00:00:00 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:17 1 สวัสดีครับคุณหมอสวัสดีครับทุกคนครับ
00:00:17 → 00:00:21 สวัสดีครับทุกคนครับสวัสดีครับครับ
00:00:21 → 00:00:23 ครับ
00:00:23 → 00:00:27 ครับสวัสดีวันอิยครับผมวันนี้วันนี้คุย
00:00:27 → 00:00:31 กันไม่ยาวหรอกนะเอ่ออ่าก็ก็เหมือนเหมเดิม
00:00:31 → 00:00:35 อ่ะเรายังคุยกันอยู่ในในเรื่องของอ่าดิส
00:00:35 → 00:00:38 อะไปิยหรือว่าในเรื่องของไขมันโดยเฉพาะ
00:00:38 → 00:00:43 เราเจาะลึกที่ตัว ldl นะฮะนะแล้วก็มีเคส
00:00:43 → 00:00:47 ตัวอย่างวันนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจแล้ว
00:00:47 → 00:00:51 ก็เหมือนเก็บเล็กผสมน้อยอ่ะที่เรามาค่อยๆ
00:00:51 → 00:00:54 เติมเติมในทุกๆครั้งอ่ะที่เรามาไลฟ์กัน
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยนะ
00:00:56 → 00:01:00 ฮะวันนี้วันนี้หมอเริ่มอันนี้เลยนะฮะใน
00:01:00 → 00:01:05 เรื่องของค่าแลบไอ้ไอ้ตัวไปิดแนลที่มันมี
00:01:05 → 00:01:09 ความผิดปกติโดยเฉพาะตัว ldl นะฮะนะในทาง
00:01:09 → 00:01:12 clinical Approach เนี่ยเก็จะดูใน
00:01:12 → 00:01:16 ลักษณะเนี่ยนะฮะนะลักษณะหน้าที่กำลังโชว์
00:01:16 → 00:01:20 อยู่เนี่ยนะฮะอันแรกก็คือเราเข้าใจแล้ว
00:01:20 → 00:01:24 ว่าอ่าเรื่องของคอเลสเตอรอลมันก็มาจาก 2
00:01:24 → 00:01:29 หนทางอ่ะ 2 ทิศทางก็คือการเก็บสะสมกับการ
00:01:29 → 00:01:33 สลายเผาผานทีนี้ตัวข้อปีกย่อยนิดนึงอ่ะ
00:01:33 → 00:01:37 ของเก็บสะสมกับสลายเผาผลาญเนี่ยอ่าเดี๋ยว
00:01:37 → 00:01:41 เดี๋ยก็จะพูดลงลึกไปนิดนึงนะฮะแต่ว่าทิศ
00:01:41 → 00:01:44 ทางนะฮะมันก็จะมีมาจากเอ่อร่างกายสร้าง
00:01:44 → 00:01:48 ขึ้นมาเองอันนี้เป็นทิศทางหลักเลยนะก็คือ
00:01:48 → 00:01:52 ทุกเซลล์มันสร้างได้หมดอ่ะ 70 80% ทีนี้
00:01:52 → 00:01:54 จากภายนอกโดยเฉพาะจากเรื่องอาหารการกิน
00:01:54 → 00:01:59 เนี่ยก็จะมีไม่เกิน 20% นะอันนี้เราเรา
00:01:59 → 00:02:03 เราก็รู้กันมากพอสมควรแล้วนะทีนี้มาดูใน
00:02:03 → 00:02:06 รายละเอียดเนี่ยที่เราจะลงลึกกันไปอ่ะว่า
00:02:07 → 00:02:09 ตัวคอเลสเตอรอลอ่ะนะฮะที่เกิดขึ้นทั้ง
00:02:09 → 00:02:14 100% เนี่ยเออนะมันจะเป็นแบบไหนก็คือ
00:02:14 → 00:02:17 ชนิดของมันน่ะนะฮะกรณีที่มันสูงมากๆเนี่ย
00:02:17 → 00:02:22 อ่อก็ต้องก็ต้องล้วงลึกเข้าไปถึงชนิดของ
00:02:22 → 00:02:25 เขาด้วยว่านะเนี่ยเขาจะแบ่งเป็น 2 ฟากแบบ
00:02:25 → 00:02:28 ที่ตั้งแต่บรรทัดตัวคอเลสเตอรอลไปิด
00:02:28 → 00:02:31 โปรไฟล์ผิดปกติสูงมากๆเนี่ยนะฮะนะแล้วก็
00:02:31 → 00:02:35 ลงมาข้างล่างนะถ้าเป็นชนิด type B นะ
00:02:35 → 00:02:39 ซึ่งเราถือว่าผิดปกตินะฮะก็คือเป็น ldl
00:02:39 → 00:02:44 Small type B เนี่ยนะอือฮก็จะส่วนใหญ่
00:02:44 → 00:02:46 มันก็จะเป็นเรื่อง type B ทั้งหมดเลยนะ
00:02:46 → 00:02:52 ฮะแต่ถ้าเป็นพวกอ่า large นะฮะ ldl type
00:02:52 → 00:02:56 a อ่ะนะฮะอันนี้จะเป็นชนิดปกตินะหรือ
00:02:56 → 00:02:59 เป็นชนิดที่ดีนะฮะแต่ส่วนใหญ่อันเนี้ยเจะ
00:02:59 → 00:03:04 พ่วงมากับตัว hdl ด้วยนะฮะเพราะว่าถ้า
00:03:04 → 00:03:09 เกิดเป็น ldl type a นะสูง hdl ก็จะสูง
00:03:09 → 00:03:12 นี้เจะมาคู่กันนะซึ่งฝั่งนี้กก็จะเป็น
00:03:12 → 00:03:15 ฝั่งที่ดีนะแต่ถ้าเป็น type B เนี่ยมัก
00:03:15 → 00:03:18 จะเป็นตัวเดี่ยวๆนะแล้วก็แล้วก็ไม่ดีไม่
00:03:18 → 00:03:23 ดีก็เกิดอะไรก็ว่าไปมาในเรื่องของพลังงาน
00:03:23 → 00:03:26 เนี่ยนะฮะพลังงานที่ทำให้คอเลสเตอรอลไม่
00:03:26 → 00:03:30 ดีส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งของพลังงานกิริยา
00:03:30 → 00:03:33 พลังงานแบบสะสมเก็บกันะฮะแต่อันเนี้ยมัน
00:03:33 → 00:03:38 ก็จะมีข้อแม้นะฮะนะว่าว่าถ้าเป็นการสะสม
00:03:38 → 00:03:41 เก็บกักนะหรือเป็นการทำหน้าที่ของฮอร์โมน
00:03:41 → 00:03:44 ฝั่งสะสมพลังงาน 3 ตัวเนี่ยโดยเฉพาะ
00:03:44 → 00:03:47 อินซูลินอินซูลินคอร์ติซอลนะเอสโตรเจน
00:03:47 → 00:03:52 เนี่ยถ้าอินซูลินเก็บกักสะสมพลังงานนะฮะ
00:03:52 → 00:03:55 คือคืออครับคือเก็บไปในทางที่ดี่ะฮะเก็บ
00:03:55 → 00:03:58 ไปในทางที่ดีก็คือเก็บไปในทางการสร้าง
00:03:58 → 00:04:00 กล้ามเนื้อนั่นเองเพราะเรารู้แล้วว่าเวลา
00:04:01 → 00:04:02 เราจะสร้างมวลกล้ามเนื้อเนี่ยมันต้องมี
00:04:02 → 00:04:06 อินซูลินอ่าแล้วก็มีอินซูลินไ Factor นะ
00:04:06 → 00:04:09 แล้วก็จะมีเทสเตอโรนนะถ้าฝั่งเนี้ย
00:04:09 → 00:04:12 อินซูลินก็ทำหน้าที่แบบเนี้ยนะฮะคือสร้าง
00:04:12 → 00:04:14 สร้างกล้ามเนื้อเนี่ยเราจะถือว่าเป็นการ
00:04:14 → 00:04:20 เก็บกักสะสมที่ที่ดีอ่ะนะฮะนะแต่ในทางตรง
00:04:20 → 00:04:23 กันข้ามถ้าอินซูลินเไม่ทำแบบเนี้ยนะเก็จะ
00:04:23 → 00:04:27 เป็นการเก็บสายมันสะสมเอ่าน้ำหนักเกิน
00:04:27 → 00:04:30 อ้วนขึ้นมีปัญหาเรื่องเรื่อิซูลินแล้วก็
00:04:30 → 00:04:32 จะมีปัญหาเรื่อง metabolic Syndrome อัน
00:04:32 → 00:04:33 นั้นก็ไม่
00:04:33 → 00:04:39 ดีในฝั่งเั่งสลายเผาผลาญนะฮะอ่าก็การสลาย
00:04:39 → 00:04:43 เผาผลาญเนี่ยมันก็เป็นเป็นผลของของ
00:04:43 → 00:04:45 ฮอร์โมนเผาผลาพลังงานก็คือเราก็รู้
00:04:45 → 00:04:49 ฮอร์โมนลูกเทพนะแล้วตัวเด่นที่สุดเลยของ
00:04:49 → 00:04:53 การที่จะสลายเผาผังคือโกดฮอร์โมนนะฮะโกด
00:04:53 → 00:04:58 ฮอร์โมนแต่ว่าสลายแล้วเนี่ยจะต้องเอาไป
00:04:58 → 00:05:03 ซ่อมแซมหรือไปสร้างใหม่นะอต้องต้องมีตัว
00:05:03 → 00:05:06 เนี้ยขึ้นมาด้วยเพราะว่าเดี๋ยวเราจะมีเคส
00:05:06 → 00:05:10 นะฮะที่ก็อยู่ในฝั่งเนี้ยสลายเผาผลาญแต่
00:05:10 → 00:05:13 มันไม่ไม่สร้างอ่ะมันไม่สร้างใหม่มันไม่
00:05:13 → 00:05:16 ซ่อมมันไม่สร้างคือมันเล่นแต่สลายเผาผลาญ
00:05:16 → 00:05:18 อย่างเดียวนะเพราะฉะนั้นค่าแลบต่างๆอ่ะ
00:05:18 → 00:05:23 มันก็เลยรวนไปด้วยเดี๋ยวเราจะงงนะฮะนะคือ
00:05:23 → 00:05:25 คือคือมันก็เป็น 2 ฝั่งเนี่ยหมอก็พยายาม
00:05:25 → 00:05:31 แบ่งนะทีนี้ฝั่งฝั่งที่เป็นคอเลสเตอรอล
00:05:31 → 00:05:34 ไม่ดีอ่ะนะมันก็จะมีพวก High Bad คฟก็
00:05:34 → 00:05:36 คือเป็นคาฟไม่ดีแฟพรูปอะไรเงี้ยไขมันไม่
00:05:36 → 00:05:40 ดีไขมันทานกรรมวิธีไขมันทานนะแล้วก็เป็น
00:05:40 → 00:05:45 โปรตีนที่เกินไปนะโอเวอร์โปรตีนนะครับผม
00:05:45 → 00:05:48 พวกนี้ก็จะมาในฝั่งที่จะกลายเป็นพวกเ่อ
00:05:48 → 00:05:52 type B นะฮะแต่ถ้าเป็นเ Good Healthy
00:05:52 → 00:05:55 Fat นะเป็นไขมันดีเป็นน้ำมันสกัดเย็นอ่า
00:05:55 → 00:05:59 น้ำสลัดทีออยอ่าหรือเป็นโปรตีนคุณภาพนะนะ
00:05:59 → 00:06:03 ทั้งจากพืชจากสัตว์ในสัตว์ส่วนที่ลงตัวนะ
00:06:03 → 00:06:05 แล้วก็ผ่านการ
00:06:05 → 00:06:10 อ่าคำนวณอะไรต่างๆมาอย่างดีนะเอถ้าฝั่ง
00:06:10 → 00:06:14 เนี้ยเรามันก็จะได้เนี่ยไ a ได้ hdl อ่า
00:06:14 → 00:06:18 ที่ดีๆอ่ะนะฮะแล้วก็แอชือตัวฮอร์โมนที่มา
00:06:18 → 00:06:22 คอยกำกับนะอ่าก็จะมีฝั่งเผาผลาญพลังงาน
00:06:22 → 00:06:25 กับฝั่งสะสมพลังงานเนี่ยอินซูลิน
00:06:25 → 00:06:27 คอร์ติซอลเอสโตรเจนแล้วก็พวกเนี่ยโกด
00:06:27 → 00:06:30 ฮอร์โมนนะกคาก้อนไทรรอยด์โปรเจสเตอโรน
00:06:30 → 00:06:33 เทสโทสเตอโรนแล้วก็
00:06:33 → 00:06:39 แนีอ่าครับผมอันนี้นะ 2 2 ฝั่งก็จะค่อน
00:06:39 → 00:06:41 ข้างเปรียบเทียบกันได้ทีนี้เรื่องของ
00:06:41 → 00:06:44 อวัยวะที่จะมีผล
00:06:44 → 00:06:47 เอ่อต่อการเกิดเนี่ยว่าจะเป็น type a
00:06:47 → 00:06:51 type B นะหรือ hdl มันจะมากน้อยขนาดไหน
00:06:51 → 00:06:54 มันก็จะมีเรื่องของตับนี่แหละนะจะเป็น
00:06:54 → 00:06:58 เรื่องหลักที่สุดนะฮะตับอือครับองลงมาก็
00:06:58 → 00:07:01 จะเป็นกล้ามเนื้อนะอ่าแล้วก็อวัยวะเนี่ย
00:07:01 → 00:07:06 พวกแล้วแต่ตับอ่อนระบบน้ำดีลำไส้นะฮะนะ
00:07:06 → 00:07:09 อีกอันนึงก็คือ Personal Fat Test Ho
00:07:09 → 00:07:12 นะฮะนะอันนี้ก็คือเรื่องของเนื้อเยื่อไข
00:07:12 → 00:07:16 มันน่ะ fy ทิชชูนะที่จะมีจีนหรือมี
00:07:16 → 00:07:20 พันธุกรรมมาเป็นตัวกำหนดให้เกิดนะฮะการ
00:07:20 → 00:07:24 สะสมการเผาผลาญอะไรอย่างเงี้ยนะโดยอ่าเรา
00:07:24 → 00:07:27 เราจัดเรา classify เป็นเรื่องของ Body
00:07:27 → 00:07:29 type นะฮะ Body type เราก็รู้ว่าสาย
00:07:29 → 00:07:33 แป้งสายเนื้อมี 4 ลักษณะนะอทั้งหมดนี้ก็
00:07:33 → 00:07:38 จะเกี่ยวข้องกันหมดนะฮะอือมันมันเชื่อม
00:07:38 → 00:07:41 กันหมดเลยครับผมครับมันจะเชื่อมต่อกันน่ะ
00:07:41 → 00:07:44 เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะดูเรื่องเนี้ยมัน
00:07:44 → 00:07:48 ก็จะต้องดูเป็นเค้าเรียกเป็นแพคเกจนะหรือ
00:07:48 → 00:07:53 เป็นการ linking กันในหลายๆเรื่องนะฮะเออ
00:07:53 → 00:07:57 อย่าไปตื่นตนกวิตกจริตจิตผวาเวลาเจอแล้ว
00:07:57 → 00:08:02 มันสูงแล้วมันมันมามันไปยังไงนะเอ่อเขาค
00:08:02 → 00:08:05 ก็จะมีลำดับขั้นของการเปลี่ยนแปลงใน 2
00:08:05 → 00:08:08 ทิศทางที่ว่าเนี่ยอีกเรื่องนึงก็คือ
00:08:08 → 00:08:13 เรื่องของระบบท่อนะหรือทิศทางนะฮะนะทิศ
00:08:13 → 00:08:16 ทางนะฮะถ้าเป็นสีแดงเนี่ยก็อยู่ในระบบ
00:08:16 → 00:08:20 เลือดนะอยู่ในระบบหลอดเลือดนะที่จะมีการ
00:08:20 → 00:08:23 แอชเกิดขึ้นนะฮะโดยเฉพาะอินซูลินนี่เจะ
00:08:23 → 00:08:25 เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวเท่านั้นที่ต้องอยู่
00:08:25 → 00:08:30 ในกระแสเลือดนะเขาจะไม่มานะอยู่ในฝั่ง
00:08:30 → 00:08:33 เขียวๆฝั่งเขียวๆนี่ก็จะเป็นแอคชั่นใน
00:08:33 → 00:08:37 ระบบน้ำเหลืองในระบบน้ำเหลืองนะฮะอืครับ
00:08:37 → 00:08:41 ผมแต่จริงๆเนี่ยทั้งระบบเลือดและระบบน้ำ
00:08:41 → 00:08:45 เหลืองเนี่ยมันก็จะมี 2 ฝั่งนะฮะนะแต่โดย
00:08:45 → 00:08:48 ส่วนใหญ่ถ้าเป็นพวกเนี่ย type a นี่เขา
00:08:48 → 00:08:51 จะอยู่ในระบบน้ำเหลืองมีอยู่ในระบบน้ำ
00:08:51 → 00:08:55 เลือดนะแต่ก็ไม่เยอะนะแต่ถ้าเป็น type B
00:08:55 → 00:08:58 อ่ะอ่าก็อยู่ในระบบน้ำเลือดนะฮะเป็นส่วน
00:08:58 → 00:09:01 ใหญ่โดยเฉพะอินซูลินเอยู่แต่ในน้ำเลือดเ
00:09:01 → 00:09:03 ไม่มาอยู่ในน้ำเหลืองแต่ฮอร์โมนอย่างอื่น
00:09:03 → 00:09:06 ๆทุกตัวเนี่ยอยู่ได้ทั้งระบบน้ำเลือดและ
00:09:06 → 00:09:08 น้ำ
00:09:08 → 00:09:14 เหลืองออครับผมคอซอนะฮะคอซอเอันนี้ก็อีก
00:09:14 → 00:09:18 อีกอีกอะไรเค้าเรียกระบบท่อลำเลียงใช่ม
00:09:18 → 00:09:22 เอออืแล้วก็มีกายหยาบกายละเอียดอะไรต่างๆ
00:09:22 → 00:09:26 เนี่ยเราก็เคยไล้กันไปแล้วทีนี้รูปแบบไหน
00:09:26 → 00:09:29 อ่ะเออที่เรียกว่าสมดุลที่สุดสสมบูรณ์ที่
00:09:29 → 00:09:35 สุดนะแล้วก็เราควรอ่าที่จะมีหนทางที่จะ
00:09:35 → 00:09:39 ก้าวไปสู่สิ่งเหล่าเนี้ยนะฮะนะเราก็จะได้
00:09:39 → 00:09:42 ไม่ไม่มีเเรียกว่า
00:09:42 → 00:09:46 เมีมีรากเหง้าหรือว่ามีหลักยึดเนี่ยที่
00:09:46 → 00:09:50 ที่มันจะเกิดผลผลในทางด้านบวกต่อสุขภาพนะ
00:09:50 → 00:09:55 ฮะก็อันเนี้ยนะฮะนะเนี่ยตอนเนี้ยก็คือ
00:09:55 → 00:09:59 ฝั่งขวาสุดเนี่ยไขมันไม่ต่ำกว่า 60% เป็น
00:09:59 → 00:10:03 นะโปรตีนกับคาฟเนี่ยก็อยู่ในช่วง 2020 นะ
00:10:03 → 00:10:06 แล้วก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ถ้าเกิดเจ็บ
00:10:06 → 00:10:08 ป่วยเกิดดื้ออินซูลินเกิดอ้วนอะไรอย่าง
00:10:08 → 00:10:12 งี้นะฮะก็ลดคาฟลงส่วนจะลดมากลดน้อยมันลด
00:10:12 → 00:10:16 ได้ถึงประมาณ 5% นะนะครับผมจาก 20 เนี่ย
00:10:16 → 00:10:20 เป็นเ่อ 15 10 5% ก็ได้นะฮะแต่ไม่ต้อง
00:10:20 → 00:10:24 ไปตัดเหลือ 0 นะฮะนะส่วนในแง่โปรตีนนะก็
00:10:24 → 00:10:30 แี่ได้ตั้งแต่ 20 25 จนถึงอัพ 30 นะ
00:10:30 → 00:10:33 ถ้าสมมุติว่าอันนี้ 5% แล้วอันนี้ 30 ไม่
00:10:33 → 00:10:36 เกิน 30% เพราะฉะนั้นก็มาแปะอันนี้อ่า
00:10:36 → 00:10:39 เป็น 60 70% อะไรอย่างเงี้นะพวกนี้การ
00:10:39 → 00:10:41 valy ในเรื่องของ low C High Fat
00:10:41 → 00:10:45 เนี่ยมันก็จะมีช่องว่างค่อนข้างเยอะอยู่
00:10:45 → 00:10:49 อันนี้ก็คือจะเป็นสูตรนะของแต่ละบุคคลน่ะ
00:10:49 → 00:10:52 นะฮะแล้วแต่แต่ละคนที่จะคำนวณหาเรื่องของ
00:10:52 → 00:10:56 พลังงานนะเมันก็จะได้เป็นรูปสำเร็จออกมา
00:10:56 → 00:10:59 แบบนี้นะฮะนี่เราก็ถือว่าทวนๆเหมกันแล้ว
00:10:59 → 00:11:00 กันนะฮะ
00:11:00 → 00:11:06 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:11:06 → 00:11:12 นะก็นะจะรู้ได้ยังไงว่า ldl ที่สูงอ่ะมัน
00:11:12 → 00:11:15 เป็นชนิดไหนโดยเฉพาะเราแยกเป็น type a
00:11:16 → 00:11:20 type B นะฮะนะเาบอก ldl ที่ปกติก็คือ
00:11:21 → 00:11:24 ldl type a นะฮะ
00:11:24 → 00:11:27 ldl เนี่ยเอ่อเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยฮะมี 5
00:11:27 → 00:11:30 สัญญาณที่ที่จะช่วยบ่งชี้ว่า ldl
00:11:30 → 00:11:34 อันเนี้ยมันเป็น typ a นะฮะ
00:11:35 → 00:11:38 อ่าเนี่ย 5 สัญญาณข้างล่างอันนี้เลยนะฮะ
00:11:39 → 00:11:43 ที่จะบอกนะนะก็คือการมี viser Fat ไขมัน
00:11:43 → 00:11:48 สะสมในช่องท้องอ่าไม่ไม่เกิน 4% นะฮะอัน
00:11:48 → 00:11:51 นี้แน่นอนที่สุดนะฮะนะแต่ว่าหลักๆเนี่ยนะ
00:11:52 → 00:11:55 ก็ตัวไขมันในช่องท้องเนี่ยต้องไม่เป็นเลข
00:11:55 → 00:11:59 2 หน่วยฮะนะถ้าเกิน 10 ขึ้นไปอะไเี้ยถือ
00:11:59 → 00:12:02 ว่าเรียบร้อยผิดปกติอ่ะนะฮะคนส่วนใหญ่มัน
00:12:02 → 00:12:06 ก็จะอยู่ในช่วง 5-10 นะฮะแต่เขบอกว่าถ้า
00:12:06 → 00:12:11 เกิดเนี่ย vial Fat เนี่ยนะมีต่ำกว่า 4%
00:12:11 → 00:12:16 น่ะนะอันนี้มันมีแต่เป็นตัว typ type a
00:12:16 → 00:12:20 นะฮะอันที่ 2 ก็คือเปอร์เซ็นต์อ่าของไข
00:12:20 → 00:12:25 มันสะสมทั่วร่างกายนะก็เทียบตามน้ำหนัก
00:12:25 → 00:12:29 ตัวนะเหมือนกันกับพวกเปอร์เซ็นต์มวลกล้าม
00:12:29 → 00:12:32 เนื้อนะฮะเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวเพราะ
00:12:32 → 00:12:36 ฉะนั้นตรงเนี้ยมันต้องมีมีตัววัดน่ะนะที่
00:12:36 → 00:12:39 ค่อนข้างมาตรฐานแต่ในชีวิตประจำวันของคน
00:12:40 → 00:12:43 เราเนี่ยมันก็หาไอ้ตัววัด 3 1 2 3
00:12:43 → 00:12:47 เนี่ยนะเ่อได้ไม่ค่อยไม่ค่อยมาตรฐานนะฮะ
00:12:47 → 00:12:52 นะแต่ว่ามันมันก็ควรจะมีอ่ะนะฮะถ้าเรา
00:12:52 → 00:12:55 อยู่ในวงการเนี้ยนะฮะเพราะว่าในเรื่อง 3
00:12:55 → 00:12:58 อันเนี่ยที่มันเป็นเรื่องของร่างกายเรา
00:12:58 → 00:13:02 อ่ะนะมันมีการเปลี่ยนแปลงได้นะอ่าครับผม
00:13:02 → 00:13:04 แต่้าไม่มีอะไรมาวัดเลยแม้ว่าเครื่องวัด
00:13:04 → 00:13:08 นั้นจะหยาบๆหรือว่าเอ่อบวกลบเอ่อค่อนข้าง
00:13:08 → 00:13:13 ห่างเยอะอ่ะยังไงมันก็ต้องมีมีนะ
00:13:13 → 00:13:17 ฮะส่วนค่าแลปเนี่ยนะที่บ่งบอกว่าเป็น type
00:13:17 → 00:13:21 a ก็จะเป็นเรื่องของน้ำตาลต่ำไตกีสไลต่ำ
00:13:21 → 00:13:25 hdl สูงนะแล้วก็ระดับฮอร์โมนอินซูลินต่ำ
