00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะพบกับฟ้านะคะและช่อง Blue Zone
00:00:03 → 00:00:05 Thailand ค่ะสัปดาห์นี้นะคะทุกคนถ้าเห็น
00:00:05 → 00:00:09 setting จะรู้เลยว่าวันเนี้ยฟ้ามีอะไร
00:00:09 → 00:00:11 พิเศษพิเศษมาฝากทุกคนแน่นอนวันนี้ไม่ได้
00:00:11 → 00:00:14 อยู่คนเดียวนะคะวันเนี้ยฟ้ามีแขกรับเชิญ
00:00:14 → 00:00:17 ที่เก่งมากๆคนนึงแล้วฟ้าก็ติดตามเขามานาน
00:00:17 → 00:00:20 พอสมควรตั้งแต่ที่เริ่มชอบออกกำลังกาย
00:00:20 → 00:00:23 ชื่ออาจารย์กอล์ฟนะคะเจ้าของเพจ Muscle
00:00:23 → 00:00:26 คลิิค่ะแล้วก็ถ้าใครพอจำได้เนี่ยตอนที่
00:00:26 → 00:00:29 ฟ้าเปิดช่องแรกๆเนี่ยฟ้าเคยสัมภาษณ์น้อง
00:00:29 → 00:00:31 หนึ่งสรวิทย์สืบพงษ์ไปและเรื่อง movement
00:00:31 → 00:00:33 for longevity แล้ววันนี้นะคะอาจารย์
00:00:33 → 00:00:35 กอล์ฟเนี่ยก็เป็นเพื่อนกับน้องหนึ่งเช่น
00:00:35 → 00:00:38 กันค่ะก็จะมาคุยเพิ่มเติมค่ะว่าไอ้การออก
00:00:38 → 00:00:40 กำลังกายเนี่ยสำหรับผู้สูงอายุเนี่ยมี
00:00:40 → 00:00:43 อะไรที่เราควรจะต้องทำแล้วก็ต้องระวัง
00:00:43 → 00:00:47 บ้างไปติดตามฟังกันเลยค่ะสวัสดีค่ะ
00:00:47 → 00:00:49 อาจารย์กอล์ฟฟอยากให้อาจารย์กอล์ฟเนี่ย
00:00:49 → 00:00:51 แนะนำตัวเองแล้วก็ตัวเพจ Muscle คลิิที่
00:00:51 → 00:00:54 ทำอยู่ให้กับคุณผู้ชมรู้จักมากขึ้นหน่อย
00:00:54 → 00:00:57 ค่ะโอเคก็สวัสดีครับขอบคุณทุกคนที่ทาง
00:00:57 → 00:00:59 บ้านด้วยนะครับก็ชื่อกอล์ฟนะครับและมอยู่
00:00:59 → 00:01:02 นะครับทำเพจ Muscle clinics ก็เป็นเพจ
00:01:02 → 00:01:05 เกี่ยวกับเรื่องของการออกกำลังกายค่ะก็
00:01:05 → 00:01:08 ทุกอย่างอาจจะมีมิติของการฝึกกีฬาบ้างการ
00:01:08 → 00:01:10 เล่นกล้ามบ้างอะไรบ้างทุกอย่างที่เกี่ยว
00:01:10 → 00:01:12 กับการออกกำลังกายเลยครับก็อยู่ในเพจ
00:01:12 → 00:01:15 Muscle คลินิคทั้งหมดเลยนฟัถามแรงบันดาล
00:01:15 → 00:01:17 ใจหน่อยที่มาที่ไปคือทราบว่าจริงๆแล้ว
00:01:17 → 00:01:19 อาจารย์กอล์ฟเนี่ยเคยเป็นนักกีฬามาก่อน
00:01:19 → 00:01:22 ด้วยแล้วมันมีแรงบันดาลใจที่มาที่ไปยังไง
00:01:22 → 00:01:23 เพราะจริงๆถือว่าเป็นนักกีฬาที่ทำงาน
00:01:23 → 00:01:28 วิชาการเยอะมากจริงๆเอ่อแรกเริ่มเดิมที
00:01:28 → 00:01:31 เนี่ยค่ะทุกคนเหมือนอยอยากมีตัวตนเฉยๆนะ
00:01:31 → 00:01:33 การการทำเพจมันเป็นเหมือนการลงสตอรี่แบบ
00:01:33 → 00:01:36 เฮ้ยวันนี้เล่นกล้าทำอะไรอ่าวันนี้เรากิน
00:01:36 → 00:01:39 อะไรวันนี้เราซ้อมอะไรมันเริ่มจากแค่นั้น
00:01:39 → 00:01:42 เลยนะค่ะเริ่มจากแค่ว่าเราอยากทำอยากแชร์
00:01:42 → 00:01:44 สิ่งที่เราทำอ่ะให้ให้ให้คนอื่นเห็นให้คน
00:01:44 → 00:01:47 อื่นมีคอมเมนต์กับเราแต่พอทำไปทำมาแล้ว
00:01:47 → 00:01:51 มันเริ่มกลายเป็นไม่ใช่แค่เรื่องของเราละ
00:01:51 → 00:01:53 อยากให้คนอื่นรู้เรื่องอื่นด้วยอ่าอ่า
00:01:53 → 00:01:55 แล้วด้วยความที่เราชอบอ่านอยู่แล้วเราก็
00:01:55 → 00:01:56 เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาแชร์มันก็เลย
00:01:56 → 00:01:58 กลายเป็นมันกลายเป็น community ของการหา
00:01:58 → 00:02:01 ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายละอไม่ใช่
00:02:01 → 00:02:04 แค่แบบเล่นกล้ามอย่างเดียวอ่าก็คือจริงๆ
00:02:04 → 00:02:06 เริ่มแรกเริ่มเดิมทีก็คือเน้นเรื่องของ
00:02:06 → 00:02:09 เล่นกล้ามมาก่อนใช่เล่นกล้ามเลยเล่นกล้าม
00:02:09 → 00:02:11 อย่างเดียวไม่แล้วเป็นการเล่นกล้ามแบบไม่
00:02:11 → 00:02:13 มีความรู้ด้วยนะคือคือเราเริ่มการเล่น
00:02:13 → 00:02:16 กล้ามด้วยกันสนุกเราเริ่มได้สนุกอส่วน
00:02:16 → 00:02:17 ใหญ่เวลาเราเริ่มด้วยอะไรที่มันสนุกเทำ
00:02:17 → 00:02:20 ได้นานอ่าจริงไม่ต้องรู้เยอะไม่ต้องอะไร
00:02:20 → 00:02:22 เลยก็คือทำสนุกมั่วแหละยอมรับเลยมั่วบ้าง
00:02:22 → 00:02:25 อะไรบ้างแล้วก็แชร์ในสิ่งที่เราสนุกกับ
00:02:25 → 00:02:27 มันอ่ะมันเป็นการเริ่มแบบนั้นเลยแต่หลังๆ
00:02:27 → 00:02:30 มาพอเราทำงานวิชาการมากขึ้นเนี่ย
