00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะหมาแพทยแผนไทยค่ะวันนี้จะมาชวน

00:00:02 → 00:00:05 คุยสบายๆเรื่องข้อดีของการเรียนจิตวิทยา

00:00:05 → 00:00:07 นะคะต้องบอกว่าองค์ความรู้ทางจิตวิทยา

00:00:07 → 00:00:09 จริงๆแล้วปัจจุบันเนี่ยเข้าถึงได้ง่ายมาก

00:00:09 → 00:00:12 ๆไม่ว่าจะเป็นหนังสือจิตวิทยาดีๆเนี่ยมี

00:00:12 → 00:00:15 หลากหลายมากเลยค่ะแล้วก็ช่อง YouTube เอง

00:00:15 → 00:00:18 เนาะการอ่านงานวิจัยเองการไปลงคอร์สต่างๆ

00:00:18 → 00:00:21 เองแดงคิดว่ามีประโยชน์ค่ะแล้วตัวแดงเอง

00:00:21 → 00:00:22 เนี่ยพอได้เรียนปัจจุบันเป็นเอ่อเรียน

00:00:22 → 00:00:25 เกี่ยวกับจิตวิทยาสุขภาพเนาะก็รู้สึกว่า

00:00:25 → 00:00:26 ได้กับตัวเองเช่นเดียวกันวันนี้จะนำมา

00:00:26 → 00:00:29 แบ่งปันนะคะได้ 3 อย่างด้วยกันเนาะคือ

00:00:29 → 00:00:31 ต้องบอกว่าจริงๆจิตวิทยามีหลากหลายนะคะ

00:00:31 → 00:00:34 แต่ว่าโดยส่วนตัวเนี่ยสนใจจิตวิทยาสุขภาพ

00:00:34 → 00:00:36 เพราะว่าก็จะนำมาเกี่ยวกับงานตัวเองด้วย

00:00:36 → 00:00:39 เนาะเราให้คำปรึกษาคนไข้อยู่แล้วเราอยาก

00:00:39 → 00:00:41 ที่จะมีเครื่องไม้เครื่องมือองค์ความรู้

00:00:41 → 00:00:43 เพื่อที่จะมาช่วยเขาในการทำให้เขาดูแลจิต

00:00:43 → 00:00:45 ใจตัวเองได้ดียิ่งขึ้นมันจะได้ไม่ไปกระทบ

00:00:45 → 00:00:48 กายเนาะแล้วพอไปเรียนเนี่ยปรากฏว่าข้อแรก

00:00:48 → 00:00:50 ที่ได้เลยก็คือมันไม่ได้เป็นการเรียน

00:00:50 → 00:00:53 เพื่อคนอื่นเลยค่ะเหมือนตอนเราเรียนน่ะ

00:00:53 → 00:00:54 เราจะคิดว่าเออเราเรียนเพื่อเราจะไปช่วย

00:00:54 → 00:00:57 คนอื่นใช่ป่ะแต่มันเป็นการเรียนเพื่อเข้า

00:00:57 → 00:00:59 ใจตัวเองก่อนคนแรกเลยถ้าเราเข้าใจตัวเอง

00:00:59 → 00:01:02 นั่นแหละเราถึงจะสามารถไปเปลี่ยนแปลงไป

00:01:02 → 00:01:05 เข้าใจไปช่วยคนอื่นได้นะคะเพราะฉะนั้นอัน

00:01:05 → 00:01:07 นี้ก็เป็นmindsตที่ได้จากการเรียนเนาะ

00:01:07 → 00:01:10 แล้วก็หลายๆคนจะมองว่าอ๋อเรียนจิตวิทยาก็

00:01:10 → 00:01:12 เพื่อเข้าใจคนอื่นไงจะได้รู้ว่าเราจะ

00:01:12 → 00:01:14 สัมพันธ์กับใครยังไงอย่างเงี้ยนะคะแต่

00:01:14 → 00:01:16 จริงๆคือเข้าใจตัวเองก่อนแล้วมันก็เป็น

