00:00:00 → 00:00:03 [เพลง]
00:00:03 → 00:00:07 อาการเวียนหัวจะต้องแยกกันว่าเป็นแค่
00:00:07 → 00:00:09 เวียนๆมึนๆหรือว่าเป็นเวียนหัวบ้านหมุน
00:00:09 → 00:00:12 เลยส่วนใหญ่เราก็จะสับสนกันถ้าเวียนมึน
00:00:12 → 00:00:14 หรือว่าเวียนคล้ายๆจะวูบหรือว่าหน้ามืด
00:00:14 → 00:00:17 ลักษณะนี้ก็จะเป็นกลุ่มอาการจากร่างกาย
00:00:17 → 00:00:20 ผิดปกติเช่นทางเกลือแร่เสียเกลือแร่หรือ
00:00:20 → 00:00:24 ว่าเรื่องของความดันต่ำหรือว่ามีน้ำตาล
00:00:24 → 00:00:26 ที่ต่ำนะคะหรือว่าอาจจะเกิดจากภาวะเสีย
00:00:26 → 00:00:29 น้ำในร่างกายเช่นท้องเสียหรือบางคนก็อาจ
00:00:29 → 00:00:31 จะสงสัยว่าตั้งครรภ์หรือเปล่าอันนี้ก็
00:00:31 → 00:00:33 เป็นในกลุ่มของการเวียนมือหรือว่าเวียน
00:00:33 → 00:00:36 หน้ามืดส่วนเวียนบ้านหมุนก็แบ่งเป็น 2
00:00:36 → 00:00:39 สาเหตุหลักๆก็คือมาจากทางสมองหรือมาจาก
00:00:39 → 00:00:41 ทางหูก็จะเป็นอาการที่เหมือนกับตัวเองโดน
00:00:41 → 00:00:44 เหวี่ยงไปนะคะเหมือนอยู่บนเก้าอี้แล้วก็
00:00:45 → 00:00:47 โดนเหวี่ยงทุกๆสิ่งรอบตัวเนี่ยดูหมุนไป
00:00:47 → 00:00:50 โดยที่เราไม่สามารถที่จะบังคับหรือทรงตัว
00:00:50 → 00:00:51 ได้เลยนะคะ
00:00:51 → 00:00:54 [เพลง]
00:00:54 → 00:00:58 มีทั้งอันตรายและไม่อันตรายในวัยที่เป็น
00:00:58 → 00:01:00 วัยทำงานเนี่ยค่ะพรรคการเมืองอาจจะเป็น
00:01:00 → 00:01:04 แค่เครียดหรือว่าอดนอนนอนพักก็หายดีขึ้น
00:01:04 → 00:01:07 แต่ถ้าเป็นเยอะๆเช่นเรื่องของเวียนแล้วมี
00:01:07 → 00:01:10 อาการปวดศีรษะรุนแรงมีอาเจียนอย่างมากนะ
00:01:10 → 00:01:13 คะทำให้เสียน้ำหรือเกลือแร่อันนี้ก็ต้อง
00:01:13 → 00:01:16 ระวังเรื่องของระบบสมองถึงว่าเป็นกรณีที่
00:01:16 → 00:01:20 อันตรายแล้วถ้าในวัยสูงอายุมากขึ้นมี
00:01:20 → 00:01:23 อาการเวียนร่วมกับแขนขาอ่อนแรงนะคะหรือ
00:01:23 → 00:01:26 ว่าปวดศีรษะมีชาปลายมือปลายเท้าพูดจา
00:01:26 → 00:01:30 สับสนหรือว่าความจำเปลี่ยนไปการพูดคุย
00:01:30 → 00:01:33 ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไปเช่นอยู่ดีๆก็มี
00:01:33 → 00:01:36 อารมณ์ที่ฉุนเฉียวมากขึ้นหรือว่าพูดจาไม่
00:01:36 → 00:01:38 รู้เรื่องอันนี้ก็คือถือว่าเป็นอันตราย
00:01:38 → 00:01:41 ควรที่จะมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าเป็น
00:01:41 → 00:01:44 ทางโรคสมองหรือว่าเป็นแค่หูชั้นในค่ะ
00:01:44 → 00:01:48 [เพลง]
00:01:48 → 00:01:51 อาการเวียนหัวเนี่ยถ้าเรามาเจาะลึกตรงที่
00:01:51 → 00:01:54 เวียนบ้านหมุนเลยเนี่ยค่ะก็อย่างที่กลับ
00:01:54 → 00:01:56 ไปว่าเป็นจากทั้งสมองหรือว่าเป็นจากหู
00:01:56 → 00:01:59 ชั้นในกันแน่ถ้าเป็นทางสมองก็จะมีอาการ
00:01:59 → 00:02:03 อ่อนแรงนะคะมีชาหรือว่ามีปากเบี้ยวร่วม
00:02:03 → 00:02:06 ด้วยพวกนี้ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของภาวะ
00:02:06 → 00:02:09 เส้นเลือดสมองตีบแตกนะคะหรือร้ายๆที่มี
00:02:09 → 00:02:11 อาการปวดหัวมากๆเลยแล้วก็ต้องสงสัยเรื่อง
00:02:11 → 00:02:14 ของเนื้องอกด้วยแต่ถ้าเป็นคลังหูส่วนใหญ่
00:02:14 → 00:02:17 เรื่องของระบบประสาทก็จะน้อยลงไม่มีอาการ
