00:00:04 → 00:00:05 [ปรบมือ]
00:00:05 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 [ปรบมือ]
00:00:08 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 [ปรบมือ]
00:00:14 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:19 → 00:00:20 [ปรบมือ]
00:00:20 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:24 [ปรบมือ]
00:00:24 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:30 อ
00:00:30 → 00:00:31 [ปรบมือ]
00:00:31 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 [ปรบมือ]
00:00:35 → 00:00:41 [เพลง]
00:00:41 → 00:00:45 เด็กหลายๆคนเกิดมาพร้อมร่างกายที่สมบูรณ์
00:00:45 → 00:00:47 แต่ก็ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่เกิดมา
00:00:47 → 00:00:51 พร้อมกับโรคภูมิแพ้วันนี้รายการเราจะพาไป
00:00:51 → 00:00:58 รู้จักกับโรคนี้และทางออกของการรักษากัน
00:00:58 → 00:01:05 ครับ
00:01:05 → 00:01:07 คุณผู้ชมครับแล้วตอนนี้ผมก็อยู่กับผู้
00:01:07 → 00:01:09 ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงจิตติมาเวท
00:01:09 → 00:01:11 กิจกุลนะครับภาควิชากุมารวิทศาสตร์นะครับ
00:01:11 → 00:01:15 อ่าคณะพัทยาศิริราชพยาบาลต้องถามคุณหมอ
00:01:15 → 00:01:18 ก่อนนะครับว่าคือทุกวันนี้เราเห็นเด็กๆ
00:01:18 → 00:01:20 หรือว่าคนรุ่นใหม่ๆเนี่ยนะครับพูดถึง
00:01:20 → 00:01:23 เรื่องราวเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้จริงๆแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 โรคภูมิแพ้มันคืออะไรครับค่ะโรคภูมิแพ้นะ
00:01:26 → 00:01:29 คะก็เป็นเ่อภาวะที่ร่างกายของเราเนี่ยค่ะ
00:01:29 → 00:01:32 มีการตอบสนองนะคะทางภูมิคุ้มกันต่อสาร
00:01:32 → 00:01:35 กรอบภูมิแพ้ที่ไวกว่าปกตินะคะเอ่อเมื่อ
00:01:35 → 00:01:37 ร่างกายของคนไข้เนี่ยได้รับสารกรอบภูมแพ้
00:01:37 → 00:01:39 เข้าไปนะคะมันก็จะกระตุ้นให้คนไข้เนี่ยมี
00:01:39 → 00:01:42 อาการภูมิแพ้นะคะซึ่งอาการที่ว่าเนี่ยก็
00:01:42 → 00:01:45 สามารถแสดงออกมาได้หลายระบบเลยทีเดียวนะ
00:01:45 → 00:01:47 คะแล้วมันแบ่งออกเป็นกี่กลุ่มกี่ประเภท
00:01:47 → 00:01:50 ครับโรคภูมิแพ้เนี่ยครับจริงๆแล้วโรคภูมิ
00:01:50 → 00:01:52 แพ้นี้คือเป็นโรคที่ค่อนข้างกว้างนะคะ
00:01:52 → 00:01:57 เอ่อมีโรคที่เป็นภูมิแพ้เนี่ยหลายๆแบบนะ
00:01:57 → 00:02:00 คะอย่างเช่นโรคแรกก็คือโรคที่เจอกันบ่อยๆ
00:02:00 → 00:02:03 ก็คือโรคแพ้อากาศหรือว่าเยบุจมูกอักเสบ
00:02:03 → 00:02:05 จากภูมิแพ้นะคะคนไข้กลุ่มนี้เนี่ยเมื่อ
00:02:05 → 00:02:07 ได้รับสารกรอบภูมิแพ้เข้าไปเขาก็จะมี
00:02:07 → 00:02:11 อาการจามน้ำมูกคัดจมูกอืนะคะซึ่งเป็น
00:02:11 → 00:02:15 อาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในเด็กนะคะเอ่อ
00:02:15 → 00:02:17 สำหรับโรคถัดมาก็อย่างเช่นโรคหืดนะคะคน
00:02:18 → 00:02:21 ไข้ก็จะมีอาการหายใจหอบหืดเวลาที่ได้รับ
00:02:21 → 00:02:24 สารกรอบภุมแพ้เข้าไปนะคะหรืออาจจะไอติด
00:02:24 → 00:02:26 กันเป็นชุดๆเงี้ยคะแล้วก็มีอาการเหนื่อย
00:02:26 → 00:02:31 ง่ายหอบนะคะเอ่อโรคถัดมาก็เช่นโรคแพ้
00:02:31 → 00:02:34 อาหารนะคะโรคแพ้อาหารก็อย่างเช่นคนไข้ได้
00:02:34 → 00:02:37 รับอ่าสารกรอบภูมิแพ้ที่ว่าก็คือเป็น
00:02:37 → 00:02:39 อาหารบางอย่างที่คณให้แพ้เมื่อรับประทาน
00:02:39 → 00:02:43 เข้าไปก็จะมีอาการแสดงออกมานะคะเช่นบางคน
00:02:43 → 00:02:47 มีผื่นขึ้นมีหน้าบวมปากบวมนะคะหรือว่าถ้า
00:02:47 → 00:02:50 แพ้รุนแรงก็จะมีอาการช็อกหมดสติหายใจไม่
00:02:50 → 00:02:53 ออกได้นะคะก็คือแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
00:02:53 → 00:02:56 เอ่อจริงๆก็จะมีเรื่องของแพ้แมลงด้วยอีก
00:02:56 → 00:02:59 อย่างนึงนะคะแพ้แมลงก็อย่างเช่นบางคนถูก
00:02:59 → 00:03:03 พวกแมลงต่อยนะคะผึ้งต่อแตนต่อยแล้วก็มี
00:03:03 → 00:03:05 อาการแพ้รุนแรงซึ่งเราก็จะเห็นตามหน้า
00:03:06 → 00:03:09 หนังสือพิมพ์บ่อยๆนะคะที่ว่าถูกพวกเ่อต่อ
00:03:09 → 00:03:13 หัวเสือหรือว่าผึ้งต่อยแล้วก็มีอาการช็อก
00:03:13 → 00:03:15 เสียชีวิตไปคนไข้เนี่ยเวลาที่เขาแพ้เนี่ย
00:03:15 → 00:03:18 นะครับค่ะสมมุติห้องนี้ปกติไม่มีอาการ
00:03:18 → 00:03:21 อะไรเลยเดินไปอีกห้องนึงมีปัจจัยมีฝุ่น
00:03:21 → 00:03:24 เยอะก็จะจามออกมาให้เห็นเลยใช่ค่ะบางเอ่อ
00:03:24 → 00:03:26 ก็คือจะมีอาการมากกว่าคนปกตินะคะบางบาง
00:03:27 → 00:03:29 ครั้งคือคนปกติถามว่ามีอาการจามได้มั้ย
00:03:29 → 00:03:31 เมื่อเจอฝุ่นก็คือมีอาการได้มันเป็น
00:03:31 → 00:03:34 ปฏิกิริยาปกติของร่างกายเพียงแต่ว่าถ้าคน
00:03:34 → 00:03:36 ปกติที่ไม่ได้เป็นภูมแพ้นะคะเมื่อเจอฝุ่น
00:03:36 → 00:03:39 เขจะจามแค่ครั้ง 2 ครั้งแล้วก็หายไปในขณะ
00:03:39 → 00:03:41 ที่คนไข้ที่เป็นภูมิแพ้เนี่ยเมื่อเจอฝุ่น
00:03:41 → 00:03:44 เขาอาจจะมีอาการจามติดกันเป็นชุดๆมีน้ำ
00:03:44 → 00:03:47 มูกไหลน้ำตาไหลคันตาอะไรอย่างเงี้ยค่ะได้
00:03:47 → 00:03:50 คืออาการจะเป็นมากกว่าคนปกตินะคะแล้วก็
00:03:50 → 00:03:53 อาการเนี่ยอาจจะเป็นคือมีอาการต่อเนื่อง
00:03:53 → 00:03:55 เป็นระยะระยะตลอดทั้งปีอย่างเงี้ยค่ะอ๋อ
00:03:55 → 00:03:57 มันจะเป็นต่อเนื่องไม่หายขายอาจจะมีช่วง
00:03:58 → 00:04:00 ที่หายแต่ว่าเมื่อมีอะไรมากระตุ้นก็จะ
00:04:00 → 00:04:02 เป็นอาการแบบเดิมใช่นะครับอันนี้คือพึง
00:04:02 → 00:04:04 คิดว่าคุณเป็นละอันนี้ก็ต้องสงสัยแล้วว่า
00:04:04 → 00:04:07 เราจะเป็นภูมิแพ้ะก็ควรจะต้องมาพบแพทย์เพ
00:04:07 → 00:04:09 อันนี้คือปรึกษาอันนี้คือกลุ่มที่เกี่ยว
00:04:09 → 00:04:12 กับระบบทางเดินหายใจค่ะคือจริงๆแล้วอย่าง
00:04:12 → 00:04:15 ที่บอกว่าอาการแพ้เนี่ยมันมาได้หลายระบบ
00:04:15 → 00:04:18 นะคะแต่ว่าเอ่อเราก็จะดูด้วยว่าสิ่งที่มา
00:04:18 → 00:04:20 กระตุ้นเาเนี่ยคืออะไรนะคะแล้วก็จะแบ่ง
00:04:20 → 00:04:23 โรคตามตามสิ่งที่กระตุ้นด้วยนะคะเพราะว่า
00:04:23 → 00:04:27 จริงๆแล้วทั้งเรื่องของแพ้อาหารคนไข้ก็จะ
00:04:27 → 00:04:29 มาแสดงด้วยเรื่องของผื่นผิวหนังได้เหมือน
00:04:29 → 00:04:32 กันนะคะหรือว่ามีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่
00:04:32 → 00:04:34 ออกนะคะจนถึงขั้นถ้ารุนแรงก็คือช็อกมดสติ
00:04:35 → 00:04:37 ได้นะคอ๋อแสดงว่าการแพทยแต่ละคนไม่เหมือน
00:04:37 → 00:04:40 กันใชต่อให้แพ้กลุ่มอาหารเหมือนกันแต่ละ
00:04:40 → 00:04:43 คนนี่อาจจะบางคนอาจจะแค่คันคอบางคนเป็นุม
00:04:43 → 00:04:46 ขึ้นบางคนนี่ถึงกับช็อกหมดสติก็มีใช่ค่ะ
00:04:46 → 00:04:49 โอหถ้างั้นเราเราเราเราไม่รู้ว่าเราจะแพ้
00:04:49 → 00:04:53 อะไรในการผมกำลังจะบอกว่าเราเราจะเตรียม
00:04:53 → 00:04:55 ตัวยังไงเพราะตอนแรกเราไม่รู้ว่าเราจะแพ้
00:04:55 → 00:04:57 อะไรเลยถูกต้องมั้ยฮะจนกว่าอาการมันจะออก
00:04:57 → 00:05:01 มาใช่ค่ะคือจริงๆแล้วเนี่ยเอ่อถามว่ามี
00:05:01 → 00:05:03 การเตรียมตัวมจริงๆแล้วบอกค่อนข้างยากนะ
00:05:03 → 00:05:06 คะเพียงแต่ว่าเราต้องคอยสังเกตตัวเองด้วย
00:05:06 → 00:05:09 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอะไรที่ผิดปกติเกิด
00:05:09 → 00:05:11 ขึ้นกับเราเนี่ยเราต้องคอยสังเกตแล้วว่า
00:05:11 → 00:05:14 เอ๊ะอาการเหล่านี้เนี่ยมันเกิดขึ้นเมื่อ
00:05:14 → 00:05:16 ไหร่มีอะไรที่มาสัมพันธหรือเปล่านะคะ
00:05:16 → 00:05:18 เพราะว่าจริงๆในการที่เราจะวินิจฉัยว่า
00:05:18 → 00:05:20 เป็นภูมิแพ้มั้ยเนี่ยเราอาศัยจากประวัติ
00:05:20 → 00:05:23 และการตรวจร่างกายเป็นสำคัญนะคะแล้วก็
00:05:23 → 00:05:26 ค่อยใช้การตรวจอ่อทางห้องปฏิบัติการเพิ่ม
00:05:26 → 00:05:29 เติมเพื่อช่วยในการวินิจฉัยหรือว่าช่วย
00:05:29 → 00:05:32 บอกบอกว่าคนไข้เนี่ยแพ้อะไรอืนะคะถ้าเกิด
00:05:32 → 00:05:36 สมมุติว่าคนปกติคนนึงไม่ได้เป็นโรคภูมิ
00:05:36 → 00:05:40 แพ้แต่ถ้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะแวดล้อม
00:05:40 → 00:05:42 ที่แบบมีสิ่งกระตุ้นอยู่รอบตัวมากมาย
00:05:42 → 00:05:44 อย่างเงี้ยคนที่แข็งแรงแบบนี้จะกลายไป
00:05:44 → 00:05:47 เป็นคนเป็นโรคภูมิแพ้มั้ยครับเอ่อจริงๆ
00:05:48 → 00:05:50 แล้วต้องย้อนกลับมานิดนึงนะคะว่าเรื่อง
00:05:50 → 00:05:53 ของโรคภูมิแพ้เนี่ยมันมี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ
00:05:53 → 00:05:55 ด้วยกันนะคะปัจจัยแรกก็คือเรื่องของ
00:05:55 → 00:05:58 พันธุกรรมนะคะซึ่งในอดีตที่เราจะมีมักมี
00:05:58 → 00:06:02 การพูดว่าถ้าพ่อแม่เป็นภูมิแพ้ลูกก็มักจะ
00:06:02 → 00:06:04 เป็นภูมิแพ้อันนี้คือเรื่องของพันธุกรรม
00:06:04 → 00:06:07 ก็คือค่ะก็คือในตัวของเขาเนี่ยพันธุกรรม
00:06:07 → 00:06:10 เนี่ยมันบ่งชี้มาแล้วว่าคุณมีโอกาสที่จะ
00:06:10 → 00:06:13 เป็นภูมิแพ้สูงนะคะกับอีกปัจจัยนึงก็คือ
00:06:13 → 00:06:16 เรื่องของสิ่งแวดล้อมนะคะก็คือถ้าสิ่งแวด
00:06:16 → 00:06:20 ล้อมไม่ดีเจอมลภาวะมากๆนะคะหรือว่าเจอตัว
00:06:20 → 00:06:22 กระตุ้นสารกรอบภูมแพ้อะไรเยอะเนี่ยค่ะมัน
00:06:23 → 00:06:26 ก็จะกระตุ้นให้เรื่องของพันธุกรรมเนี่ย
00:06:26 → 00:06:28 เปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ทำให้เกิดภูมิแพ้ขึ้น
00:06:28 → 00:06:30 มาได้เพราะะนั้นก็คือจะเป็น 2 ปัจจัยร่วม
00:06:30 → 00:06:33 กันนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่คนปกติ 1
00:06:33 → 00:06:36 คนไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีเนี่ยก็บอก
00:06:36 → 00:06:38 ไม่ได้ 100% ว่าเขาจะกลายเป็นภูมิแพ้หรือ
00:06:38 → 00:06:41 เปล่านะราแต่มีโอกาสเป็นก็มีโอกาสค่ะแล้ว
00:06:41 → 00:06:44 ความเชื่อที่ผมเคยได้ยินมาเ่าถ้าเกิดคุณ
00:06:44 → 00:06:46 แม่กำลังตั้งครรภ์มีน้องอยู่นะครับถ้า
00:06:46 → 00:06:49 เกิดคุณแม่ไปทานอาหารโดยเฉพาะนมวัวค่ะ
00:06:49 → 00:06:51 หรือว่าสิ่งใดที่ทานมากๆแล้วเนี่ยมันจะ
00:06:51 → 00:06:54 ส่งผลให้ลูกในครรภ์ของเราแพ้สิ่งนั้นอัน
00:06:54 → 00:06:57 นี้จริงมั้ยครับเอ่อมีข้อความที่จริงบาง
00:06:57 → 00:07:00 ส่วนนะคะก็คือในปัจจุบันเนี่ยมีข้อมูลออก
00:07:00 → 00:07:03 มามากมายแล้วนะคะแล้วก็เอ่อสมาคมต่างๆนะ
00:07:03 → 00:07:06 คะทั้งในประเทศแล้วก็ต่างประเทศเองเนี่ย
00:07:06 → 00:07:09 ก็ไม่ได้แนะนำให้คุณแม่ที่ตั้งท้องเนี่ย
00:07:09 → 00:07:13 งดอาหารกลุ่มเสี่ยงที่ที่จะแพ้นะคะก็คือ
00:07:13 → 00:07:15 แนะนำให้คุณแม่ที่ตั้งท้องเนี่ยทานอาหาร
00:07:15 → 00:07:17 ให้ครบ 5 หมู่ทานอาหารที่เป็นประโยชน์นะ
00:07:17 → 00:07:21 คะเพียงแต่ว่าให้เดินทางสายกลางก็คือว่า
00:07:21 → 00:07:24 ไม่ทานหนักมากจนเกินไปหรืออะไรที่มากกว่า
00:07:24 → 00:07:27 ปกติอย่างเช่นก่อนตั้งท้องเนี่ยคุณแม่ทาน
00:07:27 → 00:07:31 นมววันละกล่องได้มั้ยฮะทานได้ค่ะทีนี้ถ้า
00:07:31 → 00:07:33 ตั้งท้องเนี่ยก็ให้ทานเหมือนปกติเหมือน
00:07:33 → 00:07:36 ก่อนตั้งท้องได้นะคะแต่ว่าในอดีตบางครั้ง
00:07:36 → 00:07:39 ที่เราเจอว่าคนไข้ในเด็กที่แพ้อาหารหรือ
00:07:39 → 00:07:41 แพ้นมวัวเนี่ยค่ะบางครั้งเราเจอว่าคุณแม่
00:07:41 → 00:07:44 บางท่านเนี่ยคือก่อนตั้งท้องเนี่ยทานแค่
00:07:44 → 00:07:46 วันละกล่องแต่พอตั้งท้องเนี่ยโหลดนมวัว
00:07:47 → 00:07:49 ปริมาณมากทานเป็นวันละลิตร์โเพื่อจะได้
00:07:50 → 00:07:52 ลูกแข็งแรงใช่ค่ะซึ่งมันมากขึ้นกว่าเดิม
00:07:52 → 00:07:55 หลายเท่านะคะซึ่งอันเนี้ยถ้าทานมากเกินไป
00:07:55 → 00:07:58 มันอาจจะมีผลทำให้ลูกมีอาการแพ้อาหารตาม
00:07:58 → 00:08:00 มาได้แต่แต่ว่าถ้าเลี่ยงแบบไม่ทานเลยก็
00:08:00 → 00:08:03 ไม่แนะนำเพราะว่ามันก็มีรายงานออกมาว่า
00:08:03 → 00:08:06 ระหว่างกลุ่มที่คุณแม่ตั้งท้องเนี่ยไม่
00:08:06 → 00:08:09 ทานอาหารกลุ่มเสี่ยงเลยกับอีกกลุ่มนึงคุณ
00:08:09 → 00:08:13 แม่ตั้งท้องทานอาหารเหมือนปกติละกันอ่า
00:08:13 → 00:08:16 ใช่ค่ะปรากฏว่ากลุ่มที่คุณแม่ไม่ทานอาหาร
00:08:16 → 00:08:19 กลุ่มเสี่ยงเลยเนี่ยลูกเนี่ยก็แพ้อาหาร
00:08:19 → 00:08:21 ได้เหมือนกันแล้วก็แพ้มากกว่ากลุ่มที่คุณ
00:08:21 → 00:08:24 แม่ยังทานปกติโอ้โหนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:08:24 → 00:08:26 ในปัจจุบันเนี่ยเราก็จะแนะนำว่าให้คุณแม่
00:08:26 → 00:08:29 เนี่ยทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อหลากหลายใช
00:08:29 → 00:08:32 หลากหลายนะคะยกเว้นว่าถ้าคุณแม่ตัวคุณแม่
00:08:32 → 00:08:34 เองเนี่ยมีอาการแพ้อาหารชนิดไหนคุณแม่ก็
00:08:34 → 00:08:37 ค่อยเลียกอาหารชนิดนั้นแต่ไม่ต้องทานเ
00:08:37 → 00:08:39 เรียกว่ามากขึ้นกว่าเดิมเป็น 2-3 เท่า
00:08:39 → 00:08:41 สมมุติคุณแม่ก่อนหน้านั้นนะครับคุณผู้ชม
00:08:41 → 00:08:43 ครับทานนมอยู่แล้วเนี่ยคุณแม่ทานนมวันละ
00:08:43 → 00:08:46 กล่องพอมีน้องขึ้นมาปั๊บอยากจะดูแลดีขึ้น
00:08:46 → 00:08:49 ใช่กลายเป็นวันละ 3 กล่องอันนี้แหละมันก็
00:08:49 → 00:08:52 จะทำให้ลูกที่เกิดมาอาจจะเป็นภูมิแพ้ได้
00:08:52 → 00:08:55 นะครับก็ต้องทานคละกันให้ครบทุกหมู่ทุก
00:08:55 → 00:08:57 แบบหลากหลายกันไปใช่ค่ะนะครับแล้วตันนี้
00:08:58 → 00:09:01 คือในลายที่เป็นหนักๆเนี่ยรุนแรงถึงขนาด
00:09:01 → 00:09:05 ไหนก็อาจจะมีอารช็อกหมดสติแล้วก็บางคนอาจ
00:09:05 → 00:09:08 จะเสียชีวิตได้แพโอ้โหขนาดนั้นเลยใช่ค่ะ
00:09:08 → 00:09:11 เพราะฉะนั้นเนี่ยต้องคอยดูดูตัวเองดีๆนะ
00:09:11 → 00:09:13 ครับว่าผลของการแพ้ของเรามันไปอยู่ใน
00:09:13 → 00:09:16 ระดับไหนแล้วแล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไง
00:09:16 → 00:09:19 ว่าอย่างที่คุณหมอบอกเนี่ยการแพ้เนี่ย
00:09:19 → 00:09:21 ลักษณะของโลกมันก็มีหลายกลุ่มด้วยสารเค้า
00:09:21 → 00:09:23 เรียกว่าสารก่อความแพ้เนี่ยมันก็มีหลาย
00:09:23 → 00:09:26 ตัวค่ะคนปกติคนไข้ทั่วไปจะรู้ได้ยังไง
00:09:27 → 00:09:29 ครับว่าเราเนี่ยแพ้ตัวไหนอะไรยังไงเวลา
00:09:29 → 00:09:31 เราจะวินิจฉัยว่าคนไข้เป็นภูมิแพ้หรือ
00:09:31 → 00:09:33 เปล่าเนี่ยก็คืออาศัยจากประวัติแล้วก็การ
00:09:33 → 00:09:36 ตรวจร่างกายนะคะซึ่งประวัติเนี่ยเป็นสิ่ง
00:09:36 → 00:09:39 ที่สำคัญเลยนะคะว่าคนไข้เนี่ยมีอาการอะไร
00:09:39 → 00:09:41 นะคะแล้วก็อาการเหล่านั้นเนี่ยสัมพันธ์
00:09:41 → 00:09:44 กับอะไรบ้างแล้วเราก็จะตรวจร่างกายเพิ่ม
00:09:44 → 00:09:48 เติมเพื่อดูว่าเอ่อคนไข้เนี่ยมีอาการแสดง
00:09:48 → 00:09:52 ของโรคภูมิแพ้ที่สงสัยโรคนั้นๆหรือเปล่า
00:09:52 → 00:09:55 นะคะรวมทั้งก็จะมีการเอ่อตรวจเพิ่มเติม
00:09:55 → 00:09:57 ทางห้องปฏิบัติการนะคะเพื่อหาว่าคนไข้
00:09:57 → 00:10:00 เนี่ยแพ้ต่อสสารกอบภูมิแพ้ชนิดไหนเพราะ
00:10:00 → 00:10:02 ว่าอย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้เราว่าสาร
00:10:02 → 00:10:04 กอบภูมิแพ้มันมีหลายอย่างมากนะคะอย่างผม
00:10:04 → 00:10:07 เนี่ยเวลาเข้าห้องนอนใหม่ๆเปิดแอร์เย็นๆ
00:10:07 → 00:10:09 นะครับเข้าไปปั๊อากาศเปลี่ยนจากห้อง
00:10:09 → 00:10:12 อุณหภูมิปกติเข้าไปห้องเย็นๆผมจะจามก่อน
00:10:12 → 00:10:14 ค่ะผมสงสัยเหลือเกินว่าผมเนี่ยเป็นภูมิ
00:10:14 → 00:10:16 แพ้แน่ๆถ้างั้นวันนี้เดี๋ยวต้องให้คุณหมอ
00:10:16 → 00:10:19 รบกวนตรวจผมได้ไครับว่าผมเี่เป็นภูมิแพ้
00:10:19 → 00:10:21 หรือเปล่าได้ค่ะเดี๋ยววันนี้ที่คลินิกเรา
00:10:21 → 00:10:24 มีการตรวจภูมิแพ้อยู่แล้วนะคะงั้นเดี๋ยว
00:10:24 → 00:10:26 เราไปดูวิธีการตรวจภูมิแพ้กันนี่ครับคุณ
00:10:26 → 00:10:28 ผู้ชมตามผมมาเลย
00:10:28 → 00:10:33 ครับ
00:10:33 → 00:10:42 [เพลง]
00:10:42 → 00:10:45 ก็คือตอนแรกที่เข้าแพ้นะคะก็คือเกิน
00:10:45 → 00:10:47 สตรอว์เบอร์รี่ลงไปค่ะแล้วทีนี้เเกิด
00:10:47 → 00:10:51 อาการผื่นตามตัวแกทรมานมากเลยนะคะช่วงแก
00:10:51 → 00:10:54 เป็นแรกๆที่เรายังไม่รู้จักจะมีอาการอ้วก
00:10:54 → 00:10:57 อาเจียนอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วนอนหายใจไม่
00:10:57 → 00:11:01 ค่อยสะดวกเวลามีเสียงวีดๆกลางคืนพ่อแม่ก็
00:11:01 → 00:11:03 ต้องไม่ได้หลับไม่ได้น้นก็ต้องมานั่งเฝ้า
00:11:03 → 00:11:06 เขาเดินมาหาเราก็คือเผผืนขึ้นเต็มหน้า
00:11:06 → 00:11:08 แล้วอ่ะคุณบอบอกต้องระวังทุกสิ่งอย่างควบ
00:11:08 → 00:11:11 คุมสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้ดีที่สุดหลีก
00:11:11 → 00:11:14 เลี่ยงารที่จะก่อให้เกิดผูมแพ้ที่เขาแพ้
00:11:14 → 00:11:19 เช่นไรฝุ่นแมงสาบเชื้อราขนหมาขนแมวแล้วก็
00:11:19 → 00:11:22 หญ้าละอองหญ้าก็ทำให้เขาใช้ชีวิตค่อนข้าง
00:11:22 → 00:11:25 ระวังเพราะเราก็จะบอกว่าไอ้อาหารเวลาตอน
00:11:25 → 00:11:27 เย็นหลังเลิกเรียนน่ะอะไรที่มันเป็นแป้ง
00:11:27 → 00:11:29 ที่อาจจะมีเชื่อร