00:01:16 → 00:01:19 ประโยชน์ค่ะคือเดิมอ่ะเราก็เข้าใจว่าเรา

00:01:19 → 00:01:21 อ่ะเข้าใจตัวเองประมาณนึงอยู่แล้วเนอะแต่

00:01:21 → 00:01:23 พอไปเรียนเนี่ยมาที่ข้อ 2 เลยก็คือเราอ่ะ

00:01:23 → 00:01:26 จะมีเครื่องไมค์เครื่องมือหรือว่าแนวทาง

00:01:26 → 00:01:30 ในการวิเคราะห์ตัวเองได้ดียิ่งขึ้นค่ะก็

00:01:30 → 00:01:32 ถือว่าเป็นอีกช้อยส์นึงเนาะนอกจากแพทย์

00:01:32 → 00:01:35 แผนไทยทำให้เราเข้าใจร่างกายจิตใจรูปกับ

00:01:35 → 00:01:37 นามแล้วอ่ะก็ลองมาศึกษานะอีกแนวนึงซึ่ง

00:01:37 → 00:01:40 มันก็มีประโยชน์จริงๆนะคะคือต้องบอกว่า

00:01:40 → 00:01:42 เดิมเวลาเราทำอะไรได้ดีหรือดูแลตัวเองได้

00:01:42 → 00:01:45 ดีเราก็จะมองว่าอ๋อเออดีถูกป่ะแต่พอ

00:01:45 → 00:01:47 มาเรียนเนี่ยมันจะมีแนวคิดอะไรบางอย่าง

00:01:47 → 00:01:49 ว่าที่เราทำอันนี้ได้ดีอ่ะมันเป็นเพราะ

00:01:49 → 00:01:52 เรามีทุนทางใจแบบนี้นี่เองแล้วมันเสริม

00:01:52 → 00:01:54 สร้างได้มยพอเรารู้ว่ามันเสริมสร้างได้

00:01:54 → 00:01:56 ตรงนี้แหละที่เราจะค่อยๆศึกษาเป็นกระบวน

00:01:56 → 00:01:59 การแล้วนำไปช่วยคนไข้หรือคนใกล้ตัวได้ว่า

00:01:59 → 00:02:02 อ๋อเนี่ยเค้าขาดตรงเนี้ยถ้าเค้าเสริมทุน

00:02:02 → 00:02:05 ตรงนี้นะเค้าจะดูแลตัวเองได้แบบดีมากๆแก้

00:02:05 → 00:02:08 ปัญหาตรงนี้ได้นะคะจุดอ่อนก็ด้วยนะไม่ใช่

00:02:08 → 00:02:10 ว่าทำอะไรดีๆแล้วก็มีทุนทางใจที่ดีอย่าง

00:02:10 → 00:02:14 เดียวแต่เวลาที่เราเศร้าเรารู้สึกทุกข์

00:02:14 → 00:02:17 เรารู้สึกไม่ชอบตัวเองเฮ้ยมันมาจากตรงนี้

00:02:17 → 00:02:20 นี่เองมาจากหล่มตรงนี้แล้วเราพอเราเข้าใจ

00:02:20 → 00:02:23 ตัวเองอ่ะค่ะเราก็จะจับได้ทันก่อนที่เรา

00:02:23 → 00:02:26 จะดำดิ่งลงไปกับแพทเทิร์นเดิมๆที่เราเคย

00:02:26 → 00:02:29 สะสมไว้จากความเคยชินเก่าเก่านะคะแล้วก็

00:02:29 → 00:02:32 นำมาสู่ข้อ 3 ก็คือทำให้เรารู้วิธีในการ

00:02:32 → 00:02:35 ฟื้นฟูแล้วก็เยียวยาจิตใจตัวเองได้ค่ะคือ

00:02:35 → 00:02:38 ต้องบอกว่าทฤษฎีในการบำบัดจิตใจของในทาง

00:02:38 → 00:02:42 ตะวันตกเองเนี่ยก็มีเยอะมากเลยนะคะแล้ว

