00:00:00 → 00:00:03 อ่าคุณหมอท้องอืดบ่อยรือเปล่าคะก็มีบ้าง
00:00:03 → 00:00:06 นะครับบางทีถ้าบางทีงานหนักเครียดบางทีก็
00:00:06 → 00:00:09 ท้องอืดได้เหมือนกันนะครับผมอืออค่ะเ่อ
00:00:09 → 00:00:13 ท้องอืดเนี่ยเกิดจากอ่ะนอกจากที่ขวัญกับ
00:00:13 → 00:00:15 โอ๊คคุยกันเมื่อกี้เราคุยกันเกี่ยวกับ
00:00:15 → 00:00:17 เรื่องการกินอาหารแต่คุณหมอพูดถึงอาการ
00:00:17 → 00:00:20 เครียดท้องอืดเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้างคะใน
00:00:20 → 00:00:23 ในแบบว่าเอ่อสาเหตุที่มันเป็นปัจจัยได้
00:00:23 → 00:00:26 บ้างนะค่ะคุณหมอได้นะครับคือก่อนอื่นเรา
00:00:26 → 00:00:28 ต้องอ่าทราบถึงระบบทางเดินอาหารของเรานะ
00:00:28 → 00:00:31 ครับตั้งแต่เราต้องเริ่มการกินของเราการ
00:00:31 → 00:00:34 เคี้ยวอย่างอย่าเมกี้ที่คุณคุณโอ๊คแจ้งก็
00:00:34 → 00:00:37 คือเวลาเคี้ยวเนี่ยถ้าเราเคี้ยวละเอียดยก
00:00:37 → 00:00:40 ตัวอย่างเช่นเราเราคงไม่ได้ค่อยมานับหรอก
00:00:40 → 00:00:42 ว่าโอเคเราเคี้ยวโดยตามตำราแล้วควรจะ
00:00:42 → 00:00:45 เคี้ยวอย่างน้อย 25-30 ครั้งต่อ 1 คำแล้ว
00:00:46 → 00:00:49 ก็จะกินข้าวมื้อนึงประมาณ 15 นาทีอันนี้
00:00:49 → 00:00:52 คือเป็นด่านแรกที่จะการเคี้ยวเนี่ยจะช่วย
00:00:52 → 00:00:55 ทำททำให้อาหารของเราเนี่ยย่อยให้เล็กลง
00:00:55 → 00:00:58 แล้วก็ลงไปที่หลอดอาหารระบบทางเดินอาหาร
00:00:58 → 00:01:01 เราเนี่ยจะเป็นระบบทางดิเก็คือเข้าทางปาก
00:01:01 → 00:01:04 ออกทางอุจจาระทางทวารหนักเพราะฉะนั้นแล้ว
00:01:04 → 00:01:07 เราเคี้ยวเคี้ยวละเอียดเคี้ยวแล้วก็กิน
00:01:07 → 00:01:09 ข้าว 1 มื้ออย่างน้อย 15 นาทีถ้าเป็นไป
00:01:10 → 00:01:12 ได้นะครับผมแล้วก็หลังจากนั้นเสร็จปุ๊บ
00:01:12 → 00:01:16 อ่าอาหารเราก็จะลงไปที่หลอดอาหารแล้วก็มา
00:01:16 → 00:01:18 ที่กระเพาะอาหารกระเพาะอาหารของเรานะครับ
00:01:18 → 00:01:20 คุณคุณโอ๊กับคุณขวัญก็คือตำแหน่งของ
00:01:20 → 00:01:23 กระเพาะเราเนี่ยจะอยู่ที่บริเวณใต้ใต้
00:01:23 → 00:01:26 ลิ้นปีเหนือสะดือนะครับมันจะอยู่ตรงกลาง
00:01:26 → 00:01:29 เลยนะอาจจะมีทางด้านไปทางด้านซ้ายด้วยก็
00:01:29 → 00:01:31 ได้นะครับครับซึ่งกระเพาะอาหารของเรา
00:01:31 → 00:01:34 เนี่ยโดยทั่วไปแล้วอาการของกระเพาะอาหาร
00:01:34 → 00:01:38 ก็คืออาจจะมีการแสบท้องเวลาเราทานเผ็ด
00:01:38 → 00:01:42 หรือว่ากินอาหารรสจัดหรือว่ารีบกินอาหาร
00:01:42 → 00:01:45 ย่อยไม่ทันพออาหารย่อยไม่ทันเนี่ยเอ่อก็
00:01:45 → 00:01:48 เลยทำให้มีอาการอืดโดยอาการอืดของกระเพาะ
00:01:48 → 00:01:52 เนี่ยอาจจะแสบท้องก่อนอาหารหรือท้องอืด
00:01:52 → 00:01:55 แน่นท้องหลังอาหารได้หลังกินเสร็จก็อาจจะ
00:01:55 → 00:01:58 มีอาการอิ่มง่ายบางทีเราเคยกินแบบอย่าง
00:01:58 → 00:02:01 เงี้ยกิน 100% แล้วก็ตอนเนี้ทำไมเรากิน
00:02:01 → 00:02:03 ได้เหลือแค่ 80% เพราะฉะนั้นแล้วอันเนี้ย
00:02:03 → 00:02:06 อันนี้เริ่มอาการของอาการอิ่มอิ่มง่ายกิน
00:02:07 → 00:02:09 แล้วจุกกินแล้วเสียดกินแล้วอืดกินแล้ว
00:02:09 → 00:02:12 แน่นซึ่งอาทีอาจจะมีอาการปวดท้องก็ได้แสบ
00:02:12 → 00:02:15 ท้องก็ได้ท้องอืดก็ได้นะครับหรือว่าอาจจะ
00:02:15 → 00:02:20 มีอาการเ่อเลอลมออกมาอาจจะมีหๆคล้ายๆกับ
00:02:20 → 00:02:22 กรดไหลย้อนร่วมด้วยแสบหน้าอกเลยเปรี้ยว
00:02:22 → 00:02:24 ได้นะครับเพราะฉะนั้นแล้วอาการของกระเพาะ
00:02:24 → 00:02:27 อาหารของเราเนี่ยก็เป็นตำแหน่งเราต้อง
00:02:27 → 00:02:29 ทราบตำแหน่งของกระเพาะก่อนคืออยู่ใต้ลิ้น
00:02:29 → 00:02:32 ปีเหนือสะดือแล้วอาจจะไปทางด้านซ้ายก็ได้
00:02:32 → 00:02:35 ค่ะคำถามคือท้องอืดอย่างที่คุณขวัญถามมา
00:02:35 → 00:02:38 คือท้องอืดเป็นโรคอื่นได้มมโดยทั่วไป
00:02:38 → 00:02:41 เนี่ยอาการที่มีอาการอืดท้องแน่นท้องที่
00:02:41 → 00:02:45 บริเวณใต้ลิ้นปี่เหนือสะดือของเราเนี่ย
00:02:45 → 00:02:48 โดยทั่วไปแล้ว 80 - 85% เนี่ยก็จะเป็น
00:02:48 → 00:02:53 โรคกระเพาะอาหารนะครับผมซึ่งซึ่งอ่ามันก็
00:02:53 → 00:02:57 จะมีสาเหตุอื่นๆที่มีโอกาสทำให้เ่าเป็น
00:02:57 → 00:03:00 จุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่นั้นได้ยกตัว
00:03:00 → 00:03:03 อย่างเช่นอาการของนิ่วในถุงน้ำดีนะครับ
00:03:03 → 00:03:05 นิ่วในถุงน้ำดีของเราเนี่ยมาด้วยจุกมา
00:03:05 → 00:03:08 ด้วยอืดมาด้วยแน่นแต่ว่ามักจะเป็นมักจะ
00:03:08 → 00:03:11 เป็นแน่นหลังทานข้าวมักจะไม่ค่อยมีแอบ
00:03:11 → 00:03:15 ท้องบางครั้งอาจจะมีปวดท้องแล้วร้าวทะลุ
00:03:15 → 00:03:18 ไปหลังแล้วก็อาจจะมีตัวเหลืองตาเหลืองได้
00:03:18 → 00:03:21 ซึ่งวิธีการโดยปัจจัยเสี่ยงของคนที่มี
00:03:21 → 00:03:24 โอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีเนี่ยมักจะเป็นคน
00:03:24 → 00:03:28 ที่มีอายุอายุที่อาจจะเกิน 40 ปีหรืออาจ
00:03:28 → 00:03:32 จะชอบทานของหวานค่ะของมันของทอดมากขึ้นนะ
00:03:32 → 00:03:35 ครับผมแล้วก็แล้วก็น้ำหนักตัวที่อาจจะมี
00:03:35 → 00:03:38 เกินเกณฑซึ่งวิธีการตรวจคัดกรองของการ
00:03:38 → 00:03:42 ตรวจก็โดยทำด้วยการวิธีการอัลตร้าซาวก็
00:03:42 → 00:03:44 คือเอาเจลไปไถๆที่หน้าท้องเหมือนตอนที่
00:03:44 → 00:03:47 ตรวจสุขภาพประจำปีก็จะรู้เลยว่าอันเนี้ย
00:03:47 → 00:03:49 มีนิ่วในถุงน้ำดีนะครับเพราะฉนั้นเพราะ
00:03:49 → 00:03:52 ฉะนั้นอ่าอวัยวะที่ 2 ที่เป็นได้ก็คือ
00:03:52 → 00:03:56 เป็นนิ่วในถุงน้ำดีนะครับดอันถัดไปก็คือ
00:03:56 → 00:03:59 ตรงจุกใต้ลิ้นปี่ตรงเนี้ยสิ่งที่สำคัญก็
00:03:59 → 00:04:03 คือสิ่งที่อีก 5% ที่มีโอกาสเสี่ยงะ
00:04:03 → 00:04:06 อันเนี้ยเราต้องจะต้องต้องถามประวัติ
00:04:06 → 00:04:08 อย่างอื่นร่วมด้วยก็คือมีอาการจุกป้าย
00:04:08 → 00:04:12 ลิ้นปี่แล้วก็บางทีมีแน่นหน้าอกร่วมด้วย
00:04:12 → 00:04:15 ร่วมกับมีอาการเหงื่อแตกใจสั่นแล้วก็ล้าว
00:04:16 → 00:04:18 เวลาเหงือดแตกใจสั่นก็คือจะมีร้าวไปที่
00:04:18 → 00:04:20 แขนซ้ายซึ่งอาการตรงเนี้ยเป็นอาการบ่งบอก
00:04:20 → 00:04:23 ของสัญญาณของโรคหัวใจเพราะว่าจะมีคนไข้
00:04:23 → 00:04:26 ของหมอหลายๆท่านเนี่ยมาด้วยจุกๆใต้ลิ้น
00:04:26 → 00:04:28 ปี่เราก็ต้องมาตรวจว่าเนี่ยมีโรคหัวใจ
00:04:28 → 00:04:30 มั้ยบางท่านเนี่ยมาหาหมอทางเดินอาหารแล้ว
00:04:30 → 00:04:33 สุดท้ายแล้วเนี่ยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตีบ
00:04:33 → 00:04:36 กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดซึ่งตีบ 3 เส้นก็
00:04:36 → 00:04:39 ต้องไปทำการฉีดสีบลูนขยายตรงนั้นไปได้นะ
00:04:39 → 00:04:43 ครับผมอ๋อแสดงว่าเรื่องของอาการท้องอืด
00:04:43 → 00:04:46 ปวดท้องนี่ไม่ไม่ใช่เล่นๆนะคะเพราะว่ามัน
00:04:46 → 00:04:50 สะท้อนไปถึงตัวนิ่วในถุงน้ำดีก็เป็นได้
00:04:50 → 00:04:53 โรคหัวใจก็เป็นได้หรือตัวกระเพาะอาหารก็
00:04:53 → 00:04:57 เป็นได้เหมือนกันแล้วการแยกแยะอ่ะค่ะความ
00:04:57 → 00:05:01 เจ็บปวดของอ่าเรามาโฟกัสที่ตัวกระเพาะ
00:05:01 → 00:05:04 อาหารแล้วก็อาการของมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:05:04 → 00:05:08 มันอันไหนคืออันไหนอันไหนคือมันแตกต่าง
00:05:08 → 00:05:11 กันยังไงคะคุณหมอคะโอเคครับเพราะเพราะ
00:05:11 → 00:05:15 ฉะนั้นแล้วอาการของของอาการของโรคกระเพาะ
00:05:15 → 00:05:17 กับอาการของมะเร็งกระเพาะอาหารเนี่ยเขาจะ
00:05:17 → 00:05:20 ต้องมีวิธีการแยกเขาเรียกว่ามีอาการที่
00:05:20 → 00:05:23 เป็นเรียกเรียกว่าธงแดงหรือว่าอาการเตือน
00:05:23 → 00:05:27 หรือว่าเป็นเลแกซก็คือ 1 ก็คือมีอาการ
00:05:27 → 00:05:31 อาเจียนตลอดเวลากินอาหารแล้วก็อาเจียนกิน
00:05:31 → 00:05:33 อาหารแล้วก็อาเจียนนะครับอาเจียนนี่มี
00:05:33 → 00:05:36 เลือดปนมั้ยคะหรือว่าก็เหมือนอาเจียนปกติ
00:05:36 → 00:05:40 คะอาจะอาเจียนมีเลือดปนหรือไม่มีเลือดปน
00:05:40 → 00:05:43 ก็ได้แต่ว่าถ้ามีอาเจียนออกมาเป็นสีดำ
00:05:43 → 00:05:47 เป็นสีดำลักษณะคล้ายๆเป็นเมล็ดกาแฟสีจะดำ
00:05:47 → 00:05:50 ๆเป็นดำๆอันนั้นน่ะจะเป็นสัญญาณเตือนว่า
00:05:50 → 00:05:54 น่าจะเป็นมีปัญหาในการเลือดออกในระบบทาง
00:05:54 → 00:05:58 เดินอาหารนะครับคอืครับๆนะครับผมเป็นข้อ
00:05:58 → 00:06:01 สังเกตครับเป็นข้อสังเกตนะครับอันที่ 2
00:06:01 → 00:06:05 ก็คืออ่าเราไปตรวจสุขภาพแล้วแล้วพบว่า
00:06:05 → 00:06:09 เก็บอุจจาระแล้วมีคุณหมอบอกว่าโอเคสี
00:06:09 → 00:06:12 อุจจาระสีปกตินะแต่ว่าเก็บอุจจาระแล้ว
00:06:12 → 00:06:16 เนี่ยเรามีเม็ดเลือดแดงแฝงในอุจจระออกมา
00:06:16 → 00:06:19 นะครับก็คือสีอุจจาระจะเป็นสีเหลืองสี
