00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.
00:00:06 → 00:00:08 Listen for a better life.
00:00:08 → 00:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
00:00:11 → 00:00:16 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดี สร้างได้
00:00:16 → 00:00:19 ดำเนินรายการโดยอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง
00:00:19 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:25 คุณผู้ชมเคยได้ยินไหมครับว่า บางคนนี่อยากจะมีลูกมาก
00:00:25 → 00:00:27 แต่ทำเท่าไรมันก็ไม่มาสักที
00:00:28 → 00:00:30 แต่บางคนนี่ครับ ปุ๊บปั๊บรับโชค
00:00:30 → 00:00:34 ไม่ได้อยากที่จะมีเลย แต่ก็เกิดเซอร์ไพรส์ขึ้นมาซะอย่างนั้น
00:00:34 → 00:00:38 บางคนก็โทษไปที่โชคชะตาครับว่า ทำไมถึงเล่นตลกกับเราแบบนี้
00:00:38 → 00:00:44 แต่ถ้าจะว่าไปนี่ มันมีเหตุผลทางการแพทย์ แล้วก็วิทยาศาสตร์ที่จะอธิบายอยู่นะครับว่า
00:00:44 → 00:00:46 ทำไมถึงไม่มาสักที
00:00:46 → 00:00:49 วันนี้ครับ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:00:49 → 00:00:52 จะมาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราครับ
00:00:52 → 00:00:56 นั่นก็คือ ผศ. พญ.ณิชมน ภาคย์ภิญโญ
00:00:56 → 00:01:00 ศูนย์ผู้มีบุตรยาก ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
00:01:00 → 00:01:03 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
00:01:03 → 00:01:04 หรือคุณหมอณิครับ
00:01:05 → 00:01:10 คุณหมอณิจะมาพูดคุยกับเราในเรื่องของ “7 พฤติกรรมทำให้มีลูกยาก” ครับ
00:01:10 → 00:01:13 - คุณหมอณิครับ สวัสดีครับ - สวัสดีค่ะอาจารย์เต้
00:01:13 → 00:01:16 อันดับแรกเลย ในเรื่องของการมีลูกยากนี่
00:01:16 → 00:01:16 ค่ะ
00:01:16 → 00:01:19 บางคนบอกว่า สวรรค์กลั่นแกล้งแน่นอน จริงหรือเปล่าครับนี่
00:01:19 → 00:01:23 ทุกปัญหามันมีที่มาที่ไป ที่สามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ค่ะ
00:01:23 → 00:01:25 ครับ ถ้าอย่างนั้นเริ่มที่คำจำกัดความ
00:01:25 → 00:01:26 ค่ะ
00:01:26 → 00:01:28 สิ่งที่เรียกว่ามีบุตรยากนี่ มันคืออะไร
00:01:28 → 00:01:32 ภาวะมีบุตรยากก็คือ การที่คู่สามีภรรยาที่อยู่กินกัน
00:01:32 → 00:01:34 แล้วก็มีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอ
00:01:34 → 00:01:38 โดยเฉลี่ยก็ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยที่ไม่ได้คุมกำเนิด
00:01:38 → 00:01:40 แล้วก็ยังไม่สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ
00:01:40 → 00:01:41 ครับ
00:01:41 → 00:01:44 แต่ในปัจจุบัน ถ้าเป็นคนที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปนี่ค่ะ
00:01:44 → 00:01:48 เราก็จะลดระยะเวลาตรงนี้ลงมา เหลือแค่ประมาณ 6 เดือนค่ะ
00:01:48 → 00:01:49 หมายความว่า ถ้า 6 เดือนแล้ว
00:01:49 → 00:01:52 พยายามกันเต็มที่แล้ว ยังไม่สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้อย่างนี้ค่ะ
00:01:53 → 00:01:55 ก็เข้าข่ายภาวะมีบุตรยากแล้วค่ะ
00:01:55 → 00:01:57 ตอนนี้มันเป็นปัญหา ของประเทศไทยเลยหรือเปล่าครับ
00:01:57 → 00:02:00 ที่มีคนมีลูกยากมากขึ้น หรือยังไงไหมครับ
00:02:00 → 00:02:04 ถ้าเกิดว่าอาจารย์เต้ได้ดูข่าว ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้นะคะ
00:02:04 → 00:02:07 จะเห็นว่าอัตราการเกิดของประชากรไทยนี่ ลดลงเรื่อย ๆ
00:02:07 → 00:02:09 ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งไม่ได้อยากมีลูก
00:02:09 → 00:02:11 ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม อะไรก็แล้วแต่
00:02:11 → 00:02:16 กับอีกกลุ่มหนึ่ง พยายามมากเลย อยากจะมีลูกมากเลย แต่ทำยังไงก็ไม่มีเสียที
00:02:16 → 00:02:19 ซึ่งข้อมูลโดยรวมค่ะ ถ้าทั่วโลกเลยนี่ เราก็พบว่า
00:02:19 → 00:02:23 ปัจจุบัน ปัญหาของภาวะมีบุตรยาก พบได้ประมาณสัก 15%
00:02:23 → 00:02:27 นั่นก็หมายความว่า ถ้าคู่สมรส 6 คู่ แต่งงานกัน
00:02:27 → 00:02:30 มีโอกาสที่ 1 คู่ จะมีปัญหาในเรื่องของการมีบุตรยากได้
00:02:30 → 00:02:33 คนที่พบว่ามีปัญหาเรื่องของมีบุตรยากเนอะ
00:02:33 → 00:02:36 หลายคนก็จะเริ่มมองหน้ากันแล้ว เอ๊ะ…ฉันหรือเธอ? ฉันหรือเธอ?
00:02:36 → 00:02:39 ปกติแล้ว สาเหตุมันมาจากใคร หรืออะไร อย่างไร
00:02:39 → 00:02:42 ค่ะ ส่วนใหญ่คู่สามีภรรยา ที่เดินทางมาปรึกษาหมอนะ
00:02:42 → 00:02:45 คำถามแรกเลยที่เขาอยากจะรู้ คือ เขาอยากจะรู้ว่าเป็นเพราะใคร
00:02:45 → 00:02:48 แบบ...เป็นเพราะฉัน หรือว่าเป็นเพราะเธอ อะไรอย่างนี้นะคะ
00:02:48 → 00:02:52 จริง ๆ แล้วสาเหตุนี่ มันเกิดจากทั้งสองฝ่าย พอ ๆ กันเลยค่ะ
00:02:52 → 00:02:54 คือ ฝ่ายชายประมาณสัก 30-40%
00:02:54 → 00:02:56 ฝ่ายหญิงก็ประมาณสัก 30-40%
00:02:56 → 00:03:00 แล้วก็มีอีกประมาณสัก 10-20% ที่ก็เกิดจากทั้งคู่
00:03:00 → 00:03:01 ถ้าเป็นจากทางฝั่งฝ่ายหญิงค่ะ
00:03:01 → 00:03:06 โดยส่วนใหญ่ก็อาจจะเกิดจากพวกภาวะ การตกไข่ที่ผิดปกติ หรือว่าพวกรังไข่เสื่อม
00:03:06 → 00:03:08 หรือว่ามีปัญหาที่บริเวณท่อนำไข่
00:03:08 → 00:03:09 ท่อนำไข่ตีบตัน
00:03:09 → 00:03:11 หรือว่าอาจจะเป็นปัญหาที่มดลูก เช่น
00:03:11 → 00:03:14 มดลูกมีเนื้องอก หรือมดลูกมีความผิดปกติ พวกนี้ค่ะ
00:03:14 → 00:03:16 หรือว่าถ้าเป็นจากทางฝ่ายชาย
00:03:16 → 00:03:20 ก็อาจจะเกิดจากกระบวนการสร้างน้ำอสุจิ เชื้ออสุจิผิดปกติ
00:03:20 → 00:03:25 ทำให้ความเข้มข้น รูปร่าง แล้วก็จำนวนเปอร์เซ็นต์การวิ่งมันผิดปกติไป
00:03:25 → 00:03:26 อะไรพวกนี้
00:03:26 → 00:03:28 หรือว่าถ้าเป็นสาเหตุจากทั้งสองฝั่ง
00:03:28 → 00:03:31 ก็อาจจะเกิดจากพวกสารพันธุกรรม อายุนะคะ
00:03:31 → 00:03:35 เช่นปัจจุบันก็คือ คนมีลูกก็มีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ
00:03:35 → 00:03:37 ก็มีโอกาสทำให้มีบุตรยากได้
00:03:37 → 00:03:39 หรือว่าอาจจะเป็นจากพฤติกรรม ความเสี่ยงต่าง ๆ
00:03:39 → 00:03:44 เช่น สารเคมี รังสี ความร้อน หรือว่าพวกฝุ่น PM 2.5 อะไรพวกนี้ค่ะ
00:03:44 → 00:03:45 ก็เป็นสาเหตุได้
00:03:45 → 00:03:47 ถ้าเรามาจากครอบครัวที่มีบุตรยาก
00:03:48 → 00:03:51 โอกาสที่เราจะมีบุตรยากตามครอบครัวของเรา มันเป็นไปได้ไหม
00:03:51 → 00:03:55 มันจะมีโรคบางโรคที่เป็นโรคที่มี ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร
00:03:55 → 00:03:58 ซึ่งเป็นจากพันธุกรรมที่ผิดปกติ
00:03:58 → 00:04:02 ซึ่งถ้าหากเป็นกลุ่มนั้นค่ะ รุ่นบรรพบุรุษมีลูกยากจากสาเหตุทางพันธุกรรม
00:04:02 → 00:04:05 ก็มีโอกาสจะถ่ายทอดมาทางรุ่นลูกรุ่นหลานได้
00:04:06 → 00:04:11 ถ้าฟังดูแล้ว เรื่องของพันธุกรรม ที่นำมาสู่การเกิดโรคที่ทำให้มีบุตรยาก
00:04:11 → 00:04:12 อันนั้นก็อาจจะแก้ไขยากนิดนึง
00:04:12 → 00:04:13 ค่ะ
00:04:13 → 00:04:16 เรื่องของอายุที่มันดำเนินของมันไป เราก็อาจจะแก้ไขยาก
00:04:16 → 00:04:16 ใช่ค่ะ
00:04:16 → 00:04:19 แต่พฤติกรรมนี่เป็นสิ่งที่เราพอจะจัดการได้
00:04:19 → 00:04:19 ค่ะ
00:04:19 → 00:04:25 วันนี้คุณหมอณิจะมาพูดคุยกับเราในเรื่องของ “7 พฤติกรรมทำให้มีลูกยาก”
00:04:25 → 00:04:29 [เสียงดนตรี]
00:04:29 → 00:04:32 อันแรกเลยก็คือในเรื่องของน้ำหนักตัว
00:04:32 → 00:04:37 น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ก็จะส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ค่ะ
00:04:37 → 00:04:37 ครับ
00:04:37 → 00:04:40 คนที่น้ำหนักตัวเยอะ หรือที่เราเรียกว่าภาวะอ้วน
00:04:40 → 00:04:41 ก็จะมีไขมันในร่างกายเยอะ
00:04:41 → 00:04:45 ซึ่งตรงนี้ค่ะ มันจะส่งผลทำให้ฮอร์โมนเพศผิดปกติ
00:04:45 → 00:04:49 คนในกลุ่มนี้นี่ ก็อาจจะมีประจำเดือนที่มาไม่สม่ำเสมอ
00:04:49 → 00:04:52 การตกไข่ที่ผิดปกติ ก็จะส่งผลต่อภาวะมีลูกยากได้ค่ะ
00:04:52 → 00:04:55 ส่วนเพศชายนี่ การที่เรามีภาวะน้ำหนักตัวเกิน
00:04:55 → 00:04:57 จะเหมือนมีภาวะการอักเสบอยู่ภายในร่างกาย
00:04:57 → 00:05:01 จะทำให้ในเรื่องของ กระบวนการสร้างอสุจินั้นผิดปกติ
00:05:01 → 00:05:04 ทั้งในเรื่องของจำนวน รูปร่าง แล้วก็เปอร์เซ็นต์การวิ่ง การเคลื่อนไหว
00:05:05 → 00:05:08 มีข้อมูลที่พบว่า กลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวเกิน
00:05:08 → 00:05:14 ต้องใช้เวลาในการพยายามที่จะตั้งครรภ์นี่ มากกว่าคนที่น้ำหนักตัวปกติมากถึง 2 เท่า
00:05:14 → 00:05:17 คือหมายถึงใช้ระยะเวลานานกว่า ในการที่จะพยายามที่จะท้อง
00:05:17 → 00:05:19 อันนี้เราพูดถึงน้ำหนักเกินแล้ว
00:05:19 → 00:05:20 จะมีพวกที่น้ำหนักน้อยกว่าปกติไหมครับ
00:05:20 → 00:05:22 ค่ะ กลุ่มที่น้ำหนักน้อยผิดปกติ
