น้ำวิตามินที่อร่อยหวานมาก ๆ มีความเสี่ยงอย่างไรต่อสุขภาพ?

5 เครื่องดื่มสุขภาพอันตรายกว่าที่คุณคิด | EP236

จากช่อง : Doctor Top


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:04 5 เครื่องดื่มสุขภาพอันตรายกว่าที่คุณคิด

00:00:1100:00:14 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTORTOP Channel

00:00:1400:00:17 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ

00:00:1900:00:23 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของเครื่องดื่มสุขภาพ

00:00:2300:00:27 5 เครื่องดื่มสุขภาพอันตรายกว่าที่คุณคิด

00:00:2700:00:28 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:00:2800:00:31 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ

00:00:3100:00:32 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย

00:00:3200:00:35 ผมขออนุญาตให้กระโดดไปดูที่ 3 นาทีสุดท้าย

00:00:3500:00:37 ผมสรุปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

00:00:3700:00:39 ส่วนท่านที่มีเวลา เราไปพร้อมๆ กันเลย

00:00:4000:00:42 สำหรับเรื่องของเครื่องดื่มสุขภาพ

00:00:4200:00:46 ผมว่ามันเป็นอะไรที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน

00:00:4600:00:49 แล้วเราก็คิดว่ามันจะต้องมีสุขภาพดีจริงไหม

00:00:4900:00:51 เพราะว่ามันชื่อเครื่องดื่มสุขภาพ

00:00:5100:00:52 แล้วมันก็มีสุขภาพดีจริงๆ

00:00:5200:00:56 แต่มันมีภัยร้ายแฝงอยู่ และถ้าเราไม่รู้เราไปทาน

00:00:5600:00:59 แทนที่จะได้ผลดีกลับได้ผลเสีย

00:00:5900:01:02 บางครั้งเป็นความดันสูง บางครั้งเป็นเบาหวาน

00:01:0200:01:05 บางครั้งเป็นโรคหัวใจขาดเลือด อันตรายจริงๆ

00:01:0500:01:08 มาดูว่ามีอะไรบ้าง

00:01:0800:01:15 อย่างแรก นม ฟังแล้วช็อคว่านมมันจะแบบมีข้อเสียยังไง

00:01:1500:01:17 เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ใช่ไหม

00:01:1700:01:20 เราก็ได้รับการดื่มมาตั้งแต่เด็กแล้ว

00:01:2000:01:23 เราก็ต้องดื่มนมตั้งแต่เด็ก เพราะว่าเราแบบอยากตัวสูงใช่ไหม

00:01:2400:01:28 คราวนี้มาดูกันว่านมจริงๆ ถามว่าดีไหม บอกว่าดี

00:01:2800:01:31 แต่ต้องเป็นปริมาณที่เหมาะสม แล้วต้องเลือกให้ถูกแบบด้วย

00:01:3100:01:34 เพราะอะไร ต้องบอกว่านม 1 กล่อง

00:01:3400:01:39 นมจืดเลยเอาว่านมจืดเลย นมจืด 1 กล่อง ประมาณ 200 cc

00:01:3900:01:43 มีน้ำตาลประมาณ 7-8 กรัม

00:01:4300:01:46 วันหนึ่งเราแนะนำให้ทานน้ำตาลไม่เกิน 25 กรัม

00:01:4600:01:49 แปลว่าอะไร แปลว่านมจืด 3 กล่อง

00:01:4900:01:51 ก็เลยน้ำตาลที่ท่านต้องทานต่อวันแล้ว

00:01:5100:01:53 ท่านทานน้ำตาลอย่างอื่นไม่ได้แล้ว

00:01:5300:01:56 แปลว่ามันมีน้ำตาลเยอะกว่าที่เราคิด

00:01:5600:01:59 คือนมแม้จะเป็นนมจืดก็มีน้ำตาล

00:01:5900:02:04 บางท่านคิดว่านมจืดมันไปจะมีน้ำตาลได้ไง มันไม่หวาน

00:02:0400:02:07 ก็ต้องบอกว่าน้ำตาลในนมจืดคือน้ำตาลแลคโตส

00:02:0700:02:09 ที่ไม่ค่อยจะมีรสหวานเท่าไหร่

00:02:0900:02:12 แล้วก็ไอ้ตัวน้ำตาลแลคโตสบางคนแพ้

00:02:1200:02:15 ต้องบอกว่าชาวเอเชียแพ้น้ำตาลแลคโตสค่อนข้างเยอะ

00:02:1500:02:18 เวลาทานเข้าไปแล้วบางทีก็จะมีท้องเสียบ้าง

00:02:1800:02:22 หรือว่าดูดซึมได้ไม่ดีบ้าง ทำให้เวลาเราทานนม

00:02:2200:02:25 เราจะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าทางฝั่งชาวยุโรปนั่นเอง

00:02:2500:02:29 แต่ไม่ได้บอกว่าแพ้น้ำตาลแลคโตสทุกคนแล้วแต่คนนั่นเอง

00:02:2900:02:32 เพราะฉะนั้นต้องระวังเลยเรื่องของนมแม้เป็นนมจืดก็ตาม

00:02:3200:02:34 คราวนี้มาดูดนมอย่างอื่นบ้าง

00:02:3400:02:38 ถ้าเป็นนมเปรี้ยวนี่ ถ้าเกิดสมมุติประมาณสัก 200 cc

00:02:3800:02:42 แก้วหนึ่งมีน้ำตาลประมาณ 20 กรัม หวานมากเลย

00:02:4200:02:44 นมหวานก็ประมาณ 15-20 กรัม

00:02:4400:02:49 แปลว่าวันหนึ่งถ้าท่านกินขวดหนึ่งหรือกระป๋องหนึ่ง

00:02:4900:02:51 ก็แปลว่าน้ำตาลท่านไม่ควรทานเพิ่มแล้ว

00:02:5100:02:54 เพราะฉะนั้นแล้วต้องระวังจริงๆ

00:02:5400:02:55 แล้วคราวนี้มีคำถามบอกว่า

00:02:5500:02:59 แล้วเราจะได้แคลเซียมมาจากที่ไหน ถ้าเราไม่ทานนม

00:02:5900:03:02 คือถ้าท่านต้องการแคลเซียมจากการทานนมอย่างเดียว

00:03:0200:03:05 ท่านต้องทานนมวันละประมาณ 1 ลิตร แคลเซียมถึงจะพอ

00:03:0500:03:06 ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ทานนมวันละ 1 ลิตร