00:02:30 → 00:02:33 หลังๆเราเริ่มที่จะลดความเป็นตัวเองลงละอ
00:02:33 → 00:02:36 เราก็เริ่มแชร์ที่เป็นสาระเป็น FA อเป็น
00:02:36 → 00:02:38 เรื่องจริงมากขึ้นอะไรเงี้ยก็คือมีสิ่ง
00:02:38 → 00:02:40 ที่เป็น DNA อย่างหนึงที่ฟารเรียกว่าเป็น
00:02:40 → 00:02:43 ไ long Learning แหละแต่หลักๆคือมัน
00:02:43 → 00:02:46 เริ่มมาจากสิ่งที่เราชอบแล้วเราก็รักแล้ว
00:02:46 → 00:02:48 มันก็เหมือนพอทำไปมันเกิดคำถามแล้วก็ค่อย
00:02:48 → 00:02:51 ขยายใช่อออกมาเรื่อยๆนสเป็นนิสัยไม่ดี
00:02:51 → 00:02:53 อย่างนึงนะเป็นนิสัยไม่ดีอย่างนึงตรงที่
00:02:53 → 00:02:55 ถ้าอยากรู้เรื่องอะไรเป็นคนที่อยากอยาก
00:02:55 → 00:02:57 รู้เรื่องอะไรครับจะไปเรื่องนั้นแบบไม่ทำ
00:02:57 → 00:03:00 อะไรเลยอ้อคือจะไปทำเรื่องนั้นถ้าสมมติ
00:03:00 → 00:03:02 ช่วงนี้อยากรู้เรื่องกล้ามใช่มั้ยช่วงนี้
00:03:02 → 00:03:04 ก็จะทำแต่กล้ามอ่านแต่ก้ามทุกอย่างเกี่ยว
00:03:04 → 00:03:06 กับกล้ามเพราะช่วงนี้หมดความสนใจเรื่อง
00:03:06 → 00:03:09 กล้ามสนใจอะไรสักอย่างนึงอย่างเช่นเกี่ยว
00:03:09 → 00:03:12 กับไขมันเกี่ยวกับสมองเมันก็จะไปแต่โซน
00:03:12 → 00:03:14 นั้นอย่างเดียวฉะนั้นเนี่ยต้องบอกตรงๆว่า
00:03:14 → 00:03:16 คนที่อ่าน Muscle คลิิเนี่ยจะมีอารมณ์
00:03:16 → 00:03:19 เหมือนแบบเอ้ยช่วงที่ฉันสนใจมาหรือยังถ้า
00:03:19 → 00:03:21 ช่วงนี้โพสต์แต่คนแก่ก็จะเป็นคนแก่ถ้า
00:03:21 → 00:03:23 ช่วงนี้โพสต์แต่เกี่ยวกับวิ่งก็จะเป็น
00:03:23 → 00:03:25 เกี่ยวกับวิ่งมันจะเป็นช่วงๆครับแล้วขึ้น
00:03:26 → 00:03:28 อยู่กับความสนใจของเราอ่าแต่ต้องบอก
00:03:28 → 00:03:30 อาจารย์กอล์ฟว่าคนที่ติดตามเพจเหล่านั้น
00:03:30 → 00:03:33 คนนึงถึงแม้จะไม่ใช่นักเล่นกล้ามนะคะก็
00:03:33 → 00:03:35 คือหมอฟ้าหมอฟ้าหมอฟ้าก็ตามเพหลักๆต้อง
00:03:35 → 00:03:37 บอกว่ารู้จักอาจารย์กอล์ฟผ่านทางน้อง
00:03:37 → 00:03:39 หนึ่งสรวิทย์อ่าเพราะเราชอบทำเรื่อง
00:03:39 → 00:03:41 เกี่ยวกับ movement longevity แล้ววัน
00:03:41 → 00:03:43 นี้ที่เชิญอาจารย์กอล์ฟมาต้องบอกว่าเพราะ
00:03:43 → 00:03:46 ว่าประทับใจโพสต์หลายๆอันของอาจารย์กอล์ฟ
00:03:46 → 00:03:48 อันดับแรกเลยก็คือเหมือนที่อาจารย์กอล์ฟ
00:03:48 → 00:03:51 บอกว่าคือพอสนใจเรื่องอะไรอ่ะจะลงลึกใช่
00:03:51 → 00:03:53 ลึกยิ่งกว่าหมอนะคะนี้ต้องบอกก่อนว่าลึก
00:03:53 → 00:03:55 ยิ่งกว่าหมอบางท่านเพราะเราก็ต้องยอมรับ
00:03:55 → 00:03:57 ว่าในความเป็นหมอของเราอ่ะเราก็จะมีความ
00:03:57 → 00:03:59 เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเราอือด้านที่
00:04:00 → 00:04:01 เกี่ยวกับกล้ามเนื้อเนี่ยฟ้ายอมรับเลยสู้
00:04:01 → 00:04:04 อาจารย์กอล์ฟไม่ได้ก็เลยอยากเชิญมาแชร์
00:04:04 → 00:04:06 ข้อมูลให้กับคนที่ติดตามช่องบู Zone น่ะ
00:04:06 → 00:04:08 เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของกล้ามเนื้อ
00:04:08 → 00:04:11 เรื่องของสมองเรื่องของการดูแลตัวเอง
00:04:11 → 00:04:15 เมื่ออายุมากขึ้นอือทีนี้เราเริ่มจากหัว
00:04:15 → 00:04:17 ข้อวันเยที่เรามาคุยกันหลักๆเลยคืออยาก
00:04:17 → 00:04:18 เชิญอาจารย์กอล์ฟเนี่ยมาคุยเกี่ยวกับ
00:04:18 → 00:04:21 เรื่องของการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ
00:04:21 → 00:04:23 เนี่ยแหละแต่ก่อนจะไปสู่โหมดเกี่ยวกับ
00:04:23 → 00:04:25 เรื่องออกกำลังกายอยากจะชวนอาจารย์กอล์ฟ
00:04:25 → 00:04:27 คุยเกี่ยวกับเรื่องของคำว่าผู้สูงอายุ
00:04:27 → 00:04:30 ก่อนคำว่าผู้สูงอายุนะในความรู้สึกของ
00:04:30 → 00:04:32 อาจารย์กอล์ฟหรือว่าที่เราคิดว่าอันเนี้ย
00:04:32 → 00:04:36 คือโค้ดความหมายคำจกัดความของผู้สูงอายุ
00:04:36 → 00:04:39 คือยังไงบ้างคะอืถ้าเอา definition ก่อน
00:04:39 → 00:04:43 นะอือปกติซีเนียเนี่ยคำว่าซีเนียเนี่ยถ้า
00:04:43 → 00:04:46 เกณฑ์ทั่วไปเจะตัดประมาณ 60 ออือ่าคือ 60
00:04:46 → 00:04:49 เเป็นซีเนียร์ละแต่พอเป็นช่วงซัก 40 50
00:04:49 → 00:04:53 -59 เ้าก็จะเรียกเป็นผู้เอ่อวัยกลางคน
