00:00:00 → 00:00:03 รู้จักโรคกลัวความตายเมื่อจิตหมกมุ่น
00:00:03 → 00:00:07 กังวลจนชีวิตไม่มีความสุขจิตแพทย์แนะนำ
00:00:07 → 00:00:11 วิธีเอาชนะโรคกลัวความตายยอมรับเข้าใจไม่
00:00:11 → 00:00:14 ใช่เรื่องไกลตัวแจกเทคนิคจัดการอารมณ์
00:00:14 → 00:00:17 ความคิดเพื่อชีวิตมีความสุขติดตามเรื่อง
00:00:17 → 00:00:22 ราวทั้งหมดได้ในรายการ TNN He วัน
00:00:22 → 00:00:26 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:30 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:30 → 00:00:32 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:32 → 00:00:35 คุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ TNN Health ค่ะ
00:00:36 → 00:00:38 และดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัดาวจังวังกร
00:00:38 → 00:00:41 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อม
00:00:41 → 00:00:44 ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณ
00:00:44 → 00:00:49 ผู้ชมมาเข้าสู่สาระสุขภาพดีๆกัน
00:00:49 → 00:00:58 [เพลง]
00:00:58 → 00:01:03 ค่ะสดานี้ค่ะเราจะมาพูดคุยกับโรคกลัวความ
00:01:03 → 00:01:07 ตายจิตหมกมุ่นจนชีวิตไม่มีความสุขคุณผู้
00:01:07 → 00:01:10 ชมอาจจะนึกไม่ถึงนะคะว่าโรคนี้มีอยู่จริง
00:01:10 → 00:01:13 นั่นก็คือบางคนกลัวความตายจนไม่เป็นอันทำ
00:01:13 → 00:01:16 อะไรเลยอยากรู้ไปฟังพร้อมๆกันค่ะรกลัว
00:01:16 → 00:01:18 ความตายหรือ
00:01:18 → 00:01:23 tania คืออะไรในภาษากรีก tanat หมายถึง
00:01:23 → 00:01:26 ความตายและโฟเบียหมายถึงความกลัวดังนั้น
00:01:26 → 00:01:31 ทาทโฟเบียหมายถึงกลัวความตายโดยที่บุคคล
00:01:31 → 00:01:33 นั้นมีความกังวลและหวาดกลัวอย่างมากเมื่อ
00:01:33 → 00:01:36 นึกถึงความตายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ
00:01:36 → 00:01:39 หลีกเลี่ยงได้ทุกคนต้องตายเมื่อนึกถึง
00:01:39 → 00:01:42 ความตายจะมีความรู้สึกดังนี้กลัวการสูญ
00:01:42 → 00:01:45 เสียกลัวถูกพรากจากกังวลเกี่ยวกับการทิ้ง
00:01:45 → 00:01:48 คนรักไว้ข้างหลังเมื่อความกลัวดังกล่าว
00:01:48 → 00:01:51 ข้างต้นยังมีอยู่ทำให้ส่งผลต่อชีวิตประจำ
00:01:52 → 00:01:55 วันและไม่สามารถหยุดความกลัวนั้นได้ส่งผล
00:01:55 → 00:01:58 ให้ไม่กล้าออกจากบ้านไม่กล้าสัมผัสสิ่ง
00:01:58 → 00:02:01 ต่างๆรอบตัวที่จะทำให้ตายเช่นกลัวติด
00:02:01 → 00:02:05 เชื้อจากสิ่งของหรือกลัวถูกคนทำร้ายอาการ
00:02:05 → 00:02:09 ของโรคกลัวความตายเป็นอย่างไร 1 กลัวและ
00:02:09 → 00:02:12 กังวลเกี่ยวกับความตายอย่างรุนแรงโดยอาจ
00:02:12 → 00:02:15 เกิดอาการทันทีโดยไม่สามารถควบคุมตัวเอง
00:02:15 → 00:02:17 ได้เมื่อเจอเหตุการณ์เกี่ยวกับความตาย
00:02:17 → 00:02:21 เช่นขณะอยู่ที่โรงพยาบาลอ่านหนังสือชม
00:02:21 → 00:02:24 ละครหรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ
00:02:24 → 00:02:27 ความตายและได้ยินเรื่องเกี่ยวกับความตาย 2
00:02:28 → 00:02:30 พยายามหลีกเลี่ยงเหตุการ์ที่เกี่ยวกับ
00:02:30 → 00:02:34 ความตายเช่นไม่ไปร่วมงานศพ 3 คิดหมกมุ่น
00:02:34 → 00:02:37 เกี่ยวกับสุขภาพคอยเช็คอาการผิดปกติอาจ
00:02:37 → 00:02:40 เป็นสัญญาณของความเจ็บป่วยอยู่เสมอ 4 ตัว
00:02:40 → 00:02:44 สั่นเหงื่อออกมากปากแห้ง 5 ปวดศีรษะเวียน
00:02:44 → 00:02:48 ศีรษะและหน้ามืด 6 ปวดท้องคลื่นไส้ 7 หัว
00:02:48 → 00:02:52 ใจเต้นเร็วผิดปกติหายใจหอบถี่แน่นหน้าอก 8
