00:00:00 → 00:00:03 3 สมุนไพรที่คนมักกินผิดเกิดอันตรายได้
00:00:03 → 00:00:07 >> สมุนไพรมีฤทธิ์ร้อนพริกเอยพริกไทยเอยน้ำ
00:00:07 → 00:00:10 ขิงกินแต่ไฟๆอย่างเดียวอนร้อนในตายอีก
00:00:10 → 00:00:13 สมุนไพรฤทธิ์ร้อนเนี่ยกินได้ต่อเนื่อง 7
00:00:13 → 00:00:13 วัน
00:00:13 → 00:00:15 >> แต่บางคนกินเป็นเดือนเป็นปีเลยนะคะ
00:00:15 → 00:00:17 >> ก็ต้องขึ้นอยู่กับธาตุเจ้าเรือนของแต่ละ
00:00:17 → 00:00:20 คนละเช่นคุณเจนมีปัญหาธาตุไฟกับเลิกเราก็
00:00:20 → 00:00:23 ต้องหาสมุนไพรที่มันไปช่วยลดธาตุไฟลง
00:00:24 → 00:00:26 >> แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าเราเป็นคน
00:00:26 → 00:00:28 ธาตุไฟธาตุน้ำธาตุดิน
00:00:28 → 00:00:30 >> คร่าวๆเนาะเรียก
00:00:30 → 00:00:35 เดือนมกราคมมีธาตุไฟต่อไปเมษายนพฤษภาคม
00:00:35 → 00:00:39 มิถุนายนก็คือสมุนไพรอะไรบ้างที่สามารถ
00:00:39 → 00:00:40 ช่วยลดน้ำหนักได้บ้างคะ
00:00:40 → 00:00:42 >> เพิ่มระบบการเผาผ่านด้วยสมุนไพรที่มี
00:00:42 → 00:00:45 ฤทธิ์ร้อนตัวในการระบายเนี่ยก็จะใช้กลุ่ม
00:00:45 → 00:00:48 ของรสสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวเช่นพวกส้มแขก
00:00:48 → 00:00:51 มะนาวหรือกระเจี๊ยบแต่ไม่ใช่จะดีท็อกซ์
00:00:51 → 00:00:54 อย่างเดียวกินมะขามแขกขี้ๆตายเลยทีเนี้ย
00:00:54 → 00:00:55 มันก็ต้องสมดุลกัน
00:00:55 → 00:00:58 >> จริงๆแล้วมันมีการกินสมุนไพรตามช่วงเวลา
00:00:58 → 00:00:59 ด้วยใช่มั้คะ
00:00:59 → 00:01:03 >> ตอนเช้าควรจะกิน
00:01:03 → 00:01:05 >> สวัสดีค่ะอยู่กับ Docts Podcast ที่จะพา
00:01:05 → 00:01:08 คุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:08 → 00:01:11 รัฐพันธุ์พันธพณิตค่ะถ้าชอบคทentแนว
00:01:11 → 00:01:13 สุขภาพแบบนี้นะคะหรือว่ารู้สึกว่าคทent
00:01:13 → 00:01:16 แบบเนี้ยมีประโยชน์ช่วยกดไและ subscribe
00:01:16 → 00:01:19 เป็นกำลังใจให้เจนแพทย์แล้วก็ทีมงานได้
00:01:19 → 00:01:21 ผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆด้วยนะคะ
00:01:21 → 00:01:24 ในวันนี้ค่ะเราจะมาพูดกันถึงเรื่องที่มี
00:01:24 → 00:01:27 คนส่งคำถามเข้ามาเยอะมากๆนั่นก็คือเรื่อง
00:01:27 → 00:01:29 สมุนไพรไทยนะคะเมื่อหลายเดือนก่อนเราเคย
00:01:30 → 00:01:32 ทำเรื่องสมุนไพรจีนไปและแล้วโอ้โหเป็น
00:01:32 → 00:01:35 ปรากฏการณ์มากๆคอมเมนต์หลายร้อยโดยเฉพาะ
00:01:35 → 00:01:38 ใน Facebook นะคะตอนนี้ยอดวิวน่าจะเกิน 3
00:01:38 → 00:01:40 ล้านบวกๆไปแล้วในวันนี้เราเลยมาทำเรื่อง
00:01:40 → 00:01:43 สมุนไพรไทยบ้างค่ะเพราะว่าสมุนไพรไทย
00:01:43 → 00:01:45 เนี่ยนอกจากจะอยู่ในตำรานะคะแต่ว่ากลาย
00:01:45 → 00:01:48 เป็นส่วนหนึ่งของอาหารและเครื่องดื่มของ
00:01:48 → 00:01:51 เราในชีวิตประจำวันไปแล้วนะคะวันนี้ก็เลย
00:01:51 → 00:01:53 จะมาถามคุณหมอค่ะว่าจริงๆแล้วเนี่ยการกิน
00:01:53 → 00:01:56 สมุนไพรเนี่ยมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างนะคะ
00:01:56 → 00:01:58 เพราะว่าจริงๆแล้วสมุนไพรมีข้อดีมากๆเลย
00:01:58 → 00:02:02 แต่เราจะกินยังไงให้พอดีกินอะไรคือกินมาก
00:02:02 → 00:02:04 ไปกินน้อยไปแล้วคนที่มีโรคประจำตัวเนี่ย
00:02:04 → 00:02:08 สามารถกินสมุนไพรไทยได้หรือไม่กินแบบสด
00:02:08 → 00:02:10 กับแบบสกัดต่างกันมั้นะคำถามทั้งหมดนี้
00:02:10 → 00:02:13 ค่ะเจนได้เตรียมมาถามคุณหมอโฉบแล้วนะคะ
00:02:13 → 00:02:15 เพราะว่าท่านเนี่ยมีประสบการณ์เรื่อง
00:02:15 → 00:02:18 สมุนไพรไทยเยอะมากๆฉะนั้นใครที่อยากรู้
00:02:18 → 00:02:21 เรื่องสมุนไพรไทยนะคะหรือใครที่กำลังลด
00:02:21 → 00:02:23 น้ำหนักแล้วอยากมีตัวช่วยเป็นสมุนไพรไทย
00:02:23 → 00:02:26 นะคะหรือมีคำถามมากมายเนี่ย EP นี้ต้องดู
00:02:26 → 00:02:28 ให้จบเลยนะคะสวัสดีค่ะคุณหมอ
00:02:28 → 00:02:32 >> สวัสดีครับผมครับเอ่ออาจารย์อภิรัตน์
00:02:32 → 00:02:35 ประชาสุภาพนะครับแพทย์แผ่นไทยนะครับเอ่อ
00:02:35 → 00:02:38 ปัจจุบันก็เป็นหัวหน้าสาขาแพทย์แผ่นไทย
00:02:38 → 00:02:41 ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตครับผม
00:02:41 → 00:02:43 >> ขอบคุณมากเลยนะคะวันนี้สละเวลามาคำถาม
00:02:43 → 00:02:44 เยอะมากเลยค่ะ
00:02:44 → 00:02:45 >> ครับได้เลยครับผม
00:02:45 → 00:02:49 >> คำถามแรกค่ะคุณหมอเป็นคนกินเผ็ดเก่งมากๆ
00:02:49 → 00:02:52 เลยค่ะเคยรู้มาว่ากินพริกจะช่วยลดความ
00:02:52 → 00:02:55 อ้วนและลดน้ำหนักได้ด้วยโอ้โหทีนี้ก็กิน
00:02:55 → 00:02:58 ใหญ่เลยค่ะกินทั้งที่เป็นแบบพริกสดนะคะ
00:02:58 → 00:03:01 แล้วก็พริกป่นแต่กินมานานแล้วก็รู้สึกน้ำ
00:03:01 → 00:03:04 หนักไม่เห็นจะลดเลยค่ะหมอเลยหันไปกินพริก
00:03:04 → 00:03:08 ไทยดำแทนคราวเนี้ยเริ่มรู้สึกแสบร้อนแล้ว
00:03:08 → 00:03:11 ก็ปวดท้องมากเลยค่ะเลยต้องหยุดกินเพราะ
00:03:11 → 00:03:14 ว่ากลัวแพ้เลยอยากจะรู้ว่าการกินพริกหรือ
00:03:14 → 00:03:16 พริกไทยดำเนี่ยมันช่วยลดน้ำหนักได้จริง
00:03:16 → 00:03:17 มั้ยคะ
00:03:17 → 00:03:20 >> เราต้องกินเยอะแค่ไหนมันถึงจะเห็นผลคะ
00:03:20 → 00:03:22 แล้วมีสมุนไพรอะไรบ้างที่สามารถช่วยลดน้ำ
00:03:22 → 00:03:23 หนักได้บ้างคะ
00:03:23 → 00:03:27 >> ถ้าในหลักของการลดน้ำหนักทางการแพทย์แผ่น
00:03:27 → 00:03:30 ไทยถ้าพูดตรงๆบอกสมุนไพรที่ใช้ในการลดน้ำ
00:03:30 → 00:03:32 หนักตามสรรพคุณแล้วมาเขียนข้างล่างข้าง
00:03:32 → 00:03:35 หลังว่าแก้ลดน้ำหนักใช้เรื่องการลดน้ำ
00:03:35 → 00:03:36 หนักได้ไม่มี
00:03:36 → 00:03:37 >> อื
00:03:37 → 00:03:40 >> ไม่มีไม่มีครับผมแพทย์แผ่นไทยนะครับ
00:03:40 → 00:03:43 >> แต่เราต้องเข้าใจถึงความสมดุลในร่างกาย
00:03:43 → 00:03:45 ก่อนอันที่ 1 ถ้าพูดถึงตามหลักแพทย์แผ่น
00:03:45 → 00:03:46 ไทยนะครับ
00:03:46 → 00:03:46 >> ค่ะ
00:03:47 → 00:03:50 >> อะไรที่ทำให้เราเกิดสภาวะน้ำหนักตัวเยอะ
00:03:50 → 00:03:51 >> อื
00:03:51 → 00:03:55 >> นั่นก็คือ 1 การที่เราใช้พลังงานน้อย
00:03:56 → 00:03:56 >> อื
00:03:56 → 00:03:58 >> เราบริโภคเกินหรือกินล้น
00:03:58 → 00:03:59 >> อื
00:03:59 → 00:04:02 >> อ่านะครับแล้วทำให้ร่างกายเสียสมดุลจาก
00:04:02 → 00:04:03 พฤติกรรม
00:04:03 → 00:04:04 >> อื
00:04:04 → 00:04:07 >> อันนี้หลักพื้นฐานทั่วๆไปก็คือคุณจะต้อง
00:04:07 → 00:04:09 ไปออกกำลัง
00:04:09 → 00:04:09 >> อ
00:04:09 → 00:04:12 >> เพิ่มพลังงานให้กับร่างกายหรือให้ร่างกาย
00:04:12 → 00:04:16 ได้ใช้พลังงานนะครับสมุนไพรเป็นเพียงตัว
00:04:16 → 00:04:21 ช่วยบอกมีมยมีสามารถทำได้นะครับสมุนไพร
00:04:21 → 00:04:24 ถ้าตอบในทางทฤษฎีการแพทย์แผนไทย 1
00:04:24 → 00:04:27 สมุนไพรจะต้องมีฤทธิ์หรือมีสรรพคุณฤทธิ์
