00:00:00 → 00:00:02 ใครที่เป็นแฟน Top to เนี่ยน่าจะเริ่ม
00:00:02 → 00:00:05 คุ้นเคยกับคำว่า prebiotic probiotics
00:00:06 → 00:00:09 นะครับว่ามันสำคัญกับสุขภาพของลำไส้และ
00:00:09 → 00:00:12 ช่วงเเราก็จะเริ่มเห็นคำ 2 คำนี้นะครับใน
00:00:12 → 00:00:15 ตลาดที่เกี่ยวข้องกับอาหารอาหารสุขภาพ
00:00:15 → 00:00:17 อาหารเสริฟเนี่ยเยอะมากขึ้นนะครับแต่หลัง
00:00:18 → 00:00:20 ๆเนี่ยนอกจากคำว่า PR และ probiotics
00:00:20 → 00:00:24 เนี่ยหลายๆคนน่าจะเริ่มเห็นอีก 1 คำที่คน
00:00:24 → 00:00:27 เอามาใช้ในการตลาดขายพวกอาหารสุขภาพนั่น
00:00:27 → 00:00:30 คือคำว่า Post by
00:00:30 → 00:00:33 นะครับว่าโอ๊ย po biotic เนี่ยมันกิน
00:00:33 → 00:00:35 เข้าไปแล้วเนี่ยมันก็ช่วยเรื่องของสุขภาพ
00:00:35 → 00:00:39 ลำไส้หรือมันยังช่วยส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ
00:00:39 → 00:00:41 ครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ immune ระบบ
00:00:41 → 00:00:43 ภูมิคุ้มกันหรือว่าระบบทางเดินหายใจของ
00:00:43 → 00:00:45 เราด้วยแล้วทีนี้เจ้า Post biotics
00:00:45 → 00:00:48 เนี่ยมันคืออะไรมันดีจริงไหมแล้วเราควรจะ
00:00:48 → 00:00:51 กินมันหรือเปล่าวันนี้ Top to มาเล่าให้
00:00:51 → 00:00:54 ฟังครับ This is the Standard podcast
00:00:54 → 00:00:56 Eye Opening for your
00:00:56 → 00:01:00 ears Top To To podcast ภาพที่ใช้
00:01:00 → 00:01:04 วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:01:04 → 00:01:08 เท้าถ้าให้สรุปง่ายๆเร็วๆเลยนะครับว่าไอ้
00:01:08 → 00:01:11 เจ้าโส biotic เนี่ยมันคืออะไร tic เนี่ย
00:01:11 → 00:01:13 มันคือแบคทีเรียตัวดีที่เราต้องกินใช่ป่ะ
00:01:13 → 00:01:15 prebiotic มันคืออาหารของไอ้เจ้า
00:01:15 → 00:01:18 แบคทีเรียตัวนั้นส่วนไอ้เจ้า Post
00:01:18 → 00:01:21 biotics เนี่ยมันคืออึของแบคทีเรียตัว
00:01:21 → 00:01:24 นั้นนั่นแหละที่เราควรจะกินเข้าไปครับผม
00:01:24 → 00:01:27 เปรียบเทียบโส biic มันคืออึของแบคทีเรีย
00:01:27 → 00:01:30 เนี่ยไม่ได้หมายความว่าโหมันเป็นอึอึฟัง
00:01:30 → 00:01:32 ดูไม่ดีเลยเป็นของสกปรกแล้วมันจะมี
00:01:32 → 00:01:34 ประโยชน์กับร่างกายได้ยังไงนะครับผมแค่
00:01:34 → 00:01:36 กำลังจะเปรียบเทียบว่าเจ้า Post biotics
00:01:36 → 00:01:40 เนี่ยมันคือสารที่ได้จากการย่อยอาหารของ
00:01:40 → 00:01:43 แบคทีเรียนั่นเองนะครับเมื่อแบคทีเรียกิน
00:01:43 → 00:01:46 อาหารเข้าไปแล้วเนี่ยมันย่อยออกมาปึ๊บมัน
00:01:46 → 00:01:49 ก็ได้สารต่างๆออกมาเยอะแยะมากมายนะครับ
00:01:49 → 00:01:51 แล้วสารเหล่านั้นเนี่ยมันก็สามารถที่จะ
00:01:51 → 00:01:54 ถูกขับออกมาจากตัวแบคทีเรียแล้วพอมันอยู่
00:01:54 → 00:01:56 ในร่างกายของเราเนี่ยมันก็สามารถที่จะทำ
00:01:56 → 00:02:00 ประโยชน์แล้วก็ส่งผลดีกับสุขภาพของเราได้
00:02:00 → 00:02:02 ผมก็เลยเปรียบเทียบมันเป็นเหมือนกับอึของ
00:02:02 → 00:02:05 แบคทีเรียนั่นเองนะฮะถ้าในทางวิชาการ
00:02:05 → 00:02:07 เนี่ยครับเราก็จะเจอว่าจริงๆแล้วคนก็จะ
00:02:07 → 00:02:10 อธิบาย Post biotic มันคือ metabolite
00:02:10 → 00:02:14 ที่เกิดขึ้นจากเจ้า pric หรือบางทีก็จะ
00:02:14 → 00:02:17 อธิบายว่ามันคือ bioactive compound ที่
00:02:17 → 00:02:20 เกิดขึ้นในตัวแบคทีเรียไม่ว่าจะใช้คำว่า
00:02:20 → 00:02:22 อะไรจริงๆแล้วมันก็คือสารที่เกิดขึ้นจาก
00:02:22 → 00:02:24 การย่อยอาหารนั่นแหละแบคทีเรียมันกินอะไร
00:02:24 → 00:02:26 ไปมันย่อยออกมามันก็ได้เป็นสารที่ดีมี
00:02:26 → 00:02:30 ประโยชน์ซึ่งเขาเรียกรวมๆว่า post bi
00:02:30 → 00:02:32 นั่นเองครับทีนี้ถามว่าโส biotic เนี่ย
00:02:32 → 00:02:34 มันมันเริ่มบูมแล้วเดี๋ยวมันจะบูมอีกเยอะ
00:02:34 → 00:02:38 มากเลยในอนาคตได้ยังไงนะครับคือที่มาที่
