00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:09 Voice มนุษย์เราอ่ะค่ะเราเกิดมาเราจะมี
00:00:09 → 00:00:12 สภาวะจิตมันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่
00:00:12 → 00:00:15 เกิดจิตแพทย์น่ะเขาคเรียก temper เราโกรธ
00:00:15 → 00:00:19 โมโหเพราะว่าเราผิดหวังเวลาเราผิดหวังอก
00:00:19 → 00:00:21 หักอย่างเงี้ยเออก็ธรรมดาแหละใครอกหักก็
00:00:21 → 00:00:25 ดิ่งก็เศร้าก็ทุกข์ใช่มั้ยคะมันก็เจ็บปวด
00:00:25 → 00:00:29 แต่พอสักพักนึงอ่ะเราก็จะค่อยๆทำใจได้แต่
00:00:29 → 00:00:33 ถ้าเราแบบเศร้าหนักมากแรงมากจนถึงขั้นแบบ
00:00:33 → 00:00:37 ไม่อยากอยู่อยากจะตายหรือว่าเศร้าแบบเป็น
00:00:37 → 00:00:39 เดือนเป็นปีแล้วยังไม่หายเศร้าซักทีอัน
00:00:39 → 00:00:42 นี้แปลว่ามันไม่ปกติละเพะว่าเราอาจจะมี
00:00:42 → 00:00:45 โรคอารมณ์ซึม
00:00:45 → 00:00:48 เศร้าฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:49 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:56 ค่ะ This Is TY PBS podcast คุณผู้
00:00:56 → 00:00:58 ฟังเราพูดคุยกันถึงเรื่องความรู้สึกที่
00:00:58 → 00:01:01 มันดิ่งง่ายนะคะมันดาวง่ายๆมันรู้สึกแย่
00:01:01 → 00:01:03 อะไอะไอย่างเงี้ยอาจจะเป็นบางช่วงของ
00:01:03 → 00:01:06 ชีวิตแหละหดหูวิตกกังวลหรืออาจรู้สึกมี
00:01:06 → 00:01:08 อะไรมากระทบกับความรู้สึกได้ง่ายแบบนี้นะ
00:01:08 → 00:01:11 คะเราจะทำยังไงกันดีคุยกับพันตำรวจเอก
00:01:11 → 00:01:13 หญิงแพทย์หญิงอัญชุลีธีระวงศ์ไพศาล
00:01:13 → 00:01:16 จิตแพทย์นายแพทย์สบ 5 โรงพยาบาลตำรวจค่ะ
00:01:16 → 00:01:19 สวัสดีค่ะคุณหมอคะค่ะสวัสดีค่ะคุณลีแล้ว
00:01:19 → 00:01:22 ก็สวัสดีคุณผู้ฟังค่ะวันนี้เราคุยกันถึง
00:01:22 → 00:01:25 เรื่องของความรู้สึกที่มันอาจจะแบบดาว
00:01:25 → 00:01:29 ดิ่งไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ของตัวเองหรือจะ
00:01:29 → 00:01:31 เป็นเรื่องของคนคนใกล้ชิดเราฟังแล้วอาจจะ
00:01:31 → 00:01:33 รู้สึกแบบมันดิ่งมันดาวไปด้วยอารมณ์ความ
00:01:33 → 00:01:36 รู้สึกของความหดหู่ความวิตกกังวลหรืออะไร
00:01:36 → 00:01:39 ต่างๆเหล่านี้เนี่ยมันเป็นเรื่องปกติเลย
00:01:39 → 00:01:41 ใช่ไหมมที่ทุกคนจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้และ
00:01:41 → 00:01:46 เป็นได้ก็ต้องบอกว่าจิตของมนุษย์น่ะค่ะ
00:01:46 → 00:01:50 เรามันจะมีขึ้นๆลงๆตลอดเวลานะคะมันไม่ได้
00:01:50 → 00:01:54 ว่าแบบอยู่เรียบๆเฉยๆอ่ะต้องบอกว่าสภาวะ
00:01:54 → 00:01:56 จิตของมนุษย์อ่ะมันเหมือนน้ำอ่ะที่มัน
00:01:56 → 00:01:59 กระเพื่อมตลอดมันจะกระเพื่อมมากกระเพื่อม
00:01:59 → 00:02:03 นเท่านั้นเองแต่ว่ามันก็จะมีคื่นมีขึ้นมี
00:02:03 → 00:02:07 ลงตลอดเวลาเนาะคืออันเนี้ยเป็นปกติของ
00:02:07 → 00:02:11 มนุษย์ทั่วไปบางทีเราก็มีดีใจมีเศร้าใจมี
00:02:11 → 00:02:15 ทุกข์ใจมีผิดหวังมีโกรธบางทีก็ดีใจมาก
00:02:15 → 00:02:18 เช่นเวลาถูกหวยใช่มยคะก็จะดีใจมากเป็น
00:02:18 → 00:02:21 พิเศษฟินมากสุดมากอะไรอย่างงี้เป็นต้น
00:02:21 → 00:02:24 ความหวังนั่นเองใช่แต่ว่าบางทีเราก็อาจจะ
00:02:24 → 00:02:28 มีเรื่องแบบดีใจเล็กๆเบาๆเช่นแบบซื้อ
00:02:28 → 00:02:31 เสื้อใหม่อ่ากินข้าวอร่อยร้านนี้เออก็จะ
00:02:31 → 00:02:35 มีความสุขแบบเบาๆเล็กๆแม้แต่แบบอารมณ์ทาง
00:02:35 → 00:02:38 ด้านลบเนาะอารมณ์แบบเศร้าอารมณ์ดิ่งทุกข์
00:02:38 → 00:02:41 ใจบางทีแบบเรามีเรื่องอะไรแบบทุกข์ใจมา
00:02:41 → 00:02:44 สะกิดใจไม่สบายใจเราก็อาจจะรู้สึกแย่รู้
00:02:44 → 00:02:49 สึกเศร้าแป๊บนึงสักพักนึงเราก็ทำใจได้ยก
00:02:49 → 00:02:51 ตัวอย่างเช่นอกหักอย่างเงี้ยโอ้โหทุกข์ใจ
00:02:51 → 00:02:55 มากเลยทุกข์ใจแบบหนักมากคงเศร้าอยู่สัก
00:02:55 → 00:02:58 พักนึงอ่ะจนแบบทำใจได้ Mo on ได้แล้วก็
00:02:58 → 00:03:01 จะกลับมาเป็นปกติอืก็ต้องบอกว่ามนุษย์อ่ะ
00:03:01 → 00:03:05 ค่ะจิตใจเราจะแบบขึ้นๆลงๆแบบเนี้ยเรื่อยๆ
00:03:06 → 00:03:09 แต่ทีเนี้ยถ้าเกิดว่าผิดปกติอ่ะก็คือมัน
00:03:09 → 00:03:14 ก็จะขึ้นขึ้นมากลงมากผิดปกติแล้วก็คงอยู่
00:03:14 → 00:03:17 นานจนเกินไปยกตัวอย่างเช่นความทุกข์ความ
00:03:17 → 00:03:21 เศร้าเนี่ยบางทีเวลาเราผิดหวังอกหักอย่าง
00:03:21 → 00:03:24 เงี้ยเออก็ธรรมดาแหละใครอกหักก็ดิ่งก็
00:03:24 → 00:03:29 เศร้าก็ทุกข์ใช่มั้ยคะมันก็เจ็บปวดทรมาน
00:03:29 → 00:03:32 แต่พอักสักพักนึงอ่ะเราก็จะค่อยๆแบบทำใจ
00:03:32 → 00:03:36 ได้เองแต่ถ้าเราแบบเศร้าแบบหนักมากแรงมาก
00:03:37 → 00:03:41 จนถึงขั้นแบบไม่อยากอยู่อยากจะตายหรือว่า
00:03:41 → 00:03:43 เศร้าแบบเป็นเดือนเป็นปีแล้วยังไม่หาย
00:03:43 → 00:03:46 เศร้าซักทีอันนี้แปลว่ามันไม่ปกติละเพราะ
00:03:46 → 00:03:50 ว่าเราอาจจะมีโรคอารมณ์ซึมเศร้าออตามมาก็
00:03:50 → 00:03:53 ได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องหมั่นดูแล
00:03:53 → 00:03:57 ตัวเองเนาะว่าเออตอนเนี้ยเราปกติดีมยก็
00:03:57 → 00:04:01 ต้องบอกว่าบางคนก็มีแบบเป็นบุคลิกของแต่
