00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะ
00:00:05 → 00:00:10 โอเคมาแล้วค่ะได้ยินเสียงชัดกันไหมคะ
00:00:10 → 00:00:13 ถ้าเกิดใครเข้ามาแล้วถ้าได้ยินเสียงชัด
00:00:13 → 00:00:17 เจนดีภาพชัดเจนดีฝากทักทายกันหน่อยนะคะ
00:00:17 → 00:00:21 วันนี้วันนี้เรามาคุยกันเรื่องเวียนหัวนะ
00:00:21 → 00:00:25 คะซึ่งเป็นอะไรที่เจอเยอะมากๆแล้วก็
00:00:25 → 00:00:29 เป็นอาการที่หลายๆคนเป็นแล้วก็ไม่หายสัก
00:00:29 → 00:00:32 ทีทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นตรวจอะไรก็ปกติแล้ว
00:00:32 → 00:00:34 ก็ไม่รู้จะทำยังไงนะคะซึ่งเป็นปัญหาที่
00:00:34 → 00:00:38 เจอได้เยอะมากๆเลยนะคะก็เดี๋ยววันนี้มา
00:00:38 → 00:00:40 ชวนคุยกันว่าเวลาเราเวียนหัวไม่หายเนี่ย
00:00:40 → 00:00:44 มันเกิดจากอะไรได้บ้างส่วนใหญ่เราจะชอบ
00:00:44 → 00:00:47 แบบลืมนึกถึงสาเหตุจากอะไรไปที่ทำให้ไม่
00:00:47 → 00:00:48 ได้รักษานะคะ
00:00:48 → 00:00:51 เดี๋ยวถ้าเกิดสมมุติว่าใครเข้ามาแล้วแล้ว
00:00:51 → 00:00:56 เสี่ยงชัดเจนดีภาพชัดเจนดีฝากพิมพ์บอก
00:00:56 → 00:00:58 หน่อยนะคะหรือว่ากดไลค์กดแชร์ให้ด้วยนะคะ
00:00:58 → 00:01:00 เดี๋ยวรอคนเข้ามาสักครู่นึงแล้วเดี๋ยวหมอ
00:01:00 → 00:01:05 จะเริ่มบรรยายนะโอเค
00:01:05 → 00:01:07 แล้วมีคนเข้ามาพอสมควร
00:01:07 → 00:01:12 สวัสดีทุกคนนะคะ
00:01:12 → 00:01:16 มีมีคนพิมพ์มาพอดีเลยค่ะว่ากำลังเวียนหัว
00:01:16 → 00:01:18 มาสยาม 3-4 วันแล้วยังหาสาเหตุไม่เจอเลย
00:01:18 → 00:01:21 ค่ะเดี๋ยวฟังคลิปนี้นะคะอาจจะมีสาเหตุที่
00:01:21 → 00:01:24 เป็นสาเหตุของเราบ้างนะคะ
00:01:24 → 00:01:29 โอเคเสียงชัดเจนดีนะคะงั้นหมอเริ่มเลยนะ
00:01:29 → 00:01:32 คะน้องวันนี้จะมาชวนคุยกันเรื่องของอาการ
00:01:32 → 00:01:35 เวียนศีรษะนะคะซึ่งจริงๆคำว่าเวียนศีรษะ
00:01:35 → 00:01:39 เนี่ยในทางการแพทย์จริงๆหลักๆเราต้องแยก
00:01:39 → 00:01:44 ก่อนว่ามันเป็นมึนเวียนศีรษะหรือเป็นบ้าน
00:01:44 → 00:01:47 หมุนไปเลยหรือเป็นเดินเซไปเลยทรงตัวไม่
00:01:47 → 00:01:51 อยู่ไปเลยนะคะสาเหตุที่เราต้องแยกจากกัน
00:01:51 → 00:01:54 เนี่ยเพราะว่าสาเหตุของแต่ละอาการเนี่ย
00:01:54 → 00:01:57 มันแตกต่างกันแล้วก็รักษาแตกต่างกันซึ่ง
00:01:57 → 00:02:00 หลายๆคนเนี่ยเวลามีอาการเวียนหัวมาเนี่ย
00:02:00 → 00:02:03 มักจะมองภาพเป็นเหมือนรวมๆมากกว่าว่ามัน
00:02:03 → 00:02:07 มึนหัวมันเวียนหัวนะคะแบบอาจจะแยกจากกัน
00:02:07 → 00:02:09 ไม่ได้ชัดเจนทำให้เราหากลุ่มของโรคเนี่ย
00:02:09 → 00:02:13 ได้ยากกว่าเนาะฉะนั้นอันดับแรกนะคะถ้า
00:02:13 → 00:02:15 เกิดใครมีอาการที่รู้สึกว่ามึนเวียนศีรษะ
00:02:15 → 00:02:21 นะคะมึนหัวงงๆเวียนหัวบ้านหมุนเดินเซเรา
00:02:21 → 00:02:24 มาแยกกันก่อนนะคะของหมอหมอจะแยกเป็น 3
00:02:24 → 00:02:26 กลุ่มหลักๆนะคะกลุ่มแรกเราเรียกว่ากลุ่ม
00:02:26 → 00:02:30 มึนเวียนศีรษะนะคะหรือถ้าภาษาอังกฤษก็คือ
00:02:30 → 00:02:32 Business ทั่วไปเนี่ยล่ะค่ะกลุ่มนี้นะคะ
00:02:32 → 00:02:35 ความรู้สึกของคนไข้ก็คือจะแค่รู้สึกว่า
00:02:35 → 00:02:40 หัวมันแบบงงๆมันบรรยายไม่ถูกมันโคลงเคลง
00:02:40 → 00:02:43 มันแต่ไม่ถึงกับทรงตัวไม่อยู่นะคะอาจจะ
00:02:43 → 00:02:46 เป็นแบบเหมือนหัวมันเบาๆประมาณนั้นนะคะ
00:02:46 → 00:02:49 กลุ่มที่ 2 คือบ้านหมุนบ้านหมุนนะคะ
00:02:49 → 00:02:54 คีย์เวิร์ดสำคัญก็คือต้องมีอาการหมุนของ
00:02:54 → 00:02:57 ตัวเราหรือว่าสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกันนะ
00:02:57 → 00:03:00 คะก็คือตามชื่อเลยต้องมีอาการมีสิ่งแวด
00:03:00 → 00:03:02 ล้อมหมุนพื้นหมุนรู้สึกพื้นโคลงเคลงหรือ
00:03:02 → 00:03:06 ว่าตัวเรารู้สึกหมุนอยู่นะคะแล้วสุดท้าย
00:03:06 → 00:03:09 คือเป็นลักษณะของเดินเซนะคะหรือว่าที่
00:03:09 → 00:03:11 เรียกว่า attacia เนี่ย The Say เนี่ยจะ
00:03:11 → 00:03:14 เป็นเรื่องของการทรงตัวที่ผิดปกตินะคะไม่
00:03:14 → 00:03:16 ใช่แค่เวียนหัวไม่ใช่แค่บ้านหมุนแต่เดิน
00:03:16 → 00:03:19 แล้วทรงตัวไม่ได้เลยอาจจะเซไปด้านใดด้าน
00:03:19 → 00:03:22 หนึ่งเลยหรือหกล้มเลยนะคะเนาะซึ่งสาเหตุ
00:03:22 → 00:03:24 มันจะต่างๆกันไปนะคะ
00:03:24 → 00:03:26 อันดับแรกเลยหมอขอพูดเรื่องบ้านหมุนก่อน
00:03:26 → 00:03:29 เพราะว่าอันนี้ง่ายนะคะอาการบ้านหมุนหรือ
00:03:29 → 00:03:31 ว่า World Tiger ภาษาอังกฤษเนี่ยนะคะจะ
00:03:31 → 00:03:34 ค่อนข้างเป็นอาการที่ชัดเจนคือคนไข้ก็คือ
00:03:34 → 00:03:36 ลืมตาขึ้นมารู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัว
00:03:36 → 00:03:41 หมุนเลยนะคะอันนี้นะคะเราจะแยกหลักๆเป็น 2
00:03:41 → 00:03:46 อันนะคะอันแรกก็คือบ้านหมุนจากในสมองและ
00:03:46 → 00:03:50 อันที่ 2 ก็คือบ้านหมุนจากสาเหตุจากอื่นๆ
00:03:50 → 00:03:52 นะคะซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นปัญหาที่หูชั้น
00:03:52 → 00:03:54 ในของเรา
00:03:54 → 00:03:58 เลยเวลาคนบ้านหมุนมาสิ่งที่กลัวที่สุดก็
00:03:58 → 00:03:59 คือกลัวว่าเป็นโรคทางสมองหรือเปล่านะคะ
00:04:00 → 00:04:03 ซึ่งอันที่สำคัญที่สุดก็คือเช่นเลือกไป
00:04:03 → 00:04:07 เลี้ยงสมองไม่พอเส้นเลือดสมองตีบอัมพฤติ
00:04:07 → 00:04:10 อัมพาตนะคะเนาะกลุ่มนี้อาการจะเป็นยังไง
00:04:10 → 00:04:13 นะคะถ้าเป็นจากในสมองนะคะส่วนใหญ่คนไข้
00:04:13 → 00:04:16 มักจะไม่ได้มีบ้านหมุนอย่างเดียวนะคะยัง
00:04:16 → 00:04:19 ไงจะต้องมักมีอาการอื่นๆของทางระบบประสาท
00:04:19 → 00:04:22 ร่วมด้วยเช่นอาจจะมีชาร่วมด้วยนะคะเป็นชา
00:04:22 → 00:04:24 หน้าชาครึ่งซีกนะคะ
00:04:24 → 00:04:28 แข็งพูดไม่ชัดนะคะหรือมีทรงตัวลำบากด้วย
00:04:28 → 00:04:30 เช่นบ้านหมุนมาแล้วรู้สึกเดินเซล้มไปเลย
00:04:30 → 00:04:33 นะคะซึ่งอาการสำคัญของพวกเส้นเลือดสมอง
00:04:33 → 00:04:36 ตีบส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันนะ
00:04:36 → 00:04:39 คะจากเดิมอยู่ดีๆแล้วก็เกิดขึ้นมาทันที
00:04:39 → 00:04:42 เลยมีอาการเหมือนเวียนหัวรุนแรงบ้านหมุน
00:04:42 → 00:04:46 รุนแรงทรงตัวไม่อยู่มีชามีอ่อนแรงมีอาการ
00:04:46 → 00:04:49 ผิดปกติอื่นๆหรือที่สำคัญคือในระบบตรงที่
00:04:49 → 00:04:52 ควบคุมการทรงตัวอาจจะมีเรื่องของพวกเห็น
00:04:52 → 00:04:55 ภาพซ้อนนะคะเห็น 1 คนเป็น 2 คนอันนี้เป็น
00:04:55 → 00:04:58 อาการทางสมองที่ค่อนข้างซีเรียสนะคะถ้า
00:04:58 → 00:05:01 อยู่ดีๆเรามีอาการแบบนี้ขึ้นมาอันนี้ต้อง
00:05:01 → 00:05:03 รีบไปโรงพยาบาลเพื่อแยกก่อนเลยว่าเป็น
00:05:03 → 00:05:06 เส้นเลือดสมองตีบหรือเปล่านะคะอันที่ 2
00:05:06 → 00:05:08 ที่เป็นอาการบ้านหมุนได้แล้วมาจากใน
00:05:08 → 00:05:12 สาเหตุในศีรษะนะคะในสมองนะคะที่คนส่วน
00:05:12 → 00:05:14 ใหญ่เป็นแล้วก็ไม่ค่อยรู้กันนะคะก็คือปวด
00:05:14 → 00:05:18 หัวไมเกรนนี่แหละค่ะไมเกรนมันจะมีชนิด
00:05:18 → 00:05:21 ชนิดหนึ่งที่เราเรียกว่าเป็น vespula
00:05:21 → 00:05:24 ไมเกรนนะคะก็คือเป็นอาการปวดศีรษะไมเกรน
00:05:24 → 00:05:28 ที่คนไข้มีบ้านหมุนร่วมด้วยได้นะคะหลายคน
00:05:28 → 00:05:31 ไม่รู้ว่าไมเกรนบ้านหมุนนะคะจะคิดแค่ว่า
00:05:31 → 00:05:34 ไมเกรนก็ต้องปวดหัวนะคะลักษณะสำคัญของคน
00:05:34 → 00:05:37 ไข้กลุ่มนี้ก็คือคนไข้ก็จะเป็นคนไข้
00:05:37 → 00:05:39 ไมเกรนนี่แหละแล้วก็มีอาการปวดหัวไมเกรน
00:05:39 → 00:05:43 เป็นๆหายๆแต่ทุกครั้งที่ก่อนจะปวดหัวหรือ
00:05:43 → 00:05:46 ว่าหลังปวดหัวเสร็จแล้วมีบ้านหมุนร่วม
00:05:46 → 00:05:49 ด้วยได้นะคะอาการมันจะมาในระยะเวลาใกล้
00:05:49 → 00:05:52 เคียงกันนะคะสิ่งสำคัญของคนไข้ปวดศีรษะ
00:05:52 → 00:05:55 จากไมเกรนอันนี้เอ้ยบ้านหมุนไมเกรนอันนี้
00:05:55 → 00:05:58 ก็คือต้องรักษาที่ตัวไมเกรนเป็นหลักนะคะ
00:05:58 → 00:06:00 ส่วนเรื่องอาการบ้านหมุนก็อาจจะรักษาตาม
00:06:00 → 00:06:03 อาการไปนะคะอันนี้คือเป็นกลุ่มบ้านหมุน
00:06:03 → 00:06:07 ที่มีสาเหตุมาจากในสมองเนาะอันที่ 2 เป็น
00:06:07 → 00:06:09 สาเหตุจากทางหูนะคะอันนี้เป็นอันที่เจอ
00:06:09 → 00:06:12 ได้บ่อยที่สุดคนส่วนใหญ่มักจะเป็นมา
00:06:12 → 00:06:15 สาเหตุนี้นะคะเป็นมาจากสาเหตุนี้ก็คือ
00:06:15 → 00:06:18 เป็นบ้านหมุนที่มีสาเหตุมาจากอวัยวะการ
00:06:18 → 00:06:22 ทรงตัวในหูชั้นในนะคะเหมือนปกติเราจะทรง
00:06:22 → 00:06:25 ตัวได้ดีเราต้องใช้เอาอวัยวะหลายส่วนใน
00:06:25 → 00:06:28 การควบคุม Balance ควบคุมการทรงตัวของเรา
00:06:28 → 00:06:32 นะคะเช่นตาเรายืนอยู่บนพื้นตาเราต้องมอง
00:06:32 → 00:06:36 และว่าพื้นเราเป็นยังไงเรียบไหมพื้นเรา
00:06:36 → 00:06:38 เป็นแบบไหนเราอยู่บนพื้นนิ่งหรือว่าเรา
00:06:38 → 00:06:43 อยู่บนเรือนะคะมันก็จะส่งสัญญาณไปบอกสมอง
00:06:43 → 00:06:46 นะคะแล้วก็ส่งสัญญาณไปควบคุมที่เกี่ยว
00:06:46 → 00:06:49 ข้องกับอวัยวะการทรงตัวต่างๆในหูชั้นในนะ
00:06:49 → 00:06:52 คะเป็นเส้นประสาทที่มีน้ำทำหน้าที่รับ
00:06:52 → 00:06:54 ความรู้สึกเกี่ยวกับการทรงตัวนะคะเพราะ
00:06:54 → 00:06:57 ฉะนั้นเวลาบ้านหมุนก็อาจจะมีปัญหามาจากหู
00:06:57 → 00:06:58 ชั้นในก็ได้ไม่จำเป็นต้องสมองอย่างเดียว
00:06:58 → 00:07:03 นะคะโรคของในทางหูที่เจอได้บ่อยๆนะคะที่
00:07:03 → 00:07:06 คนส่วนใหญ่รู้จักอันแรกเราเรียกว่า
00:07:06 → 00:07:09 มีเนียร์ disease หรือว่าเป็นโรคของหลาย
00:07:09 → 00:07:12 คนก็จะเรียกว่าน้ำในหูไม่เท่ากันนะคะอัน
