00:00:00 → 00:00:02 [เสียงดนตรี]
00:00:02 → 00:00:04 โรคแพนิก (Panic Disorder) นั้น
00:00:04 → 00:00:06 ถ้าเปรียบเทียบระบบประสาทอัตโนมัติ ของคนเรานั้น
00:00:06 → 00:00:08 ก็ทำหน้าที่เหมือนกับ สัญญาณเตือนไฟไหม้ในอาคาร
00:00:08 → 00:00:11 ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่สัญญาณเตือนไฟไหม้นั้น
00:00:11 → 00:00:14 เกิดดังขึ้นเองจากความผิดปกติ หรือความรวนของมันเป็นพัก ๆ
00:00:14 → 00:00:16 คนที่อยู่อาศัยในอาคารนั้น
00:00:16 → 00:00:19 ก็จะรู้สึกหวั่นไหว ไม่สงบสุข
00:00:19 → 00:00:22 อันนี้ก็เป็นเหตุการณ์เดียวกัน ที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่เป็นโรคแพนิก
00:00:22 → 00:00:25 นั่นคือสัญญาณเตือนของเขา คือระบบประสาทอัตโนมัตินั้น
00:00:25 → 00:00:27 ทำงานผิดจังหวะ ผิดเวลา
00:00:27 → 00:00:31 แล้วก็ก่อให้เกิดผลต่อ ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม
00:00:31 → 00:00:34 ก็คือมีความกลัวว่าจะเกิดอาการนั้น เกิดขึ้นซ้ำ
00:00:34 → 00:00:36 จนบางครั้งจะต้องพยายาม หลีกเลี่ยงสถานการณ์
00:00:36 → 00:00:41 หรือเหตุการณ์ที่อาจจะกระตุ้นให้เกิด ความตื่นตระหนกตกใจตรงนั้นเกิดขึ้นได้
00:00:41 → 00:00:43 [เสียงกริ่งเตือนไฟไหม้]
00:00:43 → 00:00:46 เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วครับ
00:00:46 → 00:00:50 ผมกำลังปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย ก็ปั่นในสนาม
00:00:50 → 00:00:52 ปกติผมจะปั่นแค่รอบเดียว
00:00:52 → 00:00:54 แต่วันนั้น อยู่ ๆ ก็อยากจะปั่น 2 รอบ
00:00:54 → 00:00:55 รู้สึกว่าเริ่มเหนื่อย
00:00:56 → 00:01:00 พอลงไปพักสักพักหนึ่ง ก็เริ่มเหมือนมือเริ่มจะชา
00:01:00 → 00:01:02 พอชาเสร็จแล้ว คือเริ่มจะเป็นตะคริวแล้ว
00:01:02 → 00:01:04 เหมือนหัวใจมันเหมือนจะหยุดเต้น
00:01:04 → 00:01:07 หรือว่าหัวใจจะวาย เหมือนเราจะล้มอะไร ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
00:01:07 → 00:01:09 ผมก็เลย เอ๊ะ มันเกิดอะไรขึ้น
00:01:09 → 00:01:10 เพราะในชีวิตเราไม่เคยเป็นอย่างนี้
00:01:10 → 00:01:13 เพราะปกติเราก็เล่นกีฬา ประจำอยู่แล้วใช่ไหมครับ
00:01:13 → 00:01:15 พอหลังจากอาการนั้นเกิดขึ้นครั้งหนึ่งปุ๊บนี่
00:01:15 → 00:01:18 ระยะเวลาสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ติดต่อกันนี่
00:01:18 → 00:01:21 ผมก็มีเอฟเฟกต์อาการแบบนี้ เกิดขึ้นมาอีกระยะหนึ่งก็คือแบบ...
00:01:21 → 00:01:23 มีอยู่วันหนึ่งก็คือ
00:01:23 → 00:01:26 กำลังจะขับรถกลับบ้าน พอขับไปสักระยะหนึ่ง
00:01:26 → 00:01:28 มันเหมือนกับครั้งแรกที่เราเป็น ก็เริ่มเหมือนแบบ...