00:04:01 → 00:04:05 ละคนบางคนอาจจะแบบจิตใจหนักแน่นเข้มแข็ง
00:04:05 → 00:04:09 สุขภาพจิตดีไงอะไรมากระทบใจเขาคก็คือพูด
00:04:09 → 00:04:12 ง่ายๆช่างได้เร็วอ่ะเออช่างมันเถอะ
00:04:12 → 00:04:15 ปล่อยมันไปได้เร็วพวกเนี้ยก็จะแบบอะไร
00:04:15 → 00:04:18 เข้ามาก็แป๊บเดียวจัดการตัวเองได้ละแต่ก็
00:04:18 → 00:04:21 จะมีอีกกลุ่มนึงที่แบบบุคลิกจิตใจเป็นแบบ
00:04:21 → 00:04:25 อ่อนไหวง่ายอะไรนิดนึงใครพูดไม่ถูกหูนิด
00:04:25 → 00:04:29 นึงแบบโกรธเค้าโมโหเค้าหรือเศร้าใจแบบ
00:04:29 → 00:04:32 เค้าดูถูกเราเว่าเราเค้าเหยียดหยามเรา
00:04:32 → 00:04:35 หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยนะคะมันก็มีบางคน
00:04:35 → 00:04:39 ที่จิตใจอ่อนไหวแล้วก็อะไรนิดนึงไม่ได้
00:04:39 → 00:04:42 เลยเอออันเนี้ยสรุปก็คือมันก็ต้องได้รับ
00:04:42 → 00:04:45 การฝึกฝนมาด้วยคือก็ต้องบอกว่ามนุษย์เรา
00:04:45 → 00:04:49 อ่ะค่ะเราเกิดมาเราจะมีสภาวะจิตจิตใจแต่
00:04:49 → 00:04:52 ละคนหรือว่ามันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้ง
00:04:52 → 00:04:55 แต่เกิดเนาะอย่างถ้าภาษาจิตแพทย์อ่ะเขาค
00:04:55 → 00:04:58 เรียก temper คือเด็กแต่ละคนน่ะเกิดมา
00:04:58 → 00:05:02 ร้องอูวเออกมาจากท้องพ่อท้องแม่เนี่ยจะมี
00:05:02 → 00:05:06 เเนติดตัวมาบางอย่างบางคนเลี้ยงง่าย Easy
00:05:06 → 00:05:09 ชายซึ่งส่วนใหญ่เนี่ยจะเป็น Easy ชายกัน
00:05:09 → 00:05:12 บางคนก็เลี้ยงยาก difficulty ชายคือกิน
00:05:12 → 00:05:17 ยากนอนยากหงุดหงิดง่ายแม่ป้อนนมช้าก็แหก
00:05:17 → 00:05:20 ปากร้องแวกละแบบเนี้ยนะคะเออบางคนก็เป็น
00:05:20 → 00:05:23 แบบ slow to warm up คือตอนเวลา
00:05:24 → 00:05:26 เปลี่ยนพี่เลี้ยงเปลี่ยนสถานที่อะไรก็จะ
00:05:26 → 00:05:30 งอแงร้องไห้ปรับตัวยากแต่สักพักนึงเเปรับ
00:05:30 → 00:05:33 ตัวได้เค้าก็จะแบบเลี้ยงง่ายละอันนี้ก็มี
00:05:33 → 00:05:36 กับกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่ม Mix typ ก็คือ
00:05:36 → 00:05:39 รวมอเดี๋ยวก็เลี้ยงง่ายเดี๋ยวก็เลี้ยงยาก
00:05:39 → 00:05:42 แล้วแต่อารมณ์นะคะซึ่งก็ต้องบอกว่ามนุษย์
00:05:42 → 00:05:45 แต่ละคนน่ะค่ะเราจะมีอะไรบางอย่างที่ติด
00:05:45 → 00:05:48 ตัวมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้วแหละถ้าเป็นความ
00:05:48 → 00:05:51 เชื่อทางศาสนาพุทธเคิดว่ามันเป็นชาติที่
00:05:51 → 00:05:55 แล้วใช่มั้ยคะอ๋อติดเอใช่แต่ว่าถ้าทาง
00:05:55 → 00:05:58 จิตวิทยามันก็เป็นพื้นอารมณ์เเรียกว่า
00:05:58 → 00:06:01 เป็นพื้นอารมณ์ที่ที่ติดตัวเด็กมาเนาะ
00:06:01 → 00:06:05 ซึ่งเรางเงี้ยจะมีบุคลิกลักษณะนิสัยบาง
00:06:05 → 00:06:07 อย่างที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน
00:06:07 → 00:06:10 อย่างถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนมีลูกหลายคนน่ะ
00:06:10 → 00:06:13 จะเห็นเลยว่าก็เลี้ยงดูเหมือนกันน่ะอยู่
00:06:13 → 00:06:16 แบบพ่อแม่เดียวกันอยู่สภาพแวดล้อมเดียว
00:06:16 → 00:06:20 กันทำไมนิสัยใจคอความคิดอะไรไม่เหมือนกัน
00:06:20 → 00:06:24 เพราะว่าเ้ามีสิ่งที่ติดตัวเมาอยู่แล้ว
00:06:24 → 00:06:27 เออแล้วอันเนี้ยมันก็เกิดจากสิ่งแวดล้อม
00:06:27 → 00:06:30 เกิดจากการเลี้ยงดูเนี่ยมันก็ก็ทำให้
00:06:30 → 00:06:33 พัฒนาขึ้นมาเป็นบุคคลิกภาพของแต่ละคนอื
00:06:33 → 00:06:36 ซึ่งมันก็อาจจะเรียกว่าเราเราคงไปกำหนด
00:06:36 → 00:06:39 ไม่ได้ว่าถ้าเป็นเอ่อลักษณะของคนแบบนี้
00:06:39 → 00:06:42 โอกาสจะดิ่งจะดาวมันจะง่ายกว่าคนปกติทั่ว
00:06:42 → 00:06:44 ไปบางทีมันแล้วแต่เรื่องที่จะเจอด้วยใช่
00:06:44 → 00:06:48 มั้ยคะใช่ค่ะแต่ละคนก็มีความอ่อนไหวค่ะ
00:06:48 → 00:06:51 บางคนน่ะอ่อนไหวเรื่องเนี้ยใครแตะเรื่อง
00:06:51 → 00:06:54 พ่อแม่ไม่ได้เลยน้ำตาร่วงนะน้ำตาล่วงไหล
00:06:54 → 00:06:56 หรือบางคนน่ะแตะเรื่องนี้ไม่ได้เลยที่เขา
00:06:56 → 00:06:59 เรียกว่ามีปมอ่ะเออบางคนน่ะมีปมเรืื่อง
00:06:59 → 00:07:02 เนี้ยใครพูดถึงเรื่องนี้นี่แบบไม่ได้โกรธ
00:07:02 → 00:07:08 โมโหเออบางคนแบบมีปมเรื่องเนี้ยก็แบบรับ
00:07:08 → 00:07:10 ไม่ได้อะไรอย่ามาแตะเรื่องเนี้ยคือแต่ละ
00:07:10 → 00:07:13 คนมันก็มีความซับซ้อนไม่เหมือนกันอืงั้น
00:07:13 → 00:07:16 แสดงว่าคำว่าอารมณ์ดิ่งดาวหรือว่าแบบวิตก
00:07:16 → 00:07:19 กังวลหรืออะไรก็แล้วแต่มันไม่ใช่แค่เป็น
00:07:19 → 00:07:21 เรื่องของความรู้สึกว่ามันเศร้าหรือว่า
00:07:21 → 00:07:24 มันแย่แต่มันอาจจะทำเป็นความรู้สึกของการ
00:07:24 → 00:07:28 โมโหการไม่ไม่พอใจหรืออะไรงี้ก็ได้ใช่
00:07:28 → 00:07:32 มั้ยคะใช่ค่ะคือต้องบอกว่าโกรธโมโหเนี่ย
00:07:32 → 00:07:36 มันเป็นอารมณ์ที่ 2 นะเออจากความรู้สึก
00:07:36 → 00:07:39 แย่ออก็แย่เลยทำให้แบบโกรธโมโหออใช่
00:07:39 → 00:07:42 อารมณ์โกรธโมโหเนี่ยมันเป็นอารมณ์ที่ 2
00:07:42 → 00:07:44 ก็คืออารมณ์แรกก่อนจะโกรธโมโหมันคือ
00:07:44 → 00:07:47 อารมณ์แบบผิดหวังถ้าเราสมหวังอ่ะเราจะ
00:07:47 → 00:07:51 โกรธมั้ยไม่โกรธเราก็แฮปปี้ใช่มั้ยคะเออ
