00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้

00:00:03 → 00:00:05 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่

00:00:05 → 00:00:09 >> ใจบางสิ่งบางอย่างนะในเรื่องของวิชา Low

00:00:09 → 00:00:13 C high Fat นี่ก่อนนะฮะนะคำว่า Energy

00:00:13 → 00:00:16 เราจะหมายถึงคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมัน

00:00:16 → 00:00:17 นะอ่า

00:00:17 → 00:00:18 >> ครับผม

00:00:18 → 00:00:20 >> Balance enery inบาalanceอะไรอย่าง

00:00:20 → 00:00:23 เงี้ยก็คืออ่าคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน

00:00:23 → 00:00:27 เนี่ยพอไม่พอมากน้อยขาดเกินนะฮะนิวตีนเ

00:00:27 → 00:00:30 เราจะหมายถึงโปรตีนกับแฟแฟชนะที่จะนำไป

00:00:30 → 00:00:33 เป็นโครงสร้างนะฮะนะซึ่งแฟชอันนี้ส่วน

00:00:33 → 00:00:37 ใหญ่จะมีแค่ประมาณ 20% นะ

00:00:37 → 00:00:38 >> อ่าครับผม

00:00:38 → 00:00:41 >> ไม่ใช่แฟชอันนี้ถ้าแฟชที่เป็นไalanceนี่

00:00:41 → 00:00:46 ก็ 60-80% นะฮะ

00:00:46 → 00:00:50 แล้วตัวแคลอี่อ่าแคลอรี่เนี่ยนะก็คือ

00:00:50 → 00:00:53 คาร์โบไฮเดรตกับแฟต

00:00:53 → 00:00:57 ทีนี้พลังงานจากอาหารในส่วนที่เป็น

00:00:57 → 00:01:02 แคลอรี่ก็คือคาร์โบไฮเดรตกับแฟนะ

00:01:02 → 00:01:07 ร่างกายจะมีแอtionันะโดยถ้าเห็นเมื่อไหร่

00:01:07 → 00:01:11 เขาจะเกิดปฏิกิริยาการสลายเผาผลาญ

00:01:11 → 00:01:14 เอาไปให้เซลล์ใช้อ่ะนะฮะคือมี

00:01:14 → 00:01:18 คาร์โบไฮเดรตมีแฟชเข้าร่างเมื่อไหร่นะใน

00:01:18 → 00:01:21 ช่องทางไหนก็แล้วแต่นะจะเป็นน้ำเหลือง

00:01:21 → 00:01:22 หรือเป็นเลือดเนี่ย

00:01:22 → 00:01:22 >> ครับผม

00:01:22 → 00:01:27 >> ถ้าขณะนั้นน่ะร่างกายนะ

00:01:27 → 00:01:30 >> จะเอาไปทำอะไรก็จะเอาไปเผาผลาญนะแล้วไป

00:01:30 → 00:01:32 ใช้งานนะฮะ

00:01:32 → 00:01:32 >> อื

00:01:32 → 00:01:36 >> แต่ถ้าร่างกายไม่ต้องการนะจะนำไปใช้งานนะ

00:01:36 → 00:01:40 ฮะอ่าเราก็จะถือว่าคาร์โบไฮเดรตกับแฟที่

00:01:40 → 00:01:44 เป็นแคลอรี่เนี่ยมันเป็นสิ่งที่ล้นเกินนะ

00:01:44 → 00:01:48 ฮะนะมันเป็นการโอวอร์นะอ่าซึ่งร่างกายก็

