 ยังมีแอลกอฮอล์ชนิดที่เรียกว่า External
00:08:32 → 00:08:34 ก็คือพวกเหล้าที่เราทานกันอยู่นั่นแหละ
00:08:34 → 00:08:35 ครับแต่
00:08:35 → 00:08:38 ส่วนใหญ่แล้วถ้าเราไปซื้อมาเนี่ยนะครับ
00:08:38 → 00:08:41 มันจะมีประมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่น้อยกว่า
00:08:41 → 00:08:45 0.5% แต่มันไม่ได้เป็น 0 นะครับและที่
00:08:45 → 00:08:47 สำคัญคือที่อเมริกาเนี่ยเคยมีข่าวใหญ่
00:08:47 → 00:08:50 อยู่ช่วงนึงก็คือเขามีคนไปทดลองตัว
00:08:50 → 00:08:52 กัมมูฉ่ายที่ขายอยู่ตามร้านเนี่ยแหละครับ
00:08:52 → 00:08:54 ตามร้านสะดวกซื้อหลายๆที่นะครับ
00:08:54 → 00:08:57 Supermarket พบว่ามีบางยี่ห้อเนี่ย
00:08:57 → 00:09:01 แอลกอฮอล์สูงถึง 5% เลยทีเดียวซึ่งถือว่า
00:09:01 → 00:09:03 สูงมากๆนะครับนะครับสูงกว่าเบียร์
00:09:03 → 00:09:07 บางยี่ห้ออีกนะครับ 5% เนี่ยสูงกว่าเหล้า
00:09:07 → 00:09:09 บางอย่างอีกนะครับดังนั้นเนี่ยในช่วงนั้น
00:09:09 → 00:09:12 ก็เลยมีการถอดเอาคมบูชาออกจาก
00:09:12 → 00:09:15 ออกจากที่ขายหมดเลยแล้วก็ให้มีการปรับ
00:09:15 → 00:09:17 เปลี่ยนให้แอลกอฮอล์มันต่ำกว่า 0.5% นะ
00:09:17 → 00:09:20 ครับหมายความว่าอะไรหมายความว่าแอลกอฮอล์
00:09:21 → 00:09:23 มันอาจจะมีได้มันไม่ใช่สูตรนะครับแล้วก็
00:09:23 → 00:09:25 แปลว่าคนที่ถ่ายแอลกอฮอล์ไม่ได้เนี่ยก็
00:09:25 → 00:09:29 ไม่ควรทานยกตัวอย่างเช่นคนท้องคนกำลังให้
00:09:29 → 00:09:32 นมบุตรนะครับทานไม่ได้หรือคนทานยาบาง
00:09:32 → 00:09:34 อย่างอยู่ยกตัวอย่างเช่นยาฆ่าเชื้อที่
00:09:34 → 00:09:37 เรียกว่า metroso นะครับทานเข้าไปรับรอง
00:09:37 → 00:09:40 มีปัญหาแน่นอนนะครับปั่นป่วนปวดท้องคลื่น
00:09:40 → 00:09:42 ไส้อาเจียนปวดหัวอะไรขึ้นมาเยอะแยะแน่นอน
00:09:42 → 00:09:44 นะครับ
00:09:44 → 00:09:47 นอกเหนือจากนี้มันมีอะไรอีกในตัวของ
00:09:48 → 00:09:51 คอมบูชานั้นมันจะมีแก๊สคาร์บอเนตอยู่นะ
00:09:51 → 00:09:53 ครับเนื่องจากกระบวนการการหมักนี่แหละ
00:09:53 → 00:09:55 ครับแล้วเวลามันมีแก๊สคาร์โบไฮเดรตพวกนี้
00:09:55 → 00:09:57 อยู่เกิดอะไรขึ้นครับเวลาที่เรากินเข้าไป
00:09:57 → 00:10:01 บางคนท้องอืดนะครับโดยเฉพาะคนที่มีโรคลำ
00:10:01 → 00:10:05 ไส้แปรปรวนที่เรียกว่า ibs Evil Brown