00:07:51 → 00:07:53 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราโกรธโมโหเพราะว่าเรา
00:07:53 → 00:07:57 ผิดหวังออืแล้วบางคนน่ะเวลาโกรธอ่ะมันจะ
00:07:57 → 00:08:01 เาเรียก Anger โกรธใช่มั้ยคะมันจะมีโกรธ
00:08:01 → 00:08:05 Anger to al คือโกรธข้างนอกหรือว่า
00:08:05 → 00:08:09 โกรธกลับมาที่ตัวเองเออมันมี 2 อย่าง
00:08:09 → 00:08:11 เพราะโกรธอ่ะบางคนโกรธชาวบ้านชาวเมือง
00:08:11 → 00:08:14 โกรธบางคนก็แบบไม่โกรธคนอื่นโกรธตัวเอง
00:08:15 → 00:08:17 โทษตัวเองนี่แหละเป็นเพราะฉันเองความผิด
00:08:17 → 00:08:19 ของฉันเองทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฉันเอง
00:08:19 → 00:08:22 อะไรอย่างเงี้ยค่ะเออๆมันก็น่าสนใจเนาะ
00:08:22 → 00:08:25 อารมณ์ที่ 2 ใช่ค่ะอารมณ์ที่ 2 บางคนอาจ
00:08:25 → 00:08:28 จะแบบว่าเศร้าก็ได้หรือจะโมโหก็ได้หรือจะ
00:08:28 → 00:08:32 แบบแฮปปี้ก็ได้เออว่ามาเลยฉันก็ได้เหรอ
00:08:32 → 00:08:35 แฮปปี้เหรอซึ่งอารมณ์ดิ่งดาวเนี่ยส่วน
00:08:35 → 00:08:37 ใหญ่เราก็จะหมายถึงอารมณ์ด้านลบอ่ะอารมณ์
00:08:37 → 00:08:41 ทุกข์อารมณ์เศร้าอารมณ์แบบแย่ติดลบซึ่ง
00:08:41 → 00:08:44 บางทีมันก็จะมาพร้อมกับความโกรธความคุก
00:08:44 → 00:08:47 กรุ่นอืตามมาด้วยบางทีมันก็เป็นอารมณ์แบบ
00:08:47 → 00:08:51 ปนเปยผสมๆมกันสรุปคือความดิ่งความดาว
00:08:51 → 00:08:53 เนี่ยก็คือความทุกข์ความเศร้านั่นแหละ
00:08:53 → 00:08:56 อะไรที่เรารู้สึกแย่รู้สึกไม่สบายใจรู้
00:08:56 → 00:08:58 สึกเป็นทุกข์นั่นแหละเขาเรียกว่าอารมณ์
00:08:58 → 00:09:01 ดิ่งอารมณ์ดดาวซึ่งมันเป็นศัพท์วัยรุ่นนะ
00:09:01 → 00:09:04 วัยรุ่นเาจะบอกว่าดิ่งๆอ่ะหมอเนี่ยหนูรู้
00:09:04 → 00:09:08 สึกดิ่งมากเลยหนูแบบดาวมากเลยอะไรอย่าง
00:09:08 → 00:09:12 เงี้ยเออก็จะเป็นก็คือเา้าก็จะบอกความรู้
00:09:12 → 00:09:15 สึกของเขาว่าเครู้สึกแย่นั่นแหละบางคนบอก
00:09:15 → 00:09:19 ว่ารู้สึกเหมือนตกหลุมดำอ่ะหนูตกหลุมดำ
00:09:19 → 00:09:22 อีกละหนูอยู่ในหลุมดำอีกละคือมันดิ่งมัน
00:09:22 → 00:09:26 ตกลงไปนะคะมันเป็นแบบว่ามันไม่สามารถไขว
00:09:26 → 00:09:28 คว้าอะไรได้หรือว่าแบบมันมองไม่เห็นทาง
00:09:28 → 00:09:31 ออกหรือว่าเอ๊ะฉันจะต้องทำยังไงกับชีวิต
00:09:31 → 00:09:34 ดีแบบนั้นมั้ยคะอืมก็ขึ้นอยู่กับว่าเรา
00:09:34 → 00:09:37 ดิ่งมากน้อยแค่ไหนเนาะอย่างที่บอกมันจะมี
00:09:37 → 00:09:41 แบบเอออย่างสมมุติว่าเราผิดหวังวันเนี้ย
00:09:41 → 00:09:45 เออผิดหวังทำข้อสอบแล้วเราคาดหวังว่าเรา
00:09:45 → 00:09:48 จะได้ A แต่ว่าเราดันได้ B เราก็รู้สึก
00:09:48 → 00:09:51 ผิดหวังอย่างเงี้ยเออหรือว่าเราแบบอย่าง
00:09:51 → 00:09:56 เอาแค่ง่ายๆอ่ะไปสั่งข้าวผัดกะเพราอ่ะเออ
00:09:56 → 00:09:58 สั่งกะเพราหมูสับแล้วได้กะเพราหมูชิ้น
00:09:58 → 00:10:01 อย่างเงี้ยก็หงุดหงิดละอะไรอย่างเงี้ยมัน
00:10:01 → 00:10:04 ไม่เป็นดั่งใจละไม่เป็นอย่างที่เราคาด
00:10:04 → 00:10:07 หวังแล้วเราก็เกิดความทุกข์ขึ้นมาละถ้า
00:10:07 → 00:10:10 เราแบบไปทุกข์นานไปดิ่งงานเราก็จะตามมา
00:10:10 → 00:10:14 ด้วยอารมณ์ที่ 2 กวดโมโหอะไรวะสั่งกะเพรา
00:10:14 → 00:10:18 หมูสับไกะเพราหมูชิ้นทำไมไม่รู้จักฟังฉัน
00:10:18 → 00:10:21 ไม่ชอบกินหรือว่าเนี่ยสั่งผัดกะเพราทำไม
00:10:21 → 00:10:25 ต้องใส่ถั่วฝักยาวใส่เอ้อันนี้อันนี้พในอ
00:10:25 → 00:10:28 ใหญ่อะไรตามมาด้วยฉันอยากกินผัดกะเพรา
00:10:28 → 00:10:32 อย่างเงี้ยกกกะเพราที่แท้ทูเออใช่บางคนก็
00:10:32 → 00:10:36 นะถ้าหากว่าเราปล่อยอารมณ์ให้มันดาวดิ่ง
00:10:36 → 00:10:39 อยู่นานเนี่ยมันก็จะอยู่นานเมื่อกี้คุณ
00:10:39 → 00:10:42 หมอบอกว่ามันมีความคาดหวังอ่ะมันพอมันคาด
00:10:42 → 00:10:44 หวังแล้วมันไม่ได้สิ่งที่เราต้องการน่ะทำ
00:10:44 → 00:10:48 ให้เรารู้สึกแบบแย่ไม่โอเคบางคนอาจจะแบบ
00:10:48 → 00:10:51 หนักหน่อยพ่านเป็นอารมณ์ที่ 2 โกรธโมโหไป
00:10:51 → 00:10:55 เลยอย่างเงี้ยแสดงว่าไอคำว่าคาดหวังอ่ะ
00:10:55 → 00:10:58 มันเป็นตัวนำหรือเปล่าใช่ค่ะคือต้องบอก
00:10:58 → 00:11:02 ว่าเราอ่ะบางทีเราต้องมีสติรู้นะมนุษย์
00:11:02 → 00:11:05 นี่เป็นมนุษย์ที่คคจะคาดหวังกับทุกอย่าง
00:11:05 → 00:11:08 ทุกเรื่องคือเราตื่นมาตอนเช้าเนี่ยเราก็
00:11:08 → 00:11:11 จะมีสเต็ปของเราว่าอ่ะตื่นมาล้างหน้าแปรง
00:11:11 → 00:11:15 ฟันเออแค่น้ำไม่ไหลนี่เอาละผิดสเต็ปแล้ว
00:11:15 → 00:11:17 นะไม่เป็นตามคาดหวังแล้วเริ่มเกิดความ
00:11:17 → 00:11:21 ทุกข์ละอหรือว่าแบบเออไปรอไปรอรถเมล์หรือ
00:11:21 → 00:11:24 รอรถไฟฟ้าแล้วเออเราคาดหวังว่าไปปึ๊บ
00:11:24 → 00:11:27 เนี่ยรถมาเลยแต่บางทีพอไปถึงเนี่ยถึง
00:11:27 → 00:11:29 สถานีปุ๊บกำลังจะขึ้นแล้วรถไฟฟ้ามันไป
00:11:29 → 00:11:33 ก่อนน่ะปิ๊ดๆๆๆๆขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทันแล้ว
00:11:33 → 00:11:35 เนี่ยมันก็ผิดสเต็ปแล้วเราก็เริ่ม
00:11:35 → 00:11:38 หงุดหงิดแล้วอะไรเนี่ยอีกนิดเดียวก็จะ
00:11:38 → 00:11:41 ขึ้นไฟรถทันละอะไรอย่างเงี้ยเออไปทำงาน