00:03:0600:03:10 มันอาจจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี

00:03:1000:03:13 นมที่ผมแนะนำว่าวันละ 200 cc กำลังสวย

00:03:1300:03:15 หรืออาจจะแบบ 150-200 cc

00:03:1500:03:18 แต่ว่าถ้าแบบ 500 cc ลิตรหนึ่งนี้ผมไม่แนะนำเลย

00:03:1800:03:22 มันมีน้ำตาลเยอะเกินไป แคลเซียมหาจากอาหารอย่างอื่นได้

00:03:2200:03:24 พวกกุ้ง หอย ปู ปลาตัวเล็กๆ

00:03:2400:03:27 ปลากรอบๆ ที่กินพร้อมกระดูกแบบนี้ก็โอเค

00:03:2700:03:31 มีผักหลายอย่างที่มีแคลเซียม อาหารหลายอย่างที่มีแคลเซียม

00:03:3100:03:33 กินผสมๆ กันไปเพื่อให้ได้แคลเซียม

00:03:3300:03:37 แล้วก็ไปรับแสงแดดด้วย ไปออกกำลังกายด้วยกระดูกถึงจะแข็งแรง

00:03:3700:03:40 ได้แคลเซียมไปอย่างเดียว แต่ไม่ออกกำลังกาย

00:03:4000:03:42 ไม่โดนแดด แคลเซียมไม่เข้ากระดูก

00:03:4200:03:45 แล้วก็ทำให้กระดูกพรุนซะเปล่าๆ

00:03:4500:03:52 มาต่อกันที่น้ำสุขภาพชนิดที่ 2

00:03:5200:03:55 นั่นก็คือน้ำผักผลไม้นั่นเอง

00:03:5500:03:58 น้ำผักผลไม้เลยผมใช้คำนี้นะ

00:03:5800:04:02 เพราะว่าอะไร คือต้องบอกว่าน้ำผักผลไม้ในปัจจุบัน

00:04:0200:04:04 เราก็ไม่ได้ค่อยได้ทำเองใช่ไหม

00:04:0400:04:06 เราก็ไปซื้อมาน้ำผักผลไม้ 100%

00:04:0600:04:09 ผมก็ชอบทานบ้างเหมือนกันนะ มันมีรสชาติอร่อย

00:04:0900:04:14 รสชาติอร่อยนั้นโดยส่วนใหญ่มันก็มีความหวานอยู่ด้วย

00:04:1400:04:16 อันนี้เราพูดถึงน้ำผักผลไม้ 100% แล้วนะ

00:04:1600:04:20 ไม่ใช่น้ำผักผลไม้ที่แบบผสมน้ำตาล

00:04:2000:04:23 น้ำผักผลไม้ 30% 20% อันนั้นหนักกว่าอีก

00:04:2300:04:26 น้ำตาลสูงแบบทะลุโลกมากๆ

00:04:2600:04:28 แต่ถ้าเกิดน้ำผลไม้ 100% แล้ว

00:04:2800:04:34 ใน 1 แก้ว จะเป็นน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำฝรั่ง น้ำทับทิม

00:04:3400:04:37 มีน้ำตาลพอๆ กับน้ำอัดลมเลย

00:04:3700:04:42 น้ำส้ม 1 แก้ว มีน้ำตาลประมาณ 20-25 กรัม

00:04:4200:04:45 น้ำอัดลมก็มี 20-25 กรัม เท่ากัน

00:04:4500:04:48 ถ้าท่านทานน้ำผลไม้ 1 แก้วก็เท่ากับทานน้ำอัดลม 1 แก้ว

00:04:4800:04:51 เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้วิตามินจากผลไม้จริงๆ

00:04:5100:04:53 ก็แนะนำให้ทานผลไม้

00:04:5300:04:57 ส่วนน้ำผลไม้ก็ทานได้บ้าง แต่ไม่ควรจะมากเกินไป

00:04:5700:05:01 คราวนี้มาดูน้ำชนิดที่ 3 บ้าง น้ำชนิดนี้กำลังโด่งดังมากๆ

00:05:0100:05:03 นั่นก็คือน้ำวิตามิน

00:05:0300:05:07 คือผมอาจจะไม่อยากไปบอกว่ามันมีประโยชน์หรือมันไม่มีประโยชน์

00:05:0700:05:11 ก็คือโดยตัวน้ำ ถ้าเราได้รับน้ำเพียงพอในร่างกาย

00:05:1100:05:15 วันละประมาณ 2,000 cc ต่อวัน ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย

00:05:1500:05:18 ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำแร่ น้ำวิตามิน น้ำอะไรก็ตาม

00:05:1900:05:22 แต่อะไรที่ผสมมาในน้ำ เช่น น้ำตาล

00:05:2200:05:25 ต้องบอกว่าวิตามินมันไม่ได้มีรสชาติอร่อยนะ

00:05:2500:05:29 เวลาท่านทานน้ำวิตามินแล้วมันอร่อย มันมาจากน้ำตาลนะ

00:05:2900:05:32 ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี วิตามินอะไรก็ตาม