00:06:19 → 00:06:22 เขียวสีน้ำตาลไม่ใช่เลือดเลยแต่ว่าเวลาไป
00:06:22 → 00:06:25 ตรวจในห้องปฏิบัติการเนี่ยพบว่ามีเม็ด
00:06:25 → 00:06:28 เลือดแดงแฝงในอุจจาระพอมีเม็ดเลือดแดงแฝง
00:06:28 → 00:06:31 ในอุจจาระเนี่ยเราก็ต้องดูว่ามีโอกาสเกิด
00:06:31 → 00:06:33 เลือดออกตรงไหนได้บ้างอาจจะเป็นอาการ
00:06:33 → 00:06:36 เลือดออกเกิดจากในกระเพาะก็ได้เลือดออกใน
00:06:36 → 00:06:41 ลำไส้ก็ได้นะครับผมคืออันนี้คือถ้ามี
00:06:41 → 00:06:45 อาการอาเจียนเป็นสีดำหรือว่าอุจจาระที่
00:06:45 → 00:06:49 อาจจะพอไปตรวจทางเอ่อห้องแลบแล้วเนี่ยมี
00:06:49 → 00:06:51 เม็ดเลือดแดงแฝงเนี่ยแสดงว่ามีความเสี่ยง
00:06:51 → 00:06:54 หรือความบ่งชี้ไปเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:06:54 → 00:06:57 หรือเป็นเลยอันเนี้ยคือความเป็นยังไงคะ
00:06:57 → 00:07:00 คุณหมอก็คือก็ก็เพราะฉะนั้นแล้วเป็นการ
00:07:00 → 00:07:03 ตรวจเบื้องต้นเราก็ต้องไปทำการตรวจตรวจ
00:07:03 → 00:07:06 เพิ่มเติมซึ่งการตรวจเพิ่มเติมที่เป็นการ
00:07:06 → 00:07:11 ตรวจมาตรฐานก็คือในเมื่อเรามีข้อสงสัยที่
00:07:11 → 00:07:13 จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารการตรวจวินิจฉัย
00:07:13 → 00:07:17 ที่เห็นภาพชัดเจนก็คือใช้เป็นวิธีการส่อง
00:07:17 → 00:07:20 กล้องทางเดินอาหารส่วนบนอืค่ะซึ่งวิธีการ
00:07:20 → 00:07:23 ส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนเนี่ยเราจะ
00:07:23 → 00:07:28 ใช้วิธีการอ่องดน้ำงดอาหารประมาณ 8 ชมง
00:07:28 → 00:07:32 แล้วเราก็จะใส่กล้องมีการพ่นยาชาเข้าทาง
00:07:32 → 00:07:35 ปากหรืออาจจะฉีดยาที่ช่วยทำให้หลับแล้วก็
00:07:36 → 00:07:40 ใส่กล้องที่ขนาดเล็กเท่าอ่าชานมไข่มุก
00:07:40 → 00:07:42 แล้วเราก็ความยาวประมาณ 1 เมตรกว่าๆตอน
00:07:42 → 00:07:46 ส่องเนี่ยก็ถ้าส่องแบบหลับคนไข้จะไม่รู้
00:07:46 → 00:07:48 สึกตัวไม่รู้สึกเจ็บแล้วก็ใส่กล้องเข้า
00:07:48 → 00:07:52 ทางปากลงหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็ก
00:07:52 → 00:07:56 ส่วนต้นการส่องกล้องตรงเนี้ยโดยกล้องขนาด
00:07:56 → 00:07:59 เส้นผ่าศูนย์กลางเท่าแค่ชางนมไข่มุกแต่
00:07:59 → 00:08:03 เราก็จะเห็นภาพที่แบบคมชัดเป็นแบบ 4k 4k
00:08:03 → 00:08:07 เห็นภาพภาพสีเลยว่าโอเคตรงเนี้ยมีแผลมี
00:08:07 → 00:08:12 ติ่งเนื้อมีก้อนในกรณีที่มีแผลมีติ่ง
00:08:12 → 00:08:14 เนื้อหรือมีก้อนถ้าเราตัดชิ้นเนื้อถ้า
00:08:14 → 00:08:17 ก้อนตรงนั้นเราสามารถส่องกล้องแล้วเราตัด
00:08:17 → 00:08:21 เข้าไปได้เราจะตัดชิ้นเนื้อนั้นไปตรวจดู
00:08:21 → 00:08:23 ทางพยานก็คือส่องกล้องดูเลยว่าอันเนี้ย
00:08:23 → 00:08:26 เป็นแผลนะแผลตรงเนี้ยมีความเสี่ยงในการ
00:08:26 → 00:08:30 เกิดมะเร็งกระเพาะได้ครับอืออออครับอครับ
00:08:30 → 00:08:34 ค่ะโอ้โหถ้าพอเป็นอย่างงี้โอขอย้อนไปที่
00:08:34 → 00:08:38 สาเหตุนิดนึงค่ะคุณหมอว่าใครบ้างนะที่จะ
00:08:38 → 00:08:42 แบบมีความเสี่ยงแล้วสาเหตุของคนที่จะเป็น
00:08:42 → 00:08:45 มะเร็งเนี่ยของตัวกระเพาะอาหารเนี่ยเค
00:08:45 → 00:08:49 ต้องบริโภครสจัดหรอเออเต้องเปลี่ยนมากิน
00:08:49 → 00:08:51 จืดกันทั้งหมดมั้ยมันถึงจะแบบมีสุขภาพ
00:08:52 → 00:08:54 กระเพาะที่ดีอย่างเงี้ยค่ะคุณหมอโอเคครับ
00:08:54 → 00:08:58 ก็สาเหตุของการเกิดตัวมะเร็งกระเพาะที่
00:08:58 → 00:09:03 สำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวหลักเลยที่มีการ
00:09:03 → 00:09:05 พิสูจน์แล้วว่าเป็นถ้าถ้าคนที่เป็นมะเร็ง
00:09:05 → 00:09:08 กระเพาะอาหารแล้วเนี่ยค่ะเราต้องหาอันนี้
00:09:08 → 00:09:11 ก็คืออันที่ 1 สำคัญที่สุดเลยนะครับคือ
00:09:11 → 00:09:14 การติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะเชื้อ
00:09:14 → 00:09:17 แบคทีเรียตัวนี้ภาษาอังกฤษจะเรียกชื่อว่า
00:09:17 → 00:09:17 เชื้อ
00:09:18 → 00:09:22 แบคเตอร์ P หรือ H P เชื้อแบคทีเรียตัว
00:09:22 → 00:09:25 นี้เป็นเชื้อแบคทีเรียนะครับผมคำถามคือ
00:09:25 → 00:09:28 เชื้อแบคทีเรียตัวเนี้ยติดติดได้จากอะไร
00:09:28 → 00:09:31 ก็คือเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ติดได้จากอาหาร
00:09:31 → 00:09:36 การกินน้ำดื่มที่ไม่สะอาหารที่ปนเปื้อน
00:09:36 → 00:09:39 เชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอันที่ 1 อาหาร
00:09:39 → 00:09:42 และน้ำดื่มที่ไม่สะอาดโดยเฉพาะในพื้นที่
00:09:42 → 00:09:45 ที่มีสุขานามัยที่อาจจะยังไม่ได้น้ำไม่
00:09:45 → 00:09:48 เพียงพอมากนะครับอันที่ 2 อาหารดิบหรือ
00:09:48 → 00:09:51 สุกไม่เพียงพอเช่นเนื้อสักต์ดิบปลาดิบ
00:09:51 → 00:09:55 หรือผักสดออืนางลมสดที่ล้างไม่สะอาดนะ
00:09:55 → 00:09:59 ครับผมอันที่ 3 คืออาหารหมักดองเช่นผัก
00:09:59 → 00:10:03 ดองน้ำปลาที่ไม่ได้มาตรฐานนะครับอันถัดไป
00:10:03 → 00:10:07 ก็คืออาหารที่มีการสัมผัสกับอุจจาระเช่น
00:10:07 → 00:10:10 อาหารที่ปรุงโดยผู้ที่ไม่ได้ล้างมือหลัง
00:10:10 → 00:10:13 จากเข้าห้องนานะครับผมอันนี้ก็เลยเป็น
00:10:13 → 00:10:16 ปัจจัยที่สำคัญส่วนปัจจัยเสี่ยงกันอื่นๆ
00:10:16 → 00:10:19 โดยทั่วไปการติดเชื้อแบคทีเรียตัวนี้มัก
00:10:19 → 00:10:24 จะติดจากอาหารสู่คนจะละไม่จะไม่ค่อยติด
00:10:24 → 00:10:28 จากคนสู่คนนะครับแต่ถามว่าอคนที่มีการใช้
00:10:28 → 00:10:30 ภาชนะร่วมกันกันหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่
00:10:30 → 00:10:33 แอร์อัดค่ะหรือมีประวัติครอบครัวติดเชื้อ
00:10:33 → 00:10:36 แบคทีเรียในกระเพาะซึ่งก็อาจมีการแพร่
00:10:36 → 00:10:40 กระจายภายในครอบครัวได้แต่ว่าการวิธีการ
00:10:40 → 00:10:44 ป้องกันการติดเชื้อตัวเนี้ยข้อขถามว่าไม่
00:10:44 → 00:10:48 ได้ไม่ได้ปฏิบัติได้สบายอยู่แล้วคือ 1
00:10:48 → 00:10:51 ล้างมือให้สะอาดรับประทานงสุขดื่มน้ำ
00:10:51 → 00:10:55 สะอาดนะครับผมใช่ครับผมอือซึ่งเชื้อ
00:10:55 → 00:10:57 แบคทีเรียตัวนี้เนี่ยเป็นเชื้อ
00:10:57 → 00:11:02 แบคทีเรียเป็นเป็นสารก่อมะเร็งซึ่งอ่าเมี
00:11:02 → 00:11:03 การพิสูจน์แล้วว่าอันเนี้ยเป็นสารก่อ
00:11:03 → 00:11:07 มะเร็งเหมือนคนที่กินแอลกอฮอล์จะมีมี
00:11:07 → 00:11:09 โอกาสเกิดมะเร็งตับอันเนี้ยชัดเจนแบบเป็น
00:11:09 → 00:11:13 แบบคลาสแบบชั้นหนึ่งเลยว่าโอเคเป็นแน่นอน
00:11:13 → 00:11:15 คนที่เป็นไวรัสตับอักเสบ B จะมีโอกาสเกิด
00:11:15 → 00:11:18 มะเร็งตับได้ซึ่งตัวเชื้อแบคทีเรียตัว
00:11:18 → 00:11:21 เนี้ยเป็นเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะเป็นตัว
00:11:21 → 00:11:25 เดียวที่ทนกรดเป็นตัวเดียวที่คนกรดเนี่ย
00:11:25 → 00:11:27 เมื่อเข้าไปอยู่ในกระเพาะเราเนี่ยจะทำให้
00:11:27 → 00:11:29 กระเพาะอาหารเราอักเสบติดเชื้อเมื่อติด
00:11:30 → 00:11:33 เชื้อเสร็จปุ๊บเขาจะมีเกาะป้องกันไม่เรา
00:11:33 → 00:11:35 ไม่สเราไม่สามารถทำอะไรเชื้อตัวนี้ได้
00:11:35 → 00:11:38 ซึ่งอืแล้วเสร็จแล้วปุ๊บเชื้อตัวเนี้ยเขา
00:11:38 → 00:11:41 ก็จะแบบมีการกระตุ้นให้กระเพาะเราเนี่ย
00:11:41 → 00:11:44 หลั่งกรดเมื่อเราหลั่งกรดเยอะกระเพาะเรา
00:11:44 → 00:11:48 ก็จะเป็นแผลเมื่ออะไรที่มันเป็นแผลแล้วก็
00:11:48 → 00:11:51 จะเกิดเกิดทำให้อักเสบในร่างกายเราเมื่อ
00:11:51 → 00:11:53 เป็นแผลที่เกิดการอักเสบอะไรที่มันอักเสบ
00:11:53 → 00:11:56 นานๆแล้วร่างกายเราไม่สามารถที่จะกลับมา
00:11:56 → 00:11:58 สู่สภาวะปกติอย่างเวลาเราเป็นแผลใช่มั้ย
00:11:58 → 00:12:01 ครับเวลาโดนมีดบาโดนอะไรร่างกายเราสมาน
00:12:01 → 00:12:03 กันได้แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อ
00:12:03 → 00:12:06 แบคทีเรียในกระเพาะเนื้อเยื่อในกระเพาะ
00:12:06 → 00:12:09 ของเราจะมีการอักเสบแล้วเยเนื้อเยื่อตรง
00:12:09 → 00:12:13 เนี้ยมันก็ค่อยๆมีการเติบโตหน้าตาที่หน้า
00:12:13 → 00:12:16 ตาดูปกติก็จะกลายเป็นหน้าตาที่ไม่ปกติ
00:12:16 → 00:12:19 แล้วก็กลายเป็นลลายได้เพราะฉะนั้นแล้ว
00:12:19 → 00:12:22 กลไกการเกิดเรื่องมะเร็งกระเพาะสาเหตุที่
00:12:22 → 00:12:26 สำคัญที่สุดคือเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะนะ
00:12:26 → 00:12:29 ครับคำถามคือเชื้อแบคทีเรียตัวเนี้ยบ้าน
00:12:29 → 00:12:34 เราบ้านเ่อบ้านเราเจอเจอได้เจอได้บ่อยเจอ
00:12:34 → 00:12:36 ได้บ่อยมเมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับใน
00:12:36 → 00:12:38 ภูมิภาคเอเชียของเราเนี่ยก็อยู่ในระดับ
00:12:38 → 00:12:42 กลางๆก็คือหมายถึงว่าคนที่มีอคนที่มี
00:12:42 → 00:12:46 อาการปวดท้อง 100 คนเวลาเข้าไปส่องกล้อง