00:07:12 → 00:07:14 นี้ก็จะเจอได้ค่อนข้างบ่อยนะคะคนไข้ก็จะ
00:07:14 → 00:07:18 มีอาการบ้านหมุนซึ่งอาจจะเป็นๆหายๆนะคะ
00:07:18 → 00:07:22 เวลาหมุนขึ้นมาทีก็คือโรคหมุนต้องนอนหลับ
00:07:22 → 00:07:25 ตานอนนิ่งๆเลยส่วนใหญ่อาการหมุนจากในหูจะ
00:07:25 → 00:07:28 หมุนรุนแรงกว่าจากในสมองนะคะคนไข้ส่วน
00:07:28 → 00:07:30 ใหญ่มักจะต้องแบบอยู่นิ่งๆหลับตาสักพัก
00:07:30 → 00:07:32 ลุกเดินไม่ไหวเพราะลุกปุ๊บล้มปั๊บนะคะ
00:07:32 → 00:07:36 แล้วก็มักจะมีอาการทางหูร่วมด้วยเช่นอาจ
00:07:36 → 00:07:39 จะได้ยินเสียงวิ่งๆเสียงเหมือนจิ้งหรีดใน
00:07:39 → 00:07:43 หูหรืออาจจะมีบางทีรู้สึกกันได้ยินลดลงนะ
00:07:43 → 00:07:47 คะอันนี้ก็เป็นอาการของจากพวกเรื่องของ
00:07:47 → 00:07:51 น้ำในหูไม่เท่ากันได้นะคะหรืออาจจะไม่ใช่
00:07:51 → 00:07:53 น้ำในหูไม่เท่ากันหรือถ้าคนมีอายุหน่อย
00:07:53 → 00:07:56 เนี่ยส่วนใหญ่บางทีพลิกตัวนอนๆอยู่ตื่นมา
00:07:56 → 00:08:01 ตะแคงปุ๊บนะคะก็คือหินปูนชั้นในอ่าในหู
00:08:01 → 00:08:05 หลุดนะคะเราเรียกว่า dppv อันนี้อาการจะ
00:08:05 → 00:08:08 ค่อนค่อนข้างรุนแรงมากลักษณะที่เจอบ่อยๆ
00:08:08 → 00:08:10 คือคนไข้ส่วนใหญ่แบบพอสูงอายุหน่อยหรือ
00:08:10 → 00:08:13 อาจจะไม่อายุเยอะมากสักประมาณ 40-50 เป็น
00:08:13 → 00:08:15 ต้นไปก็เริ่มมีอาการกันได้แล้วอาจจะนอน
00:08:15 → 00:08:19 หรือพลิกตัวตะแคงตัวอยู่นะคะพอตื่นขึ้นมา
00:08:19 → 00:08:22 เราเปลี่ยนท่าเร็วเกินไปหินปูนในหูมัน
00:08:22 → 00:08:24 หลุดนะคะก็จะเกิดอาการบ้านหมุนเฉียบพลัน
00:08:24 → 00:08:28 ขึ้นมาทันทีเลยนะคะจนแบบมีอาเจียนได้ทรง
00:08:28 → 00:08:30 ตัวไม่ได้นะคะอาการก็มักจะเกิดขึ้นอยู่
00:08:30 → 00:08:33 สักระยะหนึ่งนะคะพอเราอยู่นิ่งๆหลับตาก็
00:08:33 → 00:08:36 อาจจะดีขึ้นหรือส่วนใหญ่ก็อาจจะต้องไปโรง
00:08:36 → 00:08:39 พยาบาลเพื่อไปฉีดยาปรับการทรงตัวหรือให้
00:08:39 → 00:08:42 คุณหมอเทสหลายคนไปโรงพยาบาลเวลาด้วยบ้าน
00:08:42 → 00:08:45 หมุนอาจจะเคยเห็นคุณหมอที่ต้อง Test การ
00:08:45 → 00:08:48 ขยับศีรษะนะคะเพื่อ Test ดูว่าเออมีตา
00:08:48 → 00:08:50 กระตุกไหมมีการทรงตัวที่ผิดปกติหรือเปล่า
00:08:50 → 00:08:54 นะคะเนาะอาการของทางบ้านหมุนในเรื่องของ
00:08:54 → 00:08:57 หูอันนี้ก็จะเป็นค่อนข้างนานนิดนึงนะคะ
00:08:57 → 00:08:59 หลายคนแบบบางทีเป็นแล้วไม่ได้หายในทันที
00:08:59 → 00:09:02 มันเป็นแบบเป็นสัปดาห์ได้แล้วก็มักจะเป็น
00:09:02 → 00:09:06 ๆหายๆได้นะคะมักจะสัมพันธ์กับท่าทางเวลา
00:09:06 → 00:09:09 เราเปลี่ยนศีรษะเปลี่ยนขยับศีรษะเร็วๆ
00:09:09 → 00:09:11 เปลี่ยนท่าทางเร็วๆนะคะก็จะกระตุ้นให้
00:09:11 → 00:09:15 อาการเป็นมากขึ้นนะคะถ้ามีเสียงในหูเสียง
00:09:15 → 00:09:19 วิ้งเสียงจี๊ดๆการได้ยินผิดปกติก็บ่งชัด
00:09:19 → 00:09:22 มากขึ้นว่าอาจจะมาจากสาเหตุในหูนะคะอัน
00:09:22 → 00:09:24 นี้อยู่ในกลุ่มเรื่องของบ้านหมุนเนาะบ้าน
00:09:24 → 00:09:28 หมุนก็เมื่อกี้ที่แยกอันแรกแยกจากสมองอัน
00:09:28 → 00:09:31 ที่ 2 แยกจากในหูนะคะบ้านหมุนอาการค่อน
00:09:31 → 00:09:34 ข้างชัดเจนโรคมักจะไม่ค่อยหลุดไปจากนี้
00:09:34 → 00:09:39 เท่าไหร่นะคะเอ่อการรักษาก็จะมีลักษณะ
00:09:39 → 00:09:44 จำเพาะของแต่ละโรคไตนะคะอ่าส่วนใหญ่ถ้า
00:09:44 → 00:09:46 เกิดเราสงสัยอาการบ้านหมุนจากในสมองคนไข้
00:09:46 → 00:09:49 ก็อาจจะได้รับการทำ MRI สมอง CT สมอง
00:09:49 → 00:09:52 เพื่อแย่โรคทางสมองออกไปก่อนนะคะถ้าเกิด
00:09:52 → 00:09:56 มันปกติดีก็มักจะเป็นสาเหตุจากทางในหู
00:09:56 → 00:09:59 ชั้นในนะคะเนอะซึ่งส่วนใหญ่เวลาไปตรวจ
00:09:59 → 00:10:02 เนี่ยก็จะได้รับการตรวจส่องหูตรวจกันได้
00:10:03 → 00:10:07 ยินนะคะซึ่งบางทีมันอาจจะปกติก็ได้คนไข้
00:10:07 → 00:10:10 ก็เลยสับสนว่าเอ๊ะอาการบ้านหมุนมีแต่ตรวจ
00:10:10 → 00:10:14 MRI สมองปกติตรวจหูก็ปกติตรวจอย่างอื่น
00:10:14 → 00:10:17 เจอไม่พบแล้วเป็นอะไรนะคะจริงๆก็ส่วนไหน
00:10:17 → 00:10:20 ก็จะมักมาจากสาเหตุทางทางในหูหรือว่าทาง
00:10:20 → 00:10:23 อื่นๆเนี่ยแหละค่ะเนาะก็คืออาการมันมี
00:10:23 → 00:10:25 อยู่จริงแต่ว่ามันตรวจไม่พบความผิดปกติ
00:10:25 → 00:10:30 ได้ที่เห็นได้ชัดนะคะต่อไปนะคะอันนั้น
00:10:30 → 00:10:31 เรื่องจบเรื่องบ้านหมุนไปแล้วต่อไปเป็น
00:10:31 → 00:10:35 เรื่องเวียนหัวนะคะเวียนหัวอันนี้ถ้าเป็น
00:10:35 → 00:10:37 เวียนหัวแค่เป็น Business เนี่ยอันนี้
00:10:37 → 00:10:41 เป็นปัญหาที่แบบเจอเยอะมากบ่อยมากแล้วก็
00:10:41 → 00:10:43 เป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่แก้ไม่ค่อยหายสักที
00:10:43 → 00:10:47 นะคะส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้มึนงงศีรษะอัน
00:10:47 → 00:10:49 นี้จะไม่ได้แยกแบบได้ชัดเจนเหมือนจากใน
00:10:49 → 00:10:52 บ้านหมุนละนะคะสาเหตุที่ทำให้เวียนศีรษะ
00:10:52 → 00:10:56 ได้เนี่ยมีหลายสาเหตุมากนะคะเราเรียกว่า
00:10:56 → 00:10:58 เกิดจากหลายปัจจัยเลยทั้ง
00:10:58 → 00:11:01 เวลาเราจะมีอาการเหมือนศีรษะได้มันเกิด
00:11:01 → 00:11:04 จากปัจจัยอะไรได้บ้างอย่างเช่นความดันต่ำ
00:11:04 → 00:11:09 นะคะก็หน้ามืดง่ายเวียนหัวได้นะคะเอ่อบาง
00:11:09 → 00:11:12 ทีกินน้ำน้อยกินน้ำไม่พอหรือว่าเสียน้ำไป
00:11:12 → 00:11:16 เยอะเช่นท้องเสียนะคะเหมือนเรามีน้ำเพื่อ
00:11:16 → 00:11:19 บีบเลี้ยงไปเลี้ยงสมองในการทรงตัวกันควบ
00:11:19 → 00:11:22 คุมการระดับความรู้สึกตัวไม่ดีก็ทำให้มึน
00:11:22 → 00:11:25 หัวได้เวียนหัวได้นะคะหรือเป็นปัจจัย
00:11:25 → 00:11:27 เรื่องทางแบบ metabolic อื่นๆเช่นเรื่อง
00:11:27 → 00:11:32 น้ำตาลต่ำนะคะภาวะซีดไทรอยด์อะไรพวกนี้นะ
00:11:32 → 00:11:35 คะทำให้คนไข้มีอาการมึนงงเวียนหัวได้ง่าย
00:11:35 → 00:11:39 หมดเลยนะคะแล้วก็ที่สำคัญอีกอันนึงก็คือ
00:11:39 → 00:11:41 เราก็จะต้องแยกโลกจากพวกโรคหัวใจไปด้วย
00:11:41 → 00:11:43 เพราะว่าหัวใจมีหน้าที่ปั๊มปิงเลือดไป
00:11:43 → 00:11:46 เลี้ยงใช่ไหมคะบางทีถ้าเกิดสมมุติว่าหัว
00:11:46 → 00:11:48 ใจเรามีปัญหาเนาะแบบเต้นหัวใจเต้นผิด
00:11:48 → 00:11:51 จังหวะคนไข้ที่มีหน้ามืดนะคะคนไข้ที่หัว
00:11:51 → 00:11:54 ใจบีบตัวไม่ดีพวกนี้ก็จะทำให้มีอาการมึน
00:11:54 → 00:11:57 งงเวียนหัวได้ง่ายเหมือนกันนะคะแล้วก็
00:11:57 → 00:12:00 ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้มึนๆงงๆได้อย่างเช่น
00:12:00 → 00:12:05 เรื่องของยานะคะยาหลายๆตัวก็มีเอ่อผลข้าง
00:12:05 → 00:12:07 เคียงเรื่องมึนงงศีรษะนะคะคนไข้ที่ทานยา
00:12:07 → 00:12:10 อยู่หลายอย่างแล้วมีอาการมึนหัวบางทีเรา
00:12:10 → 00:12:13 ก็ต้องเอายาทั้งหมดมาดูเลยเนาะว่าตัวไหน
00:12:13 → 00:12:16 ที่อาจจะทำให้มีมึนงงที่มันไม่หายเวียน
00:12:16 → 00:12:18 หัวไม่หายได้บ้างนะคะเอ่ออย่างเช่นยาใน
00:12:18 → 00:12:21 กลุ่มรักษาเส้นประสาทหลายๆตัวคนไข้บางที
00:12:21 → 00:12:22 ก็จะมีมาด้วยอาการเวียนศีรษะได้เหมือนกัน
00:12:22 → 00:12:25 นะคะพอลดยาอาการก็ดีขึ้นนะคะ
00:12:25 → 00:12:29 หรือเป็นอาการทางเรื่องของจิตใจเรื่องของ
00:12:29 → 00:12:33 ภาวะสตรีรสภาวะวิตกกังวลอะไรบางอย่างนะคะ
00:12:33 → 00:12:36 หรือคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องของการนอนนอน
00:12:36 → 00:12:40 ไม่หลับอดนอนนอนไม่พอหลับไม่ลึกนะคะหรือ
00:12:40 → 00:12:42 คนไข้โรคนอนกรนที่เป็นแบบโรคนอนกรนไปเลย
00:12:42 → 00:12:45 กลเยอะมากๆจนเหมือนหยุดหายใจขนาดหลับ
00:12:45 → 00:12:47 กลุ่มพวกนี้ที่นอนไม่ดีหรือว่ามีปัญหา
00:12:47 → 00:12:50 เรื่องของอารมณ์ก็มักจะมาด้วยมึนหัวเวียน
00:12:50 → 00:12:53 หัวได้นะคะซึ่งไม่ได้เกิดจากสาเหตุในสมอง
00:12:53 → 00:12:56 โดยตรงเนอะแต่เป็นสาเหตุจากอื่นๆนะคะซึ่ง
00:12:56 → 00:12:59 เวลาคนไข้เวียนหัวไม่หายมาเราก็จะต้องมา
00:12:59 → 00:13:01 ดูปัจจัยต่างๆเหล่านี้ด้วยบางทีต้องไป
00:13:01 → 00:13:04 เจาะเลือดดูมีซีดไหมมีไทรอยด์ผิดปกติหรือ
00:13:04 → 00:13:07 เปล่านะคะมีอาการทางโรคหัวใจหรือเปล่ามี
00:13:07 → 00:13:09 ยามีอะไรภาวะเครียดวิตกกังวลอะไรหรือ
00:13:09 → 00:13:12 เปล่านะคะแล้วก็ที่สำคัญอีกอันนึงเลยที่
00:13:12 → 00:13:15 หมอเจอเยอะมากว่าแบบคนไข้เวียนหัวเนี่ย
00:13:15 → 00:13:18 เราไม่หายไปตรวจทุกอย่างมาหมดละ MRI สมอง
00:13:18 → 00:13:22 แล้วอ่าตรวจหูแล้วกินยาปรับการทรงตัวมา
00:13:22 → 00:13:25 แล้วอ่าเอายาทั้งหมดมาดูนะคะ
00:13:25 → 00:13:27 จิตใจก็ปกติดีไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร
00:13:27 → 00:13:29 แต่มันมึนไม่หายสักทีเลยที่เจอบ่อยๆอีก
00:13:29 → 00:13:31 อันนึงเลยคือเรื่องของกล้ามเนื้อคอนี่
00:13:31 → 00:13:35 แหละค่ะสาเหตุมาจากเหมือนแถวๆกระดูกต้นคอ
00:13:35 → 00:13:38 หรือว่ากล้ามเนื้อคอบ่าไหล่เราอ่ะค่ะมัน
00:13:38 → 00:13:41 จะมีภาวะนึงที่เราเรียกว่า servicolgenic
00:13:41 → 00:13:44 Business อะค่ะก็คือ service ก็คือแปล
00:13:44 → 00:13:47 ตรงตัวก็คือกระดูกต้นคอเนอะตรงแถวๆด้าน
00:13:47 → 00:13:50 กระดูกต้นคอ Business ก็คือเวียนหัวเรา
00:13:50 → 00:13:51 เรียกว่าเป็นเหมือนเวียนหัวมาจากสาเหตุ
00:13:51 → 00:13:55 แถวๆตัวกระดูกต้นคอหรือว่าคอบ่าไหล่นะคะ
00:13:55 → 00:13:58 พบว่าคนไข้ที่เป็นเหมือนออฟฟิศซินโดรม
00:13:58 → 00:14:02 กล้ามเนื้อคอตึงมากๆหรือมีกระดูกต้นคอ
00:14:02 → 00:14:05 เสื่อมนะคะจัดมาด้วยอาการมึนศีรษะเวียน
