00:00:00 → 00:00:03 คุณหมอถามก่อนเลยครับเรื่องของอาการปวด
00:00:03 → 00:00:07 หัวปวดศีรษะที่เราพูดกันติดปากเนี่ยมัน
00:00:07 → 00:00:10 ตำแหน่งแต่ละจุดเออตำแหน่งแต่ละจุดแต่ละ
00:00:10 → 00:00:12 ที่ที่มันปวดกันเนี่ยมันมันบ่งบอกเรื่อง
00:00:12 → 00:00:15 ของโรคภัยไข้เจ็บที่มันซ่อนตัวอยู่ในร่าง
00:00:15 → 00:00:17 กายของเราได้ขนานั้นเลยลใช่มันมีปวดตุ๊บๆ
00:00:17 → 00:00:20 ปวดแปล๊บๆอะไรอย่างเงี้ค่ะคุณหมอคะมัน
00:00:20 → 00:00:23 เป็นยังไงบ้างคะการปวดหัวจริงๆตำแหน่งที่
00:00:23 → 00:00:26 ปวดเนี่ยอาจจะไม่สามารถช่วยบอกเอ่อโรค
00:00:26 → 00:00:28 หรือว่าบอกความเจ็บป่วยได้ทั้งหมดนะครับ
00:00:28 → 00:00:32 แต่ว่าตามตำแหน่งเนี่ยมันจะช่วยบอกเอ่อก
00:00:32 → 00:00:35 วิพากว่าตำแหน่งนั้นเนี่ยมีอวัยวะอะไรที่
00:00:35 → 00:00:39 จะทำให้เกิดอาการปวดรอบๆหัวซึ่งเวลาคน
00:00:39 → 00:00:43 ส่วนใหญ่ถ้าปวดรอบๆหัวก็จะบอกปวดหัวหมด
00:00:43 → 00:00:46 เลยซึ่งเรามีหน้าที่ในการที่จะต้องมาให้
00:00:47 → 00:00:50 คนไข้เอ่อเล่าแล้วก็ชี้จุดว่าตำแหน่งที่
00:00:50 → 00:00:53 เขาปวดเนี่ยอยู่ตรงไหนเพื่อที่จะบอกว่า
00:00:53 → 00:00:55 ถ้าอยู่ตำแหน่งนั้นนะครับก็จะนึกถึง
00:00:55 → 00:00:59 อวัยวะชนิดนี้นะฮะแล้วก็ถ้าอยู่อีก
00:00:59 → 00:01:02 ตำแหน่งนึงก็อาจจะนึกถึงอวัยวะอีกอันนึง
00:01:02 → 00:01:06 หรือเอ่อมันอยู่ที่เดิมตลอดมั้ยนะครับถ้า
00:01:06 → 00:01:08 อยู่ที่เดิมตลอดก็แปลว่าสาเหตุของการปวด
00:01:08 → 00:01:11 นั้นน่ะมันเป็นอะไรที่อยู่เฉพาะที่แต่ถ้า
00:01:12 → 00:01:15 เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอันเนี้ยก็อาจจะไม่ใช่
00:01:15 → 00:01:18 สาเหตุที่เกิดขึ้นในอวัยวะที่อยู่ใต้ลงไป
00:01:18 → 00:01:21 และอาจจะต้องเป็นจากสาเหตุอื่นครับออืเค
00:01:21 → 00:01:24 จะต้องมีการตั้งสมติฐานแบบว่าเคจะต้องจด
00:01:25 → 00:01:28 บันทึกอะไรยังไงว่าเ้าปวดระดับไหนอย่างไร
00:01:28 → 00:01:31 คุณหมอสำหรับคนที่มีมีอาการปวดอย่างอย่าง
00:01:31 → 00:01:36 ตัวเองเนี่ยสมัยช่วงที่ 30 เป็นวัยที่
00:01:36 → 00:01:39 กำลังทำงานอะไรมากมายแล้วก็เอ่อมี
00:01:39 → 00:01:41 ครอบครัวด้วยอย่างเงี้ยค่ะจะปวดเเรียกว่า
00:01:41 → 00:01:45 ไมเกรนนี่ชัดเจนมากๆเลยอ่ะปวดแบบครับปวด
00:01:45 → 00:01:48 แบบต้องดึงดึงผมเลยอ่ะค่ะคุณหมอคะอย่าง
00:01:48 → 00:01:50 เงี้ยอย่างเงี้ยเราชัดเจนได้เลยอย่างงี้
00:01:50 → 00:01:53 คือปวดไมเกรนอย่างเงี้ยค่ะคุณหมอเราบอก
00:01:53 → 00:01:56 ได้เลยว่ามันเป็นอะไรคะคุณหมออืเนื่องจาก
00:01:56 → 00:01:59 ว่าไมเกรนเนี่ยเป็นโรคที่เป็นโรคปวดหัว
00:01:59 → 00:02:01 ที่ที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักชื่อมากมากที่
00:02:01 → 00:02:04 สุดออนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่เอ่อ
00:02:04 → 00:02:08 ใครแต่ละคนมีอาการปวดหัวก็จะเหมารวมหรือ
00:02:08 → 00:02:10 คิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนทั้งหมดแต่ว่าจริง
00:02:10 → 00:02:13 ๆแล้วอาจจะไม่ใช่ไมเกรนก็ได้นะครับเอ่อ
00:02:13 → 00:02:16 เวลาที่คนไข้ปวดหัวมาตรวจเนี่ยสิ่งแรกที่
00:02:16 → 00:02:19 จะถามก็คือก็จะถามก่อนเลยว่าปวดตรงไหน
00:02:19 → 00:02:21 เพื่อที่จะดูว่าเป็นอวัยวะอะไรได้บ้างนะ
00:02:21 → 00:02:25 ครับอ่าแล้วก็ปวดแบบไหนนะครับปวดจี๊ดๆแปบ
00:02:25 → 00:02:30 ๆตื้อๆบีบๆรัดๆนะครับหรือบางคนอาจจะไม่
00:02:30 → 00:02:32 ได้ปวดหัวจริงๆแต่รู้สึกเหมือนกับหัวไม่
00:02:32 → 00:02:36 โล่งก็จะมีทั้งปวดผสมมึนซึ่งถ้าสมมุติว่า
00:02:36 → 00:02:39 เราทราบตำแหน่งที่ปวดนะครับทราบลักษณะของ
00:02:39 → 00:02:43 อาการมันก็จะทำให้เราพอจะเอ่อเอ่อรู้และ
00:02:43 → 00:02:47 ว่ามันน่าจะเป็นปวดกลุ่มไหนซึ่งโดยส่วน
00:02:47 → 00:02:49 ใหญ่สิ่งที่จะต้องซักแล้วก็ถามเพื่อให้
00:02:49 → 00:02:52 ได้คำตอบก็คืออาการปวดนั้นเนี่ยมันเกิด
00:02:52 → 00:02:55 ขึ้นจากความผิดปกติของสมองหรืออวัยวะที่
00:02:55 → 00:02:58 อยู่ภายในกะโหลกศีรษะหรือเปล่าหรือเป็น
00:02:58 → 00:03:00 อีกกลุ่มนึงซึ่งก็จะตกอยู่ในกลุ่มเดียว
00:03:00 → 00:03:03 กับไมเกรนก็คือไม่ได้มีความผิดปกติอะไร
00:03:03 → 00:03:06 ของตัวสมองเนื้อสมองหรืออวัยวะที่อยู่ใน
00:03:06 → 00:03:08 กะโหลกเลยแต่ว่าเป็นจักสาเหตุอื่นกลุ่ม
00:03:08 → 00:03:10 ที่เป็นจากสาเหตุอื่นพวกเนี้ยจะไม่ได้
00:03:10 → 00:03:14 อันตรายแต่จะค่อนข้างรบกวนชีวิตนะครับ
00:03:14 → 00:03:16 อย่างเช่นคนที่คุณนกเคยปวดไมเกรนอะไร
00:03:16 → 00:03:20 อย่างเงี้ยมันก็จะเอ่อบางคนปวดมากบางคน
00:03:20 → 00:03:23 ปวดน้อยบางคนปวดแล้วไปทำงานไม่ได้เลยต้อง
00:03:23 → 00:03:26 ลางานพวกนี้ก็จะรบกวนชีวิตประจำวันมากนอก
00:03:26 → 00:03:30 จากปวดหัวไมเกรนก็จะมีกลุ่มที่ปวดหัวเอ่อ
00:03:30 → 00:03:33 จากภาวะเครียดเราก็จะเรียกว่า tension เ
00:03:33 → 00:03:37 นะครับบางคนก็อาจจะมีปวดหัวในช่วงที่อ่า
00:03:37 → 00:03:39 ระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์เราก็จะ
00:03:39 → 00:03:42 เรียกว่า Post coital หรือ coal He นะ
00:03:42 → 00:03:46 ครับหรือกลุ่มที่มีอาการปวดหัวเป็นแบบบีบ
00:03:46 → 00:03:49 ๆคัรัดๆนะครับก็จะเป็นคลัสเตอร์ H ซึ่ง
00:03:49 → 00:03:53 จริงๆจะมีเยอะเลยแต่ว่าการเอ่อมีเยอะหรือ
00:03:54 → 00:03:57 เลือกเอ่อวินิจฉัยว่าเป็นชนิดไหนเนี่ยมัน
00:03:57 → 00:04:00 ก็จะมีประโยชน์ในแง่ของหาชิดยาเพราะว่า
00:04:00 → 00:04:03 ไมเกรนยารักษาก็อาจจะต่างจากคาสเตอร์อาจ
00:04:04 → 00:04:06 จะต่างจาก tension หรือยาที่ต้องให้ร่วม
00:04:06 → 00:04:09 กับยาไมเกรนก็อาจจะแตกต่างกันแตกต่างกัน
00:04:09 → 00:04:13 ไปในแต่ละชนิดของตัวโรคนะครับแต่ว่าสำคัญ
00:04:13 → 00:04:16 เลยก็คือถ้ามันเป็นกลุ่มเนี้ยมันจะไม่ได้
00:04:16 → 00:04:19 อันตรายแล้วก็อาจจะนำไปสู่เรื่องของการ
00:04:19 → 00:04:22 ตรวจซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ปวดหัวมากๆเนี่ยก็
00:04:22 → 00:04:25 อาจจะรู้สึกว่าขอสแกนสมองหน่อยอยากสแกน
00:04:25 → 00:04:27 สมองหน่อยอะไรอย่าเงี้ยนะครับแต่ถ้าเป็น
00:04:27 → 00:04:29 กลุ่มที่เราซักแล้วดูเหมือนจะเป็นกลุ่ม
00:04:29 → 00:04:31 เนี้ยก็อาจจะไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้อง
00:04:31 → 00:04:34 ทำทุกครั้งอาจจะทำเฉพาะครั้งแรกครั้ง
00:04:34 → 00:04:36 เดียวแล้วหลังจากนั้นโอเคดูแล้วมันไม่ได้
00:04:36 → 00:04:39 มีก้อนไม่ได้มีเลือดไม่ได้มีเนื้องอกไม่
00:04:39 → 00:04:41 ได้มีอะไรอย่างอื่นเป็นปกติอย่างเงี้ยเรา
00:04:41 → 00:04:44 ก็จะสามารถติดตามแล้วก็ปรับยาไปอย่าง
00:04:44 → 00:04:48 เดียวได้ครับโอ้โห่าที่ฟังคุณบอกออธิบาย
00:04:48 → 00:04:50 มาแล้วเนี่ยมันมีอีกมันมี 3 แบบอย่างที่
00:04:50 → 00:04:55 พี่นกบอกก็คือปวดไมเกรนแล้วก็เนชัครับ
00:04:55 → 00:04:58 คลัสเตอร์ก็มีคลัสเตอร์โอ้โหมันคืออะไร
00:04:58 → 00:05:03 ครับคุณบอกจะแยกออกมั้ยคะปวดมึนๆเออถ้า