00:12:46 → 00:12:48 จะเจอเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะเนี่ยจะอยู่
00:12:48 → 00:12:54 ที่ประมาณ 30-40 เนะครับผมอนะครับผมอออก็
00:12:54 → 00:12:58 ค่อนข้างจะเอ่อก็ไม่ไม่ไม่ต่ำไม่สูงนะคะ
00:12:58 → 00:13:01 แต่ว่าเอ่อชาติไหนในเอเชียคุณหมอพมีข้อ
00:13:01 → 00:13:04 มูลมั้ยคะว่าอ่าชาติไหนคะคุณหมอที่มี
00:13:04 → 00:13:07 เปอร์เซ็นต์สูงๆอ่ะค่ะคือโอเคครับมาเรา
00:13:07 → 00:13:09 เราพูดถึงตัวเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะ
00:13:09 → 00:13:12 เนี่ยเป็นสารก่อมะเร็งนะครับเพราะฉะนั้น
00:13:12 → 00:13:15 เวลาการที่เราจะบอกว่าประเทศไหนเนี่ยมี
00:13:15 → 00:13:18 เา้าเรียกว่าอัตราคนเกิดมะเร็งกระเพาะ
00:13:18 → 00:13:21 เนี่ยประเทศไทยเราเนี่ยเมื่อข้อมูลล่าสุด
00:13:21 → 00:13:24 คือเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วเนี่ยปีนึง
00:13:24 → 00:13:26 จะมีคนเป็นมะเร็งกระเพาะอยู่ประมาณ 2,000
00:13:26 → 00:13:32 รายอในคนอตอบในประชากร 100,000 คนจะมี
00:13:32 → 00:13:37 เป็นมะเร็งกระเพาะประมาณ 3.7 คนโดยผู้ชาย
00:13:37 → 00:13:39 จะเป็นมากกว่าผู้หญิงนะครับผมค่ะส่วน
00:13:39 → 00:13:43 ประเทศที่ในฝั่งเอเชียที่มีอัตราการเกิด
00:13:43 → 00:13:46 มะเร็งกระเพาะที่สูงที่สุดให้คุณโอ๊กกับ
00:13:46 → 00:13:50 คุณขวัญลองดาวได้มั้ยครับผมอ้าเกาหลีใต้
00:13:50 → 00:13:53 แล้วกันอ่าญี่ปุ่นนะอ่าถูกต้องครับคุณโก็
00:13:53 → 00:13:57 คือญี่ปุ่นอหูยปลาดิบแน่เลยญี่ปุ่นเนี่ย
00:13:57 → 00:14:01 ก็คือในประชากร 100,000 รายเนี่ยจะมีคน
00:14:01 → 00:14:04 เป็นมะเร็งกระเพาะได้ประมาณ 30 คนเพราะ
00:14:04 → 00:14:06 ฉะนั้นจะมากกว่าของเราเกือบ 10 เท่าเลย
00:14:06 → 00:14:10 เพราะฉะนั้นคำถามคือบ้านในประเทศเ้าเนี่ย
00:14:10 → 00:14:14 เขาพบว่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะคือเมื่อ
00:14:14 → 00:14:17 มีเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะเนี่ยความดุของ
00:14:17 → 00:14:20 แต่ละสายพันธุ์จะแตกต่างกันซึ่งถือว่า
00:14:20 → 00:14:23 เป็นความโชคดีของบ้านเราที่ 1 หนึ่งบ้าน
00:14:23 → 00:14:27 เราเนี่ยเอ่อเชื้อความดุสู้ของญี่ปุ่นไม่
00:14:27 → 00:14:31 ได้นะครับอ๋อค่ะใช่ครับแต่ก็มีแต่ก็มีก็
00:14:31 → 00:14:35 มีนะครับแต่ของญี่ปุ่นเพอเเทราบว่ามะเร็ง
00:14:35 → 00:14:38 กระเพาะเนี่ยติดติดอันดับต้นๆเพราะฉะนั้น
00:14:38 → 00:14:41 แล้วเขาจะมีการตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะ
00:14:41 → 00:14:43 ที่ค่อนข้างเข้มข้นเพราะฉะนั้นแล้วการ
00:14:43 → 00:14:47 ตรวจเจอมะเร็งกระเพาะของของประเทศญี่ปุ่น
00:14:47 → 00:14:51 มักจะเจอตรวจได้ในระยะต้นๆอส่วนของประเทศ
00:14:51 → 00:14:54 ไทยเราเนี่ยเวลาเนื่องจากเวลาที่มีอาการ
00:14:54 → 00:14:56 ปวดท้องแน่นท้องเราก็คิดว่าเป็นโรค
00:14:56 → 00:14:59 กระเพาะเป็นโรคกระเพาะเพราะฉะนั้นแล้วใช่
00:14:59 → 00:15:01 อาการที่เป็นโรคกระเพาะที่มีอาการเป็น
00:15:01 → 00:15:05 เรื้อรังเช่นเป็นมาอย่างน้อยเดือนนึงไปหา
00:15:05 → 00:15:08 คุณหมอรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้นครับคง
00:15:08 → 00:15:12 เตือนอีกอันนึงก็คือมีน้ำหนักตัวลดค่ะ 5%
00:15:12 → 00:15:15 ใน 3 เดือนหมายถึงว่าถ้าเราน้ำหนักตัว
00:15:15 → 00:15:18 เท่าไหร่น้ำหนักตัวลดลง 5% ใน 3 เดือน
00:15:18 → 00:15:22 หรือ 10% ใน 6 เดือนอันนี้จะต้องแสดงบก
00:15:22 → 00:15:25 บองว่าเรามีน้ำหนักตัวรที่ต้องหาสาเหตุนะ
00:15:25 → 00:15:30 ครับผมคอือีกอันนึงก็คือตอนที่เราไปตรวจ
00:15:30 → 00:15:34 ร่างกายแล้วคุณหมอบอกว่าโอเคมีภาวะโลหิต
00:15:34 → 00:15:38 จางที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็กเพราะฉะนั้น
00:15:38 → 00:15:42 แล้วโดยทั่วไปเราเรากินข้าวกินอาหารเรา
00:15:42 → 00:15:45 มักจะไม่ขาดธาตุเหล็กการขาดธาตุเหล็กเกิด
00:15:45 → 00:15:48 จากการเสียเลือดซึ่งการเสียเลือดในร่าง
00:15:48 → 00:15:51 กายเรามีอยู่ 3 ทางค่ะทางที่ 1 ก็คือทาง
00:15:51 → 00:15:55 ในระบบทางเดินอาหารทางที่ 2 คือในระบบของ
00:15:55 → 00:15:58 ของคุณผู้หญิงคือประจำเดือนประจำเดือนคือ
00:15:58 → 00:16:00 เราเสียในระบบทางเดินปัสสาวะเพราะฉะนั้น
00:16:00 → 00:16:03 ถ้ามีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการขาดธาตุ
00:16:03 → 00:16:06 เหล็กเราต้องหาสาเหตุแล้วว่าเรามีการสูญ
00:16:06 → 00:16:10 เสียเลือดทางไหนได้บ้างนะครับผมอ๋อเออ
00:16:10 → 00:16:12 แล้วแล้วแล้วแล้วการหาสาเหตุพวกนี้มัน
00:16:12 → 00:16:16 ง่ายมั้ยคุณหมอการหาสาเหตุเนี่ยก็ต้องเจอ
00:16:16 → 00:16:18 คุณหมอคุณหมอก็โดยโดยเบื้องต้นเนี่ยคุณ
00:16:18 → 00:16:21 หมอเคก็จะซักประวัติก่อนเลยโอเคถ้าเป็น
00:16:21 → 00:16:23 คุณผู้หญิงประจำเดือนออกเยอะมั้ยถ้าประจำ
00:16:23 → 00:16:26 เดือนออกเยอะให้คุณหมอสูตินารีเวชช่วยดู
00:16:26 → 00:16:29 ว่าภาวะตรงเนี้ยมีประจำเดือนเยอะเกิดจาก
00:16:29 → 00:16:32 การเสียเลือดเกิดจากการขาดธาตเหล็กเ่นจะ
00:16:32 → 00:16:35 มีเนื้องอกมดลูกมีถุงน้ำรังไข่หรือว่ามี
00:16:35 → 00:16:38 ภาวะใดๆก็ตามที่ที่เราสามารถแก้ไขได้ตรง
00:16:38 → 00:16:41 จุดนั้นนะครับผมคส่วนส่วนในระบบทางเดิน
00:16:41 → 00:16:45 อาหารเราเนี่ยการตรวจการตรวจคัดการตรวจ
00:16:45 → 00:16:48 เพื่อทราบสาเหตุว่ามีการเสียเลือดในทาง
00:16:48 → 00:16:50 กระเพาะหรือลำไส้การตรวจมาตรฐานคือการ
00:16:50 → 00:16:54 ส่องกล้องทางเดินอาหารเพาะและลำไส้ใหญ่นะ
00:16:54 → 00:17:00 ครับผมออืค่ะเออพอพูดถึงอาการต่างๆที่คุณ
00:17:00 → 00:17:04 หมอบอกมาว่าอ่าถ้ามันจะเป็นตัวมะเร็ง
00:17:04 → 00:17:05 กระเพาะอาหารเนี่ยมันต้องติดเชื้อจากตัว
00:17:05 → 00:17:09 แบคทีเรียตัวเนี้ยแหละแล้วพอมันจะมีอาการ
00:17:09 → 00:17:13 ตั้งต้นมยคะว่าอ่าอันเนี้ยก็คือตัวที่อาจ
00:17:13 → 00:17:15 จะก่อนจะอัดเย็นสีดำเนี่ยมันมันมีอาการ
00:17:15 → 00:17:18 อะไรมยหรือว่าเราจะมาเจอระยะท้ายๆกันเสีย
00:17:19 → 00:17:22 ส่วนใหญ่แล้วคะในประเทศไทยอ่ะค่ะจริงๆใน
00:17:22 → 00:17:25 จริงๆในบ้านเราเนี่ยเอ่อเนื่องจากการเข้า
00:17:25 → 00:17:29 เข้าถึงยารดกรดหรือว่ายาแก้เรื่องโรค
00:17:29 → 00:17:32 กระเพาะเนี่ยเอ่อโดยโดยทั่วไปเราก็จะเอ่อ
00:17:32 → 00:17:35 รักษาเบื้องต้นก็โอปวดท้องท้องอืดอาจจะยา
00:17:35 → 00:17:39 รสกรดต่างๆแล้วก็เมื่อเวลาผ่านไปแบบ
00:17:39 → 00:17:42 ประมาณแล้วพอมีช่วงนึงน้ำหนักตัวลดเเป็น
00:17:42 → 00:17:44 เพราะเรากินไม่ได้กินไม่ได้เพราะว่าอาจจะ
00:17:44 → 00:17:47 มีแผลในกระเพาะซึ่งเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:17:47 → 00:17:50 เมื่อไหร่ก็ตามที่อาการของโรคกระเพาะ
00:17:50 → 00:17:53 อาหารท้องอืดแน่นท้องทานยาไม่ดีขึ้นอย่าง
00:17:53 → 00:17:56 น้อย 2-4 สัปดาห์เนี่ยก็ต้องเป็นอาการ
00:17:56 → 00:18:00 เตือนละบางคนตรวจบางคนรู้สึกว่าท้องโต
00:18:00 → 00:18:04 ขึ้นบางคนท้องโตขึ้นหรือบางคนตรวจจับท้อง
00:18:04 → 00:18:06 แล้วเหมือนคำได้ก้อนอันเนี้ยจริงๆแล้ว
00:18:06 → 00:18:07 เป็นอาการระยะหลังๆอ่ะเพราะฉะนั้นแล้ว
00:18:07 → 00:18:11 เนี่ยเอ่อสิ่งสำคัญก็คือเมื่อเราได้รับ
00:18:11 → 00:18:14 ประทานยาแล้วไม่ดีขึ้นอย่างน้อย 2-4
00:18:14 → 00:18:17 สัปดาห์ควรจะต้องไปพบแพทย์แล้วก็ตรวจหา
00:18:17 → 00:18:21 สาเหตุเพิ่มเติมนะครับอ๋อค่ะอันนี้สอด
00:18:21 → 00:18:23 คล้องมากับที่คุณผู้ฟังจากทางบ้านสอบถาม
00:18:23 → 00:18:27 มาเลยค่ะว่าเอ่อตอนเนี้ยมีอาการไม่ไม่ได้
00:18:27 → 00:18:30 ปวดท้องนะคะแต่ท้องมาดูบวมๆเอออันเนี้ย
00:18:30 → 00:18:33 มันมันมันควรต้องสงสัยมั้ยหรือว่าเค้าควร
00:18:33 → 00:18:37 ไปปรึกษาแพทย์มั้ยอาการแบบท้องดูบวมๆอ่ะ
00:18:37 → 00:18:40 คะคุณหมอคือถ้าท้องบวมๆดูแล้วเราท้องบวม
00:18:40 → 00:18:44 เป็นแบบเ้าเรียกว่ามีช่วงเป็นมีช่วงหาย
00:18:44 → 00:18:47 แล้วไม่ได้มีธงเตือนเช่นค่ะเอ่อเบื่อ
00:18:47 → 00:18:50 อาหารน้ำหนักตัวรถขับถ่ายผิดปกติตรงนั้น
00:18:50 → 00:18:54 เนี่ยเราอาจจะถ้าเราไม่อยากทราบให้ชัดเจน
00:18:54 → 00:18:56 เนี่ยอาจจะไปหาคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ
00:18:56 → 00:18:59 อันที่ 1 อาจจะตรวจเบื้องต้นก่อนได้เช่น
00:18:59 → 00:19:02 ให้คุณหมอตรวจร่างกายว่า 1 ที่ท้องบวมๆ
00:19:02 → 00:19:04 ตรงเนี้ยเป็นลมหรือเปล่าอันที่ 1 นะครับ
00:19:04 → 00:19:08 อันที่ 2 ที่ท้องบวมๆตรงเนี้ยเป็นท้องมาร
00:19:08 → 00:19:11 เป็นน้ำในช่องท้องมยอันที่ 3 ให้คุณหมอ