00:14:06 → 00:14:09 ศีรษะเรื้อรังได้นะคะเพราะว่าตรงบริเวณ
00:14:09 → 00:14:12 กระดูกต้นคอเราเนี่ยจะมีเส้นเลือดนะคะ
00:14:12 → 00:14:15 สมองวิ่งผ่านช่องกระดูกแล้วก็ไปเลี้ยงตรง
00:14:15 → 00:14:17 ในส่วนสมองคู่หลังซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับ
00:14:17 → 00:14:21 การทรงตัวนะคะบางทีพอกระดูกเสื่อมกล้าม
00:14:21 → 00:14:24 เนื้อตึงปวดคอมันก็ทำให้การไหลเวียนตรง
00:14:24 → 00:14:28 นี้มันไม่ค่อยดีนะคะหรือพอเราตึงพอปวดคอ
00:14:28 → 00:14:31 มากๆอ่ะค่ะกล้ามเนื้อคอที่ตึงก็ร้าวขึ้น
00:14:31 → 00:14:34 มารัดบริเวณขมับนะคะก็ทำให้เรารู้สึกมึน
00:14:34 → 00:14:36 หัวหัวไม่โล่งได้เหมือนกันนะคะอันนี้ก็
00:14:36 → 00:14:39 เป็นสาเหตุที่เจอบ่อยมากส่วนใหญ่พอแบบคน
00:14:39 → 00:14:42 ไข้ไปหาทุกอย่างมาหมดละนะคะเวียนหัวไม่
00:14:42 → 00:14:46 หายพอมากดดูกล้ามเนื้อคอคอตึงนะคะพอรักษา
00:14:46 → 00:14:48 เคลียร์กล้ามเนื้อก็อาการดีขึ้นนะคะหรือ
00:14:48 → 00:14:51 บางคนมีปัญหาเรื่องของกระดูกคอเสื่อมไป
00:14:51 → 00:14:53 MRI ก็ค่อยเจอว่าอ่ามีปัญหาเรื่องกระดูก
00:14:53 → 00:14:56 ต้นคอเสื่อมจริงๆที่ทำให้เราเรามึนหัว
00:14:56 → 00:14:59 เวียนหัวง่ายนะคะซึ่งตรงนี้ก็จะรักษา
00:14:59 → 00:15:03 จำเพาะไปอีกแบบนะคะเนาะสุดท้ายก็คือแบบ
00:15:03 → 00:15:06 ว่าอันนี้ก็คือจะเป็นสาเหตุของเรื่องที่
00:15:06 → 00:15:09 ว่าเวียนหัวนะคะเหมือนอันดับแรกเราต้อง
00:15:09 → 00:15:11 แยกก่อนเนาะเมื่อกี้หมอบอกอันแรกสุดแยก
00:15:11 → 00:15:13 บ้านหมุนออกไปก่อนบ้านหมุนจะมีสาเหตุ
00:15:13 → 00:15:16 จำเพาะอีกแบบหนึ่งนะคะแยกไปแล้วไม่ใช่
00:15:16 → 00:15:19 บ้านหมุนมาดูสาเหตุที่เป็นมึนเวียนศีรษะ
00:15:19 → 00:15:23 นะคะมึนเวียนศีรษะอันนี้สาเหตุเป็นหลาย 10
00:15:23 → 00:15:25 อย่างเลยก็ต้องมาดูกันเป็นลักษณะจำเพาะ
00:15:25 → 00:15:29 ของแต่ละบุคคลไปนะคะเนาะเอ่อส่วนใหญ่พอ
00:15:29 → 00:15:32 อายุมากขึ้นเรื่องของการทรงตัวระบบประสาท
00:15:33 → 00:15:36 อัตโนมัติบางทีทำงานได้ไม่ปกติมากนักก็จะ
00:15:36 → 00:15:40 มีปัญหาเวียนหัวง่ายลุกแล้วหน้ามืดง่ายนะ
00:15:40 → 00:15:43 คะแบบนี้ก็เป็นได้เหมือนกันนะคะแล้วก็
00:15:43 → 00:15:46 เอ่อสุดท้ายที่โอเคถ้าเกิดสมมุติว่าเรา
00:15:46 → 00:15:50 เวียนหัวตรวจทุกอย่างไปหมดและนะคะ MRI
00:15:50 → 00:15:54 แล้วไปหาคุณหมอหูคอจมูกก็แล้วไปหาคุณหมอ
00:15:54 → 00:15:57 เจาะเลือดตรวจหัวใจตรวจทุกอย่างปกติถาม
00:15:57 → 00:16:01 ว่า 3 อันดับที่หมอเจอบ่อยๆว่าคนไข้เวียน
00:16:01 → 00:16:03 หัวมาแล้วอย่างอื่นมาแล้วไม่ดีขึ้น 3
00:16:03 → 00:16:06 อันดับที่เจอหมอเจอบ่อยๆเลยเนาะอันแรก
00:16:06 → 00:16:09 Serve listeness นี่ล่ะค่ะก็คือปวดมา
00:16:09 → 00:16:12 จากกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงตัวนะคะซึ่งตอน
00:16:12 → 00:16:15 หลังคนก็เป็นกันเยอะขึ้นนะคะก้มคอดูมือ
00:16:15 → 00:16:19 ถือทำงานการนั่งทำงานนานๆไม่ได้ขยับนะคะ
00:16:19 → 00:16:23 เป็นกระดูกต้นคอเสื่อมนะคะกลุ่มนี้ก็จะทำ
00:16:23 → 00:16:25 ให้เวียนหัวไม่หายได้นะคะถ้าใครสงสัยว่า
00:16:25 → 00:16:28 มีอาการปวดคอปวดต้นคอคอบ่าไหล่ตึงแล้วมี
00:16:28 → 00:16:31 เวียนหัวร่วมด้วยอาจจะไปลองเช็คตรงนี้ดู
00:16:31 → 00:16:35 เนาะสาเหตุที่ 2 ที่เวียนหัวไม่หายแล้วมา
00:16:35 → 00:16:38 เจอหมอนะคะที่เจอบ่อยๆอีกอันนึงคือเรื่อง
00:16:38 → 00:16:41 ของไมเกรนนะคะคนไข้ไมเกรนหมอหลายคนเนี่ย
00:16:41 → 00:16:43 มักจะมีอาการเวียนหัวบ้านหมุนร่วมด้วยได้
00:16:43 → 00:16:47 นะคะเอ่อเวียนหัวในไมเกรนอาจจะเป็นจาก
00:16:47 → 00:16:50 ทั้งชนิดของไมเกรนที่มีบ้านหมุนร่วมด้วย
00:16:50 → 00:16:53 ได้อยู่แล้วหรือว่าคนไข้ไมเกรนเองเนี่ย
00:16:53 → 00:16:56 ส่วนใหญ่ประมาณ 50% ของคนไข้ไมเกรนก็มัก
00:16:56 → 00:16:58 จะมีปัญหาอื่นๆร่วมด้วยเช่นกล้ามเนื้อคอ
00:16:58 → 00:17:01 บาไหลตึงด้วยอาจจะมีภาวะเครียดด้วยเพราะ
00:17:01 → 00:17:03 ว่าว่าความเครียดก็เป็นหนึ่งในกระตุ้น
00:17:03 → 00:17:06 ไมเกรนหรือคนปวดไมเกรนมากๆแล้วไม่หายสัก
00:17:06 → 00:17:08 ทีก็ทำให้เครียดเพิ่มขึ้นนะคะเพราะฉะนั้น
00:17:08 → 00:17:11 คนไข้ไมเกรนมักจะมีกล้ามเนื้อคอบ่าไหลตึง
00:17:11 → 00:17:14 ด้วยมีเครียดด้วยนะคะอาจจะเป็นไมเกรนที่
00:17:14 → 00:17:16 เวียนหัวอยู่แล้วด้วยคนไข้ไม่เกณฑ์ก็เลย
00:17:16 → 00:17:19 จะเวียนหัวง่ายกว่าคนปกตินะคะแล้วสุดท้าย
00:17:19 → 00:17:22 อันดับสุดที่ 3 นะคะที่หมอเจอด้วยบ่อยๆ
00:17:22 → 00:17:24 แล้วเวียนหัวไม่หายมึนหัวไม่หายแล้วมา
00:17:24 → 00:17:27 เนาะก็คือเป็นปัญหาเรื่องจากการนอนนะคะ
00:17:27 → 00:17:30 อันแรกจะแยกไปเลยว่ามีนอนกรนไหมถ้าเป็น
00:17:30 → 00:17:33 นอนกรนสงสัยว่าอาจจะมีหยุดหายใจขนาดหลับ
00:17:33 → 00:17:37 นะคะเป็น osa หรือเปล่านะคะอันนี้เราอาจ
00:17:37 → 00:17:40 จะต้องไปตรวจการนอนหลับดูนะคะคนไข้นอนกรน
00:17:40 → 00:17:44 ที่มีหยุดหายใจขนาดหลับนานๆนะคะมักจะมา
00:17:44 → 00:17:47 ด้วยอาการมึนศีรษะเรื้อรังที่แบบสุดท้าย
00:17:47 → 00:17:50 ไปหาสาเหตุอย่างอื่นอะไรก็ไม่เจอนะคะแต่
00:17:50 → 00:17:52 พอไปตรวจการนอนเพราะว่ามีการนอนกรนแล้ว
00:17:52 → 00:17:55 ช่วงการนอนเนี่ยออกซิเจนต่ำนะคะก็มาด้วย
00:17:55 → 00:17:58 มึนหัวปวดหัวเรื้อรังได้นะคะอันที่ 2 ที่
00:17:58 → 00:18:00 เป็นปัญหา 7 การนอนอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่อง
00:18:00 → 00:18:03 นอนกรนนะคะก็คือเป็นจากความเครียดวิตก
00:18:03 → 00:18:06 กังวลเนาะภาวะแอนไซตี้ต่างๆที่ทำให้เรา
00:18:06 → 00:18:10 หลับได้ไม่ดีนอนหลับไม่พอหลับไม่ลึกนะคะ
00:18:10 → 00:18:14 หลับๆตื่นๆนะคะพวกนี้ก็ทำให้ตื่นมาแล้วก็
00:18:14 → 00:18:16 มึนหัวปวดหัวเวียนหัวได้ง่ายเหมือนกันนะ
00:18:16 → 00:18:20 คะนี่ก็จะเป็นปัญหาที่เจอบ่อยๆนะคะแล้วก็
00:18:20 → 00:18:24 บางทีเราไม่ได้มองเห็นว่าแบบเออมันอาจจะ
00:18:24 → 00:18:27 เป็นปัญหาของอาการวนเวียนศีรษะได้นะเพราะ
00:18:27 → 00:18:28 ว่าส่วนใหญ่เนี่ยอาจจะพุ่งประเด็นไปที่
00:18:28 → 00:18:31 ว่าพอเวียนหัวแล้วเป็นโรคทางสมองหรือ
00:18:31 → 00:18:34 เปล่านะคะซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยอาการเวียนหัว
00:18:34 → 00:18:36 ที่เกิดจากโรคสมองจริงๆเนี่ยมันเจอได้ไม่
00:18:36 → 00:18:39 บ่อยมากนะคะเนาะแล้วทีนี้ถามว่าแล้วใคร
00:18:39 → 00:18:42 ล่ะที่เวียนหัวแล้วจะต้องระมัดระวังตัว
00:18:42 → 00:18:45 เองว่าจะเป็นโรคทางสมองหรือเปล่านะคะก็
00:18:45 → 00:18:49 สังเกตอาการได้ง่ายๆนะคะถ้าเกิดคนที่เป็น
00:18:49 → 00:18:52 เวียนหัวแบบไม่เคยเป็นเวียนหัวหรือว่า
00:18:52 → 00:18:55 เป็นบ้านหมุนมาก่อนเลยนะคะอยู่ดีๆเป็น
00:18:55 → 00:18:58 เฉียบพลันขึ้นมานะคะทำๆอะไรอยู่สักอย่าง
00:18:58 → 00:19:00 แล้วเกิดอาการขึ้นแบบเฉียบพลันผิดปกติและ
00:19:00 → 00:19:04 มีอาการอื่นๆร่วมด้วยนะคะเช่นตามัวเห็น
00:19:04 → 00:19:07 ภาพซ้อนแขนขาอ่อนแรงชาลิ้นแข็งอันนี้ให้
00:19:07 → 00:19:10 สงสัยอาการของทางเส้นเลือดสมองตีบนะคะก็
00:19:10 → 00:19:13 อาจจะต้องรีบไปโรงพยาบาลเนาะหรืออีกกลุ่ม
00:19:13 → 00:19:16 นึงคือเป็นเวียนหัวเรื้อรังได้นะคะแต่
00:19:16 → 00:19:18 เป็นเวียนหัวเรื้อรังที่มีอาการผิดปกติ
00:19:18 → 00:19:21 ของระบบสมองอื่นๆร่วมด้วยนะคะเช่นปวดหัว
00:19:21 → 00:19:25 เรื้อรังมากมีอาเจียนนะคะมีชาอ่อนแรงอัน
00:19:25 → 00:19:27 นั้นก็อาจจะต้องระวังสาเหตุอื่นๆที่เจอ
00:19:27 → 00:19:29 ได้เหมือนกันเช่นเนื้องอกสมองนะคะแต่ว่า
00:19:29 → 00:19:33 ก็จะเจอน้อยนะคะเจอได้ไม่บ่อยมากนะคะแต่
00:19:33 → 00:19:35 ถ้าเกิดคนที่เป็นเวียนหัวเป็นๆหายๆทั่วไป
00:19:35 → 00:19:39 ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วยก็มักจะ
00:19:39 → 00:19:42 เกิดจากสาเหตุในหูนะคะหรือว่าจากสาเหตุ
00:19:42 → 00:19:45 อื่นๆที่เมื่อกี้หมอกล่าวไปมากกว่านะคะ
00:19:45 → 00:19:47 ส่วนใหญ่ที่เจอเจอบ่อยๆยุคนี้ก็จะเป็นพวก
00:19:47 → 00:19:51 กล้ามเนื้อตึงกระดูกคอเสื่อมนะคะไมเกรน
00:19:51 → 00:19:54 พวกนี้นะคะหรือปัจจัยเรื่องแบบเรากินน้ำ
00:19:54 → 00:19:58 น้อยอดนอนนอนไม่พอพวกนี้มากกว่านะคะอีก
00:19:58 → 00:20:00 วิธีการปฏิบัติตัวเบื้องต้นสำหรับคนที่
00:20:00 → 00:20:03 เวียนหัวอยู่นะคะทำยังไงได้บ้างนะคะ
00:20:03 → 00:20:05 เนื่องจากว่าปัจจัยหลักที่มันมากระตุ้น
00:20:05 → 00:20:08 ส่วนใหญ่มันจะสัมพันธ์กับเรื่องของการกิน
00:20:08 → 00:20:11 น้ำไม่พออดนอนนอนไม่พอเนาะเพราะฉะนั้น
00:20:11 → 00:20:14 อันดับแรกคนที่เวียนหัวง่ายบ้านหมุนง่าย 1
00:20:14 → 00:20:17 น้ำต้องกินให้พอนะคะเมื่อไรที่เรากินน้ำ
00:20:17 → 00:20:20 น้อยเนี่ยมันเหมือนหัวใจเราก็ปั๊มเลือดไป
00:20:21 → 00:20:23 เลี้ยงได้น้อยนะคะเหมือนน้ำในตำน้ำมัน
00:20:23 → 00:20:25 น้อยเนาะแล้วก็ต้องเติมน้ำให้เยอะๆเลือด
00:20:25 → 00:20:28 จะได้สูบฉีดได้ดีๆนะคะก็ต้องดื่มน้ำให้พอ
00:20:28 → 00:20:30 นะคะถ้าเป็นในผู้ใหญ่เนี่ยก็คือวันนึงก็
00:20:30 → 00:20:33 ประมาณอ่าฤทธิ์ครึ่งถึง 2 ลิตรได้เลยนะคะ
00:20:33 → 00:20:37 ถึงจะเพียงพอนะคะยกเว้นว่าคนที่มีโรคหัว
00:20:37 → 00:20:39 ใจหรือมีข้อห้ามของการจำกัดน้ำอันนั้น
00:20:39 → 00:20:41 เป็นกรณียกเว้นไปนะคะแต่ถ้าเป็นคนทั่วไป
00:20:41 → 00:20:44 เนาะก็ดื่มน้ำวันละประมาณ 8-10 แก้วก็คือ
