00:00:00 → 00:00:03 แค่อ้าปากให้พี่ดูอ่ะพี่ก็รู้แล้วนะว่าคน
00:00:03 → 00:00:06 ไข้ไปทำอะไรเธอปิดฉันไม่มิดหรอกโหขนาด
00:00:06 → 00:00:08 นั้นเลยวลีแบบอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่อ่ะไม่
00:00:08 → 00:00:10 เกินจริงกิ่นปากมันเกี่ยวกับกินอาหาร
00:00:11 → 00:00:13 เหม็นๆหรอครับเมๆไปได้ป่ะช่องปากอาจจะ
00:00:13 → 00:00:15 เป็นสัญญาณเตือนว่าข้างในของเรากำลัง
00:00:15 → 00:00:18 เผชิญกับอะไรอยู่มันเจ็บอยู่นะแต่เราไม่
00:00:18 → 00:00:20 เคยฟังอยู่ดีๆฟันก็รู้สึกเหมือนยาวขึ้นนะ
00:00:20 → 00:00:23 ครับจริงๆอ่ะคือกระดูกอ่ะมันละลายเหงือก
00:00:23 → 00:00:26 ตรงนั้นก็จะเส้นเลือดตายบริบททางสังคมไทย
00:00:26 → 00:00:27 ครับพี่จะชอบคิดว่าเฮ้ยพอเราแก่ตัวไปแล้ว
00:00:27 → 00:00:30 ปุ๊บเดี๋ยวแฟมันก็จะโยกๆแล้วก็หลุดคือว่า
00:00:30 → 00:00:32 เป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องปกติแต่จริงๆอ่ะ
00:00:32 → 00:00:36 คือมันไม่ได้ปกติหลังคลอดแม่มีฟันผุเพราะ
00:00:36 → 00:00:39 ลูกดึงแคลเซียมไปถ้าแม่อ่ะกินเหล้าเยอะ
00:00:39 → 00:00:42 หรือว่าเป็นแบบแอลกอฮอลิคอ่ะลูกออกมาจะ
00:00:42 → 00:00:44 เป็นอาการอันนึงอ่ะที่แบบหน้าน้องเขาจะ
00:00:44 → 00:00:46 เหมือนจะมีหน้าเฉพาะด้วยนะหน้าเหมือนเด็ก
00:00:46 → 00:00:49 เมาอ่ะมีเด็ดกว่านั้นด้วยบางทีทำให้คุณ
00:00:50 → 00:00:54 แม่คลอดลูกก่อนกำหนดได้นะสวัสดีครับยินดี
00:00:54 → 00:00:56 ต้อนรับเข้าสู่ Doctor Talk podcast
00:00:56 → 00:00:58 ที่หมอนและผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจะมา
00:00:58 → 00:01:01 พูดคุยประเด็นเรื่องสุขภาพต่างๆผมหมอ
00:01:01 → 00:01:03 จิมมี่แพทย์ผู้เชวชาญทางด้านเวชศาสตร์
00:01:03 → 00:01:05 ป้องกัน EP นี้พิเศษมากๆครับเกี่ยวกับ
00:01:05 → 00:01:08 เรื่องสุขภาพช่องปากส่งผลกระทบต่อร่างกาย
00:01:08 → 00:01:10 ของเราได้อย่างไรพูดถึงเรื่องสุขภาพช่อง
00:01:10 → 00:01:13 ปากฟันและเหงือกแล้วต้องเชิญหมอคนนี้ครับ
00:01:13 → 00:01:15 ซึ่งเป็นเพื่อนและเป็นหมอฟันของหมอเองหมอ
00:01:15 → 00:01:17 วินครับสวัสดีครับจิมมี่ครับสวัสดีครับ
00:01:17 → 00:01:20 หมอวินฝากแนะนำตัวหน่อยได้มั้ยครับหมอวิน
00:01:20 → 00:01:22 ครับได้ครับสวัสดีครับทุกคนผมธันแพทย์
00:01:22 → 00:01:25 พงศกรโกมุผลนะครับหรือว่าเรียกว่าหมอวิน
00:01:25 → 00:01:27 ก็ได้นะครับเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางด้าน
00:01:27 → 00:01:29 ทันตกรรมเพื่อความสวยงามแล้วก็รากเทียม
00:01:29 → 00:01:30 ครับ
00:01:30 → 00:01:32 ในการแพทย์ปัจจุบันเนี่ยหลายคนอาจจะคิด
00:01:32 → 00:01:35 ว่าเออหมอฟันกับหมอทั่วไปเนี่ยเราจะค่อน
00:01:35 → 00:01:37 ข้างแบ่งแยกกันค่อนข้างมากถูมครับถ้าเรา
00:01:37 → 00:01:40 ยกตัวอย่างเช่นแบบคนไข้คนนึงอ่ะมาด้วย
00:01:40 → 00:01:43 อาการปวดฟันและมีอาการปวดหัวกับปวดท้อง
00:01:43 → 00:01:45 ด้วยคนไข้คนนั้นน่ะอาจจะคิดว่าเออปวดฟัน
00:01:45 → 00:01:48 ไปหาหมฟันเออไปหาหมอฟันแล้วก็ปวดหัวปวด
00:01:48 → 00:01:52 ท้องก็มาหาหมอร่างกายซึ่งจริงๆแล้วที่
00:01:52 → 00:01:55 จริงอ่ะสุขภาพชปากมันอาจจะเป็นตัวเริ่ม
00:01:55 → 00:01:57 ต้นให้เขามีอาการอย่างอื่นก็ได้ถูกมยครับ
00:01:57 → 00:01:59 เพราะว่าฟันกับสมองของเราอ่ะมันเชื่อมโยง
00:01:59 → 00:02:02 ด้วยเส้นประสาทครับหรือว่าปากกับกระเพาะ
00:02:02 → 00:02:04 ของเราเนี่ยมันเป็นระบบทางเดินอาหารเดียว
00:02:04 → 00:02:07 กันเพราะฉะนั้นมันอาจจะเริ่มจากปากแล้วก็
00:02:07 → 00:02:10 ไปเกิดโรคอื่นๆก็ได้ปวดท้องท้องเสียปวด
00:02:10 → 00:02:13 หัวใช่ถูกมครับใช่เออถูกครับก็คือจริงๆ
00:02:13 → 00:02:17 แล้วก็คือเราก็มีิสติกับมันมองกลับเข้ามา
00:02:17 → 00:02:20 ครับเราก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วปากมันก็คือ
00:02:20 → 00:02:23 ส่วนหนึ่งของร่างกายถูกมั้ยครับมันก็ต้อง
00:02:23 → 00:02:26 ถูกเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆของร่างกายด้วย
00:02:26 → 00:02:28 เส้นประสาทเส้นเลือดเราใช้เส้นเลือดเส้น
00:02:28 → 00:02:30 ประสาทเดียวกันเพราะฉะนั้นเนี่ยมันเชื่อม
00:02:30 → 00:02:32 ถึงกันสิถูกมครับจะบอกว่าไม่เชื่อมกัน
00:02:32 → 00:02:35 หรอกเป็นเป็นไปได้ป่ะมันต้องเชื่อมครับ