00:05:3200:05:35 ถ้าท่านทานน้ำวิตามินแล้วมันอร่อยมากๆ เลยนะ

00:05:3500:05:40 ให้สงสัยเลยว่ามันอร่อยจากอะไร มันก็มักจะอร่อยจากน้ำตาล

00:05:4000:05:42 เพราะงั้นก็ดูที่ฉลาก

00:05:4200:05:45 ถ้าเกิดน้ำตาลแบบขวดหนึ่ง 200 cc

00:05:4500:05:48 มีน้ำตาล 10-20 กรัม อย่างนี้มันก็เยอะเกินไป

00:05:4800:05:51 เพราะฉะนั้นแล้วทานอะไรดี ก็ทานน้ำเปล่า

00:05:5100:05:54 แล้วก็ไปกินพืชผักที่ผมเคยเล่าเคยบอกให้ฟัง

00:05:5400:05:56 มันอยู่ในอาหารหมดแล้ว

00:05:5600:06:02 ไอน้ำวิตามินที่แยกออกมา ถ้าท่านอยากทานบ้างก็ไม่ได้ห้ามอะไร

00:06:0200:06:04 แต่ถ้าท่านทานวันละ 2 ขวด 3 ขวด

00:06:0400:06:08 อย่างนี้ผมว่ามันก็ไม่แตกต่างกับท่านทานชาไข่มุก

00:06:0800:06:11 ถ้ามันหวานมากๆ ต้องระมัดระวังเลย บางทีขวดเล็กๆ นิดเดียว

00:06:1100:06:14 น้ำวิตามินขวดเล็กๆ รสชาติเข้มข้นมากเลย

00:06:1400:06:18 น้ำตาลนี่ 5 กรัม 10 กรัม บางที่ 15 กรัม

00:06:1800:06:20 เพราะฉะนั้นมันอันตรายมากๆ เสี่ยงเบาหวานมากๆ

00:06:2000:06:24 เพราะฉะนั้นแล้วเลือกให้ถูกต้อง ทานให้พอเหมาะพอสม

00:06:2400:06:26 อะไรมากไปก็ไม่ดีอะไรน้อยไปก็ไม่ดี

00:06:2600:06:29 ฉลากโภชนาการดูทุกครั้ง

00:06:2900:06:33 เพื่อชีวิตเพื่อสุขภาพของท่านเอง

00:06:3300:06:36 มาต่อกันที่น้ำชนิดที่ 4 ที่มีประโยชน์

00:06:3600:06:38 และผมว่าทุกท่านชอบทานมากๆ เลย

00:06:3800:06:42 นั่นก็คือน้ำมะนาวน้ำผึ้งนั่นเอง

00:06:4200:06:46 ต้องบอกว่าน้ำมะนาวน้ำผึ้งใหญ่ จริงๆ ก็สารพัดสารพันประโยชน์

00:06:4600:06:48 น้ำมะนาวเป็นไง วิตามินซีสูง

00:06:4800:06:51 น้ำผึ้งนะ ประโยชน์มากมายใช่ไหม

00:06:5100:06:53 เอามารวมกันก็ซูปเปอร์ประโยชน์

00:06:5300:06:57 ก็ต้องบอกว่ามันมีประโยชน์ เพียงแต่ว่าตัวน้ำผึ้ง

00:06:5700:07:00 ไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งมีประโยชน์แล้วกินเท่าไหร่ก็ได้

00:07:0000:07:08 น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา มีแคลอรี่มากกว่าน้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนชา อยู่เหมือนกัน

00:07:0800:07:10 น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ประมาณ 22 kcal

00:07:1000:07:14 แต่ถ้าน้ำตาลทรายขาวประมาณสัก 16 kcal

00:07:1400:07:17 วันหนึ่งเราก็ไม่แนะนำให้ทานน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา

00:07:1700:07:20 น้ำผึ้งก็เช่นกัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา

00:07:2000:07:23 แต่ไม่ใช่ว่าทานน้ำตาล 6 ช้อนชา แล้วทานน้ำผึ้ง 6 ช้อนชา

00:07:2300:07:25 คือถ้าท่านทานน้ำผึ้งไป 2 ช้อนชา

00:07:2500:07:29 ท่านก็เหลือเวลาให้ทานน้ำตาลอีกแค่ 4 ช้อนชาเท่านั้นเอง

00:07:2900:07:34 ไม่ใช่ว่าน้ำผึ้ง 6 น้ำตาล 6 ไม่ใช่ มันต้องเขาเรียกรวมกัน

00:07:3400:07:39 เพราะฉะนั้นแล้วถ้าท่านทานน้ำมะนาวใส่น้ำผึ้ง

00:07:3900:07:41 แล้วถ้าท่านใส่น้ำผึ้ง 2 ช้อนชาแล้ว

00:07:4100:07:45 วันนั้นท่านมีลิมิตของน้ำตาลเพียงแค่ 4 ช้อนชาเท่านั้นเอง

00:07:4500:07:49 ไม่ใช่ว่ากินน้ำผึ้งกินเท่าไหร่ก็ได้ไม่ใช่

00:07:4900:07:53 มันก็ถ้ามากไปก็มีข้อเสีย แต่ถ้าวันละสัก 1 ช้อนชา 2 ช้อนชา

00:07:5300:07:57 เอาเลยกินแล้วสดชื่นตอนเช้า ได้วิตามินซีจากมะนาว

00:07:5700:08:02 เอาเลยนะ อุ่นๆ ร้อนๆ ลดเสมหะ แก้ไอ สุดยอด

00:08:0200:08:08 มาต่อกันที่น้ำที่ 5 นั่นก็คือน้ำสมุนไพร

00:08:0800:08:12 ต้องบอกว่าคำว่าสมุนไพร ผมต้องบอกว่ามันมีข้อดีมากมาย

00:08:1200:08:15 ถ้ามีแพทย์แผนไทย แพทย์เกี่ยวกับเรื่องของสมุนไพรโดยเฉพาะ

00:08:1500:08:18 อันนี้ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์มากๆ

00:08:1800:08:22 ถ้าใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสม

00:08:2200:08:25 เพียงแต่ว่าน้ำสมุนไพรที่เราทานๆ กันอยู่

00:08:2500:08:28 มีการเก็บข้อมูลจากสถาบันอาหาร

00:08:2800:08:34 เขาเก็บในกรุงเทพฯ นี่แหละ ไปสุมาน้ำสมุนไพรมา 5 ชนิด

00:08:3400:08:37 สุ่มมา 5 ชนิด แล้วมาตรวจแล้วว่าไม่มีน้ำตาลอยู่เท่าไหร่

00:08:3700:08:40 คือเขาไม่ได้ตรวจว่ามีสมุนไพรอะไร เขาตรวจน้ำตาลอะไรอยู่เท่าไหร่

00:08:4000:08:44 ค่าเฉลี่ยต่อ 1 ขวด ประมาณ 200 cc

00:08:4400:08:48 ก็จะมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 10-30 กรัม เยอะมาก