00:02:38 → 00:02:40 ไปมันเป็นแบบนี้ครับนักวิทยาศาสตร์เนี่ย
00:02:40 → 00:02:42 เริ่มค้นพบเนาะตั้งแต่ตัวแบคทีเรียและ
00:02:42 → 00:02:46 เจ้าตัวโอติกว่าการที่เรากินแบคทีเรียตัว
00:02:46 → 00:02:48 ดีเข้าไปแล้วให้มันไปสร้างหมู่บ้านไป
00:02:48 → 00:02:51 สร้างสังคมดีๆภายในร่างกายของเราเนี่ยมัน
00:02:51 → 00:02:55 ทำให้สุขภาพเราดีเนาะพอคิดตามเนี่ยการที่
00:02:55 → 00:02:57 มีแบคทีเรียตัวดีเยอะเนี่ยมันจะช่วยให้
00:02:57 → 00:02:59 ร่างกายเราดีได้ยังไงอ่ะแสดงว่าไม่แน่
00:02:59 → 00:03:01 เนี่ยนะไอ้เจ้าแบคทีเรียเหล่านั้นเนี่ย
00:03:01 → 00:03:04 มันน่าจะต้องสร้างสารอะไรสักอย่างนึงแน่
00:03:04 → 00:03:06 เลยอ่ะที่มันมีประโยชน์กับร่างกายครับนัก
00:03:06 → 00:03:09 วิทยาศาสตร์เนี่ยพอเขาตั้งสมมุติฐานแบบ
00:03:09 → 00:03:12 นั้นเคก็เริ่มสำรวจแล้วก็เริ่มศึกษาแล้ว
00:03:12 → 00:03:15 ก็เจอว่าเออจริงด้วยฮะสารที่ไอ้เจ้า
00:03:15 → 00:03:18 แบคทีเรียเหล่านั้นเนี่ยมันสร้างแล้วมัน
00:03:18 → 00:03:21 ก็หลั่งออกมานอกร่างกายเนี่ยครับมันเป็น
00:03:21 → 00:03:23 สารที่มีประโยชน์จริงๆด้วยฮะแล้วเค้าก็
00:03:23 → 00:03:25 เริ่มไปศึกษาต่อว่าไอ้สารแต่ละตัวเนี่ย
00:03:25 → 00:03:27 มันมีประโยชน์ยังไงบ้างน่าแล้วก็เจอว่า
00:03:27 → 00:03:30 ไอ้เจ้าสารที่เรียกรวมๆว่าโพสต์ biic
00:03:30 → 00:03:32 เนี่ยมันมีคุณสมบัติดีๆหลายอย่างเลยนะ
00:03:32 → 00:03:34 ครับไม่ว่าจะเป็นแอนตี้แบคทีเรียหรือว่า
00:03:34 → 00:03:36 มีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียตัวไม่ดีนะครับ
00:03:36 → 00:03:40 แอนตี้ virus anty cancer
00:03:40 → 00:03:42 antibiotics นะครับหรือว่าช่วยในเรื่อง
00:03:42 → 00:03:45 ของอิมมูนหรือว่าระบบภูมิคุ้มกันช่วย
00:03:45 → 00:03:47 Boost ให้มันดีมากยิ่งขึ้นนะฮะก็ต้องบอก
00:03:47 → 00:03:50 ว่าสารเหล่านี้ครับมันมีเยอะมากหลายชนิด
00:03:50 → 00:03:53 หลายประเภทหลายรูปแบบเลยนะครับทีนี้ทุกคน
00:03:53 → 00:03:55 ลองคิดดูครับแบคทีเรียตัวเดียวเนี่ยนะ
00:03:55 → 00:03:59 ครับมันก็กินอาหารหลายอย่างเนาะอาหารคนละ
00:03:59 → 00:04:02 ชนิดนิดแต่เป็นแบคทีเรียตัวเดียวกันย่อย
00:04:02 → 00:04:05 เนี่ยสารที่มันสร้างก็มีหลากหลายขึ้นอยู่
00:04:06 → 00:04:10 กับของที่มันกินถูกมอาหารชนิดเดียวกันกิน
00:04:10 → 00:04:13 โดยแบคทีเรียคนละชนิดกระบวนการย่อยเกิด
00:04:13 → 00:04:17 ขึ้นภายในร่างกายของมันก็อาจจะได้สารคนละ
00:04:17 → 00:04:19 ตัวที่ออกฤทธิ์ไม่เหมือนกันก็ได้เพราะ
00:04:19 → 00:04:22 ฉะนั้นลองคิดดูสิว่ามีแบคทีเรียกี่ร้อย
00:04:22 → 00:04:25 ตัวมีอาหารกี่ร้อยอย่างที่สามารถจะมาจับ
00:04:25 → 00:04:28 เข้าคู่กันแล้วเกิดเป็นสารดีๆเต็มไปหมด
00:04:28 → 00:04:31 เลยเยอะแยะเต็มไปหมดนะครับแล้วศารกลุ่ม
00:04:31 → 00:04:33 นั้นเนี่ยมันคือ Post biotics เพราะ
00:04:33 → 00:04:36 ฉะนั้นเราจะมี Post biotic ที่มี
00:04:36 → 00:04:38 potential ที่น่าจะดีกับสุขภาพของเรา
00:04:38 → 00:04:41 เนี่ยเยอะมากๆนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนัก
00:04:41 → 00:04:44 วิทยาศาสตร์เนี่ยเริ่มศึกษามันทีละตัว
00:04:44 → 00:04:46 ขึ้นอยู่กับว่านักนักวิทยาศาสตร์เนี่ยเขา
00:04:46 → 00:04:48 จะเลือกศึกษาตัวไหนเอาแบคทีเรียตัวไหนมา
00:04:48 → 00:04:50 กินอะไรแล้วก็ศึกษาดูว่ามันได้สารอะไร
00:04:50 → 00:04:53 แล้วารนั้นเนี่ยส่งผลกับร่างกายยังไงและ
00:04:53 → 00:04:55 ถ้าเริ่มมีข้อมูลมากขึ้นมากขึ้นนักการ
00:04:55 → 00:04:58 ตลาดนักธุรกิจเริ่มเห็นประโยชน์ก็จะหยิบ
00:04:58 → 00:05:02 เอาาเหล่านั้นเนี่ยมาสกัดแล้วก็ขายหรือ
00:05:02 → 00:05:04 ว่าเพิ่มเป็น ingredient ในการทำ
00:05:04 → 00:05:07 functional Food nutraceutical Food
00:05:07 → 00:05:10 แล้วก็มาขายให้กับพวกเรารับประทานนะครับ