00:10:05 → 00:10:08 synd นะครับคนบูชะนั้นถือเป็นเครื่อง
00:10:08 → 00:10:11 ดื่มที่เราเรียกว่าฟอสแมพนะครับเป็นสิ่ง
00:10:11 → 00:10:14 ที่คนที่มีโรคลำไส้แปรปรวนควรจะหลีก
00:10:14 → 00:10:16 เลี่ยงนะครับเพราะว่ามันจะทำให้อาการของ
00:10:16 → 00:10:19 ท่านเป็นมากขึ้นนะครับอ่าทำให้ท่านเป็น
00:10:19 → 00:10:21 มากขึ้นดังนั้นเนี่ยคนที่มีลำไส้แปรปรวน
00:10:21 → 00:10:25 ก็ไม่ควรที่จะดื่มของบูชานะครับหรือถ้าจะ
00:10:25 → 00:10:27 ดื่มก็ดื่มเล็กน้อยละกันนะครับถ้าดื่ม
00:10:27 → 00:10:29 เยอะๆท่านอาจจะมีอาการผิดปกติปวดท้องต่าง
00:10:30 → 00:10:34 ๆตามมาก็ได้นะครับอ่าฉะนั้นนั่นก็คือส่วน
00:10:34 → 00:10:38 ประกอบคร่าวๆของตัวของบูชาแต่ต้องอย่าลืม
00:10:38 → 00:10:41 ว่าหลายๆคนนะครับมีการหมักของบูชาเองที่
00:10:41 → 00:10:44 บ้านหรือบางครั้งเนี่ยมีการหมักด้วย
00:10:44 → 00:10:48 กรรมวิธีต่างๆซึ่งอาจจะทำให้มีการปน
00:10:48 → 00:10:50 เปื้อนของแบคทีเรียชนิดอื่นๆเข้ามาก็ได้
00:10:50 → 00:10:53 ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้วอาจจะส่งผลเสียต่อ
00:10:53 → 00:10:55 ร่างกายของคนที่ดื่มเข้าไปก็ได้นะครับอาจ
00:10:55 → 00:10:57 จะปวดท้องท้องเสียอาจจะมีปัญหาได้นะครับ
00:10:57 → 00:11:00 เพราะว่าผมต้องบอกอย่างนี้ก่อนมีคนเนี่ย
00:11:00 → 00:11:03 ไปอ่านมาว่ากัมพูชานี้สามารถที่จะมีฤทธิ์
00:11:03 → 00:11:07 ต่อต้านแบคทีเรียบางชนิดได้จริงครับเพราะ
00:11:07 → 00:11:10 ว่า 1 ตัวมันเองเป็นกรดอันที่ 2 คือ
00:11:10 → 00:11:12 แบคทีเรียซึ่งอยู่ในตัวกัมพูชานั้นถือว่า
00:11:12 → 00:11:15 เป็นแบคทีเรียที่ดีแล้วก็จะสามารถยับยั้ง
00:11:15 → 00:11:18 การเจริญเติบโตของแบคทีเรียอื่นได้พอสม
00:11:18 → 00:11:20 ควรอย่างไรก็ตามถ้าเกิดว่ามีแบคทีเรีย
00:11:20 → 00:11:23 ชนิดอื่นปนเปื้อนเข้าไปปริมาณมากกว่า
00:11:23 → 00:11:25 แบคทีเรียพวก probiotic นั้นมันก็จะทำให้
00:11:25 → 00:11:29 เกิดปัญหานี้ขึ้นมาเกิดปนเปื้อนขึ้นมานะ
00:11:29 → 00:11:32 ครับและพอพูดถึงเรื่องแบคทีเรียก็ต้องบอก
00:11:32 → 00:11:34 อย่างนี้ครับว่าแบคทีเรียในคอมบูชานี้มี
00:11:34 → 00:11:37 ค่อนข้างที่จะเยอะแล้วมันแปลว่าอะไรล่ะ
00:11:37 → 00:11:40 ครับมันแปลว่าคนที่มีภูมิต้านทานบกพร่อง