00:02:17 → 00:02:20 เรื่องของชาหรืออ่อนแรงเข้ามาแต่คนไข้อาจ
00:02:20 → 00:02:22 จะมีเรื่องของหูอื้อหรือว่ามีเสียงดังใน
00:02:22 → 00:02:25 หูเช่นเวลาอยู่ในที่เงียบจะมีเสียงวี๊ดๆ
00:02:25 → 00:02:28 หรือๆอาจจะเป็นสัญญาณนึงที่เตือนว่าเวียน
00:02:28 → 00:02:31 นี้อาจจะเป็นทางหูชั้นในหรือว่ามีอาเจียน
00:02:31 → 00:02:36 ร่วมด้วยมีเรื่องของเดินเซเดินเซนี่ก็อาจ
00:02:36 → 00:02:38 จะเป็นทั้งหูก็ได้หรือเป็นทางสมองก็ได้
00:02:38 → 00:02:41 แล้วก็อาการอื่นๆเช่นอาการเอ่อรู้สึกมี
00:02:42 → 00:02:45 เสียงใครพูดอะไรแล้วรู้สึกว่าเอ๊ะจิ๊บหู
00:02:45 → 00:02:48 มากเลยอาการปวดหูนิดๆหน่อยๆเหมือนมีอะไร
00:02:48 → 00:02:50 อยู่ในหูอันนี้อ่ะค่ะก็คือเป็นหนึ่งใน
00:02:50 → 00:02:53 อาการของน้ำในหูไม่เท่ากันส่วนโรคที่ 2
00:02:53 → 00:02:55 ที่รองลงมาเรื่องของน้ำในหูนะคะก็คือ
00:02:55 → 00:02:58 เรื่องของตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุดโลก
00:02:58 → 00:03:00 นี้เนี่ยก็จะทำให้เราเวียนบ้านเช่นเดียว
00:03:00 → 00:03:03 กันแต่ว่าอาการจะไม่เป็นนานเท่ากับโลกของ
00:03:03 → 00:03:05 น้ำอยู่ไม่เท่ากันอาการจะเป็นอยู่พักๆ
00:03:05 → 00:03:08 เช่นเวลาเอียงศีรษะซ้ายขวาหรือก้มเงย
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยจะเป็นลักษณะเวียนบ้านหมุนชั่วคราว
00:03:11 → 00:03:14 พออยู่นิ่งๆสักพักหนึ่งอาการก็จะเบาลง
00:03:14 → 00:03:18 [เพลง]
00:03:18 → 00:03:20 สมมุติว่าเดินๆอยู่ริมถนนเลยใช่ไหมคะ
00:03:20 → 00:03:23 เวียนบ้านหมุนทันทีเนี่ยอย่างแรกคือตั้ง
00:03:23 → 00:03:25 สติไม่ใช่ว่าปล่อยให้ขาอ่อนแรงแล้วก็ล้ม
00:03:25 → 00:03:28 พับลงไปศีรษะกระแทกพื้นอันนี้จะเกิด
00:03:28 → 00:03:30 อุบัติเหตุได้ง่ายเราก็ต้องหาที่ยึดเกาะ
00:03:30 → 00:03:32 บริเวณนั้นแต่ถ้าเกิดไม่มีเลยจริงๆก็คือ
00:03:33 → 00:03:36 ให้นั่งลงกับพื้นแล้วก็ถ้าเคยเป็นประวัติ
00:03:36 → 00:03:39 เรื่องของน้ำในหูไม่เท่ากันหรือโรคเวียน
00:03:39 → 00:03:42 อยู่แล้วเนี่ยควรจะพกยาติดตัวเลยค่ะ
00:03:42 → 00:03:45 [เพลง]
00:03:45 → 00:03:50 ติ่งถูกต้องจริงๆแล้วเนี่ยการที่เราทาน
00:03:50 → 00:03:53 เค็มเนี่ยค่ะมันเป็นบ่อเกิดของทั้งหลาย
00:03:53 → 00:03:55 โรคแล้วเกี่ยวกับหลอดเลือดเช่นเรื่องของ
00:03:55 → 00:03:59 หัวใจความดันสูงนกไตทั่วไปถึงโรคหูชั้นใน
00:03:59 → 00:04:01 ด้วยโพเดียมเนี่ยมันทำให้น้ำเนี่ยดูดซึม
00:04:01 → 00:04:04 มาในร่างกายสูงทีนี้มันก็ทำให้หูชั้นใน
00:04:04 → 00:04:07 เราเนี่ยค่ะบวมน้ำเหมือนน้ำท่วมนะคะทีนี้
00:04:07 → 00:04:11 ทำให้ระบบประสาทของเรื่องหูการได้ยินก็จะ
00:04:11 → 00:04:13 เริ่มหูอื้อเนื่องจากหูชั้นในของเรามี
00:04:13 → 00:04:16 เส้นประสาทอยู่ด้วยผ้าหูมีเซลล์ผลที่รับ
00:04:16 → 00:04:19 ในการฟังเสียงถ้าเซลล์เหล่านี้เนี่ยโดน
00:04:19 → 00:04:22 น้ำท่วมบ่อยๆหรือว่าทำให้มีกระทบเส้น
00:04:22 → 00:04:25 ประสาทบ่อยๆก็ทำให้การได้ยินเนี่ยเริ่มลด
00:04:25 → 00:04:29 ลงทำให้มีเวียนบ้านหมุนตามมาเราจึงควรจะ
00:04:29 → 00:04:31 ลดอาหารกลุ่มนี้เป็นอย่างยิ่ง
00:04:31 → 00:04:38 [เพลง]