00:08:4800:08:50 ถ้า 30 กรัม แปลว่าวันหนึ่งท่านทานขวดเดียว

00:08:5000:08:53 ไม่ต้องกินหวานอีกแล้ว มันเยอะจริงๆ

00:08:5300:08:58 เพราะฉะนั้นน้ำสมุนไพรที่มีรสหวานมากๆ ขอให้ระวัง

00:08:5800:09:02 เช่น อาจจะเป็นน้ำอัญชันหวานเจี๊ยบ น้ำใบเตยหวานเจี๊ยบ

00:09:0200:09:04 ไม่ใช่น้้ำอัญชันใบเตยไม่ดี

00:09:0400:09:07 เพียงแต่ว่าความหวานมันหวานเกินไป ต้องระมัดระวัง

00:09:0700:09:12 น้ำขิงที่แบบหวานมากๆ อะไรอย่างนี้ต้องระมัดระวังมากๆ เลย

00:09:1200:09:14 คือตัวสมุนไพรของดีของเขา

00:09:1400:09:17 แต่น้ำตาลมันมาทำให้ความดีขอลดลง

00:09:1700:09:20 แล้วถ้าเราทานมากเกินไป จะเป็นโทษกับเรา

00:09:2000:09:22 อันตรายมากๆ เวลาน้ำตาลสูง

00:09:2200:09:26 ก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากเครื่องดื่มสุขภาพ