00:04:27 → 00:04:28 ร้อน
00:04:28 → 00:04:28 >> อื
00:04:28 → 00:04:32 >> ทีนี้สมุนไพรที่บอกมาพริกเอยนะครับพริก
00:04:32 → 00:04:35 ไทยเอยบอกมีส่วนช่วยมั้ยส่วนหนึ่งแต่ไม่
00:04:35 → 00:04:37 ใช่ทั้งหมดอย่างที่บอกเนื่องจากสพูนของ
00:04:37 → 00:04:39 เขามีรสร้อน
00:04:39 → 00:04:42 >> นะครับรสร้อนคือเพิ่มไฟหรือไฟย่อยทำให้
00:04:42 → 00:04:45 การย่อยในร่างกายเนี่ยเกิดการย่อยได้ดี
00:04:45 → 00:04:46 ขึ้น
00:04:46 → 00:04:48 >> นะครับทีนี้พอเราย่อยได้ดีขึ้นย่อยได้ดี
00:04:48 → 00:04:52 ขึ้นนะครับการเผาผ่านก็มากขึ้นแต่ปัจจัย
00:04:52 → 00:04:56 อื่นล่ะครับคุณยังกินเหมือนเดิมคุณยังทำ
00:04:56 → 00:04:58 พฤติกรรมเดิมๆซ้ำๆ
00:04:58 → 00:05:01 >> เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่ใช่ตอบว่าเอาสมุนไพร
00:05:01 → 00:05:05 ไปลดน้ำหนักแต่เป็นสมุนไพรที่มีเอ่อฤทธิ์
00:05:05 → 00:05:07 ในการช่วยในการควบคุมนะครับเพราะฉะนั้น
00:05:07 → 00:05:10 ต้องมีปัจจัยในเรื่องอื่นๆในการส่งเสริม
00:05:10 → 00:05:13 ของการควบคุมและการดูแลสุขภาพด้วยถ้าไม่
00:05:13 → 00:05:15 นั้นคนจะมัวแต่หันไปกินแต่
00:05:15 → 00:05:16 >> สมุนไพร
00:05:16 → 00:05:18 >> สมุนไพรสมุนไพรเดี๋แล้วคิดว่าน้ำหนักมัน
00:05:18 → 00:05:20 จะลดน้ำหนักมันจะลง
00:05:20 → 00:05:22 >> ถ้านั้นอันนั้นคือผิดทาง
00:05:22 → 00:05:25 >> มีอื่นๆอีกมั้คะสมุนภัยที่สามารถช่วยลด
00:05:25 → 00:05:28 ช่วยกระตุ้นหรือช่วยได้นอกจากเรื่องฤทธิ์
00:05:28 → 00:05:29 ร้อนนะคะ
00:05:29 → 00:05:31 >> ค่ะตัวฤทธิ์ร้อนนั่นคืออันที่ 1 อันที่ 2
00:05:31 → 00:05:33 ก็คือหลักการเดียวกันกับที่ใช้อยู่เนี่ย
00:05:34 → 00:05:36 นะครับคือฤทธิ์ในการดีท็อกซ์หรือฤทธิ์ใน
00:05:36 → 00:05:38 การระบายแต่ตัวในการระบายเนี่ยก็จะใช้
00:05:39 → 00:05:41 กลุ่มของรถสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว
00:05:41 → 00:05:42 >> อื
00:05:42 → 00:05:45 >> อ่ารสเปรี้ยวก็จะไปใช้ในการกระตุ้นฟอก
00:05:45 → 00:05:49 เสมหะกัดเสมหะทำให้เสมหะและเมือกมันต่างๆ
00:05:49 → 00:05:52 ที่อยู่ในลำไส้เนี่ยมันค่อยๆเอ่อเาเรียก
00:05:52 → 00:05:56 ว่าออกไปนะครับก็ใช้หลักรี
00:05:56 → 00:05:59 ไอ้กลุ่มไอ้รสเปรี้ยวของทฤษฎีทางการแพทย์
00:05:59 → 00:06:02 แผนไทยเนี่ยมันก็ไปตรงกับสมุนไพรบางตัว
00:06:02 → 00:06:04 เช่นพวกส้มแขกเอย
00:06:04 → 00:06:04 >> อื
00:06:04 → 00:06:09 >> อ่าพวกเอ่อกลุ่มของเอ่อมะนาวเอย
00:06:09 → 00:06:12 >> นะครับที่มีฤทธิ์ในการฟอกเลือดฟอกโลหิตนะ
00:06:12 → 00:06:14 ครับขับล้างของเสียพวกนี้หรือกระเจี๊ยบ
00:06:14 → 00:06:15 เอย
00:06:15 → 00:06:18 >> นะครับพวกนี้มันจะเป็นตัวการล้างคือการ
00:06:18 → 00:06:21 ฟอกเราเรียกว่าการฟอกหองเสีย
00:06:21 → 00:06:23 >> หลักการของสมุนไพรก็จะใช้รสเปรี้ยวรส
00:06:23 → 00:06:27 เปรี้ยวมีสรรพคุณในการฟอกเพิ่มเสมอ
00:06:27 → 00:06:30 กินกลุ่มสมุนไพรพวกนี้เข้าไปปุ๊บมันก็จะ
00:06:30 → 00:06:32 เกิดการกระตุ้นทำให้เราถ่ายแล้วถ่ายของ
00:06:32 → 00:06:35 เสียออกนะครับเพราะฉะนั้นโดยหลักการที่ 1
00:06:35 → 00:06:37 ควบคุมปัจจัยนำเข้า
00:06:37 → 00:06:40 >> นะครับแล้วก็ของเสียปัจจัยนำออกต้องทุก
00:06:40 → 00:06:44 วันนะครับแล้วก็กลับไปเพิ่มระบบการทำงาน
00:06:44 → 00:06:46 หรือระบบเอ่อการเผาผ่านให้มากขึ้นด้วยสม
00:06:46 → 00:06:49 แผที่มีฤทธิ์ร้อนมันเป็นตัวควบคุมและตัว
00:06:49 → 00:06:49 ช่วยอ
00:06:50 → 00:06:52 >> แต่ไม่ใช่ทั้งหมดมันช่วยทำให้ระบบการเผา
00:06:52 → 00:06:55 ผ่าหรือระบบธาตุไฟเราทำงานได้ดีขึ้นเช่น
00:06:55 → 00:06:59 บางคนที่ธาตุไฟไม่ค่อยทำงานท้องอืดบ่อยๆ
00:06:59 → 00:07:01 กินแล้วก็นอนกินแล้วก็ไม่ได้คอยได้
00:07:01 → 00:07:04 activity พวกนี้ธาตุไฟหย่อนพอธาตุไฟ
00:07:04 → 00:07:06 หย่อนเสร็จปุ๊บของเสียที่เกิดจากการย่อย
00:07:07 → 00:07:09 มันย่อยไม่ได้มันก็เกิดเป็นของเสียสะสม
00:07:09 → 00:07:12 ข้างๆแล้วก็กลายไปเป็นพวกไขมันต่างๆ
00:07:13 → 00:07:13 >> ออ
00:07:13 → 00:07:16 >> สะสมในร่างกายทีนี้เราต้องการตัวที่เพิ่ม
00:07:16 → 00:07:18 ไฟย่อยหรือจุดไฟย่อย
00:07:18 → 00:07:20 >> ทางศัพท์ของทางการแพทย์แผนไทยก็คือเรา
00:07:20 → 00:07:22 เรียกว่าการจุดไฟย่อย
00:07:22 → 00:07:25 การจุดไฟย่อยเนี่ยก็ต้องใช้สมุนไพรรถร้อน
00:07:25 → 00:07:28 เป็นพื้นฐานถ้าในแพทย์แผนไทยเอ่อทุกๆคน
00:07:28 → 00:07:31 ทราบก็คือตัวตำรับยาที่ช่วยบำรุงธาตุหรือ
00:07:31 → 00:07:34 จุดธาตุไฟเนี่ยก็คือยาที่ชื่อเบญจกูล
00:07:34 → 00:07:36 >> ประกอบไปด้วยดี
00:07:36 → 00:07:40 >> รากช้าภูสะขานเจตตมูลเพลิงแล้วก็เหง้าขิง
00:07:40 → 00:07:41 แห้ง
00:07:41 → 00:07:41 >> อื
00:07:41 → 00:07:44 >> เนี่ยมันเป็นรสร้อนทั้งหมดเลยมันเจริญ
00:07:44 → 00:07:47 ธาตุไฟทำให้ระบบธาตุไฟต่างๆเนี่ยทำงานได้
00:07:47 → 00:07:47 ดี
00:07:47 → 00:07:51 >> อืฮะทีนี้ในการกินเนี่ยเราก็ต้องรู้แล้ว
00:07:51 → 00:07:53 ครับว่าลิมิตมันประมาณเท่าไหร่
00:07:53 → 00:07:55 >> การกินควรกินอย่างไร
00:07:55 → 00:07:58 >> นะครับกินมากไปถ้าร้อนเกินไปแล้วเราจะลด
00:07:58 → 00:08:00 ความร้อนเราต้องใช้อะไรเราก็ต้องใช้
00:08:00 → 00:08:04 สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นนะครับมาช่วยลดความ
00:08:04 → 00:08:06 ร้อนก่อนเพราะฉะนั้นในทฤษฎีทางการแพทย์
00:08:06 → 00:08:09 แผนไทยบอกคุณกินเอ่อสมุนไพรฤทธิ์ร้อน
00:08:09 → 00:08:12 เนี่ยนะครับกินได้ต่อเนื่องกินได้โดสต่อ
00:08:12 → 00:08:15 เนื่องนะเ้ามีกำหนดระยะก็คือ 7 วัน
00:08:15 → 00:08:16 >> อ๋อ 7 วัน
00:08:16 → 00:08:17 >> 7 วัน
00:08:17 → 00:08:19 >> แต่บางคนกินเป็นเดือนเป็นปีเลยนะคะ
00:08:19 → 00:08:21 >> ถ้าเรากินมากกว่านี้ได้มั้ยก็ต้องขึ้น
00:08:21 → 00:08:24 อยู่กับธาตุเจ้าเรือนของแต่ละคนละถ้าเา
00:08:24 → 00:08:27 เป็นคนธาตุไฟอยู่แล้วแล้วเราไปเติมธาตุไฟ
00:08:27 → 00:08:30 พวกนี้อาจจะมีภาวะความร้อนในร่างกายสูง
00:08:30 → 00:08:31 ได้มากกว่าคนอื่น
00:08:31 → 00:08:34 >> อ่าแต่ถ้าเกิดเป็นคนมีธาตุน้ำอยู่กินเข้า
00:08:34 → 00:08:37 ไปเติมๆเข้าไปก็ไม่ค่อยจะติดเพราะน้ำมัน
00:08:37 → 00:08:40 ดับไฟอยู่ตลอดอ่ะอันนี้ก็อาจจะระยะยาวได้
00:08:40 → 00:08:41 ยาวขึ้น
00:08:41 → 00:08:43 >> แล้วเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะคะว่าเราเป็นคน
00:08:43 → 00:08:46 ธาตุไฟธาตุน้ำธาตุดินธาตุทองอันนี้คือแบบ
00:08:46 → 00:08:49 เปิดเปิดดวงดูได้มั้คะ
00:08:49 → 00:08:51 >> ใช่ครับเอาง่ายๆก่อนเนาะเอาง่ายๆก่อน
00:08:51 → 00:08:53 สมมุติเราเกิดเดือนไหน