00:11:29 → 00:11:32 เลี่ยงนะลูกคือทุกสิ่งอย่างอ่ะกลับมาปุ๊บ
00:11:33 → 00:11:35 เรายต้องถามวันนี้กินอะไรมั่งไปทำอะไรมา
00:11:35 → 00:11:38 บ้างคุณหมอครับคนไข้ที่เราเห็นอยู่นี้นี่
00:11:38 → 00:11:40 คือมามาตรวจภูมิแพ้หมดเลยเหรอฮะใช่ค่ะคน
00:11:40 → 00:11:42 ไข้ที่นั่งอยู่นี่คือคนไข้ที่รอรับการ
00:11:42 → 00:11:44 ตรวจเรื่องของภูมิแพ้แสดงว่าทุกวันนี้คน
00:11:44 → 00:11:47 เป็นโรคภูมิแพ้เยอะมากใช่ค่ะนะฮะแล้ว
00:11:47 → 00:11:49 เดี๋ยวคุณหมอกำลังจะพาผมไปที่ไหนครับตอน
00:11:49 → 00:11:52 นี้พามาที่ห้องตรวจทดสอบเรื่องของภูมิแพ้
00:11:52 → 00:11:57 อ่ะค่ะเกิดครับีวหออกำลังมีคนไข้อยู่นะคะ
00:11:57 → 00:11:59 เดี๋ยวเราขออนุญาตคนไข้กันสักครับนิดนึง
00:11:59 → 00:12:02 นะคะเป็นเด็กนะครับคุณผู้ชมครับแล้วนี่
00:12:02 → 00:12:04 คือเจ้าหน้าที่พยาบาลเี่นะครับหยอดยาคุณ
00:12:04 → 00:12:07 ผู้ชมดูนะฮะหยอดไปทีละหยดนิดเลยนะ
00:12:07 → 00:12:13 [เพลง]
00:12:13 → 00:12:16 [ปรบมือ]
00:12:16 → 00:12:21 [เพลง]
00:12:21 → 00:12:25 ฮะค่ะก็นี้ 15 นาทีผ่านไปนะคะเราก็จะมา
00:12:25 → 00:12:30 แปรผลนะคะก็ทำทดสอบเนี่ยทำทดสอบภูมแพ้
00:12:30 → 00:12:32 หลายตัวนะคะที่ขึ้นนะค่ะถ้าเกิดว่าเป็น
00:12:32 → 00:12:35 นูนแดงเงี้ยค่ะอย่างเช่นตุ่่มนี้นะคะหรือ
00:12:35 → 00:12:39 ว่าตรงนี้เนี่ยที่คล้ายๆยุงกัดอ่ะค่ะถ้า
00:12:39 → 00:12:42 อย่างเงี้ยคือแพ้คือแพ้ถ้าเกิดขนาดใหญ่
00:12:42 → 00:12:45 เกิน 3 มลมนะคะก็ถือว่าแพ้อ๋อแล้วเราก็มา
00:12:45 → 00:12:47 ดูว่าถ้ามันเกิน 3 มมตำแหน่งนั้นเนี่ยคือ
00:12:47 → 00:12:50 สารเเรียกว่าสารกระตุ้นอะไรของน้องนะคะ
00:12:50 → 00:12:53 เนี่ยมี 2 ตุ่มนี้ที่ขึ้นนะคะอันนี้คือรา
00:12:53 → 00:12:55 ลักษณะการขึ้นเหมือนกันด้วยนะครับคุณหมออ
00:12:55 → 00:12:57 นี้ขึ้นเหมือนยกแต่อันนี้ขึ้นแบบเป็นปื้น
00:12:57 → 00:13:00 ๆเยอะๆเลยนะค่ะอันนี้อันนี้ก็คือแพ้เยอะ
00:13:00 → 00:13:02 กว่าคะเพอันนี้คือแพ้อะไรฮะแพ้ไรฝุ่นทั้ง
00:13:02 → 00:13:05 คู่เลยค่ะแต่ว่าเป็นไรฝุ่นคนละชนิดอ๋อแยก
00:13:05 → 00:13:08 ชชนิดด้วยใช่ไรฝุ่นเนี่ยมีหลายชนิดแต่ว่า
00:13:08 → 00:13:10 ที่พบบ่อยในเมืองไทยเนี่ยมี 2 ชนิดซึ่ง
00:13:10 → 00:13:12 เราจะเอาตัวที่พบบ่อยเนี่ยมาทำทดสอบนะคะ
00:13:12 → 00:13:15 ถ้าอย่างงั้นวันนี้ผมขออนุญาตคุณหมอทดสอบ
00:13:15 → 00:13:17 ผมด้วยได้มั้ครับได้ค่ะดูซิว่าผมแพ้อะไร
00:13:17 → 00:13:19 บ้างได้ค่ะคุณกิ๊บงดยาแก้แพ้มาแล้วใช่
00:13:19 → 00:13:21 มั้ยคะไม่ได้ทานเลยครับไม่ได้ทานเลยโอเค
00:13:21 → 00:13:24 ค่ะโอคุณหมอครับที่เห็นเรียงอยู่ทุกขวด
00:13:24 → 00:13:27 นี่คืออะไรครับอันนี้ก็คือน้ำยาทดสอบสาร
00:13:27 → 00:13:30 กรอบภูมิแพ้ค่ะที่ที่จะแต้มลงไปเป็นตัว
00:13:30 → 00:13:32 เราที่จะใช่ค่ะที่จะหยดแล้วก็จะสะกิดบน
00:13:33 → 00:13:35 ผิวหนังของคุณกิ๊บเนี่ยนะค่ะทำไมทำไมมัน
00:13:35 → 00:13:37 ต้องเยอะแยะขนาดนี้ครับคือจริงๆต้องบอก
00:13:37 → 00:13:39 ก่อนว่าสารกรอบภูมิแพ้เนี่ยจริงๆมีอยู่
00:13:39 → 00:13:42 ค่อนข้างเยอะมากนะคะแต่ว่าที่เราทำทดสอบ
00:13:42 → 00:13:45 นะคะในคนไข้เราเนี่ยเราเลือกที่เ่อพบว่า
00:13:46 → 00:13:48 แพ้ได้บ่อยในเด็กไทยนะคะซึ่งก็จะมีอยู่
00:13:48 → 00:13:50 หลายตัวเหมือนกันมีเรื่องของขนสัตว์อีกก็
00:13:51 → 00:13:53 จะมีขนแมวขนสุนัขอีกอ๋อแยกเป็นขดขวดไปเลย
00:13:54 → 00:13:56 เหรอฮะใช่ค่ะแยกชนิดเลยค่ะพูดง่ายๆทุกขวด
00:13:56 → 00:13:58 นี่ก็คือสิ่งแวดล้อมที่เราเจออยู่ทุกวัน
00:13:58 → 00:14:00 ต่างกับกับภูมิแพ้ที่พบบ่อยสำหรับคนไทยใน
00:14:00 → 00:14:03 การทำทดสอบเนี่ยเราส่วนใหญ่เราก็จะทำที่
00:14:03 → 00:14:06 หลังหรือว่าที่แขนนะคะนี้ส่วนใหญ่เนี่ย
00:14:06 → 00:14:09 เอ่อในเด็กเนี่ยเรามักจะทำที่หลังเนื่อง
00:14:09 → 00:14:11 จากว่าพื้นที่ในการสะกิดผิวหนำเนี่ยจะ
00:14:11 → 00:14:14 ค่อนข้างเยอะนะคะเอ่อถ้าเกิดเป็นผู้ใหญ่
00:14:14 → 00:14:17 อาจจะทำที่ท้องแขนได้นะนะคะได้มั้ยฮะได้
00:14:17 → 00:14:19 ค่ะอย่างผมนี่ทำที่ท้องแขนอย่างงี้ได้ได้
00:14:19 → 00:14:22 ค่ะอ่ะงั้นผมขอลองเลยฮะวันนี้จะกี่ตัวดี
00:14:22 → 00:14:24 ครับทดสอบดีครับคุณหมอของคุณกิ๊บนะคะก็
00:14:24 → 00:14:27 เดี๋ยวเราอาจจะทำทดสอบสารกรอบภูมิแพ้ทาง
00:14:27 → 00:14:30 อากาศนะคะที่พบด้วยบยในในเด็กไทยในคนไทย
00:14:30 → 00:14:33 เนี่ยค่ะให้คุณกิ๊บนะคะแล้วก็จะมีเรื่อง
00:14:33 → 00:14:36 ของเอ่อแพ้อาหารนะคะเรื่องของอาหารนะคะ
00:14:36 → 00:14:40 อาจจะทำอาหารทะเลสัก 2 ตัวให้คุณคินะ
00:14:40 → 00:14:44 [เพลง]
00:14:44 → 00:14:48 คะคือการทดสอบแบบนี้เนี่ยเราเราสามารถทด
00:14:48 → 00:14:51 สอบได้กับเด็กเล็กเลยหรือเปล่าครับคุณหมอ
00:14:51 → 00:14:53 หรือว่าเด็กทารกก็สามารถทดสอบได้มั้ยคือ
00:14:53 → 00:14:55 การทดสอบผิวหนังเนี่ยทำได้ตั้งแต่อายุ 6
00:14:55 → 00:14:58 เดือนขึ้นไปนะคะถ้าเล็กกว่านั้นเนี่ยยัง
00:14:58 → 00:15:03 ไม่แนะนำ 6 เดือนก็เริ่มทดสอบได้
00:15:03 → 00:15:07 ค่ะขวดนี้เนี่ยผมเห็นเขียนหน้าโวดว่าเป็น
00:15:07 → 00:15:10 กุ้งใช่ค่ะทั้งหมดเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยเรา
00:15:10 → 00:15:13 นำเข้าจากต่างประเทศนะคะแต่ว่าจะมีเรื่อง
00:15:13 → 00:15:16 ของกุ้งเนี่ยพอดีว่าที่ศิริราชเนี่ยเอ่อ
00:15:16 → 00:15:19 ก่อนหน้าเนี้เรามีงานวิจัยเกี่ยวกับคนไข้
00:15:19 → 00:15:22 ที่แพ้กุ้งนะคะแล้วเราก็มีการส่อสกัดน้ำ
00:15:22 → 00:15:25 ยาอืสำหรับเรื่องของทดสอบเรื่องของกุ้ง
00:15:25 → 00:15:29 ขึ้นมาด้วยนะคะเพราะว่าเราเจอว่าในคนไข้
00:15:29 → 00:15:32 บางคนที่มีอาการแพ้กุ้งเนี่ยอือค่ะทำทด
00:15:32 → 00:15:35 สอบกับน้ำยาจากต่างประเทศเนี่ยแล้วไม่ครบ
00:15:35 → 00:15:37 ปฏิกิริยาว่าแพ้คือมันเป็นกุ้งแต่ละชนิด
00:15:37 → 00:15:39 ไม่เหมือนกันใช่ค่ะเพราะว่าบางครั้งน้ำยา
00:15:39 → 00:15:41 เทศอย่างเช่นกุ้งเนี่ยบางครั้งก็เป็นสาย
00:15:41 → 00:15:43 พันธุ์ของต่างประเทศซึ่งคนไทยเนี่ยบางที
00:15:43 → 00:15:46 แพ้ใช่ค่ะเพราไม่ได้ทันสายพันธนั้นแสดง
00:15:46 → 00:15:49 ว่ากุ้งที่มาแต้มในบ้านเราอาจจะเป็นเ่อ
00:15:49 → 00:15:51 อันนี้ที่ทำจะมีกุ้งกุลาดำกับกุ้งก้ามกาม
00:15:51 → 00:15:54 กุดำอย่างงั้นเลยแยกเป็นชนิดแบบนั้นเลย
00:15:54 → 00:15:57 ล็อบสเตอร์ไม่มีใช่มั้ยฮะาบะไม่มีญี่ปุ่น
00:15:58 → 00:16:01 ฮนั้นแล้วบ้านคือจริงๆมันอาจจะมีน้ำยาแต่
00:16:01 → 00:16:03 ว่าเราไม่ได้นำเข้าเพราะว่าคนไทยแพ้น้อย
00:16:03 → 00:16:06 คืออย่างที่บอกว่าใช่ค่ะเพราะว่าน้ำยาพวก
00:16:06 → 00:16:08 เนี้ยราคาค่อนข้างแพงขดนึงเนี่ยเป็นหลัก
00:16:08 → 00:16:10 หมื่นนะคะนี่นะฮะใช่ค่ะโอ้โหงั้นรีบแต้ม
00:16:10 → 00:16:13 เลยครับก่อนที่น้ำยาจะจะระเหยออกไปนะ
00:16:13 → 00:16:18 [เพลง]
00:16:18 → 00:16:22 ฮะอ่ะหลังจากนี้ 15 นาทีรอดูผลใช่แล้ว
00:16:22 → 00:16:25 เดี๋ยวมาวัดกันอีกทีว่าอ่าแผลไหนจะบวมมาก
00:16:25 → 00:16:27 กว่ากันใช่ค่ะแล้วก็อันไหนที่แพ้อันไหน
00:16:27 → 00:16:28 ที่ไม่แพ้
00:16:28 → 00:16:29 [เพลง]
00:16:29 → 00:16:30 [ปรบมือ]
00:16:30 → 00:16:38 [เพลง]
00:16:38 → 00:16:40 15 นาทีผ่านไปแล้วครับคุณหมอครับตอนนี้
00:16:40 → 00:16:43 อาการแพ้ของผมเนี่ยเห็นชัดเลยค่ะใช่ค่ะมี
00:16:43 → 00:16:46 อะไรบ้างครับตอนนี้ค่ะก็เนี่ยค่ะที่ตุ่ม
00:16:46 → 00:16:48 นูนๆเหมือนยุงกัดเนี่ยค่ะที่ใหญใหญ่เนี่ย
00:16:48 → 00:16:50 อันเนี้ยของคุณกิ๊บมีแพ้แมวนะคะอันเนี้ย
00:16:50 → 00:16:54 ขนขนแมวนะคอันนี้คือขนแมวขนและลังแคแมวนะ
00:16:54 → 00:16:56 คะแล้วก็มีแพ้ไรฝุ่นนะคะก็คือเป็นสารก่อ
00:16:56 → 00:17:00 ภูมิแพ้ยอดฮิตของคนไทยไนะคะเห็นใหญ่มาก
00:17:01 → 00:17:03 ใช่ค่ะใหญ่มากด้วยใหญ่มากเพราะปกติแค่
00:17:03 → 00:17:07 เกิน 3 มลมเนี่ยเราก็ถือว่าแแพ้แล้วนะคะ
00:17:07 → 00:17:09 แต่นี้ของคุณกิ๊บเนี่ยน่าจะสักประมาณ 7
00:17:09 → 00:17:13 มมค่ะ 7-8 มมเนี่ยก็แพ้ไม่น่าเวลาผมเข้า
00:17:14 → 00:17:16 ห้องนอนหรือว่าเข้าไปในห้องที่มีฝุ่นผมจะ
00:17:16 → 00:17:18 คัดจมูกมีอาการใช่มั้ยคะอันนี้คืออาการ
00:17:18 → 00:17:21 ของมันใช่ค่ะก็จะเป็นอาการของแพ้อากาศนะ
00:17:21 → 00:17:24 คะก็คัดจมูกจามน้ำมูกคันจมูกอะไรเงี้ยค่ะ
00:17:24 → 00:17:26 ใช่ค่ะแล้วมีอะไรอีกครับอันนี้ค่ะแล้วก็