00:02:35 → 00:02:38 มันต้องเชื่อมอด่านแรกของสุขภาพที่ดีและ
00:02:38 → 00:02:40 การเกิดโรคเริ่มต้นที่ช่องปากนะครับก็คือ
00:02:40 → 00:02:43 อ่าเวลาเราพูดถึงเรื่องช่องปากเนี่ยทุกคน
00:02:43 → 00:02:48 จะมองแยกๆกันเนาะว่าเป็นฟันเหงือกลิ้นน้ำ
00:02:48 → 00:02:52 ลายกล้ามเนื้อกรามเงี้ยครับแต่จริงๆทั้ง
00:02:52 → 00:02:54 หมดอ่ะมันเชื่อมโยงกันด้วยที่ระบบประสาท
00:02:54 → 00:02:57 ระบบภูมิคุ้มกันแล้วก็เส้นเลือดหมายความ
00:02:57 → 00:03:00 ว่าเจ้าฟันเจ้าลิ้นเจ้ากล้ามกล้ามเนื้อใด
00:03:00 → 00:03:02 ๆอ่ะมันก็มีเส้นเลือดอ่ะแตกแขนงเส้น
00:03:02 → 00:03:04 ประสาทแตกแขนงแล้วก็เส้นที่เป็นเกี่ยวกับ
00:03:04 → 00:03:07 ระบบภูมิกันน่ะแตกแขนงเข้าไปเชื่อมกัน
00:03:07 → 00:03:09 อยู่นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยการมีสุขภาพ
00:03:09 → 00:03:11 ช่องปักที่ดีเนี่ยมันก็เลยเป็นการสร้าง
00:03:11 → 00:03:14 ระบบนิเวศนะครับเรียกว่าเป็นระบบนิเวศน์
00:03:14 → 00:03:17 ดีกว่าของความสัมพันธ์ระหว่างฟันลิ้น
00:03:17 → 00:03:19 เหงือกน้ำลายอย่างเงี้ยครับได้อย่างมี
00:03:19 → 00:03:22 ประสิทธิภาพซึ่งถ้าสมมุติว่าเรามีสุขภาพ
00:03:22 → 00:03:24 ช่องปากที่ดีแล้วเนี่ยคุณจะสามารถยิ้มได้
00:03:24 → 00:03:26 อย่างมีความสุขคุณสามารถกิินได้อย่าง
00:03:26 → 00:03:29 อร่อยถูกมั้ยครับคุณสามารถทำถ้าเบะปาก
00:03:29 → 00:03:33 เศร้าหมองอะไรเงี้ยครับได้อย่างเต็มที่นะ
00:03:33 → 00:03:35 ครับบางทีอ่ะครับคนไข้ไม่ต้องไปตรวจ
00:03:35 → 00:03:39 สุขภาพมาแค่อ้าปากให้พี่ดูอ่ะพี่ก็รู้
00:03:39 → 00:03:42 แล้วนะว่าคนไข้ไปทำอะไรมาพี่รู้เลยรู้เธอ
00:03:43 → 00:03:46 ปิดฉันไม่มิหรอกจริงๆพี่พี่เจอเคยเจอเคส
00:03:46 → 00:03:48 เหรอครับเคยครับอย่างเช่นว่าอ่ะคนไข้มา
00:03:48 → 00:03:51 ตรวจสุขภาพใช่ไมยครับอ้าปากปึ๊บก็คือเป็น
00:03:52 → 00:03:54 ท้องอืดทองเฟื้อบ่อยๆมั้ครับโอขนาดนั้น
00:03:54 → 00:03:57 เลยได้มันดูได้นะใช่วลีแบบอ้าปากก็เห็น
00:03:57 → 00:03:59 ลิ้นไก่อ่ะไม่เกินจริงอันนี้เรื่องจริง
00:03:59 → 00:04:01 ช่องปากอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าข้างในของ
00:04:01 → 00:04:03 เรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่มันเจ็บอยู่นะ
00:04:03 → 00:04:06 แต่เราไม่เคยฟังอ่าถูกใช่ใช่มั้ครับบางคน
00:04:06 → 00:04:09 เนี่ยเคี้ยวฟันไม่ค่อยดีเท่าไหร่พอเคี้ยว
00:04:09 → 00:04:11 ไม่ดีเนี่ยมันก็เอเกิดอาการท้องอืดแน่น
00:04:11 → 00:04:14 ท้องอาหารไม่ย่อเพราะเคี้ยวเนี่ยอาหารมัน
00:04:14 → 00:04:16 ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่จนเกิดอาการออกมา
00:04:16 → 00:04:18 อย่างตัวอย่างที่ 2 เนี่ยเขาเรียกว่า oral
00:04:18 → 00:04:21 ไบอมคือจุลินในช่องปากของเราเนี่ยมันก็
00:04:21 → 00:04:24 ส่งผลต่อจุลินทรีย์ในช่องทเหมือนกันถ้า
00:04:24 → 00:04:26 ปากของคุณมีจุลินทรีย์ไม่ดีท้องของคุณก็
00:04:26 → 00:04:29 จุลินทรีย์ไม่ดีส่งผลต่ออวัยวะอื่นแลอัน
00:04:29 → 00:04:32 ที่ 3 อันนี้เจอเยอะกลิ่นปากหรือมีแผลใน
00:04:32 → 00:04:35 ช่องปากซึ่งกลิ่นปากมันเกี่ยวกับกินอาหาร
00:04:35 → 00:04:38 เหม็นๆหรอครับเกี่ยวมั้ยไม่ปลาร้าเกี่ยว
00:04:38 → 00:04:41 มั้ยไม่ปกป้องปลาร้าปลารไม่ได้เหม็นนะใช่
00:04:41 → 00:04:44 มั้ยครับแต่ว่าจริงๆอ่ะการมีกลิ่นปากบาง
00:04:44 → 00:04:48 ทีมันมันมาจากโรคทางร่างกายก็ได้คือมัน
00:04:48 → 00:04:51 อาจจะเกิดจากข้างในลำไส้ของเราใช่มั้ย
00:04:51 → 00:04:53 ครับคือช่องปากของเรามันอาจจะมี
00:04:53 → 00:04:55 จุลินทรีย์ที่มันไม่ดีหรือแบคทีเรียที่
00:04:55 → 00:04:58 มันไม่ดีจนเกิดกลิ่นออกมาอเหมือนเหมือน
00:04:58 → 00:05:00 อันเนี้ยครับเหมือนกับที่แบบว่าเคยดูใน
00:05:00 → 00:05:02 หนังมั้ยหรือว่าเคยเคยเจอคนแก่ที่บ้านพูด
00:05:02 → 00:05:05 มครับว่าแบบมันมันมันเหมือนมันเน่าจาก
00:05:05 → 00:05:09 ข้างในอ่ะค่ะเี้ยเบเอออะไรอย่างเงี้ยคือๆ
00:05:09 → 00:05:11 มันมันไม่ใช่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะมัน
00:05:11 → 00:05:12 คือเรื่องจริงนะคือเขารู้สึกอย่างนั้น
00:05:12 → 00:05:16 จริงๆนะเออเราจะไปบอกว่าเรเนเอ้ยคุณยาย
00:05:16 → 00:05:18 คุณยายนั่นแหละแปลงฟันไม่ดีแต่เไม่ใช่เขา
00:05:18 → 00:05:20 อาจจะมีโลคทางระบบอะไรที่มันลึกซึ้งกว่า