00:05:10 → 00:05:12 เพราะฉะนั้นเจ้า Post bic เนี่ยมันเพิ่ง
00:05:12 → 00:05:15 เริ่มบูมก็จริงแต่ในอนาคตเนี่ยมันจะบูม
00:05:15 → 00:05:19 เผลอๆเนี่ยมันอาจจะบมกว่า probiotics ก็
00:05:19 → 00:05:21 ได้นะครับเพราะว่ามันมีข้อดีบางอย่างที่
00:05:21 → 00:05:24 ทำให้กระบวนการผลิตเนี่ยมันง่ายกว่า
00:05:24 → 00:05:27 เสถียรกว่าโงตัวกว่าแล้วก็ส่งขายแบบ Mass
00:05:27 → 00:05:30 Production ไปตลาดใหญ่ๆเนี่ยได้ง่ายกว่า
00:05:30 → 00:05:33 บิด้วยซ้ำไปนะครับย้อมมานิดนึงว่าอย่าง
00:05:33 → 00:05:35 ที่บอกไปว่า Post biotic เนี่ยมันมีหลาก
00:05:35 → 00:05:38 หลายน่าจะพอเห็นภาพมันมีหลายรูปแบบหลาย
00:05:38 → 00:05:41 ฟอร์มมากๆนะครับถามว่ามันมีอยู่ในฟอร์ม
00:05:41 → 00:05:44 อะไรได้บ้างนะครับ Vitamin เนี่ยก็จัด
00:05:44 → 00:05:46 เป็น Post biotic ได้นะเพราะว่าวิตามิน
00:05:46 → 00:05:49 บางตัวมันเกิดจากการที่แบคทีเรียมันย่อย
00:05:49 → 00:05:51 อาหารบางอย่างนะครับอย่างเช่นวิตามิน B12
00:05:51 → 00:05:55 วิตามิน K Fate นะครับ SH chain fatty
00:05:55 → 00:05:58 Acid หรือว่ากรดไขมันสายสั้นๆก็เป็นอีก
00:05:58 → 00:06:00 หนึ่งกลุ่มของโส biotic ได้ได้นะครับ
00:06:00 → 00:06:04 เอนไซมต่างๆที่อยู่ในแบคทีเรียก็เป็นโสปิ
00:06:04 → 00:06:07 ได้เช่นกันโปรตีนกดอะมิโนแอซิด
00:06:07 → 00:06:09 คาร์โบไฮเดรตคาร์โบไฮเดรตที่มกไขมันที่
00:06:09 → 00:06:13 เรียกว่าลิโปพิคาดก็เป็น Post biotic
00:06:13 → 00:06:15 ได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเราไม่สามารถที่จะมา
00:06:15 → 00:06:19 นั่งไล่โิได้เลยครับว่ามันมีอะไรบ้างแต่
00:06:19 → 00:06:21 ละตัวเป็นฟอร์มไหนต้องบอกว่าหลากหลาย
00:06:21 → 00:06:23 กลุ่มมากเหมือนกับอาหารของคนน่ะโปรตีนไข
00:06:23 → 00:06:26 มันคาร์โบไฮเดรตนี่คืออาหารหลักของคนเนาะ
00:06:26 → 00:06:28 เพรางั้นโพสบอิก็เหมือนกันมันก็เนี่ย
00:06:28 → 00:06:31 โปรตีนคาร์โบไฮเดรตไขมันวิตามินแทบจะทุก
00:06:31 → 00:06:34 อย่างนี่แหละก็จัดรวมเป็น Post biotic
00:06:34 → 00:06:37 ได้แค่มันเกิดขึ้นในตัวแบคทีเรียหลังจาก
00:06:37 → 00:06:40 ที่มันกินอาหารเข้าไปนั่นเองครับแต่ก็มี
00:06:40 → 00:06:42 บางตัวที่ผมพอจะยกตัวอย่างได้เพราะเป็น
00:06:42 → 00:06:45 ตัวที่เริ่มมีการทำการตลาดค่อนข้างเยอะใน
00:06:45 → 00:06:59 ไทยก็มีนะครับตัวนึงคือ urin นะครับ
00:06:59 → 00:07:01 ช่วยลดการอักเสบในกระเพาะอาหารลดการ
00:07:01 → 00:07:04 อักเสบในลำไส้ก็คือทำให้ระบบทางเดินอาหาร
00:07:04 → 00:07:06 ตลอด G Track ของเราเนี่ยตั้งแต่กระเพาะ
00:07:06 → 00:07:10 ลำไส้เนี่ยครับมันค่อนข้างมีสุขภาพที่ดี
00:07:10 → 00:07:12 แล้วก็แข็งแรงมากยิ่งขึ้นแล้วก็เสี่ยงต่อ
00:07:12 → 00:07:15 การอักเสบลดน้อยลงถามว่าไอ้เจ้าสารตัว
00:07:15 → 00:07:18 เนี้ยมันได้มาจากไหนมันได้มาจากการที่
00:07:18 → 00:07:21 แบคทีเรียเนี่ยมันย่อยวอนัทนั่นเองถ้าเรา
00:07:21 → 00:07:24 กินวอนัทเข้าไปแล้วในร่างกายของเราเนี่ย
00:07:24 → 00:07:26 มีแบคทีเรียตัวดีที่มันสามารถที่จะย่อย
00:07:26 → 00:07:29 วอนัหรือชอบกินวอนัเป็นอาหารเครับมันก็ก็
00:07:29 → 00:07:32 จะสร้างไอ้เจ้า urin ให้กับร่างกายของเรา
00:07:32 → 00:07:35 แล้วเราก็จะได้สารที่มีฤทธิเป็น Anti
00:07:35 → 00:07:37 inflammatory แล้วก็ลดการอักเสบใน
00:07:37 → 00:07:40 กระเพาะอาหารลำไส้ของเราไปในตัวด้วยอีก
00:07:40 → 00:07:43 ตัวนึงที่เริ่มมีการทำงานตลาดเยอะก็คือ
00:07:43 → 00:07:46 beyc Acid นะครับมันเป็นกดไขมันสายสั้น
00:07:46 → 00:07:48 ๆเรียกว่า Short chain fatty Acid นะ
00:07:48 → 00:07:51 ครับไอ้เจ้า urc Acid เนี่ยมันมี
00:07:51 → 00:07:54 คุณสมบัติในการ Boost immune System ก็
00:07:54 → 00:07:57 คือ Boost ระบบภูมิคุ้มกันของเรานะครับก็