00:09:2600:09:30 ดื่มแล้วต้องได้สุขภาพ ไม่ใช่เสียสุขภาพ

00:09:3000:09:33 คราวผมขออนุญาตสรุป

00:09:3300:09:37 5 เครื่องดื่มสุขภาพอันตรายกว่าที่คุณคิด

00:09:3700:09:42 อันแรกเลย นม ฟังแล้วเหลือเชื่อ

00:09:4200:09:46 นมไม่ว่าจะเป็นนมจืด นมหวาน นมเปรี้ยว

00:09:4600:09:50 มีน้ำตาลทั้งนั้น ไม่ได้บอกว่านมไม่ดี

00:09:5000:09:52 ทานได้วันละ 1 ขวด

00:09:5200:09:56 โดยเฉพาะนมจืด ผมแนะนำว่า 1 กระป๋อง/กล่อง กำลังดี

00:09:5600:10:01 แต่ถ้านมหวานอมเปรี้ยว อาจจะต้องเป็นขวดเล็กหรือกระป๋องเล็ก

00:10:0100:10:03 เพราะว่าน้ำตาลเขาสูงจริงๆ

00:10:0300:10:06 นมจืดดูเหมือนไม่มีน้ำตาล แต่เขามีน้ำตาลแลคโตสอยู่

00:10:0600:10:08 ซึ่งไม่ค่อยหวานเท่าไหร่

00:10:0800:10:12 ก็ประกอบด้วยน้ำตาลประมาณสัก 7-8 กรัมต่อกล่อง

00:10:1200:10:16 วันหนึ่งถ้าเราทาน 3 กล่อง ก็หมดโควต้ากินน้ำตาลแล้ว

00:10:1600:10:20 แต่ถ้าเป็นนมเปรี้ยวหรือว่านมหวานรสหวานรสช็อกโกแลต

00:10:2000:10:22 มีน้ำตาลประมาณ 20 กรัม

00:10:2200:10:25 แปลว่าวันหนึ่งกระป๋องหนึ่งหรือกล่องหนึ่ง

00:10:2500:10:29 ก็แทบจะเลยลิมิตน้ำตาล 25 กรัมต่อวันของเราแล้ว

00:10:2900:10:31 เพราะฉะนั้นระมัดระวังเรื่องของนมให้ดี

00:10:3100:10:35 ถ้าท่านอาจจะทานนมเสริมแคลเซียมอย่างเดียวผมไม่แนะนำ

00:10:3500:10:38 เพียงเป็นส่วนประกอบ แล้วไปกินอาหารอย่างอื่นเพิ่มเติม

00:10:3800:10:41 เพื่อเสริมแคลเซียมจะดีต่อสุขภาพมากกว่า

00:10:4100:10:43 ต้องหลายๆ อย่าง หลากหลายนั่นเอง

00:10:4300:10:48 มาดูกันที่น้ำอย่างที่ 2 น้ำผักผลไม้ 100%

00:10:4800:10:52 ใช้คำว่า 10% คือ 40% ผมไม่แนะนำให้ทานแล้วกัน

00:10:5200:10:54 เพราะว่าน้ำตาลมันมหาศาล

00:10:5400:10:56 แต่คราวนี้ถ้าเกิดน้ำผักผลไม้ 100%

00:10:5600:11:01 เราก็ดูว่าน่าจะสุขภาพใช่ไหม ผมไม่ได้เถียงนะว่ามันมีสุขภาพดี

00:11:0100:11:05 มีวิตามินอยู่พอสมควร แต่ก็อาจจะสู้ผักผลไม้สดๆ ไม่ได้นะ

