00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของ
00:00:04 → 00:00:06 ซุปเปอร์ฟู้ดอย่างหนึ่งที่ชาวไทยเราเนี่ย
00:00:06 → 00:00:09 นะครับรู้จักกับมาเนิดนานแล้วแล้วก็มีการ
00:00:09 → 00:00:13 บริโภคอย่างแพร่หลายในต่างจังหวัดมันคือ
00:00:13 → 00:00:17 พืชชนิดหนึ่งมีชื่อเรียกว่าไข่น้ำหรือผำ
00:00:17 → 00:00:21 นะครับพืชชนิดนี้เนี่ยมันมีคุณค่าทางสาร
00:00:21 → 00:00:25 อาหารสูงมากและมันมีการเจริญเติบโตที่รวด
00:00:25 → 00:00:28 เร็วสุดๆไปเลยนะครับดังนั้นปัจจุบันเนี่ย
00:00:28 → 00:00:31 เริ่มมีคนให้ความสนใจนำมันมาผลิตเป็น
00:00:31 → 00:00:34 ซุปเปอร์ฟู้ดแล้วก็อาจจะเอาไว้ช่วยเหลือ
00:00:34 → 00:00:38 ในกรณีที่อาหารของเราเนี่ยมีไม่เพียงพอ
00:00:38 → 00:00:41 ขาดแคลนอาหารเพราะว่ามันโตเร็วจึงเอามาทำ
00:00:41 → 00:00:44 ในเรื่องนี้ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยอยากจะพา
00:00:44 → 00:00:47 ทุกคนมารู้จักกับไข่น้ำหรือผำนะครับ
00:00:47 → 00:00:50 เดี๋ยวเล่าให้ฟังพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:50 → 00:00:52 ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:52 → 00:00:55 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชานโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:55 → 00:00:59 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับไข่น้ำหรือผำเนี่ย
00:00:59 → 00:01:03 นะครับมันเป็นพืชในกลุ่มที่เราเรียกว่า
00:01:03 → 00:01:04 duckweed
00:01:04 → 00:01:08 หรือ Water Meal นะครับนี่คือภาษาอังกฤษ
00:01:08 → 00:01:11 แต่ถ้าเป็นภาษาทางวิทยาศาสตร์เนี่ยเราจะ
00:01:11 → 00:01:14 เรียกมันว่า wo นะครับโดยมันมีหลากหลาย
00:01:14 → 00:01:17 สายพันธุ์สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยก็คือ
00:01:17 → 00:01:21 wo fia globosa นะครับมันเป็นพืชที่มี
00:01:21 → 00:01:25 ขนาดเล็กจิ๋วเลยประมาณสัก 1 มลมนะครับบาง
00:01:25 → 00:01:28 ตัวเนี่ยเล็กถึง 0.1 มมคือแทบจะมองไม่
00:01:28 → 00:01:32 เห็นเลยทีเดียวนะครับตัวมันเนี่ยนะครับ
00:01:32 → 00:01:36 มันเป็นก้อนกลมๆสีเขียวไม่มีรากไม่มีใบ
00:01:36 → 00:01:39 ไม่มีลำต้นอะไรเลยเป็นกลมๆสีเขียวเรา
00:01:40 → 00:01:44 เรียกไอ้กลมๆสีเขียวนี้ว่าแันะครับมัน