00:05:03 → 00:05:05 เป็นกลุ่มไมเกรนเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเริ่ม
00:05:05 → 00:05:08 ปวดตั้งแต่ก็จะเป็นลูกเป็นโรคของสสาวรุ่น
00:05:08 → 00:05:12 นะครับแต่ว่าผู้ชายก็เจอได้จะเจอในผู้
00:05:12 → 00:05:14 หญิงเยอะกว่าแล้วก็จะเจอตั้งแต่อายุน้อย
00:05:14 → 00:05:18 นะครับเพราะฉะนั้นถ้าสมมุติว่า 40 50 60
00:05:18 → 00:05:21 แล้วมาบอกหรือมามีอาการคล้ายๆไมเกรน
00:05:21 → 00:05:24 อันเนี้ยมันก็จะเป็นสัญญาณที่เราจะต้อง
00:05:24 → 00:05:27 เอ่อค้นหาเป็นพิเศษหน่อยเพราะว่ามันไม่
00:05:27 → 00:05:31 ใช่รุ่นไม่ใช่ช่วงอายุที่จะอไนแล้วก็
00:05:31 → 00:05:33 ไมเกรนเนี่ยไม่ใช่ว่าปวดหัวมาครั้งแรกก็
00:05:33 → 00:05:35 จะบอกว่าเป็นไมเกรนเลยไมเกรนก็ควรจะต้อง
00:05:36 → 00:05:39 มีอาการปวดซ้ำๆปวดมาต่อเนื่องแล้วก็ยาว
00:05:39 → 00:05:42 นานเกิน 3 เดือนขึ้นไปนะครับก็จะมีตัว
00:05:42 → 00:05:45 กระตุ้นที่มันจำเพาะต่อไมเกรนนะครับอย่าง
00:05:46 → 00:05:48 เช่นเรื่องของการนอนไม่ว่าจะนอนมากนอน
00:05:48 → 00:05:50 น้อยหรือนอนผิดเวลาอันนี้ก็ทำให้เกิด
00:05:51 → 00:05:53 ไมเกรนได้นะครับเรื่องของประจำเดือนนะ
00:05:53 → 00:05:56 ครับหรือเรื่องของอาหารบางอย่างเพราะว่า
00:05:56 → 00:05:59 ในคนที่เป็นไมเกรนเวลารับประทานอาหารบาง
00:05:59 → 00:06:03 ชนิดเช่นคนที่ทานชีสแล้วก็มีอาการปวดหัว
00:06:03 → 00:06:06 อย่างเงี้ยก็จะเข้าเข้าเข้าข่ายกับกลุ่ม
00:06:06 → 00:06:08 ที่เป็นไมเกรนแล้วก็ไมเกรนก็จะปวดมากตรง
00:06:08 → 00:06:11 บริเวณขมับซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นขมับข้าง
00:06:11 → 00:06:14 ซ้ายบางครั้งอาจจะเป็นขมับข้างขวาซึ่ง
00:06:14 → 00:06:16 สลับไปสลับมาเพราะฉะนั้นอันเนี้ยมันโอเค
00:06:16 → 00:06:18 สบายใจได้แล้วเพราะว่าถ้ามันมีก้อนมี
00:06:18 → 00:06:20 เนื้องอกอะไรอย่างเงี้ยมันจะไม่ได้วิ่งไป
00:06:20 → 00:06:23 วิ่งมาซ้ายขวานะครับแต่ไมเกรนสามารถทำให้
00:06:23 → 00:06:26 เกิดได้ครับอ๋อโอโหคือถ้าไมเกรนเนี่ยคือ
00:06:26 → 00:06:30 มันเป็นกับอายุอายุน้อยเอ่าุ่นอย่างที่
00:06:30 → 00:06:32 เราจได้กวรบกวนคุณหมออธิบายนิดนึงคำว่า
00:06:32 → 00:06:36 สาวรุ่นบางคนก็อาจจะติติ๊ต่างว่าอ่ะชั้น
00:06:36 → 00:06:38 30 ฉันก็ยังสาวรุ่นอยู่นะพี่นกย้อนไป
00:06:38 → 00:06:41 จริงๆตอนนั้นบวดไมเกรนอายุ 30 จริงๆนะเพ
00:06:41 → 00:06:44 อายุมากแล้วตอนนี้ไม่บวดแล้วไมเกรนไม่มี
00:06:44 → 00:06:46 แล้วอยากอยากจะรู้เลยว่าคำว่าสาวรุ่น
00:06:46 → 00:06:48 เนี่ยไอ้คำจำกัดความในทางการแพทย์เนี่ย
00:06:48 → 00:06:51 มันต้องช่วงอายุประมาณไหนคุณหมอครับเพราะ
00:06:51 → 00:06:54 จริงๆมันจะมีอ่ากำหนดช่วงอายุแต่ว่าช่วง
00:06:54 → 00:06:57 อายุเนี้ยมันจะเป็นแค่ตัว Reference เฉยๆ
00:06:57 → 00:07:00 แต่ว่าเอาเข้าจริงๆถ้าสมมุตว่าอยู่ในช่วง
00:07:00 → 00:07:03 20 30 อย่างเงี้ยเอ่อผมก็ยังถือว่าก็จะ
00:07:03 → 00:07:06 ยังถือว่าเป็นสาวรุ่นอยู่แต่ว่าเราก็อาจ
00:07:06 → 00:07:08 จะไม่ได้ใช้แค่เกณฑอายุนี้อย่างเดียวเช่น
00:07:08 → 00:07:11 อาจจะมาเลย 30 หน่อยหรือเข้าใกล้ 40 แต่
00:07:11 → 00:07:14 ว่ามันมีอาการป่วดแบบที่เข้าได้กับไมเกรน
00:07:14 → 00:07:16 ทั้งหมดแล้วก็ต่อเนื่องกันมา 3 เดือนอะไ
00:07:16 → 00:07:18 อย่าเงี้ยเราก็ดูแล้วไม่ได้มีความผิดปกติ
00:07:18 → 00:07:20 ทางระบบประสาทอื่นๆอย่างอื่นเข้าได้อย่าง
00:07:20 → 00:07:23 เงี้ยเราก็จะวินิจฉัยว่าเป็นไมเกรนได้
00:07:23 → 00:07:26 ครับออืคุณหมอเมื่อกี้คุณหมอพูดถึงอีก
00:07:26 → 00:07:29 หนึ่งสาเหตุนะของของของไมเกรนเอาเดี๋ยวขอ
00:07:29 → 00:07:32 อนุญาตไปที่ก่อมีคุณผู้ฟังทางบ้านสงสัย
00:07:32 → 00:07:34 ว่าเอ๊ะอาหารเมันก็เป็นอีกหนสาเหตุได้
00:07:34 → 00:07:36 ด้วยเหมือนกันที่คุณหมอบอกเอออันนี้อัน
00:07:36 → 00:07:39 นี้คือคือมันมันสัพันธ์กันยังไงครับคุณ
00:07:39 → 00:07:42 นั่นน่ะสิครับคุณหมอครับจะแล้วจะแล้วแต่
00:07:42 → 00:07:45 บุคคลเลยครับบางคนอาจจะอ่าส่วนใหญ่ที่เ่อ
00:07:45 → 00:07:49 เจอในรายงานเขาก็จะบอกว่าทานชีสแล้วเป็น
00:07:49 → 00:07:52 แต่ว่าก็แล้วแต่คนเหมือนกันบางคนทานเช่น
00:07:52 → 00:07:56 ไปทานชาบูหรืออาหารที่มันมีเ่อโซเดียมนะ
00:07:56 → 00:07:58 ครับก็คือเกลือโซเดียมเยอะบางคนก็อาจจะมี
00:07:58 → 00:08:00 ปวดหัวหรือกระตุ้นไมเกรนได้กลุ่มนั้นก็
00:08:00 → 00:08:03 อาจจะกินชาบูไม่ได้หรือต้องกินชาบูจืด
00:08:03 → 00:08:07 หน่อยนะครับหรือเอ่อบางคนเป็นเ่อกลุ่มที่
00:08:07 → 00:08:10 ทานแอลกอฮอล์แล้วทำให้เอ่อกระตุ้นไมเกรน
00:08:10 → 00:08:12 อย่างเงี้ยก็ได้เหมือนกันซึ่งแต่ละคนก็จะ
00:08:12 → 00:08:15 มีชนิดของอาหารที่จะทำให้เกิดเนี่ยแตก
00:08:15 → 00:08:17 ต่างกันเลยครับคือต้องเป็นแบบเป็นไหนก็
00:08:17 → 00:08:20 ได้ครับคือต้องเป็นก่อนหรอครับคุณหมอหรือ
00:08:20 → 00:08:23 ว่าไอ้อาหารมันเป็นตัวกระตุ้นหรือว่ามัน
00:08:23 → 00:08:27 มันยังไงฮะคุณหมอครับมันเป็นมันเป็นตัว
00:08:27 → 00:08:29 ตัวกระตุ้นครับซึ่งกลไกของการกระตุ้น
00:08:29 → 00:08:31 เนี่ยไม่ได้ทราบแน่ชัดนะครับแต่ถ้าเป็น
00:08:31 → 00:08:34 ปัจจัยอื่นๆเช่นเรื่องของการนอนเนี่ยการ
00:08:34 → 00:08:37 นอนจริงๆมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม
00:08:37 → 00:08:40 ทั้งหมนะฮะนอนเยอะนอนน้อยเนี่ยเป็นได้บาง
00:08:40 → 00:08:43 ครั้งเรานอนทั้งวันแทนที่ตื่นมาจะสดชื่น
00:08:43 → 00:08:44 บางทีเราตื่นมาก็ปวดหัวอย่างเงี้ยได้
00:08:44 → 00:08:47 เหมือนกันหรือเรื่องของประจำเดือนมันก็จะ
00:08:47 → 00:08:49 เป็นเรื่องของฮอร์โมนเพศหญิงก็คือฮอร์โมน
00:08:49 → 00:08:52 เอสโตรเจนซึ่งเป็นตัวที่จะทำให้เอ่อเกิด
00:08:52 → 00:08:55 อาการปวดเนี่ยได้ง่ายนะครับอืออือันนี้
00:08:55 → 00:08:58 อันนี้เป็นไมเกรนเนฟังดูแล้วเนี่ยในวัย
00:08:58 → 00:09:02 เค้าเรียกวเจริญพันธุ์ในวัยอายุ 30 ถึง 40
00:09:02 → 00:09:06 จะมีอาการปวดหัวในในลักษณะนี้มากกว่าวัย
00:09:06 → 00:09:10 ที่อายุมากมากเกินเกินกว่านี้แล้วใช่มั้ย
00:09:10 → 00:09:12 คะคุณหมอเพราะเขจะต้องถูกกระตุ้นจาก
00:09:12 → 00:09:15 เรื่องของหน้าที่การงนหอย่าระบระบบของ
00:09:15 → 00:09:18 ประจำเดือนระบบของการเอ่อรับประทานอาหาร
00:09:18 → 00:09:20 ที่กระตุ้นให้กับตรงนี้ใช่มั้ยคะเรื่อง
00:09:20 → 00:09:23 ของฮอร์โมนใช่ครับอือใช่ครับอ่านี้เป็น
00:09:23 → 00:09:27 ปวดหัวข้าเของวัยรุ่น 30-40 นะคะทีนี้มัน
00:09:27 → 00:09:30 มีอีกหน 1 ชนิดอาการปวดหัวที่คุณหมอได้
00:09:30 → 00:09:32 พูดอธิบายไปตอนต้นฮะแบบปวดหัวแบบ
00:09:32 → 00:09:36 คลัสเตอร์เออมีเนชัมีคลัสเตอร์เดี๋ยวขอ
00:09:36 → 00:09:40 เป็นคลัสเตอร์ตัวคลัสเตอร์เนี่ยมันจะปวด
00:09:40 → 00:09:43 เนื่องจากว่าตัวเ่าเส้นเส้นประสาทนะครับ
00:09:43 → 00:09:47 ที่เอ่อมาเลี้ยงเอ่อตรงบริเวณเอ่อใบหน้า