00:01:28 → 00:01:30 ทำไมมันเหมือนวูบจะเป็นลม
00:01:30 → 00:01:35 แล้วก็ฝืนขับมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งรู้สึก มันไม่ไหวแล้ว อาการมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ
00:01:35 → 00:01:40 ผมก็เลยจอด ก็เลยตัดสินใจลงจากรถ ได้แท็กซี่ไปที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ นะครับ
00:01:40 → 00:01:45 สัญญาณของระบบประสาทอัตโนมัติ ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงทันที
00:01:45 → 00:01:49 มีได้ตั้งแต่อาการเรื่องของ ใจเต้น ใจสั่น หายใจเหนื่อย
00:01:49 → 00:01:53 รู้สึกหายใจไม่อิ่ม ความรู้สึกเหมือนกับ มีอาการจุก รู้สึกแน่น
00:01:53 → 00:01:56 บางคนก็จะรู้สึกมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
00:01:56 → 00:01:58 เวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม หน้ามืด
00:01:58 → 00:02:03 อาจจะรู้สึกเหมือนกับมีร้อน ๆ วูบวาบตามตัว หรือหนาวสั่น
00:02:03 → 00:02:06 บางคนก็จะมีความผิดปกติของความรู้สึก เช่น
00:02:06 → 00:02:09 รู้สึกชาตามตัว หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม
00:02:09 → 00:02:13 ในรายที่เป็นรุนแรงมาก ๆ ก็จะหวาดกลัวกับอาการเหล่านี้
00:02:13 → 00:02:16 จนบางครั้งรู้สึกว่า เอ๊ะ เราจะเสียชีวิตหรือเปล่า
00:02:16 → 00:02:19 หรือเราอาจจะควบคุมสติไม่อยู่ จนเป็นบ้าไปก็ได้
00:02:19 → 00:02:23 ผู้ป่วยที่เป็นอาการแพนิกนั้น มีข้อสังเกตคือว่า
00:02:23 → 00:02:25 เรื่องของการกระตุ้นของระบบประสาทอัตโนมัติ
00:02:25 → 00:02:27 ระบบประสาทอัตโนมัติของคนเรานี่
00:02:27 → 00:02:32 อาการของการกระตุ้นของมัน ก็จะเป็นอย่างรุนแรงภายในช่วง 10 นาทีแรก
00:02:32 → 00:02:36 แล้วมันก็จะค่อย ๆ คลายจากความกังวล หรือว่าอาการต่าง ๆ ก็จะเบาลงตามลำดับ
00:02:36 → 00:02:40 ผู้ป่วยบางรายก็จะเป็นอาการ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
00:02:40 → 00:02:41 ทำให้ไม่หายขาดสักที
00:02:41 → 00:02:46 แต่บางคนก็อาจจะมีช่วงเวลาที่อาการของโรค สงบลงไปบ้างหากไม่ได้รับการรักษา
00:02:46 → 00:02:49 ความรุนแรงของอาการมันเกิดขึ้น แม้กระทั่งผมนอนหลับไปแล้ว
00:02:49 → 00:02:54 สะดุ้งตื่นขึ้นมา มันเหมือนด้วยหัวใจ ที่มันเต้นแรงขึ้นมาโดยที่ไม่มีสาเหตุเลย
00:02:54 → 00:02:54 แล้วก็นอนไม่หลับ
00:02:55 → 00:03:00 มันเริ่มแย่ขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วมันมีอะไรฟ้อง บางอย่างให้เราต้องทำอะไรหรือต้องรักษาแล้ว
00:03:00 → 00:03:03 ก็เลยตัดสินใจไปพบแพทย์
00:03:03 → 00:03:05 ผู้ป่วยที่เป็นรุนแรงจริง ๆ นี่
00:03:05 → 00:03:10 แล้วก็เข้ามาสู่การรักษาอย่างเหมาะสม ก็มีโอกาสที่จะหายขาดได้
00:03:10 → 00:03:13 การวินิจฉัยโรคกลุ่มนี้ เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง
00:03:13 → 00:03:17 เนื่องจากว่าผู้ป่วยนั้นแสดงอาการของ อาการทางด้านร่างกาย
00:03:17 → 00:03:21 ซึ่งมีส่วนคล้ายคลึงกับโรค ที่เป็นความผิดปกติทางด้านร่างกาย
00:03:21 → 00:03:23 ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ
00:03:23 → 00:03:26 โรคในระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร
00:03:26 → 00:03:30 และก็โรคในระบบประสาทอื่น ๆ ออกไปให้แน่ชัดเสียก่อน
00:03:30 → 00:03:32 จนเราแน่ใจว่าไม่มีโรคในกลุ่มเหล่านั้นแล้ว