00:13:25 → 00:13:30 นะฮะครับผมคืออันเนี้ยคนส่วนใหญ่ก็ไม่
00:13:30 → 00:13:33 ค่อยตรวจกันอินซูลิน Level เเป็นตรวจ fing
00:13:33 → 00:13:37 อินซูลินก็ได้นะเนี่ยนะอันนี้คือหมายถึง
00:13:37 → 00:13:40 ปริมาณฮอร์โมนอินซูลินซึ่งปริมาณฮอร์โมน
00:13:40 → 00:13:45 อินซูลินเนี่ยมันจะหมายถึงถึงถึงตัวตัว
00:13:45 → 00:13:48 การดื้อไม่ดื้ออินซูลินนั่นแหละนะเราวัด
00:13:48 → 00:13:52 ที่เรื่องของปริมาณฮอร์โมนนะฮะส่วนอีกคำ
00:13:52 → 00:13:57 นึงเนี่ยเเรียกว่า insulin sensitivity
00:13:57 → 00:14:00 นะฮะอิซูลิน sensitivity เนี่ยมันก็มา
00:14:00 → 00:14:03 คำนวณจากไอ้ตัว fing but Sugar กับไอ้
00:14:03 → 00:14:06 เรื่องของอิซูลิน Level เนี่ยนะมาเข้าสู่
00:14:06 → 00:14:10 นะอ่าสูตรที่ว่าก็คือ homa
00:14:10 → 00:14:14 ir แต่ความหมายของความไวอินซูลินเนี่ย
00:14:14 → 00:14:17 มันจะมีความหมายถึงฮอร์โมนตัวพ่อกับตัว
00:14:17 → 00:14:20 แม่คู่กันนะฮแต่ส่วนใหญ่มันจะเป็นอิทธิพล
00:14:20 → 00:14:24 ของฮอร์โมนคอร์ติซอลเป็นหลักนะที่จะมีผ
00:14:24 → 00:14:25 ต่อ
00:14:25 → 00:14:29 ครงั้นอินซูลินจะดื้อนะยังดื้ออยู่นะหรือ
00:14:29 → 00:14:32 อินซูลินมันไวแล้วมัน sensitive แล้วนะฮะ
00:14:32 → 00:14:39 เนี่ยตัวกำกับเนะก็คือตัวคอซอนะฮะอออย่าง
00:14:39 → 00:14:41 เช่นยกตัวอย่างเในเรื่อง 2 อินดิเคเตอร์
00:14:41 → 00:14:45 เนี่ยก็คืออิซูลิน Level กับ่า ir ส่วน
00:14:45 → 00:14:47 ใหญ่ความหมายของอินซูลิน Level ในการตรวจ
00:14:47 → 00:14:50 fing อิซูลินเนี่ยก็มันมันก็จะหมายถึง
00:14:50 → 00:14:53 ถึงตัวอินซูลินโดยเฉพาะเลยนะว่ามากหรือ
00:14:53 → 00:14:56 น้อยนะแล้วความหมายส่วนใหญ่แม้ว่า
00:14:56 → 00:14:58 อินซูลินจะมากแต่เขาก็ยังทำหน้าที่ได้ตาม
00:14:58 → 00:15:02 ปกติอยู่เป็นเพียงแต่ว่าตัวเซลล์อ่ะมัน
00:15:02 → 00:15:05 ดื้ออินซูลินอ่ามันมันมันมันไม่ค่อยตอบ
00:15:05 → 00:15:08 สนองไม่ค่อยเปิดโอกาสให้อินซูลินพาสาร
00:15:08 → 00:15:11 อาหารเข้าเซลล์ออครับผมบริเวณริเตอร์กัด
00:15:11 → 00:15:14 โฟนะเพราะฉะนั้นอินซูลินเลเวลที่ตรวจกัน
00:15:14 → 00:15:18 แล้วก็ค่าปกติ 2-6 ถ้าเกิน 10 ขึ้นไปถือ
00:15:18 → 00:15:20 ว่าเริ่มดื้ออินซูลินอะไรอย่างเงี้ยส่วน
00:15:20 → 00:15:23 ใหญ่อันนี้มันจะมีความหมายถึงถึงเรื่อง
00:15:23 → 00:15:28 ของเ่อปริมาณของอินซูลินว่าเ่อมันมากไป
00:15:28 → 00:15:30 มั้ยถ้ามันมากเกินไปอ่ะเราก็ถือว่าดื้อ
00:15:30 → 00:15:33 อินซูลินแต่น่าจะเป็นความหมายในการดื้อ
00:15:33 → 00:15:36 ระดับเซลล์นะส่วนเวลาเราคำนวณ H ir ออก
00:15:37 → 00:15:39 มาเนี่ยความหมายของม ir เนี่ยก็คือว่า
00:15:39 → 00:15:43 อินซูลินเนี่ยมันว่องไวอ่ามันมันไม่ขี้
00:15:43 → 00:15:47 เกียจอ่ามันมันมันมันมีประสิทธิภาพมี
00:15:47 → 00:15:52 คุณภาพประสิทธิภาพมันแชได้ดีนะซึ่งในคน
00:15:52 → 00:15:56 อ้วนเนี่ยนะก็ตรงไปตรงมาอยู่แล้วว่าเอ่อ
00:15:56 → 00:16:00 ถ้าฮ่า ir เปกตินะก็อินซูลินเค้าก็ไม่
00:16:00 → 00:16:06 เดี้ยงไม่ได้ขี้เกียจก็ไวะนะฮะนะแต่พอคน
00:16:06 → 00:16:11 ผอมเนี่ยคนผอมเนี่ยเอถ้าฮ่า ir เนี่ยอไม่
00:16:11 → 00:16:14 ปกตินะไม่ปกติในคนผอมส่วนใหญ่มันจะมีความ
00:16:14 → 00:16:18 หมายถึงตัวคอร์ติซอลที่มันจะออกมาในการ
00:16:18 → 00:16:22 ควบคุมในการมันทำให้เกิดภาวะอิซูลิน
00:16:22 → 00:16:25 ฟังก์ชั่นนะซึ่งอันนี้จะมีความหมายถึงคน
00:16:25 → 00:16:29 ผอมว่าอินซูลินเขายังไม่ sensitive
00:16:29 → 00:16:32 นะถ้าระดับ่า ir มันยังผิดปกติ
00:16:32 → 00:16:37 อยู่ครับผมเออพอแยกแยะได้ยังอ่าอันนี้ก็
00:16:37 → 00:16:39 จะเป็นทิกเล็กน้อยอ่ะ
00:16:39 → 00:16:43 นะแต่ว่าเฉพาะ type a เนี่ยถ้าเป็น
00:16:43 → 00:16:47 อินดิเคเตอร์ทั่วไปเราก็จะดู 1 2 3 4
00:16:47 → 00:16:51 5 ไม่ได้ดู homa ir ครับ
00:16:51 → 00:16:57 ผมทีนี้ออย่างเรารู้ว่าคอเลสเตอรอลเนี่ย
00:16:57 → 00:16:59 นะมันสร้างขึ้นจากจากเซลล์ทุกเซลล์เลยนะ
00:17:00 → 00:17:03 ฮะแล้วก็ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดเนี่ย
00:17:03 → 00:17:05 ซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างขึ้นของเซลล์ต่าง
00:17:05 → 00:17:09 ๆมันก็จะมีถึงประมาณประมาณ 4 ใน 5 ส่วนก็
00:17:09 → 00:17:13 คือประมาณเนี้ย 75-80 per นะครับผมส่วน
00:17:13 → 00:17:16 อีกประมาณ 1 ใน 4 ส่วน 1 ใน 4 1 ใน 5
00:17:16 → 00:17:20 ส่วนเนี่ยก็มาจากอาหารการกินนะซึ่งเป็น
00:17:20 → 00:17:25 เรื่องของโปรตีนแล้วก็ไขมันสัตวต่างๆซึ่ง
00:17:25 → 00:17:27 อาหารที่กินเข้าไปเนี่ยนะก็จะมีผลทำให้
00:17:27 → 00:17:31 ตับเนี่ยสร้างเป็นเรื่องของ ldl type a
00:17:31 → 00:17:32 นะ
00:17:32 → 00:17:36 ฮะแต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับด้วยว่าเวลากินน่ะ
00:17:36 → 00:17:40 กินยังไงมาเพราะถ้ากินไม่ถูกถึงจะเป็น
00:17:40 → 00:17:43 โปรตีนไขมันสัตว์ก็ตามอ่ามันกลายเป็น type
00:17:43 → 00:17:47 B ได้อ่าเดี๋ยวอันสไลด์ต่อมาจะบอกนะฮะ
00:17:47 → 00:17:50 แต่ว่าในการสร้างเองของร่างกายเนี่ยนะ
00:17:50 → 00:17:53 อย่างนึงเนี่ยอ่ามันก็จะมีเรื่องของ 4
00:17:53 → 00:17:56 รูปแบบเนี้ยนะฮะอันที่ 1 ก็คือถ้าพลังงาน
00:17:56 → 00:18:02 โดยรวมนะนะฮะมันเกินมันเกินนะฮะนะอ่าตัว
00:18:02 → 00:18:06 ตับเนี่ยก็มีแนวโน้มที่จะแพคเกจไอ้ตัวที่
00:18:06 → 00:18:09 เกินเนี่ยกลายเป็น ldl type B เป็นส่วน
00:18:10 → 00:18:14 ใหญ่นะถ้าพลังงานเกินนะฮะ
00:18:14 → 00:18:19 นะยกเว้นแต่ว่าเรากิน Good Healthy Fat
00:18:19 → 00:18:21 แล้วก็เราก็เลือก
00:18:21 → 00:18:24 คือคือส่วนใหญ่เกินเนี่ยมันมักจะเป็นแปร
00:18:24 → 00:18:27 รูปอ่ะนะมันก็เลยกลายเป็น ldl type B
00:18:27 → 00:18:32 นะฮะออเพราะว่าถ้ากินแบบงรูปกินตามสูตร
00:18:32 → 00:18:35 กินแบบตามความหิวความอิ่มอะไรต่างๆเนี่ย
00:18:35 → 00:18:38 อ่าพวกเลปตินอินซูลินเไม่ดื้ออะไรพวก
00:18:38 → 00:18:41 เนี้ยนะมันจะกินเกินไม่ได้นะฮะมันกินเกิน
00:18:41 → 00:18:43 ไม่ได้เพราะฉะนั้นเกินส่วนใหญ่ในความหมาย
00:18:43 → 00:18:47 ก็คือหมายถึงไอ้พวกแปรรูปหรือกินอาหารที่
00:18:47 → 00:18:50 ยังไม่มีความรู้อ่ะนะกคือก็ได้กินไม่เป็น
00:18:50 → 00:18:53 อ่ะนะเ่อมันก็มีแนวโน้มเนี่ย ldl เป็น
00:18:53 → 00:18:58 type B นะอีกอันนึงก็คือเรื่องของไขมัน
00:18:58 → 00:19:01 มันอิ่มตัวนะฮะไขมันอิ่มตัวเพราะว่าไขมัน
00:19:01 → 00:19:03 อิ่มตัวไม่ว่าจะเป็นจากพืชจากสัตว์ถ้า
00:19:03 → 00:19:07 เกิน 30% ของพลังงานรวมเนี่ยนะส่วนใหญ่
00:19:07 → 00:19:11 ตับจะสร้างออกมาเป็น ldl type a นะฮะนะ
00:19:11 → 00:19:13 ldl type
00:19:13 → 00:19:16 a เพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยเราโหลดพวก
00:19:16 → 00:19:20 mct Oil เอ่าหรือโหลดน้ำมันมะพร้าวสกัด
00:19:20 → 00:19:24 เย็นอะไรต่างๆค่อนข้างเยอะในช่วงแรกๆนะ
00:19:24 → 00:19:27 ครับผมนั้น ldl type a มันก็เลย ldl
00:19:27 → 00:19:30 มันก็เลยสูงแต่มักจะเป็น type a ถ้ามา
00:19:30 → 00:19:34 จากไขมันอิ่มตัวนะ
00:19:34 → 00:19:37 ฮะทีนี้ถ้ามาจากเรื่อง High Bad C ต่าง
00:19:37 → 00:19:40 ๆอันนี้เราก็รู้แล้วว่าตับมันก็จะเปลี่ยน
00:19:40 → 00:19:44 กลายเป็น type B นะนะครับผมแล้วอีกอย่าง
00:19:44 → 00:19:48 นึงกรณีของการทำ If โปรลอง Fast ต่างๆนะ
00:19:48 → 00:19:49 ฮะในระดับ
00:19:49 → 00:19:55 อ่าซัก 16/8 ขึ้นไปนะฮะนะพวกนี้ร่างกาย
00:19:55 → 00:19:58 โดยตับก็จะสลายพลังงานที่สะสมออกมาเป็น
00:19:59 → 00:20:03 เรื่องของคีโตนนะฮะซึ่งเซ์ต่างๆจะมีการ
00:20:03 → 00:20:06 สร้างเป็น ldl type a นะเนี่ยมันก็จะ
00:20:06 → 00:20:08 คู่กันไปไม่ว่าจะเป็น type a type B
00:20:08 → 00:20:12 นะเพราะฉะนั้นคำถามที่บอกว่าเนี่ยอยากจะ
00:20:12 → 00:20:15 ได้เป็น ldl ที่ดีเป็นพวก type a อยากจะ
00:20:15 → 00:20:20 ได้ hdl สูงๆเนี่ยก็ต้องกินไขมันอิ่มตัวเ
00:20:20 → 00:20:24 แต่ก็ต้องเลือกกินให้ถูกให้ดีด้วยนะฮะไม่
00:20:24 → 00:20:26 ไม่ใช่กินไม่เป็นกินไม่เป็นมันก็ไม่เป็น
00:20:26 → 00:20:28 นะฮะนะไ
00:20:28 → 00:20:34 ครับผมอ่าหรือไม่ก็ทำไอ
00:20:34 → 00:20:38 เนี่ยอันนี้ก็คือ ldl จะเป็น type B
00:20:38 → 00:20:42 กรณีไหนบ้างนะฮะนะอืคือสมมุติว่าเราไม่
00:20:42 → 00:20:44 เราไม่มีความรู้เรื่อง ow C High Good
00:20:44 → 00:20:46 Fat อะไรอย่างเงี้ยเรายังกินน้ำมันสกัด
00:20:46 → 00:20:49 เย็นไม่เป็นแล้วก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ
00:20:49 → 00:20:52 การกินในรูปของน้ำสลัด P ออยที่มาจากน้ำ
00:20:52 → 00:20:56 มันสกัดเทียนกิ่นเดี๋ยวซ้อนนะอันนี้นะฮะ
00:20:56 → 00:20:59 นะส่วนใหญ่แล้วพลังงานจากไขมันเนี่ยถ้า
00:20:59 → 00:21:02 เรากินโลคาฟนะพลังงานสักไขมันส่วนใหญ่มัน
00:21:02 → 00:21:06 ก็จะเป็นไขมันที่ปะปนมากับตัวเนื้อสัตว์
00:21:06 → 00:21:11 นะหรือโปรตีนนั่นเองนะฮะอครับผมอันนี้ก็
00:21:11 → 00:21:15 ต้องระวังนะฮะระวังนะส่วนใหญ่มีแนวโน้ม
00:21:15 → 00:21:19 มันจะกลายเป็น ldl type B นะเนี่ยเพราะ
00:21:19 → 00:21:22 ว่าเราก็มีแหล่งพลังงานก็จริงนะฮะนะแล้ว
00:21:22 → 00:21:25 เป็นพลังงานอาจจะมีทั้งอิ่มเดี่ยวซ้อน
00:21:25 → 00:21:28 เนี่ยนะแต่ว่ามันมาจากสัตว์แล้วมามาในรูป
00:21:28 → 00:21:32 ของโปรตีนนะฮะเนี่ยถ้าเป็นการกินไขมัน
00:21:32 → 00:21:36 หรือโปรตีนสัตว์ที่มีไขมันสูงต่ำอ่าหรือ
00:21:36 → 00:21:39 กลางอะไรก็ตามนะฮะร่วมกับ High Bad cf
00:21:39 → 00:21:43 ต่างๆพวกนี้นะอ่าอันนี้ก็เรียบร้อยนะมัน
00:21:43 → 00:21:47 ก็เกิด Random Cycle นะ Random Cycle
00:21:47 → 00:21:51 เนี่ยอ่าร่างกายก็มีแต่ตัว ldl ที่สูง
00:21:51 → 00:21:54 เป็นแบบ type B นะอันต่อมาก็คือการปรุง
00:21:54 → 00:21:57 นะฮะซึ่งวิธีการปรุงในเรื่องของโปรตีนจาก
00:21:58 → 00:22:01 เนื้อสัตว์เนี่ยเออหมอก็เคยไลฟไปแล้วอ่ะ
00:22:01 → 00:22:05 นะฮะนะต้องไปหาดูนะถ้ามีการใช้ความร้อน
00:22:05 → 00:22:11 สูงๆนะฮะอ่าเปิ้งย่างทอดเผานะโดยที่มัน
00:22:11 → 00:22:14 เกินจุดเกิดวันนะหรือจุดเดือดของมันเนี่ย
00:22:14 → 00:22:17 นะอันนี้ก็เรียบร้อยมันก็เปลี่ยนเป็นไข
00:22:17 → 00:22:21 มันทรานหมดแหละนะฮะถึงแม้จะใช้น้ำมันดีๆ
00:22:21 → 00:22:25 จะใช้เนยใช้กีที่มันออร์แกนิคอะไรขนาดไหน
00:22:25 → 00:22:28 ก็ตามนะฮะถ้าเป็นอย่างงี้เรียบร้อยเหมือน
00:22:28 → 00:22:32 กันนะ ldl type B มาแน่นอนนะมาเต็มเลย
00:22:32 → 00:22:36 ครับอีอันนึงก็คือเนี่ยที่เราที่เราค่อน
00:22:36 → 00:22:40 ข้างจะจะไม่ได้ใส่ใจกันนะยิ่งยุคปัจจุบัน
00:22:40 → 00:22:45 นี้ก็คือการปรุงแต่งอาหารนะฮะอือครับผมก็
00:22:45 → 00:22:48 เยอะแยะไปหมดใช่มั้ยล่ะนะบ้านใครมีเกิน 3
00:22:49 → 00:22:53 ชนิดก็ป่วย 1 โล่มี 5 มี 10 ก็บวกๆๆเข้า
00:22:53 → 00:22:57 ไปนะครับผมในสมาชิกนะในสมาชิกแต่ละคนน่ะ
00:22:57 → 00:22:59 อย่างน้อย 1 1 คนเนี่ยเ่าก็จะต้องมี 1
00:22:59 → 00:23:03 โรคร่วมด้วยครับผมก็มีเยอะแยะเนี่ยผงปรุง
00:23:03 → 00:23:08 รสนะเกลืออุตสาหกรรมเอ่านะหรือเกลือเนี่ย
00:23:08 → 00:23:11 เกลือที่มันเขียนว่ามีวันหมดอายุอ่ะก็ไม่
00:23:11 → 00:23:14 ใช่แล้วนะฮะนะเพราะเกลือเไม่มีวันหมดอายุ
00:23:14 → 00:23:17 สารสแกงความหวานในรูปแบบต่างๆในปัจจุบัน
00:23:17 → 00:23:22 เยอะแยะมากนะมีตัวสารเนี่ย is นะฮะนะใน
00:23:22 → 00:23:25 ปัจจุบันมีระดับเป็นตัวเลขที่ระดับพัน
00:23:25 → 00:23:28 แล้วนะฮะ is ต่างๆนะอันนี้ถือว่าเป็นสาร
00:23:28 → 00:23:33 มุแต่งอาหารหมดเลยนะฮะสารกันบูนะพวกเนี่ย
00:23:33 → 00:23:37 โพแทสเซียมเ่าเนี่ยดินภาสิวอันนี้นะ
00:23:37 → 00:23:41 ฮะมีเยอะมากนะซึ่งพวกเนะฮะพวกนี้ 1 2 3
00:23:41 → 00:23:45 พวกนี้ก็คือสิ่งที่จะไปกระตุ้นให้
00:23:45 → 00:23:48 ldl เปลี่ยนรูปแบบจาก type a กลายเป็น
00:23:48 → 00:23:49 type B
00:23:50 → 00:23:52 นะ
00:23:52 → 00:23:58 ครับอ่าทีนี้มันจะมีกราฟที่มีหลายเพจหลาย
00:23:58 → 00:24:01 กูรูหลาย Health influencer เนี่ยเก็มา
00:24:01 → 00:24:04 สรุปกันว่าไม่ต้องไปแคร์นักหรือไปดูนัก
00:24:04 → 00:24:08 ไอ้ตัวเลข ldl ต่างๆที่มันจะสูงเนี่ยนะอ
00:24:08 → 00:24:11 ครับผมเ่อมันก็จะมีรายงานอันนี้นะฮะนะใน
00:24:11 → 00:24:14 ช่วง 15 ปีเนี่ยตั้งแต่ประมาณปีเกับปี
00:24:14 → 00:24:18 2000 น่ะจนถึง 2014 ที่เขาเก็บนะอันนี้
00:24:18 → 00:24:22 เป็นอ่าเ้าในิอ่า Random miz Control
00:24:22 → 00:24:25 trial ด้วยนะฮะนะเป็นรายงานที่นำมาเอ่ย
00:24:25 → 00:24:31 อ้างกันได้นะฮะครับผมเอ่อก็ก็เนี่ยดูกราฟ
00:24:31 → 00:24:35 เส้นกลางนี่แหละนะฮะนะว่าระดับของ ldl นะ
00:24:35 → 00:24:39 ฮะยิ่งต่ำนะอัตราการตายเนี่ย cost All
00:24:39 → 00:24:42 cost mortality มันจะเยอะนะฮะนะจุดตัด
00:24:42 → 00:24:46 มันจะอยู่ที่ประมาณ 130 เนี่ยประมาณ
00:24:46 → 00:24:50 130 แล้วก็มันก็หลังจากนั้นมันก็ไม่
00:24:50 → 00:24:54 เพิ่มอ่ะนะฮะนะนะไม่ว่าจะ ldl สูงขนาดไหน
00:24:54 → 00:24:57 ก็ตามเพิ่มเล็กน้อยนะโดยเฉพาะเบอกบอกว่า
00:24:57 → 00:25:01 หากอายุ 60 ปีขึ้นไปแล้วเนี่ยนะฮะเขาจะ
00:25:01 → 00:25:04 ถือว่าการสูงขึ้นของ ldl โดยเฉพาะที่เกิน
00:25:04 → 00:25:09 200 เนี่ยถือว่าเป็นตัว prevent นะหรือ
00:25:09 → 00:25:11 ทำให้อุบัติการณ์การเสียชีวิตลดลงได้อีก
00:25:11 → 00:25:17 ด้วยนะครับผมอันนี้มันเป็น rct Meta nis
00:25:17 → 00:25:21 นะฮะเลยเป็นที่ยอมรับกันเป็นส่วน
00:25:21 → 00:25:26 ใหญ่แล้วก็มีการเนี่ยสรุปนะว่าปัจจัยที่
00:25:26 → 00:25:29 มีผลนะ risk Factor for Heart disease
00:25:29 → 00:25:33 เนี่ยนะฮะ 10 อันดับเนี่ย ldl อยู่อันดับ
00:25:33 → 00:25:38 ที่ 10 นี้นะฮะอันดับแรกคือเบาหวานนะฮะ
00:25:38 → 00:25:42 เบาหวานอันนี้เสี่ยงต่อ ascvd สูงสุดนะฮะ
00:25:42 → 00:25:46 นะในเรื่องของอัตราการตายนะอันต่อมาก็คือ
00:25:46 → 00:25:49 เเรียกนี่แหละอ่าภาวะดื้ออินซูลินที่จะ
00:25:49 → 00:25:53 ส่งผลต่อตัวไลโปโปรตีนนะฮะจริงๆความหมาย
00:25:53 → 00:25:56 มันก็คือไอ้ตัว Apple B นี่แหละนะฮะ
00:25:57 → 00:26:00 เนี่ยอือันเนี้ยเอันนี้มันเป็น ris
00:26:00 → 00:26:03 Factor อันดับ 2 เลยนะฮะต่อไปก็คือ
00:26:03 → 00:26:06 metabolic Syndrome นะฮะความดันสูง
00:26:06 → 00:26:09 obesity อ่า smoker นะฮะแล้วก็เป็น
00:26:09 → 00:26:12 เรื่องของ famil mi นะฮะก็คือพวกนี้ก็
00:26:12 → 00:26:17 คือกรรมพันธ์นะแล้วถึงจะมาไตรกีสไลนะฮะ
00:26:17 → 00:26:21 เนี่ยครับผมไตรกีสไลสูงงๆนะฮะและอัตรา
00:26:21 → 00:26:23 ส่วนโตลคอเลสเตอหารเนี่ย Total
00:26:23 → 00:26:27 คอเลสเตอรอลเนี่ยนะกับ ldl เนี่ยนะฮะ
00:26:27 → 00:26:28 เนี่ย
00:26:28 → 00:26:32 นะตัวมามาคู่กันน่ะนะแต่เขาบอกเจัดลำดับ
00:26:33 → 00:26:36 ldl เป็นลำดับที่ 10 ได้ม