00:02:52 → 00:02:56 ตัวชาหรือรู้สึกเจ็บเหมือนเข็มทิ่ม 9 ได้
00:02:56 → 00:03:00 ยินเสียงในหูสับสน 10 รู้สึกอยากเข้าห้อง
00:03:00 → 00:03:04 น้ำกระทันหันนายเด็กจะร้องไห้งอแงไม่ยอม
00:03:04 → 00:03:07 ทำตามคำสั่งผู้ปกครองหรือคุณครูหากอาการ
00:03:07 → 00:03:11 รุนแรงขึ้นอาจรู้สึกผิดเศร้าโกรธกระสับ
00:03:11 → 00:03:14 กระส่ายวิตกกังวลต่อเนื่องและหลีกเลี่ยง
00:03:14 → 00:03:18 การพูดคุยหรือทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว
00:03:18 → 00:03:21 เพื่อนและคนอื่นๆเป็นเวลานานทั้งนี้อาการ
00:03:21 → 00:03:24 เหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่ผู้ป่วย
00:03:24 → 00:03:27 นึกถึงพูดถึงหากเกิดขึ้นตลอดเวลาโดยไม่
00:03:27 → 00:03:30 ทราบสาเหตุอาจเป็นอาการของโรคจิตอื่นๆ
00:03:30 → 00:03:34 เช่นภาวะวิตกกังวลทั่วไปสาเหตุของโรคกลัว
00:03:34 → 00:03:38 ความตายมีอะไรบ้างสาเหตุของความวิตกกังวล
00:03:38 → 00:03:40 นี้ในแต่ละบุคคลมีรายละเอียดที่แตกต่าง
00:03:40 → 00:03:44 กันโรคกลัวความตายมักเกิดจากเหตุการณ์ใน
00:03:44 → 00:03:47 อดีตแม้ว่าจะจำสิ่งนั้นไม่ได้รวมถึงเหตุ
00:03:47 → 00:03:50 การณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจที่เกี่ยวข้อง
00:03:50 → 00:03:53 กับความตายของคนที่รักหรือเหตุการณ์เฉียด
00:03:53 → 00:03:56 ตายของคุณหรือคนรักและมีความวิตกกังวลที่
00:03:56 → 00:04:00 รุนแรงประสบการณ์ของความวิตกกังวลในการ
00:04:00 → 00:04:03 เสียชีวิตอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ
00:04:03 → 00:04:07 ปัจจัยส่วนบุคคลเหล่านี้รวมถึง 1 อายุจาก
00:04:07 → 00:04:12 การศึกษาในปีพ.ศ 2560 ชี้ให้เห็นว่าผู้
00:04:12 → 00:04:16 สูงวัยกลัวกระบวนการตายขณะที่คนอายุน้อย
00:04:16 → 00:04:20 มักกลัวความตาย 2 เพศจากการศึกษาในปี
00:04:20 → 00:04:22 พุธศักราช
00:04:22 → 00:04:25 2555 ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้
00:04:25 → 00:04:28 มากกว่าผู้ชายและจะรู้สึกกลัวความตายของ
00:04:28 → 00:04:31 คนที่รักและและในช่วงนี้เรายังอยู่กันที่
00:04:31 → 00:04:33 โรคกลัวความตายเพื่อที่จะได้มีความรู้
00:04:33 → 00:04:36 ความเข้าใจในเรื่องโรคกลัวความตายมากขึ้น
00:04:36 → 00:04:40 เราจะไปพูดคุยกับโฆษกกรมสุขภาพจิตกัน
00:04:40 → 00:04:43 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:04:43 → 00:04:44 เลยนะ
00:04:44 → 00:04:49 [เพลง]
00:04:49 → 00:04:54 คะความรุนแรงของโรคกลัวความตายค่ะจะแสดง
00:04:54 → 00:04:58 ออกมาในรูปแบบใดได้บ้างคะโอเคมีเรื่องของ
00:04:58 → 00:05:00 การกลัวความตายนี้หมอคิดว่ามันเป็นเรื่อง
00:05:01 → 00:05:04 ที่คนปกติทั่วไปอาจจะมีความกลัวอยู่ใช่
00:05:04 → 00:05:06 มั้ยครับแต่ว่าอาการกลัวความตายทั่วไป
00:05:06 → 00:05:08 เนี่ยมันเกิดได้กับทุกคนอยู่แล้วแต่ว่า
00:05:08 → 00:05:12 มันจะมีกลุ่มคนกลุ่มนึงที่ความโกความตาย
00:05:12 → 00:05:14 ของเขานี่มันจะดูเยอะแล้วมันจะดูแบบโอ้โห
00:05:14 → 00:05:18 มันรุนแรงมากนะครับอารกลัวความตายเนี่ย
00:05:18 → 00:05:21 จริงๆในคนปกติเนี่ยเวลาเราเราพูดถึงเนี่ย
00:05:21 → 00:05:24 บางทีบางคนก็อาจจะมีเรื่องความเชื่อมีมี
00:05:24 → 00:05:26 ความรู้สึกหลๆอย่างที่บางทีก็ไม่อยากพูด
00:05:26 → 00:05:29 ถึงเพราะันหนึเหลือยไม่มงคลตามความเชื่อ
00:05:29 → 00:05:31 ใช่มั้คครับหรือบางคนรู้สึกพูดเหมือนเป็น