00:08:53 → 00:08:53 >> ออ
00:08:53 → 00:08:57 >> อ่าเรานับย้อนกลับไป 9 เดือนอันนั้นน่ะ
00:08:57 → 00:08:58 เป็นเจ้าเรือน
00:08:58 → 00:09:00 >> ฉะนั้นอยากให้คุณหมอไล่เลยค่ะว่าถ้าเจ้า
00:09:00 → 00:09:02 เรือนของแต่ละคนที่เกิดแต่ละเดือนเนี่ย
00:09:02 → 00:09:03 คืออะไรบ้างคะ
00:09:03 → 00:09:05 >> อ่ะได้เลยครับเอาไฟก่อน
00:09:05 → 00:09:07 >> ตั้งแต่เดือนแรกมกราคมก่อนครับ
00:09:07 → 00:09:11 >> มกราคมกุมภาพันธ์มีนาคอ่าเดือนมกราคม
00:09:11 → 00:09:13 กุมภาพันธ์มีนาคนี้ก็คือธาตุไฟเป็นเจ้า
00:09:13 → 00:09:14 >> เรือนโอเค
00:09:14 → 00:09:18 >> นะต่อไปลมลม
00:09:18 → 00:09:20 >> เมษายนพฤษภาคมมิถุนายนมา
00:09:20 → 00:09:20 >> อื
00:09:21 → 00:09:21 >> อ่า
00:09:21 → 00:09:22 >> ค่ะ
00:09:22 → 00:09:27 >> ต่อไปก็คือธาตุน้ำกรกฎาคมสิงหาคมกันยายน
00:09:27 → 00:09:28 >> อ๋อ
00:09:28 → 00:09:31 >> อ่าแล้วก็สุดท้ายก็คือธาตุดินตุลาคม
00:09:31 → 00:09:34 พฤศจิกายนธันวาคมมันก็จะแบ่งไป
00:09:34 → 00:09:35 >> ธาตดินอ๋อ
00:09:35 → 00:09:37 >> อันนี้คือเช็คแบบพื้นฐานก่อนเป็นเจ้า
00:09:37 → 00:09:38 เรือนพื้นฐานก่อน
00:09:38 → 00:09:39 >> เจ้าเรือนพื้นฐาน
00:09:39 → 00:09:41 >> ครับแต่พอไปเช็คเวลาเราไปเช็คอย่างสมมุติ
00:09:41 → 00:09:44 ไปหาหมอแปนไทย
00:09:44 → 00:09:48 >> ถ้าบอกว่าเช็คเจ้าเรือนเช็คธาตุกำเนิด
00:09:48 → 00:09:48 >> อื
00:09:48 → 00:09:51 >> อ่าเขาก็จะไปเช็คแล้ววันเดือนปีเกิดอะไร
00:09:51 → 00:09:53 ค่ำแรมอะไร
00:09:53 → 00:09:55 >> ค่ำแรมอะไรเสร็จปุ๊บเราจะย้อนะอันนี้เขา
00:09:55 → 00:09:57 จะนับย้อนอันนี้จะเป็น
00:09:57 → 00:09:59 >> จะต้องเป็นหมอแล้วเดี๋เขาจะต้องไปไอ้นี้
00:10:00 → 00:10:01 ได้แล้วเขาก็จะบอก
00:10:01 → 00:10:04 >> ว่าเกิดอันนี้จะมีจุดอ่อนสุขภาพเกี่ยวกับ
00:10:04 → 00:10:06 เรื่องอะไรได้บ้างนะต้องระวังนะเพราะว่า
00:10:06 → 00:10:10 มีธาตุนี้กับธาตุนี้มันผสมกันอยู่นะอือฮึ
00:10:10 → 00:10:14 >> อฉะนั้นมันก็จะเป็นอ่าเวลาเราอ่าคนนึง
00:10:14 → 00:10:16 ป่วยเนี่ยก็อาจจะโอเคเราจะมีธาตุพื้นฐาน
00:10:16 → 00:10:19 ที่ทุกคนเกิดมาด้วยสิ่งนั้นใช่มั้
00:10:19 → 00:10:21 ก็คือพฤติกรรม
00:10:21 → 00:10:22 >> พฤติกรรมถูกต้อง
00:10:22 → 00:10:23 >> การที่เราใช้ชีวิต
00:10:23 → 00:10:24 >> ถูกต้องใช่ครับ
00:10:24 → 00:10:27 >> เวลาสัมภาษณ์คุณหมอที่เป็นอาจจะเป็นเอ่อ
00:10:27 → 00:10:28 anti aging หรือว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:28 → 00:10:30 เขาจะบอกว่า
00:10:30 → 00:10:32 >> เอ่อเจนติก 20
00:10:32 → 00:10:36 >> พฤติกรรม 80 แล้วแพทย์แผนไทยเนี่ยธาตุกี่
00:10:36 → 00:10:38 เปอร์เซ็นต์พฤติกรรมกี่เปอร์เซ็นต์ครับ
00:10:38 → 00:10:39 >> เหมือนกันครับผม
00:10:39 → 00:10:39 >> เหมือนกันเลย
00:10:39 → 00:10:41 >> เหมือนกันครับผมทีนี้ในเรื่องของธาตุ
00:10:41 → 00:10:43 เนี่ยเรามองในเรื่องของ
00:10:43 → 00:10:46 >> เอ่อถ้าในมุมมองของเอ่อการแพทย์แผ่นไทยนะ
00:10:46 → 00:10:49 ครับตัวเจ้าเรือหรือจุดอ่อนสุขภาพเนี่ย
00:10:49 → 00:10:52 เราเรียกว่ามันคือ DNA ธรรมชาติ
00:10:52 → 00:10:52 >> อื
00:10:53 → 00:10:56 >> มันคือสิ่งที่มันติดเราติดตัวเรามา
00:10:56 → 00:11:01 >> นะครับเพราะในช่วงเวลาช่วงฤดูกาลช่วงต่าง
00:11:01 → 00:11:04 ๆมันมีผลปัจจัยต่อการ
00:11:04 → 00:11:05 >> เจริญเติบโต
00:11:05 → 00:11:06 >> อื
00:11:06 → 00:11:07 >> ยกตัวอย่างเช่นต้นไม้
00:11:08 → 00:11:08 >> ค่ะ
00:11:08 → 00:11:11 >> ต้นไม้ที่เกิดในฤดูร้อนได้ดี
00:11:11 → 00:11:12 >> ค่ะ
00:11:12 → 00:11:14 >> ต้นไม้ที่ขึ้นในกลุ่มฤดูฝนได้ดีต้นไม้ที่
00:11:14 → 00:11:17 อยู่ในคู่ฤดูหนาวได้ดีเหมือนกันคนหรือ
00:11:17 → 00:11:21 มนุษย์ก็เช่นเดียวอืช่วงการเกิดของเอ่อ
00:11:21 → 00:11:25 หรือการพัฒนาการในอิทธิพลของฤดู
00:11:25 → 00:11:29 ในอิทธิพลของปัจจัยของพ่อของแม่ทุกอย่าง
00:11:29 → 00:11:33 นะครับมันมันเป็นมันเป็นส่วนนึงหรือมัน
00:11:33 → 00:11:35 เป็นตัวส่วนประกอบอย่างหนึ่ง
00:11:35 → 00:11:35 >> อื
00:11:35 → 00:11:37 >> ทางธรรมชาติ
00:11:37 → 00:11:39 >> เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็นDเNAธรรมชาติหรือ
00:11:39 → 00:11:42 วิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติพื้นฐานเบื้องต้น
00:11:42 → 00:11:46 แต่อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ใช้ตอบทั้งหมด
00:11:46 → 00:11:48 เพราะมันยังมีส่วนของพฤติกรรมกรรมก่อโลก
00:11:48 → 00:11:49 อีกส่วนหนึ่ง
00:11:49 → 00:11:50 >> อื
00:11:50 → 00:11:54 >> ที่เราจะต้องเอ่อเข้าไปวินิจฉัยร่วมกัน
00:11:54 → 00:11:58 >> นะครับรวมถึงในหมอแผนไทยเนี่ยเราพูดถึง
00:11:58 → 00:12:01 หลักๆคือการวินิจฉัยเราเรียกว่าธาตุ
00:12:01 → 00:12:01 วินิจฉัย
00:12:01 → 00:12:02 >> อ
00:12:02 → 00:12:03 >> เพราะฉะนั้นเราจะดูพื้นฐานของธาตุเป็น
00:12:04 → 00:12:04 พื้นฐานก่อน
00:12:04 → 00:12:05 >> อื
00:12:05 → 00:12:07 >> นะครับว่าแต่ละคนเนี่ยมันมีธาตุอะไรเป็น
00:12:07 → 00:12:10 พื้นฐานอายุเข้าสู่ธาตุอะไร
00:12:10 → 00:12:11 >> อื
00:12:11 → 00:12:14 >> อ่าฤดูกาลช่วงนี้เป็นธาตุอะไรอ
00:12:14 → 00:12:16 >> ทีนี้การวางยาอย่างที่บอกหรือการให้ยา
00:12:16 → 00:12:20 สมุนไพรก็จะล้ออ้างอิงไปกับธาตุเช่นเดียว
00:12:20 → 00:12:21 กันอ
00:12:21 → 00:12:24 >> เช่นถ้าตอนเนี้ยคุณเจนมีปัญหาธาตุไฟ
00:12:24 → 00:12:25 กำเริบ
00:12:25 → 00:12:25 >> อื
00:12:25 → 00:12:29 >> เราก็ต้องหาสมุนไพรที่มันไปช่วยลดธาตุไฟ
00:12:29 → 00:12:30 ลง
00:12:30 → 00:12:30 >> อื
00:12:31 → 00:12:34 >> ถ้าลมกำเริบเราก็ต้องหาสมุนไพรที่ไปช่วย
00:12:34 → 00:12:36 ทำให้ลมมันไม่เป็นพายุอ่ะ
00:12:36 → 00:12:36 >> อื
00:12:36 → 00:12:38 >> อ่าลมมันไม่ปั่นป่วน
00:12:38 → 00:12:41 >> ถ้าน้ำกำเริบเราก็ต้องไปหาสมุนไพรที่ไป
00:12:41 → 00:12:45 ช่วยทำให้น้ำมันแห้งน้ำมันไหลโฟได้ดี
00:12:45 → 00:12:47 >> นี่คือหลักคิดหรือกระบวนการทางคิดทางการ
00:12:47 → 00:12:50 แพทย์แผ่นไทยหรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์
00:12:50 → 00:12:51 ธรรมชาติ
00:12:51 → 00:12:55 >> ทีนี้ถ้าให้คุณหมอพูดคร่าวๆได้มั้ยคะอัน
00:12:55 → 00:12:58 ว่ามันเป็นอ่าธาตุที่เมื่อกี้นี้เราเล่า
00:12:58 → 00:13:02 ไปค่ะไม่ว่าจะเป็นไฟลมน้ำดินอย่างเงี้ย
00:13:02 → 00:13:02 ค่ะ
00:13:02 → 00:13:03 >> ดไทยมี 4 ธาตุ
00:13:03 → 00:13:06 >> จุดอ่อนของแต่ละธาตุเนี่ยในเรื่องของ
00:13:06 → 00:13:09 สุขภาพคืออะไรอย่างเช่นคนธาตุไฟต้องระวัง