00:11:40 → 00:11:44 ไม่ควรจะดื่มพวกนี้โดยเด็ดขาดนะครับใคร
00:11:44 → 00:11:47 บ้างผมต้านทานบกพร่องเช่นคนไข้ที่เป็นโรค
00:11:47 → 00:11:51 เอชไอวีโรคเอดส์ที่มีค่า cd4 เนี่ยต่ำมาก
00:11:51 → 00:11:54 นะครับต่ำกว่า 200 นะครับคนที่รับประทาน
00:11:54 → 00:11:56 ยากดภูมิต้านทานอยู่เยอะๆนะครับโดยเฉพาะ
00:11:56 → 00:11:59 คนที่ปลูกถ่ายอวัยวะหรือคนที่มีภูมิต้าน
00:11:59 → 00:12:01 ทานต่อต้านตัวเองที่จำเป็นจะต้องได้รับยา
00:12:01 → 00:12:04 กดภูมิขนาดสูงสูงพวกนี้ก็ควรจะต้องหลีก
00:12:04 → 00:12:07 เลี่ยงนะครับดังนั้นพอเราพูดมาถึงตรงนี้
00:12:07 → 00:12:11 ผมจะบอกเลยนะครับว่าข้อดีของตัวคำบูชา
00:12:11 → 00:12:15 นั้นถ้าให้ผมพูดเนี่ยมันน่าจะมาจากตัวของ
00:12:15 → 00:12:18 probiotic ที่อยู่ข้างในนะครับโปร
00:12:18 → 00:12:20 ไบโอติกที่อยู่ข้างในอย่างเดียวล้วนๆเลย
00:12:20 → 00:12:23 ที่เหลือเนี่ยมันอาจจะมีส่วนดีบ้างนะครับ
00:12:23 → 00:12:26 ส่วนเสียบ้างนะครับส่วนคนที่รับประทาน
00:12:26 → 00:12:30 แล้วก็ไปฟังมาว่าเออมันอาจจะช่วยต้าน
00:12:30 → 00:12:32 อนุมูลอิสระนะช่วยเรื่องของเบาหวานช่วย
00:12:32 → 00:12:34 เรื่องของความดันช่วยลดน้ำหนักนะครับช่วย
00:12:34 → 00:12:38 ลดไขมันแก้ไขภาวะต่างๆทำให้เราสุขภาพดี
00:12:38 → 00:12:41 โดยทั่วหน้านะครับต้องบอกว่าปัจจุบันหลัก
00:12:41 → 00:12:43 ฐานที่มันเป็นเช่นนั้นเนี่ยยังไม่มีนะ
00:12:43 → 00:12:46 ครับยังไม่มีชัดเจนขนาดนั้นถ้าท่านจะทาน
00:12:46 → 00:12:49 ก็ทานได้นะครับและกัมพูชานั้นเวลาที่จะ
00:12:49 → 00:12:52 ทานเนี่ยผมขอให้ท่านดูที่ขวดมันนิดนึงนะ
00:12:52 → 00:12:54 ครับส่วนใหญ่แล้วในขวดนึงเนี่ยจะสามารถ
00:12:54 → 00:12:59 ดื่มได้ทั้งหมด 2 ครั้งนะครับ 2 ครั้งและ
00:12:59 → 00:13:02 เวลาเขาเขียนแปะไปนั้นน่ะเขาจะเขียนพลัง
00:13:02 → 00:13:04 งานต่อ 1 serving หรือ 1 ครั้งที่ท่าน
00:13:04 → 00:13:07 ดื่มนะครับเช่นอาจจะเขียนไว้
00:13:07 → 00:13:11 100 kcal นะครับที่ 1 ขวดนะครับแต่ท่าน
00:13:11 → 00:13:14 ไปเข้าใจไม่ถูกต้องคิดว่าทั้งขวดคือ 100
00:13:14 → 00:13:17 แคลอรี่เปล่าครับทั้งขวดนั่นก็คือ 200
00:13:17 → 00:13:19 แคลอรี่ครับเพราะว่าขวดนึงมันดื่มได้ 2
00:13:19 → 00:13:22 ครั้งแล้วแต่ละครั้งมีปริมาณแคลอรี่ 100