00:17:26 → 00:17:28 จะมีนี่ตรงท้องแขนด้านนี้นะคะก็จะเป็น
00:17:28 → 00:17:33 แมลงสาบอฮะใช่ค่ะเป็นแมลงสาบแมลงสาบเรา
00:17:33 → 00:17:35 แพ้แมลงสาบได้ด้วยเหรอฮะได้ค่ะของคุณกิ๊บ
00:17:35 → 00:17:39 เนี่ยพอดีเรื่องของเอ่ออาหารเนี่ยก็คือ
00:17:39 → 00:17:41 เห็นคุณกิ๊บเคยมีประวัติเห็นบอกว่ากิน
00:17:42 → 00:17:45 กุ้งแล้วมีคันใช่มั้ยคะก็เลยทำกุ้งให้
00:17:45 → 00:17:48 ด้วยนะคะทีนี้กุ้งก็คุณกิ๊บมีแพ้กุ้งกุลา
00:17:48 → 00:17:51 โหนี่แยกย่อยเลยนะเป็นพันกุ้งเลยกุใช่ค่ะ
00:17:51 → 00:17:53 กับกุ้งก้ามกามกุ้งกุลานะฮะอันนี้กกุ้ง
00:17:53 → 00:17:56 ก้ามกามก้ามกราแท้อื้อหือต่อไปเป็นขั้น
00:17:56 → 00:18:00 ตอนของการรักษาละใช่ค่ะนะครับเราต้องมี
00:18:00 → 00:18:03 วิธีการรักษากี่แบบอะไรยังไงครับเมื่อเรา
00:18:03 → 00:18:05 รู้แล้วว่าแพ้อะไรนะคะอย่างคุณกิ๊บเนี่ย
00:18:05 → 00:18:08 แพ้ไฝุ่นที่เยอะๆใช่มั้ยคะแล้วก็มีแพ้ขน
00:18:08 → 00:18:11 แมวนะคะแล้วก็แมลงสาบเพราะงั้นการรักษา
00:18:11 → 00:18:13 แรกคือคุณกิ๊บควรต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่
00:18:13 → 00:18:17 คุณกิ๊บแพ้นะคะนั่นก็คือไรฝุ่นนะคะขนแมว
00:18:17 → 00:18:20 แมวขนแมวค่ะก็คือขนแมวนี่คือเลี่ยงดยการ
00:18:20 → 00:18:23 ไม่เลี้ยงแมวนะคะแล้วก็แมลงสาบก็จัดการ
00:18:23 → 00:18:27 แมลงสาบภายในบ้านนะคะจัดการสิ่งแวดล้อม
00:18:27 → 00:18:29 อย่าให้มีแมลงสาบเข้ามาอยู่แล้วถ้าเกิด
00:18:29 → 00:18:31 สมมุติจัดการสิ่งแวดล้อมแล้วนะะยังมี
00:18:31 → 00:18:34 อาการอยู่ก็จะมีการรักษาโดยการใช้ยานะคะ
00:18:34 → 00:18:37 เช่นอาจจะเป็นยาทานแก้แพ้หรือว่าจะเป็นยา
00:18:37 → 00:18:40 พ่นแล้วก็นอกจากการใช้ยาแล้วก็จะมีการ
00:18:40 → 00:18:42 รักษาอีกวิธีหนึ่งก็คือการรักษาด้วยการ
00:18:42 → 00:18:45 ฉีดวัคซีนรักษาคุ้มแพ้อ่ะถ้างั้นเดี๋ยว
00:18:45 → 00:18:46 ให้คุณหมอพาไปดูนะครับว่าการรักษาโดยการ
00:18:46 → 00:18:49 ฉีดวัคซีนเป็นยังไงนะครับอ่ะเชิ
00:18:49 → 00:18:53 ครับค่ะอ่อสำหรับห้องนี้นะคะคุณกิ๊บก็จะ
00:18:53 → 00:18:56 เป็นห้องเอ่อสำหรับฉีดวัคซีนรักษาเรื่อง
00:18:56 → 00:18:58 ของภูมิแพ้นะคะนะคะสวัสดีครับคุณแม่
00:18:59 → 00:19:00 สวัสดีครับคุณหมอครับสัสดีค่ะคุณแม่ตอน
00:19:00 → 00:19:02 นี้คือน้องเครู้แล้วว่าเค้าเป็นภูมิแพ้
00:19:02 → 00:19:05 แล้วก็รู้แล้วว่าแพ้ชนิดไหนใช่ค่ะนะครับ
00:19:05 → 00:19:08 ก็ค่ะรักษาดยการฉีดวัคซีนใช่ค่ะก็คือมี
00:19:09 → 00:19:12 การรักษาด้วยการใช้ยามาก่อนนะคะแต่ว่าอาจ
00:19:12 → 00:19:16 จะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควรนะคะก็มารักษาต่อ
00:19:16 → 00:19:18 ด้วยการฉีดวัคซีนการฉีดวัคซีนนี่มันมัน
00:19:18 → 00:19:21 มันมีกี่ประเภทอะไรยังไงสำหรับวัคซีนครับ
00:19:21 → 00:19:24 คุณหมอคือการฉีดวัคซีนรักษาภูมิแพ้เนี่ย
00:19:24 → 00:19:27 มีด้วยกัน 2 แบบนะคะแบบแรกก็คือเป็นแบบ
00:19:27 → 00:19:30 ที่ฉีดเข้าใต้ผิวหนังนะคะซึ่งวันนี้คนไข้
00:19:30 → 00:19:33 ของเราเนี่ยก็จะรับการรักษาแบบวิธีนั้นนะ
00:19:33 → 00:19:35 คะอีกแบบวิธีนึงก็คือจะเป็นแบบวิธีหยอด
00:19:35 → 00:19:38 ใต้ลิ้นนะคะซึ่งแบบหยอดใต้ลิ้นเนี่ยเมื่อ
00:19:38 → 00:19:41 คนไข้รักษาไปได้ระยะนึงแล้วไม่มีอาการแผ้
00:19:41 → 00:19:43 คนไข้ส่วนนึงจะรับยาแล้วไปหยอดใต้ลิ้นต่อ
00:19:43 → 00:19:46 ที่บ้านแล้วก็กลับมาติดตามดการตามนัดเป็น
00:19:46 → 00:19:49 ระยะๆะแสดงว่าแต่ละคนไข้แต่ละท่านเนี่ก็
00:19:49 → 00:19:51 ไม่ไม่แน่วิธีการรักษาไม่ไม่เสมอไปบาง
00:19:51 → 00:19:53 ท่านอาจจะฉีดวัคซีนบางท่านอาจจะรับยาไป
00:19:53 → 00:19:56 ไว้ใต้ลิ้นใช่ค่ะไปหยอดใต้ลิ้นค่ะฉีด
00:19:56 → 00:19:59 วัคซีนแล้วเนี่ยฉีดเข็มเดียเแล้วโรคภูมิ
00:19:59 → 00:20:01 แพ้นี่จะหายไปเลยหรือเปล่าครับคือต้อง
00:20:01 → 00:20:04 เอ่อบอกก่อนว่าการรักษาโดยการฉีดวัคซีน
00:20:04 → 00:20:06 รักษาภูมิแพ้เนี่ยค่ะจะไม่เหมือนกับ
00:20:06 → 00:20:09 วัคซีนทั่วๆไปนะคะวัคซีนทั่วไปเนี่ยฉีด
00:20:09 → 00:20:11 อาจจะสักเข็มนึงหรือ 2 เข็มนะคะแล้วก็จบ
00:20:11 → 00:20:13 คอร์สแต่สำหรับวัคซีนรักษาภูมิแพ้เนี่ย
00:20:14 → 00:20:16 ไม่ใช่แบบนั้นเราจะมีวิธีการให้แบ่งอีก
00:20:16 → 00:20:19 เป็น 2 ขั้นนะคะขั้นแรกก็คือเป็นระยะ
00:20:19 → 00:20:22 เริ่มต้นจะต้องมีการค่อยๆให้อย่างช้าๆนะ
00:20:22 → 00:20:24 คะโดยเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆนะคะเนื่อง
00:20:24 → 00:20:27 จากว่าวัคซีนเนี่ยเราสกัดมาจากสิ่งที่เขา
00:20:27 → 00:20:30 แพ้อ๋อเพราะฉะนั้นถ้าเราฉีดในขนาดที่เต็ม
00:20:30 → 00:20:33 ที่คนไข้อาจะมีปฏิกิริยาแพ้ที่รุนแรงได้
00:20:33 → 00:20:35 นะคะเพราะนั้นเราจะฉีดจากขนาดความเข้มข้น
00:20:35 → 00:20:37 ต่ำๆนะคะแล้วก็ค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย
00:20:37 → 00:20:40 ๆคือให้ร่างกายของคนไข้ได้สร้างภูมิคุ้ม
00:20:40 → 00:20:42 กันทำความคุ้นเคยกับวัคซีนที่ฉีดเข้าไป
00:20:42 → 00:20:45 ใช่ใช่ค่ะเมื่อฉีดจนถึงระดับที่ใช้ในการ
00:20:45 → 00:20:48 รักษาก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ก็คือเรียกว่า
00:20:48 → 00:20:51 ระยะคงที่นะคนี้กำลังฉีดนะใช่ค่ะซึ่งของ
00:20:51 → 00:20:53 คนไข้ของเราเนี่ยก็คือเป็นการฉีดระยะคง
00:20:53 → 00:20:56 ที่และนะคะเขาก็จะมารับการรักษาโดยการฉีด
00:20:56 → 00:20:59 วัคซีนเนี่ยเดือนละครั้งนะคะก่อนหน้านั้น
00:20:59 → 00:21:00 นี่จะเป็นยังไงครับเละครั้งเหมือนกันมั้ย
00:21:01 → 00:21:02 ครับก่อนนั้นเอ่อก่อนหน้านั้นจะถี่กว่า
00:21:02 → 00:21:04 นี้ค่ะถ้าเกิดว่าเป็นช่วงระยะเริ่มต้น
00:21:04 → 00:21:07 เนี่ยจะฉีดค่อนข้างบ่อยนะคะสัปดาห์ละ
00:21:07 → 00:21:09 ครั้งสัปดาห์นึงเนี่ยมากกว่า 1 ครั้งค่ะ
00:21:09 → 00:21:12 โอหเหรอฮะก็มาเกือบทุกวันสิครับถ้าอย่าง
00:21:12 → 00:21:15 งั้นเนี่ยใช่ค่ะซึ่งถ้าเป็นการให้ร่างกาย
00:21:15 → 00:21:17 สร้างสร้างอ่าทำความคุ้นเคยอย่างที่บอก
00:21:17 → 00:21:21 ใช่ค่ะซึ่งถ้าเกิดว่าเราอยากให้คนไข้
00:21:21 → 00:21:24 เนี่ยได้รับยาในขนาดที่ใช้ในการรักษาได้
00:21:24 → 00:21:28 เร็วนะคะระยะแรกที่เป็นระยะเริ่มต้นเนี่ย
00:21:28 → 00:21:31 ก็จะต้องฉีดค่อนข้างถี่นะคะซึ่งมันก็จะมี
00:21:31 → 00:21:33 ความเสี่ยงเกิดขึ้นเพราะอย่างที่บอกไปว่า
00:21:33 → 00:21:35 วัคซีนเนี่ยทำมาจากสิ่งที่เขาคแพ้เพราะ
00:21:35 → 00:21:38 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าฉีดถี่มากๆคนไข้บางคนก็
00:21:38 → 00:21:40 จะมีอาการแพ้ได้นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยในคน
00:21:40 → 00:21:44 ไข้บางคนที่เรามีการฉีดค่อนข้างถี่เราก็
00:21:44 → 00:21:47 จะพิจารณาให้นอนโรงพยาบาลแต่สำหรับคนไข้
00:21:47 → 00:21:49 น้องรายนี้เนี่ยเดือนละครั้งละคสำหรับของ
00:21:49 → 00:21:52 คนไข้เราตอนนี้นะคะก็คือเขาผ่านระยะนั้น
00:21:52 → 00:21:54 มาแล้วเรียบร้อยก็คือเดือนละเข็มพูดง่ายๆ
00:21:54 → 00:21:55 ตอนนี้เป็นระยะคงที่ะใช่ค่ะก็จะเป็นเดือน
00:21:55 → 00:21:57 ละเข็มแล้วจะฉีดไปถึงเมื่อไหร่กว่าจะหยุด
00:21:57 → 00:22:00 ได้ครับครับส่วนใหญ่จะฉีด 3-5 ปีค่ะแล้ว
00:22:00 → 00:22:02 ก็จะพิจารณากันอีกทีนึงว่าจะหยุดรือเปล่า
00:22:02 → 00:22:04 ฉีดทุกเดือน 3 ปีเหรอครับใช่ค่ะอย่างน้อย
00:22:04 → 00:22:07 3-5 ปีอทำไมทำไมโูภูมิแพ้มันต้องฉีดยาว
00:22:07 → 00:22:10 ขนาดนั้นครับคุณหมอครับเพราะว่ามันการ
00:22:10 → 00:22:12 ศึกษาที่ผ่านมาเนี่ยเาเก็บข้อมูลแล้วว่า
00:22:12 → 00:22:14 ถ้าฉีดสั้นกว่านี้เนี่ยเมื่อหยุดไปเนี่ย
00:22:14 → 00:22:18 คนไข้ส่วนใหญ่จะกลับมามีอาการได้อีกแต่
00:22:18 → 00:22:21 ถ้าเกิดฉีดไปนาน 3-5 ปีนะคะเมื่อหยุดการ
00:22:21 → 00:22:24 ฉีดวัคซีนไปเนี่ยคนไข้ส่วนใหญ่เนี่ยแทบจะ
00:22:24 → 00:22:27 ไม่ต้องกลับมาฉีดวัคซีนคืออาจจะมีอาการพง
00:22:27 → 00:22:29 แพ้กลับมาบ้าแค่เล็กๆน้อยๆฉีดเองที่บ้าน
00:22:29 → 00:22:33 ได้มครับไม่ได้ค่ะไม่ได้ด้วยโอโหนี่น้อง
00:22:33 → 00:22:36 ฉีดมากี่ปีแล้วครับตอน
00:22:36 → 00:22:39 นี้ 2 ปี 2 ปีแล้วก็ใกล้แล้วนะฮะสำหรับ
00:22:39 → 00:22:43 น้องรายนี้นี่ใกล้จะจะจะจบคอสะทั้งหมด 3
00:22:43 → 00:22:46 ปีนะครับสู้ๆนะครับจะได้แข็งแรงนะครับ
00:22:46 → 00:22:49 ก่อนจะขอบคุณคุณหมอคุณพ่อคุณแม่ที่ชมอยู่
