00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีค่ะคุณโอสวัสดีค่ะคุณตั๊กครับรคุณ
00:00:04 → 00:00:08 หมอเจลาแบบนี้ด้วยสวัสดีมากๆเลยคยินดีฮะ
00:00:09 → 00:00:12 ก็คุยกับหมอเจมาหลายรอบโดยเฉพาะเรื่องของ
00:00:12 → 00:00:17 เอ่อรคซึมเศร้านะอืก็ไปเจอข้อมูลมาจากโรง
00:00:17 → 00:00:20 พยาบาลมิมุนี่แหละแล้วก็เป็นเป็นอาการ
00:00:20 → 00:00:22 หนึ่งที่โอยพอเห็นข้อมูลออกมาแล้วเนี่ย
00:00:22 → 00:00:26 โอ้โหมันมันมันน่าสนใจมากๆเลยเพราะว่า
00:00:26 → 00:00:28 หลายๆคนเนี่ยปัจจุบันเองผมวันนี้ก็เพิ่ง
00:00:28 → 00:00:31 คุยเล่นๆกับเพื่อนเพื่อนยงโอคนนั้นก็คน
00:00:31 → 00:00:34 รอบตัวก็เป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนคนนู้นก็
00:00:34 → 00:00:37 เป็นเออเอาซะเอ้ยหรือเราเป็นบ้างป่าวะ
00:00:37 → 00:00:41 ทำไมเราไม่เป็นเริ่มสงสัยตัวเองเออนะฮะก็
00:00:41 → 00:00:43 เลยจะมาคุยกับหมอเจวันนี้ครับให้กับคุณ
00:00:43 → 00:00:46 ผู้ฟังชาว FM 1.5 แล้วก็ชาวสุขภาพดี
00:00:46 → 00:00:49 22:00 นด้วยนะครับเกี่ยวกับว่าเอ่อขอถาม
00:00:49 → 00:00:52 คำถามแรกเลยหมอเจนะฮะเอ่อเรื่องของภาวะ
00:00:52 → 00:00:54 ซึมเศร้าซ่อนเร้นเนี่ยมันมันมันคืออะไร
00:00:54 → 00:00:57 กันแน่แล้วมันมันมีอาการที่บ่งบอกได้บ้าง
00:00:57 → 00:01:01 มั้ยครับคุณหมอเจ๊ฮะคือจริงๆต้องเข้าใจ
00:01:01 → 00:01:03 ก่อนว่าภาวะซึมเศร้าซ่อนเรสอ่ะค่ะถ้าจะ
00:01:03 → 00:01:08 บอกว่าเป็นอ่าสิ่งย่อยๆในภาวะซึเช่าก็ก็
00:01:08 → 00:01:11 คือทำนองนั้นแล้วกันใช้คำว่าอ่ะอย่างเรา
00:01:11 → 00:01:13 พูดอย่างนี้ก่อนแล้วกันเนาะอย่างอ่านึก
00:01:13 → 00:01:16 ถึงโรคที่คุ้นเคยอย่างเช่นโควิดโควิด
00:01:16 → 00:01:18 เนี่ยอาการเป็นได้ทุกแบบเลยตั้งแต่สมัย
00:01:18 → 00:01:20 แรกๆทุกคนก็ต้องรู้สึกว่าจมูกต้องไม่ได้
00:01:21 → 00:01:23 กริ่นครับถ้าจมูกได้กลิ่นเนี่ยแปลว่าฉัน
00:01:23 → 00:01:25 ได้เป็นโควิดอะไรเงี้ยค่ะคืออาการมันเป็น
00:01:25 → 00:01:28 ได้หมดซึมเศร้าเองก็ไม่ได้มีแค่จะต้องรอ
00:01:28 → 00:01:31 จนเราไม่อยากมีชีวิตอยู่หรืออยากตายเท่า
00:01:31 → 00:01:33 นั้นถึงเป็นหรือไม่ได้แปลว่าเราต้องร้อง
00:01:33 → 00:01:36 ไห้เท่านั้นถึงเป็นครับทีเนี้ยภาวะซึม
00:01:36 → 00:01:39 เศร้าซ่อนเร้นน่ะค่ะก็คือภาวะที่บางที
00:01:39 → 00:01:41 เจ้าตัวเองอ่ะค่ะก็อาจ
00:01:41 → 00:01:45 จะรู้ตัวหรืออาจจะไม่รู้ตัวก็ได้คือถ้า
00:01:46 → 00:01:49 รู้ก็อาจจะสมมุติว่าเศร้าเศร้า 5 9 เต็ม
00:01:49 → 00:01:51 10 เลยเจ้าตัวอาจจะคิดว่าฉันเศร้าแค่ 2
00:01:51 → 00:01:54 เต็ม 10 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็คือไม่ไม่ไม่
00:01:54 → 00:01:56 รับไม่ไม่รู้อารมณ์ตัวเองแต่จริงๆอ่ะคน
00:01:56 → 00:02:00 รอบข้างบางไทยก็อาจจะสังเกตเห็นถ้าเป็นคน
00:02:00 → 00:02:03 สนิทมากๆแต่บางทีก็อาจจะไม่เห็นก็คือมัน
00:02:03 → 00:02:05 ซ่อนอยู่ข้างในเพราะจริงๆซึมเศร้าไม่ต้อง
00:02:05 → 00:02:07 ซ่อนเลนนะคะซึมเศร้าธรรมดาก็ดูยากอยู่
00:02:07 → 00:02:09 แล้วเพราะมันไม่ได้เหมือนแผลมีดบาตรที่
00:02:09 → 00:02:13 เราเห็นเอใช่เห็นได้ชัดๆอ่ะเนาะอืใช่ค่ะ
00:02:13 → 00:02:15 อืทีนี้ภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้นคืออะไรมันก็
00:02:15 → 00:02:19 คือภาวะซึมเศร้าที่อาจจะมาคือซึมเศร้า
00:02:19 → 00:02:22 เนี่ยถ้าเราไปทำแบบคัดกรองอย่างเดี๋ยว
00:02:22 → 00:02:24 เนี้ยแนะนำง่ายๆกรมสุขภาพจิตหรือของวิมุต
00:02:24 → 00:02:26 หรือของอะไรก็ได้จะเป็นแบบพอปกองเดียวกัน
00:02:26 → 00:02:30 น่ะค่ะที่ก้าคำถามเนี่ยจะเห็นเลยว่าจริงๆ
00:02:30 → 00:02:32 อ่ะในภาวะซึมเศร้าอ่ะให้คำถามด้านอารมณ์
00:02:32 → 00:02:36 จริงๆอ่ะค่ะมันมีแค่ 2 คำถามนะอารมณ์แรก
00:02:36 → 00:02:39 คืออารมณ์ทางลบอารมณ์เศร้าง่ายร้องไห้
00:02:39 → 00:02:43 ง่ายอ่อนไหวอารมณ์ทางที่ 2 คืออารมณ์ที่
00:02:43 → 00:02:47 ออกไปแนวเบื่อนายเซงกังวลเลยค่ะส่วนอาการ
00:02:47 → 00:02:49 หลายๆอันเป็นอาการที่ไม่ได้เป็นอาการของ
00:02:49 → 00:02:52 อารมณ์แต่เป็นอาการทางกายที่อารมณ์มันไป
00:02:52 → 00:02:55 ส่งผลคือใจเป็นนายกลายเป็นบ่าวอย่างเช่น
00:02:55 → 00:02:59 เรื่องของการนอนมีตั้งแต่นอนไม่หลับไปจน
00:02:59 → 00:03:03 โอ้โหนอนได้วันละ 16 ชมงไม่อยากลุกอาการ
00:03:03 → 00:03:06 ของการกินบางคนคือกินจนน้ำหนักหายไปเลย
00:03:06 → 00:03:09 กินไม่ได้จนหายไปเลย 10 กลอาการทางด้าน
00:03:09 → 00:03:13 สมาธิอาการทางด้านเรื่องของความรู้สึกผิด
00:03:13 → 00:03:16 นู่นนี่นั่นไปจนถึงอาการที่รุนแรงและเป็น
00:03:16 → 00:03:20 ห่วงที่สุดคือการทำร้ายร่างกายและการอ่า
00:03:20 → 00:03:25 ภาวะอยากฆ่าทตายเนาะอืออโอหมันก็มีความ
00:03:25 → 00:03:27 ข้อสังเกตจริงๆแล้วเอ่อหลายๆครั้งที่เรา
00:03:27 → 00:03:30 คุยกันครับหมอเจโรคือเจ้าเองก็ค่อนข้าง
00:03:30 → 00:03:33 ที่จะสังเกตได้ยากเอ่อแต่มันก็พอจะมีอะไร
00:03:33 → 00:03:36 ที่บ่งบอกได้บ้างโดยเฉพาะถ้าเมีแล้วจะ
00:03:36 → 00:03:38 ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะอนะ
00:03:38 → 00:03:42 ฮะอันนี้สำคัญเลยใช่มั้ยคุณหมอเจใช่ๆค่ะ
00:03:42 → 00:03:45 ทีเนี้ยคือเฝ้าซ่อนเร้นเนี่ยใช้คำว่าพอ
00:03:45 → 00:03:48 มันสังเกตได้ยากคือต้องเข้าใจก่อนว่า้า
00:03:48 → 00:03:50 คือต้องเข้าใจก่อนอย่างนี้แล้วกันเนาะว่า
00:03:50 → 00:03:54 คนใช้คำว่าเป็นใช้คำว่าวัฒนธรรมของสังคมะ
00:03:54 → 00:03:56 กันซึ่งใช้เขว่าสมัยเนี้ยดีมากที่สังคม
00:03:56 → 00:04:00 น่ารักเปิดรับเข้าใจว่าุศอเป็นโรคที่เกิด
00:04:00 → 00:04:02 ขึ้นได้ไม่ได้เป็นความผิดไม่ได้แปลว่า
00:04:02 → 00:04:06 ทำไมคุณไม่คิดมวกไม่ได้แปลว่าทำไมคุณแบบ
00:04:06 → 00:04:08 คิดรบจังเลยคือไม่ได้เป็นความผิดไม่ได้
00:04:08 → 00:04:11 เป็นเรื่องน่าอายน่ากลัวหรือน่ารังเกียจ
00:04:11 → 00:04:14 อ่าเพียงแต่ว่าก็ต้องเข้าใจว่าอ่าการเปิด
00:04:14 → 00:04:16 รับที่ดีขึ้นเนี่ยบางทีมันก็ยังมีหลาย
00:04:16 → 00:04:19 สังคมหลายยุคหลายสมัยที่โตมาอันนี้ไม่ได้
00:04:19 → 00:04:21 พูดถึงแค่เฉพาะในไทยนะคะอย่างในเมืองนอก
00:04:21 → 00:04:24 จะมีคำว่าสโตอีกอย่างเช่นอย่างเช่นเอา
00:04:24 → 00:04:26 ง่ายๆเนาะอย่างเช่นสมมุติบางคนเก็จะมีว
00:04:26 → 00:04:29 คิดว่าผู้ชายต้องไม่แสดงออกทางอารมณ์อืลู
00:04:29 → 00:04:33 ผู้ชายร้องไม่ได้อะไรอย่างเงี้ค่ะเนาะอ
00:04:33 → 00:04:36 หรือบางคนก็คือแบบบางคนน่ะเไม่ได้มีแวคิด
00:04:36 → 00:04:39 อย่างงี้หรอกแต่ว่าบางบ้านน่ะไม่เคยสื่อ
00:04:39 → 00:04:42 สานทางด้านอารมณ์บางบ้านอ่ะค่ะเราบอกว่า
00:04:42 → 00:04:44 เครียดแต่พอถามว่าเออเครียดเนี่ยมันคือ
00:04:44 → 00:04:48 ความรู้สึกยังไงหรอครับเตอบเรามาว่าไม่
00:04:48 → 00:04:50 รู้มันเครียดเหมือนอื่นๆคือเขาไม่ได้
00:04:50 → 00:04:53 สามารถบอกได้ด้วยว่าเครียดนี่คือกังวล
00:04:53 → 00:04:56 เครียดนี่คือหงุดหงิดเครียดนี่คือโกรธ
00:04:56 → 00:04:59 เครียดนี่คือเบื่อนายเซงเตอบไม่ได้ด้วย
00:04:59 → 00:05:00 ซ้ำ
00:05:00 → 00:05:03 เหมือนสีนึกออกคะเหมือนสีสมมตเราบอกได้
00:05:03 → 00:05:06 ว่าอันสีแดงแต่บอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอันแดง
00:05:06 → 00:05:09 อ่อนอันนี้แดงเข้มอันนี้แดงโทนแดงอมส้ม
00:05:10 → 00:05:12 อันนี้เหมือนแพนโทนสีอย่าเงี้เขาบอกได้
00:05:12 → 00:05:15 แค่นั้นน่ะอ่าผมก็บอกไม่ได้นะสีเนี่ยแยก
00:05:16 → 00:05:17 ไม่
00:05:17 → 00:05:20 ออกคืออันมันก็คือเป็นความคุ้นชินทีเนี้ย
00:05:20 → 00:05:23 ส่วนใหญ่ภาวะซึมซ่อซ่อนเล้นอ่าต้องพูด
00:05:23 → 00:05:26 ก่อนว่าถ้าเลนเนี่ยคือถ้าคนรอบข้างดูไม่
00:05:26 → 00:05:29 ออกเนี่ยนะคะอันเนี้ยจริงๆก็คือหน้าเป็น
00:05:29 → 00:05:32 ห่วงและแต่ถ้าตัวเองดูไม่ออกเนี่ยหน้า
00:05:32 → 00:05:35 เป็นห่วงมากกว่าอ๋อถ้าเราเนี่ยไม่ดูไม่
00:05:35 → 00:05:38 ออกอารม์ตัวเองเป็นยังไงใช่คือเหมือน