00:01:48 → 00:01:51 จะเกิดการเก็บสะสมเอาไว้เพราะงั้นเห็น

00:01:51 → 00:01:54 แคลอรี่เมื่อไหร่ใช้ก่อนสลายเผาผานแล้ว

00:01:54 → 00:02:00 ใช้นะฮะนะอ่าถ้าหลือเหลือก็เก็บอ่าแต่

00:02:00 → 00:02:04 ต่างกันต่างกันในแง่ของพลังงานจากอาหาร

00:02:04 → 00:02:06 ที่เป็นสารอาหารที่เป็นสารอาหารนิวตรียน

00:02:06 → 00:02:10 เดนก็คือโปรตีนกับแฟนะฮะเนี่ยถ้าร่างกาย

00:02:10 → 00:02:13 เห็นสิ่งนี้นะฮะเห็นสิ่งนี้ร่างกายจะเอา

00:02:14 → 00:02:18 ไปเก็บสะสมไว้ก่อนก็แล้วแต่นะฮะว่าอ่าแฟช

00:02:18 → 00:02:21 เนี่ยเอาไปสะสมที่อะไรได้บ้างนะฮะนะส่วน

00:02:21 → 00:02:25 โปรตีนเค้าก็จะเก็บที่อะมิโนพู

00:02:25 → 00:02:29 >> นะคือร่างกายเราก็มีแค่แค่สระในการเก็บกด

00:02:29 → 00:02:33 อะมิโนอ่ะซึ่งเป็นหน่วยย่อยๆของโปรตีนนะ

00:02:33 → 00:02:35 ซึ่งก็ไม่ได้มีเยอะแยะนะฮะนะ

00:02:35 → 00:02:38 >> มีในระดับหมดตัวเลขไม่ได้น่าจะประมาณ 300

00:02:38 → 00:02:40

00:02:40 → 00:02:44 >> กรัมนะมันก็แค่เนี้ยฮะเไม่ได้เก็บเยอะแยะ

00:02:44 → 00:02:47 ไม่ได้กินเข้าไปเท่าไหร่ก็เก็บๆเก็บๆ

00:02:47 → 00:02:50 >> ไม่ใช่นะฮะนะเพราะฉะนั้นเวลามันเต็มสระ่ะ

00:02:50 → 00:02:54 เวลามันเต็มสระนะมันก็จะล้นออกมานะฮะล้น

00:02:54 → 00:02:57 ออกมานะก็คือโปรตีนมันเกินนะฮะต้องไปขับ

00:02:57 → 00:03:00 ทิ้งใช่มิงเกินเออเ้าก็ต้องทำลายทิ้ง

00:03:00 → 00:03:02 เพราะว่าโปรตีนเนี่ยมันเป็นสารอาหารที่

00:03:02 → 00:03:05 ร่างกายเไม่เก็บไม่พยายามจะเก็บ

00:03:05 → 00:03:07 >> นะแล้วก็มีประมาณ 20% ที่เก็จะเปลี่ยน

00:03:07 → 00:03:10 เป็นน้ำตาลก็เปลี่ยนเป็น dirty คีโตนะ

00:03:10 → 00:03:12 ครับผม

00:03:12 → 00:03:16 >> เพราะงั้นเมื่อไหร่ร่างกายเห็นสารอาหาร

00:03:16 → 00:03:21 เา้าจะเก็บนะแล้วค่อยๆนำออกมาใช้แต่ถ้า

00:03:21 → 00:03:25 ร่างกายเห็นแคลอรี่นะฮะร่างกายจะเผาๆทัน

00:03:25 → 00:03:26 ที

00:03:26 → 00:03:27 >> นะฮะ

00:03:27 → 00:03:32 นะเผาเผาๆนะเท่าที่จะต้องใช้แล้วที่เหลือ

00:03:32 → 00:03:34 ก็จะเอาไปเก็บ

00:03:34 → 00:03:36 >> อ่ากฎเกณฑ์ธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้นะ