00:26:36 → 00:26:40 LP ก็คือไลโปโปรตีนที่เกิดจากสภาวะดื้อ
00:26:40 → 00:26:43 อินซูลินนะฮะนะิ Factor อันดับ
00:26:43 → 00:26:47 2 อืครับผมแต่ก่อนเก็จะมีรายงานตัวนี้
00:26:47 → 00:26:51 ออกมาเ้าเรียก ard เรชนะนะนะก็คือความ
00:26:51 → 00:26:54 เสี่ยงในการเกิดปัญหาเรื่องของหัวใจและ
00:26:54 → 00:26:57 หลอดเลือดเก็เรียงลำดับตามกราฟอันนี้นี่
00:26:57 → 00:27:01 แหละนะนะเบาหวานอ่า DM type 2 นี่
00:27:01 → 00:27:05 อันดับ 1 นะแล้วก็ ldl นะเอยู่อันดับท้าย
00:27:05 → 00:27:08 ๆนะของพวก
00:27:08 → 00:27:13 นี้อันนี้อันเก่านะฮอันนี้อันเก่าแต่ถ้า
00:27:13 → 00:27:16 อันเนี้ยอันนี้อันใหม่อันใหม่อัปเดตล่า
00:27:16 → 00:27:18 สุดนะ
00:27:18 → 00:27:22 ฮะก็ก็คือ a b ขึ้นมาเป็นอันดับสอบแทน
00:27:22 → 00:27:25 ใช่มั้ยครับใช่แล้วนะฮะนะเพราะว่าอันนี้
00:27:25 → 00:27:31 หมอจำได้ว่านานมากแล้ว่ะฮะเตั้งแต่ปี 2018
00:27:31 → 00:27:35 น่ะอันเนี้ยที่หมอเอามาทำเก็บไว้นะฮะแล้ว
00:27:35 → 00:27:39 ตอนหลังๆเนี่ยนะเอันนี้ก็สรุปล่าสุดเมื่อ
00:27:39 → 00:27:43 ปีที่แล้วเนี่ยฮะนะน่าจะต้นปีนี้่ะฮะนะก็
00:27:43 → 00:27:47 เอามามาเรียงลำดับอันเนี้ยนะอันเนี้ยนะ
00:27:47 → 00:27:50 แล้วก็มามาให้ความสำคัญกับเรื่องตัว a b
00:27:50 → 00:27:53 เนี่ยนะฮะเนี่ยนะไลโปโปรตีน insulin
00:27:53 → 00:27:57 resistance เนี่ยนะแล้วก็ไอ้ตัว ldl นี่
00:27:57 → 00:28:00 นี่ก็เกือบจะหายไปเลยอ่ะนะฮะเขาก็ไม่ได้
00:28:00 → 00:28:03 ให้ความสำคัญอะไรมากเพราะฉะนั้นเนี่ยเรา
00:28:03 → 00:28:06 ถึงได้ต้องมาวุ่นวายกับไอ้เรื่องตรงเนี้ย
00:28:06 → 00:28:11 ค่อนข้างเยอะในการในการอธิบายนะ
00:28:11 → 00:28:15 ฮะอย่างเรื่องของกรพันธ์อะไรพวกเนี้ยนะฮะ
00:28:15 → 00:28:18 นะที่จะมีผลต่อ ldl เนี่ยเราจะเห็นว่า
00:28:18 → 00:28:22 อัตราการตายนะฮะนะเนี่ยนะไอ้เส้นที่เกิน
00:28:22 → 00:28:26 อ่าเส้นปะ 1.00 เนี่ยอัตราการตายจะสูงใน
00:28:26 → 00:28:30 คนที่อายุน้อยน้นะฮะเนี่ยนะส่วนใหญ่ก็คือ
00:28:30 → 00:28:34 ตายตอนเนี้ยตอนกำลังกำลังกำลังโตเต็มวัย
00:28:34 → 00:28:39 อ่ะนะฮะ 20 30 เอ้ย 20 30 40 เนี่ยนะ
00:28:39 → 00:28:42 แต่พออายุมากขึ้นเนี่ยนะฮะ 70 ไปแล้วอะไร
00:28:42 → 00:28:47 ต่างๆเนี่ยนะมันเหมือนาเรชมันลดลงอ่ะนะ
00:28:47 → 00:28:50 เอออืก็คือไอ้ famil
00:28:50 → 00:28:53 hypercholesterolemia เนี่ยนะนะก็ไม่ได้
00:28:53 → 00:28:56 ถือว่าจะเป็นสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอัตราการ
00:28:56 → 00:29:00 ตายค่อนข้างมากอะไรนะฮะยิ่งแก่มากๆยิ่ง
00:29:00 → 00:29:04 อายุเยอะๆเนี่ยนะก็ยิ่งยิ่งลดลงเออมันจะ
00:29:04 → 00:29:07 ตายในช่วงอายุแรกไอายุหนุ่มสาวเท่านั้นนะ
00:29:07 → 00:29:11 อายุน้อยๆออ
00:29:11 → 00:29:15 ครับอันนี้กรรมพันธ์มันก็แก้ไม่ได้นะฮะ
00:29:15 → 00:29:17 พี่หมอครับทีนี้ก็เป็นตัวอย่างเคสแล้วนะ
00:29:17 → 00:29:21 ฮะครับพี่หมอพี่หมอครับผมสงสัยเรื่องไ
00:29:21 → 00:29:24 Apple B ที่มันเกาะมากับ ldl อ่ะครับ
00:29:24 → 00:29:29 พี่หมออืมันทำไมมันถึงหมายถึง
00:29:29 → 00:29:32 ว่ามันต่างกันที่ปริมาณแล้วป่าครับพี่หมอ
00:29:32 → 00:29:34 คือบางคน ldl ต่ำแต่ alpo B สูงอย่าง
00:29:34 → 00:29:37 เงี้ยเป็นไปได้มั้ยเอ่อ
00:29:38 → 00:29:39 ldl
00:29:39 → 00:29:44 ต่ำไม่น่าจะได้นะไม่เพราะว่าผมผมมองผมมอง
00:29:44 → 00:29:46 แค่ว่า ldl มันคือเรือใช่มมครับ Apple B
00:29:46 → 00:29:50 มันเกาะมากับเรือเป็นทุ่นเกาะมาเนี่ยใช่
00:29:50 → 00:29:53 คราวนี้ถ้าถ้า aple B สูง ldl มันก็ต้อง
00:29:53 → 00:29:56 สูงตามไปด้วยหรือเปล่าหรือว่ามักจะเป็น
00:29:56 → 00:29:59 อย่างนั้นเพราะว่าค่าที่วัดเนี่ยมันวัด
00:29:59 → 00:30:03 มันมุ่งที่จะวัดตัว ldl นี่แหละฮะเพราะ
00:30:03 → 00:30:06 ldl มันมี plma Residence Time ยาวนาน
00:30:06 → 00:30:10 ที่สุดตัวอื่นๆเนี่ยมันมีการอยู่ในกระแส
00:30:10 → 00:30:12 เลือดไม่
00:30:12 → 00:30:18 นานครับผมก็เลยมองว่าแล้วแล้วทำไมถ้าว่า
00:30:18 → 00:30:21 วัด ll ได้มันก็จะหมายถึง apo B ไปด้วย
00:30:21 → 00:30:23 หรือเปล่าพี่หมอ
00:30:23 → 00:30:26 ใช่ก็คือ
00:30:26 → 00:30:31 ตัวมันตัว L ตัวเอ่อตัว Apple B เนี่ย
00:30:31 → 00:30:37 มันก็คือตัว ldl บก idl บวกอ่อพวก vldl
00:30:37 → 00:30:40 นะก็คือเป็นทั้งชุดเลยทั้งชุดเลยแต่ไอ้
00:30:40 → 00:30:43 ตัว idl vldl ต่างๆเนี่ยพวกนี้มันอยู่
00:30:43 → 00:30:47 ไม่นานไงมันอยู่แว๊บๆวๆๆๆมันก็หายไปหมด
00:30:47 → 00:30:50 แล้ว
00:30:50 → 00:30:52 อืดังนั้น Apple B เนี่ยมันหมายถึงว่า
00:30:52 → 00:30:55 ถ้าวัดออกมามันก็จะมากกว่า ldl อยู่นิด
00:30:55 → 00:30:58 นึงเพราะว่ามันรวมไอ้ไอ้เรือลำใหญ่ไปด้วย
00:30:58 → 00:31:03 ใช่เออมันจะรวมเรือลำใหญ่ๆอะไรตรไปด้วยโ
00:31:03 → 00:31:07 โอเคโอเคโอเคครับเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่
00:31:07 → 00:31:09 เมื่อกี้คำถามก็คือ
00:31:09 → 00:31:11 ldl
00:31:11 → 00:31:15 ldl ต่ำ aple B สูงได้มั้ยอ่ะเหรอครับ
00:31:15 → 00:31:20 หรือถามว่าอะไรนะใช่ๆๆครับ
00:31:20 → 00:31:24 ใช่ก็สูงได้แต่มันไม่ได้สูงมากมาย
00:31:24 → 00:31:27 อ่ะเพราะว่าไอ้เรืออื่นๆเนี่ยมันไม่ได้มี
00:31:27 → 00:31:30 plma Resident Time นานเท่าไหร่ครานี้
00:31:30 → 00:31:33 อืมก็เพราะว่าคุณหมอทั่วไปครับดูเคสนั้น
00:31:33 → 00:31:36 น่ะต้องดูเคสครับคุณหมอทั่วไปก็อาจจะมอง
00:31:36 → 00:31:40 ว่าเอ้ย ldl มันก็มี Apple B แปะอยู่เออ
00:31:40 → 00:31:43 มาด้วยกันอย่างเงี้ยมันก็เลยเอ้ย ldl สูง
00:31:43 → 00:31:46 ก็แปลว่าเสี่ยงเลยอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:31:46 → 00:31:53 ไม่ไม่ได้แยกวัดอ่ะก็ถูกต้องถูกต้องอืม
00:31:53 → 00:31:57 อืแต่ในเนี้ยหมายถึง ldl อย่างเดียวไอ้ใน
00:31:57 → 00:32:00 ตารางเมื่อกี้หมายถึง ldl ตัว ldl อย่าง
00:32:00 → 00:32:03 เดียวใช่ความเสี่ยงระดับสูงๆก็คือ a b
00:32:03 → 00:32:06 คือเขาแยกออกมาใช่ฮะเพจริงๆความเสี่ยงมัน
00:32:06 → 00:32:08 ไม่ได้อยู่ที่เรือนำส่งแต่มันอยู่ที่
00:32:08 → 00:32:10 โปรตีนที่ติดมากับเรือใช่เนี่ยเถึงได้
00:32:10 → 00:32:15 เป็นไลโปโปรตีนโนะ insulin
00:32:15 → 00:32:18 resistance อันดับ 2 เลยโอเคครับ 2 เลย
00:32:18 → 00:32:23 คือต้องเป็นตัวโปรตีนที่มาร่วมกับคนิหรือ
00:32:23 → 00:32:25 ร่วมกับเงื่อนไขของการเกิดภาวะดื้อ
00:32:25 → 00:32:29 อินซูลินด้วยปริมาณโปรตีนที่เกาะมากับ
00:32:29 → 00:32:31 เรือนี่เท่ากันมพี่
00:32:31 → 00:32:36 หมอเท่ากันหมายถึงหมายถึงว่าสมมุติเรือลำ
00:32:36 → 00:32:39 นึงแบกโปรตีน Apple B มา 1 1 1 ชุด
00:32:39 → 00:32:42 อะไรอย่างเงี้ยมันมีมที่ว่ามันแบกมาเกิน 2
00:32:42 → 00:32:45 ชุดแบบโปรตีนเยอะอะไรอย่างเงี้ยไม่มี 1
00:32:45 → 00:32:50 ต่อ 1 เ่า AP เนี่ย 1 1 นะฮะแต่ว่า aple
00:32:50 → 00:32:56 A1 ใน hdl เนี่ยนะมันได้ถึง 5 5
00:32:56 → 00:32:58 เท่าเื่อเทียบกับ a b
00:32:58 → 00:33:02 อ
00:33:02 → 00:33:07 อืส่วน ldl ที่เ้าแยกมานี่ก็เป็นเฉพาะตัว
00:33:07 → 00:33:12 ldl แต่มันเป็น ldl บวกบวกบเ
00:33:12 → 00:33:17 อืมจะดูเฉพาะตัวเรือนะอืเพราะฉะนั้นความ
00:33:17 → 00:33:19 หมายของตัวเนี้ยส่วนใหญ่ก็จะเป็นความหมาย
00:33:19 → 00:33:24 ของเรื่อง a b ในปัจจุบันที่อืที่เ้ารู้
00:33:24 → 00:33:27 กันแบบค่อนข้างประกาศออกมาอย่างเป็นทาง
00:33:27 → 00:33:31 การแล้วเนี่ยครับเห็นฝรั่งเคพูดแต่ Apple
00:33:31 → 00:33:33 B Apple B กันเป็นแถวเลยเค้าไม่ได้พูด
00:33:33 → 00:33:36 ถึงพวกพั้นจากเาหวานแล้วเนี่ยเค้าก็จะมา
00:33:36 → 00:33:39 คอนเซิร์นเกี่ยวกับตัวเนี้ยอ่าแบบเอาเป็น
00:33:39 → 00:33:43 เอาตายในปัจจุบันนะเพราว่าอาาเรชอ่ะมันมี
00:33:43 → 00:33:47 ผลถึงอันดับที่ 2 อืๆครับผมแต่ไอ้ตัว
00:33:47 → 00:33:51 เนี้ยที่ไม่สนใจเนี่ยก็ถูกต้องแล้วนะฮะนะ
00:33:51 → 00:33:54 เพราะว่าตัวนี้ตัวเดียวเนี่ยมันมีผลไป
00:33:54 → 00:33:58 ลำดับไกลๆเลยนะฮะนะนะยกเว้นแต่ว่าตัวเลข
00:33:58 → 00:34:01 ที่มันจะสูงมากๆอ่ะสูงมากๆก็ 500 600
00:34:01 → 00:34:05 500 ขึ้นไปอะไรอย่างเงี้ยนะโอ้ยก็ค่อย
00:34:05 → 00:34:09 ว่าเอ้อเอ่อทำใจได้มั้ยถ้าทำใจไม่ได้ก็ลด
00:34:09 → 00:34:14 ๆักหน่อยเออเงี้ยอ่าๆๆๆๆถ้าทำใจได้จะไม่
00:34:14 → 00:34:18 แคร์แม้ว่ามันจะ 700 800 900 เอ่อก็ก็
00:34:18 → 00:34:23 ทำใจได้แล้วอ่ะก็ก็ไม่ต้องไปสนใจทำใจทำใจ
00:34:23 → 00:34:26 แต่ถ้ามาเกี่ยวข้องกับตัวนี้ก็ไม่ได้ไม่
00:34:26 → 00:34:31 ได้นะฮะต้องปรับนะซึ่งเราก็มีไลฟ์ไปหลาย
00:34:31 → 00:34:33 ครั้งแล้วว่าจะต้องปรับยังไงนะในเรื่อง a
00:34:33 → 00:34:36 b เออปรับทั้งเรื่องไขมันปรับทั้งโปรตีน
00:34:36 → 00:34:40 นะเออเนี่ยครับแล้วก็มีวิธีคำนวณคร่าวๆ
00:34:40 → 00:34:41 บอกไว้เรียบร้อยแล้ว
00:34:41 → 00:34:45 ด้วยมีมีบอกไว้หมดโอเคครับพี่เหมอะต่อได้
00:34:45 → 00:34:49 เลยครับเนี่ยเราก็จะมาดูเคสนี้กันนะที่
00:34:49 → 00:34:53 เป็นหน้าเคสที่น่าสนใจนะฮะตัวเล็กไปหน่อย
00:34:53 → 00:34:57 มยเดี๋ยวขยายได้อยู่ไอ้คำถามอ่ะลองดูครับ
00:34:57 → 00:35:00 ลองดูอันนี้ก็อยู่ในกลุ่มสุขภาพกลุ่มนึง
00:35:00 → 00:35:03 นะอเดี๋ยวก็จะมีให้เห็นภาพอะไรต่างๆที่
00:35:03 → 00:35:06 ลึกต้องเลื่อนขึ้นข้างบนนิดนึงครับพี่หมอ
00:35:06 → 00:35:08 เลื่อนได้มยไม่ได้แล้วเนี่ยไม่ได้นั้นั้น
00:35:08 → 00:35:11 เอาออกเหมือนเดิมดีกว่าครับมันตกขอบอ๋อ
00:35:11 → 00:35:14 มันตกไปข้างล่างครับนี่แ่ะนะแต่เดี๋ยว๋
00:35:14 → 00:35:17 เดี๋ยวมีทำตารางไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะพอ
00:35:17 → 00:35:21 เห็นอยู่ครับผมเาก็บอกว่าผมขออนุญาตส่งผล
00:35:21 → 00:35:26 อ่ามาให้ดูนะเอ่อกินแบบอ omas วันละมื้อ
00:35:26 → 00:35:30 นะมาตั้งแต่ต้นปีแล้วคนนี้เกินมาประมาณ 10
00:35:30 → 00:35:33 เดือนนะฮะนะส่วนมากกินตอนเที่ยงครั้ง
00:35:33 → 00:35:36 เดียวเลยแล้วก็เน้นเป็นโลคาฟแต่ก็จะมีไข่
00:35:36 → 00:35:40 ต้มมาประมาณวันละ 3 ลูกเป็นอย่างต่ำนะจาก
00:35:40 → 00:35:44 น้ำหนัก 120 ก็ลดลงมาเหลือ 75 เฉยเลยเ่า
00:35:45 → 00:35:47 เฉยเลยเนี่ยหมายถึงประมาณสักปีปีกว่านี่
00:35:47 → 00:35:51 แหละนะฮะอ่าแล้วก็ไม่รู้ต้องปรับอะไรอีก
00:35:51 → 00:35:55 มยผลตรวจเลือดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
00:35:55 → 00:35:59 ที่ผ่านมาเนี่ยก็เป็นแบบที่เห็นนะฮะเป็น
00:35:59 → 00:36:02 แบบที่เห็นก็คือน้ำตาลเนี่ย 85 อะไรอย่าง
00:36:02 → 00:36:06 งี้นะฮะน้ำตาลสะสม a1c ก็ 5.3 เอ่อกด
00:36:06 → 00:36:10 ยูริกสูงไปนิดนึง 6.5 6.5 นะเพราะฉะนั้น
00:36:10 → 00:36:13 ตัวนี้บอกเบื้องต้นว่าเอ่อระบบการเผาผลาญ
00:36:13 → 00:36:18 ของร่างกายเลดลงลดลงต่ำอืลดลงอือๆลดลงไป
00:36:18 → 00:36:22 แล้วนะตอนเนี้ยนะถ้าจะดีก็ต้องต่ำกว่า 5.5
00:36:22 → 00:36:27 นะฮะแล้วก็มีการตรวจเลือดเรื่องของอ่า
00:36:27 → 00:36:32 bu นะการทำมาไต bu 14 kinin 0.78 นะ
00:36:32 → 00:36:37 ฮะ 0.78 นะก็ดีอนะฮะนี้ Total คอสอ 459
00:36:37 → 00:36:44 อ่าแล้วก็ไกิน 60 ldl เนี่ยเป็นวัดแบบ
00:36:44 → 00:36:47 Direct cholesterol นะฮะเ่อ direct ldl
00:36:47 → 00:36:50 direct cholesterol เนี่ยเ่อก็เป็นการ
00:36:50 → 00:36:54 วัดโดยโดยวัดจากไอ้ตัวเครื่องอ่ะไม่ได้
00:36:54 → 00:36:56 เป็น calculate ถ้า calculate นี่ก็เอามา
00:36:56 → 00:37:00 มามามาคำนวณ calculate นี่ก็คือเอา Total
00:37:00 → 00:37:04 คอสอตั้งอ่าลบด้วย hdl แล้วก็ลบด้วยไิหาร
00:37:04 → 00:37:09 5 นะก็จะเป็นค่าของ ldl calculate แต่
00:37:09 → 00:37:12 ถ้าบอกว่า ldl direct cholesterol นะ
00:37:12 → 00:37:15 เนี่ยหรือ ldl อ่า direct อันนี้หมายถึง
00:37:15 → 00:37:20 ว่าเครื่องเครื่องมันมันมันแจ้งผลออกมานะ
00:37:20 → 00:37:24 288 ซึ่ง ldl direct ก็จะมีคือเค้า
00:37:24 → 00:37:27 เรียกเอ่อมันมันมีความถูกต้องมากกว่าค่า
00:37:28 → 00:37:31 คำนวณนะมีความ Error หรือผิดพลาดน้อยกว่า
00:37:31 → 00:37:34 นะเพราะคนี้คำนวณด้วยน้ำยานะปฏิกิริยาของ
00:37:34 → 00:37:39 น้ำยานะเป็นตัวเลขออกมา hdl นี่ 55 นะฮะ
00:37:40 → 00:37:45 เอ่อเดูเผินๆก็ก็เหมือนกับว่าเ่อเหมือน
00:37:45 → 00:37:47 เป็น Fat burner อะไรเงี้ยเหมือนกับว่า
00:37:47 → 00:37:52 ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักอ่าทีนี้
00:37:52 → 00:37:58 ตัว hdl ไม่ได้เยอะนะอ่าแล้วก็ตัวไกไลก็
00:37:58 → 00:38:03 ไม่สูงอ่าก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องในเรื่อง
00:38:03 → 00:38:07 ของอะไร receptor ที่ตับนะไม่สามารถจะ
00:38:07 → 00:38:11 เก็บกับอ่าตัว ldl กลับเข้าตับได้ตามปกติ
00:38:11 → 00:38:14 อะไรอย่างงี้อันนี้เราคิดคร่าวๆดูก่อนนะ
00:38:14 → 00:38:18 ฮะครับอันต่อมาก็จะเป็นเรื่องของเนี่ย
00:38:18 → 00:38:22 เอนไซม์ตับ 28 นะฮะอันนี้ก็ถือว่าในผู้
00:38:22 → 00:38:26 ชายก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกตินะเอคลฟอสฟาเตส
00:38:26 → 00:38:30 เนี่ยระบบน้ำดีนะอ่าก็ไม่ไม่อ struck ไม่
00:38:30 → 00:38:34 อูดกั้นอะไรต่างๆนะก็ประมาณ 59 นะฮะแล้ว
00:38:34 → 00:38:38 ก็ gma GT นะก็คล้ายๆกับ sgpt เนี่ยอัน
00:38:38 → 00:38:42 นี้ก็คือไม่เกิน 50 นะฮะนะเนี่ย 47 อัน
00:38:42 → 00:38:44 นี้ก็ถือว่า
00:38:44 → 00:38:47 ปกติเห็นมีอีกอันนึงอีกช่องนึงเ่ะเขาราย
00:38:47 → 00:38:53 งานว่า Small ldl อ่ะนะฮะ 105 โดยมีช่วง
00:38:53 → 00:38:56 Reference Range อยู่ในช่วง 0-50 นะ
00:38:56 → 00:39:01 หน่วยเป็นมิลลิกรัมเปอร์เดซิลิตรนะนะคน
00:39:01 → 00:39:06 นี้ก็ขึ้นไปนะ 2 เท่ากว่าเอ่าเราก็ถือว่า
00:39:06 → 00:39:10 แปลง่ายๆก็คือเขามี Small ldl ldl
00:39:10 → 00:39:14 อนุภาคขนาดเล็กเนี่ยค่อนข้างสูงอกว่าค่า
00:39:14 → 00:39:17 ปกติที่ควรจะเป็นน่ะขึ้นไปตั้ง 2 เท่านะ
00:39:17 → 00:39:20 ฮะขึ้นไปตั้ง 2 เท่า
00:39:20 → 00:39:27 เออนี้หมอต้องบอกก่อนว่าไอ้ไอการคำไอ้การ
00:39:27 → 00:39:30 การรายงานผลตัว Small D เนี่ยนะฮะถ้า
00:39:30 → 00:39:33 เป็นเครื่องเ่อ newclear Magnetic
00:39:33 → 00:39:35 resonance imaging เนี่ยถ้าเป็นเครื่อง
00:39:35 → 00:39:39 มาตรฐานนะฮะนะเอ่อหน่วยในการรายงานผล
00:39:39 → 00:39:43 เนี่ยหรือการวัดอนุภาคเนี่ยถ้าเป็นส ldl
00:39:43 → 00:39:46 เนี่ยเขาจะวัดเป็นมิลลิโมล per เดซิลิตร
00:39:46 → 00:39:50 นะฮะนะแต่ค่าที่เขาวัดอันนี้เนี่ยเวัด
00:39:50 → 00:39:54 เป็นมิลลิกรัม per เดิตอันนี้ก็คือเวัด
00:39:54 → 00:39:59 เป็นระดับหรือเป็นปริมาณอไม่ถือว่าเป็น
00:39:59 → 00:40:04 อนุภาคโดยแท้จริงนะก็เหมือนกับการวัด
00:40:04 → 00:40:09 เนี่ยไอ้ค่าเนี่ยนะค่า ldl อ่ะนะฮะนะ
00:40:09 → 00:40:13 เนี่ยอ่าเป็น 288 มิลกรัม per เดซิและ ldl
