00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอคะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราก็มีการ
00:00:02 → 00:00:06 พูดถึงโรคเก๊าเทียมกันขึ้นมานะคะโรค
00:00:06 → 00:00:08 เก๊าท์กับเก๊าเทียมอย่างคุณหมอช่วยเล่า
00:00:08 → 00:00:10 ให้ฟังสักนิดนึงอ่ะค่ะว่ามันแตกต่างกัน
00:00:10 → 00:00:12 ยังไงมันมีความเหมือนความต่างกันยังไง
00:00:12 → 00:00:14 บ้างคะ
00:00:14 → 00:00:19 โรคเก๊าท์และโรคเก๊าเทียมเนี่ยมันเป็นข้อ
00:00:19 → 00:00:23 อักเสบคล้ายๆกันแต่พยายามที่จะสภาพแตก
00:00:23 → 00:00:25 ต่างกันนะครับ
00:00:25 → 00:00:31 เกิดจากภาวะที่สูงแล้วก็มีการตกตะกอนของ
00:00:31 → 00:00:36 ผลผลิตเป็นศึกลูกเข็นแล้วก็ทำให้เกิดข้อ
00:00:36 → 00:00:40 อักเสบตามมานะครับขณะที่เก๊าเทียมเนี่ย
00:00:40 → 00:00:44 เกิดจากเกิดอีกแบบหนึ่งซึ่งแตกต่างจากศึก
00:00:44 → 00:00:47 โรคเก๊าท์นะครับก็คือมันจะเป็นฝึกลูก
00:00:47 → 00:00:50 เปรียบนะครับอันนี้พยายามที่จะสภาพของการ
00:00:50 → 00:01:38 เกิดโรคเกาต์เนี่ยเอ่อ
00:01:38 → 00:01:41 อาจารย์คะเรื่องของการวินิจฉัยมัน
00:01:41 → 00:01:43 วินิจฉัยยากไหมคะอย่างเก่าเทียมเท่าที่
00:01:43 → 00:01:46 เคยเห็นข้อมูลมาเหมือนอาการมันก็คล้ายๆ
00:01:46 → 00:01:48 กับโรคเก๊าท์หรือคล้ายๆกับรูมาตอยด์ด้วย
00:01:48 → 00:01:50 อย่างนี้ค่ะอาจารย์เวลาวินิจฉัยมันเราจะ
00:01:51 → 00:01:55 มีการสังเกตยังไงได้บ้างคะครับคราวนี้
00:01:55 → 00:01:58 เอ่อมันคล้ายกันมากโดยทั่วไปเราก็มุ่งไป
00:01:58 → 00:02:01 ในผู้สูงอายุ
00:02:01 → 00:02:07 ที่จะมีความเครียดทางด้านกายและใจหรือ
00:02:07 → 00:02:12 อยู่ระหว่างเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลแล้ว
00:02:12 → 00:02:17 ก็ไม่เคยมีข้ออักเสบมาก่อนต่อมามีการเกิด
00:02:17 → 00:02:20 ข้ออักเสบแบบเฉียบพลันนะครับมีคือเรา
00:02:20 → 00:02:23 สังเกตได้หรือคนไข้ก็สังเกตได้จะมีอาการ
00:02:23 → 00:02:27 ปวดบวมแดงร้อนค่อนข้างชัดความเจ็บปวดจะ
00:02:27 → 00:02:30 รุนแรงมากนะครับบางท่านก็มีไข้ได้นะครับ
00:02:30 → 00:02:34 วันนี้เอ่อเราเราจะรู้ได้อย่างไรก็เราก็
00:02:34 → 00:02:39 อาศัยเอ่อลักษณะอาการดังกล่าวนะแต่ถ้า
00:02:39 → 00:02:42 เกิดว่าเป็นข้อในข้อที่สามารถทำการเจาะ
00:02:42 → 00:02:46 ท่อได้เนี่ยการพิสูจน์ที่ชัดเจนนะครับเรา
00:02:46 → 00:02:49 ก็จะใช้วิธีการเจาะข้อเอาน้ำใส่ท่อมาตรวจ
00:02:49 → 00:02:52 ซึ่งจะพบตึกลูกเป็นรูปเหลี่ยมๆนะครับอัน
00:02:52 → 00:02:56 นั้นต้องดูโดยกล้องจุลทรรศน์นะครับแต่ถ้า
00:02:56 → 00:02:59 เกิดว่าในข้อที่เล็กเช่นข้อมือข้อนิ้วมือ
00:02:59 → 00:03:02 เนี่ยมันเจาะไม่ได้โดยทั่วไปเราก็อาจจะ
00:03:02 → 00:03:06 ใช้การ explay ธรรมดานะเอกซเรย์บริเวณมือ
00:03:06 → 00:03:09 นะครับอาจจะพบลักษณะของ
00:03:09 → 00:03:14 แคลเซียมการปกเปิดแคลเซียมมันจะเป็นขาวๆ
00:03:14 → 00:03:17 นะฮะในระหว่างช่องคลอดนะครับซึ่งจะช่วยใน
00:03:18 → 00:03:20 การวินิจฉัยครับ
00:03:20 → 00:03:24 คุณหมอครับเรื่องของ South แท้กับเก๊า
00:03:24 → 00:03:25 เทียนในเรื่องของ
00:03:25 → 00:03:32 เพศที่มันจะมีผลต่อการเกิดอาการมันมีความ
00:03:32 → 00:03:34 เหมือนหรือว่ามันต่างกันยังไงบ้างไหมฮะ
00:03:34 → 00:03:38 คุณหมอครับสำหรับเพศนะครับถ้าคนไข้โรค
00:03:38 → 00:03:44 เกาต์มักจะพบพบในเพศชายวัยกลางคนขึ้นไปนะ
00:03:44 → 00:03:49 ครับก็โดยทั่วไปต้อง 30 นะครับแล้วก็
00:03:49 → 00:03:52 ตำแหน่งข้อที่เป็นข้อควรที่ผมแม่เท้าแล้ว
00:03:52 → 00:03:56 ก็ข้อเท้าหรือข้อเข่าได้โดยทั่วไปจะไม่
00:03:56 → 00:03:59 ค่อยขึ้นบริเวณข้อมือข้อนิ้วมือนะครับ
00:03:59 → 00:04:04 แล้วก็รถไฟก็สามารถหายได้นะครับถ้ารับ
00:04:04 → 00:04:06 ประทานยาก็หายได้เร็วภายใน 7 วัน 7-14
00:04:06 → 00:04:09 วันอยู่เฉยๆก็หายครับนะครับแต่ใช้เวลานิด
00:04:09 → 00:04:14 นึงประมาณนี้นะครับในขณะที่เอ่อเท่าเทียม
00:04:14 → 00:04:17 นะครับเต้าเทียนจะพบในคนสูงอายุนะครับ
00:04:18 → 00:04:21 แล้วพบได้ทั้ง 2 เพศนะครับเอ่อเราเรา
00:04:21 → 00:04:25 สังเกตได้จากว่าเอ่อผู้ป่วยก็จะมีข้อเสีย
00:04:25 → 00:04:28 พันเหมือนกันแต่ตำแหน่งจะต่างกันก็คือจะ
00:04:28 → 00:04:31 ชอบบริเวณข้อมือข้อนิ้วมือและก็อาจจะมี
00:04:31 → 00:04:37 ข้อเข่านะครับอ่าไม่ได้ประมาณนี้ครับ
00:04:37 → 00:04:39 ค่อนข้างที่จะชัดเจนเหมือนกันนะครับเป็น
00:04:39 → 00:04:42 เรื่องของความแตกต่างที่ที่เบื้องต้นที่
00:04:42 → 00:04:46 พอจะเห็นได้ชัดเจน
00:04:46 → 00:04:50 เราใช้โดยทั่วไปเราก็ดูถ้าผู้ป่วยเนี่ย
00:04:50 → 00:04:53 อยู่ในคนสูงอายุและไม่เคยเข้าเอาเศษมา
00:04:53 → 00:04:55 ก่อนตำแหน่งครอบเป็นข้อมือข้อนิ้วมือ
