00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่านวันนี้เราจะมา
00:00:05 → 00:00:07 ทุยกันเรื่องหลักการโภชนาการในการแพทย์
00:00:07 → 00:00:10 แผ่นจีนกันค่ะตามหลักการแพทย์แผ่นจีน
00:00:10 → 00:00:13 เนี่ยเราพิจารณาคุณลักษณะของอาหารในแง่
00:00:13 → 00:00:17 ของคุณสมบัติเชิงคุณภาพและองค์รวมนะคะ
00:00:17 → 00:00:20 ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีโภชนาการแบบตะวันตก
00:00:20 → 00:00:22 ที่เน้นการจำแนกตามส่วนประกอบทางวัตถุ
00:00:22 → 00:00:26 อย่างคาร์โบไฮเดรตไขมันโปรตีนวิตามินและ
00:00:26 → 00:00:30 แร่ธาตุค่ะในการแพทย์แผนจีน
00:00:30 → 00:00:32 อาหารถูกมองว่าเป็นตัวแทนการบำบัดแบบอ่อน
00:00:32 → 00:00:36 โยนที่ช่วยให้ร่างกายเราคงอยู่ในภาวสมดุล
00:00:36 → 00:00:40 หรือกลับสู่ภาวะสมดุลได้ค่ะการจำแนกอาหาร
00:00:40 → 00:00:42 ในการแพทย์แผ่นจีนใช้เกณฑ์เดียวกับ
00:00:42 → 00:00:45 สมุนไพรจีนเลยนะคะนั่นก็คือธรรมชาติทาง
00:00:46 → 00:00:50 ความร้อนรสชาติเครือข่ายอวัยวะและทิศทาง
00:00:50 → 00:00:53 ของการไหลของพลังงานค่ะมาดูกันที่
00:00:53 → 00:00:55 คุณลักษณะสำคัญของอาหารในการแพทย์แผ่นจีน
00:00:55 → 00:01:00 นะคะอย่างแรกคือธรรมชาติทางความร้อนค่ะ
00:01:00 → 00:01:02 อาหารจะถูกจัดหมดหมู่ตามผลกระทบต่อ
00:01:02 → 00:01:06 อุณหภูมิในร่างกายออกเป็นร้อนอุ่นเป็น
00:01:06 → 00:01:11 กลางเย็นและหนาวค่ะอาหารหยางมักจะมี
00:01:11 → 00:01:14 คุณสมบัติทางความร้อนแบบอุ่นถึงร้อนในขณะ
00:01:14 → 00:01:16 ที่อาหารหยินมักจะมีคุณสมบัติทางความร้อน
00:01:16 → 00:01:21 แบบเย็นถึงหนาวค่ะยกตัวอย่างเช่นกาแฟถือ
00:01:21 → 00:01:23 ว่ามีคุณสมบัติทางความร้อนที่ร้อนและทำ
00:01:23 → 00:01:27 ให้ร่างกายขาดน้ำนะคะส่วนอาหารดิบผลไม้
00:01:27 → 00:01:30 โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อนและผลิตภัณฑ์นมที่
00:01:30 → 00:01:33 มากเกินไปถือว่ามีพลังงานที่เย็นเกินไป
00:01:33 → 00:01:36 ค่ะวิธีการปรุงอาหารก็ส่งผลต่อธรรมชาติ
00:01:36 → 00:01:40 ทางความร้อนของอาหารได้นะคะเช่นการย่าง
00:01:40 → 00:01:44 การหัดเร็วๆการปรุงด้วยแอลกอฮอล์และการรม
00:01:44 → 00:01:47 ควันเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับอาหารค่ะ
00:01:47 → 00:01:50 ส่วนการต้มด้วยน้ำปริมาณมากการปรุงด้วย
00:01:50 → 00:01:53 ส่วนผสมที่ให้ความเย็นและการนึ่งเป็นวิธี
00:01:53 → 00:01:59 การที่ทำให้เย็นลงค่ะถัดมาคือรสชาติหรือ
00:01:59 → 00:02:03 อู๋ไว้นะคะแต่ละรสชาติไม่ว่าจะเป็นเผ็ด
00:02:03 → 00:02:07 เปรี้ยวหวานขมเค็มมีผลเฉพาะต่อร่างกายและ
00:02:07 → 00:02:09 เชื่อมโยงกับเครือข่ายอวัยวะที่แตกต่าง