00:07:57 → 00:08:00 ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราดีขึ้นโดยเฉพาะ
00:08:00 → 00:08:03 บริเวณลำไส้ใหญ่จริงๆต้องบอกว่าลำไส้ใหญ่
00:08:03 → 00:08:06 ของเราเนี่ยเป็นจุดที่จะมีจุลินทรีย์เยอะ
00:08:06 → 00:08:08 มากเลยนะครับแล้วถ้าเกิดว่าเป็นผิวหนัง
00:08:08 → 00:08:10 ของลำไส้ใหญ่นี่มันไม่แข็งแรงเนี่ยมี
00:08:10 → 00:08:12 โอกาสเยอะมากเลยที่จุลินทรีย์ตัวที่ไม่
00:08:12 → 00:08:15 ค่อยดีเนี่ยมันสามารถจะทะลุทะลวงเข้าไป
00:08:15 → 00:08:18 ยังเส้นเลือดแล้วก็วิ่งไปทั่วร่างกายได้
00:08:18 → 00:08:21 เพราะฉะนั้นผิวของลำไส้ใหญ่เนี่ยจำเป็น
00:08:21 → 00:08:23 ต้องมีความแข็งแรงแล้วสามารถที่จะบล็อก
00:08:23 → 00:08:25 แล้วก็ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียตัวไม่ดี
00:08:25 → 00:08:27 หรือว่าจุอินทรีย์ตัวไม่ดีเนี่ยวิ่งเข้า
00:08:27 → 00:08:30 ไปในกระแสเลือดไอ้เจ้า bic เนี่ยก็ไปช่วย
00:08:30 → 00:08:32 เสริมเป็นเหมือนกับเสริมด่านประการของผิว
00:08:32 → 00:08:35 ลำไส้ใหญ่ของเราให้มันมีความแข็งแรงมาก
00:08:35 → 00:08:38 ยิ่งขึ้นเป็นการบูสระบบภูมิคุ้มกันของเรา
00:08:38 → 00:08:40 เพื่อป้องกันจุลินทรีย์ตัวไม่ดีวิ่งเข้า
00:08:40 → 00:08:42 กระแสเลือดได้นะครับแล้วนั่นคือ 2 ตัว
00:08:42 → 00:08:44 อย่างที่ผมยกตัวอย่างมานะว่าเป็น 2 ตัว
00:08:44 → 00:08:46 อย่างของ Post biotic ซึ่งจริงๆแล้ว
00:08:46 → 00:08:49 เนี่ยมันจะมีเป็นพันเป็นหมื่นสารเลยนะ
00:08:49 → 00:08:51 ครับที่เกิดขึ้นจากการย่อยอาหารของ
00:08:51 → 00:08:54 แบคทีเรียขึ้นอยู่กับว่านักวิจัยเนี่ยเขา
00:08:54 → 00:08:57 จะศึกษาตัวไหนแล้วก็มีคนเอาสารตัวไหน
00:08:57 → 00:08:59 เนี่ยมาใช้ประโยชน์ในอนาคตเนี่ยมันก็จะมี
00:08:59 → 00:09:02 การ Screen หรือก็การศึกษา Post biotic
00:09:02 → 00:09:05 มากขึ้นมากขึ้นแล้วก็จะออกมาเป็น produc
00:09:05 → 00:09:08 มากขึ้นมากขึ้นนั่นเองนะครับซึ่งเราอาจจะ
00:09:08 → 00:09:10 ไม่ต้องรู้แล้วก็ไม่ต้องจำทั้งหมดหรอกรู้
00:09:10 → 00:09:13 หลักการก็พอว่า Post biotics มันคืออะไร
00:09:13 → 00:09:16 และมันมีประโยชน์กับร่างกายนะสิ่งที่เรา
00:09:16 → 00:09:20 ควรจะรู้มากกว่านะครับว่าเอ้อในฐานะผู้
00:09:20 → 00:09:24 บริโภคของเราเนี่ยเราควรจะกินมหรือควรจะ
00:09:24 → 00:09:27 กินในรูปแบบไหนมากกว่านะครับทีนี้เล่าให้
00:09:27 → 00:09:30 ฟังนิดนึงแล้วกันว่าเมื่อกี้เกริ่นไปเนาะ
00:09:30 → 00:09:34 ว่า Post biotics เนี่ยมันมีข้อดีบาง
00:09:34 → 00:09:37 อย่างที่อาจจะเหนือกว่า probiotic แล้วก็
00:09:37 → 00:09:40 prebiotic นะครับ probiotic เนี่ยมันคือ
00:09:40 → 00:09:42 แบคทีเรียตัวดีโดยหลักการแล้วการกิน
00:09:42 → 00:09:44 แบคทีเรียตัวดีเข้าไปในร่างกายเนี่ยมัน
00:09:44 → 00:09:48 ควรจะส่งผลดีมากกว่าส่งผลเสียแต่ในบางคน
00:09:48 → 00:09:51 เนี่ยที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง
00:09:51 → 00:09:54 เนาะมีภูมิคุ้มกันบกพร่องบางอย่างการที่
00:09:54 → 00:09:57 เรารับเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปต่อให้มันจะ
00:09:57 → 00:10:00 เป็นตัวดีก็เหอะมันอาจจะส่งผลผลเสียกับ
00:10:00 → 00:10:02 ตัวร่างกายของเราได้ง่ายๆก็เหมือนเราแพ้
00:10:02 → 00:10:05 นะครับเช่นกัน prebiotic นะครับหรือว่า
00:10:05 → 00:10:08 อาหารของ probiotic ซึ่งส่วนใหญ่มักจะ
00:10:08 → 00:10:10 เป็นพวกผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์เยอะๆนะครับ
00:10:11 → 00:10:13 โดยหลักการเนี่ยเราก็ทุกคนควรจะกินเข้าไป
00:10:13 → 00:10:16 ได้และมันควรจะปลอดภัยแต่มันก็มีอาหารบาง
00:10:16 → 00:10:19 อย่างที่ร่างกายบางคนแพ้ยกตัวอย่างเช่น
00:10:19 → 00:10:22 บางคนแพ้ถั่วอย่าเงี้ยครับเมื่อกี้บอกไป