00:13:09 → 00:13:12 เรื่องนี้นะคนธาตุดินต้องระวังเรื่องนี้
00:13:12 → 00:13:14 คะแต่ละคนเขาจะได้
00:13:14 → 00:13:15 >> ลองไป
00:13:15 → 00:13:16 >> สังเกตอาการตัวดู
00:13:16 → 00:13:20 >> อ่ะได้ครับได้ครับอันนี้คร่าวๆเนาะต้อง
00:13:20 → 00:13:21 เรียกว่าคร่าวๆ
00:13:21 → 00:13:22 >> ธาตุไฟเนี่ย
00:13:22 → 00:13:23 >> นะครับ
00:13:23 → 00:13:28 >> มันมีตัวปัจจัยคลุมอยู่ 3 ตัวเเรียกว่า
00:13:28 → 00:13:31 เอ่อน้ำดีน้ำดีน้ำดีเนี่ยนะหรือความไอ้
00:13:31 → 00:13:33 ไอ้น้ำดีที่ใช้ย่อยเนี่ย
00:13:33 → 00:13:38 >> นะครับเป็นตัวที่ใช้ในการควบคุมธาตุไฟ
00:13:38 → 00:13:38 >> อื
00:13:38 → 00:13:41 >> อาจจะไม่พูดละเอียดมากนะครับน้ำดีเนี่ย
00:13:41 → 00:13:44 มันมี 2 รูปแบบคือน้ำดีที่ใช้ในการย่อย
00:13:44 → 00:13:46 หรือไอ้ถุงน้ำดีเราเนี่ยกับน้ำดีอีกรูป
00:13:46 → 00:13:49 แบบนึงก็คือกลุ่มที่มันย่อยแล้วแล้วมันไป
00:13:49 → 00:13:54 ย่อยต่อในกลุ่มของเอ่อระบบเลือดต่างๆ
00:13:54 → 00:13:56 >> หรือที่เราเรียกว่าเป็นการสันดาบ
00:13:56 → 00:13:57 >> อื
00:13:57 → 00:13:59 >> นะครับที่จะให้พลังงานอีกอันนึงก็คือเรา
00:13:59 → 00:14:02 เรียกว่าเปล
00:14:02 → 00:14:05 >> ที่ได้จากเ่อการสำดาบเรียบร้อยแล้วทีนี้
00:14:05 → 00:14:08 ถ้าใครไปตกกลุ่มธาตุไฟที่มีปัญหาเกี่ยว
00:14:08 → 00:14:13 กับเรื่องของการย่อยพวกนี้ปัญหาก็คือพวก
00:14:13 → 00:14:14 ตับ
00:14:14 → 00:14:15 >> อื
00:14:15 → 00:14:16 >> น้ำดีไงอื
00:14:16 → 00:14:20 >> อ่าตับมีปัญหาเรื่องถุงน้ำดีเอ้ยนิ่วใน
00:14:20 → 00:14:25 ถุงน้ำดีอ่าปัญหาเรื่องโรคตับโรคการย่อย
00:14:25 → 00:14:27 >> อ่าเนี่ยพวกเนี้ยดีซ่าน
00:14:27 → 00:14:28 >> ออ
00:14:28 → 00:14:31 >> นะครับถ้าเป็นกลุ่มของอีกกลุ่มนึงก็คือ
00:14:31 → 00:14:33 กลุ่มที่สันดาบเรียบร้อยแล้ว
00:14:33 → 00:14:34 >> อื
00:14:34 → 00:14:38 >> อันนี้เราเรียกว่าน้ำดีนอกฝักนะภาษาภาษา
00:14:38 → 00:14:42 ภาษาผมพยายามพูดให้มันมันง่ายเออเเข้าใจ
00:14:42 → 00:14:44 ง่ายที่สุดอันแรกคือน้ำดีที่มันอยู่ในฝัก
00:14:44 → 00:14:45 ก็คือพวกถุงน้ำค่ะ
00:14:45 → 00:14:48 >> อันนี้ 2 น้ำดีที่มันเป็นเอนไซมมันออกมา
00:14:48 → 00:14:51 ข้างนอกนะกลุ่มพวกนี้ก็จะมีปัญหาเหมือน
00:14:51 → 00:14:54 กันก็จะเป็นพวกกลุ่มของพวกโรคกลุ่มระบบ
00:14:54 → 00:14:56 เลือดโรคกลุ่มระบบต่อมไหลท่อพวกฮอร์โมน
00:14:57 → 00:14:59 ต่างๆเป็นการสันดาบเหมือนกันแต่มันอยู่
00:14:59 → 00:15:01 ภายนอกอ
00:15:01 → 00:15:04 >> อาฮะอีกอันนึงที่คุณตะกี้พูดกับคุณเจนไป
00:15:04 → 00:15:06 ก็คือตัวของเปล
00:15:06 → 00:15:07 >> ค่ะ
00:15:07 → 00:15:10 >> อาฮะพวกนี้ก็จะมีปัญหาเรื่องของมึนหัวปวด
00:15:10 → 00:15:10 หัว
00:15:10 → 00:15:12 >> พลังงานเยอะไง
00:15:12 → 00:15:13 >> คือแบบมีไฟเยอะ
00:15:13 → 00:15:17 >> เยอะเกินคิดเยอะทำเยอะเมาบิึมเยอะต่างๆ
00:15:17 → 00:15:19 พวกเนี้ยก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:15:19 → 00:15:24 ร้อนในนะปวดหัวมึนหัวไมเกรนลมมันตีไงไฟ
00:15:24 → 00:15:27 มันเยอะอนี้คือตัวหลักๆของ 3 กลุ่มของ
00:15:27 → 00:15:28 ธาตุไฟ
00:15:28 → 00:15:33 >> ถ้าลมนะถ้าลมลมเนี่ยจะมีลมที่ควบคุมอีก 3
00:15:33 → 00:15:36 ตัวเช่นเดียวกันลมแรกเราเรียกว่าลมในหัว
00:15:36 → 00:15:37 ใจ
00:15:37 → 00:15:37 >> ลมใจ
00:15:37 → 00:15:41 >> อ่าลมใจพวกนี้ก็คือเกี่ยวกับเรื่องของ
00:15:41 → 00:15:43 อัตราการเต้นของหัวใจหัวใจการเต้นผิด
00:15:43 → 00:15:44 จังหวะ
00:15:44 → 00:15:48 เสียวแป๊บเสียวร้าวหัวใจบ่อยๆพวกนี้
00:15:48 → 00:15:50 >> เรียกว่าหัวใจเปาะบาง
00:15:50 → 00:15:52 >> อ่าพวกหัวใจเปาะบาง
00:15:52 → 00:15:55 >> อกหักง่ายด้วยคะใจไม่เกี่ยวไม่เกี่ยว
00:15:55 → 00:15:58 >> อ่าไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวนะครับคิดคิดวิตก
00:15:58 → 00:16:01 กังวลก็อาจจะได้นะครับอีกกลุ่มนึงเรา
00:16:01 → 00:16:03 เรียกว่าสัถกะคือลมในประสาท
00:16:03 → 00:16:04 >> ลมใน
00:16:04 → 00:16:05 >> ลมในระบบประสาท
00:16:05 → 00:16:06 >> อ๋อ
00:16:06 → 00:16:09 >> อ่าหรือลมในพวกของกลุ่มของเส้นเลือดเล็กๆ
00:16:09 → 00:16:11 หลอดเลือดเล็กๆลมในพวกหลอดเลือดทั้งหลาย
00:16:11 → 00:16:13 พวกนี้ก็เกี่ยวกับเครื่องของระบบประสาท
00:16:13 → 00:16:17 ทั้งหมดนะครับก็จะเกี่ยวกับเรื่องของภาวะ
00:16:17 → 00:16:21 เส้นเลือดตีบเส้นเลือดอ่อนแอนะครับเอ่อ
00:16:21 → 00:16:23 หัวใจขาดเลือด
00:16:23 → 00:16:23 >> อื
00:16:23 → 00:16:26 >> อ่านี่คือระบบพวกระบบประสาทระบบสั่งการ
00:16:26 → 00:16:28 ที่เป็นเา้าเรียกว่าเป็นแขนงของเส้น
00:16:29 → 00:16:30 ประสาทเล็กๆ
00:16:30 → 00:16:34 >> อ่านี้ก็คือเป็นจุดอ่อนอีกอันนึงก็คือลม
00:16:34 → 00:16:36 สุมนาลมพวกนี้อยู่ในช่องท้องอ
00:16:36 → 00:16:39 >> อ่าลมพวกนี้จะอยู่จะอยู่ในช่องท้องพวกนี้
00:16:39 → 00:16:41 ก็จะมีปวดท้องปวดหลังปวดเอวความดัน
00:16:42 → 00:16:42 >> อื
00:16:42 → 00:16:46 >> อ่าอันนี้นะครับเพราะงั้นเวลาเรื่องของลม
00:16:46 → 00:16:50 เนี่ยมันจะเป็นการเอ่อที่เรียกว่าการพัด
00:16:50 → 00:16:54 พาหลักๆใหญ่ๆหัวใจเส้นเลือดหลอดเลือดการ
00:16:54 → 00:16:58 นำถ้าพูดถึงอ่าโยงให้เข้าใจง่ายก็คือ
00:16:58 → 00:17:00 กลุ่มระบบไหลเวียดโลหิต
00:17:00 → 00:17:00 >> อื
00:17:00 → 00:17:03 >> อ่านะมีหลอดเลือดมีหัวใจเป็นพื้นฐานนะ
00:17:03 → 00:17:06 ครับถ้าเป็นกลุ่มธาตุน้ำ
00:17:06 → 00:17:09 >> เป็นกลุ่มธาตุน้ำนะครับธาตุน้ำเนี่ยจะมี
00:17:09 → 00:17:10 อยู่ 3 ส่วน
00:17:10 → 00:17:10 >> อื
00:17:10 → 00:17:12 >> นะครับส่วนศีรษะ
00:17:12 → 00:17:12 >> อือื
00:17:12 → 00:17:14 >> อ่าส่วนศีรษะส่วนอก
00:17:14 → 00:17:14 >> ค่ะ
00:17:14 → 00:17:18 >> แล้วก็ส่วนในช่องท้องนะครับถ้าส่วนศีรษะ
00:17:18 → 00:17:21 ตรงช่วงนี้นะเวลามีปัญหาพวกนี้ก็คือพวก
00:17:21 → 00:17:22 ต่อมพวกนี้
00:17:22 → 00:17:26 >> ต่อมในคอต่างๆต่อมน้ำลายต่อมทอมซินนะครับ
00:17:26 → 00:17:29 ถ้าไปตกธาตุน้ำพวกนี้นะถ้าตกธาตุน้ำอยู่
00:17:29 → 00:17:32 ในกลุ่มนี่พวกนี้ก็ห่อผืด
00:17:32 → 00:17:34 >> ภูมิแพ้
00:17:34 → 00:17:37 >> นะเพราะมันทำงานเกี่ยวกับเรื่องของอ่า
00:17:37 → 00:17:38 ความชื้นในปอด
00:17:38 → 00:17:42 >> ถ้าตกอยู่พวกท้องพวกนี้ก็ฤิสีดวง
00:17:42 → 00:17:43 >> อื
00:17:43 → 00:17:49 >> พวกเอ่อฤทธิ์สีดวงพวกลำไส้ระบบขับถ่ายอ่า
00:17:49 → 00:17:52 นี้ก็คือกลุ่มธาตุน้ำถ้าเป็นกลุ่มธาตุดิน
00:17:52 → 00:17:54 ก็มีอีก 3
00:17:54 → 00:17:55 >> อืมค่ะ
