00:00:00 → 00:00:04 เราได้ยินมาตลอดเวลาเลยว่า เราควรจะต้องดื่มน้ำวันละประมาณ 6-8 แก้ว

00:00:04 → 00:00:05 ทำไมต้อง 6-8 แก้ว

00:00:06 → 00:00:09 ในตัวเรานี่ "น้ำ" ถือว่าเป็นส่วนประกอบหลักเลยค่ะ

00:00:09 → 00:00:12 ประมาณ 60-70% ในร่างกายเป็นน้ำ

00:00:12 → 00:00:13 ถ้าเกิดว่าเราดื่มน้ำน้อยเกินไป

00:00:13 → 00:00:16 จนกระทั่งทำให้เกิดเรื่องของภาวะขาดน้ำ

00:00:16 → 00:00:19 ก็อาจจะนำไปสู่โรคต่าง ๆ ได้เช่นกันค่ะ

00:00:19 → 00:00:30 [เสียงดนตรี]

00:00:30 → 00:00:34 สำหรับอันแรก ก็จะเป็นเรื่องของโรคไต หรือว่าภาวะไตเสื่อม

00:00:34 → 00:00:37 ต้องเข้าใจก่อนว่า เลือดจะต้องไปเลี้ยงที่ไต

00:00:37 → 00:00:41 ถ้าเกิดว่าเราขาดน้ำ หรือว่าอยู่ในภาวะที่เลือดข้นมาก ๆ

00:00:41 → 00:00:43 เลือดมันไปเลี้ยงที่ไตไม่พอ

00:00:43 → 00:00:46 อันนี้ก็จะทำให้การทำงานของไตลดลง

00:00:46 → 00:00:47 หรือเรียกว่าเป็นไตเสื่อม

00:00:47 → 00:00:51 หรือในบางราย อาจจะทำให้เกิด ภาวะไตวายเฉียบพลันเลยก็ได้

00:00:51 → 00:00:56 ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องมีน้ำ ให้เพียงพอในร่างกาย

00:00:56 → 00:01:01 [เสียงดนตรี]

00:01:01 → 00:01:06 หลาย ๆ ท่านก็คงเคยได้ยินว่า ดื่มน้ำน้อยหรือว่าถ้ามีปัญหาเรื่องนิ่วอยู่

00:01:06 → 00:01:07 ให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ

00:01:07 → 00:01:11 เพราะว่าเวลาที่เราดื่มน้ำน้อย มันจะทำให้เลือดข้น

00:01:11 → 00:01:12 เลือดไปที่ไตน้อยลง

00:01:12 → 00:01:15 แล้วทำให้สภาวะแวดล้อมที่ไตนี่

00:01:15 → 00:01:19 มันส่งผลทำให้เกิดการตกตะกอน ของเกลือแร่บางอย่างได้

00:01:19 → 00:01:22 แล้วอาจจะทำให้เสี่ยง หรือว่าทำให้เกิดเรื่องนิ่วได้

00:01:22 → 00:01:26 พอมันมีนิ่วอยู่นี่ มันก็ขูดตรงบริเวณของท่อไต

00:01:26 → 00:01:28 ก็อาจจะทำให้มีปัสสาวะเป็นเลือด

00:01:28 → 00:01:29 หรือว่าอุดตันบริเวณท่อไต

00:01:29 → 00:01:32 ก็จะทำให้มีอาการปวดหลังขึ้นมาเฉียบพลันได้

00:01:32 → 00:01:35 โดยเฉพาะที่เวลามันอุดตัน แล้วมันหลุดออกมาไม่ได้

00:01:35 → 00:01:39 แล้วสุดท้าย ถ้าเกิดมันมีมาก หรือว่าขยายใหญ่โตขึ้น

00:01:39 → 00:01:42 มันก็จะทำให้อุดกั้นทางเดินปัสสาวะ

00:01:42 → 00:01:45 ทำให้เกิดไตบวม แล้วก็ในที่สุดก็มีปัญหาไตวายได้ค่ะ

00:01:45 → 00:01:51 [เสียงดนตรี]

00:01:51 → 00:01:55 ภาวะต่อมาที่อาจจะเป็นอันตรายกับเรื่องของ ภาวะขาดน้ำ

00:01:55 → 00:01:57 ก็คือเรื่องของ Heat Stroke หรือว่าลมแดด

00:01:57 → 00:02:02 อันนี้มักจะเกิดในคนที่ออกกำลังกาย หรือว่าทำงานกลางแดดเป็นระยะเวลายาวนาน

00:02:02 → 00:02:04 แล้วก็ไม่ได้รับการดื่มน้ำ

00:02:04 → 00:02:07 สิ่งที่เกิดขึ้น อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น

00:02:07 → 00:02:09 ไม่สามารถจะขับเหงื่อได้

00:02:09 → 00:02:11 แล้วตรงนี้ก็อาจจะทำให้เกิดเป็นลม หมดสติ

00:02:11 → 00:02:14 หรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยค่ะ

00:02:14 → 00:02:20 [เสียงดนตรี]

00:02:20 → 00:02:23 ร่างกายเราหมุนเวียนด้วยเลือดแล้วก็น้ำ

00:02:23 → 00:02:26 เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติว่าเราขาดน้ำ เป็นระยะเวลายาวนานนี่

00:02:26 → 00:02:29 ความดันในร่างกายก็จะลดลง หัวใจเราก็จะทำงานหนักขึ้น

00:02:29 → 00:02:31 แล้วถ้าเกิดมันทำไม่ทันจริง ๆ

00:02:31 → 00:02:34 หรือว่าหัวใจคน ๆ นั้นมีปัญหา เช่น อาจจะเป็นโรคหัวใจอยู่เดิม

00:02:34 → 00:02:35 หรือว่าเป็นผู้สูงอายุ

00:02:35 → 00:02:37 อันนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะช็อก