00:10:22 → 00:10:24 วนัเนาะกินเข้าไปแล้วอุ้ยมันกินเข้าไป
00:10:24 → 00:10:26 แล้วแบคทีเรียย่อยได้สารดีๆอยากกินบ้าง
00:10:26 → 00:10:31 จังเลยแต่แพ้วอนัทน่ะทำยังไงอ่ะงั้นเนี่ย
00:10:31 → 00:10:34 คือแปที่ทำให้ PR biotic เนี่ยมาช่วย
00:10:34 → 00:10:37 เติมเต็มได้ครับในบางคนที่แพ้แบคทีเรีย
00:10:38 → 00:10:40 บางตัวหรือว่าแพ้อาหารบางกลุ่มเนี่ยครับ
00:10:40 → 00:10:43 ไม่มีทางที่จะได้โพสบติกตัวนั้นเพราะ
00:10:43 → 00:10:45 ฉะนั้นอุตสาหกรรมหรือว่าบริษัทบางอย่าง
00:10:45 → 00:10:48 เริ่มเห็นประโยชน์ตรงนี้นะครับว่าเอองั้น
00:10:48 → 00:10:51 เราเอาแบคทีเรียมาเลี้ยงให้อาหารที่เหมาะ
00:10:52 → 00:10:54 สมมันกินแล้วก็สกัดเอาเฉพาะโพส biic
00:10:54 → 00:10:57 เนี่ยมาทำให้มันเข้มข้นแล้วก็ใส่เข้าไป
00:10:57 → 00:10:59 เพิ่มในอาหารบางอย่างหรืออัดเอามาเป็น
00:10:59 → 00:11:03 แคปซูลเพื่อให้คนเนี่ยกินแล้วก็ได้ไอ้ตัว
00:11:03 → 00:11:06 ingredient ที่เป็นโพส biic เลยตรงๆ
00:11:06 → 00:11:08 เนี่ยเพื่อให้ได้ประโยชน์เนี่ยก็มีข้อดี
00:11:08 → 00:11:10 เหมือนกันเป็นการ Short Cut นะครับหรือ
00:11:10 → 00:11:13 บางครั้งเนี่ยก็จะทำให้ได้สารอาหารนั้นใน
00:11:13 → 00:11:15 ปริมาณที่เยอะขึ้นแล้วก็เป็นประโยชน์กับ
00:11:15 → 00:11:18 ร่างกายตอบโจทย์หลายๆคนจึงเป็นที่มาที่ทำ
00:11:18 → 00:11:20 ให้เกิด Industry ด้าน Post biotics
00:11:20 → 00:11:22 เกิดขึ้นแล้วมันจะมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:11:22 → 00:11:25 นะครับสิ่งที่ประชาชนอย่างเราควรจะรู้คือ
00:11:25 → 00:11:28 โดยหลักการเนี่ย Post biotics มันเซฟ
00:11:28 → 00:11:30 แล้วก็ควรจะเซฟกว่าการกินบิแล้วก็
00:11:30 → 00:11:33 prebiotic เพราะโอกาสที่เราจะแพ้เนี่ย
00:11:33 → 00:11:35 น่าจะน้อยกว่าแต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าจะ
00:11:35 → 00:11:38 ไม่มีสิทธิ์แพ้เลยนะครับแต่โดยหลักการควร
00:11:38 → 00:11:42 จะเซฟถ้ามาจากการผลิตที่มีมาตรฐานแล้วก็
00:11:42 → 00:11:44 สะอาดแล้วก็ได้รับการรับรองนะครับนั่นคือ
00:11:44 → 00:11:47 ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ที่เราควรจะรู้นะครับ
00:11:47 → 00:11:50 ถึงแม้ว่าโพส bic จะมีการศึกษาในระดับ
00:11:50 → 00:11:53 ห้องแลบมีงานวิจัยมาสักพักนึงแล้วแต่การ
00:11:53 → 00:11:55 พัฒนามาเป็นระดับอุตสาหกรรมเนี่ยถือว่า
00:11:55 → 00:11:58 ค่อนข้างใหม่นะครับเพราะฉะนั้นเรื่องของ
00:11:58 → 00:12:02 กฎหมายบางทีตามไม่ทันนะครับเรื่องของมี
00:12:03 → 00:12:06 องค์กรมาตรวจสอบมาเช็คคุณภาพการผลิต
00:12:06 → 00:12:08 สินค้าเหล่าเนี้ยก็ยังไม่ได้เยอะมากเพราะ
00:12:08 → 00:12:10 ฉะนั้นผลิตภัณฑ์เริ่มออกวางจำหน่ายแล้ว
00:12:10 → 00:12:13 แต่ว่ามันมีคนมอนิเตอร์เนี่ยค่อนข้างน้อย
00:12:13 → 00:12:15 นะครับผู้บริโภคอย่างเราเนี่ยก็ได้แต่
00:12:15 → 00:12:18 หวังใจว่าผู้ผลิตเนี่ยเขาคก็จะผลิตออกมา
00:12:18 → 00:12:21 แบบมาตรฐานสะอาดปลอดภัยกับเราเป็นสิ่งที่
00:12:21 → 00:12:23 เรามองไม่เห็นน่ะเนาะเพราะฉะนั้นสิ่งที่
00:12:23 → 00:12:26 เราพอจะทำได้นะครับคือโอเคอ่านเลเวลบ้าง
00:12:26 → 00:12:30 เค้าเคลมว่าอ๋อมันอาหารนเนี้ยเาใส่โพสต
00:12:30 → 00:12:33 บาติตัวเนี้ยไปทำความเข้าใจว่ามันคืออะไร
00:12:33 → 00:12:35 มันมีประโยชน์ยังไงแล้วมันตอบโจทย์ในสิ่ง
00:12:35 → 00:12:37 ที่ร่างกายของเราต้องการหรือเปล่าและสิ่ง
00:12:37 → 00:12:39 ที่ควรจะดูถ้ามีโอกาสนะครับคือเข้าไปดู
00:12:39 → 00:12:42 ข้อมูลบริษัทเนิดนึงครับว่าเค้ามีองค์กร
00:12:42 → 00:12:45 Third Party มาตรวจสอบมว่าอาหารที่เขา
00:12:45 → 00:12:48 เคลมว่ามีโพสบิตัวเนี้ยมันมีจริงๆนะแล้ว
00:12:48 → 00:12:51 มีการทดสอบมั้ยว่าอาหารอันเนี้ยที่มีการ
00:12:51 → 00:12:54 ผสมโพสบิเข้าไปแล้วมีการทดลองว่าเฮ้ยมัน