00:02:42 → 00:02:44 แต่ว่าเราเรียนอะไรแล้วทฤษฎีไหนที่มัน

00:02:44 → 00:02:46 เหมาะกับจริตเราเราก็หยิบมาใช้เนาะหรือ

00:02:46 → 00:02:49 ว่าหยิบมาอยู่ในคลังเครื่องมือเพื่อที่จะ

00:02:49 → 00:02:51 นำมาช่วยคนไข้ใช่มั้ยตามที่แดงคิดว่าแดง

00:02:51 → 00:02:53 ถูกจริตกับตัวเองก็คือทฤษฎีที่มันเกี่ยว

00:02:53 → 00:02:56 ข้องกับการมีสติเป็นพื้นฐานนะคะเกี่ยวกับ

00:02:56 → 00:02:58 mindfulness เนาะคือต้องบอกว่าอาการป่วย

00:02:58 → 00:03:01 ไข้ทางจิตมือคุณจะเป็นโรคซึมเศร้าวิตก

00:03:01 → 00:03:04 กังวลครุ่นคิดจะกินยาหรือไม่กินยาจะเป็น

00:03:04 → 00:03:06 โรคเรื้อรังนะคะโดยส่วนใหญ่มันมาจากความ

00:03:07 → 00:03:10 คิดค่ะเออความคิดลบบางอย่างความคิดที่ถูก

00:03:10 → 00:03:13 บิดเบือนความคิดที่เราไปต่อต้านมันเราไม่

00:03:13 → 00:03:16 อยากได้ไม่ชอบจริงๆแล้วยอมรับจะดีกว่ามย

00:03:16 → 00:03:18 จริงๆแล้วเรามานั่งดูดีกว่ามั้ว่าคิด

00:03:18 → 00:03:20 อย่างเงี้ยมีทางเลือกอื่นอีกมยเพราะ

00:03:20 → 00:03:23 ฉะนั้นมันจะมีหลายๆแนวทางเลยที่เราสามารถ

00:03:23 → 00:03:26 หยิบมาใช้ในการบำบัดความคิดจัดการกับความ

00:03:26 → 00:03:29 คิดที่มันไม่ถูกต้องอ่ะแล้วมันก็ทำให้เรา

00:03:29 → 00:03:32 ป่วยนะคะแต่ว่าอันที่แดงชอบที่บอกว่า

00:03:32 → 00:03:34 mindfulness เนี่ยก็คือมันจะมีหลายแนว

00:03:34 → 00:03:37 คิดนะเช่น MBCT MBSR ใช่มั้ยคะเค้าใช้

00:03:37 → 00:03:40 หลักสติอ่ะในการมาบำบัดความคิดแล้วพอ

00:03:40 → 00:03:43 ศึกษาไปเนี่ยมันก็หลักพุทธนี่เองเลยค่ะ

00:03:43 → 00:03:46 การฝึกสติการฝึกสมาธิเพราะว่าทางตะวันตก

00:03:46 → 00:03:49 เขาก็นำเอาแนวคิดตรงเนี้ยมาปรับใช้เพียง

00:03:49 → 00:03:52 แต่ข้อดีของแนวคิดแบบเนี้ยก็คือภาษาที่

00:03:52 → 00:03:55 เขาใช้ค่ะมันจะค่อนข้างเรียบง่ายเป็นสากล

00:03:55 → 00:03:58 เข้าใจง่ายเพราะฉะนั้นใครที่ถ้าเกิดว่า

00:03:58 → 00:04:00 ติดว่าโอ้โหภาษาทางพุทธเนี่ยเข้าใจยาก

00:04:00 → 00:04:03 เหลือเกินเราศึกษามาหลายปีแล้วเราก็ยัง

00:04:03 → 00:04:05 เข้าถึงไม่ได้ทำไม่ได้สักทีการศึกษาแนว

00:04:05 → 00:04:07 คิดพวกเนี้ยก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่