00:05:38 → 00:05:40 เหมือนที่เรายกตัวอย่างสีเงี้คือเราไม่
00:05:40 → 00:05:42 รู้ว่าอารมณ์ตอนเมันไม่โอเคแล้วอ่ะอื
00:05:42 → 00:05:44 เพราะเพะอาจจะด้วยหลายๆอย่างอาจจะด้วย
00:05:44 → 00:05:47 อย่างเช่นเราไม่คุ้นชินกับการเข้าใจ
00:05:47 → 00:05:50 อารมณ์ตัวเราเหมือนที่เราไม่คุ้นชินกับ
00:05:50 → 00:05:52 การบอกแทนโทนสีซึ่งผู้หญิงอาจจะบอกได้
00:05:52 → 00:05:55 โอโหลิปสติ 50 shade of เกยเลยผู้ชาย
00:05:56 → 00:05:58 อาจจะเกยมันก็มีเกย 2 เกยมเทาอ่อนเาเข้ม
00:05:59 → 00:06:02 อ่ะอเงี้ครับผมหนในนั้นเป็นอย่างงั้นฮะ
00:06:02 → 00:06:04 อ่าก็คือเหมือนพอเราไม่เข้าใจคืออารมณ์ก็
00:06:04 → 00:06:06 เหมือนกันบางทีเราไม่ไม่เคยสัมผัสเราไม่
00:06:06 → 00:06:09 คุ้นชินกับมิติทางอารมณ์เพราะฉะนั้นบางที
00:06:09 → 00:06:12 อ่ะเราไม่รู้ตัวว่าอารมณ์เนี้ยมันมันมัน
00:06:12 → 00:06:15 มันผิดปกติและใช่เพราะเราไม่รู้ว่ามันคือ
00:06:15 → 00:06:16 อะไรเพราฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่าอันเนี้ยมัน
00:06:16 → 00:06:21 ผิดปกติออ๋อแสดงว่าเมื่อเราเริ่มเอ่อเห็น
00:06:21 → 00:06:24 ว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้แหละที่เราไม่คุ้น
00:06:24 → 00:06:26 ชินมันเลยเฮ้ยมันคืออะไรกันแน่สับสนจัง
00:06:26 → 00:06:30 เลยอันเนี้ยแหละมันน่ามันน่าจะเป็นจุดที่
00:06:30 → 00:06:32 บอกเราเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกเราว่าเอ้ย
00:06:32 → 00:06:36 หรือเปล่านะอย่างงี้ได้มั้ยฮะอืมบางทีบาง
00:06:36 → 00:06:40 ทีคนที่ไม่รู้ก็ก็ได้ด้วยค่ะแล้วบางทีคน
00:06:40 → 00:06:42 ที่ไม่รู้ทางอารมณ์อ่ะค่ะเอางี้แล้วกัน
00:06:42 → 00:06:45 นึกถึงอ่าเคยเห็นเด็กอนุบาลมั้ยคะเด็ก
00:06:45 → 00:06:47 อนุบาลที่เวลาไปโรงเรียนปวดท้องทุกเช้า
00:06:47 → 00:06:50 เลยแต่เสาร์อาทิตย์ไม่เคยปวดอ่ะฮะเหมือน
00:06:50 → 00:06:53 ทำไมทำไมลูกฉันจะไปโรงเรียนจันถึงศุกร์
00:06:53 → 00:06:55 เนี่ยปวดท้องทุกเช้าเลยแต่เสาร์อาทิตย์
00:06:55 → 00:06:58 ลูกฉันตื่นมาดูการ์ตูนได้ตั้งแต่ 7:00 น
00:06:58 → 00:07:02 เลยมาดู
00:07:02 → 00:07:07 อืคำว่าคล้ายบาเหมือนกันค่ะบางีเป็นงที่
00:07:07 → 00:07:10 ฟ้องออกมาอืคือเด็กปวดท้องเด็กอนุบาลปวด
00:07:10 → 00:07:12 ท้องเขาไม่ได้แกล้งปวดโอเคมันอาจจะมีส่วน
00:07:12 → 00:07:15 ที่เขาเขอยากปวดส่วนนึงแหละแต่ส่วนนึงคือ
00:07:15 → 00:07:17 เขาก็รู้สึกปวดจริงๆส่วนนึงอ่ะเนี่ยเลย
00:07:17 → 00:07:20 ค่ะซึมซ่อนซ่อนเล้นเนี่ยบางทีคือร่างกาย
00:07:20 → 00:07:24 มันฟ้องออกมาอื
00:07:24 → 00:07:28 ออแต่ถ้าจะว่าไปเนี่ยมันค่อนข้างที่จะ
00:07:28 → 00:07:31 สังเกตด้วยเองยากยากอยู่เหมือนกันมั้ยคะ
00:07:31 → 00:07:35 เออก็ถ้าถ้าถ้าสมมุติว่ามันเป็นภาวะุม
00:07:35 → 00:07:37 เศ้าซ่อนซ่อนเร้นในระดับที่เราไม่รู้จาก
00:07:37 → 00:07:41 อารมณ์เราอ่ะก็สังเกตยากค่ะแต่บางคนหลายๆ
00:07:41 → 00:07:43 ท่านก็คือต้องบอกเลยว่าอ่ะอย่างผู้ใหญ่
00:07:43 → 00:07:46 บางคนแบบทำไมมันดูเป็นออย่างเช่นเป็น
00:07:46 → 00:07:50 ไมเกรนบ่อยบๆๆๆทั้งๆที่อุ๊ยคุณหมอไมเกรน
00:07:50 → 00:07:53 ก็ให้ยาดีนะเราก็พยายามจะนอนแต่ก็ยังนอน
00:07:53 → 00:07:56 ไม่หลับนะหรืออะไรก็ตามรเงี้ยค่ะหรือบาง
00:07:56 → 00:07:59 คนมีอาการทางกายที่คุณหมอเาก็โอโหบางคนทง
00:07:59 → 00:08:02 ทั้งเอ่อตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือบางคนแม้
00:08:02 → 00:08:05 แต่ไปรอดอุโมงคคลื่นแม่เหล็กมาแล้วก็หา
00:08:05 → 00:08:08 พญาทิสภาพตัวจับทางกายไม่เจออะไรเงี้ยค่ะ
00:08:08 → 00:08:14 อคอืครับเอ่ออย่างงี้เองอย่างงี้เองคนที่
00:08:14 → 00:08:18 อยู่ในภาวะนี้อีกมันมันมันมันมันน่าเป็น
00:08:18 → 00:08:22 ห่วงหรือว่ามันมันน่ากังวลกับภาวะโรคซึม
00:08:22 → 00:08:26 เศร้าซ่อนเล้นแบบนี้ยังไงฮะโอน่ากังวลมาก
00:08:26 → 00:08:30 ๆค่ะเพราะว่าจริงๆอ่ะค่ะบางทุกคนคือกว่า
00:08:30 → 00:08:33 จะรู้ตัวค่ะฮะมันไปไกลแล้วหมายถึงไปไกล
00:08:33 → 00:08:36 แล้วคืออย่างเ่าอย่างที่ล่าสุดเยมีข่าว
00:08:36 → 00:08:39 น่าจะเป็นแวดวงข่าวในของคนในแวดวงของคุณ
00:08:39 → 00:08:42 ตั๊กคุณโอ๊คเนี่ยแหละเนาะที่ทุกคนก็เสีย
00:08:42 → 00:08:45 ใจกันทุกคนก็แบบไม่ทราบเลยว่ามีขออนุญาต
00:08:45 → 00:08:47 ไม่เอ่ยชื่อเนาะเพราะน่าจะทราบอยู่แล้ว
00:08:47 → 00:08:52 ว่าพูดถึงใครอะไรเงี้ยเนาะค่ะอือืมันก็จะ
00:08:52 → 00:08:57 สู่นำไปสู่ทิศทางแบบนั้นได้อ่าใช่ค่ะโอโห
00:08:57 → 00:09:00 อมันไม่เหมือนถ้าเ้าเข้าตรงๆอ่ะบางทีแบบ
00:09:00 → 00:09:04 เหมือนไม่ตรงอ่ะเนาตงแฟนเราก็เหเราก็ถาม
00:09:04 → 00:09:09 เพื่อนเราก็ถามใช่ค่ะอืเยเคยเคยได้เห็น
00:09:09 → 00:09:11 เหมือนกันที่บอกว่าบางทีอ่ะการแสดงอาการ
00:09:11 → 00:09:13 ตรงข้ามอ่ะค่ะเหมือนจริงๆอ่ะเศร้าอยู่แต่
00:09:13 → 00:09:18 แบบหัวเราะหรือว่ายิ้มออกมาบ่อยๆอะไรแบบ
00:09:18 → 00:09:20 เนี้ยมันอยู่อยู่ๆก็ยิ้มอยู่ดีก็หัวเราะ
00:09:20 → 00:09:23 อย่างี้เหรออันนี้เป็นซ่อนเร้นมั้ยคะอื
00:09:23 → 00:09:25 คือเหมือนพยายามที่จะกดความรู้สึกของตัว
00:09:25 → 00:09:28 เองไว้ว่าตัวเองไม่เศร้าในความเป็นจริง
00:09:28 → 00:09:29 เศ้า
00:09:29 → 00:09:32 ใช่เลยค่ะคือเขาฝื่นยิ้มเพราะอะไรเไม่ได้
00:09:32 → 00:09:35 พยายามหรือเไม่ได้หลอกคนอื่นนะอืแต่แล้ว
00:09:35 → 00:09:37 ก็ไม่ได้หลอกคนเองด้วยแต่เพราะว่าเขาไม่
00:09:37 → 00:09:41 อยากเป็นภาระคนอื่นอคนไข้พูดเยอะมากว่า
00:09:41 → 00:09:45 แบบพ่อแม่เพื่อนภรรยาอะไรอย่างเงี้ยดี
00:09:45 → 00:09:49 สามีดีมากเลยแต่ผมอ่ะไม่ปรึกษาเาเพราะผม
00:09:49 → 00:09:52 ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงอออันเนี้ยก็เป็นต
00:09:52 → 00:09:54 เลอีกแบบนึงนะคือตัวเองอ่ะรู้ว่าตัวเอง
00:09:54 → 00:09:57 เศร้าแต่คนอื่นอ่ะไม่รู้ว่าตัวเองเศร้า
00:09:57 → 00:10:01 อ่าฮฝื่นยิ้มอันเนี้ยคือจริงๆคือเจอคนไข้
00:10:01 → 00:10:04 2 ท่านเลยนะมาบอกเมแบบตรงกันเลยว่าหมอ
00:10:04 → 00:10:07 คือเป็นเเป็นสไตล์เนี่ยผู้ชายผู้ชายแมนๆ
00:10:07 → 00:10:10 ที่ต้องแบบภาษาอังกฤษว่าสตอิกคือไม่แสดง
00:10:10 → 00:10:13 อารมณ์อเมาบอกเลยพอพอเรารักษากันไปสักพัก
00:10:13 → 00:10:16 เเริ่มดีขึ้นเขาบอกหมอหมอเคยฟังเพลงยิ้ม
00:10:16 → 00:10:20 ของพี่โอ๊ตปราโมทย์มั้ยผมเป็นแบบนั้นเลย
00:10:20 → 00:10:23 อืเหมือนยิ้มให้กับคนทั้งโลกคทั้งโลกกับ
00:10:23 → 00:10:26 ตัวเองคเป็นแบบนั้นเลยอ
00:10:26 → 00:10:30 โหตรงกันเลยอือออตอนนั้นคนอื่นนี่ก็คือ
00:10:30 → 00:10:33 แบบพร้อมที่จะีปความรู้สึกของตัวเองเอา
00:10:33 → 00:10:36 ไว้ให้คนอื่นมีความสุขได้ให้คนอื่นแบบไม่
00:10:36 → 00:10:38 ต้องมากังวลกับตัวเองแต่ว่าลึกๆแล้วเนี่ย
00:10:39 → 00:10:45 โอ้โหช่างยากจังเลยใช่ค่ะโอ้โหแสดงว่า
00:10:45 → 00:10:49 เอ่อปัจจัยมันมันมันมีจากอะไรได้บ้างคุณ
00:10:49 → 00:10:54 หมอคือจริงๆอ่ะค่ะมันเหมือนกันกับโรกซึม
00:10:54 → 00:10:56 เศร้าเลยปัดใจอ่ะค่ะเพียงแต่ว่ามันแค่
00:10:56 → 00:10:59 เป็นเรื่องของอาการแสดงที่ต่างกันคืออ
00:10:59 → 00:11:01 อย่าที่บเมื่อเนว่าโรซึมเศร้าเล็มันเป็น
00:11:01 → 00:11:05 ตัวย่อยของโซึมเศร้าทำนองนเพราะั้นปัจจัย
00:11:05 → 00:11:08 ก็คือหลักๆสมัยนี้เนาะสมัยเจริงๆเขาบอก
00:11:08 → 00:11:11 เลยว่าสาเหตุอ่ะคือสารเคมีในสมองค่ะถึง
00:11:11 → 00:11:14 บอกว่าไม่ใช่แปลว่าเธอเป็นซุ้มเศร้าเพราะ
00:11:14 → 00:11:16 เธอคิดลบอันเนี้ยมันมันมันเชแล้วอ่ะถ้า
00:11:16 → 00:11:20 เราไปบอกว่าก็อยากกินลบสอเราก็ไปว่าคนที่
00:11:20 → 00:11:23 เป็นซึมซ่าว่ากินลบอันเนี้ยคือมันเชิคือ
00:11:23 → 00:11:25 เดี๋ยวเเทคโนโลยีสมัเบอกเลยว่ามันมีสาร
00:11:25 → 00:11:28 เคมีในสมองอย่างสารที่คุ้นชินกันหลักๆ
00:11:28 → 00:11:31 เนาะที่เรารู้ก็จะมีอาจจะคุ้นชินเคยได้
00:11:31 → 00:11:34 ยินดอปมามีนมั้ยคะดานเนี่ย