00:01:44 → 00:01:47 เป็นพืชชนิดที่มีดอกด้วยที่สำคัญนะครับ
00:01:48 → 00:01:52 และเป็นพืชมีดอกที่เล็กที่สุดในโลกลองดู
00:01:52 → 00:01:55 สิครับตัวนึงของมันเนี่ยประมาณสัก 1 มลม
00:01:55 → 00:01:58 ดอกของมันนะครับเล็กกว่านั้นอีกเวลามันจะ
00:01:58 → 00:02:03 ออกดอกทีนึงเนี่ยมันจะมีรอยหวำลงไป
00:02:03 → 00:02:06 ระหว่างตัวลำตัวของมันแล้วมีดอกเหลืองๆ
00:02:06 → 00:02:10 อยู่ในนั้นดอกเดียว 1 ดอกเลยนะครับดอกของ
00:02:10 → 00:02:13 มันเนี่ยออกยากมากในธรรมชาติเนี่ยเราจะ
00:02:13 → 00:02:16 แทบไม่ค่อยเห็นดอกของมันออกมาเลยนะครับ
00:02:16 → 00:02:19 เพราะว่าปกติเวลามันจะสืบพันธุ์เนี่ยมัน
00:02:19 → 00:02:21 จะแบ่งตัวเองออกมานะครับสืบพันธุ์แบบไม่
00:02:21 → 00:02:24 อาศัยเพศมันเหมือนแบ่งจาก 1 เป็น 2 2
00:02:24 → 00:02:26 เป็น 4 อย่างเงี้ไปเรื่อยๆเหมือนกับ
00:02:26 → 00:02:30 แบคทีเรียเลยนะครับและมันเป็นพืชที่แบ่ง
00:02:30 → 00:02:32 ตัวเรียกว่าเร็วที่สุดในโลกเลยตอนเนี้ยนะ
00:02:32 → 00:02:36 ครับโดย 1 ตัวจะแบ่งเป็น 2 ตัวนะครับใน
00:02:37 → 00:02:40 ระยะเวลาเร็วที่สุดถ้ามีสารอาหารเพียงพอ
00:02:40 → 00:02:43 16 ชมเท่านั้นเอง 16 ชมนี่มันออกลูก
00:02:43 → 00:02:47 มาเรียบร้อยแล้วนะครับนะสมมุติว่าเรามีผำ
00:02:47 → 00:02:51 เนี่ยอยู่ในมือสัก 1 กกผ่านไปสักประมาณ 16
00:02:51 → 00:02:55 ชม 24 ชมถ้าน้ำมันไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
00:02:55 → 00:02:59 มันก็กลายไปเป็น 2 กกเลยอย่างรวดเร็วนะ
00:02:59 → 00:03:02 ครับมันเพิ่มจำนวนได้เร็วมากๆดังนั้นจึง
00:03:02 → 00:03:05 เป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดเลยนะครับ
00:03:05 → 00:03:08 สำหรับหลายๆคนที่อยากจะ
00:03:08 → 00:03:13 กินไอ้ผำตัวนี้เนี่ยถ้าเกิดว่าสภาพแวด
00:03:13 → 00:03:17 ล้อมไม่ดีเช่นมันร้อนไปมันหนาวไปเนี่ยมัน
00:03:17 → 00:03:22 จะแปลงร่างครับแทนที่มันจะลอยอยู่บนผิว
00:03:22 → 00:03:24 น้ำทั่วๆไปนะครับคือผำเนี่ยมันเป็นพืชที่
00:03:24 → 00:03:27 ลอยบนผิวน้ำคล้ายๆจอกกระแหนนี่แหละครับ
00:03:27 → 00:03:30 แต่เวลาที่อาหารไม่เพียงพออุณหภูมิน้ำมัน
00:03:30 → 00:03:33 ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของมันเนี่ย
00:03:33 → 00:03:37 มันจะทิ้งดิ่งลงไปที่ก้นน้ำครับนะมันจะ