00:02:09 → 00:02:14 กันค่ะรสเผ็ดจะเสริมสร้างปอดขับปัจจัยก่อ
00:02:14 → 00:02:17 รอกภายนอกโดยเฉพาะลมเย็นกระตุ้นการขับ
00:02:17 → 00:02:22 เหงื่อกระตุ้นชลดภาวะชี้ติดขัดทางอารมณ์
00:02:22 → 00:02:25 ค่ะส่วนรสเปรี้ยวมีฤทธิ์ฝ่าสมานและรักษา
00:02:25 → 00:02:29 สารน้ำช่วยให้ร่างกายสดชื่นลดเหงื่อเสริม
00:02:29 → 00:02:32 หยินและช่วยระงับอารมณ์ที่ร้อนจัดในตับ
00:02:32 → 00:02:35 หรือถุงหลมดีค่ะแต่ว่าควรหลีกเลี่ยงรส
00:02:35 → 00:02:39 เปรี้ยวเมื่อมีภาวะลมเย็นเฉียบพลันนะคะ
00:02:39 → 00:02:42 ส่วนรสหวานมีผลเสริมสร้างพลังที่แข็งแรง
00:02:42 → 00:02:46 ที่สุดค่ะสัมพันธ์กับด้านดินหรือมี
00:02:46 → 00:02:49 ประโยชน์ในช่วงที่ใช้ความคิดมากค่ะแต่การ
00:02:49 → 00:02:52 บริโภคน้ำทรายขาวบริสุทธิ์มากเกินไปจะทำ
00:02:52 → 00:02:55 ให้ม้าอ่อนแอและก่อให้เกิดความชื้นและ
00:02:55 → 00:02:59 เสมหะได้ค่ะส่วนรสเค็มสามารถเติมเต็มสาร
00:02:59 → 00:03:02 น้ำได้เนื่องจากคุณสมบัติการดูดความชื้น
00:03:02 → 00:03:05 และสัมพันธ์กับเครือข่ายไตค่ะแต่การ
00:03:05 → 00:03:08 บริโภคเค็มเกินไปทำให้ไตทำงานหนักและสะสม
00:03:08 → 00:03:11 ความชื้นนะคะตามหลักที่ว่าเค็มเข้าไตแต่
00:03:11 → 00:03:16 เกินไปทำลายไตค่ะส่วนรสขมมีประโยชน์สำคัญ
00:03:16 → 00:03:20 เช่นระบายความร้อนขับทกลดการติดเชื้อค่ะ
00:03:20 → 00:03:23 อย่างไรก็ตามการบริโภคมากเกินไปอาจทำให้
00:03:23 → 00:03:27 เลือดและสารน้ำในร่างกายแห้งได้นะคะมาดู
00:03:27 → 00:03:30 กันที่เครือข่ายอวัยวะกันค่ะอาหารแต่ละ
00:03:30 → 00:03:33 ชนิดมีผลต่อเครือข่ายอวัยวะเฉพาะในร่าง
00:03:33 → 00:03:38 กายนะคะเช่นหมามกระเพาะอาหารตับถุงน้ำดี
00:03:38 → 00:03:41 หัวใจลำไส้ปอดลำไส้ใหญ่และไตกระเพาะ
00:03:41 → 00:03:44 ปัสสาวะค่ะมั้ำและกระเพาะอาหารหรือที่เรา
00:03:44 → 00:03:47 เรียกว่า center burner หรือ center
00:03:47 → 00:03:50 burner มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลักการ
00:03:50 → 00:03:53 โภชนาการจีนค่ะเนื่องจากเป็นส่วนที่รับ
00:03:53 → 00:03:56 ประมวลผลและย่อยอาหารคุณภาพภาพของอาหาร
00:03:56 → 00:03:58 ที่เราให้ Center Burner นี้ล่ะค่ะเป็น
00:03:58 → 00:04:01 ตัวกำหนดแหล่งพลังงานทั้งหมดของร่างกาย
00:04:01 → 00:04:03 รวมถึงคุณภาพและปริมาณของเลือดและสารน้ำ
00:04:03 → 00:04:08 ของเราด้วยค่ะต่อมาคือทิศทางของการไหลของ
00:04:08 → 00:04:11 พลังงานหรือ Movement Cost by Food นะ
00:04:11 → 00:04:15 คะคุณลักษณะนี้จะอธิบายว่าอาหารมีผลต่อ
00:04:15 → 00:04:17 การเคลื่อนที่ของชี้ในร่างกายเราอย่างไร
00:04:17 → 00:04:21 ค่ะแบบแรกคือเคลื่อนขึ้นด้านบนอาหารที่ทำ