00:05:22 → 00:05:27 กระบวนการสร้างของฮอร์โมนเพศ หรือว่าการตกไข่ก็จะผิดปกติเช่นกันค่ะ
00:05:27 → 00:05:30 อย่างเช่น คนไข้ในกลุ่มโรค ที่เป็นพวก Anorexia หรือว่า Cachexia
00:05:30 → 00:05:32 ที่เขาผอมมาก ๆ ค่ะ
00:05:32 → 00:05:34 เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่ต่ำมาก ๆ
00:05:34 → 00:05:36 กลุ่มนี้ก็มีผลต่อภาวะการตกไข่เช่นกัน
00:05:36 → 00:05:36 ครับ
00:05:37 → 00:05:40 แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ตอนนี้น้ำหนักตัว ของเราอยู่ในช่วงที่พอเหมาะแล้ว
00:05:40 → 00:05:42 ก็โดยส่วนใหญ่เราก็จะดูที่ BMI นะคะ
00:05:42 → 00:05:45 BMI ก็คือคำนวณจากส่วนสูงและน้ำหนัก
00:05:45 → 00:05:46 ก็คือถ้าไม่ให้มากเกินไป
00:05:46 → 00:05:48 ก็คือ BMI ห้ามเกิน 25 - 30
00:05:48 → 00:05:51 แล้วแต่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย แบบนี้ค่ะ
00:05:51 → 00:05:55 โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ราว ๆ สักประมาณแบบ 18, 19, 20 กลุ่มนี้กำลังดี
00:05:55 → 00:05:58 นั่นแปลว่า กินน้อยลง ออกกำลังกายมากขึ้นหรือเปล่า หรือยังไงครับ
00:05:58 → 00:06:01 เราก็อาจจะต้องควบคุมทุกอย่าง ให้อยู่ในทางสายกลาง
00:06:01 → 00:06:05 ทุกคนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การออกกำลังกายนั้นมันส่งผลดีต่อร่างกาย
00:06:05 → 00:06:09 ทั้งในแง่ของสมรรถภาพทางกายโดยรวมนะคะ ทำให้จิตใจแจ่มใส
00:06:09 → 00:06:10 เพิ่มสมรรถนะทางเพศด้วย
00:06:10 → 00:06:11 ครับ
00:06:11 → 00:06:13 แต่สำหรับการออกกำลังกายที่มันมากเกินไป
00:06:13 → 00:06:16 อย่างเช่นพวกแบบนักวิ่งมาราธอนที่วิ่งทุกวัน
00:06:16 → 00:06:19 หรือว่ากลุ่มที่ออกกำลังกายหนักมาก ๆ นะคะ
00:06:19 → 00:06:22 กลุ่มนี้นี่ ร่างกายจะเกิดภาวะเครียด
00:06:22 → 00:06:24 ก็คือเป็นความเครียดเกิดขึ้นในร่างกาย
00:06:24 → 00:06:29 ซึ่งภาวะความเครียดนี่ค่ะ ก็จะส่งผลต่อกระบวนการตกไข่ที่ผิดปกติได้
00:06:29 → 00:06:32 มีกลุ่มคนไข้ที่เป็นนักวิ่งมาราธอนเนอะ
00:06:32 → 00:06:35 ก็คือกลุ่มพวกนี้ค่ะ บางคนจะประจำเดือนไม่มาเลย
00:06:35 → 00:06:38 เพราะว่าปริมาณไขมันสะสมในร่างกายเขาน้อยมาก
00:06:38 → 00:06:40 ส่งผลให้ฮอร์โมนเพศนั้นผิดปกติ
00:06:40 → 00:06:42 ก็ส่งผลต่อภาวะการตกไข่ที่ผิดปกติได้
00:06:42 → 00:06:44 ความเครียดที่คุณหมอพูดถึงนี่
00:06:44 → 00:06:47 เป็นความเครียดทางกาย เนื่องจากการออกกำลังกายมากเกินไป
00:06:47 → 00:06:47 ใช่ค่ะ
00:06:47 → 00:06:51 แล้วมีผลเฉพาะผู้หญิงหรือเปล่าครับ หรือว่าผู้ชายก็มีผลเหมือนกัน
00:06:51 → 00:06:52 ผู้ชายก็มีผลค่ะ
00:06:52 → 00:06:54 เพราะว่าปริมาณไขมันสะสมในร่างกายน้อยลงนี่
00:06:54 → 00:06:56 ก็ทำให้ฮอร์โมนเพศชายน้อยลงเช่นกัน
00:06:59 → 00:07:03 ก็ส่งผลไปทำให้กระบวนการสร้างอสุจินั้น ผิดปกติด้วยค่ะ
00:07:03 → 00:07:07 ถ้าอย่างนั้นในเรื่องของการออกกำลังกาย ข้อแนะนำของคุณหมอณิคืออะไร
00:07:07 → 00:07:09 โดยส่วนใหญ่เราก็จะต้องเดินทางสายกลาง ก็คือ
00:07:09 → 00:07:13 แนะนำว่า ออกกำลังกาย ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ
00:07:13 → 00:07:15 ครั้งหนึ่งก็ประมาณสัก 20-30 นาที
00:07:15 → 00:07:17 ก็ประมาณนี้ค่ะ ก็น่าจะกำลังดี
00:07:17 → 00:07:20 ออกกำลังกายมากเกินไป ทำให้เกิดความเครียดทางกาย
00:07:20 → 00:07:20 ค่ะ
00:07:20 → 00:07:22 ความเครียดทางใจนี่มีผลไหมครับ
00:07:22 → 00:07:27 ภาวะเครียด มันจะทำให้ร่างกาย หลั่งฮอร์โมนตัวหนึ่งออกมามากค่ะ
00:07:27 → 00:07:28 ฮอร์โมนตัวนั้นก็คือ คอร์ติซอล
00:07:28 → 00:07:31 อ๋อ คือฮอร์โมนเครียด ที่ทุกคนบอกว่านี่คือฮอร์โมนเครียด
00:07:31 → 00:07:34 ใช่ หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยิน ใช่ Stress Hormone ก็คือ คอร์ติซอล
00:07:34 → 00:07:36 คอร์ติซอลที่มันหลั่งออกมามากขึ้นนี่ค่ะ
00:07:36 → 00:07:40 มันก็จะย้อนกลับไปที่บริเวณต่อมใต้สมอง
00:07:40 → 00:07:43 ทำให้มีการผลิตฮอร์โมน มากระตุ้นรังไข่ที่ผิดปกติ
00:07:44 → 00:07:47 เพราะฉะนั้น โดยรวมเลยก็คือ การที่มีฮอร์โมนเครียดหลั่งออกมามากขึ้นนี่
00:07:48 → 00:07:50 จะทำให้กระบวนการตกไข่นั้นผิดปกติ
00:07:50 → 00:07:55 แล้วก็จะทำให้ในเรื่องของเซลล์ของร่างกายเรา มีความเสื่อมลงเร็วกว่าวัยอันควรด้วย
00:07:56 → 00:07:59 เพราะฉะนั้น พวกนี้ก็ส่งผลต่อ ภาวะเจริญพันธุ์อย่างแน่นอน
00:07:59 → 00:08:01 ในผู้ชายล่ะครับ ผู้ชายเครียด
00:08:02 → 00:08:05 จะมีผลในการที่จะทำให้ จำนวนของอสุจิมันน้อยลงไหมครับ
00:08:05 → 00:08:06 มีผลเช่นกันเลยค่ะ
00:08:06 → 00:08:09 เพราะว่าทำให้กระบวนการสร้างของ ฮอร์โมนเพศนั้นผิดปกติ
00:08:09 → 00:08:13 ก็ส่งผลต่อกระบวนการสร้างอสุจิ ที่ผิดปกติได้เช่นกัน
00:08:13 → 00:08:16 สรุปก็คือ ส่งผลทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
00:08:16 → 00:08:21 หรือว่าบางคู่ที่แบบ…มีความตั้งใจมากเกินไป แบบอยากจะมีลูกมากเกินไป
00:08:21 → 00:08:23 กลุ่มนี้ก็จะทำให้เกิดภาวะเครียด
00:08:23 → 00:08:25 ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลร้ายต่อสุขภาพ
00:08:25 → 00:08:28 แล้วก็ต่อกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากได้
00:08:28 → 00:08:29 แล้วจะแนะนำยังไงดีครับ
00:08:29 → 00:08:30 แนะนำว่า ต้องไม่เครียด
00:08:31 → 00:08:31 ยังไงดีล่ะครับ
00:08:31 → 00:08:36 ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเนอะ ปล่อยวาง ทำสมาธิ อะไรอย่างนี้ค่ะ
00:08:36 → 00:08:39 แล้วก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
00:08:39 → 00:08:40 พฤติกรรมต่อไปล่ะครับอาจารย์
00:08:40 → 00:08:44 ก็คือพฤติกรรมในเรื่องของ การใส่กางเกงที่รัด ๆ หรือว่าฟิต ๆ มากเกินไป
00:08:44 → 00:08:47 หรือว่าการขี่มอเตอร์ไซค์นาน ๆ เกินไป
00:08:47 → 00:08:50 เอากางเกงก่อน กางเกงที่มันรัดเกินไป มันจะมีผลยังไง
00:08:50 → 00:08:53 การใส่กางเกงที่รัดหรือว่าฟิตมากเกินไป
00:08:53 → 00:08:55 มันจะทำให้เกิดการกดรัด
00:08:55 → 00:08:58 ซึ่งการกดรัดที่มากเกินไปนี่ จะเห็นผลกระทบได้ชัดเลยในฝ่ายชาย
00:08:58 → 00:09:02 มันจะทำให้มีผลไปรัดบริเวณลูกอัณฑะค่ะ
00:09:02 → 00:09:05 ก็จะทำให้กระบวนการสร้างอสุจินั้น ผิดปกติได้ค่ะ
00:09:05 → 00:09:08 รวมถึงกระบวนการ ที่มันรัดแน่น ๆ อยู่นาน ๆ นี่
00:09:08 → 00:09:10 อุณหภูมิในลูกอัณฑะจะสูงขึ้น
00:09:10 → 00:09:15 อุณหภูมิที่สูงขึ้นก็จะส่งผลต่อ กระบวนการสร้างอสุจิที่ผิดปกติได้
00:09:15 → 00:09:17 ขยับกางเกงนิดนึงนะคุณหมอครับ
00:09:17 → 00:09:17 ค่ะ
00:09:17 → 00:09:19 คุณหมอณิพูดถึงกางเกงรัดนี่
00:09:19 → 00:09:21 กำลังพูดถึงกางเกง ที่เป็นกางเกงยีนส์ทั่ว ๆ ไป
00:09:21 → 00:09:24 หรือว่าเป็นกางเกงสำหรับนักกีฬา เพื่อจะ support ครับ
00:09:24 → 00:09:27 อ๋อ เป็นพวกกางเกงยืด ๆ อย่างนี้ใช่ไหมคะ ยิมนาสติกอะไรอย่างนี้เนอะ
00:09:27 → 00:09:30 คือโดยส่วนใหญ่ ความรัดที่เกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบได้
00:09:31 → 00:09:33 ก็คือเป็นความรัดที่เหมือนรัดตึง
00:09:33 → 00:09:37 ทำให้ตัวลูกอัณฑะถูกบีบอัดจนมากเกินไป
00:09:37 → 00:09:41 ซึ่งถ้าเป็นกางเกงพวกกางเกงออกกำลังกายทั่วไป ที่ผ้ามันมีความยืดหยุ่นอยู่แล้ว
00:09:41 → 00:09:43 พวกนั้นน่าจะไม่ค่อยส่งผลเท่าไร
00:09:43 → 00:09:46 แต่กางเกงที่อาจจะส่งผลได้ คือ พวกกางเกงยีนส์ฟิต ๆ ที่รัด ๆ
00:09:46 → 00:09:51 เช่น พวกคนที่ชอบใส่ขาเดฟ ที่แบบรัดมากเกินไปอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:09:51 → 00:09:55 หรือว่าในกลุ่มที่แบบ…ขี่มอเตอร์ไซค์นาน ๆ เป็นชีวิตจิตใจเลย
00:09:55 → 00:09:59 กลุ่มนี้มีการกดรัดอยู่ตลอดเวลา มีการกระแทก
00:09:59 → 00:10:02 เพราะเวลาเราขี่มอเตอร์ไซค์นะคะ มันก็จะมีการกระแทกอยู่เรื่อย ๆ พวกนี้ค่ะ
00:10:02 → 00:10:05 ก็ส่งผลต่อกระบวนการสร้างอสุจิได้
00:10:05 → 00:10:07 อ๋อ มันไม่ใช่แค่กดรัดเท่านั้น มันมีการกระเทือน
00:10:07 → 00:10:11 แล้วมันนำไปสู่การบาดเจ็บ เสียหายเล็กน้อย ในบริเวณนั้นถูกไหมครับ
00:10:11 → 00:10:13 ทำให้กระบวนการสร้างผิดปกติ
00:10:13 → 00:10:17 ซึ่งอันนี้ก็จะเกิดกับกลุ่มคนที่เป็นพวก นักปั่นจักรยานมาราธอนอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:10:17 → 00:10:23 แต่ถ้าเราปั่นจักรยานทั่ว ๆ ไป เช่น นาน ๆ ทีปั่นจักรยานไปซื้อของที่ตลาด
00:10:23 → 00:10:24 - นาน ๆ ที อันนี้ไม่มีผล - ไม่เป็นไรเนอะ
00:10:25 → 00:10:25 ใช่ค่ะ
00:10:25 → 00:10:29 ไม่งั้นเดี๋ยวหมอพูดไป เดี๋ยวบางที คนฟังอาจจะแบบ อุ๊ย งั้นห้ามปั่นจักรยาน
00:10:29 → 00:10:30 ไม่ ไม่ขนาดนั้นค่ะ
00:10:30 → 00:10:31 เพราะหลายคนอาจจะ...