00:03:37 → 00:03:39 เปลี่ยนแปลงตัวเองให้มันมีคาร์โบไฮเดรตมี
00:03:39 → 00:03:42 แป้งเยอะขึ้นแล้วตกลงไปอยู่ใต้น้ำนะครับ
00:03:42 → 00:03:45 ไอ้ตัวที่มันตกลงไปอยู่ใต้น้ำเนี่ยมีชื่อ
00:03:45 → 00:03:47 เรียกที่ผมคิดว่าอยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง
00:03:47 → 00:03:51 เพราะมันชื่อมันตลกดีชื่อเรียกว่าทุเรียน
00:03:51 → 00:03:54 ครับไม่ใช่ลูกทุเรียนที่มีหนามนะครับแต่
00:03:54 → 00:03:57 นี่เป็นทุเรียนภาษาอังกฤษคือทุเรียน t r
00:03:58 → 00:04:00 i o n s ทุรียนนะครับหรือเราจะเรียก
00:04:00 → 00:04:04 ทุเรียนก็ได้ไม่ใช่รียนที่แปลว่าทุเรียน
00:04:04 → 00:04:07 นะครับอันนี้เป็นลักษณะวงจรชีวิตของมัน
00:04:07 → 00:04:09 อย่างหนึ่งนะครับถ้าลอยอยู่บนน้ำเรียกว่า
00:04:09 → 00:04:12 แทลลัสหล่นลงไปอยู่ข้างล่างเรียกว่า
00:04:12 → 00:04:14 ทุเรียนนะครับอันนี้ชื่อแปลกดีก็เลยอยาก
00:04:14 → 00:04:17 เล่าให้ฟังเฉยๆนะฮะแล้วพอเมื่อสารอาหาร
00:04:18 → 00:04:20 กับอุณหภูมิมันเหมาะสมปุ๊บมันก็จะลอยขึ้น
00:04:20 → 00:04:24 มาแล้วก็ออกลูกออกหลานเหมือนเดิมนะ
00:04:24 → 00:04:30 ครับในตัวผำเนี่ยมันมีสารอาหารที่สูงมาก
00:04:30 → 00:04:32 ก็คือประมาณซัก
00:04:32 → 00:04:37 45% ของตัวมันเป็นโปรตีนล้วนๆเลยแถมเป็น
00:04:37 → 00:04:40 โปรตีนที่คุณภาพสูงเสียด้วยนะครับมีกรด
00:04:40 → 00:04:44 อะมิโนจำเป็นหลากหลายตัวเลยทีเดียวแล้ว
00:04:44 → 00:04:47 มันเป็นพืชเพียงแค่หนึ่งเดียวที่มี
00:04:47 → 00:04:51 วิตามิน B12 เยอะครับปกติคนที่ทาน
00:04:51 → 00:04:55 มังสวิรัสหรือเป็นวีแกนแบบวนล้วนเลยนะฮะ
00:04:55 → 00:04:59 แล้วไม่ได้กินวิตามิน B12 เนี่ยมันจะขาด
00:04:59 → 00:05:03 วิตามิน B12 ได้ง่ายเวลาเราขาดวิตามิน B12
00:05:03 → 00:05:06 เนี่ยเราก็จะเป็นโลหิตจางนะครับชนิดที่
00:05:06 → 00:05:08 มันเป็นเซลล์เมเลือแดงมันจะตัวใหญ่ขึ้น
00:05:08 → 00:05:11 เรียกว่า metic anemia คือเซลล์มันจะตัว
00:05:11 → 00:05:14 ใหญ่ขึ้นแล้วพอเราโลหิตจางปุ๊บเราก็จะมี
00:05:14 → 00:05:17 อาการเหนื่อยง่ายอ่อนเพลียนะครับแต่ไม่
00:05:17 → 00:05:20 ใช่เพียงแค่นั้นครับวิตามิน B12 เนี่ยมี
00:05:20 → 00:05:23 ความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญของระบบ
00:05:23 → 00:05:26 ประสาทถ้าเราขาดวิตามิน B12 แล้วล่ะก็
00:05:26 → 00:05:29 สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานะครับก็คือเราจะจะ
00:05:29 → 00:05:33 ไม่สามารถรับรู้แรงต่างๆที่มันกระทำ
00:05:33 → 00:05:37 บริเวณเท้าเราได้นะครับเราจะเรียกภาวะนี้
00:05:37 → 00:05:39 ว่าการสูญเสีย
00:05:39 → 00:05:42 tion นะครับถ้ามันเป็นเยอะโอ้โหยิ่งแย่
00:05:42 → 00:05:45 เข้าไปใหญ่เลยนะครับดังนั้นเนี่ยคนที่กิน
00:05:45 → 00:05:49 วนมีความจำเป็นจะต้องทานวิตามิน B12
00:05:49 → 00:05:52 เสริมหรือไม่งั้นก็ต้องฉีดแต่ถ้าเกิดว่า
00:05:52 → 00:05:56 จะไม่จะไม่อยากทานเสริมเป็นเม็ดเป็นฉีดก็
00:05:56 → 00:05:58 ต้องไปทานผำนี่แหละครับหรืออีกอย่างนึง
00:05:59 → 00:06:02 คือเห็ดชชิตาเกะมันมีวิตามิน B12 สูงนะ
00:06:02 → 00:06:05 ครับแล้วก็วีแกนก็สามารถที่จะทานได้แต่
00:06:05 → 00:06:07 นอกเหนือจากไอ้ 2 อย่างนี้แล้วเนี่ยเท่า
00:06:07 → 00:06:10 ที่ผมลองดูนะครับมันไม่น่าจะมีพืชชนิด
00:06:10 → 00:06:14 อื่นที่มีวิตามิน B12 สูงพอนะฮะงั้นมี
00:06:14 → 00:06:17 โปรตีนมี B12 มีวิตามินอย่างอื่นอีกมี
00:06:17 → 00:06:20 วิตามิน a วิตามิน B ทั่วๆไปวิตามินอ
00:06:20 → 00:06:23 วิตามิน C ค่อนข้างที่จะเยอะอยู่ในตัวผำ
00:06:23 → 00:06:28 นี่แหละนะฮะนอกเหนือจากนี้ยังมีสารที่มี
00:06:28 → 00:06:32 ผลดีต่อดวงตาก็คือูนกับ
00:06:32 → 00:06:36 ซนผมเคยพูดเรื่องอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่
00:06:36 → 00:06:39 ช่วยเรื่องของจอประสาทตาเสื่อมที่เรียก
00:06:39 → 00:06:42 ว่า macular degeneration ไปแล้วนะ
00:06:42 → 00:06:47 ครับในอาหารเสริมนั้นน่ะก็จะมีเีย santin
00:06:47 → 00:06:50 กับูนเป็นส่วนประกอบด้วยดังนั้นในผำเนี่ย
00:06:50 → 00:06:55 มีครบเลยแล้วผำเนี่ยทั่วไปนะครับมันจะไม่
00:06:55 → 00:06:59 มีไขมันแล้วคาร์โบไฮเดรตมันก็จะต่ำโปรตีน
00:06:59 → 00:07:04 สูงมันแปลว่าอะไรครับมันแปลว่าเป็นฟู้
00:07:04 → 00:07:07 อย่างดีที่เอาไว้ใช้ลดน้ำหนักได้เลย
00:07:07 → 00:07:10 โปรตีนเยอะมันจะอิ่มท้องเร็วนะครับแล้ว
00:07:10 → 00:07:13 เราก็ไม่อ้วนด้วยนะฮะและนอกเหนือจากนี้
00:07:13 → 00:07:17 ไฟเบอร์ครับที่มาจากผำเยอะไฟเบอร์พวกเย
00:07:17 → 00:07:21 มันดียังไงมันเป็นพรีไบโอติกครับ