00:40:14 → 00:40:17 ที่ดูสูงๆ 288 เนี่ยนะเขาก็แยกออกมาเนี่ย
00:40:17 → 00:40:22 เป็น Small ldl นะฮะ 105 มิลกรัมเ
00:40:22 → 00:40:23 เดซิลิตร
00:40:23 → 00:40:27 เนี่ยแต่มันไม่ใช่การวัดเป็นจำนวนอนุภาค
00:40:27 → 00:40:30 หรือ particle ซึ่งอันนั้นเนี่ยหน่วยมัน
00:40:30 → 00:40:33 จะเป็นมิลลิโมล per เดซิลิตรมันต่างกัน
00:40:33 → 00:40:36 งั้นการวัดแบบนี้เนี่ยเครื่องที่ใช้วัด
00:40:36 → 00:40:40 ยังไม่ได้มาตรฐานนักนะฮะนะแต่ก็อาจจะพอ
00:40:40 → 00:40:44 บอกข้อมูลอะไรได้คร่าวๆว่าตัว ldl ที่สูง
00:40:44 → 00:40:49 เป็นชนิดไอ้ตัว type B นะฮะหรือ SM
00:40:49 → 00:40:53 เนี่ยค่อนข้างเยอะไปหน่อยเยอะไป
00:40:53 → 00:40:58 หน่อยครับปิณหรือระดับ ldl คอเลสเตอรอล
00:40:58 → 00:41:03 เนี่ยนะฮะอันนี้จะเป็นปริมาณโดยรวมนะของ
00:41:03 → 00:41:07 ตัวคอเลสเตอรอลทั้งหมดที่ ldl บรรทุกไว้
00:41:07 → 00:41:10 แล้วหน่วยจะเป็นมิลิกรัม per เดซิลิตร
00:41:10 → 00:41:13 หน่วยจะเป็นมิลลิกรัม per เดซิครับอันนี้
00:41:14 → 00:41:17 เขาหมายถึงตัวคอเลสเตอรอลเลยนะฮะโดยไม่สน
00:41:17 → 00:41:20 ใจอ่ะเ่อว่ามันจะเป็น type a type B
00:41:20 → 00:41:26 อะไรต่างๆนะฮะแต่ถ้าเป็นความเข้มข้นนะฮะเ
00:41:26 → 00:41:30 เรียกว่าจำนวนนะหรือความเข้มข้นของอนุภาค
00:41:30 → 00:41:34 หรือ ldl particle นะก็ใช้คำว่า ldl p
00:41:34 → 00:41:38 นะฮะอันนี้จะหมายถึงจำนวนอนุภาคของ ldl
00:41:38 → 00:41:44 ที่มีตัวโปรตีน a b อยู่นะฮะซึ่งตัวโน a
00:41:44 → 00:41:47 b เนี่ยมันจะเป็นตัวที่เกิดภาวะ High
00:41:47 → 00:41:49 ris ต่อปัญหา
00:41:49 → 00:41:53 svd นะเพราะฉะนั้นความหมายของ ldl
00:41:53 → 00:41:57 particle เนี่ยจึงมีความหมายที่ค่อนข้าง
00:41:57 → 00:42:03 ลึกนะและละเอียดอ่ากว่ากว่าค่าเนี่ย
00:42:03 → 00:42:07 เรื่องของปริมาณ ldl นะก็คือคนนี้เเขายัง
00:42:07 → 00:42:11 วัดอยู่ที่เรื่องของปริมาณหรือระดับ ldl
00:42:11 → 00:42:17 นะที่มันเป็นอ่าขนาดเล็ก Small type B
00:42:17 → 00:42:20 แล้วหน่วยมันก็ยังเป็นิัเดซิแต่ถ้าจะวัด
00:42:20 → 00:42:23 ให้ละเอียดจริงๆต้องรายงานออกมาเป็น ldl
00:42:23 → 00:42:29 particle นะฮะซึ่งหน่วยครับเป็น
00:42:29 → 00:42:32 มตนั้นอย่าเพิ่งไป
00:42:32 → 00:42:35 สับสนครับอันนี้มันก็จะเป็นเรื่องความ
00:42:35 → 00:42:39 หมายต่างๆถ้า ldl particle จะหมายถึง a
00:42:39 → 00:42:42 b เนี่ยเฉพาะเจาะจงเลย selective เลยนะ
00:42:42 → 00:42:44 ฮะแล้ว
00:42:44 → 00:42:51 ldl เฉยๆนะฮะมันไม่ใช่ ldl particle นะ
00:42:51 → 00:42:54 ครับมันมีความหมายแค่เป็นคอเลสเตอรอลแต่
00:42:54 → 00:42:57 อันเนี้ยมันจะมีความหมายเป็นเรื่องของ AO
00:42:57 → 00:43:00 b
00:43:00 → 00:43:04 a นะเนี่ยอย่างในต่างประเทศเนี่ย laap
00:43:04 → 00:43:09 nmr นะไไ Profile Test เนี่ยฮะเวลาเราย
00:43:09 → 00:43:13 งานผลเนี่ยถ้าเขาจะรายงานผล ldl particle
00:43:13 → 00:43:16 นะจำนวนอนุภาคหน่วยมันก็จะเป็นมิลลิโมล
00:43:16 → 00:43:20 เปอรเปอรลิตโทษทีเออเปอร์ลิตเลยไปด้วยนะ
00:43:20 → 00:43:24 ฮะเนี่ยเนี่ยมันจะเป็นอย่างงี้นะฮะครับ
00:43:24 → 00:43:29 เนี่ยแต่ถ้าเป็น ldl นะเฉยๆนะฮะอันนี้
00:43:29 → 00:43:33 เป็นมิลลิกรัม per เซิตนะฮะเนี่ยตัวเลขก็
00:43:33 → 00:43:35 จะเป็นอย่างงี้แล้วก็เนี่ยนะ low
00:43:35 → 00:43:38 moderate Border L อ่า High very
00:43:38 → 00:43:41 High อันนี้เป็น 5 Level เลยนะที่เขาจะ
00:43:41 → 00:43:46 บอกนะฮะว่าไอ้ตัว ldl particle เนี่ยใน
00:43:46 → 00:43:50 ระดับนี้เนี่ยมันอยู่ในระดับไหนนะแต่จะ
00:43:50 → 00:43:54 เป็นแบบ High very High อะไรก็ตามนะนะ
00:43:54 → 00:43:58 ครับอ่าตัว particle เหล่าเนี้ยนะฮะนะก็
00:43:59 → 00:44:03 ไม่ได้ไม่ได้ว่าจะมีจะมีความหมายอะไรต่อ
00:44:03 → 00:44:07 การเกิด as DVD มากมายนะนะฮะคือตัวเนี้ย
00:44:07 → 00:44:10 มันมีความหมายมากกว่าไอ้ตัว ldl เฉยๆนะฮะ
00:44:10 → 00:44:15 ldl เฉยๆมันก็จะเป็นิก 201 อันนี้ 1603
00:44:15 → 00:44:20 นะฮะนะเนี่ยตัวนี้ก็จะมีความเสี่ยงอยู่
00:44:20 → 00:44:21 ระดับ
00:44:21 → 00:44:24 สูง
00:44:24 → 00:44:29 discord H เราก็จะิั per เดซินะฮะนะ
00:44:29 → 00:44:31 หรืออย่าง hdl particle เนี่ยเวลาเราย
00:44:31 → 00:44:34 งานออกมาจริงๆเนี่ยนะฮะในตัว particle นะ
00:44:35 → 00:44:38 ฮะนะถ้าเป็นเครื่องที่มาตรฐานเขาจะรายงาน
00:44:38 → 00:44:45 เนี่ยเป็นไมโครโมลเ่อเปอรลิตไม่ใช่เนี่ยเ
00:44:45 → 00:44:48 แต่ถ้าเป็น ldl particle เนี่ยก็เป็น
00:44:48 → 00:44:51 เนี่ยนาโน mol นะฮะ
00:44:51 → 00:44:57 เอ่อเปอรลิตดูหน่วยดูหน่วยนะฮะอีกอันนึง
00:44:57 → 00:45:00 ถ้าเป็นเครื่อง nmr เนี่ยเขาจะมีเรื่อง
00:45:00 → 00:45:04 ขนาดหรือไซส์ ldl ไซซรายงานออกมาด้วยนะ
00:45:04 → 00:45:07 โดยวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางออกมาเป็น
00:45:07 → 00:45:12 เนี่ยนาอะไรอ่ะ n nm เนี่ยชื่อเต็มมัน
00:45:12 → 00:45:13 อะไร
00:45:13 → 00:45:17 อ่ะนาโนนาโนเมตรนาโนเมตรป่ะครับเออ
00:45:17 → 00:45:23 นาโนเมตรนะครับแล้วเคก็จะมีเนี่ยมีที่เทำ
00:45:23 → 00:45:26 ไว้ในการรายงานน่ะว่ามันอยู่ในที่จะเป็น
00:45:26 → 00:45:31 อ่า L siz Small type medium SI typ
00:45:31 → 00:45:34 อะไรอย่างเงี้ยแล้วแต่โดยส่วนใหญ่เนี่ย
00:45:34 → 00:45:35 ถ้าต่ำกว่า
00:45:35 → 00:45:39 20.5 นาโนเมตรจะเป็น Small อ่า Small
00:45:39 → 00:45:43 แพทเทิร์นแพทเทิร์น B นะอันนี้เราก็ดู
00:45:43 → 00:45:46 คร่าวๆอ่ะในเมืองไทยมันไม่มีแพร่หลายอะไร
00:45:46 → 00:45:49 นักเลยแต่มันเป็นเรื่องของหน่วยนะฮะของ
00:45:49 → 00:45:53 หน่วยแล้วก็ความหมายความหมายแต่ส่วนใหญ่
00:45:53 → 00:45:58 เราก็ดูแค่ระดับเราไม่ค่อยจะมาดูอนุภาค
00:45:58 → 00:46:02 มันแล้วก็เลยตามเลยกันมาจนถึงปัจจุบันนี้
00:46:02 → 00:46:06 นะฮะครับก็ไม่รู้จะว่า
00:46:06 → 00:46:10 ไงแค่ไหนให้แปลผลก็แปลไปอย่างงั้นน่ะนะฮะ
00:46:10 → 00:46:13 มันก็มีเรื่องความผิดๆถูกๆอ่ะหมอก็ยอมรับ
00:46:13 → 00:46:14 อ่ะนะฮะ
00:46:14 → 00:46:19 อือแต่ว่าในที่สุดแล้วเนี่ยถ้ามันจะต้อง
00:46:19 → 00:46:22 มาแก้กันเรื่องความกินต้องกินอะไรยังไง
00:46:22 → 00:46:24 อย่างเงี้ยนะฮะก็ต้องมาโฟกัสเรื่องอาหาร
00:46:24 → 00:46:28 แหละอืนะถ้าไม่อยากใช้ยานะแต่ถ้าเกิดคน
00:46:28 → 00:46:31 อยากจะใช้ยงใช้ยาหรือบางคนก็ใช้ยาด้วย
00:46:31 → 00:46:34 ปรับอาหารด้วยเบางคนก็ไม่สนใจขอกินตาม
00:46:34 → 00:46:38 ปกติเหมือนเดิมเดี๋ยวกูก็ตายแล้วเ่าก็กิน
00:46:38 → 00:46:43 ไปเใช้ชีวิตให้เต็มที่เอก็แล้ว
00:46:43 → 00:46:47 แต่แต่เราก็ไปบังคับใก็ไม่ได้นักหรอกโอ
00:46:47 → 00:46:51 เคดนี้เห็นอะไรเยอะมากเลยนะพี่หมอข้เเออ
00:46:51 → 00:46:53 เราก็ดูว่าเอ้อมันเหมือนดีอ่ะนะฮะเนี่ยดู
00:46:53 → 00:46:59 ดูรูปเนะฮะใช่ก็เป็นคนนึงนะฮะนะอายุก็น่า
00:46:59 → 00:47:03 จะประมาณ 40 กว่าแล้วนะเ่อลักษณะบอดี้ typ
00:47:03 → 00:47:06 เนี่ยเนี่ยตอนตอนเนี้ยตอนปีที่แล้วช่วง
00:47:06 → 00:47:09 ประมาณกลางปีเดือนกรกฎาคมก็ลักษณะนี่คือ
00:47:09 → 00:47:16 พุงเครียดนะฮะพุงเครียดเแต่ว่าก็มันแต่
00:47:16 → 00:47:18 ค่อนข้างจะเป็นพุงเครียดมากกว่าไทรรอยด์
00:47:18 → 00:47:21 นะฮะนะนะคือในผู้ชายขาเบียดเ่ะมันพูดยาก
00:47:21 → 00:47:25 นะมันพูดยากเก็ต้องถอดกงงกางเกงดูอะไร
00:47:25 → 00:47:28 อย่างเงี้ยนะนะมันก็ยากอยู่อ่ะนะฮะนะหรือ
00:47:28 → 00:47:30 ใส่แต่กางเกงในตัวเดียวอ่ะมันก็เป็นอย่าง
00:47:30 → 00:47:33 งั้นไม่ได้เให้เราเห็นแค่เนี้ยเราก็น่าจะ
00:47:33 → 00:47:36 คุมเครียดมากกว่าแหละนะแต่ไม่ใช่สายแป้ง
00:47:36 → 00:47:38 หรอกฮะไม่ใช่พุงตับไม่ใช่เรื่องไทรอยด์
00:47:38 → 00:47:42 หรอกอย่างนี้นะฮะนะแล้วพอเเนี่ยปรับ
00:47:42 → 00:47:45 เปลี่ยนสุขภาพเข้ามาถึงจุดนี้ได้เนี่ยนะ
00:47:45 → 00:47:49 นะอันเนี้ยมันก็ดูแบบลาบๆไปหมดละแต่แต่
00:47:49 → 00:47:53 หน้าก็ยังดูเหลี่ยมๆอยู่อนะฮะอืๆอ่าที
00:47:53 → 00:47:56 เนี้ยคือผลลปที่เจะแจ้งมาเนี่ยเขาก็เป็น
00:47:56 → 00:48:00 ผลในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี่แหละนะฮะก็น้ำ
00:48:00 → 00:48:04 ตาล 85 นะเอ่ออย่างอื่นเนี่ยคืออย่างอื่น
00:48:04 → 00:48:07 เนี่ยหมอบอกว่าสำหรับเคสเนี้ยมันน่าจะมี
00:48:07 → 00:48:09 การตรวจให้ละเอียดกว่านี้แต่ว่าอันนี้เขา
00:48:09 → 00:48:12 ตรวจตามสิทธิ์น่าจะเป็นสิทธิ์ประกันสังคม
00:48:12 → 00:48:16 นะฮะที่โรงพยาบาลแห่งนึงอ่ะนะฮะนะที่เขา
00:48:16 → 00:48:20 มีเครื่องมือที่สามารถจะตรวจวัดเป็น Small
00:48:20 → 00:48:24 ldl ได้นะเก็เลยมีการรายงานออกมาแบบไบ
00:48:24 → 00:48:26 laap หน้าแรกอ่ะ
00:48:26 → 00:48:31 นะอันนี้น้ำตาล 85 a1c น้ำตาลสะสม 5.3
00:48:31 → 00:48:36 นะเรื่องของน้ำตาลเรื่องของไอ้คาฟที่เขา
00:48:36 → 00:48:39 ควบคุมการกินพวกเนี้ยนะก็ถือว่าผ่านนะแต่
00:48:39 → 00:48:43 ทนี้ตอนเนี้ยตอนนี้ล่าสุดเลยเนี่ยนะนะ
00:48:43 → 00:48:46 ยูริคแอซิดมัน 6.5 นะก็เหมือนกับระบบร่าง
00:48:46 → 00:48:50 กายเา้าเาผลาลดลงแล้วนะฮะไม่ได้เผาๆแบบ
00:48:50 → 00:48:56 เบินๆๆนะเหมือนแต่ครั้งก่อนๆนะฮะอครับ
00:48:56 → 00:48:58 ก็อันนี้ก็
00:48:58 → 00:49:02 อืน้ำหนักส่วนสูงเราก็ไม่รู้อ่ะนะฮะนะแต่
00:49:02 → 00:49:05 เค้าก็บอกว่าน้ำหนักเขาเคย 120 แล้วลดลง
00:49:05 → 00:49:10 มา 75 เหลือ 75 กหายไป 45 กครับหายไป 45
00:49:10 → 00:49:15 กลนี่ตั้งแต่ประมาณซักน่าจะน่าจะต้นปี่ะ
00:49:15 → 00:49:19 ฮะนะฮะครับคือในช่วงเนี้ยเขาก็ยังไม่ได้
00:49:19 → 00:49:24 เข้าสู่วงการสุขภาพนะอแต่จากกรกฎาคมเนี่ย
00:49:24 → 00:49:27 ปี 65 เนี่ยมาถึงปี 66 อ่ะนะก็น่าจะมี
00:49:27 → 00:49:31 ปัญหาอะไรเริ่มขึ้นน่ะนะฮะนะเราก็ไม่ทราบ
00:49:31 → 00:49:34 รายละเอียดอันนั้นนะนะก็เลยต้องดูแล
00:49:34 → 00:49:38 สุขภาพแล้วก็เลือกการดูแลสุขภาพในเรื่อง
00:49:38 → 00:49:42 ของการกินแบบ omas การทำ I นะแล้วก็การ
00:49:42 → 00:49:45 ปรับอาหารเป็น ow C นะนะจนกระทั่งมาได้
00:49:45 → 00:49:50 ผลผลิตของสุขภาพเนี่ยดังรูปนี้แล้วก็แลบ
00:49:50 → 00:49:53 ในเดือนพฤศจิกายนเนี่ยครบ 10 เดือนนะ 10
00:49:53 → 00:49:57 เดือนนะครับเออแต่แต่ปรากฏว่าตอนนี้อัตรา
00:49:57 → 00:50:00 การเผาผลาญในแบบ Fat burner เนี่ยมันลด
00:50:00 → 00:50:05 ลงมันลดลงอืแล้วก็การตรวจเอนไซมตับมันก็
00:50:05 → 00:50:11 ตรวจออกมาแบบแค่เนี้ยนะฮะเอครับมีแต่ค่า
00:50:11 → 00:50:14 hpt ไม่มีตัว hgot เป็นตัวเปรียบเทียบนะ
00:50:14 → 00:50:19 ฮะนะอืก็คนนี้น่าจะมีไขมันพอกตับเฮะนะแต่
00:50:19 → 00:50:22 ถ้ามีค่านี้ดูเปรียบเทียบด้วยมันก็จะเห็น
00:50:22 → 00:50:26 เรื่องของการแปรผลทางด้านอัตราส่วนได้นะ
00:50:26 → 00:50:32 ฮะแต่ไตก็ยังปกตินะนะ BN 14 เตีน 0.73
00:50:32 → 00:50:36 นะฮะทีนี้มาดูเรื่องไปิดโปรไฟล์นะวันนี้
00:50:36 → 00:50:39 Total คอเลสเตอรอลในปัจจุบันวันที่ 13
00:50:39 → 00:50:45 เนี่ยนะรูปร่างแบบนี้แต่เนี่ย 459 อ่าอืๆ
00:50:45 → 00:50:51 ไิ 60 นะ hdl 55 แล้วก็ ldl
00:50:51 → 00:50:55 288 ครับปรากฏว่าเวลามาเทียบอัตราส่วนใน
00:50:55 → 00:50:59 เนี้ยนะฮะนะอย่างเรื่องของภาวอินซูลินนะ
00:50:59 → 00:51:05 ฮะนะเนี่ยตับอ่อนก็ดีตับก็ดีนะฮะนะเนี่ย
00:51:06 → 00:51:10 ทั้งอัตราส่วนไกินหารด้วย hdl แล้วก็ G
00:51:10 → 00:51:13 index อันนี้ผ่านนะฮะนะถือว่าอยู่ใน
00:51:13 → 00:51:17 เกณฑ์ดีมากนะแต่มา remnant คอเลสตอรอล
00:51:17 → 00:51:23 เนี่ยนะฮะอันนี้พุ่งขึ้นไป 116 นะครับ 116
00:51:23 → 00:51:30 นะแล้วก็ตัวนอน hdl ปรากฏว่าติดลบ 86 นะ
00:51:30 → 00:51:32 ติดลติดลบ
00:51:32 → 00:51:38 86 อืๆๆๆก็คือไอ้ตัว non hdl เนี่ยก็
00:51:38 → 00:51:44 คือพวกโปรตีน a b ต่างๆนะนั่นไงเออ
00:51:44 → 00:51:49 โปรตีนมันติดลบนะอืปกติเนี่ยปกติเนี่ยถ้า
00:51:49 → 00:51:52 เกินโปรตีนเยอะๆแบบไม่คำนึงถึงว่าพืช
00:51:52 → 00:51:55 สัตว์อะไรต่างๆโดยเฉพาะหนักไปทางสัตว์
00:51:55 → 00:51:58 อย่าใหญ่สัตว์บกอะไรต่างๆนะครับไอ้ค่า
00:51:58 → 00:52:01 เนี้ยส่วนใหญ่มันจะสูงนะฮะค่า a พ B มัน
00:52:01 → 00:52:05 จะค่อนข้างเยอะอนะครับแต่คนนี้เกินมื้อ
00:52:05 → 00:52:09 เดียวนะแล้วก็อาหารเนี่ย
00:52:09 → 00:52:13 นะทายว่าเรื่องของโปรตีนเนี่ยไม่น่าจะ
00:52:13 → 00:52:16 เยอะหมายถึงโปรตีนจากอาหารเี่แล้วก็ไม่
00:52:16 → 00:52:20 น่าจะเป็นโปรตีนจากสัตว์ใหญ่มากนักเพราะ
00:52:20 → 00:52:23 ว่าเค้าก็ให้ได้แต่ว่าเอ่อผมกินไข่วันละ 3
00:52:23 → 00:52:28 ลูกอ่ะครับไอต้มอ่ะนะแต่อย่างอื่นเนี่ยอ
00:52:28 → 00:52:30 ในกลุ่มนี้เขาก็จะมีการกินเป็นเรื่องของ
00:52:31 → 00:52:34 ของเกรนน่ะของถั่วด้วยนะฮะนะครับส่วน
00:52:34 → 00:52:37 โปรตีนจากสัตว์ใหญ่เนี่ยเขาจะกินขนาดไหน
00:52:37 → 00:52:42 อะไรต่างๆก็ไม่ไม่รู้่ะไม่รู้แต่ทายว่า
00:52:42 → 00:52:46 โปรตีนน่าจะต่ำไปนะฮะนะเพราะฉะนั้นคนไข้
00:52:46 → 00:52:49 น่าจะขาดสารอาหารเนี่ยจากรูปร่างนมาเป็น
00:52:49 → 00:52:52 แบบนี้นะฮะคือสารอาหารพลังงานต่างๆที่เขา
00:52:52 → 00:52:55 เคยสะสมไว้ตอน 120 กลอ่ะจนกระทั่งว่าเป็น
00:52:55 → 00:52:59 75 กเนี่ยมันไปหมดนะมันไปหมดเลยนะฮะจาก
00:52:59 → 00:53:02 การทำ omas แล้วก็จากการกินที่เให้ข้อมูล
00:53:02 → 00:53:06 ไว้นิดๆหน่อยๆนะครับส่วนเลมแนนเนี่ยเลน
00:53:07 → 00:53:12 มัน 116 นะฮะนะมันโอโหขึ้นไปปกติไม่เกิน
00:53:12 → 00:53:18 23 อแล้วเก็ไม่ได้กินคาฟอะไรมากมายนะนะ
00:53:18 → 00:53:22 ฮะฉะนั้นมันมันมีความรู้สึกเหมือนกับว่า
00:53:22 → 00:53:24 เหมือนกับว่าร่างกายเ้าอ่ะพยายามสลาย
00:53:24 → 00:53:29 โปรตีนที่สะสมออกมานะออโปรตีนที่กินเข้า
00:53:29 → 00:53:33 ไปเนี่ยเอ้ยโทษทีไขมันที่กินเข้าไปเนี่ย
00:53:33 → 00:53:34 นะฮะ
00:53:34 → 00:53:38 เอ่อก็คิดว่าไม่ไขมันกับโปรตีนไม่น่าจะ
00:53:38 → 00:53:41 เป็นมีส่วนมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาตัว
00:53:41 → 00:53:45 เนี้ยนะฮะครับนะปัญหาไอ้ตัวตัวเลมแนนมัน
00:53:45 → 00:53:48 116 ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของโปรตีน
00:53:48 → 00:53:51 ต่างๆที่ร่างกายเสลายออกมาจนกระทั่งร่าง
00:53:51 → 00:53:52 กายกลาย
00:53:52 → 00:53:55 เป็นแต่พอเเนี่ยเมื่อถึงจุดุนึงเนี่ยนะฮะ
00:53:55 → 00:53:58 เมื่อถึงจุดนึงแล้วการที่ร่างกายมันไม่
00:53:58 → 00:54:01 เผาผลาญต่อเนี่ยนะฮะครับเลมแนนเนี่ยมันจะ
00:54:01 → 00:54:04 มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องคอเลสเตอรอลเป็น
00:54:04 → 00:54:07 ส่วนใหญ่หมอคิดว่าร่างกายเขาก็มีภาวะ
00:54:07 → 00:54:11 เครียดนะฮะที่จะตีกลับเป็นการเก็บสะสม
00:54:11 → 00:54:14 พลังงานมากกว่าเพราะฉะนั้นอืๆอัตราการผวา