00:10:31 → 00:10:34 เอ๊ะ ตอนเช้าก็ต้องนั่งพี่วิน ตอนเย็นก็ต้องนั่งพี่วินแบบนี้ครับ
00:10:34 → 00:10:37 ถ้าแบบ 5 นาที 10 นาทีอย่างนี้ค่ะ ไม่เป็นไร
00:10:37 → 00:10:38 - ไม่เป็นไรเนอะ - ใช่ค่ะ
00:10:38 → 00:10:41 แล้วในเพศหญิงล่ะครับ เรื่องของการใส่กางเกงที่มันรัดแน่นเกินไป
00:10:41 → 00:10:44 หรือการปั่นจักรยานนี่จะมีผลไหมครับ
00:10:44 → 00:10:47 ค่ะ ก็โดยส่วนใหญ่ผลก็จะน้อย เพราะว่าเพศหญิงนี่
00:10:47 → 00:10:50 อวัยวะเพศที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นมดลูกหรือรังไข่นี่
00:10:50 → 00:10:51 มันก็จะอยู่ในช่องท้อง
00:10:51 → 00:10:55 ไม่ได้โผล่ออกมาทำให้มีผลกระทบมากนัก เท่าเพศชาย
00:10:55 → 00:10:56 ถ้างั้นข้อแนะนำคือยังไงดีครับ
00:10:56 → 00:11:00 ถ้าสมมุติจำเป็นที่จะต้องใส่กางเกง ที่มันฟิต ๆ รัด ๆ ก็อาจจะนาน ๆ ที
00:11:00 → 00:11:05 - แต่ไม่แนะนำให้ใส่สม่ำเสมอค่ะ - อ๋อ กลางคืนก็เปลี่ยนไปใส่กางเกงอื่นบ้าง
00:11:05 → 00:11:07 ปล่อยสบาย ๆ บ้าง ใช่
00:11:07 → 00:11:10 ใส่กางเกงหลวม ๆ บ้าง ก็จะดีต่อภาวะเจริญพันธุ์
00:11:10 → 00:11:14 อย่างนี้คำถามผมมาเลยครับ อย่างนี้ก็ไม่ต้องใส่กางเกงในเลยได้ไหมครับ
00:11:14 → 00:11:16 แต่ถ้าเกิดว่าไม่ใส่กางเกงในเลย
00:11:16 → 00:11:18 มันก็จะโทงเทงเนอะ
00:11:18 → 00:11:18 [เสียงหัวเราะ]
00:11:18 → 00:11:19 อาจจะแกว่งนิดนึง
00:11:19 → 00:11:20 ใช่ พอมันแกว่งปุ๊บนี่
00:11:20 → 00:11:24 ก็อาจจะเพิ่มโอกาสการเกิดพวกไส้เลื่อน หรืออะไรพวกนี้
00:11:24 → 00:11:27 ก็อาจจะไปทางนั้นไป ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน
00:11:27 → 00:11:27 ครับ
00:11:27 → 00:11:30 เพราะฉะนั้น สรุปเลย เราต้องเดินทางสายกลางค่ะ
00:11:30 → 00:11:31 เราต้องใส่กางเกงในค่ะ
00:11:31 → 00:11:34 แต่ว่าเราอย่าใส่แบบที่มันรัดมากเกินไป
00:11:34 → 00:11:34 ได้เลยครับ
00:11:34 → 00:11:36 แล้วพฤติกรรมต่อไปล่ะครับ คุณหมอณิ
00:11:36 → 00:11:41 ค่ะ สำหรับพฤติกรรมถัดไปก็คือ แช่น้ำอุ่นหรือว่าการเซานาบ่อย ๆ
00:11:41 → 00:11:44 - บางคนเขาว่ามันก็สบายตัวดีอะไรอย่างนี้นะคะ - ใช่ มันผ่อนคลายน่ะ
00:11:44 → 00:11:47 ค่ะ แต่ว่าการที่เราแช่น้ำอุ่นนาน ๆ
00:11:47 → 00:11:50 หรือว่าการอยู่ในบริเวณ ที่มีความร้อนมาก ๆ นี่นะคะ
00:11:50 → 00:11:55 อุณหภูมิที่สูงขึ้นนี่ มันจะส่งผลต่อกระบวนการสร้างอสุจิได้ ใช่
00:11:55 → 00:11:56 ลูกอัณฑะของคนเรานี่
00:11:56 → 00:12:00 ธรรมชาติผลิตออกมาให้ มันโทงเทงออกมาอยู่นอกร่างกายใช่ไหมคะ
00:12:00 → 00:12:01 นึกภาพออกเลยครับ
00:12:01 → 00:12:03 เพื่อที่ว่า...กระบวนการสร้างอสุจิค่ะ
00:12:03 → 00:12:08 มันต้องใช้อุณหภูมิที่ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย ประมาณสัก 2-3 องศา
00:12:08 → 00:12:08 ครับ
00:12:08 → 00:12:12 ธรรมชาติก็เลยสร้างให้ตัวลูกอัณฑะของคนเรา ไม่ได้อยู่ภายในร่างกาย
00:12:12 → 00:12:17 เพราะฉะนั้น ถ้าเราเอาตัวเองไปอยู่ ในภาวะที่มีอุณหภูมิที่สูงมาก ๆ
00:12:17 → 00:12:22 เช่น การไปเซานาซึ่งอุณหภูมิประมาณแบบ 40-50 องศา อย่างนี้นะคะ
00:12:22 → 00:12:24 ก็จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการสร้างอสุจิได้
00:12:24 → 00:12:27 สมมุติว่าผมก็ยังชอบแช่น้ำอุ่นอยู่เนอะ
00:12:27 → 00:12:31 อุณหภูมิมันก็ต้องอุ่นระดับนึง ต้องร้อนระดับนึง 40-50 นี่
00:12:31 → 00:12:36 อย่างนี้คุณหมอมีข้อแนะนำไหมครับว่า เรื่องของเวลาหรือว่าอะไรอย่างนี้
00:12:36 → 00:12:39 ก็มีข้อแนะนำว่า จริง ๆ คือเราไม่ได้ห้ามแบบ 100% เนอะ
00:12:39 → 00:12:42 แต่ว่าถ้าสมมุติว่า โอเค นาน ๆ ที อยากจะไปอย่างนี้ค่ะ
00:12:42 → 00:12:47 อุณหภูมิก็อยู่สักไม่เกิน 37-38 องศา แล้วก็ไม่ควรจะแช่นานเกิน 15 นาที
00:12:47 → 00:12:49 ซึ่ง 37-38 มันอุณหภูมิร่างกายเลยนะ
00:12:50 → 00:12:54 ใช่ค่ะ แต่ว่าเราแช่เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็คือไม่เกิน 15 นาทีค่ะ
00:12:54 → 00:12:58 สำหรับพฤติกรรมถัดไปนะคะ ก็คือในเรื่องของการดื่มพวกกาแฟ
00:12:58 → 00:13:01 หรือว่าพวกการดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ
00:13:01 → 00:13:04 ดื่มกาแฟนี่ ทุกคนดื่มนะผมว่านะ
00:13:04 → 00:13:08 โดยเฉพาะคนในเมืองนี่ ดื่มกาแฟทุกเช้าแน่นอน มันไม่ดีเลยหรือ
00:13:08 → 00:13:10 คนส่วนใหญ่นะคะ ก็จะเป็นแบบ Coffee Lover เนอะ
00:13:10 → 00:13:12 ก็คือขาดกาแฟไม่ได้เลย
00:13:12 → 00:13:15 ก็จะชอบมีคนไข้มาถามหมอว่า เอ๊ะ ในกระบวนการรักษามีบุตรยาก
00:13:15 → 00:13:16 หรือแม้ว่ากระทั่งว่าตั้งครรภ์ไปแล้วนี่
00:13:17 → 00:13:18 สามารถดื่มกาแฟได้ไหม
00:13:18 → 00:13:21 คือจริง ๆ เราไม่ได้ห้ามนะคะ สามารถดื่มได้
00:13:21 → 00:13:25 แต่ว่าอย่างน้อยก็แนะนำว่า ไม่ควรเกินวันละ 1 แก้วก็พอค่ะ
00:13:25 → 00:13:30 เพราะว่าถ้าปริมาณกาเฟอีนที่เราได้รับเข้าไป ในร่างกายมากเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน
00:13:30 → 00:13:33 อาจจะส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้
00:13:33 → 00:13:36 ส่งผลต่อคุณภาพของตัวอ่อน แล้วก็คุณภาพของอสุจิได้
00:13:36 → 00:13:40 โดยส่วนใหญ่ก็คือแนะนำแก้วปกติ ทั่ว ๆ ไป 1 แก้วค่ะ
00:13:40 → 00:13:44 ถ้าคิดเป็นปริมาณกาเฟอีน ก็ประมาณสัก 100 มิลลิกรัมต่อวัน
00:13:44 → 00:13:45 แค่นั้นก็คือโอเค
00:13:45 → 00:13:47 น่าจะโอเคพอที่จะทำให้เราตื่นได้เนอะ
00:13:47 → 00:13:51 ถ้าคุณหมอณิบอกว่ากาแฟแก้วเดียว งั้นไปเติมชาเพิ่ม
00:13:51 → 00:13:51 อะ...สักหน่อย
00:13:52 → 00:13:53 เพิ่มสักหน่อย จะได้ตื่นอีก
00:13:53 → 00:13:58 บางคนแบบ…อาจจะไม่ได้ติดกาแฟเนอะ แต่ติดพวกแบบ…ชา โกโก้ หรือว่าน้ำอัดลมค่ะ
00:13:58 → 00:14:00 คือกลุ่มนี้ก็จะมีกาเฟอีนเหมือนกัน
00:14:00 → 00:14:03 โอเค ถ้าจะทานชา งั้นวันนั้นเราก็ต้องงดกาแฟ
00:14:03 → 00:14:07 ไม่ใช่แบบ…ชา 1 กาแฟ 1 น้ำอัดลมอีก 1 อันนี้มันก็จะเกิน
00:14:08 → 00:14:10 เครื่องดื่มชูกำลังอีกใช่ไหม อันนี้จะเกินแน่นอน
00:14:10 → 00:14:11 ใช่
00:14:11 → 00:14:14 ค่ะ โดยส่วนใหญ่หมอก็จะแนะนำคนไข้ ง่าย ๆ ว่า โอเค คุณเลือก 1 อย่างนะ
00:14:14 → 00:14:17 วันนี้มีสิทธิ์ 1 แก้วเท่านั้น อะไรอย่างนี้ค่ะ
00:14:17 → 00:14:19 ถ้าเป็นกาแฟ คุณหมอแนะนำกาแฟดำ
00:14:19 → 00:14:23 หรือกาแฟแบบ...นมเต็มที่ น้ำตาลเต็มที่ หรือยังไงดี
00:14:23 → 00:14:26 ก็คือเป็นกาแฟที่ไม่หวานจนเกินไป
00:14:26 → 00:14:27 ถ้าใส่น้ำตาลนิดหน่อยได้
00:14:27 → 00:14:29 แต่ถ้าใส่น้ำตาลที่มากจนเกินไป
00:14:29 → 00:14:33 ความหวานที่มากจนเกินไป ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลินได้
00:14:33 → 00:14:36 เพราะฉะนั้น มากไปก็ไม่ดี
00:14:36 → 00:14:39 - เอาแค่หวาน - เอาแค่หวานแบบพอประมาณ
00:14:39 → 00:14:41 ถ้าเป็นไปได้ก็เป็นกาแฟดำไปเลยดีไหม
00:14:41 → 00:14:43 กาแฟดำเลยก็จะดีเพราะว่าไม่เติมน้ำตาล
00:14:43 → 00:14:45 พอพูดถึงเครื่องดื่ม
00:14:45 → 00:14:49 หลาย ๆ คนก็จะนึกถึงเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ คุณหมอ
00:14:49 → 00:14:50 แอลกอฮอล์แนะนำไหมครับ
00:14:50 → 00:14:54 โอเค ถ้าเป็นแอลกอฮอล์นี่ คือปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยค่ะ
00:14:55 → 00:14:57 มันก็จะส่งผลต่อในเรื่องของภาวะเจริญพันธุ์
00:14:57 → 00:15:01 รวมถึงถ้าตั้งครรภ์นี่ การทานแอลกอฮอล์ก็จะเพิ่มภาวะแท้ง
00:15:01 → 00:15:04 เพิ่มภาวะที่ตัวอ่อนจะผิดปกติได้ค่ะ
00:15:04 → 00:15:06 เพราะฉะนั้น แอลกอฮอล์ของด 100%
00:15:06 → 00:15:10 เพราะฉะนั้น ในเรื่องของกาเฟอีน ในเรื่องของน้ำตาล ในเรื่องของแอลกอฮอล์
00:15:10 → 00:15:12 เป็นคำแนะนำให้ทั้งสองเพศเลยหรือเปล่าครับ
00:15:12 → 00:15:14 - ค่ะ ทั้งสองเพศเลย - ทั้งเพศชายและเพศหญิงเลย