00:04:55 → 00:05:00 เนี่ยเราจะให้เราคิดว่าน่าจะเป็นจากมาก
00:05:00 → 00:05:04 กว่าแต่ไรก็ตามถ้าจะชัดเจนมันต้องพิสูจน์
00:05:04 → 00:05:07 โดยการเอาน้ำไขข้อมาตรวจครับ
00:05:07 → 00:05:09 แต่จุดสังเกตเบื้องต้นอย่างที่อาจารย์บอก
00:05:09 → 00:05:12 ก็คือว่าถ้าเกิดที่ข้อมูลข้อนิ้วมือหรือ
00:05:12 → 00:05:15 เข่าเนี่ยอาจจะเป็นเก๊าเทียมมากกว่าเป็น
00:05:15 → 00:05:17 เกาต์ธรรมดาใช่ไหมคะทั้งการไม่ธรรมดา
00:05:17 → 00:05:18 อย่างที่อาจารย์บอกว่าส่วนใหญ่จะเป็นที่
00:05:18 → 00:05:22 เท้าข้อเท้าอย่างนี้มากกว่าใช่ครับแล้วก็
00:05:22 → 00:05:25 ก็เท้าพ่อคนที่ผมไม่เท้าจะไม่ใช่ลักษณะ
00:05:25 → 00:05:28 ของโรคเตาเทียน
00:05:28 → 00:05:31 มันก็พอแยกได้อยู่เหมือนกันนะคะถ้าอย่าง
00:05:31 → 00:05:33 นั้นแล้วก็ช่วงอายุอย่างที่อาจารย์บอกว่า
00:05:33 → 00:05:36 ถ้าเป็นเก๊าปกติเนี่ยก็คือ 30 อัพเนี่ยมี
00:05:36 → 00:05:39 อาการเป็นดาราแต่ถ้าเป็นเก่าเทียมก็คือจะ
00:05:39 → 00:05:41 สังเกตได้เลยว่าในกลุ่มสูงวัยแน่นอนมา
00:05:41 → 00:05:46 เนี่ยอาจจะเป็นดาวเทียมละ
00:05:46 → 00:05:50 อย่างอาการเกาเหลา
00:05:50 → 00:05:53 สาเหตุหรือว่าปัจจัยหลักๆที่ทำให้เกิด
00:05:53 → 00:05:55 ขึ้นนะครับเพราะว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน
00:05:55 → 00:05:57 มาอย่างที่พี่เจี๊ยบบอกเนี่ยมันคือมันมี
00:05:57 → 00:05:59 ข่าวกระแสข่าวเรื่องของการเคลียร์เนี่ย
00:05:59 → 00:06:03 ค่อนข้างเยอะมากก็เลยอยากจะทราบว่าไอ้การ
00:06:03 → 00:06:05 เกิดขึ้นของอาการเกาเทียนเนี่ยมันมันมี
00:06:06 → 00:06:08 ปัจจัยหรือว่าเป็นสาเหตุอะไรได้บ้างครับ
00:06:08 → 00:06:09 คุณหมอ
00:06:09 → 00:06:14 แต่คือโดยทั่วไปก็มันเป็นโดยทั่วไปมันไป
00:06:14 → 00:06:20 ตามวัยซึ่งจะมีการตกหมึกของสารแคลเซียม
00:06:20 → 00:06:24 เราเรียกว่าแคลเซียมไพโลฟอสเฟตบริเวณ
00:06:24 → 00:06:25 กระดูกอ่อน
00:06:26 → 00:06:32 หัวข้อนะครับมันก็จะตกตะกอนอันนี้ปกติมัน
00:06:32 → 00:06:35 ก็อยู่ของมันตามปกติไม่มีอักเสบได้
00:06:35 → 00:06:40 มีตัวกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้ตึกเนี่ยที่
00:06:40 → 00:06:45 สะสมบริเวณกระดูกอ่อนหรือบริเวณเนื้อหุ้ม
00:06:45 → 00:06:46 ข้อเนี่ย
00:06:46 → 00:06:49 มันตกเอ่อ
00:06:49 → 00:06:52 นะครับก็กลายเป็นลักษณะเขาเรียกว่าสิ่ง
00:06:52 → 00:06:55 แปลกปลอมจากกระตุ้นทำให้เกิดข้ออักเสบ
00:06:55 → 00:07:00 เฉียบพลันชนิดสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่อง
00:07:00 → 00:07:02 ของการใส่กระท้อนเนี่ยเขามีความเชื่อว่า
00:07:02 → 00:07:06 อาจจะมีเรื่องของความเครียดได้หรือเรื่อง
00:07:06 → 00:07:10 ของภาวะเจ็บป่วยทางกายเช่น
00:07:10 → 00:07:14 มีโรคหัวใจโรคหลอดเลือดสมองหรือแม้แต่
00:07:14 → 00:07:19 หลังผ่าตัดตอนมองโรงพยาบาลแล้วก็อยู่ๆก็
00:07:19 → 00:07:22 เกิดข้ออักเสบเฉียบพลันในบริเวณดังกล่าว
00:07:22 → 00:07:25 นะครับอันนี้เราจะคิดว่าน่าจะเป็นโรคของ
00:07:25 → 00:07:30 เท้าเทียมครับคือถ้าดูจากตัวช่วงช่วงวัย
00:07:30 → 00:07:34 แล้วเรื่องของกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวคน
00:07:34 → 00:07:37 ที่อายุ 60 ปีขึ้นไปมีโอกาสที่จะเป็นได้
00:07:37 → 00:07:39 ทุกคนนะครับคุณหมอครับ
00:07:39 → 00:07:43 โดยส่วนใหญ่มีโอกาสเป็นได้ทุกคนครับ
00:07:43 → 00:07:49 เป็นได้ทุกคนใช่ไหมครับ
00:07:49 → 00:08:03 ไหมคะ
00:08:03 → 00:08:06 แต่จะต้องมีสาเหตุ
00:08:06 → 00:08:11 ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุเช่นการที่มีร่างกาย
00:08:11 → 00:08:15 หรือระดับเลือดมีแคลเซียมกลัดในเรื่องที่
00:08:15 → 00:08:19 สูงจากภาวะความผิดปกติของ
00:08:19 → 00:08:23 พวกสารพลังไทรอยด์อย่างนี้นะครับหรือ
00:08:23 → 00:08:25 culture สูงๆเนี่ยก็จะเป็นสาเหตุได้นะ
00:08:25 → 00:08:29 ครับแต่ถ้าแต่โดยทั่วไปเรามักจะไม่ทราบ
00:08:29 → 00:08:34 สาเหตุแต่เราพบว่าสัมพันธ์กับคนสูงอายุ
00:08:34 → 00:08:37 คือถ้าอย่างที่คุณหมอบอกว่าอย่างใน
00:08:37 → 00:08:40 เก๊าท์เทียนเนี่ยพบได้ในผู้ที่มีแคลเซียม
00:08:40 → 00:08:43 ในเลือดสูงคือแปลว่าคือคนที่สูงอายุที่
00:08:43 → 00:08:46 เขาแบบทานนมเพื่อที่จะเสริมสร้างแคลเซียม
00:08:46 → 00:08:49 เนี่ยถ้ากินเยอะเกินไปมันก็มีโอกาสที่จะ
00:08:49 → 00:08:52 ทำให้เกิดอาการเล้าเทียมได้เช่นกันหรือ
00:08:52 → 00:08:53 เปล่าฮะคุณหมอ
00:08:53 → 00:08:56 ที่ได้เป็นเช่นนั้นนะครับ
00:08:56 → 00:08:59 แคลเซียมที่เรารับประทานเข้าไปเนี่ย
00:08:59 → 00:09:03 มันจะไม่ถูกเบิกเต็มโดยทั้งหมดมันขึ้น
00:09:03 → 00:09:06 อยู่กับระดับแคลเซียมในเลือดว่าเราพอหรือ
00:09:06 → 00:09:10 ยังถ้าเราพอแม้เราทานเยอะๆนะครับมันก็จะ