00:12:54 → 00:12:58 ไปช่วยส่งเสริมอะไรบางอย่างสุขภาพของเรา
00:12:58 → 00:13:01 ตามที่เคเคมเต็มจริงนะนะครับถ้าเค้ามีข้อ
00:13:01 → 00:13:04 มูลเหล่านั้นยืนยันและมีการอัปเดตการทด
00:13:04 → 00:13:07 สอบนั้นเรื่อยๆเรื่อยๆไม่ใช่ว่าโอ้ขาย
00:13:07 → 00:13:09 เคลมมาตลอดเลยว่ามีการทดสอบแต่เมื่อ
00:13:09 → 00:13:13 ประมาณ 3 ปีที่แล้วปีล่าสุดไม่มีผลว่ามี
00:13:13 → 00:13:15 การทดสอบอย่างเงี้ยก็ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
00:13:15 → 00:13:17 เพราะทุกอย่างเป็นต้นทุนของผู้ผลิตนะครับ
00:13:17 → 00:13:20 ถ้าผู้ผลิตรายไหนที่มีความจริงใจกับผู้
00:13:20 → 00:13:23 บริโภคแล้วก็มีการแชร์ข้อมูลเหล่านี้แบบ
00:13:23 → 00:13:25 เปิดเผยแบบโปร่งใสเนี่ยครับก็จะสร้างความ
00:13:25 → 00:13:28 มั่นใจให้กับผู้บริโภคอย่างเราว่าอ้อมัน
00:13:28 → 00:13:32 มีบอิที่ดีอยู่จริงๆแล้วก็มันยัง Active
00:13:32 → 00:13:34 แล้วก็ถ้าเรากินเข้าไปแล้วมันน่าจะส่งผล
00:13:34 → 00:13:36 ดีกับร่างกายนี่คืออย่างที่ 2 ที่ผู้
00:13:36 → 00:13:39 บริโภคอย่างเราควรจะรู้อย่างที่ 3 ที่ผู้
00:13:39 → 00:13:42 บริโภคอย่างเราควรจะรู้นะครับก็คือมันไม่
00:13:42 → 00:13:46 มีโพส biic ตัวใดตัวนึงที่ดีที่สุดที่
00:13:46 → 00:13:50 เป็นฮีโร่ที่ตลอดปีตลอดชาติเราควรจะซื้อ
00:13:50 → 00:13:52 ไอ้ตัวนั้นมากินอย่างเดียวแล้วก็ไม่ต้อง
00:13:52 → 00:13:55 กินตัวอื่นคีย์ของมันที่จะได้รับประโยชน์
00:13:55 → 00:13:57 สูงสุดจากไม่ว่าจะทั้งการกิน PR Pro
00:13:57 → 00:13:59 หรือว่า Post biotic เนี่ยครับมันคือ
00:13:59 → 00:14:02 ความหลากหลายครับไม่ต่างจากที่เราทุกคน
00:14:02 → 00:14:04 พยายามบอกว่าเราควรจะกินอาหารให้ครบ 5
00:14:04 → 00:14:07 หมู่กินอาหารให้หลากหลายยิ่งเรากินอาหาร
00:14:07 → 00:14:10 หลากหลายกินโส biotic ที่หลากหลายเนี่ย
00:14:10 → 00:14:14 ครับร่างกายก็จะได้สารดีๆเข้าไปในร่างกาย
00:14:14 → 00:14:17 เยอะเพราะร่างกายเนี่ยโอ้โหการที่ร่างกาย
00:14:17 → 00:14:19 มันจะฟังก์ชันได้เนี่ยครับมันต้องใช้สาร
00:14:19 → 00:14:22 เยอะแยะเต็มไปหมดเลยครับมาร่วมกันทำให้
00:14:22 → 00:14:25 ร่างกายมีสุขภาพที่ดีเพราะฉะนั้นไม่มี
00:14:25 → 00:14:29 แชมเปี้ยนตัวเดียวกินให้หลากหลายนั่นคือ
00:14:29 → 00:14:32 ขี่นะครับอย่างที่ 4 ที่ควรจะรู้ครับเรา
00:14:32 → 00:14:36 ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกินโพส baltic
00:14:36 → 00:14:38 แบบที่เป็น supplement ที่บอกว่ากินแล้ว
00:14:38 → 00:14:42 มีตัวนี้เลยถ้าเกิดว่าคุณไม่มีตังค์ซื้อ
00:14:42 → 00:14:44 อาหารเสริมที่เป็นตัวโพส biotic เนี่ยถาม
00:14:44 → 00:14:47 ว่าเรายังจะได้โส biotic อยู่มยเราก็ยัง
00:14:47 → 00:14:51 จะได้อยู่ครับถ้าเกิดว่าคุณกิน probiotic
00:14:51 → 00:14:54 แล้วก็ prebiotic เข้าไปก็คือคุณกินของ
00:14:54 → 00:14:57 หมักดองอ่ะอาหารหมักดองไม่ว่าจะเป็นส้มตำ
00:14:57 → 00:15:01 ปลาร้ากินปลาร้าเนาะคุณไปกินอาหารเกาหลี
00:15:01 → 00:15:04 คุณกินกิมจิคุณกินอาหารญี่ปุ่นคุณกินมิโซ
00:15:04 → 00:15:07 คุณกินอ่ะขาหมูเยอรมันคุณกินซาวเคล้าอย่า
00:15:07 → 00:15:10 เงี้ยผักดองเนี่ยครับต่างๆเยกินโยเกิร์ต
00:15:10 → 00:15:13 อยู่แล้วสม่ำเสมอเท่านั้นยังไม่พอคุณยัง
00:15:13 → 00:15:16 กินผักผลไม้กินไฟเบอร์ต่างๆนะครับไม่ว่า
00:15:16 → 00:15:18 จะเป็นถั่วเป็นพืชผักใบเขียวกินกระเทียม
00:15:18 → 00:15:20 กินกล้วยกินแอปเปิลอะไรอย่าเงี้ยเข้าไป
00:15:20 → 00:15:22 เพื่อเป็นอาหารให้กับแบคทีเรียที่อยู่ใน
00:15:22 → 00:15:25 อาหารหมกดองของคุณพอเข้าไปปึ๊บแบคทีเรีย
00:15:25 → 00:15:28 เจออาหารพวกนี้กินๆๆแล้วมันย่อยย่อยเสร็จ
00:15:28 → 00:15:31 ก็มันก็จะเกิดโพส biic แล้วมันก็จะหลั่ง
00:15:31 → 00:15:34 โพส bic ออกมาในร่างกายของคุณคุณก็จะได้