00:15:14 → 00:15:14 ใช่แล้วค่ะ
00:15:14 → 00:15:18 คุณหมอณิครับ มาถึงพฤติกรรมสุดท้าย พฤติกรรมที่ 7 ครับ
00:15:18 → 00:15:21 ค่ะ พฤติกรรมสุดท้ายนะคะ ก็คือพฤติกรรมการสูบบุหรี่นั่นเองค่ะ
00:15:22 → 00:15:26 การสูบบุหรี่นี่ ทุกคนทราบอยู่แล้วเนอะว่า มันส่งผลเสียต่อร่างกายนะคะ
00:15:26 → 00:15:27 แต่สำหรับภาวะเจริญพันธุ์นี่ค่ะ
00:15:27 → 00:15:32 บุหรี่นี่มันมีสารก็คือตัวนิโคติน คาร์บอนมอนอกไซด์
00:15:32 → 00:15:37 ซึ่งพวกนี้มันส่งผลต่อการทำลายตัว DNA ในตัวเซลล์สืบพันธุ์ของคนเรา
00:15:38 → 00:15:40 ก็คือทั้งเซลล์ไข่ แล้วก็เซลล์อสุจิเลยค่ะ
00:15:40 → 00:15:45 หมอมีคนไข้อายุประมาณสัก 20 ปลาย ๆ ถ้าจำไม่ผิดก็ประมาณ 28
00:15:45 → 00:15:47 ทั้งคู่สามีภรรยาเลย
00:15:47 → 00:15:48 พยายามที่จะมีลูก ไม่สามารถมีลูกได้
00:15:49 → 00:15:52 มาปรึกษา แล้วก็เคยมีประวัติการตั้งครรภ์เอง แล้วก็แท้งไปหลายครั้ง
00:15:53 → 00:15:54 มาทำเด็กหลอดแก้วค่ะ
00:15:54 → 00:15:57 แล้วก็ได้ส่งตรวจโครโมโซมไป
00:15:57 → 00:16:00 เขาได้ตัวอ่อนเยอะมากเลยค่ะ เพราะว่าเขาอายุยังน้อย เขามีไข่เยอะ
00:16:00 → 00:16:02 แล้วเอาตัวอ่อนไปตรวจโครโมโซมค่ะ
00:16:02 → 00:16:05 ปรากฏว่าตัวอ่อนของเขาผิดปกติหมดเลย
00:16:05 → 00:16:07 มีตัวอ่อน 10 ตัว ผิดปกติทั้งหมดเลย 10 ตัว
00:16:07 → 00:16:08 โอ้โฮ
00:16:08 → 00:16:10 ทั้ง ๆ ที่อายุยังแค่ประมาณ 20 กว่า ๆ
00:16:10 → 00:16:16 พอซักประวัติไปก็คือ ฝ่ายคุณสามี สูบบุหรี่มาเป็นระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปีเลย
00:16:16 → 00:16:18 วันนึงก็คือหลักหลายซองค่ะ
00:16:18 → 00:16:22 ก็อันนี้เป็นตัวอย่างที่แบบ… ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่า การสูบบุหรี่นี่
00:16:22 → 00:16:24 ตัวสารต่าง ๆ ที่อยู่ในบุหรี่นี่
00:16:24 → 00:16:28 มันไปส่งผลต่อการทำลาย DNA ส่งผลต่อความผิดปกติของตัวอ่อนได้
00:16:28 → 00:16:32 ในเคสนั้น หมอก็เลยแนะนำให้คนไข้แบบ… ไปหยุดบุหรี่อย่างจริงจังเลย
00:16:32 → 00:16:34 ผ่านไป 6 เดือน กลับมาเริ่มใหม่
00:16:34 → 00:16:36 กลับมากระตุ้นไข่ใหม่
00:16:36 → 00:16:39 แล้วก็ได้ตัวอ่อนมาก แล้วก็เอาตัวอ่อนไปตรวจโครโมโซม
00:16:39 → 00:16:41 รอบหลังนี่ ตัวอ่อนปกติคือเพียบเลยค่ะ
00:16:41 → 00:16:43 คือมันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย
00:16:43 → 00:16:45 เพียงแค่เขาหยุดพฤติกรรมการสูบบุหรี่
00:16:45 → 00:16:49 บางคนอาจจะบอกว่า แต่เราไม่ได้สูบบุหรี่นะ แต่ว่ามีคนในบ้านสูบบุหรี่
00:16:49 → 00:16:51 อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็น Secondhand smoker
00:16:51 → 00:16:56 ก็คือเราไม่ได้สูบ แต่ว่าเราสูดควันบุหรี่ตลอดเวลา
00:16:56 → 00:16:59 ซึ่งกลุ่มนี้ความเสี่ยงในการที่จะมีลูกยาก
00:16:59 → 00:17:02 ก็ไม่ได้แตกต่างกันกับคนที่สูบบุหรี่เองเลย
00:17:02 → 00:17:05 เพราะฉะนั้น เราควรจะหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ทุกกรณี
00:17:05 → 00:17:08 บุหรี่นี่คือเป็นตัวร้ายเลย ควรจะงด 100%
00:17:08 → 00:17:10 นอกจากบุหรี่แล้ว
00:17:10 → 00:17:15 ในช่วงนี้หลาย ๆ พื้นที่มีปัญหา เรื่องของฝุ่นควันหรือว่า PM 2.5
00:17:15 → 00:17:17 มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของ การเจริญพันธุ์ด้วยไหม
00:17:17 → 00:17:23 ค่ะ มีงานวิจัยหลายๆงานที่ออกมา เพื่อที่จะหาว่ามันมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ไหม
00:17:23 → 00:17:25 ก็งานวิจัยยุคหลัง ๆ พบว่า
00:17:25 → 00:17:28 การที่เราสูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไปมาก ๆ นี่
00:17:28 → 00:17:32 ก็ส่งผลต่อในเรื่องของคุณภาพของไข่ แล้วก็คุณภาพของน้ำเชื้อเช่นกัน
00:17:33 → 00:17:37 แต่ว่าเรื่องของฝุ่นนะคะ เป็นเรื่องที่เราอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยากนะคะ
00:17:37 → 00:17:42 [เสียงดนตรี]
00:17:42 → 00:17:44 คุณหมอณิครับ คนในหมู่บ้านผมเขาฝากคำถามมาเยอะ
00:17:44 → 00:17:46 คำถามแรกเลย อันดับแรก
00:17:46 → 00:17:50 ต้องมีการสะสมตัวอสุจิไว้เยอะ ๆ ไหม
00:17:50 → 00:17:54 เพื่อที่ว่า เอาล่ะ ยิงเป้าครั้งเดียว แล้วได้เลยอย่างนี้
00:17:54 → 00:17:58 คำถามนี้นะคะ เป็นคำถามที่ หมอเจอประมาณแบบ 70-80% เลย
00:17:58 → 00:18:01 ในคุณสามีที่อยากจะมาตรวจน้ำเชื้อ หรือว่ามาเก็บน้ำเชื้อนี่นะคะ
00:18:01 → 00:18:04 เขาบอกว่า โอ๊ย หมอ ผมเก็บมาเป็นเดือนแล้ว
00:18:04 → 00:18:05 [เสียงหัวเราะ]
00:18:05 → 00:18:06 ผมนับถือ
00:18:06 → 00:18:09 ใช่ คือหมายถึงว่าเขากลัวว่ามาตรวจแล้ว เชื้อเขาจะน้อย
00:18:09 → 00:18:11 เขากลัวเขาแบบ…ไม่เท่
00:18:11 → 00:18:15 คือเขาอยากจะให้เขามีตัวเชื้อเยอะ ๆ เขาก็เลยเก็บมาเป็นเดือน
00:18:15 → 00:18:17 จริง ๆ แล้ว อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดเนอะ
00:18:17 → 00:18:20 เพราะว่าคืออสุจิมันมีอายุของมัน
00:18:20 → 00:18:23 ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้มี การปล่อยออกเรื่อย ๆ นี่
00:18:23 → 00:18:25 มันก็จะตายไปตามกาลเวลา
00:18:25 → 00:18:29 สมมุติว่าเรางดมาเป็นเดือนนี่ค่ะ แล้วเรามาตรวจอสุจิ
00:18:29 → 00:18:32 โอเค ปริมาณของตัวอสุจิอาจจะดูเหมือนเยอะ
00:18:32 → 00:18:35 แต่จะเป็นตัวตายซะทั้งนั้นเลย
00:18:35 → 00:18:36 ก็คือหมายถึงว่า
00:18:36 → 00:18:39 มันมีตัวอสุจิแหละ แต่ว่าอสุจิคือตาย
00:18:39 → 00:18:40 - ไม่เคลื่อนไหวแล้ว ? - ไม่เคลื่อนไหว
00:18:40 → 00:18:44 เพราะว่าพอมันค้างอยู่ในร่างกายนาน ๆ นี่ มันก็ตายไปตามกาลเวลา
00:18:44 → 00:18:47 โดยส่วนใหญ่ ถ้าคนที่จะมาตรวจน้ำเชื้อ
00:18:47 → 00:18:50 หรือว่าการมีเพศสัมพันธ์ แล้วจะต้องงดการหลั่งมานานแค่ไหน
00:18:50 → 00:18:54 โดยส่วนใหญ่แนะนำระยะเวลาที่เหมาะสม ก็คือประมาณ 3-5 วัน
00:18:54 → 00:18:56 หมายความว่า สมมุติว่าวันนี้เราจะมาตรวจน้ำเชื้อนี่
00:18:56 → 00:19:00 แนะนำว่าให้หลั่งมาก่อนหน้านั้นค่ะ ประมาณ 3-5 วัน
00:19:00 → 00:19:01 มันก็จะกำลังดี
00:19:01 → 00:19:02 ชาวบ้านฝากถามอีกแล้ว
00:19:02 → 00:19:04 ถ้ามีทุกวัน
00:19:04 → 00:19:07 อสุจิมันจะน้อยลง หรือมันไม่แข็งแรง หรือมันยังไงครับ
00:19:07 → 00:19:11 สมมุติมีทุกวัน เช่น เมื่อวานเราเพิ่งปล่อยไป วันนี้มันก็สร้างไม่ทัน
00:19:11 → 00:19:13 เพราะฉะนั้น สมมุติว่าเราเพิ่งปล่อยไปเมื่อวาน
00:19:13 → 00:19:16 แล้ววันนี้เรามาปล่อยน้ำเชื้อ แล้วมาตรวจค่ะ
00:19:16 → 00:19:19 ปริมาณมันก็จะดูน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
00:19:19 → 00:19:21 เพราะฉะนั้น เก็บนานไปก็ไม่ดี
00:19:21 → 00:19:24 เพิ่งปล่อย เก็บสั้นไปก็ไม่ดี ใช่ค่ะ
00:19:24 → 00:19:25 คุณหมอณิพูดถึงจำนวน
00:19:25 → 00:19:29 แล้วความแข็งแรงของตัวอสุจินี่ เขาวัดกันยังไงครับ
00:19:29 → 00:19:31 ว่ายปรู๊ดปร๊าด หรือว่าว่ายเป็นวง หรือว่าว่ายยังไงครับ
00:19:31 → 00:19:35 ส่วนใหญ่หลัก ๆ เราก็จะดูในเรื่องของปริมาณ ก็คือหมายถึงความเข้มข้นนะคะ
00:19:36 → 00:19:38 คือผู้ชายเรานี่ ปล่อยเชื้อออกมา 1 ซีซีนี่
00:19:38 → 00:19:42 ควรจะมีตัวเชื้ออสุจิเกิน 16 ล้านตัว ต่อ 1 ซีซี
00:19:42 → 00:19:43 อันนี้คือประเด็นที่ 1
00:19:43 → 00:19:47 ประเด็นที่ 2 ที่ส่วนใหญ่เราดูกันก็คือ ในเรื่องของเปอร์เซ็นต์การวิ่ง
00:19:47 → 00:19:52 หมายความว่า ใน 100% มีตัวเชื้อที่แบบวิ่ง ๆ ไม่ใช่อยู่นิ่งกับที่
00:19:52 → 00:19:55 ขอเกิน 42% อันนี้ก็คือถือว่าปกติ
00:19:55 → 00:19:57 อันถัดมาก็คือในเรื่องของรูปร่าง
00:19:57 → 00:20:00 รูปร่างก็คือหัวไม่กุด หางไม่ขาด อะไรอย่างนี้
00:20:00 → 00:20:03 เป็นตัวที่รูปร่างหล่อเหลากำยำล่ำสันค่ะ
00:20:03 → 00:20:05 อันนี้ก็คือต้องมีประมาณเกิน 4%