00:05:20 → 00:05:22 นั้นได้แล้วเมื่อกี้ที่พี่วินพูดบอกว่า
00:05:22 → 00:05:24 ฟันของเรามันเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆด้วย
00:05:25 → 00:05:27 อ่าหลอดเลือดใช่มั้ครับพวกระบบคุมุมกัน
00:05:27 → 00:05:31 แบคทีเรียพวกเนี้ยมันก็จะทำให้ผ่านสู่โรค
00:05:31 → 00:05:34 หลอดเลือดระบบมมการต่ำลงทำให้เป็นโรคอื่น
00:05:34 → 00:05:38 ๆไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจโรคหลอดหลอดเลือดใน
00:05:38 → 00:05:41 สมองโรคระบบทางเดินหายใจโรคเบาหวานมีเด็ด
00:05:41 → 00:05:45 กว่านั้นด้วยบางทีทำให้คุณแม่คลอดลูกก่อน
00:05:45 → 00:05:48 กำหนดได้นะแบคทีเรียในช่องปากเนี่ยนะอือๆ
00:05:48 → 00:05:51 ๆทำให้เกิดท้องก่อนกำหนดเฮ้ยคลอดคลดก่อน
00:05:51 → 00:05:55 กำนดท้องก่อนกำหนดไม่ได้สิต้องคลอดลูกเออ
00:05:55 → 00:05:58 ต้องคลอดครับโดดอ่ะโอเคก่อนที่เราจะมาพูด
00:05:58 → 00:06:00 เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องของของแบคทีเรีย
00:06:00 → 00:06:02 ช่องปากกับคลอดก่อดกำหนดมันมีอีกโรคนึง
00:06:02 → 00:06:05 ที่ผมเคยได้ยินแล้วมันโอ้โหอ่านยากมากอืป
00:06:06 → 00:06:10 ปริปริทันปริทันปรปริฉันออกสมจเหมือนเด็ก
00:06:10 → 00:06:14 ออกจบนอกพิชันเคยได้ยินกันมา
00:06:14 → 00:06:18 ป่ะไม่เคยได้ยินเลยใช่มยอ่าอันนี้เป็นดู
00:06:18 → 00:06:20 เป็นเหมือนเป็นศัพท์แบบแปลกๆเปริทันใช่
00:06:20 → 00:06:24 มั้ยครับต่อมาโลกรนาถเคยได้ยินป่ะเหมือน
00:06:24 → 00:06:26 เล่นรามเกียนอะไรอย่างงี้ป่ะครับเออคลาย
00:06:26 → 00:06:29 อะไรอย่างเงี้ยเหมือนแบบใช่ๆคนไบางคบอก
00:06:29 → 00:06:30 ว่าแบบว่า
00:06:30 → 00:06:34 โอเคเฮยจริงๆาเคอันนี้เคยได้ยินสารภาพเคย
00:06:34 → 00:06:38 ได้ยินตอนประมาณ 7 ขวบไปอนามัยแถวๆบ้าน
00:06:38 → 00:06:40 แล้วก็แบบมีโปสเตอร์อะไรเงี้ครับโลกลนา
00:06:40 → 00:06:43 อ่ะต่อมาเป็นคำที่ง่ายกว่านั้นอีกโลกฟัน
00:06:43 → 00:06:48 คลอนเคยได้ยินป่ะเคยได้ยินป่ะครับฟันคลอน
00:06:48 → 00:06:52 คลอนแบบคลอนแบบดุ๊กดิกุุๆอย่างเงี้ยเคย
00:06:52 → 00:06:56 ได้ยินป่ะเฮ้ยมีคนพยักหน้าเคยเหรออ้าว
00:06:56 → 00:07:00 เห็นมเอาจริงๆมันเหมือนเป็นโรคโรคโปริทัน
00:07:00 → 00:07:02 น่ะครับมันเป็นโรคที่เหมือนโดนถูกมองข้าม
00:07:02 → 00:07:05 เนาะอันจริงๆพี่วินมองว่ามันมันถูกมอง
00:07:05 → 00:07:08 ข้ามด้วยเพราะว่าบริบททางสังคมไทยครับที่
00:07:08 → 00:07:09 จะชอบคิดว่าเฮ้ยพอเราแก่ตัวไปแล้วปุ๊บ
00:07:10 → 00:07:13 เดี๋ยวแฟมันก็จะโยกๆแล้วก็หลุดตามอายุตาม
00:07:13 → 00:07:17 อายุตามอายุใช่ๆใช่แล้วก็อาจจะมีอีกเอ่อ
00:07:17 → 00:07:21 แนวความคิดนึงอย่างเช่นว่าเอ่อปกติมัน
00:07:21 → 00:07:24 เป็นโรคมันต้องเจ็บใช่ป่ะอือแต่โรคปริทัน
00:07:24 → 00:07:26 น่ะมันไม่เจ็บเจ็บไม่เจ็บเลยมันไม่เจ็บ
00:07:26 → 00:07:28 มันไม่เจ็บเออมันไม่เจ็บก็คือก็นี่ไงครับ
00:07:28 → 00:07:30 ถึงเป็นแบบว่าก็ไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้
00:07:30 → 00:07:32 เจ็บไม่ได้เป็นอะไรเลยอยู่ดีๆฟันก็ยกๆ
00:07:32 → 00:07:33 แล้วก็หลุดไปคือคิดว่าเป็นเรื่องปกติเป็น
00:07:34 → 00:07:36 เรื่องปกติแต่จริงๆอ่ะคือมันไม่ได้ปกตินะ
00:07:36 → 00:07:40 ครับจริงๆโลคปริทัณฑ์เนี่ยคำว่าโรคปริทัน
00:07:40 → 00:07:44 ก่อนนะมันแปลว่าปริเนนึกถึงคำว่ากรุงเทพฯ
00:07:44 → 00:07:47 และปริมณฑลถูกป่ะอปริทันทันน่ะมันแปลว่า
00:07:47 → 00:07:52 ฟันใช่ะกรุงเทพฯและปริมณฑลทันและปริมณฑล
00:07:52 → 00:07:56 เออก็คือนอกๆนอกๆฟันก็คือเป็นโรคใดๆที่
00:07:56 → 00:07:59 เกี่ยวกับไม่ใช่ฟันนะครับอย่างเช่นโรคโรค
00:07:59 → 00:08:01 เกี่ยวกับเหงือกโรคเกี่ยวกับกระดูกรอบราก
00:08:01 → 00:08:04 ฟันอย่างเงี้ยครับเราจะเรียกว่าโรคปริทัน
00:08:04 → 00:08:07 ซึ่งจักรวาลของโรคปริทันก็จะแบ่งเป็น 2
00:08:07 → 00:08:10 อันก็คือโรคเหงือกอักเสบกับโรคปรธาน
00:08:10 → 00:08:12 อักเสบซึ่งเหงือกอักเสบก็คือเป็นการ
00:08:12 → 00:08:15 อักเสบของเหงือกนะครับแต่เดียวกันโรค
00:08:15 → 00:08:18 ปริทันอักเสบมันจะเป็นคำดูหรูๆเนแต่จริงๆ
00:08:18 → 00:08:21 มันก็คือโรคกระดูกรอบรากฟันน่ะอักเสบซึ่ง
00:08:21 → 00:08:24 มันเป็นขั้นกว่าก็คือเหงือกอักเสบแล้วก็
00:08:24 → 00:08:27 จะโปรเกสต่อไปเป็นโรคปริทันอักเสบซึ่งอัน