00:09:10 → 00:09:14 ไม่ดูดซึมนะครับและการรับประทานแคลเซียม
00:09:14 → 00:09:18 ปริมาณเยอะๆแล้วก็ตามเนี่ยก็ไม่เป็นเหตุ
00:09:18 → 00:09:21 ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงนะครับยก
00:09:21 → 00:09:24 เว้นว่าเขาจะมีความผิดปกติอย่างอื่นด้วย
00:09:24 → 00:09:28 เช่นมีภาวะระดับวิตามินดีในเลือดค่อนข้าง
00:09:28 → 00:09:32 สูงหรือมีระดับฮอร์โมนพาราไทรอยด์เนี่ย
00:09:32 → 00:09:34 ค่อนข้างสูงเนี่ยอันเนี้ยจะเป็นเหตุทำให้
00:09:34 → 00:09:37 เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงนะครับถ้าทำ
00:09:37 → 00:09:39 ให้เกิดความเสี่ยงได้
00:09:39 → 00:09:41 อาหารการกินไม่เกี่ยวใช่ไหมครับคุณหมอ
00:09:41 → 00:09:43 ครับไม่เกี่ยวเลยครับ
00:09:44 → 00:09:46 พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็ไม่ได้เป็นปัจจัย
00:09:46 → 00:09:48 กระตุ้นเลยใช่ไหมคะอาจารย์
00:09:48 → 00:09:53 ไม่น่าใช่ครับเพราะว่าไอ้แต่เรารู้แต่
00:09:53 → 00:09:56 เพียงว่าเนี่ยปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เขา
00:09:56 → 00:10:00 กำเริบมันอยู่ในบริบทดังกล่าวก็คือไอ้อาจ
00:10:00 → 00:10:03 จะมีความใกล้ชิดทางจิตใจหรือไม่ก็มีภาวะ
00:10:03 → 00:10:07 ทางกายนะครับแล้วก็ให้เกิดเอ่อการเกิดโรค
00:10:07 → 00:10:11 พ่อเสร็จตามมาครับความรุนแรงของเขาเทียม
00:10:11 → 00:10:14 นะคะอาจารย์มันถ้าเป็นในระดับเป็นเยอะ
00:10:14 → 00:10:16 จริงๆเนี่ยอาการมันจะประมาณไหนคะแล้วมัน
00:10:16 → 00:10:18 รุนแรงได้ถึงขั้นไหนคะ
00:10:18 → 00:10:27 รุนแรงมากครับ
00:10:27 → 00:10:31 คือไม่แสดงอาการเลยก็ได้นั่นคือการสะดวก
00:10:31 → 00:10:32 พบ
00:10:32 → 00:10:35 แคลเซียมในบริเวณช่องคลอดหรือเวรกันก่อน
00:10:35 → 00:10:38 คนไข้อาจจะไม่มีอาการเลยก็ได้
00:10:38 → 00:10:44 น้อยซึ่งพบกับในพวกที่เป็นข้อเสื่อมนะ
00:10:44 → 00:10:45 ครับอันนี้ก็เกิดได้
00:10:45 → 00:10:49 แล้วก็กลุ่มต่อมาก็คือที่เป็นแบบเรื้อรัง
00:10:49 → 00:10:55 ซอยก็ได้นะครับ
00:10:55 → 00:11:00 อันนี้จะมีข้ออักเสบแบบรุนแรงคนไข้จะอยู่
00:11:00 → 00:11:03 ลำบากเลยอ่ะแล้วก็มีไข้ได้เหมือนข้อเศษ
00:11:03 → 00:11:06 จากการติดเชื้อซึ่งบางครั้งเราแยกกันไม่
00:11:06 → 00:11:09 ได้ถ้าเราไม่ได้ทำการเจาะน้ำใส่ครอบมัน
00:11:09 → 00:11:28 ตรวจนะครับ
00:11:28 → 00:11:31 แต่ความจริงโลกนะ
00:11:31 → 00:11:35 ก็คือว่ายังไงมันก็หายแต่มันจะมีความ
00:11:36 → 00:11:39 ทุกข์ทรมานหน่อยเนื่องจากข้ออักเสบนะครับ
00:11:39 → 00:11:43 ตัวที่เขาจะเลียนแบบเลยก็คือภาวะก็เอา
00:11:43 → 00:11:45 เศรษฐกิจเชื้อซึ่งต้องแยกให้ได้เพราะ
00:11:45 → 00:11:49 รักษาต่างกันระยะการพยากรณ์โลกต่างกันถ้า
00:11:49 → 00:11:53 เป็นเก๊าเทียมเนี่ยยังไงโลกก็จะสงบอาจจะ
00:11:53 → 00:11:58 โดยเราใช้ยากลุ่มแก้ปวดแก้อักเสบนะครับ
00:11:58 → 00:12:00 ช่วยหรือแม้แต่สเตียรอยด์ช่วยเนี่ยก็จะหา
00:12:00 → 00:12:04 ภายใน 7 วันแต่ถ้าเป็นข้อเสพติดเชื้อ
00:12:04 → 00:12:08 เนี่ยมันต้องให้ยาฆ่าเชื้อซึ่งการใช้ยา
00:12:08 → 00:12:11 ฆ่าเชื้อเนี่ยต้องให้นานพอด้วยนะโดยทั่ว
00:12:11 → 00:12:13 ไปที่เขากำหนดไว้เนี่ยให้ยาทางหลอดเลือด
00:12:13 → 00:12:17 อย่างน้อย 2 อาทิตย์แล้วก็อาจจะถ้าไม่หาย
00:12:17 → 00:12:19 ก็ต้องต่อไปเป็นเดือนอะไรประมาณเนี้ยครับ
00:12:19 → 00:12:23 หายากกว่าถ้าเป็นข้ออักเสบจากภาวะติด
00:12:23 → 00:12:26 เชื้อแบคทีเรียนะครับดังนั้นมันมียาที่
00:12:26 → 00:12:30 สามารถจะรักษาให้หายขาดได้ไหมคะคุณหมอ
00:12:30 → 00:12:34 รักษาไม่มียาละลายเกิดเขาออกนะครับเป็น
00:12:34 → 00:12:37 ภาวะความเสื่อมอย่างหนึ่งแต่โดยทั่วไป
00:12:37 → 00:12:40 เนี่ยธรรมชาติของเขาเนี่ยไม่ค่อยจะกำเริบ
00:12:40 → 00:12:43 บ่อยนักแต่ว่าเอ่อ
00:12:43 → 00:12:46 เป็นครั้งสองครั้งในชีวิตอะไรประมาณนี้
00:12:46 → 00:12:49 มันมีส่วนน้อยที่จะกำเริบบ่อยซึ่งอาจจะ
00:12:49 → 00:12:54 ต้องใช้ยาป้องกันคล้ายๆโรคเกาต์มารับ
00:12:54 → 00:12:57 ประทานสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้โรคเกิดภาวะ
00:12:57 → 00:13:01 ใหม่อะไรประมาณนี้ซึ่งเราเจอน้อยครับ
00:13:01 → 00:13:04 แปลว่าถ้าเป็นแล้วก็มีโอกาสที่จะเป็นอีก
00:13:04 → 00:13:06 ได้
00:13:06 → 00:13:09 ครับได้ครับแต่ไม่บ่อยเท่าเก๊านี่ก็มีแนว
00:13:09 → 00:13:12 ทางการรักษาอีกแบบหนึ่งคือเขาจะมียาละลาย
00:13:12 → 00:13:16 ละลายสุดกราฟที่สะสมในบริเวณคอกการละลาย
00:13:16 → 00:13:20 ออกได้ปริมาณมากพอเนี่ยจะไม่เกิดข้อ
00:13:20 → 00:13:23 อักเสบเฉียบพลันจากโรคเกาต์อีกนะครับทั้ง
00:13:23 → 00:13:26 ในขณะที่เกาเทียมเนี่ยไม่มียาละลาย