00:05:31 → 00:05:34 ลงไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยหรือบางทีพูดแล้ว
00:05:34 → 00:05:36 มันแบบนึกย้อนไปในเรื่องของประสบการณ์ใน
00:05:36 → 00:05:39 อดีตหรือว่าเกลัวตัวเองจะตายเองหรือคนพี่
00:05:39 → 00:05:41 น้องญาติคนที่เขารักจะต้องตายอะไรอย่าง
00:05:42 → 00:05:44 เงี้ยก็กลัวก็คือไม่อยากจะพูดถึงไม่อยาก
00:05:44 → 00:05:47 จะนึกถึงหรือนึกถึงแล้วมันรู้สึกไม่ดี
00:05:47 → 00:05:49 อย่างเงี้ยในกรณีบางกรณีเนี่ยถ้ามันรบกวน
00:05:49 → 00:05:52 มากๆคือพอมีเห็นเกี่ยวกับความตายอาจจะไป
00:05:52 → 00:05:55 เจอญาติพี่น้องป่วยหรือใกล้ตายหรืออาจ
00:05:55 → 00:05:57 เห็นคนตายหรือไปดูข่าวอะไรเงี้ยก็จะกลัว
00:05:57 → 00:06:01 แบบรุนแรงขึ้นมาเลยนะครับอาการโฟเบียก็
00:06:01 → 00:06:03 คือจะเป็นการแบบกลัวแบบรุนแรงคุมแบบคุม
00:06:03 → 00:06:06 ไม่ได้เลยกลุ่มโรคพวกเจริงๆมันต้องไปแยก
00:06:07 → 00:06:10 โรคอื่นด้วยอย่างเช่นกรณีที่เขามีเรื่อง
00:06:10 → 00:06:14 ของ ptsd อ่า ptsd ก็คือ Post traumatic
00:06:14 → 00:06:17 stress disorder ก็คือกลุ่มที่เขไปเจอ
00:06:17 → 00:06:19 การเสี่ยงความตายมาก่อนอย่างเงี้ยอย่าง
00:06:19 → 00:06:23 เช่นเอาง่ายๆอย่างคนเจอซึนามิอ่าแล้วรอด
00:06:23 → 00:06:26 มาได้อย่างเงี้ยแต่พอรอดมาปุ๊บเนี่ยเขาก็
00:06:26 → 00:06:30 จะแบบมีบางช่วงที่จะไปฝันร้ายซ้ำๆ
00:06:30 → 00:06:32 ไม่กล้าไปทะเลคือเห็นอะไรที่มันเกี่ยวกับ
00:06:32 → 00:06:35 สึนามิเลยเห็นที่นั้นเจะกลัวแล้วก็คิดถึง
00:06:35 → 00:06:38 ความตายแต่ว่ากรณีแบบเนี้การกลัวความตาย
00:06:38 → 00:06:42 หรือกรณีแบบนี้อาจจะเป็นจาก ptsd อาการ
00:06:42 → 00:06:44 กลัวเรื่องของการตายเนี่ยจริงๆมันต้องลง
00:06:44 → 00:06:48 ไปลึกๆนะครับมีได้ตั้งแต่คนปกติกลัวได้
00:06:48 → 00:06:52 ตามความเชื่อได้ตามตามเรื่องของวัฒนธรรม
00:06:52 → 00:06:55 สังคมได้จนกระทั่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของ
00:06:55 → 00:06:58 โรคบางอย่างหรือเขาอาจจะเป็นโรคบางอย่าง
00:06:58 → 00:07:00 ที่ทำให้เกิดเข้าใจอย่าไม่ถูกต้องอ่ะบอก
00:07:00 → 00:07:02 เพราะว่าไม่รู้เป็นโรคอะไรตรวจรักษายัง
00:07:03 → 00:07:05 ไม่เคลียร์เค้าก็จะกลัวล่วงหน้าไว้ก่อน
00:07:05 → 00:07:07 เป็นความกังวลก็ได้หรือขนาดอาจจะเป็น
00:07:07 → 00:07:10 กลุ่มโฟเบียที่กลัวความตายแบบเป็นโรคกลัว
00:07:10 → 00:07:13 เลยหรืออาจจะเป็นพารทอื่นของโรคอื่นก็ได้
00:07:13 → 00:07:16 เหมือนกันแล้วสาเหตุของโรคกลัวความตาย
00:07:16 → 00:07:19 เกิดจากอะไรคะสำหรับเรื่องของสาเหตุนะ
00:07:19 → 00:07:22 ครับถ้าเป็นเรื่องของโฟเบียเลยเป็นโฟเบีย
00:07:22 → 00:07:25 เลยเป็นโรคกลัวความตายเลยล้วนๆเนี่ยจริงๆ
00:07:25 → 00:07:27 สาเหตุเนี่ยอาจจะหลายอย่างอาจจะเป็นอย่าง
00:07:27 → 00:07:29 หนึ่งอาจจะเป็นประสบการณ์ในอดีตด้วยด้วย
00:07:29 → 00:07:31 กับอย่างที่ 2 ก็อาจจะเจอว่าอาจจะมีสาร
00:07:32 → 00:07:35 เคมีในสมองที่มีมีปัญหาด้วยนะครับแต่ส่วน
00:07:35 → 00:07:37 ใหญ่ในกลุ่มเนี้ยเราอาจจะโฟกัสว่าอาจจะ
00:07:37 → 00:07:39 เป็นเกี่ยวกับประสบการณ์หรือความเชื่อ
00:07:39 → 00:07:42 อะไรอย่างเงี้ยอาจจะเป็นส่วนใหญ่นะครับคน
00:07:42 → 00:07:45 กลุ่มใดที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกลัว
00:07:45 → 00:07:48 ความตายได้บ้างคะถ้าเป็นอาการกลัวความตาย
00:07:48 → 00:07:50 คนทั่วไปเนี่ยเกิดได้ทุกคนนะครับดังนั้น