00:04:21 → 00:04:24 ให้หยางเคลื่อนขึ้นด้านบนมักมีรสหวานเผ็ด
00:04:24 → 00:04:27 และธรรมชาติทางความร้อนปานกลางค่ะคืออุ่น
00:04:27 → 00:04:30 หรือเป็นกลางนั่นเองส่วนแบบที่ 2 เคลื่อน
00:04:30 → 00:04:33 ออกด้านนอกค่ะคือเคลื่อนชี้ขึ้นและออก
00:04:33 → 00:04:36 เช่นกระตุ้นการขับเหงื่อขับปัจจัยก่อโรค
00:04:36 → 00:04:40 ภายนอกสลายความเย็นและลมอาหารกลุ่มนี้จะ
00:04:40 → 00:04:43 มีคุณสมบัติทางความร้อนที่ร้อนถึงอุ่นและ
00:04:43 → 00:04:46 รสหวานเผ็ดค่ะส่วนแบบสุดท้ายเคลื่อนลง
00:04:46 → 00:04:49 ด้านล่างคือเคลื่อนชี่ลงและเข้าด้านใน
00:04:49 → 00:04:52 รักษาชี้และสั่นน้ำไว้ภายในค่ะอาหารกลุ่ม
00:04:52 → 00:04:55 นี้จะมีคุณสมบัติทางความร้อนเย็นบางและ
00:04:55 → 00:04:59 ส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยวค่ะนอกจากคุณลักษณะ
00:04:59 → 00:05:01 หลักๆแล้วยังมีอีก 3 ปัจจัยสำคัญที่ควม
00:05:01 → 00:05:05 ใส่ใจนะคะอย่างแรกคือคุณภาพของอาหารค่ะ
00:05:05 → 00:05:08 การบริโภคอาหารที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่ง
00:05:08 → 00:05:10 สำคัญสำหรับสุขภาพที่ดีของกระเพาะอาหาร
00:05:10 → 00:05:13 ของเรานะคะแนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์
00:05:13 → 00:05:16 ออร์แกนิคค่ะเพราะมักจะมีสารอาหารสูงกว่า
00:05:16 → 00:05:19 และดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะถัดมาคือ
00:05:19 → 00:05:22 ปริมาณอาหารควรรับประทานอาหารในปริมาณที่
00:05:22 → 00:05:26 เหมาะสมและหยุดเมื่ออร่อยที่สุดค่ะการรับ
00:05:26 → 00:05:29 ประทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดง่วงซึม
00:05:29 → 00:05:32 และทำให้ระบบย่อยอาหารอ่อนแอลงได้ค่ะและ
00:05:32 → 00:05:36 สุดท้ายคือพฤติกรรมการกินและสิ่งแวดล้อม
00:05:36 → 00:05:38 การรับประทานอาหารด้วยความเพลิดเพลินใน
00:05:38 → 00:05:41 บรรยากาศที่ผ่อนคลายและไม่มีสิ่งรบกวนภาย
00:05:41 → 00:05:44 นอกช่วยส่งเสริมการสร้างชีพที่ดีจากอาหาร
00:05:44 → 00:05:47 ค่ะควรหลีกเลี่ยงการสนทนาที่ตึงเครียด
00:05:47 → 00:05:50 สิ่งรบกวนและอารมณ์เชิงลบระหว่างมื้อ
00:05:50 → 00:05:53 อาหารนะคะเพราะสิ่งเหล่านี้อาจขัดขวางและ
00:05:53 → 00:05:55 ทำให้ชีพของอวัยวะย่อยอาหารอ่อนแอลงได้
00:05:56 → 00:05:59 ค่ะและการรับประทานอาหารอย่างสม่ำเสมอทาน
00:05:59 → 00:06:02 อาหารเช้าที่อิ่มหนำอย่างสบายๆเป็นสิ่ง
00:06:02 → 00:06:05 สำคัญค่ะควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร
00:06:05 → 00:06:08 ดึกเกินไปนะคะหวังว่าข้อมูลในวันนี้จะ
00:06:08 → 00:06:14 เป็นประโยชน์กับทุกท่านนะคะขอบคุณมากค่ะ