00:07:21 → 00:07:24 พรีไบโอติกก็คืออาหารของโปรไบโอติก
00:07:24 → 00:07:27 โปรไบโอติกในที่นี้ก็คือพวกเชื้อ
00:07:27 → 00:07:30 แบคทีเรียต่างๆที่อยู่ในลำส้ไส้เรานะครับ
00:07:30 → 00:07:32 เป็นเชื้อประจำถิ่นที่ดีหรือที่เราเรียก
00:07:32 → 00:07:35 ว่า Normal Flora ถ้าเกิดว่าเชื้อประจำ
00:07:36 → 00:07:39 ถิ่นของเราเนี่ยมันมีอาหารที่ดีมาจากผำมา
00:07:39 → 00:07:42 จากพรีไบโอติกแล้วมันเจริญเติบโตดีมันก็
00:07:42 → 00:07:46 จะทำให้ระบบลำไส้ของเราเนี่ยมีสุขภาพที่
00:07:46 → 00:07:49 ดีแล้วก็ป้องกันการติดเชื้อที่มันมาจาก
00:07:49 → 00:07:52 อาหารเป็นเชื้อที่มันไม่ควรจะอยู่ในลำไส้
00:07:52 → 00:07:54 เรามันลงไปลำไส้มันก็จะเจอเชื้อพวกเนี้ย
00:07:54 → 00:07:57 รุมทึ้งจนกระทั่งไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่
00:07:57 → 00:08:01 ได้ดังนั้นเราจึงมีมีความจำเป็นมากๆที่จะ
00:08:01 → 00:08:04 ต้องเลี้ยงดู Normal fla ของเราหรือ
00:08:04 → 00:08:06 เชื้อประจำถิ่นในลำไส้ของเราให้มันแข็ง
00:08:06 → 00:08:09 แรงอยู่เสมอแล้วผำก็สามารถตอบโจทย์ตรงนี้
00:08:09 → 00:08:10 ได้
00:08:10 → 00:08:14 ครับทีนี้เราจะเห็นว่าผำเนี่ยมันมีคุณค่า
00:08:14 → 00:08:17 ทางสารอาหารสูงมากๆเลยทีเดียวนะครับแล้ว
00:08:18 → 00:08:21 มันก็เพาะปลูกง่ายด้วยคือมันแป๊บเดียวมัน
00:08:21 → 00:08:25 งอกมาอย่างอย่างรวดเร็วเลยนะครับและที่
00:08:25 → 00:08:28 สำคัญครับผำเนี่ยมันเป็นตัวบอกคุณภาพของ
00:08:29 → 00:08:32 น้ำได้ด้วยถ้าน้ำเป็นน้ำำสะอาดนะครับผำ
00:08:33 → 00:08:36 มันจะงอกเร็วนะครับเติบโตเร็วมากแบ่งตัว
00:08:36 → 00:08:39 เร็วมากแต่ถ้าเกิดว่าน้ำเนี่ยมันเป็นน้ำ
00:08:39 → 00:08:44 ที่ไม่สะอาดนะครับมีมลภาวะสูงนะครับผ่ำ
00:08:44 → 00:08:46 เนี่ยมันก็จะดูดไอ้มลภาวะนั้นเข้าไปในตัว
00:08:46 → 00:08:48 ของมันเนี่ยนะครับแล้วมันก็จะไม่ค่อย
00:08:48 → 00:08:52 เจริญเติบโตนะฮะจะแบ่งตัวช้าดังนั้นผำ
00:08:52 → 00:08:55 เนี่ยจึงสามารถบอกเลยว่าถ้าแหล่งน้ำที่
00:08:56 → 00:08:59 ไหนมีผำเยอะๆตรงนั้นน่ะมันเป็นเป็นแหล่ง
00:08:59 → 00:09:04 น้ำที่สะอาดครับปราศจากมลภาวะเราก็สามารถ
00:09:04 → 00:09:07 ใช้ธรรมชาติเป็นตัวชี้วัดแหล่งน้ำได้ด้วย
00:09:07 → 00:09:11 ตัวเองนะครับว่าเออมันมีคุณภาพมีความ