00:03:36 → 00:03:40 เนี่ยเพราะงั้นเวลาเราจะกินอะไรเนี่ยก็ดู

00:03:40 → 00:03:44 ด้วยว่าแคลอรี่หรือสารอาหารแล้วกินแล้ว

00:03:44 → 00:03:46 เนี่ยแอคชั่นของร่างกายก็เป็นอย่างเงี้ย

00:03:46 → 00:03:50 นะฮะนะอ่าอยู่ในเกณฑ์พอดีพอเหมาะพอควรยัง

00:03:50 → 00:03:52 เกินไปมั้ยขาดไปมั้ยนะฮะ

00:03:52 → 00:03:54 >> ครับผม

00:03:54 → 00:03:57 >> นี้ถ้ามาพูดถึงในแง่ของ physiologic

00:03:57 → 00:04:00 insulin resistance กับ sensitivity ใน

00:04:00 → 00:04:05 แต่ละวันเนี่ยนะอน

00:04:05 → 00:04:08 physiologic insulin resistance นะฮะ

00:04:08 → 00:04:11 อ่าอันนี้จะมีความหมายต่อการกินอาหารใน

00:04:11 → 00:04:15 มื้อแรกมากที่สุดเพราะร่างกายโดยเฉพาะตับ

00:04:15 → 00:04:19 อ่าอ่าอันเนี้ยที่มันเป็นปฏิกิริยาเนี้ย

00:04:19 → 00:04:24 เพราะว่าร่างกายเนี่ยเขาเาไม่ชอบพละไม่

00:04:24 → 00:04:26 คือเขาจะไม่แอชั่นอะไรกับพลังงานนักแต่

00:04:26 → 00:04:29 เขาอยากจะเก็บอยากจะแอคชั่นสะสมสารอาหาร

00:04:29 → 00:04:33 หรือนิวตรนในกระแสเลือดเป็นหลักนะเพราะ

00:04:33 → 00:04:36 ฉะนั้นเนี่ยไอ้อินซูลินเลเวลที่เ้าหลั่ง

00:04:36 → 00:04:38 ออกมาในมื้อแรกเนี่ยเ้าไม่ได้หลั่งออกมา

00:04:38 → 00:04:40 เยอะแยะไงนะฮะเพราะฉะนั้นอย่าไปกระตุ้น

00:04:40 → 00:04:44 เค้าธรรมชาติเค้าหลั่งออกมานิดเดียวนะฮะ

00:04:44 → 00:04:46 >> มาเบซลใช่มครับ

00:04:46 → 00:04:49 >> เออนะฮะนะแล้วก็แอคชั่นเฉพาะในกระแสเลือด

00:04:49 → 00:04:50 นะ

00:04:50 → 00:04:54 >> นะหลักๆคือจะเก็บสารอาหารเ่อไม่ได้ไปอยาก

00:04:54 → 00:04:56 ยุ่งอะไรกับพลังงานแต่เราไม่รู้เรื่องรู้

00:04:57 → 00:05:01 ราวไม่เข้าใจไม่มีองค์ความรู้นะเราก็ไป

00:05:01 → 00:05:07 เติมพลังงานเติมเอ่อ Random cyเคิleทั้ง

00:05:07 → 00:05:10 >> เออกินปลาต้งโกิน

00:05:10 → 00:05:12 เหนียวหมูกลิ้งอะไรอย่างเงี้ยนะมันใช่

00:05:12 → 00:05:13 มั้ยล่ะเออ

00:05:13 → 00:05:15 >> ใช่ใช่แล้ว

00:05:16 → 00:05:19 >> เอออ่าขณะเดียวกันต้องมีการจำกัดควบคุม

00:05:19 → 00:05:23 พลังงานที่เข้ามาทางกระแสเลือดไว้นะฮะนะ

00:05:23 → 00:05:28 และจะมีการเก็บกัปให้น้อยที่สุดนะเไม่ได้

00:05:28 → 00:05:31 >> อยากให้นักหรอกที่จะเก็บกลับที่เป็นพลัง

00:05:31 → 00:05:35 งานจากาฟจากเอ่อแฟชนะ

00:05:35 → 00:05:37 >> อืครับผม

00:05:37 → 00:05:40 >> นะขณะเดียวกันเนี่ยนะมันมีช่องทางอยู่

00:05:40 → 00:05:43 แล้วตามธรรมชาติที่จะให้พลังงานเนี่ยนะ

00:05:43 → 00:05:49 เนี่ยนะไปนะในไปตอบสนองความต้องการของ

00:05:49 → 00:05:52 ร่างกายนะเพราะฉะนั้นเพราะร่างกายมันต้อง