00:13:26 → 00:13:29 อย่างอัตราการป่วยในภาพรวมนะคะคุณหมอคะ
00:13:29 → 00:13:31 แต่ละปีเนี่ยดาวเทียมที่เราเจอมากน้อย
00:13:31 → 00:13:33 ขนาดไหนอ่ะคะ
00:13:33 → 00:13:37 แบบเรายังไม่มีตัวเลขที่ที่ชัดเจนนะครับ
00:13:37 → 00:13:42 ถ้าเราพูดถึงเอ่อใครสถาบันใหญ่ๆเอ่อที่มี
00:13:42 → 00:13:44 ผู้ป่วยสูงอายุหรือต้องนอนโรงพยาบาลเนี่ย
00:13:44 → 00:13:49 ก็ก็เจอได้พอประมาณนะครับแต่ในภาพรวมของ
00:13:49 → 00:13:54 ประเทศเนี่ยแบบไม่มีข้อมูลอันนี้นะครับ
00:13:54 → 00:13:57 เดี๋ยวผมขอย้อนมานิดนึงครับเรื่องที่คุณ
00:13:57 → 00:13:58 หมอบอกว่า
00:13:58 → 00:14:01 เก๊าเทียมเนี่ยอาการถ้าเป็นแล้วเนี่ยไอ้
00:14:01 → 00:14:04 โอกาสจำเรื่องเนี่ยมันอาจจะมีไม่บ่อยมาก
00:14:04 → 00:14:06 นักที่บอกว่าไม่บ่อยมากนะเนี่ยถ้ามันมี
00:14:06 → 00:14:09 โอกาสเกิดซ้ำเนี่ยมันจะเกิดซ้ำภายในระยะ
00:14:09 → 00:14:13 เวลากี่เดือนหรือว่าเป็นปีครับคุณหมอ
00:14:13 → 00:14:16 เรายังไม่มีตัวเลขอันนี้นะครับไม่ได้
00:14:16 → 00:14:19 เหมือนเก๊าเรายังพอปราบได้
00:14:19 → 00:14:22 ตัวเลขของเขาเทียมเนี่ยเนื่องจากเขาเป็น
00:14:22 → 00:14:25 โรคที่กำเริบใหม่เนี่ยไม่บ่อย
00:14:25 → 00:14:28 ผมว่าตัวเลขไม่มีเพราะฉะนั้นปีสองปีอาจจะ
00:14:28 → 00:14:32 ไม่มีเลยก็ได้มันขึ้นอยู่แต่ละคนบางท่าน
00:14:32 → 00:14:35 อาจจะ 2 ครั้ง 3 ครั้งก็แล้วแต่อันนี้ไม่
00:14:35 → 00:14:38 มีตัวเลขนะครับมันมีปัจจัยกระตุ้นนะคะที่
00:14:38 → 00:14:41 ทำให้กลับมาเป็นซ้ำอีกอ่ะค่ะสำหรับเขา
00:14:41 → 00:14:43 เทียมนะคะ
00:14:43 → 00:14:46 ดังที่กล่าวก็คือว่า
00:14:46 → 00:14:49 เอ่อในสภาวะที่ร่างกายเอ่อได้รับบาดเจ็บ
00:14:49 → 00:14:53 หรือร่างกายได้รับเอ่อความเครียดจากภาวะ
00:14:53 → 00:14:57 เจ็บป่วยบางอย่างที่ต้องรอโรงพยาบาลถึง
00:14:57 → 00:15:01 แม้แต่การได้รับบาดเจ็บทั่วๆไปเล็กๆน้อยๆ
00:15:01 → 00:15:02 เนี่ย
00:15:02 → 00:15:05 นะครับก็จะเป็นเหตุกระตุ้นทำให้โรคเกาต์
00:15:05 → 00:15:10 เนี่ยกำเนิดแบบขึ้นมาใหม่ได้
00:15:10 → 00:15:13 ปัจจัยการใช้ชีวิตล้วนๆเหมือนกันนะครับ
00:15:13 → 00:15:16 คุณหมอครับเรื่องของความสามารถทำให้
00:15:16 → 00:15:20 เสาเทียนกลับมาเกิดขึ้นได้อีกครั้งคุณหมอ
00:15:20 → 00:15:22 ครับถ้าเราย้อนกลับไปถึงเรื่องของโรค
00:15:22 → 00:15:24 เก๊าท์บ้างครับเดี๋ยวขออนุญาตย่อขออนุญาต
00:15:24 → 00:15:27 สลับโบสถ์บ้างเก๊าเนี่ยหลายคนเขาก็ยังมี
00:15:27 → 00:15:30 ความเชื่ออยู่ว่าบ้านเกิดขึ้นจากการกิน
00:15:30 → 00:15:38 ไก่เยอะๆอยากให้คุณหมอช่วยครับ
00:15:38 → 00:15:42 หรือว่ามันมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมเพิ่ม
00:15:42 → 00:15:45 เติมในยุคปัจจุบันนะครับ
00:15:45 → 00:15:48 จริงๆมันเป็นเรื่องคือที่เราต้องรู้ว่า
00:15:48 → 00:15:51 ถ้าเก๊านะครับเก๊าเนี่ยเรารู้ว่าพยายาม
00:15:51 → 00:15:54 ที่กำหนดของเขาเนี่ยเกิดจากภาวะที่ร่าง
00:15:54 → 00:15:54 กาย
00:15:54 → 00:15:58 เราเนี่ยมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงเกิด
00:15:58 → 00:16:02 กว่าเจ็บบริกรรมต่อโดยสลิปซึ่งจะนั่นคือ
00:16:02 → 00:16:06 จุดอิ่มตัวทำให้เกิดการตกผลึกนะครับอัน
00:16:06 → 00:16:10 นี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะกรดยูริกใน
00:16:10 → 00:16:13 เลือดที่สูงเนี่ยมันมีได้หลายปัจจัยนะ
00:16:13 → 00:16:16 ครับคือเขาก็แบ่งเป็น 2 -3 กลุ่มกลุ่ม
00:16:16 → 00:16:20 แรกก็คือว่ากลุ่มที่มีการสร้างกรดยูริก
00:16:20 → 00:16:25 ปริมาณมากนะครับซึ่งกรดยูริกเนี่ยมันมัน
00:16:25 → 00:16:28 จะเป็นศาล
00:16:28 → 00:16:31 ปลายทางของ
00:16:31 → 00:16:37 กลุ่มเขาเรียกว่ากระบวนการสลายสาร DNA
00:16:37 → 00:16:41 r&a นะครับคือสารที่อยู่ในในนิวเคลียส
00:16:41 → 00:16:46 ของเซลล์นะครับซึ่งจะทำให้เกิดการสร้าง
00:16:46 → 00:16:51 กรดยูริกออกมาปริมาณมากถ้าเราได้รับพวก
00:16:51 → 00:16:56 อาหารกลุ่มนี้เยอะๆนะครับจริงๆแล้วเนี่ย
00:16:56 → 00:16:58 ศาล
00:16:58 → 00:17:01 เป็นเขาเรียกสารเคมี
00:17:01 → 00:17:04 อยู่ใน Request Hotel เนี่ย
00:17:04 → 00:17:07 มันมาจากร่างกายเราเป็นส่วนใหญ่นะ
00:17:07 → 00:17:10 คิดเป็นราว 70%
00:17:10 → 00:17:11 นะครับเนื่องจากอาหารเนี่ยเขาถือว่า
00:17:11 → 00:17:13 ประมาณสัก 10% เท่านั้น
00:17:13 → 00:17:19 นะครับเอ่อคราวนี้อาหารที่อาจจะมีผลที่ทำ
00:17:19 → 00:17:22 ให้ระดับยูริกในเลือดสูงเนี่ยเขาแบ่งเป็น
00:17:22 → 00:17:26 3 3 หมวดนะครับก็คือพวกอาหารทะเลเนี่ย
00:17:26 → 00:17:29 เขาบอกเยอะแอลกอฮอล์เยอะ
00:17:29 → 00:17:33 ขึ้นไป
00:17:33 → 00:17:38 ส่วนอาหารที่อาจจะมีผลแต่ด้อยลงมาเนี่ยก็
00:17:38 → 00:17:39 พวกเนื้อสัตว์ทั้งหลาย