00:09:11 → 00:09:13 สะอาดมากน้อยแค่ไหนนะ
00:09:13 → 00:09:16 ครับมันยังเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นอีก
00:09:16 → 00:09:20 เช่นเนื่องจากตัวผำเนี่ยมันสามารถดูดโลหะ
00:09:20 → 00:09:23 หนักดูดสารที่มันสกปรกทุกอย่างมาไว้ในตัว
00:09:23 → 00:09:25 มันเองได้เนี่ยถ้าเรามีมันเยอะๆใช่มั้ย
00:09:25 → 00:09:27 ครับแล้วเราไปเจอแหล่งน้ำที่มันไม่ค่อย
00:09:27 → 00:09:30 สะอาดเนี่ยเราเอผำยนลงไปให้มันไปดูดดูด
00:09:30 → 00:09:33 ให้หมดนะครับดูดให้หมดแล้วมันตายไปพร้อม
00:09:33 → 00:09:35 กันน้ำก็จะสะอาดเพิ่มมาขึ้นแต่อย่าเอาผำ
00:09:35 → 00:09:39 นั้นมากินนะครับนะเราต้องเข้าใจก่อนว่าผำ
00:09:39 → 00:09:42 เนี่ยมันสามารถดูดซึมโลหะหนักดูดซึมสาร
00:09:42 → 00:09:44 อินทรีย์ที่เราไม่ชอบเราไม่พึงประสงค์ได้
00:09:44 → 00:09:46 แต่ว่าดูดซึมมากๆมันก็ไม่เจริญเติบโตแล้ว
00:09:47 → 00:09:50 มันก็ตายไปดังนั้นถ้าเราจะเอาผำมากินเรา
00:09:50 → 00:09:53 ต้องดูด้วยว่าเราไปเอามาจากแหล่งไหนถ้า
00:09:53 → 00:09:56 เราเอาไปจากแหล่งที่แบบอยู่ในธรรมชาติ
00:09:56 → 00:09:58 แล้วมีผำเยอะๆอันเนี้ยไม่ต้องห่วงมันไม่
00:09:58 → 00:10:01 มีโลหะหนักมันไม่ตายมันงอกเยอะแยะเราตัก
00:10:01 → 00:10:04 มาตักยังไงก็ไม่หมดครับมันงอกแป๊บเดียว
00:10:04 → 00:10:06 เองใช้เวลาวันเดียวมันก็งอกขึ้นมา 2 เท่า
00:10:06 → 00:10:09 แล้วดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าอาหารของเราจะ
00:10:09 → 00:10:12 หมดถ้าเราใช้ผำเป็นส่วนประกอบนะครับแต่ก็
00:10:12 → 00:10:15 อย่าไปเอาตรงที่มันมีน้อยๆเราเห็นมันน้อย
00:10:15 → 00:10:17 ๆแล้วมันไม่ค่อยงอกค่อยเงยเนี่ยแปลว่าตรง
00:10:17 → 00:10:20 นั้นมันต้องมีอะไรที่สกปรกมีมลภาวะถ้าเรา
00:10:20 → 00:10:23 ไปเอามันมาเราก็อาจจะได้โลหะหนักเข้ามา
00:10:23 → 00:10:26 เพิ่มในร่างกายเราได้นะครับนี่มีถึง
00:10:26 → 00:10:31 กระทั่ง NASA ครับพิจารณาจะเอาผำเนี่ยไป
00:10:31 → 00:10:34 ให้นักบินอวกาศกินเพราะว่ามันใช้พื้นที่
00:10:34 → 00:10:37 น้อยในการปลูกแล้วมันก็โตเร็วมากสามารถ
00:10:37 → 00:10:40 ปลูกได้บนยานอวกาศเลยครับถ้าเราไปอยู่บน
00:10:40 → 00:10:43 ยานอวกาศสถานีอวกาศแล้วมันมีบ่อเล็กๆ
00:10:43 → 00:10:46 เนี่ยนะครับใส่น้ำเข้าไปคุณใส่ผำเข้าไป