00:05:52 → 00:05:56 ใช้เป็นพลังงานอยู่นะก็คือนะฮะนะพลังงาน

00:05:57 → 00:06:00 เนี่ยจะต้องเป็น good healthy fat และ

00:06:00 → 00:06:02 เข้าอยู่ในช่องของระบบน้ำเหลือง

00:06:03 → 00:06:04 >> น้ำเหลือง

00:06:04 → 00:06:06 >> เพราะว่าถ้าเป็นคาฟเนี่ยเขาก็ไม่เข้าระบบ

00:06:06 → 00:06:10 น้ำเหลืองฮะคาฟเเข้าระบบเลือดเไม่เข้า

00:06:10 → 00:06:15 ระบบน้ำเหลืองนะคาฟเละลายในน้ำนะนะก็มี

00:06:15 → 00:06:17 แต่ไขมันที่เป็น good healthy เท่านั้น

00:06:17 → 00:06:20 แหละนะที่จะเข้าระบบน้ำเหลืองแล้วไป

00:06:20 → 00:06:22 generate ให้รักได้ใช้

00:06:22 → 00:06:23 >> นะฮะครับผม

00:06:23 → 00:06:25 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยธรรมชาติเนี่ยเสร้างช่อง

00:06:25 → 00:06:28 ทางมาถูกต้องแล้วเนี่ยแต่เราไม่รู้เรื่อง

00:06:28 → 00:06:31 รู้ราวไม่เข้าใจนะเราไปปฏิบัติตัวไป

00:06:31 → 00:06:35 ปฏิบัติการผิดๆถูกๆมั่วๆซั่วๆซี้เี่ที่

00:06:35 → 00:06:39 หมอเรียกว่ากินไม่เป็นกินมั่วนะเนี่ยนะ

00:06:39 → 00:06:41 เพราะฉะนั้นก็เลยมีช่องทางของการใช้พลัง

00:06:41 → 00:06:46 งานใช้สารอาหารนะมั่วไปหมดเช่นเดียวกันนะ

00:06:46 → 00:06:49 กินมั่วๆเอ่อฮอร์โมนมั่วๆพลังงานสารอาหาร

00:06:49 → 00:06:53 มั่วๆมันไม่เปื่อยยังไงไหวอ่ะคนปัจจุบัน

00:06:53 → 00:06:54 นะ

00:06:54 → 00:06:55 >> ครับผม

00:06:55 → 00:06:58 >> เอานะทีนี้ในแง่ Physiologic insulin

00:06:58 → 00:07:02 sensitivity บ้างนะอันเนี้ยอ่ามันเป็น

00:07:02 → 00:07:05 เรื่องธรรมชาติในช่วงเวลาใกล้ค่ำหรือตอน

00:07:05 → 00:07:08 กลางคืนนะฮะนะเอ่อเพราะฉะนั้นอาหารที่มี

00:07:08 → 00:07:12 ผลก็คือมื้อเย็นก่อนจะเข้านอนนะอ่าหลัก

00:07:12 → 00:07:16 การก็คือดินเนี่ยเ่อเ้ามีความว่่งไวเยอะ

00:07:16 → 00:07:21 นะแล้วเามาแบบ 2-3 เท่าของมื้อเช้านะฮะ

00:07:21 → 00:07:25 ร่างกายโดยตับนะก็จะต้องรีบและในการเก็บ

00:07:25 → 00:07:28 สะสมอาหารสะสารอาหารเนี่ยนะหรือ denity

00:07:28 → 00:07:32 ในกระแสเลือดเพิ่มเติมจากอาหารในมื้อแรก

00:07:32 → 00:07:35 ให้ได้อย่างครบถ้วนเพราะถ้าครบเท่าไหร่นะ

00:07:35 → 00:07:39 ฮะนะก็จะเป็นประโยชน์ในการซ่อมแซมร่างกาย

00:07:39 → 00:07:43 ได้อย่างได้อย่างเต็มที่อ่ะนะฮะนะคือมัน

00:07:43 → 00:07:49 ซ่อมแบบมันซ่อมไม่แบบคือมันซ่อมได้ 100%

00:07:49 → 00:07:53 น่ะอ่าไม่ใช่ซ่อมแบบขาดขาดอะไรหรือซ่อม

00:07:53 → 00:07:57 แบบยวบๆยาบๆยังแบบเอ่อขาดอิฐหินดินปูน

00:07:57 → 00:07:59 ทรายอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะครับ

00:07:59 → 00:08:04 >> เพราะงั้นเก็บให้ครบนะเก็บให้ครบนะเราจะ

00:08:04 → 00:08:06 ไปซ่อมไปสร้างอ่า

00:08:06 → 00:08:10 >> ได้ของใหม่ๆนะฮะนอกจากนี้ก็ยังจะต้องมี

00:08:10 → 00:08:12 การเผื่อแผ่ในการเก็บพลังงานในกระแสเลือด

00:08:12 → 00:08:15 ด้วยเพราะฉะนั้นเถึงที่ต้องออกมา 2 เท่า 3

00:08:15 → 00:08:18 เท่าไงนะไหนจะเก็บสารอาหารแล้วก็ต้องเก็บ

00:08:18 → 00:08:22 พลังงานนะเพิ่มอีกนะนะแล้วเก็บไปไหนอ่ะนะ

00:08:22 → 00:08:24 แล้วพลังงานที่จะเก็บเนี่ยเค้าเก็บทั้งาฟ

00:08:24 → 00:08:28 ด้วยนะฮะนะาฟดีๆตามจำนวนโควต้าที่ควรได้

00:08:28 → 00:08:31 รับต่อวันแล้วก็ยังเก็บพลังงานจากไขมันคง

00:08:32 → 00:08:35 ลูกแต่เราก็ไม่ได้กินเยอะแยะนะยกเว้นเรา

00:08:35 → 00:08:38 ไม่รู้เรากินก็กินเข้าไปซะอะไรก็ไม่รู้

00:08:38 → 00:08:42 อ่ะนะฮะนะมันไม่ใช่ไงนะฮะมันมีเหตุมีผล

00:08:42 → 00:08:44 อ่าอ่าอันเนี้ยเพื่ออะไรเพื่อมาเป็นทั้ง

00:08:45 → 00:08:48 พลังงานและสารอาหารที่จะทำให้ร่างกายนอน

00:08:48 → 00:08:51 หลับพักผ่อนนะฮะก็คือครับผม

00:08:51 → 00:08:53 >> เพื่อเกิดกระบวนการซ่อมแซมสร้างโครงสร้าง

00:08:53 → 00:08:56 เซลล์ใหม่นะสำหรับโครงสร้างอวัยวะที่มัน

00:08:56 → 00:08:58 เสื่อมหรือสร้างกล้ามน้องกล้ามเนื้อเพราะ

00:08:58 → 00:09:02 ไปออกแรงออกกำลังมา

00:09:02 → 00:09:05 เหล่าเนี้ยก็คือทั้งหมดนะที่มันเป็น

00:09:05 → 00:09:07 เรื่องของชีววิทยา

00:09:07 → 00:09:12 ที่ต้องมีความเข้าใจใน 1 รอบวันกลางวัน

00:09:12 → 00:09:16 กลางคืนและฮอร์โมนหลักก็คืออินซูลินนะ

00:09:16 → 00:09:18 เค้ามีรายละเอียดอย่างี้เค้าแอtionั

00:09:18 → 00:09:23 อย่างี้เค้ามีเหตุมีผลอย่างนี้อ่าเออคือ

00:09:23 → 00:09:26 ไม่รู้รู้อ่ะรู้เสร็จแล้วเนี่ยเข้าใจเค้า

00:09:26 → 00:09:30 ซะแล้วเอามาปรับกับการกินนะฮะนะ

00:09:30 → 00:09:33 >> อื

00:09:33 → 00:09:37 >> เอานะนะเพราะฉะนั้น

00:09:37 → 00:09:38 เฮ

00:09:38 → 00:09:52 [เพลง]