00:00:00 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:06 You're listening to Sad X Channel
00:00:06 → 00:00:07 podcast
00:00:07 → 00:00:11 >> สวัสดีครับและนี่คือรายการพcส
00:00:11 → 00:00:14 ดีสร้างได้พื้นที่แบ่งปันความรู้สำหรับคน
00:00:14 → 00:00:20 รักสุขภาพทุกท่าน
00:00:20 → 00:00:23 คุณผู้ฟังเคยสงสัยมั้ครับว่าทำไมคุณเรา
00:00:23 → 00:00:26 ถึงเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุน้อยลงเรื่อยๆ
00:00:26 → 00:00:29 โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ
00:00:29 → 00:00:32 ต้นๆของโลกและบ่อยครั้งที่เราพบว่าปัจจัย
00:00:33 → 00:00:35 เสี่ยงสำคัญไม่ได้มาจากกรรมพันธ์เพียร
00:00:35 → 00:00:38 อย่างเดียวแต่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
00:00:38 → 00:00:41 ประจำวันของเราต่างหากการเลือกรับประทาน
00:00:41 → 00:00:43 อาหารจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่
00:00:43 → 00:00:47 เราใช้ป้องกันตัวเองจากโรคนี้ได้วันนี้
00:00:47 → 00:00:49 เราจะมาเจาะลึกถึงผัก 5 ชนิดที่อุดมไป
00:00:49 → 00:00:53 ด้วยสารอาหารและคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลด
00:00:53 → 00:00:55 ความเสี่ยงมะเร็งได้จริงตามหลักการทาง
00:00:55 → 00:00:58 วิทยาศาสตร์ซึ่งไม่ใช่แค่การบอกให้กินแต่
00:00:58 → 00:01:02 เราจะอธิบายว่าทำไมถึงควรกินและมีผลดีต่อ
00:01:02 → 00:01:06 ร่างกายอย่างไรบ้างครับ 1 มะเขือเทศพลัง
00:01:06 → 00:01:10 จากไลโคปีนที่ควรรู้เริ่มกันที่ผักชนิด
00:01:10 → 00:01:13 แรกนั่นก็คือมะเขือเทศครับมะเขือเทศไม่
00:01:13 → 00:01:16 ได้เป็นแค่วัตถุดิบในอาหารเท่านั้นแต่ยัง
00:01:16 → 00:01:18 เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรง
00:01:18 → 00:01:22 พลังอย่างไลโคปีนสารตัวนี้เป็นเม็ดสีแดง
00:01:22 → 00:01:25 ที่พบได้ในมะเขือเทศและผักผลไม้สีแดงอื่น
00:01:25 → 00:01:29 ๆซึ่งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นยืน
00:01:29 → 00:01:31 ยันว่าไลโคปีนมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของ
00:01:32 → 00:01:34 โรคมะเร็งบางชนิดได้โดยเฉพาะมะเร็งต่อม
00:01:35 → 00:01:38 ลูกหมากและมะเร็งปอดครับสิ่งสำคัญที่หลาย
00:01:38 → 00:01:41 คนอาจไม่ทราบคือการนำมะเขือเทศไปปรุงให้
00:01:41 → 00:01:44 สุกด้วยความร้อนจะช่วยเพิ่มปริมาณไลโคปีน
00:01:44 → 00:01:47 ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีขึ้นโดย
00:01:47 → 00:01:50 เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปรุงกับน้ำมันเล็ก
00:01:50 → 00:01:53 น้อยเช่นการทำซอสมะเขือเทศหรือผัดมะเขือ
00:01:53 → 00:01:56 เทศเนื่องจากไลโคปีนเป็นสารที่ละลายในไข
00:01:56 → 00:01:59 มันทำให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็ม
00:01:59 → 00:02:03 ที่กว่าการกินแบบดิบๆครับนอกจากนี้มะเขือ
00:02:03 → 00:02:06 เทศยังมีวิตามินซีและโพแทสเซียมซึ่งช่วย
00:02:06 → 00:02:09 เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความ
00:02:09 → 00:02:12 ดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติดังนั้นการ
00:02:12 → 00:02:15 บริโภคมะเขือเทศเป็นประจำไม่เพียงแต่ช่วย
00:02:15 → 00:02:18 ลดความเสี่ยงมะเร็งแต่ยังช่วยบำรุงสุขภาพ
00:02:18 → 00:02:22 โดยรวมได้อีกด้วยครับ 2 แครอทมากกว่าแค่
00:02:22 → 00:02:26 เรื่องของสายตาต่อมาคือแครอทผักสีส่อมสด
00:02:26 → 00:02:29 ใสที่หลายคนรู้จักกันดีแครอทอุดมไปด้วยใย
00:02:29 → 00:02:34 อาหารวิตามินและที่สำคัญคือเบต้าแครโรทีน
00:02:34 → 00:02:36 ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งพลัง
00:02:36 → 00:02:39 ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและยังมีบทบาท
00:02:39 → 00:02:42 สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราด้วยนอกจาก
00:02:43 → 00:02:46 เบต้าแครโรทีนแล้วแครอทยังมีสารpoyฟีนอ
00:02:46 → 00:02:49 และฟลาโวนอยที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัว
00:02:49 → 00:02:52 ใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่
00:02:52 → 00:02:55 ในวัยสูงอายุครับการปรุงแครอทให้สุกก็
00:02:55 → 00:02:58 คล้ายกับมะเขือเทศครับเพราะความร้อนจะ
00:02:58 → 00:03:01 ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมเบต้าแครโรทีน
00:03:01 → 00:03:04 ไปใช้ได้ดีขึ้นนอกจากนี้แครอทยังมี
00:03:04 → 00:03:07 คุณสมบัติในการช่วยทำความสะอาดลำไส้ด้วย
00:03:07 → 00:03:10 ใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและลดการ
00:03:10 → 00:03:13 สะสมของเสียในระบบทางเดินอาหารซึ่งเป็น
00:03:13 → 00:03:16 อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงของการ
00:03:16 → 00:03:20 เกิดมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย 3. กะหล่ำม่วง
00:03:20 → 00:03:23 สีม่วงที่เต็มไปด้วยพลังป้องกันมาถึงผัก
00:03:23 → 00:03:27 ชนิดที่ 3 นั่นคือกะหล่ำม่วงครับจุดเด่น
00:03:27 → 00:03:29 ของกะหล่ำม่วงอยู่ที่สีม่วงเข้มซึ่งเป็น
00:03:29 → 00:03:32 แหล่งของสารแอนโทไซยานิน
00:03:32 → 00:03:34 สารนี้ไม่ได้แค่ทำให้ผักมีสีสวยงามเท่า
00:03:34 → 00:03:37 นั้นแต่ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วย
00:03:37 → 00:03:40 ปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายซึ่งเป็นหนึ่ง
00:03:40 → 00:03:43 ในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเกิดมะเร็งนอก
00:03:44 → 00:03:47 จากนี้กะหล่ำม่วงยังมีใยอาหารสูงซึ่งเป็น
00:03:47 → 00:03:50 ประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและช่วยลดการ
00:03:50 → 00:03:53 ดูดสืบน้ำตาลและไขมันส่วนเกินการบริโภค
00:03:53 → 00:03:55 กะหล่ำม่วงเป็นประจำจึงไม่เพียงแต่ช่วยลด
00:03:55 → 00:03:58 ความเสี่ยงมะเร็งแต่ยังช่วยลดความเสี่ยง
00:03:58 → 00:04:01 ของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่นเบาหวานและ
00:04:01 → 00:04:04 ความดันโลหิตสูงได้อีกด้วยที่น่าสนใจอีก
00:04:04 → 00:04:08 อย่างคือกะหล่ำม่วงยังมีสารซัลโฟลาเฟน
00:04:08 → 00:04:10 ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง
00:04:10 → 00:04:12 การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและช่วย
00:04:13 → 00:04:16 กระตุ้นการกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย
00:04:16 → 00:04:19 ดังนั้นการเพิ่มกะหล่ำม่วงในมื้ออาหารจึง
00:04:19 → 00:04:22 เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพโดยรวมของเราครับ
00:04:22 → 00:04:26 4. หน่อไม้ฝรั่งมิตรแท้ของลำไส้ผักชนิด
00:04:26 → 00:04:29 ที่ 4 คือหน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่งเป็น
00:04:29 → 00:04:32 ผักที่มีใยอาหารสูงและที่สำคัญกว่านั้น
00:04:32 → 00:04:35 คือพรีไบโอติกซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย
00:04:35 → 00:04:39 ดีในลำไส้ของเราการมีสมดุลของจูลินทรีย์
00:04:39 → 00:04:41 ในลำไส้ที่ดีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ
00:04:41 → 00:04:45 ระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวมงานวิจัย
00:04:45 → 00:04:48 หลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าสุขภาพลำไส้ที่แข็ง
00:04:48 → 00:04:51 แรงมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการลดความ
00:04:51 → 00:04:53 เสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่เพราะแบคทีเรีย
00:04:54 → 00:04:57 ดีในลำไส้จะช่วยผลิตสารที่เรียกว่ากรดไข
00:04:57 → 00:05:00 มันสายสั้น short chน fatty acid ซึ่งมี
00:05:00 → 00:05:03 คุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยยับยั้งการ
00:05:03 → 00:05:06 เจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ดังนั้นการ
00:05:06 → 00:05:08 เพิ่มหน่อไม้ฝรั่งในมื้ออาหารจึงเป็นการ
00:05:08 → 00:05:11 ลงทุนเพื่อสุขภาพลำไส้และร่างกายโดยรวม
00:05:11 → 00:05:15 ของเราครับนอกจากนี้หน่อไม้ฝรั่งยังมี
00:05:15 → 00:05:17 วิตามิน K ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกให้