00:22:50 → 00:22:52 ก็พอจะเห็นภาพการตรวจรักษาลูกของเราอย่าง
00:22:52 → 00:22:55 ถูกวิธีถ้าคิดว่าลูกเรามีความเสี่ยงจะ
00:22:55 → 00:22:58 เป็นโรคภูมิแพ้ก็ลองมาปรึกษาหมหมอดูนะ
00:22:58 → 00:23:02 ครับเพราะโรคนี้รักษาให้หายได้แสดงว่าผม
00:23:02 → 00:23:04 ได้เข้าใจผิดมาตลอดเลยว่าการรักษาโรคภูมิ
00:23:04 → 00:23:06 แพ้เนี่ยฉีดวัคซีนเข็มเดียวก็จะหายแต่ใน
00:23:06 → 00:23:09 ความเป็นจริงแล้วมันต้องรักษาต่อเนื่อง3า
00:23:09 → 00:23:11 ถึง 5 ปีเลยใช่ค่ะโอ้โหแล้วถ้าเกิดสมมุติ
00:23:11 → 00:23:14 ว่าเ่อคุณผู้ชมทางบ้านชมรายการแล้วเนี่ย
00:23:14 → 00:23:16 ไม่อยากจะให้ตัวเองหรือว่าลูกหลานเนี่ย
00:23:16 → 00:23:19 เป็นโรคภูมิแพ้จะต้องมีวิธีป้องกันอะไร
00:23:19 → 00:23:22 ยังไงครับคุณหมอครับจริงๆแล้วสำหรับการ
00:23:22 → 00:23:24 ป้องกันเรื่องของภูมิแพ้นะคะในปัจจุบัน
00:23:24 → 00:23:26 เนี่ยเราก็ไม่ได้แนะนำว่าจะต้องหลีก
00:23:26 → 00:23:28 เลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ทั้งหมดนะคะถ้ายังไม่
00:23:28 → 00:23:31 ทราบว่าเราแพ้หรือเปล่านะคะเพียงแต่ว่า
00:23:31 → 00:23:34 อาจจะต้องเอ่อรักษาสุขภาพนะคะทานอาหารให้
00:23:34 → 00:23:36 ครบ 5 หมู่ออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอ
00:23:36 → 00:23:39 นะคะเท่านี้ก็จะพอช่วยได้นะคะแล้วก็คอย
00:23:39 → 00:23:42 สังเกตตัวเองด้วยถ้าเราพบว่าเรามีอาการ
00:23:42 → 00:23:45 ที่สงสัยเรื่องของภูมิแพ้นะคะก็ควรจะมาพบ
00:23:45 → 00:23:47 แพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแล้วก็จะได้รับการ
00:23:47 → 00:23:50 รักษาต่อไปนะคะอเพื่อคุณภาพชีวิตของคุณ
00:23:50 → 00:23:52 ผู้ชมนั้นจะดีขึ้นนะครับบางคนเป็นน้อยก็
00:23:52 → 00:23:54 ไม่เท่าไหร่แต่ถ้าเป็นเยอะนี่มันส่งผลต
00:23:54 → 00:23:57 การใช้ชีวิตในครอบครัวเลยนะครับวันนี้ก็
00:23:57 → 00:23:59 ต้องขอขอบคุณคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้
00:23:59 → 00:24:00 ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการเป็นโรคภูมิ
00:24:00 → 00:24:02 แพ้นะครับขอบพระคุณมากครับคุณหมอครับ
00:24:02 → 00:24:06 สวัสดีค่ะ xray ช่วงหน้าครับเราจะพาไปดู
00:24:06 → 00:24:08 การรับมือของผู้ป่วยที่มีปัญหากับเส้น
00:24:08 → 00:24:11 เลือดในสมองรวมทั้งอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้
00:24:12 → 00:24:14 ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
00:24:14 → 00:24:16 อีกสักครู่
00:24:16 → 00:24:26 [เพลง]
00:24:26 → 00:24:29 ครับ
00:24:29 → 00:24:33 ไม่ได้เกิดอะไรเลยมันจะเป็นแบบที่ว่าเรา
00:24:33 → 00:24:37 กินได้น้อยไปหาหมอแล้วหมอเอเรดูท่อนตัว
00:24:37 → 00:24:41 ไม่เป็นไรนะพเอเลหัวแล้วเป็นเป็นเเส้น
00:24:41 → 00:24:45 โลหิตน่ะแล้วเขาบอกว่ามันมันมันจะแตกผ่า
00:24:45 → 00:24:49 ก็พูดไม่ได้ด้วยแล้วก็เดินก็ไม่ได้ด้วย
00:24:49 → 00:24:53 แขงเลื่นไม่ออก
00:24:53 → 00:24:56 [เพลง]
00:24:56 → 00:25:01 เลยสวัสดีครับอาการที่คุณป้าเป็นเนี่ยตอน
00:25:01 → 00:25:05 นั้นมันไม่มีอาการเลยไม่มีเหรอฮเเค้าหมอก
00:25:05 → 00:25:09 เบอกให้นัดไปผ่าอืเดี๋ยวก่อนปกติแล้วเวลา
00:25:09 → 00:25:11 คนไข้มีหลอดเลือดในสมองที่โปร่งเนี่ยมัน
00:25:12 → 00:25:14 จะส่งผลยังไงกับร่างกายมยครับอาจารย์ครับ
00:25:14 → 00:25:16 เลือดไม่สามารถที่จะไปเลี้ยงเนื้อสมองได้
00:25:16 → 00:25:19 อย่างเต็มที่นะครับเซลล์ในสมองเนี่ยได้
00:25:19 → 00:25:22 รับการบาดเจ็บนะครับก็อาจจะส่งผลทำให้คน
00:25:22 → 00:25:25 ไข้อาจจะเริ่มรอาจจะเวียนศีรษะครับแล้วก็
00:25:25 → 00:25:28 ถ้าเกิดเป็นมากๆก็จะทำให้ปากบี้เยหรือถ้า
00:25:28 → 00:25:30 เกิดเป็นมากกว่านั้นเนี่ยก็ส่งผลทำให้อ่า
00:25:30 → 00:25:33 ระบบการเคลื่อนไหวในร่างกายต่างๆผิดปกติ
00:25:33 → 00:25:35 ไปได้แสดงว่าตอนนั้นของคุณป้าเนี่ยอาจจะ
00:25:35 → 00:25:38 เป็นระยะเริ่มแรกอ่าแล้วก็ไปเซเรย์เจอ
00:25:38 → 00:25:40 เส้นเลือดโป่งพอดีนะครับถ้าเก็บไว้ต่อไป
00:25:40 → 00:25:44 มันจะแสดงอาการใช่นะครับก็เลยตัดสินใจผ่า
00:25:44 → 00:25:46 ตัดก่อนตอนนั้นหลังจากผ่าตัดเสร็จปั๊บ
00:25:46 → 00:25:47 เนี่ยก็ร่างกายของเราก็เป็นอย่างที่เห็น
00:25:47 → 00:25:49 คือเริ่มเดินไม่เหมือนเดิมละไม่ค่อยมี
00:25:50 → 00:25:52 เรี่ยวแรงไม่เดินไม่ได้เลยเินไม่ได้เลย
00:25:52 → 00:25:55 เหรอครับแต่เมื่อกี้ผมเห็นเดินคล่องเลยนะ
00:25:55 → 00:25:59 มมเป็นทหลังนี่สิออมาฝึกเออึงเดินได้ขนาด
00:25:59 → 00:26:01 นี้นะครับแต่ตอนนั้นที่ผ่าผ่าตัดเสร็จ
00:26:01 → 00:26:04 ใหม่ๆเดินไม่ได้เลยไม่ได้เลยลำบากมั้ย
00:26:04 → 00:26:07 ครับตอนนั้นก็ตกใจเหกันกี่ปีแล้วผ่านมา
00:26:07 → 00:26:10 กี่ปีแล้วครับ 12 ปีโอ 12 ปีแล้วนะฮะตอน
00:26:10 → 00:26:13 นั้นเดินไม่ได้เดินไม่ได้พูดก็ไม่ได้พูด
00:26:13 → 00:26:16 แบบนี้ไม่ได้ด้วยไม่ได้อ้าวคนไข้ที่มีโรค
00:26:16 → 00:26:19 เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดในสมองเนี่ยนะครับ
00:26:19 → 00:26:22 ไม่ว่าจะตีบจะแตกจะโป่งหรือว่าจะพองเนี่ย
00:26:22 → 00:26:25 แต่ละอาการของคนไข้เนี่ยมันแตกต่างกันม
00:26:26 → 00:26:28 ครับแตกต่างกันค่ะก็คือถ้าเป็นคนไข้หลอด
00:26:29 → 00:26:31 เลือดสมองที่แตกเลยก็คือเขาจะหมดสติเลย
00:26:31 → 00:26:34 ค่ะเขาจะไม่ได้แบบมาหาเราที่คลินิกแต่ว่า
00:26:34 → 00:26:37 ถ้าเป็นในกรณีที่ตีบหรือตันอันนี้ก็คือ
00:26:37 → 00:26:40 เขาจะมีลักษณะอาการออกมาค่ะก็คือเขาจะมี
00:26:40 → 00:26:43 อาการแขนขาอ่อนแรงค่ะในขั้นตอนของการ
00:26:43 → 00:26:47 รักษานอกจากบางรายจะต้องทานยาควบคู่กัน
00:26:47 → 00:26:50 แต่ในเรื่องของการเคลื่อนไหวของร่างกาย
00:26:50 → 00:26:53 นี่เราต้องช่วยดูแลและรักษายังไงครับ
00:26:53 → 00:26:56 อาจารย์ครับจริงๆแล้วอ่าระยะในการรักษา
00:26:56 → 00:26:58 เนี่ยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆนะครับ
00:26:58 → 00:27:01 ส่วนแรกเป็นระยะเฉียบพันธุ์ก็คือจะเน้นทำ
00:27:01 → 00:27:05 ให้คนไข้สามารถที่จะกลับมามีชีวิตปกติมาก
00:27:05 → 00:27:08 ที่สุดนะครับก็คือจะเน้นในส่วนของการผ่า
00:27:08 → 00:27:11 ตัดแล้วก็ให้ยาพักฟื้นต่างๆนะฮะหลังจาก
00:27:11 → 00:27:14 นั้นก็จะเป็นระยะที่ 2 คือระยะพักฟื้นใน
00:27:14 → 00:27:16 ส่วนนี้ก็จะนอกจากจะให้ยาแล้วก็จะควบคู่
00:27:16 → 00:27:19 กับพวกการทำกายภาพบำบัดหรือว่าการใช้กาย
00:27:19 → 00:27:22 อุปกรณ์ร่วมด้วยนะครับแล้วก็จะเป็นระยะ
00:27:22 → 00:27:24 สุดท้ายคือระยะที่ 3 คือระยะทรงตัวก็คือ
00:27:24 → 00:27:27 ประคองไม่ให้อ่าความผิดปกติหรือพยาที่
00:27:27 → 00:27:30 สภาพที่หลงเหลืออยู่เนี่ยเป็นมากขึ้นนะ
00:27:30 → 00:27:34 ครับอก็แสดงว่าคนไข้ที่มีเรื่องโรคเกี่ยว
00:27:34 → 00:27:36 กับเหลาะเลือดในสมองเนี่ยไม่ว่าจะตีบจะ
00:27:36 → 00:27:39 แตกจะโปร่งพองอะไรก็ตามทีมันจะส่งผลต่อ
00:27:39 → 00:27:42 การเคลื่อนไหวของร่างกายแตกต่างกันไปถูก
00:27:42 → 00:27:44 ต้องมั้ยครับใช่ใช่อย่างของคุณป้าเนี่ยก็
00:27:44 → 00:27:46 ต้องอ่ะอย่านั้นที่คุณป้าผ่าตาเสร็จปุ๊บ
00:27:46 → 00:27:49 เท่าที่สังเกตนะครับแขนทางด้านขวาขาทาง
00:27:49 → 00:27:53 ด้านขวาเคลื่อนไหวไม่ได้เลยไม่ได้เลยแล้ว
00:27:53 → 00:27:55 เวลาคนไข้มาต้องเริ่มทำยังไงครับต้องดูแล
00:27:55 → 00:27:57 กันยังไงในขั้นตอนที่ 2 เครับอาจะมาจาก
00:27:57 → 00:28:00 การซักประวัติคนไข้ก่อนค่ะว่าเขามีที่มา
00:28:00 → 00:28:04 หรือว่าสาเหตุของการเป็นโรคหรือการเดิน
00:28:04 → 00:28:07 ไม่ได้นี่เพราะอะไรค่ะแล้วเอิ่มก็จะให้คน
00:28:07 → 00:28:10 ไข้ลองเดินค่ะเพื่อที่จะประเมินว่าเท้า
00:28:10 → 00:28:14 เค้าหรือว่าข้อเข่าหรือข้อสะโพกเขาสามารถ
00:28:14 → 00:28:18 ที่จะเดินได้โดยไม่ลากไปกับพื้นหรือเปล่า
00:28:18 → 00:28:21 ค่ะเพราะว่าปกติแล้วแบบคนไข้ที่เป็นโรค
00:28:21 → 00:28:23 หลอดเลือดสมองกล้ามเนื้อมันจะไม่มีแรงใช่
00:28:23 → 00:28:26 มั้ยคะอ่อนแรงก็คือเหมือนแบบข้อเท้าตกจะ
00:28:26 → 00:28:28 ไม่สามารถที่จะกระดกขึ้นได้ได้ก็คือข้อ
00:28:28 → 00:28:30 เท้าก็จะตกอ๋อข้อเท้าตกใช่ค่ะนะฮะตอนนั้น
00:28:30 → 00:28:33 คุณป้าข้อเท้าตกมะกระดกข้อเท้าขึ้นมางนี้
00:28:33 → 00:28:36 ไม่ได้เหยียดขาได้มั้ยฮะเยียดเออย่าง