00:09:47 → 00:09:50 นะครับมันจะมีเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 นะ
00:09:50 → 00:09:54 ครับซึ่งเอ่อจะมีเส้นประสาอัตโนมัติเนี่ย
00:09:54 → 00:09:58 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมันจะคล้ายๆกับเอ่อ
00:09:58 → 00:10:01 กลุ่มที่เาปวดจากเส้นประสาทปวดหน้าข้าง
00:10:01 → 00:10:02 เดียวอะไรเงี้ยนะครับมันจะคล้ายๆกันแต่
00:10:03 → 00:10:06 อันเนี้ยมันจะรอบหัวมากกว่าอซึ่งเอ่อเวลา
00:10:06 → 00:10:10 ปวดเนี่ยก็จะปวดแบบรัดๆนะครับปวดตรง
00:10:10 → 00:10:14 กระบอกตาปวดขมักนะครับหรือรอบศีรษะคล้ายๆ
00:10:14 → 00:10:18 กับมีอะไรมามาเอ่อบีบรัดเป็นเ่อจังหวะนะ
00:10:18 → 00:10:21 ครับซึ่งพวกเนี้ยมันจะค่อนข้างเจอน้อย
00:10:21 → 00:10:24 กว่ากลุ่มที่เป็นไมเกรนนะครับอันเนี้ยจะ
00:10:24 → 00:10:28 เจอในผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงนะครับเ่อแล้ว
00:10:28 → 00:10:30 ก็บางคนอาจจะปวดมากมากจนน้ำตาไหลอะไร
00:10:30 → 00:10:33 เงี้ยได้ซึ่งถ้าสมมุติว่าเอ่อเราตรวจ
00:10:33 → 00:10:35 แล้วะไม่ได้มีความผิดปกติอื่นเหมือนกันนะ
00:10:35 → 00:10:38 ครับเป็นผู้ชายด้วยตรวจร่างกายทางระบบ
00:10:38 → 00:10:43 ประสาทแล้วปกติดีเอ่อถ้าเอ่อปวดมากๆเลย
00:10:43 → 00:10:45 แล้วก็พึ่งมาครั้งแรกอันนี้อาจจะไม่ต้อง
00:10:45 → 00:10:48 ยาวนานเหมือนกับไมเกรนก็ได้นะครับเราก็
00:10:48 → 00:10:51 เ่อประเมินดูว่าไม่ได้เ่อตรวจเซเรย์สมอง
00:10:51 → 00:10:53 ดูว่ามันไม่ได้มีก้อนไม่ได้มีเนื้องอก
00:10:53 → 00:10:57 อะไรอันเนี้ยเราเราสบายใจะก็ค่อยๆปรับยา
00:10:57 → 00:10:59 เพื่อที่จะป้องกันเรื่องของอาการปวด
00:10:59 → 00:11:03 ไมเกรนควบคู่กับการให้ยาแก้ปวดส่วนใหญ่ก็
00:11:03 → 00:11:06 จะตอบสนองดีแล้วก็อาจจะมีความเรื้อรัง
00:11:06 → 00:11:08 น้อยกว่าไมเกรนหน่อยนึงแต่ว่าเนื่องจาก
00:11:08 → 00:11:12 ว่าเอ่อมันเป็นปวดชนิดที่เกี่ยวข้องกับ
00:11:12 → 00:11:15 ตัวระบบประสาทอัตโนมัติอันเนี้ยมันอาจจะ
00:11:15 → 00:11:17 ในความรู้สึกซึ่งจริงๆผมก็ไม่เคยปวดอ่ะนะ
00:11:17 → 00:11:20 ฮะแต่จากข้อมูลที่เคยสังเกตคนไข้เนี่ยมัน
00:11:20 → 00:11:23 จะปวดเยอะกว่าไมเกรนหน่อยแต่ว่าบังเอิญ
00:11:23 → 00:11:28 ว่าไมเกรนมันปวดในผู้หญิงความอดทนต่อความ
00:11:28 → 00:11:32 เจ็บปวดนะครับมันเป็นเรื่องของเอ่อ
00:11:32 → 00:11:35 subjective อ่ะเป็นเรื่องของแล้วแต่คนอื
00:11:35 → 00:11:38 คนทนเก่งก็อาจจะไม่ค่อยรู้สึกปวดมากคนขี้
00:11:38 → 00:11:40 อ้อนก็อาจจะปวดเยอะหน่อยอะไรเงี้ยฮะเพราะ
00:11:40 → 00:11:42 ฉะนั้นไปเกนก็เลยอาจจะดูปวดเยอะกว่าเพราะ
00:11:42 → 00:11:45 ว่าเิเกิดในผู้หญิงเอ่อพาสเตอร์เจอในผู้
00:11:45 → 00:11:47 ชายแต่ผู้ชายอาจจะอดทนมากกว่าอะไรเงี้ย
00:11:47 → 00:11:51 ครับออผู้ชายอดทนมากกว่าแล้วคุณหมอโอนี่
00:11:51 → 00:11:54 ไงก็คือถ้าหรือเปล่าจะไม่อาจจะไม่ 100%
00:11:54 → 00:11:57 มันขึ้นอยู่ถ้าขี้อ้อนก็จะปวดมากหน่อยอ่า
00:11:57 → 00:11:59 ที่คุณหมอบอกแล้วแล้วเใช้ยาอะไรยังไงไงคะ
00:11:59 → 00:12:01 ปวดคลาสเตอร์เนี่ยที่เขาจะหายได้อครับ
00:12:02 → 00:12:05 เอ่อส่วนใหญ่ก็คือเราก็จะมียา 2 2 อย่าง
00:12:05 → 00:12:08 นะครับก็คืออย่างแรกคือยาป้องกันซึ่งยา
00:12:08 → 00:12:11 ป้องกันเนี่ยก็จะต้องเน้นย้ำว่ามันคือยา
00:12:11 → 00:12:15 ป้องกันเพราะฉะนั้นปวดหรือไม่ปวดก็จะให้
00:12:15 → 00:12:18 เ่อกินทุกวันเพื่อป้องกันนะครับไม่ให้
00:12:18 → 00:12:21 อาการปวดเนี่ยมันกำเริบขึ้นมานะครับซึ่ง
00:12:21 → 00:12:24 หลายคนก็อาจจะคิดว่ายาป้องกันเนี่ยคือยา
00:12:24 → 00:12:26 แก้ปวดคือไม่ได้กินทุกวันเก็บเอาไว้กิน
00:12:26 → 00:12:28 เวลาปวดเนื่องจากมันไม่ใช่ยาแก้ปวดเพราะ
00:12:28 → 00:12:31 ฉะนั้นปวดแล้วแล้วกินมันก็ไม่หายแล้วก็
00:12:31 → 00:12:34 ถ้าไปกินเฉพาะเวลาที่ปวดนอกจากไม่หายะก็
00:12:34 → 00:12:36 ไม่สามารถที่จะป้องกันอาการปวดในครั้งถัด
00:12:36 → 00:12:40 ๆไปได้ทั้งไมเกรนแล้วก็คลาสเตอร์ก็จะมียา
00:12:40 → 00:12:42 กลุ่มที่เป็นยาป้องกันเนี่ยนะครับให้กิน
00:12:42 → 00:12:45 ทุกวันนะครับโดยเฉพาะในคนที่ปวดเกิน 15
00:12:45 → 00:12:48 วันต่อเดือนอันเนี้ยมันเ่อการกินป้องกัน
00:12:48 → 00:12:51 เนี่ยมันจะคุ้มกว่าเพราะเวลาที่ปวดแล้ว
00:12:51 → 00:12:55 กำรกขึ้นมาแต่ละรอบทำให้ไม่สามารถไปทำงาน
00:12:55 → 00:12:57 ได้หรือไปทำงานแบบไม่มีความสุข
00:12:57 → 00:13:00 ประสิทธิภาพของการทำงานเยมันก็จะไม่ค่อย
00:13:00 → 00:13:02 ดีเพราะฉะนั้นก็จะให้กินยาป้องกันเนี่ยไป
00:13:02 → 00:13:04 เลยทุกวันจนกว่าจะ
00:13:04 → 00:13:08 อ่าเอ่อรู้สึกว่าอาการปวดเนี่ยทั้งความ
00:13:08 → 00:13:11 รุนแรงแล้วก็ความถี่มันลดลงหลังจากนั้น
00:13:11 → 00:13:13 เนี่ยก็คงยาไว้ที่เท่านั้นแล้วก็ค่อยๆลด
00:13:13 → 00:13:16 ยาลงไปชนิดของยามีหลากหลายมีเยอะแยะเลย
00:13:17 → 00:13:20 ครับซึ่งเอ่อหมอเนี่ยก็จะเลือกยาให้เหมาะ
00:13:20 → 00:13:24 กับคนๆนั้นนะครับถ้ากินเอ่อถ้าเป็นคนที่
00:13:24 → 00:13:26 นอนไม่ค่อยดีนอนไม่ค่อยหลับก็จะเลือกตัว
00:13:26 → 00:13:28 ที่กินแล้วก็จะง่วงหน่อยก็จะได้ประโยชน์
00:13:28 → 00:13:31 เรื่องของนอนถ้าน้ำหนักตัวเยอะก็จะเลือก
00:13:31 → 00:13:33 ตัวที่ไม่ได้ทำให้กินแล้วน้ำหนักเพิ่ม
00:13:33 → 00:13:36 ขึ้นหรือถ้าเป็นไปได้มีทางเลือกก็เลือกยา
00:13:36 → 00:13:38 ที่กินแล้วอาจจะทำให้เบื่ออาหารหน่อยๆ
00:13:38 → 00:13:40 แล้วก็ทำให้น้ำหนักลงไปด้วยแต่ว่าเราก็
00:13:40 → 00:13:42 ไม่ได้หวังว่าเราจะใช้ยากลุ่มนี้เพื่อที่
00:13:42 → 00:13:44 จะลดน้ำหนักเพียงแต่ว่าก็จะเลือกให้มัน
00:13:44 → 00:13:47 เหมาะสมกับเอ่อปัจจัยของแต่ละคนหรือว่ามี
00:13:47 → 00:13:50 โรคประจำตัวหรือมีข้อห้ามอะไรเงี้ยนะครับ
00:13:50 → 00:13:53 อันนี้คือส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 ก็คือยาแก้
00:13:53 → 00:13:56 ปวดยาแก้ปวดเนี่ยเนื่องจากว่ายาที่ป้อง
00:13:56 → 00:13:58 กันที่เราให้ไปเนี่ยมันอาจจะไม่ได้ผลเลย
00:13:58 → 00:14:01 ในช่วงที่เพิ่งเริ่มทานหรือเราอาจจะมี
00:14:01 → 00:14:04 ความจำเป็นที่จะต้องปรับเพิ่มขึ้นหรือใช้
00:14:04 → 00:14:06 2 ตัว 3 ตัวเพราะฉะนั้นเราก็จะต้องมียา
00:14:06 → 00:14:09 ที่จะช่วยบรรเทาอาการด้วยเพราะว่าถ้าให้
00:14:09 → 00:14:12 ป้องกันอย่างเดียวก็จะให้อ่ะตอนช่วงปวดก็
00:14:12 → 00:14:14 ร้องไห้ไปก่อนนะอย่างเงี้ยก็ก็คงไม่ได้
00:14:14 → 00:14:17 ใช่มั้ยครับเราก็จะต้องให้ยาแก้ปวดเพื่อ
00:14:17 → 00:14:20 ที่จะบรรเทาอาการจนกว่าเ่อยาป้องกันเนี่ย
00:14:20 → 00:14:23 จะออกฤทธิ์แล้วก็ได้ผลเต็มที่ซึ่งถ้ายา
00:14:23 → 00:14:26 ป้องกันได้ผลเต็มที่หมายความว่าคนไข้ก็จะ
00:14:26 → 00:14:30 ใช้ยาแก้ปวดเนี้ยน้อยลงอือเรื่อยๆจนท้าย
00:14:30 → 00:14:33 ที่สุดแล้วไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดเลยแล้วทำไม
00:14:33 → 00:14:35 เราถึงไม่ให้กินยาแก้ปวดนี้แทนล่ะทำไมจะ
00:14:35 → 00:14:37 ต้องใช้ยาป้องกันด้วยเนื่องจากว่ายาแก้