00:08:27 → 00:08:29 นั้นจะเกิดสภาวะการละลายของกระดูกรอบๆลัก
00:08:29 → 00:08:33 ฟันอืครับผมตัวอ่าคีย์ Concept ของเขาก็
00:08:33 → 00:08:36 คือเกิดจากการที่เรามีคราบพารเนี่ยเคยได้
00:08:36 → 00:08:39 ยินใช่มั้ยในโฆษณาพอ่าหลุดๆุพลักๆๆๆๆแบบ
00:08:40 → 00:08:42 กำจัดค่าพลักกำจัดค่าพลักในโฆษณาแบบ oral
00:08:42 → 00:08:44 care หรือว่าผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาความ
00:08:44 → 00:08:48 สะอาดช่องปากใช่ไหมมครับเออค่าพล้าพก
00:08:48 → 00:08:50 เนี้ยมันก็จะเอ่อสร้างบ้านเอาง่ายๆมันก็
00:08:50 → 00:08:52 จะสร้างบ้านให้มันแบบจากเหนียวๆกลายเป็น
00:08:52 → 00:08:55 แข็งๆแข็งๆก็คือหินปูนไงครับเออพอมัน
00:08:55 → 00:08:57 เริ่มสร้างหินปูนเสร็จปุ๊บหินปูนถ้า
00:08:57 → 00:08:59 สมมุติว่าเราไม่ได้ไปขูดหินปูนนะนะครับ
00:08:59 → 00:09:01 หรือว่าขุดหินปูนอาจจะได้ไม่ไม่ทั่วถึง
00:09:01 → 00:09:04 อย่างเงี้ยครับบางทีหินปูนมันก็จะค่อยๆลง
00:09:04 → 00:09:08 ลึกลึกไปเรื่อยๆลึกนี่คือลึกลึกเหมือนว่า
00:09:08 → 00:09:10 สมมุติว่าฟันมันเป็นเราจินตนาการว่าฟัน
00:09:10 → 00:09:13 มันเป็นแท่งใช่ไหมมครับแล้วก็มีเอ่อแล้ว
00:09:13 → 00:09:15 ก็มีอีกประมาณจึ๊กนึงเนี่ยปักอยู่ใน
00:09:15 → 00:09:17 กระดูกนั่นคือทำให้ฟันมันไม่ขยับใช่มั้ย
00:09:17 → 00:09:21 ครับครับหินปูนะครับก็จะค่อยๆเกาะตรงคอ
00:09:21 → 00:09:24 ฟันก่อนใช่มยครับก็คือตรงบนเหงือกแล้วก็
00:09:24 → 00:09:27 ค่อยกินลึกลงไปเรื่อยๆกินลึกลงไปเรื่อยๆ
00:09:27 → 00:09:30 เราก็จะได้เจอได้ยินสิ่งที่คนชอบพูดว่า
00:09:30 → 00:09:33 อยู่ดีๆฟันก็รู้สึกเหมือนยาวขึ้นนะครับ
00:09:33 → 00:09:37 จริงๆอ่ะคือกระดูกอ่ะมันละลายลงไปครับ
00:09:37 → 00:09:41 แล้วฟันน่ะมันก็จะโยกๆกๆๆๆแล้วก็ค่อยๆ
00:09:41 → 00:09:43 หลุดแล้วแล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด
00:09:43 → 00:09:45 โรคนี้อ่ะครับพี่วิสาเหตุใช่มั้ยครับ
00:09:45 → 00:09:48 สาเหตุของการเกิดโรคปริทันอักเสบปริทัน
00:09:48 → 00:09:50 อักเสบปริทัน
00:09:50 → 00:09:55 อักเสบก็คืออ่าจริงๆก็คือหินปูนนะครับใดๆ
00:09:55 → 00:10:01 ก็ตามที่ทำให้เกิดหินปูนหูอันนั้นก็จะทำ
00:10:01 → 00:10:04 ให้เกิดโรคปฏิทานอักเสบได้ถูกไหมครับซึ่ง
00:10:04 → 00:10:06 การทำให้เกิดหินปูนได้อันเนี้ยแี่หมายถึง
00:10:06 → 00:10:09 ว่าสาเหตุทำให้เกิดหินปูนนะครับอย่างแรก
00:10:09 → 00:10:13 เลยก็คือสภาพของฟันเนาะตัวฟันเองก็มีผลนะ
00:10:13 → 00:10:16 ครับเหมือนกับว่าน้องเกิดมารูปทรงผิดปกติ
00:10:16 → 00:10:20 เอื้อต่อการเกาะของหินปูนใช่ไหมครับหิน
00:10:20 → 00:10:23 ปูนก็จะลำๆๆๆๆๆๆได้ง่ายฟันซี่นั้นก็จะ
00:10:23 → 00:10:26 หลุดได้ง่ายบางคนก็จะเป็นโรคปริทัณฑ์
00:10:26 → 00:10:29 เฉพาะซี่คือปากที่เหลือดูแลดีหมดนะครับ
00:10:29 → 00:10:33 แต่ฟันซี่นั้นซี่เดียวที่หลุดไปนะครับ
00:10:33 → 00:10:36 อย่างที่ 2 ก็คือการเรียงตัวของฟันก็มีผล
00:10:36 → 00:10:40 นะครับฟันที่เหลี่ยงซ้อนเกมากๆฟันที่ล้ม
00:10:40 → 00:10:44 ลงไปท่าอลังการเหมือนกายกรรมเปียงยางอะไร
00:10:44 → 00:10:46 อย่าเงี้ยครับฟันพวกนี้คือเราทำความสะอาด
00:10:46 → 00:10:48 ไม่ได้ถูกมั้ยครับพอเราทำความสะอาดไม่ได้
00:10:48 → 00:10:52 หินปูนก็เกิดได้ง่ายคือบางทีเราไม่สามารถ
00:10:52 → 00:10:54 โทษคนแข้ได้ว่าเฮ้ยเธอแปลงฟันไม่สะอาดถูก
00:10:54 → 00:10:57 มั้ยครับบางทีฟันมันเรียงอย่างเช่นแบบว่า
00:10:57 → 00:11:01 พี่เคยเจอฟันเรียงเป็นอสามเหลี่ยมทองคำ
00:11:01 → 00:11:04 อ่ะครับแบบเรียงเหมือนแบบเชียงเรียง
00:11:04 → 00:11:06 เหมือนประเทศไทยลาวพม่าเงี้ครับอย่าง
00:11:06 → 00:11:07 เงี้ยเป็นสามเหลี่ยมอย่างเงี้ยแล้วตรง
00:11:08 → 00:11:11 กลางสามเหลี่ยมตรงนั้นน่ะครับยูจะแปลงยัง
00:11:11 → 00:11:13 ไงให้มันสะอาดอ่ะคือมันแปลงไม่ได้ถูกมย
00:11:13 → 00:11:17 ครับเราก็มันก็จะเกิดหินปูนถูกมั้ยครับ
00:11:17 → 00:11:20 ได้ง่ายแล้วก็จะเป็นโรคลำนาตรงนั้น่าอื
00:11:20 → 00:11:22 ครับผมแล้วถ้าคนที่สูบบุหรี่อ่ะครับมัน
00:11:22 → 00:11:25 เกี่ยวมั้ยกับโลกโลกนี้อ่ะครับเฮ้ยเกี่ยว
00:11:25 → 00:11:29 ยังไงเกี่ยวครับโลกการการการสูบบุหรี่จะ
00:11:29 → 00:11:34 ทำให้เกิดโรคปริทัณฑ์ได้ง่ายโดยที่คนสูบ