00:54:14 → 00:54:18 มันก็เลยลดลงนะฮะคือมันถึงจุดเนี่ยที่
00:54:18 → 00:54:24 ร่างกายมันมันเผาซะจนหายไป 45 กลอ่ะนะฮะ
00:54:24 → 00:54:28 นะแล้วก็เหมือนกับว่าร่างกายพยายามที่จะ
00:54:28 → 00:54:31 เผาก็เผาอ่ะเผาเพื่อเพื่อใช้ Maintenance
00:54:31 → 00:54:34 Lifestyle ในชีวิตประจำวันแกก็อยู่ไป
00:54:34 → 00:54:37 ครับนะแต่อีกส่วนนึงเนี่ยเหมือนว่าแอชของ
00:54:37 → 00:54:41 คอร์ติซอลเนี่ยพยายามที่จะหวงไขมันะ
00:54:41 → 00:54:46 พยายามจะเก็บละนะฮะนะเนี่ยมันก็ค่อนข้าง
00:54:46 → 00:54:52 พยายามที่จะเก็บไขมันนะฮะนะเพราะว่ามัน
00:54:52 → 00:54:57 อมันก็ไม่รู้อ่ะนะอันนี้
00:54:57 → 00:55:01 เฮ้อมันเหมือนกับว่าเค้าขาดพลังงานและสาร
00:55:01 → 00:55:06 อาหารในปัจจุบันเนี่ยครับ
00:55:06 → 00:55:13 อืหนักเลยอืก็จะดูว่าจาก 120 มา 75 เนี่ย
00:55:13 → 00:55:17 เอ่อมันก็ค่อนข้างโหดนะภายในเวลาประมาณ 10
00:55:17 → 00:55:20 เดือนเนี่ยราวๆคนนี้คนนี้ไม่มีปัญหากับ
00:55:20 → 00:55:24 อ่าอินซูลินแล้วใช่มั้ยพี่หมอเออใช่ไม่มี
00:55:24 → 00:55:27 ปัญหากับแป้งไม่มีแล้วเออเออแต่ไม่มี
00:55:28 → 00:55:29 ปัญหาครับแต่ก็
00:55:29 → 00:55:33 เอ่อก็ต้องตรวจนะฮะต้องตรวจคือเค้าอ้วน
00:55:33 → 00:55:36 เนี่ยเคอ้วนเนี่ยเพราะฉะนั้นการตรวจ
00:55:36 → 00:55:40 อินซูลินเนี่ยจะมีความหมายนะตั้งแต่ช่วง
00:55:40 → 00:55:44 ที่อ้วนหรือช่วงที่ผอมก็ตามนะก็ต้องดูคือ
00:55:44 → 00:55:47 อ้วนเนี่ยยังไงอินซูลินมันต้องเยอะแน่นอน
00:55:47 → 00:55:49 พวกสายเนื้อพวกพรุงเครียดพวกเอสโตรเจน
00:55:49 → 00:55:52 type เนี่ยเอสโตรเจนเด่นเนี่ยนะฮะพวกนี้
00:55:52 → 00:55:55 จะมีปัญหากับอินซูลินที่มันสูงแต่มันยัง
00:55:55 → 00:56:00 แอชได้ดีอ่าแล้วเซลล์มันดื้อไม่ตอบสนองนะ
00:56:00 → 00:56:03 เพราะฉะนั้นความหมายในเรื่องการตรวจ fing
00:56:03 → 00:56:06 insulin หรืออิซูลิน Level เนี่ยนะมัน
00:56:06 → 00:56:09 ต้องทำไว้อ่ะนะฮะทำไว้เปรียบเทียบอ๋อครับ
00:56:09 → 00:56:12 แต่แต่เนี่ยตั้งแต่นี้เขาก็ไม่ทำตั้งแต่
00:56:12 → 00:56:15 นี่ก็ไม่ทำคือเา้าไม่ทำแล้วโรงพยาบาลก็
00:56:15 → 00:56:18 ไม่ทำอ่ะเอออืเราก็เลยเอามาแปรผลต่อไม่
00:56:18 → 00:56:21 ได้แล้วนี่ไม่ใช่โลคไแอดด้วยใช่มั้ยพี่
00:56:21 → 00:56:28 บอกใช่ฮะนะออทีนี้พอเรารู้ค่า fasting
00:56:28 → 00:56:31 อิซูลินเนี่ยซึ่งความหมายก็คืออินซูลิน
00:56:31 → 00:56:34 เลเวลเนี่ยมันเป็นยังไงเพราะคุณอ้วนเนี่ย
00:56:34 → 00:56:39 นะฮะนะอ่าแล้วก็ยังมาคำนวณ่า ir ได้นะว่า
00:56:40 → 00:56:43 อินซูลินเนี่ยมันยังดื้ออยู่หรือว่ามัน
00:56:43 → 00:56:46 sensitive ไปแล้วนะฮะตอนเนี้ยตอนผอมๆ
00:56:46 → 00:56:52 เนี่ยนะนะโดยที่ตอนผอมๆเนี่ยนะไอ้ตัว homa
00:56:52 → 00:56:56 ir เนี่ยจะมีผลมากกว่าเรื่องของเนี่ย
00:56:56 → 00:57:00 fasting อิซูลินเพราะฉะนั้นตอนเนี้ยมัน
00:57:00 → 00:57:02 ก็ต้องตรวจ fasting อิซูลินเพราะเวลาเรา
00:57:02 → 00:57:06 จะคำนวณ H ir เนี่ยมันก็คำนวณจาก fing
00:57:06 → 00:57:09 อินซูลินคือคำนวณเพื่อให้รู้ว่าอินซูลิน
00:57:09 → 00:57:12 เนี่ยมันยัง resistance หรือมัน
00:57:12 → 00:57:15 sensitivity แล้วนะฮะครับถ้าอินซูลิน
00:57:15 → 00:57:20 ปกตินะฮะนะปกติก็แปลว่าไอ้ช่วงที่ผอมเ
00:57:20 → 00:57:25 เนี่ยนะอินซูลินก็ทำงานได้ได้ดีแล้วล่ะนะ
00:57:25 → 00:57:29 นะแต่ถ้ามาผอมแล้วอินซูลินไม่ปกติมัน
00:57:29 → 00:57:34 ดิฟฟังก์ชันนะครับเนี่ยไอ้ปัญหาเรื่องอ่อ
00:57:34 → 00:57:37 อินซูลินที่ยังไม่ sensitivity เนี่ยมัน
00:57:37 → 00:57:42 ก็จะให้เห็นจากค่านี้นะฮะอืเพราะฉนั้นก็
00:57:42 → 00:57:45 คือมันก็เนี่ยในเรื่องเนี้ยมันจะต้องตรวจ
00:57:45 → 00:57:51 ให้ครบอ่ะครับตรวจไม่ครบเราก็พูดยากอือื
00:57:51 → 00:57:54 อ่ายังไงก็ตามนะ fing insulin มันจะหมาย
00:57:54 → 00:57:57 ถึงตัวตัวอินซูลินนะที่เป็นเรื่องการสะสม
00:57:57 → 00:58:01 พลังงานแต่่า ir เนี่ยมันมักจะมีความหมาย
00:58:01 → 00:58:04 ไปถึงอินซูลินกับคอร์ติซอลแต่ว่ามันจะ
00:58:04 → 00:58:08 หมายถึงว่าอินซูลินเนี่ยมันยังมัน
00:58:08 → 00:58:10 sensitive แล้วยังหรือมันยังฟังก์ชัน
00:58:10 → 00:58:13 อยู่
00:58:13 → 00:58:20 ครับเอ่อก็คำนวณ่าออกมาแล้วกันอืๆอ
00:58:20 → 00:58:23 ๆ
00:58:23 → 00:58:27 เอคือคนนี้เนี่ยถ้าเป็นแพทเทิร์นแบบรูป
00:58:27 → 00:58:30 แบบของฮอร์โมนกับเอนไซม์ที่แอคชั่นเนี่ย
00:58:30 → 00:58:35 นะฮะครับคือคนนี้เนี่ยไม่ได้กินอะไรเยอะ
00:58:35 → 00:58:39 แยะมากคาฟก็ไม่ได้กินมากนะโปรตีนไขมันก็
00:58:39 → 00:58:42 ไม่น่าจะถือว่าเยอะแยะอะไรจนอิ่มอะไรนัก
00:58:43 → 00:58:47 นะเค้ามุ่งที่จะมีการสลายเผาผลาญทั้งพลัง
00:58:47 → 00:58:49 งานทั้งสารอาหารที่อยู่ในร่างกายเค้าอ่ะ
00:58:49 → 00:58:52 จนกระทั่ง 10 เดือนหายไป 45 กเเพราะ
00:58:53 → 00:58:57 ฉะนั้นพวยเนี่ยส่วนใหญ่นะมันจะเป็นพวยตอน
00:58:57 → 00:59:01 บนๆนะตอนบนๆก็คือ
00:59:01 → 00:59:06 นะก็คือเนี่ยตัวไอ้ตัวเนื้อเยื่อไขมันที่
00:59:06 → 00:59:10 เขาอ้วนๆเนี่ยนะมันมีเอนไซม์ตัวเนี้ยนะฮะ
00:59:10 → 00:59:14 ชื่ออะไรเปปติเอ้ยฮอร์โมน sensitive ไส
00:59:14 → 00:59:17 เนี่ยเอนไซม์ตัวนี้ออกมาอืๆๆฮอร์โมน
00:59:17 → 00:59:21 sensitive ไเออกมามันก็จะมาเผา
00:59:21 → 00:59:25 อ่าไอ้ตัวไขมันไตกีซที่สะสมในเนื้อเยื่อ
00:59:25 → 00:59:29 ไขมันนะกลายเป็นตัวไตรกีซาไลน์ที่เอาไป
00:59:29 → 00:59:32 ให้เซลล์ต่างๆใช้โดยผ่านแอชของไลโปโปรตีน
00:59:32 → 00:59:37 ไลเปสอ่าก็คือเป็นพวข้างบนเนี่ยแล้วก็
00:59:37 → 00:59:40 ร่างกายก็กลายได้เป็นไอ้ ldl type a
00:59:40 → 00:59:44 กลับเข้าตับนะกลับเข้าตับนะแต่ทีนี้ถ้า
00:59:44 → 00:59:49 มันเผาผลาญมากนะแล้วก็ที่ตับเริ่มมีปัญหา
00:59:49 → 00:59:51 เรื่องอินซูลินเรื่องไทรงไทรอยด์อะไรต่าง
00:59:51 → 00:59:55 ๆนะไอ้ตัวรตรมันก็ลดลงนะนะเพราะฉะนั้น ldl
00:59:55 → 01:00:00 ไ้ a มันก็จะสูงๆๆๆๆนี้พอมาระยะหลังอ่ะ
01:00:00 → 01:00:03 ที่เขาผอมแล้วอะไรแล้วต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
01:00:03 → 01:00:06 ฮะไอ้ไอกระบวนการเนี่ยยมันก็น่าจะเกิด
01:00:06 → 01:00:10 ขึ้นอยู่นะฮะนะแต่ขณะเดียวกันเนี่ยนะไอ้
01:00:10 → 01:00:14 ตัวไตกีสลยต่างๆนะหรือตัวพลังงานต่างๆ
01:00:14 → 01:00:18 เนี่ยที่พยายามอ่าเอาออกมาใช้อ่ะนะโดยการ
01:00:18 → 01:00:21 กินเข้าไปก็ไม่ได้เยอะมากนะฮะตัว
01:00:21 → 01:00:25 คอร์ติซอลฮอร์โมนเนี่ยนะฮะน่าจะมีบทบาทนะ
01:00:25 → 01:00:27 ที่จะพยายามเก็บพลังงานเหล่าเนี้ยหรือ
01:00:27 → 01:00:32 พยายามที่จะเอ่อไม่ใช้พลังงานนะที่ออกมา
01:00:33 → 01:00:36 ทั้งจากกินเข้าไปหรือจากสลายจากร่างกาย
01:00:36 → 01:00:41 ออกมานะครับสักเท่าไหร่นะฮะก็คือเกิดภาวะ
01:00:41 → 01:00:44 หวงไขมันนะจากแอชของฮอร์โมนตัวแม่
01:00:44 → 01:00:46 คอร์ติซอล
01:00:46 → 01:00:49 นะขณะเดียวกันเนี่ยฮอร์โมนตัวแม่เนี่ยก็
01:00:49 → 01:00:53 จะไปหาพลังงานในทิศทางอื่นน่ะโดยเฉพาะการ
01:00:53 → 01:00:56 สลายโปรตีนในกล้ามเนื้อนะออกมาเป็นพลัง
01:00:56 → 01:01:02 งานแทนนะฮะเเก็บด้วยแล้วก็สลายด้วยเจะ
01:01:02 → 01:01:06 เป็นแอชของตัวแม่นะฮะเพราะฉะนั้นตอนเนี้ย
01:01:06 → 01:01:12 เขาดูค่อนข้างผอม 75 กอ่ะนะครับมันก็เลย
01:01:12 → 01:01:17 ต้องตรวจเปอร์เซเปอร์เซ็นไอ้ body fat
01:01:17 → 01:01:21 กับมวลกล้ามเนื้อนะรวมทั้งั Fat เมื่อ
01:01:21 → 01:01:25 เทียบกับตอนอ้วนๆนะฮะนะ
01:01:25 → 01:01:30 นี้เพราะฉะนั้นเนี่ยการตรวจค่าต่างๆเนี่ย
01:01:30 → 01:01:34 จะอ้วนมาเป็นผอมเนี่ยคือตอนที่เขาอ้วนเรา
01:01:34 → 01:01:37 ก็ไม่นึกว่าจะได้ผอมอย่างนี้อ่ะใช่มมันก็
01:01:37 → 01:01:39 เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้แต่ถ้าเป็นไปได้นะ
01:01:39 → 01:01:42 ถ้าคุณจะเอาจริงเอาจังในทิศทางของ low C
01:01:42 → 01:01:45 High Fat หรือในโภชนาการแบบคฟต่ำพวก
01:01:45 → 01:01:50 เนี้ยนะแรกๆอ่ะทำไว้ก็ดีนะนะเนี่ยก็ตรวจ
01:01:50 → 01:01:53 ให้หมดเลยแล้วก็ตรวจเปอร์เซ็น body fat
01:01:53 → 01:01:57 ตรวจเปอร์ viser Fat ตัวเอ่อมวลกล้าม
01:01:57 → 01:02:01 เนื้อนะก็ใช้ตาช่างนัแหละนะตาช่างแบบถึง
01:02:02 → 01:02:04 มันจะค่อนข้าง Error ก็เหอะนะแล้วพอเรา
01:02:04 → 01:02:08 ได้ผลเดังปรารถนาแบบนี้แล้วเนี่ยเราก็มา
01:02:08 → 01:02:12 ดูอ่ะว่าเออไอ้เปลี่ยนแปลงอย่างเนี้ยนะ
01:02:12 → 01:02:16 น้ำหนัก 75 จาก 120 มาเนี่ยนะแล้วก็อะไร
01:02:16 → 01:02:19 มันมากอะไรมันน้อยนะฮะบางครั้งเนี่ยมัน
01:02:19 → 01:02:23 เปลี่ยนเลยจุดไปหน่อยนะเลยจุดความสมส่วน
01:02:23 → 01:02:28 นะกลายเป็นแบบจากผอมสมส่วนหรือสมส่วนค่อน
01:02:28 → 01:02:31 ผอมก็กลายเป็นน้ำหนักร่วงไปนะผอมไปแล้วนะ
01:02:31 → 01:02:34 75 นี่อาจจะผอมไม่แล้วก็ไม่รู้เสูงเท่า
01:02:34 → 01:02:37 ไหร่นะฮะถ้าสูงสัก 180 นี่ก็น่าจะพอดีพอ
01:02:37 → 01:02:44 ดีนะแต่ถ้ากว่า 180 นี่ก็ก็ถือว่าผอมไป
01:02:44 → 01:02:49 ครับมันก็จะดูได้จากว่าไอ้ที่ผอมไปเนี่ย
01:02:49 → 01:02:52 อะไรมันหายไปเยอะกว่ากันล่ะนะเปอร์เซ็นต์
01:02:52 → 01:02:57 body fat หรือหรือ Muscle mas นะ misal
01:02:57 → 01:03:01 Fat อ่าเหลือกี่เปอร์เซ็นต์คือหลายคนผอม
01:03:01 → 01:03:07 ๆนะฮะนะแต่แต่เปอร์เซ viser Fat กับไอ้
01:03:07 → 01:03:10 เปอร์เซ body fat ยังสูง
01:03:10 → 01:03:14 อ่ะแต่เปอร์เซ Muscle mas
01:03:14 → 01:03:18 ต่ำครับสัดส่วนมันก็เลยมันก็เลยดูว่าเออ
01:03:18 → 01:03:19 สัด
01:03:19 → 01:03:24 ส่วนหรือน้ำหนักหรือความผอมเนี่ยมันได้นะ
01:03:24 → 01:03:27 แต่เนื้อในอ่ะเนื้อในที่ว่าไป 3-4 อย่าง
01:03:27 → 01:03:32 เนี่ยนะมันไม่ได้ไม่ได้นะอครับ
01:03:32 → 01:03:37 เออดังนั้นผอมแล้วค่าไขมันขึ้นก็ใช่ว่าจะ
01:03:37 → 01:03:39 ดีเสมอไปนะครับเออถ้ากล้ามเนื้อมันลด
01:03:39 → 01:03:44 เนี่ยนะอันนี้ถือว่าผิดปกตินะนะอืๆภาวะ
01:03:44 → 01:03:47 การึสรินก็ไม่มีเออถ้าอ้วนเนี่ยน้ำหนัก
01:03:47 → 01:03:51 มันลดลงนะก็ส่วนใหญ่อ่ะน้ำหนักที่มันลดลง
01:03:51 → 01:03:54 ได้เนี่ยมันจะมีความหมายเรื่องมันสลายไข
01:03:54 → 01:03:57 มันมันน่ะมากนะเอ่อไม่ได้เป็นการสลาย
01:03:57 → 01:04:00 เปอร์เซ็นต์กล้ามเนื้อหรอกแต่ถ้าผอมเนี่ย
01:04:00 → 01:04:03 ถ้าผอมเนี่ยบางครั้งเ่าน้ำหนักก็ยังไม่
01:04:03 → 01:04:06 เปลี่ยนน่ะเพราะมันผอมแล้วอ่ะนะฮะนะแต่
01:04:06 → 01:04:10 บางทีสัดส่วนมันเปลี่ยนนะแล้วคนผอมส่วน
01:04:10 → 01:04:15 ใหญ่เนี่ยส่วนที่จะลดลงบางคนนะฮะนะมันจะ
01:04:15 → 01:04:18 เป็นกล้ามเนื้อซะมากกว่าไขมันอืเพราะ
01:04:18 → 01:04:22 ฉะนั้นไอ้ไอค่าไอ้เรื่องเกี่ยวกับอ่าร่าง
01:04:22 → 01:04:24 กายเราเนี่ยนะฮะ
01:04:25 → 01:04:27 มันมีความหมายในการประเมินนะฮะทั้ง
01:04:28 → 01:04:32 visceral Fat ทั้งอ่า
01:04:32 → 01:04:35 เปอร์เซ็น body fat เป Muscle Mass นะ
01:04:35 → 01:04:37 อื
01:04:37 → 01:04:41 ครับนะเพราะฉะนั้นคนนี้เนี่ยในช่วงที่
01:04:41 → 01:04:44 Action ของฮอร์โมนคอร์ติซอลเที่พยายามจะ
01:04:44 → 01:04:48 เก็บพลังงานเนี่ยนะฮะเนี่ยพอเกิดการเก็บ
01:04:48 → 01:04:52 พลังงานปุ๊บเนี่ยนะฮะ CP กับ hepatic ไส
01:04:52 → 01:04:54 เนี่ยก็จะต้องออกมาช่วย
01:04:54 → 01:04:59 ช่วยกันนะฮะนะนะพอมันออกมาปุ๊บเนี่ยนะจาก
01:04:59 → 01:05:04 นะ ldl type a ก็เลยจะถูก CP เปลี่ยน
01:05:04 → 01:05:10 เป็น type B ครับแล้วก็ตัว hdl เนี่ยนะ
01:05:10 → 01:05:14 อ่ามีเปิไสออกมานะมันก็เลยถูกทำลายมันก็
01:05:14 → 01:05:17 เลยลด
01:05:17 → 01:05:23 ลงก็ที่เคยพูดไปนะอื
01:05:23 → 01:05:26 ๆ
01:05:26 → 01:05:31 เนี่ย ctp ออกมาปุ๊บนะมันจะเปลี่ยนตัว
01:05:31 → 01:05:36 type a ให้เป็น type B นะครับเ ctp
01:05:36 → 01:05:39 ออกมาปุ๊บ
01:05:39 → 01:05:45 เนี่ยแล้วมันจะมีเปิไสนะฮะมาเปลี่ยนต่อนะ
01:05:45 → 01:05:51 เนี่ยกลายเป็นระดับ hdl ลดลงนะฮะอื Small
01:05:51 → 01:05:53 เพิ่ม
01:05:53 → 01:05:57 ขึ้น
01:05:57 → 01:06:01 มีสงสัยอะไรมั้ยคน
01:06:01 → 01:06:05 นี้จะกลับไปดูค่าค่านี้ของเขาอีกเพราะ
01:06:05 → 01:06:07 ฉะนั้นตรงเนี้ยเราก็เลยลงว่าน่าจะเป็น
01:06:07 → 01:06:11 type B ครับเพราะว่าเลนมันสูงมากนะฮะ
01:06:11 → 01:06:14 ซึ่งมันก็ตรงกับผลตรวจเ้าด้วยเนี่ยพี่หมอ
01:06:14 → 01:06:19 ใช่ฮะคือแรกๆเนี่ยมันก็ดูดีอ่ะนะฮะแต่หมอ
01:06:19 → 01:06:23 คิดว่าเรื่องของเนี่ยเรื่องของกินผิด
01:06:23 → 01:06:28 เนี่ยนะนะการกินที่บอกนะฮะนะคือคุณน่ะ
01:06:28 → 01:06:30 เป็นภาวะด้วยอินซูลินแล้วก็เป็นสายแบบ
01:06:30 → 01:06:34 เนี้ยสายพุงเครียดเนะครับถ้าเกิดเรื่อง
01:06:34 → 01:06:37 ของน้ำหน่งน้ำหนักเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ
01:06:37 → 01:06:39 ถ้ามีนะฮะนะหรือการควบคุมภาวะด้วย
01:06:39 → 01:06:42 อินซูลินเนี่ยนะมันก็เรื่องของการปรับ
01:06:42 → 01:06:45 อาหารคู่กับการทำ iif ในช่วงแรกๆอ่ะถูก
01:06:45 → 01:06:50 ต้องนะครับแต่คุณก็จะต้อง f ไปเรื่อยๆอ่ะ
01:06:50 → 01:06:52 นะว่าสูงเท่าไหร่น้ำหนักค่ากลางเท่าไหร่
01:06:53 → 01:06:56 สมส่วนเป็นยังไงนะหรือตอนนี้เนี่ยสมส่วน
01:06:56 → 01:07:01 ค่อนผอมนะเอ่อสิ่งต่างๆดีขึ้นแค่ไหนนะ
01:07:01 → 01:07:04 แล้วก็การปรับพลังงานสารอาหารเนี่ยก็จะ
01:07:04 → 01:07:09 ต้องอืจะต้องพอดีอ่ะในแต่ละช่วงนะถ้าเกิด
01:07:09 → 01:07:14 120 เนี่ยต้องยังไงแล้วถ้าเกิดลงมาถึง 80
01:07:14 → 01:07:17 75 อะไรอย่างเงี้ยเนี่ยก็ต้องปรับอีกนะ
01:07:17 → 01:07:21 ฮะปรับเป็นช่วงๆไปเลยองานนี้พุงเครียด
01:07:21 → 01:07:25 ด้วยคอซอออกออกออกฤทธ์ดีเลยนะพี่หมอใช่
01:07:25 → 01:07:30 คอซอเก็จะอเค้าก็จะเยอะอยู่แล้วอ่ะนะเจะ
01:07:30 → 01:07:34 เด่นเยอะอยู่แล้วเอออืมอ๋อมีการผมก็เพิ่ง
01:07:34 → 01:07:38 รู้นะเนี่ยว่ามันสามารถสลายเอาโปรตีนมาใน
01:07:38 → 01:07:41 ร่างกายเองอ่ะออเป็น a b ได้เคือคุณหมอ
01:07:41 → 01:07:45 เข้าใจว่าตัวเนี้ยนะฮะตัวร่างกายที่เเป็น
01:07:45 → 01:07:49 อย่างเงี้ยจากภาวะที่เค้าเคขาดทั้งพลัง
01:07:49 → 01:07:51 งานแล้วก็สารอาหารน่ะโดยเฉพาะช่วงแรกๆน่า
01:07:51 → 01:07:54 จะขาดพลังงานครับครับตอนอันนนี้เป็นโหมด
01:07:54 → 01:07:58 Station น่ะนะซึ่งโหมดเนี้ยเป็นโหมดที่
01:07:59 → 01:08:02 เป็นแอชหลักเลยของตัวคอร์ติซอลนั้นแน่นอน
01:08:02 → 01:08:06 เรื่องกล้ามเนื้อเนี่ยที่มันถูกสลายออกมา
01:08:06 → 01:08:09 เนี่ยนะฮะนะมันจะมากกว่าเรื่องของไขมัน
01:08:09 → 01:08:12 คือคอซอก็พยายามที่จะหวงไขมันแล้วก็เก็บ
01:08:12 → 01:08:15 ไขมันแต่น่าจะเป็นเรื่องของการสลายกล้าม
01:08:15 → 01:08:18 เนื้อแทนหรือเปล่าเพราะฉะนั้นค่าเ Beam
01:08:18 → 01:08:22 ถึงได้ติดลบไปเยอะแยะเลยอืๆ
01:08:22 → 01:08:26 ๆคือตอนเมันเข้าเนื้อมากเกินไป
01:08:26 → 01:08:30 หน่อยแล้วเติมคอมล่ะเพราะว่าตอนเนี้ยเรา