00:07:50 → 00:07:53 เราบางคนทังก็ใช้ศาสนาเข้ามาช่วยเราจะมี
00:07:53 → 00:07:57 เรื่องของมรณานุสติอ่ะคือเราเรารู้รู้
00:07:57 → 00:07:58 เข้าใจเกี่ยวกับความตายแต่ว่าไม่จำเป็นจะ
00:07:58 → 00:08:01 ต้องไปนั่งกลัวมันคือทุกคนถึงจุดนึงก็จะ
00:08:01 → 00:08:04 ต้องตายแต่ว่าเราจะมีสติยังไงอันเนี้ยก็
00:08:04 → 00:08:07 เป็นส่วนนึงที่ที่เราจัดการในคนปกติใช่
00:08:07 → 00:08:11 มั้ยครับแต่ว่าถ้าเกิดว่ามันเป็นเกิดมัน
00:08:11 → 00:08:14 เป็นของโรคเนี่ยวิธีการดีไปหาหมอเลยเพราะ
00:08:14 → 00:08:16 บางทีมันอาจจะใกล้เคียงกันมากอาจจะกลัว
00:08:16 → 00:08:17 เพราะเป็นแพนิคหรือเปล่ากลัวเป็นเพราะ
00:08:17 → 00:08:19 วิตกกังวลหรือเปล่าหรือว่าอาจจะเป็น
00:08:19 → 00:08:21 โฟเบียหรือเปล่าเนี่ยมันมันได้หลายกรณี
00:08:21 → 00:08:24 มากดังนั้นไม่ต้องเดาเดี๋ยวให้คุณหมอเไป
00:08:24 → 00:08:27 วินิจฉัยแล้วให้คุณหมอเาจัดการแต่ว่าทั้ง
00:08:27 → 00:08:29 หมดทั้งปวงเนี่ยรักษาได้แล้วในเด็กมี
00:08:29 → 00:08:32 โอกาสที่จะเกิดโรคนี้ได้หรือไม่คะจริงๆ
00:08:32 → 00:08:34 อาการพวกเนี้ยได้ตั้งแต่ในเด็กจนถึงผู้
00:08:34 → 00:08:37 สูงอายุเลยนะครับทั้งความเชื่อแล้วก็ส่วน
00:08:37 → 00:08:39 ของการเป็นโรคเองจริงๆมันก็แล้วแต่ว่าตัว
00:08:39 → 00:08:42 โรคเนี่ยแต่ละโรคเนี่ยมันมีช่วงอายุที่จะ
00:08:42 → 00:08:45 เป็นไม่เท่ากันแต่ว่าในเด็กๆส่วนใหญ่ก็
00:08:45 → 00:08:48 อาจจะเป็นอาการที่เป็นการกลัวจากตามวัยก็
00:08:48 → 00:08:51 ได้นะครับอย่างเช่นในพัฒนาการของเด็กเอง
00:08:51 → 00:08:53 บางช่วงวัยก็อาจจะมีเรื่องของแบบ
00:08:53 → 00:08:55 separation anxiety กลัวการแยกจากอย่าง
00:08:55 → 00:08:58 เงี้ยหรือว่าถ้าเกิดว่ากลัวว่าจะเกิดการ
00:08:58 → 00:09:00 สูญเสียหรือหรือหรือประสบการณ์ที่เกิด
00:09:00 → 00:09:02 ขึ้นเนี่ยก็ทำให้เด็กเขาเกิดความกลัวได้
00:09:02 → 00:09:04 เพราะบางทีความรู้ความเข้าใจอย่างนั้นเขา
00:09:04 → 00:09:07 ยังต้องใช้ประสบอาศัยประสบการณ์หรือจากคำ
00:09:07 → 00:09:09 แนะนำอย่างเงี้ยนะครับบางกรณีก็คืออาจจะ
00:09:09 → 00:09:12 มีการส่งไปคุยกับจิตแพทย์ของเด็กโดยเฉพาะ
00:09:12 → 00:09:15 ก็มีนะครับซึ่งบางกรณีเนี่ยหมอว่าพอได้
00:09:15 → 00:09:18 คุยพอจัดการไปกับเด็กก็จะเติบโตมาอย่าง
00:09:18 → 00:09:22 สุขภาพจิตก็โอเคนะครับอาการกลัวตายกับโรค
00:09:22 → 00:09:26 กลัวความตายเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
00:09:26 → 00:09:29 คะอย่างถ้าบอกแล้วถ้าเราไปดูลึกๆอีกทีถ้า
00:09:29 → 00:09:31 เป็นโรคกลัวความตายเลยเป็นโฟเบียเลยเนี่ย
00:09:31 → 00:09:34 บางทีมันจะคุมไม่ได้มันจะการมันจะเยอะมาก
00:09:34 → 00:09:36 มันคุมไม่ได้แต่ในขณะเดียวกันถ้ามันเป็น
00:09:36 → 00:09:39 อาการกลัวธรรมดาอย่างเงี้ยกลัวแบบคนทั่ว
00:09:39 → 00:09:41 ไปเขาก็จะรู้ว่าเออบางทีมันไม่มีอะไรยัง
00:09:41 → 00:09:44 พอคุมตัวเองได้แล้วเขาก็จะรู้สึกว่ามัน
00:09:44 → 00:09:47 ผ่านจัดการได้มันยังผ่านไปได้อ่าถ้าเกิด
00:09:47 → 00:09:49 มีการทำเข้าใจมันก็จบแต่ว่าถ้าเป็นโฟเบีย
00:09:49 → 00:09:53 เนี่ยมันคุยก็ไม่จบทั้งที่เรู้เหตุผลแล้ว
00:09:53 → 00:09:56 มันก็ไม่จบนะครับอย่างเงี้ยเป็นต้นแล้ว
00:09:56 → 00:09:59 ผู้ที่เป็นโรคนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิด
00:09:59 → 00:10:02 ภาวะหรือว่าโรคแทรกซ้อนอะไรได้บ้างคะจริง
00:10:02 → 00:10:04 ๆได้หลายโรคนะครับเพราะว่าถ้าเกิดว่าเป็น