00:11:41 → 00:11:43 ทันไม่สายหรือว่ามีเวลาอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:11:43 → 00:11:46 เอใชใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องระวัง
00:11:46 → 00:11:49 กับดักของตัวเราอ่ะก็คือความคาดหวังที่
00:11:49 → 00:11:52 เราคาดหวังเอออย่างบางทีเราก็คาดหวังกับ
00:11:52 → 00:11:55 คนรอบข้างไงมนุษย์นี่นอกจากจะคาดหวังต่อ
00:11:55 → 00:11:58 ตัวเองแล้วยังคาดหวังต่อผู้อื่นด้วยคาด
00:11:58 → 00:12:01 หวังว่าเออให้คนอื่นแบบรักเราให้คนอื่น
00:12:01 → 00:12:04 แบบเคารพเราให้คนอื่นเกรงใจเราให้คนอื่น
00:12:04 → 00:12:07 พูดกับเราเพราะๆพูดกับเราดีๆใช่มั้ยคะพอ
00:12:07 → 00:12:10 เราเจอแบบมนุษย์ป้าเค้าหน่อยเราก็เอาไม่
00:12:10 → 00:12:12 เป็นไปตามคาดหวังแล้วทำไมป้ามาใส่หนู
00:12:12 → 00:12:15 อย่างเงี้ยทำไมแบบป้ามาจากไหนเนี่ยเออเรา
00:12:15 → 00:12:18 ก็เริ่มผิดหวังแล้วเริ่มหงุดหงิดละอื
00:12:18 → 00:12:20 เหมือนมีเคยมีคนสอนเหมือนกันค่ะคุณหมอว่า
00:12:20 → 00:12:23 เวลาถ้าเราเจออะไรแบบนี้น่ะไม่ว่าใคร
00:12:23 → 00:12:25 กระทำกับเราหรืออะไรเงี้ยให้มองในอีกมุม
00:12:25 → 00:12:29 นึงแต่ในนาทีนั้นมันอาจจะแบบมองไม่ไหว
00:12:29 → 00:12:32 มันก็ถ้ามันโดนตำหนิมันก็รู้สึกแย่ถูกป่ะ
00:12:32 → 00:12:35 เพราะทุกคนก็คาดหวังว่าเราแบบไม่ให้โดน
00:12:35 → 00:12:36 ตำหนิไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่อย่าง
00:12:37 → 00:12:39 เงี้ยหรือว่าก็ความคาดหวังในเรื่องต่างๆ
00:12:39 → 00:12:43 แต่ถ้าให้ไม่คาดหวังเลยมันก็ไม่ได้มั้ย
00:12:43 → 00:12:47 อ่ะมันมันมันคาดหวังเองอ่ะเอออย่างงั้น
00:12:47 → 00:12:49 น่ะค่ะก็ต้องบอกว่าเราก็ต้องคาดหวังอย่าง
00:12:49 → 00:12:54 มีสติอืคาดหวังอย่างแบบพอดีพอเพียงอย่าไป
00:12:54 → 00:12:57 คาดหวังอะไรมากจนเกินไปยกตัวอย่างเช่นการ
00:12:57 → 00:13:00 ถูกตำหนิเนี่ยไม่มีใครอยากถูกตำหนิหรอก
00:13:00 → 00:13:03 เวลาที่เราโดนตำหนิเราก็จะรู้สึกแย่รู้
00:13:03 → 00:13:07 สึกหงุดหงิดรู้สึกเฮ้ยอะไรแต่บางทีอ่ะถ้า
00:13:07 → 00:13:11 เรามีสติรู้อ่ะเราก็ต้องมาดูนะว่าแบบ
00:13:11 → 00:13:14 เรื่องเนี้ยเคตำหนิเราเรื่องอะไรบางทีอ่ะ
00:13:14 → 00:13:17 มันใช่ความผิดเราหรือเปล่าบางทีเราอาจจะ
00:13:17 → 00:13:19 ไม่ได้ทำอะไรผิดนะแต่ว่าเราเจอมนุษย์
00:13:19 → 00:13:23 ท็อกซิกอ่ะอยู่ดีๆก็มาด่าอย่าเงี้ยเออมา
00:13:23 → 00:13:26 โทษเราบางทีอ่ะถ้าเรามีสติแล้วเราก็เออ
00:13:26 → 00:13:28 บอกตัวเองว่าเอออันเนี้ยมันเป็นเป็นปัญหา
00:13:28 → 00:13:31 ของเธอแล้วแหละคือไม่ใช่ปัญหาของฉันอย่า
00:13:31 → 00:13:33 เงี้ยเออเราก็จะจบอยู่แค่ตรงนั้นแล้วก็
00:13:34 → 00:13:37 ผ่านไปก็ถือว่าเออเหมือนแค่เดินไปแล้วก็
00:13:37 → 00:13:39 เหยียบขี้หมาเฉยๆอ่ะมันก็จะเลอะจะเหม็น
00:13:39 → 00:13:42 แล้วก็ไปล้างเราก็เดินก้าวเดินต่อไปแล้ว
00:13:42 → 00:13:44 ก็ระวังไม่ให้ไปเหยียบอีกใช่แล้วก็อย่าไป
00:13:44 → 00:13:47 ย่ำบางคนก็แบบยังย่ำเหยียบขี้หมาอยู่นั่น
00:13:47 → 00:13:49 แหละก็ยังคิดก็ยังทุกข์อยู่ตรงนั้นอยู่
00:13:49 → 00:13:53 เรื่อยๆเมันบางทีมันไม่ได้ออกในแง่ของแค่
00:13:53 → 00:13:55 ความรู้สึกอย่างเดียวใช่มั้ยคะมันมีภาษา
00:13:55 → 00:14:00 กายที่มันอาจจะออกมาที่แบบเราสึแบบแย่
00:14:00 → 00:14:03 หรือแม้กระทั่งแบบทางใจอะไรอย่างเงี้ย
00:14:03 → 00:14:05 อย่างทางใจเราก็รู้สึกไม่ไม่ดีมันวิตก
00:14:05 → 00:14:09 กังวลมันย้ำคิดย้ำทำวนเวียนสิ่งนั้นน่ะ
00:14:09 → 00:14:12 อยู่อย่างงั้นแหละไม่หลุดซะทีแต่ทางกาย
00:14:12 → 00:14:14 มันก็มีเหมือนกันใช่มั้ยแบบที่เคยเจอนะ
00:14:14 → 00:14:18 บางทีนอนไม่หลับนะใช่ค่ะเออก็จะคิดวกวน
00:14:18 → 00:14:22 คิดซ้ำๆย้ำๆเรื่องเดิมๆวนหลูบไปแล้วก็นอน
00:14:22 → 00:14:26 ไม่หลับบางคนก็เบื่ออาหารกินอะไรไม่อร่อย
00:14:26 → 00:14:30 เบื่อเซ็งบางคนก็ไม่มีสมาธิไม่มีกระจิต
00:14:30 → 00:14:32 กระจจะทำอะไรแบบอ่านหนังสือก็ไม่รู้
00:14:32 → 00:14:36 เรื่องทำงานก็ทำแบบไม่เสร็จสักทีแบบโฟกัส
00:14:36 → 00:14:41 ไม่ได้แบบทำอะไรนานๆไม่ได้จิตใจมันวาวุ่น
00:14:41 → 00:14:44 มันเป็นทุกข์ซังกระตายอย่างเงี้ยค่ะซึ่ง
00:14:44 → 00:14:46 ตรงเนี้ยอันตรายนะถ้าหากว่าเรารู้สึกว่า
00:14:46 → 00:14:51 เราดิ่งดาวมากจนเกินไปแล้วมันคงอยู่นาน
00:14:51 → 00:14:54 ต่อเนื่องยาวนานแล้วก็มันส่งผลกระทบต่อ
00:14:54 → 00:14:59 หน้าที่การงานสังคมหรือว่าส่งผลต่อกระทบ
00:14:59 → 00:15:01 ต่อร่างกายกินไม่ได้นอนไม่หลับเนี่ย
00:15:01 → 00:15:03 อันเนี้ยเป็นสัญญาณบ่งบอกแล้วแหละว่า
00:15:03 → 00:15:05 อารมณ์ดิ่งดาวนั้นน่ะมันอาจจะไม่ใช่แค่
00:15:05 → 00:15:09 อารมณ์ดิ่งดาวที่ปกติมันอาจจะเป็นอารมณ์
00:15:09 → 00:15:11 ดิ่งดาวอันเนื่องมาจากการเป็นโรคอารมณ์
00:15:11 → 00:15:14 ซึมเศร้าก็ได้ซึ่งต้องบอกว่าปัจจุบันนี้
00:15:14 → 00:15:17 เนี่ยคนเป็นโรคอารมณ์ซึมเศร้าคือเยอะมาก
00:15:17 → 00:15:20 นะคะคือโรคอารมณ์ซึมเศร้าอ่ะมันเป็นโรค
00:15:20 → 00:15:23 ความผิดปกติในการทำงานของสมองอย่างนึงนะ