00:17:55 → 00:17:58 >> ธาตุดินอันอีกอันนึงก็คือตัวตะกี้พูดถึง
00:17:58 → 00:18:01 ลมเนาะเราเรียกว่าหทัยวาตะแต่ถ้าเกิดเป็น
00:18:02 → 00:18:04 ตัวของดินเนี่ยมันจะคือหัวใจก็คือ
00:18:04 → 00:18:06 หัทัยวัตถุดินอื
00:18:06 → 00:18:09 >> นะถ้าดินที่เป็นหทยวัตถุเนี่ยภาษาทางการ
00:18:09 → 00:18:11 แพทย์แผ่นไทยเราเรียกหัวใจเนี่ยเปรียบ
00:18:11 → 00:18:12 เสมือนกษัตริย์
00:18:12 → 00:18:13 >> อื
00:18:13 → 00:18:15 >> นะเพราะฉะนั้นพวกเนี้ยคือเกี่ยวกับเรื่อง
00:18:15 → 00:18:17 ของอทางนามอารมณ์
00:18:17 → 00:18:21 >> ความเครียดความโมโหมันวิตกกังวลวิตกกังวล
00:18:21 → 00:18:24 ความเครียดต่างๆพวกนี้จึงกระทบกับเนื้อ
00:18:24 → 00:18:25 หัวใจ
00:18:25 → 00:18:25 >> อ๋อ
00:18:26 → 00:18:29 >> อ่าอีก 2 กลุ่มก็คือเรื่องของอาหาร
00:18:29 → 00:18:33 อุทริยังหรือเรื่องของการที่เขาเรียกว่า
00:18:33 → 00:18:34 การนำไปใช้
00:18:34 → 00:18:34 >> อื
00:18:34 → 00:18:38 >> นะถ้าสมัยนี้ก็คือกลุ่มของพวกไส้รั่ว
00:18:38 → 00:18:42 >> ดูดซึมไม่ได้อ่าอะไรประมาณอีกอันนึงคือ
00:18:42 → 00:18:43 เรื่องของเสีย
00:18:43 → 00:18:44 >> อื
00:18:44 → 00:18:46 >> นะหรือพวกระบบดีท็อกซ์
00:18:46 → 00:18:48 >> อ่าพวกนี้ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:18:48 → 00:18:51 การขับถ่ายเป็นพื้นฐานอ
00:18:51 → 00:18:51 >> อื
00:18:51 → 00:18:55 >> อ่าการเอาของเสียออกจากร่างกายงั้นพอพูด
00:18:55 → 00:18:59 ถึงธาตุกับระบบเนี่ยมันจะมีอยู่หลักๆเลย
00:18:59 → 00:19:04 ก็คือตัวกลุ่มธาตุ 3 ตัวธาตุไฟธาตุลมแล้ว
00:19:04 → 00:19:06 ก็ธาตุน้ำซึ่งเป็นแกนหลัก
00:19:06 → 00:19:07 >> ค่ะอื
00:19:07 → 00:19:09 >> เราเรียกว่า 3 ตัวเนี้ยเเราเรียกว่าเป็น
00:19:09 → 00:19:12 ธาตุที่กอก่อให้เกิดระบบพลังงานหมุนเวียน
00:19:12 → 00:19:13 ภายใน
00:19:13 → 00:19:14 >> อื
00:19:14 → 00:19:17 >> ซึ่งอาศัยอยู่ในธาตุดินก็คือร่างกายเรา
00:19:17 → 00:19:17 เนี่ยแหละ
00:19:17 → 00:19:18 >> ร่างกาย
00:19:18 → 00:19:22 >> แล้วก็อาศัยอาหารที่นำเข้า
00:19:22 → 00:19:24 หรือโภชนาการ
00:19:24 → 00:19:26 >> ที่นำเข้ามาสู่ในธาตุเนี่ย
00:19:26 → 00:19:28 >> ใน 3 ตัวเนี้ยให้เกิดการหล่อเลี้ยงเกิด
00:19:28 → 00:19:32 การไหลเวียนแล้วเขาก็จะนำถ่ายออก
00:19:32 → 00:19:33 >> เอาของเสียออกเหมือนเครื่องยนต์อ
00:19:33 → 00:19:34 >> อื
00:19:34 → 00:19:37 >> นะครับเพราะฉะนั้นถ้าธาตุสมดุลถ้าเราทำ
00:19:37 → 00:19:42 ให้ธาตุสมดุลเครื่องยนต์เราก็สะอาดแล้วก็
00:19:42 → 00:19:46 อายุหรือสมรรถนะมันก็ใช้งานได้นานยาวนานอ
00:19:46 → 00:19:48 >> ทีนี้ถ้าเรากลับมาที่เรื่องลดน้ำหนักอ่ะ
00:19:48 → 00:19:49 ค่ะว่า
00:19:49 → 00:19:52 >> เวลาลดน้ำหนักไม่ได้เนี่ยหรือมีปัญหา
00:19:52 → 00:19:56 เรื่องไขมันอ้วนเนี่ยค่ะมันเป็นเพราะธาตุ
00:19:56 → 00:19:59 ไหนไม่สมดุลคะมันแยกก่อนนะอ้วนเนี่ยมัน
00:19:59 → 00:20:00 อ้วนจาก 2 เรื่อง
00:20:00 → 00:20:01 >> อื
00:20:01 → 00:20:04 >> อ้วนจากระบบข้างในที่มันเสียสมดุล
00:20:04 → 00:20:04 >> ค่ะ
00:20:04 → 00:20:05 >> กับอ้วนจากพฤติกรรม
00:20:06 → 00:20:06 >> อื
00:20:06 → 00:20:10 >> นะถ้าอ้วนจากพฤติกรรมก็คือเรากินล้นเกิน
00:20:10 → 00:20:11 >> ค่ะ
00:20:11 → 00:20:13 >> คือเรากินมากแล้วเราไม่ได้ใช้พลังงานมัน
00:20:13 → 00:20:14 ก็เก็บ
00:20:14 → 00:20:14 >> ค่ะ
00:20:14 → 00:20:17 >> ร่างกายเกิดกระบวนการเก็บๆๆๆเพราะมันไม่
00:20:17 → 00:20:18 ได้ใช้
00:20:18 → 00:20:19 >> อื
00:20:19 → 00:20:23 >> นอกจากเก็บเป็นส่วนของที่เป็นพลังงานที่
00:20:23 → 00:20:26 ดีและไม่ดีอยู่ในตัวเพราะเรากินเข้าไปมัน
00:20:26 → 00:20:29 จะมีส่วนนึงที่เป็นเอาไปใช้หล่อเลี้ยง
00:20:29 → 00:20:32 ซ่อมแซมกับอีกส่วนนึงที่มันถูกเผาแล้วมัน
00:20:32 → 00:20:34 ต้องเอาออก
00:20:34 → 00:20:37 >> มันก็ต้องสมดุลกันเราเก็บตรงนี้เอาไว้มาก
00:20:37 → 00:20:39 ๆเก็บตรงนี้เอาไว้มากๆก็เกิดภาวะสะสม
00:20:39 → 00:20:40 อย่างที่บอก
00:20:40 → 00:20:40 >> ค่ะ
00:20:40 → 00:20:43 >> เพราะฉะนั้นโดยหลักการก็คืออย่างที่บอก 1
00:20:43 → 00:20:44 เอาของเสียออก
00:20:44 → 00:20:45 >> อื
00:20:45 → 00:20:48 >> ขับถ่ายของเสียออกเราสามารถใช้กลุ่มอ่า
00:20:48 → 00:20:51 อาหารหรือรสของยาสมุนไพรในกลุ่มรสเปรี้ยว
00:20:52 → 00:20:54 เนี่ยช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายอ
00:20:54 → 00:20:54 >> อื
00:20:54 → 00:20:56 >> ฟอกของเสียฟอกน้ำ
00:20:56 → 00:20:57 >> ฟอกธาตุน้ำ
00:20:57 → 00:21:00 >> เจริญธาตุน้ำมันก็จะมีเอ่อแต่สมุดเอ่อแต่
00:21:00 → 00:21:03 สรรพกุลก็ต้องช่วยในการขับถ่ายด้วยนะ
00:21:03 → 00:21:04 >> อื
00:21:04 → 00:21:07 >> นะครับอ่าอย่างที่บอกอาจจะเป็นส้มแขกก็ดี
00:21:07 → 00:21:09 จะเป็นมะนาว
00:21:09 → 00:21:11 มะกรูดอะไรต่างๆก็ดีเพื่อล้าง
00:21:12 → 00:21:12 >> อื
00:21:12 → 00:21:15 >> เราล้างพวกนี้ออกนะครับพอล้างพวกนี้ออก
00:21:15 → 00:21:17 ร่างกายเย็นด้วยส่วนหนึ่ง
00:21:17 → 00:21:17 >> อื
00:21:17 → 00:21:20 >> ร่างกายได้ความเย็นด้วยส่วนหนึ่งอันที่ 2
00:21:20 → 00:21:21 เย็นมากก็ไม่ได้สิ
00:21:21 → 00:21:22 >> อื
00:21:22 → 00:21:25 >> ก็ต้องเติมไฟเพราะต้องสร้างระบบการพลัง
00:21:25 → 00:21:26 งานเผาผลาญ
00:21:26 → 00:21:29 >> ก็ต้องกินอะไรที่มันร้อน
00:21:29 → 00:21:29 >> อื
00:21:29 → 00:21:31 >> นะคนมีไฟ
00:21:31 → 00:21:31 >> อื
00:21:31 → 00:21:33 >> เคยได้ยินคำว่าคนมีไฟนะคนมีไฟทำอะไรก็
00:21:33 → 00:21:37 กระจับกระเฉงนะครับแต่คนไม่มีไฟก็จะ
00:21:37 → 00:21:40 >> เงื่อยเหนื่อยๆเชื่อพอเติมธาตุไฟเติมธาตุ
00:21:40 → 00:21:43 ไฟแต่บอกเติมธาตุไฟมันจุดได้ส่วนนึงแต่
00:21:43 → 00:21:45 ถ้าเกิดเราไปเติมแล้วเรากิน
00:21:45 → 00:21:46 >> อื
00:21:46 → 00:21:49 >> มันก็ยิ่งกินยิ่งสะสมเหมือนเดิมเท่าเดิม
00:21:49 → 00:21:51 เพราะฉะนั้นเหมือนตอนต้นที่บอกกินเท่า
00:21:51 → 00:21:56 ไหร่มันก็ไม่เห็นผลเพราะปัจจัยมันไม่สอด
00:21:56 → 00:21:57 คล้องกัน
00:21:57 → 00:21:57 >> อื
00:21:57 → 00:22:00 >> โดยหลักการนะครับเพราะฉะนั้นบอกเอา
00:22:00 → 00:22:04 สมุนไพรมาใช้ในการเอ่อลดน้ำหนักได้มั้ย
00:22:04 → 00:22:06 ได้แต่มันเป็นแค่เพียงปัจจัยช่วย
00:22:06 → 00:22:06 >> อื
00:22:06 → 00:22:09 >> ปัจจัยควบควบคุมไม่ใช่ปัจจัยหลัก
00:22:09 → 00:22:09 >> อื
00:22:09 → 00:22:12 >> นะครับปัจจัยหลักคือถ้าเกิดจากอย่างที่
00:22:12 → 00:22:14 บอกเกิดจากพฤติกรรม
00:22:14 → 00:22:17 >> เราต้องมีพฤติกรรมที่เพิ่มเติมด้วยในการ