00:10:04 → 00:10:07 โถโฟเบียขึ้นมาเลยจริงๆเนี่ยบางทีอาจจะ
00:10:07 → 00:10:09 เสี่ยงต่อภาวะโรคอื่นด้วยเช่นโรควิตก
00:10:09 → 00:10:12 กังวลอ่าโรคซึมเศร้าอะไรอย่างเงี้ยเพราะ
00:10:12 → 00:10:15 ว่าบางทีบางทีมันเครียดมากๆกังวลมากๆจน
00:10:15 → 00:10:17 เศร้าก็มีมันโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องความ
00:10:17 → 00:10:20 ตายมันก็หดหู่ไปหมดนะครับอันนั้นก็จะพฒนา
00:10:20 → 00:10:23 ไปได้อีกหลายหลายอย่างดังนั้นดีที่สุดรีบ
00:10:23 → 00:10:26 หาหมอเลยเราจะมีวิธีสังเกตว่าคนรอบข้าง
00:10:26 → 00:10:28 ค่ะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกลัวความตาย
00:10:28 → 00:10:32 ได้อย่างอะไรคะเรื่องของการสูญเสียหรือ
00:10:32 → 00:10:35 การตายเนี่ยจริงๆเป็นเรื่องที่คนโปดจริงๆ
00:10:35 → 00:10:37 สามารถคุยกันได้นะครับแต่ว่าหลายๆคนหลีก
00:10:37 → 00:10:39 เลี่ยงที่จะไม่คุยเพราะว่าอาจจะเรื่องของ
00:10:39 → 00:10:41 ความเชื่อความมงคลอะไรอย่างเงี้ยหรือบาง
00:10:41 → 00:10:44 คนกลัวว่าเดี๋ยวคุยกันมันจะหดหู่นะครับ
00:10:44 → 00:10:47 จริงๆเราก็อาจจะใช้วิธีการคิดหลายๆอย่าง
00:10:47 → 00:10:49 มาอย่างคนนับถือพุทธอย่างเงี้ยก็าจะมี
00:10:49 → 00:10:52 เรื่องมรณานุสติอ่าก็คือมันสามารถเป็น
00:10:52 → 00:10:54 เรื่องที่คุยกันได้แหละนะครับมันเป็น
00:10:54 → 00:10:56 เรื่องที่ทุกคนต้องเจอเพียงแต่ว่าเมื่อ
00:10:56 → 00:10:59 ไหร่ถ้าเกิดถึงจุดนั้นเราจะทำยังไงเราจะ
00:10:59 → 00:11:03 ดูแลตัวเองยังไงกว่าจะถึงจุดนั้นเราจะจัด
00:11:03 → 00:11:05 การชีวิตยังไงเราโดยที่ไม่ประมาทอ่ะแล้ว
00:11:05 → 00:11:08 อยู่ยังไงให้มีความสุขจนถึงวันสุดท้าย
00:11:08 → 00:11:11 ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อ่าคนรอบข้าง
00:11:11 → 00:11:14 เองก็เช่นกันนะครับดังนั้นถ้าเกิดเรามอง
00:11:14 → 00:11:17 ว่ามันเป็นแค่ความเป็นธรรมชาติของคนที่
00:11:17 → 00:11:19 ถึงจุดนึงก็ต้องมีจุดนั้นแต่ว่าเราจะทำย
00:11:19 → 00:11:21 ไงให้อยู่แล้วอย่างมีความสุขไปถึงจุดนั้น
00:11:21 → 00:11:24 โดยที่ไม่ประมาทและปัจจุบันค่ะมีการรักษา
00:11:24 → 00:11:27 โรคนี้อย่างไรสามารถรักษาให้หายขาดได้
00:11:27 → 00:11:30 หรือไม่คะหลักๆเราจะใช้ีการทำจิตบำบัดนะ
00:11:30 → 00:11:34 ครับคือจริงๆถ้าไม่ว่าจะเป็นอาการกลัวหน
00:11:34 → 00:11:36 ทั่วไปหรืออาจจะเป็นของโฟเบียหลักๆเราใช้
00:11:36 → 00:11:39 ทำจิตบำบัตคือมีการทำความเข้าใจจมีการ
00:11:39 → 00:11:41 เรียบเรียงความคิดแล้วก็ปรับวิธีการคิด
00:11:41 → 00:11:45 กันใช้เหตุและผลใช้เรื่องของเอ่อหลักการ
00:11:45 → 00:11:49 ในการที่จะเยียวยาตรงนี้แต่ในกรณีถ้าเป็น
00:11:49 → 00:11:51 โรคเนี่ยอาจจะมีการใช้ยาควบคู่ไปด้วย
00:11:51 → 00:11:54 เพราะบางคนอาจจะเศร้าไปแล้วอ่าบางคนกังวล
00:11:55 → 00:11:57 ไปแล้วอย่างเงี้ยเราก็ใช้ยาในช่วยบำบัด
00:11:57 → 00:11:59 รักษาอีกทางนึงแล้วก็ต้องมีมีการดูว่ามัน
00:11:59 → 00:12:03 มีโรคอื่นปนมั้ยชันมีแพนิคมั้ยมี ptsd
00:12:03 → 00:12:06 มั้ยซึ่งหลายๆคนเนี่ยก็ดีขึ้นซึ่งเหล่าเย
00:12:06 → 00:12:09 หมอคิดว่าจัดการได้ทำอย่างไรเราจึงจะลด
00:12:09 → 00:12:12 ความกังวลเกี่ยวกับความกลัวในเรื่องของ
00:12:12 → 00:12:15 ความตายได้คะอันนั้นหมาอว่าเรื่องความตาย
00:12:15 → 00:12:17 เนี่ยมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากจะเจอ
00:12:17 → 00:12:20 ในเร็ววันเนาะถึงแม้จะรู้ว่าถึงวันนึง
00:12:20 → 00:12:23 ต้องเจอนั่นแหละแต่ว่าถ้าเรามีสตินะครับ
00:12:23 → 00:12:26 ไม่ว่าจะกับตัวเราหรือคนรอบข้างเนี่ยเรา
00:12:26 → 00:12:28 มีสติแล้วเราดูแลตัวเองให้ดีอยู่กับ
00:12:28 → 00:12:31 ปัจจุบันก่อนนะครับสำคัญคือปัจจุบันเนี่ย
00:12:31 → 00:12:35 เราทบทวนที่สุขภาพเราเป็นยังไงบางคนเนี่ย
00:12:35 → 00:12:38 ไม่ได้ตายง่ายๆนะคือเราอายุยืนมากแต่ถ้า
00:12:38 → 00:12:41 ยืนแบบที่สุขภาพออดๆแอดๆรู้สึกสุขภาพจิต
00:12:41 → 00:12:43 ไม่ดีมันเศร้าอยู่เรื่อยๆอย่างเงี้ยมัน
00:12:43 → 00:12:46 อาจจะแย่ไปกว่านั้นอีกใช่ไหครับดังนั้น
00:12:46 → 00:12:49 เราดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจให้แข็งแรงให้มี
00:12:49 → 00:12:52 ความสุขแล้วก็ใช้ชีวิตเนี่ยเพื่อตัวเรา
00:12:52 → 00:12:55 แล้วคนรอบข้างเพื่อสังคมอย่างเงี้ยคือถ้า
00:12:55 → 00:12:57 เราไม่ประมาทแล้วเราลงชีวิตไปไปแบบเนี้ย
00:12:58 → 00:13:00 เมื่อถึงจุดนึงที่ความตายมันใกล้เข้ามา
00:13:00 → 00:13:02 ความกลัวความกังวลก็อาจจะยังไม่มากเท่า
00:13:02 → 00:13:05 ไหร่อ่าเหมือนเราได้เตรียมตัวได้จัดการ
00:13:05 → 00:13:07 ชีวิตไปเรียบร้อยแล้วแล้วก็จะถึงจุดนึง
00:13:07 → 00:13:10 เราก็จะบอกได้ว่าเออชีวิตเฉันใช้ชีวิตได้
00:13:10 → 00:13:12 แบบเต็มที่แบบมีความสุขเพื่อตัวเองเพื่อ
00:13:12 → 00:13:14 คนอื่นแล้วเป็นคนดีแล้วอย่างเงี้ยมันก็
00:13:14 → 00:13:17 ถึงจุดนึงเมื่อจะต้องบ๊ายบายกันมันก็อาจ
00:13:17 → 00:13:20 จะลดความเครียดลดความกังวลได้ไปประมาณนึง
00:13:20 → 00:13:23 ขอบพระคุณอาจารย์ที่มาให้ความรู้ความเข้า
00:13:23 → 00:13:26 ใจในเรื่องของโรคกลัวความตายนะคะและใน
00:13:26 → 00:13:29 ช่วงนี้นะคะมอดจะพามาดูเทคนิคในในการจัด
00:13:29 → 00:13:32 การอารมณ์ความคิดเพื่อชีวิตมีความสุขเป็น
00:13:32 → 00:13:36 อย่างไรไปชมพร้อมๆกันค่ะ 1 ความรู้สึกตัว
00:13:36 → 00:13:38 เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความรู้ตัวด้าน
00:13:38 → 00:13:41 อารมณ์ขึ้นจะส่งผลให้อารมณ์ดังกล่าวลด
00:13:41 → 00:13:44 ความรุนแรงลงดังเช่นคนที่รู้ว่าฉันกำลัง
00:13:45 → 00:13:49 โกรธจะลดความโกรธลงได้คนที่รู้ตัวว่าฉัน
00:13:49 → 00:13:52 กำลังหงุดหงิดจะลดความหงุดหงิดลงได้ทำให้
00:13:52 → 00:13:55 สามารถใช้เหตุผลในการตัดสินใจได้ดีขึ้น 2
00:13:55 → 00:14:00 การหายใจการมีสติรับรู้ลมหายใจเข้าออกถือ
00:14:00 → 00:14:03 ว่าเป็นการทำสมาธิให้อารมณ์และจิตใจกลับ
00:14:03 → 00:14:07 เข้าสู่ภาวะสงบซึ่งควรเริ่มทำในท่านอนจน
00:14:07 → 00:14:10 ทำได้แล้วค่อยขยับมาทำท่านั่งและยืนจน
00:14:10 → 00:14:13 เป็นนิสัยจากการหายใจที่ผ่อนคลายเทคนิค
00:14:13 → 00:14:17 การหายใจมีหลากหลายแตกต่างกันออกไปสำหรับ
00:14:17 → 00:14:20 วิธีง่ายๆขั้นพื้นฐานได้แก่การนับควบคู่
00:14:20 → 00:14:23 ไปกับการกำหนดลมหายใจเข้าออกและใช้คำ
00:14:23 → 00:14:27 ภาวนาเช่นพุดเข้าโทรออกหรือพองหนอยุบหนอ
00:14:27 → 00:14:31 เป็นต้นซึ่งเป็นรักฐานเดียวกับการทำโยคะ
00:14:31 → 00:14:33 หรือการนั่งสมาธินั่น
00:14:33 → 00:14:37 เองการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เรารู้สึกว่า
00:14:37 → 00:14:39 เครียดค่ะกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดนะคะถ้า
00:14:39 → 00:14:42 เราทิ้งเอาไว้เขาจะยิ่งตึงยิ่งเครียดยิ่ง
00:14:42 → 00:14:45 ไม่ผ่อนคลายดังนั้นการที่จะฝึกนะคะเช่น