00:19:11 → 00:19:13 ตรวจร่างกายดูก่อนว่าเมีตับโตหรือเปล่า
00:19:13 → 00:19:16 ม้ามโตหรือไม่ทำก้อนในช่องท้องได้หรือ
00:19:16 → 00:19:19 เปล่านะครับเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยอ่าเราก็
00:19:20 → 00:19:23 เบื้องต้นถ้าถ้าเราสงสัยอาการไม่ชัดเจน
00:19:23 → 00:19:25 ให้คุณหมอไปตรวจดูถ้าคุณหมอสงสัยเบื้อง
00:19:25 → 00:19:29 ต้นอาจจะอัลตร้าซาวก่อนแล้วก็แล้วก็ก็ส่ง
00:19:29 → 00:19:31 ตรวจเพิ่มเติมโดยการส่องกล้องกระเพาะลำ
00:19:31 → 00:19:35 ไส้อ๋อค่ะคุณหมอคะแล้วตรงเนี้ยก่อนที่
00:19:35 → 00:19:37 เอ่อคุณผู้ฟังที่อาจจะฟังอยู่แล้วสงสัย
00:19:37 → 00:19:40 ว่าเอ๊ะเรามีอาการต้องสงสัยจะเป็นมะเร็ง
00:19:40 → 00:19:42 กระเพาะอาหารหรือเปล่าเนี่ยเราควรจะ
00:19:42 → 00:19:46 เช็คลิสตัวเองในการที่อทำทำลิสเหมือน
00:19:46 → 00:19:48 สังเกตอาการตัวเองภายใน 7 วันหรือ 3 วัน
00:19:49 → 00:19:51 ฉันมีอาการแบบนี้ช่วงเวลาเช้ากลางวันเย็น
00:19:51 → 00:19:55 มีคำแนะนำอะไรประมาณนี้ยคะโอเคครับคือถ้า
00:19:55 → 00:19:58 เป็นอาการของมะเร็งถ้าเป็นก้อนนะครับค่ะ
00:19:58 → 00:20:02 ถ้าเป็นก้อนเนี่ยก้อนจะโตขึ้นเรื่อยๆโต
00:20:02 → 00:20:04 ขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยอาการของ
00:20:04 → 00:20:08 มะเร็งจะไม่มีอาการไม่มีช่วงที่ดีขึ้นมี
00:20:08 → 00:20:11 แต่แบบช่วงที่ดีแล้วก็เบาลงแต่ไม่ถึงกับ
00:20:11 → 00:20:14 ลงถึงจนปกติเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยถ้า
00:20:14 → 00:20:17 เบื้องต้นมีอาการที่มีท้องอืดแน่นท้องอาจ
00:20:17 → 00:20:21 จะลองทานยาได้ประมาณ 3 ประมาณ 3-7 วันถ้า
00:20:21 → 00:20:24 ไม่ดีไปให้คุณหมอตรวจร่างกายคุณหมอตรวจ
00:20:24 → 00:20:27 ร่างกายก็ต้องนัดติดตามการรักษาเบื้องต่อ
00:20:27 → 00:20:29 เนื่องโดยทั่วไปถ้าคนไข้ผมมาด้วยท้องอื่น
00:20:29 → 00:20:32 แ่งท้องเนี่ยแล้วยังไม่ได้มีธงธงแดงธง
00:20:32 → 00:20:35 เตือนผมก็จะยังบอกว่าโอเคให้ลองทานยาดู
00:20:35 → 00:20:38 ก่อนนะสัก 1-2 อาทิตย์ถ้าแนวโน้มดีขึ้น
00:20:38 → 00:20:42 เราดีขึ้นแบบหายดีเราก็อาจจะยังไม่ต้องมี
00:20:42 → 00:20:44 อาการที่บ่งบอกถึงเรื่องมะเร็งแต่ถ้า
00:20:44 → 00:20:47 อาการไม่ดีขึ้นอาจจะต้องส่งตรวจต่อเพิ่ม
00:20:47 → 00:20:50 เติมได้ครับผมก็คือต้องใช้วิธีการติดตาม
00:20:50 → 00:20:54 การรักษานะครับผมค่ะออ๋ออันนี้ของคุณผู้
00:20:54 → 00:20:57 ฟังทางบ้านอีกคนนึงคุณมนูญถามมาว่ากิน
00:20:57 → 00:20:59 ข้าวนิดเดียวก็แน่นแล้วแล้วอะไรอย่าง
00:20:59 → 00:21:02 เงี้ยค่ะแต่ว่าไปตรวจะค่าตับกับค่าไต
00:21:02 → 00:21:05 เนี่ยเกินควรปฏิบัติยังไงให้หายแล้วก็
00:21:05 → 00:21:08 เอ่อรู้สึกว่าเหมือนเป็นคนที่มีพุงเลยแต่
00:21:08 → 00:21:10 ความจริงคุณมานูญบอกว่าเอ้อผมเอ่อความ
00:21:10 → 00:21:13 จริงอ่ะไม่ได้อ้วนนะแต่คือแต่ดูมีพุงอะไร
00:21:13 → 00:21:17 เงี้ยอย่าเงี้เหรอฮะอ๋อแต่ค่าตับก็ค่าไต
00:21:17 → 00:21:20 เกินนะเอออันเนี้ยค่าตับเรื่องเรื่องค่า
00:21:20 → 00:21:24 ตับค่าไตก็คือก็คงลองดู้ว่าตับค่าตับของ
00:21:24 → 00:21:27 เราเนี่ยมีภาวะตับอักเสบหรือเปล่าภาวะตับ
00:21:27 → 00:21:30 อักเสบเนี่ยอาจจะเป็นได้หลายสาเหตุไวรัส
00:21:30 → 00:21:33 ตับอักเสบ B ตับอักเสบ C หรือว่าอาจจะ
00:21:33 → 00:21:36 เป็นไขมันพอกตับซึ่งถ้าค่าตับขึ้นเนี่ย
00:21:36 → 00:21:38 เป็นไขมันพอกตับก็ปัจจัยของการเกิดไขมัน
00:21:39 → 00:21:43 พอกตับก็เกิดจากอ่าทานอาหารที่มีของหวาน
00:21:43 → 00:21:46 น้ำตาลเยอะหรืออาจจะทานไขมันไม่ดีค่ะ
00:21:46 → 00:21:49 ปริมาณเยอะส่วนค่าไตที่สูงขึ้นก็ต้องดู
00:21:49 → 00:21:51 สาเหตุว่าค่าไตที่สูงขึ้นเป็นไปตามอายุ
00:21:51 → 00:21:53 ที่เกิดขึ้นหรือเปล่าหรือว่าเราทานเค็ม
00:21:53 → 00:21:56 ทานหวานมากขึ้นไปหรือเปล่าโดยทั่วไปถ้าไป
00:21:56 → 00:22:00 หาคุณหมอแล้วมีมีแต่ค่าตับค่าไตขึ้นแล้ว
00:22:00 → 00:22:04 อัลตร้าซาวด์ในช่องท้องไม่ได้มีภาวะที่
00:22:04 → 00:22:06 บ่งบอกถึงเรื่องตับแข็งมะเร็งตับหรือว่า
00:22:06 → 00:22:08 ไตบวมเนี่ยเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยอาการตรง
00:22:08 → 00:22:11 นั้นอาจจะไม่ได้อธิบายเรื่องท้องอืดเพราะ
00:22:11 → 00:22:14 ฉะนั้นถ้ามีอาการท้องอืดอัลตร้าซาวไม่มี
00:22:14 → 00:22:18 นิ่้วในถุงน้ำดีแล้วถ้าอายุเกิน 45 ปี
00:22:18 → 00:22:21 อายุเกิน 45 ปีอันเนี้ยจะต้องส่องกล้อง
00:22:21 → 00:22:25 ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้เพนั้นทีที่สำคัญ
00:22:25 → 00:22:29 คือถ้าอายุ 45 ปีโดยโดยที่ไม่มีอาการอะไร
00:22:29 → 00:22:33 เลยแนะนำให้ส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้
00:22:33 → 00:22:36 สามารถไปตรวจตามโรงพยาบาลใกล้บ้านได้นะ
00:22:36 → 00:22:41 ครับผมอคนะครับครับค่ะเอ่อมีคุณผู้ฟังสอบ
00:22:42 → 00:22:44 ถามมาเพิ่มเติมนะจากหน้าแฟนเพจ Facebook
00:22:44 → 00:22:48 ค่ะครับผมคุณหมอถามมาว่าเอ่อพอดีภรรยา
00:22:48 → 00:22:52 เนี่ยปวดท้องบ่อยท้องอืดเป็นประจำเลยแล้ว
00:22:52 → 00:22:55 ก็เดือนก่อนเนี่ยมีการไปส่องกล้องแล้วก็
00:22:55 → 00:22:58 แต่ว่าไม่มีอะไรนะไปส่องแล้วไม่มีอะไรแต่
00:22:58 → 00:23:01 ว่า 2-3 วันที่ผ่านมาก็ยังปวดเอ่อตอนนี้
00:23:01 → 00:23:03 กินขมิ้นชันวันละ 2 หัวเช้าเย็นครับจะ
00:23:03 → 00:23:06 เป็นอันตรายหรือเปล่าแล้วก็แต่มันก็ดี
00:23:06 → 00:23:08 ขึ้นนะครับพอกินขมิ้นชันไปแล้วการกิน
00:23:08 → 00:23:11 ขมิ้นชันไปเรื่อยๆเนี่ยจะดีหรือเปล่าครับ
00:23:11 → 00:23:12 คุณ
00:23:12 → 00:23:16 หมอโอเคครับก็คืออันที่ 1 คือถ้าเราไปไป
00:23:16 → 00:23:19 ส่องกล้องแล้ว 1 เราส่องกล้องทางเดิน
00:23:19 → 00:23:21 อาหารส่วนบนคือหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำ
00:23:21 → 00:23:24 ไก้เล็กส่วนต้นไม่มีมะเร็งหลอดอาหารไม่มี
00:23:24 → 00:23:27 มะเร็งกระเพาะไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
00:23:27 → 00:23:30 ในกระเพาะไม่มีแผลในกระเพะเาะเนี่ยอ่าเ
00:23:30 → 00:23:32 เรียกว่าเป็นภาวะกระเพาะอาหารอักเสบแบบ
00:23:32 → 00:23:36 แบบภาวะมีภาวะกรดหลั่งหลั่งไวกับคนอื่น 20
00:23:36 → 00:23:40 - 2% เพราะฉะนั้นแล้วภาวะกรดหลั่งไว
00:23:40 → 00:23:43 กว่าคนอื่นมีปัจจัยกระตุ้นอะไรบ้างจริงๆ
00:23:43 → 00:23:46 แล้วในระบบทางเดินอาหารของเราเนี่ยจริงๆ
00:23:46 → 00:23:49 แล้วสมองเราเนี่ยจะมีเส้นประสาทสารสื่อ
00:23:49 → 00:23:52 ประสาทที่เชื่อมต่ออัตโนมัติเชื่อมต่อ
00:23:52 → 00:23:54 ระหว่างหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็กลำ
00:23:54 → 00:23:58 ไส้ใหญ่ครับครับบางครั้งเนี่ยเวลาเราจะ
00:23:58 → 00:24:01 เวลาที่เรามีเรื่องเครียดฝนตกรถติดน้ำ
00:24:01 → 00:24:04 ท่วมหรือเครียดเรื่องงานหรือพีเซนงานอะไร
00:24:04 → 00:24:07 ก็ตามเนี่ยบางคนไม่ปวดหัวไมเกรนบางคน
00:24:07 → 00:24:09 เนี่ยปวดท้องกระเพาะนะครับเพราะฉะนั้น
00:24:09 → 00:24:11 แล้วเนี่ยเวลาที่เรามีเรื่องเครียนเนี่ย
00:24:11 → 00:24:14 เส้นประสาทจากสมองก็จะมามาสั่งการให้
00:24:14 → 00:24:17 กระเพาะเราเนี่ยหลั่งกรดอัตโนมัติท้องอืด
00:24:17 → 00:24:20 อัตโนมัติหรือว่าแม้กระทั่งไปกระตุ้นทาง
00:24:20 → 00:24:24 ลำไส้บางคนพอเวลาจะพรีเซนงานหรือว่าจะจะ
00:24:24 → 00:24:27 ทำงานอะไรที่แบบเร่งีบเนี่ยเข้าห้องน้ำ
00:24:27 → 00:24:29 เลยบางทีบอกว่ากวดท้องห้องน้ำเลยเเรียก
00:24:29 → 00:24:33 ว่าภาวะเ่าลำไส้แปรปรวนเพราะฉะนั้นเพราะ
00:24:33 → 00:24:35 ฉะนั้นภาวะตรงเนี้เนี่ยไม่ได้เพิ่มความ
00:24:35 → 00:24:38 เสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลอดอาหารมะเร็ง
00:24:38 → 00:24:41 กระเพาะมะเร็งลำไส้เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อ
00:24:41 → 00:24:44 ส่องกล้องไปแล้วเนี่ยไม่ได้เจออะไรที่ผิด
00:24:44 → 00:24:47 ปกติในระบบตรงที่ผมกล่าวมาเนี่ยเพราะ
00:24:47 → 00:24:50 ฉะนั้นแล้วเราอาจจะต้องปรับปรับเรื่อง
00:24:50 → 00:24:54 ไลฟ์สไตล์หนึผมก็เคี้ยว1ึเคี้ยวละเอียดก็
00:24:54 → 00:24:59 เ่อ 25-30 ครั้งต่อ 1 คำทานข้าวตรงเวลา
00:24:59 → 00:25:03 ถ้าเป็นไปได้พยายามทานข้าวเสร็จแล้วอย่า
00:25:03 → 00:25:07 เพิ่งนอน 3 ชมงขี่ก็คือ 3 ช่มเพราะฉะนั้น
00:25:07 → 00:25:10 ถ้าเรานอนกินเสร็จแล้วนอนเนี่ยก็จะจะทำ
00:25:10 → 00:25:13 ให้ท้องอืดแน่นท้องกดไหลย้อนมากขึ้นครับอ
00:25:13 → 00:25:17 คำถามคือเอย่างที่คุณโอ๊คบอกบอกว่าโอเค
00:25:17 → 00:25:20 กินกินนมแล้วท้องอืดก็ต้องดูว่าเรากิน