00:17:39 → 00:17:41 กลุ่มไก่
00:17:41 → 00:17:46 หมูเนื้อแดงเนื้อปลาก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม
00:17:46 → 00:17:50 เดียวกันก็คือว่าระดับประมาณ 2 ซึ่งพอรับ
00:17:50 → 00:17:51 ประทานได้
00:17:51 → 00:17:57 แล้วก็สำหรับพืชโดยหลักเนี่ยแม้ว่าจะมี
00:17:57 → 00:18:00 ระดับเขาเรียกอะไรเซลล์พวกยอดอ่อนพวกถวาย
00:18:00 → 00:18:06 ต่างๆเติมเยอะเนี่ยจะมีผลทำให้เพียวรีนใน
00:18:06 → 00:18:08 ผลิตภัณฑ์นี้เยอะนะครับทำให้เกิดการสร้าง
00:18:08 → 00:18:11 กรดยูริกในเลือดเยอะแต่เนื่องจากที่เรา
00:18:11 → 00:18:15 รับประทานเนี่ยก็ไปเนี่ยมันเป็นเป็นอาหาร
00:18:15 → 00:18:18 เพราะฉะนั้นมันจะมีองค์ประกอบอื่นที่จะ
00:18:18 → 00:18:21 กระทำให้มีการขับยูริคออกทางปัสสาวะด้วย
00:18:21 → 00:18:25 เป็นเหตุทำให้มุมของรวมกันแล้วเนี่ยไม่
00:18:25 → 00:18:28 ค่อยมีผลในการที่จะทำให้เกิดภาวะกรดยูริก
00:18:28 → 00:18:31 ในเลือดสูงจากนั้นสรุปได้ว่าพืชทุกชนิด
00:18:31 → 00:18:34 รับประทานได้นะครับ
00:18:34 → 00:18:50 ต่อให้เราเป็นแล้วเราก็ทานได้ใช่ไหมคะ
00:18:50 → 00:18:53 ก็คือว่าเขาเปรียบเทียบกันระหว่างกลุ่ม
00:18:54 → 00:18:55 ที่
00:18:55 → 00:19:00 เขาเรียกว่าสร้างมูลเหล็กเยอะๆในคนไข้กับ
00:19:00 → 00:19:03 กลุ่มที่ขับยูริคออกน้อยทางไต
00:19:03 → 00:19:07 ก็เพราะว่าคนไข้โรคเท้าส่วนใหญ่ไม่ค่อย
00:19:07 → 00:19:08 ออก
00:19:09 → 00:19:11 ค่ะ
00:19:11 → 00:19:15 ที่ทำให้ไม่สามารถขับยูริคออกทางศตวรรษ
00:19:15 → 00:19:16 ได้
00:19:16 → 00:19:19 อันนี้เป็นส่วนใหญ่เลยนะ
00:19:19 → 00:19:23 เพราะฉะนั้นเวลาคุณหมอทางด้านดูแลทางด้าน
00:19:23 → 00:19:24 โรคเก๊า
00:19:24 → 00:19:28 ก็มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารแบบ
00:19:28 → 00:19:33 ซีเรียสมากก็พอรับประทานได้
00:19:33 → 00:19:38 แสดงว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินเคยรับรู้ใน
00:19:38 → 00:19:40 เรื่องของข้อห้ามนู่นนี่นั่นอะไรอย่างนี้
00:19:40 → 00:19:43 คือถ้าต่อให้เป็นเก๊าก็คือยังพอที่จะทาน
00:19:43 → 00:19:47 ได้อยู่บ้านใช่ไหมคุณหมอครับ
00:19:47 → 00:19:52 กำหนดของสมาคมแพทย์โรคข้อเข่าเขาไม่ห้าม
00:19:52 → 00:19:57 เลยนะยุโรปก็ไม่ห้ามในในขณะที่เนื้อสัตว์
00:19:57 → 00:20:00 เนี่ยก็จำกัดแต่ถ้าทานได้แล้วเพราะเขามี
00:20:00 → 00:20:03 ว่าเลี่ยงได้ก็ดีก็คือพวกเครื่องในแล้วก็
00:20:03 → 00:20:05 อาหารทะเล
00:20:05 → 00:20:08 แล้วก็พวกแอลกอฮอล์กับน้ำผลไม้น้ำผลไม้
00:20:08 → 00:20:10 เนี่ยมันมี
00:20:10 → 00:20:13 เอ่อกระบวนการบางอย่างที่จะนำไปสร้าง
00:20:13 → 00:20:15 ยูริคในค่อนข้างเยอะแต่ผลไม้ทานได้นะ
00:20:15 → 00:20:18 ผลไม้เนื้อมันผัดได้เพราะว่าในเนื้อผลไม้
00:20:18 → 00:20:20 มันมีทั้งวิตามินซีซึ่งจะช่วยขับยูริค
00:20:21 → 00:20:23 แล้วก็มีสารที่บางตัวที่ช่วยขับยูริค
00:20:23 → 00:20:25 เพราะฉะนั้นใบเสร็จรวมกันเนี่ยตัวผลไม้
00:20:25 → 00:20:27 ทานได้
00:20:27 → 00:20:30 คุณผู้ฟังสอบถามเข้ามาค่ะว่าทานหน่อไม้
00:20:30 → 00:20:32 ดองเนี่ยมันแสลงไหมคะสำหรับคนที่เป็นโรค
00:20:32 → 00:20:35 เกาต์เนี่ยค่ะเพราะว่ามันก็มีความเชื่อ
00:20:35 → 00:20:40 ที่ส่งต่อกันมาอยู่ค่ะครับ
00:20:40 → 00:20:43 โดยที่จะมีแต่มันก็มีข้อมูลอย่างนี้ครับ
00:20:43 → 00:20:46 เราเวลาเราตรวจคนไข้เราดูแลคนไข้คนไข้จะ
00:20:46 → 00:20:49 กล่าวถึงว่าไปทานหน่อไม้ดองทานอาหารบาง
00:20:49 → 00:20:52 อย่างทำให้เขาเกิดโรคข้อเท้าอักเสบขึ้นมา
00:20:52 → 00:20:55 อย่างเงี้ยอันนี้กับเราก็ต้องรับฟังนะแต่
00:20:55 → 00:20:57 โดยทั้งทฤษฎีแล้วเราคิดไม่น่าเป็นอันนั้น
00:20:57 → 00:20:59 นะครับ
00:20:59 → 00:21:06 ครับ
00:21:06 → 00:21:10 วันนี้เป็นข้อมูลเอ่อจากเมืองจีนแล้วก็
00:21:10 → 00:21:13 จากในเอเชียเราเนี่ยทำกันเยอะ
00:21:13 → 00:21:16 พวกไอ้เต้าหู้พวกผลิตภัณฑ์ทั้งหลายที่เรา
00:21:16 → 00:21:19 ห้ามห้ามเนี่ยก็พบว่าอ่าไม่มีผลในการ
00:21:19 → 00:21:23 เพิ่มระดับยูริกในเลือดเลย
00:21:23 → 00:21:26 ที่ที่ถูกส่งต่อกันมาค่อนข้างเยอะแล้วพวก
00:21:26 → 00:21:29 ขนมปังเพราะว่าเขาบอกว่ามันจะเป็นการหมัก
00:21:29 → 00:21:32 จากเนื้อนู่นนี่นั่นมันก็เลยทำให้เกิดทำ
00:21:32 → 00:21:35 ให้เก๊าท์กำเริบได้เนี่ยไม่ทราบว่าจริง
00:21:35 → 00:21:39 แค่ไหนครับเรื่องของขนมปัง
00:21:39 → 00:21:41 ผลิตภัณฑ์หมัก
00:21:41 → 00:21:45 ในเลือดสูง
00:21:45 → 00:21:47 ก็อาจจะมีผลเป็นบริบทนี้นะครับเพราะว่า
00:21:47 → 00:21:50 กลุ่มที่เกี่ยวกับ
00:21:50 → 00:21:53 คาร์โบไฮเดรตนะครับแล้วก็พวกน้ำตาลเนี่ย
00:21:53 → 00:21:58 ก็จะนำไปสร้างเป็นกรดยูริกปริมาณในเลือด