00:20:05 → 00:20:08 อันนี้เป็นตัวเลขตาม WHO ที่กำหนดเลยค่ะ
00:20:08 → 00:20:11 ครับ คำถามต่อไปจากชาวบ้านครับคุณหมอณิ
00:20:11 → 00:20:15 ท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์นี่ มีผลต่อการที่จะมีลูกหรือไม่มีลูกไหม
00:20:15 → 00:20:17 หรือว่าทำให้มีลูกง่ายขึ้นแบบนี้
00:20:18 → 00:20:21 สำหรับในเรื่องของท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์
00:20:21 → 00:20:23 อันนี้มันก็เป็นความเชื่อ และความคิดโดยหลักการ
00:20:23 → 00:20:26 แต่ต้องบอกว่า มันยังไม่ได้มีงานวิจัยรองรับ
00:20:26 → 00:20:32 หรือว่าไม่ได้มีการเก็บสถิติว่า ทำท่าไหนดี แล้วจะท้องง่ายขึ้นอะไรอย่างนี้
00:20:32 → 00:20:34 แต่โดยหลักการแล้วนี่ ก็คือ
00:20:34 → 00:20:39 ท่าที่สามารถที่จะส่งตัวเชื้ออสุจิ ไปอยู่ใกล้ ๆ บริเวณปากมดลูกได้มากที่สุดนี่
00:20:39 → 00:20:44 ก็น่าจะเป็นท่าที่ส่งเขาให้ ไปถึงฝั่งฝันได้มากที่สุด
00:20:44 → 00:20:49 อา...ซึ่งท่าที่น่าจะทำให้ตัวเชื้ออสุจิ เข้าไปได้ง่ายมากที่สุด
00:20:49 → 00:20:53 ก็อาจจะเป็นท่ามิชชันนารีหรือว่าท่าด็อกกี้ อะไรอย่างนี้นะคะ
00:20:53 → 00:20:55 ก็จะเป็นท่าที่ส่งเชื้อเข้าไปได้ใกล้มากขึ้น
00:20:55 → 00:20:57 แต่ต้องบอกว่ายังไม่มีงานวิจัยรองรับ
00:20:57 → 00:20:59 บางคนบอกว่า
00:20:59 → 00:21:04 พอเสร็จภารกิจเรียบร้อย แล้วรีบทำความสะอาดเลย
00:21:04 → 00:21:06 การทำความสะอาดนี่แนะนำไหมคุณหมอ
00:21:06 → 00:21:08 จริง ๆ แล้วสามารถทำได้
00:21:08 → 00:21:11 แต่ว่าเราจะแนะนำให้ทำความสะอาด แต่เพียงภายนอกเท่านั้น
00:21:11 → 00:21:14 ผู้หญิงบางคนนะคะ แบบ...กลัวสกปรก กลัวไม่สะอาด
00:21:14 → 00:21:16 ก็คือสวนล้างช่องคลอดเลย
00:21:16 → 00:21:19 คือการสวนล้าง ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม เป็นเรื่องที่ไม่แนะนำ
00:21:19 → 00:21:23 เพราะว่าจะทำให้ pH หรือว่า ระบบนิเวศภายในช่องคลอดนั้นเสียหายไปได้
00:21:23 → 00:21:27 แต่ทำความสะอาดภายนอก เพื่อกลิ่นที่พึงประสงค์อะไรอย่างนี้
00:21:27 → 00:21:28 อันนี้คือสามารถทำได้เลย
00:21:28 → 00:21:29 แนะนำ
00:21:29 → 00:21:32 มาถึงคำถามยอดฮิตของหลาย ๆ คู่เลยครับ
00:21:32 → 00:21:32 ค่ะ
00:21:32 → 00:21:35 หลาย ๆ คู่เขาก็คุมกำเนิดมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
00:21:35 → 00:21:39 แล้วการคุมกำเนิดนาน ๆ นี่ จะมีผลต่อการมีบุตรยากหรือเปล่า
00:21:39 → 00:21:43 ค่ะ อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่หลาย ๆ คน ยังคงเชื่ออยู่ว่า
00:21:43 → 00:21:46 การกินยาคุมมานาน ๆ เช่น บางคนกินมา 5 ปี 10 ปีนี่
00:21:46 → 00:21:48 กลัวว่าจะมีลูกยากไหมนะคะ
00:21:48 → 00:21:51 จริง ๆ แล้วนี่ ถ้าเป็นในกรณีที่เป็นกินยาคุม
00:21:51 → 00:21:56 การกินยาคุม มันจะยับยั้งการตกไข่ เฉพาะในรอบเดือนนั้นเท่านั้น
00:21:56 → 00:21:57 ต่อให้กินมา 5 ปี 10 ปีนี่ค่ะ
00:21:57 → 00:22:01 ถ้าเราหยุดปุ๊บ เดือนถัดไปก็มีโอกาสที่ไข่จะกลับมาตก
00:22:01 → 00:22:03 แล้วก็สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้เลย
00:22:03 → 00:22:05 เพราะฉะนั้น ตัวยาคุมเองที่เป็นชนิดกินน่ะค่ะ
00:22:05 → 00:22:08 ไม่ได้มีผลต่อในเรื่องของภาวะเจริญพันธุ์
00:22:08 → 00:22:11 เพียงแต่ว่าบางทีการที่เรากินยาคุมไปนาน ๆ
00:22:11 → 00:22:15 กว่าที่เราจะปล่อยท้อง เช่น บางคนปล่อยท้องตอนอายุที่ล่วงเลยไปแล้ว
00:22:15 → 00:22:18 อายุนั่นแหละค่ะที่จะมีผลที่ทำให้มีลูกยากได้
00:22:18 → 00:22:21 ไม่ใช่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดค่ะ
00:22:21 → 00:22:23 แต่ก็จะมียาคุมบางตัว หลังจากใช้ไปแล้วนี่
00:22:24 → 00:22:27 มีโอกาสที่จะทำให้ภาวะเจริญพันธุ์นั้น ดีเลย์ออกไป
00:22:27 → 00:22:30 นั่นก็คือยาฉีดคุมกำเนิด ที่เราฉีดกันทุก 3 เดือนค่ะ
00:22:31 → 00:22:34 กลุ่มพวกนี้จะมีโอกาสที่ทำให้ หลังจากฉีดเข็มสุดท้ายแล้วนี่
00:22:35 → 00:22:38 กว่าที่ภาวะเจริญพันธุ์จะกลับมา กว่าที่ไข่จะกลับมาตกค่ะ
00:22:38 → 00:22:40 อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนหน่อย
00:22:40 → 00:22:44 โดยเฉลี่ยก็ประมาณสัก 6 เดือน ที่ไข่จะกลับมาตกใหม่ค่ะ
00:22:44 → 00:22:46 สำหรับคนที่อยากที่จะมีลูก
00:22:46 → 00:22:50 คุณหมอมีข้อแนะนำไหมครับว่า ต้องทำแบบนี้แบบนี้แบบนี้อย่างนี้
00:22:50 → 00:22:50 ค่ะ
00:22:50 → 00:22:52 รับรองเพิ่มโอกาสในการมีลูก
00:22:52 → 00:22:55 อย่างแรกเลยก็คือ เราจะต้องวางแผนให้ดีก่อน
00:22:55 → 00:22:58 ถ้าเป็นไปได้ก็คือ ควรจะมีก่อนอายุ 35
00:22:58 → 00:23:01 จริง ๆ แล้วนี่ ภาวะเจริญพันธุ์ของคนเรานะคะ
00:23:01 → 00:23:05 มันจะพีคสุดเลยอยู่ที่อายุประมาณ สักช่วง 20 ต้น ๆ
00:23:05 → 00:23:06 [เสียงหัวเราะ]
00:23:06 → 00:23:08 ตอนนี้คิดว่าผู้ฟังหลายท่านปาดเหงื่อเลย
00:23:08 → 00:23:10 ซึ่งช่วงนั้นหลาย ๆ ท่านน่าจะเลยไปแล้วค่ะ
00:23:10 → 00:23:14 หรือบางท่านอาจจะแบบ 20 ต้น ๆ คือ ฉันยังเรียนไม่จบเลยอะไรอย่างนี้ยังไม่พร้อม
00:23:14 → 00:23:18 หรือว่าถ้าเกิดว่าเลยมาถึงประมาณสัก 30-32
00:23:18 → 00:23:21 อายุประมาณนี้ กราฟก็จะยังพอได้อยู่
00:23:22 → 00:23:24 แต่พอเลยสัก 35 ปุ๊บนี่ กราฟจะเริ่มตกแล้ว
00:23:24 → 00:23:27 พอ 40 ปุ๊บ ดิ่งลงเหวเลย
00:23:27 → 00:23:30 ก็คือภาวะเจริญพันธุ์ โอกาสในการมีลูกจะลดลงอย่างมากเลย
00:23:30 → 00:23:32 ถ้าเกิดมีลูกเกินอายุ 35 ขึ้นไปนี่
00:23:32 → 00:23:37 จะมีความเสี่ยงที่ตัวอ่อนคือการตั้งครรภ์นั้น ลูกอาจจะมีโอกาสผิดปกติได้
00:23:37 → 00:23:39 เช่น เป็นดาวน์ซินโดรม หรืออะไรก็แล้วแต่
00:23:40 → 00:23:42 เพราะฉะนั้น ถ้าคู่ที่แพลนว่าอยากจะมีลูก
00:23:42 → 00:23:46 ควรที่จะต้องมีการวางแผนให้ดี มีการตรวจเตรียมพร้อมมีบุตรนะคะ
00:23:46 → 00:23:48 อาจจะปรึกษาคุณหมอก่อนว่า
00:23:48 → 00:23:50 เราทั้งคู่มีโอกาสที่จะมีภาวะมีลูกยากไหม
00:23:51 → 00:23:54 เผื่อว่าเรามีลูกยากนี่ เราจะได้รีบ Action เลยรีบ Active นะคะ
00:23:54 → 00:23:56 จะได้ไม่ต้องรอให้อายุมันล่วงเลย
00:23:56 → 00:24:00 แล้วในผู้ชายล่ะครับ ถ้าอายุเกิน 35 นี่ สเปิร์มเขาจะผิดปกติไหมครับ
00:24:01 → 00:24:04 ถ้าเป็นสมัยก่อนเชื่อว่า ไข่ผู้หญิงแก่อย่างเดียว มีผล
00:24:04 → 00:24:06 คือโทษฝ่ายหญิงอย่างเดียว
00:24:06 → 00:24:08 แต่ปัจจุบันนี่ มีข้อมูลว่า
00:24:08 → 00:24:12 อายุของพ่อก็มีผลเช่นกัน ต่อในเรื่องของพัฒนาการของลูก
00:24:12 → 00:24:13 รวมถึงโครโมโซมของลูก
00:24:13 → 00:24:18 แต่อายุของพ่อ ถ้าตามการศึกษาก็คือตัดที่ 45
00:24:18 → 00:24:19 หมายความว่าพอ 45 ปุ๊บนี่
00:24:19 → 00:24:24 กราฟมันจะเริ่มกระดกหัวขึ้น คือจะมีโอกาสที่จะมีลูกที่จะผิดปกติมากขึ้น
00:24:24 → 00:24:28 เพราะฉะนั้น โดยรวมเลยก็คือ อายุมีผลต่อทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงค่ะ
00:24:28 → 00:24:29 เข้าใจแล้วครับ
00:24:29 → 00:24:32 เพราะฉะนั้น ถ้าจะมีลูก วางแผนก่อนเลยว่า
00:24:32 → 00:24:35 - อย่าให้เกิน 35 ไม่ควรจะเกิน 35 - ไม่ควรเกิน ใช่ค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี
00:24:35 → 00:24:40 นึกออกแล้วแล้ว ถ้าเกิดเผื่อ เริ่มวางแผนหลัง 35 จะต้องยังไงดี
00:24:40 → 00:24:43 กลุ่มนี้ค่ะ ก็แนะนำว่า ให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนก็ได้
00:24:43 → 00:24:45 เพราะว่าเราจะได้ตรวจประเมินก่อนว่า
00:24:45 → 00:24:51 ในร่างกายเรานี่ ทั้งในเรื่องของ คุณภาพไข่คุณภาพน้ำเชื้อนี่ มีปัญหาหรือเปล่า
00:24:51 → 00:24:54 สามารถที่จะไปปล่อยธรรมชาติเองก่อนได้ไหม
00:24:54 → 00:24:58 หรือว่าแบบ…ไม่ไหวแล้ว ควรที่จะต้องแบบ… เริ่มกระบวนการรักษาเลยอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:24:58 → 00:25:00 ก็จะได้วางแผนกันตั้งแต่เนิ่น ๆ