00:15:23 → 00:15:26 มันไม่ใช่ว่าแบบคนจิตใจอ่อนแอก็เลยซึม
00:15:26 → 00:15:29 เศร้าอ่ะบางคนอ่ะจิตใจเข้มแข็งแบบแบบ
00:15:29 → 00:15:31 ชีวิตดีแต่วันนึงแบบเหมือนสมองมันไม่ทำ
00:15:31 → 00:15:35 งานน่ะมันผลิตสารเคมีออกมาไม่ได้มันไม่
00:15:35 → 00:15:39 เพียงพออยู่ดีๆก็ซึมเศร้านะอย่างบางทีเรา
00:15:39 → 00:15:42 เกิดความสงสัยว่าเฮ้ยเศรษฐีคนเนี้ยรวยๆ
00:15:42 → 00:15:45 ชีวิตก็ดี๊ๆเงินก็เยอะๆจะซึมเศร้าอะไร
00:15:45 → 00:15:49 ทำไมเนี่ยคือต้องบอกว่ามันเป็นโรคทางสมอง
00:15:49 → 00:15:52 อย่างนึงอ่ะแค่แบบมันมองไม่เห็นด้วยตา
00:15:52 → 00:15:55 เปล่ามันไม่ได้มีผื่นขึ้นไม่ได้ไข้สูงไม่
00:15:55 → 00:15:58 ได้ชักเกงกระตุกแต่ว่ามันเป็นอาการแสดง
00:15:58 → 00:16:01 ออกได้อารมณ์ด้านพฤติกรรมที่แบบเหนื่อย
00:16:01 → 00:16:05 ไม่มีแรงแบบรู้สึกแย่รู้สึกทุกข์รู้สึก
00:16:05 → 00:16:08 เศร้าแบบเนี้ยค่ะมันแบบเหมือนโลกมันอยู่
00:16:08 → 00:16:11 ในความมืดหม่นอย่างเงี้ยค่ะแสดงว่ามันก็
00:16:11 → 00:16:14 ไม่ได้มาการันตีว่าคนทุกคนจะต้องเจอ
00:16:14 → 00:16:17 เรื่องแย่ๆบ่อยๆแล้วมันจะมันจะดิ่งดาว
00:16:17 → 00:16:20 หรืออะไรเงี้ยบางทีอยู่ๆผิดหวังสักเรื่อง
00:16:20 → 00:16:23 นึงขึ้นมามันก็ทำให้เราดิ่งได้เหมือนกัน
00:16:23 → 00:16:25 แย่ได้เหมือนกันใช่ใช่ค่ะต้องบอกว่าโรค
00:16:25 → 00:16:28 อารมณ์ซึมเศร้าเนี่ยมันไม่เข้าใครออกใคร
00:16:28 → 00:16:31 นะบางคนแบบเคยสตองเคยเข้มแข็งอ่ะเอ้าวัน
00:16:31 → 00:16:34 นึงแบบเจอเรื่องเรื่องหนักกว่านี้ก็เจอมา
00:16:34 → 00:16:36 แล้วอ่ะวันนี้ทำไมเจอเรื่องแค่นี้เองทำไม
00:16:36 → 00:16:40 แบบเออซุมเศร้าทำไมแบบขึ้นมาไม่ได้แล้ว
00:16:40 → 00:16:42 ต้องบอกว่าบางทีมันเป็นการทำงานของสมอง
00:16:42 → 00:16:46 อ่ะสมองมันควบคุมแบบทุกอย่างของร่างกาย
00:16:46 → 00:16:48 เหมือนกองบัญชาการเราอยู่ที่สมองเนาะพอ
00:16:48 → 00:16:51 สมองมันรวนสมองมันทำงานไม่ได้เนี่ยมันก็
00:16:51 → 00:16:54 ทำให้ประสิทธิภาพศักยภาพเรามันไม่เต็ม
00:16:54 → 00:16:57 เท่าเดิมซึ่งอันเนี้ยก็สามารถมาปรึกษา
00:16:57 → 00:17:00 จิตแพทย์ได้นะคะถ้าเกิดว่าอาการปานกลางจน
00:17:00 → 00:17:03 ถึงรุนแรงเนี่ยสามารถรับประทานยารักษาารม
00:17:03 → 00:17:06 ซึมเศร้าได้ทานแค่แป๊บเดียวอาทิตย์ 2
00:17:06 → 00:17:08 อาทิตย์เนี่ยเริ่มดีขึ้นละกลับมาแบบเป็น
00:17:08 → 00:17:11 คนเดิมแฮปปี้ได้ละอค่ะแล้วมันเกี่ยวกับ
00:17:11 → 00:17:13 ไอ้เรื่องนี้ด้วยมั้ยคะว่าประสบการณ์
00:17:13 → 00:17:16 ชีวิตเอ่ออย่างบางคนนะที่แบบประสบการณ์
00:17:16 → 00:17:18 ผ่านมาน้อยพอมาเจอเรื่องนี้เข้าไปปึ๊บอาจ
00:17:18 → 00:17:21 จะทำให้รู้สึกแย่วิตกกังวลดิ่งดาวว่ากัน
00:17:21 → 00:17:24 ไปอะไรอย่างเงี้ยแต่บางคนบอกว่าเออฉัน
00:17:24 → 00:17:26 ผ่านมาแล้วฉันรู้วิธีและอันเนี้ยมันก็
00:17:26 → 00:17:29 เป็นส่วนใหม่เรื่องประสบการณ์ชีวิตเรื่อง
00:17:29 → 00:17:31 ของแบบเอ่อสิ่งที่เจอเจอบ่อยทำให้แข็ง
00:17:31 → 00:17:35 แกร่งขึ้นอย่าเงี้ใช่ค่ะก็มีส่วนค่ะคือ
00:17:35 → 00:17:38 เค้าเรียกว่ามันเป็นกลไกทางจิตเนาะถ้าคน
00:17:38 → 00:17:41 ไหนที่แบบมีกลไกทางจิตที่เข้มแข็งมี
00:17:41 → 00:17:44 ประสบการณ์เคยเรียนรู้เคยผ่านมาได้เนี่ย
00:17:44 → 00:17:47 เค้าก็จะมีความแข็งแกร่งแข็งแรงเหมือนเขา
00:17:47 → 00:17:51 มีวัคซีนทางใจของเค้าอ่ะอือเออเค้าแบบเคย
00:17:51 → 00:17:54 ผ่านเรื่องนี้มาละพออย่างสมมุติว่าอกหัก
00:17:54 → 00:17:57 อย่างเงี้ยเราอกหักครั้งแรกอ่ะเราจะทุกข์
00:17:57 → 00:18:00 มากเจ็บมากเฮิตมากอืเพราะเราไม่รู้ไงว่า
00:18:00 → 00:18:03 เราจะผ่านพ้นวินาทีความอกหักความทุกข์
00:18:03 → 00:18:06 ความเศร้าตรงนี้ไปได้ยังไงแต่พอเราอกหัก
00:18:06 → 00:18:08 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เออเรารู้แล้วว่า
00:18:09 → 00:18:12 เออมันก็จะทุกข์อยู่แป๊บนึงนะเดี๋ยวอีก
00:18:12 → 00:18:15 สักหน่อยเราก็จะเริ่มทำใจได้อีกสักหน่อย
00:18:15 → 00:18:18 เราก็จะดีขึ้นคือเหมือนเรามีประสบการณ์ละ
00:18:18 → 00:18:21 เราก็จะมองเห็นว่าเราจะต้องปฏิบัติตัวยัง
00:18:21 → 00:18:25 ไงแต่บางคนเนี่ยก็เคยมีประสบการณ์อกหัก
00:18:25 → 00:18:28 ครั้งที่แล้วเนี่ยก็ไม่ได้เฮิตไม่ได้เจ็บ
00:18:28 → 00:18:31 แต่พอครั้งเนี่ยมันเจ็บมากแบบทรุดมากเลย
00:18:31 → 00:18:34 เออบางทีมันก็ขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างเช่น
00:18:34 → 00:18:38 เราอาจจะคาดหวังมากเกินไปก็ได้ใจอไปเยอะ
00:18:38 → 00:18:41 ใช่เหมือนทุ่มเทไปเยอะเลยแล้วมันผิดหวัง
00:18:41 → 00:18:44 มันเหมือนแบบตกเหวอ่ะอือๆเออมันก็ต้องแบบ
00:18:45 → 00:18:48 กลับมาตั้งหลักต้องกลับมาแบบพูดง่ายๆเลีย
00:18:48 → 00:18:51 แผลตัวเองอ่ะรักษาเยียวยาจิตใจตัวเองให้
00:18:51 → 00:18:54 มันดีขึ้นแล้วอย่างคนที่ดิ่งดาวเนี่ยมัน
00:18:54 → 00:18:56 มีระยะเวลาที่มันรู้สึกว่าเอ้ยมันผิดปกติ
00:18:57 → 00:18:59 กว่าคนอื่นมั้ยอย่างเช่นถ้าเกิดเราเป็นคน