00:14:37 → 00:14:40 ปวดเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มเอเสเอเส
00:14:40 → 00:14:43 เนี่ยก็คือจะเป็นกลุ่มที่คล้ายๆกับก็จะมี
00:14:43 → 00:14:47 เอ่อคล้ายๆกับกลุ่มที่เป็นเ่อสเตียรอยด์
00:14:47 → 00:14:48 นะฮแต่ว่าอันนี้มันใช้คำว่า non
00:14:49 → 00:14:51 สเตียรอยด์ก็ลดการอักเสบทั้งหลายอนะครับ
00:14:51 → 00:14:54 ลดการปวดเมื่อยปวดข้อปวดฟันปวดหัวเนี่ย
00:14:54 → 00:14:58 ใช้ได้หมดเลยแต่มันมีผลก็คือมันระคาย
00:14:58 → 00:14:59 เคืองกระเพาะ
00:14:59 → 00:15:03 อดทรือคนที่นเยอะนานๆมีเลือดออกในทางเิน
00:15:03 → 00:15:06 อาหารได้หรือกินแล้วก็มีผลต่อไตทำให้
00:15:06 → 00:15:08 ไตวายได้เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่อยากให้คน
00:15:08 → 00:15:11 เนี่ยซื้อยาแก้ปวดกินเองเพราะส่วนใหญ่ก็
00:15:11 → 00:15:13 อาจจะได้ยาแก้ปวดกลุ่มนี้แล้วก็ตัวโรคมัน
00:15:13 → 00:15:17 ไม่ได้สงบแล้วก็ไม่หายครับโอโหฟังแล้วคือ
00:15:17 → 00:15:21 แบบดูดดูทรมานมากเลยนะคุณหมอแต่ว่าถ้ามี
00:15:21 → 00:15:24 ยาป้องกันแล้วก็ยาที่แก้ปวดที่เป็นยา
00:15:24 → 00:15:26 เอนเสดอีกด้วยต้องระมัดระวังกันในการกิน
00:15:26 → 00:15:30 อย่างดีเลยเไม่ต้องใช้ยาได้มคุณหมอเ้าแบบ
00:15:30 → 00:15:33 เข้าใจแล้วก็ใช้วิธีผ่อนคลายเองได้มั้ยโอ
00:15:33 → 00:15:37 ๆใช่ได้นะครับบางบางคนหรือบางโรคที่อาจจะ
00:15:37 → 00:15:40 ไม่ได้เยอะมากอย่างเช่นสมมุติว่ากลุ่มที่
00:15:40 → 00:15:43 เป็น pension เอะไรอย่างเงี้ยครับเอ่อ
00:15:43 → 00:15:45 ส่วนใหญ่ตอนเช้าตื่นมาสดชื่นดีเข้าไปที่
00:15:45 → 00:15:49 ทำงานเจองานกองโตเจอเจ้านายบนนะครับหรือ
00:15:50 → 00:15:52 เจอเพื่อนที่ไม่ชอบหน้าสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ
00:15:52 → 00:15:55 ตอนบ่ายก็จะเริ่มปวดตอนเย็นก็จะเริ่มปวด
00:15:55 → 00:15:57 แล้วอะไรอย่างเงี้ยซึ่งบางคนไม่ชอบหรือ
00:15:57 → 00:15:59 ไม่อยากกินยาก็ไปยิ้มนะครับไปวิ่งออก
00:16:00 → 00:16:03 กำลังกายนะครับหรือไปช้อปปิ้งไปกินอาหาร
00:16:03 → 00:16:06 อันเนี้ยมันก็จะเ่อทุเราเบาบางได้ในกรณี
00:16:06 → 00:16:09 ที่ไม่เยอะสำหรับไมเกรนเหมือนกันถ้าน้อยๆ
00:16:09 → 00:16:13 นะครับผมส่วนใหญ่เ่อบางคนเวลาปวดหัวอาจจะ
00:16:13 → 00:16:15 ไม่ได้มีแค่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ปวดอาจจะ
00:16:15 → 00:16:17 มีหลายๆปัจจัยเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ผมก็จะ
00:16:17 → 00:16:21 แนะนำคนไข้ว่าถ้าตอนนั้นเนี่ยที่เราปวด
00:16:21 → 00:16:23 เยอะๆอยู่อ่ะเราอยู่ในที่มันเสียงดังๆมี
00:16:23 → 00:16:25 เสียงจอแจอยู่ในออฟฟิศที่คนพลุกพ่านอะไร
00:16:25 → 00:16:28 อย่างเงี้ยแล้วมันทำให้เรารู้สึกว่ามัน
00:16:28 → 00:16:31 ปวดเยอะขึ้นอาจต้องไปนั่งเงียบๆในห้องน้ำ
00:16:31 → 00:16:33 ไปอยู่ในมุมที่มันสงบๆถ้าอยู่ที่ร้อนก็
00:16:33 → 00:16:36 เข้าที่เย็นถ้าอยู่ที่เย็นก็ออกไปที่ที่
00:16:36 → 00:16:38 มันปอดโป่งหน่อยอาจจะไม่ได้เย็นเท่าใน
00:16:38 → 00:16:41 ห้องอะไรอย่าเงี้นะครับหรือไปมองเอ่อพื้น
00:16:41 → 00:16:44 ที่ที่มันกว้างๆมองไกลๆสบายตาสีเขียวอะไร
00:16:44 → 00:16:46 อย่างเงี้ยพวกเนี้ยมันช่วยได้ทั้งหมดเลย
00:16:46 → 00:16:49 เพียงแต่ว่าเอ่อบางบางครั้งที่มันน้อยๆ
00:16:49 → 00:16:52 อาจจะช่วยจนหายโดยที่ไม่ต้องใช้ยาอะไรก็
00:16:52 → 00:16:55 ได้แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่มันรุ้นร้างหน่อย
00:16:55 → 00:16:57 อย่างน้อยก็คือช่วยทำให้ความรุนแรงของการ
00:16:57 → 00:17:02 ปวดเนี่ยเบาลงได้อือืเออมันสามารถที่จะ
00:17:02 → 00:17:05 จัดการตัวเองได้ใช่ถูกแล้วแต่เาจะอยาก
00:17:05 → 00:17:08 เยียวยาตัวเองด้วยวิธีที่แบบไม่ต้องใช้ยา
00:17:08 → 00:17:10 ได้บ้างมยเก็ต้องช่วยคุณหมอด้วยอีกทางนึง
00:17:10 → 00:17:13 เนาะใช่ๆคือจะพึ่งยาอย่างเดียวมันก็ดูจะ
00:17:13 → 00:17:17 แหมมันจะเสียนิสัยไปหน่อยคุณหมออย่างอย่า
00:17:17 → 00:17:20 กรณีคนที่แบบอ่ะเอะอะปวดหัวก็กินพาราพารา
00:17:21 → 00:17:23 อัดเข้าไปอะไรเงี้ยในทางการแพทย์เนี่ย
00:17:23 → 00:17:26 อย่างคุณหมอที่อยู่ในด้านนี้เนี่ยมันมัน
00:17:26 → 00:17:29 เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมควรที่จะแนะนำ
00:17:29 → 00:17:32 มั้ยครับคุณหมอครับกกับเอะอะก็พาราพาราไป
00:17:32 → 00:17:36 อ่ะปวดหัวพาราไปครับแต่ปญจริงๆตัวตัวตัว
00:17:36 → 00:17:39 พารานะครับมันก็จะเป็นตัวนึงในกลุ่มที่
00:17:39 → 00:17:41 เป็นเอสสเนี่ยเหมือนกันเพียงแต่ว่าจะเป็น
00:17:41 → 00:17:44 ตัวที่เบาที่สุดเอ่อความเบาที่สุดของมัน
00:17:44 → 00:17:47 เนี่ยแต่ว่ามันปลอดภัยที่สุดในกลุ่มนี้
00:17:47 → 00:17:50 สามารถที่จะทานเยอะทานบ่อยได้แต่ถ้าทานที
00:17:50 → 00:17:53 ละกระปุกไปเลยอย่างเช่นอาจจะมีข่าวคนที่
00:17:53 → 00:17:55 ทานพาราเซตามอลเป็นกระปุกอันนี้ก็จะมี
00:17:55 → 00:17:58 ปัญหาเรื่องของทำให้ตับวายหรือตับอักเสบ
00:17:58 → 00:18:01 เนี่ยได้เอ่อเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าสมมุติ
00:18:01 → 00:18:04 ว่าการทานพาราเซตามอลแล้วทำให้อาการปวด
00:18:04 → 00:18:06 เบาลงแปลว่าสิ่งที่เราปวดเนี่ยมันไม่ได้
00:18:06 → 00:18:08 เยอะแล้วก็ไม่ได้รุนแรงถ้าสมมุติว่าไม่
00:18:08 → 00:18:12 อยากทานเยอะจริงๆก็มองหาวิธีที่ไม่ใช้ยา
00:18:12 → 00:18:14 เหมือนที่เอ่อเรียนไปเมื่อสักครู่นะครับอ
00:18:14 → 00:18:18 แต่ถามว่าใช้เยอะใช้บ่อยเนี่ยได้เลยมยบาง
00:18:18 → 00:18:21 ครั้งถ้าสมมุติว่ามันเป็นอะไรที่เบาและ
00:18:21 → 00:18:23 ธรรมดาจริงๆมันก็ไม่ควรจะปวดเรื้อรังที่
00:18:23 → 00:18:26 จะทำให้เราต้องใช้ภาระทุกวันเพราะฉะนั้น
00:18:26 → 00:18:28 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราใช้พาระทุกวันแปลว่า
00:18:28 → 00:18:30 เอออันนี้มันมีปัญหาแล้วควรจะต้องไปจัด
00:18:30 → 00:18:32 การหน่อยซึ่งบางครั้งโอเคไม่ได้เป็นโรค
00:18:32 → 00:18:35 อะไรที่ร้ายแรงเพียงแต่ว่าเราเริ่มรู้สึก
00:18:35 → 00:18:38 ว่าปวดนิดนึงแล้วเราก็ติดพาราไม่ได้ติด
00:18:38 → 00:18:41 เพราะว่าตัวยาเหมือนติดยาเสพติดอ่ะแต่ติด
00:18:41 → 00:18:44 ความรู้สึกว่าได้กินพาราแล้วมันรู้สึก
00:18:44 → 00:18:46 โอเคเราได้รักษาหรือบรรเทาความปวดนี้ไป
00:18:46 → 00:18:49 แล้วถ้าทิ้งไว้กลัวจะหายกลัวจะว่ากลัวจะ
00:18:49 → 00:18:51 ปวดเยอะขึ้นอะไรอย่างเงี้ครับอันนี้มันก็
00:18:51 → 00:18:54 จะไม่ดีทั้งในแง่โอเคมันมันอาจจะทำให้เรา
00:18:54 → 00:18:59 ละเเลยที่จะจัดการตัวสาเหตุใช่มันอาจจะ
00:18:59 → 00:19:01 ไม่ได้เยอะมากถ้าสมมุติว่าไม่ได้กินแบบ
00:19:01 → 00:19:03 เยอะๆนะฮะวันวันละเม็ด 2 เม็ดอันเนี้ย
00:19:03 → 00:19:07 จริงๆมันก็จะยังไม่ได้มีผลต่อตับมากนักอื
00:19:07 → 00:19:10 แต่ว่ามันอาจจะทำให้เราละเลยที่จะไปหา
00:19:10 → 00:19:13 สาเหตุแล้วก็จัดการที่สาเหตุครับนั่นน่ะ