00:04:53 → 00:04:56 ใช่คำนี้วัยกลางคนน่ะก็คือเป็นแบบ middle
00:04:56 → 00:04:58 Age ก็คือยังไม่แก่แต่ถามว่าเวลาที่เรา
00:04:58 → 00:05:01 พูดถึงคำว่าสูงวัยเนี่ยอืจริงๆเราอาจจะ
00:05:02 → 00:05:04 ไม่ต้องรออายุไปถึงเลข 6 หรอกพออายุเรา
00:05:05 → 00:05:07 มากขึ้นอะไรเงี้ยเราก็มีความเสื่อมที่
00:05:07 → 00:05:09 เกิดขึ้นมีอะไรที่เกิดขึ้นที่เริ่มสังเกต
00:05:09 → 00:05:12 เห็นได้อฉะนั้นจริงๆสำหรับผมเนี่ยครับคำ
00:05:12 → 00:05:16 ว่าสูงวยเนี่ยอคือเมื่อเราเริ่มอายุมาก
00:05:16 → 00:05:19 ขึ้นน่ะคือเราสูงวยละแต่จะสูงวัยมากสูง
00:05:19 → 00:05:21 วัยน้อยสูงวัยหน่อยอะไรเงี้อาจจะเป็นอีก
00:05:21 → 00:05:24 เรื่องนึงเลยออ่าโอเคถ้างั้นมาที่คำถาม
00:05:24 → 00:05:26 ถัดมาอ่ะสมมุติเราอิงตาม definition ก่อน
00:05:27 → 00:05:29 เหมือนวัยที่เขาให้คนเกษียณก็คือหลัง 60
00:05:29 → 00:05:31 เแหละเพราะว่าน่าจะเป็นวัยที่เมื่อก่อน
00:05:31 → 00:05:33 ทางรัฐบาลเอยยอะไรเอยยเห็นตรงกันว่าวัย
00:05:33 → 00:05:36 เนี้ยควรพักได้แล้วควรหยุดทำงานพูดง่ายๆ
00:05:36 → 00:05:38 ว่าเป็นอย่างงั้นซึ่งในกลุ่มวัยเนี้ยแต่
00:05:38 → 00:05:40 เหมือนที่อาจารย์กอล์ฟบอกว่าก่อนจะมาถึง
00:05:40 → 00:05:42 วัยที่เขาให้เราเกษียณหรือว่าหยุดทำงาน
00:05:43 → 00:05:46 มันคงมีสัญญาณบางอย่างมาก่อนนะนานที่
00:05:46 → 00:05:47 อาจารย์ก็บอกว่าอ่ะเช่นเราเป็นวัยกลางคน
00:05:48 → 00:05:51 แล้วก็เริ่มกลางคนค่อนไปทางสูงวัยมันไอ้
00:05:51 → 00:05:53 ความเสื่อมเหล่าเนี้ยพเข้าใจว่ามันเป็น
00:05:53 → 00:05:57 การสะสมมาเรื่อยๆมันมีสัญญาณอะไรบ้างที่
00:05:57 → 00:06:00 เจอได้บ่อยๆผมชอบคำนี้มากแล้วผมไม่ค่อย
00:06:00 → 00:06:02 เจอใครใช้คำว่าสะสมเพราะว่าคนส่วนใหญ่อ่ะ
00:06:02 → 00:06:05 พี่ฟ้าเชื่อมั้ยเวลาที่เราพูดถึงความแก่
00:06:05 → 00:06:08 หรือความสูงวัยอ่ะคนส่วนใหญ่จะนึกถึงแล
00:06:08 → 00:06:10 แค่เรื่องของกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อเล็กๆ
00:06:10 → 00:06:13 กล้ามเนื้อหายกล้าเนื้ออจริงๆแล้วความแก่
00:06:13 → 00:06:16 หรือความสูงวยเนี่ยครับมันเป็นการแย่สะสม
00:06:16 → 00:06:19 ของหลายๆระบบรวมๆกันอือมันไม่ใช่เฟลระบบ
00:06:19 → 00:06:22 เดียวแล้วคุณสูงวัยเลยนะอือใช่มยมันไม่
00:06:22 → 00:06:24 ใช่แค่ว่ากล้ามเนื้อคุณน้อยแล้วคุณสูงวัย
00:06:24 → 00:06:27 เลยนะอือมันเป็นการเฟลของสมองที่แย่ลงหัว
00:06:27 → 00:06:30 ใจที่แย่ลงปอดที่แย่ลงอฉะนั้นมันคือการ
00:06:30 → 00:06:34 สะสมกันของหลายๆระบบรวมๆกันอืเป็นความ
00:06:34 → 00:06:37 เสื่อมความเสื่อมสะสมของหลายๆระบบรวมๆกัน
00:06:37 → 00:06:40 ฉะนั้นแล้วเนี่ยถามว่ามันจะมีสัญญาณอะไร
00:06:40 → 00:06:44 ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณน่ะเจอความเสื่อมไหน
00:06:44 → 00:06:47 ออกมาก่อนซึ่งแต่ละคนก็จะไม่ได้เท่ากัน
00:06:47 → 00:06:49 เราอาจจะมีความเข้าใจว่าอ่ะเอาง่ายๆภาษา
00:06:49 → 00:06:51 บ้านๆคนสูงวัยหอบง่ายเหนื่อยง่ายออๆไม่
00:06:51 → 00:06:53 ได้ใช่ทุกคนที่จะแบบมีอาการว่าเฮ้ยฉัน
00:06:53 → 00:06:55 เริ่มเหนื่อยง่ายเพราะขึ้นบันไดแล้วฉัน
00:06:55 → 00:06:57 แก่นะบางคนก็ไม่เหนื่อยออือบางคนไปเจอ
00:06:57 → 00:07:01 อย่างอื่นแทนตาเริ่มมองไม่เห็นเริ่มหาย
00:07:01 → 00:07:04 อือนึกคิด processing เริ่มช้าอือคือมัน
00:07:04 → 00:07:08 เป็นความเสื่อมสะสมของหลายๆระบบรวมๆกัน
00:07:08 → 00:07:10 เพียงแต่ว่าอันไหนมันจะมากระทบจนกระทั่ง
00:07:10 → 00:07:14 เรารู้สึกก่อนก็คือแล้วแต่บุคคละใช่ใครจะ
00:07:14 → 00:07:17 เจออันไหนก่อนอ่าใช่ครับทีนี้ถ้าในเอ่อ
00:07:18 → 00:07:20 เขาคเรียกว่าระบบความเสื่อมต่างๆเนี่ย
00:07:20 → 00:07:22 สมมุติเราอิงจากทั้งต่างประเทศด้วยแล้วก็
00:07:22 → 00:07:25 ที่ไทยด้วยอันนึงยุคนี้ที่คนพูดบ่อยๆเลย
00:07:26 → 00:07:28 มีจริงๆเขาเรียกว่าเป็นโ h man มีอยู่ 4
00:07:28 → 00:07:30 อย่างอาจารย์กอล์ฟก็คือมีในเรื่องของ
00:07:30 → 00:07:32 เกี่ยวกับเรื่องของพวกการเคลื่อนไหวอ่า
00:07:32 → 00:07:34 ครับที่แย่ลงเวลาอายุเยอะขึ้นมีเรื่อง