00:25:00 → 00:25:02 ข้อต่อไปล่ะครับคุณหมอณิ
00:25:02 → 00:25:05 ข้อต่อไปคือ พอเราพร้อมแล้วที่จะมีลูก
00:25:05 → 00:25:10 เราควรจะต้องรู้จักในเรื่องของภาวะตกไข่ คำนวณวันตกไข่ง่าย ๆ ให้เป็นก่อน
00:25:10 → 00:25:13 โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาวะการตกไข่ของคนเรา
00:25:13 → 00:25:17 ก็จะเกิดขึ้นประมาณ 14 วัน ก่อนที่จะมีประจำเดือนมารอบถัดไป
00:25:17 → 00:25:19 นั่นก็แปลว่า ต้องมีการจดบันทึกอย่างนี้หรือครับ
00:25:19 → 00:25:23 ใช่ค่ะ เพราะว่า รอบประจำเดือนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
00:25:23 → 00:25:26 ยิ่งถ้าเป็นบางคนที่รอบประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ
00:25:26 → 00:25:28 เช่น รอบเดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาว
00:25:28 → 00:25:30 กลุ่มนี้จะคำนวณวันตกไข่ได้ยาก
00:25:30 → 00:25:32 แต่ถ้าสำหรับคนที่รอบประจำเดือนเป๊ะ ๆ เลย
00:25:32 → 00:25:35 เช่น สมมุติว่า รอบประจำเดือน 28 วันเป๊ะ ๆ เลยอย่างนี้ค่ะ
00:25:35 → 00:25:39 วันที่เขาตกไข่ ก็จะเป็นประมาณวันที่ 14 หลังจากมีประจำเดือน
00:25:39 → 00:25:42 หรือว่าวันที่ 14 ก่อนที่จะมีประจำเดือนรอบถัดไป
00:25:42 → 00:25:45 ก็คือตรงกลางพอดี สำหรับคนที่รอบ 28 วัน
00:25:45 → 00:25:48 อันนี้สำหรับคนที่รอบฤดูห่าง 28 วันนะคะ
00:25:48 → 00:25:51 แต่สำหรับคนที่รอบฤดูไม่ใช่ 28 วัน
00:25:51 → 00:25:53 เช่น บางคนรอบฤดู 30 หรือ 32 วัน
00:25:53 → 00:25:58 อันนี้วิธีการคำนวณง่าย ๆ ก็คือ 32 - 14 ก็ได้ 18
00:25:58 → 00:26:06 ก็แปลว่าคน ๆ นั้นจะมีวันตกไข่คร่าว ๆ ก็คือ วันที่ 18 หลังจากมีประจำเดือนนั่นเอง
00:26:06 → 00:26:09 แต่สำหรับคนที่รอบฤดูแบบ…เดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาว รอบไม่สม่ำเสมอ
00:26:09 → 00:26:11 อันนี้อาจจะคำนวณด้วยวิธีนี้ได้ยาก
00:26:11 → 00:26:16 ก็จะแนะนำว่า ให้ไปใช้วิธีการตรวจอื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีวิธีตรวจหลายอย่าง
00:26:16 → 00:26:20 ที่คนไข้ส่วนใหญ่นิยมกันนะคะ ก็คือเป็นเรื่องของการตรวจการตกไข่
00:26:20 → 00:26:24 ก็คือจะเป็นการตรวจ Test โดยการตรวจจากปัสสาวะนี่ล่ะค่ะ
00:26:24 → 00:26:27 ซึ่งตัวเทสต์นี่ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลย
00:26:27 → 00:26:28 ทำเองที่บ้านได้
00:26:28 → 00:26:30 ทำเองที่บ้านได้ค่ะ เป็นเทสต์ที่ตรวจการตกไข่
00:26:30 → 00:26:32 พอเทสต์ขึ้นปุ๊บว่ามีการตกไข่แล้วนี่
00:26:32 → 00:26:34 เราก็แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์
00:26:34 → 00:26:37 ซึ่งสามารถอ่านคำแนะนำข้างกล่องได้เลยค่ะ จะมีคำแนะนำโดยละเอียด
00:26:37 → 00:26:39 รู้วันตกไข่
00:26:39 → 00:26:41 ทำนายหรือว่าคำนวณวันตกไข่ได้แล้ว
00:26:41 → 00:26:44 การที่เราจะมีเพศสัมพันธ์ ควรจะมีวันนี้เลย หรือว่าควรจะมีตั้งแต่เมื่อวาน
00:26:44 → 00:26:46 หรือว่าอีกสัก 2-3 วันค่อยมี ยังไงดีครับ
00:26:46 → 00:26:51 เราก็ควรที่จะต้องมีเพศสัมพันธ์ ในวันตกไข่เลยค่ะ อันนั้นก็คือจะดีที่สุด
00:26:51 → 00:26:53 แต่จริง ๆ แล้วนี่ โดยหลักการ สมมุติบางคนแบบ...
00:26:53 → 00:26:58 อุ๊ย แต่วันตกไข่แบบ...ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือว่าไม่ว่างอะไรอย่างนี้ จะเป็นอะไรไหม
00:26:58 → 00:27:00 คือจริง ๆ แล้วนะคะ โดยหลักการนี่
00:27:00 → 00:27:03 หลังจากที่ตัวอสุจิ เข้าไปในร่างกายเพศหญิงแล้วนี่
00:27:03 → 00:27:05 เต็มที่ก็คือ 6 วันนี่ เขาจะตายเรียบแล้ว
00:27:05 → 00:27:08 ช่วงประมาณ 1-2 วันแรก เป็นช่วงที่เขายังมีพละกำลังอยู่
00:27:08 → 00:27:12 เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติว่าแบบ...เราไม่สะดวก ในวันที่ตกไข่จริง ๆ อะไรอย่างนี้
00:27:12 → 00:27:16 โอเค 1 วันก่อนหน้า อาจจะมีเพศสัมพันธ์กันได้
00:27:16 → 00:27:19 แต่เชื้อนี่ก็คือเข้าไปรอไข่ที่ตกลงมาก่อน
00:27:19 → 00:27:22 แล้วก็อาจจะ... ถ้าสมมุติว่าต้องการเพิ่มโอกาส
00:27:23 → 00:27:27 ก็อาจจะทำซ้ำในวันถัดไป ที่ใกล้ ๆ กันกับในช่วงที่ตกไข่นั้นเลยก็ได้
00:27:27 → 00:27:30 เหตุผลที่ซ้ำ 2 วัน เพราะวันที่มีการตกไข่
00:27:30 → 00:27:33 เมื่อกี้ที่หมอบอกว่า อายุของอสุจิ
00:27:33 → 00:27:38 เวลาเข้าไปในร่างกายมีอายุอยู่ประมาณ 2 วัน แล้วก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงถึง 6 วัน
00:27:38 → 00:27:42 แต่สำหรับไข่ค่ะ ไข่ที่ตกลงมานี่ จะมีอายุอยู่ 24 ชั่วโมง
00:27:42 → 00:27:46 หลังจากนั้น ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ ไข่ฟองนั้นจะสลายไป
00:27:46 → 00:27:48 เพราะฉะนั้น สมมุติเราทำการบ้านวันนี้แล้ว วันที่ไข่ตก
00:27:49 → 00:27:51 แล้วเราไปทำอีก 5 วันให้หลังนี่
00:27:51 → 00:27:53 ก็ไม่มีประโยชน์ ใช่
00:27:53 → 00:27:55 เพราะว่าไข่มันสลายไปแล้ว
00:27:55 → 00:27:55 ครับ
00:27:55 → 00:27:57 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเรารู้วันตกไข่ เราก็ทำวันนี้
00:27:58 → 00:28:02 แล้วเราก็ทำพรุ่งนี้เลย เพราว่าไข่ยังมีอายุ ของมันอยู่ใน 24 ชั่วโมงอยู่
00:28:02 → 00:28:06 ก็คือถ้าเราชัวร์วันไข่ตก ทำซ้ำติดกัน 2 วันได้เลย
00:28:06 → 00:28:07 เราคำนวณวันแล้ว
00:28:07 → 00:28:07 ค่ะ
00:28:07 → 00:28:10 เรารู้แล้วล่ะว่าเป็นวันประมาณนี้
00:28:10 → 00:28:12 เราต้องมีการเตรียมตัวอย่างอื่นอีกไหม
00:28:12 → 00:28:16 ค่ะ ในเรื่องของการเตรียมตัวอื่น ๆ ก็คือ การเตรียมตัว เตรียมร่างกายให้พร้อมนะคะ
00:28:16 → 00:28:21 ทั้งในเรื่องของการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย ลดความเครียด ควบคุมน้ำหนัก
00:28:21 → 00:28:23 อย่างที่เราได้คุยกันไปแล้วนะคะ
00:28:23 → 00:28:26 อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในเรื่องของการรับประทานอาหารค่ะ
00:28:26 → 00:28:29 ก็อาจจะแนะนำเป็นเรื่องของ... ถ้าใครที่เตรียมพร้อมว่าจะตั้งครรภ์
00:28:29 → 00:28:32 ก็ต้องแนะนำ หนึ่งเลยก็คือทานโฟลิกค่ะ
00:28:32 → 00:28:35 เพราะว่าการทานโฟลิก เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์นี่
00:28:35 → 00:28:36 เมื่อมีการตั้งครรภ์แล้วนี่
00:28:36 → 00:28:40 โฟลิกจะช่วยไปบำรุง ระบบประสาทของทารกในครรภ์ได้
00:28:40 → 00:28:43 เมื่อเราปล่อยที่จะตั้งครรภ์นี่ สามารถเริ่มรับประทานไปได้เลยค่ะ
00:28:43 → 00:28:48 ก็แนะนำเป็นโฟลิกนะคะ Folic acid ขั้นต่ำ 500 ไมโครกรัมต่อวัน
00:28:48 → 00:28:50 แล้วก็อาจจะทานเสริมเป็นพวกแอนติออกซิแดนท์
00:28:50 → 00:28:54 แอนติออกซิแดนท์ก็เช่นพวกวิตามินซี วิตามินอี โคเอนไซม์คิว10
00:28:54 → 00:28:59 พวกนี้จะเป็นแอนติออกซิแดนท์ ที่จะช่วยในการบำรุงทั้งไข่และสเปิร์มได้
00:28:59 → 00:29:01 ทานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยค่ะ
00:29:01 → 00:29:02 คุณหมอณิครับ ผมเคยได้ยินมาว่า
00:29:02 → 00:29:06 สังกะสีมันจะมีส่วนช่วยคุณผู้ชายด้วย แนะนำไหมครับผม
00:29:06 → 00:29:10 ค่ะ Zinc ก็จะมีส่วนในเรื่องของ กระบวนการสร้างสเปิร์ม ลดการอักเสบได้ค่ะ
00:29:10 → 00:29:14 เพราะฉะนั้น Zinc ก็ทางฝ่ายคุณสามี ก็สามารถทานได้เช่นกันค่ะ
00:29:14 → 00:29:16 ต้องโด๊ปอะไรเป็นพิเศษไหม
00:29:16 → 00:29:18 เช่น คุณผู้ชายต้องใช้แรงเยอะ ต้องสร้างอสุจิ
00:29:18 → 00:29:21 ถ้างั้นก็กินโปรตีนเยอะ ๆ กินไข่หรืออะไรอย่างนี้ครับ
00:29:21 → 00:29:25 ค่ะ โดยส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้ ทานอาหารครบ 5 หมู่ทั่ว ๆ ไปนะคะ
00:29:25 → 00:29:27 จะชอบมีคนไข้ที่แบบว่ามาเข้าใจว่า
00:29:27 → 00:29:30 เออ นี่ กินไข่ขาว เพิ่มไข่อะไรอย่างนี้
00:29:30 → 00:29:34 ซึ่งจริง ๆ แล้ว การกินไข่ขาว ไม่ได้เพิ่มจำนวนฟองไข่