00:19:13 → 00:19:16 สิคะมันนำมาซึ่งคำถามซึ่งบอกว่ามีอาการ
00:19:16 → 00:19:18 ปวดหัวแบบใดบ้างที่อันตรายส่งผลกระทบต่อ
00:19:18 → 00:19:21 สมองและประสาทซึ่งเราทันพาราไปอ่ะมันอาจ
00:19:22 → 00:19:26 ช่วยได้ขณะนึงแต่นมันก็กลับมาอีกครั้ง
00:19:26 → 00:19:30 นึงอกหาหมอดีกว่าอืครับเ่อสัญญาณอันตราย
00:19:31 → 00:19:34 ก็คือถ้าปวดที่ตำแหน่งเดียวตลอดนะครับ
00:19:34 → 00:19:37 แล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะปวดตลอดเวลานะครับอ่า
00:19:37 → 00:19:40 แปลว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่อยู่ตรง
00:19:40 → 00:19:43 ตำแหน่งนั้นที่จะทำให้ปวดนะครับเอ่ออาการ
00:19:43 → 00:19:47 ปวดเป็นมากขึ้นเวลาไอจามหรือเบ่งเบ่ง
00:19:47 → 00:19:50 ปัสสาวะเบ่งอุจจาระเ่ออันนี้มันก็จะแสดง
00:19:50 → 00:19:53 ว่าเวลามันมันเป็นตัวที่จะทำให้แรงดันใน
00:19:53 → 00:19:56 สมองเนี่ยเพิ่มขึ้นเวลาที่เราไปเบ่งถ่าย
00:19:56 → 00:19:58 หรือไอหรือจามเนี่ยแรงดันมันเพิ่มขึ้นอีก
00:19:58 → 00:20:02 ก็จะทำให้มีอาการปวดนะครับอาการปวดร่วม
00:20:02 → 00:20:05 กับมีความผิดปกติทางระบบประสาทนะครับเช่น
00:20:05 → 00:20:08 ปวดแล้วรู้สึกว่ามีอาการอ่อนแรงของแขนขา
00:20:08 → 00:20:10 ข้างใดข้างนึงหน้าเบี้ยวปวดแล้วก็เริ่ม
00:20:10 → 00:20:13 รู้สึกว่าพูดไม่ชัดที่ค่อยๆเป็นมากขึ้น
00:20:13 → 00:20:17 เรื่อยๆปวดร่วมกับมีอาการชักเกร็งนะครับ
00:20:17 → 00:20:20 หรือปวดตอนกลางคืนก็คือนอนหลับไปแล้วตื่น
00:20:20 → 00:20:23 มากลางดึกเพราะว่าปวดหัวนะครับหรืออาการ
00:20:23 → 00:20:28 ปวดที่มีอาการอาเจียนพุ่งร่วมด้วยหรือปวด
00:20:28 → 00:20:32 หัวแบบรุนแรงแบบทันทีทันใดบางคนบอกว่าปวด
00:20:32 → 00:20:35 หัวเหมือนโดนฟ้าผ่าซึ่งก็ไม่เคยโดนฟ้าผ่า
00:20:35 → 00:20:37 เหมือนกันเพราะฉะนั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะปวด
00:20:37 → 00:20:40 มากแค่ไหนเพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่ามันปวด
00:20:40 → 00:20:42 เยอะมากๆแบบไม่เคยเลยในชีวิตเนี้ย
00:20:42 → 00:20:45 อันเนี้ยก็ถือว่าเป็นอาการที่เป็นสัญญาณ
00:20:45 → 00:20:46 เตือนเหมือนกันครับ
00:20:46 → 00:20:51 โอนี่ก็คืออีกหนึ่งอาการนะสาเหตุนะครับ
00:20:51 → 00:20:55 คุณหมอทีนี้มาถามเรื่องของจุดที่มันมัน
00:20:55 → 00:20:59 มันปวดศีรษะแล้วมันมันจะสามารถบงบอกอาการ
00:20:59 → 00:21:01 อะไรเพิ่มเติมเนี่ยเอ่อได้ด้วยมั้ยครับ
00:21:01 → 00:21:04 คุณบอเดี๋ยวผมจะขออนุญาตถามก่อนแล้วกันนะ
00:21:04 → 00:21:08 ปวดบริเวณเอ่อตรงไหนดีตรงไหนดีหน้าผาก
00:21:08 → 00:21:11 ขมับ 2 ข้างเออหน้าผากแลขมับเออหน้าหน้า
00:21:12 → 00:21:14 ผากหน้าผากเนี่ยมันมันปวดตัวนี้มันมันมัน
00:21:14 → 00:21:17 มันเป็นสาเหตุของเรื่องของโรคอะไรที่ที่
00:21:17 → 00:21:21 น่ากังวลมั้ยครับคุณหมอครับเออมีหน้าผาก
00:21:21 → 00:21:24 คือถ้าปวดปวดหน่วงๆอย่างเช่นตรงบริเวณหัว
00:21:24 → 00:21:27 คิ้วนะครับอันเนี้ยมันจะเป็นไซนัสที่อยู่
00:21:27 → 00:21:31 ตรงบริเวณทางด้านหน้านะครับถ้าปวดตรงหนก
00:21:31 → 00:21:34 แก้มบางทีปวดตรงหนกแก้มมันอาจจะร้าวมาทำ
00:21:34 → 00:21:37 ให้ปวดหัวได้เนี่ยมันก็จะเป็นโพรงไซนัส
00:21:38 → 00:21:40 ที่อยู่ตรงหกแก้มเนี่ยก็ได้หรือบางคนถ้า
00:21:40 → 00:21:44 เป็นปวดฟันที่เป็นฟันบนน่ะนะครับมันก็จะ
00:21:44 → 00:21:46 ติดอยู่กกับกะโหลกตรงนี้ก็อาจจะทำให้มี
00:21:46 → 00:21:50 อาการตึงๆตรงหนกแก้มแล้วก็ร้าวมาอ่าแล้ว
00:21:50 → 00:21:52 แต่ว่าฟันที่ปวดเนี่ยมันอยู่ตรงส่วนไหน
00:21:52 → 00:21:54 ถ้าอยู่หน้าหน่อยมันก็อาจจะ้ามาข้างหน้า
00:21:54 → 00:21:56 ถ้าอยู่หลังหน่อยก็อาจจะ้าวไปขมับอะไร
00:21:56 → 00:21:59 อย่าเงี้ยได้อ่าแต่ถ้าเป็นแบบเ่อพื้นที่
00:21:59 → 00:22:01 แบบเช่นเต็มหน้าผากเลยอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:22:01 → 00:22:03 ครับอย่างคลาสเตอร์ก็จะทำให้มีอาการปวด
00:22:03 → 00:22:08 คล้ายๆอย่างนี้ได้ถ้ามาตรงบริเวณขมับนะ
00:22:08 → 00:22:11 ครับถ้าปวดขมับเนี่ยเอ่ออย่างที่บอกก็คือ
00:22:11 → 00:22:13 อาจจะเป็นไมเกรนได้แต่ไมเกรนก็ควรจะมี
00:22:13 → 00:22:16 ซ้ายบ้างขวาบ้างแล้วก็เป็นอายุรุ่นๆแต่
00:22:16 → 00:22:20 ถ้าปวดตรงบริเวณขมัดในคนสูงอายุแล้วนะ
00:22:20 → 00:22:23 ครับแล้วก็พอเราไปคลำๆเจอว่ามันมีเส้น
00:22:23 → 00:22:25 เลือดแข็งๆอยู่ตรงเนี้ยมันอาจจะเป็นกลุ่ม
00:22:25 → 00:22:27 ที่เป็นหลอดเลือดแดงอักเสบแล้วก็จะทำให้
00:22:27 → 00:22:32 มีอาการปวดเนี่ยได้นะครับอหรือถ้าปวดที่
00:22:32 → 00:22:35 บริเวณกลางศีรษะเลยพวกนั้นเนี่ยอาจจะมีี
00:22:35 → 00:22:38 เอ่อโอกาสของการเกิดเกิดเป็นกลุ่มที่เป็น
00:22:38 → 00:22:41 โรคหลอดเลือดดำอุดตันอย่างเงี้ยก็ได้แต่
00:22:41 → 00:22:44 ว่าพวกนั้นส่วนใหญ่มันก็จะเอ่ออยู่ๆก็ปวด
00:22:44 → 00:22:46 แล้วก็ปวดมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆร่วมกับมี
00:22:46 → 00:22:49 อาการสัญญาณเตือนอันตรายอย่างที่ผมบอกนะ
00:22:49 → 00:22:53 ครับอืหรือถ้าปวดไปทางด้านหลังเช่นตรงผาน
00:22:53 → 00:22:57 กะโหลกนะครับเอ่อที่มันต่อกับตรงคอนะฮะ
00:22:57 → 00:23:00 ตรงเนี้ยมันจะเป็นเป็นด้านหลังคอเราการ
00:23:00 → 00:23:02 ที่เราคอยังอยู่ตรงอย่างเงี้ยได้เนี่ย
00:23:02 → 00:23:05 เป็นเพราะว่ามันมีกล้านเนื้อข้างหลัง
00:23:05 → 00:23:07 เนี่ยยึดอยู่ไว้นะครับแล้วกล้ามเนื้อ
00:23:07 → 00:23:09 เนี่ยมันก็จะไปยึดเข้ากับตัวฐานกะโหลกนะ
00:23:10 → 00:23:13 ครับถ้าตัวตรงรงส่วนปลายของกล้ามเนื้อเรา
00:23:13 → 00:23:16 เรียกว่า N นะครับถ้าเอ็นอักเสบนะตรง
00:23:16 → 00:23:18 บริเวณเนี้ยมันก็จะทำให้มีอาการปวดเฉพาะ
00:23:18 → 00:23:22 ที่อยู่ตรงเนี้ยได้แต่ถ้าปวดคอบ่าไหล่ไป
00:23:22 → 00:23:24 เลยเนี่ยอันเนี้ยก็อาจจะเจอในกลุ่มที่
00:23:24 → 00:23:27 เป็นเเช่น Office syndrome หรือปวดเวลา
00:23:27 → 00:23:29 เครียดอย่างเช่นผมเองเนี่ยเวลาผมเครียด
00:23:29 → 00:23:31 มากๆผมจะเผลอยกไหล่ตลอดโดยที่ไม่รู้ตัว
00:23:31 → 00:23:34 อะไเงี้ยนะครับตกเย็นมาผมก็จะเริ่มปวดคอ
00:23:34 → 00:23:36 บ่าไลฝั่งเนี้ยแหละฝั่งที่ชอบยกเป็นประจำ
00:23:36 → 00:23:39 อะไรเงี้ยนะฮะแต่มันก็จะมีล้อกันว่าเออ
00:23:39 → 00:23:40 ถ้าปวดแบบทั้งหัวเลยอะไรอย่าเงี้ย
00:23:40 → 00:23:45 อันเนี้ยสงสัยจะเป็นเพราะว่าเอ่อโดนเมีย
00:23:45 → 00:23:50 ด่าอาจารยเอ่ออันนี้ยังปวดทั้งหัวอันนี้
00:23:50 → 00:23:53 ยังไม่มีเมียแต่ว่าึกสหนยังไงคะเวลาโดน
00:23:53 → 00:23:56 แฟนด่าทำอะไรไม่ถูกใจแฟนมันป่วยไปหมดเลย
00:23:56 → 00:23:58 เหรอคะมันป่วยครับมันป่วยครับทุกจุดเลย
00:23:58 → 00:24:01 พี่ลองไปถามสามีพี่ดูซิเคมีอาการปวดหัว
00:24:01 → 00:24:05 กับพี่หรือเปล่าเออพี่นกลไม่มีนะเอข้อบาล
00:24:05 → 00:24:08 เนี่ยใช่ใช่มันเครียดมันอะไรอย่างอาจารย์
00:24:08 → 00:24:10 บอกเออทีเนี้ยมีอาจารย์ปวดทั้งหัวมันเป็น
00:24:10 → 00:24:13 ยังไงอ่ะปวดทั้ง