00:07:34 → 00:07:37 ระบบประสาทที่มันเสื่อมที่เจอบ่อยๆอีกอัน
00:07:37 → 00:07:39 นึงของโฮมคือโรคหัวใจและหลอดเลือดแลอีก
00:07:39 → 00:07:41 อันนึงก็คือเรื่องมะเร็งแต่วันนี้ไฟอยาก
00:07:41 → 00:07:44 เน้นคุยกับอาจารย์กอล์ฟ 2 เรื่องก็คือใน
00:07:44 → 00:07:46 เรื่องของความเสื่อมของระบบประสาทกับความ
00:07:46 → 00:07:48 เสื่อมของกล้ามเนื้อทีนี้เรามาเริ่มที่
00:07:48 → 00:07:50 ระบบประสาทก่อนดีกว่าเพราะคนไม่ค่อยพูด
00:07:50 → 00:07:54 ถึงใช่อ่าความเสื่อมของระบบประสาตร์ของคน
00:07:54 → 00:07:57 สูงวัยมันมีลักษณะยังไงบ้างปกติอย่างฟ้า
00:07:57 → 00:08:00 เองเวลาคนชอบถามจะชอบบอกว่าจะนู่นจำนี่
00:08:00 → 00:08:02 ไม่ได้จำชื่อคนไม่ได้ไม่รู้ว่าตั้งใจอยาก
00:08:02 → 00:08:04 ไม่อยากจำหรือเปล่าไม่รู้นะหรือจำหน้าแฟน
00:08:04 → 00:08:06 ไม่ได้อะไอย่างเงี้ยแต่ว่าทางของระบบ
00:08:06 → 00:08:08 ประสาทที่เราเจอบ่อยๆว่ามันอันจะเป็น
00:08:08 → 00:08:11 สัญญาณว่าเริ่มมีความเสื่อมแล้วมันมีอะไร
00:08:11 → 00:08:14 บ้างค่ะถ้าสมมุติว่าเป็นเรื่องของระบบ
00:08:14 → 00:08:16 ประสาทเนี่ยครับอเรื่องของ memmory
00:08:16 → 00:08:18 processing อะไรพวกเอันเป็นส่วนนึงที่
00:08:18 → 00:08:20 เป็นความเสื่อมที่แสดงออกชัดๆในคนสุไว้
00:08:21 → 00:08:23 แต่ว่าถ้าเราดูในมุมของการเคลื่อนไหวอ่ะ
00:08:23 → 00:08:25 ครับเรื่องของการสั่งงานเนี่ยจะเป็นสิ่ง
00:08:25 → 00:08:27 นึงที่ลเฟกออกมาได้ชัดที่สุดเลยยกตัว
00:08:27 → 00:08:31 อย่างเช่นเเรียกว่าชเจะชัดลงการสั่งงาน
00:08:31 → 00:08:33 การทำนู่นทำนี่หรือการตอบสนองต่อสิ่ง
00:08:33 → 00:08:36 กระตุ้นบางอย่างเจะช้าลงเพราะว่าเวลาสมอง
00:08:36 → 00:08:39 เราทำงานเครับมันทำงานดยการรับ input
00:08:39 → 00:08:42 เข้ามาแล้ว respond ออกไปถูกมยกระบวนการ
00:08:42 → 00:08:44 รับ input แล้ว respond ออกมาเนี่ยจะช้า
00:08:44 → 00:08:47 ลงจริงๆการล้มทุกอย่างหรือการฟังก์ชันที่
00:08:47 → 00:08:50 เฟลในกล้ามเนื้อทุกอย่างของมนุษย์คนนึง
00:08:50 → 00:08:53 ครับแทบจะเรียกได้ว่าทุกอย่างเกิดจากสมอง
00:08:53 → 00:08:57 หมดเลยอืคนแก่คนนึงสมมุติเตกบันไดเอถาม
00:08:57 → 00:09:00 ว่าเอ้าที่จับลวก็อยู่ตรงงนี้ทำไมไม่จับ
00:09:00 → 00:09:02 เคอาจจะสั่งแล้วก็ได้แต่มันสั่งไม่ทันอ
00:09:02 → 00:09:05 มือมันสั่งไปแล้วแต่มือมันไม่ออกฉะนั้น
00:09:05 → 00:09:07 แล้วเนี่ยหนึ่งในสิ่งที่เป็นมาเกอร์นะ
00:09:07 → 00:09:09 ครับถ้าเราคุยกันในทางสรีระเนี่ยหนึ่งใน
00:09:09 → 00:09:11 มาร์เกอร์ของการเสื่อมของสมองที่ชัดเจน
00:09:11 → 00:09:13 ที่สุดเลยคือเขาเรียกว่า conduction
00:09:13 → 00:09:15 velocity ที่ลดลงอคือหมายความว่ากระแส
00:09:15 → 00:09:18 ประสาทที่วิ่งจากสมองไปหาส่วนปลายเนี่ย
00:09:18 → 00:09:22 มันจะลดลง Decade นึงเนี่ย 10 ปีเประมาณ
00:09:22 → 00:09:25 15 20% ต้องมีอูนั่นหมายความว่าคุณสั่ง
00:09:25 → 00:09:28 เนี่ยสมมุติกอฟคิดว่าจับกอลฟอาจจะคิดแล้ว
00:09:28 → 00:09:30 จับเลยคนแก่อาจจะคิดแล้วกว่าจะ processing
00:09:30 → 00:09:32 มาถึงกระบวนการสุดท้ายให้จับมันอาจจะ
00:09:33 → 00:09:34 delay ไปอันนี้คือ1ึในสิ่งที่เกี่ยวกับ
00:09:34 → 00:09:37 movement ที่ช้าลงที่สุดจอือันที่ 2 ที่
00:09:37 → 00:09:39 เป็นการเสื่อมเกี่ยวกับสมองคือการหายไป
00:09:39 → 00:09:41 ของพวกมอตอเวรอนอย่างเช่นยกตัวอย่างถ้า
00:09:41 → 00:09:44 พูดง่ายๆก็คือคนเราเนี่ยครับอันนี้มัน
00:09:44 → 00:09:46 ต้องพูดแก้มเนื้อแล้วนะคนคนเราเนี่ยแก่ไป
00:09:46 → 00:09:47 แล้วกล้ามเนื้อจะหายใช่มั้ยอันนี้ทุกคน
00:09:47 → 00:09:49 ทุกคนรู้อยู่แล้วอใช่แต่จริงๆแล้วจุด
00:09:49 → 00:09:51 เริ่มต้นของการหายของกล้ามเนื้อมันไม่ได้
00:09:51 → 00:09:53 หายที่กล้ามเนื้อนะครับอืมันหายที่ตัว
00:09:53 → 00:09:56 คอนโทรลก่อนคือปกติเนี่ยกล้ามเนื้อคนเรา
00:09:56 → 00:09:58 มันขยับเองไม่ได้นะอมันต้องสั่งจากสมอง
00:09:58 → 00:10:01 ถูกมั้ยอ่ะมันต้องมีอะไรสักอย่างที่มาคล