00:11:34 → 00:11:39 ดานมหรือยเคยได้ยินในละครหรือก็คือนนีตัว
00:11:39 → 00:11:44 เดียวกันก็โรตีนซึ่งอันเหมือสที่เป็นสาร
00:11:44 → 00:11:48 หลัเอ่อความรู้สึกอะไสารสุตประสาทใช่ใช่
00:11:48 → 00:11:50 ค่ะแต่อันนี้คือไม่ใช่แค่ 3 สารนะคะมีสาร
00:11:50 → 00:11:53 อื่นที่แปรปวนซึ่งสารพวกเต้องบอกก่อนว่า
00:11:53 → 00:11:55 อ่าสาเหตุพวกเนี้ยก็จะอธิบายว่าทำไมฉัน
00:11:55 → 00:11:59 ปวดหัวทำไมฉันปวดท้องคือพอสารแปปนปุ๊ปุ๊บ
00:11:59 → 00:12:02 สมองปุ๊บแปปวนใช่มคะมันก็ทำให้ระบบที่เรา
00:12:02 → 00:12:04 เรียกว่าระบบประสาทอัตโนมัติระบบประสาท
00:12:04 → 00:12:06 อัตโนมัติคืออะไรคือระบบที่ไม่ได้เหมือน
00:12:06 → 00:12:08 เราสั่งให้ตัวเองหลับตาไม่ได้สั่งให้เรา
00:12:08 → 00:12:11 แบมมือกำมือแต่คือระบบที่ทำให้กระเพาะ
00:12:11 → 00:12:13 อาหารมันทำเองอ่ะมันบีบตัวเองอ่ะเหมือน
00:12:13 → 00:12:15 เราไม่ได้สั่งเราไม่ต้องสั่งกระพหารว่า
00:12:15 → 00:12:18 แบบเราท้องท้องร้องเราไม่ได้สั่งว่าอย่า
00:12:18 → 00:12:20 ร้องสิหรือเราไม่ได้สั่งได้ว่าตร้องสิ
00:12:20 → 00:12:22 ร้องสิฉันเบื่อประชุมแล้วเนี่ยท้องฉัน
00:12:22 → 00:12:25 ร้องสิมันไม่ได้มันไม่ได้สั่งได้หรือไม่
00:12:25 → 00:12:27 ได้บอกหัวใจว่าตอนเเหงื่อออกเยอะๆได้มย
00:12:27 → 00:12:29 ฉันอยากมือชื้นอันเนี้ยมันไม่ใช่มันเป็น
00:12:29 → 00:12:32 ระบบกระสาทอัตโนมัติซึ่งเหล่านี้แหละที่
00:12:32 → 00:12:36 ทำให้บางทีบางคนก็คือจะแบบมีปวดหงปวดหัว
00:12:36 → 00:12:41 มีอ่ารำไส้แปรปรวนมีอาการทางกายอือะไร
00:12:41 → 00:12:45 อย่างเงี้ยค่ะโอ้โหอส่วนส่สาเหตุอื่นๆก็
00:12:45 → 00:12:48 คือเป็นปัจจัยกระตุ้นซึ่งมีหลายสาเหตุ
00:12:48 → 00:12:51 ปัจจัยกระตุ้นก็ตรงไปตรงมานอกความเชีย
00:12:51 → 00:12:54 เศรษฐกิจแบบนี้ทขึ้นเอาขึ้นเอานู่นนี่
00:12:54 → 00:12:55 นั่น
00:12:55 → 00:13:00 อีเนาะอติดอ่ะใช่มั้คะต้องเดินทางไปภาค
00:13:00 → 00:13:03 เหนือไม่รู้รถติดรือเปล่าอุ๊ยติดเลยนะคะ
00:13:03 → 00:13:07 คุณหมอคนเดินคิดเราเดินทางทุกวันเงี้ย
00:13:07 → 00:13:10 อะไรเงี้ยค่ะอมันก็เป็นสัญญาณเอ่อมันเป็น
00:13:10 → 00:13:13 มันเป็นความน่ากังวลพอสมควรเลยอีกข้อมูล
00:13:13 → 00:13:18 นึงที่ที่ผมผมได้มาเอ่อจากโรงพยาบาลเนี่ย
00:13:18 → 00:13:20 แหละครับเอ่อเขาาบอกว่าไอ้ภาวะซึมเศร้า
00:13:21 → 00:13:24 ซ่อนเร้นเนี่ยไอ้ถ้าเป็นมันมีอาการบาง
00:13:24 → 00:13:27 อย่างที่ผมก็ตกใจเหมือนคุณหมอที่บอกว่า
00:13:27 → 00:13:30 ปวดหลังเอ้ยปวดตัวสิปวดตัวใจสั่นหงุดหงิด
00:13:30 → 00:13:33 เอเฮ้ยไอ้แบบนี้ก็ก็ก็เป็นหนึ่งในความ
00:13:33 → 00:13:37 เสี่ยงฮะใช่ค่ะก็คือถ้าถ้าใช้คำว่าทั้ง
00:13:37 → 00:13:40 หมดนี้ต้องต้องต้องไปดูก่อนนะว่ามันอาการ
00:13:40 → 00:13:43 ทางกายมันไม่อธิบายคือถ้าปวดตัวแล้วแบบ
00:13:43 → 00:13:47 ว่าไปเแล้วแบบเออกล้าเนืเสื่อมก็ก็ไปหา
00:13:47 → 00:13:51 หมอกระดูกนะคะครับแต่ถ้าคุณหมอกระดูกตรวจ
00:13:51 → 00:13:54 ไป 3 โรงพยาบาลแล้วเาก็บอกว่ามันก็มันก็
00:13:54 → 00:13:57 ปกตินะเออหรือว่าใจสั่นติดเคลื่อนหัวใจก็
00:13:57 → 00:14:01 ปกติพอวัดูอออกซิเจน 100% หัวใจใจสั่นนะ 8
00:14:01 → 00:14:06 เจ้น 70 อะไรอย่างเงี้ยอออือหือค่ะเป็น
00:14:06 → 00:14:09 เป็นเป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่ใช่
00:14:09 → 00:14:12 ค่ะแต่ทางนี้ทั้งย้ำต้องย้ำนิดนึงว่าแต่
00:14:12 → 00:14:16 การที่ทางกายไม่ปกติไม่ได้แปลว่าหมายถึง
00:14:16 → 00:14:18 ว่าการที่ทางกายไม่ปกติคือการที่คุณเจอ
00:14:18 → 00:14:20 สาเหตุทางกายจริงๆไม่ได้แปลว่าคุณต้อง
00:14:20 → 00:14:22 เป็นกายโรคเดียวคุณอาจจะเป็นกายบวกใจก็
00:14:22 → 00:14:23 ได้
00:14:23 → 00:14:28 โอโอ้โหมันมันยิ่งบวกกันไปบวกกันมามันจะ
00:14:28 → 00:14:31 โอ้โหมันจะมันจะไปกันใหญ่่ม
00:14:31 → 00:14:33 ฮะ
00:14:33 → 00:14:36 เนาะพบร่วมกันได้อย่างอย่างที่อย่างของ
00:14:36 → 00:14:39 ซุมเศร้าเงที่พบบ่อยๆเลยก็อาจจะพบซุม
00:14:39 → 00:14:42 เศร้ากับไมเกรนอันเนี้ยพบเรื่อยๆเลยซึม
00:14:43 → 00:14:45 เศร้ากับโรคลำไส้แปรปวนที่เขาเรียกว่า ids
00:14:45 → 00:14:49 ER B Syndrome อะไรอย่างเงี้ยค่ะครบ
00:14:49 → 00:14:53 ร่วมกันได้เรื่อยๆเลยค่ะอืแล้วอย่างที่
00:14:53 → 00:14:56 บอกว่ามันจะมีในเรื่องของอาการหงุดหงิด
00:14:56 → 00:15:00 คือมันต้องหงุดหงิดค่ะขนาดไหนหรือว่าหรือ
00:15:00 → 00:15:03 อยู่ดีๆหงุดหงิดอยากรู้อ่ะค่ะว่าเอ่อ
00:15:03 → 00:15:07 อาการหงุดหงิดต้องต้องแบบไหนถึงจะมีเค้า
00:15:07 → 00:15:09 เรียกว่าอะไรนะคะแนวโนมแบบเป็นซึมเศร้า
00:15:10 → 00:15:13 ซ่อนเร้นน่ะค่ะอืค่ะคือจริงๆต้องบอกก่อน
00:15:13 → 00:15:16 ว่าคนปกติหงุดหงิดได้นะคะคือคนที่ไม่
00:15:16 → 00:15:18 หงุดหงิดเลยอันนั้นก็อาจจะแบบอารมณ์ทื่อ
00:15:18 → 00:15:21 เลยอ่ะอาจจะผิดผอีกแบบนึงเนาะนะคะทีนี้
00:15:21 → 00:15:24 หงุดหงิดแบบไหนคือใช้คำว่าหุดอิดที่มัน
00:15:24 → 00:15:27 ไม่สัมพันธ์กับสิ่งกระตุ้นน่ะค่ะออฮ
00:15:27 → 00:15:32 สมมุติว่าอ่อยังไงดีสมมุติว่าเราแค่แบบ
00:15:32 → 00:15:37 ว่าอ่าเราไปสั่งของแล้วเทำให้ผิดเราบอกเ
00:15:37 → 00:15:40 ว่าเอาหวานน้อยอ่ะสมมุติเราบอกเอาหวาน
00:15:40 → 00:15:42 น้อยไปสั่งกาแฟแก้วนึงเราบอกเอาหวานน้อยเ
00:15:43 → 00:15:47 ทำมาเป็นหวานปกติแต่เราหยิดยืนว่าเ้าไป 1
00:15:47 → 00:15:50 ช่วโมงเลยอย่างเงี้ยแล้วมันบ่อยๆเป็นแล้ว
00:15:50 → 00:15:51 เป็นอีกเป็นอะไรอย่างเงี้ยที่มันดูไม่
00:15:51 → 00:15:53 สัมพันธ์กับสิ่งกระตุ้นหรือแม้แต่ตัวเรา
00:15:53 → 00:15:57 เราก็รู้ว่ามันไม่ใช่นิสัยเราหลายๆครั้ง
00:15:57 → 00:15:59 เราจะรู้นะคะว่ามันไม่ใช่นิสัยใส่เราใช่
00:15:59 → 00:16:01 เรารู้ว่าเราปกติอ่ะเรืื่องแบบคนไหลายคน
00:16:01 → 00:16:04 บอกเรื่องแค่นี้ยังอ่ะหมอไม่ชอบแบบบางคน
00:16:04 → 00:16:06 บอกเลยนะว่าไม่ชอบตัวเองเลยเพราะว่าเรา
00:16:06 → 00:16:08 รู้ว่าเราไม่ได้เป็นคนแบบนี้อ่ะแต่ทำไม
00:16:08 → 00:16:13 เราคุมมันไม่ได้ออืออคือมันจะไม่สามารถ
00:16:13 → 00:16:16 คุมตัวเองได้เลยทั้งๆที่บางทีเหมือนเมื่อ
00:16:16 → 00:16:19 กี้มันอาจจะเหตุผลที่เล็กน้อยมากอืใช่
00:16:19 → 00:16:23 อะไรอย่างงี้ใช่มั้ยคะใช่ค่ะหนูหงุดหงิด
00:16:23 → 00:16:27 บ่อยๆแบบหงุดหงิดบ่อยๆจนสมมุตินะคะอ่า
00:16:27 → 00:16:30 หลายคนมาด้วยแบบมีปัญหากับแฟนอ่ะทั้งๆที่
00:16:30 → 00:16:32 มันไม่มีอะไรเลยอ่ะคนไข้บางคนก็บอกว่า
00:16:32 → 00:16:36 เนี่ยแบบเหมือนทะเลาะกันด้วยเรื่องที่มัน
00:16:36 → 00:16:39 แบบไม่เป็นเรื่องมากๆอย่างเช่นแค่แบบว่า
00:16:39 → 00:16:43 สมมุติแค่แบบว่าจะกินอะไรแล้วมันทะเลาะ
00:16:43 → 00:16:46 กันงอนแบบบ่อยมากๆทั้งๆที่แต่ก่อนอ่ะเรา
00:16:46 → 00:16:50 เราไม่ได้เป็นแบบนั้นน่ะอออ๋อเหมือนแฟน
00:16:50 → 00:16:55 อาจจะบอกกินอะไรก็
00:16:55 → 00:16:58 ได้อะไรประมาณนั้นเหมือนกับว่าพูดง่ายๆ
00:16:58 → 00:17:01 คือเรื่องเดิมๆที่เคยแบบคุยกันก็ปกติดี
00:17:01 → 00:17:06 แต่อยู่ดีๆมาวันหนึ่งหรือช่วงหนึ่งเอ้ย
00:17:06 → 00:17:08 เรื่องพูดเรื่องนี้กลับกลายเป็นโอ้โหย
00:17:08 → 00:17:11 เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตสะกิดต่อมไม่ว่าจะ
00:17:11 → 00:17:15 ออกแสดงออกทั้งเ่อเ่ออารมณ์แปรปรวนบ้าง
00:17:15 → 00:17:18 ร้องไห้บ้างหนักมากบ้างอะไรอันนี้คือคือ
00:17:18 → 00:17:23 น่าจะน่าจะเอ่อใส่ใจตัวเองและใอะไรที่มัน
00:17:23 → 00:17:26 เบี่ยงเบนไปจากฐานอารมณ์หรือจากบุคลิกของ
00:17:26 → 00:17:30 เราอ่ะอืแล้วมันเบี่ยงเบนบ่อยๆซ้ำแล้วซ้ำ
00:17:30 → 00:17:33 อีกแล้วก็เป็นอยู่นานประมาณอย่างน้อยสัก 2
00:17:33 → 00:17:36 อาทิตย์ 3 อาทิตย์แล้วมีอาการอื่นๆร่วม
00:17:36 → 00:17:40 ด้วยอย่างเงี้ยค่ะอออืแล้วทีเนี้ยค่ะแบบ
00:17:40 → 00:17:43 เนี้ยค่ะคุณหมอมันจะมีแบบทดสอบอะไรมยคะ