00:24:13 → 00:24:16 หัวเสียงอาจารย์หายไปมั้ยอาจารย์ยังอยู่
00:24:16 → 00:24:19 มั้ยครับอาจารย์ครับผมอครับผมเมื่อกี้
00:24:19 → 00:24:21 มื่อกี้พี่นกถามว่าอะไรนะปวดทั้งหัวมัน
00:24:21 → 00:24:25 มันลักษณะยังไงคะอาจารย์เอ่อคือเอ่อถ้า
00:24:25 → 00:24:28 บางคนก็จะบอกว่าไม่สามารถบอกได้เลยเลยว่า
00:24:28 → 00:24:31 มันมันปวดมากตรงไหนอือมันจะปวดเหมือนกับ
00:24:31 → 00:24:36 เอ่อตื้อๆเหมือนกับมีอะไรดันแต่โดยส่วน
00:24:36 → 00:24:38 ใหญ่ถ้าปวดแบบเนี้ยนะครับเราก็จะสงสัยว่า
00:24:38 → 00:24:42 มันมีแรงดันในสมองที่มันสูงขึ้นหรือเปล่า
00:24:42 → 00:24:46 มากกว่านะครับแต่ว่ามักจะปวดถ้าจะปวดอยู่
00:24:46 → 00:24:49 ตลอดเวลาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับว่าเช้ามา
00:24:49 → 00:24:53 ดีขึ้นสายมาเอ่อเป็นมากอะไรอย่างเงี้ยเา
00:24:53 → 00:24:56 จะปวดอยู่ตลอดเวลาออแล้วก็อาจจะเริ่มมี
00:24:56 → 00:24:59 อาการผิดปกติเช่นเริ่มมองเห็นเห็นผิดปกติ
00:24:59 → 00:25:04 เห็นภาพซ้อนหรือภาพมัวอะไรอย่าเงี้ยฮะออื
00:25:04 → 00:25:05 อันนี้นะอันนี้คืออย่างงี้มองไปถึงหลอด
00:25:06 → 00:25:08 เลือดสมองอะไรอย่างงั้นแล้วมั้ยคะอาจารย์
00:25:08 → 00:25:11 เอ่อถ้าเป็นกลุ่มที่เป็นหลอดเลือดสมองที่
00:25:11 → 00:25:13 จะทำให้ปวดก็จะเป็นกลุ่มที่เป็นเช่นเส้น
00:25:13 → 00:25:16 เลือดในสมองแตกนะครับก็คือมีเลือดออกใน
00:25:16 → 00:25:18 สมองแล้วก็ทำให้แรงดันในสมองเพิ่มขึ้น
00:25:18 → 00:25:21 แล้วก็จะปวดอย่างที่ผมบอกว่าเอ่อมันจะมี
00:25:21 → 00:25:24 กลุ่มปวดประเภทนึงที่จะปวดหัวแบบรุนแรง
00:25:24 → 00:25:27 ทันทีทันใดแบบเดโดนฟ้าผ่าภาษาอังกฤษเจะ
00:25:27 → 00:25:29 ใช้คำว่าว่า thunderclap Head EG นะ
00:25:29 → 00:25:32 ครับก็คือปวดแบบมากที่สุดในชีวิตเลยเนี่ย
00:25:32 → 00:25:35 อตู้มเดียวพวกเนี้ยก็จะต้องนึกถึงกลุ่ม
00:25:35 → 00:25:39 ที่มีเลือดออกในสมองหรือหลอดเลือดสมองหด
00:25:39 → 00:25:42 ตัวหรือลอดหรือหลอดเลือดฝอยในสมองแตกนะ
00:25:42 → 00:25:45 ครับหรือกลุ่มที่หลอดเลือดทางด้านหลังมี
00:25:45 → 00:25:47 การเอ่อระบบประสาทอัตโนมัติของหลอดเลือด
00:25:47 → 00:25:50 ทางด้านหลังผิดทำงานผิดปกติแล้วก็จะทำให้
00:25:50 → 00:25:53 สมองทางด้านหลังเนี่ยบวมแต่พวกเนี้ยมันจะ
00:25:53 → 00:25:56 แบบเหมือนตู้มเลยฟ้าผ่าทีเดียวแล้วหลัง
00:25:56 → 00:26:00 จากนั้นอาการก็จะแบบปวดคงที่นะครับมันจะ
00:26:00 → 00:26:02 แม้ว่าจะมีเลือดออกอ่ะมันก็จะไม่ได้ปวด
00:26:02 → 00:26:05 มากเหมือนตอนที่มันแตกรอบแรกนะยกเว้นว่า
00:26:05 → 00:26:07 บวมากๆซึ่งพอบวมมากๆแล้วส่วนใหญ่คนไข้ก็
00:26:07 → 00:26:12 จะเริ่มซึมเอ่อไม่สามารถที่จะปอกหรือเ่อ
00:26:12 → 00:26:14 อธิบายความรู้สึกหรือรับรู้ความรู้สึกปวด
00:26:14 → 00:26:17 ได้แล้วเพราะฉะนั้นตอนปวดมากที่สุดตอนแรก
00:26:17 → 00:26:19 อันนั้นน่ะมันจะปวดมากที่สุดแล้วก็จะค่อย
00:26:19 → 00:26:22 ๆน้อยลงแล้วก็คงอยู่แบบระยะยาวครับครับ
00:26:22 → 00:26:26 เมื่อกี้มีที่คุณหมอพูดถึงเรื่องของคอบาล
00:26:26 → 00:26:28 พอดีมีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมาพอดีพอดีเลย
00:26:28 → 00:26:31 ครับคุณหมอครับคือปวดบริเวณไททอยจากอาการ
00:26:31 → 00:26:33 ตึงบริเวณคอบาไหล่เนี่ยคือถ้าปวดแบบนี้
00:26:33 → 00:26:36 เนี่ยทานยาได้มั้ยคุณหมอครับยาคลายกล้าม
00:26:36 → 00:26:40 เนื้อพาพรงพราอะไรอย่างงี้ได้มั้ยได้ครับ
00:26:41 → 00:26:45 หรือเราไปนวดคอบ่าไหลก็ได้นะครับหรือ
00:26:45 → 00:26:49 ปัจจุบันเราอาจจะเห็นมีอุปกรณ์คล้ายๆปืน
00:26:49 → 00:26:53 ก็คือนเจะเรียกว่าเป็นปืนนวดนะครับที่หัว
00:26:53 → 00:26:58 แทนการเอ่อนวดนี่ได้ซึ่งอาจจะเอ่อสลับกัน
00:26:58 → 00:27:01 ระหว่างสามีภรรยาสลับกันพ่อแม่ลูกหรือ
00:27:01 → 00:27:05 สลับกันแฟนเนี่ยให้ช่วยยิงตรงคอบ่าไหลนี่
00:27:05 → 00:27:08 ก็ได้หรือถ้าคนที่ชอบออกกำลังกายนะครับไป
00:27:08 → 00:27:12 โยคะไปพีลาทิสนะครับหรือแค่ยืดเหยียดแต่
00:27:12 → 00:27:15 ว่าต้องเป็นยืดเหยียดให้ให้ให้ถูกกับมัด
00:27:15 → 00:27:17 กล้ามเนื้อที่มันมีตึงเกร็งนะฮะอันเนี้ย
00:27:17 → 00:27:21 ก็จะดีขึ้นหมดเลยครับอือ๋อไอ้ไอปืนที่มัน
00:27:21 → 00:27:25 หัวมันกลมๆแล้วก็มันจะสั่นๆไม่เคยเห็นอ่ะ
00:27:25 → 00:27:27 โอเดี๋ยวนี้มันกำลังมีกำลังฮิตเลยใช่มัน
00:27:27 → 00:27:30 เอามาใช้นวดกันอันนี้ก็คือพอที่จะทดแทน
00:27:30 → 00:27:32 อาการปวดเนี่ยได้อยู่ใช่มั้ยครับคุณหมอ
00:27:32 → 00:27:34 ครับพอจะช่วยได้อยู่ใช่มั้ยครับอถ้าถ้า
00:27:34 → 00:27:37 มันเป็นการปวดตึงจากอ่ากลุ่มออฟิ Syndrome
00:27:37 → 00:27:40 หรือปวดตึงเกร็งจากเวลาเราอาจจะเผลอ
00:27:40 → 00:27:42 เครียดไม่รู้ตัวหรืออีกแบบนึงนะครับก็
00:27:42 → 00:27:45 เป็นพวกประคบก็ได้นะครับเนื่องจากว่าเอ่อ
00:27:45 → 00:27:48 อุณหภูมินะครับของลูกประคบที่ไปนึ่งมา
00:27:48 → 00:27:52 แล้วเนี่ยมันจะอุ่นๆนิดนึงอุณหภูมิที่
00:27:52 → 00:27:54 เพิ่มสูงขึ้นนะครับหรือการประคบหุ่นเนี่ย
00:27:54 → 00:27:56 มันจะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวเพราะฉะนั้น
00:27:56 → 00:27:59 ไอ้ที่มันเกร็งๆอยู่แล้วไม่ได้มากเกินไป
00:27:59 → 00:28:01 เวลาเจอลูกประคบมันก็เลยดีขึ้นนะครับแต่
00:28:01 → 00:28:04 ว่าถ้าเยอะมากจริงๆนะครับก็เอ่อทานยาไม่
00:28:04 → 00:28:08 ดีขึ้นก็ปรึกษาคุณหมอเอ่อเวชศาสตร์ฟื้นฟู
00:28:08 → 00:28:12 หรือพบเจอนักกายภาพเบื้องต้นก่อนก็ได้เขา
00:28:12 → 00:28:18 ก็จะมีเช่นยิงชอเฟ Ultra สาฝังเข็มพวก
00:28:18 → 00:28:20 เนี้ยมันก็จะเป็นกระบวนการในการที่จะไป
00:28:20 → 00:28:23 ช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อทั้งหมด
00:28:23 → 00:28:27 ครับอืคุณหมอครับทีนี้มีคุณผู้ฟังทางบ้าน
00:28:27 → 00:28:31 สอบถามมาเหมือนกันว่าตอนเเริ่มมีอาการปวด
00:28:31 → 00:28:34 หัวมึนแบบตื้อๆแล้วก็ปวดตรงท้ายทอยด้วย
00:28:34 → 00:28:38 เกือบทั้งวันเลยวัดความดันก็ไม่สูงด้วยนะ
00:28:38 → 00:28:41 ประมาณ 120 130 แล้วก็ตัวล่างก็ประมาณ 70
00:28:41 → 00:28:44 85 เนี่ยอันนี้มันเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไร
00:28:44 → 00:28:46 ที่มันดูน่ากังวลน่าเป็นหัวมยครับกับ
00:28:46 → 00:28:48 อาการลักษณะแบบนี้ฮะ
00:28:48 → 00:28:52 เอ่อเป็นเป็นได้หมดเลยนะครับทั้งแบบที่
00:28:52 → 00:28:56 ไม่ได้อันตรายอะไรกับเป็นสัญญาณเตินก็ได้
00:28:56 → 00:28:59 ผมพูดถึงอันที่เอ่อไม่ได้เป็นอันตรายอะไร
00:28:59 → 00:29:03 ก่อนเอ่อเวลาเราเครียดมากๆนะครับมันจะ
00:29:03 → 00:29:06 หรือบางคนอาจจะเริ่มมีภาวะซึมเศร้านะครับ
00:29:06 → 00:29:09 มันจะมีอาการที่อธิบายไม่ถูกมันจะดู
00:29:10 → 00:29:14 เหมือนกับปวดๆมึนๆตื้อๆอืเหมือนหัวไม่
00:29:14 → 00:29:17 โล่งอะไรอย่างเงี้ยครับแล้วก็อาจจะโอเค
00:29:17 → 00:29:20 อาจจะทำให้มีการตึงคอบ่าไหลร่วมด้วยหรือ