00:11:35 → 00:11:38 ก็จะไม่รู้ตัวด้วยนะและถ้าคนสูบเป็นพวกเ
00:11:38 → 00:11:41 prepare ไม่รู้จะพูดยไงใช้คำว่ายไงดีอ่ะ
00:11:41 → 00:11:44 เหมือนกับคนสูบบุหรี่บางทีเข้าไปหาหมอเขา
00:11:44 → 00:11:46 จะรู้นะว่าแบบฉันจะต้องไม่มีกลิ่นบุหรี่
00:11:46 → 00:11:49 คือเจะเข้าเพซว่าเหมือนมารยาททางสังคมอ่ะ
00:11:49 → 00:11:51 จะต้องไม่มีกลิ่นบุหรี่จะต้องแบบล้างน้ำ
00:11:51 → 00:11:55 ยานู่นนี่นั่นอ้าปากมาปึ๊บเหงือกของคนสูบ
00:11:55 → 00:11:58 บุหรี่กับเหงือกของคนเหงือกสุขภาพดีอ่ะ
00:11:58 → 00:12:02 เหมือนกันเด๊ะเลยนะอือืคือเหมือนเราสูบ
00:12:02 → 00:12:06 การสูบบุหรี่อ่ะครับมันจะทำให้เส้นเลือด
00:12:06 → 00:12:08 ที่อยู่ในเหงือกต้องเข้าใจก่อนว่าเส้น
00:12:08 → 00:12:10 เลือดในเหงือกอ่ะมันก็คือเลี้ยงกระดูก
00:12:10 → 00:12:13 เลือดส่งอาหารไปเลี้ยงร่างกายอย่างเงี้ย
00:12:13 → 00:12:15 ครับอเรองส่งอาหารเส้นประสาทส่งกระแส
00:12:15 → 00:12:18 ประสาทไปเลี้ยงกระดูกไปเลี้ยงใดๆอย่าง
00:12:18 → 00:12:21 เงี้ยครับเออเหมือนกันครับเลือดในเหงือก
00:12:21 → 00:12:24 เนี่ยมันก็ส่งอาหารส่งสารต่างๆไปเลี้ยง
00:12:24 → 00:12:29 เหงือกการสูบบุหรี่มันจะเหมือนกันลมควัน
00:12:29 → 00:12:32 น่ะอืนึกออกมยเอาควันน่ะไปรมอยู่ในเหงือก
00:12:32 → 00:12:35 เหงือกตรงนั้นก็จะเส้นเลือดตายเส้นเลือด
00:12:35 → 00:12:39 ก็จะค่อยๆน้อยลงก็หดมันหดก็หดใช่พอเส้น
00:12:39 → 00:12:42 เลือดน้อยลงมันก็ไม่แดงพอพอเลือดเป็นสี
00:12:42 → 00:12:45 แดงถูกมั้ยเพะไม่มีเลือดไปเลี้ยงไม่แดง
00:12:45 → 00:12:48 ใช่ใช่แล้วมันก็จะด้านขึ้นเพราะว่ามัน
00:12:48 → 00:12:50 เหมือนแบบมันโดนลมควันเหมือนเหมือนแฮมลม
00:12:50 → 00:12:53 ควันน่ะนึกออกป่ะผิวนอกของแฮมมันก็จะแข็ง
00:12:53 → 00:12:56 ๆด้านๆถูกมั้ยครับเออซึ่งเหือสุขภาพที่ดี
00:12:56 → 00:13:01 อ่ะก็จะต้องมีสีชมพูซีดและก็เนื้อแน่นอื
00:13:01 → 00:13:05 เพราะฉะนั้นคนสูบบุหรี่ที่สูบบุหรี่หนักๆ
00:13:05 → 00:13:09 ก็จะมีเหงือกที่แน่นแน่นแล้วก็ซีดชมพูซีด
00:13:09 → 00:13:11 ๆเหมือนกันเพราะฉะนั้นน่ะมันเป็นความ
00:13:11 → 00:13:15 เหมือนที่จะใช้ว่าโคตรจะแตกต่างเลยก็ได้
00:13:15 → 00:13:17 นะครับแล้วถ้าสมมุติว่าเรามองไม่ออกเนี่ย
00:13:17 → 00:13:20 ก็คือโรครนาถเกิดขึ้นในคนสูบบุหรี่เนี่ย
00:13:20 → 00:13:24 ก็หนักเพราะว่าถ้าจะรักษาอะไรมันยากเพราะ
00:13:24 → 00:13:27 ว่ามันไม่มีเลือดอะไรมาเลี้ยงนะครับอีก
00:13:27 → 00:13:29 ประเด็นนึงเนาะจิมีพูดถึงเรื่องพี่พูดถึง
00:13:29 → 00:13:31 เรื่องสภาพฟันไปแล้วนะครับแล้วก็มีเรื่อง
00:13:31 → 00:13:34 ของบุหรี่ไปแล้วใช่ป่ะครับอีกเรื่องนึงก็
00:13:34 → 00:13:37 เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบต่างๆในร่างกายนะ
00:13:37 → 00:13:41 ครับอย่างเช่นระบบฮอร์โมนหรือว่าระบบการ
00:13:41 → 00:13:47 เอ่อการเค้าเรียกอะไรนะการตอบสนองต่อสาร
00:13:47 → 00:13:49 พิษอ่ะครับหรือว่ากระบวนการอักเสบถูกมั้ย
00:13:49 → 00:13:52 ครับระบบต่างๆซึ่งเราเข้าใจเอาเป็นคำพูด
00:13:52 → 00:13:55 ง่ายๆเลยก็คือว่าระบบใดๆอ่ะมันไม่เท่ากัน
00:13:55 → 00:13:58 นะครับคือบางคนเนี่ยมีของมากระตุ้นให้ให้
00:13:58 → 00:14:03 อักเสบเหมือนกันแต่ระบบในการคิในการรักษา
00:14:03 → 00:14:05 ตัวเองการลดการอักเสบไม่เท่ากันใช่มันไม่
00:14:05 → 00:14:08 เท่ากันถูกมั้ยครับระบบในการเอ่อเผ่าผลาญ
00:14:08 → 00:14:10 ไม่เท่ากันระบบฮอร์โมนไม่เท่ากันอย่าง
00:14:10 → 00:14:13 เงี้ยครับอีพวกนี้ก็มีผลต่อการทำให้เกิด
00:14:13 → 00:14:15 โรคลน่าอ่าใช่เพราะว่าผมที่ได้ยินมาก็คือ
00:14:15 → 00:14:17 คนที่เป็นโรคเรื้อรังไม่ติดต่อหรือเรา
00:14:17 → 00:14:20 เรียกว่า ncd อ่ะครับคือคนพวกนี้เนี่ยเขา
00:14:20 → 00:14:23 จะมีระบบภูมิคุ้นกันที่ต่ำนะครับแล้วแล้ว
00:14:23 → 00:14:25 การอักเสบของเขาก็จะเยอะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:14:25 → 00:14:30 มันอาจจะไปกระทบระบบของฟันก็ได้ครับใชโ
00:14:31 → 00:14:37 ปริถได้ดีข้โรครนาโอคโรคปริทันอักเสบใช่
00:14:37 → 00:14:40 ครับเป็นได้เป็นได้ง่ายขึ้นเป็นได้แรง
00:14:40 → 00:14:42 ขึ้นอย่างเงี้ยครับโอเคบางทีก็ได้เห็นใจ
00:14:42 → 00:14:44 นะครับคนแบบนี้อย่าแบบว่าเอ่อพี่วินเคย
00:14:44 → 00:14:48 เจอเคสที่เแปลงฟันดีมากนะครับเขาแปลงฟัน
