00:00:00 → 00:00:04 สำหรับช่วงนี้ หลาย ๆ ท่านคนได้ยินข่าว ว่ามีการระบาดของโรคไข้หัดแมว
00:00:04 → 00:00:08 ทำให้เกิดการป่วยและการเสียชีวิต ของแมวในหลาย ๆ พื้นที่
00:00:09 → 00:00:11 สำหรับวันนี้ เรียนรู้ด้วยกันนะครับว่า
00:00:11 → 00:00:12 โรคไข้หัดแมวคืออะไร
00:00:12 → 00:00:15 มีวิธีในการรักษาและการป้องกันโรคอย่างไรบ้าง
00:00:15 → 00:00:19 [เสียงดนตรี]
00:00:19 → 00:00:24 โรคไข้หัดแมวคือโรคติดเชื้อจากไวรัส ชื่อว่า Feline Parvovirus
00:00:24 → 00:00:28 เชื้อตัวนี้ก็มีความใกล้เคียงกับเชื้อ ติดเชื้อ Parvovirus ในสุนัข
00:00:28 → 00:00:30 หรือโรคลำไส้อักเสบในสุนัข
00:00:30 → 00:00:35 ตัวแมวสามารถที่จะติดเชื้อ ไวรัสพาร์โวไวรัสจากสุนัขได้
00:00:35 → 00:00:39 เชื้อไวรัสตัวนี้ไม่สามารถ ผ่านจากตัวแมวไปสู่สุนัข
00:00:39 → 00:00:42 แล้วก็ไม่สามารถที่จะติดจากสัตว์ไปสู่คนได้
00:00:42 → 00:00:47 ไวรัสตัวนี้มันจะถูกทำลายได้ยากกว่า สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 1 ปี
00:00:47 → 00:00:51 สามารถจะติดต่อผ่านน้ำลาย น้ำตา หรือว่าน้ำมูก
00:00:52 → 00:00:54 แล้วก็รวมถึงปัสสาวะ อุจจาระ
00:00:54 → 00:00:56 สำหรับแมวที่ติดเชื้อ แล้วก็ปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อม
00:00:56 → 00:01:00 ไวรัสอาจจะติดผ่านเสื้อผ้า ผ่านรองเท้า ของคนเลี้ยงไปก็ได้ครับ
00:01:00 → 00:01:04 [เสียงดนตรี]
00:01:04 → 00:01:08 ระยะฟักตัวของโรคนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 2-7 วัน
00:01:08 → 00:01:13 ไวรัสจะมีคุณสมบัติที่จะจู่โจม เซลล์ที่มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว
00:01:13 → 00:01:15 อาทิเช่น เซลล์ในไขกระดูกนะครับ
00:01:15 → 00:01:18 พอไวรัสตัวนี้เข้าไปทำลายเซลล์ในไขกระดูก
00:01:18 → 00:01:23 ที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ทำให้สัตว์ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
00:01:23 → 00:01:26 เชื้อที่ฉวยโอกาส ก็จะสามารถที่จะเจริญเติบโตได้
00:01:26 → 00:01:28 และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
00:01:28 → 00:01:32 นอกจากนั้น เชื้อไวรัสที่ทำลาย เซลล์ในเยื่อบุทางเดินอาหาร
00:01:32 → 00:01:35 ตัวแบคทีเรียต่าง ๆ ก็สามารถที่จะแทรกซ้อนเข้าไป
00:01:35 → 00:01:39 ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด แล้วแมวก็ถึงแก่ชีวิตได้
00:01:39 → 00:01:42 [เสียงดนตรี]
00:01:42 → 00:01:45 ในช่วงแรกของการติดเชื้อ เจ้าของสามารถสังกตได้ว่า
00:01:46 → 00:01:48 สัตว์จะมีภาวะไข้สูงอย่างรุนแรง
00:01:48 → 00:01:50 เบื่ออาหาร เกิดภาวะขาดน้ำ
00:01:50 → 00:01:53 การขาดน้ำที่เจ้าของสามารถสังเกตได้ คือ
00:01:53 → 00:01:58 สัตว์จะมีตาจมลึก ดึงหนังคอ หนังคอไม่กลับอยู่ในสภาพเดิม
00:01:58 → 00:02:01 หลังจากนั้น สัตว์จะเริ่มมีภาวะอาเจียนอย่างรุนแรง
00:02:01 → 00:02:02 ท้องเสียอย่างรุนแรง
00:02:03 → 00:02:05 แล้วก็ในช่วงท้ายของการเกิดโรค
00:02:05 → 00:02:10 สัตว์จะเริ่มมีภาวะที่อุณหภูมิในร่างกายต่ำ รวมถึงแสดงอาการช็อก