01:08:30 → 01:08:34 น้ำหนัก 75 แล้วน่ะจาก 120 เนี่ยนะฮะ
01:08:34 → 01:08:37 เรื่องของพลังงานสารอาหารมันไม่ใช่สูตร
01:08:37 → 01:08:40 เดิมจะไปกินมสจะไปกินไข่ต้มอะไรอย่าง
01:08:40 → 01:08:44 เงี้ยหรือไปทำไอยู่ตาปีตาชาติอย่างเงี้ย
01:08:44 → 01:08:48 มันไม่ได้มันก็ต้องเับไปสิต้อง metabolic
01:08:48 → 01:08:52 flexibility ต้อง cheating ต้องอะไรอ่ะ
01:08:52 → 01:08:56 โปรตีน Day ต้องแฟชบอมต้องเนี่ยต้องปรับ
01:08:56 → 01:08:59 อ่ะต้องปรับเรื่องเป็น 2 มื้อ 3 มื้ออะไร
01:08:59 → 01:09:02 ไปแล้วล่ะนะฮะนะอืเดี๋ยวร่างกายจะยิ่ง
01:09:02 → 01:09:05 เสียสมดุลไปเยอะแต่ก็เนี่ยไม่รู้นะไม่รู้
01:09:05 → 01:09:07 อาการและอาการแสดงของเขาคอ่ะว่าเป็นตาย
01:09:07 → 01:09:11 ร้ายดียังไงนะเพราะเราก็ไม่ได้คอนแทคโดย
01:09:11 → 01:09:16 ตรงอ่ะครับๆแต่นี้เป็นเคส study ที่ดีมาก
01:09:16 → 01:09:20 นะพี่หมอเออนะเพะลงมาปั๊บพอถึงน้ำหนักสม
01:09:20 → 01:09:23 ส่วนแล้วเนี่ยมันถ้ามันยังไม่ปรับการกิน
01:09:23 → 01:09:26 ให้มันถูกเนี่ยมันกลายว่าตีกลับตีกลับเลย
01:09:26 → 01:09:30 ปัญหาเออแล้วปัญหาตีกลับมันจะเป็นแอชของ
01:09:30 → 01:09:34 ฮอร์โมนตัวแม่มากกว่าตัวพ่ออือันนี้ชัดนะ
01:09:34 → 01:09:37 เพราะว่าอ่าไกิสลายหาร hdl ก็ดีถือว่าดี
01:09:37 → 01:09:42 มากเออ TG index ก็ปกติฮะเออแต่ type B
01:09:42 → 01:09:45 มาเต็มเลยเพราะฉะนั้นคนเนี้ยคุณหมอแนะนำ
01:09:45 → 01:09:48 นะให้ตรวจเรื่องของ fasting อิซูลินตรวจ
01:09:48 → 01:09:52 ม่า ir อ่าตรวจงานการทำงานของตับให้
01:09:52 → 01:09:56 สมบูรณ์แบบนะฮะเอ่อตรวจเรื่องของการ
01:09:56 → 01:09:59 อักเสบนะแล้วก็ตรวจไทรรอยด์แล้วก็ตรวจ
01:09:59 → 01:10:05 วิตามินดีเออนะฮะเรื่องของการอักเสบเ่ะนะ
01:10:05 → 01:10:08 hsrp อ่ะนะหรือไม่ก็เฉพาะ C reactive
01:10:08 → 01:10:12 โปรตีนตัวเดียวก็ได้นะฮะนะครับเรื่องการ
01:10:12 → 01:10:16 อ่าเรื่องฟังก์ชันของต่อมไทรรอยด์นะฮะ
01:10:16 → 01:10:18 เพราะว่าเรื่องของคอร์ติซอลเนี่ยกับ
01:10:18 → 01:10:24 ไทรรอยด์เนี่ยมันจะมีผลอ่อมันจะมีผลอ่า
01:10:24 → 01:10:27 เคียงกันไปคู่กันไปเลยนะฮะ
01:10:27 → 01:10:30 นะเพราะฉะนั้นไทรอยฟังก์ชัน Test น่าจะ
01:10:30 → 01:10:35 ตรวจนะการอักเสบต้องตรวจนะจะตรวจเป็นตัว
01:10:35 → 01:10:41 เินด้วยคู่กับ hsrp ก็ได้นะฮะแล้วก็
01:10:41 → 01:10:45 วิตามิน D ddx นะถ้าไม่เคยตรวจก็ตรวจสัก
01:10:45 → 01:10:46 ครั้ง
01:10:46 → 01:10:51 นึงอืเพราะฉะนั้นตรงเนี้ยิ Acid เก็ค่อยๆ
01:10:51 → 01:10:55 เหมือนจะเด้งขึ้นมานะนะฮะนะอือๆนะเพราะ
01:10:55 → 01:10:59 ว่าเรื่องของระบบการเผาผลาญเนี่ยมันลดลง
01:10:59 → 01:11:05 รวมทั้งตอนนี้นะฮะการซ่อมแซมน่ะนะคือร่าง
01:11:05 → 01:11:08 กายมันไม่ซ่อมอ่ะมันซ่อมมันไม่รู้จะซ่อม
01:11:08 → 01:11:11 ยังไงอ่ะเพราะว่าเพราะว่าโปรตีนอะไรต่างๆ
01:11:11 → 01:11:14 มันขาดสารอาหารมันไม่ถึงนะ
01:11:14 → 01:11:19 ครับครับผมมันก็ซ่อมไม่ได้
01:11:19 → 01:11:24 เอนึกนึกถึงผมนึกถึงผมตอนที่ช่วงอ้วนๆ
01:11:24 → 01:11:28 แล้วก็ลดน้ำำหนักแล้วก็ทำ omas มาประมาณ 6
01:11:28 → 01:11:32 เดือนนะครับผมแล้วก็ช่วงก่อนจะเลิก omas
01:11:32 → 01:11:35 ก็เหมือนกับขาดพลังงานขาดสารอาหารยังไงก็
01:11:35 → 01:11:38 ไม่รู้ครับผมนึกถึงเห็นเคสนี้ก็นึกถึงตัว
01:11:38 → 01:11:41 เองเลยครับผมคือ omas มันต้องมันต้อง
01:11:41 → 01:11:44 อาหารกับพลังงานให้ให้ได้นะพี่หมอนะใช่
01:11:44 → 01:11:46 ใช่คือพูดง่ายๆคือต้องคุมคุมคอร์ติซอลให้
01:11:46 → 01:11:49 ได้อ่ะซึ่งมันคุมยากคุ้มยากพอสมควรแล้วมี
01:11:49 → 01:11:53 ความรู้อ่ะนะเออเพราะฉะนั้นเนี่ยเนี่ยคุณ
01:11:53 → 01:11:58 หมอถึงได้บอกว่าในที่สุดแล้วเนี่ยเอ่อได้
01:11:58 → 01:12:01 จะมสจะกินแบบตัดคาฟอะไรอย่าเงี้ยแต่มันก็
01:12:01 → 01:12:05 ได้สักช่วงนึงในที่สุดแล้วมาตรฐานที่สุด
01:12:05 → 01:12:08 ระยะยาวสุดคือ 2 Me A Day นะฮะมื้อแรก
01:12:08 → 01:12:12 กับมื้อเย็นนะครับเอ่อแต่แต่ในระหว่างนี้
01:12:12 → 01:12:15 คุณอยากจะสลับ omas ด้วยเพราะว่าติดใจ
01:12:15 → 01:12:17 อยู่ยังอยาก If โปรลองฟัอะไรอย่าเงี้ย
01:12:17 → 01:12:21 เอ่อก็เอามาสลับแต่ว่ามาสลับเป็นแบบนานๆ
01:12:21 → 01:12:26 ทีนะไม่ใช่ตัวหลักที่จะเป็นประจำเอออืม
01:12:26 → 01:12:27 ใช่
01:12:27 → 01:12:32 ครับอันนี้เป็นเคสในต่างประเทศนะฮะนะเอ่อ
01:12:32 → 01:12:36 ก็จะมีว่าเอ่อคนที่เป็นผู้ชายอายุ 36 ปี
01:12:36 → 01:12:39 นะมีการกินวีแกนอยู่ 7 ปีแล้วช่วงที่กิน
01:12:39 → 01:12:43 วนอยู่ก็จะมีความเจ็บป่วยต่างๆนานานะฮะ
01:12:43 → 01:12:46 แล้วเาก็มาให้ดูผลแลปนะว่าเนี่ย Total
01:12:46 → 01:12:52 คอเลสตอรอล 144 hdl 38 ไตกิล 69 แล้วก็
01:12:52 → 01:12:55 ldl 90 นะฮะนะซึ่งก็ตัวเลขก็ยังดูสวย
01:12:55 → 01:12:59 อัตราส่วนก็ยังดีนะฮะหลังจากนั้นเนี่ยไอ้
01:12:59 → 01:13:02 จากความเจ็บป่วยเนี่ยซึ่งเข้าสุดจะทานทน
01:13:02 → 01:13:07 ต้องใช้คำนี้นะเค้าก็เลยหักดิบตัดใจนะ
01:13:07 → 01:13:11 เปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือเลยพลิกหน้ามือเป็น
01:13:11 → 01:13:15 หลังมืออ่ะนะมาตัดพืชขาดกินซีดี 100%
01:13:15 → 01:13:18 อยู่ 6 เดือนนะแล้วตอนปัจจุบันนี้ก็คือ
01:13:18 → 01:13:22 กินเป็นแบบเอ่อเค้าเรียกว่าคีโตซีดีนะฮะ
01:13:22 → 01:13:25 ในต่างประเทศเจะเรียกว่าคีโต CD เนี่ย kcd
01:13:25 → 01:13:28 ครับนะก็กินมา 4 เดือนรวมทั้งหมด 10
01:13:28 → 01:13:32 เดือนพอๆกับเคสเมื่อกี้นี้นะฮะนะแต่เคส
01:13:33 → 01:13:36 นี้เเริ่มด้วย V แกน 7 ปีอ่าแล้วตั้งแต่
01:13:36 → 01:13:38 ต้นปีเป็นต้นมาก็คือต่อด้วย CD แล้วปรับ
01:13:39 → 01:13:42 มาเป็น kcd ซึ่งพอปรับมาเนี่ยอันนี้ผลแลบ
01:13:42 → 01:13:46 ล่าสุดนะฮะนะเนี่ยก็จะเป็นเรื่องของ Total
01:13:46 → 01:13:50 cal ขึ้นมาจาก 100 40 4 เนี่ยมาเป็น
01:13:50 → 01:13:55 400 กว่านะฮะแล้วก็ hdl ก็อ่าจาก 38
01:13:55 → 01:14:00 ขึ้นมาเป็น 58 นะแล้วไิก็ 84 แล้วก็ ldl
01:14:00 → 01:14:02 ก็
01:14:02 → 01:14:08 338 ทีนี้เคสนี้ก็มีการเทียบออกมานะ
01:14:08 → 01:14:12 ฮะตั้งแต่ช่วง weekend นะฮะนะแล้วก็
01:14:12 → 01:14:17 เปลี่ยนมาเป็นเนี่ยมาเป็น CD kcd นะครับ
01:14:17 → 01:14:21 ก็มีแต่บไปิดโปรไฟล์เนี่ยจากเนี่ยภาวะด้ว
01:14:21 → 01:14:24 อินซูลินไกินหารด้วย hdl อ่ะ 1.8 ก็ลดลง
01:14:24 → 01:14:28 มาเหลือ 1.4 นะอแล้วก็ remnant ก็ 16 มา
01:14:29 → 01:14:31 เป็น 20 นะ
01:14:31 → 01:14:35 เอ่อตัวตัว non hdl เนี่ยนะจาก 14 ก็
01:14:35 → 01:14:39 ขึ้นก็ลดลงมาเหลือก็ก็พวกนี้ก็ไม่มีปัญหา
01:14:39 → 01:14:42 อะไรนคนนี้นะฮะนะเพียงแต่ว่าตอนนี้เนี่ย
01:14:42 → 01:14:46 เามีปัญหาในเรื่องของไอ้ตัวรตที่ตัดเนี่ย
01:14:46 → 01:14:52 นะที่มันน้อยลงนะฮะก็มีแค่นั้นอๆคือคือ
01:14:52 → 01:14:57 สำหรับอันนี้นะฮะอยากจะให้ให้ดูเรื่อง
01:14:57 → 01:15:01 เนี่ยค่าของอะไรปิดโปรไฟล์ 2 ฝั่งนะ
01:15:01 → 01:15:03 ระหว่างกินพืชกับกินสัตว์ในคนคนเดียวกัน
01:15:03 → 01:15:07 มันสามารถเปลี่ยนได้อย่างเงี้ยคืออย่าไป
01:15:07 → 01:15:12 ตกใจในตัวเลขนะกินไปทางพืชเลยนะมันก็จะ
01:15:12 → 01:15:16 เป็นแบบต่ำเตี้ยเลี่ยดินต่อแตะ่อแตะแบบ
01:15:16 → 01:15:19 นี้นะนะก็เหมือนกับว่าเอออย่างนี้ดูไม่
01:15:20 → 01:15:24 สูงนะฮะอ่าๆๆแต่มกินอย่างงี้มันก็พุ่ง
01:15:24 → 01:15:28 อย่างเงี้ยนะฮะแต่มันก็มีเหตุผลอธิบายได้
01:15:29 → 01:15:33 นะแล้วกินอย่างนี้ก็หายหมดเลยนะฮะก็หาย
01:15:33 → 01:15:36 หมดเลยแต่ถ้ากินอย่างงี้เก็อยู่เป็นโน่น
01:15:36 → 01:15:40 เป็นนี่อ่ะโดยเฉพาะเป็นภูมิแพ้เนี่ยนะอืๆ
01:15:40 → 01:15:44 ๆเก็เลือกเอาแล้วกันว่าอยากจะมีสุขภาพแบบ
01:15:44 → 01:15:48 ไหนอ่ะนะอันนี้วิจารณญาณของแต่ละบุคคลก็
01:15:48 → 01:15:52 ตัดสินเอาเองนะอันนี้ก็เอ่อกินไปหาหมอไป
01:15:52 → 01:15:57 กินยาไปนะเจ็บป่วยไปค่าไขค่าไขมันดีเออเ
01:15:58 → 01:16:01 ตัวเลขไขมันสวยอย่างเงี้ยนะสวยแต่อนี้ไม่
01:16:01 → 01:16:07 ต้องนะฮะแล้วก็แฮปปี้ครับๆกนะยาก็ไม่ต้อง
01:16:07 → 01:16:10 กินนะ
01:16:10 → 01:16:14 ครับเอออย่างมีมีคนนี่นะฮะอันนี้ก็ไม่มี
01:16:14 → 01:16:17 อะไรนะฮะอันนี้หมออยากจะให้ดูว่าเนี่ย
01:16:17 → 01:16:21 เอ่อบางคนเนี่ยเขาก็บอกว่าเสูงนี้นะแล้ว
01:16:21 → 01:16:24 น้ำหนักก็อยู่ในช่วงนี้นะเนี่ยเค้าเริ่ม
01:16:24 → 01:16:28 ทำ If นะแล้วกินแบบ omas จากปลายเดือน
01:16:28 → 01:16:33 เมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเนี่ยนะ
01:16:33 → 01:16:38 อ่าเนี่ยนับจากกระดักกดามาเนี่ยน้ำหนักก็
01:16:38 → 01:16:44 เท่าเนี้ย 63 ครับจ2 -8 นะ 63.2 -
01:16:44 → 01:16:50 63.8 นะอันนี้คือรูปร่างสายแป้งเป็นแบบ
01:16:50 → 01:16:55 พุมตับนะฮะนะครับครับแล้วสูงเท่านี้นะน้ำ
01:16:55 → 01:16:57 หนักเท่านี้ก็ถือว่าน้ำ
01:16:58 → 01:17:03 หนักตกขอบล่างแล้วอ่ะนะฮะนะสูง 183 เนี่ย
01:17:03 → 01:17:06 น้ำหนักค่ากลาง - 105 มันก็ประมาณ 78 ก
01:17:06 → 01:17:09 อ่ะนะฮะอืๆๆเอ่าแล้วน้ำหนักควรจะอยู่ใน
01:17:09 → 01:17:15 ช่วงอะไรอ่ะ 73 -83 อ่ะนะฮะอันนี้ก็ 63
01:17:15 → 01:17:18 เนี่ยก็ต่ำกว่าน้ำหนักค่าร่างไปอีกตั้ง 10
01:17:18 → 01:17:23 กลนะครับเพราะฉะนั้นถึงจะทำ If ถึงจะอะไร
01:17:23 → 01:17:26 ก็ตามน่ะนะน้ำหนักมันจะลดกว่านี้อีกมั้ย
01:17:26 → 01:17:28 ล่ะมันไม่มีอะไรจะลดแล้ว
01:17:28 → 01:17:33 อ่ะครับมันไม่มีอะไรจะลดแล้วอ่ะมันนี่น้ำ
01:17:33 → 01:17:37 หนักมันมันก็อยู่มันก็ไม่ไม่ไม่ลดน่ะดี
01:17:37 → 01:17:41 แล้วล่ะถ้าลดไปเนี่ยน่าจะปางตายล่ะนะอไม่
01:17:41 → 01:17:45 ไหวแล้วล่ะนะเอ่อเพราะว่ามันขนาดนี้แล้ว
01:17:45 → 01:17:48 อ่ะนะฮเพราะฉะนั้นเนี่ยก็ไม่ต้องไปสงสัย
01:17:48 → 01:17:53 ว่าเออทำไมทำไกินแบบ omas หรือว่ากินแบบ
01:17:53 → 01:17:57 คาฟต่ำำหรือกินโภชนาการอะไรก็ตามเนี่ยนะ
01:17:57 → 01:18:00 ก็คุณน่ะมันถึงที่สุดๆแล้วอ่ะนะไม่
01:18:00 → 01:18:02 เปลี่ยนแล้วล่ะถ้าเปลี่ยนเก็แปลว่าป่วย
01:18:02 → 01:18:04 แล้วนะ
01:18:04 → 01:18:06 [เพลง]
01:18:06 → 01:18:11 เ้ออืๆๆๆก็อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรอันนี้เรา
01:18:11 → 01:18:14 ก็เคยเห็นแล้วนะฮว่าถ้าเกิด
01:18:14 → 01:18:19 อ่าวิธีการแก้ไขพวก ldl สูงแล้วก็ ldl
01:18:19 → 01:18:22 type B เนี่ยก็ทำอย่างนี้นะฮะก็เปลี่ยน
01:18:22 → 01:18:25 ที่เรื่องของการเติมคาฟการปรับเรื่องไข
01:18:25 → 01:18:31 มันนะแล้วก็โปรตีนเติมจากพืชเข้าไปนะฮะ
01:18:31 → 01:18:36 ครับอันสุดท้ายเนี่ยนะฮะก็คือในเรื่องที่
01:18:36 → 01:18:39 ว่าเนี่ยหมอหมอมีสรุปประเด็นตอนที่ทัไม่
01:18:39 → 01:18:43 อยู่นิดนึง่ะว่าจงำนวนแคลอรี่ที่ร่างกาย
01:18:43 → 01:18:47 ควรจะได้รับต่อวันนะเอาอะไรมาคำนวณก็เอา
01:18:47 → 01:18:50 ความสูงนี่แหละ - 105 แล้วเป็นน้ำหนัก
01:18:50 → 01:18:55 ค่ากลางนะเพื่อจะเทียบเคียงไปหานะปริมาณ
01:18:55 → 01:19:00 หรือน้ำหนักนะของสารอาหารที่ควรจะกินข้า
01:19:00 → 01:19:04 ร่างอย่างเหมาะสมพอดีในแต่ละวันครับเรา
01:19:04 → 01:19:08 คำนวณแคลอรี่เพื่อไปเทียบเป็นกรัมของสาร
01:19:08 → 01:19:12 อาหารนะฮะนะของสารอาหารนะคาร์โบไฮเดรต
01:19:12 → 01:19:15 เท่าไหร่โปรตีนเท่าไหร่ไขมันควรจะเท่า
01:19:15 → 01:19:19 ไหร่นะครับโดยเป็นกรรมนะฮะนะแต่เราต้อง
01:19:19 → 01:19:25 เทียบอ่ามาจากต้นทางคือแคลอรี่ที่ควรรได้
01:19:25 → 01:19:29 รับต่อวันนะฮะครับอ่าอย่าเข้าใจผิดว่าเรา
01:19:29 → 01:19:34 กำลังสอนให้นับแคและใช้ทฤษฎีแ in แ Out
01:19:34 → 01:19:37 อะไรอย่างงี้ไม่ใช่นะฮะเพราะการคำนวณใน
01:19:37 → 01:19:41 แง่ของการแบบนับแควหรือพลังงานเนี่ยนะอัน
01:19:41 → 01:19:45 นั้นเขาจะเทียบเคียงไปหาปริมาณพลังงานของ
01:19:45 → 01:19:49 อาหารต่างๆที่จะกินข้าวร่างในแต่ละวันนะ
01:19:49 → 01:19:51 ฮะก็คือไม่ใช่คำนวณแคลอรี่มาแล้วแล้วก็
01:19:51 → 01:19:54 บอกว่าอ่าผัดซีอิ๊วมีเท่านี้แคลอรี่ข้าว
01:19:54 → 01:19:56 ขาวหมูมีเท่านี้
01:19:56 → 01:19:59 แคลอรี่แล้วก็กินบวกกันอย่าให้เกิน
01:19:59 → 01:20:03 แคลอรี่ที่คำนวณมาตอนต้นนะจะได้ไม่เกิด
01:20:03 → 01:20:07 เ่อเค้าเรียกก็คือแคอินแ Out นะอันนี้ไม่
01:20:07 → 01:20:11 ใช่นะฮะนะเราข้ามไปอีกสเต็ปนึงนะอ่าเรา
01:20:11 → 01:20:15 ข้ามไปถึงตัวอ่าสารอาหารหลักหรือแมคโคร
01:20:15 → 01:20:18 นิวเทรียนเนี่ยคาร์โบไฮเดรตนะโดยต้อง
01:20:18 → 01:20:21 เทียบออกมาเป็นกรัมเป็นเน็ตคาร์โบไฮเดรต
01:20:21 → 01:20:25 เน็ตโปรตีนเน็ตแฟตนี่แหละนะฮะครับเอออัน
01:20:25 → 01:20:28 นี้นะมันต่างกันนะฮะมันต่างกันเพราะว่า
01:20:28 → 01:20:32 เรานะจากแคลอรี่มาที่ตัวสารอาหารแต่
01:20:32 → 01:20:35 อันเนี้ยจากแคลอรี่พลังงานเขาก็ยังมาที่
01:20:35 → 01:20:38 เรื่องพลังงานอยู่อ่ะเขาก็ไม่พ้นพลังงาน
01:20:38 → 01:20:42 เพราะเขาจะแคอินแ Out บวกลบอืๆครับไม่
01:20:42 → 01:20:44 เหมือนกันนะฮะเพราะว่าสารอาหารเนี่ยก็จะ
01:20:44 → 01:20:48 โยงไปที่ฮอร์โมนนะแต่อันนี้มันโยงไปที่
01:20:48 → 01:20:53 ฮอร์โมนไม่ได้นะก็เลยวุ่นวายกันว่ากินตัว
01:20:53 → 01:20:55 นี้แคลอรี่เท่านี้กินตัวนี้แคลอรี่เท่า
01:20:55 → 01:20:58 นี้แคลอรี่ก็เท่ากันน่ะนะแต่ว่ามันผลมัน
01:20:58 → 01:21:06 ต่างกันนะฮะครับก็หมดแล้วนะอืๆๆคือตรง
01:21:06 → 01:21:10 เนี้ยจริงๆแล้วในเพจ longevity เนี่ยนะฮะ
01:21:10 → 01:21:12 หมอได้มีการเอ่อ
01:21:12 → 01:21:17 โพสต์ในเรื่องของการคำนวณแคลอรี่นะฮะตาม
01:21:17 → 01:21:21 อะไรอ่ะตาม activity ของคนด้วยนะว่าถ้า
01:21:21 → 01:21:25 คุณน่ะนั่งเฉยๆเนี่ยคุณเอาตัวเลขเนี้ยคูณ
01:21:25 → 01:21:29 เอ่าแต่ถ้าเกิดคุณยืนคุณเดินหรือคุณมี
01:21:29 → 01:21:31 activity หรือคุณต้องใช้พลังงานเยอะๆ
01:21:31 → 01:21:35 เนี่ยนะจะเอาตัวเลขตัวไหนคูณนะฮะซึ่ง
01:21:35 → 01:21:37 เหล่านั้นน่ะถือว่าเป็น Bal metabolic
01:21:37 → 01:21:42 Rate ของคนๆนั้นแล้วก็คนนั้นน่ะอ้วนหรือ
01:21:42 → 01:21:45 ค่อนไปทางสมส่วนค่อนผอมเอ้ยสมส่วนกับผอม
01:21:45 → 01:21:49 เนี่ยคำนวณแบบนึงในผู้หญิงผู้ชายนะแต่ถ้า
01:21:49 → 01:21:51 อ้วนน่ะอ้วนหรือน้ำหนักเกินเนี่ยก็จะ
01:21:51 → 01:21:54 คำนวณอีกแบบนึงแล้วทั้งหมดเนี่ยมันคือ Bal
01:21:54 → 01:21:59 metabolic Rate นะแต่เวลาในทางปฏิบัติ
01:21:59 → 01:22:02 จริงๆในการกินสารอาหารต่างๆเหล่าเนี้ย
01:22:02 → 01:22:05 เข้าไปแล้วเนี่ยนะฮะ
01:22:05 → 01:22:09 นะมันก็ไปได้เท่ากับ Bal metabolic เลย
01:22:09 → 01:22:12 นะแต่ส่วนเกินของคุณเนี่ยที่คุณจะมี
01:22:12 → 01:22:15 activity หรืออะไรต่างๆที่จะมากจะน้อย
01:22:15 → 01:22:18 อะไรต่างๆเนี่ยไอ้ตัวพลังงานที่เก็บสะสม
01:22:18 → 01:22:20 อยู่ในร่างกายของคุณเนี่ยมันก็จะถูกนำมา