00:14:48 → 00:14:51 ดีมากแต่ว่าหินปูนก็ขึ้นง่ายมากนะครับบาง
00:14:51 → 00:14:53 ทีก็เป็นเพราะว่าคุณภาพของน้ำลายคุณภาพ
00:14:54 → 00:14:56 น้ำลายใช่ component หรือว่าส่วนประกอบใน
00:14:56 → 00:14:59 น้ำลายมันเอื้อต่อการแบบสร้าง
00:14:59 → 00:15:02 หินปูนไปเกาะที่ฟันจุงเบยอ่ะนึกออกป่ะเออ
00:15:02 → 00:15:04 น่าเห็นใจครับน่าเห็นใจก็ต้องมาขุดหินปูน
00:15:04 → 00:15:06 ทุกๆ 3 เดือนซึ่งคราวนี้ก็เป็นความรู้
00:15:07 → 00:15:09 ใหม่และขูดหินปูนทุกๆ 3 เดือนมีได้ด้วย
00:15:09 → 00:15:11 หรอวะถูกป่ะจริงใช่มเพราะว่าวิชาสุขศึกษา
00:15:11 → 00:15:14 ตอนเด็กๆอ่ะเราจะขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน
00:15:14 → 00:15:17 ถูกมครับแต่ว่าเนี่ยในชีวิตจริงไม่ใช่นะ
00:15:17 → 00:15:19 บางทีคือบางคนน่ะต้องขุดทุกๆ 3 เดือน
00:15:20 → 00:15:22 เพราะว่าหินปูนเขาขึ้นง่ายจังอย่าเงี้ย
00:15:22 → 00:15:24 ครับอืกับมาเรื่องนี้ที่พี่วินพูดถึง
00:15:24 → 00:15:26 เรื่องเกี่ยวกับเรื่องของคุณแม่ที่ตั้ง
00:15:26 → 00:15:29 ครรภ์อยู่แล้วทำให้คลอดก่อนกอืเออมันมัน
00:15:29 → 00:15:32 เกี่ยวกันยังไงอ่ะครับพี่วินอืมจริงๆอ่ะ
00:15:32 → 00:15:34 ไอ้เรื่องเนี้ยมันเหมือนเป็นความรู้ใหม่
00:15:34 → 00:15:37 เนาะนะครับมันมีรีเสิร์ชเพิ่งแบบหยอด
00:15:37 → 00:15:40 ประเด็นเนี้ยเข้ามานะครับว่า
00:15:40 → 00:15:46 เอ่อการที่คุณแม่มีโรคเอ่อปริทันหรือว่า
00:15:46 → 00:15:49 สุขภาพช่องปากที่ไม่ดีเี่มีสิทธิ์ที่ทำ
00:15:49 → 00:15:51 ให้ลูกคลอดออกมาได้ก่อนกำหนดใช่มั้ยครับ
00:15:51 → 00:15:53 แต่จริงๆแล้วออย่างไรก็ตามมันยังเป็น
00:15:53 → 00:15:56 covery อยู่ก็คือแปลว่ายังเป็นที่ถก
00:15:56 → 00:15:59 เถียงกันในวิชาการอยู่นะครับครับแต่ก็แค่
00:15:59 → 00:16:01 ให้เราตระหนักนะครับในความคิดของพี่วิน
00:16:01 → 00:16:05 พี่วินมองว่าอะไรที่คุณแม่กินก็จะส่งผล
00:16:06 → 00:16:08 ต่อลูกได้เหมือนกับมันจะมีโรคนึงกับ
00:16:08 → 00:16:10 จิมมี่ที่เราเรียนกันตอนเด็กๆแต่เราลืม
00:16:10 → 00:16:12 ชื่อไปแล้วแน่ๆเลยคือที่จะแบบว่าถ้าแม่
00:16:12 → 00:16:15 อ่ะกินเหล้าเยอะหรือว่าเป็นแบบแอลกอฮอลิค
00:16:15 → 00:16:17 อ่ะครับเป็นคนติดเหล้าอ่ะลูกออกมาจะเป็น
00:16:17 → 00:16:20 อาการอันนึงอ่ะที่แบบหน้าน้องเขาจะเหมือน
00:16:20 → 00:16:22 จะมีหน้าเฉพาะด้วยนะหน้าเหมือนเด็กเมาอ่ะ
00:16:22 → 00:16:25 มันเรียกว่า fetal alcoholic Syndrome
00:16:25 → 00:16:28 เอออะไรอย่างเงี้ยโอเคที่แบบน่าจะน่าจะ
00:16:28 → 00:16:31 เหมือนเด็กเมาน่าจะเหมือนเด็กเมาอย่าง
00:16:31 → 00:16:33 เงี้ยครับซึ่งเพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นการ
00:16:33 → 00:16:36 ยืนยันได้อีกแบบนึงว่าอะไรที่แม่กินก็จะ
00:16:36 → 00:16:39 ส่งผลไปถึงลูกลูกด้วยเหมือนกันถูกมั้ย
00:16:39 → 00:16:42 ครับผมผมไปอ่านในงานวิจัยเมาบอกเบอกว่า
00:16:42 → 00:16:44 คือสุขภาพช่องปากของคุณแม่อ่ะครับครับ
00:16:44 → 00:16:47 เชื้อแบคทีเรียในนั้นเนี่ยมันสามารถผ่าน
00:16:47 → 00:16:52 เข้าไปในทารกในเด็กตอนที่เขาท้องได้อืจน
00:16:52 → 00:16:55 ส่งผลกระทบทำให้เขาเกิดภาวะต่างๆมันถึง
00:16:55 → 00:16:58 เป็นเ้าเรียกว่าเป็นโปรโตคอลอีกมั้ยครับเ
00:16:58 → 00:17:01 ว่าเป็นแบบเป็นขั้นตอนข้อควรปฏิบัติเนเว
00:17:01 → 00:17:03 เมื่อคุณตั้งครรภ์อย่างแรกเลยก่อนที่คุณ
00:17:03 → 00:17:05 แบบกำลังเริ่มจะรู้ตัวว่าคุณตั้งครรภ์น่ะ
00:17:05 → 00:17:08 ครับคุณก็พยายามมาเช็ค up ให้อยู่สม่ำ
00:17:08 → 00:17:12 เสมอนะครับพยายามรักษาโรคปริทัณฑ์เจริงๆ
00:17:12 → 00:17:14 มันไม่ได้มีใครทุกคนจะเป็นโรคฟันคลอนแต่
00:17:14 → 00:17:16 ว่าทุกคนเป็นโรคเหงือกอักเสบก็คือรักษา
00:17:16 → 00:17:18 ก่อนที่คุณจะรักษาโรคเหงือกใช่อุดฟันอะไร
00:17:18 → 00:17:21 ให้เรียบร้อยคือถ้าคุณยังแบบเป็นรูีเชค up
00:17:21 → 00:17:24 อ่ะครับอยู่ตลอดเวลาเนี่ยคุณก็จะัพที่จะ
00:17:24 → 00:17:27 ไม่ควรมีฟันเผามั้ยฮะไม่มีเหงือกอักเสบ
00:17:28 → 00:17:30 หรือมีเหงือกอักเสบน้อยที่สุดที่จะน้อย
00:17:30 → 00:17:33 ได้ซึ่งมันมันมันคล้ายๆเหมือนคนเป็นสิว
00:17:33 → 00:17:35 อ่ะนึกออกป่ะเหงือกอักเสบกับคนเป็นสิวพี่
00:17:35 → 00:17:37 ว่ามันดูใกล้เคียงกันมากนะคือเราก็สามารถ