00:15:34 → 00:15:37 โพส bic ดีๆอยู่ดีโดยที่ไม่มีความจำเป็น
00:15:37 → 00:15:39 ต้องไปซื้อมนที่เป็นโ biotic โดยเฉพาะมา
00:15:39 → 00:15:42 กินก็ได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่ารู้สึกว่า
00:15:42 → 00:15:45 โอ๊ยบางช่วงเราแบบไม่มีเวลาดูแลตัวเองนะ
00:15:45 → 00:15:48 บางทีเราไม่มั่นใจเลยว่าเรากินอาหารที่มี
00:15:48 → 00:15:51 พีกับโบติกเข้าไปพอหรือเปล่าแล้วเราอาจจะ
00:15:51 → 00:15:53 มีปัญหาสุขภาพบางอย่างแล้วเจอว่าเอ้ยมัน
00:15:53 → 00:15:56 มีโพส biic บางตัวที่มันมีประโยชน์ด้าน
00:15:56 → 00:15:59 สุขภาพนั้นที่สามารถจะมาช่วยส่งเับให้เรา
00:15:59 → 00:16:01 มีสุขภาพที่ดีขึ้นในเรื่องที่เราอ่อนแอ
00:16:01 → 00:16:04 เนี่ยก็สามารถที่จะพิจารณาเลือกที่จะกิน
00:16:04 → 00:16:07 บิที่ในรูปของ supplement หรือว่าอาหาร
00:16:07 → 00:16:10 เสริมได้ก็ไม่ผิดเช่นกันนะครับนั่นคือ
00:16:10 → 00:16:12 สิ่งที่ประชาชนอย่างเราควรรู้เกี่ยวกับ
00:16:12 → 00:16:15 Post biotics นั่นเองฮะนอกจาก Post
00:16:15 → 00:16:18 biotics เนี่ยหลังๆจะมีอีก 2 คำที่อยู่
00:16:18 → 00:16:20 ในตระกูล biotics นะครับเป็น Family นะก็
00:16:20 → 00:16:24 คือคำว่า Sin biotics กับคำว่า par
00:16:24 → 00:16:26 biotics นี้มาอีก 2 คำเริ่มงงแล้วมัน
00:16:26 → 00:16:29 เยอะไปหมดเลยนะครับถามว่ามันคืออะไรงั้น
00:16:29 → 00:16:31 เดี๋ยวเล่าให้ฟังแบบสรุปเลยเนาะ 5 ตัว
00:16:31 → 00:16:34 ตระกูล biotic นะครับ probiotics คือ
00:16:34 → 00:16:38 แบคทีเรียตัวดีที่มีชีวิตต้องมีชีวิตด้วย
00:16:38 → 00:16:40 นะกินเข้าไปอ่ะมันถึงจะมีประโยชน์นะครับ 2
00:16:40 → 00:16:45 คือ prebiotics คืออาหารของอีตัวโบติกคือ
00:16:45 → 00:16:47 อาหารของแบคทีเรียนี่แหละซึ่งถ้าเรากิน
00:16:47 → 00:16:49 ตัวใดตัวนึงอย่างเดียวมันไม่เกิดผลดีนะ
00:16:49 → 00:16:51 ครับกินแบคทีเรียอย่างเดียวมันไม่มีอาหาร
00:16:51 → 00:16:53 มันก็ตายกินอาหารอย่างเดียวแต่ไม่กิน
00:16:53 → 00:16:56 แบคทีเรียก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะฉะนั้น
00:16:56 → 00:16:59 ผู้ผลิตหลายๆคนเนี่ยเขาคก็เลยเอ้ยเอา
00:16:59 → 00:17:02 ชัวร์เทำแบบ 2 in one ให้เลยคือมีทั้ง
00:17:02 → 00:17:05 PR ผสมกับโปกินเข้าไปรับรองได้ประโยชน์
00:17:05 → 00:17:10 แน่ๆเขาก็จะเรียกมันว่า Sin biotic syn
00:17:10 → 00:17:12 Sin biotic มันคือ Two in One นั่น
00:17:12 → 00:17:15 เองคือเอาพีผสมกับ Pro นะครับตัวที่ 4
00:17:15 → 00:17:17 คือคำว่า Post bic ที่เราพูดไปที่ผม
00:17:17 → 00:17:20 เปรียบเทียบว่ามันคืออึของแบคทีเรียถ้า
00:17:20 → 00:17:25 คุณกินพี + โปคุณได้ Post biic แน่ๆหรือ
00:17:25 → 00:17:27 ถ้าคุณกิน in biotic มันมีทั้ง PR ทั้ง
00:17:27 → 00:17:31 Pro อยู่แล้วแน่นอนคุณก็จะได้โพสตไอติไป
00:17:31 → 00:17:35 ด้วยในตัว 4 คำแล้วนะคำสุดท้ายคือคำว่า
00:17:35 → 00:17:39 par biotic ครับพบิกเนี่ยถ้าให้แปลง่าย
00:17:39 → 00:17:42 ๆมันคือแบคทีเรียตัวดีนี่แหละที่มันมอง
00:17:42 → 00:17:45 เท่งแล้วบาบอกอ้าไหนบอกว่ากินแบคทีเรีย
00:17:45 → 00:17:49 ตัวดีต้องกินตอนที่มันมีชีวิตอยู่ถึงจะมี
00:17:49 → 00:17:51 ประโยชน์ใช่ครับถ้าเรากินแบคทีเรียตัวดี
00:17:51 → 00:17:53 แล้วมีชีวิตอยู่เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
00:17:53 → 00:17:57 มันจะไปเพิ่มลูกหลานแล้วก็สร้างระบบนิเวศ
00:17:57 → 00:17:59 สร้างหมู่บ้านสร้างสังคมที่มันดีๆให้เกิด
00:17:59 → 00:18:01 ขึ้นในร่างกายของเราแต่ก็ไม่ได้หมายความ
00:18:01 → 00:18:05 ว่าถ้าเรากินแบคทีเรียตัวดีที่มันตายแล้ว
00:18:05 → 00:18:07 หรือว่าถูกทำให้มัน inactive ผ่านกระบวน
00:18:07 → 00:18:10 การเช่นอาจจะโดนความร้อนการฉายรังสีอะไร
00:18:10 → 00:18:12 เงี้ยเข้าไปแล้วเนี่ยมันจะไม่ได้ประโยชน์
