00:00:43 → 00:00:45 พอหลังจากผ่านระลอกแรกไปได้
00:00:45 → 00:00:49 จำนวนผู้ป่วยก็ค่อย ๆ ลดลง ในที่สุดก็เหลือศูนย์
00:00:49 → 00:00:52 ทุกคนก็กลับเข้าสู่ภาวะการทำงานปกติ
00:00:56 → 00:01:01 แล้วเราก็มีนวัตกรรม มีสิ่งที่เราเตรียมการไว้ล่วงหน้า
00:01:01 → 00:01:07 เป็นโครงการ mobile application เราทำสำเร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562
00:01:07 → 00:01:11 ที่เปิดตัวเรียกว่า Application Siriraj Connect
00:01:13 → 00:01:18 เป้าหมายก็คือเราต้องการมีช่องทางในการติดต่อกับคนไข้ของเรา
00:01:18 → 00:01:25 แล้วสิ่งที่ตั้งใจทำอยู่คือ telemedicine กาตรวจรักษาออนไลน์
00:01:28 → 00:01:32 โควิด-19 เลยมาเป็นตัวกระตุ้นทำให้ telemedicine ไปเร็วกว่าที่คาด
00:01:33 → 00:01:40 จังหวะที่เราชัตดาวน์โรงพยาบาล 3-4 เดือนนั้น ก็จำเป็นต้องให้คนไข้ของเราเข้ามาใช้ telemedicine
00:01:40 → 00:01:47 เป็นการพูดคุยกับคนไข้ที่อาการคงที่ ไม่ต้องมาโรงพยาบาล
00:01:49 → 00:01:53 เดี๋ยวนี้เขาให้ฝ่าย IT เป็นกระดูกสันหลัง
00:01:53 → 00:02:01 ดังนั้นเราซัปพอร์ตคนไข้ทั้งที่ติดเชื้อโควิด-19 และไม่ติดเชื้อ ซัปพอร์ตทั้งคนทำงานของเรา
00:02:01 → 00:02:08 ระบบ IT ต้องปรับตัว เซตระบบต่าง ๆ ขึ้นมาให้ทันเวลา เพื่อจะตอบสนองต่อคนไข้โควิด-19
00:02:13 → 00:02:17 ถ้าฝ่าย IT ไม่ได้ถูกเตรียมตัวไว้ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19
00:02:17 → 00:02:22 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราจะทำงานช้า จะทำให้ทำงานยากขึ้น
00:02:23 → 00:02:26 เวลาเราทำงานยากผลเสียก็จะตกอยู่ที่คนทำงาน
00:02:26 → 00:02:31 พอคนทำงานช้า คนเหนื่อยล้าผลก็ไปตกอยู่กับคนไข้
00:02:31 → 00:02:38 พอทำเสร็จแล้วสิ่งที่ดีก็คือว่าหมอ 7 คน พยาบาล 20 คน ดูแลคนไข้ได้ 700 คน
00:02:38 → 00:02:39 ประสิทธิภาพสูงมาก
00:02:53 → 00:02:57 คือศิริราชมองว่า มันกลับมาอีกแล้ว ตอนนั้นก็เริ่มมีการกลายพันธุ์แล้ว
00:02:57 → 00:03:00 เราเริ่มเห็นสายพันธุ์ใหม่ ๆ ออกมา
00:03:00 → 00:03:03 สายพันธุ์สหราชอาณาจักร สายพันธุ์แอฟริกาใต้
00:03:03 → 00:03:06 แต่สุดท้ายที่มาเจอหนักจริง ๆ คือที่จังหวัดสมุทรสาคร
00:03:06 → 00:03:12 เพราะเป็นตลาดและเป็นชุมชน อาหารทะเลส่งเข้ามาและส่งกระจายออกไปที่อื่นในประเทศ
00:03:12 → 00:03:16 นี่เป็นครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดการสไปร์ทของจำนวนเคส
00:03:19 → 00:03:26 รอบที่ 2 เรามีความพร้อมมากขึ้น หน้ากาก N95 เราไม่ได้มีปัญหา ฟาวิพิราเวียร์ตอนนั้นเราไม่ได้ขาด