00:10:46 → 00:10:49 นิดนึงแป๊บเดียวมันก็โตเต็มและนั่นก็คือ
00:10:49 → 00:10:52 แหล่งโปรตีนชั้นยอดนะครับของนักวินอวกาศ
00:10:52 → 00:10:56 เราแค่เติมคาร์บอนเติมอาหารที่ผำมันจะกิน
00:10:56 → 00:10:59 เข้าไปเท่านั้นเองนะครับแล้วผำเนี่ย
00:10:59 → 00:11:02 เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมากลองทายสิครับ
00:11:02 → 00:11:06 ว่าขนาดของ DNA ผำเนี่ยมันจะเล็กซะขนาด
00:11:06 → 00:11:10 ไหนปกตินะครับอะไรที่ผำมันไม่เอาเนี่ยมัน
00:11:10 → 00:11:13 ก็จะตัด DNA ตรงนั้นของมันทิ้งไปหมดเลย
00:11:13 → 00:11:16 นั่นก็คือ DNA การออกราก DNA การสร้างลำ
00:11:16 → 00:11:19 ต้น DNA การสร้างใบเนี่ยมันไม่ต้องมีมัน
00:11:19 → 00:11:23 ทิ้งไปหมดเลยเหลือแต่ DNA ในการสร้างอะไร
00:11:23 → 00:11:27 ครับตัวมันเองซึ่งก็คือไัแล้วก็ DNA ของ
00:11:27 → 00:11:30 คลอโรพลาสที่อยู่ข้างในซึ่งแน่นอนมันทำ
00:11:30 → 00:11:33 ให้มันมีสีเขียวคลอโรพลาสเนี่ยมันเป็นตัว
00:11:33 → 00:11:35 ที่มีคลอโรฟิลอยู่ข้างในเป็นแหล่งพลังงาน
00:11:35 → 00:11:38 ให้กับตัวผำเวลาที่สังเคราะห์แสงนะครับ
00:11:38 → 00:11:42 นี่ก็คือทั้งหมดของผำนะครับทีนี้ถามว่าคน
00:11:42 → 00:11:46 ไทยเนี่ยกินผำกับอะไรบ้างนะผมเองก็เคยกิน
00:11:46 → 00:11:51 เวลาไปต่างจังหวัดผมเคยกินเป็นไข่เจียวผำ
00:11:51 → 00:11:56 นะฮะแกงจืดใส่ผำมันก็อร่อยดีคือตัวผำจริง
00:11:56 → 00:11:59 ๆเนี่ยนะครับถ้าตักมันมากินเนี่ยมันจืดๆ
00:11:59 → 00:12:02 ครับไม่มีรสอะไรเลยนะแต่ไม่แน่บางคนอาจจะ
00:12:02 → 00:12:05 รับรสนิดๆหน่อยๆแต่ผมกินเข้าไปแล้วเนี่ย
00:12:05 → 00:12:08 มันจืดๆมันอาจจะมีกลิ่นเขียวๆนิดเดียวแต่
00:12:08 → 00:12:11 ไม่มากขนาดแบบไม่ได้เขียวขนาดหญ้าเวลา
00:12:11 → 00:12:13 พึ่งตัดนะครับดังนั้นเนี่ยมันเป็นอะไรที่
00:12:13 → 00:12:17 กินง่ายนะครับคนไม่ได้ชอบกินผักมันก็กิน
00:12:17 → 00:12:19 เข้าไปได้เพราะกลิ่นมันไม่ได้แรงขนาดนั้น
00:12:19 → 00:12:22 นะครับและถ้าเราเอาไปปรุงอาหารใส่เข้าไป
00:12:22 → 00:12:25 กับของต่างๆเช่นถ้าเราเอาไปใส่กับพิซซ่า
00:12:25 → 00:12:27 ใส่กับก๋วยเตี๋ยวใส่กับอะไรพวกเนี้ยมันก็
00:12:27 → 00:12:30 ใส่เข้าไปได้อยู่ดีนะครับใส่ไข่เจียว
00:12:30 → 00:12:32 เนี่ยผมว่ามันอร่อยอ่ะบางทีใส่ไข่มดแดง
00:12:32 → 00:12:35 เข้าไปในนั้นก็อร่อยเหมือนกันนะครับงั้น