00:22:17 → 00:22:20 รณรงค์ก็คือให้ออกกำลังกายนั่นแหละ
00:22:20 → 00:22:22 >> แล้วปรับอุตริยังหรืออาหารอ
00:22:22 → 00:22:22 >> อือ
00:22:22 → 00:22:26 >> แล้วก็เพิ่มพลังงานเพิ่มเราเพิ่ม 2 แบบ
00:22:26 → 00:22:29 เพิ่มจากพลังงานที่เราใช้ในการออกกำลัง
00:22:29 → 00:22:32 กายอันที่ 2 เพิ่มจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ใน
00:22:32 → 00:22:34 การช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
00:22:34 → 00:22:34 >> อื
00:22:34 → 00:22:37 >> นำออกเอาของเสียออกด้วยระบบการขับถ่าย 2
00:22:37 → 00:22:38 เสียหรือระบบดีท็อกซ์
00:22:38 → 00:22:40 >> แต่ไม่ใช่จะดีท็อกซ์อย่างเดียวกินมะขาม
00:22:41 → 00:22:44 แขกขี้ๆขี้ตายเลยทีเนี้ย
00:22:44 → 00:22:48 >> ขี้แตกตายเลยทีเนี้ยเนาะหรือกินแต่ไฟๆๆ
00:22:48 → 00:22:51 อย่างเดียวอนั่นแหละร้อนในตายอีก
00:22:51 → 00:22:53 >> ออนั้นคือความที่เรียกว่าไม่รู้จักคือเรา
00:22:54 → 00:22:57 เรียกว่าไม่เข้าใจระบบและกลไกของร่างกาย
00:22:57 → 00:22:59 >> นี้จริงๆแล้วระบบในกลไกของร่างกายมันเป็น
00:22:59 → 00:23:01 อะไรที่
00:23:01 → 00:23:02 >> ธรรมชาติมาก
00:23:02 → 00:23:02 >> อือ
00:23:02 → 00:23:04 >> มันก็คือเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งแต่เป็น
00:23:05 → 00:23:06 เครื่องยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์ที่มีชีวิต
00:23:06 → 00:23:07 >> อื
00:23:07 → 00:23:14 >> นะครับเพียงแค่เข้าใจถ้าพูดภาษาโภชนาการ
00:23:14 → 00:23:18 เข้าใจร่างกายว่าในแต่ละวันร่างกายต้อง
00:23:18 → 00:23:22 ใช้ต้องเท่าไหร่กับอันที่ 2 รู้ว่าจะต้อง
00:23:22 → 00:23:25 เอาของเสียออกทุกวันทุกวันทุกวัน
00:23:25 → 00:23:26 >> อื
00:23:26 → 00:23:28 >> แต่ถ้าเกิดจากระบบภายในนั้นอีกเรื่องนึง
00:23:28 → 00:23:31 ที่ระบบภายในระบบฮอร์โมนอะไรต่างๆที่มัน
00:23:31 → 00:23:34 เพี้ยนอะไรต่างๆหรือเป็นพวกไทรรอยด์หรือ
00:23:34 → 00:23:36 เป็นพวกอะไรต่างๆที่มันระบบในร่างกายมัน
00:23:36 → 00:23:38 เกิดการปั่นป่วนอันนี้เป็นเรื่องของระบบ
00:23:38 → 00:23:40 ภายในเป็นอีกเรื่องนึงเป็นคนละปัจจัยกัน
00:23:40 → 00:23:42 >> ออืค่ะ
00:23:42 → 00:23:42 >> อครับ
00:23:42 → 00:23:47 >> ทีนี้ถ้าสมมุตินะคะเราอ่าดูแลจากภายในและ
00:23:47 → 00:23:49 ภายนอกแล้วไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหารนะ
00:23:49 → 00:23:52 คะกินในปริมาณที่พอเหมาะนะคะแล้วก็ออก
00:23:52 → 00:23:55 กำลังกายแล้วก็ดูแลสุขภาพที่ดีแล้วเนี่ย
00:23:55 → 00:23:57 แต่ว่าอยากจะเสริมอยากให้คุณหมอแนะนำ
00:23:57 → 00:24:00 หน่อยว่าสมุนไพรแบบไหนที่ช่วยลดน้ำหนัก
00:24:00 → 00:24:00 ได้คะ
00:24:00 → 00:24:02 >> พริกไทยก็ได้ไม่ใช่ไม่ได้นะ
00:24:02 → 00:24:05 >> พริกไทยก็ได้แต่ถ้าเป็นพวกตำรับอย่างที่
00:24:05 → 00:24:08 ก็บอกเอ่อถ้าเราบอกเบ็นจระกูลคงจะไปหายาก
00:24:08 → 00:24:08 เนาะ
00:24:09 → 00:24:12 >> อือ๋อขอหาง่ายๆหาง่ายๆค่ะหมอ
00:24:12 → 00:24:15 >> อันเนี่ยซ้มแขกหาได้แหละไม่มีปัญหานะครับ
00:24:15 → 00:24:18 ช่วยระบบการขับถ่ายมะขาม
00:24:18 → 00:24:19 >> มะขาม
00:24:19 → 00:24:21 >> ผมเป็นหมอมะขามผมชอบดีท็อกซ์ด้วยมะขาม
00:24:21 → 00:24:22 เปียก
00:24:22 → 00:24:23 >> ออ
00:24:23 → 00:24:23 >> นะครับ
00:24:23 → 00:24:24 >> ยังใช้ยังไงอ่ะคะคุณหมอ
00:24:24 → 00:24:28 >> มะขามเปียกใช้ง่ายมากเลยเอามะขามเนี่ยนะ
00:24:28 → 00:24:31 >> มาขยุ่มกับน้ำเไปซื้อมาฝัก 10 บาทเนี่ยอ
00:24:31 → 00:24:34 >> มาขยำยำเติมเกลือเข้าไปหน่อย
00:24:34 → 00:24:34 >> อือื
00:24:34 → 00:24:37 >> รับประทานอันนี้ก็ช่วยล้างของเสียได้
00:24:37 → 00:24:40 กระตุ้นระบบขับถ่ายได้เติมธาตุน้ำได้อ
00:24:40 → 00:24:40 >> ค่ะ
00:24:40 → 00:24:44 >> มะขามตีผลาหรือสมออันนี้มีขายนะเดี๋ยวนี้
00:24:44 → 00:24:47 มีขายกันเยอะเนาะนะครับสมอ 3 อย่างสมอไทย
00:24:47 → 00:24:50 สมอวิเกลูกมะขามป้อมอ
00:24:50 → 00:24:50 >> อื
00:24:50 → 00:24:54 >> อ่า 3 ตัวเราเรียกว่าผลไม้ 3 อย่างตีพลา
00:24:54 → 00:24:54 >> อื
00:24:54 → 00:24:59 >> อ่าอันนี้ก็ช่วยล้างของเสียกับถ่ายลดน้ำ
00:24:59 → 00:25:03 ช่วยควบคุมอย่าบอกลดน้ำหนักควบคุมช่วยควบ
00:25:03 → 00:25:06 คุมก็คือเราถ่ายอ่ะพูดง่ายๆเอาพิษเอาของ
00:25:06 → 00:25:08 เสียออกอย่าให้มันเก็บ
00:25:08 → 00:25:10 >> อย่าให้มันเก็บร่างกายเราเก็บของเสียได้
00:25:10 → 00:25:12 เป็นกิโลกิโลนะอื
00:25:12 → 00:25:15 >> นะครับแล้วบางคนน่ะถ้ามีปัญหาเรื่องระบบ
00:25:15 → 00:25:17 ขับถ่ายอีก
00:25:17 → 00:25:17 >> อื
00:25:17 → 00:25:19 >> อย่างเงี้ยยิ่งไปกันใหญ่เลยนะ
00:25:19 → 00:25:19 >> อื
00:25:19 → 00:25:23 >> อ่ายิ่งไปกันใหญ่เลยนะจะอ้วนไม่พอมันจะ
00:25:23 → 00:25:24 ตามมาโรคอื่นแล้ว
00:25:24 → 00:25:24 >> อื
00:25:24 → 00:25:26 >> ไขมันความดันเบาหวาน
00:25:26 → 00:25:27 >> อื
00:25:27 → 00:25:29 >> อันเนี้ยมันจะตามมา
00:25:29 → 00:25:31 >> อันตรายของการกินสมุนไพร
00:25:31 → 00:25:33 >> อยากให้คุณหมอช่วยเตือนหน่อยค่ะยกตัว
00:25:33 → 00:25:36 อย่างสัก 3 สมุนไพรก็ได้ที่คุณหมอเห็นเลย
00:25:36 → 00:25:40 ว่าคนมักกินผิดหรือว่ากินและเกิดอันตราย
00:25:40 → 00:25:44 ได้หากไม่กินอย่างไม่มีสติหรือว่าอย่าง
00:25:44 → 00:25:46 ขาดความรู้อ่ะค่ะ
00:25:46 → 00:25:51 >> กินสมุนไพรทุกอย่างกินมากเกินไปกินเกิน
00:25:51 → 00:25:54 มันเป็นผลเสียหมดเพราะมันมีคุณมีโทษอย่าง
00:25:54 → 00:25:57 ที่บอกเรามองเรื่องของธาตุเป็นพื้นฐาน
00:25:57 → 00:25:57 >> อ
00:25:57 → 00:26:01 >> เพราะฉะนั้นถ้าเรากินเย็นมากเกินไป
00:26:01 → 00:26:04 >> ถ้าเรากินอาหารรสเย็นมากเกินไปเช่นอย่าง
00:26:04 → 00:26:11 ย่านางบรเพชรเนาะกินเกินหรือที่หนักๆที่
00:26:11 → 00:26:16 เป็นข่าวก็พุกฟ้าทลโจรกินมากๆแล้วตับพัง
00:26:16 → 00:26:19 กินมากๆแล้วเย็นตัวเย็นใช่ถูกต้องนั่นคือ
00:26:20 → 00:26:21 มากไป
00:26:21 → 00:26:21 >> อื
00:26:21 → 00:26:24 >> มากไปความเย็นอย่างที่บอกสมุนไพรที่มันมี
00:26:24 → 00:26:26 ฤทธิ์เย็นหรือรสขมเนี่ยพอกินมากๆเสร็จ
00:26:26 → 00:26:27 ปุ๊บมันลดไฟ
00:26:27 → 00:26:28 >> อื
00:26:28 → 00:26:31 >> รถไฟมันจะเป็นรดอะไรบ้าง 1 รถไฟย่อย
00:26:31 → 00:26:32 >> อือื
00:26:32 → 00:26:34 >> ไฟย่อยมันเกิดขึ้นที่ไหนมันเกิดขึ้นที่
00:26:34 → 00:26:35 ตับที่น้ำดี
00:26:35 → 00:26:36 >> อื
00:26:36 → 00:26:38 >> เพราะฉะนั้นคุณก็จะอืดแน่แหละ
00:26:38 → 00:26:39 >> อือ
00:26:39 → 00:26:42 >> คุณก็จะเย็นคุณจะตัวเย็นแน่แหละเพราะไฟ
00:26:42 → 00:26:42 มันตก
00:26:42 → 00:26:44 >> อื