00:10:01 → 00:10:03 มันถูกมยอันเนี้ยเราเรียก mon นอนค่ะไอ้
00:10:03 → 00:10:06 ไอพวกเยครับมันจะหายไปพอมันหายไปเสร็จ
00:10:06 → 00:10:08 กล้ามเนื้อมันเหมือนเอ้าแล้วใครจะคุมฉัน
00:10:08 → 00:10:10 ล่ะอืเพราะไม่มีใครคุมฉันฉันก็ตายอื
00:10:11 → 00:10:12 ฉะนั้นจริงๆแล้วความเสื่อมในกล้ามเนื้อ
00:10:12 → 00:10:15 เองก็เริ่มจากสมองเหมือนกันอ้าฉะนั้นทุก
00:10:15 → 00:10:18 อย่างครับมันจะเริ่มจากสมองทั้งหมดเลยถ้า
00:10:18 → 00:10:21 สมมุติว่าสมองเราดีเราสามารถคงฟังก์ชัน
00:10:21 → 00:10:25 ของสมองหรืออะไรได้อผลกระทบส่วนปลายอืเจอ
00:10:25 → 00:10:27 น้อยมากครับแทบจะไม่เกิดเลยอาจจะเกิดแต่
00:10:27 → 00:10:30 แทบจะน้อยมากๆอสามารถเนนไว้ได้ในระดับที่
00:10:30 → 00:10:33 แบบแตกต่างกันเลยอืซึ่งึวันนี้เราจะคุย
00:10:33 → 00:10:36 กันเรื่องของเนิด้วยอใช่นั้นจริงๆก็จะ
00:10:36 → 00:10:38 เห็นได้ว่าจริงๆความเสื่อมของสมองกับ
00:10:38 → 00:10:41 กล้ามเนื้อจริงๆมันไม่ได้แยกออกจากกัน
00:10:41 → 00:10:43 เร่องกันทีเดียวจริงๆมันคือเรื่องเดียว
00:10:43 → 00:10:45 กัน้าเป็นอย่างที่อาจารย์กอล์ฟบอกถ้า
00:10:45 → 00:10:48 อย่างงั้นน่ะก็พออนุมานได้มคะว่าถ้าเป็น
00:10:48 → 00:10:52 คนที่เหมือนที่เขาชอบแนะนำอ่ะ Who แนะนำ
00:10:52 → 00:10:56 คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะมีแนวโน้ม
00:10:56 → 00:10:59 ว่าชะลอความเสื่อมใช่เพราะว่าเชากว่า
00:11:00 → 00:11:02 เพราะว่าออกกำลังกายมันใช้สมองไงอือไม่
00:11:02 → 00:11:04 ว่าคุณจะทำอะไรคุณจะใช้งานก้ามเนื้อยังไง
00:11:04 → 00:11:07 คุณสั่งสิ่งที่มีในสมองออ่าเมื่อไหร่ก็
00:11:07 → 00:11:10 ตามที่สมองคุณดีเนี่ยคุณจะสามารถรักษา
00:11:10 → 00:11:14 ส่วนปลายในเกือบทุกอย่างไว้ได้หมดเลยออ
00:11:14 → 00:11:17 เป็นการอยากยกตัวอย่างเช่นถ้าสมมุติว่า
00:11:17 → 00:11:19 เรารู้ถ้าสมมุตินะสมมุติว่าเรารู้วิธีการ
00:11:19 → 00:11:22 ทำยังไงให้เราใช้งานพวกกล้ามเนื้อ Fast
00:11:22 → 00:11:24 TW หรือกล้ามเนื้อที่มันทำงานหดตัวเร็วๆ
00:11:24 → 00:11:27 ได้อยู่ตบใดที่เรายังมีดีมานที่ต้องใช้
00:11:27 → 00:11:30 มันอยู่มันก็จะไม่หายไปตามแบบที่สมองยัง
00:11:30 → 00:11:32 สั่งว่าเฮ้ยฉันต้องใช้ Fast TW นะ Fast
00:11:32 → 00:11:36 TW ก็จะไม่หายไปอ่าฉะนั้นสิ่งสำคัญเลย
00:11:36 → 00:11:38 ครับคือเราต้องใช้มันไอ้คำว่า use It or
00:11:38 → 00:11:41 Lose it เนี่ยไม่จริงเสมอไปนะไม่จริง
00:11:41 → 00:11:43 เพราะอะไรรู้มั้ยเพราะบางทีคำว่า use it
00:11:43 → 00:11:46 เนี่ยเรา use ไม่ถึงก็หายเหมือนกันอ่า
00:11:46 → 00:11:50 โอเคใช่ไม่ถึง swe ไม่ถึง Sweet ไม่ถึง
00:11:50 → 00:11:52 จุดที่มันของมันยกตัวอย่างเช่นถ้าสมมุติ
00:11:52 → 00:11:54 กล้ามเนื้อคนเราเครับพี่ฟ้ามันจะแบ่งเป็น
00:11:54 → 00:11:58 เอ่อ Type 1 เน type 2 อะไรง่ายๆเอา
00:11:58 → 00:12:00 ง่ายๆ Type tye ง่ายๆถ้าสมมุติกิจกรรมใน
00:12:00 → 00:12:03 ชีวิตประจำวันของเรามันทำแต่อะไรเบาๆอ่ะ
00:12:03 → 00:12:06 เรากินข้าวเราเดินไปจ่ายตดเราอะไรอย่าง
00:12:06 → 00:12:08 เดียวเงี้ยอันนี้คือ use นะแต่ use ไม่
00:12:08 → 00:12:10 ถึง type 2 type 2 ก็หายถูกมั้ยครับ
00:12:10 → 00:12:12 ฉะนั้นถ้าเราสั่งให้สมองทำอะไรสักอย่าง
00:12:12 → 00:12:15 นึงเพื่อใช้อะไรที่มันเป็นแบบกล้ามเนื้อ
00:12:15 → 00:12:18 กระตุกแรงออกแรงบ้างอะไรบ้างมันก็จะอยู่
00:12:18 → 00:12:21 อืฉะนั้นกิจกรรม Exercise กีฬาต่างๆเนี่ย
00:12:21 → 00:12:23 เป็นเป็นอะไรที่เกิดจากสมองแล้วรักษามวล
00:12:23 → 00:12:26 กรรมได้ได้ดีมากโอ้น่าสนใจเพราะจริงๆอ่ะ
00:12:26 → 00:12:28 แนวคิดเดียวกับเวลาเราพูดเรื่องความ
00:12:28 → 00:12:31 เครียดเลยจกอลฟเพราะว่าปกติในไลฟ์สไตล์
00:12:31 → 00:12:33 เขาจะมีพูดเรื่องความเครียดเขาจะบอกเสมอ
00:12:33 → 00:12:35 ว่าความเครียดที่กำลังดีอ่ะจริงๆมี
00:12:36 → 00:12:38 ประโยชน์กับร่างกายพอมาฟังแบบนี้จริงๆกับ
00:12:38 → 00:12:41 กล้ามเนื้อกับเรื่องสมองก็เหมือนกันเนาะ
00:12:41 → 00:12:44 อืเหมือนกันเลยครับผมว่าสิ่งนึงอ่ะมัน