00:04:07 → 00:04:09 ทำให้เราเข้าถึงเขาได้ง่ายแล้วมันก็ไม่

00:04:09 → 00:04:11 ได้มีกรอบของศาสนาด้วยหมายความว่าคุณจะ

00:04:11 → 00:04:14 ศาสนาไหนคุณจะอยู่ที่ไหนคุณสามารถนำเอา

00:04:14 → 00:04:17 หลักการเจริญสติตรงเนี้ยมาใช้กับชีวิต

00:04:17 → 00:04:20 ประจำวันได้แล้วแดงชอบตรงที่ว่ามันมัน

00:04:20 → 00:04:22 ยิ่งกว่าป้องกันน่ะเพราะว่าคือมันไม่ต้อง

00:04:22 → 00:04:24 ปล่อยเพราะมันไม่ได้จับอ่ะเราเห็นแล้วว่า

00:04:24 → 00:04:26 เออความคิดมันมาเราไม่ไม่ได้ไปยุ่ง

00:04:26 → 00:04:28 วุ่นวายอะไรกับเขาเราก็แค่ตระหนักรู้ว่า

00:04:28 → 00:04:31 อ้าไม่เป็นความคิดนะไม่หลงครุ้่นคิดไปกับ

00:04:31 → 00:04:34 มันเราก็ปล่อยให้มันเป็นก้อนเมฆที่ผ่านไป

00:04:34 → 00:04:36 นะคะเพราะฉะนั้นจะบอกว่าใกล้เคียงก็ใช่

00:04:36 → 00:04:39 แต่ว่าแนวทางหรือขั้นตอนที่เขา้าเอามา

00:04:39 → 00:04:41 เล่าเนี่ยมันอาจจะเป็นอีกแบบนึงที่เข้าใจ

00:04:41 → 00:04:43 ได้ง่ายแล้วก็มีงานวิจัยรับรองเยอะไปหมด

00:04:43 → 00:04:47 เลยค่ะใครที่เป็นสายงานวิจัยสายแบบต้องมี

00:04:47 → 00:04:50 การทดลองมาก่อนคเฟิร์มอันนี้ก็อาจจะเหมาะ

00:04:50 → 00:04:53 สำหรับการที่คุณจะนำแนวทางเนี้ยไปดูแลจิต

00:04:53 → 00:04:56 ใจตัวเองได้นะคะก็ถือว่าได้กับตัวเองแล้ว

00:04:56 → 00:04:58 ก็นำมาแบ่งปันเนาะอยากให้เป็นเครื่องไม้

00:04:58 → 00:05:00 เครื่องมือค่ะเพราะว่าต้องบอกว่าคนเราทุก

00:05:00 → 00:05:02 วันนี้เนี่ยก็ป่วยทางใจกันเยอะเหมือนกัน

00:05:02 → 00:05:04 นะแดงได้คุยกับหลายๆคนที่บางทีเมีลูก

00:05:04 → 00:05:07 เงี้ยค่ะลูกก็เกิดการเปรียบเทียบมีสังคม

00:05:07 → 00:05:10 ปัจจุบันที่มันเท้นมากๆการแข่งขันสูงเรา

00:05:10 → 00:05:13 จะได้รู้วิธีในการดูแลจิตใจสังเกตห่างๆ

00:05:13 → 00:05:16 เออลูกเราเป็นยังไงหรือคนใกล้ตัวเองอ่ะ

00:05:16 → 00:05:18 ค่ะทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับมันมีความเครียด

00:05:18 → 00:05:21 เยอะจริงๆพอมันมีแนวทางตรงเนี้ยเราจะ

00:05:21 → 00:05:25 แอทackทันโอ๊ยอาการมาและไม่ค่อยดีนะจะได้

00:05:25 → 00:05:28 จัดการได้ทันท่วงทีนะคะแล้วองค์ความรู้

00:05:28 → 00:05:30 เนี่ยเข้าถึงง่ายมากๆอาจจะไม่ต้องถึงกับ

00:05:30 → 00:05:32 เรียนเป็นเรื่องเป็นราวแต่เรา keep in

00:05:32 → 00:05:34 mind แล้วก็ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจะได้มี

00:05:34 → 00:05:37 อีกแหล่งนึงในการนำไปดูแลร่างกายแล้วก็

00:05:37 → 00:05:39 จิตใจของตัวเองนะคะก็หวังว่าจะเป็น

00:05:39 → 00:05:41 ประโยชน์ค่ะลองนำไปศึกษาด้วยตัวเองกันดู

00:05:41 → 00:05:44 นะคะแล้วเดี๋ยวครั้งต่อไปก็กลับมาพบกับ

00:05:44 → 00:05:46 แดงได้ใหม่ค่ะวันแพทย์แผนไทยลาไปก่อน

00:05:46 → 00:05:50 สวัสดีค่ะ