00:25:20 → 00:25:24 อะไรแล้วท้องอืดมากขึ้นอโดยเฉพาะอาหารแปร
00:25:24 → 00:25:27 รูปทั้งหลายขนมปังขนมแก้งเบเคอรี่หรือว่า
00:25:27 → 00:25:30 พวกชาชานมไข่มุกเราต้องสังเกตว่าอาหารพวก
00:25:30 → 00:25:33 เนี้ยเป็นน้ำตาลเมื่อน้ำตาลเนี่ยไปสู่
00:25:33 → 00:25:35 ร่างกายแล้วเราเป็นกรดร่างกายเราจะทำงาน
00:25:35 → 00:25:38 หนักขึ้นกระเพาะเราจะทำงานหนักขึ้นก็ลอง
00:25:38 → 00:25:41 สังเกตดูว่าเรากินอาหารแปรรูปแล้วเป็นมาก
00:25:41 → 00:25:45 ขึ้นมั้ยกินขนมปังขนมเค้กเบเกอรี่หรือแม้
00:25:45 → 00:25:48 กระทั่งกินแกงกะทิเยอะๆแล้วระบบในลำไส้
00:25:48 → 00:25:51 เราทำงานหนักขึ้นหรือเปล่านะครับอส่วนอัน
00:25:51 → 00:25:54 ถัดไปคือถ้าเราหากระเพาะลำไส้แล้วไม่เจอ
00:25:54 → 00:25:57 อะไรอาจจะอัลต้าซาวหรือ xray คอมพิวเตอร์
00:25:57 → 00:25:59 ขึ้นอยู่กับดุนนิดของคุณหมอถ้าเราเช็ค
00:26:00 → 00:26:03 เพราะว่าจะมีบางโรคที่อ่ามาด้วยท้องอืดๆ
00:26:03 → 00:26:07 แล้วน้ำหนักตัวลดคีย์สำคัญคือทานยาแล้ว
00:26:07 → 00:26:10 ไม่ดีขึ้นแล้วน้ำหนักตัวลดนะครับเพราะ
00:26:10 → 00:26:14 ฉะนั้นแล้วจะมีโรคนึงก็คือบางทีโรคเนี้ย
00:26:14 → 00:26:17 เวลาก็จะเหมือนยาดำของหมอทางเดือนอาหาร
00:26:17 → 00:26:20 ทั้งหลายก็คือเป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อนอื
00:26:20 → 00:26:23 เพราะว่าตับอ่อนเราอ่ะจะอยู่ด้านหลังตับ
00:26:23 → 00:26:25 อ่อนเขาไม่อยากให้ใครไปยุ่งเพราะฉะนั้น
00:26:25 → 00:26:27 เวลาอาการของตับอ่อนเนี่ยเวลามาถึงจะ
00:26:27 → 00:26:30 คล้ายๆอาการของมะเร็งกระเพาะเลยเวลามาถึง
00:26:30 → 00:26:33 อาการก็จะแบบมักจะเจอในระยะท้ายๆเพราะ
00:26:33 → 00:26:35 ฉะนั้นแล้วอาการของมะเร็งตับอ่อนก็ต้อง
00:26:35 → 00:26:38 เฝ้าระวังตรงนี้ด้วยเพราะจะมาด้วยท้องอืด
00:26:38 → 00:26:42 ถายเป็นมันปวดท้อง้าทะลุไปหลังแบบที่ตอน
00:26:42 → 00:26:46 นั้นใครเคยเป็นออเอ่อคุณสีฟจ๊อบอ่ะครับ
00:26:46 → 00:26:48 ตอนนั้นก็เป็นมะเร็งตับอ่อนตครับก็เลย
00:26:48 → 00:26:51 แล้วแล้วตัวโรคของมะเร็งตับอ่อนเนี่ยจะมี
00:26:51 → 00:26:55 การดำเนินโรคที่ค่อนข้างรวดเร็วนะครับผมอ
00:26:55 → 00:26:58 ก็ต้องสังเกตใช่เช็คอาการให้ชัดคว่าอะไร
00:26:58 → 00:27:02 กันแน่ส่วนคำถามคือเอขอโทษครับส่วนคำถาม
00:27:02 → 00:27:05 คือขมิ้นชันก็คือขมิ้นชันเนี่ยก็คือเป็น
00:27:05 → 00:27:08 เหมือนมีการเค้าเรียก 1 ขมิ้นชันก็เป็น
00:27:08 → 00:27:12 ตัวที่ช่วยทำให้เราแก้ท้องอืดขับลมได้คำ
00:27:12 → 00:27:15 แนะนำของผมก็คือ 1 ถ้าเราเราทราบสาเหตุ
00:27:16 → 00:27:20 เราแก้อ่าไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันเราได้
00:27:20 → 00:27:23 ถ้าอาการดีขึ้นขมิ้นชันเราก็ค่อยๆถอยไป
00:27:23 → 00:27:26 ได้ก็คือค่อยๆลดลงได้อะไรที่เราทานเป็น
00:27:26 → 00:27:30 ระยะเวลานานๆเนี่ยมันก็มาถึงปับเราก็ต้อง
00:27:30 → 00:27:33 ทำงานมากขึ้นนะครับอือหือค่ะแต่แต่ก็สอด
00:27:33 → 00:27:36 คล้องกับที่คุณหมอบอกนะท่านผู้ฟังที่ที่
00:27:36 → 00:27:38 ถามมาเนี่ยคือเขาอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ
00:27:38 → 00:27:42 ไงอยู่ที่อเมริกาก็อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยว
00:27:42 → 00:27:47 กับอาหารขนมปังที่ทางยุโรปอเมริกาเขากิน
00:27:47 → 00:27:51 บริโภคกันอาหารแปรรูปเออแปรูอะไรอย่างงี้
00:27:51 → 00:27:54 นะอาจจะมีไส้กรอกขนมปก็ต้องสังเกตว่าเรา
00:27:54 → 00:27:58 กินอะไรไปแล้วมีผลต่อเราเลยมีผลให้เรา
00:27:58 → 00:28:00 เกิดอาการท้องอืดได้บ่อยๆนั่นแหละอาจจะ
00:28:00 → 00:28:03 เป็นสาเหตุนั้นแล้วก็จริงๆก็คือปปรึกษา
00:28:03 → 00:28:05 แพทย์อีกครั้งอีกครั้งหนึ่งอีกขั้นหนึ่ง
00:28:05 → 00:28:08 นะใช่ค่ะคุณหมอคะขอย้อนไปที่สาเหตุเมื่อ
00:28:08 → 00:28:11 สักครู่คุณหมอบอกว่าเพศชายมีโอกาสเป็น
00:28:11 → 00:28:14 มะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่าเพศหญิงอันนี้
00:28:14 → 00:28:17 มันมีเอ่อตัวบ่งิอะไรมั้ยคะว่าทำไมผู้ชาย
00:28:17 → 00:28:21 ถึงเสี่ยงกว่าผู้หญิงอ่ะคะครับผมก็จริงๆ
00:28:21 → 00:28:24 แล้วสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ
00:28:24 → 00:28:28 เนี่ยอันที่หลักๆก็คือการติดติดเชื้อแบบ
00:28:28 → 00:28:30 แบคทีเรียในกระเพาะนะครับอันถัดไปก็คือ
00:28:30 → 00:28:36 อ่าเนื่องจากผู้ชายเราผู้ชายจะมีอัตราการ
00:28:36 → 00:28:40 สูบบุหรี่แล้วก็ดื่มแอลกอฮอล์ที่มากกว่า
00:28:40 → 00:28:43 ผู้หญิงซึ่งอันนี้ก็อาจจะเป็นปัจจัยนึง
00:28:43 → 00:28:46 ซึ่งตัวที่พิสูจน์แล้วก็คือการสูบบุหรี่
00:28:46 → 00:28:48 เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะ
00:28:48 → 00:28:52 อาหารนะครับส่วนการดื่มแอลกอฮอล์เาใช้คำ
00:28:52 → 00:28:54 ว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง
00:28:55 → 00:28:57 กระเพาะอาหารได้ซึ่งตรงนี้เนี่ยอาจจะเป็น
00:28:57 → 00:29:00 ตัวตัวตัวที่อาจจะช่วยพอบอกได้ว่าผู้ชาย
00:29:00 → 00:29:03 เราอาจจะเป็นมากกว่าผู้หญิงนะครับผมอื
00:29:03 → 00:29:05 ใกล้ปีใหม่แล้วก็ระวังเนาะก็ต้องระวังนั
00:29:05 → 00:29:08 แหละยิ่งอายุเยอะๆด้วยนะโอกาสเกิดโรคต่าง
00:29:08 → 00:29:12 ๆก็ตามมาใช่มั้ยคุณหันไปทางอื่นอายุเยอะ
00:29:12 → 00:29:16 ๆเออนะครับเอ่อเรื่องอาหารการกินผมสงสัย
00:29:16 → 00:29:19 เออที่ก่อนหน้านี้คุณหมอบอกว่าการกิน
00:29:19 → 00:29:21 อย่างอาหารพวกอะไรนะหอยนางรมอ่ะค่ะครับผม
00:29:21 → 00:29:25 เออแบคทีเรียพวกนี้มันอาศัยอยู่ในน้ำกับ
00:29:25 → 00:29:29 ดินน้ำกับอ๋อโดยหอยอารมมันอยู่ในน้ำตื้น
00:29:29 → 00:29:33 ใช่มั้ยน้ำกับดินใช่น้ำกับดินก็คือถ้าถ้า
00:29:33 → 00:29:37 เราคิดว่ายกคือเรื่องผักสดไม่ได้ห้ามไม่
00:29:37 → 00:29:40 ให้กินแต่ว่าผักสดถ้าเราจะเอามาทานเนี่ย
00:29:40 → 00:29:44 เราก็คือต้องผ่านปราผ่านผ่านการละอ่าเค้า
00:29:44 → 00:29:46 เรียกว่าทำความสะอาดที่ซึ่งมีวิธีหลาย
00:29:46 → 00:29:49 วิธีทั้งล้างน้ำใช้น้ำยาหรือหลายๆอย่าง
00:29:49 → 00:29:51 เนี่ยผมคิดว่าเชื้อตัวเนี้แค่เราเอาเอา
00:29:51 → 00:29:54 น้ำที่ไม่สะอาดเอาดินที่ติดอยู่ออกตรงเย
00:29:54 → 00:29:56 เชื้อตัวนี้ก็ตายละไม่ไม่ไม่ต้องเพิ่ม
00:29:56 → 00:30:00 ระดับความเข้มข้นอะไรมากขนาดนั้นครับผม
00:30:00 → 00:30:05 ค่ะอ๋ออ่าๆค่ะเมื่อแล้วก็ต้องทำอาหารพวก
00:30:05 → 00:30:09 เนี้ยคือแบคทีเรียพวกเนี้ยมันมันสามารถ
00:30:09 → 00:30:11 ที่จะลดปริมาณหรือว่าตายลงได้จากการทำให้
00:30:11 → 00:30:15 ปรุงสุกใช่ครับผมได้ใช่มั้อ๋อก็แสดงว่า
00:30:15 → 00:30:18 รับประทานอาหารที่สุกแล้วก็ปรุงใหม่เนี่ย
00:30:18 → 00:30:21 ปลอดภัยปลอดภัยที่สุดนะคะปลอดภัยที่สุด
00:30:21 → 00:30:24 ใช่ค่ะแล้วก็อันอันถัดไปนะครับก็คือเอ่อ
00:30:24 → 00:30:28 เชื้อแบคทีเรียตัวเนี้ยคำถามคือเราเรา
00:30:28 → 00:30:31 อยากเราอยากตรวจได้มยวิธีการตรวจเนี่ยเรา
00:30:31 → 00:30:34 มีทั้งบางคนบอกหมอเราอยากตรวจแต่ว่าไม่
00:30:34 → 00:30:37 อยากส่องกล้องมีวิธีตรวจได้มเราก็มีวิธี
00:30:37 → 00:30:40 การตรวจได้ก็คือเราอาจจะไปโรงพยาบาลใกล้
00:30:40 → 00:30:43 บ้านว่า 1 อาจจะักสะดวกก็คืออาจจะเก็บ
00:30:43 → 00:30:46 อุจจระไปตรวจอ๋อขอบอกว่าขอตรวจดูเชื้อ
00:30:46 → 00:30:52 แบคทีเรียในกระเพาะหรือไปตามคลินิกหรือ
00:30:52 → 00:30:55 โรงพยาบาลบอกว่าโอเคเราขอเป่าลมหายใจเรา
00:30:55 → 00:30:58 แค่งดน้ำงดอาหารไปแล้วก็อาจจะหยุดยาฆ่า
00:30:58 → 00:31:00 เชื้อประมาณ 4 สัปดาห์หยุดยาลดกรด 2
00:31:00 → 00:31:03 สัปดาห์แล้วก็ไปเป่าลมหายใจเป่าลมหายใจ
00:31:03 → 00:31:06 ทางปากเพื่อเพราะว่าการเป่าลมหายใจมันจะ
00:31:06 → 00:31:09 สามารถดูเชื้อตัวนี้ได้นะครับผมเาเรียก
00:31:09 → 00:31:11 ว่าเป็นการเป่าลมหายใจเพื่อตรวจดูเชื้อ
00:31:11 → 00:31:14 แบคทีเรียในกระเพาะเป่าเสร็จรู้ผลเลยถ้า
00:31:14 → 00:31:17 เรารู้ผลเลยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียใน
00:31:17 → 00:31:20 กระเพาะเราก็สามารถทานยาฆ่าเชื้อได้โดย
00:31:20 → 00:31:23 ตามคำแนะนำของแพทย์โดยทั่วไปการกินยาเรา
00:31:23 → 00:31:26 จะกินประมาณ 7-14 วันโอกาสที่จะฆ่าเชื้อ
00:31:26 → 00:31:29 หายในครั้งแรกๆเนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 80
00:31:29 → 00:31:33 -95 เนะครับผมค่ะอืก็แสดงว่าถ้าปวดท้อง
00:31:33 → 00:31:36 นี่ไม่ควรนิ่งนอนใจนะเนาะอ่าใช่เออโดย
00:31:36 → 00:31:39 เฉพาะการเป็นบ่อยๆเออความเป็นบ่อยอ่ะท้อง
00:31:39 → 00:31:42 อืบบ่อยบ่อยขนาดไหนขยังไงว่าบ่อยเออยังไง