00:12:44 → 00:12:47 เป็น culture ที่เราถูกปลุกฝังมาด้วยอื
00:12:47 → 00:12:50 ถ้าถ้าเราคุยกันเรื่องของความเสื่อมทำไม
00:12:50 → 00:12:53 คนไทยถึงเสื่อมค่อนข้างไวอือใช่มั้ยครับ
00:12:53 → 00:12:55 เสื่อมเร็วโดยเฉพาะคนเมืองเสื่อมเร็วมาก
00:12:55 → 00:12:58 อืใช่มั้ยเราอาจจะมีชีวิตที่แบบทุกอย่าง
00:12:58 → 00:13:01 มัน facilitate เราไปหมดจนเราแทบจะไม่
00:13:01 → 00:13:04 ต้องขยับตัวเยอะขยับตัวเยอะเลยอะไรเลยถ้า
00:13:04 → 00:13:06 เทียบกับคนต่างจังหวัดคนต่างจังหวัดแข็ง
00:13:06 → 00:13:08 แรงมากนะครับอืคนต่างจังหวัดที่เขายัง
00:13:08 → 00:13:11 บังคับใช้ร่างกายมีกิจกรรมนู่นนี่นั่น
00:13:11 → 00:13:13 ความเสื่อมพวกนี้จะเห็นน้อยอออือใช่มั้ย
00:13:13 → 00:13:15 ฮะคนต่างจังหวัดอาจจะไปป่วยเรื่องอื่นแทน
00:13:15 → 00:13:17 ไม่ค่อยเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อและกำลัง
00:13:17 → 00:13:21 หรอกไปเป็นเอ่อไม่แน่ใจมะเร็งไปเป็นอะไร
00:13:21 → 00:13:24 แล้วแต่เรื่องของมลพิษมลภาวะอะไรต่างๆแต่
00:13:24 → 00:13:26 คนในเมืองเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นอะไรอ่อนแรง
00:13:26 → 00:13:28 ก้ามเนื้ออ่อนแรงก้ามเนื้อน้อยแรงหายอะไร
00:13:28 → 00:13:31 อย่างเงี้ยอ่าบวกกับโดยเค้าเรียกว่าโดย
00:13:31 → 00:13:33 วัฒนธรรมเนาะเหมือนเวลาเราขึ้นรถไฟฟ้าเรา
00:13:33 → 00:13:37 จะต้องยกที่นั่งให้กับผู้สูงอายุคือคนชรา
00:13:37 → 00:13:40 รีมีครรภแล้วก็พระสงฆ์อ่ะใช่เพราะฉะนั้น
00:13:40 → 00:13:42 มันเหมือนโดยวัฒนธรรมของเราเราจะมองว่า
00:13:42 → 00:13:47 ผู้สูงอายุเป็นเค้าเรียกอะไรสิ่งเปราะบาง
00:13:47 → 00:13:50 กลุ่มคนเปราะบางที่เราต้องใจอเรานะเราีเ
00:13:50 → 00:13:52 แบบนั้นใช่ใช่มั้ยคะอ่ะทีนี้งั้นกลับมา
00:13:52 → 00:13:54 ที่เรื่องความเสื่อมต่อก่อนเพราะว่ามัน
00:13:54 → 00:13:56 น่าสนใจมากที่อาจารย์กอล์ฟเล่าว่าจริงๆ
00:13:56 → 00:13:59 แล้วสมองกับกล้ามเนื้อจริงๆมันก็ไป้วยกัน
00:13:59 → 00:14:01 มันคือเรื่องเดียวกันเราไม่จำเป็นต้องแยก
00:14:01 → 00:14:03 มันออกจากกันก็ได้ใช่ครับทีนี้มาที่
00:14:03 → 00:14:06 เรื่องของกล้ามเนื้อก่อนเพราะว่าคนมักจะ
00:14:06 → 00:14:08 ไม่ค่อยนึกถึงว่าการ Exercise หรือการออก
00:14:08 → 00:14:10 กล้ามเนื้อมันส่งผลกับสมองได้ด้วยแล้วก็
00:14:10 → 00:14:13 เวลาในคนสูงอายุเนี่ยใชเจอบ่อยๆคือเรา
00:14:13 → 00:14:16 กลัวที่สุดเลยในของอาชีพหมอเขาเรียกว่า
00:14:16 → 00:14:19 fall precaution กลัวคนสูงอายุพลัดตกหก
00:14:19 → 00:14:22 ล้มที่สุดเพราะเรารู้ว่าถ้าพลัดตกหกล้ม
00:14:22 → 00:14:26 ปุ๊บกระดูกหักปุ๊บยาวและใช่โอหแนวโน้มนี่
00:14:26 → 00:14:28 คือสาหัสแล้วเพราะฉะนั้นดีที่สุดคือป้อง
00:14:28 → 00:14:30 กันไว้ก่อนแต่แล้วเรามาโฟกัสที่เรื่อง
00:14:30 → 00:14:32 กล้ามเนื้อก่อนที่อาจารย์กอล์ฟมีเกริ่นไป
00:14:32 → 00:14:35 ละนิดหน่อยว่าเวลาคนสูงอายุขึ้นปุ๊บเนี่ย
00:14:35 → 00:14:38 จะมีปัญหาเรื่องของที่เราเรียกว่าโคเนีย
00:14:38 → 00:14:41 นี่โคเนียบางคนยังเข้าใจว่าคือกล้ามเนื้อ
00:14:41 → 00:14:43 ฟีบเกี่ยวกับมนต์กล้ามเนื้อฟีบอย่างเดียว
00:14:43 → 00:14:45 อยากให้อาจารย์กอล์ฟขยายความเล่าเพิ่ม
00:14:45 → 00:14:48 เติมให้หน่อยว่าจริงๆแล้วไอ้ภาวะโคเนีย
00:14:48 → 00:14:50 อันเนี้ยที่เจอในคนสูงอายุมันคืออะไรกัน
00:14:50 → 00:14:53 แน่ค่ะ by definition น่ะมันคือกล้าม
00:14:53 → 00:14:57 เนื้อฟีบ copia มันคือกล้ามเนื้อน้อย by
00:14:57 → 00:14:59 definition เมันไม่ได้ผิดอะไรกับการเขจะ
00:14:59 → 00:15:01 แบบนั้นอแต่ว่าคือจริงๆแล้วเมื่อก่อนเวลา
00:15:01 → 00:15:04 ที่เราทรีทโปเนียเนี่ยเขาก็จะสนใจแค่ว่า
00:15:04 → 00:15:06 ฉันจะทำยังไงให้มวลกล้ามเนื้อฉันเพิ่มฉัน
00:15:06 → 00:15:08 เพิ่มอีเเพราะว่าเราสนใจแค่ตัวมวลกล้าม
00:15:08 → 00:15:11 เนื้ออือแต่ปัจจุบันเนี่ยครับเขาพบว่า
00:15:11 → 00:15:14 สิ่งที่มันหายก่อนมวลกล้ามเนื้อจะเกิดอ่ะ
00:15:14 → 00:15:16 คือมวลกล้ามเนื้อคนเราเนี่ยอายุประมาณ 40