01:22:20 → 01:22:25 ใช้นะโดยค่อยเป็นค่อยไปนะซึ่งตรงเนี้ยเรา
01:22:25 → 01:22:27 ก้าวร่วงไปไม่ได้ว่าวันนี้คุณต้องเติม
01:22:27 → 01:22:30 เข้าไปอีก 500 แคลอรี่วันนี้ต้องเติมเข้า
01:22:31 → 01:22:34 ไปอีก 200 วันนี้ต้องควรจะติดลบไปซัก 200
01:22:34 → 01:22:37 อะไรเงี้ยเราไม่รู้หรอกนะฮะเราเอาตัว Bal
01:22:37 → 01:22:40 metabolic Rate เป็นมาตรฐานไว้้ก่อน
01:22:40 → 01:22:42 แล้วการกินในแนวของ low cf High GR
01:22:42 → 01:22:47 Fat เนี่ยนะเราคำนวณกันแค่เนี้ยพอนะฮะ
01:22:47 → 01:22:50 หลังจากนั้นเนี่ยการมากไปน้อยไปหรือการ
01:22:50 → 01:22:53 กำจัดแคลอรี่ส่วนเกินอะไรต่างๆเหล่าเนี้ย
01:22:53 → 01:22:59 เอ่อร่างกายเจะปรับเเองครับคือเวลาค่าแลบ
01:22:59 → 01:23:02 ที่ออกมาปุ๊บแล้วเนี่ยถ้าทุกอย่างนะถ้า
01:23:02 → 01:23:04 ทุกอย่างแบบบางนัดเนี่ยทุกอย่างอ่ะอยู่ใน
01:23:04 → 01:23:07 เกณฑ์มาตรฐานแล้วเนี่ยครับเราก็มาดูความ
01:23:07 → 01:23:10 เป็นจริงเอ้ยเรายังอ้วนอยู่มยถ้าเรายัง
01:23:10 → 01:23:14 อ้วนอยู่อ่ะนะเราก็ปรับลดเรื่องของของตัว
01:23:14 → 01:23:18 ไขมันนะฮะเพราะว่าตอนเเราจำกัดาฟแล้วนะ
01:23:18 → 01:23:20 ถ้ายังอ้วนอยู่น้ำหนักยังเกินอยู่เราก็ลด
01:23:20 → 01:23:25 ไขมันแต่เราผอมโฆษณาขึ้นมาครับพี่มออ่อ
01:23:25 → 01:23:28 เราผอมเราสมส่วนนะฮะนะแล้วเราอยากสร้าง
01:23:28 → 01:23:32 กล้ามเนื้อเนี่ยเราก็เพิ่มโปรตีนมันก็มี
01:23:32 → 01:23:36 แค่เนี้ยะนะเราก็เพิ่มโปรตีนเออเพิ่ม
01:23:36 → 01:23:39 โปรตีนคุณภาพเพื่อจะได้ไปสร้างก้ามเนืออ
01:23:39 → 01:23:44 อืๆๆๆมีเวลาอีกสักนิดนึงมั้ยสัก 5 นาทีนะ
01:23:45 → 01:23:48 อันนี้โอ๊ยเอาเลยครับขอนิดนึงนะครับก็คือ
01:23:48 → 01:23:51 ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงเนี่ยนะฮะหมออยาก
01:23:51 → 01:23:53 จะบอกว่า
01:23:53 → 01:23:58 เอ่อไอ้ตัวแลบต่างๆเนี่ยหรือการที่เรา
01:23:58 → 01:24:02 โพสต์ถามเรื่องความผิดปกติแล้วเราเราเรา
01:24:02 → 01:24:05 ไม่สามารถลงรายละเอียดลึกๆเนี่ยเกี่ยวกับ
01:24:05 → 01:24:09 ค่าแลปการแปรผลแล้วก็การหาทางออกได้เนี่ย
01:24:09 → 01:24:13 นะฮะครับคือต้นตอเลยของเหตุเนี่ยนะมัน
01:24:13 → 01:24:18 เป็นเรื่องของการกินนะที่หมอเรียกว่ากิน
01:24:18 → 01:24:22 ไม่เป็นกินไม่ถูกกินซี้ซันะฮะนะครับถ้าจะ
01:24:22 → 01:24:27 มาแตกเป็นคล้ายๆเป็นไดอะแกรมเนี่ยนะฮะนะ
01:24:27 → 01:24:31 การกินในลักษณะที่ไม่ถูกเนี่ยนะฮะจะมี
01:24:31 → 01:24:35 อยู่ 2 ลักษณะอันที่ 1 คือกินเกินกับอัน
01:24:35 → 01:24:39 ที่ 2 คือกินผิดนะแล้วสิ่งที่กินก็มี 3
01:24:39 → 01:24:42 เรื่องนัแหละนะคาร์โบไฮเดรตโปรตีนกับไข
01:24:42 → 01:24:46 มันนะนะอืๆๆฝั่งกินเกินเนี่ยซึ่งเป็นตาม
01:24:46 → 01:24:49 ยุคสมัยนี้เนี่ยนะเราก็กินเกินค
01:24:49 → 01:24:53 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะฮะนะครับการกิน
01:24:53 → 01:24:57 เกินเนี่ยแน่นอนนะฮะในคนอ้วนคนผอมเนี่ยผล
01:24:57 → 01:25:01 จากการกินเกินก็คือการสะสมพลังงานการไป
01:25:01 → 01:25:03 กระตุ้นฮอร์โมนเ่อฝั่งสะสมพลังงาน
01:25:03 → 01:25:07 อินซูลินคอร์ติซอลเอสโตรเจนอะไรเออกมานะ
01:25:07 → 01:25:10 ครับนะแล้วร่างกายก็จะเปลี่ยนแปลงไปเป็น
01:25:10 → 01:25:12 เรื่องของการอักเสบเป็นเรื่องของการมีไร
01:25:13 → 01:25:17 ปิดโปรไฟล์เป็นอย่างโน้นอย่างนี้นะฮะนะก็
01:25:17 → 01:25:21 ดังที่มีหลายเคสที่เราเอ่อไลฟกันไปแล้วนะ
01:25:21 → 01:25:26 ฮะอือถามว่าแล้วเรากินเกินได้มยนะจริงๆ
01:25:26 → 01:25:30 แล้วเนี่ยเรากินเกินได้มยคำตอบคือได้นะ
01:25:30 → 01:25:35 ครับแต่ความหมายของการกินเกินได้ได้ในทาง
01:25:35 → 01:25:39 ที่ถูกต้องเนี่ยคือคุณต้องกินเกินเพื่อ
01:25:39 → 01:25:43 ที่จะให้เอาส่วนเกินเหล่านั้นไปสร้าง
01:25:43 → 01:25:49 กล้ามเนื้อมีกรณีเดียวฮะนะอืคำว่ากินเกิน
01:25:49 → 01:25:52 หรือกินไม่ถูกต้องอะไรเงี้ยคุณต้องกิน
01:25:52 → 01:25:55 เพื่อที่จะสร้างหรือเพื่อที่จะ ind ร่าง
01:25:56 → 01:26:00 กายเนี่ยให้ไปสร้างกล้ามเนื้อหรืออ่อไปไป
01:26:00 → 01:26:03 ไปสร้างมวลกล้ามเนื้อ Muscle mas เท่า
01:26:03 → 01:26:06 นั้นเองนะฮะนะครับแล้วถ้าคุณกินเกินใน
01:26:06 → 01:26:08 ลักษณะนี้
01:26:08 → 01:26:12 นะแล้วก็เป็นไปดังที่ความถูกต้องที่หมอ
01:26:12 → 01:26:16 ว่าเนี่ยนะตัว ldl จะไม่เป็นปัญหานะ
01:26:16 → 01:26:21 ฮะตัวของ ldl เนี่ยจะเป็น type a นะ
01:26:21 → 01:26:23 เพียงแต่ว่ามันจะต้องไปเอาฮอร์โมน
01:26:23 → 01:26:26 อินซูลิน IG F1 เทสโทสเตอโรนอะไรออกมา
01:26:27 → 01:26:30 คุณต้องเติมเ่อโปรงโปรตีนคุณภาพอะไรต่างๆ
01:26:30 → 01:26:34 ให้ถูกต้องนะในช่วงเวลามื้อแรกมื้อเย็น
01:26:34 → 01:26:37 อะไรต่างๆครับสิ่งที่เกินพวกนี้มันจะไป
01:26:37 → 01:26:40 สร้างกล้ามเนื้ออ่าเราก็จะไม่มีผลเสีย
01:26:40 → 01:26:42 อะไรเลยนะแล้วกลับเป็นการกินเกินที่
01:26:43 → 01:26:49 แฮปปี้อ่ะเอออ่าๆมาฝังกินผิดนะกินผิดนะ
01:26:49 → 01:26:53 ครับกินผิดเนี่ยส่วนใหญ่มันผิดผิดที่ชนิด
01:26:54 → 01:26:59 กับสัตส่วนนะฮะนะเอ่อผิดชนิดเนี่ยชนิด
01:26:59 → 01:27:01 หรือประเภทประเภทของโปรตีนประเภทของ
01:27:01 → 01:27:04 คาร์โบไฮเดรตประเภทของไขมันนะครับซึ่งมัน
01:27:05 → 01:27:07 ก็คนไม่ถ้าคนไม่รู้เรื่องมันก็ก็ผิดอยู่
01:27:07 → 01:27:11 แล้วนะฮะนะผิดชนิดต่อมาก็คือผิดสัดส่วนนะ
01:27:11 → 01:27:15 ฮะสัดส่วนก็ที่เราก็เคยรู้กันไปว่าสัด
01:27:15 → 01:27:16 ส่วนที่ดีที่สุดเมื่อกี้ก็บอกไปตั้งแต่
01:27:16 → 01:27:19 ตอนแรกแล้วนะว่าคาควรเท่าไหร่โปรตีนกี่
01:27:19 → 01:27:22 เปอร์เซ็นต์แล้วแฟตเนี่ยควรต้องมากกว่า 6
01:27:22 → 01:27:28 10% ครับซึ่งถ้าเรากินถูกชนิดและถูก
01:27:28 → 01:27:33 ปริมาณหรือสัดส่วนนะถ้าอย่างนี้นะฮะตับ
01:27:33 → 01:27:37 ตับอ่อนกล้ามเนื้ออะไรต่างๆนะฮะนะพวกนี้
01:27:37 → 01:27:40 เนี่ยในที่สุดแล้วเนี่ยโดยเฉพาะตับเนี่ย
01:27:40 → 01:27:44 เขาก็จะผลิตแต่ ldl type a นะไม่ผลิต
01:27:44 → 01:27:49 type B นะฮะก็วกมานิดนึงเนี่ยว่าคำว่า
01:27:49 → 01:27:53 กินถูกนะไม่ได้กินผิดโดยถูกชนิดถูกสัด
01:27:53 → 01:27:57 ส่วนหรือปริมาณเนี่ยคืออย่างไรนะฮะหลัก
01:27:57 → 01:28:00 การสำคัญที่สุดเลยเนี่ยก็
01:28:00 → 01:28:04 คือตัวไขมันนะที่เป็น Good Healthy Fat
01:28:04 → 01:28:07 ที่หมอบอกเนี่ยมันต้องมากกว่า 60% ของ
01:28:07 → 01:28:12 พลังงานรวมทั้งวันนะฮะนะโดยตัวรายละเอียด
01:28:12 → 01:28:15 ของตัวไขมันดีเนี่ยนะต้องเป็นไขมันไม่
01:28:15 → 01:28:20 อิ่มตัวมากกว่าไขมันอิ่มตัวและต้องมาจาก
01:28:20 → 01:28:24 พืชมากกว่ามาจากสัตว์นะอืระดับ
01:28:25 → 01:28:27 เปอร์เซ็นต์ของไขมันไม่อิ่มตัวรวมแล้วจะ
01:28:27 → 01:28:30 ต้องประมาณ 70% นะฮะคือไม่เป็นตัวเชิง
01:28:30 → 01:28:34 เดี่ยว 50 ไม่ตัวเชิงซ้อน 20 นะฮะโดยมี
01:28:34 → 01:28:39 ระดับของไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 30% นะอัน
01:28:39 → 01:28:43 นี้จึงจะเป็นการกินไขมันที่ถูกต้องนะอื
01:28:43 → 01:28:46 แล้วผลจากการกินไขมันที่ถูกต้องในลักษณะ
01:28:46 → 01:28:50 นี้ในลักษณะนี้ในยำคือพืชมากกว่าสัตว์ไม่
01:28:50 → 01:28:55 อิ่มตัวมากกว่าอิ่มตัวในสัตสน 703 นะอ
01:28:55 → 01:29:00 1 ระบบความสมดุลของการเผาผันพลังงานต่าง
01:29:00 → 01:29:04 ๆทั้งฝั่งเก็บสะสมฝั่งสลายเนี่ยนะจะไม่
01:29:04 → 01:29:08 ก่อให้เกิดการสะสมพลังงานนะครับคือจะไม่
01:29:08 → 01:29:12 สะสมพลังงานนะฮะนะจะไม่มีการพลังงานว
01:29:12 → 01:29:17 Energy อะไรต่างๆเกิดขึ้นนะอืแนะ 2 จะ
01:29:17 → 01:29:22 เป็นตัวประกันว่าร่างกายจะมีแต่การเบนๆๆ
01:29:22 → 01:29:26 นะเกือบจะทั้งวันทั้งคืนคือร่างกายจะเข้า
01:29:26 → 01:29:30 สู่โหมดการเผาผลาญพลังงานนะเพราะว่าการ
01:29:30 → 01:29:32 เก็บพลังงานเนี่ยหมอบอกแล้วว่าพลังงานที่
01:29:32 → 01:29:35 ร่างกายชอบเก็บคือไขมันไม่อิตัวเชิง
01:29:35 → 01:29:39 เดี่ยวหรือมูฝ้านะแต่เวลาจะใช้พลังงาน
01:29:39 → 01:29:41 เนี่ยเขาจะเปลี่ยนเชิงเดี่ยวเป็นไขมัน
01:29:41 → 01:29:47 อิ่มตัวแลเอาไปเผาๆๆนะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:29:47 → 01:29:51 ถ้าสัดส่วนของพลังงานเป็นนังที่บอก 70 30
01:29:51 → 01:29:54 อะไรอย่างนี้นะครับจะเป็นตัวประกันได้เลย
01:29:54 → 01:29:57 ว่าในแต่ละวันแต่ละวันคุณจะมีการเบิรน
01:29:57 → 01:30:00 ทั้งมื้อแรกเอ้ยทั้งทั้งช่วงวันกลางวัน
01:30:00 → 01:30:04 กลางคืนอะไรต่างๆนะแล้วก็ตัวฮอร์โมนต่างๆ
01:30:05 → 01:30:08 นะที่จะออกมาแอชในการกำกับพลังงานการเผา
01:30:08 → 01:30:12 การเก็บการสร้างการซ่อมแซมอะไรต่างๆเนี่ย
01:30:12 → 01:30:17 ก็จะแล้วก็ท่อต่างๆเนี่ยนะฮะจะเป็นท่อน้ำ
01:30:17 → 01:30:20 เลือดน้ำเหลืองเรื่องต่างๆทุกอย่างจะจะ
01:30:20 → 01:30:24 อยู่ในเกณฑ์แบบดีที่สุดอ่ะนะฮะนะแล้วผล
01:30:24 → 01:30:26 ที่ตามมาก็คือ ldl ที่ได้มันจะเป็นแต่
01:30:26 → 01:30:29 type a type a type a นะถึงมันจะ
01:30:29 → 01:30:33 มากแต่มันก็เป็น type a อ่ะนะฮะอันนี้
01:30:33 → 01:30:38 ให้ให้ให้รู้ข้อนี้ไว้สุดท้ายก็คือ
01:30:38 → 01:30:42 นะตัวการที่สะท้อนว่า
01:30:42 → 01:30:46 นะสิ่งที่เราทำมาถูกต้องและ ldl เป็น type
01:30:46 → 01:30:49 a เนี่ยนะฮะก็คือ metabolic Marker ที่
01:30:49 → 01:30:52 ชื่อว่า lant cholesterol นะฮะ
01:30:52 → 01:30:56 ครับนะ remnant คอเลสเตอรอลจะไม่เกิน
01:30:57 → 01:31:00
01:31:00 → 01:31:05 อือื lant คอสอจะเป็น metabolic mar
01:31:05 → 01:31:10 เนี่ยในการบอกนะว่าตอนเยร่างกายเป็น Fat
01:31:10 → 01:31:14 burner ร่างกายเบนแทบจะทั้งวันทั้งคืน
01:31:14 → 01:31:19 สิ่งที่เบนนะร่างกายเเอาไปซ่อมแซมอ่าเอา
01:31:19 → 01:31:22 ไปซ่อมแซมอะไรต่างๆของร่างกายหรือไปสร้าง
01:31:22 → 01:31:25 เซลล์ใหม่สร้างกล้ามเนื้ออะไรก็ตามนะครับ
01:31:25 → 01:31:30 อีกอันนึงก็คือตัว ldl จะเป็น ldl type
01:31:30 → 01:31:34 a
01:31:34 → 01:31:40 นะแล้วก็ ldl type A คือ ldl ที่ปกตินะ
01:31:40 → 01:31:44 แล้วร่างกายก็จะนำไปสร้างอะไรได้บ้างนะไป
01:31:44 → 01:31:48 สร้างน้ำดีไปสร้างวิตามินดีอ่าไปสร้าง
01:31:48 → 01:31:52 ฮอร์โมนนะที่มีสารต้นทางที่เป็นไไขมันก็
01:31:52 → 01:31:54 คือคอร์ติซอลเทสโทสเตอโรนโปรเจสเตอโรน
01:31:54 → 01:31:59 เอสโตรเจนนะฮะไปสร้างเยื่อหุ้มเซลล์นะไป
01:31:59 → 01:32:03 สร้างเยื่อหุมเซลนะแล้วก็ไปสร้างสารสื่อ
01:32:03 → 01:32:07 ประสาทไปสร้างสารสื่อประสาทนะฮะทีนี้มาดู
01:32:07 → 01:32:11 ตรง ldl type a ไปสร้างเยื่อหุ้มเซลล์
01:32:11 → 01:32:16 นะฮะตำแหน่งของโครงสร้างที่ตัว L dl
01:32:16 → 01:32:20 type a อ่ะเคเอาไปสร้างมากที่สุดเนี่ย
01:32:20 → 01:32:23 ก็คือกล้ามเนื้อกับผนังหลอดเลือดนะฮะคือ
01:32:23 → 01:32:27 กล้ามเนื้อกับผนังหลอดเลือดนะอืโครงสร้าง
01:32:27 → 01:32:30 2 อวัยวะนี้จะเป็นโครงสร้างที่เขา
01:32:30 → 01:32:34 ต้องการ ldl type a อ่ะนะมาสร้างมากที่
01:32:34 → 01:32:40 สุดนะครับกรณีของผนังหลอดเลือดเนี่ยนะอจะ
01:32:40 → 01:32:47 เป็นจุดสำคัญที่สุดนะฮะนะของ ldl ไ a นะ
01:32:47 → 01:32:52 เพราะถ้าอ๋อร่างกายเนี่ยปรับทุกทุกสิ่ง
01:32:52 → 01:32:54 ทุกอย่างแบบที่หมอบอกมาตั้งแต่ต้นเนี่ยนะ
01:32:54 → 01:32:59 ฮะครับๆผนังหล่อเลือดคุณจะมีการซ่อมแซมนะ
01:32:59 → 01:33:02 มีการไม่เกิดปัญหาที่เป็น High ris ของ
01:33:02 → 01:33:07 as cvd นะครับอันนี้อันนี้คือความหมาย
01:33:07 → 01:33:11 ของผนังเยืหุ้มเซลล์นะโดยเฉพาะผนังหลอด
01:33:11 → 01:33:12 เลือด
01:33:12 → 01:33:16 นะแต่จริงๆเนี่ยต้องบอกก่อนว่าโครงสร้าง
01:33:16 → 01:33:19 ที่ ldl typ a จะไปมากที่สุดก็คือกล้าม
01:33:19 → 01:33:24 เนื้อนะลองลงมาคือผนังหล่อเลือดึซึ่งก็มี
01:33:24 → 01:33:29 เยอะอ่ะนะกรณีที่ ldl ที่ไปไม่ได้เป็น ldl
01:33:29 → 01:33:33 type a แต่มันเป็น type B นะคราวนี้
01:33:33 → 01:33:39 แหละขบวนการซ่อมเนี่ยนะมันก็ไปซ่อมแบบแบบ
01:33:39 → 01:33:42 อะไรอ่ะซ่อมไปทำลายไปอ่ะมันจะพังไปอ่ะนะ
01:33:43 → 01:33:46 ฮะแล้วจุดที่จะเป็นปัญหาที่สุดคือเยื่อบุ
01:33:46 → 01:33:49 ผนังหล่อเลือดของหัวใจนะนะอันนี้มากกว่า
01:33:49 → 01:33:52 สมองมากกว่าผนังหล่อดเลือดส่วนหนึ่งๆของ
01:33:52 → 01:33:57 ร่างกายครับเพราะว่ามันเป็นจุดที่มันเค้า
01:33:57 → 01:34:01 เรียกว่ามันมันไวที่สุดน่ะต่อการตอบสนอง
01:34:01 → 01:34:06 ของตัวตัว ldl แต่ต้องเป็น ldl type a
01:34:06 → 01:34:09 นะฮะครับแต่ถ้ามาเป็น type B ปุ๊บเนี่ย
01:34:09 → 01:34:12 มันก็จะเกิดการตอบสนองแต่มันจะเป็นการตอบ
01:34:12 → 01:34:17 สนองในการเจ็บป่วยนะอืเกิดการอักเสบการ
01:34:17 → 01:34:21 เกิดการซ่อมแบบที่กลายเป็นเป็นพลาเป็น
01:34:21 → 01:34:28 อะไรอ่ะนะที่เราที่เราก็รู้กันน่ะนะ
01:34:28 → 01:34:34 ครับเอออ่าก็จะเจะเป็นอย่างงี้นะฮะนะออ๋อ
01:34:34 → 01:34:37 rdl นี่ตัวซ่อมแซมผนังผนังหลอดเลือดเลย
01:34:38 → 01:34:41 ใช่มั้ยฮะใช่ฮะนะ ldl คือคอเลสเตอรอลมัน
01:34:41 → 01:34:44 เป็นปลาสเตอร์ยาอยู่แล้วนะคอเลสเตอรอล
01:34:44 → 01:34:48 เค้าเรียกว่ามันเป็นมัน
01:34:48 → 01:34:52 เป็นมันเป็นตัวตัวซ่อมน่ะคือตัวซ่อมหลักๆ
01:34:52 → 01:34:56 คือโปรตีนนะฮะแต่คอเลสเตอรอลกับโอเมก้า 3
01:34:56 → 01:34:59 เนี่ยเขาอยู่ในโอเมอยู่ในโปรตีนเพงั้น
01:34:59 → 01:35:02 เวลาไปเนี่ยโปรตีนก็ 1 กดอะมิโนไป
01:35:02 → 01:35:06 คอเลสเตอรอลไปโอเมก้า 3 ไปแล้วไปไหนส่วน
01:35:06 → 01:35:11 ใหญ่ก็คือไปซ่อมมาถ้าไม่ซ่อมก็ไปสร้าง
01:35:11 → 01:35:15 นะแล้วมันอส่วนที่ไปเนี่ยมันก็ไปในรูปของ
01:35:15 → 01:35:19 ldl type a นะ
01:35:19 → 01:35:23 ครับมันมีอือะไรอ่ะมันมีที่เ้าบอกว่าอะไร
01:35:23 → 01:35:29 นะมันอย่างงี้มันมีว่าอะไรนะครับเออ ldl
01:35:29 → 01:35:33 สูงโตลคอเลสเตอรอลสูงอย่ากินไข่แดงนะให้
01:35:33 → 01:35:38 กินเฉพาะไข่ขาวครับครับให้กินเฉพไข่ขาว
01:35:38 → 01:35:43 เอ่ออยากกินไข่แดงมันถูกมั้ยล่ะคำพูดแบบ
01:35:43 → 01:35:47 เนี้ยไข่ขาวคืออะไรอ่ะฮะไข่ขาวคือโปรตีน
01:35:47 → 01:35:50 แต่เป็นลีนโปรตีนน่ะคือคุณกินไข่ขาวคุณ
01:35:50 → 01:35:56 กินอกไก่คุณกินอะไรนะเวโปรตีนหรือคือคือ
01:35:56 → 01:36:00 คือเป็นโปรตีนที่ไม่มีไขมันน่ะนะฮะครับ
01:36:00 → 01:36:03 โปรตีนที่ไม่มีไขมันเป็นโปรตีนไขมันต่ำๆ
01:36:03 → 01:36:05 มากหรือเป็นลีนโปรตีนพวกนี้มันกระตุ้น
01:36:05 → 01:36:09 อินซูลินไงนะเพราะฉะนั้นมันเป็นโปรตีนก็
01:36:09 → 01:36:11 จริงมันจะไปซ่อมก็จริงแต่เวลามันไปซ่อม
01:36:11 → 01:36:14 เนี่ยมันจะเรียกฮอร์โมนตัวไหนมาซ่อมอ่ะอ
01:36:14 → 01:36:19 พ่อพๆพ่อมาหน่อยพ่อมาเร็วเนี่ยหนูจะซ่อมเ
01:36:19 → 01:36:22 เนี่ยเเป็นผงเป็นแผลเปเค้าแตกอ่ะนะเค้า
01:36:22 → 01:36:25 อักเสบอ่ะเออครับครับอินซูลิน