00:18:59 → 00:19:01 ที่อยู่ข้างนอกแล้วอาจจะมีคนที่เรารู้จัก
00:19:01 → 00:19:04 สนิทสนมแล้วรู้สึกแบบเอ๊ะทำไมยังไม่หายจ
00:19:04 → 00:19:07 มันมีระยะเวลามั้ยคะก็คือถ้าพูดถึงระยะ
00:19:07 → 00:19:10 เวลายกตัวอย่างเช่นถ้าเราสูญเสียถ้าเราอก
00:19:10 → 00:19:13 หักหรือว่าเราตกงานหรือเราผิดหวังอะไร
00:19:13 → 00:19:16 เงี้ยตามกลไกทางจิตของมนุษย์เนี่ยเดือน
00:19:16 → 00:19:19 นึงควรจะดีขึ้นเยอะละ 2 เดือนก็ควรจะดี
00:19:19 → 00:19:22 ขึ้นขึ้นมาอีกใช่มั้ยคะแต่ว่าถ้ามันแบบ
00:19:22 → 00:19:25 ยังแย่ประดุจดั่งแบบเหตุการณ์เพิ่งเกิด
00:19:25 → 00:19:28 ขึ้นหรือว่ามันส่งผลกระทบต่อหน้าที่ที่
00:19:28 → 00:19:32 การงานสังคมเนี่ยเออกินไม่ได้นอนไม่หลับ
00:19:32 → 00:19:34 เก็บตัวคือบางทีเราไม่ต้องรอระยะเวลานาน
00:19:35 → 00:19:38 น่ะเราก็สามารถที่จะมาปรึกษาได้เลยอืหรือ
00:19:38 → 00:19:40 อาจจะสังเกตว่าเอ๊ะทำไมเขาดูบุคลิก
00:19:40 → 00:19:43 เปลี่ยนไปจากแบบร่าเริงดูแฮปปี้มีความสุข
00:19:43 → 00:19:46 เอ๊ะทำไมแบบดูแบบเก็บตัวเงียบอย่างที่คุณ
00:19:46 → 00:19:49 หมอบอกเมื่อกี้ถูกต้องค่ะทีเนี้ยตอนนี้ก็
00:19:49 → 00:19:52 อยากจะสอนวิธี handle หรือจัดการกับ
00:19:52 → 00:19:56 อารมณ์ดิ่งอารมณ์ดาวนะคะช่วงแบบอากาศเย็น
00:19:56 → 00:20:00 คือจะมืดเร็วค่ำเร็วแบบกลางวันสั้นเนี่ย
00:20:00 → 00:20:03 เราจะพบว่าคนน่ะจะดาวด่งมากกว่าช่วง
00:20:03 → 00:20:06 ซัมเมอร์หรือว่าช่วงฤดูร้อนอฤดูกาลมีผล
00:20:06 → 00:20:09 ด้วยฤดูกาลมีผลด้วยค่ะคือโดยเฉพาะในต่าง
00:20:09 → 00:20:12 ประเทศที่กลางวันกับกลางคืนเขาต่างกันมาก
00:20:12 → 00:20:15 ๆในฤดูหนาวอย่างเงี้ยค่ะในฤดูหนาวบางที
00:20:15 → 00:20:17 เนี่ย 16:00 นเนี่ยเริ่มมืดเริ่มค่ำแล้ว
00:20:17 → 00:20:20 นะแล้วกลางคืนเนี่ยมันยาวนานกว่าจะเช้า
00:20:20 → 00:20:23 อีกก็กว่าพระอาทิตย์จะขึ้นเนี่ยตรงเนี้ย
00:20:23 → 00:20:26 ก็เพราะว่าคนจะแบบดิ่งดาวได้ง่ายจนถึง
00:20:26 → 00:20:29 พัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าได้เเรียก seasonal
00:20:29 → 00:20:32 depress นะคะซึ่งคนไทยก็เป็นเหมือนกัน
00:20:33 → 00:20:35 อย่างเนี่ยช่วงปลายปีเราจะพระอาทิตย์ตก
00:20:35 → 00:20:39 เร็วใช่มั้ยคะพเยเฮ้ยค่ำแล้วมืดตึ๊บละตรง
00:20:39 → 00:20:42 เนี้ยบางคนน่ะไปมีอาการแบบดิ่งดาวได้ง่าย
00:20:42 → 00:20:45 อือๆเพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะจัดการตัวเอง
00:20:45 → 00:20:48 ยังไงก็คือต้องมีสติรู้รู้ว่าเออเรารู้
00:20:48 → 00:20:52 สึกดิ่งนะเราดาวนะแล้วเราก็ต้องแบบค้นหา
00:20:52 → 00:20:54 ถามตัวเองว่าเฮ้ยเราแบบไม่สบายใจเรื่อง
00:20:54 → 00:20:57 อะไรมีเรื่องอะไรนะคะแล้วเราก็ต้องรู้จัก
00:20:57 → 00:21:00 แบบปอบปลมปลอบใจตัวเองเออไม่เป็นไรหรอก
00:21:00 → 00:21:02 อ๋อเรื่องนี้หรอเออไม่เป็นไรเดี๋ยวก็จัด
00:21:02 → 00:21:04 การแบบนี้ไปบนี้ไปนะเอออ่ะไม่เป็นไร
00:21:05 → 00:21:07 เดี๋ยวค่อยว่ากันเนี่ยเราจะต้องมีสกิลใน
00:21:07 → 00:21:10 การแบบปลอบลมตัวเองอ่ะเหมือนแม่ปลอบปลม
00:21:10 → 00:21:14 ลูกอ่ะอืเออเพราะฉะนั้นน่ะเพบว่าคนไหนที่
00:21:14 → 00:21:18 มีแม่หรือมีคนเลี้ยงดูที่แบบเลี้ยงดูด้าน
00:21:18 → 00:21:22 จิตใจดีๆคอยแบบซัพพอร์ตคอยเป็นกำลังใจคอย
00:21:23 → 00:21:26 ดูแลเนี่ยคือคอยปอบรม์ลูกในวัยเด็กได้ดี
00:21:26 → 00:21:29 อ่ะเด็กพวกเนี้ยพอโตมาจะปอบปรมตัวเองได้
00:21:29 → 00:21:32 ดีเช่นเดียวกันอืแต่ขณะเดียวกันเด็กที่
00:21:32 → 00:21:36 ตอนเด็กๆอ่ะไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่แบบดี
00:21:36 → 00:21:40 ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เออพวกเนี้ยพอ
00:21:40 → 00:21:43 เหมือนไม่เคยมีใครปอบโลมไงก็เลยปลอบตัว
00:21:43 → 00:21:46 เองไม่เป็นเพราะว่าพ่อแม่ไม่เคยปอบมาก่อน
00:21:46 → 00:21:49 เออเอออันเนี้ยมีส่วนนะคะเพราะฉะนั้นหาก
00:21:49 → 00:21:52 ใครมีลูกอ่ะลูกทุกข์อะไรเศร้าเรื่องอะไร
00:21:52 → 00:21:55 น่ะเราก็จะถามลูกหนูเป็นอะไรมีอะไรเล่า
00:21:55 → 00:21:57 ให้ฟังมั้ยเนี่ยเพราะเราโตขึ้นน่ะเวลาเรา
00:21:57 → 00:22:00 ทุกขเราสราบอ่ะเราก็จะเหมือนแบบเราเป็น
00:22:00 → 00:22:03 พ่อแม่ตัวเองอ่ะที่ถามว่าแบบเออเราทุกข์
00:22:03 → 00:22:06 ใจเรื่องอะไรเราเป็นอะไรเออเรารู้สึกไม่
00:22:06 → 00:22:09 ดีเรื่องอะไรหรออ่ะถ้าไม่ดีเรื่องนี้ต้อง
00:22:09 → 00:22:12 จัดการยังไงเออเนาะอันเนี้ยเราก็เป็นวิธี
00:22:13 → 00:22:15 ที่เราจะต้องแบบให้กำลังใจตัวเองรู้จัก
00:22:15 → 00:22:18 กอดตัวเองรู้จักเชียร์ up ตัวเองกำลังรู้
00:22:18 → 00:22:21 สึกว่าเราต้องหันมาคุยกับตัวเองบ้างรู้
00:22:21 → 00:22:25 แบบว่าถูถามตัวเองบ้างว่าณวันเนี้ยตอน
00:22:25 → 00:22:30 เนี้ยรู้สึกยังไงถกใช่มคะเพื่อบรเทาความ
00:22:30 → 00:22:33 ลงดิ่งลงอารมณ์มันแย่ลงไปเรื่อยๆเพราะคิด
00:22:33 → 00:22:36 ว่าเฮ้ยเราไม่มีใครเลยแต่เราลืมว่าตัวเรา
00:22:36 → 00:22:39 เองนี่แหละที่แบบอบกอดตัวเองได้เนาะอใช่
00:22:39 → 00:22:42 จริงๆแล้วอ่ะเราต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่