00:20:44 → 00:20:47 ลิตรครึ่งถึง 2 ลิตรนะคะถ้ากินต่ำกว่านิด
00:20:47 → 00:20:49 นึงเมื่อไหร่แล้วเป็นคนเวียนหัวอยู่แล้ว
00:20:49 → 00:20:52 มักจะเวียนหัวง่ายนะคะอันที่ 2 นอนให้พอ
00:20:52 → 00:20:55 นะคะถ้าเรามีปัญหาเรื่องของการนอนหลับนะ
00:20:55 → 00:20:58 คะอาจจะต้องปรึกษาเนอะเป็นนอนหลับแล้ว
00:20:58 → 00:21:01 เวียนหัวด้วยนอนหลับแล้วมึนหัวนะคะก็แสดง
00:21:01 → 00:21:03 ว่าเป็นการนอนหลับที่เริ่มมีปัญหาแล้วก็
00:21:03 → 00:21:05 อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์นะคะหรือถ้าใครรู้
00:21:06 → 00:21:08 ตัวว่าโอเคยังไม่เป็นปัญหาหรอกแต่แค่เรา
00:21:08 → 00:21:11 นอนดึกนอนน้อยนอนไม่พอเรามีเริ่มมีอาการ
00:21:11 → 00:21:13 ผิดปกติมีมึนศีรษะเราก็ต้องพยายามปรับ
00:21:13 → 00:21:18 เวลานอนให้เหมาะสมนะคะแล้วก็เปลี่ยนท่า
00:21:18 → 00:21:21 ทางช้าๆนะคะคนที่เวียนหัวง่ายส่วนหนึ่ง
00:21:21 → 00:21:24 เนี่ยพอเวลาเรานั่งอยู่หรือว่าเรานอนอยู่
00:21:24 → 00:21:28 แล้วเราจะลุกอ่ะค่ะการลุกเปลี่ยนท่าทาง
00:21:28 → 00:21:30 เนี่ยความดันมันจะเปลี่ยนถ้าเกิดเราทำ
00:21:30 → 00:21:33 อะไรเร็วเกินไปนะคะมันปรับตามไม่ทันเราก็
00:21:33 → 00:21:36 จะมึนหัวเวียนหัวเหมือนจะหน้ามืดได้หรือ
00:21:36 → 00:21:40 การส่ายศีรษะเร็วๆนะคะเช่นแบบมีคนเรียก
00:21:40 → 00:21:43 หันขวับนะคะพวกเนี้ยต้องระวังมันกระตุ้น
00:21:43 → 00:21:46 อาการได้นะคะต้องเปลี่ยนท่าทางช้าๆนอน
00:21:46 → 00:21:49 อยู่ก็ลุกนั่งก่อนนะคะลุกนั่งเสร็จไม่
00:21:49 → 00:21:52 เหมือนศีรษะก็ค่อยลุกยืนนะคะถ้าไม่หมื่น
00:21:52 → 00:21:54 แล้วก็ค่อยลุกเดินต่อต้องทำอะไรให้ช้าลง
00:21:54 → 00:21:57 นะคะก็จะช่วยเรื่องเวียนหัวได้นะคะแล้วก็
00:21:57 → 00:22:01 ต้องงดอาหารเค็มนะคะถ้าเกิดเรากินเค็ม
00:22:01 → 00:22:04 เนี่ยมันจะกระตุ้นอาการมึนหัวเวียนหัวได้
00:22:04 → 00:22:07 เหมือนกันนะคะสุดท้ายคือเวลาถ้าเกิดส่วน
00:22:07 → 00:22:10 ใหญ่คนแบบมีอาการมึนเวียนศีรษะก็มักจะ
00:22:10 → 00:22:11 ค่อย
00:22:11 → 00:22:14 ได้ยาปรับการทรงตัวมาทานนะคะส่วนใหญ่คนก็
00:22:15 → 00:22:17 จะรู้จักยาหลายตัวเนอะที่เป็นยาเรื่อง
00:22:17 → 00:22:20 เวียนหัวบ้านหมุนเช่นเรื่องยากลุ่มเบต้า
00:22:20 → 00:22:24 hteen ก็จะมีพวกยาเซิร์ฟเมอริสหลอนเบต้า
00:22:24 → 00:22:27 histine อะไรประมาณนี้นะคะก็พวกนี้ก็จะ
00:22:27 → 00:22:30 เป็นยากลุ่มปรับการทรงตัวนะคะส่วนใหญ่ก็
00:22:30 → 00:22:35 ลองทานได้นะคะเอ่อยาถ้าเกิดไปหาคุณหมอ
00:22:35 → 00:22:37 แล้วไม่มีอาการผิดปกติอย่างอื่นชัดเจน
00:22:37 → 00:22:40 แล้วก็จะใช้อาศัยยาพวกนี้ปรับตามอาการได้
00:22:40 → 00:22:45 เหมือนกันนะคะเนาะเอ่อสิ่งหนึ่งที่คนไข้
00:22:45 → 00:22:47 เวียนไม่ค่อยหายคืออย่างยาพวกนี้มันไม่
00:22:47 → 00:22:50 ใช่ยาแก้เวียนหัวที่เป็นยาแก้เวียนหัว
00:22:50 → 00:22:52 เฉียบพลันนะคะเพราะส่วนส่วนใหญ่เวลาทาน
00:22:52 → 00:22:56 เนี่ยบางทีเราต้องทานระยะนึงเนาะคนไข้มัก
00:22:56 → 00:22:58 จะเข้าใจว่ากินเมื่อมีอาการเวียนอาจจะกิน
00:22:58 → 00:23:00 วันสองวันแล้วหยุดไปซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ
00:23:00 → 00:23:02 กับการรักษาส่วนใหญ่เวลาทานแล้วถ้าเกิด
00:23:02 → 00:23:04 เราทานเพื่อปรับการส่งตัวอาจจะต้องทาน
00:23:04 → 00:23:07 อย่างน้อยประมาณสัก 1-2 สัปดาห์หรือบางคน
00:23:07 → 00:23:10 ที่เป็นเรื่องบ้านหมุนจากในปัญหาในหูชั้น
00:23:10 → 00:23:12 ในจริงๆเนี่ยบางทีเวลานานเป็นเดือนๆเลยก็
00:23:12 → 00:23:15 มีเหมือนกันนะคะอันนี้ก็อาจจะต้องปรึกษา
00:23:15 → 00:23:18 แพทย์อยู่ในความดูแลของแพทย์อีกทีนึงนะคะ
00:23:18 → 00:23:23 เนาะอ่าเดี๋ยวเรามาดูคำถามกันบ้างนะคะ
00:23:23 → 00:23:27 ก็คุณแมวนะคะกำลังเวียนหัวมา 3-4 วันยัง
00:23:27 → 00:23:31 หาสาเหตุไม่เจอเลยนะคะลองได้ไล่นึกย้อนดู
00:23:31 → 00:23:34 จากที่หมออธิบายไปเมื่อสักครู่นะคะเนาะ
00:23:34 → 00:23:37 ว่า 1 ช่วงนี้เรานอนน้อยหรือเปล่านะคะมี
00:23:37 → 00:23:39 ปวดหัวไหมเป็นไมเกรนอยู่แล้วหรือเปล่านะ
00:23:39 → 00:23:44 คะกินน้ำน้อยอดนอนๆดึกกินเค็มนะคะหรือ
00:23:44 → 00:23:46 เปล่าหรือว่าเราแบบเปลี่ยนท่าทางเร็วๆนะ
00:23:46 → 00:23:49 คะก็อาจจะตุ้มอาการเวียนหัวได้นะคะลอง
00:23:49 → 00:23:52 ปรับดูนะคะถ้าไม่ไหวจริงๆก็อาจจะไปตรวจ
00:23:52 → 00:23:54 แล้วก็ลองทานยาดูนะคะ
00:23:54 → 00:23:57 กำลังบ้านหมุนเลยค่ะค่ะก็ถ้าเป็นสาเหตุ
00:23:57 → 00:24:00 จากบ้านหมุนเนาะก็จะจะส่วนใหญ่ก็จะเป็น
00:24:00 → 00:24:02 ปัญหาจากหัวชั้นในที่หมอบอกน้ำในหูไม่
00:24:02 → 00:24:04 เท่ากันหินปูนหลุดตะกอนหลุดพวกนั้นนะคะ
00:24:04 → 00:24:08 ลองดูว่าของเราเป็นแบบไหนนะคะส่วนใหญ่ถ้า
00:24:08 → 00:24:11 คนเคยเป็นๆหายๆมาก่อนนะคะปัญหาจากโหชั้น
00:24:11 → 00:24:14 ในบางทีมันกระตุ้นอาการได้ก็จะชอบเป็นๆ
00:24:14 → 00:24:16 หายๆได้เรื่อยๆโดยถ้าเกิดเราอดนอนเมื่อ
00:24:16 → 00:24:18 ไหร่ดึกเมื่อไหร่เครียดเมื่อไหร่ก็มักจะ
00:24:18 → 00:24:22 มีอาการกลับมาได้นะคะ
00:24:22 → 00:24:27 ปวดหัวมึนๆตลอดค่ะอันนี้ถ้าเป็นแบบปวดมึน
00:24:27 → 00:24:29 ๆปวดทุกวันไม่ได้มีแบบอาการผิดปกติอื่นๆ
00:24:29 → 00:24:32 อะไรชัดเจนเช่นอาเจียนมีความผิดปกติของ
00:24:32 → 00:24:35 ทางสมองนะคะส่วนใหญ่มักจะที่หมอเจอเนอะ
00:24:35 → 00:24:37 ส่วนใหญ่เกิดมาจากกล้ามเนื้อตึงนะคะกล้าม
00:24:37 → 00:24:40 เนื้อคอบ่าไหล่ตึงแล้วมันดึงหลังขึ้นมา
00:24:40 → 00:24:42 ถึงบริเวณขมับศีรษะก็ทำให้ปวดหัวมึนๆได้
00:24:42 → 00:24:46 หรือลองดูว่ามีปัญหาที่การนอนของเราหรือ
00:24:46 → 00:24:49 เปล่านะคะถ้าเกิดเรานอนแบบนอนดึกนอนไม่พอ
00:24:49 → 00:24:51 หรือนอนเยอะก็จริงแต่หลับไม่ได้คุณภาพ
00:24:51 → 00:24:54 หลับๆตื่นๆพอตื่นมาก็อาจจะมึนศีรษะได้
00:24:54 → 00:24:56 เหมือนกันนะคะ
00:24:56 → 00:24:59 เห็นอะไรแกว่งๆไม่ได้จะไม่ชอบใช่ค่ะการ
00:24:59 → 00:25:02 เห็นสิ่งเครื่องไหวแล้วเรามองตาตามนะคะ
00:25:02 → 00:25:04 สมมุติว่าแบบเหมือนคนนั่งอยู่บนรถแล้วเรา
00:25:04 → 00:25:08 มองตามต้นไม้ที่มันผ่านเนี่ยตึกๆๆมันจะ
00:25:08 → 00:25:10 กระตุ้นอาการเวียนหัวบ้านหมุนได้นะคะถ้า
00:25:10 → 00:25:12 รู้ว่าเราแบบมีเวียนศีรษะบ้านหมุนอยู่ก็
00:25:12 → 00:25:14 อาจจะต้องพยายามไม่ไปจ้องสิ่งนี้มัน
00:25:14 → 00:25:17 เคลื่อนไหวเยอะๆนะคะอาจจะกระตุ้นอาการได้
00:25:17 → 00:25:20 ปวดท้ายทอยและขมับเกิดจากอะไรคะก็ส่วน
00:25:20 → 00:25:23 ใหญ่เนี่ยค่ะมักจะเกิดจากกล้ามเนื้อคอบ่า
00:25:23 → 00:25:25 ไหลตึงตัวนะคะแล้วพอเวลามันเกิดการเป็น
00:25:25 → 00:25:28 ตัวมากๆในทริคัลพอยท์นะคะมีจุดที่มันแข็ง
00:25:28 → 00:25:31 ปมเกร็งจริงๆเนี่ยอาจจะเกิดอาการปวดร้าว
00:25:31 → 00:25:35 ขึ้นมาบริเวณขมับบริเวณแก้มหน้าผากนะคะ
00:25:35 → 00:25:37 หนังศรีษะทำให้เราเหมือนปวดหัวมึนหัวไม่
00:25:37 → 00:25:40 หายได้นะคะลองตรวจตัวเองเช็คดูเองนะคะว่า
00:25:40 → 00:25:44 มีกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงหรือเปล่านะคะ
00:25:44 → 00:25:47 ผมตึงคอมากๆเลยครับถั่วต้นคอบ่อยมากๆเลย
00:25:47 → 00:25:51 ครับค่ะก็เป็นสาเหตุที่เจอกันบ่อยเนอะ
00:25:51 → 00:25:53 ช่วงนี้กล้ามเนื้อตึงออฟฟิศซินโดรมนะคะ
00:25:53 → 00:25:56 ถ้าตึงมากแล้วปวดหัวมึนหัวนะคะอาจจะต้อง
00:25:56 → 00:25:59 รักษาคนที่เป็นกล้ามเนื้อตึงทั่วไป
00:25:59 → 00:26:01 ออฟฟิศซินโดรมทั่วไปนะคะส่วนใหญ่ไม่ได้
00:26:01 → 00:26:03 ว่าจะต้องมารักษามาเจอหมอทุกคนนะคะส่วน
00:26:03 → 00:26:07 ใหญ่ก็คือจะต้องมีอาการผิดปกติอื่นๆเช่น
00:26:07 → 00:26:10 มีปวดหัวมีเวียนหัวมีปวดร้าวลงแขนมีชานะ
00:26:10 → 00:26:13 คะก็จะมารักษาสำหรับคนที่รู้สึกว่ากล้าม
00:26:13 → 00:26:17 เนื้อตึงเฉยๆเราเริ่มตึงเยอะแล้วอาการมัน
00:26:17 → 00:26:19 เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆอาจจะเริ่มจากยืด
00:26:19 → 00:26:22 กล้ามเนื้อตัวเองก่อนก็ได้นะคะออกกำลัง
00:26:22 → 00:26:25 กายที่เวลาออกกำลังกายก็อาจจะต้องเน้นทาง
00:26:25 → 00:26:27 การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแล้วก็การสร้าง
00:26:27 → 00:26:30 กล้ามเนื้อให้แข็งแรงนะคะบางคนแบบอาจจะไป
00:26:30 → 00:26:33 โฟกัสที่การออกกำลังกายแบบการสร้างกล้าม
00:26:33 → 00:26:35 เนื้อให้แข็งแรงอย่างเดียวนะคะเช่นเล่น
00:26:35 → 00:26:38 เวทยกเวทเต็มที่เลยกล้ามเนื้อไม่ค่อยยืด
00:26:38 → 00:26:41 หยุ่นก็เลยอาจจะทำให้ปวดได้ง่ายตึงได้
00:26:41 → 00:26:43 ง่ายเหมือนกันนะคะ
00:26:43 → 00:26:46 หลับไม่ลึกค่ะปัญหาหลับไม่ลึกอันนี้ก็
00:26:46 → 00:26:49 เป็นปัญหาเรื่องของการนอนหลับนะคะเนอะ
00:26:49 → 00:26:53 เบื้องต้นลองดูก่อนนะคะปรับสภาวะแวดล้อม
00:26:53 → 00:26:57 ให้มันเหมาะสมกับการนอนก่อนเลี่ยงปัจจัย
00:26:57 → 00:27:01 ต่างๆทุกอย่างที่จะมาทำให้ปัญหากันนอนเรา
00:27:01 → 00:27:05 แย่ลงนะคะเช่นงดเครื่องดื่มชากาแฟน้ำอัด
00:27:05 → 00:27:08 ลมที่มีคาเฟอีนชาเขียวอะไรต่างๆนะคะหรือ
00:27:08 → 00:27:10 ถ้าจะดื่มก็คือไม่ควรดื่มเกินวันละ 1
00:27:10 → 00:27:13 แก้วแล้วก็ดื่มตั้งแต่ช่วงเช้าเนาะช่วง
00:27:13 → 00:27:15 ก่อนเที่ยงอย่างน้อยประมาณ 6 ชั่วโมงก่อน
00:27:15 → 00:27:18 เข้านอนเพื่อให้ฤทธิ์มันหมดไปเต็มที่นะคะ
00:27:18 → 00:27:20 แล้วก็อันนึงที่เจอบ่อยช่วงนี้ก็คือ