00:28:36 → 00:28:39 เงี้ยได้อย่างงี้ได้แต่ข้อเท้าขึ้นมา
00:28:39 → 00:28:41 อย่างงนี้ไม่ได้คือมันตกอย่างงี้เลยตกแบบ
00:28:41 → 00:28:43 นี้ก็เดินไม่ได้ิฮะถูกมั้ยฮะเพราะมันมัน
00:28:43 → 00:28:46 ไม่มีแรงมันก็จะส่งผลต่อการเดินก็คือแบบ
00:28:46 → 00:28:48 เท้าเขาก็จะลากไปกับพื้นอย่างเงี้ยค่ะมัน
00:28:48 → 00:28:51 ก็อาจจะทำให้เกิดเท้าเป็นแผลได้เราก็เลย
00:28:51 → 00:28:54 ต้องหาอุปกรณ์มาเพื่อประคองข้อเท้าเเพื่อ
00:28:54 → 00:28:57 ไม่ให้ข้อเท้าเขาลากไปกับพื้นตอนนั้นคุณ
00:28:57 → 00:28:58 ป้ามา
00:28:58 → 00:29:01 เราเห็นคนไข้และคุณป้าอาจารย์ก็จะพาคุณ
00:29:01 → 00:29:03 ป้าเดินก่อนดูก่อนเช็คอาการแล้วหลังจาก
00:29:03 → 00:29:05 นั้นทำอะไรต่อครับตรวจประเมินร่างกายคน
00:29:06 → 00:29:07 ไข้เสร็จแล้วปุ๊บเราก็จะรู้ว่าคนไข้มี
00:29:07 → 00:29:10 ความผิดปกติยังไงหลังจากนั้นเราก็จะมาออก
00:29:10 → 00:29:14 แบบอุปกรณ์นะครับเพื่อที่จะให้ตอบโจทย์
00:29:14 → 00:29:18 กับความผิดปกติของคนไข้อาจจะปรับแก้หรือ
00:29:18 → 00:29:21 ว่าอาจจะประคองพยาธิสภาพให้มันไม่เป็นมาก
00:29:21 → 00:29:24 ยิ่งขึ้นนะออพูดง่ายๆว่ารักษาให้มันอยู่
00:29:24 → 00:29:26 ในระดับนี้ไม่ให้มันแย่ไปกว่านี้ใช่นะ
00:29:26 → 00:29:29 ครับแต่พอเราตัดเรียบร้อยละของคนไข้คุณ
00:29:29 → 00:29:33 ป้ารายนี้มีแที่ข้อเท้ามาที่แขนนี่แขน
00:29:33 → 00:29:35 เกิดอะไรขึ้นครับในกลุ่มข้าเรสมองเนี่ยก็
00:29:35 → 00:29:37 คือนอกจากจะกล้ามเนื้ออ่อนแรงแล้วก็อาจจะ
00:29:37 → 00:29:41 มีอาการชานะครับแล้วก็อาการเกร็งร่วมด้วย
00:29:41 → 00:29:44 นะครับก็คือถ้าเกิดสโคปไปที่ตัวของระยาง
00:29:44 → 00:29:47 บนนะครับส่วนที่จะได้รับบาดเจ็บหรือว่ามี
00:29:47 → 00:29:49 ปัญหาเนี่ยก็จะเริ่มตั้งแต่ตัวหัวไหล่นะ
00:29:49 → 00:29:53 ครับหัวหัวไหล่ก็อาจจะหลุดหรือว่ามีอาการ
00:29:53 → 00:29:55 เกร็งแล้วก็บิดเข้ามาด้านในแต่ของคุณป้า
00:29:56 → 00:30:00 มีอาการแบบไม่มีแรงยกไม่ได้ไม่มีแรงก็ใน
00:30:00 → 00:30:04 แต่ละรายก็จะแตกต่างกันแล้วของคุณป้า
00:30:04 → 00:30:06 เนี่ยก็ต้องมาทำกายอุปกรณ์ที่แขนเหมือน
00:30:06 → 00:30:08 กันตอนนั้นเป็นแบบนี้เลยหรือเปล่าครับคือ
00:30:08 → 00:30:11 คุณป้าเนี่ยตัวหัวไหล่กับข้อศอกเนี่ยค่อน
00:30:11 → 00:30:14 ข้างโอเคนะคะคือการทำกภาพบำบัดได้แต่ว่า
00:30:14 → 00:30:18 ในส่วนของข้อมือแล้วก็มือเนี่ยมีการหด
00:30:18 → 00:30:21 เกร็งของกล้ามเนื้อคือข้อมือแล้วก็นิ้ว
00:30:21 → 00:30:24 มือเนี่ยจะหดเกร็งเข้ามาในท่างอแบบนี้นะ
00:30:24 → 00:30:28 ฮะครับแบบนี้ใช่เพราะฉะนั้นเราจึงให้กาย
00:30:28 → 00:30:31 อุปกรณ์ที่ช่วยในการยืดป้องกันไม่ให้ข้อ
00:30:31 → 00:30:34 ต่อเนี่ยมันยึดติดผิดรูปนะครับอืก็ต้องมี
00:30:34 → 00:30:37 กายอุปกรณ์ที่มาให้ข้อมือมันล็อคอยู่
00:30:37 → 00:30:39 อย่างงี้ในระดับตรงนะฮะแล้วนิ้วก็สามารถ
00:30:39 → 00:30:42 เหยียดได้ล็อคเป็นแบบนี้อย่างที่บอกเพราะ
00:30:42 → 00:30:44 ถ้าไม่มีชิ้นนี้ลองจินตนาการดูนิ้วของคุณ
00:30:44 → 00:30:46 ป้าตอนนั้นมันก็จะหงีเข้ามาอย่างงี้ใช่
00:30:46 → 00:30:49 มั้ยฮะปล่อยไว้แบบนี้นานๆมือจะเป็นแบบนี้
00:30:49 → 00:30:52 เลยใช่ครับถ้าเกิดปล่อยไว้นนาก็คือข้อติด
00:30:52 → 00:30:55 ผิดรูปแล้วก็คนไข้ไม่สามารถที่ทำกิจวัตร
00:30:55 → 00:30:58 ประจำวันต่างๆเองได้นะแล้วก็การใชชวิต่าง
00:30:58 → 00:31:02 ๆก็จะคุณภาพชีวิตก็จะน้อยลงนอกจากเหยียด
00:31:02 → 00:31:04 ได้แล้วปล่อยให้มันยึดแบบนี้แล้วไม่ให้
00:31:04 → 00:31:07 มันงอต้องทำอะไรต่อครับในส่วนของข้อยึด
00:31:07 → 00:31:11 ติดผิดรูปนะครับก็คือคนไข้ก็จะจำเป็นจะ
00:31:11 → 00:31:14 ต้องใส่กายอุปกรณ์ตลอดเวลาในขณะที่มีการ
00:31:14 → 00:31:18 เดินนะครับแล้วก็ส่วนประคองแขนก็แนะนำให้
00:31:18 → 00:31:21 ใส่ตลอดเวลาหรือว่าเวลาที่คนไข้ไม่ได้ทำ
00:31:21 → 00:31:24 กิจกรรมอะไรเงี้ยฮะก็จะแนะนำให้คนไข้ใส่
00:31:24 → 00:31:27 อุปกรณ์ตลอดเวลาคือต้องใส่ตลอดเวลาเลย่
00:31:27 → 00:31:29 ครับแต่ว่าการใส่อุปกรณ์ก็ต้องร่วมด้วย
00:31:29 → 00:31:32 กับการกายภาพบำบัดหรือว่าการฟื้นฟูกล้าม
00:31:32 → 00:31:35 เนื้อและข้อต่อนั้นๆค่ะเพราะไม่ไม่ฉะนั้น
00:31:35 → 00:31:37 แล้วคือแบบที่มันอ่อนแรงไปถ้าไม่มีการ
00:31:37 → 00:31:39 ฟื้นฟูหรือออกกำลังกายเพิ่มขึ้นมันก็จะ
00:31:39 → 00:31:43 ยังคงความอ่อนแรงอยู่ค่ะเราเป็นการขยับ
00:31:43 → 00:31:45 กล้ามเนื้อเพื่อที่จะให้กล้ามเนื้อจะได้
00:31:45 → 00:31:48 แบบมีแรงมากขึ้นแต่มันก็ไม่ได้จำเป็นว่า
00:31:48 → 00:31:50 มันจะต้องกลับมาแบบมีแรงเหมือนปกติก่อน
00:31:50 → 00:31:52 ที่เขาจะเป็นโรคอันคือมันจะกลับมาเหมือน
00:31:52 → 00:31:55 เดิมมีโอกาสยากนะครับแต่เราประคองทำให้
00:31:55 → 00:31:59 มันไม่ให้แย่ลงใช่อ่ะสมมุติคุณป้าตัดกาย
00:31:59 → 00:32:02 อุปกรณ์ได้ะเป็นของตัวเองละทีนี้คุณป้า
00:32:02 → 00:32:05 ต้องทำไงต่อครับก็คือปกติคนไครก็จะมีนัด
00:32:05 → 00:32:07 ทุกๆ 3 เดือน 6 เดือนอยู่แล้วนะฮะก็คือจะ
00:32:07 → 00:32:10 คนไข้ก็จะมาตามนัดหรือว่าในกรณีที่
00:32:10 → 00:32:14 อุปกรณ์มีปัญหาก็สามารถที่จะโทรมานัดที่
00:32:14 → 00:32:17 คลินิกแล้วก็สามารถเข้ามาปรับแก้หรือว่า
00:32:17 → 00:32:20 ตรวจได้เลยอก็จะเราก็จะคอยตรวจอยู่เรื่อย
00:32:20 → 00:32:22 ๆทุก 3 เดือน 6 เดือนอยู่แล้วเพราะคนไข้
00:32:22 → 00:32:24 เหล่านี้ก็ต้องเข้ามาตรวจอยู่เรื่อยๆใช่
00:32:24 → 00:32:27 ค่ะแล้วนอกจากดูอุปกรณ์แล้วเห็นบอกบอกว่า
00:32:27 → 00:32:30 ยังต้องดูแลในเรื่องของการทำกายภาพบำบัด
00:32:30 → 00:32:32 ด้วยก็คือถ้าเกิดเป็นในส่วนของโรงเรียน
00:32:32 → 00:32:35 กายอุปกรณ์สิรินธรเองจะเน้นไปในส่วนของ
00:32:35 → 00:32:39 การผลิตอุปกรณ์นะครับแต่ว่าการรักษาจริงๆ
00:32:39 → 00:32:43 แล้วเนี่ยก็คือเราจะมีเป็นทีมของศาสตร์
00:32:43 → 00:32:44 ฟื้นฟูนะครับซึ่งประกอบไปด้วยแพทย์
00:32:44 → 00:32:48 วิทยศาสตร์ฟื้นฟูนักกายภาพบำบัดจะเน้นใน
00:32:48 → 00:32:50 ส่วนของการฟื้นฟูกล้ามเนื้อต่างๆนัก
00:32:50 → 00:32:54 กิจกรรมบำบัดก็จะเน้นในการปรับอ่ากิจกรรม
00:32:54 → 00:32:59 ของคนไข้หรือว่าออกแบบอุปกรณ์ให้เขา
00:32:59 → 00:33:01 สามารถที่จะใช้ชีวิตประจำวันของเขาได้
00:33:01 → 00:33:04 ง่ายขึ้นเงี้ยค่ะอุปกรณ์อือ่ะนี่ถามคุณ
00:33:04 → 00:33:07 ป้าย้อนกลับไป 12 ปีที่แล้วมาจนถึงวันนี้
00:33:07 → 00:33:09 เนี่ยนะครับถ้าเกิดสมมุติว่าคุณป้าไม่ได้
00:33:09 → 00:33:12 มาที่โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธรชีวิตความ
00:33:12 → 00:33:14 เป็นอยู่ของคุณป้าคิดว่ามันจะลำบากกว่า
00:33:14 → 00:33:17 นี้มั้ครับลำบากเลยนะอต้องไปต้องโอ้โห
00:33:17 → 00:33:20 ต้องเดินได้อะไรตอนนั้นเดินไม่ได้ขยับไม่
00:33:20 → 00:33:24 ได้เออนะครับแต่วันนี้ผ่านมา 12 ปีหลัง
00:33:24 → 00:33:27 จากที่มาใส่นะกายอุปกรณ์นะครับมาเจอเจ้า
00:33:27 → 00:33:31 หน้าที่มาพบคุณหมอกายภาพบำบัดเราเดินได้
00:33:31 → 00:33:34 แล้วอนาคตสมมุติในอนาคตถ้าคุณป้าผ่านไป
00:33:34 → 00:33:37 อีก 10 ปีจะเดินเหินได้แข็งแรงกว่านี้
00:33:37 → 00:33:40 มั้ยครับอาการก็จะทรงๆแบบนี้แหละค่ะแต่
00:33:40 → 00:33:42 คือเราก็ประคองไม่ให้อาการมันเป็นมากไป
00:33:42 → 00:33:45 กว่านี้ค่ะแต่ว่าถ้าเขาได้ทำกายภาพบำบัด
00:33:45 → 00:33:47 ทุกวันเขได้ใส่ไกอุปกรณ์แล้วก็ฝึกเดินใน
00:33:47 → 00:33:51 ทุกๆวันอาการเขาก็อาจจะกลับมาฟื้นขึ้นได้
00:33:51 → 00:33:53 ค่ะก็คือเดินแบบนี้ได้แต่ถ้าเกิดไม่ใส่
00:33:53 → 00:33:57 ไม่เดินไม่ฝึกก็จะเดินไม่ได้นะฮะก็ก็ถือ
00:33:57 → 00:33:59 ว่าแข็งแรงแล้วก็โชคดีมากนะคุณป้านะครับ
00:33:59 → 00:34:01 อ่ะเดี๋ยวเรามาดูกันว่าทุกๆครั้งที่คุณ
00:34:01 → 00:34:03 ป้ามาที่โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธรแห่ง
00:34:03 → 00:34:05 นี้เราจะต้องทำอะไรต่อ
00:34:05 → 00:34:12 [เพลง]
00:34:12 → 00:34:25
00:34:25 → 00:34:28 ไปอาจารย์ครับอันนี้คือขั้นตอนอะไรครับ
00:34:29 → 00:34:31 อันนี้คือขั้นตอนการตรวจประเมินคนไข้ค่ะ
00:34:31 → 00:34:34 ให้คนไข้เาลองเดินกับเท้าเปล่าดูว่าเขามี
00:34:34 → 00:34:37 ความผิดปกติหรือว่ามีความผิดรูปของข้อ
00:34:37 → 00:34:40 เท้าตรงไหนค่ะแล้วผมดูเนี่ยคุณป้าเ้าไม่