00:22:42 → 00:22:45 สุดของตัวเองเป็นเหมือนโค้ชอ่ะเดี๋ยว
00:22:45 → 00:22:48 เนี้ยบางคนน่ะวิ่งหาแต่ไลฟ์โค้ชวิ่งหาแบบ
00:22:48 → 00:22:49 ที่
00:22:49 → 00:22:52 ปรึกษาลืมปรึกษาตัวเองหรือเปล่าลืมให้คำ
00:22:52 → 00:22:54 ปรึกษาตัวเองหรือเปล่าใช่มั้ยคะเราก็ต้อง
00:22:54 → 00:22:58 แบบเออให้กำลังใจตัวเองซัพพอร์ตตัวเอง
00:22:58 → 00:23:02 เนี่ยเออก่อนอื่นที่เรามันก็ต้องมีสติรู้
00:23:02 → 00:23:04 ก่อนนะว่าเออเรารู้สึกไม่ดีเรารู้สึก
00:23:04 → 00:23:07 เศร้าเรารู้สึกแย่เนาะเราก็ปอบรม์ตัวเอง
00:23:07 → 00:23:11 แล้วก็พอคิดเสร็จแล้วเนี่ยต้องหาอะไรทำ
00:23:11 → 00:23:14 อย่าจมอยู่กับความคิดตรงนี้บางคนแบบเออ
00:23:14 → 00:23:17 คิดแล้วก็มันเลยวนอยู่ในหลูปคิดไปคิดมา
00:23:17 → 00:23:21 เออเราก็ต้องปอบตัวเองเสร็จปึ๊บลุกขึ้นมา
00:23:21 → 00:23:24 หาอะไรทำหากิจกรรมทำนู่นทำนี่อย่าจมอยู่
00:23:24 → 00:23:27 กับความทุกข์ความเศร้าตรงนี้หาอะไรที่ตัว
00:23:27 → 00:23:30 เองชอบทำบางคนชอบชบดูหนังบางคนชอบฟังเพลง
00:23:30 → 00:23:34 บางคนชอบทำขนมไปทำเลยค่ะจะจมอยู่กับมันอ
00:23:34 → 00:23:37 ค่ะก็มันมีหลากหลายวิธีแล้วแต่อันนี้ก็
00:23:37 → 00:23:40 ใช้วิธีการเล่นเกมดูซีรีส์เดี๋ยวเราก็ลืม
00:23:40 → 00:23:43 ค่ะใช่ถึงเวลาเราก็หลับค่ะอะไรประมาณนี้
00:23:43 → 00:23:45 ถูต้องค่ะอันเนี้ยมันก็ต้องเป็นสกิลอย่าง
00:23:45 → 00:23:49 นึงนะที่เราต้องแบบรู้จักที่จะแบบปอบ
00:23:49 → 00:23:51 อารม์ตัวเองหาอะไรทำแล้วต้องหยุดให้เป็น
00:23:51 → 00:23:56 น่ะหยุดความคิดด้านลบให้เป็นเออน่าสนใจ
00:23:56 → 00:23:59 เนาะใช่แล้วก็เลือกแต่จะคุยกับคนอื่นน่ะ
00:23:59 → 00:24:01 แต่เราไม่เคยคุยกับตัวเองเลยถูกต้องค่ะ
00:24:02 → 00:24:04 แล้วบางทีเราก็ต้องแบบรู้ด้วยนะว่าเราจะ
00:24:04 → 00:24:08 ดาวดิ่งช่วงไหนเช่นเอาละเนี่ยโพ้เพพพระ
00:24:08 → 00:24:11 อาทิตย์เริ่มตกไอ้ช่วงแบบมันกึ่งๆ
00:24:11 → 00:24:13 บรรยากาศพาไปเนี่ยเราจะทุกข์เราจะเริ่ม
00:24:13 → 00:24:15 ดราม่ากับตัวเองละเพราะฉะนั้นเนี่ยช่วง
00:24:15 → 00:24:18 เวลาเนี้ยเราต้องแบบนัดเพื่อนไปตีแบบละ
00:24:18 → 00:24:21 อะไรอย่างเงี้ยอ๋อออกกำลังกลืมๆมช่วงเวลา
00:24:21 → 00:24:24 นั้นไปใช่ใช่เราต้องรู้เลยช่วงหลุมดำของ
00:24:24 → 00:24:27 เราอ่ะมันเป็นช่วงไหนบางคนแบบจะเป็นช่วง
00:24:27 → 00:24:30 ก่อนนอนแต่ละคนจะมีพม time ของตัวเองไม่
00:24:30 → 00:24:33 เหมือนกันไงเออบางคนน่ะเป็นช่วงก่อนนอน
00:24:33 → 00:24:36 อ่ะคนอื่นเข้านงเข้านอนละเหลืออยู่กับตัว
00:24:36 → 00:24:38 เองเอาละเริ่มดราม่าละคิดเรื่องนั้น
00:24:38 → 00:24:41 เรื่องนี้เริ่มแบบร้องไห้บีบน้ำตาละเออ
00:24:41 → 00:24:44 เราก็ต้องดูว่าเออพม Time เราช่วงนี้เรา
00:24:44 → 00:24:47 ก็ต้องหาอะไรทำเช่นอ่ะดูซีรี่ส์มันเลยคืน
00:24:47 → 00:24:50 นี้อ่ะเวลาเนี้ย 21:00 นเอาลฉันจะเริ่ม
00:24:50 → 00:24:53 ดิ่งละเออซีรี่ส์ก็ต้องเลือกดูเรื่องที่
00:24:53 → 00:24:57 มันจะลงใจด้วยนะเอออยากไปดูซีรีส์ที่แบบ
00:24:57 → 00:24:59 โอ๊ยดูแล้วก็แบบชีวิตรันทดเศร้าหนักกว่า
00:25:00 → 00:25:02 เดิมร้องไห้มากกว่าเดิมนะไปดูอะไรที่มัน
00:25:02 → 00:25:06 ขำๆตลกๆไปใช่สมกสหานหรือดูอะไรที่แบบเรา
00:25:06 → 00:25:09 ชอบเพราะอะไรคนหนึติดซีรีส์รู้มั้ยคะ
00:25:09 → 00:25:13 เพราะว่ามันได้ออกจากชีวิตตัวเองเไปอยู่
00:25:13 → 00:25:16 ในชีวิตพระเอกนางเอกฉันอยากเป็นนางเอกถูก
00:25:16 → 00:25:20 ต้องค่ะเอ้ยแต่มันเป็นความสุขอย่างนึงนะ
00:25:20 → 00:25:23 เอาจริงๆแบบว่าใช่เหนื่อยๆมากบไปเดี๋ยว
00:25:23 → 00:25:26 ฉันจะกลับไปดูซีรีส์เออคือซีรีส์ที่ดีอ่ะ
00:25:26 → 00:25:30 มันก็จะสนุกแล้วสังเกตดูมันจะฮิวใจดูแล้ว
00:25:30 → 00:25:36 เราจะแบบใจฟูฮึกเหิมแบบีเออฮิวใจอ่ะสนุก
00:25:36 → 00:25:40 อ่าเนี่ยสายซีรี่ส์แน่ใจสายซีรี่ส์แต่ตอน
00:25:40 → 00:25:42 นี้ไม่มีเวลาดูเลยค่ะหลังจากเลี้ยงลูก
00:25:42 → 00:25:44 แล้วเสร็จแล้วก็อกหลังจากมีลูกเนี่ยค่ะ
00:25:44 → 00:25:46 เลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยค่ะเออแต่ว่าก็
00:25:46 → 00:25:48 เป็นแนวทางที่ดีนะคะคือแต่ว่าบางคนอาจจะ
00:25:48 → 00:25:51 บอกโอ้โหมันก็ง่ายแหละพูดมันก็ง่ายแหละ
00:25:51 → 00:25:54 แต่เวลาทำอ่ะมันยากแต่ถ้าไม่ลองไม่เริ่ม
00:25:54 → 00:25:57 ไม่ค่อยๆเอาตัวเองออกมาคืออย่าลืมนะคะว่า
00:25:57 → 00:26:01 ไม่ได้มีใครรอรับซัพพอร์ตเราได้ตลอดเวลา
00:26:01 → 00:26:04 ตลอด 24 ชมงเราจะโทรไปสมมุติเอ่อรีจะโทร
00:26:04 → 00:26:07 หาคุณหมอแอร์อย่างเงี้ยตลอด 24 ชมมันก็
00:26:07 → 00:26:09 เป็นไปไม่ได้ถูกมั้ยคะเพราะงั้นตัวเรา
00:26:09 → 00:26:12 ต้องเอาตัวเองออกมาให้ได้เบื้องต้นแต่ทำ
00:26:12 → 00:26:15 ไม่ได้จริงๆปรึกษาจิตแพทย์ก็ได้นะคะซึ่ง
00:26:15 → 00:26:18 ต่างๆเหล่านี้เนี่ยก็ไม่ได้บอกว่าอุ๊ยเรา
00:26:18 → 00:26:20 เป็นบ้าแล้วเราไปพบจิตแพทย์เราบ้าแล้วแน่
00:26:20 → 00:26:24 เลยมันไม่ใช่บางทีต้องต้องหาคนคุยที่ไว้