00:27:20 → 00:27:24 เรื่องของการดูมือถือแล้วก็เข้านอนไปนะคะ
00:27:24 → 00:27:27 เวลาเราดูมือถือเนี่ยเหมือนสมองเราคิด
00:27:27 → 00:27:31 ตลอดเวลาแสนจากหน้าจอก็เข้าตลอดเวลานะคะ
00:27:31 → 00:27:33 ก็อาจจะทำให้การหลั่ง melatonin ที่
00:27:33 → 00:27:35 เกี่ยวข้องกับการนอนหลับเนี่ยมันหลั่งได้
00:27:35 → 00:27:37 ไม่ดีนะคะหัวเราก็เหมือนคิดตลอดเวลาพอ
00:27:37 → 00:27:40 เวลาหลับไปแล้วก็จริงดูมือถือแล้วหลับไป
00:27:40 → 00:27:43 ก็จริงแต่ว่าอาจจะนอนหลับไม่ได้ลึกมาก
00:27:43 → 00:27:46 แล้วก็หลับๆตื่นๆนะคะซึ่งสุดท้ายพอถ้ามัน
00:27:46 → 00:27:49 เกิดปัญหาเรื้อรังเกิดซ้ำๆเกิดเป็นเวลา
00:27:49 → 00:27:51 นานก็อาจจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องของมึน
00:27:51 → 00:27:54 หัวเวียนหัวเรื้อรังได้เหมือนกันนะคะ
00:27:54 → 00:27:58 ทำสลิปเทสต้องไปเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆใช่
00:27:58 → 00:27:59 ไหมคะ
00:27:59 → 00:28:02 เดี๋ยวนี้หลายโรงพยาบาลมีสลิป Test ตรวจ
00:28:02 → 00:28:05 การนอนหลับมากขึ้นนะคะ
00:28:05 → 00:28:09 ไม่อาจจะเป็นก็ต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีหมอ
00:28:09 → 00:28:12 เรื่องของการนอนหลับอยู่นะคะน้องอาจจะ
00:28:12 → 00:28:14 เป็นโรงพยาบาลใหญ่นิดนึงนะคะถ้าไม่แน่ใจ
00:28:14 → 00:28:17 อาจจะลองโทรเช็คกับทางโรงพยาบาลก่อนก็ได้
00:28:17 → 00:28:19 ว่ามีการตรวจการนอนหลับตรวจ Sleep Test
00:28:19 → 00:28:22 หรือเปล่านะคะเนาะหลายคนก็ถามเหมือนกัน
00:28:22 → 00:28:25 ว่านอนอย่างนี้นอนไม่หลับ
00:28:25 → 00:28:29 ทำ Sleep Test เนี่ยต้องหาหมอด้านไหนไป
00:28:29 → 00:28:33 ไม่ถูกจะหาหมอสมองถามหมอจิตเวชหรือว่าหา
00:28:33 → 00:28:38 หมอโรคทางเดินหายใจนะคะเนาะส่วนใหญ่นะคะ
00:28:39 → 00:28:42 เราก็จะดูว่าปัญหาของการนอนไม่หลับนั้น
00:28:42 → 00:28:45 น่ะสัมพันธ์กับอะไรเช่นถ้าคนนอนไม่หลับ
00:28:45 → 00:28:49 แล้วมีปวดหัวด้วยนะคะอาจจะมาเจอหมอด้าน
00:28:49 → 00:28:51 สมองก่อนเพราะว่าเอ่อมาด้วยเรื่องปวดหัว
00:28:51 → 00:28:54 มึนหัวเนาะก็มาตรวจเรื่องสมองออกไปก่อน
00:28:54 → 00:28:57 ว่ามีปัญหาอะไรไหมซักประวัติได้ว่ามี
00:28:57 → 00:28:59 ปัญหาเรื่องของการนอนที่อาจจะทำให้มึน
00:28:59 → 00:29:01 ศีรษะคุณหมอเขาก็อาจจะส่งตรวจการนอนหลับ
00:29:01 → 00:29:04 อีกทีนะคะแต่ถ้าเรานอนไม่หลับเราชัดเจน
00:29:04 → 00:29:07 ว่าเรานอนไม่หลับเพราะว่าเราเครียดวิตก
00:29:07 → 00:29:10 กังวลคิดมากนะคะเป็นปัญหาเรื่องของจิตใจ
00:29:10 → 00:29:13 เป็นหลักอันนี้ก็อาจจะไปปรึกษาคุณหมอด้าน
00:29:13 → 00:29:16 จิตแพทย์เป็นหลักนะคะซึ่งคุณหมอเขาก็จะดู
00:29:16 → 00:29:17 เรื่องของอารมณ์ปรับด้านอารมณ์ให้ด้วยดู
00:29:17 → 00:29:20 เรื่องการนอนหลับให้ด้วยนะคะส่วนคนที่มี
00:29:20 → 00:29:23 ปัญหาเรื่องของการนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ
00:29:23 → 00:29:27 กรนแค่ไหนต้องไปตรวจนะคะส่วนใหญ่คือคนถ้า
00:29:27 → 00:29:30 มีคนรอบข้างนอนด้วยเนอะก็คือกรนจนคนรอบ
00:29:30 → 00:29:33 ข้างเห็นว่ากรนจนเหมือนเฮือกหยุดหายใจไป
00:29:33 → 00:29:37 นะคะเป็นช่วงๆนะคะอันนี้ก็เป็นสัญญาณบอก
00:29:37 → 00:29:39 ว่าอาจจะมีโรคอยู่หายใจขณะหลับหรือที่
00:29:39 → 00:29:41 เรียกว่า osa อันนี้จะต้องไปตรวจสลิป Test
00:29:41 → 00:29:43 เพื่อเป็นการยืนยันเพื่อไปรักษานะคะเพราะ
00:29:43 → 00:29:46 ถ้าไม่รักษาปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะมีเปลือก
00:29:46 → 00:29:48 ปัญหาปวดหัวเรื้อรังเวียนหัวเรื้อรังนะคะ
00:29:48 → 00:29:51 เราก็เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
00:29:51 → 00:29:53 โรคปอดได้ด้วยนะคะการทำ Sleep Test
00:29:53 → 00:29:56 เพื่อยืนยัน osa บางโรงพยาบาลอาจจะส่งหา
00:29:56 → 00:29:58 คุณหมอโรคปอดก็ไม่ต้องสงสัยนะคะบางโรง
00:29:58 → 00:30:01 พยาบาลก็ส่งหาหมอด้านสมองนะคะก็คือตรวจ
00:30:01 → 00:30:04 เช็คได้ทั้ง 2 ด้านนะคะเนาะ
00:30:04 → 00:30:07 ปวดตึงคอบ่าไหล่เรื้อรังมาหลายปีเลยค่ะ
00:30:07 → 00:30:11 อันนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มึนหัวถ้ามี
00:30:11 → 00:30:14 อาการมึนหัวเวียนหัวร่วมด้วยอาจจะเป็น
00:30:14 → 00:30:17 สาเหตุมาจากตรงนี้ได้นะคะเจอบ่อยมากๆคือ
00:30:17 → 00:30:20 ปกติปวดคอเนี่ยถ้าปวดคอบ่าไหล่อย่างเดียว
00:30:20 → 00:30:23 ไม่มีอาการอื่นๆคนไข้ก็มักจะใช้ชีวิตทำ
00:30:23 → 00:30:26 งานอะไรทุกอย่างได้ปกติแต่พอปวดแล้วเริ่ม
00:30:26 → 00:30:29 มีอาการอื่นๆเช่นปวดร้าวขึ้นขมับปวดหัว
00:30:29 → 00:30:32 มึนหัวทรงตัวไม่อยู่นะคะอันนี้ก็เป็น
00:30:32 → 00:30:36 อาการที่บอกว่าน่าจะต้องมารักษาตัวกล้าม
00:30:36 → 00:30:39 เนื้อตรงนี้แล้วนะคะแล้วก็ถ้าปวดตึงคอบ่า
00:30:39 → 00:30:42 ไหล่เรื้อรังแบบแป๊บๆก็เป็นแป๊บๆก็เป็น
00:30:42 → 00:30:45 สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังดูก็คือมีกระดูกต้น
00:30:45 → 00:30:47 คอเสื่อมหรือมีปัญหากระดูกต้นคอด้วยหรือ
00:30:47 → 00:30:49 เปล่านะคะเพราะว่าถ้าเกิดเรากระดูกต้นคอ
00:30:49 → 00:30:52 ไม่แข็งแรงกล้ามเนื้อมันก็จะตึงตัวง่ายนะ
00:30:52 → 00:30:55 คะเนาะอาจจะต้องไปเช็คดูนะคะเพื่อรักษา
00:30:55 → 00:30:57 ให้หายนะคะ
00:30:57 → 00:30:59 อ่า
00:30:59 → 00:31:03 มีคำถามอีกไหมคะกินของทอดบ่อยๆทำให้เวียน
00:31:03 → 00:31:07 หัวได้ไหมคะเอ่อบางทีกินของทอดของมันก็
00:31:07 → 00:31:10 กระตุ้นอาการได้นะคะหรืออีกอันนึงเลยคือ
00:31:10 → 00:31:15 พวกผงชูรสเยอะๆนะคะเรามีคำเรียกว่าเป็น
00:31:15 → 00:31:17 chinese restaurant Syndrome ก็คือ
00:31:17 → 00:31:21 เป็นโรคของอาหารจีนเพราะว่า chinese
00:31:21 → 00:31:23 restaurant เขาจะเด่นเรื่องว่าแบบใส่ผง
00:31:23 → 00:31:26 ชูรสเยอะอะไรอย่างนี้นะคะคนไข้ที่กินแบบ
00:31:26 → 00:31:29 ผงชูรสเยอะๆของทอดของมันเยอะๆบางทีก็จะมา
00:31:29 → 00:31:32 ด้วยรู้สึกมันอึดอัดหายใจไม่สะดวกนะคะใจ
00:31:32 → 00:31:35 สั่นเวียนหัวเหมือนหัวได้เหมือนกันนะคะ
00:31:35 → 00:31:37 วิธีแก้ก็คือก็ต้องเลี่ยงแล้วถ้ากินไป
00:31:37 → 00:31:40 แล้วแล้วมีอาการเนาะก็พยายามดื่มน้ำเข้า
00:31:40 → 00:31:43 ไปเยอะๆช่วยได้นะคะก็คือกินน้ำตามเขาไป
00:31:43 → 00:31:46 เยอะๆเพื่อให้มันเหมือนขับออกมานะคะเนาะ
00:31:46 → 00:31:48 แล้วก็นอนพักนะคะ
00:31:48 → 00:31:51 ไขมันสูงส่งผลให้มึนๆงงๆปวดท้ายทอยได้ไหม
00:31:51 → 00:31:54 คะอันนี้เป็นคำถามบ่อยมากเลยว่าเวลาปวด
00:31:54 → 00:31:58 หัวมาเนี่ยมึนๆเนี่ยรู้สึกว่าไขมันไปอุด
00:31:58 → 00:32:00 ตันเส้นเลือดนะคะซึ่งจริงๆเนี่ย
00:32:00 → 00:32:04 ต้องบอกว่าเวลาไขมันมันไปเกาะตามเส้น
00:32:04 → 00:32:07 เลือดที่เกิดเป็นเหมือนหินปูนเนี่ยเราไม่
00:32:07 → 00:32:11 มีอาการนะคะการที่เราปวดหัวมึนหัวส่วน
00:32:11 → 00:32:13 ใหญ่มันเป็นสาเหตุมาจากอื่นๆมากกว่านะคะ
00:32:13 → 00:32:16 เป็นจากกล้ามเนื้อตึงปวดกระดูกต้นคอนอน
00:32:16 → 00:32:20 ไม่พออดนอนมากกว่าการไข่มันสูงเองไม่ได้
00:32:20 → 00:32:23 ทำให้มีอาการเหล่านี้โดยตรงนะคะแต่ไขมัน
00:32:23 → 00:32:25 สูงเนี่ยมันจะเหมือนมันเป็นหินปูนที่มัน
00:32:25 → 00:32:28 ไปเกาะตามหลอดเลือดเราสะสมไปทีละเลขทีละ
00:32:28 → 00:32:31 น้อยทีละเล็กทีละน้อยวันนึงถ้าหินปูนมัน
00:32:31 → 00:32:35 หลุดแล้วอุดเส้นเลือดหรือไขมันมันมากพอจน
00:32:36 → 00:32:38 ทำให้เลือดมันไปเลี้ยงสมองไม่พออันนั้นคน
00:32:38 → 00:32:40 ไข้จะมาด้วยอาการของเส้นเลือดสมองตีบ
00:32:40 → 00:32:43 เฉียบพลันนะคะก็จะมาด้วยชาแขนขาอ่อนแรงนะ
00:32:43 → 00:32:46 คะลิ้นแข็งพูดไม่ชัดส่วนใหญ่ไม่ค่อยมา
00:32:46 → 00:32:50 ด้วยอาการปวดท้ายทอยนะคะเนาะ
00:32:50 → 00:32:53 ผมเวียนหัวปวดหัวกินอะไรไม่ได้อ้วกออกหมด
00:32:53 → 00:32:57 มา 2 วันแล้วครับอันนี้ต้องดูสาเหตุถ้า
00:32:57 → 00:33:00 เกิดไม่เคยเป็นอะไรมาก่อนเลยนะคะเป็น
00:33:00 → 00:33:02 ครั้งแรกเลยนะคะอาจจะลองไปตรวจดูหน่อย
00:33:02 → 00:33:05 เนาะเพราะว่าเพิ่งเป็นมา 2 วันแล้วปวด
00:33:05 → 00:33:08 ค่อนข้างเยอะมีอาเจียนด้วยนะคะแต่ถ้าเกิด
00:33:08 → 00:33:11 เป็นสาเหตุที่แบบเป็นอยู่แล้วนะคะเป็นๆ
00:33:11 → 00:33:13 หายๆอยู่แล้วเป็นอาการบ้านหมุนเวียนหัว
00:33:13 → 00:33:15 ที่เป็นประจำอยู่แล้วนะคะก็อาจจะลองนอน
00:33:15 → 00:33:19 พักดูนะคะกินน้ำเยอะๆเนาะงดอาหารเค็มแล้ว
00:33:19 → 00:33:22 ก็อาจจะลองกินยาปรับการทรงตัวดูนะคะ
00:33:22 → 00:33:25 อีกอันนึงที่เวียนหัวปวดหัวได้แล้วอ้วก
00:33:25 → 00:33:27 เยอะๆก็ต้องระวังจริงๆก็ระวังพวกอาหาร
00:33:27 → 00:33:30 เป็นพิษอะไรอย่างเงี้ยนะคะมันก็ก็ทำให้
00:33:30 → 00:33:32 ปวดหัวเวียนหัวอาเจียนได้หมดเลยเหมือนกัน
00:33:32 → 00:33:34 นะคะเนาะ
00:33:34 → 00:33:36 ชอบปวดหัวเวลาอากาศร้อนออกแดดค่ะเกิดจาก
00:33:36 → 00:33:39 อะไรคะอันนี้อ่าเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นของ
00:33:39 → 00:33:42 อาการปวดหัวแบบไมเกรนได้นะคะส่วนใหญ่คน
00:33:42 → 00:33:45 ไข้ไมเกรนจะกลัวแสงกลัวเสียงนะคะเจออากาศ
00:33:45 → 00:33:48 ร้อนจากแสงแดดร้อนจัดเนี่ยก็ทำให้ปวดหัว
00:33:48 → 00:33:51 ได้ยิ่งถ้าเกิดแบบปวดมากๆปวดข้างเดียวปวด
00:33:51 → 00:33:54 ๆปวดเหมือนเส้นเลือดเต้นมีคลื่นไส้มี
00:33:54 → 00:33:56 อาเจียนด้วยอาจจะมีเวียนหัวบ้านหมุนร่วม