00:29:20 → 00:29:22 เปล่าเนี่ยก็ได้กลุ่มเนี้ยจริงๆไม่ได้
00:29:22 → 00:29:26 อันตรายเอ่อในแง่ของโรคที่เป็นทางระบบ
00:29:26 → 00:29:29 ประสาทอ่ะนะครับแต่ว่าถ้าเกิดจากภาวะเช่น
00:29:29 → 00:29:32 กำลังจะเริ่มมีอารมณ์ซึมเศร้าหรือไปสู่
00:29:32 → 00:29:34 ซึมเศร้าโอเคมันอาจจะอันตรายในแง่ของ
00:29:34 → 00:29:37 ปัญหาสุขภาพจิตก็อาจจะกำลังมาโดยไม่รู้
00:29:37 → 00:29:39 ตัวอะไรเงี้นะครับหรือถ้าเป็นกลุ่มที่
00:29:39 → 00:29:42 เป็นอันตรายเลยนะเช่นก็คือถ้าสมมุติว่า
00:29:42 → 00:29:46 มันปวดตื้อตึงทั้งหัวโอเคมันอาจจะเริ่มมี
00:29:46 → 00:29:49 แรงดันในสมองเพิ่มขึ้นหรือมีความผิดปกติ
00:29:49 → 00:29:52 ของตัวสมองเนี้ยก็ได้เพียงแต่ว่าถ้า
00:29:52 → 00:29:55 สมมุติว่ายังสามารถเดินเหินหรือทำอะไรทำ
00:29:55 → 00:29:57 กิจวัตรประจำวันทุกอย่างได้ปกติแต่มันตืๆ
00:29:58 → 00:30:00 ือถึงๆคงจะต้องลองย้อนถามตัวเองหรือบางที
00:30:00 → 00:30:02 เราอาจจะรู้สึกว่าอืก็ไม่ได้เครียดอะไร
00:30:02 → 00:30:05 แต่ว่าคนข้างตัวเราอาจจะเป็นคนที่เา้าอาจ
00:30:05 → 00:30:09 จะสังเกตบางอย่างได้เช่นเอ่อเราอาจจะ
00:30:09 → 00:30:12 เริ่มเอ่อมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆหรือเหวี่ยง
00:30:12 → 00:30:13 ง่ายขึ้นหน่อยโดยที่เรารู้สึกว่าเราไม่
00:30:13 → 00:30:15 ได้เป็นอะไรอย่างเงี้ยอันเนี้ยคนข้างตัว
00:30:15 → 00:30:18 หรือใกล้ๆตัวก็พอจะบอกได้ว่าจริงๆน่าจะ
00:30:18 → 00:30:21 เริ่มมีปัญหาเรื่องของการจัดการอารมณ์เอ๊
00:30:21 → 00:30:22 หรือเศร้าหรือเครียดอะไรมากไปหรือเปล่า
00:30:22 → 00:30:25 เงี้ยก็ได้นะฮะอาจจะดูตัวเองด้วยแล้วก็
00:30:25 → 00:30:28 ให้คนข้างๆใกล้ๆเนี่ยช่วยช่วยเอ่อประเมิน
00:30:28 → 00:30:30 ด้วยเนาะคุณประเมินแล้วก็บอกเราอีกทีนึง
00:30:30 → 00:30:32 ว่าจริงๆเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่าหรือถ้า
00:30:32 → 00:30:34 ไม่มั่นใจสุดท้ายก็คือคงจะต้องไปโรง
00:30:34 → 00:30:37 พยาบาลเพื่อที่จะให้คุณหมอตรวจแล้วก็เ่อ
00:30:37 → 00:30:39 พิจารณาว่าอ่าควรจะต้องตรวจอะไรเพิ่มเป็น
00:30:39 → 00:30:42 พิเศษหรือเปล่าหรือว่าน่าจะเป็นโรคอะไรจะ
00:30:42 → 00:30:44 ได้เข้าสู่กระบวนการรักษาครับโอสรุปแล้ว
00:30:44 → 00:30:48 การไปโรงพยาบาลเพื่อบอกบ่งบอกเอ่อลักษณะ
00:30:48 → 00:30:52 ของการปวดหัวตำแหน่งที่ปวดบอกโรคเอ่อ
00:30:52 → 00:30:54 ลักษณะอธิบายให้คุณหมอเข้าใจเนี่ยให้คุณ
00:30:54 → 00:30:57 หมอฟังเนี่ยจะสามารถบอกเราได้ใช่มั้คะคุณ
00:30:57 → 00:31:00 หมอเราอย่าได้ไปคิดว่าเออมันเป็นเรื่อง
00:31:00 → 00:31:03 ที่แบบมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใช่มั้ยคะจับ
00:31:03 → 00:31:06 สังเกตแล้วก็ไปหาหมออคือเราซักประวัติว่า
00:31:06 → 00:31:09 มันเข้าได้กับกลุ่มไหนเสร็จแล้วก็จะต้อง
00:31:09 → 00:31:12 ตรวจร่างกายทางระบบประสาทด้วยว่าเอ่อสมอง
00:31:12 → 00:31:15 แต่ละส่วนผ่านการตรวจร่างกายเนี่ยยังคงทำ
00:31:15 → 00:31:18 งานปกติดีอยู่เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าโอเค
00:31:18 → 00:31:21 ไม่ได้มีก้อนเนื้องอกนะไม่ได้มีความผิด
00:31:21 → 00:31:24 ปกติอื่นๆภายในเนื้อสมองและทำให้มีอาการ
00:31:24 → 00:31:28 ปวดครับผมเพราะว่าคนทั่วไปในธรรมดาคคน
00:31:28 → 00:31:30 มนุษย์ทั่วไปปกติก็จะไม่ปวดหัวอย่างนี้
00:31:30 → 00:31:34 ใช่มั้ยคะคุณหมอเราอาจจะมีปวดนิดๆหน่อยๆ
00:31:34 → 00:31:36 อยู่บ้างนะครับเช่นอ่าสภาพอากาศที่มัน
00:31:36 → 00:31:39 เปลี่ยนแปลงนะครับหรือบางคนอาจจะครึ้นฟ้า
00:31:39 → 00:31:42 ครึ้สนก็อาจจะรู้สึกปวดหน่อยนะครับร้อนก็
00:31:42 → 00:31:44 ปวดหรือเย็นก็ปวดอะไรอย่างเงี้ยมันจะมี
00:31:44 → 00:31:46 ได้เพียงแต่ว่าพวกเนี้ยก็จะไม่ได้มากจน
00:31:46 → 00:31:50 ถึงขั้นที่จะต้องกินยาแล้วก็ไม่ควรจะถี่
00:31:50 → 00:31:53 เป็นทุกๆวันหรือหลายวันใน 1 เดือนอะไร
00:31:53 → 00:31:56 อย่าเงี้ยนะครับคควรจะแบบปะปรามีบ้างนิด
00:31:56 → 00:31:59 นิดหน่อยๆซึ่งเราไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็อาจ
00:31:59 → 00:32:01 จะมีบางวันที่เราจะต้องหยิบพารามากิน
00:32:01 → 00:32:03 เพราะว่ามันปวดหัวอะไรอย่าเงี้ยซึ่งพวกเ
00:32:03 → 00:32:05 พอมันไม่ได้เยอะนะครับกินพาราซึ่งจริงๆ
00:32:05 → 00:32:08 ความสามารถในการจัดการความปวดเนี่ยมันอาจ
00:32:08 → 00:32:10 จะไม่ได้เยอะมากแต่ว่ามันหายอันเนี้ยก็
00:32:10 → 00:32:14 แปลว่าอืไม่น่าจะมีอะไรรุนแรงครับอืคุณ
00:32:14 → 00:32:16 หมอเดี๋ยวขออีกสัก 1 คำถามแล้วกันนะครับ
00:32:16 → 00:32:19 อันนี้ผมเดาว่าน่าจะมีอาการของ
00:32:19 → 00:32:22 ออฟฟิศซินโดรมด้วยแน่ๆเลยเอ่อคุณผู้ฟัง
00:32:22 → 00:32:24 ท่านนี้บอกว่าต้องนั่งทำงานพิมพ์งานเนี่ย
00:32:24 → 00:32:28 วันนึงประมาณสัก 8-10 ชมงต่อวันแล้วตอน
00:32:28 → 00:32:30 นี้เนี่ยเริ่มมีอาการปวดเบ้าตาละแล้วก็
00:32:30 → 00:32:34 ลามมาที่สบักไหล่ก้มมันก็จะปวดแบบนี้
00:32:35 → 00:32:37 เนี่ยถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยๆระยะยาวมันจะมี
00:32:37 → 00:32:42 ผลเสียขนาดไหนบ้างมั้ยครับคุณหมอครับจริง
00:32:42 → 00:32:46 ๆอันนี้ผมก็ผมก็มองว่ามันจริงๆเป็น Office
00:32:46 → 00:32:48 syndrome เอ่อผลเสียในระยะยาวจริงๆมัน
00:32:49 → 00:32:51 มันอาจจะไม่ได้เป็นผลเสียต่อทางกายมากนัก
00:32:51 → 00:32:55 เพราะว่าเอ่อมันไม่ได้เป็นโรคที่มันมี
00:32:55 → 00:32:58 อันตรายรุนแรงเพียงแต่ว่าถ้าสมมุตว่าว่า
00:32:58 → 00:33:00 สิ่งเนี้ยมันทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน
00:33:00 → 00:33:03 เนี่ยมันลดลงโอเคมันก็จะทำให้งานเราเนี่ย
00:33:03 → 00:33:07 มันมันเอ่อไม่ได้เจ๋งเหมือนก่อนหน้านี้นะ
00:33:07 → 00:33:10 ครับหรือว่าถ้าปวดมากแล้วกลายเป็นเอ่อเรา
00:33:10 → 00:33:16 เครียดแล้วเราพานไปเอ่อเอ่อลงที่คนอื่นใน
00:33:16 → 00:33:18 ที่บ้านเพราะว่าเราลงกับที่ทำงานไม่ได้
00:33:18 → 00:33:21 อะไรเงี้ยมันก็จะมีปัญหาที่เกิดขึ้นใน
00:33:21 → 00:33:24 เรื่องของความสัมพันธ์ได้นะครับหรือถ้า
00:33:24 → 00:33:28 สมมุติว่าเอ่อมันทำให้นอนไม่หลับการนอน
00:33:28 → 00:33:30 ไม่หลับนั้นเนี่ยก็จะส่งผลต่อสุขภาพโดย
00:33:30 → 00:33:34 รวมได้นะครับทีนี้แล้วเราจะจัดการยังไง
00:33:34 → 00:33:37 จริงๆการปวดกระบอกตาหรือปวดเบ้าตาเนี่ย
00:33:37 → 00:33:39 ส่วนนึงเพราะว่าเวลาที่ทำงานเราอาจจะต้อง
00:33:39 → 00:33:42 จ้องหรือว่าอยู่กับคอมพิวเตอร์นานๆในขณะ
00:33:42 → 00:33:44 ที่อยู่กับคอมพิวเตอร์มือก็จะต้องพิมพ์
00:33:44 → 00:33:47 ซึ่งมันก็จะเป็นท่าที่ไม่ใช่ท่าปกติของ
00:33:47 → 00:33:51 เรานะครับการที่เอ่อถ้าสมัยก่อนเวลาที่
00:33:51 → 00:33:54 เราไปกิน MK ซึ่งปัจจุบันผมไม่ค่อยได้ไป
00:33:54 → 00:33:58 แล้วแล้วผมก็ไม่มั่นใจว่าเยังมีเอ่อนงา
00:33:58 → 00:34:02 ของ nk เนี่ยมาเต้นหรือเปล่าเอ่อการที่มี
00:34:02 → 00:34:06 เอ่อการเปลี่ยนอีเรียยบททุกๆ 1 ชั่วโมง 2