00:15:16 → 00:15:20 35 เนี่ยแล้วแต่คนนะ 30 ก็มี 30 40 50
00:15:20 → 00:15:22 เนี่ยก่อนจะเกิดสิ่งพวกเนี้ยมันจะมีบาง
00:15:23 → 00:15:26 อย่างเกิดขึ้นก่อนอืช่วงราวๆปีประมาณ 2000
00:15:26 → 00:15:29 เนี่ยเราพบอีกภาวะนึงเราเรียกไดนาปียไดิ
00:15:29 → 00:15:33 แรงหายอ่ะก่อนก่อนแสจะหายใช่มแรงหายก่อน
00:15:33 → 00:15:36 ละแล้วแรงเนี่ยหายเยอะด้วยหายประมาณแบบ
00:15:36 → 00:15:39 23% ต่อปีเลยอเยอะกว่าแสเพราะแสก็จะหาย
00:15:39 → 00:15:41 ประมาณเปอร์เซ็นตนึงต่อปีเลยประมาณกว่าจะ
00:15:41 → 00:15:44 รู้ตัวก็ไปเยอะะใช่แล้วปัจจุบันเนี่ยเรา
00:15:44 → 00:15:46 มีความสนใจเรื่องของฟังก์ชันมากขึ้นซึ่ง
00:15:46 → 00:15:49 เขาก็มีนิยามใหม่ขึ้นมาเเรียก power ปีย
00:15:49 → 00:15:51 power ปียก็คือ Power มันจะหายไปก่อน
00:15:51 → 00:15:54 ก่อนที่แรงจะหายแล้วแสจะหายอีกซึ่ง Power
00:15:55 → 00:15:57 เนี่ยครับโดยหลักการแล้วเนี่ยมันก็คือการ
00:15:57 → 00:16:00 ใช้กล้ามเนื้อบวกกับสมองออกแรงเร็วๆ
00:16:00 → 00:16:02 ฉะนั้นการหายของพาเวรมันจะเป็นการหายแบบ
00:16:02 → 00:16:05 ตัวคูณเลยหายแบบตัวคูณหมายความว่าเอาแรง
00:16:05 → 00:16:07 ที่หายไปคูณกับเนื้อที่หายไปอืนั่นหมาย
00:16:07 → 00:16:09 ความว่าเปอร์เซ็นต์การหาพาเวอร์ต่ำๆเนี่ย
00:16:09 → 00:16:12 5% ต่อปีโอนั่นหมายความว่าถ้าสมมุติเรา
00:16:12 → 00:16:14 ดู definition ของ sarcopenia จริงๆนะ
00:16:14 → 00:16:16 ครับก็ต้องบอกพี่ฟ้าว่าเราหนีไม่หลุดคำ
00:16:16 → 00:16:18 ว่าเนื้อน้อยหรอกมวลกล้ามเนื้อน้อยแต่ว่า
00:16:18 → 00:16:20 ก่อนจะเกิดมวลกล้ามเนื้อน้อยจริงๆเราเกิด
00:16:20 → 00:16:23 กำลังหายแล้วก่อนจะเกิดกำลังหายเสร็จเรา
00:16:23 → 00:16:26 เกิด Power หายไปอีกฉะนั้นเนี่ยครับเวลา
00:16:26 → 00:16:29 ที่เราทรีทโคปีหรืออะไรพวกนี้จจริงๆแล้ว
00:16:29 → 00:16:31 เนี่ยปัจจุบันเราต้องกลับมาดูที่ต้นตอว่า
00:16:31 → 00:16:34 อะไรหายก่อนก็ต้องจัดการมันก่อนอไม่ใช่
00:16:34 → 00:16:36 ว่าฉันรอแรงตกไปไม่เป็นไรฉันรอพาเวอร์ตก
00:16:37 → 00:16:39 ไปไม่เป็นไรรอกล้ามเนื้อหายเมื่อไหร่ฉัน
00:16:39 → 00:16:41 ค่อยไปจัดการมันนะตอนนั้นไม่ใช่มันต้อง
00:16:41 → 00:16:43 รับมือตั้งแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นใน
00:16:43 → 00:16:47 ออเดอร์แรกๆซึ่งจริงๆพี่ฟ้ารู้มั้ยว่าถ้า
00:16:47 → 00:16:49 คนไม่ออกกำลังกายนะอ 30 คุณก็แทบจะหาย
00:16:49 → 00:16:52 เยอะมากแล้วพาเวอร์เนี่ยออเด็กอายุบางบาง
00:16:52 → 00:16:54 คนจะชอบบอกว่าพอขึ้นเลข 3 แล้วชีวิตไม่
00:16:54 → 00:16:56 เหมือนเดิมอใช่มั้ยพอขึ้นเลข 3 แล้วรู้
00:16:56 → 00:16:58 สึกแบบเอ้ยทำไมขึ้นเป็นไดแล้วมันเมื่อย
00:16:58 → 00:16:59 เรี่ยวแรง
00:16:59 → 00:17:03 เพราะว่าในช่วงพๆอย่างเช่นแบบ 22 24
00:17:03 → 00:17:06 อะไรพวกเเทียบกับ 30 โอ Power คุณอาจจะตก
00:17:06 → 00:17:08 ไปเป็น 10% แล้วถ้าคุณไม่เคยออกกำลังกาย
00:17:08 → 00:17:10 เลยใช่มั้ย 35 คุณเริ่มรู้สึกว่าแบบโอเค
00:17:10 → 00:17:13 Strength คุณหายอือพอเริ่ม 40 คุณถึงจะ
00:17:13 → 00:17:17 เริ่มเห็นโปีย 45 อะไรอย่างเงี้ยออโอเค
00:17:17 → 00:17:19 งั้นน่าสนใจอีกสมมุติว่าถ้าเป็นคนไม่ออก
00:17:20 → 00:17:23 กำลังกายเลยอมันมีสัญญาณอะไรที่บอกแว่า
00:17:23 → 00:17:26 พาวเริ่มหายสมมุติถ้าถถ้าไม่ออกคนคนฟัง
00:17:26 → 00:17:29 บางคนตอนนี้อาจจะแบบฉันยัง enjoy
00:17:29 → 00:17:31 ลิฟแบบว่าลิฟไลประเภทแบบ Play Heart
00:17:31 → 00:17:34 work Heart Play Heart โดยปกติเนี่ย
00:17:34 → 00:17:37 ครับถ้าสมมุติว่าเป็นในแบบดูแบบบ้านๆนะดู
00:17:37 → 00:17:39 แบบบ้านๆไม่ต้องมีวิธีการเทสที่เป็น
00:17:39 → 00:17:42 เทคโนโลีอะไรมันวุ่นวายเนี่ย Power โดย
00:17:42 → 00:17:44 โดยความหมายของมันเนี่ยครับมันคือการออก
00:17:44 → 00:17:47 แรงไหวๆอืฉะนั้นอะไรก็ตามที่คุณเคยทำแล้ว
00:17:47 → 00:17:50 คุณออกแรงได้ไวๆมากแล้วมันเริ่มช้าลงแบบ
00:17:50 → 00:17:53 ผิดปกติอ่าคุณเริ่มมีปัญหาแล้วยกตัวอย่าง
00:17:53 → 00:17:55 เช่นการลุกขึ้นจากเก้าอี้เนี่ยอืนั่งคุณ