00:26:44 → 00:26:47 >> ไฟมันตกเพราะฉะนั้นพอมีปัญหาคุณกินเย็น
00:26:47 → 00:26:50 มากเกินไปอันนี้ต้องรู้ตัวเราจะรู้ตัว
00:26:50 → 00:26:53 อยู่แล้วถ้าคนกินแล้วรู้ตัวอยู่แล้วว่า
00:26:53 → 00:26:54 กินแล้วมันไม่ดี
00:26:54 → 00:26:55 >> อื
00:26:55 → 00:26:58 >> หยุดก่อนอันที่ 1 แล้วรู้ว่าควรจะบูทอันเ
00:26:58 → 00:27:01 นี้ต้องบูทมันแก้ได้นะไม่ใช่แก้ไม่อื
00:27:01 → 00:27:03 >> การกินมากจนเกินไปก็แก้ได้
00:27:03 → 00:27:04 >> อื
00:27:04 → 00:27:08 >> ก็คือหยุดก่อนอันที่ 1 หยุดปัจจัยที่นำ
00:27:08 → 00:27:10 เข้าทำให้มันเกิดพอกินพวกนี้เสร็จปุ๊บ
00:27:10 → 00:27:13 เย็นมากๆอย่าบอกเดี๋ตับมันก็อักเสบใช่
00:27:13 → 00:27:13 แหละ
00:27:13 → 00:27:15 >> แต่พอหยุดเสร็จปุ๊บเดี๋ยวมันจะค่อยๆฟื้น
00:27:15 → 00:27:16 คืนสภาพ
00:27:16 → 00:27:17 >> อื
00:27:17 → 00:27:21 >> ต่อมาก็คือต้องรู้จักไปเติมและถ้าเรารู้
00:27:21 → 00:27:24 จักเ้าเรียกว่าถ้ารู้จักธาตุตัวเองเนาะ
00:27:24 → 00:27:26 มันเย็นแล้วฉันก็ต้องเติมร้อนเติมร้อน
00:27:26 → 00:27:28 ด้วยอะไรอาจจะเติมน้ำขิงเข้ามาอ
00:27:28 → 00:27:29 >> อื
00:27:29 → 00:27:31 >> นะครับเอาแบบพื้นฐานง่ายเพื่อกระตุ้นการ
00:27:31 → 00:27:32 ย่อย
00:27:32 → 00:27:32 >> อื
00:27:32 → 00:27:35 >> เพื่อกระตุ้นทำให้ลมมันเกิดให้มันเคลื่อน
00:27:35 → 00:27:37 เพราะฉะนั้นเวลากินพวกนี้อย่างที่บอกถ้า
00:27:37 → 00:27:40 เรากินอย่างอย่างนึงมากๆเย็นมากๆแน่แหละ
00:27:40 → 00:27:41 ยังไงก็ผลเสีย
00:27:41 → 00:27:42 >> อื
00:27:42 → 00:27:44 >> ร้อนมากเกินไปยังไงก็เกิดผลเสีย
00:27:44 → 00:27:45 >> อื
00:27:45 → 00:27:47 >> เมื่อร้อนจนถึงจุดๆนึงเรารู้แหละร้อนใน
00:27:47 → 00:27:51 ร้อนในมันจะเป็นตัวฟ้อง
00:27:51 → 00:27:54 กินร้อนมากเกินไปร้อนในคือฟ้องกินเย็นมาก
00:27:54 → 00:27:56 เกินไปก็คือระบบย่อยเสียระบบย่อยพัง
00:27:56 → 00:27:57 >> อื
00:27:57 → 00:27:59 >> ตับเย็นตัวเย็นมือเท้าเย็น
00:27:59 → 00:28:02 >> อือยากรู้ว่าเวลาเราเลือกสมุนไพรไทยเนี่ย
00:28:02 → 00:28:05 ระหว่างกินแบบสดกับแบบสกัดเนี่ยมันต่าง
00:28:05 → 00:28:06 กันมากมั้คะอันไหนดีกว่ากัน
00:28:06 → 00:28:08 >> สต่างมาก
00:28:08 → 00:28:08 >> อื
00:28:08 → 00:28:11 >> ต่างมากแน่นอนสกัดมันคือเข้มข้น
00:28:11 → 00:28:12 >> อื
00:28:12 → 00:28:13 >> สกัดคือเข้มข้น
00:28:13 → 00:28:14 >> แล้วเข้มข้นนี่มันดีไม่ดีคะ
00:28:14 → 00:28:18 >> เข้มข้นดอกดีมั้ยดีเพราะมันกินน้อย
00:28:18 → 00:28:19 >> อ๋อ
00:28:19 → 00:28:21 >> แต่บางคนมันไม่ใช่บางคนบอกโอ๊ยเข้มข้นใช่
00:28:21 → 00:28:23 มั้ยฉันอยากได้เยอะๆ
00:28:23 → 00:28:24 >> กินเยอะเลย
00:28:24 → 00:28:26 >> กินเยอะอันนั่นเรียกว่าโอเวอร์ส
00:28:26 → 00:28:27 >> อ๋อ
00:28:27 → 00:28:29 >> โอเวอร์สยังไงก็ไม่ดี
00:28:29 → 00:28:30 >> อือื
00:28:30 → 00:28:33 >> น้อยๆช้าๆ
00:28:33 → 00:28:35 ในการปรับมันก็ดีคนละแบบ
00:28:35 → 00:28:35 >> อื
00:28:36 → 00:28:39 >> มากๆเร็วใช่เร็วกินได้น้อยจริงๆกลุ่มสาร
00:28:39 → 00:28:43 สกัดเนี่ยเป้าหมายคือเพื่อต้องการลดโดสลง
00:28:43 → 00:28:44 >> อื
00:28:44 → 00:28:47 >> สมมุติเราต้องกินยาเนี่ยปกติ 3 เม็ดโดส
00:28:47 → 00:28:51 มันถึงจะได้พอสกัดเสร็จปุ๊บกินเหลือแค่
00:28:51 → 00:28:53 เม็ดเดียวหรือครึ่งเม็ดคือกินน้อยกินง่าย
00:28:53 → 00:28:53 ขึ้น
00:28:54 → 00:28:54 >> ออือ
00:28:54 → 00:28:57 >> แต่ไม่ใช่ว่าพอรู้ว่ามันเป็นสารสกัดโอ๊ย
00:28:57 → 00:28:58 สารสกัดตัวเนี้ยดี
00:28:58 → 00:28:59 >> กินใหญ่เลย
00:28:59 → 00:29:03 >> กลิ่นอ้าเค้ากำหนดเฮ้ยเม็ดนึงเนี่ยเยอะ
00:29:03 → 00:29:05 แล้วเนาะแต่เราแต่คนไม่รู้เนาะหรือคนแบบ
00:29:05 → 00:29:06 อยากที่อ้า
00:29:06 → 00:29:08 >> อยากรีบๆรีบๆอยากรีบหาย
00:29:08 → 00:29:10 >> อยากรีบหายกิน
00:29:10 → 00:29:13 อันนั้นมันกลายเป็นโอเวอร์สมันก็เป็นพิษ
00:29:13 → 00:29:13 แน่นอน
00:29:13 → 00:29:16 >> ต่อมาค่ะจริงๆแล้วมันมีการกินสมุนไพรตาม
00:29:16 → 00:29:19 ช่วงเวลาด้วยใช่มั้คะอันนี้เราสามารถ
00:29:19 → 00:29:20 เลือกทานตามช่วงเวลาได้ยังไงคะ
00:29:20 → 00:29:24 >> ครับผมได้เลยครับก็ต้องอันนี้ตามหลัก
00:29:24 → 00:29:28 ทฤษฎีก่อนเนาะนะครับเค้าบอกว่าในการเนี่ย
00:29:28 → 00:29:32 ในการก็ก็คือในรอบ 1 นับปัดนาฬิกา
00:29:32 → 00:29:32 >> ค่ะ
00:29:32 → 00:29:36 >> มันมีเช้ามันมีช่วงเช้ากับช่วงดึกเนาะ
00:29:36 → 00:29:40 >> อ่าแล้วก็แยกออกเป็นช่วงเช้า 3 ช่วงช่วง
00:29:40 → 00:29:41 ดึกอีก 3 ช่วง
00:29:41 → 00:29:41 >> อ๋อ
00:29:41 → 00:29:44 >> อ่าช่วงเช้าเนี่ยตั้งแต่ 18:00 น. 18:00
00:29:44 → 00:29:47 น.เนาะไปจนถึงประมาณ 10:00 น.เนี่ย
00:29:47 → 00:29:49 >> ช่วงเนี้ยเป็นช่วงการที่เราเรียกว่าการ
00:29:49 → 00:29:52 เสมหะคือการของน้ำอ่ะพูดง่ายๆ
00:29:52 → 00:29:53 >> ก็จะรู้สึกว่า
00:29:53 → 00:29:56 >> เป็นช่วงที่มีอ่าเป็นช่วงที่มีน้ำกระทำ
00:29:56 → 00:29:59 >> ถ้า 10:00 น.จนถึง 14:00 น.ช่วงนี้เป็น
00:29:59 → 00:30:01 ช่วงความร้อนกระทำเพราะอาทิตย์พระอาทิตย์
00:30:01 → 00:30:02 มันอยู่
00:30:02 → 00:30:04 >> ตรงหัวพอดีช่วง 14:00 น.จนถึงช่วง 18:00
00:30:05 → 00:30:09 น.อันนี้เรียกว่าช่วงลมกระทำแดดร่มลมมัน
00:30:09 → 00:30:13 ตกนี่ช่วงนี้นะครับเพราะฉะนั้นช่วงกาล 3
00:30:13 → 00:30:16 ตอนช่วงเช้าจะเป็นเรื่องของน้ำความร้อน
00:30:16 → 00:30:17 แล้วก็ลม
00:30:17 → 00:30:19 >> ตอนเช้าควรจะกินเปรี้ยว
00:30:19 → 00:30:20 >> อืม
00:30:20 → 00:30:22 >> ร้อนเป็นพื้นฐาน
00:30:22 → 00:30:23 >> ค่ะ
00:30:23 → 00:30:25 >> นะเปรี้ยวมันช่วยกระตุ้นน้ำ
00:30:25 → 00:30:26 >> อื
00:30:26 → 00:30:29 >> นะสำหรับถ้าเกิดสมมุติเช้ามาขับถ่ายไม่
00:30:29 → 00:30:31 ค่อยดีรถเปรี้ยวจะสามารถกระตุ้นระบบขับ
00:30:31 → 00:30:35 ถ่ายช่วยให้ระบบขับถ่ายได้ดีขึ้นได้มั้
00:30:35 → 00:30:35 ตอนเช้าสว
00:30:35 → 00:30:39 >> ตอนเช้าน้ำมะนาวก็ได้ครับผม
00:30:39 → 00:30:42 >> อ่าถ้าเป็นน้ำเนาะนะครับถ้าเป็นช่วง
00:30:42 → 00:30:44 เที่ยงอันนี้รู้อยู่แล้วพวกนี้ต้องเป็น
00:30:44 → 00:30:45 กลุ่มเย็น
00:30:45 → 00:30:45 >> อื
00:30:45 → 00:30:47 >> อ่าเพราะความร้อนเยอะ
00:30:47 → 00:30:50 >> แต่ตอนเที่ยนเราจัดต้มยำกุ้งเลย
00:30:51 → 00:30:53 อย่างร้อนเลยบอกทานได้มั้ยทานได้ไม่ใช่
00:30:53 → 00:30:57 ไม่มีไม่ใช่ว่าเอ่อจะต้องเป็นไปตามอันนี้
00:30:57 → 00:31:02 ตลอดนะนะครับผมแต่เวลาช่วงกาลที่มันกระทบ
00:31:02 → 00:31:04 นะครับเราก็ควรจะกินอะไรที่มันออกสุขุม