00:31:42 → 00:31:44 อ่ะเดือนนึงคือคือคำว่าท้องอืดบ่อยเนี่ย
00:31:44 → 00:31:47 เราคงต้องดูเป็นเค้าเรียกว่าเป็นดูดูอัน
00:31:47 → 00:31:49 ที่ 1 เราต้องดูว่า 1 มีปัจจัยเค้าเรียก
00:31:50 → 00:31:52 ว่ามีตัวกระตุ้นมั้ยยกตัวอย่างเช่นช่วง
00:31:52 → 00:31:55 ช่วงนี้กินเผ็ดมากเลยแล้วเราพอเราทานยา
00:31:55 → 00:31:58 เสร็จปุ๊บหายหายแบบหายสนิทเลยนะครับค่ะ
00:31:58 → 00:32:01 สนิทแบบไม่มีอาการเลยแล้วก็อีก 2 เดือนมา
00:32:01 → 00:32:04 ก็ต้องดูว่ามีอะไรกระตุ้นมยถ้าถ้ามีอะไร
00:32:04 → 00:32:08 กระตุ้นที่ชัดเจนก็เราก็หาอาการหายปกติดี
00:32:08 → 00:32:10 เนี่ยสำหรับผมผมคิดว่าอันเนี้ยเราก็ต้อง
00:32:10 → 00:32:13 ไปดูเป็นแล้วร่วมกับดูว่าเราไม่มีอาการธง
00:32:13 → 00:32:16 เตือนว่าเป็นยังไงบ้างนะครับผมแต่ถ้าเรา
00:32:16 → 00:32:19 รู้สึกว่าโอเคหมอแบบเรารู้สึกว่าไอ้เนี่ย
00:32:19 → 00:32:21 มันเป็นบ่อยแบบเราไม่เคยเป็นเลยนะผมมอง
00:32:21 → 00:32:23 ว่าการที่เราจะเข้าไปเช็คข้างในโดยการ
00:32:23 → 00:32:27 ส่องกล้องก็ก็ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะครับ
00:32:27 → 00:32:30 ผมก็เข้าไปเชดจะได้แบบสบายใจพอเราเช็คไป
00:32:30 → 00:32:33 แล้วเนี่ยสมมติเราส่องกล้องไปแล้วของ
00:32:33 → 00:32:37 กระเพาะใสเคลียรลำไส้ใสเคลียร์ไม่ได้มี
00:32:37 → 00:32:39 ประเด็นอะไรเลยแบบคุณหมอบอกโอเคเลยเรา
00:32:40 → 00:32:42 สบายใจได้อีกอย่างน้อยประมาณ 3-5 ปีเขา
00:32:42 → 00:32:45 เรียกว่าความสบายใจในเรื่องการคัดกรอง
00:32:45 → 00:32:47 มะเร็งกระเพาะมะเร็งลำไส้เนี่ยจะอยู่ที่
00:32:47 → 00:32:51 ประมาณ 3-5 ปีอืแต่ประเด็นก็คือเอ่อใน
00:32:51 → 00:32:54 บ้านเราหรือว่าในทั่วโลกอาจจะยกเว้น
00:32:54 → 00:32:57 ญี่ปุ่นเนี่ยการตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะ
00:32:57 → 00:32:59 ยังไม่เป็นเป็นที่แพร่หลายเพราะฉะนั้น
00:32:59 → 00:33:02 แล้วส่วนการตรวจลำไส้ใหญ่เราอ่ะจะมีการ
00:33:02 → 00:33:05 ส่องกล้องเมื่อตอนอายุ 45 ปีแต่มะเร็ง
00:33:05 → 00:33:07 กระเพาะเนี่ยเราจะไม่มีตัวคัดกรองที่บอก
00:33:07 → 00:33:09 ว่าอายุเท่านี้ควรจะต้องส่องกล้องเพราะ
00:33:09 → 00:33:12 ฉะนั้นแล้วเนี่ยอ่าอาการของมะเร็งกระเพาะ
00:33:12 → 00:33:15 เนี่ยเวลาที่คนไข้มาเนี่ยมักจะเป็นระยะ
00:33:15 → 00:33:18 ระยะ 3 ระยะ 4 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยมันก็
00:33:18 → 00:33:22 คงต้องดูจากอาการไปแล้วก็อ่าดูธงเตือนตรง
00:33:22 → 00:33:25 นั้นด้วยแล้วก็ถ้าถ้าคิดว่าเราไม่สบายใจ
00:33:25 → 00:33:28 เราปรึกษาแพทย์ว่าโอเคเราอยากจะส่องกล้อง
00:33:28 → 00:33:33 ทางเดินอาหารส่วนบนได้เลยครับผมอือค่ะโอ
00:33:33 → 00:33:36 ถ้าเป็นแบบนี้นี่คืออ่ะโอเคเราสองกล้องละ
00:33:36 → 00:33:39 แล้วคุณหมอตัดชิ้นเนื้อเราไปละผลตรวจออก
00:33:39 → 00:33:43 มาละมันเป็นอ่ะวิธีการรักษามีแบบไหนบ้าง
00:33:43 → 00:33:46 คะคุณหมอโอเคครับวิธีการรักษาเราก็คือคง
00:33:46 → 00:33:50 ต้องดูก่อนว่าเราสามารถที่จะผ่าผ่าตัด
00:33:50 → 00:33:52 สมมุติว่าตรวจชิ้นเนื้อไปแล้วก็ครับเป็น
00:33:52 → 00:33:55 มะเร็งค่ะพอเป็นมะเร็งเสร็จเราก็ต้องดู
00:33:55 → 00:33:59 ว่ามะเร็งตรงเนี้ยเป็นระยะไหนระยะระยะ 1
00:33:59 → 00:34:02 ระยะ 2 ระยะ 3 ระยะ 4 นะครับผมถ้าเป็น
00:34:02 → 00:34:06 มะเร็งระยะระยะที่ผ่าตัดได้เป็นระยะเริ่ม
00:34:06 → 00:34:10 ๆแรกผ่าตัดได้เนี่ยเราก็จะใช้เป็นวิธีการ
00:34:10 → 00:34:12 ถ้ามันเป็นเนื้อมะเร็งเนื้อเยื่อมะเร็ง
00:34:12 → 00:34:15 ที่อยู่ตรงผิวๆเลยนะฮะผิวๆแบบยังไม่ได้ลง
00:34:15 → 00:34:18 มันไม่ได้ลงไปถึงตรงต่อมน้ำเหลืองหรือลง
00:34:18 → 00:34:20 ชั้นลึกกว่านั้นเนี่ยบางทีเราใช้วิธีการ
00:34:20 → 00:34:22 ส่องกล้องทางเดินอาหารเนี่ยแล้วก็ค่อยๆ
00:34:23 → 00:34:25 เลาะเนื้อเยื่อตรงนั้นได้เลยไม่มีแผลเลย
00:34:26 → 00:34:28 นะครับอันที่ 1 นะครับคือการการส่องกล้อง
00:34:28 → 00:34:31 แล้วก็ตัดเนื้อเยื่อตรงที่บริเวณผิวๆไปนะ
00:34:31 → 00:34:37 ครับอันที่ 2 ก็คือในกรณีที่ผ่าตัดได้อาจ
00:34:37 → 00:34:40 จะมีก้อนตำแหน่งเดียวไปต่อมน้ำเหลืองไม่
00:34:40 → 00:34:42 เยอะเราก็ใช้เป็นวิธีผ่าตัดผ่าตัดก็คือ
00:34:42 → 00:34:46 ผ่าตัดกระเพาะอาจจะผ่าตัดกระเพาะบางส่วน
00:34:46 → 00:34:49 หรืออาจจะผ่าตัดกระเพาะทั้งหมดเลยแล้วก็
00:34:49 → 00:34:52 อาจจะมีการให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วยนะครับ
00:34:52 → 00:34:56 ค่ะอืแล้วก็อาจจะมียาพุ่งเป้าหรือเป็นยา
00:34:56 → 00:34:59 เกี่ยวกับภูมิต้านทานช่วยในร่างกายส่วนใน
00:34:59 → 00:35:02 กรณีที่เป็นระยะ 3 ระยะ 4 การรักษาเราก็
00:35:02 → 00:35:06 คงต้องดูว่าคนไข้มีความแข็งแรงมีความฟิต
00:35:07 → 00:35:11 พอที่จะผัดผ่าตัดเคมีบำบัดได้มเพราะว่า
00:35:11 → 00:35:16 บางคนอ่าความแข็งแรงไม่พอไม่ไหวที่จะทำ
00:35:16 → 00:35:19 การผ่าตัดนะครับผมคำว่าแข็งแรงพอก็คือ
00:35:19 → 00:35:22 จริงๆแล้วอย่างน้อยต้องแบบพอช่วยเหลือตัว
00:35:22 → 00:35:25 เองได้บ้างอันเนี้ยถือว่าโอกาสที่จะประสบ
00:35:25 → 00:35:27 ความสำเร็จในการผ่าตัดก็จะมีได้นะครับ
00:35:27 → 00:35:33 ครับผมค่ะอือืสงสัยนิดนึงคุณหมอว่าการผ่า
00:35:33 → 00:35:36 ตัดกระเพาะเนื่องจากตัวมะเร็งกระเพาะ
00:35:36 → 00:35:39 อาหารกับการผ่าตัดกระเพาะเพื่อควบคุมน้ำ
00:35:39 → 00:35:42 หนักในคนที่มีภาวะอ้วนเนี่ยมันต่างกัน
00:35:42 → 00:35:47 มั้ยคะครับคือการการผ่าตัดการผ่าตัดของ
00:35:47 → 00:35:50 ของการผ่าตัดของมะเร็งเนี่ยเราก็จะผ่าตัด
00:35:50 → 00:35:54 ในเราทำยังไงก็ได้ที่เราจะผ่าตัดให้เวลา
00:35:54 → 00:35:56 เราผ่าตัดคือเราต้องการให้เราหายให้เรา
00:35:57 → 00:35:59 เคียวเพราะฉะนั้นแล้วการผ่าตัดก็ต้องเข้า
00:35:59 → 00:36:03 ไปเปิดซึ่งการผ่าตัดของมะเร็งกระเพาะ
00:36:03 → 00:36:06 อาหารสามารถผ่าตัดได้ทั้งผ่าตัดเปิดหน้า
00:36:06 → 00:36:09 ท้องหรือผ่าตัดโดยการเจาะรูหน้าท้อง 2
00:36:09 → 00:36:13 กล้องซึ่งปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของของของ
00:36:13 → 00:36:15 บ้านเราเนี่ยการผ่าตัด 2 กล้องเนี่ยก็ได้
00:36:15 → 00:36:19 รับความนิยมแล้วก็ก็แพร่หลายมากขึ้นนะ
00:36:19 → 00:36:23 ครับผมซึ่งเอ่อการผ่าตัดตรงนี้เราต้องการ
00:36:23 → 00:36:26 ที่จะให้โรคหายแล้วก็ดูว่าไม่ได้ไป
00:36:26 → 00:36:30 ตำแหน่งอื่นคือไปตัวที่อ่าต่อมน้ำเหลือง
00:36:30 → 00:36:32 หรือเปล่าหรือไปที่เนื้อเยื่อข้างเคียงมย
00:36:32 → 00:36:35 ส่วนการผ่าตัดกระเพาะก็คือเราทำยังไงก็
00:36:35 → 00:36:37 ให้กระเพาะเราเหมือนเย็บกระเพาะให้
00:36:37 → 00:36:41 กระเพาะเราเคย 100% อาจจะทำให้กระเพาะเรา
00:36:41 → 00:36:44 เหลือสประมาณ 60 70% แล้วก็จะทำให้เราพอ
00:36:44 → 00:36:46 กระเพาะที่เล็กลงพออาหารเข้าไปเราก็จะ
00:36:47 → 00:36:49 อิ่มพออาหารเราอิ่มเสร็จแล้วปุ๊บเราก็ไม่
00:36:49 → 00:36:53 อยากกินร่างกายเราก็เหมือนจะปรับสมดุลของ
00:36:53 → 00:36:55 ร่างกายเราใหม่ก็จะทำให้น้ำหนักตัวเราลด
00:36:55 → 00:36:58 ได้ซึ่งบางครั้งการผ่าตัดกระเพาะเนี่ย
00:36:58 → 00:37:00 ในบางเคสก็ปีนึงอาจจะลดได้ประมาณบางคนก็
00:37:00 → 00:37:05 20-30 กลได้เลยนะครับอืเอออย่างงี้ก็ก็
00:37:05 → 00:37:07 ก็คือเป็นตัวช่วยนึงนะแต่มันไม่ใช่ตัว
00:37:07 → 00:37:10 ช่วยที่ดีที่สุดใช่มั้ยก็ก็เดี๋ยวนี้
00:37:10 → 00:37:13 ปัจจุบันเนี่ยเ่อการผ่าตัดกระเพาะที่ทำ
00:37:13 → 00:37:17 ให้กระเพาะเล็กลงเนี่ยก็ได้รับความความ
00:37:17 → 00:37:19 แพ่ไลลายมากขึ้นแต่ว่าทุกอย่างเนี่ยต้อง
00:37:19 → 00:37:23 อยู่ในดุลดุลพนิของแพทย์เพราะว่าคนที่มี
00:37:23 → 00:37:25 น้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์ก็จะมีความเสี่ยง
00:37:25 → 00:37:28 เกี่ยวกับเรื่องเบาหวานความดำหรือว่ามี
00:37:28 → 00:37:30 ความเสี่ยงในการส่องในการผ่าตัดเพราะ
00:37:30 → 00:37:33 ฉะนั้นแล้วเนี่ยเราก็จะมีทีมตั้งแต่คุณ
00:37:33 → 00:37:36 หมอทางด้านโภชนาการคุณหมอเบาหวานคุณหมอ
00:37:36 → 00:37:39 หัวใจคุณหมอผ่าตัดและคุณหมอที่ดูแลตรง
00:37:39 → 00:37:42 นั้นซึ่งซึ่งในกรณีที่คุณหมอลงความเห็น
00:37:42 → 00:37:45 แล้วว่าโอเคถ้าเราลนน้ำหนักในคนไข้รายนี้
00:37:45 → 00:37:48 ได้จะทำให้โรคต่างๆของคนไข้ดีขึ้นโดยที่
00:37:48 → 00:37:51 ความเสี่ยงไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นที่เกิดจาก
00:37:51 → 00:37:56 การาตัดครับผมอนะครับก็ือว่ามันก็เป็นทาง
00:37:56 → 00:38:01 เลือกหนึในการที่จะรักษานะครับเอ่อแต่ว่า