00:33:56 → 00:33:59 ด้วยได้ก็บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นไมเกรนมาก
00:33:59 → 00:34:58 ขึ้นนะคะถ้าเป็นบ่อยๆก็ต้องรักษานะคะ
00:34:58 → 00:35:04 [เพลง]
00:35:04 → 00:35:06 10 นาทีช่วยไมเกรนดีขึ้นด้วยซ้ำนะคะ
00:35:06 → 00:35:08 เพราะยาแก้ปวดไมเกรนหลายๆตัวก็จะมีส่วน
00:35:08 → 00:35:11 ประกอบของคาเฟอีนเนอะแต่เราพบว่าคนไข้
00:35:11 → 00:35:15 ไมเกรนหลายคนบางคนก็กินกาแฟแล้วกระตุ้น
00:35:15 → 00:35:17 อาการปวดไมเกรนก็มีนะคะเพราะฉะนั้นส่วน
00:35:17 → 00:35:20 ใหญ่ก็คือให้สังเกตตัวเองดูถ้าเป็นคนที่
00:35:20 → 00:35:22 ดื่มกาแฟเป็นประจำอยู่แล้วไม่ได้กระตุ้น
00:35:22 → 00:35:25 อาการปวดไมเกรนก็ดื่มได้แต่อย่าดื่มเยอะ
00:35:25 → 00:35:28 นะคะส่วนใหญ่ถ้าดื่มเยอะเกินไปเกินวันละ
00:35:28 → 00:35:31 2-3 แก้วมักจะกลับไปกระตุ้นอาการไมเกรน
00:35:31 → 00:35:35 ได้นะคะหรือบางคนถ้าอาจจะเคยดื่มกาแฟเป็น
00:35:35 → 00:35:38 ประจำอยู่แล้วแล้วอยู่ดีๆหยุดไปอันนั้น
00:35:38 → 00:35:39 อาจจะกระตุ้นอาการไมเกรนได้เหมือนกันนะคะ
00:35:39 → 00:35:42 ส่วนไหนก็อาหารกับไมเกรนก็ต้องลองสังเกต
00:35:42 → 00:35:47 อาการดูในแต่ละคนจะแตกต่างกันไปนะคะ
00:35:47 → 00:35:49 มีปวดคอบ่าไหล่ตลอดเลยค่ะพอยิ่งเห็นแสง
00:35:49 → 00:35:52 มากๆร้อนๆได้ยินเสียงดังๆจะมึนหัวมากเลย
00:35:52 → 00:35:55 ค่ะคลื่นไส้แล้วก็อ้วนต้องรีบหลบไปอยู่ใน
00:35:55 → 00:35:58 ที่มืดๆเงียบๆค่ะเป็นเพราะอะไรหรอคะอัน
00:35:58 → 00:36:01 นี้เป็นอาการของไมเกรนทั้งหมดเลยที่กล่าว
00:36:01 → 00:36:03 มานะคะ
00:36:03 → 00:36:06 เอ่อคนไข้ไมเกรนนะคะสัมพันธ์กับอาการปวด
00:36:06 → 00:36:10 คอบ่าไหล่เยอะมากนะคะแทบว่าจะเจอร่วมกัน
00:36:10 → 00:36:13 เกือบทุกคนเลยนะคะ 1 คือตอนปวดไมเกรนเอง
00:36:13 → 00:36:16 เนี่ยเวลาอาการไมเกรนจะกำเริบจะมีการ
00:36:16 → 00:36:19 หลั่งสารกระตุ้นระบบประสาทนะคะหลั่งสาร
00:36:19 → 00:36:21 สื่อประสาทต่างๆออกมาทำให้กล้ามเนื้อเรา
00:36:21 → 00:36:24 ตึงตัวมากขึ้นคนไข้ที่เป็นไมเกรนหลายคนก็
00:36:24 → 00:36:27 จะบอกเลยว่าช่วงไมเกรนกำเริบคอมันจะไม่
00:36:27 → 00:36:29 ใช่แค่ปวดหัวแต่คอบ่าไหล่จะตึงลงมาถึง
00:36:29 → 00:36:33 ข้างล่างร่วมด้วยเลยนะคะมันก็เลยทำให้คน
00:36:33 → 00:36:36 ไข้ไม่เกรงปวดตึงคอบ่าไหล่เยอะนะคะยิ่ง
00:36:36 → 00:36:39 ถ้าเกิดไมเกรนเป็นบ่อยเท่าไหร่คอบ่าไหล
00:36:39 → 00:36:42 มันก็จะเหมือนปวดตึงบ่อยตามไปด้วยนะคะ
00:36:42 → 00:36:45 หรืออีกอันนึงก็คือคนไข้ไมเกรนก็เป็น
00:36:45 → 00:36:48 ไมเกรนแต่มีออฟฟิศซินโดรมมีกล้ามเนื้อคอ
00:36:48 → 00:36:51 บ่าไหล่ที่ตึงมีกล้ามเนื้อที่ตึงมากๆอยู่
00:36:51 → 00:36:54 แล้วด้วยตัวกล้ามเนื้อตึงเป็นหนึ่งใน
00:36:54 → 00:36:57 กระตุ้นอาการไมเกรนกำเริบได้นะคะนอกเหนือ
00:36:57 → 00:37:00 จากพวกแสงแดดฮอร์โมนประจำเดือนอะไรต่างๆ
00:37:00 → 00:37:04 นะคะฉะนั้นเนี่ยเวลาคนไข้ไมเกรนกำเริบอาจ
00:37:04 → 00:37:07 จะเป็นปวดมาจากคอบ่าไหล่ก็ได้หรือตอน
00:37:07 → 00:37:09 ไมเกรนกำเริบเองก็ทำให้คอบ่าไหล่ตึงมาก
00:37:09 → 00:37:13 ขึ้นและพออาการไมเกรนกำเริบแบบกำเริบ
00:37:13 → 00:37:16 กระตุ้นแบบเราไม่ได้หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น
00:37:16 → 00:37:18 ยังมีการกระตุ้นของการหลั่งสารสื่อประสาท
00:37:18 → 00:37:22 ต่างๆออกมาเนี่ยมันก็จะทำให้มีอาการอื่นๆ
00:37:22 → 00:37:24 ร่วมด้วยโดยเฉพาะเรื่องของอาเจียนคลื่น
00:37:24 → 00:37:29 ไส้นะคะสู้แสงไม่ได้ตาสู้แสงไม่ได้นะคะ
00:37:29 → 00:37:33 เหมือนได้ยินเสียงดังๆไม่ได้กลัวแสงกลัว
00:37:33 → 00:37:36 เสียงนะคะกลิ่นก็จะมากระตุ้นเว้นคนไข้
00:37:36 → 00:37:38 ไมเกรนพออาการกำเริบเลยต้องไปอยู่ที่
00:37:38 → 00:37:43 เงียบๆนะคะมืดๆหลบแสงนะคะจะทำให้อาการหาย
00:37:43 → 00:37:46 เร็วขึ้นนะคะหรือบางคนก็อาจจะใช้ประคบ
00:37:46 → 00:37:49 เย็นนะคะเอามาประคบบริเวณที่ปวดเพื่อช่วย
00:37:49 → 00:37:52 ให้หลอดเลือดหดตัวก็ลดอาการปวดไมเกรนได้
00:37:52 → 00:37:54 นะคะเวลาไมเกรนกำเริบถูกต้องแล้วค่ะที่
00:37:54 → 00:37:57 ต้องไปอยู่ในที่เงียบๆมืดๆสักพักนึงนะคะ
00:37:57 → 00:38:00 แล้วก็อาจจะประคบเย็นแล้วก็ถ้าเกิดปวดมาก
00:38:00 → 00:38:02 ไม่ไหวจริงๆก็อาจจะต้องทานยาแก้ปวดนอนพัก
00:38:02 → 00:38:07 ตื่นมามักจะดีขึ้นนะคะ
00:38:07 → 00:38:10 ช่วงนี้เป็นฉี่มากเลยค่ะเป็นทุกวันก็คือ
00:38:10 → 00:38:13 อาการไมเกรนใช่ไหมคะถ้าเป็นอาการไมเกรน
00:38:13 → 00:38:15 เป็นถี่ทุกวันอาจจะต้อง
00:38:15 → 00:38:19 ปรึกษาคุณหมอนะคะคือถ้าเกิดอาการไมเกรน
00:38:19 → 00:38:23 ไมเกรนเป็นเยอะมากเป็นกันเยอะมากนะคะใน
00:38:23 → 00:38:27 ช่วงวัย 20-40 หรือไปถึง 50 ปีนะคะเป็น
00:38:27 → 00:38:30 กันได้ทุกคนเกือบทุกคนผู้หญิงประมาณ 10
00:38:30 → 00:38:33 คนก็จะเป็นไปแล้วสักประมาณ 30% นะคะแต่
00:38:33 → 00:38:35 ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องมาเจอหมอเนอะส่วนใหญ่
00:38:35 → 00:38:37 ถ้าเป็นนานๆทีเป็นทีโปรดเดือนละครั้งหลาย
00:38:37 → 00:38:40 ๆเดือนปวดครั้งนึงอันนี้รักษาโดยการหลีก
00:38:40 → 00:38:42 เลี่ยงปัจจัยกระตุ้นนะคะหรือว่าอะไร
00:38:42 → 00:38:44 กระตุ้นไมเกรนเราพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้
00:38:44 → 00:38:46 มากที่สุดนะคะมีอาการกำเริบขึ้นมาก็
00:38:46 → 00:38:49 ปฏิบัติตัวอย่างที่บอกนะคะอาจจะทานยาแก้
00:38:49 → 00:38:51 ปวดเป็นครั้งคราวแต่ถ้าเมื่อไรที่ไมเกรน
00:38:51 → 00:38:54 ตรวจทุกวันปวดเกินเดือนละประมาณ 4 ครั้ง
00:38:54 → 00:38:57 ทานยาแก้ปวดเยอะเดือนนึงเกินประมาณ 10
00:38:57 → 00:39:01 เม็ดหรือ 15 เมตรนะคะเต็มที่อันนี้ถือว่า
00:39:01 → 00:39:04 เป็นไมเกรนที่ควบคุมไม่ได้นะคะจะต้องมา
00:39:04 → 00:39:06 รักษาโดยการใช้ยาป้องกันไมเกรนแทนนะคะ
00:39:06 → 00:39:09 เดี๋ยววันหลังจะมาไลฟ์เรื่องนี้ให้ฟังอีก
00:39:09 → 00:39:12 ทีนึงนะคะเนาะถ้าช่วงนี้เป็นถี่มากทุกวัน
00:39:12 → 00:39:15 ไปหาคุณหมอนะคะอย่าทนนะคะ
00:39:15 → 00:39:17 อ่าไมเกรนเป็นโรคที่รักษาง่ายมากนะคะถ้า
00:39:17 → 00:39:19 เกิดอาการรักษาให้ถูกต้องนะคะเนาะจะได้
00:39:19 → 00:39:22 ไม่ต้องทนปวดหัวแล้วก็อ่ารักษาปวดคอบ่า
00:39:22 → 00:39:27 ไหล่ร่วมไปด้วยอาการก็จะดีขึ้นนะคะ
00:39:27 → 00:39:29 สวัสดีครับคุณหมอผมเป็นคนป่วยที่พาสมอง
00:39:30 → 00:39:33 จากเลือดคั่งในสมองทำไมถึงชอบคิดมากไปเอง
00:39:33 → 00:39:36 และช่วยได้ไหมครับคนไข้ที่เคยมีการบาด
00:39:36 → 00:39:39 เจ็บทางสมองมาค่ะไม่ว่าจะเป็นเลือดออกรถ
00:39:39 → 00:39:43 ชนหัวหรือเป็นการบาดเจ็บสมองเยอะๆโดยที่
00:39:43 → 00:39:46 อาจจะไม่มีเลือดคั่งก็ได้นะคะมักจะมี
00:39:46 → 00:39:49 ปัญหาเรื่องของอารมณ์ร่วมด้วยได้นะคะก็
00:39:49 → 00:39:53 อาจจะมีปวดหัวเรื้อรังได้มีอารมณ์ที่ผิด
00:39:53 → 00:39:58 ปกติร่วมด้วยได้นะคะเนอะส่วนหนึ่งก็คือก็
00:39:58 → 00:39:58 ต้อง
00:39:58 → 00:40:01 ง่ายที่สุดนะคะคือเราก็ต้องพยายามลดความ
00:40:01 → 00:40:04 เครียดด้วยตัวเราเองก่อนนะคะน้องแบบอ่า
00:40:04 → 00:40:05 พยายาม
00:40:05 → 00:40:10 ถ้าไปออกกำลังกายนะคะหาวิธีกับจัดการกับ
00:40:10 → 00:40:11 ความเครียดหรือว่ารู้ว่าเราเริ่มคิดเยอะ
00:40:11 → 00:40:14 เรื่องนั้นละนะคะเราก็พยายามดึงตัวเองออก
00:40:14 → 00:40:16 มานะคะวิธีง่ายที่สุดไปออกกำลังกายให้
00:40:16 → 00:40:18 สม่ำเสมอนะคะการออกกำลังกายจะช่วยหลั่ง
00:40:18 → 00:40:21 สารต่างๆที่ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นคิดน้อย
00:40:21 → 00:40:24 ลงนอนหลับก็ดีขึ้นนะคะถ้าปฏิบัติด้วยตัว
00:40:24 → 00:40:26 เองแล้วมันยังไม่ดีขึ้นจริงๆอาจจะต้อง
00:40:26 → 00:40:28 ปรึกษาคุณหมออีกทีนึงนะคะว่าจะต้องใช้ยา
00:40:28 → 00:40:31 ร่วมด้วยหรือเปล่านะคะเนาะแต่มันก็เป็น
00:40:31 → 00:40:33 อาการที่เป็นผลพวงมาจากการที่เราเคยมี
00:40:33 → 00:40:36 เลือดข้างในสมองได้เหมือนกันนะคะ
00:40:36 → 00:40:39 ปวดหัวข้างเดียวทุกเดือนเลยค่ะวันนี้ลา
00:40:39 → 00:40:42 งานก็เลยได้มาเจอ Live คุณหมอยินดีนะคะ
00:40:42 → 00:40:44 ถ้าเป็นปวดหัวข้างเดียวทุกเดือนเราวาง
00:40:44 → 00:40:47 เป็นไมเกรนนะคะลองดูว่ามีปัจจัยกระตุ้น
00:40:47 → 00:40:50 อะไรหรือเปล่านะคะเช่นประจำเดือนนะคะความ
00:40:50 → 00:40:52 เครียดอดนอนกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงนะคะ
00:40:52 → 00:40:55 ถ้าเป็นมากๆเป็นบ่อยๆแนะนำให้ลองปรึกษา
00:40:55 → 00:40:59 คุณหมอนะคะเพื่อการรักษานะคะเราจะเป็นการ
00:40:59 → 00:41:01 รักษาป้องกันไมเกรนได้อย่างถูกต้องจะได้
00:41:01 → 00:41:03 ไม่ต้องทนว่าแบบทุกเดือนเราต้องปวดหัวแน่
00:41:03 → 00:41:07 ๆนะคะการกินยารักษาไมเกรนมันจะช่วยให้ลด
00:41:07 → 00:41:11 ความถี่ของการปวดหัวลดความรุนแรงตรวจมา
00:41:11 → 00:41:14 แล้วก็ไม่รุนแรงเท่าเดิมนะคะหรืออาจจะแบบ
00:41:14 → 00:41:16 ปกติปวดหัวแล้วก็ต้องลางานทุกครั้งนะคะ
00:41:16 → 00:41:19 ถ้าเรารักษาได้ดีได้ถูกต้องเนี่ยก็อาจจะ
00:41:19 → 00:41:23 ไม่กระทบกับการทำงานด้วยนะคะ
00:41:23 → 00:41:25 ปวดไมเกรนทำให้เส้นเลือดสมองตีบได้ไหมคะ
00:41:25 → 00:41:28 เป็นคำถามที่เจอบ่อยเหมือนกันเลยค่ะคือ
00:41:28 → 00:41:32 หลายคนชอบเข้าใจว่าเป็นไมเกรนมันปวดจาก
00:41:32 → 00:41:35 หลอดเลือดแล้วมันจะส่งผลให้สมองเส้นเลือด