00:18:12 → 00:18:15 เลยแบคทีเรียที่มันถูกทำให้มัน inactive
00:18:15 → 00:18:17 หรือมันระเบิดตู้แล้วมันแตกละเอียดแล้วนะ
00:18:17 → 00:18:20 ครับสารบางอย่างที่มันประกอบรางมาเป็น
00:18:20 → 00:18:22 แบคทีเรียเนี่ยบางครั้งเนี่ยมันก็มี
00:18:22 → 00:18:25 ประโยชน์กับร่างกายเช่นกันนะครับลองนึก
00:18:25 → 00:18:29 ถึงวัคซีนครับวัคซีนเนี่ยมันก็จะคเสเนี่ย
00:18:29 → 00:18:32 มันก็อาจจะคล้ายๆกับวัคซีนนะครับเวลาที่
00:18:32 → 00:18:34 เราฉีดวัคซีนเนี่ยเราไม่ได้ฉีดเชื้อโรค
00:18:34 → 00:18:37 ที่มันมีความเข้มแข็งแข็งแรงเต็มที่เพราะ
00:18:37 → 00:18:39 มันอาจจะเสี่ยงเกินไปะอันตรายกับร่างกาย
00:18:39 → 00:18:42 ของเรานะครับแต่เราฉีดวัคซีนที่มันอ่อนแอ
00:18:43 → 00:18:44 ลงที่มัน Active น้อยลงแล้วทำให้มัน
00:18:44 → 00:18:47 inactive เข้าไปแล้วเนี่ยมันก็ยังมีสาร
00:18:47 → 00:18:50 บางอย่างที่สามารถจะ Boost ระบบภูมิคุ้ม
00:18:50 → 00:18:53 กันของเราให้มีการสร้างแิอได้เช่นกันครับ
00:18:53 → 00:18:55 การกินแบคทีเรียตัวดีที่มันอาจจะไม่
00:18:55 → 00:18:58 Active แล้วอาจจะเหลือแค่เศษส่วนชิ้นใด
00:18:58 → 00:19:01 แค่ผิวมันเนี่ยอยู่จิ๊นึงนะครับบางทีไอ้
00:19:01 → 00:19:03 จิ๊นึงของมันเนี่ยมันก็อาจจะไปทริกเกอร์
00:19:03 → 00:19:06 หรือว่าไปเปิดสวิตชหรืออะไรบางอย่างที่ทำ
00:19:06 → 00:19:08 ให้เกิดผลดีกับร่างกายของเราได้นะครับ
00:19:08 → 00:19:10 แล้วก็อาจจะตอบโจทย์กับคนที่อาจจะ
00:19:10 → 00:19:12 sensitive กับแบคทีเรียที่ยังมีชีวิต
00:19:12 → 00:19:14 อยู่นะครับก็ยังพอจะได้ประโยชน์กับชิ้น
00:19:14 → 00:19:17 ส่วนหรือซากของแบคทีเรียที่มันตายแล้ว
00:19:17 → 00:19:19 เพราะฉะนั้นพารา biotic เนี่ยก็มีการ
00:19:19 → 00:19:22 ศึกษาในงานวิจัยเยอะแล้วก็เริ่มทยอยยอย
00:19:22 → 00:19:24 ออกมาเป็น produc ให้กับผู้บริโภคอย่าง
00:19:24 → 00:19:27 เราได้ซื้อกินเช่นกันครับหวังว่าต่อจาก
00:19:27 → 00:19:30 นี้นะครับเวลาที่ทุกคนเจอเจอคำว่า biotics
00:19:30 → 00:19:33 ไม่ว่าคำข้างหน้ามันจะเป็นคำว่าอะไรเนี่ย
00:19:33 → 00:19:36 ให้รู้ไว้ก่อนว่า biotics ไม่ว่าจะเป็น
00:19:36 → 00:19:39 prose พาราหรือซิเนี่ยครับมันเป็นสิ่ง
00:19:39 → 00:19:42 ที่ปลอดภัยกับร่างกายกินเข้าไปแล้วเนี่ย
00:19:42 → 00:19:44 ส่งผลดีกับร่างกายอย่างน้อยคือเรื่องของ
00:19:44 → 00:19:47 ลำไส้เรื่องของระบบอิมมูนและอย่างอื่นอีก
00:19:47 → 00:19:50 เยอะแยะตามมาไปหมดนะครับแล้วถ้าเจาะไปที่
00:19:50 → 00:19:53 Post biotics เนี่ยครับจำง่ายๆมันคืออึ
00:19:53 → 00:19:55 ของแบคทีเรียแต่เป็นอึที่มีประโยชน์นะ
00:19:55 → 00:19:58 ครับหลักการในการกินของมันเครับคือการกิน
00:19:58 → 00:20:02 ให้หลากหลายและถ้าเกิดว่าเรากิน pric กับ
00:20:02 → 00:20:06 บิอยู่แล้วผ่านการกินของหมากดองและผ่าน
00:20:06 → 00:20:09 การกินพวกผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์เยอะๆยังไง
00:20:09 → 00:20:12 คุณก็ได้โพส biotics อยู่แล้วเป็นของแถม
00:20:12 → 00:20:15 นะครับแล้วถ้าเกิดว่าคิดจะซื้อโพส bic
00:20:15 → 00:20:18 ที่เป็นอาหารเสริมนะครับก็แนะนำให้ไปหา
00:20:18 → 00:20:20 ข้อมูลการผลิตด้วยนะครับว่ากระบวนการผลิต
00:20:20 → 00:20:23 เนี่ยมีองค์กร Third Party มารับรองหรือ
00:20:23 → 00:20:26 เปล่าว่ามันมีสารสำคัญำคัญนั้นจริงๆแล้ว
00:20:26 → 00:20:29 ก็มีการทดสอบว่าอาหารเสริมตัวนั้นเนี่ย
00:20:29 → 00:20:31 กินเข้าไปแล้วมันส่งผลดีกับร่างกายจริงๆ
00:20:31 → 00:20:34 ก็จะทำให้คุณเนี่ยได้ประโยชน์คุ้มค่ากับ
00:20:34 → 00:20:36 เงินที่เสียไปแล้วก็ปลอดภัยกับร่างกายคุณ
00:20:36 → 00:20:38 ด้วย
00:20:38 → 00:20:41 ครับ Top to Toe The Standard
00:20:41 → 00:20:46 podcast Eye Opening for your ears