00:38:01 → 00:38:05 มันมันก็มันก็ต้องพิจารณาหลายๆอย่างอย่าง
00:38:05 → 00:38:07 ที่คุณหมอบอกนะทั้งเรื่องของความพร้อม
00:38:07 → 00:38:10 เรื่องของเรื่องของเอ่ออาการที่ปรากฏออก
00:38:10 → 00:38:14 มาว่าจะเป็นอย่างไรบ้างคุณหมอบอกว่าตัว
00:38:14 → 00:38:17 มะเร็งกระเพาะอาหารเนี่ยมักเจอในระยะท้าย
00:38:17 → 00:38:20 ๆวิธีการรักษาตัวมะเร็งกระเพาะอาหารใน
00:38:20 → 00:38:23 ระยะท้ายๆก็คือคุณหมอบอกว่าต้องดูว่าร่าง
00:38:23 → 00:38:26 กายของคนคนไข้เนี่ยแข็งแรงพอหรือเปล่าแต่
00:38:26 → 00:38:30 ถ้าเไม่แข็งแรงพอเราต้องรักษาแบบประคับ
00:38:30 → 00:38:35 ประคองเท่านั้นหรือเปล่าคะคือในกรณีที่ใน
00:38:35 → 00:38:38 กรณีที่ทางทีมแพทย์เราหลงความเห็นแล้วว่า
00:38:38 → 00:38:42 โอเคในการการรักษาด้วยการรักษาดยการผ่า
00:38:42 → 00:38:45 ตัดเคมีบำบัดสายแสงยังไม่มีความพร้อมณ
00:38:45 → 00:38:49 เวลานี้ค่ะเนื่องจากคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
00:38:49 → 00:38:52 กระเพาะอาหารน้ำหนักตัวมักจะลดเยอะเพราะ
00:38:52 → 00:38:56 ว่ากินไม่ได้ซึ่งคำถามคือเราก็จะมีวิธี
00:38:56 → 00:38:59 ที่จะช่วยให้คนไข้เนี่ยสามารถที่จะกิน
00:38:59 → 00:39:03 อาหารได้อาจจะมีการบางในบางเคสอาจจะมีการ
00:39:03 → 00:39:07 ใส่สายยางทางจมูกแล้วก็เข้าไปทางจมูกแล้ว
00:39:07 → 00:39:09 ก็ลงไปที่หลอดอาหารอาจจะลงไปถึงลำไส้เล็ก
00:39:09 → 00:39:13 ส่วนต้นเพื่อให้อาหารเข้าไปสู่ในร่างกาย
00:39:13 → 00:39:17 เราเพื่อฟื้นฟูร่างกายเราค่ะหรือคนไข้ที่
00:39:17 → 00:39:19 เป็นมะเร็งกระเพาะเราก็คงต้องดูว่าปัจจัย
00:39:19 → 00:39:25 อื่นๆมีมเช่นปัจจัยบางคนกินเค็มเยอะกิน
00:39:25 → 00:39:28 เค็มเยอะก็อาจจะเป็นปัใจเสี่ยงในการเกิด
00:39:28 → 00:39:32 มะเร็งกระเพาะได้การกินอาหารแปรรูปที่มี
00:39:32 → 00:39:36 ส่วนผสมของไนเตรตหรือว่าไนโตรซามีนก็จะมี
00:39:36 → 00:39:39 ปัจจัยเสี่ยงตรงนั้นได้นะครับการที่เรา
00:39:39 → 00:39:42 ทานพวกเนื้อสัตว์เนื้อแดงเยอะก็มีโอกาส
00:39:42 → 00:39:44 เกิดปัจจัยเสี่ยงตรงนั้นได้เพราะฉะนั้น
00:39:44 → 00:39:47 แล้วเนี่ยเมื่อคนไข้ที่เป็นมะเร็งกระเพาะ
00:39:47 → 00:39:51 อาหารก็คุณต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
00:39:51 → 00:39:55 แพทย์ก็แพทย์และทีมโภชนาการเราก็จะมีการ
00:39:55 → 00:39:58 ให้การคำแนะนำเรื่องอาหารซึ่ง
00:39:58 → 00:40:02 จริงๆแล้วถ้าเราเราลดได้คือ1ึเราลดน้ำตาล
00:40:02 → 00:40:06 ถ้าเรากินหนาน้ำตาลหรือว่าการที่กินน้ำ
00:40:06 → 00:40:08 ตาลน้ำตาลเราเนี่ยมะเร็งเราจะชอบกินน้ำ
00:40:08 → 00:40:11 ตาลอืเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยการลดน้ำตาลที่
00:40:11 → 00:40:16 เป็นน้ำตาลที่เป็นตสำเร็จรูปพยายามกินน้ำ
00:40:16 → 00:40:19 ตาลที่เป็นจากธรรมชาติหรือว่ากินแป้งไม่
00:40:19 → 00:40:22 ขัดสีก็จะช่วยในร่างกายเราได้อโดยทั่วไป
00:40:22 → 00:40:26 ผมก็จะถ้าในกรณีที่เจอคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
00:40:26 → 00:40:28 ผมก็จะให้คำแนะนำว่าพยายามอย่าไปทานน้ำ
00:40:28 → 00:40:31 ตาลเยอะอันที่ 2 กล้ามเนื้อร่างกายเราทุก
00:40:31 → 00:40:34 อย่างก็จะหายไปได้เพราะฉะนั้นเราต้องมี
00:40:34 → 00:40:37 การเสริมกล้ามเนื้อสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
00:40:37 → 00:40:40 เราต้องทานโปรตีนให้เพียงพออโปรตีนที่ได้
00:40:40 → 00:40:43 มีทั้งโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์เรา
00:40:43 → 00:40:47 ต้องมีการทานที่เพียงพอนะครับผมแล้วก็ไข
00:40:47 → 00:40:49 มันไม่ดีทั้งหลายเราก็พยายามหลีกเลี่ยง
00:40:49 → 00:40:52 อาหารแปรรูปทั้งหลายเราก็พยายามหลีก
00:40:52 → 00:40:56 เลี่ยงนะครับผมซึ่งอืซึ่งตรงจุดเนี้ยก็จะ
00:40:56 → 00:40:58 เป็นอาหารยังไงเราก็ต้องทานเพราะงั้นตัว
00:40:58 → 00:41:01 อาหารจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงสมบูรณ์มาก
00:41:01 → 00:41:05 ขึ้นในกรณีที่คนไข้มีความแข็งแรงเพียงพอ
00:41:05 → 00:41:08 หรือยังไม่มีความแข็งแรงมากเราอาจจะให้
00:41:08 → 00:41:11 อาหารทางทางสายน้ำเกลือซึ่งจะอาจจะมีพลัง
00:41:11 → 00:41:15 งานเทียบเท่ากับการกินอาหารอเพื่อคนไข้มี
00:41:15 → 00:41:19 ความฟิตแข็งแรงพอค่าค่าโปรตีนในเลือดดีใน
00:41:19 → 00:41:22 บางเคสเราก็พิจารณาที่ทำการผ่าตัดหรือทำ
00:41:22 → 00:41:26 อย่าืต่อเพิ่มเติมได้นะครับผมออครับครับ
00:41:26 → 00:41:29 อือมันก็ต้องให้ร่างกายของผู้ป่วยเนี่ย
00:41:29 → 00:41:35 แข็งแรงก่อนนะคะครับผมค่ะอืครับมีคุณผู้
00:41:35 → 00:41:39 ฟังสอบถามมันนิดนึงนะครับอีกนิดนึงเอครับ
00:41:39 → 00:41:43 ผมอ่ะเรือนขอความหายไปแล้วอ้อคุณผู้ฟัง
00:41:43 → 00:41:46 ถามว่าคือถ้ามันมีข้อสงสัยเนี่ยมีข้อ
00:41:46 → 00:41:49 สงสัยหรือว่ามีอาการที่เอ่ออย่างที่คุณ
00:41:50 → 00:41:52 หมอกล่าวมามันเข้าเกณฑ์เนี่ยสิ่งแรกที่
00:41:52 → 00:41:56 ควรจะไปก็คือไปไปเช็คกับคุณหมอได้เลยใช่
00:41:56 → 00:41:58 มยว่าไม่ต้องรรอให้ถึงแบบว่าอาการมัน
00:41:58 → 00:42:01 ปรากฏอื่นๆอีกใช่ครับเพราะเพราะฉะนั้น
00:42:01 → 00:42:03 แล้วเนี่ยถ้าถ้าเรารู้สึกว่าเรารับประทาน
00:42:03 → 00:42:07 โดยทั่วไปถ้าเรารับประทานยาไปแบบ 1-2
00:42:07 → 00:42:09 อาทิตย์แล้วไม่ดีขึ้นโดยคุณหมอให้ยาไป
00:42:09 → 00:42:11 เนี่ยคุณหมอก็จะพิจารณาเลยว่าอาการแบบ
00:42:11 → 00:42:14 เนี้ยต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมซึ่งปัจจุบัน
00:42:14 → 00:42:19 นี้เอ่อการตรวจตรงเนี้ยคุณหมอมีแนวโน้ม
00:42:19 → 00:42:23 ที่จะทำเร็วขึ้นทำไวขึ้นนะครับครับแล้วก็
00:42:23 → 00:42:27 อ่าจะมีเค้าเรียกว่าซึ่งการส่องกล้องทาง
00:42:27 → 00:42:30 เนอาหารเนี่ยสามารถทำได้ทั่วน่าจะครบทั่ว
00:42:30 → 00:42:34 ทุกจังหวัดเลยนะครับอครบเลยนะครับผมอืก็
00:42:34 → 00:42:37 คือสามารถที่จะไปตามสถานพยาบาลต่างๆของ
00:42:37 → 00:42:41 แต่ละจังหวัดที่ตัวเองอยู่ได้เลยเรื่อง
00:42:41 → 00:42:44 พวกนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถ้ายิ่งตรวจ
00:42:44 → 00:42:47 เจอเร็วอ่ะถามหน่อยถ้าถ้าเรารักษาด้วย
00:42:47 → 00:42:50 รักษาเจ้ามะเร็งกระเพาะแล้วเนี่ยอัตราการ
00:42:50 → 00:42:53 หายขาดมันมันมันมีเยอะแค่ไหนครับคุณหมอ
00:42:53 → 00:42:58 โอเคครับก็พอพูดถึงว่าอัตราอัตราการเราจะ
00:42:58 → 00:43:02 ใช้คำว่าอัตราการรอดชีวิตสำหรับ 5 ปี
00:43:02 → 00:43:04 สำหรับมะเร็งกระเพาะอาหารเนี่ยมันก็จะมี
00:43:04 → 00:43:08 การแตกต่างกันไปแล้วแต่หลายๆปัจจัยอันที่
00:43:08 → 00:43:11 1 คือระยะของมะเร็งว่าเป็นระยะไหนวิธี
00:43:11 → 00:43:15 การรักษาเป็นอย่างไรสภาพร่างกายแล้วก็
00:43:15 → 00:43:18 สภาพจิตใจของผู้ป่วยเป็นอย่างไรนะครับผม
00:43:18 → 00:43:23 โดยเราจะใช้คำว่าอัตราการรอดชีวิต 5 ปี
00:43:23 → 00:43:26 โดยรวมโดยทั่วไปแล้วเนี่ยอัตราการรอด
00:43:26 → 00:43:29 ชีวิต 5 ปีโดยรวมสำหรับมะเร็งกระเพาะ
00:43:29 → 00:43:32 อาหารทุกระยะเนี่ยระยะ 1 2 3 4 เนี่ย
00:43:32 → 00:43:34 จะอยู่ที่
00:43:34 → 00:43:38 32% ซึ่งหมายความว่า 32% ของผู้ป่วยที่
00:43:38 → 00:43:41 ได้รับการวินิจฉัยว่ามีมะเร็งกระเพาะจะมี
00:43:41 → 00:43:44 ชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 5 ปีหมายถึง 100
00:43:44 → 00:43:48 คน 32 คนจะมีอยู่ได้อย่างน้อย 5 ปีค่ะถ้า
00:43:48 → 00:43:51 เป็นระยะที่ 1 ก็คือยังอยู่แค่ตรงกระเพาะ
00:43:51 → 00:43:54 ยังไม่กระจายไปต่อำน้ำเหลืองเนี่ยอัตรา
00:43:54 → 00:43:59 การรอดชีวิตเนี่ยจะสูง 70 เปอนะครับผมแต่
00:43:59 → 00:44:02 ถ้าเป็นระยะที่ 2 ระยะที่ 3 เนี่ยคือ
00:44:02 → 00:44:04 มะเร็งเนี่ยแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง
00:44:04 → 00:44:07 หรือหรือเนื้อเยื่อใกล้เคียงเนี่ยอากาการ
00:44:07 → 00:44:11 รอดชีวิตจะอยู่ที่ประมาณ 31 -20% ในระยะ
00:44:11 → 00:44:14 ที่ 3 อค่ะแต่ส่วนที่เป็นระยะที่ 4 คือ
00:44:14 → 00:44:17 มะเร็งเนี่ยแพร่กระจายไปอวัยวะอื่นๆเนี่ย
00:44:17 → 00:44:22 เช่นไปที่ตปอดที่ปรับอัตราการรอดชีวิตจะ
00:44:22 → 00:44:25 อยู่เหลือเพียงแค่ 5% นะครับอืถามคือ
00:44:26 → 00:44:29 เมื่อเมื่อเมื่อเป็นระยะที่ 4 เมื่อเป็น
00:44:29 → 00:44:32 ระยะที่คำถามคือในระยะที่ 4 เนี่ยจะอยู่
00:44:32 → 00:44:35 ประมาณ 5% เนี่ยแต่โดยทั่วไปแล้วเนี่ยคน
00:44:35 → 00:44:38 ไข้ที่เป็นมะเร็งระยะรอดชีวิตสำหรับคนที่
00:44:38 → 00:44:40 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 4 จะอยู่