00:17:43 → 00:17:46 เหมือนอย่างอย่างกรณีเป็นภาวะซึมเศร้าอ่ะ
00:17:46 → 00:17:50 คืออย่างของของกระทรวงสาสุขเงี้ยเาจะมี
00:17:50 → 00:17:54 แบบเหมือนว่าทำแบบทดสอบให้เข้าไปทำว่า
00:17:54 → 00:17:57 เข้าเกณฑ์ไหนเกณฑ์ไหนแล้วแล้วตัวภาวะซึม
00:17:57 → 00:18:00 เศร้าซ่อนเรนน่ะอคะมันจะมีแบบทดสอบคที่
00:18:00 → 00:18:03 เราจะรู้ได้มยคะด้วยตัวเองถ้าไม่ได้ไปหา
00:18:03 → 00:18:08 คุณหมออ่ะค่ะค่ะก็คือจริงๆแบบดีมากๆเลยนะ
00:18:08 → 00:18:10 คะก็คือจริงๆอ่ะใช้ด้วยความที่เขาเป็นตัว
00:18:10 → 00:18:12 ย่อยของเขาก็คือเป็นแบบเดียวกันนั่นแหละ
00:18:12 → 00:18:14 เพราะอย่างที่เมื่อกี้คุกันว่าของกระทรวง
00:18:14 → 00:18:17 สาธารณสุขมี 9 ข้ออือจริงๆมีตั้งหลายข้อ
00:18:18 → 00:18:20 ที่ไม่เกี่ยวกับอารมณ์อย่างเช่น 1 นอน
00:18:20 → 00:18:24 เรื่องการนอน 2 เรื่องการกิน 3 เรื่อง
00:18:24 → 00:18:28 สมาธิอย่างเงี้ยค่ะเอ่า 4 เรื่องเครื่อง
00:18:28 → 00:18:31 ช้าเหนื่อยเพลียอย่างเงี้ยค่ะอโอ้โหแบกตา
00:18:31 → 00:18:34 เข้าไปครึ่งนึงะไม่เกี่ยวกับอารมณ์อะไร
00:18:34 → 00:18:36 อย่างเงี้ยค่ะก็คือเพราะฉะนั้นคือหบางที
00:18:36 → 00:18:39 อ่ะอาการไปเด่นทางนี้มันก็มีค่ะอ่าฮะหรือ
00:18:39 → 00:18:43 บางทีบางทีนอกจากเจ้าตัวเองค่ะหลายๆคนใช้
00:18:43 → 00:18:45 คำว่าอ่าอย่างหลายๆคนส่วนใหญ่อาจจะเป็น
00:18:45 → 00:18:47 ผู้สูงอายุใช้คำว่าผู้สูงอายุสมัยนู้น
00:18:47 → 00:18:50 เนาะแบบผู้สูงอายุที่อายุ 70 80 สมัยเา
00:18:50 → 00:18:53 เด็กๆอ่ะมันมันเรื่องอารมณ์มันเป็นเรื่อง
00:18:53 → 00:18:56 มันเป็นเรื่องแบบล่ามโซ่ไว้อะไรเงี้ยเนาะ
00:18:56 → 00:18:59 หมายถึงเรื่องจิตใจสมัยเเด็เพราะฉะนั้น
00:18:59 → 00:19:01 บางทีอ่ะค่ะบางคนน่ะมาด้วยลูกพามาลูกแบบ
00:19:01 → 00:19:06 ว่าแม่ดูแบบหนังเกษียณมา 5 ปีแม่ดูแบบ
00:19:06 → 00:19:09 หงุดหงีหรือแม่ดูแบบอย่างเช่นแต่ก่อนแม่
00:19:09 → 00:19:12 ชอบปลูกต้นไม้เดี๋ยวนี้แม่แบบไม่ปลูกเลย
00:19:12 → 00:19:15 ไม่เอาเลยอะไรอย่างเงี้ยค่ะบางทีก็คือมัน
00:19:15 → 00:19:17 ก็คือมีมีคนอื่นที่ช่วยดูด้วยแต่ถ้าเป็น
00:19:17 → 00:19:20 แบบทดสอบของคุณเศ้าซ่อนเรนเลยอย่างเงี้ย
00:19:20 → 00:19:23 มันไม่ได้มีแบบนั้นทั้งั้งของที่ไเอ่อที่
00:19:23 → 00:19:25 ไทยแล้วก็ที่ต่างประเทศเพราะจริงๆอย่าง
00:19:25 → 00:19:27 ที่พูดว่ามันเป็นสัเซ็ตย่อยกันแล้วในแบบ 9
00:19:27 → 00:19:30 พ่อมันมีอาการอื่นรวมด้วยอาการในมิติอื่น
00:19:30 → 00:19:33 รวมด้วยอยู่แล้วไม่ใช่แค่อาการเศร้าค่ะอื
00:19:33 → 00:19:36 ออคือมันค่อนข้างที่จะซับซ้อนเหมือนชื่อ
00:19:36 → 00:19:40 จริงๆเนาะคือแบบมันซ่อนอยู่อ่ะเนาะมัน
00:19:40 → 00:19:45 ประเมินยากมากเลยซ่อนจนโอ้โหกล่าว่าถ้า
00:19:45 → 00:19:50 ไม่สังเกตดีๆหรือว่าว่าไม่ไม่หมั่นดูดูดู
00:19:50 → 00:19:53 รู้จักตัวเองอ่ะไม่หมั่นรู้จักตัวเองก็ก็
00:19:53 → 00:19:57 อาจจะมันอาจจะไปเตลิดไปไกลได้เลยนะหมอหมอ
00:19:57 → 00:20:01 เจค่ะแต่ก็อย่างที่เคบอกว่าคำว่าซ่อเลน
00:20:01 → 00:20:04 น่ะอย่างที่พูดว่าไอ้ไม่รู้จักเราไม่รู้
00:20:04 → 00:20:06 มันซ่อนตัวเราเนี่ยน่ากลัวสุดแต่จริงๆ
00:20:06 → 00:20:09 หลายๆครั้งอ่ะหลายๆครั้งอย่างที่พูดว่า
00:20:09 → 00:20:11 ส่วนใหญ่จริงๆอ่ะคนที่เราสมัยเนี้ยด้วย
00:20:11 → 00:20:16 ความที่โชคดีที่เราได้รับอ่าการสการสื่อ
00:20:16 → 00:20:18 สารความรู้ความเข้าใจในเรื่องอารมณ์มาก
00:20:18 → 00:20:21 ขึ้นเพราะฉะนั้นคนเริ่มรู้แล้วว่าสีเทา
00:20:21 → 00:20:23 ไม่ได้มีแค่เทาอ่อนกับเทาเข้มอ่ะมันมี
00:20:23 → 00:20:25 เยอะกว่านั้นอารมณ์มันก็มีเยอะกว่านั้น
00:20:25 → 00:20:28 เพราะฉะนั้นจริงๆส่วนใหญ่สมัยเนี้ยขเรียน
00:20:28 → 00:20:30 หลักๆจริงๆอ่ะคือซ่อนจากคนรอบข้างอย่าง
00:20:30 → 00:20:33 ที่พูดว่าเพราะว่าเไม่เไม่เรู้สึกว่าเไม่
00:20:33 → 00:20:35 อยากให้คนเป็นห่วงเไม่อยากให้แม่เป็นห่วง
00:20:35 → 00:20:38 เรู้สึกว่าเขาเป็นแค่นี้เก็เป็นภาระมากพอ
00:20:38 → 00:20:41 แล้วเรู้สึกเกรงใจเพื่อนเพื่อนก็สมมุติ
00:20:41 → 00:20:43 เพื่อนวัยรุ่นแล้วเคราเดียวกันก็มีเรื่อง
00:20:43 → 00:20:45 เครียดของเขาแล้วเราไม่อยากไปเล่าไม่อยาก
00:20:45 → 00:20:47 ไปบ่นให้เขาฟังอะไรเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้น
00:20:47 → 00:20:49 จริงๆอ่ะถ้าเป็นกลุ่มเนี้ยจริงๆถ้าเขาทำ
00:20:49 → 00:20:52 แบบทดสอบของกระทรวงซึ่งมุก็ได้นะคะแบบ
00:20:52 → 00:20:55 เดียวกันก็คือเป็นตัวเดียวกันจริงๆจริงๆ
00:20:55 → 00:20:57 ต้องบอกว่าเป็นแบบต้องต้องให้เครดิตนิด
00:20:57 → 00:20:58 นึงเป็นแบบของอาจารย์ตัวเองแหละคือเป็น
00:20:59 → 00:21:01 แปลอาจารย์อาจารย์มาโนอยู่รามาอาจารย์
00:21:01 → 00:21:06 เป็นคนแปลจากภาษาอังกฤษไทยค่ะอ๋อค่ะ
00:21:06 → 00:21:09 อาจารย์และคณะอาจารย์และคณะอืก็ไม่ไม่ไม่
00:21:09 → 00:21:13 ไกลตัวก็คืออาจารย์ของหมอเจเองนี่แหละใชๆ
00:21:13 → 00:21:16 ตอนนั้นเรายังเป็นเป็นเป็นเด็กน้อยอยู่
00:21:16 → 00:21:20 ออเป็นอาจารย์และคณแปลจากของภาษาอังกฤษมา
00:21:20 → 00:21:23 เนานอะไรเี้ค่ะแต่ก็คือเนี่ยค่ะจะบอกว่า
00:21:23 → 00:21:25 เพะถ้ามันเป็นคุณเช่าแบบเนี้ยจริงๆอย่าง
00:21:25 → 00:21:26 ที่พูดว่าเขารู้อารมณ์ตัวเองเพียงแต่เขา
00:21:27 → 00:21:29 ซ่อนจากคนอื่นเอย่างที่ถ้าถ้าดูในของเราเ
00:21:29 → 00:21:33 จะแว่าฝืนทำงานฝืนยิ้มหรืออย่างอย่างเพลง
00:21:33 → 00:21:35 พี่โอ๊ตเลยว่าเนี่ยยิ้มให้กับคนทั้งโลกคน
00:21:35 → 00:21:37 ทั้งโลกไม่รู้เลยว่าเราเศร้าแต่ร้องไห้
00:21:37 → 00:21:40 กับตัวเองเพราะฉะนั้นถ้าเราเราทำอ่ะมันก็
00:21:40 → 00:21:44 คือมันก็ได้เลยแบบเดียวกันอ่ะค่ะอื
00:21:44 → 00:21:48 อืแล้วอากแล้วอาการแบบภาวะเอ่อภาวะซึมโซ
00:21:48 → 00:21:52 ซ่อนเร้นน่ะค่ะมันจะพัหมายถึงว่าความเ
00:21:52 → 00:21:55 เรียกว่าอะไรนะคุณมาแบบความรุนแรงของของ
00:21:55 → 00:21:59 อาการนะค่ะมันจะพัฒนาไปถึงไหนอ่ะคะที่จะ
00:21:59 → 00:22:03 มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตหรือว่าถึงขั้น
00:22:03 → 00:22:06 ที่แบบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่หรือแบบใช้
00:22:06 → 00:22:10 ชีวิตไม่มีความสุขเลยอ่ะค่ะก็คืออย่างที่
00:22:10 → 00:22:15 บอกค่ะมันไปได้ถึงระดับที่เราไม่อยากให้
00:22:15 → 00:22:17 เกิดก็คือจบชีวิตตัวเองเหมือนที่เราเพิ่ง
00:22:17 → 00:22:21 เห็นเห็นในสื่อกันไปนะคอือค่ะนั่นคือปลาย
00:22:21 → 00:22:24 ปลายที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเลยเนาะใช่
00:22:24 → 00:22:28 เอ่อการรักษาจริงๆแล้วเอ่อภาวะซึมเศร้า
00:22:28 → 00:22:31 ซ่อนเร้นรักษาง่ายหรือยากกว่า
00:22:31 → 00:22:36 เอ่อซึมเศร้าที่มันเป็นฐานใหญ่เป็นบ้าน
00:22:36 → 00:22:39 ใหย่ของเค้าฮะอืค่ะจริงๆการรักษาไม่ได้
00:22:39 → 00:22:43 ยากแต่การเข้าถึงการรักษาจะว่ายากก็ยากจะ
00:22:43 → 00:22:46 ว่าง่ายก็ง่ายเพราะว่าเค้าคนที่ไม่รู้ตัว
00:22:46 → 00:22:49 เองอ่ะเค้าก็ไม่เข้าถึงการรักษาไงคะใช่ๆ
00:22:50 → 00:22:51 พอไม่ได้เข้าถึงการรักษาไม่ได้วินิสัยมัน
00:22:51 → 00:22:55 ก็ไม่ได้รักษาอืมันคือระยะเวลาพูดง่ายๆ
00:22:55 → 00:22:59 พูดง่ายๆคือการการการระยะเวลาที่จะได้เจอ
00:22:59 → 00:23:02 กับอาการแล้วกว่าจะมารักษาตัดสินใจมา
00:23:02 → 00:23:05 รักษามันก็มีช่วงระยะเวลาแกปที่ตัดสินใจ
00:23:05 → 00:23:08 ตัวเองใช่ไม่ใช่ใช่ไม่ใช่ด้วยใช่มยยิ่งทำ
00:23:08 → 00:23:10 ให้มันกินเวลาเข้าไปเยอะไม่เหมือนกับเจอ
00:23:10 → 00:23:14 อาการตงึกคิดว่าใช่แต่ก็อย่างที่บอกว่า
00:23:14 → 00:23:17 เกรงใจเขาก็จะคิดว่าฉันรู้ว่าฉันเศร้าแต่
00:23:17 → 00:23:19 ฉันคิดว่าไม่ใช่โรคซึมเศร้าหรอกฉันเศร้า
00:23:19 → 00:23:22 แบบเครียดไงเครียดไงงานก็เยอะแฟนก็ทิ่ง
00:23:22 → 00:23:26 อะไรอย่างเงี้ยอืค่ะเขาก็ไม่ได้ไม่ได้มา
00:23:26 → 00:23:28 ไม่ได้มารักษาไม่ได้รับการประเมินไม่ได้