00:31:04 → 00:31:05 ออกเย็น
00:31:05 → 00:31:06 >> อื
00:31:06 → 00:31:09 >> น้ำใบเตยอ่าอย่างงี้ให้มันมีความหอมมี
00:31:09 → 00:31:12 ความเย็นต่างๆในช่วงที่มันมีความร้อนหรือ
00:31:12 → 00:31:16 เรากินร้อนๆจัดๆก็ต้องมีสมุนไพรดับฤทธิ์
00:31:16 → 00:31:20 หรือคลุมนะเอาไว้ล้อมไม่ให้มันร้อนจนเกิน
00:31:20 → 00:31:20 ไปอ
00:31:20 → 00:31:21 >> ค่ะ
00:31:21 → 00:31:25 >> พอช่วงบ่ายค้อยบ่ายและพวกนี้ลมมันจะ
00:31:25 → 00:31:28 เคลื่อนไม่ค่อยดีและถ้าสำหรับคนที่มันมี
00:31:28 → 00:31:30 ปัญหาเรื่องระบบการย่อยต่างๆก็จะกินพวก
00:31:30 → 00:31:32 กลุ่มของรสร้อนอ
00:31:32 → 00:31:36 >> น้ำขิงได้เพราะน้ำขิงมาขายตอนเย็นเมาขาย
00:31:36 → 00:31:39 ตอนตลาดเย็นอันนี้กินได้ตอนช่วงเย็นๆ
00:31:39 → 00:31:42 >> นะครับนี่เป็นกาลเช้านี้พอการการเ้าเรียก
00:31:42 → 00:31:45 ว่าพอเข้าสู่ดึกก็จะกลับเข้าใหม่ 18:00
00:31:45 → 00:31:48 น.จนถึง 22:00 น.อันนี้ก็จะเป็นช่วงของ
00:31:48 → 00:31:49 ธาตุน้ำ
00:31:49 → 00:31:49 >> อ
00:31:49 → 00:31:53 >> 22:00 น.จนถึง 2:00 น.นี้ก็เป็นไฟ
00:31:53 → 00:31:54 >> ไฟก็จะวนกลับมา
00:31:54 → 00:31:56 >> จะวนกลับมาเหมือนเดิม 2:00 น.จนถึง 18:00
00:31:56 → 00:32:00 น.ก็จะเป็นลมแต่ทีนี้ตอนช่วง 2:00 น. -
00:32:00 → 00:32:02 18:00 น.เรียนจริงๆมันต้องนอนแล้ว
00:32:02 → 00:32:03 >> ค่ะ
00:32:03 → 00:32:07 >> นะตอนช่วง 22:00 น.จนถึง 2:00 น.นี่ก็ควร
00:32:07 → 00:32:07 นอนแล้ว
00:32:08 → 00:32:10 >> นะครับแต่มันเป็นไฟเห็นมั้ยนอนแล้วออ
00:32:10 → 00:32:12 >> มันเป็นช่วงของไฟมันเป็นช่วงของความร้อน
00:32:12 → 00:32:16 ช่วงเนี้ยช่วงตอนเาเรียกว่าเป็นช่วงที่
00:32:16 → 00:32:17 ร่างกายซ่อมแซม
00:32:17 → 00:32:18 >> อื
00:32:18 → 00:32:21 >> ก็คือเวลาเรานอนน่ะอากาศมันเย็นเนาะ
00:32:21 → 00:32:21 >> ค่ะ
00:32:21 → 00:32:24 >> ร่างกายจะต้องมีความร้อนเนี่ยฮีทขึ้นมา
00:32:24 → 00:32:25 เพื่อให้เกิดความอบอุ่น
00:32:25 → 00:32:26 >> อื
00:32:26 → 00:32:29 >> เพราะตอนเช้าตอนเช้ามันเป็นพลังงานเป็น
00:32:29 → 00:32:30 enนerร์จี
00:32:30 → 00:32:33 >> แต่ตอนดึกเนี่ยเป็นช่วงที่เรียกว่าหล่อ
00:32:33 → 00:32:36 เลี้ยงเพราะเราต้องพักผ่อนแล้วก็ต้องมีไป
00:32:36 → 00:32:38 เจริญในการซ่อมแซมต่างๆ
00:32:38 → 00:32:39 >> อื
00:32:39 → 00:32:43 >> เนาะพอ 2:00 น.ไปจนถึง 18:00 น.อันนี้การ
00:32:43 → 00:32:46 พัดพาสารอาหารต่างๆก็ไปซ่อมแซมแล้วพอมา
00:32:46 → 00:32:50 ตอนเช้ามันเข้ามาเสียหักมันควรจะถ่าย
00:32:50 → 00:32:54 >> เพราะงั้นควรขับถ่ายตอนช่วงเช้าช่วงลม
00:32:54 → 00:32:57 เสมหะเนี่ยลมเสมหะลมมันผลักน้ำ
00:32:57 → 00:32:57 >> อื
00:32:57 → 00:33:01 >> ทำให้เกิดการขับเกิดการถ่ายออกของเสีย
00:33:01 → 00:33:02 >> อื
00:33:02 → 00:33:05 >> เนี่ยก็ควรจะเป็นให้เป็นวนloูแต่คนเรามัน
00:33:05 → 00:33:06 ไม่ใช่อ่ะ
00:33:06 → 00:33:08 >> อื
00:33:08 → 00:33:09 >> 1:00 น.ยังไม่นอนเลย
00:33:09 → 00:33:10 >> ตีตไปกินบุฟเฟ่ต์อยู่
00:33:10 → 00:33:12 >> ยังกินบุฟเฟ่ต์อยู่เลยอ้านี่ส่งเสริมเห็น
00:33:12 → 00:33:13 มั้ย
00:33:13 → 00:33:16 >> มันยิ่งทำให้ระบบในร่างกายยิ่งร้อนร้อนอ
00:33:16 → 00:33:18 >> แล้วร่างกายจะได้พักตอนไหน
00:33:18 → 00:33:19 >> ไม่ได้พัก
00:33:19 → 00:33:21 >> มันไม่ได้พักเลยเพราะงั้นเราจะเห็นเลยว่า
00:33:21 → 00:33:25 ปัจจัยการเสื่อมของร่างกายเราก็คือธาตุไฟ
00:33:25 → 00:33:28 ล้นหรือธาตุไฟกำเล่อเยอะเกิน
00:33:28 → 00:33:30 >> แล้วทำให้เกิดความเสื่อมที่เขาเรียกว่า
00:33:30 → 00:33:31 อนุมูลอิสระนั่นแหละ
00:33:31 → 00:33:32 >> อื
00:33:32 → 00:33:35 >> จริงๆหลักการทางแพทย์แผนตะวันออกเนี่ย
00:33:35 → 00:33:38 เป็นหลักการที่ดีไม่ว่าจะเป็นไทยจีนหรือ
00:33:38 → 00:33:41 แขกนะครับเอ่อเป็นหลักการที่เราเรียกว่า
00:33:41 → 00:33:43 เป็นการดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิคือให้เรา
00:33:43 → 00:33:45 รู้ธาตุตัวเองอ
00:33:45 → 00:33:48 >> ทุกคนสามารถเป็นหมอของตัวเองได้ถ้าเรารู้
00:33:48 → 00:33:50 เกี่ยวกับเรื่องระบบธาตุในร่างกายไม่ต้อง
00:33:50 → 00:33:53 รู้เหมือนหมอปัจจุบันแต่ให้รู้ว่าธาตุของ
00:33:53 → 00:33:57 เราเนี่ยมันมีอะไรมันมากเกินไปมันจะไม่ดี
00:33:57 → 00:34:00 ยังไงมันน้อยเกินไปมันไม่ดียังไงแล้วเรา
00:34:00 → 00:34:03 อาศัยพืชสมุนไพรพื้นฐานง่ายๆเนี่ยในการดู
00:34:03 → 00:34:07 แลปรับสมดุลสุขภาพและการใช้ชีวิตมันจะทำ
00:34:07 → 00:34:11 ให้เราป้องกันโรคที่จะต่อไปเป็นกลุ่มโรค
00:34:11 → 00:34:13 ในเรื้อรังต่างๆได้ดี
00:34:13 → 00:34:15 >> อจริงๆเรื่องธาตุและความสมดุลเนี่ยเป็น
00:34:15 → 00:34:19 อะไรที่สำคัญมากสำคัญที่สุดเลยนะคะอย่าง
00:34:19 → 00:34:21 ที่คุณหมอพูดก็คือหลายๆคนน่ะสำคัญมาก
00:34:21 → 00:34:22 >> ชอบ
00:34:22 → 00:34:26 >> เอ่อshortคutชอบทางรัดชอบแอบเลี้ยวที่ที่
00:34:26 → 00:34:28 เขาบอกไม่ให้เลี้ยวเพราะมันคิดว่ามันเร็ว
00:34:28 → 00:34:31 กว่าแต่สุดท้ายก็อาจจะชนได้เนาะฉะนั้นน่ะ
00:34:31 → 00:34:33 ค่ะก็หวังว่า EP เนี้ยจะเป็นอุทาหรณ์ให้
00:34:33 → 00:34:37 ใครหลายๆคนแล้วกันนะคะที่ชอบแบบเอ่ออยาก
00:34:37 → 00:34:40 กินอะไรช่วยลดเร็วๆค่ะช่วยแต่ว่าจริงๆ
00:34:40 → 00:34:42 แล้วมันคือองค์รวมนะคะแล้วก็คือการเข้าใจ
00:34:42 → 00:34:45 ร่างกายอย่างแท้จริงนะคะวันนี้ก็ขอบคุณ
00:34:45 → 00:34:48 คุณหมอมากๆเลยค่ะรู้สึกเปิดโลกเป็นแบบ a
00:34:48 → 00:34:49 whole New World มากๆเลยไม่ว่าจะเป็น
00:34:49 → 00:34:53 เรื่องทาสนะคะแล้วก็การกินอะไรยังไงให้
00:34:53 → 00:34:57 เกิดสมดุลนะคะร่างกายร้อนไปเย็นไปควรปรับ
00:34:57 → 00:35:00 ยังไงก็วันนี้คิดว่าน่าจะอ่าผู้ชมทางบ้าน
00:35:00 → 00:35:02 เนี่ยรู้สึกว่าน่าจะได้ความรู้ไปได้เยอะ
00:35:02 → 00:35:04 มากๆเลยก็สำหรับใครนะคะที่มีคำถามเรื่อง
00:35:05 → 00:35:07 สมุนไพรใครเพิ่มเติมนะคะก็สามารถพิมพ์
00:35:07 → 00:35:09 คอมเมนต์เข้ามาได้เลยนะคะเผื่อจะรวบรวม
00:35:09 → 00:35:11 แล้วมาถามคุณหมอใหม่เพราะว่าจริงๆแล้ว
00:35:11 → 00:35:13 สมุนไพรไทยมันละเอียดมากๆจริงๆนะคะจริงๆ
00:35:13 → 00:35:15 เมื่อกี้แอบคุยกันว่าเราสามารถทำได้แบบ
00:35:15 → 00:35:18 ประมาณ 10 episod ได้เลยทำรายการแยกได้
00:35:18 → 00:35:20 เลยเพราะว่ามันละเอียดจริงๆนะคะก็หวังว่า
00:35:20 → 00:35:23 วันนี้จะได้อย่างน้อยเป็นการปูพื้นฐาน
00:35:24 → 00:35:26 ระดับนึงเผื่อเราได้ทำ EP หน้าต่อไปใน
00:35:26 → 00:35:29 อนาคตนะคะแล้วเดี๋ยวไว้พบกันใหม่ใน EP
00:35:29 → 00:35:31 หน้าสวัสดีค่ะ
00:35:31 → 00:35:34 >> สวัสดีครับ