00:44:41 → 00:44:43 ที่ประมาณโดยมากประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีนะ
00:44:43 → 00:44:47 ครับผมอค่ะครับผม 6 เดือนถึง 1 ปี 6
00:44:47 → 00:44:51 เดือนถึง 1 ปีแล้วเขาต้องปฏิบัติตัวยังไง
00:44:51 → 00:44:55 ให้เขาได้อยู่ยาวนานที่สุดค่ะต้องดูแล
00:44:55 → 00:44:57 เอ่อให้ร่างกายแข็งแรงสามารถออกกำลังกาย
00:44:58 → 00:45:03 ได้มั้ยหรือว่าเอ่อต้องมีการให้เอ่อเค้า
00:45:03 → 00:45:05 เรียกอะไรนะกินอาหารอะไรที่เป็นพิเศษหรือ
00:45:05 → 00:45:07 เปล่าคะคุณหมอออโอเคได้ครับผมก็อันนี้
00:45:08 → 00:45:13 เดี๋ยวผมจะขอขอพูดถึงมันจะมี 2 2 คำที่
00:45:13 → 00:45:17 ที่ที่ผมอยากจะกล่าวให้ทราบก็คืออันที่ 1
00:45:17 → 00:45:24 คืออ่อไ span คำว่าไสนคืออายุไขยช่วงเวลา
00:45:24 → 00:45:28 คนเราที่ตั้งแต่ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิตก็
00:45:28 → 00:45:30 เช่นเกิดอายุเท่าไหร่เสียชีวิตอายุเท่า
00:45:30 → 00:45:33 ไหร่แต่ว่าปัจจุบันนี้มันจะมีคำว่า Health
00:45:33 → 00:45:36 span คือค่ะช่วงเวลาที่เรายังมีคุณภาพ
00:45:36 → 00:45:39 ชีวิตที่ดีแข็งแรงเดินไปไหนมาไหนเองได้
00:45:40 → 00:45:43 ไม่ต้องนอนติดเตียงไม่ต้องนั่งรถเข็นไม่
00:45:43 → 00:45:46 ต้องให้คนอื่นคอยคอยพยุงตรงเนี้ยปัจจุบัน
00:45:46 → 00:45:49 เนี่ยตัวไ span เนี่ยก็มีส่วนสำคัญก็คือ
00:45:49 → 00:45:51 เราไม่ได้อยากแบบมีอายุ 80 90 แต่ตอน
00:45:51 → 00:45:54 นั้นเนี่ยเรานอนนอนต้องแบบนอนติดเตียง
00:45:54 → 00:46:00 ตลอดนะครับผมก็เลยจะมาให้ให้ให้หลักแบบ 7
00:46:00 → 00:46:05 ออ 7 อออ่านนะครับผมอันที่ 1 นะครับคือออ
00:46:05 → 00:46:08 แรกคืออาหารนะครับผมมองว่าการเลือกทาน
00:46:08 → 00:46:12 อาหารเนี่ยจะค่อนข้างสำคัญมากผมมองว่าเรา
00:46:12 → 00:46:16 เน้นผักเน้นผลไม้อทานอาหารที่มี
00:46:16 → 00:46:19 ไฟเบอร์ซึ่งการที่เราทานผักเนี่ยอยากให้
00:46:19 → 00:46:22 ทานเป็นแบบ 7 สีคำว่า 7 สีคือสีแบบ
00:46:22 → 00:46:25 เรนโบว์บางทีพอเรานึกถึงผักเราจะนึกถึง
00:46:25 → 00:46:28 แต่สีเขียวแต่สีแดงก็มีมะเขือเทศสีส้มมี
00:46:28 → 00:46:32 แครอทมีฟัทองสีขาวก็จะมีเป็นหัวหอม
00:46:32 → 00:46:36 กระเทียมสีม่วงก็จะมีหลายๆแบบปนกันผมมอง
00:46:36 → 00:46:38 ว่าการทานพวกนี้มันจะมีสารต้านอนุมูล
00:46:38 → 00:46:42 อิสระซึ่งจะช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงคนที่
00:46:43 → 00:46:45 เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารเขาจะกินได้น้อย
00:46:45 → 00:46:47 อยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราต้องกินอาหารที่
00:46:47 → 00:46:50 ค่อนข้างจะย่อยง่ายอาหารกินแล้วย่อยง่าย
00:46:50 → 00:46:54 เน้นโปรตีนถ้าเป็นโปรตีนจากพืชได้ก็ดี
00:46:54 → 00:46:57 หลีกเลี่ยงของทอดหลีกเลี่ยงของของหวาน
00:46:57 → 00:47:01 หรือว่าอาหารแปรรูปมากเกินไปนะครับผมอื
00:47:01 → 00:47:04 อันที่ 2 ออที่ 2 คือการออกกำลังกายนะ
00:47:04 → 00:47:07 ครับผมค่ะยังไงการออกกำลังกายเนี่ยเราก็
00:47:07 → 00:47:12 ต้องถ้าสภาพร่างกายเราการออกกำลังกายหรือ
00:47:12 → 00:47:14 อีกอันนึงใช้เรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหว
00:47:14 → 00:47:17 ร่างกายได้คนบอกไม่มีเวลาเลยหมอเราใช้
00:47:17 → 00:47:20 เป็นเคลื่อนไหวในเราเดินเราเดินอย่างน้อย
00:47:20 → 00:47:24 ให้ได้ 6,000 - 8,000 ก 6,000 ในผู้
00:47:24 → 00:47:27 หญิง 8,000 ในผู้ชายการออกกำลังกายที่
00:47:27 → 00:47:30 อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ก็จะช่วยได้
00:47:30 → 00:47:36 การแกว่งแขนการอ่าเอาเอาอ่อขวดน้ำมายก
00:47:36 → 00:47:38 เพื่อให้กล้ามเนื้อเรามีประสิทธิภาพได้
00:47:38 → 00:47:43 เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะช่วยป้องกันไม่เรานำคน
00:47:43 → 00:47:45 ที่น้ำหนักตัวเยอะเนี่ยจะได้ช่วยไม่ให้
00:47:45 → 00:47:47 อ้วนเพราะว่าคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะหรือ
00:47:47 → 00:47:49 อ้วนเนี่ยก็มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
00:47:49 → 00:47:53 เพิ่มเติมได้ค่ะครับอออออันถัดมาก็คือ
00:47:53 → 00:47:57 ออกซิเจนครับค่ะซึ่งออกซิเจนก็คือเราหา
00:47:57 → 00:48:01 เวลาไปทำกิจกรรมกางแจ้งเราได้แบบเอาเท้า
00:48:01 → 00:48:05 ของเราเนี่ยไปลงกับดินลงกับทรายหรือว่าลง
00:48:05 → 00:48:07 กับพื้นหญ้าหรือเปล่าเราได้เห็นท้องฟ้าสี
00:48:07 → 00:48:10 ฟ้าๆที่เป็นออกซิอากาศที่สดใสบ้างหรือ
00:48:10 → 00:48:13 เปล่าการที่มีออกซิเจนที่เพียงพอเนี่ยจะ
00:48:13 → 00:48:16 ช่วยทำให้สมองและร่างกายสดชื่นช่วยลดความ
00:48:16 → 00:48:19 เครียดและทำให้เรามีพลังงานในการใช้ชีวิต
00:48:19 → 00:48:24 ได้มากขึ้นค่ะออที่ 4 ก็คือเอนหลังนอนการ
00:48:24 → 00:48:27 หลับพักผ่อนที่เพียงพออย่ายังไงเราต้อง
00:48:27 → 00:48:30 นอนให้เพียงพอให้ 7-9 ชมงซึ่งการนอนหลับ
00:48:30 → 00:48:32 ที่ดีเนี่ยจะช่วยฟื้นฟูร่างกายและสมองทำ
00:48:32 → 00:48:35 ให้ทำงานได้ปกติแล้วก็ลดความเสี่ยในการ
00:48:35 → 00:48:39 เกิดโรคต่างๆได้นะครับออที่ 5 คืออุจจระ
00:48:39 → 00:48:42 ค่ะการขับถ่ายที่ดีที่สม่ำเสมออย่างน้อย
00:48:42 → 00:48:46 ขับถ่ายวันละ 1 ครั้งมันก็เหมือนของเก่า
00:48:46 → 00:48:49 ของเก่าออกไปเพื่อจะเตรียมรับของใหม่มา
00:48:49 → 00:48:52 ซึ่งการทานผักผลไม้ไฟเบอร์และดื่มน้ำเยอะ
00:48:52 → 00:48:56 ๆก็จะช่วยในเรื่องการขับถ่ายด้วยอออที่ 6
00:48:56 → 00:49:01 คืออารมณ์อารมณ์ก็มีส่วนสำคัญกายแข็งแรง
00:49:01 → 00:49:05 ใจก็ต้องแข็งแรงควรหมั่นรักษาใจให้สดใส
00:49:05 → 00:49:08 ไม่เครียดหรือหงุดหงิดง่ายจนเกินไปครับ
00:49:08 → 00:49:11 การพักผ่อนจิตใจด้วยการทำสมาธิหรือหา
00:49:11 → 00:49:13 กิจกรรมที่ทำให้เราสบายใจจะช่วยทำให้
00:49:13 → 00:49:17 สุขภาพจิตดีขึ้นได้นะครับครับออสุดท้าย
00:49:17 → 00:49:21 คือออที่ 7 คือออกไปหาหมอหมอบตามนัดนะ
00:49:21 → 00:49:26 ครับผมใช่ครับผมค่ะก็ถือว่าวันนี้ค่อน
00:49:26 → 00:49:28 ข้างครบถ้วนนะคะเกี่ยวกับเรื่องมะเร็ง
00:49:28 → 00:49:32 กระเพาะอาหารแล้วก็คุณพี่พูนสุขชมคุณหมอ
00:49:32 → 00:49:35 มาค่ะว่าแนะนำดีมากเลยค่ะแล้วก็หลายๆท่าน
00:49:35 → 00:49:38 ที่อยู่ใน Facebook ไลฟนะคะก็บอกว่าเอ่อ
00:49:38 → 00:49:41 กดถูกใจมาให้คุณหมอเพียบเลยค่ะวันนี้คุณ
00:49:41 → 00:49:43 หมอมีอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องมะเร็ง
00:49:43 → 00:49:46 กระเพาะอาหารเพิ่มเติมมั้ยคะครับผมผมก็
00:49:46 → 00:49:48 คิดว่าเรื่องมะเร็งกระเพาะอาหารเราเนี่ย
00:49:48 → 00:49:52 ปัจจัยหลายๆเนื่องจากปัจจัยในปัจจุบันเย
00:49:52 → 00:49:55 มีปัจจัยที่กระตุ้นทำให้เราเกิดมะเร็ง
00:49:55 → 00:49:57 กระเพาะอาหารได้เช่นอการติดเชื้อ
00:49:57 → 00:50:00 แบคทีเรียในกระเพาะหรือว่าอาหารการกินจาก
00:50:00 → 00:50:03 อาหารเค็มหรือว่ามีเรื่องการสูบบุหรี่การ
00:50:03 → 00:50:05 ดื่มแอลกอฮอล์หรืออาหารหลายๆอย่างเนี่ย
00:50:05 → 00:50:09 ร่วมกับอ่าผักผลไม้ที่อาจจะไม่ได้ทาน
00:50:09 → 00:50:12 เพิ่มมากขึ้นซึ่งผมมองว่าการที่เราดูแล
00:50:12 → 00:50:16 สุขภาพตาม7ดออตรงนั้นเนี่ยก็จะช่วยทำให้
00:50:16 → 00:50:19 นอกจากจะช่วยห่างไกลจากมะเร็งกระเพาะแล้ว
00:50:19 → 00:50:21 เนี่ยจะทำให้สุขภาพกายสุขภาพใจเราดีขึ้น
00:50:21 → 00:50:24 แล้วก็จะปล่อดจากโรคภัยไข้เจ็บตรงนั้นได้
00:50:24 → 00:50:28 เมื่อเรามีอาการหลายๆอย่างเราอาการที่
00:50:28 → 00:50:32 เริ่มเป็นเนี่ยมีอาการก็รีบไปพบแพทย์รีบ
00:50:32 → 00:50:35 ไปพบแพทย์และติดตามการรักษาครับผมแล้วก็
00:50:35 → 00:50:38 เราจะได้รับการวินิจฉัยที่ที่ถูกต้องแล้ว
00:50:38 → 00:50:42 ก็แม่นยำนะครับผมเพราะฉะนั้นแล้วก็เ่อผม
00:50:42 → 00:50:45 มองว่าเรื่องอาหารเนี่ยเป็นปัจจัยที่
00:50:45 → 00:50:48 สำคัญมากนะครับเพราะว่าใน7อที่ผมที่ผม
00:50:48 → 00:50:50 กล่าวมาเนี่ยมีมีที่เกี่ยวกับในระบบทาง
00:50:50 → 00:50:53 เดือนอาหารเราก็ที่หลักๆคือทั้งอาหารทั้ง
00:50:53 → 00:50:57 อุทั้งอุจจระด้วยนะครับค่ะอือก็วันนี้
00:50:57 → 00:51:00 ต้องขอบพระคุณคุณหมอมากเลยนะคะครับผม
00:51:00 → 00:51:03 ขอบคุณมากนะครับผมครับคุณหมอครับสวัสดี
00:51:03 → 00:51:06 ค่ะสวัสดีครับค่ะเราพูดคุยกับนายแพทย์
00:51:06 → 00:51:09 สิทธิยศจันทรสาขานะคะอายุรแพทย์ทางเดิน
00:51:09 → 00:51:12 อาหารและตับเวชศาสตร์ป้องกันสาขา
00:51:12 → 00:51:15 เวชศาสตร์วิถีชีวิตโรงพยาบาลไทยนครินทร์
00:51:15 → 00:51:18 ค่ะ