00:23:28 → 00:23:32 รับการวินิจฉัยมันก็ทำให้มีช่วงล่าช้าไป
00:23:32 → 00:23:37 ในการเข้าถึงการรักษาครับอืเอ่อสำหรับ
00:23:37 → 00:23:41 อาการแบบนี้คุณหมอเจอผู้ป่วยค่อนข้างเยอะ
00:23:41 → 00:23:46 มอ่ะคือต้องบอกว่าจริงๆถ้าถ้าถ้าตัวเรา
00:23:46 → 00:23:48 เจอเนาะเพราะว่าหมายถึงว่าคือเขารู้ตัว
00:23:48 → 00:23:51 แล้วเมาหาเราและส่วนใหญ่เราจะเจอเป็นแบบ
00:23:51 → 00:23:54 คุณเศร้าที่ซ่อนจากสังคมอ่ะหมายถึงว่าเขา
00:23:54 → 00:23:58 รู้ว่าเาเศร้าแต่ว่าอย่างที่บอกคือว่าเ
00:23:58 → 00:24:02 เศร้าอือบางคนรู้ก็ตกใจเฮ้ยไม่น่าเชื่อนะ
00:24:02 → 00:24:05 อะไรอย่างงี้ใช่มั้ยอ่าใช่ค่ะแต่ว่าคนที่
00:24:05 → 00:24:10 แบบเเไม่รู้ว่าเศร้าแล้วคนอื่นพามาอย่าง
00:24:10 → 00:24:12 ที่อย่างที่เล่าให้ฟังว่าบางทีก็คือเป็น
00:24:12 → 00:24:16 ลูกๆนี่แหละพาพ่อแม่นอย่างเงี้ยก็มีแต่ก็
00:24:16 → 00:24:18 ไม่ใช่ทุกคนยอมมาอีกเพราะเขาไม่รู้ว่า
00:24:18 → 00:24:21 เค้าเศ้าเค้าก็แบบหาทำไมอะไรอย่าเงี้ยแต่
00:24:21 → 00:24:24 หรือบางทีอีกกรณีนึงก็คือเจอจากอาจารย์
00:24:24 → 00:24:26 ทางกายคุณหมอทางกายที่น่ารักๆรที่เป็น
00:24:26 → 00:24:28 เพื่อนร่วมงานพวกเราเนี่ยเนี่ยแหละเาก็
00:24:29 → 00:24:32 เห็นว่าแบบมันไม่มันไม่มีเหตุใดเตรวจทาง
00:24:32 → 00:24:34 กายครบแล้วเลือดเ่อเจาะนู่นนี่นั่นก็ทำ
00:24:34 → 00:24:38 แล้วมันไม่อธิบายจริงๆแล้วคนไข้ก็ดูแบบดู
00:24:38 → 00:24:41 หน้าคิ้วขมวดตลอดเวลาแต่คนไข้บอกว่าไม่
00:24:41 → 00:24:44 เศร้านะอืแต่หน้าคิ้วขมวดตลอดเวลาอะไร
00:24:44 → 00:24:46 อย่างเงี้ยค่ะเป็นคุณหมอข้างใกล้คุณบแ
00:24:46 → 00:24:50 อื่นที่ส่งมาให้เราอืมหน้าคิวขมวดตลอด
00:24:50 → 00:24:53 เวลาเออผมชอบโดนลูก
00:24:53 → 00:24:54 [เสียงหัวเราะ]
00:24:54 → 00:24:59 ว่าอออย่าคหตัวเองใช้ทุนน่ะที่ให้เราเจอ
00:24:59 → 00:25:01 เรื่อยๆอย่างเงี้ยค่ะใช้ทุนสมัยอยู่ต่าง
00:25:01 → 00:25:03 จังหวัดแต่แต่นั่นคือยุคน้ำท่วมยุค
00:25:03 → 00:25:05 กรุงเทพน้ำท่วมคือ 10 ปีที่แล้วนะคะก็จะ
00:25:05 → 00:25:08 เจอแบบถ้าเจอบ่อยๆก็จะเป็นแบบอ่าพ่อเฒ่า
00:25:08 → 00:25:12 แม่เฒ่าอย่างเงี้ยแต่ก็จะแบบอยายก็ไม่
00:25:12 → 00:25:15 เห็นเศร้าคือต้องเข้าใจว่าคนอายุ 70 80
00:25:15 → 00:25:18 สมัยนู้นเนาะสมัย 10 ปีที่แล้วเเไม่เข้า
00:25:18 → 00:25:20 ใจเรื่องอารมณ์หมายถึงว่าเขาไม่ได้เข้าใจ
00:25:20 → 00:25:23 ในเชิงลึกเเข้าใจอ่ะแต่เขาไม่ได้เหมือน
00:25:23 → 00:25:24 ที่เหมือนถ้าย้อนกลับไปคือเขาไม่ได้
00:25:24 → 00:25:28 บรรยายแทนโทนสีได้ละเอียดใช้คำนั้นแล้ว
00:25:28 → 00:25:31 แล้วก็คือเพราะฉะนั้นน่ะเก็จะมาส่วนใหนคน
00:25:31 → 00:25:34 ไข้จะมาด้วยแพทเทิร์นนี้เลยเอ่อนอนบ่อ
00:25:34 → 00:25:39 หลับกินข้าวบาแวิงหัวอืๆๆมาด้วยแพทเทิร์น
00:25:39 → 00:25:42 เเลยแล้วพ่อเฒ่าแม่เฒ่าก็เป็นตลอดแล้ว
00:25:42 → 00:25:44 สมัยนั้นเราเป็นแพทย์ช้ชุนเนาะเราก็ยัง
00:25:44 → 00:25:47 ยังเก่งทากายอยู่ตอนนั้นเราก็เก็ไม่มี
00:25:47 → 00:25:50 เพื่อนคนอื่นที่หมอเฉพาะทางทางกายเขาก็
00:25:50 → 00:25:52 บอกว่าไม่มีแต่ว่าพ่อเฒ่าแม่เฒ่าก็จะเป็น
00:25:52 → 00:25:56 แพทเทิร์นเนี้ยซึ่งพอเราย้อนไปมองเราคิด
00:25:56 → 00:26:01 ว่าอ่าอันนี้แหละคุณเ้ามอือโอมันมันมัน
00:26:01 → 00:26:05 แสดงออกทางกายด้วยอะไรอย่างงี้ใช่ค่ะ
00:26:05 → 00:26:07 เพราะว่าพเ่าแม่เฒ่าที่เราเห็นอ่ะไม่ได้
00:26:08 → 00:26:10 เป็นแบบในรูปแม่เฒ่าชู 2 นิ้วอะไรเงี้ยนะ
00:26:11 → 00:26:14 ก็คือหน้าเจะแบบแต่กิจวัตประจำวันของเา
00:26:14 → 00:26:17 เปลี่ยนไปใช่น่าดูอมทุกแล้วเวลาเราถามเขา
00:26:17 → 00:26:22 แบบคุณยายทำไมเ่ามั้ยอื
00:26:22 → 00:26:26 บอกเข้าใจมยคะเข้าใจเข้าใจเข้าใจไม่ไม่
00:26:26 → 00:26:29 คือคือไม่รู้จักคือเศร้าของเขานี่มันอาจ
00:26:29 → 00:26:31 จะอีกอย่างนึงคือเหมือนกับว่าเอ้ยแบบแบบ
00:26:31 → 00:26:33 นี้สิถึงมันถึงจะเศร้ามันถึงจะเสียใจมัน
00:26:33 → 00:26:37 ถึงจะนี่แต่คุณหมอก็ต้องคุณหมอก็ขยะขยาย
00:26:37 → 00:26:40 ความลงไปว่าเขาก็จะบอกมาเรื่อยๆว่ามัน
00:26:40 → 00:26:42 เกิดอะไรระหว่างทางชีวิตเขาบ้างถึงถึง
00:26:42 → 00:26:45 ต้องมาหาคุณหมอใช่มยไม่ตอนนั้นคือพูดถึงค
00:26:45 → 00:26:48 ใช้ทูนตอนที่เรายังไม่มีความรู้ีตอนนั้น
00:26:48 → 00:26:50 คือ 10 ปีที่แล้วแต่ว่าถ้าตอนเนี้ยเราก็
00:26:50 → 00:26:53 รู้แล้วไงเราก็คงต้องแบบพยายามบอกว่าเออ
00:26:53 → 00:26:56 แล้วแบบส่วนใหญ่เดี๋ยวเยค่ะปับที่ง่าย
00:26:56 → 00:26:58 กว่าแล้วคนไข้เข้าใจง่ายได้กว่าคือความ
00:26:59 → 00:27:02 สุขมันเท่าเดิมมั้ยโอ้ความสุขลดลงหรือ
00:27:02 → 00:27:05 เปล่าความสุขที่มันเป็นลูกโป่งพองๆโป่งๆ
00:27:05 → 00:27:08 อ่ะไอ้ลูกโป่งนั้นมันแฟบลงหรือเปล่าเออ
00:27:08 → 00:27:11 อะไรเงี้ยค่ะคนไข้เขาจะเข้าใจง่ายกว่าเออ
00:27:11 → 00:27:14 เข้าใจง่ายกในในบางคนในบางกลุ่มนะคะเจะ
00:27:15 → 00:27:18 บอกเออลูกโป่งมันแซ่บลงอ่ะหมอมันสุกน้อย
00:27:18 → 00:27:21 ลงมันเล่นเกมเราไม่มันเท่าเดิมเล่นได้ 3
00:27:21 → 00:27:25 เกมก็เบื่อและแต่ก่อนที่แบบเล่นถึง 3:00
00:27:25 → 00:27:29 นอะไรอย่างเงี้ยค่ะฮะๆเออนน่าจะง่วง
00:27:29 → 00:27:31 นะ
00:27:31 → 00:27:34 เออคือคือเรามีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
00:27:34 → 00:27:37 มากขึ้นเพื่อที่จะให้คนไข้เองรู้จักตัว
00:27:37 → 00:27:40 เองเพิ่มขึ้นแล้วก็นำไปสู่การวินิจฉัยของ
00:27:40 → 00:27:43 คุณหมอทีมแพทย์นี่แหละที่จะได้วินิจฉัย
00:27:43 → 00:27:46 ได้ตรงตรงมากขึ้นก็ยากยากในนยากทั้งตัวคน
00:27:46 → 00:27:48 ป่วยเองแล้วก็ยากในตัวของคนรักษาด้วย
00:27:48 → 00:27:53 เหมือนกันนะอาการนี้ใช่ค่ะอโอ้โหแต่คิด
00:27:53 → 00:27:57 ว่าถ้าแบบทุกคนแบบใส่ใจแล้วก็คืออย่างตอน
00:27:57 → 00:27:59 ตันเนี้ยคือจริงๆอย่างที่พูดว่าสังคมน่า
00:27:59 → 00:28:02 รักมากๆที่เข้าใจแล้วก็รู้ว่ามันก็เหมือน
00:28:02 → 00:28:06 หวัดนะคือจริงๆคือเป็นโลกที่พบบ่อยมากเขา
00:28:06 → 00:28:11 บอกว่าคน 5 คนช่วงใด 1 คนใน 5 คนคือ 20%
00:28:11 → 00:28:14 ช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตเนี่ยใน 5 คนจะมี
00:28:14 → 00:28:17 1 คนที่ป่วยเป็นซึมเศร้าช่วงใดช่วงหนึ่ง
00:28:17 → 00:28:20 ของชีวิตแต่ป่วยแล้วรู้หรือเปล่ารู้แล้ว
00:28:20 → 00:28:23 ได้รักษาหรือเปล่าอีกเรื่องนึงอันนี้คือ
00:28:23 → 00:28:25 สถิติใช้คำว่าสถิติเมกันแล้วกันเพราะ
00:28:25 → 00:28:31 สถิติไทยบางทีก็สถิติซ่อนเรินอือืออย่าง
00:28:31 → 00:28:34 อย่างการรักษาค่ะคุณหมอเจคะคือสงสัยว่า
00:28:35 → 00:28:39 ต้องไปหาหมอเท่านั้นใช่มคะคือเราไม่
00:28:39 → 00:28:42 สามารถที่จะเหมือนแบบเยียวยาตัวเองได้
00:28:42 → 00:28:46 อะไรแบบนี้ใช่มยคะคือจริงๆก็ต้องพูดอย่าง
00:28:46 → 00:28:50 นี้ก่อนว่าถ้าเป็นโรคซึมเศร้าแล้วใช้คำ
00:28:50 → 00:28:52 นี้ก่อนคะความจริงความซุมเศร้าเนี่ยมันมี
00:28:52 → 00:28:55 ความลึกอึคือึคืออารมณ์เศร้าคือมนุษย์
00:28:55 → 00:28:58 ปกติทุกคนเศร้าได้คงไม่มีใใครที่บอกว่า
00:28:58 → 00:29:00 เกิดมาไม่เคยเศร้าเลยอืถ้ามันยังเป็นแค่
00:29:00 → 00:29:03 อารมณ์เศร้าอย่างเช่นสมมุติตรงไปตรงมาอก
00:29:03 → 00:29:07 ักเต่านายหโดนโกเยมันก็ต้องเศร้าอยู่แล้ว
00:29:07 → 00:29:09 อันเนี้ยส่วนใหญ่เดี๋ยวมันก็จะหายเองหาย
00:29:09 → 00:29:13 เองคือหมายถึงว่าเราก็เ่อบ่นให้เพื่อนฟัง
00:29:13 → 00:29:16 ไปกินข้าวอร่อยๆดูซีหลี่เกาหลีอะไรก็ตาม
00:29:16 → 00:29:19 อย่างเงี้ยนะคะแต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ที่มัน
00:29:19 → 00:29:22 เป็นโรคแล้วแค้คำว่าจริงๆโรคซุงเศร้ามัน
00:29:22 → 00:29:26 ก็มีตั้งแต่น้อยใมากถ้าถ้าถ้าเอาาอ่ะอแบบ
00:29:26 → 00:29:28 แบบสุขภาพของกรมก็ได้เก็จะเขียนว่าคะแนน
00:29:29 → 00:29:31 เท่าเนี้ยท่านมีภาวะน้อยคะแนนเท่านี้ท่าน
00:29:31 → 00:29:34 มีรุนแรงนู่นนี่นั่นจริงๆถามว่าถ้ามีภาวะ