00:11:0500:11:07 เพราะมันผ่านกระบวนการเยอะแยะเลยใช่ไหม

00:11:0800:11:11 คราวนี้เรามาเทียบกันน้ำผลไม้แก้วหนึ่ง

00:11:1100:11:15 น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำทับทิม น้ำแอปเปิ้ล

00:11:1600:11:19 แก้วหนึ่ง 200 cc มีน้ำตาลประมาณ 20-25 กรัม

00:11:1900:11:22 เทียบได้กับน้ำอัดลมแก้วหนึ่งพอดีกันเลยนะ

00:11:2200:11:26 ไม่ว่าจะเป็นน้ำสีดำ สีส้ม สีเหลือง สีขาวนะ

00:11:2600:11:28 ประมาณ 20-25 กรัม

00:11:2800:11:30 แปลว่าถ้าท่านทานน้ำผลไม้วันละ 3 แก้ว

00:11:3000:11:33 ก็เท่ากับท่านทานน้ำอัดลมวันละ 3 แก้ว เพราะฉะนั้นระมัดระวัง

00:11:3300:11:37 น้ำผลไม้ผมแนะนำว่าวันละไม่เกิน 1 แก้ว

00:11:3700:11:40 วันละไม่เกิน 1 แก้ว แล้วไม่ควรจะทานทุกวันด้วย

00:11:4000:11:42 ถ้าจะแนะนำให้ทานจริง แนะนำทานผลไม้สด

00:11:4200:11:47 น้ำผลไม้ทานได้อาจจะวันเว้นวัน วันเว้นสองวัน อย่างนี้โอเค

00:11:4700:11:50 มาดูกันที่น้ำที่ 3 ที่แฝงอันตรายไว้

00:11:5000:11:52 นั่นก็คือน้ำวิตามินนั่นเอง

00:11:5200:11:56 ดังมากๆ ตอนนี้น้ำวิตามินขายดีสุดๆ ใช่ไหม

00:11:5600:12:00 ไม่ได้บอกว่าน้ำวิตามินไม่ดี เพียงแต่ว่าต้องดูส่วนประกอบ

00:12:0000:12:03 ว่าข้างในนั้นมีอะไรแอบซ่อนอยู่บ้าง

00:12:0300:12:07 ถ้าท่านทานน้ำวิตามิน แล้วมันหวานอร่อยกลมกล่อมมากๆ เลย

00:12:0700:12:09 ให้ท่านผลิกฉลากดูหน่อย

00:12:0900:12:13 ถ้าน้ำตาลแบบขวดหนึ่งน้ำตาล 10 กรัม 15 กรัม 20 กรัมนะ

00:12:1300:12:16 อาจจะขออนุญาตให้ท่านเปลี่ยนไปยี่ห้ออื่น

00:12:1600:12:19 หรือไปหาวิตามินจากอาหารอย่างอื่นทานจะปลอดภัยกว่า

00:12:1900:12:21 เพราะว่าน้ำตาลมันสูงจริงๆ

00:12:2100:12:24 โดยส่วนใหญ่แล้ววิตามินที่อยู่ในน้ำวิตามิน

00:12:2400:12:27 มันก็ไม่ได้ถึงกับมากมายอะไรนักหนา

00:12:2700:12:30 อยู่ในอาหารที่เรากิน อยู่ในผักอยู่ในผลไม้ที่เรากิน

00:12:3000:12:34 ผมว่าเพียงพอแล้วต่อวัน ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสริมอะไรมากมาย

00:12:3400:12:38 แต่ว่าถ้าท่านไหนอยากจะทานบ้าง ก็ทานได้ไม่ได้ห้ามอะไร

00:12:3800:12:41 ถ้าเกิดไม่ได้ขัดสนเงินทองอะไร อยากจะทานก็ทาน

00:12:4100:12:44 แต่อยากจะให้เลือกอันที่หวานน้อยๆ

00:12:4400:12:46 หรือแทบไม่มีรสชาติอย่างนี้โอเคกว่า

00:12:4600:12:49 มาต่อกันที่น้ำชนิดที่ 4 ที่แฝงอันตรายไว้

00:12:4900:12:52 นั่นก็คือมะนาวน้ำผึ้งนั่นเอง

00:12:5300:12:56 ฟังแล้วจี๊ดเลย เพราะว่าโดยส่วนใหญ่ชอบทาน

00:12:5600:12:59 ก็ต้องบอกว่ามะนาวกับน้ำผึ้งมันดีทั้งคู่

00:12:5900:13:02 มะนาววิตามินซีสูงปรี๊ด น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมาย

00:13:0200:13:05 แต่น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ก็เปรียบเทียบได้กับน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

00:13:0500:13:08 วันหนึ่งไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา

00:13:0800:13:10 ถ้าท่านทานน้ำผึ้งไปแล้ว 2 ช้อนชา

00:13:1000:13:13 ท่านก็เหลือโควต้าน้ำตาลทรายอีก 4 ช้อนชา

00:13:1300:13:15 ไม่ใช่ว่าท่านทานน้ำผึ้งไป 6 ช้อนชา

00:13:1500:13:18 ท่านทานน้ำตาลทรายได้อีก 1 ช้อนชา ไม่ใช่

00:13:1800:13:19 มันเหมือนๆ กัน

00:13:1900:13:21 เพราะฉะนั้นถ้าท่านทานมากไป โอกาสเสี่ยงเบาหวาน

00:13:2100:13:24 โอกาสเสี่ยงเป็นโรคความดันสูง โรคหัวใจขาดเลือด

00:13:2400:13:27 โรคหลอดเลือดตีบมีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นระมัดระวัง

00:13:2700:13:32 และน้ำสุดท้าย น้ำชนิดที่ 5 นั่นคือน้ำสมุนไพร

00:13:3200:13:34 สมุนไพรจริงๆ แล้วเป็นอะไรที่ดีมากๆ

00:13:3400:13:38 เพียงแต่ว่าเวลาเราพูดคำว่าน้ำสมุนไพร เราต้องดูส่วนประกอบของมัน

00:13:3900:13:44 สถาบันอาหารเขาไปสุ่มตรวจสอบมา 5 ชนิด

00:13:4400:13:47 พบว่าค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในน้ำสมุนไพร 200 cc

00:13:4700:13:50 มีประมาณ 10-30 กรัม ซึ่งเยอะมากๆ

00:13:5000:13:53 เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งท่านทานน้ำสมุนไพร 3 แก้ว

00:13:5300:13:56 มีโอกาสเป็นเบาหวานเลย เพราะว่าน้ำตาลมันสูงจริงๆ

00:13:5600:13:59 เพราะฉะนั้นเรื่องของน้ำสมุนไพรที่มีรสหวานมากๆ

00:13:5900:14:01 ใส่น้ำตาลมากๆ ผมอยากจะให้หลีกเลี่ยง

00:14:0100:14:05 ไปเลือกสมุนไพรที่ได้ประโยชน์ก็อาจจะดีกว่า

00:14:0500:14:09 หรือว่ากระทะสมุนไพรก็ได้ แต่เลือกที่หวานน้อยๆ แล้วกัน

00:14:0900:14:12 นี่ก็คือ 5 เครื่องดื่มสมุนไพรที่อันตรายกว่าที่คุณคิด

00:14:1200:14:14 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:14:1400:14:16 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