00:02:10 → 00:02:13 หลังจากระยะฟักตัวของโรคภายใน 1-2 วัน
00:02:13 → 00:02:15 อัตราการตาย 20-90%
00:02:16 → 00:02:21 สำหรับโรคนี้ ก็เป็นโรคที่เจ้าของ และผู้เลี้ยงสัตว์ควรจะที่จะต้องระมัดระวัง
00:02:21 → 00:02:25 [เสียงดนตรี]
00:02:25 → 00:02:29 โรคนี้สามารถพบในแมวได้ทุกช่วงอายุ
00:02:29 → 00:02:33 แต่ที่พบบ่อยคือ แมวอายุต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป
00:02:33 → 00:02:37 โดยแมวที่จะแสดงอาการรุนแรง อยู่ในช่วง 3-5 เดือน
00:02:37 → 00:02:42 เชื้อไวรัสนี้จะก่อโรค โดยแมวที่ไม่ได้มีประวัติการฉีดวัคซีน
00:02:42 → 00:02:44 หรือฉีดวัคซีน แต่ฉีดไม่ครบ
00:02:45 → 00:02:48 [เสียงดนตรี]
00:02:48 → 00:02:54 สำหรับการวินิจฉัย สัตวแพทย์จะดูจาก ลักษณะของอาการทางคลินิก
00:02:54 → 00:02:56 รวมทั้งประวัติการทำวัคซีนว่า
00:02:56 → 00:03:01 สัตว์ได้รับวัคซีนครบหรือไม่ เคยมีการทำวัคซีนหรือไม่
00:03:01 → 00:03:05 ตรวจเลือดเพื่อจะดูว่ามีภาวะเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงต่ำไหม
00:03:05 → 00:03:08 ซึ่งสอดคล้องอาการติดเชื้อไวรัสนี้
00:03:08 → 00:03:11 [เสียงดนตรี]
00:03:11 → 00:03:15 การรักษา จะเป็นการรักษาเพื่อพยุงอาการ
00:03:15 → 00:03:17 โดยส่วนแรก สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนเลย
00:03:17 → 00:03:22 คือการให้สารน้ำ เพื่อช่วยให้สัตว์ไม่เกิดภาวะช็อก
00:03:22 → 00:03:25 รวมถึงการรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะ
00:03:25 → 00:03:29 ในการป้องกันภาวะ การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
00:03:29 → 00:03:33 ถ้าในช่วง 5 วันแรก เรารักษา แล้วสัตว์สามารถพยุงอาการไปได้
00:03:33 → 00:03:38 อัตราการรอดสำหรับภายใน 5 วันแรก จะอยู่ที่ประมาณ 50%
00:03:38 → 00:03:41 [เสียงดนตรี]
00:03:42 → 00:03:46 สำหรับเชื้อตัวนี้มีคุณสมบัติ ที่คงทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมค่อนข้างนาน
00:03:46 → 00:03:50 แอลกอฮอล์หรือสบู่ธรรมดา ไม่สามารถที่จะฆ่าเชื้อตัวนี้ได้
00:03:50 → 00:03:54 น้ำยาฆ่าเชื้อก็คือน้ำยาซักผ้าขาว ที่มีขายตามท้องตลาด
00:03:54 → 00:03:56 มีความเข้มข้น 6%
00:03:56 → 00:03:59 ผสมในอัตราส่วน 1:32
00:03:59 → 00:04:03 ราดบริเวณที่มีการติดเชื้อ อย่างน้อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
00:04:03 → 00:04:07 [เสียงดนตรี]
00:04:07 → 00:04:11 การป้องกันโรคนี้ เจ้าของควรพาแมวไปฉีดวัคซีน
00:04:11 → 00:04:14 ถ้าคุณเลี้ยงแมว แล้วแมวอายุประมาณ 2 เดือน
00:04:14 → 00:04:16 อย่างน้อยควรพาไปฉีดวัคซีนเข็มแรก
00:04:16 → 00:04:19 หลังจากนั้นควรฉีดกระตุ้นทุก 3-4 สัปดาห์
00:04:19 → 00:04:23 โดยแมวเด็ก ควรฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม
00:04:23 → 00:04:27 โดยเข็มสุดท้าย ควรฉีดเมื่ออายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป
00:04:27 → 00:04:33 โดยสัตวแพทย์จะแนะนำให้เจ้าของ พาแมวไปฉีดกระตุ้นทุกปี หรือทุก 3 ปี
00:04:33 → 00:04:38 แล้วแต่พื้นที่การระบาด แล้วแต่คำแนะนำของสัตวแพทย์แต่ละท่าน
00:04:38 → 00:04:42 [เสียงดนตรี]