00:34:06 → 00:34:08 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงอย่างเงี้ยนะครับมันจะ
00:34:08 → 00:34:11 ช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่มันจะต้องอยู่ท่า
00:34:11 → 00:34:14 เดิมนานๆเนี่ยมันได้ผ่อนคลายแล้วก็ไปอยู่
00:34:14 → 00:34:16 ท่าอื่นด้วยซึ่งไม่ได้บอกว่ามาเต้นหรือ
00:34:16 → 00:34:19 ถ้าใครชอบเต้นจริงๆจะออกมาเต้นก็ได้อย่าง
00:34:19 → 00:34:22 น้อยลุกไปเดินนะครับไปขยับไปยืดไปเหยียด
00:34:22 → 00:34:25 แล้วก็ค่อยมานั่งทำงานต่อก็ได้แล้วสำคัญ
00:34:25 → 00:34:28 เลยก็คือก็จะต้องดูว่าเอ่อโต๊โต๊ะแล้วก็
00:34:28 → 00:34:31 เก้าอี้ที่เรานั่งอยู่เนี่ยมันพอดีแล้วก็
00:34:31 → 00:34:34 เหมาะสมกับแต่ละคนหรือเปล่าเพราะว่าเอ่อ
00:34:34 → 00:34:36 โต๊ะออฟฟิศส่วนใหญ่มันก็จะออกแบบมาสำหรับ
00:34:37 → 00:34:39 ทุกๆคนไม่ได้ออกแบบมาสำหรับใครคนใดคนนึง
00:34:39 → 00:34:41 เพราะฉะนั้นคนที่มีกำลังอาจจะไปซื้อ
00:34:41 → 00:34:44 เก้าอี้มาใหม่ไปซื้อโต๊ะมาใหม่เพื่อที่จะ
00:34:44 → 00:34:47 ให้มันเหมาะกับสรีระของตัวเองนั่งแล้ว
00:34:47 → 00:34:49 สบายทำงานได้ต่อเนื่องยาวนานแต่ก็ไม่ได้
00:34:49 → 00:34:52 แนะนำว่าทำต่อเนื่องตลอดเลยโดยที่ไม่ควร
00:34:52 → 00:34:55 จะลุกจริงๆไม่ว่าจะได้เก้าอี้สบายแล้ว
00:34:55 → 00:34:58 โต๊ะสบายแล้วก็ควรจะต้อง
00:34:58 → 00:35:01 เปบเป็นช่วงๆเพื่อที่จะเปลี่ยนอีบทด้วย
00:35:01 → 00:35:05 ครับโอ้โหเข้าใจคุณหมอเลยเนาะเออใช่ๆทุก
00:35:05 → 00:35:08 อย่างนะมันอยู่ที่ตัวเองอ่ะต้องตระหนัก
00:35:08 → 00:35:11 เข้าใจถึงสภาวะของร่างกายเราเอใช่ๆใช่
00:35:11 → 00:35:12 ครับสุดท้ายแล้วครับคุณหมอครับคือเรื่อง
00:35:12 → 00:35:15 ของอาการปวดหัวครับคุณหมอมีคำแนะนำให้กับ
00:35:15 → 00:35:18 คุณผู้ฟังทางบ้านยังไงดีควรจะต้องสังเกต
00:35:18 → 00:35:23 ยังไงหรือว่าหายาพอจะทานเองบรรเทาอาการ
00:35:23 → 00:35:25 เบื้องต้นเนี่ยได้ยังไงดีครับหรือหรือ
00:35:25 → 00:35:28 ทั่วไปอ่ะเไม่ปวดเลยมีคุณผู้ฟังท่านนึง
00:35:28 → 00:35:30 อ่ะอายุก็เลข 7 แล้วนะคะก็ไม่ปวดหัวไม่
00:35:30 → 00:35:33 ปวดศีรษะเลยคุณพี่เนาะดูแลสุขภาพดีจังเลย
00:35:33 → 00:35:35 อ่ะใช่มั้ยคะคุณหมอคนทั่วไปควรควรจะไม่
00:35:35 → 00:35:39 ปวดหัวใช่มั้ยคะเอ่อจริงๆก็ไม่ควรปวดหัว
00:35:39 → 00:35:44 นะฮะเอ่าคำแนะนำก็คือถ้าสมมุติว่าอ่อเรา
00:35:44 → 00:35:49 มีเอ่ออาการปวดหัวก็ลองดูซิว่ามันมี
00:35:49 → 00:35:52 สาเหตุอะไรที่เราสามารถประเมินได้คร่าวๆ
00:35:52 → 00:35:56 ด้วยตัวเองเนี่ยถ้ามันมีเหตุชัดเจนว่าเจอ
00:35:56 → 00:35:58 สิ่งนี้หรือทำสิ่งนี้
00:35:58 → 00:35:59 หรือ
00:35:59 → 00:36:03 เอ่อมันไม่ได้มีความผิดปกติอะไรมีช่วงที่
00:36:03 → 00:36:05 มันหายไปแล้วก็มาปวดแล้วก็หายไปแล้วก็มา
00:36:05 → 00:36:08 ปวดซึ่งส่วนใหญ่เวลาที่มันกลับมาปวดมักจะ
00:36:08 → 00:36:10 เจอสิ่งนี้สิ่งนี้สิ่งนี้อะไรเงี้ยถ้ามัน
00:36:10 → 00:36:12 ดูแล้วมันมีเหตุชัดเจนพวกเนี้ยเราก็
00:36:12 → 00:36:16 พยายามจัดการเหตุเพื่อที่จะช่วยลดนะฮะ
00:36:16 → 00:36:19 เรื่องของอาการปวดแล้วก็โอเคในเบื้องต้น
00:36:19 → 00:36:22 เราอาจจะลองทันยาดูก่อนถ้าทันยาแล้วดี
00:36:22 → 00:36:24 ขึ้นเจอว่าเป็นเหตุจากอะไรไปจการเหตุแล้ว
00:36:25 → 00:36:27 ดีขึ้นอันนี้ก็อาจจะจบไปแต่ถ้าสมมตว่าการ
00:36:27 → 00:36:31 ปวดนั้นเนี่ยมันปวดมากจนเริ่มกระทบกับ
00:36:31 → 00:36:33 ชีวิตทั้งชีวิตประจำวันชีวิตทำงานโดยที่
00:36:33 → 00:36:36 อาจจะไม่ได้มีความผิดปกติทางระบบประสาท
00:36:36 → 00:36:39 หรืออาการอื่นๆอันเนี้ยก็ได้ก็อาจจะเป็น
00:36:39 → 00:36:42 กลุ่มโรคที่เป็นอาการปวดเป็นไมเกรนเป็น
00:36:42 → 00:36:44 tension เป็นคลัสเตอร์หรืออื่นๆอะไรอย่า
00:36:44 → 00:36:46 เงี้ยนะครับอันเนี้ยจริงๆก็ควรเข้าสู่
00:36:46 → 00:36:49 กระบวนการรักษาเพื่อที่จะได้คุณหมอก็จะ
00:36:49 → 00:36:51 ได้เลือกว่าเอ๊ะจะต้องใช้ยาป้องกันมั้ยจะ
00:36:51 → 00:36:54 ต้องใช้ยาป้องกันตัวไหนถึงจะเหมาะสมอือ
00:36:54 → 00:36:57 แล้วก็จะได้ให้คำแนะนำในการให้ยาบรรเทา
00:36:57 → 00:37:00 และก็แก้ปวดก็น่าจะดีกว่าการไปซื้อยาแก้
00:37:00 → 00:37:03 ปวดกินเองเพราะบางคนเป็นแบบนี้แหละแต่ว่า
00:37:03 → 00:37:07 ก็ซื้อยาแก้ปวดซึ่งพอกินมันก็หายแล้วมัน
00:37:07 → 00:37:10 ก็จะยังปวดอยู่เพราะว่าไม่ได้ยาป้องกัน
00:37:10 → 00:37:12 ด้วยไม่ได้ให้ไม่ได้รับคำแนะนำในการลด
00:37:12 → 00:37:15 ปัจจัยกระตุ้นอะไรเงี้ยก็ซื้อยาแก้ปวดกิน
00:37:15 → 00:37:17 เยอะเลยทีนี้รู้ตัวอีกทีนึงก็คือเป็นโรค
00:37:17 → 00:37:20 กระเพาะไปแล้วหรือว่าอาเจียนเป็นเลือด
00:37:20 → 00:37:21 หรือถ่ายดำไปแล้วอะไรอย่าเงี้ยเนื่องจาก
00:37:21 → 00:37:24 มีเลือดออกในทางเดินอาหารหรือเจอว่าเป็น
00:37:24 → 00:37:26 ไตเสื่อมแล้วอะไรอย่าเงี้ยโดยเฉพาะถ้า
00:37:26 → 00:37:30 เป็นต่างจังหวัดนะครับที่มันมียาชุดขายยา
00:37:30 → 00:37:34 ลูกกลอนขายอะไรอย่างเงี้ยบอกโอกินแล้วหาย
00:37:34 → 00:37:37 ปวดกินแล้วสบายซึ่งเอ่อส่วนนึงถ้าเป็นพวก
00:37:37 → 00:37:40 ยาลูกกลอนแยนี้เขาจะผสมสเตียรอยด์ครับ
00:37:40 → 00:37:42 ซึ่งพอกินแล้วอ่ะสเตียรอยด์อ่ะกินอะไรมัน
00:37:42 → 00:37:45 ก็จะดีขึ้นช่วงแรกหมดแต่ว่าผลข้างเคียง
00:37:45 → 00:37:48 มันเยอะมากนะครับเพราะฉะนั้นก็จะไม่แนะนำ
00:37:48 → 00:37:51 ถ้าใครที่มาทำงานกรุงเทพฯแล้วคุณพ่อคุณ
00:37:51 → 00:37:53 แม่อยู่ต่างจังหวัดจริงๆก็อาจจะต้องลอง
00:37:53 → 00:37:56 ถามดูซิหรือกลับบ้านไปเนี่ยเจอซองยาอะไร
00:37:56 → 00:37:59 ที่มันแตกๆใช่ยาโรงพยาบาลเป็นยาที่แบบ
00:37:59 → 00:38:02 ฉลากเนี่ยมีนะแต่ว่าอู้หรักษาได้ทุกโรค
00:38:02 → 00:38:04 เลยอันเนี้ยต้องระวังว่ามันจะเป็นกลุ่ม
00:38:04 → 00:38:06 ที่เป็นเสี่รอยซึ่งอันตรายมากก็อาจจะต้อง
00:38:06 → 00:38:09 คุยกันให้คำแนะนำกันดีๆไม่ใช่เถียงกัน
00:38:09 → 00:38:13 หรือด่ากันนะฮะเอ่อจะได้ปลอดภัยด้วยแล้ว
00:38:13 → 00:38:15 ก็ไม่ได้มีปัญหาด้วยขอบคุณมาแต่ถ้าสุด
00:38:15 → 00:38:18 ท้ายะมันปวดแบบที่ผมบอกเป็นมีสัญญาณ
00:38:18 → 00:38:21 อันตรายปวดอยู่ที่เดิมตลอดปวดมากขึ้น
00:38:21 → 00:38:24 เรื่อยๆไอจำเบ่งปวดเริ่มมีอาการทางระบบ
00:38:24 → 00:38:27 ประสาทที่ผิดปกติอันนี้ก็ควรจะต้องไปโรง
00:38:27 → 00:38:29 พยาบาลเลยครับครับต้องสังเกตตัวเองให้ดี
00:38:29 → 00:38:33 นะคุณหมอบอกเข้าใจละเอียดถ่องแท้มากๆเลยะ
00:38:33 → 00:38:34 มากเลยครับวันนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณ
00:38:34 → 00:38:36 หมอมากๆเลยนะครับที่มาให้ความรู้กับเราใน
00:38:36 → 00:38:38 ค่ำคืนวันนี้นะครับคุณหมอครับขอบพระคุณ
00:38:38 → 00:38:41 มากๆครับคุณหมอครับขอบสวัสดีคสวัสดีสวั
00:38:41 → 00:38:44 ครับขอบพระคุณมากๆครับโอ้โหค่ะคุณหมอชน
00:38:44 → 00:38:46 พิวัฒน์ตรีพงษ์นะคะในแพทย์ชำนาญการสาขา
00:38:46 → 00:38:52 ประสาทวิทยาสถาบันประสาทวิทยากรมการแพทย์