00:13:22 → 00:13:25 แคลอรี่แบบนี้เป็นต้นนะครับโดยทั่วๆไป
00:13:25 → 00:13:27 เนี่ยถ้าให้ผมแนะนำนะครับเรื่องของคมชัด
00:13:27 → 00:13:30 ท่านจะต้องดูให้แน่ใจว่าที่มาของมันเนี่ย
00:13:30 → 00:13:32 โอเคนะครับไม่ใช่เป็นหมักมาจากไหนแล้วก็
00:13:32 → 00:13:34 ปริมาณแอลกอฮอล์อะไรที่อยู่ข้างในเนี่ย
00:13:34 → 00:13:37 มันมีปัญหาได้นะครับอันที่ 2 ดูที่ปริมาณ
00:13:37 → 00:13:40 แคลอรี่นิดนึงนะครับอยากให้บอกว่าใน 1
00:13:40 → 00:13:42 serving หรือการดื่ม 1 ครั้งอย่าให้
00:13:42 → 00:13:46 ปริมาณแคลอรี่มันเกิน 50 กกแคลอรี่เพราะ
00:13:46 → 00:13:48 ว่าถ้ามันเกินนั้นท่านก็อาจจะได้แคลอรี่
00:13:48 → 00:13:50 มากจนเกินไปแทนที่ท่านจะน้ำหนักรถคุมเบา
00:13:50 → 00:13:53 หวานได้ไขมันต่ำมันก็ได้กดตรงกันข้ามนะ
00:13:53 → 00:13:55 ครับแล้วก็วันนึงเนี่ยก็กินแค่ 1-2
00:13:55 → 00:13:57 เซิฟวิ่งก็พอนะครับไม่จำเป็นต้องกินเยอะ
00:13:57 → 00:13:59 กว่านั้นกินเยอะกว่านั้นก็ไม่ได้อะไรขึ้น
00:13:59 → 00:14:02 มานะครับและอีกอย่างนึงคือมันอาจจะได้ผล
00:14:02 → 00:14:06 เสียตามมาก็ได้นะครับทีนี้มาพูดถึงผลเสีย
00:14:06 → 00:14:08 กันบ้างละเมื่อกี้ผมก็เกริ่นคร่าวๆไปแล้ว
00:14:08 → 00:14:11 ว่ามันมีผลเสียอะไรได้บ้างเรามาย้ำกันอีก
00:14:11 → 00:14:14 รอบนึงนะครับข้อแรกคือข้อมูลทาง
00:14:14 → 00:14:15 วิทยาศาสตร์เนี่ยเราไม่ค่อยมีผมจะแปะ
00:14:15 → 00:14:18 ลิงค์ของสิ่งที่ผมไปอ่านมาให้ทุกท่านครับ
00:14:18 → 00:14:54 สามารถไปอ่านได้ด้วยตัวเองนะครับ
00:14:54 → 00:15:20 [เพลง]
00:15:20 → 00:15:23 คนที่มีลำไส้แปรปรวนนะครับอิริโต้ Brown
00:15:23 → 00:15:25 Syndrome หรือ ibs นั้นก็ควรจะหลีก
00:15:25 → 00:15:27 เลี่ยงคอมบูชาเพราะว่ามันเป็นเครื่องดื่ม
00:15:27 → 00:15:29 ที่ทำให้เกิดแก๊สในท้องท่านอาจจะมีอาการ
00:15:30 → 00:15:34 ปวดท้องนะครับได้นะครับและถ้าท่านดื่มมัน
00:15:34 → 00:15:36 เยอะๆพวกนี้เข้าไปสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
00:15:36 → 00:15:39 การที่มีน้ำตาลจากตัวของบริษัทเข้าไปใน
00:15:39 → 00:15:42 ร่างกายเยอะๆเช่นดื่มไปหลายๆขวดเลยท่าน
00:15:42 → 00:15:44 อาจจะท้องเสียก็ได้นะครับท้องเสียแทนที่
00:15:44 → 00:15:47 แทนที่จะขับถ่ายปกติกับกลายเป็นท้องเสีย