00:21:58 → 00:22:01 ที่สูงเนี่ยก็ทำให้เกิดโรคเกาต์ได้อาจจะ
00:22:01 → 00:22:03 มีส่วนอยู่เหมือนกันนะครับ
00:22:03 → 00:22:06 อ๋อก็แสดงว่าถ้าเรื่องตรงนี้ได้ก็ก็
00:22:06 → 00:22:10 เลี่ยงไปกินยาอื่นดีกว่าใช่ไหมฮะ
00:22:10 → 00:22:20 คุณหมอค่ะ
00:22:20 → 00:22:23 นอกจากเก๊าปกติแล้วเนี่ยค่ะอย่างเกาเทียน
00:22:23 → 00:22:26 แล้วต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษไหมคะว่า
00:22:26 → 00:22:29 มันอะไรควรทานอะไรไม่ควรทานหรือควรต้อง
00:22:29 → 00:22:31 เลี่ยงไปอย่างเงี้ยค่ะถ้าป่วยเป็นเก๊า
00:22:31 → 00:22:33 เตรียม
00:22:33 → 00:22:39 ไว้อาหารไม่มีผลเลยครับ
00:22:39 → 00:22:44 ก็คือสามารถทานได้ตามปกติ
00:22:44 → 00:22:46 ทานทุกอย่างได้หมดเลย
00:22:46 → 00:22:49 พอได้หมดเลยไม่มีอะไรที่แบบแสลงนะห้ามทาน
00:22:49 → 00:23:02 อะไรอย่างนี้ค่ะ
00:23:02 → 00:23:13 พรุ่งนี้จะไปกินกฐินกับขนมจีน
00:23:13 → 00:23:22 ครับ
00:23:22 → 00:23:37 [เพลง]
00:23:37 → 00:23:42 ถ้าเราเป็นโรคเกาต์เนี่ยนะครับก็มาซ่อม
00:23:42 → 00:23:46 เตี้ยดูว่าเรามีข้อบ่งชี้ที่จะรักษาด้วย
00:23:46 → 00:23:51 ยาลดกรดยูริกไหมนั่นหมายความว่าตามข้อแนะ
00:23:51 → 00:23:55 นำของสมาคมแพทย์ระหว่างประเทศเนี่ยนะครับ
00:23:55 → 00:24:00 ก็ต้องรุนแรงพอนะครับก็คือว่าอย่างน้อย
00:24:00 → 00:24:03 เนี่ยต้องมีข้อเสียเฉียบพลันเนี่ยสัก 2
00:24:03 → 00:24:07 ครั้งต่อปีขึ้นไปหรือคนไข้อาจจะมีโรคไต
00:24:07 → 00:24:11 เสื่อมหรือคนไข้อาจจะมีภาวะระดับยูริกใน
00:24:11 → 00:24:14 เรื่องที่สูงมากคือเกิน 9 มิลลิกรัมต่อ
00:24:14 → 00:24:17 เดชฤทธิ์นะครับหรือมีกลุ่มเก๊าเนี่ยดัง
00:24:17 → 00:24:19 กล่าวเนี่ยมันมีข้อบ่งชี้เหมือนกันที่ว่า
00:24:19 → 00:24:23 จะต้องใช้ยาลดกรดยูริกมีการใช้ยาลดกรด
00:24:23 → 00:24:26 ยูริกเนี่ยมันมีข้อแม้ว่าช่องทางสมัคร
00:24:26 → 00:24:29 เสมอและทานอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็น
00:24:29 → 00:24:33 ระยะเวลานานพอนะครับก็เป็นปีว่ากันแล้ว
00:24:33 → 00:24:37 หลายๆปีด้วยนะครับซึ่งกระบวนการพานทอง
00:24:37 → 00:24:40 เนี่ยและนานพอเนี่ยขนาดยาต้องถึงนั่นหมาย
00:24:40 → 00:24:43 ความว่าจะต้องทำให้ระดับยูริกในเรื่อง
00:24:43 → 00:24:46 เนี่ยน้อยกว่า 6 มิลลิกรัมย์เหมือนรักษา
00:24:46 → 00:24:48 เบาหวานหรือความดันนะครับแล้วก็มีตัวเลข
00:24:48 → 00:24:52 ว่าต้องพยายามทำให้ดูเด็กในเลือดเนี่ยต่ำ
00:24:52 → 00:24:56 กว่า 6 บริการนะครับซึ่งอาจจะต้องใช้ยาก็
00:24:56 → 00:24:58 ควรใช้ยานะครับ
00:24:59 → 00:25:02 เป็นระดับหลากหลายเดินหรือเป็นปีเนี่ยนะ
00:25:02 → 00:25:07 ครับไอ้กฎมูเด็กที่ฝึกยูนิคที่สะสมในข้อ
00:25:07 → 00:25:11 เนี่ยมันจะละลายออกในปริมาณมากพอที่จะไม่
00:25:11 → 00:25:14 เสร็จทำให้เกิดโรคข้ออักเสบแล้วนะครับ
00:25:14 → 00:25:17 คราวนี้อาหารเนี่ยอาจจะไปทานเข้าไปเนี่ย
00:25:17 → 00:25:20 มันก็จะไม่มีผลเท่าไหร่นักที่จะกระตุ้นทำ
00:25:20 → 00:25:23 ให้เกิดข้อกล่าวอักเสบเพราะว่าตัวที่มัน
00:25:23 → 00:25:26 สะสมอยู่ในข้อเนี่ยมันละลายออกจะไม่เหลือ
00:25:26 → 00:25:30 แล้วเป็นต้นขับ
00:25:30 → 00:25:34 คือถ้าอาจารย์มันดีขึ้นมันต่ำกว่า 6 แล้ว
00:25:34 → 00:25:36 เนี่ยฮะเราหยุดยาได้เลยนะครับหรือว่ามัน
00:25:36 → 00:25:38 ต้องกินกันยาวๆตลอดชีวิตเลยครับคุณหมอ
00:25:38 → 00:25:42 ครับก็คือว่าเนื่องจากเก๊ามันเป็นโรคที่
00:25:42 → 00:25:44 เกิดจากเอ่อ
00:25:44 → 00:25:47 โดยส่วนใหญ่เราไม่ค่อยมันก็เลยมันเป็น
00:25:47 → 00:25:51 พันธุกรรมอย่างนึงอ่ะนะครับเอ่อ
00:25:51 → 00:25:55 มันไม่จำเป็นว่าการใช้อาหารหรือการปรับ
00:25:55 → 00:25:58 เปลี่ยนพฤติกรรมอาจจะช่วยไม่ได้มากนัก
00:25:58 → 00:26:03 จำเป็นต้องใช้ยาแบบต่อเนื่องยาวๆในคนไข้
00:26:03 → 00:26:08 ที่มีเก๊าท์มีเหตุชัดเจนเช่นในทุกในคนไข้
00:26:08 → 00:26:12 ที่เดิมแอลกอฮอล์ค่อนข้างเยอะเนี่ยซึ่งทำ
00:26:12 → 00:26:14 ให้ระดับมิวนิคสูงมากเนี่ยติดต่อกันเนี่ย
00:26:15 → 00:26:18 การงดแอลกอฮอล์ก็เป็นการรักษาระดับยูนิต
00:26:18 → 00:26:22 ก็จะกลับเข้าสู่ปกติได้ส่วนนี้เป็นต้นนะ
00:26:22 → 00:26:25 ครับแต่โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเอ่อ
00:26:25 → 00:26:30 พันธุกรรมของเราเองที่เอ่อผลิตไม่ค่อยออก
00:26:30 → 00:26:33 นะครับเพราะฉะนั้นต้องใช้ยาอย่างต่อ
00:26:33 → 00:26:37 เนื่องนานนะบางคนก็ตลอดชีวิตบางท่านก็
00:26:37 → 00:26:40 เอ่ออย่างน้อยต้อง 5 ปีขึ้นไปอ่ะครับถึง
00:26:40 → 00:26:43 จะได้แต่
00:26:43 → 00:26:45 พ่อบอกว่าต้องทานยาต่อเนื่องยาวนานนี้
00:26:45 → 00:26:48 หลายๆคนก็แอบกังวลนะคะกลัวจะไปพังกันอีก
00:26:48 → 00:26:52 นะคะ
00:26:52 → 00:26:55 โดยทั่วไปเนี่ยครับ