01:36:25 → 01:36:29 ก็คืออินซูลินก็จะเป็นตัวที่ถูกเรียกออก
01:36:29 → 01:36:33 มานะครับเพราะว่ามันเป็นลีนโปรตีนน่ะนะ
01:36:33 → 01:36:38 มันมีมันมันมันมันจะไปเรียกไอ้พวกอะไรอ่ะ
01:36:38 → 01:36:41 ไอ้พวกโกดฮอร์โมนออกมาเนี่ยมันมันเรียก
01:36:41 → 01:36:46 มันเรียกไม่ได้อ่ะนะมันไปไปไปได้ยินพ่อ
01:36:46 → 01:36:50 ได้ยินก่อนน่ะนะพ่อก็รีบออกมาจะซ่อมเหอ
01:36:50 → 01:36:53 แล้วเวลาซ่อมๆแล้วเป็นยังไงอ่ะนะซ่อมไป
01:36:53 → 01:36:55 ทำลายไปซ่อมไปพังไปอ่ะอินซูลินคือ
01:36:55 → 01:36:58 อินซูลินเว่าซ่อมนะฮะไม่ใช่โดฮอร์โมนซ่อม
01:36:58 → 01:37:01 ตัวเดียวนะแต่อินซูลินไม่ได้ซ่อมแบบปกติ
01:37:01 → 01:37:03 คืออินซูลินเนี่ยเมีหน้าที่ซ่อมแต่ซ่อม
01:37:03 → 01:37:08 แบบฉุกเฉินไงนะอ๋ออินซูลินเนี่ยอ่าเป็น
01:37:08 → 01:37:13 ฮอร์โมนอินซูลินคืออินซูลินคืออชอินซูลิน
01:37:13 → 01:37:18 คือฮอร์โมนฉุกเฉินนะฮะครับเพราะฉะนั้นคน
01:37:18 → 01:37:21 เราในปัจจุบันที่คุณกิน High Bad C คาฟ
01:37:21 → 01:37:24 แปรรูปอาหารแปรรูปเนี่ยคือคุณก็ไปกระตุ้น
01:37:24 → 01:37:28 อินซูลินให้ออกมาทำงานแบบฉุกเฉินน่ะนะอ่า
01:37:28 → 01:37:31 แล้วอินซูลินคือ inflammation อินซูลินก็
01:37:31 → 01:37:33 คือฮอร์โมนที่เป็นตัวที่ทำให้เกิด
01:37:33 → 01:37:36 ปฏิกิริยาการอักเสบของร่างกายสูงสุดใน
01:37:36 → 01:37:40 กระบวนการฮอร์โมนพลังงาน 13 ตัวนะครับ
01:37:40 → 01:37:43 เพราะฉะนั้นทั้งออกมาฉุกเฉินทั้งออกมาให้
01:37:43 → 01:37:46 มันอักเสบอย่างเงี้ยมันคุ้มมั้ยล่ะเออ
01:37:46 → 01:37:49 เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่จะกินเนี่ยต้อง
01:37:49 → 01:37:52 รู้ว่าเ้ากระตุ้นอินซูลินแต่อินซูลินจะมา
01:37:53 → 01:37:57 มากมาน้อยอ่ายังไงเนี่ยนะในทางตรงกันข้าม
01:37:57 → 01:38:01 ถ้าคุณกินไข่ทั้งฟองหรือกินไข่แดงอ่ะเอ่อ
01:38:01 → 01:38:04 หรือไข่ขาวบวกไข่แดงเนี่ยเ่าพวกนี้เค้าเ
01:38:04 → 01:38:08 มีไขมันน่ะไปล้อมกรอบไปหุ้มไว้นะแล้วเวลา
01:38:08 → 01:38:12 เ้าส่งสัญญาณเนี่ยนะคือไขมันเนี่ยมันจะ
01:38:12 → 01:38:15 เบรคมันจะเบรกเรื่องอินซูลินกับคอร์ติซอล
01:38:15 → 01:38:19 อยู่แล้วนะฮะอินซูลินคอร์ติซอลเค้าเ้าไม่
01:38:19 → 01:38:22 ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่รู้สึกอะไรกับตัวไขมัน
01:38:22 → 01:38:24 น่ะนะเพราะฉะนั้นมันเป็นโปรตีนก็จริงแต่
01:38:25 → 01:38:27 มันมีไขมันหุ้มเวลาเส่งสัญญาณไปเรียก
01:38:27 → 01:38:30 ฮอร์โมนมาจัดการกับเทีเนี่ยนะความที่มัน
01:38:30 → 01:38:33 เป็นไขมันดีอ่ะนะมันจะไปส่งสัญญาณเรียก
01:38:33 → 01:38:36 ฮอร์โมนลูกเทพออกมาโดยเฉพาะตัวซ่อมก็คือ
01:38:36 → 01:38:40 ตัวโกดฮอร์โมนนะเพราะฉะนั้นไขมันเนี่ยคือ
01:38:40 → 01:38:44 ตัวเรียกโกดฮอร์โมนออกมาซ่อมเอาไปซ่อมที
01:38:44 → 01:38:48 ซ่อมทีตอนนี้พร้อมแล้วนะโปรตีนก็มีไขมัน
01:38:48 → 01:38:52 ดีก็มีนะแล้วก็สารอาหารได้โปรตีน
01:38:52 → 01:38:55 คอเลสเตอรอลก็มีโอเมก้า 3 ก็มีอ่ะเวลาไข่
01:38:55 → 01:38:58 อ่ะไข่แดงอ่ะนะอย่างโอเมก้า 3 มันอยู่ใน
01:38:58 → 01:39:01 ไข่แดงของไข่ขาวอ่ะครับนะเพราะฉะนั้นพ
01:39:01 → 01:39:05 ซ่อมเนี่ยมันเรียกอ่ะแต่เรียกให้ถูกอ่ะนะ
01:39:05 → 01:39:08 ถ้าเรียกให้ถูกมันจะซ่อมถูกพอมันซ่อมถูก
01:39:08 → 01:39:13 มันก็ไม่เกิดปัญหาไม่อักเสบไม่เกิดโรค
01:39:13 → 01:39:19 ครับมันถึงบทบามเนี่ยอืๆๆๆมันก็ต้องคิด
01:39:19 → 01:39:22 น่ะนะฮะจะกินอะไรครับที่หมอบอกว่ากินผิด
01:39:22 → 01:39:27 กินเกินอะไรอย่าเงี้ยอ่านั่นแหละนะอืๆ
01:39:27 → 01:39:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ตามข้อสรุปนี่แหละฮะ
01:39:30 → 01:39:34 ว่าครับเ่อสูตรของอาหารโลค High ก Fat ก็
01:39:34 → 01:39:38 ยังเป็นเรื่องของโปรตีนคาร์โบไฮเดรตนะแต่
01:39:38 → 01:39:40 เมื่อเอาโปรตีนรวมกับคาร์โบไฮเดรตแล้ว
01:39:40 → 01:39:42 เนี่ยไขมันจะต้องมีสัดส่วนที่มากกว่าคือ
01:39:42 → 01:39:47 ไขมันต้องเกิน 60 นะครับอ่าโปรตีนกับคาฟ
01:39:47 → 01:39:50 ต้องไม่เกินไม่เกินครึ่งนึงเกินไม่ได้นะ
01:39:50 → 01:39:54 ฮะเพราะว่าอไขมันจะต้องเป็นตัวหลักในการ
01:39:54 → 01:39:57 เรียกฮอร์โมนอะไรต่างๆนะออกมาเผาผลาญออก
01:39:57 → 01:40:03 มาซ่อมนะฮะครับก็เหมือนเคสอ่าที่เราเรา
01:40:03 → 01:40:07 ผ่านไปเมื่อกี้เนี่ยก็คือคนนี้นะฮะคนนี้
01:40:07 → 01:40:11 ก็ถือว่าเค้าเผาอย่างเดียว่ะฮะนะอัตราการ
01:40:11 → 01:40:15 ซ่อมในตอนนี้ของเา้าเนี่ยอ่ามันซ่อมไม่
01:40:15 → 01:40:19 ได้ะมันเหมือนแทบจะซ่อมไม่ได้ะนะนะโปรตีน
01:40:19 → 01:40:22 สลายอย่างเดียวนะจะเก็บโปรตีนเพื่อเอาไป
01:40:22 → 01:40:24 ซ่อมเนี่ยซ่อมไม่ได้เพราะว่าระดับของ
01:40:24 → 01:40:28 ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นครับ
01:40:28 → 01:40:31 แต่ฮอร์โมนลูกเทพก็ยังมาสลายพลังงานอยู่
01:40:31 → 01:40:34 เพราะว่าเขาไม่ได้กินเยอะและไม่ได้กินคาฟ
01:40:34 → 01:40:37 เคิฟไปทดแทนอะไรเลยส่วนน้ำมันสาดเย็นก็คง
01:40:37 → 01:40:40 ไม่ได้กินน่ะนะแต่เขาก็มี activity ทำมา
01:40:40 → 01:40:43 หากินในชีวิตประจำวันเนี่ยฮอร์โมนลูกเทพ
01:40:43 → 01:40:47 ก็มาสลายนะครับนะแต่ขณะเดียวมันซ่อมไม่
01:40:47 → 01:40:51 ได้มันซ่อมไม่ได้นะเอ่อเพราะว่าเครียดมัน
01:40:51 → 01:40:56 เยอะนะครับหลายได้แต่ไม่ซ่อมเป็นเคสที่ดี
01:40:56 → 01:41:00 เลยที่ทำให้เห็นเลยว่าแบบมันตีกลับอ่ะอื
01:41:00 → 01:41:04 มันเริ่มเริ่มไม่ใช่ผลดีละกับการทำแบบนี้
01:41:04 → 01:41:08 ไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยครับอืโอเคก็มีเท่า
01:41:09 → 01:41:11 นี้นะวันเนี้ย
01:41:11 → 01:41:16 นะโอเคก็คือมีมีเคสหลักๆที่อยากจะให้ลอง
01:41:16 → 01:41:19 ศึกษาดูนะฮะนะ
01:41:19 → 01:41:22 ครับ
01:41:22 → 01:41:27 โอเคมีคำถามอืสสอะไรอีก
01:41:27 → 01:41:29 มั้ยน่าจะยังไม่มีหรือแอบไปกินข้าวกัน
01:41:29 → 01:41:32 แล้วยังอยู่
01:41:32 → 01:41:36 ครับออโอเคเห็นภาพเห็นภาพเห็นภาพเยอะเลย
01:41:36 → 01:41:41 ครับผมอืๆๆ
01:41:41 → 01:41:45 อืแต่นานๆจะเจอแบบนี้ทีนะพี่หมอที่ที่แบบ
01:41:46 → 01:41:49 ว่าค่าเลมนั้นสูง Apple B สูงอย่างเงี้ย
01:41:49 → 01:41:51 ครับอื
01:41:51 → 01:41:54 ลบอ่ะ a b ติดลบในขณะที่ยังไม่ดื้อ
01:41:54 → 01:41:58 อินซูลินแล้วก็ไม่รู้ a1c a1c เป็นยังไง
01:41:58 → 01:42:02 a1c เขาไม่ได้ตรวจนะฮะเพราะว่าเตรวจอ๋อเ
01:42:02 → 01:42:07 ตรวจด้วยด้วยเออ๋อ a1c 5.3 คือคือเรื่อง
01:42:07 → 01:42:10 ของคเนี่ยไม่ได้มีผลเรื่องของอินซูลิน
01:42:10 → 01:42:14 เนี่ยเรีเวสแล้วนะฮะจากภาวะดื้ออินซูลิน
01:42:14 → 01:42:18 ตอนที่อ้วนๆน่ะอันที่ 3 ครับของรบาลนะ
01:42:18 → 01:42:21 แล้วเราก็ไม่มีแลบเก่าอ่ะมาเปลี่ยนเียบ
01:42:21 → 01:42:25 ด้วยนะใช่ๆหลายอย่าง่ะฮะนะอันนี้เมาให้ดู
01:42:25 → 01:42:29 แลปตอนที่เน้ำหนัก 70 เลยนะแต่ตอน 1220
01:42:29 → 01:42:32 เนี่ยแบเป็นยังไงไม่รู้ค่าไตค่าตับก็ขาดๆ
01:42:32 → 01:42:37 เกินๆเอออ่าขาดอ่ะมันไม่เห็นภาพจากทรงรูป
01:42:37 → 01:42:41 ร่างก็ดีนะฮะจากค่าแลบก็ดีเนี่ยเนี่ยก็
01:42:41 → 01:42:45 เลยต้องมามาพูดคุยหรือว่ามาให้รายละเอียด
01:42:45 → 01:42:50 ในทำนองนี้ก็แล้วแต่ความถูกความผิดด้วยนะ
01:42:50 → 01:42:54 ฮะฮะนะต้องต้องมีการซักประวัติหรือว่า
01:42:54 → 01:42:58 ต้องมีข้อเปรียบเทียบด้วยนะฮะก็ดูคร่าวๆ
01:42:58 → 01:43:04 เองอเนาะอันนี้ก็ดูคร่าวๆไปครับๆก็คนคน
01:43:04 → 01:43:06 ที่แบบว่าคิดคิดว่าแบบเราิัแล้วหรือว่า
01:43:07 → 01:43:08 เราร่างกายแข็งแรงแล้วนะอะไรอย่าเงี้ย
01:43:08 → 01:43:12 คอเลสเตอรอลสูงก็ยังไงองเอามามามาใส่ใน
01:43:12 → 01:43:15 ตารางหน่อยก็ดีอย่างน้อยมันยังเห็นมุมมอง
01:43:15 → 01:43:18 เพิ่มใช่มุมมองของ Apple B อย่างเงี้ย
01:43:18 → 01:43:20 อันนี้ซึ่งสำคัญนะความเสี่ยงระดับ 2 เลย
01:43:20 → 01:43:24 ลองใชมาจากเบาหวานอ่ะเบาหวานครับผมซึ่งซึ
01:43:24 → 01:43:28 ไม่มีใครพูดถึงนะผมไม่เคยยังไม่มีในใน
01:43:28 → 01:43:30 ประเทศเราอ่ะนะยังไม่ใครพูดถึงประเด็นนี้
01:43:31 → 01:43:33 เท่าไหร่อ่ะเออเขาก็ยังไม่ค่อยมาเผยแพร่
01:43:33 → 01:43:36 ข้อมูลกันน่ะนะก็แปกอเขายังติดอยู่กับ
01:43:36 → 01:43:41 เตรออยู่พี่หมอแล้วก็ในองกี้เนี่ยคุณหมอ
01:43:41 → 01:43:45 ได้โพสต์คือตอนเมันมีคนมาออกคลิปออกอะไร
01:43:45 → 01:43:48 อ่ะเยอะเลยอ่ะนะฮะในเรื่องของการพูดถึง
01:43:48 → 01:43:53 ว่าวิธีการรีว A B เอ่อโดยไม่ใช้การกิน
01:43:53 → 01:43:57 ยาหรืออะไรอย่างเงี้ยนะฮะมีมีน่าสนใจเยอะ
01:43:57 → 01:44:01 นะที่เป็นฝรั่งอ่ะซึ่งเขาตื่นตัวมันมานาน
01:44:01 → 01:44:05 พอสมควรแล้วฮะเขไปล้ำหน้าไปก่อนเราเยอะนะ
01:44:05 → 01:44:09 อันนั้นก็นั่นแหละนะก็เป็นคลิปที่ที่มี
01:44:09 → 01:44:13 ยอดเเรียกว่ายอดติดตามอ่อเป็นระดับแสนนะ
01:44:13 → 01:44:17 ฮะนะเป็นระดับแสนเลยล่ะนะฮะนะกับงานวิจัย
01:44:17 → 01:44:19 เลยเดี๋เดี๋ยวเรามาอัปเดตเรื่องพวกนี้อีก
01:44:19 → 01:44:21 ทีนึงมพี่หมอ
01:44:21 → 01:44:25 คุยกันคุยคแล้วไม่ได้ไปไหนนะนะคุยสบายๆ
01:44:25 → 01:44:29 พี่หมอแต่ก็คุณหมอต้องบอกทัดก่อนว่าเคส
01:44:29 → 01:44:33 เนี่ยยังไงอ่ะที่ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปีคน
01:44:33 → 01:44:37 ไข้เช็คอัพเยอะนะแล้วก็เคสที่เขาจะวน
01:44:37 → 01:44:40 เวียนแล้วก็แบบเค้าเรียกคอนเซิร์นหรือว่า
01:44:40 → 01:44:42 รู้สึกคิตี้ไม่สบายใจก็คือไอ้เรื่องอะไร
01:44:42 → 01:44:46 ปิดโปรไฟล์นี่แหละนะมันก็เลยเดี๋ยวก็จะมี
01:44:46 → 01:44:50 มีหลุดๆออกมาให้น่าให้ให้ได้ให้ได้น่าสน
01:44:50 → 01:44:52 ใจไปแล้วเอามาอธิบายกันน่ะเยอะ่ะฮะไม่
01:44:52 → 01:44:55 ต้องกลัวหรอกช่วงปลายปีเคุณชไตรมาสที่ 4
01:44:55 → 01:44:58 อครับนะอือๆๆเอ่อหน่วยงานต่างๆเพยายามที่
01:44:58 → 01:45:01 จะให้คนไปเช็คอัพกันนะ
01:45:01 → 01:45:07 ครับมันก็อย่างนึงก็คือเรื่องยูริคอ่ะที่
01:45:07 → 01:45:09 ที่ที่หมอบอกว่าเออนะถ้าเกิดว่ามันสูง
01:45:09 → 01:45:13 กว่า 5.5 แล้วเนี่ยเอ่อเรียกว่าอัตราการ
01:45:13 → 01:45:17 เผาผลาญต่ำลงอ่ะหลายคนเก็สงสัยว่าเฮ้ย
01:45:17 → 01:45:19 อัตราการเผาผลาญ
01:45:19 → 01:45:24 อ่าถ้าอัตราการเผาผลาญต่ำลงอ่ะแล้วทำไม
01:45:24 → 01:45:27 ทำไมมันสูงขึ้นทำไมยูริกมันถึงสูงขึ้น
01:45:28 → 01:45:33 ครับจริงๆแล้วเนี่ยนะก็คือก็คือร่างกายเ
01:45:33 → 01:45:37 ไม่ซ่อมต่อฮะนะมันเป็นความหมายนะในเรื่อง
01:45:37 → 01:45:41 ของคอร์ติซอลนี่แหละนะฮะอืคืออัตราการเผา
01:45:41 → 01:45:47 ผลาญนะอัตราการเผาผลาญของเขาอ่ะนะถ้าถ้า
01:45:47 → 01:45:50 กินแบบโลคาฟไปแล้วเนี่ยนะยูริกเนี่ยมัน
01:45:50 → 01:45:55 สูงขึ้นนะส่วนใหญ่แล้วเนี่ยก็คือคือการ
01:45:55 → 01:45:59 เบรนน่ะหรือเป็นแฟตเบนแเอ่อหรือไอ้ตัว Fat
01:46:00 → 01:46:02 Burning ฮอร์โมนหรือการเป็น Fat burner
01:46:02 → 01:46:06 เนี่ยนะมันมันจะค่อยๆลดลงเพราะว่าการ
01:46:06 → 01:46:08 เบิรนพวกเนี้ยเบิร์นไปแล้วเนี่ยต้องเอาไป
01:46:08 → 01:46:13 ซ่อมด้วยนะฮะนะมันถึงจะสมบูรณ์นะส่วนเก็บ
01:46:13 → 01:46:18 กักสะสมเนี่ยนะถ้าสะสมแล้วก็สะสมเลยนะแต่
01:46:18 → 01:46:21 ถ้าเบิร์นเนี่ยมันมี 2 อย่างนะฮะใช่คุณ
01:46:21 → 01:46:26 เบิร์นคุณเผาผลาญสลายเผาผลาญนะแต่สลายเผา
01:46:26 → 01:46:31 ผลาญแล้วมันซ่อมไม่ได้นะกลับซ่อมได้อ่า
01:46:31 → 01:46:35 สลายเผาผลาญแล้วต้องซ่อมได้ด้วยนะฮะนะ
01:46:35 → 01:46:39 หรือจะไปสร้างใหม่ได้เนี่ยนะถ้าถ้าเป็น
01:46:39 → 01:46:43 อย่างนี้เนี่ยนะกดยูริกมันจะไม่สูงมันจะ
01:46:43 → 01:46:48 ไม่สูงนะครับแต่ถ้าเมื่อไหร่สลายเผาผลาญ
01:46:48 → 01:46:53 นะแต่ซ่อมซ่อมไม่ได้นะซ่อมไม่ได้เพราะว่า
01:46:53 → 01:46:58 มันมีตัวคิอมาบล็อกนะ
01:46:58 → 01:47:02 เอองั้นพวกเนี้ยเอ่อกดยูริกจะสูงขึ้นมัน
01:47:02 → 01:47:07 ซ่อมไม่ได้มันซ่อมไม่ได้อืๆแล้วอืมแล้ว
01:47:07 → 01:47:10 ช่วงนี้หลายๆคน inf หลายๆคนก็พูดเรื่อง
01:47:10 → 01:47:13 คอร์ติซอลมากขึ้นนะฮะอิทธิพลของคอร์ติซอล
01:47:13 → 01:47:15 ที่มีผลเนี่ย
01:47:15 → 01:47:20 เอออืแล้วก็เร็วๆนี้ก็เดี๋ยวจะมาพูดให้
01:47:20 → 01:47:25 ฟังแล้วกันเรื่องกดยูริกกับออกซินะฮะนะใน
01:47:25 → 01:47:28 ปัจจุบันเนี่ยเราต้องพูดคู่กันนะฮะคือ
01:47:28 → 01:47:32 ยูริกกับออกซาลิกนะครับยูริกเนี่ยเจะมา
01:47:32 → 01:47:37 จากสัตว์และพืชนะแล้วก็ถ้าเกิดคุณควบคุม
01:47:37 → 01:47:41 ฮอร์โมนฝั่งสะสมสลายพลังงานไม่ดีเาจะไปไป
01:47:41 → 01:47:43 กลายเป็นเก๊าทนะฮะไปกลายเป็นเก๊าทไป
01:47:43 → 01:47:46 อักเสบอือือันนี้ผมเปิดไปเมื่ออาทิตย์
01:47:46 → 01:47:50 ก่อนอาทิตย์ที่แล้วเออแต่ถ้าคุณควบคุมได้
01:47:50 → 01:47:54 ดีได้ถูกต้องเนี่ยเขาจะเป็นภาวะไฮเปอร์
01:47:54 → 01:47:57 ยูซีมีแล้วมันจะกลายเป็นสาร Super แอนตี้
01:47:57 → 01:48:02 ออกซินที่เหนือกว่าอ่าวิตามินซีนะฮะนะเขา
01:48:03 → 01:48:08 ไปเทียบยูริกเท่ากับโคทนะฮะกับแฟิ aid นะ
01:48:08 → 01:48:14 อันนั้นอืๆๆส่วนอีกตัวนึงคือออกซาเลตนะฮะ
01:48:14 → 01:48:18 ออกซาเลตเนี่ยจะมาจากพืชไม่มาจากสัตว์นะ
01:48:18 → 01:48:21 ฮะครับออก
01:48:21 → 01:48:26 มีลักษณะคล้ายๆกับยูริกนะและทำให้เกิดสุด
01:48:26 → 01:48:30 ท้ายคือการเกิดการอักเสบของข้อคล้ายๆกับ
01:48:30 → 01:48:35 เก๊าอ่ะนะอืๆๆซึ่งซึ่งสมัยก่อนเาเรียกว่า
01:48:35 → 01:48:39 สูโดเก๊าสูโดเก๊าแต่จริงๆสมัยเนี้ยเราพอ
01:48:39 → 01:48:42 รู้แล้วว่าตัวสูโดเก๊าเนี่ยส่วนใหญ่มันมา
01:48:42 → 01:48:44 จากตัวแอนตี้นิวเทรียนในพืชโดยเฉพาะตัว
01:48:45 → 01:48:49 นี้แหละตัวออกซาลิกนะที่มันกลายเป็นเกลือ
01:48:49 → 01:48:53 ออกซาเลตแล้วตกตะกอนแต่เขมาจากพืชแล้วก็
01:48:53 → 01:48:56 ถ้าคุณควบคุมในเรื่องของระบบการเผาผลาญ
01:48:56 → 01:49:00 ระบบอ่อการสะสมพลังงานไม่ดีฮอร์โมนออกมา
01:49:00 → 01:49:03 แอคชั่นไม่ดีมันก็จะตกตะกอนตามข้อคล้ายๆ
01:49:03 → 01:49:06 เก๊าทแล้วก็อักเสบแต่มันไม่ใช่เก๊าทมัน
01:49:06 → 01:49:10 คือออกซาลิกครับแล้วตัวแก้ไขออกซาลิกนะ
01:49:10 → 01:49:15 ตัวแก้ไขออกซาลิกก็คือโปรไบโอติกคือ
01:49:15 → 01:49:21 โปรไบโอติกนะฮะครับนะแต่ตัวแก้ไขเรื่อง
01:49:21 → 01:49:27 ยูริกเรื่องยูริกนะฮะนะก็คือการควบคุม
01:49:27 → 01:49:31 อาหารและการควบคุมฮอร์โมนนะส่วนจะกินไอ้
01:49:32 → 01:49:32 ตัว
01:49:32 → 01:49:37 กรดต่างๆที่ไปปรับสมดุลกรดด่างกินน้ำเยอะ
01:49:37 → 01:49:40 ๆอันนั้นมันก็เป็นพื้นฐานที่ต้องทำต่อ
01:49:40 → 01:49:43 เนื่องกันไป
01:49:43 → 01:49:48 ครับก็ประมาณนี้ฮะโอเคครับงั้นเท่านี้
01:49:48 → 01:49:51 ก่อนครับขอบคุณมากครับพี่หมอโอเคสวัสดีนะ
01:49:51 → 01:49:53 ออ
01:49:53 → 01:50:14 [เพลง]
01:50:14 → 01:50:19
01:50:19 → 01:50:19 [เพลง]
01:50:19 → 01:50:23 สวัสดี
01:50:23 → 01:50:26 y