00:17:37 → 00:17:40 จะเป็นสิวได้ครับเราสามารถเป็นเอักเสบได้
00:17:40 → 00:17:42 เหมือนกันแต่คือมันอยู่ในลิมิที่เรา
00:17:42 → 00:17:45 สามารถที่จะคอนโรลมันได้แล้วถ้าคนที่ท้อง
00:17:45 → 00:17:48 ไปแล้วอ่ะพี่วินทำไงอ่ะเราเราคือคือเรา
00:17:48 → 00:17:51 ควรไปตรวจตอนคันที่อายุเท่าไหร่หรือว่า
00:17:51 → 00:17:53 ไม่ควรตรวจปกติหมอฟันผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
00:17:53 → 00:17:57 นะครับว่าสมมุติคนท้องแล้วเนี่ยเตรวจเทำ
00:17:57 → 00:18:00 ฟันขุดหินปูได้ทุกตอนที่ตั้งครรภ์เลยมั้ย
00:18:00 → 00:18:03 ออธิบายง่ายๆครับ 1-3 อ่ะก็คือกลัวว่า
00:18:03 → 00:18:06 น้องจะหลุดนะครับ 4-6 เนี่ยค่อนข้าง
00:18:06 → 00:18:09 stable และมาทำฟันได้ะ 7-8 เนี่ยท้อง
00:18:09 → 00:18:10 เริ่ม
00:18:10 → 00:18:13 โตมันนอนใช่พอนอนแล้วกลัวว่าจะหายใจไม่
00:18:13 → 00:18:16 ออกแต่ว่าในเชิงปฏิบัติจริงๆอ่ะครับบาง
00:18:16 → 00:18:18 หการที่มันสั้นๆแป๊บเดียวอะไรอย่างเงี้ย
00:18:18 → 00:18:23 7-8 ก็มีนะครับอืแต่ที่แน่ๆเลยอ่ะทอิที่
00:18:23 → 00:18:26 คุยกันเยอะๆทุกยุคทุกสมัยของคุณแม่ที่
00:18:26 → 00:18:30 ท้องเลยก็คือหลังคลอดแม่มีฟันผุเพราะลูก
00:18:30 → 00:18:33 ดึงแคลเซียมไปดึงมาดึงมาดึงยังไงอ่ะพี่
00:18:33 → 00:18:38 วินดึงพี่ต้องามหรือเปล่าพี่ต้องตามจริง
00:18:38 → 00:18:40 พี่หรือเปล่าว่าคือทุกครั้งที่คุณแม่แบบ
00:18:40 → 00:18:43 เราไม่เจอคนไข้น้ำคุณไข้ไปทอดลูกใช่มั้ย
00:18:43 → 00:18:45 กลับมาปุ๊บมีฟันผูปุ๊บคุณแม่จะว่าลูกถึง
00:18:45 → 00:18:48 แคลเซียมไปคะไม่ใช่ความผิดของคุณแม่นะคะ
00:18:48 → 00:18:50 เป็นความผิดของลูกก็ไม่รู้จะไปโทษลูกยัง
00:18:50 → 00:18:52 ไงเงี้ครับเออนั่นแหละก็เรื่องเยเป็น
00:18:52 → 00:18:55 เรื่องที่ควรจะคุยกันเพราะว่าพี่ว่ามันก็
00:18:55 → 00:18:58 เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจด้วยนะแล้วก็
00:18:58 → 00:19:00 เกี่ยวพันกันไหมมหมอหมอฟันอาจจะบอกว่ามัน
00:19:00 → 00:19:03 ไม่เกี่ยวแน่นอนเพราะว่าตับใดที่คุณแปรง
00:19:03 → 00:19:05 ฟันดีถูกไหมครับไม่ว่าจะยังไงก็ตามถ้าคุณ
00:19:05 → 00:19:07 แปรงฟัน
00:19:07 → 00:19:11 ดีจะเจออะไรก็ตามฟันก็จะไม่ผุถูกมั้ครับ
00:19:11 → 00:19:13 แต่ว่าในเชิงของโลกทางระบบจริงๆเงี้ยครับ
00:19:13 → 00:19:16 จิมมี่มีข้อคิดเห็นคือจริงๆคุณแม่ที่
00:19:16 → 00:19:18 กำลังตั้งครรภ์อยู่อ่ะครับเรื่องโฮร์โมน
00:19:18 → 00:19:21 เป็นอะไรที่มันสวิงมากนะครับเนาะ1ึใน
00:19:21 → 00:19:22 โฮร์โมนน่ะมันเรียกว่าฮอร์โมน
00:19:22 → 00:19:24 โปรเจสเตอโรนฮอร์โมนโสตรเป็นฮอร์โมนแห่ง
00:19:24 → 00:19:26 ความเป็นแม่เพราะฉะนั้นเนี่ยพอเราตั้งคัน
00:19:26 → 00:19:30 ปุ๊บฮอร์โมนเนี้ยจะสูงมากแล้วโฮร์โมนจรน
00:19:30 → 00:19:32 ที่มากเนี่ยในระหว่างนั้นที่ตั้งครรภ์
00:19:32 → 00:19:36 อยู่หลายเดือนมันจะทำให้เอ่อปล่อยสัญญาณ
00:19:36 → 00:19:38 ตัวนึงเรียกว่า poar grin poar grin
00:19:38 → 00:19:40 เนี่ยมันจะทำให้ Blood vessel ที่อยู่ใน
00:19:40 → 00:19:43 ช่องปากของเรามันเกิดการอักเสบพอมันเกิด
00:19:43 → 00:19:46 การอักเสบปึ๊บแบคทีเรียก็เลยมาทำให้คุณ
00:19:46 → 00:19:49 แม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่อ่ะครับมันเลย
00:19:49 → 00:19:51 เกิดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและเป็นฟันผู
00:19:51 → 00:19:54 ได้ง่ายอ๋อโอเคนี่ก็เป็นเห็นป่ะก็เป็นอีก
00:19:54 → 00:19:57 แอร์นึงแต่ว่าพอเราไปมองว่าอ้าวแต่ถ้า
00:19:57 → 00:20:01 สมมุติคุณแม่อ่ะแปรงฟันสะอาดไอ้ fact นี้
00:20:01 → 00:20:03 จะมีผลเหรออะไรเงี้ยเนี่ยคือทางฝั่งของ
00:20:03 → 00:20:05 นกรรมก็จะมองว่าเฮ้ยตับใดที่คุณแปรงฟัน
00:20:05 → 00:20:07 ถูกวิธีมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้นแต่ว่ามัน
00:20:07 → 00:20:11 แต่ความฝังพี่นะพี่มองว่ามันมันเกี่ยวมัน
00:20:11 → 00:20:14 น่าจะมีผลต่อฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปยัง
00:20:14 → 00:20:17 ไม่พอเนาะยังมีเรื่องเกี่ยวกับคุณแม่แพ้
00:20:17 → 00:20:21 ท้องอถูกมั้ยครับจินตนาการว่าเราอายุ
00:20:21 → 00:20:23 ประมาณนี้แล้วเนอะเราก็จะมีเพื่อนที่ท้อง
00:20:23 → 00:20:26 ๆๆอ่ะเนาะบางคนก็อ้วกๆๆๆๆอาเจียนอย่าง