00:15:47 → 00:15:50 แล้วก็คนที่มีภูมิต้านทานบกพร่องอย่างที่
00:15:50 → 00:15:53 บอก HIV นะครับหรือทานยากดภูมิต้านทาน
00:15:53 → 00:15:55 ขนาดสูงๆอยู่พวกนี้ก็ต้องหลีกเลี่ยงของ
00:15:55 → 00:15:57 บูชาเพราะว่ามันมีแบคทีเรียพวกนี้แหละ
00:15:57 → 00:15:59 ครับที่เข้าไปในกระแสเลือดของเราแล้วมัน
00:15:59 → 00:16:02 เจริญเติบโตได้อาจจะเกิดปัญหาตามมาได้นะ
00:16:02 → 00:16:05 ครับเอ่อทั้งนี้ทั้งนั้นรวมไปถึงคนไข้โรค
00:16:05 → 00:16:09 มะเร็งที่ให้คีโมระดับสูงอยู่แล้วก็เม็ด
00:16:09 → 00:16:10 เลือดขาวของท่านยังต่ำอยู่ด้วยนะครับตรง
00:16:10 → 00:16:12 นี้ต้องระวังนะครับถ้าเม็ดเลือดขาวปกติ
00:16:12 → 00:16:14 แล้วก็สามารถดื่มได้แต่ถ้าเม็ดเลือดขาว
00:16:14 → 00:16:17 ของท่านต่ำเช่นว่าเอ่อให้คีโมมาแล้วเม็ด
00:16:17 → 00:16:20 เลือดขาวบางคนมันจะต่ำลงมาโดยเฉพาะ
00:16:20 → 00:16:22 2 อาทิตย์หลังจากที่ให้คีโมนะครับพอเม็ด
00:16:22 → 00:16:25 เลือดขาวต่ำปุ๊บเนี่ยกลไกการป้องกันของ
00:16:25 → 00:16:27 ร่างกายก็จะเสียไปทั้งนั้นถ้าท่านได้
00:16:27 → 00:16:29 แบคทีเรียเข้าไปเยอะๆจากตัวกัมพูชาที่
00:16:29 → 00:16:31 ท่านดื่มเข้าไปโดยหวังว่ามันจะต้านมะเร็ง
00:16:31 → 00:16:34 อะไรได้นะครับท่านอาจจะได้ผลที่ตรงกัน
00:16:34 → 00:16:36 ข้ามก็คือท่านอาจจะติดเชื้อในกระแสเลือด
00:16:36 → 00:16:39 จากพวกคาบูเฉดของบูชานั่นเองนะครับ
00:16:39 → 00:16:43 แล้วนอกเหนือจากนี้มันมีรายงานเคสๆหนึ่ง
00:16:43 → 00:16:46 ซึ่งเกิดตับอักเสบรุนแรงจากตัวคงบูชานะ
00:16:46 → 00:16:50 ครับคือมีอันนี้รู้สึกว่าจะต้องเสียเงิน
00:16:50 → 00:16:53 เข้าไปอ่านนะครับผมพอดีของทางโรงพยาบาล
00:16:53 → 00:16:55 สามารถเข้าไปอ่านได้ฟรีก็เลยไม่โดนอะไรนะ
00:16:55 → 00:16:57 ครับแต่ว่าของท่านๆอยากจะเข้าไปดูผมจะแปะ
00:16:57 → 00:16:59 ลิงก์ให้ด้วยนะครับแต่ว่าถ้าท่านจะเข้าไป
00:16:59 → 00:17:01 ดูก็ต้องเสียตังค์เข้าไปเองนะครับคือเขา
00:17:01 → 00:17:04 คาดว่าน่าจะเป็นตัวกรดอยู่อันนึงนะครับ
00:17:04 → 00:17:07 ที่อยู่ในโครงบูชาเรียกว่ากด usernext นะ
00:17:07 → 00:17:08 ครับ
00:17:08 → 00:17:12 usnic Acid นะครับกดตัวนี้เนี่ยมันเป็น
00:17:12 → 00:17:15 พิษต่อต่ำแล้วก็อาจจะบังเอิญการหมักใน