00:17:55 → 00:17:57 นั่งอยู่เนี่ยแล้วคุณลุกปึ๋งขึ้นมาเนี่ย
00:17:57 → 00:18:01 ตอนวัยรุ่นนะดีอแต่พอคุณเริ่มดีดช้าลง
00:18:01 → 00:18:04 แล้วคุณเริ่มรู้สึกว่าเทำไมมันขึ้นช้าลงเ
00:18:04 → 00:18:07 คือพาวคุณตกแล้วอย่างในคนสูงวัยเนี่ยครับ
00:18:07 → 00:18:10 เวลาที่เราเทสพวกพาวง่ายๆ 1 อันเนี่ยอัน
00:18:10 → 00:18:12 นี้เป็นการเทสสากลเลยนะเขาเรียก Up and
00:18:12 → 00:18:15 Go อือก็คือให้คนสูงไว้นั่นเก้าอี้อื
00:18:15 → 00:18:17 แล้วก็จับเวลาว่าแล้วระหว่างที่ลุกเนี่ย
00:18:18 → 00:18:20 คุณใช้เวลาลุกเท่าไหร่อถ้าคุณลุกสมมติ
00:18:20 → 00:18:23 สมมติปีนี้พี่ฟ้าลุกด้วยเวลา 3 วินาทีอื 5
00:18:23 → 00:18:25 ปีต่อมา foll ีฟ้าก็ลุก 3 วินาทีอยู่โอเค
00:18:25 → 00:18:27 maintain f ได้ดีอือ่าตัวแรกคือคุณลุก
00:18:27 → 00:18:29 จากเก้าอี้ไว้เท่าไหร่
00:18:29 → 00:18:31 ตัวที่ 2 คือความไวในการเดินถ้าคุณเดินไว
00:18:31 → 00:18:34 ๆเนี่ยใช้พาเวอรเยอะอ่าคุณก็จะเดินฉะนั้น
00:18:34 → 00:18:36 นะครับเวลาที่เราเทสแบบบ้านๆเราก็จะดู
00:18:36 → 00:18:39 อะไรพวกเพฟ้าอะไรที่มันทำไวๆเคยทำได้แล้ว
00:18:39 → 00:18:42 ปัจจุบันทำไม่ได้ละอออ่าอันนี้คือการเทส
00:18:42 → 00:18:45 ว่าพาเวเราตกไปเยอะมั้ยอ่าแต่ว่าจริงๆ
00:18:45 → 00:18:48 ครับ Power คนเราเนี่ยมันถึงมันจะตกไปซัก
00:18:48 → 00:18:51 5% 10% มันจะไม่ค่อย detectable มันมอง
00:18:51 → 00:18:53 ไม่ค่อยออกออือเพราะว่าโดยปกติกิจกรรมที่
00:18:53 → 00:18:55 เราทำเนี่ยมันไม่ค่อยเป็นกิจกรรมที่ทำ
00:18:55 → 00:18:58 ด้วยเต็มแรงเต็มสตรมอยู่ลไม่มีใครลุกจัก
00:18:58 → 00:19:01 ก็เี้แบบปึ้มีบใช่มั้ยฉะนั้นมันมันสังเกต
00:19:01 → 00:19:04 ยากมากว่าพาเวอร์เราจะหายไม่หายใช่อก็
00:19:04 → 00:19:07 จริงถ้างั้นถ้าพูดถึงเรื่องเทสนอกจากที่
00:19:07 → 00:19:09 ตะกี้กอล์ฟบอกสมมุติอายุเรายังไม่ได้ถึง
00:19:09 → 00:19:11 ผู้สูงอายุอ่ะ Up and Go มันอาจจะไม่
00:19:11 → 00:19:14 ได้ชัดมาก่ 6 minute Walk ก็อาจจะไม่
00:19:14 → 00:19:16 ได้ต่างเท่าไหร่มันมีเทสอะไรที่มันบอกลึก
00:19:16 → 00:19:20 Power ได้บ้างมยใชถ้าสมมุติว่าเอาเป็น
00:19:20 → 00:19:23 เทสที่เป็นไม่ต้องลงทุนเยอะไม่ต้องมี
00:19:23 → 00:19:26 Field เยอะเนาะแล้วค่อนข้าง reliable
00:19:26 → 00:19:30 กระโดดสูงครับอ้าอ่ากระโดดสูงใช่สมมุติ
00:19:30 → 00:19:34 สมมติเอ่อบ็อกจัมเนี่ยหรอคะไม่เอ่อไม่ไม่
00:19:34 → 00:19:35 ใช่ครับก็คือเหมือนกับว่าบางทีเ้าจะ
00:19:35 → 00:19:38 กระโดดตบไม้บ้างว่าตบได้สูงเท่าไหร่หรือ
00:19:38 → 00:19:41 อะไรพวกเนี้ยก็อาจจะมีอันนี้ก็ขึ้นอยู่
00:19:41 → 00:19:44 กับอุปกรณ์เบางบางทีเราสอนเด็กแล้วก็ให้
00:19:44 → 00:19:45 เด็กเอาช็อกเขียนมือแล้วก็อ่ะกระโดดแปะ
00:19:46 → 00:19:49 กำแพงให้สูงที่สุดอ่าอะไรแบบเนี้ยดูพาเวร
00:19:49 → 00:19:52 ออ่าไอ้พวกเจะเทสค่อนข้างง่ายแต่ว่าเทส
00:19:52 → 00:19:56 พวกนี้ก็จะแฝงมาด้วยเงื่อนไขบางอย่างเช่น
00:19:56 → 00:19:58 นอนน้อยก็มีผลละอ่าเพาเวอร์ตกละก็จะเป็น
00:19:58 → 00:20:01 coning Factor ขึ้นมาวันนี้กินไม่ดีพัก
00:20:01 → 00:20:03 ผ่อนไม่ดีมีเรื่องเศร้าใจอะไรก็แย่ลงถูก
00:20:03 → 00:20:06 มั้ยฮะอือฉะนั้นการเทสจริงๆเนี่ยครับถาม
00:20:06 → 00:20:09 ว่าเทสแบบไม่ต้องใช้แลบก็มีเยอะการกระโดด
00:20:09 → 00:20:13 การเขวี้ยงไกลก็ได้สมมุติเราถือใครเคย
00:20:13 → 00:20:15 เข้าบอลเข้ายิมจะมีแบบ Medicine Ball
00:20:15 → 00:20:18 ที่มันหนักๆอโยนให้ไกลที่สุดเลยอ่าหรือ
00:20:18 → 00:20:20 โยนให้สูงที่สุดเลยแล้วก็ดูสิ่งที่เกิด
00:20:20 → 00:20:23 ขึ้นว่าแย่มั้ยอะไรมไอ้พวกนี้ก็ใช้ได้หมด
00:20:23 → 00:20:25 เลยอืแต่ว่าน่าเสียดายมากค่ะคุณผู้ชมเวลา
00:20:25 → 00:20:29 ของเราเนี่ยก็หมดลงแล้วนะคะก็แน่ๆว่า
00:20:29 → 00:20:32 เดี๋ยวเราจะมีกันต่อที่ EP 2 อย่าลืมไป
00:20:32 → 00:20:36 ติดตามต่อในวันพฤหัสบดีหน้านะคะว่าการออก
00:20:36 → 00:20:38 กำลังกายในผู้สูงอายุเนี่ยมีแนวทางยังไง
00:20:38 → 00:20:41 บ้างค่ะ