00:02:37 → 00:02:41 ถ้าแก้ไขไม่ทัน ก็อาจจะรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

00:02:41 → 00:02:47 [เสียงดนตรี]

00:02:47 → 00:02:50 เวลาที่เรามีปัญหาเรื่องท้องผูก เราควรจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ

00:02:50 → 00:02:52 เพราะว่าถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอนี่

00:02:52 → 00:02:56 กากอาหารที่อยู่ในอุจจาระเรา มันก็จะยิ่งแห้ง ยิ่งแข็ง

00:02:56 → 00:02:58 แล้วก็จะยิ่งทำให้เราถ่ายยากขึ้น

00:02:58 → 00:02:59 ถ้าเราปล่อยให้ท้องผูกมาก ๆ

00:02:59 → 00:03:04 สิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็อาจจะนำไปสู่เรื่องของริดสีดวงทวารได้

00:03:04 → 00:03:05 เพราะว่ามันจะต้องเบ่งมากขึ้น

00:03:05 → 00:03:08 แล้วก็จะทำให้เส้นเลือดบริเวณของทวารหนัก

00:03:08 → 00:03:11 มันโป่งพอง แล้วก็กลายเป็นริดสีดวงทวารได้

00:03:11 → 00:03:16 [เสียงดนตรี]

00:03:17 → 00:03:19 ในแต่ละวัน เราก็ควรจะดื่มน้ำให้เหมาะสม

00:03:19 → 00:03:21 คำแนะนำ เราแนะนำเป็นน้ำเปล่า

00:03:21 → 00:03:24 แล้วก็อยู่ที่ประมาณ 6-8 แก้ว

00:03:24 → 00:03:25 หรือประมาณ 1.5-2 ลิตร

00:03:25 → 00:03:27 แต่มันเหมาะกับทุกคนหรือเปล่า

00:03:27 → 00:03:29 ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครทำงานกลางแดด

00:03:29 → 00:03:30 ใครที่ต้องเสียเหงื่อมาก ๆ

00:03:30 → 00:03:33 หรือมีช่วงเวลาที่ท้องเสีย หรืออะไรก็ตามที่มีการเสียน้ำ

00:03:34 → 00:03:35 ตรงนี้เราต้องมากขึ้นนะคะ

00:03:35 → 00:03:39 สังเกตว่าเราดื่มแล้ว เราไม่มีการคอแห้ง ไม่มีหิวน้ำ

00:03:39 → 00:03:41 ผิวเราไม่แห้ง หรือปัสสาวะเราใสขึ้น อันนี้โอเคแล้ว

00:03:41 → 00:03:47 กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็น เรื่องไต เรื่องหัวใจ หรือว่าเรื่องของตับ

00:03:47 → 00:03:51 ซึ่งคุณหมออาจจะบังคับว่าให้งดน้ำ หรือว่าให้ลดน้ำ

00:03:51 → 00:03:53 อันนี้ก็อาจจะต้องดูเป็นราย ๆ ไป

00:03:53 → 00:03:55 คำแนะนำก็คือ เราชั่งน้ำหนักค่ะ

00:03:55 → 00:03:58 ถ้าตอนที่เราสบายดีที่สุด น้ำหนักเราเท่าไร

00:03:58 → 00:04:00 เราก็ไม่ควรจะดื่มน้ำมากเกินไป

00:04:00 → 00:04:03 ถ้าน้ำหนักเราขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงว่าร่างกายเรามีความบวมแล้ว

00:04:03 → 00:04:04 คั่งน้ำแล้ว

00:04:04 → 00:04:06 อันนี้เราควรจะต้องรีบลดลงมา

00:04:06 → 00:04:09 เพื่อจะให้เหมาะกับสภาวะโรคของแต่ละคน

00:04:09 → 00:04:13 อันที่ 3 เจอบ่อยที่สุดเลยก็คือคนที่มีปัญหา

00:04:13 → 00:04:15 ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชายที่มีต่อมลูกหมากโต

00:04:15 → 00:04:18 หรือว่าคุณผู้หญิงที่อาจจะอายุเยอะขึ้น

00:04:18 → 00:04:20 หรือว่ากระเพาะปัสสาวะมันไวเกิน เดี๋ยวฉี่บ่อย

00:04:20 → 00:04:22 ก็จะชอบพูดว่า ตายแล้ว เดี๋ยวถ้ากินน้ำเยอะนี่

00:04:22 → 00:04:24 กลางคืนนอนไม่หลับ แล้วจะมีปัญหาอีก

00:04:24 → 00:04:27 คำแนะนำก็คือว่า ดื่มตอนกลางวันให้เยอะขึ้น

00:04:27 → 00:04:29 แล้วก็ก่อนนอน ก็อาจจะดื่มน้อยลง

00:04:29 → 00:04:31 หรือว่าไม่ดื่มช่วงก่อนนอนหรือช่วงเย็น

00:04:31 → 00:04:34 ก็จะช่วยลดการปัสสาวะตอนกลางคืนได้ค่ะ

00:04:34 → 00:04:37 สุดท้ายเลย ถ้าใครที่ดื่มน้ำตามปกติแล้ว

00:04:37 → 00:04:41 แล้วกลางคืนนอนหลับไปแล้ว ยังลุกขึ้นมาฉี่มากกว่า 3 ครั้ง

00:04:41 → 00:04:42 ควรจะต้องมาตรวจนะคะ

00:04:42 → 00:04:45 เพราะว่าอาจจะเป็นอาการนำของโรคเบาหวานได้ค่ะ