00:17:15 → 00:17:17 ล็อตนั้นของคนบูชานั้นอาจจะมีกรดตรงนี้
00:17:17 → 00:17:19 เยอะนะครับแล้วก็คนไข้เขาอาจจะมีความ
00:17:19 → 00:17:22 เสี่ยงต่อการกันเกิดโรคตับอยู่แล้วพอเรา
00:17:22 → 00:17:24 ได้ตรวจตรงนี้เข้าไปก็ยิ่งทำให้เกิดตา
00:17:24 → 00:17:27 อักเสบเข้าไปใหญ่นะครับนั่นก็คือเป็นทั้ง
00:17:27 → 00:17:29 หมดที่ผมพอจะรวบรวมมาได้เกี่ยวข้องกับ
00:17:29 → 00:17:32 กัมพูชานะครับดังนั้นโดยสรุปนะครับคงบูชา
00:17:32 → 00:17:34 นั้นประโยชน์มันยังไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น
00:17:34 → 00:17:37 นะครับถ้าจะให้ดีให้แยกส่วนประกอบไปกินชา
00:17:37 → 00:17:39 กับกินโปรไบโอติกน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
00:17:39 → 00:17:43 ในมุมมองของผมนะครับแล้วก็ถ้าท่านไหนชอบ
00:17:43 → 00:17:46 ที่จะทานกัมพูชาให้ดูที่ปริมาณแคลอรี่ที่
00:17:46 → 00:17:48 อยู่ที่ตัว commuch นิดนึงนะครับว่ามัน
00:17:48 → 00:17:50 มากมันน้อยแค่ไหนนะครับอย่าให้มันเกิน 50
00:17:50 → 00:17:54 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 ครั้งก็พอนะครับ
00:17:54 → 00:17:56 นอกเหนือจากนี้บางคนอาจจะบอกว่ามันมีส่วน
00:17:56 → 00:17:59 ประกอบอื่นเช่นจะมีวิตามินบีจริงๆมันก็มี
00:17:59 → 00:18:02 นะครับวิตามินบีต่างๆวิตามินบี 12 ก็มี
00:18:02 → 00:18:04 อยู่ในนี้แต่ว่ามันน้อยมากจนกระทั่งไม่
00:18:04 → 00:18:06 สามารถที่จะเอามาเป็นแหล่งทดแทนหรือ
00:18:06 → 00:18:10 วิตามินบี 12 ได้นะครับมีมีอิทธิพลคาเทน
00:18:10 → 00:18:13 เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระมีคาเฟอีนอยู่
00:18:13 → 00:18:17 ในนั้นนะครับมีแอลกอฮอล์อยู่ในนั้นมีกรด
00:18:17 → 00:18:19 อะซิติกนะมีหลายๆอย่างที่มันอยู่ในนั้น
00:18:19 → 00:18:21 ที่บางคนอาจจะทานแล้วไม่ชอบนะครับแล้วก็
00:18:21 → 00:18:24 ทานแล้วมีปัญหานะครับก็คิดว่าน่าจะประมาณ
00:18:24 → 00:18:26 เท่านี้แหละครับคือถ้าเกิดว่าคนไหนทาน
00:18:26 → 00:18:28 อยู่ก็ทานต่อไปสังเกตตัวเองอย่าไปทานมาก
00:18:28 → 00:18:30 จนเกินไปก็แล้วกันนะครับถ้าใครมีอะไร
00:18:30 → 00:18:33 สงสัยก็สอบถามเข้ามานะครับวันนี้เท่านี้
00:18:33 → 00:18:36 นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