00:29:34 → 00:29:37 น้อยๆจริงๆอ่ะค่ะมันอาจจะไม่ได้จำเป็นที่
00:29:37 → 00:29:41 จะต้องแบบใช้ยาแต่ว่าแต่ว่าแต่ว่าแต่ส่วน
00:29:41 → 00:29:43 ใหญ่คนที่มาหาเราอ่ะคือเขาน้อยมา 3 ปี
00:29:43 → 00:29:46 แล้วไงคะคือหมาถึงเขาก็พยายามที่จะไปดู
00:29:46 → 00:29:49 หังพยายามที่จะฟังเพลงพยายามที่จะนู่นนี่
00:29:49 → 00:29:52 นั่นพยายามที่จะทำสิ่งใช่แต่มันไม่สำเร็จ
00:29:52 → 00:29:54 อแล้วก็คืออย่างที่พูดว่าเดี๋ยวเนี้ยมัน
00:29:54 → 00:29:57 มีเรื่องสารเคมีที่ค่อนข้างแบบเหมือนเป็น
00:29:57 → 00:30:00 เป็นเป็นวิจัยเลยอ่ะเออคือหมายถึงว่ามัน
00:30:00 → 00:30:03 ชัดแล้วว่ามันมีความผิดปกติของการทำงาน
00:30:03 → 00:30:07 ของสาสื่อประสาทในสมองจริงๆเพราะฉะนั้น
00:30:07 → 00:30:10 จริงๆอ่ะค่ะยามันก็คือจะใช้คำว่าเป็นตัว
00:30:10 → 00:30:14 หลักครับตัวนึงควบคู่กันกับการปรับตัวเอง
00:30:14 → 00:30:19 การออ่าทางด้านจิตสังคมเลยทีเดียวค่ะอื
00:30:19 → 00:30:24 ออคืออย่างแนวทางการรักษาก็คือคือจะขั้น
00:30:24 → 00:30:28 ไหนถึงต้องต้องทานยาคะคุณหมอจะได้แบบทาน
00:30:28 → 00:30:32 ยาทุกกลุ่มมั้ยอ่ะค่ะเออคือจริงๆอ่ะค่ะ
00:30:32 → 00:30:34 ส่วนใหญ่คือเอางงี้ก่อนนะคะต้องบอกก่อน
00:30:35 → 00:30:37 ว่าธรรมชาติของโรกซึมเศร้าเนี่ยถ้าไม่ทาน
00:30:37 → 00:30:41 ยาเป็นวิจัยสมัยหลายสิบปีก่อนเนาะเดี๋ยวเ
00:30:41 → 00:30:43 ทำไม่ได้เพราะผิดจริยธรรมคือหมายถึงการ
00:30:43 → 00:30:45 ที่เราจะเอาคนมาแล้วไม่รักษามันผิด
00:30:45 → 00:30:48 จริยธรรมอันนี้คือวิจัยเมืองนอกนะคะวิจัย
00:30:48 → 00:30:50 เมืองนอกคือเาไม่ได้ไม่รักษาแต่วิจัย
00:30:50 → 00:30:52 เมืองนอกในสมัยก่อนเเอาคนไข้มาเป็นพันเลย
00:30:53 → 00:30:56 อ่ะเพราะมันเป็นเมืองนอกเนาะก็คือคนกลุ่ม
00:30:56 → 00:30:58 นึงรักษาเลยกับคนอีกกลุ่มนึงเขาเรียกว่า
00:30:58 → 00:31:01 อยู่ในเ List ใชเอ่าดูอาการใชคือเท List
00:31:01 → 00:31:04 คือยังไงยูก็ได้รักษาอทีเนี้ยเวลาเค้าทำ
00:31:04 → 00:31:08 วิจัยมาเสรุปว่าคนซืมเศร้าเนี่ยกลุ่มที่
00:31:08 → 00:31:11 ไม่ได้รับการรักษาที่อยู่ในกลุ่มเ List
00:31:11 → 00:31:15 เนี่ยอ่าเขาคก็ตามสมมุติ 3 เดือนหายกี่คน
00:31:15 → 00:31:19 นู่นนี่นั่นเขาก็สรุปมาค่อยๆหายเไปเรื่อย
00:31:19 → 00:31:22 ๆจนระยะเวลาสูงสุดที่เขาทำคือ 18 เดือน
00:31:22 → 00:31:27 อือฮึ 18 เดือนเนี่ยพึ่งนึงหายหายเองนะคะ
00:31:27 → 00:31:30 88 เดือนคือปีครึ่งครับส่วนอีกครึ่งนึง
00:31:30 → 00:31:33 อ่ะไม่หายอือแต่ต้องอย่าลืมว่าเอาเอา
00:31:33 → 00:31:35 ครึ่งที่ไม่หายก่อนนะครึ่งไม่ที่ไม่หายก็
00:31:35 → 00:31:38 ตรงไปตรงมาอาจบางคนอาจจะหายไปจากโลกเลยก็
00:31:38 → 00:31:42 มีเนาะอะไรนู่นนี่นั่นเนาะแล้วก็แบบไม่
00:31:42 → 00:31:44 หายแต่ต้องอย่าลืมว่าแต่ไอ้ครึ่งที่หาย
00:31:44 → 00:31:49 เองอ่ะคือแปลว่าคุณอยู่กับความไม่สบาย
00:31:49 → 00:31:53 เนื้อไม่สบายตัวไม่สบายใจมา 1 ปีครึ่งอื
00:31:53 → 00:31:56 เพราะฉะนั้นจริงๆอ่ะค่ะแต่ซึ่งนี้ไปวิจัย
00:31:56 → 00:31:59 หลายสบปีปีที่แล้วอ่ะนะคะเพราะว่าเดี๋ยว
00:31:59 → 00:32:00 นี้มันทำไม่ได้อย่างที่บอกว่ามันไม่ถูก
00:32:00 → 00:32:03 จริยธรรมแล้วสมมติสมัยด้วยสมัยนี้อเนาะ
00:32:03 → 00:32:06 สรธรรมคือมันก็ไม่เชิงไม่ถูกแต่เขาก็ไม่
00:32:06 → 00:32:08 ได้อยากจะอนุมัติให้การที่คนจะต้องมาอยู่
00:32:08 → 00:32:13 ในเสลเป็น 18 เดือนอืออะไรเงี้ยค่ะอค่ะก็
00:32:13 → 00:32:16 ก็คือเพราะฉะนั้นน่ะค่ะจริงๆก็คือจะตอบ
00:32:16 → 00:32:19 ว่าคนไข้หลายคนน่ะเขาถามว่าไม่กินงานได้
00:32:19 → 00:32:22 มยหรือหายเองมเราก็จะบอกแต่เราก็จะบอกว่า
00:32:22 → 00:32:24 แล้วทำไมแล้วแต่คุณน่ะไม่จำเป็นที่จะต้อง
00:32:24 → 00:32:28 มีคือเขาจะเรียกว่าเอ่อพวกนารี่นู่นนี่
00:32:28 → 00:32:30 นั่นมันจะเป็นสัตว์แบบว่าเหมือนคุณภาพ
00:32:30 → 00:32:34 ชีวิตที่ที่สวนที่สูญเสียไปจากการเจ็บ
00:32:34 → 00:32:37 ป่วยแต่บอกว่าซึมเศร้าอ่ะเป็นประมาณ
00:32:37 → 00:32:40 อันดับทอีเลยนะคือสมมุติอันดับ 1 คือ
00:32:40 → 00:32:43 สมมุติว่าเลซว่าหัวใจหรืออะไรก็ตามอย่าง
00:32:43 → 00:32:46 เงี้ยคือการสูญเสียคุณภาพชีวิตการที่คุณ
00:32:46 → 00:32:49 มีคุณภาพชีวิตที่ดีอ่ะค่ะอืโรคซึมเศร้า
00:32:49 → 00:32:53 อ่ะมันสูญเสียคุณภาพชีวิตติด 1 ใน 3 เลย
00:32:53 → 00:32:55 นะเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เราก็จะบอกว่าเออ
00:32:55 → 00:32:59 ถามว่าจะให้คุณแบบ 18 เดือนไม่ต้องรักษา
00:32:59 → 00:33:02 มั้ยอือมันก็ไม่ใช่ไม่ได้แต่ 18 เดือนยัง
00:33:02 → 00:33:05 ไม่การันตีเลยว่าหายมยแล้วถามว่าคุณโอเค
00:33:05 → 00:33:07 มั้ยล่ะกับการที่คุณอยู่ในคุณภาพชีวิตที่
00:33:07 → 00:33:12 มันไม่โอเคอืไปอีกปดีกว่าขนาดนั้นในเมื่อ
00:33:12 → 00:33:16 ในเมื่อตอนเนี้ยคุณมีโอกาสที่คุณจะคือหาย
00:33:16 → 00:33:19 แล้วคุณภาพชีวิตดีขึ้นดีขึ้นดีขึ้นและ
00:33:19 → 00:33:21 กลับเป็นปกติหรือบางท่านคือดีกว่าปกติ
00:33:21 → 00:33:23 ด้วยซ้ำเพราะมันไม่ใช่แค่ยาแต่มันคือ
00:33:23 → 00:33:25 เรื่องของทักษาชีวิตที่อย่างที่พูดว่า
00:33:25 → 00:33:28 ปัจจัยทางจิตสังคมซึ่งพวกเราก็คือช่วยกัน
00:33:28 → 00:33:32 อืมันถ้าไม่อยากเสียเหมือนกับว่าถ้าถ้า
00:33:32 → 00:33:36 ยิ่งยิ่งปล่อยเวลาไว้เอ่อเลือกที่จะไม่
00:33:36 → 00:33:39 รับประทานยาหรือเข้ากระบวนการรักษาที่ที่
00:33:39 → 00:33:42 ที่ทางการแพทย์แนะนำเวลาที่มันโอ้โหเรา
00:33:43 → 00:33:46 ต้องทนอยู่กับเขาเป็นปีครึ่งเกือบ 2 ปีงเ
00:33:46 → 00:33:50 มันเราสูญเสียประโยชน์หลายๆอย่างเสียเสีย
00:33:50 → 00:33:53 จ่างสุขภาพตัวเองสนข้างอืมบางท่านอย่าเมี
00:33:53 → 00:33:57 ออือะไรอย่างเงี้ยนึกออกมนึกออกเลยเลยนะ
00:33:57 → 00:34:02 ครับเออก็ก็เป็นอีกหนึ่งหนหนึ่งคำแนะนำ
00:34:02 → 00:34:04 ของคุณหมอหลายๆท่านนะก็คือถ้าเป็นแล้ว
00:34:04 → 00:34:08 เอ่อ 1 คือเข้าสู่กระบวนการรักษาซะแล้วก็
00:34:08 → 00:34:11 ดูแลตามที่แพทย์สั่งอันนี้สำคัญมากเลยนะ
00:34:11 → 00:34:13 เพราะว่าเอ่ออย่างที่คุณหมอเคยคุยกับคุณ
00:34:13 → 00:34:17 หมอเจไว้หลายๆครั้งอืพออือหายไปครึ่งทาง
00:34:17 → 00:34:20 มาแล้วครึ่งทางแต่ไครึ่งทางอ่ะหายไปไหน
00:34:20 → 00:34:22 แล้วต้องมันต้องกลับมาอีกอีกอีกรอบนึงใช่
00:34:23 → 00:34:25 มั้ยคุณหมอมันย้อนกลับมาเข้าสเต็ปแรกเข้า
00:34:25 → 00:34:29 ในในเว็บไซต์แบบอเบอย่าเบอร์ดดังๆสี
00:34:29 → 00:34:33 น้ำเงินเว็บบอร์ดดังๆก็เป็นมนุษย์ชุมเช่า
00:34:33 → 00:34:36 ที่แบบรักษา 5 ปี 10 ปีก็ยังรักขาอยู่เลย
00:34:36 → 00:34:41 อะไรเงี้ยอครับอ่ะทิ้งท้ายหน่อยครับคุณ
00:34:41 → 00:34:46 หมอเจถ้าเจอภาวะแบบนี้รู้ตัวเองแล้วทำยัง
00:34:46 → 00:34:49 ไงดีและถ้าไม่อยากเป็นเราควรจะเริ่มต้น
00:34:49 → 00:34:52 ตัวเองได้ยังไงบ้างฮะค่ะสำคัญสุดเลยรู้
00:34:52 → 00:34:55 ตัวเองแล้วก็คืออยากให้แบบถ้าเรารู้ตัว
00:34:55 → 00:34:58 เองแล้วแล้วเราเรารู้สึกว่าเราพยายามจัด
00:34:58 → 00:35:00 การตัวเองในวิธีที่เราเคยใช้แล้วมันช่วย
00:35:00 → 00:35:03 เราแอย่างที่บอกอ่ะจะดูซีรี่ดูน้องหมาดู
00:35:03 → 00:35:06 น้องแมวเล่นเกมอะไรก็ตามที่มันเคยใช้หร
00:35:06 → 00:35:09 ออกกำลังกายในอะไรถ้าเคยใช้แล้วมันไม่
00:35:09 → 00:35:12 ช่วยเราแล้วก็ว่าจะมาปรึกษาแพทย์ปรึกษา
00:35:12 → 00:35:16 ผู้เชี่ยวชาญดูใช้คำว่าถ้าเรามาแล้วมัน
00:35:16 → 00:35:19 ไม่เป็นน่ะมันไม่ได้มีอะไรเสียหายออย่าง
00:35:19 → 00:35:22 มากคือเสียเวลากับเสียตังค 1 ครั้งแค่
00:35:22 → 00:35:26 นั้นเองอแค่นั้นเองค่ะแต่ว่าถ้าเราถ้าเรา
00:35:26 → 00:35:29 ไม่มาแล้วเราเป็นน่ะมันมีอะไรที่เสียคือ
00:35:29 → 00:35:32 มันเสียมากกว่านั้นมันเสียน้อยเสียยาก
00:35:32 → 00:35:35 เสียมากเสียหน้าอือะไรเงี้ยค่ะครับเนาะ
00:35:35 → 00:35:38 แต่ว่าส่วนเรื่องป้องกันอ่ะค่ะจริงๆอ่ะ