00:03:27 → 00:03:35 เพราะฉะนั้นทำให้รอบที่ 2 ที่สมุทรสาคร เราเป็นตัวช่วยมากกว่า หน้าที่เราคือส่งคนของเราไปช่วย
00:03:35 → 00:03:39 คนของเราตอนนั้นคืออาจารย์นิธิพัฒน์ ไปช่วยวางระบบโรงพยาบาลสนาม
00:03:43 → 00:03:46 เป็นโรงพยาบาลสนามที่ทำงานต่อเนื่องเป็นที่แรก
00:03:46 → 00:03:52 ทางศิริราชเองส่วนใหญ่ก็จะเป็นการให้องค์ความรู้ และช่วยออกความเห็นในเชิงบริหารจัดการบ้าง
00:03:53 → 00:04:01 สิ่งที่สำคัญก็คือเมื่อเราถอนตัวแล้วเขาสามารถยื่นอยู่บนขาของเขาเอง สามารถปฏิบัติงานได้เองโดยมีเราถอยออกมาเป็นพี่เลี้ยง
00:04:02 → 00:04:13 ก็เหมือนกับเป็นการส่งผ่านความรู้และประสบการณ์ ให้กับกลุ่มบุคลากรที่ยังไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้โดยตรงในปริมาณมาก ๆ
00:04:14 → 00:04:20 ศิริราชเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ เราจะตั้งรับรอคนส่งเคสเข้ามา
00:04:20 → 00:04:22 แต่ในระลอกที่ 2 นี้
00:04:22 → 00:04:23 เราลงพื้นที่ไปช่วยเขา
00:04:24 → 00:04:30 นั่นก็เป็นเรื่องของการที่ได้เรียนรู้ บทบาทในการที่ศิริราชจะก้าวไปสู่ชุมชน
00:04:30 → 00:04:39 เราก็เริ่มเปลี่ยนแนวคิดของทีมว่าเราต้องลงไปช่วยเขา ไม่ใช่แนวคิดว่าแค่ตั้งรับอยู่กับที่
00:04:40 → 00:04:41 สิ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี
00:04:44 → 00:04:50 หลังจากที่บริหารจัดการระบบได้ประมาณ 10 วัน
00:04:50 → 00:04:53 ท่านผู้ว่าราชการก็เริ่มมีอาการป่วย
00:05:01 → 00:05:05 หลังจากนำตัวมาที่ศิริราชได้ 2 วัน
00:05:05 → 00:05:10 ท่านผู้ว่าฯ ก็หายใจด้วยตัวเองไม่ไหว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจต่อเนื่องกัน
00:05:10 → 00:05:15 ระหว่างนั้นก็เกิดโรคแทรกซ้อนมีปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง
00:05:20 → 00:05:27 ท่านผู้ว่าฯ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่นานถึง 6 สัปดาห์ กว่าที่เราจะหยุดการใช้เครื่องช่วยหายใจได้
00:05:27 → 00:05:35 ซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของศิริราช ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจต่อเนื่องยาวนานจนถึง 6 สัปดาห์
00:05:43 → 00:05:52 ทีมศิริราชพยาบาลเหมือนฉุดผมขึ้นมาจากความตาย
00:05:52 → 00:05:54 ไม่รู้ทำได้อย่างไร
00:05:55 → 00:06:01 แต่ต้องยอมรับว่าทางทีมศิริราชพยาบาลให้ความเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี
00:06:01 → 00:06:04 ต้องกราบขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้
00:06:17 → 00:06:20 การระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร
00:06:20 → 00:06:28 ตอนนั้นก็ทำให้มีคลัสเตอร์มากมาย คลัสเตอร์ต่าง ๆ ก็เริ่มกระจายเข้ามารอบ ๆ ศิริราช และก็เข้ามาในกรุงเทพฯ
00:06:28 → 00:06:30 กลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่มาก
00:07:29 → 00:07:35 คนไข้ในโรงพยาบาลเริ่มหนักขึ้น ๆ พอเคสหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ
00:07:35 → 00:07:40 ก็คุยกันว่าเราจะเปิดวอร์ดข้างบนเพิ่มขึ้น
00:07:40 → 00:07:45 จำนวนคนไข้ก็เริ่มบวกเพิ่มขึ้นจากวันละ 10 คนเป็นวันละ 100 คน
00:07:45 → 00:07:47 ตอนนั้นก็เริ่มเดือดร้อนแล้ว
00:07:47 → 00:07:51 คนไข้เริ่มมาที่ ARI Clinic เพิ่มขึ้น
00:07:51 → 00:07:57 จากที่เรายุบคลินิกให้น้อยลง แล้วเปิดให้บริการปกติ
00:07:57 → 00:08:01 ก็ปิดการให้บริการแบบปกติแล้วก็กลับมาทำแบบเก่า
00:08:08 → 00:08:13 ที่เหนื่อยมากที่สุดเป็นเรื่องของจำนวนคนไข้ที่ค่อนข้างจะเยอะมาก
00:08:14 → 00:08:19 พีกที่สุดของเราคือเคยขึ้นไปถึงประมาณ 600-700 คนต่อวัน
00:08:19 → 00:08:26 จำได้เลยว่าเริ่มทำงาน 7 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น
00:08:26 → 00:08:30 ไม่ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำเลย น้ำไม่ได้กินเลยข้าวก็ไม่ได้กิน
00:08:38 → 00:08:46 กำลังใจได้มาจากคนในทีมและพี่ ๆ ทีมงานของเรา
00:08:46 → 00:08:51 เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน ลำบากก็ลำบากด้วยกัน
00:08:51 → 00:08:55 แล้วก็มีคุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจสำคัญ
00:08:55 → 00:08:57 เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้กลับบ้านเลย
00:09:02 → 00:09:05 ที่หนักสุดอาจจะเป็นเรื่องห้องแล็บทางห้องปฏิบัติการ
00:09:05 → 00:09:14 ที่ต้องตรวจ PCR ต้องเตรียมอุปกรณ์การตรวจ ต้องเตรียมคนไว้ให้เพียงพอ ห้องแล็บตอนแรกก็ทำงานหนักมาก ที่ต้องตรวจว่าเป็นหรือไม่เป็นโควิด-19
00:09:15 → 00:09:17 โดยสรุปแล้วก็คือทำงานกันเกือบ 24 ชั่วโมง
00:09:18 → 00:09:22 จนกระทั่งอาจารย์บอกว่าเจ้าหน้าที่ห้องแล็บจะลาออกหมดแล้ว
00:09:23 → 00:09:29 เนื่องจากว่าด้วยหน้าที่ของแพทย์โรคติดเชื้อจะเป็นคนที่ต้องดูคนไข้เบื้องต้น
00:09:29 → 00:09:35 คือเวลาคนไข้มาตรวจพบเชื้อบางวันก็มีถึง 120 คน
00:09:35 → 00:09:37 ที่มาตรวจแล้วก็กลับไปรอผลที่บ้าน
00:09:37 → 00:09:39 เราก็จะต้องโทรหาคนไข้ทุกคน
00:09:47 → 00:09:55 เพราะฉะนั้นช่วงที่คนไข้เยอะ ๆ กว่าจะโทรเสร็จก็หลังเที่ยงคืน
00:09:55 → 00:10:00 เราก็จะเริ่มโทรทีละคน ๆ แล้วบางทีก็ต้องพักก่อนแล้วค่อยมาโทรอีกทีหนึ่งตอนเช้า
00:10:28 → 00:10:33 มันเกิดการระบาดใหญ่ แล้วแตกออกเป็นระลอกเยอะแยะไปหมดเลย