00:05:17 → 00:05:20 แข็งแรงและมีฤทธิ์ขลับปัสสาวะตามธรรมชาติ
00:05:20 → 00:05:23 ที่ช่วยลดการสะสมของของเสียในร่างกายและ
00:05:23 → 00:05:27 ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตครับ 5
00:05:27 → 00:05:30 กระเทียมเครื่องเทศคู่ครัวที่เต็มไปด้วย
00:05:30 → 00:05:33 คุณสมบัติพิเศษมาถึงผักชนิดสุดท้ายที่เรา
00:05:33 → 00:05:36 จะพูดถึงในวันนี้นั่นก็คือกระเทียมครับ
00:05:36 → 00:05:38 กระเทียมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องเทศที่
00:05:38 → 00:05:41 ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารแต่ยังอุดมไปด้วยสาร
00:05:41 → 00:05:44 ประกอบที่มีคุณสมบัติโดดเด่นมากมายทั้ง
00:05:44 → 00:05:47 ช่วยลดน้ำตาลในเลือดลดไขมันและที่สำคัญ
00:05:47 → 00:05:51 คือมีส่วนช่วยในการต้านมะเร็งได้สารสำคัญ
00:05:51 → 00:05:53 ในกระเทียมคืออัลลิซินซึ่งจะเกิดขึ้น
00:05:53 → 00:05:56 เมื่อเราสับหรือบทกระเทียมสารตัวนี้มี
00:05:56 → 00:05:59 คุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของ
00:05:59 → 00:06:01 เซลล์มะเร็งและงานวิจัยยังพบความเชื่อม
00:06:01 → 00:06:04 โยงระหว่างการบริโภคกระเทียมเป็นประจำกับ
00:06:04 → 00:06:07 การลดความเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะอาหารและ
00:06:07 → 00:06:10 มะเร็งลำไส้ใหญ่ครับนอกจากนี้กระเทียมยัง
00:06:10 → 00:06:13 มีฤทธิ์ต้านจุลชีพและไวรัสช่วยป้องกันการ
00:06:13 → 00:06:16 ติดเชื้อในร่างกายและยังมีส่วนช่วยในการ
00:06:16 → 00:06:19 ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลิเซอไรด์ใน
00:06:19 → 00:06:22 เลือดซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอด
00:06:22 → 00:06:25 เลือดอย่างไรก็ตามควรรับประทานในปริมาณ
00:06:25 → 00:06:27 ที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อ
00:06:27 → 00:06:29 กระเพาะอาหารหรืออาการระคายเคืองที่อาจ
00:06:29 → 00:06:33 เกิดขึ้นครับท่านผู้ฟังครับผักทั้ง 5
00:06:33 → 00:06:35 ชนิดที่เราได้พูดถึงไปในวันนี้ได้แก่
00:06:35 → 00:06:39 มะเขือเทศแครอทกะหล่ำม่วงหน่อไม้ฝรั่งและ
00:06:39 → 00:06:42 กระเทียมล้วนมีสารอาหารสำคัญที่ส่งเสริม
00:06:42 → 00:06:44 สุขภาพและอาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็งได้
00:06:44 → 00:06:47 จริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างไรก็
00:06:47 → 00:06:50 ตามการบริโภคผักเหล่านี้เป็นเพียงส่วน
00:06:50 → 00:06:53 หนึ่งของการป้องกันมะเร็งเท่านั้นสิ่ง
00:06:53 → 00:06:55 สำคัญที่สุดคือการปรับพฤติกรรมการใช้
00:06:55 → 00:06:58 ชีวิตให้ครอบคลุมทั้งการรับประทานอาหาร
00:06:58 → 00:07:01 ที่สมดุลออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและหลีก
00:07:01 → 00:07:04 เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเช่นการสูบบุหรี่
00:07:04 → 00:07:07 หรือการดื่มแอลกอฮอล์การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ
00:07:07 → 00:07:10 น้อยๆในการใช้ชีวิตประจำวันสามารถสร้าง
00:07:10 → 00:07:12 ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ต่อสุขภาพในระยะ
00:07:12 → 00:07:15 ยาวได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยครับก่อนจะปิด
00:07:15 → 00:07:18 รายการในวันนี้ขอเรียนให้คุณผู้ฟังทราบ
00:07:18 → 00:07:21 ว่าเนื้อหาในพcสนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อ
00:07:21 → 00:07:24 มูลและความรู้ทั่วไปเท่านั้นและหากมีข้อ
00:07:24 → 00:07:27 สงสัยหรือปัญหาด้านสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
00:07:27 → 00:07:29 หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทุกครั้งนะ
00:07:29 → 00:07:33 ครับหากคุณชื่นชอบพcสนี้อย่าลืมกดติดตาม
00:07:33 → 00:07:35 และแชร์ให้เพื่อนๆหรือคนในครอบครัวที่คุณ
00:07:35 → 00:07:38 รักนะครับเพราะการแบ่งปันความรู้เป็นสิ่ง
00:07:38 → 00:07:42 ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งขอบคุณที่รับฟังแล้ว
00:07:42 → 00:07:47 พบกันใหม่ในตอนหน้าสวัสดีครับ