00:35:38 → 00:35:40 ค่ะก็คือเหมือนการดูแลสุขภาพจิตที่ดีทั่ว
00:35:41 → 00:35:43 ๆไปเลยคือต้องใช้คำว่าสุขภาพจิตอ่ะเหมือน
00:35:43 → 00:35:46 กายเลยนะมันไม่ได้มีแค่ป่วยกับไม่ป่วยกาย
00:35:46 → 00:35:49 สมัยเนี้ยมีตั้งแต่ป่วยไม่ป่วยเฮ้ยคนเนี้
00:35:49 → 00:35:53 คิดมากหุ่นดีวิ่งมาราธอนนู่นนี่นั่นนึก
00:35:53 → 00:35:55 ออกมั้ยคะมันเป็นมันเป็นมันเป็นมันเป็น
00:35:55 → 00:35:58 เค้าเรียกอะไรมันเป็นสมอ่ะคือเป็นเกนอ่ะ
00:35:59 → 00:36:01 เพราะฉะนั้นทางจิตอ่ะค่ะไม่ต้องรอให้ป่วย
00:36:01 → 00:36:05 นะคะไม่ป่วยเราก็เข้ายิงของจิตได้อหมาย
00:36:05 → 00:36:07 ถึงกายเราไม่ได้ต้องรอให้เราแบบเป็นอพาต
00:36:07 → 00:36:10 เราค่อยไปทำกายภาพเราก็เข้ายินอันนี้ก็
00:36:10 → 00:36:13 เหมือนกันจิตใจก็เหมือนกันซึ่งวิธีก็หลาย
00:36:13 → 00:36:16 ๆวิธีที่มันเป็นทางบวกที่เราถนัดแล้วแต่
00:36:17 → 00:36:19 ท่านเลยอย่างที่เมื่อกี้บอกไปจะออกกำลัง
00:36:19 → 00:36:22 กายก็ได้อ่ะพื้นฐานเลยพื้นฐานก็คือตรงไป
00:36:22 → 00:36:24 ตรงมาสุขบัญญัติ 10 ประการนั่นแหละนอนให้
00:36:24 → 00:36:28 คอ 8 ชม 7-8 ช่วโมงต่อวันเวลาใกล้เคียง
00:36:28 → 00:36:33 กันนอนยาวต่อนอ่าหลีกเลี่ยงของบินเราสาร
00:36:33 → 00:36:35 เศพติดเพราะว่าสารเสพติดหลายๆครั้งอย่าง
00:36:36 → 00:36:39 เช่นอ่ากัญชากระท่อมที่เพิ่งปลดล็อคกันไป
00:36:39 → 00:36:41 อย่างเงี้ยค่ะก็ทำให้เกิดเรื่องติดใจเยอะ
00:36:41 → 00:36:46 มากๆมากๆเลยเนาะแล้วก็แล้วก็เรื่องของแบบ
00:36:46 → 00:36:49 เหมือนอ่าการที่เรามีเพื่อนที่ดีมี
00:36:49 → 00:36:52 ครอบครัวที่น่ารักที่การที่เราสามารถทำ
00:36:52 → 00:36:54 อะไรที่เราผ่อนคลายอะไพวกเค่ะมันเป็นการ
00:36:54 → 00:36:58 ป้องกันได้ทั้งหมดค่ะแล้วก็บางท่านที่ถ้า
00:36:58 → 00:37:01 สมมติว่าอ่าต้องบอกว่าถ้ามันมีส่วนของ
00:37:01 → 00:37:04 พันธุกรรมกรรมพันธ์ด้วยนะถ้าสมมุติว่ามี
00:37:04 → 00:37:07 คนในครอบครัวโดยเฉพาะคนใกล้ชิดากสายตรง
00:37:07 → 00:37:10 เป็นน่ะคะโอกาสอาจจะเป็นมากกว่าแต่ไม่ได้
00:37:10 → 00:37:12 แปลว่าต้องเป็นนะคะนึกถึงเบาหวานความดัน
00:37:12 → 00:37:14 ถ้าพ่อเป็นความดันลูกก็มีโอกาสเป็นความ
00:37:14 → 00:37:17 ดันมากกว่าคนที่พ่อแม่ไม่เป็นความดันอื
00:37:17 → 00:37:20 อะไรอย่างเงี้ยค่ะครับเอ่อก็อย่าๆก็แล้ว
00:37:20 → 00:37:23 แต่ไม่อยากให้ใครประสบปัญหาพบเจอกับอาการ
00:37:23 → 00:37:26 ป่วยไม่ว่าจะโรคใดโรคหนึ่งอนะฮะเอ่อก็ดู
00:37:26 → 00:37:28 แลสุขภาพดีของตัวเองกันด้วยนะครับวันนี้
00:37:28 → 00:37:31 ขอบคุณหมอเจนะครับที่มาให้ความรู้มีโอกาส
00:37:31 → 00:37:34 จะพูดปะพบคุยพูดคุยกันอีกเรื่อยๆนะฮะขอ
00:37:34 → 00:37:38 อนุญาตเลยค่ะขอบคุณค่ะขอบคุณคุณโอ๊ขอบคุณ
00:37:38 → 00:37:41 คุณตั๊กค่ะคุณตั๊กเดินทางปลอดภัยด้วยนะคะ
00:37:41 → 00:37:44 ครับขอบคุณครับคุณหมอเจครับสวัสดีครับไป
00:37:44 → 00:37:49 แล้วหรือเปล่าขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะค่ะครับ
00:37:49 → 00:37:52 ผมก็พูดคุยกันกับหมอเจนะครับแพทย์หญิง
00:37:52 → 00:37:56 เพ็ญชยาอติวรรณาพัฒนะครับแพทย์ผู้ชำนาญ
00:37:56 → 00:37:57 การ
00:37:57 → 00:38:00 ด้านจิตเวทสูงสุขภาพใจโรงพยาบาลวิมุตติ
00:38:00 → 00:38:02 ครับกับเรื่องอาการแบบไหนเสี่ยงภาวะซึม
00:38:02 → 00:38:05 เศร้าซ่อนเร้นฟังกันแล้วก็หมั่นสังเกตตัว
00:38:05 → 00:38:07 เองกันด้วยนะครับเกี่ยวกับโรคเเอ่อโรคซึม
00:38:07 → 00:38:11 เศร้าเองมันก็จะมีแยกย่อยไปอีกไม่ว่าจะ
00:38:11 → 00:38:14 เป็นอาการช่วงไหนระดับไหนถ้าพบอาการแล้ว
00:38:14 → 00:38:16 แนะนำเลยคือปรึกษาแพทย์แล้วก็เข้าสู่
00:38:16 → 00:38:19 กระบวนการรักษาเราจะได้มีความสุขระหว่าง
00:38:19 → 00:38:23 ทางได้มากขึ้นกว่าเดิมนะครับอย่าไปทนอยู่
00:38:23 → 00:38:27 กับโรคนี้นะครับแล้วก็เ่ออยู่กับการเหล่า
00:38:27 → 00:38:29 นี้ไปนานๆเพราะว่ามันจะทำให้เราเสียโอกาส
00:38:29 → 00:38:32 หลายๆอย่างในชีวิตไปด้วยนะครับก็เดี๋ยว
00:38:32 → 00:38:34 น้องตั๊กเดี๋ยวเราพักกันสักครู่เนาะแล้ว
00:38:34 → 00:38:36 เดี๋ยวกลับมาพูดคุยกับสุขภาพดี 2200 นใน
00:38:36 → 00:38:38 ช่วงที่ 2
00:38:38 → 00:38:41 ครับเดี๋ยวนี้ใครๆก็มี
00:38:41 → 00:38:45 คปหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดติดบ้านตัว
00:38:45 → 00:38:49 ช่วยที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายง่ายขึ้นและง่าย
00:38:49 → 00:38:53 ขึ้นเยอะลดแรงประหยัดเวลาให้คอมโปรจัดการ
00:38:53 → 00:38:57 งานบ้านด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะดูดฝุ่นกวาด
00:38:57 → 00:39:01 บ้านถูพื้นในเครื่องเดียวทำงานต่อเนื่อง
00:39:01 → 00:39:06 90 นาทีไม่มีพักไม่มีเหนื่อยไม่มีบ่นแถม
00:39:06 → 00:39:10 ทำงานเงียบไม่มีเสียงดังกวนใจมาพร้อมรับ
00:39:10 → 00:39:13 ประกันสินค้าให้ 3 เดือนให้บ้านสะอาดสูด
00:39:13 → 00:39:17 อากาศได้เต็มปอดคอปหุ่นยนต์ดูดฝุ่น 1
00:39:18 → 00:39:19 เครื่องมูลค่า
00:39:19 → 00:39:24 1,0 บาทวันนี้ลดมากกว่า 50% เหลือเพียง
00:39:24 → 00:39:26 490 บาทเท่านั้น
00:39:27 → 00:39:28 สนใจโทร
00:39:28 → 00:39:33 0214 3299 ค่าจัดส่งและประกันสินค้า 200
00:39:33 → 00:39:37 บาทสดวกซื้อสนุกชที่ Shop
00:39:37 → 00:39:41 mania พบกับคนข่าวรุ่นเก๋าคลุกวงในข่าว
00:39:41 → 00:39:44 มาเล่าข่าวเป็นเพื่อนเดินทางกลับบ้านด้วย
00:39:44 → 00:39:48 ข้อมูลอตแบบสดหยดติ๋งในชั่วโมงข่าว
00:39:48 → 00:39:53 Exclusive 16ถ 17 นคุยข่าวอารมณ์ดีกับ
00:39:53 → 00:39:56 เพื่อนรุ่นพี่ตอนกลับบ้านโดย 2 นักข่าว
00:39:56 → 00:40:00 รุ่นเก๋ามาเล่าให้ฟังแบบแสบๆคันๆในรายการ
00:40:00 → 00:40:04 คุยโขมงยามเย็น 17:00 นถ 18:00 นค่ะบุอดม
00:40:04 → 00:40:07 จิตดรนนะคะสำหรับรายการนะคะก็ยังคงอยู่
00:40:07 → 00:40:10 ค่ะไม่ว่าจะเป็นชั่วโมงข่าว Exclusive นะ
00:40:10 → 00:40:12 คะไม่ว่าจะเป็นคุยโขมงยามเย็นกับพี่สวท
00:40:12 → 00:40:14 ยังไงก็ขอให้คุณผู้ฟังนั้นติดตามค่ะจะ
00:40:14 → 00:40:17 พยายามนะคะสัหาข้อมูลแล้วก็เจาะลึกให้ได้
00:40:17 → 00:40:20 มากที่สุดค่ะก็อย่าลืมพบกันนะคะพบกันตอน
00:40:20 → 00:40:25 กลับบ้านจันทร์ถึงศุกร์ที่ MCOT News FM
00:40:25 → 00:40:27 100.5
00:40:27 → 00:40:30 สนใจติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทาง
00:40:30 → 00:40:33 คลื่นข่าว MCOT นวสโทร
00:40:34 → 00:40:36
00:40:36 → 00:40:46 [เพลง]
00:40:46 → 00:40:53 6027 100.5 คืบหน้าข่าวนสอดตช่วงสุขภาพ
00:40:53 → 00:40:57 ดี 22 นโดยทีมกองบรรณาธิการข่าวสังคม
00:40:57 → 00:40:59 สำนักข่าว
00:40:59 → 00:41:00 [เพลง]
00:41:01 → 00:41:05 ไทยครับมาอยู่ในช่วงที่ 2 ของสุขภาพดี
00:41:05 → 00:41:07 22:00 นกับ MCOT News Network FM
00:41:07 → 00:41:10 100.5 นะครับยังอยู่กับเรา 2 คนครับโอ๊
00:41:10 → 00:41:12 กับตั๊กนะครับก็เมื่อสักครู่ก็คุยกันใน
00:41:12 → 00:41:14 เรื่องของอาการแบบไหนเสี่ยงภาวะเซมเศร้า
00:41:14 → 00:41:17 แบบซ้อนเร้นนะครับก็ใครที่สนใจรับฟังหรือ
00:41:17 → 00:41:20 ว่าอยากจะรู้จักเอ่อเจ้าอาการของภาวะแบบ
00:41:20 → 00:41:24 เนี้ยเราหรือใครก็แล้วแต่เนี่ยเข้าขาย
00:41:24 → 00:41:26 หรือเปล่าสังเกตตัวเองอย่างไรดีก็ย้อน
00:41:26 → 00:41:28 กลับไปฟังได้นะครับจากไลฟ์นี้ก็ได้หรือ
00:41:28 → 00:41:34 ว่าจะเป็น YouTube MCOT News FM 100.5
00:41:34 → 00:41:38 นี่ก็มีตัดลงในวันพรุ่งนี้นะครับลองเปิด
00:41:38 → 00:41:43 เข้ามาชมกันได้นะฮะเอ่ออีกหนึ่งเรื่องที่
00:41:43 → 00:41:46 โอ้ยเป็นข่าวเป็นคราวเลยน้องตั๊กเป็นข่าว
00:41:46 → 00:41:51 เป็นคราวเกี่ยวกับเด็กๆนะอืเออมันคือเกข
00:41:51 → 00:41:56 ขนมออ้ยจริงๆนะขนมเนี่ยคือก็ไม่เคยยยัง
00:41:56 → 00:41:58 ไม่เคยเห็นนะแต่ว่าคือรู้ว่าตอนเนี้ยมัน
00:41:58 → 00:42:01 พี่จะถามตั๊กพอดีเลยว่าเคยเห็นหรรือเปล่า