00:14:45 → 00:14:48 ว่าเรารู้สึกว่ามีความเครียดความตึงที่
00:14:48 → 00:14:51 บริเวณกล้ามเนื้อแขนขาค่ะให้เราค่ะเพ่งใจ
00:14:51 → 00:14:56 ไปที่บริเวณนั้นแล้วก็ค่อยๆผ่อนคลายค่ะ 4
00:14:56 → 00:14:59 การฝึกควบคุมประสาทอัตโนมัติวิธีง่ายที่
00:14:59 → 00:15:02 สุดคือการฝึกฝ่ามือร้อนด้วยการตั้งฝ่ามือ
00:15:02 → 00:15:06 ในระดับทรวงอกหันฝ่ามือเข้าหากันโดยเว้น
00:15:06 → 00:15:10 ช่วงห่างประมาณ 2-3 นิ้วฟุตหลังจากนั้น
00:15:10 → 00:15:14 ขยับฝ่ามือออกจากกันช้าๆจนห่างพอควรแล้ว
00:15:14 → 00:15:17 ขยับเข้ามาใกล้กันอีกทำอย่างนี้เป็น
00:15:17 → 00:15:20 จังหวะช้าๆจับความรู้สึกของฝ่ามือทั้ง 2
00:15:20 → 00:15:23 ข้างด้วยสมาธิจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นบน
00:15:23 → 00:15:26 ฝ่ามือซึ่งเกิดจากหลอดเลือดบนฝ่ามือขยาย
00:15:26 → 00:15:31 ตัวทำติดต่อกันอย่างน้อย 5 ถึง 10 นาที 5
00:15:31 → 00:15:34 การจินตนาการนอกจากเราสามารถจินตนาการถึง
00:15:34 → 00:15:37 สิ่งสวยงามเพื่อคลายเครียดเราอาจประยุกต์
00:15:37 → 00:15:40 ใช้วิธีการของจิตบำบัดซึ่งจะช่วยให้เกิด
00:15:40 → 00:15:42 ผลดีมากขึ้นอีกด้วยนั่นคือให้คิดถึงสิ่ง
00:15:42 → 00:15:45 ที่ทำให้เกิดการกลัวในขณะที่กำลังอยู่ใน
00:15:45 → 00:15:48 สภาพผ่อนคลายวิธีนี้เริ่มต้นจากการทำให้
00:15:48 → 00:15:51 กล้ามเนื้อผ่อนคลายก่อนจากนั้นค่อยนึกภาพ
00:15:51 → 00:15:54 สิ่งเร้าหรือสิ่งที่ทำให้เกิดความกลัว
00:15:54 → 00:15:57 เป็นลำดับขั้นจากระดับที่ก่อให้เกิดความ
00:15:57 → 00:15:59 กลัวน้อยที่สุด
00:15:59 → 00:16:02 จถึงมากที่สุดทั้งนี้การเผชิญหน้ากับความ
00:16:02 → 00:16:05 ทุกข์ในสภาพผ่อนคลายช่วยทำให้เกิดอารม์
00:16:05 → 00:16:08 ทางบวกและความสงบในที่สุด 6 คิดในทางที่
00:16:08 → 00:16:12 ถูกในทางวิทยาศาสตร์พบว่าความคิดสัมพันธ์
00:16:12 → 00:16:15 กับสมองเมื่อคิดอย่างหนึ่งสมองก็จะตอบ
00:16:15 → 00:16:18 สนองไปตามนั้นเช่นเมื่อคิดถึงสุขภาพภาย
00:16:18 → 00:16:21 ใต้ความเครียดความกดดันหรือความซึมเศร้า
00:16:21 → 00:16:25 อาการปวดจะรุนแรงที่สุดเมื่อผ่อนคลายหรือ
00:16:25 → 00:16:28 กำลังมีความสุขความเจ็บปวดก็จะลดลงดัง
00:16:28 → 00:16:31 นั้นความความคิดสามารถกำกับกายให้เป็นสุข
00:16:32 → 00:16:35 หรือเป็นทุกข์ได้ในทำนองเดียวกันด้วยวิธี
00:16:35 → 00:16:39 คิดและการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องก็สามารถ
00:16:39 → 00:16:42 กำกับใจให้มีความสุขและผ่านพ้นทุกข์ได้
00:16:42 → 00:16:45 ดังเช่นคนที่เข้าใจความเป็นจริงว่ามนุษย์
00:16:45 → 00:16:49 มีโอกาสและฐานะไม่เท่าเทียมกันแต่เราทุก
00:16:49 → 00:16:53 คนมีโอกาสเผชิญภาวะของความทุกข์เท่าเทียม
00:16:53 → 00:16:56 กันก็ย่อมมีภูมิต้านทานในการเผชิญความ
00:16:56 → 00:17:00 ทุกข์ได้ดีกว่าหรือคนที่สามารถปรับ
00:17:00 → 00:17:04 เปลี่ยนนการแสวงหาความสุขบนปัจจัยภายนอก
00:17:04 → 00:17:06 มาเป็นการหาความสุขจากปัจจัยภายในที่ยั่ง
00:17:07 → 00:17:10 ยืนกว่าด้วยการพึ่งพอใจในตัวเองและสิ่ง
00:17:10 → 00:17:12 ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ย่อมเป็นสุขได้ง่าย
00:17:12 → 00:17:15 กว่าและเป็นทุกข์ได้ยากกว่าคนที่ฝากความ
00:17:15 → 00:17:18 สุขไว้กับสิ่งเร้าภายนอกอีกทั้งยังน่าจะ
00:17:18 → 00:17:22 ป้องกันตัวจากความทุกข์ต่างๆได้ดีอีกด้วย
00:17:22 → 00:17:26 7 คิดเชิงบวกความคิดทางลบของเราเองเช่น