00:41:35 → 00:41:38 สมองเราตีบนะคะปัจจุบันยังไม่มีรายงานนะ
00:41:38 → 00:41:41 คะว่าคนเป็นไมเกรนพอติดตามไปแล้วจะเสี่ยง
00:41:41 → 00:41:44 เป็นเรื่องเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกมาก
00:41:44 → 00:41:47 กว่าคนปกตินะคะไม่ได้สัมพันธ์กันนะคะแต่
00:41:47 → 00:41:49 ก็พบว่าคนไข้ไมเกรนที่ปวดบ่อยๆหรือไม่ได้
00:41:49 → 00:41:53 รักษาให้ดีนะคะพวกนี้พออายุมากขึ้นไปทำ
00:41:53 → 00:41:56 MRI สมองบางทีเราจะเจอความผิดปกติของพวก
00:41:56 → 00:41:59 หลอดเลือดเล็กๆอ่ะค่ะได้แบบเห็นเป็นจุดๆ
00:41:59 → 00:42:02 ขาวๆเล็กๆได้มากกว่าคนทั่วไปแต่ไม่ได้มี
00:42:02 → 00:42:05 ความสำคัญทางคลินิกอะไรนะคะว่าว่ามันจะทำ
00:42:05 → 00:42:07 ให้เกิดอาการเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกอะไร
00:42:07 → 00:42:10 นะคะเนาะแต่ก็เป็นสัญญาณบอกว่าอ่ะงั้นถ้า
00:42:10 → 00:42:12 เราเป็นไมเกรนแล้วเป็นบ่อยใช้ยาแก้ปวด
00:42:12 → 00:42:15 เยอะเป็นบ่อยๆเป็นถี่ๆก็แนะนำให้รักษาดี
00:42:15 → 00:42:17 กว่าเพราะว่าไมเกรนมันก็เป็นโรคสมองอย่าง
00:42:17 → 00:42:20 นึงนะคะที่ที่มันไม่ใช่แค่แบบว่าเราอดนอน
00:42:20 → 00:42:21 หรือเราเครียดแล้วมันเป็นไปเองอ่ะค่ะมัน
00:42:21 → 00:42:24 มีการหลั่งสารสื่อประสาทาทต่างๆออกมาใน
00:42:24 → 00:42:27 ช่วงที่เราปวดไมเกรนนะคะงั้นมันก็ส่งผล
00:42:27 → 00:42:30 อื่นๆตามมาได้ยิ่งถ้าเกิดปล่อยให้ปวดบ่อย
00:42:30 → 00:42:32 เป็นบ่อยสมองถูกกระตุ้นบ่อยๆมันก็จะยิ่ง
00:42:32 → 00:42:37 เป็นมากขึ้นเป็นถี่ขึ้นนะคะ
00:42:37 → 00:42:40 เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าโรคไมเกรนคือโรคของ
00:42:40 → 00:42:42 คนรวยค่ะแต่พอตัวเองป่วยอ้าวไม่เลือก
00:42:42 → 00:42:46 ทรมานเพราะอาการเล่นเบ้าตาได้ค่ะจริงๆ
00:42:46 → 00:42:49 ไมเกรนเกิดได้กับทุกคนนะคะจริงๆปัจจัย
00:42:49 → 00:42:52 เสี่ยงของไมเกรนที่จะเจอบ่อยๆเลยก็คือจะ
00:42:52 → 00:42:54 เป็นในกลุ่มช่วงผู้หญิงนะคะผู้หญิงเจอ
00:42:54 → 00:42:57 บ่อยกับผู้ชายเนาะ
00:42:57 → 00:43:01 แล้วก็เจอบ่อยในช่วงอายุช่วงวัยเรียนส่วน
00:43:01 → 00:43:03 ใหญ่เป็นมนุษย์คนส่วนใหญ่เริ่มเป็นกันก็
00:43:03 → 00:43:05 วัยเรียนมหาลัยนะคะประมาณสัก 20 ปีถึง
00:43:05 → 00:43:09 เป็นช่วงประมาณ 40 กว่า 50 จนกว่าพอประจำ
00:43:09 → 00:43:12 เดือนหมดก็มักจะดีขึ้นนะคะเกิดได้กับทุก
00:43:12 → 00:43:16 คนนะคะซึ่งเจอได้ประมาณสักประมาณ 20% 30%
00:43:16 → 00:43:19 ของคนวัยนี้นะคะเพราะฉะนั้นก็เป็นอะไรที่
00:43:19 → 00:43:21 เจอบ่อยมากถามว่าแล้วใครมีความเสี่ยงบ้าง
00:43:21 → 00:43:24 ส่วนนึงก็คืออาจจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม
00:43:24 → 00:43:26 นะคะถ้ามีประวัติครอบครัวมีคุณแม่เป็นมี
00:43:26 → 00:43:29 พี่สาวมีพี่น้องเป็นเนี่ยก็มีโอกาสที่เรา
00:43:29 → 00:43:31 ก็จะอาจจะเป็นมากขึ้นนะคะเพราะมันเป็น
00:43:31 → 00:43:33 ความไวของสมองต่อตัวกระตุ้นบางอย่างนะคะ
00:43:33 → 00:43:36 เนาะอีกอันนึงก็คือเรื่องของการใช้ชีวิต
00:43:36 → 00:43:38 ของเราเนี่ยล่ะค่ะไมเกรนถ้าเกิดเราใช้
00:43:38 → 00:43:42 ชีวิตให้อยู่ในสภาวะที่มันพร้อมที่ไมเกรน
00:43:42 → 00:43:45 จะถูกกระตุ้นนะคะเช่นเครียดนะคะทำงานหนัก
00:43:45 → 00:43:51 ทำเยอะเกินไปอดนอนนอนดึกนะคะใช้สมองเยอะๆ
00:43:51 → 00:43:55 หรืออยู่ที่กลางแจ้งตากแดดบ่อยๆนะคะอยู่
00:43:55 → 00:43:59 ในสภาวะที่มันเครียดมากๆมันก็มีโอกาสที่
00:43:59 → 00:44:02 จะทำให้ไมเกรนเรากำเริบขึ้นได้นะคะงั้น
00:44:02 → 00:44:04 เราก็ต้องพยายามใช้ชีวิตให้ให้หลีกเลี่ยง
00:44:04 → 00:44:07 ปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้เนาะอาจจะต้อง
00:44:07 → 00:44:10 พยายามไม่หลีกอ่าไม่เจอแสงแดดจ้าเกินไปนะ
00:44:10 → 00:44:12 คะพยายามนอนให้เป็นเวลาอย่านอนดึกเกินไป
00:44:12 → 00:44:15 นะคะแล้วก็ทานอาหารที่มีประโยชน์หลีก
00:44:15 → 00:44:17 เลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้นนะคะออกกำลังกาย
00:44:17 → 00:44:21 ก็ช่วยลดอาการไมเกรนได้นะคะ
00:44:21 → 00:44:24 เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าโรคไม่ใช่ค่ะไปแล้ว
00:44:24 → 00:44:28 กินยาแก้ปวดมาได้ 20 ปีแล้วค่ะอันนี้
00:44:28 → 00:44:30 เหมือนเป็นคลิปไมเกรนไปแล้ว
00:44:30 → 00:44:35 จริงๆแต่จริงๆคนไข้เวียนหัวมาด้วยมึน
00:44:35 → 00:44:37 ศีรษะแล้วมาเจอว่าจริงๆสาเหตุจากไมเกรน
00:44:37 → 00:44:42 เยอะนะคะก็ก็แบบเจอบ่อยส่วนไหนมาหาหมอที่
00:44:42 → 00:44:45 แบบเวียนหัวไม่หายมึนหัวไม่หายเนี่ยก็จะ
00:44:45 → 00:44:47 เนี่ยที่หมอบอกไปเนาะกล้ามเนื้อคอตึง
00:44:47 → 00:44:50 ไมเกรนแล้วก็สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องของพวก
00:44:50 → 00:44:52 การนอนนะคะความเครียดอดนอนนอนไม่พอหรือ
00:44:52 → 00:44:56 นอนกรนอะไรต่างๆฉะนั้นวันนี้ก็เลยอาจจะ
00:44:56 → 00:44:58 แบบมีคนไมเกรนที่แบบมีเวียนหัวเวียนหัว
00:44:58 → 00:45:02 เยอะนะคะก็ก็เหมือนได้ตอบเรื่องไมเกรนไป
00:45:02 → 00:45:05 ด้วยเลยนะคะกินยาแก้ปวดมา 20 ปีอันนี้
00:45:05 → 00:45:08 เข้าข่ายปวดหัวจากยาแก้ปวดแล้วนะคะเนาะ
00:45:08 → 00:45:11 ส่วนใหญ่ถ้าเกิดกินยาแก้ปวดเกินจริงๆคือ
00:45:11 → 00:45:13 เกิน 3 เดือนถือว่าเยอะแล้วนะคะโดยที่แบบ
00:45:13 → 00:45:16 3 เดือนนั้นเกินไปถ้าเป็นกลุ่มแก้ปวด
00:45:16 → 00:45:19 ทั่วไปเช่นแบบพาราเซตามอลกลุ่มเอ็นเสกที่
00:45:19 → 00:45:23 เป็นพวกแบบเอ่อไอบูโพรเฟนอะไรยาทั่วๆไป
00:45:23 → 00:45:25 อ่ะค๊อกเซียเซเลอร์คิดอะไรพวกนี้นะคะเรา
00:45:25 → 00:45:28 อาจจะได้ถึง 15 เมตรต่อเดือนแต่ว่าถ้า
00:45:28 → 00:45:34 เกิดเป็นยาแก้ปวดไมเกรนนะคะเช่นพวก
00:45:34 → 00:45:38 ต่างๆกลุ่มพวกนี้ 10 เมตรต่อเดือนเราก็
00:45:38 → 00:45:40 ถือว่าเยอะและนะคะแล้วเกิน 3 เดือนเนี่ย
00:45:40 → 00:45:43 ก็จะถือว่าเป็นมีความเสี่ยงที่จะเป็นปวด
00:45:43 → 00:45:45 หัวจากยาแก้ปวดที่เยอะเกินไปละอันนี้จะ
00:45:45 → 00:45:48 ไม่ใช่คนไข้ไมเกรนธรรมดาละเราอาจจะรู้สึก
00:45:48 → 00:45:50 ว่ามันไม่ได้มีตัวกระตุ้นเหมือนไมเกรน
00:45:50 → 00:45:53 อื่นๆแล้วเป็นแบบเจอแดดแล้วต้องปวดหัวแต่
00:45:53 → 00:45:55 ถ้าคนไข้ที่กินยาแก้ปวดมานานๆแล้วมีปวด
00:45:55 → 00:45:57 หัวจากยาแก้ปวดอาการปวดจะเปลี่ยนแปลงไป
00:45:57 → 00:46:00 เช่นตื่นมาก็ปวดเลยปวดก็อาจจะเป็นแบบปวด
00:46:00 → 00:46:02 มึนๆไม่ได้ปวดข้างเดียวเหมือนเดิมแล้วปวด
00:46:02 → 00:46:05 ทั้งศีรษะทั้ง 2 ข้างก็ได้นะคะถ้าเขาขาย
00:46:06 → 00:46:08 เป็นกลุ่มนี้แนะนำให้มารักษาเพราะว่าการ
00:46:08 → 00:46:10 ทานยาป้องกันจะช่วยให้เราเลิกยาแก้ปวดได้
00:46:10 → 00:46:13 นะคะการทานยาแก้ปวดนานๆก็จะมีผลเสียมาก
00:46:13 → 00:46:17 กว่านะคะเนาะ
00:46:17 → 00:46:20 เอ่ออย่ามาหาคุณหมอไปหาได้ที่ไหนนะคะ
00:46:20 → 00:46:22 เดี๋ยวพิมพ์ไว้ในคอมเมนต์ให้นะคะว่าหมอ
00:46:22 → 00:46:27 ออกตรวจที่ไหนบ้างนะคะก็เอ่อเวียนหัวช่วง
00:46:27 → 00:46:31 ก่อนนอนและช่วงเช้าตื่นนอนเกิดจากอะไรคะ
00:46:31 → 00:46:33 คุณหมอ
00:46:33 → 00:46:36 เวียนหัวช่วงก่อนนอนและช่วงเช้าตื่นนอน
00:46:36 → 00:46:41 ลองสังเกตว่าเป็นจาก 1 ส่วนใหญ่ที่เจอ
00:46:41 → 00:46:43 บ่อยจะเป็นได้ 2 เรื่องอันแรกคือเกี่ยว
00:46:43 → 00:46:47 กับท่าทางนะคะเช่นคนที่มีความเสี่ยงที่จะ
00:46:47 → 00:46:49 เป็นปัญหาบ้านหมุนจากพวกน้ำในหูไม่เท่า
00:46:49 → 00:46:52 กันหินปูนหลุดอยู่แล้วเนี่ยตอนจะชอบมี
00:46:52 → 00:46:56 ปัญหาตอนนอนแบบช่วงที่เราเหมือนรบตัวลง
00:46:56 → 00:46:59 นอนเปลี่ยนเปลี่ยนศีรษะเร็วๆอ่ะค่ะหรือ
00:46:59 → 00:47:01 ว่าแบบนอนๆอยู่แล้วลุกขึ้นมาเร็วๆค่ะชอบ
00:47:01 → 00:47:03 ทำให้มีอาการเวียนหัวอันนี้เป็นได้
00:47:03 → 00:47:05 อาทิตย์นึงนะคะอันที่ 2 ก็คืออาจจะเกี่ยว
00:47:06 → 00:47:08 กับกล้ามเนื้อนะคะเพราะว่าช่วงเวลานอน
00:47:08 → 00:47:11 หรือช่วงตื่นมาเนี่ยบางทีเราเผลอเกร็ง
00:47:11 → 00:47:14 กล้ามเนื้อไม่รู้ตัวพอมันตึงมากๆอ่ะค่ะ
00:47:14 → 00:47:17 มันก็ทำให้เรารู้สึกมึนศีรษะเวียนศีรษะ
00:47:17 → 00:47:20 ได้เหมือนกันนะคะหรืออีกอันนึงคือเกี่ยว
00:47:20 → 00:47:23 กับความดันนะคะช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้าบาง
00:47:23 → 00:47:25 ทีอาจจะมีความดันโลหิตที่สูงถ้าสมมุติว่า
00:47:25 → 00:47:27 เราเป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้วอาจจะ
00:47:27 → 00:47:30 ต้องลองวัดความเนาะความดันช่วงเช้าดูที
00:47:30 → 00:47:32 นึงว่าความดันขึ้นเยอะมากเกินไปหรือเปล่า
00:47:32 → 00:47:36 ถ้าเกินประมาณแบบ 180 ตัวบน 180 ตัวละ 110
00:47:36 → 00:47:38 ก็อาจจะมีอาการมึนเวียนศีรษะจากความดัน
00:47:38 → 00:47:42 โลหิตที่สูงมากๆได้เหมือนกันค่ะ
00:47:42 → 00:47:44 ตอนนี้ผมรักษาอาการหลอดเลือดสมองอยู่
00:47:44 → 00:47:46 builleding covernoma แต่ตอนนี้บาง
00:47:46 → 00:47:49 ครั้งเวลาผมก้มทำงานจะมีอาการวูบก่อนจะ
00:47:49 → 00:47:54 วูบจะหวิวๆที่หัวใจและหลัง
00:47:54 → 00:47:58 และหลังจากหายวูบจะมีอาการมึนและตึงรวม
00:47:58 → 00:48:02 ถึงมีอาการร้อนและชาที่แขนซ้ายอาการแบบ
00:48:02 → 00:48:05 นี้เกี่ยวกับสมองหรือหัวใจคับ
00:48:05 → 00:48:09 ถ้าเกิดเป็นอาการวูบนะคะ
00:48:09 → 00:48:13 จริงๆอาการวูบเนี่ยเราจะแย่จริงๆหลักๆเรา
00:48:13 → 00:48:16 ก็จะแยก 2 2 เรื่องล่ะค่ะเนาะส่วนใหญ่ก็