00:29:34 → 00:29:35 อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ
00:29:35 → 00:29:37 ก็โดยส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้กินไข่ขาวได้
00:29:37 → 00:29:41 กินตามให้ครบ 5 หมู่ ตามปกติอย่างนี้ได้เลยค่ะ
00:29:41 → 00:29:46 ตอนนี้เรารู้แล้วล่ะว่าเราจะต้องลด งดอะไร และควรจะทำตัวอย่างไร
00:29:46 → 00:29:48 ตอนนี้ดูทรงแล้ว ฟังคุณหมอณิเล่ามานี่
00:29:48 → 00:29:51 เราคงจะอยู่ในกลุ่มที่มีลูกยากแน่ ๆ เลย
00:29:51 → 00:29:55 ถ้าจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนี่ ควรจะไปปรึกษาคุณหมอในแผนกไหนครับ
00:29:55 → 00:29:57 สำหรับกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากนะคะ
00:29:58 → 00:30:01 ก็แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงค่ะ
00:30:01 → 00:30:03 เพราะว่ากฎหมายในประเทศไทยปัจจุบันกำหนดว่า
00:30:03 → 00:30:07 แพทย์ที่จะสามารถทำเด็กหลอดแก้ว ICSI, IVF พวกนี้ได้นี่
00:30:07 → 00:30:12 ต้องเป็นสูตินรีแพทย์ที่จบเฉพาะทาง ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์เท่านั้น
00:30:12 → 00:30:13 ถึงจะสามารถทำได้
00:30:13 → 00:30:16 วิธีการรักษาหรือวิธีการช่วยเหลือจะเป็นยังไง
00:30:16 → 00:30:20 ค่ะ จริง ๆ แล้วปัจจุบันมันมีหลายวิธี หลายเทคโนโลยีมากเลย
00:30:20 → 00:30:22 ที่เราเอามาใช้ในการช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก
00:30:23 → 00:30:25 แต่ว่าถ้าเป็นภาวะที่คนทั่ว ๆ ไปจะรู้จัก
00:30:25 → 00:30:28 ก็คือการทำ IUI หรือว่าการทำ IVF
00:30:28 → 00:30:31 คำว่า IUI ย่อมาจาก Intrauterine Insemination
00:30:32 → 00:30:35 หลักการง่าย ๆ เลยก็คือ เราฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก
00:30:35 → 00:30:36 คือกำหนดวันตกไข่
00:30:37 → 00:30:37 อ๋อ
00:30:37 → 00:30:40 พอกำหนดวันตกไข่ปุ๊บ ว่าวันนี้นะ คุณภรรยาไข่จะตกแล้ว
00:30:41 → 00:30:43 ก็ให้คุณสามีมาเก็บน้ำเชื้อ
00:30:43 → 00:30:44 ปั่นคัดเลือกตัวดี ๆ
00:30:44 → 00:30:46 แล้วหมอก็ใช้เหมือนเป็นอุปกรณ์
00:30:47 → 00:30:48 สอดเข้าไปในโพรงมดลูก
00:30:48 → 00:30:50 แล้วก็ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก
00:30:50 → 00:30:52 คือให้เขาเจอกันแน่ ๆ
00:30:52 → 00:30:55 แต่เขาจะปฏิสนธิกันไหม จะรักกันหรือเปล่า
00:30:55 → 00:30:56 อันนี้เป็นกระบวนการธรรมชาติ
00:30:57 → 00:31:00 แต่วิธีนี้นี่ เนื่องจากว่ามันไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรมาก
00:31:00 → 00:31:02 เพราะฉะนั้น โอกาสสำเร็จก็อาจจะไม่ได้สูงมาก
00:31:02 → 00:31:05 ประมาณ 10-15% ต่อหนึ่งรอบการรักษา
00:31:05 → 00:31:08 แต่แน่นอนว่า เทคโนโลยีไม่สูง ราคาก็ไม่แพง
00:31:08 → 00:31:14 แล้วก็เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ คุณสามีน้ำเชื้อไม่ได้มีปัญหาเยอะค่ะ
00:31:14 → 00:31:17 แล้วก็เหมาะกับคนที่แบบ... เพิ่งเริ่มทำ อายุน้อย
00:31:17 → 00:31:19 ไข่ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:31:19 → 00:31:24 ผมเคยได้ยิน หลาย ๆ คน เวลาที่จะมีการผสมเทียมนี่ ต้องมีการเก็บไข่
00:31:24 → 00:31:26 หลายคนพอฟังบอกว่าต้องมีการเก็บไข่นี่
00:31:26 → 00:31:30 รู้สึกว่า เฮ้ย มันจะเจ็บตัวไหม ต้องมีการผ่าตัดไหม
00:31:30 → 00:31:31 อ๋อ
00:31:31 → 00:31:33 อันเก็บอสุจินี่มันง่ายมาก
00:31:33 → 00:31:35 แต่การเก็บไข่ มันต้องมีกระบวนการอะไร อย่างไร
00:31:35 → 00:31:40 ค่ะ ถ้าเป็นกระบวนการเก็บไข่ จะเกิดขึ้นในกรณีที่เราทำเด็กหลอดแก้ว
00:31:40 → 00:31:44 เด็กหลอดแก้วก็คือ ทำ IVF หรือว่าทำ ICSI ที่หลาย ๆ คนเคยคุ้นหูกัน
00:31:44 → 00:31:47 คือหลักการก็คือ หมอจะทำการฉีดยากระตุ้นไข่
00:31:47 → 00:31:49 เพื่อให้ได้ฟองไข่โตขึ้นมาหลาย ๆ ใบ
00:31:49 → 00:31:52 คือคนปกติ ถ้าไม่กระตุ้นไข่นี่ ไข่จะมีแค่ใบเดียวต่อ 1 รอบเดือน
00:31:52 → 00:31:54 แต่ถ้าคนที่กระตุ้นไข่นี่
00:31:54 → 00:31:58 ไข่ก็จะผลิตขึ้นมาจำนวนมากเลย เช่น 5 ใบ 10 ใบ 15 ใบ
00:31:58 → 00:32:01 พอเรากระตุ้นจนถึงไข่โตถึงระยะหนึ่งแล้วนี่
00:32:01 → 00:32:05 เราก็จะเก็บไข่กับเก็บน้ำเชื้อมาผสม ทำเด็กหลอดแก้วภายนอกร่างกาย
00:32:06 → 00:32:08 กระบวนการเก็บไข่ก็จะเป็นกระบวนการที่...
00:32:08 → 00:32:11 หลาย ๆ คนถ้าไม่เคยเห็นภาพหรือเห็นคลิป อาจจะนึกไม่ออก
00:32:11 → 00:32:15 คือตอนนี้มโนไปไกลแล้ว มันคงจะต้องมีการแบบ...เปิดหน้าท้อง
00:32:15 → 00:32:17 เปิดหน้าท้องหรือเปล่า มีแผลไหม
00:32:17 → 00:32:21 จริง ๆ แล้วกระบวนการเก็บไข่ เป็นกระบวนการที่ไม่มีแผลที่หน้าท้องเลย
00:32:22 → 00:32:26 เป็นกระบวนการที่เหมือนเราอัลตราซาวด์ ทางช่องคลอดตามปกติเลยค่ะ
00:32:26 → 00:32:29 เพียงแต่หัวตรวจอัลตราซาวด์ มันจะมีเหมือนเป็นเข็มยาว ๆ
00:32:29 → 00:32:31 แนบชิดอยู่กับตัวหัวตรวจอัลตราซาวด์
00:32:32 → 00:32:33 เราจะสอดอุปกรณ์นี้เข้าไปในช่องคลอด
00:32:33 → 00:32:38 แล้วก็จะใช้เข็มนี่ค่ะ แทงผ่านผนังช่องคลอดเข้าไปในช่องท้อง
00:32:38 → 00:32:41 เพื่อไปดูดเอาฟองไข่ที่รังไข่ออกมา
00:32:41 → 00:32:44 แล้วเราก็ดูดเอาน้ำที่อยู่ในฟองไข่นี่ค่ะ
00:32:44 → 00:32:47 เอาไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อไปดูว่ามันมีเซลล์ไข่หรือเปล่า
00:32:47 → 00:32:49 เพราะฉะนั้น คนไข้คือไม่มีแผลเลย
00:32:50 → 00:32:55 หลังจากทำเสร็จปุ๊บ ก็สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ได้ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลด้วยค่ะ
00:32:55 → 00:32:58 พอคุณหมอพูดอย่างนี้ หลาย ๆ คนก็คงจะสบายใจขึ้นเนอะ
00:32:58 → 00:32:58 ค่ะ
00:32:58 → 00:33:00 ทีนี้ คุณหมอพูดถึงคำว่า ICSI
00:33:00 → 00:33:02 ICSI มันคืออะไรครับ
00:33:02 → 00:33:04 จริง ๆ คำว่า IVF กับ ICSI นี่
00:33:04 → 00:33:08 เป็นกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ปฏิสนธิภายนอกร่างกายเหมือนกันเลย
00:33:08 → 00:33:13 สิ่งที่แพทย์ทำกับคนไข้ก็เหมือนกันเลย คือการกระตุ้นไข่ แล้วก็เก็บไข่ออกมา
00:33:13 → 00:33:17 แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ กระบวนการในห้องปฏิบัติการ ในห้องแล็บนะคะ
00:33:17 → 00:33:20 ถ้าเป็นการทำ IVF สมมุติมีฟองไข่ 1 ใบนี่ค่ะ
00:33:21 → 00:33:24 เราจะเตรียมน้ำเชื้อ แล้วก็เอาน้ำเชื้อประมาณหลักแสนตัวนี่
00:33:25 → 00:33:27 ปล่อยเข้าไปในหลอดทดลอง
00:33:27 → 00:33:29 เราก็ปล่อยให้ตัวเชื้อหลักแสนตัวนี่
00:33:30 → 00:33:31 มีการคัดเลือก
00:33:31 → 00:33:35 เหนี่ยวนำให้เชื้อนี่ ปฏิสนธิเข้าไปในฟองไข่ 1 ใบนั้น
00:33:35 → 00:33:37 ด้วยความสามารถของเชื้อเอง
00:33:37 → 00:33:41 โดยใช้น้ำยาที่ใช้ในการเหนี่ยวนำ ให้เกิดการปฏิสนธิเกิดขึ้น
00:33:41 → 00:33:43 อันนี้คือการทำ IVF
00:33:43 → 00:33:47 สรุปคือ เชื้อหลาย ๆ ตัว มีการคัดเลือกเหมือนกึ่งธรรมชาติ
00:33:47 → 00:33:48 ปฏิสนธิเข้าไป
00:33:48 → 00:33:50 แต่ถ้าทำ ICSI
00:33:50 → 00:33:54 ICSI ย่อมาจาก Intracytoplasmic Sperm Injection
00:33:54 → 00:33:59 คือนักวิทยาศาสตร์จะเป็นคนคัดเลือกสเปิร์ม หยิบมา 1 ตัวเท่านั้น
00:33:59 → 00:34:00 ใส่เข้าไปในเข็ม
00:34:00 → 00:34:02 แล้วเอาเข็มตัวนี้ปักเข้าไปในไข่
00:34:02 → 00:34:06 พูดง่าย ๆ คือ คลุมถุงชน บังคับปฏฺิสนธิเลย
00:34:06 → 00:34:07 ICSI มันจะใช้เทคโนโลยี
00:34:07 → 00:34:11 ก็คือต้องใช้กล้องในการแทงเข็มเข้าไป เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ
00:34:11 → 00:34:15 โอกาสในการเกิดการปฏิสนธิ มันก็จะมากกว่าการทำ IVF ปกติ
00:34:15 → 00:34:19 แน่นอนว่ามันใช่เทคโนโลยีมากเลย ในการที่จะช่วยปฏิสนธิ
00:34:19 → 00:34:20 แล้วก็ช่วยเลี้ยงตัวอ่อน
00:34:20 → 00:34:23 โอกาสในการสำเร็จก็จะค่อนข้างสูงค่ะ ก็จะอยู่ที่ประมาณ...