00:20:26 → 00:20:27 เงี้ใช่มั้ยครับบางทีกรดหรืออะไรอย่าง
00:20:27 → 00:20:30 เงี้ยมันตีขึ้นมากรดหรืออะไรอย่าเงี้ยมัน
00:20:30 → 00:20:32 ก็ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกได้ง่าย
00:20:32 → 00:20:35 อยู่ก็คือคือคุณแม่แพ้ท้องแล้วพอแพ้ท้อง
00:20:35 → 00:20:38 มันเกิดอ้วกออกมาใช่ครับพออ้วกด้วยความ
00:20:38 → 00:20:40 ว่ากดมันมาจดมาจากกระเพาะของเรามันเป็น
00:20:40 → 00:20:43 กรดพอมันโดนฟันใช่ครับมันมันก็เลยไปกัด
00:20:43 → 00:20:47 ฟันมันก็ใช่ครับเหมือนเหมือนโลกคนล้วงคอ
00:20:47 → 00:20:50 อ๋อไม่อยากอ้วนไม่อยากอ้วนใช่ล้วงคอปือ
00:20:50 → 00:20:53 ว่าฟันมันก็จะมีลักษณะของคนคนล้วงคอนะเออ
00:20:53 → 00:20:54 อะไรอย่างเงี้ยครับใช่่เกี่ยวกับเรื่อง
00:20:55 → 00:20:58 กินมั้ยเกี่ยวกับเรื่องกินใช่อาจจะมีมีผล
00:20:58 → 00:21:02 ก็เพราะว่าเรื่องกินเนี่ยคุณแม่เค้าก็
00:21:02 → 00:21:04 อยากจะให้รูกสุขภาพแข็งแรงใช่มมครับเคก็
00:21:04 → 00:21:07 จะต้องกินกินจุ๊บกินจิ๊บถูกมั้ยครับกิน
00:21:07 → 00:21:10 จุ๊บกินจิ๊บปึ๊บแปรงฟันดูแลได้ดีม
00:21:10 → 00:21:13 อันเนี้ยพี่ว่ามันอาจจะเกี่ยวกับว่า
00:21:13 → 00:21:17 เค้าเขจะดูแลได้ลำบากถูกมั้ยครับคือคงคน
00:21:17 → 00:21:20 เราอ่ะแปรงฟันวันละ 3 ครั้งแต่กินน่ะถ้าม
00:21:20 → 00:21:22 กินจุ๊บจิบแล้วแบบมีลูกเนี่ยคือกินทั้ง
00:21:22 → 00:21:25 วันน่ะเออฟันก็จะผุได้ง่ายเหงือกอักเสบ
00:21:25 → 00:21:28 ได้ง่ายอีกถูกมั้ยครับแล้วก็บวกกับอันแรก
00:21:28 → 00:21:30 ด้วยที่อาเจียนใช่มั้ยถ้าอาเจียนอย่าง
00:21:30 → 00:21:34 เงี้ยคือต้องจินตนาการว่าถ้าฉันอาเจียน
00:21:34 → 00:21:37 ทั้งวันทุกวันน่ะฉันจะมีอารมณ์แปรงฟัน
00:21:37 → 00:21:40 หรือเปล่าหรือว่าเอออารมณ์ในการดูแลฟัน
00:21:40 → 00:21:43 มันก็คงจะยากโอกาสเกิดฟันถุกก็เลยได้ง่าย
00:21:43 → 00:21:46 ใช่พี่วินเลยมองว่ามันเป็นมันเป็นปัจจัย
00:21:46 → 00:21:49 สืบเนื่องกันมามากกว่าครับผมวันนี้สนุก
00:21:49 → 00:21:51 มากเลยครับพี่วินขอบคุณมากนะครับน้องผม
00:21:51 → 00:21:54 ได้ความรู้อะไรใหม่ๆไปเลยนะครับแล้วอยาก
00:21:54 → 00:21:56 ให้พี่วินแนะนำหน่อยวิธีการรักษาสุขภาพ
00:21:56 → 00:21:59 ฟันเพื่อจะได้ห่างไกลจากโลกควรทำยังไง
00:21:59 → 00:22:01 บ้างอครับอ่ะอย่างแรกเลยก็คือแปลงฟันแล้ว
00:22:01 → 00:22:05 ต้องใช้ไหขัดฟันนะครับซึ่งการแปลงฟันให้
00:22:05 → 00:22:09 ถูกวิธีการใช้ใหม่ขัดฟันทุอทเนี่ยเอ่อไป
00:22:09 → 00:22:12 หาคุณหมอฟันประจำตัวของเราแล้วก็ให้เขา
00:22:12 → 00:22:16 สอนนะครับอย่างที่ 2 ก็คือตรวจสุขภาพฟัน
00:22:16 → 00:22:19 ทุกๆ 6 เดือนนะครับอย่าละเลยนะครับเอ่อ
00:22:19 → 00:22:23 ให้คุณหมอขุดหินปูนเช็คฟันผุนะครับ x-ray
00:22:23 → 00:22:28 เชคฟันผุพยายามทำให้ได้ทุกๆปีนะครับอืแค่
00:22:28 → 00:22:31 นั้นแหละก็คิดว่าน่า
00:22:31 → 00:22:34 จะครอบคลุมและนะครับในการที่จะมีสุขภาพ
00:22:34 → 00:22:36 ช่องปากที่ดีครับและอีกอย่างนะครับอย่า
00:22:36 → 00:22:37 ลืมไปตรวจสุขภาพร่างกายเหมือนกันนะครับ
00:22:38 → 00:22:40 อย่างน้อยขอปีละ 1 ครั้งแล้วะกันโอเคครับ
00:22:40 → 00:22:42 แล้วก็ที่สำคัญอีกอย่างนึงก็คือพยายาม
00:22:42 → 00:22:45 สังเกตตัวเองดีๆนะครับถ้าสมมุติว่าเรามี
00:22:45 → 00:22:48 อาการผิดปกติใน mindset ของเราก็คือการหา
00:22:49 → 00:22:51 สาเหตุง่ายๆอาจจะมองว่าเหมือนการหาผู้
00:22:51 → 00:22:53 ร้ายอ่ะเนอะว่าแบบเอ๊ะฆาตกรเป็นใครอะไร
00:22:53 → 00:22:56 อย่างงี้ใช่มั้ครับเออบางทีเนี่ยฆาตกรอาจ
00:22:56 → 00:23:00 จะไม่ได้เป็นคนที่เราคิดก็ได้ถูกมครับอาจ
00:23:00 → 00:23:03 จะเป็นคนไกลๆในส่วนหนึ่งของร่างกายก็ได้
00:23:03 → 00:23:05 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าสมมุติเราสังเกตตัว
00:23:05 → 00:23:09 เองดีๆแล้วเนี่ยก็ลองมาปรึกษาคุณหมอดูนะ
00:23:09 → 00:23:13 ครับเพื่อไฟลเ่อทางเลือกหรือหาสาเหตุที่
00:23:13 → 00:23:16 หลากหลายมากขึ้นเราจะได้มีสุขภาพที่ดีกัน
00:23:16 → 00:23:18 ขอทุกคนมีสุขภาพดีครับและนี่คือ doct
00:23:18 → 00:23:20 Talk podcast ที่หมอและผู้เชี่ยวชาญทาง
00:23:20 → 00:23:23 ด้านสุขภาพมาพูดคุยประเด็นเรื่องสุขภาพ
00:23:23 → 00:23:25 ต่างๆกันครับพบกันใหม่ใน EP หน้าสวัสดี
00:23:25 → 00:23:35 ครับสวัสดีครับ
00:23:35 → 00:23:38 อ