00:42:01 → 00:42:04 เนี่ยจริงๆยังไม่เคยเห็นแต่ว่าพอเสิร์ช
00:42:04 → 00:42:08 เข้าไปในเอ่อขายของออนไลน์มันขึ้นมาเต็ม
00:42:08 → 00:42:12 เลยพี่โอ๊คมันมีขายในออนไลน์อ่ะเนาะฮคือ
00:42:12 → 00:42:17 มันมันมันคือขนมไขขี้ผึ้งเพิ่งเคยเห็นจาก
00:42:17 → 00:42:19 เนี่ยแหละจากหน้าอออยเนี่ยแหละเหมือนกัน
00:42:19 → 00:42:22 ใช่เพิ่งเคยเพิ่งเคยได้ยินแต่เขาบอกว่า
00:42:22 → 00:42:26 เป็นขนมที่สุดฮิตณตอนนี้เลยว่างั้นอจะ
00:42:26 → 00:42:29 อยู่ในโรงเรียนระดับประถมอะไรปที่แบบคือ
00:42:29 → 00:42:31 อาจจะเป็นแบบในเด็กๆอ่ะเนาะเพอลูกเรา
00:42:31 → 00:42:34 อนุบาลอยู่เรายังไม่เคยเห็นเออจริงเนาะ
00:42:34 → 00:42:38 คืออยอ่ะเขาก็ออกมาเตือนเลยนะคะมันไม่ดี
00:42:38 → 00:42:42 เหรอตใช่เบอกว่าไม่ควรที่จะซื้อขนมไขขี้
00:42:42 → 00:42:46 ผึ้งที่กำลังฮิตอยู่ตอนเมารับประทานเลย
00:42:46 → 00:42:50 คือใครที่รักรอบนำเข้าเนี่ยก็คือผิดกฎ
00:42:50 → 00:42:53 หมายนะคะเรื่องเนี้ยถึงขั้นที่ทางนาย
00:42:53 → 00:42:58 แพทย์นรงค์อธิกุลวนิรักษาราชการแทน
00:42:58 → 00:43:02 เลขาธิการอยเนะคะบอกว่าขนมไข่ขี้ผึ้งหรือ
00:43:02 → 00:43:05 ว่าแวกแคนดี้นะคะที่เป็นทิเอ่อที่เป็น
00:43:05 → 00:43:08 เทรนกำลังฮิตในหมู่เด็กแล้วก็วัยรุ่น
00:43:08 → 00:43:12 เนี่ยซึ่งข้างในเนี่ยนะคะก็จะเป็นน้ำหวาน
00:43:12 → 00:43:17 รสผลไม้เคลือบด้วยขี้ผึ้งลักษณะของเา้า
00:43:17 → 00:43:20 อ่ะนะคะเนื่องจากมีลักษณะที่แปลกใหม่แล้ว
00:43:20 → 00:43:25 ก็มีการเผยแพร่รีวิวรสชาติแล้วก็เนื้อ
00:43:25 → 00:43:29 สัมผัสของขนมผ่านสื่อโซเชียลจำนวนมากแล้ว
00:43:29 → 00:43:32 ก็พบว่ามีการขายเนี่ยอยู่เกลื่อนเลยทาง
00:43:32 → 00:43:33 ช่องทาง
00:43:33 → 00:43:37 ออนไลน์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่รักรอบนำเข้า
00:43:37 → 00:43:42 นะคะไม่ได้รับอนุญาตและที่สำคัญไม่มีเลข
00:43:42 → 00:43:47 อยจุดสังเกตเลยเนี่ยไม่มีฉลากภาษาไทยไม่
00:43:47 → 00:43:51 ทราบว่าสูตรหรือว่าส่วนผสมเนี่ยไม่ทราบ
00:43:51 → 00:43:54 ว่ามีอะไรบ้างเพราะว่าไม่แสดงชื่อแล้วก็
00:43:54 → 00:43:58 เลขที่ตั้งของผผู้นำเข้าเนี่ยก็ไม่มีอย
00:43:58 → 00:44:02 เขาก็เลยเอ่อมาเตือนแล้วก็เฝ้าระวังออนะ
00:44:02 → 00:44:05 คะครับแล้วก็ถ้าเกิดใครพบเนี่ยให้แจ้งมา
00:44:05 → 00:44:09 เลยนะคะให้มาแจ้งมาที่อยเลยว่าที่ไหนขาย
00:44:09 → 00:44:13 เอ่อเอ่อคือเขาบอกว่ามันมีในเค้าเรียกว่า
00:44:13 → 00:44:16 อะไรนะฟอร์เอ่อแบบฟอร์มขายออนไลน์อ่ะ
00:44:16 → 00:44:20 เอ่อที่กที่ที่เราจะชอบซื้อกันน่ะพี่โอ๊ค
00:44:20 → 00:44:24 นั่นแหละมีในนอหลายๆแบรนด์นะอเออหลายๆที่
00:44:24 → 00:44:28 คือเา้าบอกว่าแจ้งเข้ามาได้นะคะที่อยซึ่ง
00:44:28 → 00:44:31 ร้านค้าออนไลน์หรือว่าจำหน่ายผลิตภัณฑ์
00:44:32 → 00:44:35 นี้เนี่ยก็คือผิดกฎหมายนะคะแล้วก็อยก็ขอ
00:44:35 → 00:44:38 เตือนผู้บริโภคด้วยว่าไม่ควรที่จะซื้อมา
00:44:38 → 00:44:41 รับประทานเลยเพราะว่าเสี่ยงที่จะได้รับ
00:44:41 → 00:44:46 สารที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่นสาร
00:44:46 → 00:44:50 ปนเปื้อนจากการผลิตหรือว่าการใช้วัตถุ
00:44:50 → 00:44:55 เจือปนอาหารเช่นสีวัตถุกันเสียวัตถุแต่ง
00:44:55 → 00:44:57 กลิ่นที่ไม่ได้ได้รับอนุญาตหรือว่าเกิน
00:44:57 → 00:45:01 ปริมาณที่กฎหมายกำหนดนะคะนอกจากนี้แล้ว
00:45:01 → 00:45:03 ถ้าเกิดหากเด็กเล็กเนี่ยรับประทานทั้ง
00:45:03 → 00:45:07 ชิ้นเนี่ยอาจจะเสี่ยงติดคอด้วยครับนะคะ
00:45:07 → 00:45:11 แล้วก็ขนมอยบอกว่าขนมที่ได้รับอนุญาต
00:45:11 → 00:45:15 เนี่ยให้สังเกตเลยมันจะต้องมีฉลากภาษาไทย
00:45:15 → 00:45:20 แสดงแล้วก็แสดงเลขอยรวมไปถึงส่วนประกอบ
00:45:20 → 00:45:24 ชื่อที่ตั้งของผู้ผลิตนำเข้านะคะแล้วก็
00:45:24 → 00:45:28 วันเดือนปีที่ควรบริโภคหรือว่าหมดอายุรวม
00:45:28 → 00:45:31 ไปถึงน้ำหนักแล้วก็ต้องบอกข้อมูลด้วยว่า
00:45:31 → 00:45:34 มีวัวัตถุแต่งกลิ่นอะไรเจือปนอยู่บ้างนะ
00:45:34 → 00:45:40 คะแล้วก็บอกว่าคือใครที่นำขนมไขที่ี้ผึ้ง
00:45:40 → 00:45:43 เนี่ยมาวางขายโดยไม่ได้รับอนุญาตเนี่ยก็
00:45:43 → 00:45:45 มีโทษด้วยนะคะก็คือปรับไม่เกิน 30,000
00:45:45 → 00:45:48 บาทและเมื่อตรวจวิเคราะห์แล้วเจอว่าใช้
00:45:48 → 00:45:51 วัตถุเจือปนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายเนี่ย
00:45:51 → 00:45:55 ปรับอีก 20,000 บาทนะคะอืแล้วก็บอกสาย
00:45:55 → 00:45:57 ด่วนออยนะคะถ้าเกิดเอ่อใครที่พบเห็นน่ะ
00:45:57 → 00:46:01 เนาะก็แจ้งเข้าไปได้นะคะ 1556 ค่ะครับ
00:46:01 → 00:46:04 ครับก็มีขนมแปลกๆมาทุกยุคทุกสมัยนะน้อง
00:46:04 → 00:46:08 ตั๊กสมัยก่อนเราสมัยเราอะไรนะลูกอมปีศาจ
00:46:08 → 00:46:11 เฮ้ยนี่กำลังจะพูดเลยแสดงว่าทันทุกยุคเรา
00:46:11 → 00:46:14 เลยเออยุคนั้นน่ะลูกม์ปีศาจอ่ะคือแบบเขา
00:46:14 → 00:46:17 เรียกว่าใช้สียอมผ้าเลยนะอุ้ยเป็นมันเป็น
00:46:17 → 00:46:20 สียอมผ้าเลยอ่ะเออแล้วประเด็นคืออะไรรู้
00:46:20 → 00:46:23 มั้ยเคยกินด้วยนะเหรอพี่ไม่เคยแล้วมันจะ
00:46:23 → 00:46:26 ติดลิ้นน่ะพี่ไม่ชอบตนอกโรงเรียนน่ะเออ
00:46:26 → 00:46:30 หน้าโรงเรียนนี่ขายกันตึมร้านใช่ๆค้าอะไร
00:46:30 → 00:46:33 เนี่ยโอ้โหเอามาแจกมีเพื่อนๆเอามาแจกที่
00:46:33 → 00:46:35 โรงเรียนก็มีคือพ่อแม่ซื้อให้นี่แหละแล้ว
00:46:36 → 00:46:39 ก็มาแจกเพื่อนๆในตามเทศกาต่างๆนะแล้วก็
00:46:39 → 00:46:42 แต่พี่เป็นคนที่ไม่ชอบแบบว่าไอ้ที่มันสี
00:46:42 → 00:46:45 มันติดอยู่กับลิ้นเราอ่ะเออก็เลยแบบไม่ก็
00:46:45 → 00:46:47 เลยโอเครอดเราก็เลยไม่ไม่ได้ต้องกินโชดี
00:46:48 → 00:46:51 ไปไม่เคยกินมาแล้วนะพอมาเห็นพอโตขึ้นมา
00:46:51 → 00:46:52 แล้วมาเห็นว่า
00:46:52 → 00:46:56 โหยม้าตอมันน่าจะเคลือบอยู่มงตอนเนี้ย
00:46:56 → 00:47:00 ไม่รู้มันไม่รู้เออแล้วก็มีอะไรอีกอเยอะ
00:47:00 → 00:47:04 แยะนะเอเยอะมีอะไรแล้วตอนนี้เนี่ยขนมถ่ย
00:47:04 → 00:47:06 ขี้ผึ้งอีกข้อมูลก็คือบอกว่าถ้าเด็กกิน
00:47:06 → 00:47:08 เข้าไปอ่ะคือมันไม่ย่อยด้วยนะพี่โอเพราะ
00:47:08 → 00:47:12 มันเป็นไขใช่ไขจะเกาะอยู่ในกระเพาะอะไร
00:47:12 → 00:47:16 อย่าเงี้ยกว่าจะกว่าจะออกมาก็นานหน่อยนน
00:47:16 → 00:47:18 นะครับแล้วก็มีอะไรอ่ะช็อกโกแลตที่เป็น
00:47:18 → 00:47:21 ช็อกโกแลตบอลน่ะแต่อันนั้นมันเป็นแนวที่
00:47:21 → 00:47:25 แบบที่แบบอะไรนะคุณภาพไม่ถึงเออเป็น
00:47:26 → 00:47:28 คุณภาพให้ถึงแล้วก็เป็นเรื่องของเ่อบุต
00:47:28 → 00:47:30 เสียอะไรอย่าเงี้ยไปหลายอย่างสมัยสมัย
00:47:30 → 00:47:34 เด็กๆเราก็โอยเจอกันเยอะผ่านมาเยอะอยู่
00:47:34 → 00:47:37 เหมือนกันอืโชคดีที่รอดมาได้ทแต่ก็ดังดัง
00:47:37 → 00:47:41 สุด้าว่ายุคเรานี่ก็ 90 ก็ดังสุดแล้วลูก
00:47:41 → 00:47:44 อมปีศาจดังมากโเป็นออกทีวงทีวีเลยนะแบบ
00:47:44 → 00:47:50 โอ้โหห้ามกันออกทีวีวงทีวีเลยอืเออนะฮะก็
00:47:50 → 00:47:52 เมื่อก่อนขนาดเขาเรียกว่าอะไรอ่ะซื้อ
00:47:52 → 00:47:56 ออนไลน์ยงน้อยนะนี่ก็อ่าไม่มีออนไลน์แต่
00:47:56 → 00:48:01 ยังแพบาคือโอโหเสิร์ชไปเจอเลยเออนะฮะอ่ะ
00:48:01 → 00:48:04 หมดเวลาแล้วนะครับสำหรับสุขภาพดี 22 นวัน
00:48:04 → 00:48:06 นี้วันศุกร์สุดสัปดาห์ก็เดินทางกันปลอด
00:48:06 → 00:48:08 ภัยนะคใครเดินทางต่างจังหวัดหยุดยาวด้วย
00:48:08 → 00:48:10 นะครับรวมไปถึงเอ่อท่องเที่ยวตามแหล่ง
00:48:10 → 00:48:12 ต่างๆก็ระมัดระวังเรื่องของสุขภาพด้วย
00:48:12 → 00:48:15 ครับสุขภาพดีๆแบบสุขภาพดี 22:00 นกับเรา
00:48:15 → 00:48:17 แบบนี้นะครับเช่นเคยจันทร์ถึงศุกร์พบกัน
00:48:17 → 00:48:19 ใหม่สัปดาห์หน้านะครับวันนี้เรา 2 คนเสือ
00:48:19 → 00:48:23 โชุนตันตยานนท์ครับอวัเผไทสงค่ะครับลาไป
00:48:23 → 00:48:26 แล้วครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะ
00:48:26 → 00:48:28 [เพลง]
00:48:28 → 00:48:33 100.5 คืบหน้าข่าว New อัปเดตช่วงสุขภาพ
00:48:33 → 00:48:36 ดี