00:34:23 → 00:34:25 ขึ้นอยู่กับว่าเราตรวจโครโมโซมตัวอ่อนด้วยไหม
00:34:25 → 00:34:27 ถ้าเราไม่ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน
00:34:27 → 00:34:31 ค่าเฉลี่ยคร่าว ๆ อยู่ที่ประมาณสัก 40% ต่อหนึ่งรอบการรักษา
00:34:31 → 00:34:33 แต่ถ้าเราตรวจโครโมโซมตัวอ่อนค่ะ
00:34:33 → 00:34:37 โอกาสในการปฏิสนธิก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 60-70%
00:34:37 → 00:34:39 ถ้าอย่างนี้ ถ้าเผื่อเราเลือกอสุจิ
00:34:39 → 00:34:42 อย่างนี้จะทำให้เราสามารถที่จะ เลือกเพศของลูกของเราได้ไหมครับ
00:34:42 → 00:34:44 โอเค การเลือกเพศค่ะ
00:34:44 → 00:34:47 ถ้าคนไข้ที่เดินทางเข้ามาปรึกษา แล้วบอกว่าต้องการเลือกเพศนี่
00:34:47 → 00:34:49 ปัจจุบันคือผิดกฎหมาย
00:34:49 → 00:34:50 - เหรอครับ - ใช่ค่ะ
00:34:50 → 00:34:52 ในประเทศไทยเรามีกฎหมายกำหนดไว้ว่า
00:34:52 → 00:34:54 เราตรวจโครโมโซมตัวอ่อนนี่
00:34:54 → 00:34:58 ต้องตรวจเป็นไปเพื่อการวินิจฉัยตัวอ่อนว่า มีความผิดปกติหรือเปล่า
00:34:58 → 00:35:02 แต่ว่าถ้าเราตรวจเพื่อการเลือกเพศนี่ ผิดกฎหมาย ใช่
00:35:02 → 00:35:03 และการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนค่ะ
00:35:03 → 00:35:07 คือถ้าแค่เราทำเด็กหลอดแก้ว แบบปฏิสนธิเฉย ๆ นี่
00:35:07 → 00:35:10 ไม่สามารถที่จะรู้ว่า ตัวอ่อนตัวไหนเป็นเพศอะไร
00:35:10 → 00:35:14 เราจะต้องเอาตัวอ่อนที่เราเลี้ยงแล้ว จนถึงตัวเต็มวัยนี่
00:35:14 → 00:35:16 ตัดเซลล์เล็ก ๆ เพื่อไปตรวจโครโมโซม
00:35:16 → 00:35:22 เราถึงจะรู้ว่าตัวอ่อนตัวนั้นนี่เป็นเพศอะไร มีโครโมโซมปกติหรือเปล่า ไม่ได้เป็นดาวน์นะ
00:35:22 → 00:35:27 อันนั้นเรียกว่าการตรวจสารพันธุกรรมตัวอ่อน ก่อนการฝังตัว หรือการตรวจโครโมโซมนั่นเอง
00:35:27 → 00:35:28 เข้าใจแล้ว
00:35:28 → 00:35:29 เป็นสิ่งที่ต้องทำเพิ่ม
00:35:29 → 00:35:31 ครับ ฟังจากคุณหมอณิเล่าให้ฟังนี่
00:35:31 → 00:35:33 มันก็จะมีเปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จ
00:35:33 → 00:35:36 กับแน่นอน ก็ต้องมีเปอร์เซ็นต์ของความไม่สำเร็จ
00:35:36 → 00:35:38 ถ้าในกรณีที่สำเร็จ ก็ยินดีด้วย
00:35:38 → 00:35:41 แต่ถ้ามันไม่สำเร็จในครั้งนี้
00:35:41 → 00:35:45 จะต้องมีการพักร่างกายก่อนไหม หรือว่าทำในรอบต่อไปได้เลย
00:35:45 → 00:35:49 ค่ะ โดยหลักการแล้วค่ะ เวลาทำภาวะมีบุตรยากพวกนี้ค่ะ
00:35:49 → 00:35:50 มันจบเป็นรอบ ๆ
00:35:50 → 00:35:54 สมมุติว่าในรอบนั้น เกิดการใส่ตัวอ่อนแล้ว คนไข้ไม่เกิดการตั้งครรภ์เกิดขึ้นนี่
00:35:54 → 00:35:59 พอเราหยุดยา หยุดอะไรต่าง ๆ ทุกอย่างปุ๊บ เมนเขาจะมา ประจำเดือนคนไข้จะมา
00:35:59 → 00:36:00 พอประจำเดือนมารอบถัดไปค่ะ
00:36:00 → 00:36:03 โดยหลักการแล้ว เราสามารถเริ่มกระบวนการต่อได้เลย
00:36:03 → 00:36:07 สมมุติว่าถ้าคนไข้คนนั้น ยังมีตัวอ่อนหลงเหลืออยู่
00:36:07 → 00:36:09 เช่น สมมุติมี 5 ตัว ใส่ไปแล้ว 1 ตัว ไม่ตั้งครรภ์
00:36:10 → 00:36:13 รอบถัดไป ก็สามารถมาใส่ตัวอ่อนตัวถัดไปได้เลย
00:36:13 → 00:36:16 หรือถ้าไม่มีตัวอ่อนแล้ว ก็สามารถกระตุ้นไข่ต่อได้เลย
00:36:16 → 00:36:18 อันนี้คือโดยหลักการ
00:36:18 → 00:36:19 แต่ในชีวิตจริงแล้วนี่
00:36:19 → 00:36:22 พอคนไข้ที่ไม่เกิดการตั้งครรภ์เกิดขึ้นนี่
00:36:22 → 00:36:27 แน่นอนว่าเขามีความเครียด มีความเหนื่อยล้า ทุกข์ใจ ความกังวลใจอะไรต่าง ๆ
00:36:27 → 00:36:31 โดยส่วนใหญ่ ก็จะแนะนำว่าให้ไปพักก่อนสัก 1-2 รอบเดือน
00:36:31 → 00:36:34 เพื่อปรับปรุงสภาพจิตใจ ร่างกาย อะไรต่าง ๆ
00:36:34 → 00:36:38 ให้พร้อมสำหรับการสู้ในครั้งถัดไปใหม่ อะไรแบบนี้ค่ะ
00:36:38 → 00:36:41 คุณหมอณิครับ สมมุติว่ามีตัวอ่อน อยู่ด้วยกัน 5 ตัวที่หน้าตาสวยหมดเลย
00:36:41 → 00:36:45 แต่คุณหมอณิเลือกไป 1 หรือ 2 แล้วประสบความสำเร็จเรียบร้อย
00:36:45 → 00:36:47 จะเกิดอะไรขึ้นกับ 3 ตัวอ่อนที่เหลืออยู่ครับ
00:36:47 → 00:36:49 สำหรับตัวอ่อนที่เหลืออยู่
00:36:49 → 00:36:53 แล้วไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก ในการใส่เข้าไปในโพรงมดลูกของคุณแม่
00:36:53 → 00:36:58 ตัวอ่อนเหล่านั้นจะถูกแช่แข็งไว้ ในถังไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิ -196 องศา
00:36:58 → 00:37:01 เขาจะ stable อยู่ที่เซลล์ในระยะนั้นเลย
00:37:01 → 00:37:05 แต่สำหรับตัวอ่อนที่ไม่ได้ถูกละลายออกมาค่ะ ตัวอ่อนพวกนี้ก็จะถูกเก็บไว้
00:37:05 → 00:37:09 ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของ คู่สามีภรรยาเหล่านั้นแล้วว่า
00:37:09 → 00:37:10 ต้องการจะทำยังไงกับตัวอ่อน
00:37:11 → 00:37:13 บางคู่นี่ค่ะ ท้องไปแล้ว 1 คน
00:37:13 → 00:37:17 เก็บตัวอ่อนเหล่านี้ไว้ เพื่อที่จะมามีลูกคนที่ 2 คนที่ 3 ก็ได้
00:37:17 → 00:37:21 เพราะว่าตัวอ่อนพวกนี้ สามารถเก็บได้เป็นสิบ ๆ ปี ก็สามารถเก็บได้
00:37:21 → 00:37:25 แต่สำหรับคนที่แบบ...อยากมีลูกแค่คนเดียว แล้วชีวิตนี้คือจบแล้ว พอแล้ว
00:37:25 → 00:37:30 เราจะมีการให้คนไข้มีการเซ็นว่า ต้องการที่จะเอาตัวอ่อนพวกนี้ไปไว้ที่ไหน
00:37:30 → 00:37:33 เช่น หนึ่ง ทำลายทิ้ง
00:37:33 → 00:37:37 ทำลายทิ้งก็คือ เอาออกมาจากถังไนโตรเจนเหลว เซลล์ก็จะสลายไป
00:37:37 → 00:37:41 หรือเอาไปใช้ในงานวิจัย เช่นแบบ... เหมือนเป็นการบริจาคให้งานวิจัย
00:37:41 → 00:37:45 หรือเอาไปบริจาคให้ผู้อื่นในอนาคตอย่างนี้ค่ะ ก็สามารถทำได้
00:37:45 → 00:37:47 ก็จะมีกฎหมายการบริจาคตัวอ่อนอยู่
00:37:47 → 00:37:51 แต่ว่าอันนี้ก็จะต้องเป็นการบริจาค ที่เจาะจงบุคคลนะคะ
00:37:51 → 00:37:54 ไม่ได้หมายความว่า บริจาคเป็นกองรวม เป็นแบงค์อะไรอย่างนี้
00:37:54 → 00:37:56 แล้วใครจะมาเอาไปก็ได้อย่างนี้ ไม่สามารถทำได้
00:37:56 → 00:38:00 เขามีสิทธิ์ที่จะบริจาคให้ใครก็ได้ แต่ว่าต้องเป็นไปตามกฎหมายค่ะ
00:38:00 → 00:38:05 ครับ ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าภาวะมีบุตรยาก เราควรจะต้องปรึกษาใคร
00:38:05 → 00:38:08 แล้ววิธีในการที่จะช่วยเหลือหรือว่ารักษานี่ มีวิธีอะไรบ้าง
00:38:08 → 00:38:12 ช่วงสุดท้ายของรายการครับ อยากที่จะชวนให้คุณหมอณิได้ฝากกับผู้ชม
00:38:13 → 00:38:15 ที่มีความตั้งใจที่จะมีบุตร เชิญเลยครับผม
00:38:15 → 00:38:19 ก็อยากจะฝากนะคะว่าจริง ๆ แล้ว ในเรื่องของการมีลูกไม่ใช่เรื่องยากเลย
00:38:20 → 00:38:23 แต่ว่าเป็นเรื่องที่เราทุกคน ต้องวางแผนให้ดีค่ะ
00:38:23 → 00:38:27 และสำหรับใครที่พยายามมีลูก มาสักระยะหนึ่งแล้ว แล้วไม่สำเร็จนะคะ
00:38:28 → 00:38:29 อย่านิ่งนอนใจค่ะ
00:38:29 → 00:38:31 อยากที่จะให้รีบเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะ
00:38:31 → 00:38:35 อย่าปล่อยให้เวลา ให้อายุของเรานี่ล่วงเลยไปนะคะ
00:38:35 → 00:38:39 เพราะว่าพออายุมากขึ้นนี่ โอกาสในการสำเร็จ มันก็จะยากขึ้นค่ะ
00:38:39 → 00:38:41 ก็ฝากเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนค่ะ
00:38:41 → 00:38:43 ในวันนี้ ผมเป็นตัวแทนหมู่บ้าน
00:38:43 → 00:38:46 ขอบคุณคุณหมอณิเลยนะครับ ที่มาให้ความรู้กับเรา
00:38:47 → 00:38:49 ในเรื่องของภาวะมีบุตรยาก ขอบคุณมากครับ
00:38:49 → 00:38:51 ยินดีมาก ๆ เลยค่ะ สวัสดีค่ะ
00:38:51 → 00:38:51 ครับ
00:38:51 → 00:38:54 สำหรับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:38:54 → 00:38:57 จะกลับมาพบกับคุณผู้ชมในหัวข้ออะไรนั้น
00:38:57 → 00:39:00 ฝากกด Like กด Share ฝากกดติดตามไว้นะครับ
00:39:00 → 00:39:03 เพื่อที่จะไม่พลาดข้อมูลดี ๆ จาก Mahidol Channel
00:39:03 → 00:39:06 วันนี้ผม อาจารย์เต้ และคุณหมอณิ ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับผม
00:39:06 → 00:39:07 สวัสดีค่ะ
00:39:07 → 00:39:12 พบกับ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:39:12 → 00:39:14 ที่ Mahidol Channel Podcast
00:39:14 → 00:39:16 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel
00:39:16 → 00:39:18 YouTube Mahidol Channel
00:39:18 → 00:39:19 Apple Podcasts
00:39:19 → 00:39:21 Spotify
00:39:21 → 00:39:22 Anchor
00:39:22 → 00:39:22 Joox
00:39:22 → 00:39:25 [เสียงดนตรี]
00:39:25 → 00:39:28 ดำเนินรายการโดยอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง
00:39:28 → 00:39:32 [เสียงดนตรี]
00:39:33 → 00:39:35 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:39:35 → 00:39:37 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:39:37 → 00:39:38 ปัญญาของแผ่นดิน