00:26:24 → 00:26:27 ใจได้แค่นั้นเองนะคะเพรางั้นก็ฝากคุณผู้
00:26:27 → 00:26:30 ฟังไว้ะกันเนาะขอบคุณคุณหมอค่ะยินค่ะ
00:26:30 → 00:26:33 สวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะเป็นแนวทางนะคะแล้วเรา
00:26:33 → 00:26:36 จะกลับมาพบกันใหม่กับรายการโรงหมอทางไทย
00:26:36 → 00:26:38 PBS podcast นะคะวันนี้ลาไปก่อนค่ะ
00:26:38 → 00:26:42 สวัสดีค่ะ This Is tha PBS podcast
00:26:42 → 00:26:44 ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบภูมิ
00:26:45 → 00:26:47 แพ้อาการแบบไหนจำเป็นต้องไปหาหมอรอง
00:26:47 → 00:26:51 ศาตราจารย์ดรอาภาหนูคงคณะพยาบาลศาสตร์
00:26:51 → 00:26:55 มหาวิทยาลัยมหิดลมาเล่าให้ฟังครับโรคภูมิ
00:26:55 → 00:26:58 แพ้เนี่ยนะคะความจริงแล้วเป็นได้หลายระบบ
00:26:58 → 00:27:02 ทั้งระบบทางเดินหายใจผิวหนังระบบทางเดิน
00:27:02 → 00:27:05 อาหารถ้าในระบบทางเดินหายใจเนี่ยก็จะพบ
00:27:05 → 00:27:08 บ่อยๆอยู่ 2 โรคแต่โรคที่เราเจอกันบ่อย
00:27:08 → 00:27:11 แล้วก็เป็นเยอะกันมากขึ้นช่วงนี้คือโรค
00:27:11 → 00:27:15 จมูกอักเสบภูมิแพ้แต่นอกจากโรคจมูกอักเสบ
00:27:15 → 00:27:18 ภูมิแพ้แล้วเนี่ยโรคที่พบอีกอันนึงคือโรค
00:27:18 → 00:27:22 หืดอาการจะไปปรากฏที่ทางเดินหายใจนะคะก็
00:27:22 → 00:27:26 คือหลอดลมโดยเฉพาะหลอดลมฝอยในสมัยก่อนเขา
00:27:26 → 00:27:28 เรียกโรคคืดเพราะว่าเวลาเด็กหายจก็จะมี
00:27:28 → 00:27:31 เสียงดังวีดซึ่งกันดังอื๊ดๆเพราะฉะนั้น
00:27:31 → 00:27:35 เนี่ยภูมิแพ้เหมือนกันแต่อวัยวะที่มี
00:27:35 → 00:27:39 ปฏิกิริยาต่อสิ่งกระตุ้นต่างกันก็จะทำให้
00:27:39 → 00:27:42 เกิดอาการต่างกันถ้ามีพ่อแม่หรือว่าญาติ
00:27:42 → 00:27:45 พี่น้องเป็นโรคภุมแพ้เด็กก็มีโอกาสเสี่ยง
00:27:45 → 00:27:48 ที่จะเป็นโรคภูมิแผ้เพิ่มมากขึ้นแต่ในขณะ
00:27:48 → 00:27:51 เดียวกันนะคะปัจจัยตัวที่ 2 ก็คือปัจจัย
00:27:51 → 00:27:54 ด้านสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมเนี่ยนะคะก็มี
00:27:54 → 00:27:57 ทั้งสิ่งแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจงคือเป็น
00:27:57 → 00:28:00 สิ่งที่เราแผหรืออีกตัวนึงนะคะก็จะเป็น
00:28:00 → 00:28:04 ตัวกระตุ้นซึ่งเกิดขึ้นในปริมาณมากๆแต่
00:28:04 → 00:28:07 ว่าไม่ได้เป็นตัวเฉพาะเจาะจงกับเราเช่น PM
00:28:07 → 00:28:10 2.5 แต่ความที่มันเยอะมากมันมีผลที่ทำ
00:28:10 → 00:28:13 ให้เกิดอาการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของ
00:28:13 → 00:28:16 เด็กอาการง่ายๆเลยก็คือคัดจมูกน้ำมุกไหล
00:28:16 → 00:28:20 ไอจามถ้าเป็นมากๆนะคะบางคนเป็นมากเนี่ยก็
00:28:20 → 00:28:24 อาจจะมีไอมีเสมหะหายใจเริ่มมีเสียงบีก็มี
00:28:24 → 00:28:27 เหมือนกันบางคนเป็นมากก็จะสังเกตเห็นเด็ก
00:28:27 → 00:28:30 ที่เป็นตาดำๆนะคล้ายๆกับตาเป็นเหมือนหมี
00:28:30 → 00:28:34 แพนด้าทีนี้ถ้าหากว่าเป็นโรคหืดหรือโรค
00:28:34 → 00:28:36 หอบหืดเนี่ยนะคะกลุ่มนี้จะเป็นอาการที่ไป
00:28:36 → 00:28:40 ลงไปที่หลอดลมนะคะก็จะทำให้หลอดลมตีบ
00:28:40 → 00:28:43 เพราะฉะนั้นเนี่ยพอหลอดลมตีบนะคะแล้วก็
00:28:43 → 00:28:45 ร่วมกับมีการสร้างสารคัดหลังเพิ่มมากขึ้น
00:28:45 → 00:28:48 เพงั้นก็จะมีเสมหะหลอดลมบวมเนาะแล้วก็จะ
00:28:48 → 00:28:52 อันแรกก็จะมีอาการไอหายใจเร็วขึ้นอนะคะ
00:28:52 → 00:28:55 บางทีเด็กหายใจจมูกบานหายใจหอบเหนื่อย
00:28:55 → 00:28:58 หน้าอกบูมหรือเด็กบางทีเด็กบอกว่านั่น
00:28:58 → 00:29:00 หน้าอกหายใจไม่ออกอันนั้นก็จะอาการมาก
00:29:00 → 00:29:03 ขึ้นโรคจมูกอักเสบภูมแพเนี่ยนะคะมันจะ
00:29:03 → 00:29:05 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มกลุ่มประเภทที่ว่า
00:29:05 → 00:29:09 เป็นบางช่วงอีกกลุ่มหนึ่งก็คือเป็นตลอดปี
00:29:09 → 00:29:12 เช้าขึ้นมาบางคนก็คัดจมูกน้ำมุกไหลทั้งปี
00:29:12 → 00:29:15 หรือบางคนก็เป็นช่วงช่วงเฉพาะที่มีฝุ่น
00:29:15 → 00:29:18 ละอองหรือบางคนก็เป็นช่วงหน้าฝนเพราะ
00:29:18 → 00:29:21 อากาศชื้นก็มีก็แล้วแต่นะคะว่าตัวกระตุ้น
00:29:21 → 00:29:24 อะไรถ้าเป็นแล้วเอ่อรับประทานยาแก้แพ้
00:29:24 → 00:29:27 อาการดีขึ้นนะคะจัดการอาการได้อันนั้นถือ
00:29:27 → 00:29:30 ว่าเป็นเล็กน้อยนะคะหรือเป็นบางครั้งบาง
00:29:30 → 00:29:35 คราวแต่ถ้าเป็นมากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์
00:29:35 → 00:29:38 หรือเป็นติดต่อกันสักเดือนนึงในขณะที่เรา
00:29:38 → 00:29:41 คิดว่าเราดูแลตนเองดีแล้วนะคะควรคิดว่าจะ
00:29:41 → 00:29:44 ต้องไปพบแพทย์แล้วล่ะ
00:29:44 → 00:29:49 ค่ะ This Is Thai PBS
00:29:49 → 00:29:52 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:29:52 → 00:29:54 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:29:54 → 00:29:57 www.thaipbs.or.th
00:29:58 → 00:30:01 แอปพลิเคชัน Thai PBS podcast รวมถึง
00:30:01 → 00:30:04 ฟังผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ spotify
00:30:04 → 00:30:09 YouTube Apple podcast และ soundcloud
00:30:09 → 00:30:12 [เพลง]