00:26:55 → 00:26:59 ไม่เป็นไรของทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมนะครับ
00:26:59 → 00:27:02 จริงๆตัวมันก็ข้อมูลเหมือนกันนะครับที่
00:27:02 → 00:27:06 ว่าทำให้การทำงานของไตดีขึ้นด้วยนะครับ
00:27:06 → 00:27:09 ซึ่งอันนี้ไม่เป็นไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่า
00:27:09 → 00:27:16 กังวลการทานยาต่อเนื่องทำให้มีภาวะอักเสบ
00:27:16 → 00:27:17 หรือเสื่อมไหมก็ไม่มีข้อมูลอันนี้นะครับ
00:27:17 → 00:27:22 สามารถใช้ได้กันนานนานมากเพราะว่าจะลด
00:27:22 → 00:27:24 อยู่ปัจจุบันเนี่ยก็ใช้กันมาสัก 50 กว่า
00:27:24 → 00:27:27 ปีแล้วซึ่งข้อมูลค่อนข้างยืนยันดังกล่าว
00:27:27 → 00:27:31 มันมีข้อแม้นิดนึงพยายามลด
00:27:31 → 00:27:34 ระยะต้นแรกๆเนี่ยมันมีความเสี่ยงต่อแพ้ยา
00:27:34 → 00:27:35 อยู่เหมือนกัน
00:27:35 → 00:27:38 นะก็คือว่าอันเนี้ยต้องระวังนิดนึงกระบวน
00:27:38 → 00:27:41 การทางการแพทย์เนี่ยอาจจะมีการเลือกส่ง
00:27:41 → 00:27:45 ตรวจพันธุกรรมเปลี่ยนนะครับแล้วก็ดูต้อง
00:27:45 → 00:27:47 ระวังในผู้ป่วยสูงอายุหรือคนไข้ที่ไป
00:27:47 → 00:27:49 เสื่อมเนี่ยการใช้ยาลดอยู่เด็กอาจจะต้อง
00:27:49 → 00:27:53 ระวังในช่วงแรกโดยเฉพาะช่วงประมาณเอ่อ 2
00:27:53 → 00:27:55 เดือนถึง 3 เดือนแรกหรือไม่เกิน 6 เดือน
00:27:55 → 00:27:58 แรกเนี่ยต้องระวังนิดนึงก็เลยอย่างนี้ไป
00:27:58 → 00:28:00 แล้วทานยาต่อเนื่องโอกาสที่จะเกิดอันตราย
00:28:00 → 00:28:06 แต่น้อยมากๆเลยอ่ะหรือถ้าไม่ปรากฏเลยครับ
00:28:06 → 00:28:10 แต่ว่าพอเป็นแล้วเนี่ยถ้าอย่างที่คุณหมอ
00:28:10 → 00:28:14 บอกว่าก็กินเป็นยาวๆเป็น 3 ปี 4 ปี 5 ปี
00:28:15 → 00:28:18 ก็ก็นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับที
00:28:18 → 00:28:20 นี้ถ้าถ้าคนที่เป็นโรคเกาต์ครับคุณหมอ
00:28:20 → 00:28:23 ครับอาการยังเริ่มขึ้นมาครับวิธีที่คุณ
00:28:23 → 00:28:27 หมอแนะนำหรือว่าควรจะต้องปฏิบัติครับควร
00:28:27 → 00:28:29 จะทำอะไรยังไงได้บ้างครับคุณหมอครับที่จะ
00:28:30 → 00:28:35 เยียวยาอาการเจ็บปวดของเขากำเริบ
00:28:35 → 00:28:38 เวลาเกิดข้อเสพติดหรือแม้แต่เก๊าเทียมก็
00:28:38 → 00:28:41 ตามเนี่ยเวลาเกิดข้ออักเสบเนี่ยความปวด
00:28:41 → 00:28:44 เจ็บปวดรุนแรงมากนะครับคนไข้จะอยู่ด้วย
00:28:45 → 00:28:46 ความยากลำบาก
00:28:46 → 00:28:49 แล้วก็จะค่อนข้างดูแลมาก
00:28:49 → 00:28:52 ทีนี้หลักปฏิบัติของคนไข้เนี่ยก็แนะนำว่า
00:28:52 → 00:28:56 ดูเฉยๆอย่าไปหยิบอย่าไปรั่วนะครับอ่าถ้า
00:28:56 → 00:29:01 อยากจะช่วยเหลือเขาก็เอาใช้ของเย็น
00:29:01 → 00:29:07 ครับไม่แนะนำของร้อนนะครับถ้าเราสามารถทำ
00:29:07 → 00:29:10 ได้ดังกล่าวเนี่ยโดยธรรมชาติของโรคเก๊าท์
00:29:10 → 00:29:12 หรือเก๊าเทียมเนี่ยเขาก็จะพอสงบได้แต่มัน
00:29:12 → 00:29:14 ต้องเป็นใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกันนะฮะ
00:29:14 → 00:29:17 อาจจะครึ่งวันหรือ 1 วันซึ่งอันนี้ก็ทน
00:29:17 → 00:29:20 ได้มันก็จะดีขึ้นส่วนใหญ่คนไม่ค่อยไหวมัน
00:29:20 → 00:29:30 ต้องใช้ยาไปช่วยอ่ะครับ
00:29:30 → 00:29:33 มันทำให้เป็นหนักขึ้นนะครับแล้วก็แทนที่
00:29:33 → 00:29:35 จะหายเร็วก็จะหายช้ากว่าเดิมครับ
00:29:35 → 00:29:41 เชิญ
00:29:41 → 00:29:44 แบบว่ามันมีส่วนผสมของพวกเมนทอลที่มันแบบ
00:29:44 → 00:29:51 เย็นๆอะไรอย่างนี้ช่วยได้บ้างไหมครับ
00:29:51 → 00:29:56 จะใช้มันเข้าก็ได้หรือจะใช้เอ่อน้ำแข็งก็
00:29:57 → 00:30:00 ได้และได้หมดเลยครับถ้าเขาเย็นๆของร้อน
00:30:00 → 00:30:03 นี่ก็รู้สึกว่าจะทำให้เขาหายช้านะครับถ้า
00:30:03 → 00:30:05 เป็นร้อนๆครับ
00:30:05 → 00:30:08 ถ้าเราพูดถึงวิธีการป้องกันหรือว่าลดความ
00:30:09 → 00:30:11 เสี่ยงของการเกิดโรคเก๊าท์แล้วก็เกาเหลา
00:30:11 → 00:30:13 คุณหมอทำยังไงได้บ้างอ่ะคะ
00:30:13 → 00:30:18 โอเคคราวนี้ถ้าเป็นเอ่อสำหรับคนไข้ที่ยัง
00:30:18 → 00:30:22 ไม่เคยเป็นโรคเกาต์นะครับคือไม่มีเกิดนะ
00:30:22 → 00:30:25 ครับ
00:30:25 → 00:30:29 ก็ถ้าพบว่าพบยูริคในเลือดสูงเนี่ยก็ต้อง
00:30:29 → 00:30:34 หาสาเหตุนะครับแล้วก็คือถ้ารับประทานเยอะ
00:30:34 → 00:30:38 ก็ต้องลดปริมาณลงนะครับแล้วก็ถ้าใช้รับ
00:30:39 → 00:30:41 ประทานอาหารที่มีพีเรียมากๆโดยเฉพาะพวก
00:30:41 → 00:30:44 เครื่องในหรืออาหารทะเลเยอะๆก็อาจจะต้อง
00:30:44 → 00:30:49 ลดปริมาณลงนะครับซึ่งพอจะช่วยได้บ้างนะ
00:30:49 → 00:30:53 ครับสำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเกาต์แล้วคือคน
00:30:53 → 00:30:56 ไข้ถ้ายังไม่เกิดข้ออักเสบนะครับเราจะมี
00:30:56 → 00:30:59 ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงเนี่ยเรายังไม่จัด