00:12:35 → 00:12:38 แปลว่าอะไรแปลว่าประเทศไทยเราเนี่ยมี
00:12:38 → 00:12:41 ซุปเปอร์ฟู้ดอยู่ในแหล่งธรรมชาติที่ชาว
00:12:41 → 00:12:44 บ้านรู้อยู่แล้วแล้วมันราคาถูกปลูกง่าย
00:12:44 → 00:12:47 ใครก็ปลูกได้ถ้ามีแหล่งน้ำสะอาดคุณก็ตัก
00:12:47 → 00:12:51 มันมากินสิครับง่ายสุดๆเลยนะฮะแค่นี้เลย
00:12:52 → 00:12:54 ไม่ได้ยากอะไรนะครับแล้วก็ทำให้มันสุกก็
00:12:54 → 00:12:56 กินได้แล้วนะครับบางคนถ้าไม่สุกก็ต้อง
00:12:56 → 00:12:59 ระวังบางทีมันอาจจะมีพวกเชื้อแบคทีเรีย
00:12:59 → 00:13:01 ปรสิทหรืออะไรพวกเยเกาะอยู่กับมันแล้วเรา
00:13:01 → 00:13:04 กินเข้าไปอันนั้นอาจจะมีปัญหากับร่างกาย
00:13:04 → 00:13:06 เราได้นะครับแต่โดยทั่วไปถ้าเราเอามาทำ
00:13:06 → 00:13:09 เนี่ยก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนะครับผำสามารถ
00:13:09 → 00:13:12 ที่จะกินได้ข้อเสียของมันนะครับคือแค่
00:13:12 → 00:13:15 เรื่องโลหะหนักอย่างเดียวดังนั้นถ้าเรา
00:13:15 → 00:13:17 มั่นใจว่าเราเอามาจากแหล่งน้ำที่มันมีผำ
00:13:17 → 00:13:19 เยอะๆหรือว่าเราไปซื้อมาจากแหล่งที่เขาค
00:13:19 → 00:13:23 ทำแล้วก็มีข้อมูลชัดเจนว่าเค้าทำยังไง
00:13:23 → 00:13:25 ปลูกยังไงพวกเนี้ยเราก็ไม่ต้องกังวล
00:13:25 → 00:13:28 เรื่องของโลหะหนักนอกเหนือจากนั้นมันมี
00:13:28 → 00:13:32 แต่คุณสมบัติในเชิงโภชนาการที่ดีโปรตีน
00:13:32 → 00:13:35 สูงมากนะครับมีวิตามินเกลือแร่อย่างที่
00:13:35 → 00:13:38 เราต้องการนะครับแล้วก็ที่สำคัญเป็นหนึ่ง
00:13:38 → 00:13:42 เดียวในเรื่องของวิตามิน B12 สำหรับวนถ้า
00:13:42 → 00:13:45 ไม่นับเห็ดชิตาเกะนะครับอันเนี้ยก็เลยถือ
00:13:45 → 00:13:49 ว่าเป็นฟู้ของชาวไทยนะครับวันนี้ผมก็มา
00:13:49 → 00:13:51 เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับหลายๆคนอาจ
00:13:51 → 00:13:55 จะไปเจอผำในรูปแบบต่างๆที่ทำมาขายก็ได้นะ
00:13:55 → 00:13:58 ครับเดี๋ยวนี้ก็มีบริษัทที่เขาทำขายหรือ
00:13:58 → 00:14:01 ร้านอาหารบางางร้านนะครับก็มีการเอาผำไป
00:14:01 → 00:14:04 ทำนะครับถ้าไม่นับที่ชาวบ้านเขาทำกินกัน
00:14:04 → 00:14:07 ที่ต่างจังหวัดนะครับโอเควันนี้ก็เล่าให้
00:14:07 → 00:14:08 ฟังเพียงเท่านี้นะครับขอบคุณมากครับ
00:14:08 → 00:14:12 สวัสดีครับ