00:03:32 → 00:03:35 จึงจะเข้าสู่การวินิจฉัยในเรื่องของแพนิก
00:03:36 → 00:03:40 ก็อาศัยเรื่องของการซักประวัติ ตรวจสภาพจิต สอบถามอาการ ปัจจัยกระตุ้น
00:03:40 → 00:03:42 ลักษณะของอาการที่เป็น
00:03:42 → 00:03:46 แพนิกนั้นเป็นโรคที่ ผู้ป่วยที่เป็นนั้นจะรู้สึกว่า
00:03:46 → 00:03:49 มันเป็นโรคที่มีอาการที่น่ากลัว น่าตกใจอย่างยิ่ง
00:03:49 → 00:03:53 ซึ่งคนรอบข้างคงจะเข้าใจ ความรู้สึกทุกข์ใจของคนไข้
00:03:53 → 00:03:57 แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นโรคที่ ไม่เคยเป็นอันตรายถึงกับชีวิตนะครับ
00:03:57 → 00:04:00 ถ้าได้รับการช่วยเหลือหรือดูแลอย่างเหมาะสม
00:04:00 → 00:04:05 คนไข้สามารถที่จะควบคุมอาการได้ แล้วกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ
00:04:05 → 00:04:07 ในการรักษาเรื่องของโรคแพนิก
00:04:07 → 00:04:14 สิ่งสำคัญนั้นต้องใช้ทั้งในเรื่องของยา แล้วก็การให้ความรู้กับผู้ป่วยและญาติ
00:04:14 → 00:04:15 เกี่ยวกับอาการของโรคที่เป็น
00:04:15 → 00:04:19 ในส่วนของยา เรามียาที่ใช้ในปัจจุบันอยู่หลายกลุ่ม
00:04:19 → 00:04:24 ที่สามารถจะช่วยทั้งในเรื่องของการป้องกัน ไม่ให้อาการแพนิกกำเริบขึ้นมาในอนาคต
00:04:24 → 00:04:28 กับอีกเรื่องหนึ่งคือ ใช้เพื่อช่วยลดความรู้สึกตื่นเต้น
00:04:28 → 00:04:32 ที่เกิดขึ้นจากอาการแพนิกในแต่ละครั้ง ให้สงบลงได้อย่างรวดเร็ว
00:04:32 → 00:04:34 ส่วนเรื่องของการให้ความรู้
00:04:34 → 00:04:38 เน้นในเรื่องการที่จะทำให้ผู้ป่วยนั้น ผ่อนคลายสบายใจครับ
00:04:38 → 00:04:42 แต่เราจะให้ความรู้ตรงนั้นได้ ก็ต่อเมื่อเราแน่ใจว่าเป็นโรคแพนิกจริง ๆ
00:04:42 → 00:04:44 ไม่ได้เกิดขึ้นจากโรคทางกายอื่น ๆ
00:04:44 → 00:04:49 แต่ตัวเขาเองสามารถที่จะสังเกตได้ว่า มันก็เป็นเพียงแค่ 10-20 นาที
00:04:49 → 00:04:52 แล้วก็จะผ่อนคลายหายไปเอง โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
00:04:52 → 00:04:54 แต่หากต้องการให้มันสงบได้เร็วขึ้น
00:04:54 → 00:04:59 ผู้ป่วยเองควรที่จะฝึกเทคนิค หรือทักษะในเรื่องของการผ่อนคลายตัวเอง
00:04:59 → 00:05:02 เช่น เรื่องของการฝึกการหายใจช้า ๆ
00:05:02 → 00:05:03 ฝึกการคลายกล้ามเนื้อ
00:05:03 → 00:05:05 เมื่อมีอาการแพนิกเกิดขึ้น
00:05:05 → 00:05:08 ก็สามารถที่จะควบคุมให้มันบรรเทาเบาบาง
00:05:08 → 00:05:10 และหายได้เร็วกว่า การที่ไม่ฝึกสิ่งเหล่านี้เลย
00:05:10 → 00:05:15 ถ้าเป็นญาติของผู้ป่วยที่เป็นแพนิก แล้วรู้จักอาการของโรคเป็นอย่างดี
00:05:15 → 00:05:20 ให้ทำความเข้าใจ แล้วก็ปลอบใจเขาว่า มันไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
00:05:20 → 00:05:24 อาจจะหาวิธีการเปลี่ยนบรรยากาศหรืออะไร เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยนั้น
00:05:24 → 00:05:27 ลดจากความเครียดหรือวิตกกังวลตรงนั้น ได้รวดเร็วขึ้น
00:05:27 → 00:05:32 ก็แนะนำอยากให้พบคุณหมอหรือพบจิตแพทย์ ซึ่งคือมันเป็นการพูดคุย
00:05:32 → 00:05:35 เหมือนเราได้ระบาย หรืออธิบายอาการ เราจะได้รู้ว่า
00:05:35 → 00:05:39 ทางออกที่ช่วยให้เราไม่เกิดอาการนี้
00:05:39 → 00:05:43 จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องยาก หรือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงครับ
00:05:43 → 00:05:49 [เสียงดนตรี]