00:34:40 → 00:34:43 ได้ใส่กายอุปกรณ์แล้วอ่ะที่ล็อคเ้าเท้า
00:34:43 → 00:34:46 ของคุณป้าต้องถอดก่อนเหรอฮะค่ะเป็นการดู
00:34:46 → 00:34:48 ก่อนใส่อุปกรณ์แล้วก็หลังใส่อุปกรณ์ค่ะ
00:34:48 → 00:34:51 ครับคือแสดงว่าบางคนใส่แล้วก็จะเดินอีก
00:34:51 → 00:34:53 แบบนึงแต่พอถอดกายอุปกรณ์ปั๊บใช่จะเดิน
00:34:53 → 00:34:56 อีกแบบนึงแล้วเราจะเห็นชัดขึ้นว่าร่างกาย
00:34:56 → 00:34:58 มีการตอบสนองแตกต่างจาก 3 เดือนที่แล้ว
00:34:58 → 00:35:01 อย่างไรใช่มั้ยอ๋ออันนี้คือเรื่องเท้า
00:35:01 → 00:35:03 ก่อนนะฮะแล้วคุณป้าเดินเป็นยังไงบ้างเห็น
00:35:03 → 00:35:05 คุณป้าเดินเร็วมากเลยนะเกป้าเดินอีกอีก
00:35:05 → 00:35:08 หน่อยนะคะฮะเราจะเห็นได้ว่าคนไข้เขาไม่
00:35:08 → 00:35:11 สามารถที่จะกระดกปลายเท้าขึ้นได้ค่ะครับ
00:35:11 → 00:35:15 อืแรงในการกระดกข้อเท้าจะทำไม่ได้ค่ะครับ
00:35:15 → 00:35:17 แสดงว่าของคุณป้าเนี่ยอย่างที่บอกคือคุณ
00:35:17 → 00:35:19 ป้าเมีปัญหาในเรื่องของการกระดกข้อเท้า
00:35:19 → 00:35:22 ค่ะเวลาใส่กายอุปกรณ์นะครับเพื่อให้ข้อ
00:35:22 → 00:35:24 เท้ามันยืดแล้วเนี่ยกล้ามเนื้อตงนั้นส่วน
00:35:24 → 00:35:26 นั้นได้ทำงานพอกลับมาที่โรงเรียนแห่งนี้
00:35:26 → 00:35:29 ก็จะมาดูอีกว่าหลังจากใส่ไปปั๊บกล้าม
00:35:29 → 00:35:31 เนื้อมีพัฒนาการหรือเปล่าใช่ตอนนี้ก็ยัง
00:35:31 → 00:35:34 กระโดดขึ้นไม่ได้แต่การเดินนี่ถือว่าเดิน
00:35:34 → 00:35:36 เหินได้คล่องเลยถือว่าสามารถช่วยเหลือตัว
00:35:36 → 00:35:38 เองได้ในระดับนึงเลยทีเดียวค่ะอ่ะเดี๋ยว
00:35:38 → 00:35:40 ลองคุณป้าลองเดินดูอีกทีผมดูข้อข้อข้อ
00:35:40 → 00:35:42 เท้าขวา
00:35:42 → 00:35:49 [เพลง]
00:35:49 → 00:35:53 อ๋อคือสะโปกคุณป้านี่แข็งแรงมากต้นขาแต่
00:35:53 → 00:35:56 ทีเนี้ยบริเวณข้อเท้ามันมันจะไม่ไม่กระนก
00:35:56 → 00:35:58 ขึ้นมาใช่ค่ะสมัยก่อนที่คุณป้าเป็นใหม่ๆ
00:35:58 → 00:36:00 เนี่ยข้อเท้ามันไม่สามารถขึ้นมาอย่างงี้
00:36:00 → 00:36:02 ได้เลยมันห้อยอย่างงี้เลยใช่มยฮะข้อเท้า
00:36:02 → 00:36:05 ห้อยเลยนะครับแต่ตอนนี้ข้อเท้าเกร็งขึ้น
00:36:05 → 00:36:08 มาได้ละได้แค่นี้ได้แค่นี้แต่ก็ดีกว่าแต่
00:36:09 → 00:36:12 ก่อนนะครับดีก็ถือว่าเดินได้ได้ได้ดีขึ้น
00:36:12 → 00:36:15 นะครับอันนี้ก็ต้องรักษาควบคู่กันไปด้วย
00:36:15 → 00:36:18 ค่ะเราก็ต้องดูขึ้นมาเหนือเหนือระดับที่
00:36:18 → 00:36:21 เขาเป็นระดับที่เราจะโฟกัสก็คือตรงข้อ
00:36:21 → 00:36:23 เท้าใช่มคะที่เาไม่มีแรงแต่เราก็ต้องดู
00:36:23 → 00:36:25 ขึ้นมาเหนือนั้นอีก 1 ระดับก็คือข้อเข่า
00:36:25 → 00:36:27 ก็ต้องดูควบคู่กันไปด้วยอืมนะครับแล้ว
00:36:28 → 00:36:30 อย่างงี้เสร็จแล้วขั้นตอนพอคุณป้าเดิน
00:36:30 → 00:36:33 เสร็จปุ๊บก็พอเราดูแล้วว่าว่าเขามีความ
00:36:33 → 00:36:35 ผิดรูปหรือมีการอ่อนแรงตรงไหนแล้วก็จะมา
00:36:35 → 00:36:38 ออกแบบอุปกรณ์ให้กับคนไข้ค่ะอันนี้ก็คือ
00:36:38 → 00:36:42 เป็นอันปัจจุบันที่เขาใส่อยู่แล้วก็มา
00:36:42 → 00:36:44 Follow up ดูว่าอุปกรณ์เขามีปัญหาอะไร
00:36:44 → 00:36:47 หรือเปล่ามันเหมาะกับโรคของเขาหรืออาการ
00:36:47 → 00:36:49 ตอนนี้
00:36:49 → 00:36:55 [เพลง]
00:36:55 → 00:36:56 มย
00:36:56 → 00:36:58 [เพลง]
00:36:58 → 00:37:00 แสดงว่าอุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปบนร่างกายของ
00:37:00 → 00:37:03 คนไข้เนี่ย 3 เดือนบางทีอาจจะต้องเปลี่ยน
00:37:03 → 00:37:06 เปลี่ยนทีปรับมุมทีนึงไปเรื่อยๆค่ะแล้ว
00:37:06 → 00:37:09 เรื่องแขนล่ะฮะก็จะมีอาจารย์อีกท่านนึง
00:37:09 → 00:37:12 ค่ะที่เขาจะดูแลเกี่ยวกับอุปกรณ์ประคอง
00:37:12 → 00:37:15 ข้อแขนโดยเฉพาะค่ะอ๋อแสดงว่าโรงเรียนแห่ง
00:37:15 → 00:37:17 นี้เนี่ยอาจารย์แต่ละท่านก็ดูกายอุปกรณ์
00:37:17 → 00:37:19 แต่ละส่วนแต่ละพาร์ทไม่เหมือนกันเลยจริงๆ
00:37:19 → 00:37:22 ก็ดูได้ทุกพาร์ทแต่ว่าก็จะมีความเชี่ยว
00:37:22 → 00:37:25 ชาญเฉพาะด้านแต่ละระดับต่างๆกันไปค่ะอืม
00:37:25 → 00:37:28 อย่างของอาจารย์าขวัญนี่ก็ดูแลเรื่องขา
00:37:28 → 00:37:31 ค่ะอาจารย์อีกท่านนึงก็ดูแลแขนค่ะอ๋อโอเค
00:37:31 → 00:37:34 ครับเดี๋ยวดูแขนต่อนะคุณป้านะ
00:37:34 → 00:37:39 [เพลง]
00:37:39 → 00:37:42 อ่ะมาตรวจเช็ดที่แขนะอาจารย์ครับครับต้อง
00:37:42 → 00:37:45 เริ่มต้นยังไงครับครับก็ดูพวกกำลังกล้าม
00:37:45 → 00:37:47 เนื้อนะครับแล้วก็ดูว่าคนไข้สามารถที่จะ
00:37:47 → 00:37:51 ขยับข้อต่างๆได้ปกติหรือเปล่าครับแล้วก็
00:37:51 → 00:37:54 ตรวจประเมินว่าคนไข้มีความผิดปกติแบบนี้
00:37:54 → 00:37:57 จะต้องให้กายอุปกรณ์แบบไหนครับอันนี้คือ
00:37:57 → 00:37:59 อย่างขาเนี่ยเราพอเห็นแล้วก็คือพาคุณป้า
00:38:00 → 00:38:02 เดินเพื่อดูขาว่าคุณป้าเดินเป็นยังไงนะ
00:38:02 → 00:38:06 ครับมาถึงแขนก็ต้องแกะออกมะใช่ครับแกะออก
00:38:06 → 00:38:08 ครับลองดูซิครับคุณป้า
00:38:08 → 00:38:12 [เพลง]
00:38:12 → 00:38:16 ครับคุณป้านะครับในส่วนของตัวหัวไหล่กับ
00:38:16 → 00:38:19 ข้อศอกเนี่ยปกติค่อนข้างปกติครับสามารถ
00:38:19 → 00:38:22 ที่จะมีกำลังกล้ามเนื้อแล้วก็ขยับได้แต่
00:38:22 → 00:38:24 ว่าในส่วนของข้อมือแล้วก็นิ้วมือนะครับ
00:38:24 → 00:38:26 เดี๋ยวคุณป้าลองกระโดกข้อมือขึ้นได้มั้ย
00:38:26 → 00:38:29 ฮะนะฮะเหยียดนิ้วมือได้มั้ยไม่ได้เห็น
00:38:29 → 00:38:32 มั้ยฮะอ๋อแสดงว่าอาการที่นิ้วที่เหยียด
00:38:33 → 00:38:35 ออกมาไม่ได้แบบนี้เนี่ยเป็นปกติของคุณป้า
00:38:35 → 00:38:38 ตอนนั้นคุณป้าก็บอกแล้วว่าข้อมือกับนิ้ว
00:38:38 → 00:38:40 ไม่สามารถเหยียดออกมาแบบนี้ได้ใช่ครับเรา
00:38:40 → 00:38:42 ก็เลยใส่เเรียกอุปกรณ์ช่วยให้นิ้วของคุณ
00:38:42 → 00:38:45 ป้าเหยียดได้ต่อตลอดเวลาใช่ครับแต่พอถอด
00:38:45 → 00:38:47 ปั๊บนิ้วก็ยังไม่ได้เหยียดบังคับไม่ได้
00:38:47 → 00:38:50 คุณป้าครับครับแบบนี้ต้องทำยังไงต่อครับ
00:38:50 → 00:38:52 อาจารย์ครับก็คือเราต้องตรวจก่อนนะครับ
00:38:52 → 00:38:55 ว่าที่คุณป้ากระดกไม่ได้เนี่ยอข้อต่างๆ
00:38:55 → 00:38:57 เนี่ยมันได้ยึดยึติดแล้วหรือยังนะครับถ้า
00:38:58 → 00:39:01 เกิดอ่ายังไม่ได้ยึดติดเนี่ยเราก็ต้องจัด
00:39:01 → 00:39:04 แนวของตัวข้อนะครับตัวข้อมือแล้วก็ตัว
00:39:04 → 00:39:07 นิ้วมือเนี่ยให้อยู่ในท่าที่ตรงมากที่สุด
00:39:07 → 00:39:10 นะครับถ้าเกิดคนไข้ไม่ได้ไม่ได้ใช้ตัว
00:39:10 → 00:39:13 อุปกรณ์เนี่ยข้อต่อก็จะอยู่ในท่านี้นานๆ
00:39:13 → 00:39:15 แล้วก็ยึดติดพิดรูปแล้วก็ไม่สามารถที่จะ
00:39:15 → 00:39:18 กลับมาในท่าปกติได้นั่นคือสาเหตุที่เรา
00:39:18 → 00:39:21 ต้องมามีอุปกรณ์ช่วยใช่ครับนะครับอ่ะของ
00:39:21 → 00:39:24 คุณป้าดูแล้วเนี่ยข้อมือก็ยังกระดดกลับ
00:39:24 → 00:39:27 ขึ้นมาไม่ค่อยได้ครับยังไม่มีแรงใช่มั้ย
00:39:27 → 00:39:30 ครับคุณป้าไม่มีแรงเลยไม่มีแรงเลยนะดูที่
00:39:30 → 00:39:34 ตัวนิ้วมือนะฮะก็ค่อนข้างที่จะเกร็งเกร็ง
00:39:34 → 00:39:38 มากแล้วถ้าเกิดเราไม่อ่าป้องกันในส่วนนี้
00:39:38 → 00:39:42 ในอนาคตก็จะยิ่งงอมากยิ่งขึ้นอนะฮะเดี๋ยว
00:39:42 → 00:39:44 ผมขออนุญาตจับดูได้มั้ยผมอยากรู้ว่าการ
00:39:44 → 00:39:46 เกร็งของนิ้วป้าเนี่ยมันมันขนาดไหนคือ
00:39:46 → 00:39:49 ปกติกันโหคุณผู้ชมครับคือมันเหมือนนิ้ว
00:39:49 → 00:39:51 ล็อคเลยนะฮคุณผู้ชมถูกมั้ยฮะครับนี่ผม
00:39:51 → 00:39:54 พยายามดันออกมาไม่ได้เลยนะคุณป้านะขนาดผม
00:39:54 → 00:39:57 ดึงยังรู้สึกว่าแข็งมากคนไข้เนี่ยการที่
00:39:57 → 00:39:59 จะเหยียดเองเป็นไปไม่ได้เลยใช่ครับอ๋อ
00:39:59 → 00:40:02 โอเคเข้าใจภาพแล้วฮะอคือปกติเวลาเราตรวจ
00:40:02 → 00:40:05 เราก็พยายามที่จะจัดท่านะครับว่าถ้าเกิด
00:40:05 → 00:40:07 อุปกรณ์เราอยู่ในท่านี้แล้วเนี่ยสามารถ
00:40:07 → 00:40:10 ที่จะรักษาคนไข้ได้ไมเราก็พยายามที่จะ
00:40:10 → 00:40:12 ประคองข้อมือนะครับแล้วก็พยายามที่จะ
00:40:12 → 00:40:15 เหยียดนิ้วอ๋อเราต้องทำแบบนี้ใช่ดูว่า
00:40:15 → 00:40:18 อุปกรณ์เราสามารถที่จะช่วยยืดนิ้วเจ็บ
00:40:18 → 00:40:20 มั้ยครับคุณป้าไม่เอ๋อไม่เจ็บนะแล้วก็ข้อ
00:40:20 → 00:40:25 มือได้านๆก็
00:40:25 → 00:40:33 เจ็บ
00:40:33 → 00:40:43 [เพลง]
00:40:43 → 00:40:46 แต่แต่ชิ้นนี้มันก็ดูเหมือนว่าทำให้มือ
00:40:46 → 00:40:48 ของคุณป้าเนี่ยมันไม่ไม่หดแบบนี้เพราะว่า