00:30:59 → 00:31:02 เป็นโรคเกาต์นะครับเราถือว่าเป็นแค่เป็น
00:31:02 → 00:31:05 ผู้เป็นแพทย์ผู้ที่มีภาวะกรดยูริกในเลือด
00:31:05 → 00:31:09 สูงเท่านั้นอ่าแล้วมีความเสี่ยงที่จะเกิด
00:31:09 → 00:31:13 โรคเกาต์ในอนาคตในขณะที่ถ้ามีข้ออักเสบ
00:31:13 → 00:31:15 เฉียบพลันแล้วเนี่ยเอ่อเราจะถือว่าคนนี้
00:31:15 → 00:31:18 เป็นโรคแล้วกระบวนการรักษาจะต่างกันนิด
00:31:18 → 00:31:21 นึงถ้ามีเป็นโรคเก๊าท์แล้วเนี่ยแล้วมีข้อ
00:31:21 → 00:31:25 บ่งชี้ที่ต้องใช้ยาลดอยู่เนี่ยเราก็โอกาส
00:31:25 → 00:31:28 ได้นำให้ผู้ป่วยเริ่มใช้ยาลดกรดยูริกนะ
00:31:28 → 00:31:33 ครับร่วมกับกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:31:33 → 00:31:36 อันนี้กระบวนการลดกรดยูริกใช้ยาลดกรด
00:31:36 → 00:31:39 ยูริกก็มีดำที่กล่าวมาครับถ้าคุณหมอก็จะ
00:31:39 → 00:31:42 เป็นคนจัดการให้หน้าที่คนไข้คือต้องรับ
00:31:42 → 00:31:46 ประทานยาให้ตรงสม่ำเสมอนะครับแล้วก็มา
00:31:46 → 00:31:50 ตรวจวัดระดับยูนิคในเลือดเป็นระยะซึ่ง
00:31:50 → 00:31:53 เป้าก็คือว่าต้องทำให้ยูริกในเลือดต่ำ
00:31:53 → 00:31:58 กว่า 6 ติดต่อกันนะครับอันนี้ก็ตัวอาหาร
00:31:58 → 00:32:01 เนี่ยเราก็จะแนะนำว่าพอทานได้ถ้าเลี่ยง
00:32:01 → 00:32:04 ได้ก็ดังกล่าวนะครับก็คือพวกเครื่องใน
00:32:04 → 00:32:08 อาหารทะเลแอลกอฮอล์นะครับน้ำผลไม้พอทาน
00:32:08 → 00:32:11 ได้นะครับไม่ต้องซีเรียสมากแต่ก็จะอ่า
00:32:11 → 00:32:15 หลีกเลี่ยงได้ก็ดีนะครับส่วนอ่าในกลุ่ม
00:32:15 → 00:32:18 ของเก๊าเทียมเนี่ยอันนี้มันยากหน่อยเพราะ
00:32:18 → 00:32:22 ว่ามันเกิดจากภาวะความเสื่อมของร่างกายใน
00:32:22 → 00:32:26 ผู้สูงอายุอ่าเราไม่สามารถป้องกันได้เลย
00:32:26 → 00:32:28 แล้วเราก็ไม่ค่อยแนะนำเฉพาะการด้วยนะครับ
00:32:28 → 00:32:32 เพราะมันมันเจอไม่เยอะมากอ่ะครับ
00:32:32 → 00:32:36 เราไม่มียาไปว่าเหมือนมันจะเกิดนะไม่มี
00:32:36 → 00:32:40 ตัวทำนายอันนั้นนะครับ
00:32:40 → 00:32:44 การรักษาเท้าเทียมที่มีการอักเสบเฉียบ
00:32:44 → 00:32:46 พลันเนี่ยจะเหมือนการรักษาโรคเก๊าท์ที่มี
00:32:46 → 00:32:50 ข้อเสียคือกันก็คือว่าลูกค้าอย่าบีบจะ
00:32:50 → 00:32:54 รั่วนะครับใช้ของเยนนะครับแล้วก็ส่วนการ
00:32:54 → 00:32:56 ใช้ยาเนี่ยเดี๋ยวถ้าจะจัดการให้นะครับ
00:32:56 → 00:32:59 เช่นระยะต้านอนุมัติสเตียรอยด์เป็นต้น
00:32:59 → 00:33:00 ครับ
00:33:00 → 00:33:03 มีอีกหนึ่งข้อสงสัยว่าคุณหมอครับน่าจะ
00:33:03 → 00:33:05 เป็นคำถามสุดท้ายทิ้งท้ายแล้วคนที่มี
00:33:06 → 00:33:08 อาการโรคเก๊าท์หรือว่ารวมทั้งเกาเทียน
00:33:08 → 00:33:10 เนี่ยเราสามารถไปออกกำลังกายได้นะครับ
00:33:10 → 00:33:14 เพราะว่ามีคุณหมอแนะนำว่าอ่ะให้ออกกำลัง
00:33:14 → 00:33:16 กายหรือว่ากำลังจะดีขึ้นแต่ว่าถ้าเป็น
00:33:16 → 00:33:19 แล้วเนี่ยพวกพ่อคือต่างฝ่ายเนี่ยมันอาจจะ
00:33:19 → 00:33:21 ปวดมันอาจจะเจ็บเพราะการออกกำลังกายมัน
00:33:21 → 00:33:26 มันทำได้อยู่ไหมฮะโอเคคราวนี้เรื่องของ
00:33:26 → 00:33:29 การออกกำลังกายเนี่ยในสภาวะที่กำลังมีข้อ
00:33:29 → 00:33:31 เสียเปรียบภายมันออกไม่ไหวแล้วครับมัน
00:33:31 → 00:33:34 เจ็บปวดมากอันนี้ก็ถ้าอยู่เฉยๆก็ดีแต่ใน
00:33:34 → 00:33:37 กรณีที่ยังไงโรคเก๊าท์หรือเก๊าเทียมเนี่ย
00:33:37 → 00:33:41 เขาก็จะต้องหายโรคจะสงบไม่มีข้ออักเสบ
00:33:41 → 00:33:44 เฉียบพลันหรือไม่มีข้ออักเสบอีกเลยเนี่ย
00:33:44 → 00:33:47 เราจะแนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายครับแต่
00:33:47 → 00:33:50 พบว่าเนื่องจากอย่างโรคเก๊าท์เนี่ยเราพบ
00:33:50 → 00:33:54 ว่ามันมีความสัมพันธ์กับภาวะ
00:33:54 → 00:33:58 โรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดสมองนะครับ
00:33:58 → 00:34:02 โรคเบาหวานความดันนะครับอันนี้การที่เรา
00:34:02 → 00:34:06 ออกกำลังกายเราก็หวังผลว่าจะช่วยลดอุบัติ
00:34:06 → 00:34:09 การณ์ของโรคดังกล่าวได้เพราะฉะนั้นการออก
00:34:09 → 00:34:13 กำลังกายเนี่ยเป็นข้อแนะนำนะครับในการดู
00:34:13 → 00:34:15 แลผู้ป่วยโรคเก๊าท์เช่นเดียวกับโลกเขา
00:34:15 → 00:34:18 เทียมอ่ะครับโรคเท้าเทียมเป็นคนสูงอายุนะ
00:34:18 → 00:34:22 ครับเพราะฉะนั้นออกกำลังกายที่พอประมาณ
00:34:22 → 00:34:25 สัมพันธ์กับอายุของผู้ป่วยอ่ะก็เป็นข้อ
00:34:25 → 00:34:27 แนะนำนะครับสรุปว่าท่านเก๊าท์ทั้ง 9
00:34:27 → 00:34:30 เทียมไม่ใช่อุปสรรคในการที่เราจะไม่ผู้
00:34:30 → 00:34:33 ป่วยออกกำลังกายครับต้องออกกำลังกายครับ
00:34:33 → 00:34:36 โอเคตามแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อยครับ
00:34:36 → 00:34:40 สำหรับใครที่ชอบเป็นคนชอบออกกำลังกายกลัว
00:34:40 → 00:34:44 กลัวว่าจะเป็นเหมือนกันนะคุณหมอครับ