00:17:26 → 00:17:29 คิดแต่สิ่งที่สูญเสียจมอยู่กับภาพอดีตมอง
00:17:29 → 00:17:33 โลกในแง่ร้ายกลัวการเปลี่ยนแปลงเป็นต้น
00:17:33 → 00:17:35 ย่อมเป็นบ่อเกิดของความเครียดยิ่งต้อง
00:17:36 → 00:17:39 เผชิญความกดดันต่างๆรอบตัวความเครียดที่
00:17:39 → 00:17:41 เกิดขึ้นนั้นก็จะกลายเป็นสาเหตุของความ
00:17:41 → 00:17:45 ทุกข์ใจร่วมด้วยเมื่อ 2 แรงมาประสานกัน
00:17:45 → 00:17:48 ความเครียดกับความคิดทางลบจะสะสมกลายเป็น
00:17:48 → 00:17:51 ความวิตกกังวลหรือนานไปก็กลายเป็นความท้อ
00:17:51 → 00:17:55 แท้สิ้นหวังและซึมเศร้าในที่สุดดังนั้น
00:17:55 → 00:17:58 นอกจากต้องผ่อนคลายความเครียดด้วยการจัด
00:17:58 → 00:18:02 การทางอารมณ์การจัดการกับความคิดก็จะช่วย
00:18:02 → 00:18:12 ขจัด
00:18:12 → 00:18:16 ทุกขภาพในการใช้ชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
00:18:16 → 00:18:19 การหาโอกาสท่ามกลางอุปสรรคทำให้เรามอง
00:18:19 → 00:18:22 เห็นประโยชน์ของปัญหาตัวอย่างเช่นเมื่อ
00:18:22 → 00:18:25 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจผู้ที่สูญเสียฐานะและ
00:18:25 → 00:18:28 กิจการก็จะเกิดความทุกข์ใจแทนที่จะมองแต่
00:18:28 → 00:18:31 ดที่ตนสูญเสียไปแต่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด
00:18:31 → 00:18:35 เสียใหม่ว่ายังมีสิ่งดีด้านอื่นๆเหลือ
00:18:35 → 00:18:38 อยู่ในชีวิตเช่นมีเวลาให้กับตัวเองมาก
00:18:38 → 00:18:41 ขึ้นมีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้นบางคน
00:18:41 → 00:18:45 มองว่าการตกงานเป็นโอกาสที่ดีที่จะแสวงหา
00:18:45 → 00:18:48 งานหรืออาชีพใหม่หรือคนที่อกหักก็ตามอาจ
00:18:48 → 00:18:51 ค้นพบว่าความเข้มแข็งของตัวเองที่สามารถ
00:18:51 → 00:18:55 ผ่านพ้นความเจ็บปวดได้หรือยังมีคนที่รัก
00:18:55 → 00:18:59 ตัวเองอยู่มากมายเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ
00:18:59 → 00:19:02 สาระสุขภาพดีๆที่ TNN Heal นำมาฝากคุณ
00:19:02 → 00:19:04 ผู้ชมในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้
00:19:04 → 00:19:07 ชมจะสามารถนำสาระสุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแล
00:19:07 → 00:19:11 ตัวเองและครอบครัวให้มีความสุขสุขภาพแข็ง
00:19:11 → 00:19:14 แรงค่ะและขอขอบคุณคุณผู้ชมนะคะที่ติดตาม
00:19:14 → 00:19:17 รับชมรายการ TNN He มาโดยตลอดค่ะคุณผู้
00:19:17 → 00:19:20 ชมสามารถติดตามรับชม TNN He ได้เป็น
00:19:20 → 00:19:24 ประจำทุกวันเสาร์ค่ะเวลาดี 15 -
00:19:24 → 00:19:28 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 และอย่าลืมนะ
00:19:28 → 00:19:31 คะต้องกดไลค์กดแชร์กด Subscribe กด
00:19:31 → 00:19:33 กระดิ่งกิ้งๆติดตามค่ะเพื่อเป็นกำลังใจ
00:19:33 → 00:19:36 ให้หมอดาวและทีมงาน TNN Health ในช่อง
00:19:36 → 00:19:39 ทางโซเชียล Network ต่างๆไม่ว่าจะเป็น
00:19:39 → 00:19:41 YouTube tiktok Facebook Instagram
00:19:41 → 00:19:43 และ LINE official ค่ะเพื่อที่จะเข้าถึง
00:19:43 → 00:19:46 ทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทันโลค
00:19:47 → 00:19:49 ไปด้วยกันค่ะและสำหรับวันนี้นะคะหมอดาว
00:19:49 → 00:19:51 และทีมงาน tn Health ต้องขอตัวลาคุณผู้
00:19:52 → 00:19:58 ชมไปก่อนสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
00:19:58 → 00:20:01 เ
00:20:01 → 00:20:36 [เพลง]
00:20:36 → 00:20:39 A