00:40:49 → 00:40:50 กายอุปกรณ์ที่ช่วยคุณป้าเนี่ยมันทำให้
00:40:51 → 00:40:52 นิ้วของคุณป้ามันเหยียดอยู่แล้วไม่ใช่
00:40:52 → 00:40:55 เหรอครับอาจารย์ทำไมพอเราถอดออกมาปั๊บมัน
00:40:55 → 00:40:57 ก็ยังมีอาการเดเดิมอยู่คือขดกลับเข้าไป
00:40:57 → 00:41:00 ใช่ครับเพราะว่าในโลกนี้ก็อย่างที่บอกนะ
00:41:00 → 00:41:02 ครับเพราะว่ามันเป็นอาการที่เกิดขึ้นที่
00:41:02 → 00:41:04 บทประสาทที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อเพราะ
00:41:04 → 00:41:06 ฉะนั้นกล้ามเนื้อก็จะอยู่ในลักษณะนี้ตลอด
00:41:07 → 00:41:11 เวลากอุปกรณ์แค่ประคองไม่ให้ตัวเอ่อข้อ
00:41:11 → 00:41:14 เนี่ยมันมันมันเกรงหดในท่านี้ใช่จริงๆ
00:41:14 → 00:41:17 แล้วหน่วยที่ทำอุปกรณ์นะฮะอุปกรณ์แขน
00:41:17 → 00:41:20 เนี่ยมี 2 หน่วยหลักๆก็คือที่กิจกรรม
00:41:20 → 00:41:23 บำบัดนะครับก็จะทำจริงๆตัวนี้เป็นของ
00:41:23 → 00:41:25 กิจกรรมบำบัดนะครับเพราะว่าเขาจะใช้ตัว
00:41:25 → 00:41:29 วัสดุที่แตกต่างจากที่กายอุปกรณ์ที่นี่นะ
00:41:29 → 00:41:32 ครับอีกแบบนึงก็คือทำมาทำจากที่โรงเรียน
00:41:32 → 00:41:35 กายอุปกรณ์นะครับครับก็คือ 2 อย่างเนี่ย
00:41:35 → 00:41:38 จะเป็นวัสดุที่แตกต่างกันอือฮึแบบแรก
00:41:38 → 00:41:40 เนี่ยคือเป็นวัสดุที่เราสามารถที่จะตัด
00:41:40 → 00:41:42 เป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับคนไข้แล้วก็
00:41:42 → 00:41:45 จุ่มไปในน้ำร้อนพลาสติกตัวเนี้ยมันก็จะ
00:41:45 → 00:41:48 อ่อนตัวหลังจากนั้นเราก็เอาตัวพลาสติก
00:41:48 → 00:41:51 เนี่ยมาวางที่มือคนไข้เราก็จัดรูปได้เลยอ
00:41:52 → 00:41:54 นะครับแบบที่ 2 ที่ทางโรงเรียนของเราที่
00:41:54 → 00:41:56 กายอุปกรณ์ทำนะครับก็จะจะเป็นจะต้อง
00:41:56 → 00:41:59 จำเป็นจะต้องมีการหล่อแบบคนไข้ขึ้นมาก่อน
00:41:59 → 00:42:02 ได้เป็นหุ่นแบบขึ้นมาเสร็จแล้วเราก็จะ
00:42:02 → 00:42:05 ขึ้นพลาสติกแยกต่างหากอครับ 2 ตัวนี้ก็จะ
00:42:05 → 00:42:09 แตกต่างกันแบบนี้ก็จะเหมาะกับคนไข้ที่มี
00:42:09 → 00:42:12 อาการที่ไม่มากนักแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:42:12 → 00:42:15 ใช้อุปกรณ์ที่มีความแข็งแรงมากนักนะครับ
00:42:15 → 00:42:18 อ๋อแต่แบบนี้คือเป็นแบบที่เหมาะกับคนไข้
00:42:18 → 00:42:22 ที่ใช้ในระยะเวลานานๆหรือว่าคนไข้ที่มี
00:42:22 → 00:42:24 ความรุนแรงของโรคที่ค่อนข้างมากนะครับ
00:42:24 → 00:42:27 เพราะตัวความแข็งแรงของตัวพลาสติกเนี่ย
00:42:27 → 00:42:29 แบบเนี้มันจะแข็งแรงกว่าแล้วต้องมีการ
00:42:29 → 00:42:31 ปรับเพิ่มเติมอะไรมั้ยครับเห็นบอกว่าขา
00:42:31 → 00:42:33 เนี่ย 3 เดือนบางทีก็ต้องปรับเพิ่มส่วน
00:42:33 → 00:42:36 แขนแบบนี้ต้องปรับอะไรเพในส่วนแขนก็จะมี
00:42:36 → 00:42:39 การปรับเหมือนกันนะครับก็คือจะดูว่าตัว
00:42:39 → 00:42:41 อุปกรณ์เนี่ยมีความกระชับกับแขนใน
00:42:41 → 00:42:45 ปัจจุบันหรือไม่แล้วก็ดูพวกตัวแรงกล้าม
00:42:45 → 00:42:47 เนื้อต่างๆแล้วก็ดูว่าข้อมียึดติดเพิ่ม
00:42:47 → 00:42:53 มากขึ้นหรือเปล่าครับอ
00:42:54 → 00:42:55 [เพลง]
00:42:55 → 00:42:57 ครับ
00:42:57 → 00:42:59 ป้าใส่เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ครับขั้น
00:42:59 → 00:43:01 ตอนต่อไปเราเช็คยังไงคือเราก็จะตรวจเช็ค
00:43:01 → 00:43:03 นะครับว่าตัวอุปกรณ์เนี่ยมีความกระชับกับ
00:43:03 → 00:43:05 ตัวแขนคุณป้าหรือเปล่านะครับถ้าเกิดเป็น
00:43:06 → 00:43:09 ดูจากลักษณะนี้ยังรู้สึกว่ามีช่องว่างนะ
00:43:09 → 00:43:12 ครับก็คือลักษณะเนี้ยเกิดขึ้นได้เพราะว่า
00:43:12 → 00:43:14 คนเราก็น้ำหนักก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่
00:43:14 → 00:43:17 ตลอดเวลานะฮะก็เราก็ต้องจะดูว่าถ้าเกิด
00:43:17 → 00:43:19 มันหลวมมากเกินไปอาจจะต้องทำใหม่แต่ว่า
00:43:20 → 00:43:21 ถ้าเกิดมันไม่หลวมมากเกินไปเราอาจจะปรับ
00:43:21 → 00:43:25 โดยการทำให้ขนาดเล็กลงหรือว่ามีเสริม
00:43:25 → 00:43:27 อุปกรณ์หรือว่าเป็นวัสดุอะไรเข้าไปในตัว
00:43:28 → 00:43:30 อุปกรณ์ได้นะครับเพราะฉะนั้นตัวลัดตรงนี้
00:43:30 → 00:43:32 สำคัญมากเลยไม่งั้นเดี๋ยวปลายนิ้วตอนนี้
00:43:32 → 00:43:34 มันจิกอยู่สำใช่อาจจะกลายเป็นแผลกดทับที่
00:43:34 → 00:43:37 บริเวณนิ้วก็ได้ใช่ตัวอุปกรณ์เองหรือว่า
00:43:37 → 00:43:41 ตัวสหรัฐเองในทุกๆส่วนก็จะมีจุดประสงค์ใน
00:43:41 → 00:43:44 การรักษาแก้ไขที่แตกต่างกันแล้วก็ต้อง
00:43:44 → 00:43:46 เช็คให้ละเอียดว่าตอนนี้ยังใช้งานได้ปกติ
00:43:46 → 00:43:48 หรือเปล่าอครับอาจารย์ครับนอกจากกาย
00:43:48 → 00:43:50 อุปกรณ์ที่ต้องคอยตรวจเช็คว่ามันมีหลวมไป
00:43:50 → 00:43:52 หรือเปล่าสายรัฐมันหย่อนอะไรยังไงแล้ว
00:43:52 → 00:43:54 เนี่ย
00:43:54 → 00:43:58 การบริหารครับเมื่อมาเจออาจารย์แล้วเนี่ย
00:43:58 → 00:44:00 นอกจากตรวจอุปกรณ์เราต้องบริหารอะไรยังไง
00:44:00 → 00:44:02 ด้วยมั้ยครับตอนนี้เห็นเมื่อกี้เห็น
00:44:02 → 00:44:05 อาจารย์เหยียดนิ้วลองดึงนิ้วก็คือเราก็
00:44:05 → 00:44:07 ต้องมีการตรวจอีกนิดนึงนะครับว่าตอนนี้
00:44:07 → 00:44:10 ตัวข้อตัวกล้ามเนื้อเป็นยังไงบ้างคุณป้า
00:44:10 → 00:44:12 ขยับได้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่าหรือว่ามี
00:44:13 → 00:44:15 ปัญหาเพิ่มมากขึ้นนะครับถ้าเกิดมีปัญหา
00:44:15 → 00:44:17 เพิ่มมากขึ้นอาจจะต้องส่งไปปรึกษานัก
00:44:17 → 00:44:20 กิจกรรบำบัดนักกภาพบำบัดเพื่อที่จะให้
00:44:20 → 00:44:23 ฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อหรือว่าข้อต่อที่
00:44:23 → 00:44:26 ติดผิดรูปเนี่ยกลับขึ้นมาดีขึ้นอด้วยครับ
00:44:26 → 00:44:29 เอาล่ะเดี๋ยวต้องถามคุณป้าก่อนคุณป้าหลัง
00:44:29 → 00:44:32 จากที่เราผ่านมา 12 ปีนะครับเรามีกาย
00:44:32 → 00:44:34 อุปกรณ์มาช่วยเหลือให้เราสามารถเดินได้ดี
00:44:34 → 00:44:37 ขึ้นขยับแขนได้ดีขึ้นแล้วเนี่ยคุณป้าอยาก
00:44:37 → 00:44:39 จะฝากบอกอะไรคุณผู้ชมทางบ้านที่มีลักษณะ
00:44:39 → 00:44:42 อาการแบบเราแต่มันยังไม่มาพบคุณหมอควรจะ
00:44:42 → 00:44:45 มาหาคุณหมอมั้ยควรควรเลยนะสำคัญมั้ยครับ
00:44:45 → 00:44:50 สำคัญดิให้ให้มาฝึกให้สำคัญให้ทีถ้วนมา
00:44:50 → 00:44:52 อืมเพราะฉะนั้นแล้วใครที่เป็นแบบนี้คุณ
00:44:52 → 00:44:55 ป้าแนะนำนะครับว่าควหัดหัดเดินหัดพูดเอง
00:44:55 → 00:44:58 หัดเดินด้วยนะเเออบางคนเท้องไงครับป้าพอ
00:44:58 → 00:45:01 พอเป็นปั๊บไม่อยากออกไปเจอคนเลยอ่ะอายเค
00:45:01 → 00:45:03 หัดเดินสิต้องหัดเดินเลยนะเพราะไม่งั้นก็
00:45:03 → 00:45:06 เดินไม่ได้ที่นี่จะออกมาที่บ้านอ่ะออกมา
00:45:06 → 00:45:09 เดินนอกบ้านเลยอ๋อคุณป้าหาดเดินด้วยคุณ
00:45:09 → 00:45:12 ป้าเดินทางไปไหนเองด้วยตัวเองตลอดเดินตอน
00:45:12 → 00:45:15 นี้คนเดียวเลยนะฮะเพราะฉะนั้นแล้วคนไข้คน
00:45:15 → 00:45:17 ไหนเนี่ยที่เป็นแบบคุณป้าเนี่ยที่เกิดรู้
00:45:17 → 00:45:19 เกิดความรู้สึกว่าอายไม่อยากออกไปเจอคน
00:45:20 → 00:45:22 ไม่ต้องอายไม่ต้องอายไม่ต้องอายเริ่มต้น
00:45:22 → 00:45:24 ใหม่ชีวิตเราเราต้องเดินให้ได้นะนะครับ
00:45:24 → 00:45:26 ต้องฝึกฝนตัวเองแบ
00:45:26 → 00:45:30 ใชเราเคยเดินได้เราเคยทำอะไรได้เราไม่ทำ
00:45:30 → 00:45:33 ่ะเออใช่นะครับเพราะฉะนั้นแล้วคนไข้ทุกคน
00:45:33 → 00:45:35 ที่เป็นแบบคุณป้าต้องสู้ๆนะครับแล้ววัน
00:45:35 → 00:45:37 นี้ก็ต้องขอขอบคุณอาจารย์แล้วก็คุณป้า
00:45:37 → 00:45:39 ด้วยนะครับที่วันนี้มาร่วมแชร์ประสบการณ์
00:45:39 → 00:45:42 นะครับเกี่ยวกับเรื่องของโรคหลอดเลือดใน
00:45:42 → 00:45:44 สมองนะครับรวมถึงเรื่องของกายอุปกรณ์นะ
00:45:44 → 00:45:47 ครับขอบพระคุณมากนะครับขอบพระคุณ
00:45:47 → 00:45:47 [เพลง]
00:45:47 → 00:45:49 [ปรบมือ]
00:45:49 → 00:45:54 [เพลง]
00:45:54 → 00:45:58 ครับ
00:45:58 → 00:46:01 [เพลง]
00:46:01 → 00:46:02 [ปรบมือ]
00:46:02 → 00:46:06 [เพลง]
00:46:06 → 00:46:08 [ปรบมือ]
00:46:08 → 00:46:10 [เพลง]
00:46:10 → 00:46:11 [ปรบมือ]
00:46:11 → 00:46:17 [เพลง]
00:46:17 → 00:46:18 [ปรบมือ]
00:46:18 → 00:46:20 [เพลง]
00:46:20 → 00:46:24 [ปรบมือ]
00:46:24 → 00:46:26 เ
00:46:26 → 00:46:27 [เพลง]
00:46:27 → 00:46:29 [ปรบมือ]
00:46:29 → 00:46:30 [เพลง]
00:46:30 → 00:46:34 [ปรบมือ]
00:46:34 → 00:46:51 [เพลง]
00:46:54 → 00:46:58 เ y