00:48:16 → 00:48:18 จะเป็นอาการมาจากหัวใจหรือเปล่าหรือเป็น
00:48:18 → 00:48:20 สัตว์สมองหรือเปล่าสมองเรื่องวูบก็คือเรา
00:48:20 → 00:48:22 จะกลัวเรื่องชักนะคะ
00:48:22 → 00:48:26 ถ้าถ้าเกิดจากที่เล่าอาการแบบนี้มีอาการ
00:48:26 → 00:48:29 หวิวๆมาก่อนนะคะอาจจะเป็นแนววูบจากหัวใจ
00:48:30 → 00:48:32 มากกว่านะคะเราเรียกว่าซินโคบี้เนาะคือ
00:48:32 → 00:48:35 เหมือนอาการหน้ามืดนะคะต้องลองดูว่ามี
00:48:35 → 00:48:39 อาการใจสั่นหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือมีแบบ
00:48:39 → 00:48:42 ภาวะอื่นๆที่จะทำให้ไปกระตุ้นอาการหน้า
00:48:42 → 00:48:45 มืดจากหัวใจได้หรือเปล่าเช่นไอจามเบ่ง
00:48:45 → 00:48:47 อะไรอย่างนี้ค่ะอันนี้อาจจะต้องลองไปเช็ค
00:48:47 → 00:48:50 กับคุณหมอหัวใจดูอีกทีนึงนะคะส่วนถ้าเกิด
00:48:50 → 00:48:52 เป็นวูบจากสมองเนี่ยก็คือจะระวังเรื่อง
00:48:52 → 00:48:55 ชักซึ่งถ้าเกิดมี bedding covernoma
00:48:55 → 00:48:58 อยู่แล้วอาจจะต้องดูตำแหน่งนะคะอาจจะมี
00:48:58 → 00:49:00 ความเสี่ยงว่าอาจจะมีอาการชักได้หรือ
00:49:00 → 00:49:03 เปล่านะคะแต่ถ้าเป็นอาการที่ผู้ป่วยสติไป
00:49:03 → 00:49:06 แล้วชักเนี่ยคนไข้ส่วนใหญ่มักจะต้องมี
00:49:06 → 00:49:09 อาการหมดสติร่วมด้วยแบบหลักเป็นนาทีเนาะ
00:49:09 → 00:49:11 ถ้าเป็นรูปแบบเป็นหลักวินาทีส่วนใหญ่จะมา
00:49:11 → 00:49:14 จากหัวใจมากกว่านะคะแต่ถ้าเกิดเป็นชัก
00:49:14 → 00:49:17 เนี่ยส่วนใหญ่จะต้อง 1 มีอาการพอหลังจาก
00:49:17 → 00:49:19 วูบไปและเหมือนหมดสติไปแล้วตื่นมาอาจจะ
00:49:19 → 00:49:22 รู้สึกเบลอๆเหมือนเหมือนเราเหมือนเราดึง
00:49:22 → 00:49:24 ปลั๊กคอมออกอ่ะค่ะแล้วก็พอเสียบปลั๊กเข้า
00:49:24 → 00:49:26 ไปใหม่กว่าจะรีสตาร์ทเครื่องเนี่ยมันจะ
00:49:26 → 00:49:29 ใช้เวลาสักพักนึงเป็นหลักประมาณนาทีนะคะ
00:49:29 → 00:49:32 แล้วก็อาจจะเห็นว่ามีเกร็งมีกระตุกอะไร
00:49:32 → 00:49:36 ร่วมด้วยได้นะคะคิดว่าอาการนี้น่าจะต้อง
00:49:36 → 00:49:39 ไปตรวจเพิ่มเติมนะคะเนาะน่าจะไม่สามารถ
00:49:39 → 00:49:41 บอกทางนี้ได้ว่าเป็นสัตว์อะไรแต่ว่าส่วน
00:49:41 → 00:49:44 ใหญ่ก็จะมีสาเหตุที่ต้องไปตรวจก็จะแยกกัน
00:49:44 → 00:49:47 จาก 2 2 สาเหตุหลักๆอันนี้ล่ะค่ะเนาะอ่า
00:49:47 → 00:49:51 ไปตรวจเพิ่มเติมดีกว่านะคะ
00:49:51 → 00:49:54 เป็นไปได้ไหมคะปวดหัวมากๆจะทำให้แขนขา
00:49:54 → 00:49:58 อ่อนแรงส่วนใหญ่คือถ้าปวดหัวมากๆนะคะ
00:49:58 → 00:50:01 ปวดจนแบบบางทีเรารู้สึกว่าเราแบบมีคลื่น
00:50:01 → 00:50:05 ไส้อาเจียนนะคะแบบบางคนที่เคยเจอก็คือปวด
00:50:05 → 00:50:08 จนเหมือนแบบบางทีเป็น Panic ไปเลยก็คือพอ
00:50:08 → 00:50:10 มันปวดหัวเยอะมากมันไปกระตุ้นอาการระบบ
00:50:10 → 00:50:13 ประสาทอัตโนมัติเราเยอะๆอ่ะค่ะทำให้เรา
00:50:13 → 00:50:17 รู้สึกว่าเราตื่นเต้นใจสั่นมือชาเท้าชา
00:50:17 → 00:50:20 หรือรู้สึกว่าแขนขาสองข้างไม่มีแรงไปเลย
00:50:20 → 00:50:23 นะคะอันนี้ก็เป็นหนึ่งในอาการที่เจอได้
00:50:23 → 00:50:25 เหมือนกันคือบางทีหมอเจอแบบคนไข้ปวดหัว
00:50:25 → 00:50:27 เยอะๆอ่ะค่ะแล้วมันกลายเป็นว่าเขาอ่ะ
00:50:27 → 00:50:31 กังวลกับอาการปวดหัวนี้ไปเลยว่ามันจะมา
00:50:31 → 00:50:33 เมื่อไหร่นะคะแล้วสุดท้ายแบบพอเวลามันมา
00:50:33 → 00:50:35 จริงๆอ่ะมันเป็นกระตุ้นอาการกลัวอาการ
00:50:35 → 00:50:38 ระบบประสาทอัตโนมัติทำให้เกิดเป็น Panic
00:50:38 → 00:50:40 ตามมาก็คือเหมือนไม่มีแรง 2 ข้างไปเลยก็
00:50:40 → 00:50:43 ได้นะคะหรือเป็นผลข้างเคียงจากยาแก้ปวดก็
00:50:43 → 00:50:46 ได้นะคะบางทีคนไข้เป็นไมเกรนแล้วเวลากิน
00:50:46 → 00:50:49 ยาแก้ปวดบางตัวค่ะจะรู้สึกว่าเหมือนพอกิน
00:50:49 → 00:50:52 เสร็จอ่ะแขนขา 2 ข้างมันไม่มีแรงไปเลยก็
00:50:52 → 00:50:56 ได้นะคะหรือในไมเกรนถ้าเป็นข้างเดียวใน
00:50:56 → 00:50:59 ไมเกรนไมเกรนบางชนิดสามารถแบบมีไมเกรน
00:50:59 → 00:51:02 แล้วมีแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วยได้นะคะโดย
00:51:02 → 00:51:05 เฉพาะกลุ่มที่เป็นพันธุกรรมนะคะบางทีเรา
00:51:05 → 00:51:08 ก็จะเจอคนไข้ไมเกรนปวดหัวมาปุ๊บแขนขาอ่อน
00:51:08 → 00:51:10 แรงขึ้นซีกคล้ายๆเป็นเส้นเลือดสมองตีบเลย
00:51:10 → 00:51:12 พอสักพักนึงหายปวดหัวอาการก็กลับมาปกติ
00:51:12 → 00:51:15 แต่อันนี้น่าจะเป็นแนวแขนขา 2 ข้างอ่อน
00:51:15 → 00:51:18 แรงมากกว่าใช่ไหมคะเนาะโอเค
00:51:18 → 00:51:24 ก็หมดคำถามแล้วมีใครมีคำถามอีกไหมคะ
00:51:24 → 00:51:28 วิงเวียนศีรษะและอาการคลื่นไส้ตอนลุกจาก
00:51:28 → 00:51:31 ที่นอนทุกวันไหมคะแบบ
00:51:31 → 00:51:34 เอ่อส่วนใหญ่ที่ที่บอกอ่ะค่ะเวลาเวลาเวลา
00:51:34 → 00:51:37 เปลี่ยนท่าทางจากตอนลุกจากที่นอนต้อง
00:51:37 → 00:51:40 ระวังนิดนึงนะคะเวลาเรานอนมาทั้งคืนเนี่ย
00:51:40 → 00:51:44 ความดันมันก็จะเป็นแบบความดันถ้านอนเราพอ
00:51:44 → 00:51:46 เวลาเราจะลุกนะคะตื่นมาปุ๊บลุกเลยคนส่วน
00:51:46 → 00:51:49 ใหญ่พอตื่นปุ๊บลืมตาปุ๊บคือลุกเลยนะคะอัน
00:51:49 → 00:51:52 นั้นอาจจะทำให้แบบเรารู้สึกเวียนหัวได้
00:51:52 → 00:51:54 ง่ายจากการเปลี่ยนท่าทางเร็วเกินไปความ
00:51:54 → 00:51:56 ดันเปลี่ยนเกิดเร็วเกินไปนะคะส่วนใหญ่ถ้า
00:51:56 → 00:51:59 เกิดเป็นตอนเช้าก็พอหลังจากนี้อาจจะลอง
00:51:59 → 00:52:03 ปรับดูนะคะถ้าเราลืมตาขึ้นมาให้มองสักพัก
00:52:03 → 00:52:07 นึงนะคะแล้วก็ถ้าเกิดรู้สึกว่าไม่เวียนนะ
00:52:07 → 00:52:10 คะก็ค่อยลุกจากที่นอนอาจจะช่วยได้นะคะ
00:52:10 → 00:52:13 หรือดื่มน้ำให้เยอะๆขึ้นนะคะในตอนกลางวัน
00:52:13 → 00:52:17 นะคะเนาะก็จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นค่ะ
00:52:17 → 00:52:20 เวลาเวียนหัวรู้สึกสายตาเหมือนเปลี่ยนค่า
00:52:20 → 00:52:23 สายตาใช่ค่ะเวลาเวียนหัวเราจะทำให้โฟกัส
00:52:23 → 00:52:27 การโฟกัสภาพไม่ค่อยได้นะคะส่วนใหญ่ก็คือ
00:52:27 → 00:52:29 เวลาคนไข้มีอาการมึนศีรษะอยู่เวียนศีรษะ
00:52:29 → 00:52:32 อยู่ก็จะรู้สึกว่าตราผ้ามัวนะคะอันนี้
00:52:32 → 00:52:34 เป็นอาการร่วมกับที่เป็นอาการเวียนศีรษะ
00:52:34 → 00:52:38 เหมือนศีรษะได้นะคะหรือถ้ากล้ามเนื้อขมับ
00:52:38 → 00:52:41 ตึงมากๆนะคะก็จะทำให้รู้สึกตราพร่ามัวได้
00:52:41 → 00:52:45 เหมือนกันแต่ถ้าซีเรียสนะคะเป็นตาเห็นภาพ
00:52:45 → 00:52:47 ซ้อนไปเลยเนาะเห็นรถข้างหน้าจากคันนึง
00:52:47 → 00:52:50 เป็น 2 คันเห็นคนหนึ่งคนเป็น 2 คนแยกออก
00:52:50 → 00:52:53 มาเป็นภาพซ้อนนะคะอันนี้อาจจะต้องระวัง
00:52:53 → 00:52:55 อาการทางสมองนะคะถ้าเกิดมีอาการเห็นภาพ
00:52:55 → 00:52:58 ซ้อนต้องไปโรงพยาบาลไปตรวจนะคะ
00:52:58 → 00:53:02 เลือดข้นทำให้ปวดหัวมึนหัวได้ค่ะเนาะมี
00:53:02 → 00:53:06 ภาวะนึงนะคะจะเจอเราเจอในคนไข้ที่สูบ
00:53:06 → 00:53:10 บุหรี่เยอะๆคนที่สูบบุหรี่มานานๆนะคะสูบ
00:53:10 → 00:53:13 บุหรี่จัดๆนะคะเลือดจะข้นกว่าปกติเลือด
00:53:13 → 00:53:16 แดงปกติคนส่วนใหญ่จะชินกับภาวะเลือดจาง
00:53:16 → 00:53:19 ใช่ไหมคะแต่ถ้าเกิดคนสูบบุหรี่มานานๆอัน
00:53:19 → 00:53:21 นี้จะเลือดข้นค่าเลือดแดงจะข้นกว่าปกตินะ
00:53:21 → 00:53:24 คะก็จะทำให้มาด้วยมึนหัวเวียนหัวได้
00:53:24 → 00:53:27 เหมือนกันนะคะแล้วก็คนสูบบุหรี่เนี่ยก็
00:53:27 → 00:53:30 มักจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคนอนกรนที่
00:53:30 → 00:53:33 เหมือนมีภาวะออกซิเจนออกซิเจนต่ำตอนนอน
00:53:33 → 00:53:36 ที่อยู่ไทยจะขณะหลับไปก็ทำให้เป็นสาเหตุ
00:53:36 → 00:53:39 มึนหัวเรื้อรังได้เหมือนกันนะคะโอเค
00:53:39 → 00:53:42 ฟังคุณหมอแล้วได้ความรู้เยอะมากค่ะ
00:53:42 → 00:53:46 ขอบคุณนะคะขอบคุณมากๆนะคะก็คิดว่าคำถาม
00:53:46 → 00:53:49 น่าจะหมดแล้วนะคะหรือใครมีคำถามเพิ่มเติม
00:53:49 → 00:53:52 มาฟังทีหลังฟังย้อนหลังแล้วมีคำถามสามารถ
00:53:52 → 00:53:55 พิมพ์คอมเมนต์ไว้ได้นะคะเดี๋ยวหมอจะมาตอบ
00:53:55 → 00:53:58 ให้อีกทีนึงนะคะวันนี้ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ
00:53:58 → 00:54:01 เลยนะคะที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบเลย
00:54:01 → 00:54:05 นะคะก็น่าจะเข้าใจเรื่องภาวะเวียนหัวมึน
00:54:05 → 00:54:09 ศีรษะมึนหัวปวดหัวได้ดีขึ้นนะคะแล้วก็
00:54:09 → 00:54:13 เอ่อหลายครั้งที่เวลาเราไปตรวจแล้วเราไม่
00:54:13 → 00:54:16 เจออะไรอ่ะค่ะคนไข้จะอึดอัดว่าทำไมตรวจ
00:54:16 → 00:54:19 ไม่เป็นอะไรตรวจแล้วปกติแต่อาการมันไม่
00:54:19 → 00:54:22 หายนะคะก็อยากให้ระลึกเลยแบบคิดไว้ว่าเออ
00:54:22 → 00:54:25 จริงๆมันมีสาเหตุบางสาเหตุที่ที่มันทำให้
00:54:25 → 00:54:27 เรามึนหัวเวียนหัวไม่หายแบบนี้ได้โดยที่
00:54:27 → 00:54:30 เวลาเราไปตรวจอย่างอื่นก็อาจจะปกติดีไม่
00:54:30 → 00:54:33 เจอสาเหตุความผิดปกติในสมองหรืออ่าโรค
00:54:33 → 00:54:37 ร้ายแรงอะไรนะคะซึ่งเราก็ต้องมาแยกของแต่
00:54:37 → 00:54:40 ละคนไปอีกทีนึงว่าแต่ละคนที่มีอาการไม่
00:54:40 → 00:54:43 หายเนี่ยน่าจะเกิดมาจากสาเหตุอะไรนะคะถ้า
00:54:43 → 00:54:45 เกิดสามารถรักษาได้ถูกต้องก็อาจจะทำให้
00:54:45 → 00:54:47 อาการมึนหัวเวียนหัวเนี่ยหายไปได้เหมือน
00:54:47 → 00:54:50 กันนะคะก็วันนี้ขอบคุณทุกคนมากนะคะเดี๋ยว
00:54:50 → 00:54:53 ครั้งหน้าก็จะมาไลฟ์ให้ความรู้เรื่องอื่น
00:54:53 → 00:54:56 ๆต่อไปยังไงก็ฝากติดตามนะคะกดไลค์กดแชร์
00:54:56 → 00:55:00 ไว้ให้ด้วยนะคะขอบคุณมากค่ะ